รีวิว คอนโด ศุภาลัย มอนเต้ 2 Supalai Monte II เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด เยื้อง Central Festival เชียงใหม่
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน เนื่องจากผมมีโอกาสได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมจึงไม่พลาดที่จะนำรีวิวโครงการน่าสนใจมาฝากพ่อแม่พี่น้องครับ นั่นคือโครงการ Supalai Monte II คอนโด High-Rise 32 ชั้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Festival เชียงใหม่ ซึ่งโครงการนี้นับเป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก Supalai Monte @ เวียง เชียงใหม่ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นโครงการฝาแฝดก็คงจะไม่ผิดเพราะหน้าตา รายละเอียดต่างๆเหมือนกันอย่างกับแกะ ต่างแค่ขนาดพื้นที่โครงการเท่านั้น สำหรับรายละเอียดนั้นผมขอให้ทุกท่านเชิญติดตามด้านในเนื้อหารีวิวได้เลยครับ
ชื่อโครงการ | ศุภาลัย มอนเต้ 2 / Supalai Monte II |
เจ้าของโครงการ | ศุภาลัย / Supalai |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – Studio : 33.00-35.50 ตร.ม. – 1 Bed : 41.50 – 53.50 ตร.ม. – 2 Bed : 64.50 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-1-24.30 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 32 ชั้น |
จำนวนห้อง | – ที่พักอาศัย 734 ยูนิต – ร้านค้า 4 ห้อง |
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน |
โซน | เชียงใหม่ |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ |
กำหนดการ | เปิดจอง 15-21 ธค. 57 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ สิงหาคม 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 1.97 ล้านบาท (มี.ค. 2559) |
ราคาต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 59,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 35 บาท/เดือน/ตร.ม. ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | – Central Festival เชียงใหม่ : 100 เมตร – SuperCheap : 250 เมตร – Star Avenue : 450 เมตร – Big C Extra เชียงใหม่ : 700 เมตร – Index Livingmall : 1.1 กม. – ตลาดสามแยก : 1.2 กม. – คุ้มขันโตก : 1.4 กม. – สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต : 650 เมตร – ศาลแขวงเชียงใหม่ : 300 เมตร – มหาวิทยาลัยพายัพวิทยาเขตแก้วนวรัฐ : 1.2 กม. – มหาวิทยาลัยพายัพวิทยาเขตแม่คาว : 2.0 กม. – โรงพยาบาลแมคคอร์มิค : 1.1 กม. – โรงพยาบาลเทพปัญญา : 1.0 กม. |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – Lobby – Wifi – Sky Lounge & Library – Multi – Function Room – ฟิตเนส – สระว่ายน้ำ – CCTV – Easy Pass – Access Control – Heat Detector – Fire Alarm – รปภ. 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | “ศุภาลัย มอนเต้ II คอนโดใหม่ ให้คุณยกระดับความสุข ในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ทำเลที่ดีที่สุด เยื้องเซ็นทรัลเฟสติวัล” |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
พิกัด : 18.804336, 99.019363
แผนที่จากทางโครงการ
Supalai Monte II ตั้งอยู่บริเวณหัวมุม ระหว่างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง กับถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ซึ่งตำแหน่งทางเข้าโครงการจริงๆนั้น จะอยู่ทางฝั่งถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ห่างจากสี่แยกศาลเด็กประมาณ 90 เมตร โดยเรื่องทำเลนั้น ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญข้อหนึ่ง เพราะอยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และสถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต เรื่องการเดินทางสัญจรสะดวกในการเข้าเมือง ไปตลาดวโรรสโดยใช้ถนนแก้วนวรัฐ เดินทางเข้าสู่กรุงเทพ หรือไปจังหวัดอื่นๆ ก็สามารถเริ่มต้นจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ได้ทันที
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าทำเลของโครงการ ถือว่าเป็นจุดเด่น นอกเหนือจากการเดินทางที่สะดวกแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญ และความอุดมสมบูรณ์สูง ตรงข้ามโครงการมีเซ็นทรัลเฟสติวัล ในระยะที่สามารถเดินไปใช้งานได้ ถ้าเป็นตลาดสด ไปใช้งานตลาดสามแยก ไฮเปอร์มาร์เก็ตมี Big C Extra โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์มี Index Living Mall อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าข้ามฝั่งไป Super Cheap โรงพยาบาลก็มีให้เลือก 2 แห่ง คือโรงพยาบาลแมคคอร์มิค และโรงพยาบาลเทพปัญญา ใกล้กับมหาวิทยาลัยพายัพ ทั้งสองวิทยาเขต โดยที่กล่าวมาทั้งหมด สามารถเดินทางไปใช้งานได้สะดวก ในระยะทางรัศมี 2 กม.
การเดินทาง
การเดินทางมายังตัวโครงการ ศุภาลัย มอนเต้ 2 ครั้งนี้ เส้นทางที่ผมจะยกตัวอย่างให้ดู คือ กรณีที่มาทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ จากจังหวัดลำปาง ผ่านทางลอดแยกหนองประทีป และออกไปวิ่งทางคู่ขนานที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี เพื่อเลี้ยวขวาตรงแยกศาลเด็ก จากนั้นจึงกลับรถเข้าโครงการ เพราะถ้าหากวิ่งอยู่บนนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ด้านใน จะเป็นการลงทางลอดผ่านแยกศาลเด็กไปครับ ไม่สามารถเลี้ยวซ้ายหรือขวาได้ มีภาพประกอบการเดินทางดังนี้
สรุปการเดินทาง : ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง > แยกหนองประทีป > ออกทางคู่ขนาน (ดูป้ายแก้วนวรัฐ-เชียงราย) > เแยกศาลเด็ก > ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด > กลับรถ > Supalai Monte II
เริ่นต้นจากถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงใหม่
วิ่งตรงตามเส้นไฮเวย์อย่างเดียวครับ
ลงทางลอดผ่านแยกหนองประทีป
ผ่านแยกหนองประทีปมาไม่ไกลนัก เห็นป้ายถนนแก้วนวรัฐ – เชียงราย ด้านบน ให้เราเตรียมชิดซ้ายครับ
ผ่านบิ๊กซี
ออกทางขนานที่จุดนี้ โดยจะมองเห็นอาคารของ Supalai Monte โครงการแรก ย้ำนะครับว่าโครงการแรก ส่วนจุดมุ่งหมายของเราคือโครงการ 2 ซึ่งตั้งอยู่คนละที่กัน แต่ไม่ได้ไกลกันมาก
ผ่านหน้าคอมมูนิตี้มอลล์ Star Avenue และ Supalai Monte ไปยังแยกศาลเด็ก
ในภาพนี้ที่จริงเราต้องอยู่ช่องจราจรที่ 3 นับจากซ้ายเพื่อเลี้ยวขวาไปทางดอยสะเก็ดครับ ส่วนช่องขวาสุดนั้นจะเป็นการกลับรถ
เลี้ยวขวาที่แยกศาลเด็ก ส่วนทางซ้ายจะเป็นถนนแก้วนวรัฐ ใช้สำหรับเข้าเมืองหรือไปตลาดวโรรส
ตอนนี้เราอยู่บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ให้เราไปกลับรถที่บริเวณหน้าโชว์รูป Isuzu
กลับรถที่จุดนี้ครับ ห่างจากแยกศาลเด็ก 400 เมตร
กลับรถมาชิดซ้ายทันที
ถึงแล้วครับที่ตั้งสำนักงานขาย Supalai Monte II ซึ่งตัวโครงการก็คือผืนที่ดินที่อยู่ด้านหลังอาคารนี้นั่นเอง ส่วนพื้นที่ ที่ใช้เป็นสำนักงานขายนี้คือ Supalai Monte Biz โครงการอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
บริเวณโครงการ
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
– Central Festival เชียงใหม่ : 100 เมตร
– Super Cheap : 250 เมตร
– Star Avenue : 450 เมตร
– Big C Extra เชียงใหม่ : 700 เมตร
– Index Living Mall : 1.1 กม.
– ตลาดสามแยก : 1.2 กม.
– คุ้มขันโตก : 1.4 กม.
– สถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต : 650 เมตร
– ศาลแขวงเชียงใหม่ : 300 เมตร
– มหาวิทยาลัยพายัพวิทยาเขตแก้วนวรัฐ : 1.2 กม.
– มหาวิทยาลัยพายัพวิทยาเขตแม่คาว : 2.0 กม.
– โรงพยาบาลแมคคอร์มิค : 1.1 กม.
– โรงพยาบาลเทพปัญญา : 1.0 กม.
ภาพมุมสูง พื้นที่รอบโครงการส่วนใหญ่ยังเป็นสีเขียวต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ ทางเข้าออกอยู่ห่างจากแยกศาลเด็กประมาณ 100 เมตร บริเวณหัวมุมมีปั๊ม LPG ข้ามถนนไปเจอกับทางเข้าห้างเซ็นทรัลซึ่งเป็นทางเข้าจุดที่ 2 อีกฝั่ง ของถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เป็นที่ตั้งของศาลแขวง และศาลเยาวชนเชียงใหม่ และมองเห็นโครงการ Supalai Monte โครงการแรกอยู่ทางมุมขวาล่างของภาพติดกับศาล
ต่อไปผมจะพาเดินดูพื้นที่บริเวณโครงการกันครับ ซึ่งปัจจุบัน (ก.พ. 2559) ทางโครงการเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงของการปรับสภาพผิวครับ
ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถเข้าไปเก็บภาพด้านในได้ สาเหตุนั้นดูจากในภาพได้เลยครับ
ฟุตบาทด้านหน้าโครงการตอนนี้ ยังดูไม่เรียบร้อยครับ ซึ่งแน่นอนว่าหน้าตาจะเปลี่ยนไปเยอะอย่างแน่นอน หลังจากที่โครงการสร้างเสร็จ ส่วนเรื่องของ EIA นั้นผ่านเรียบร้อยแล้วนะครับ
ถนนเขียงใหม่-ดอยสะเก็ด ปกติกว้างฝั่งละ 4 เลน มีเกาะกลาง แต่ช่วงหน้าโครงการจะเพิ่มเป็น 5 เลน เนื่องจากมีทางเบี่ยงซ้าย สำหรับรถที่จะทำการเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ณ แยกศาลเด็ก
มองไปฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นบ้านพัก ที่มีทั้งบ้าน 2 ชั้นและอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น
ปริมาณรถด้านหน้าโครงการ มักจะมีรถสะสมอยู่เสมอ เพราะว่าอยู่ใกล้กับสี่แยกไฟแดงนั่นเอง
เดินย้อนกลับไปดูพื้นที่แถวๆสำนักงานขาย
ที่ติดกันคือโครงการ Supalai Monte Biz
เจ้าของเดียวกันครับคือ ศุภาลัย
ศุภาลัย มอนเต้ บิซ เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
ถัดไปเป็นผืนที่ดินเปล่า
ซุ้มนั่งรอรถประจำทาง
เดินมาอีกนิดถัดจากที่ดินเปล่าคือโชว์รูม Isuzu
จากจุดนี้มองเห็นเซ็นทรัล ซึ่งเป็นจุดหมายต่อไปที่ผมจะลองเดินไปดูครับ เท่าที่ผมสังเกตดูการข้ามถนนจากจุดนี้ไ ม่สามารถทำได้เพราะรถเยอะพอสมควร ประกอบกับเกาะกลางถนน มีไม้พุ่มขึ้นหนา ต้องไปข้ามถนนที่บริเวณสี่แยกศาลเด็กนู้นเลย
เพราะฉะนั้นผมจึงมุ่งหน้าไปทางแยกศาลเด็กครับผม
ผ่านหน้าที่ตั้งโครงการ
แจกเบอร์โครงการซักหน่อย 053-241-333 เผื่อท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากอ่านรีวิวจบครับ
ยูนิตถัดมาคือปั๊มแก๊ส LPG
จากที่ตั้งโครงการมาประมาณ 100 เมตรถึงแยกศาลเด็ก
แยกนี้เป็นแยกใหญ่ครับ เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเข้าออกเมือง และมีความสำคัญในทุกถนน ถนนแก้วนวรัฐใช้เดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ที่เป็นเส้นหลักในการเดินทางสู่เชียงราย และถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ที่เป็นทางหลวงเส้นหลักในการเข้าออกจังหวัดเชียงใหม่
มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นป้ายห้างเซ็นทรัลอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล กะจากสายตาน่าจะราวๆ 100 เมตร
มองไปอีกด้านเห็นศาลเด็ก และ ศุภาลัย มอนเต้ @ เวียง เชียงใหม่ หรือเรียกง่ายๆว่า มอนเต้ โครงการแรกนั่นล่ะครับ
มองไปทางถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด
การข้ามถนนนั้นไม่สะดวกอย่างที่คิดครับ เพราะต้องมาติดอยู่เกาะกลางถนน เพื่อรอรถที่มาจากถนนแก้วนวรัฐ หยุดไฟแดงอีกครั้ง
หลังจากข้ามถนนมาต้องเดินไปตามฟุตบาทอีกประมาณ 100 เมตร
ถึงแล้วครับห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่
ห้างใหญ่ ทันสมัย และได้รับความนิยมมากที่สุดในเชียงใหม่ ณ เวลานี้
ลองเดินกลับทางฝั่งตรงข้ามโครงการ
ทางเข้าห้างด้านนี้เป็นทางเข้าที่ 2 ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการมากกว่าทางเข้าด้านหน้าเมื่อสักครู่ เพียงแต่ว่ามันมีเกาะกลางกั้นข้ามถนน ไม่ได้ทำให้ต้องไปเดินอ้อมตรงแยกศาลเด็กแทน
ถึงเวลาอันสมควร ผมขออนุญาตกลับเข้ามานั่งพักเหนื่อยดื่มน้ำดื่มท่าในสำนักงานขายสักครู่ ก่อนที่จะพาไปชมส่วนต่อไปคือโมเดลอาคารและห้องตัวอย่างครับ
โมเดล
มาดูโมเดลหน้าตาตัวอาคารกันครับ
ด้านบนติดป้ายชื่อโครงการ Supalai Monte II
อาคาร High-Rise สูง 32 ชั้น
ตัวตึกโทนสีขาว-น้ำตาล
มีจำนวนยูนิตห้องพักอาศัย 734 ยูนิต และร้านค้าอีก 4 ยูนิต
ด้านหน้าติดกับถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด จุด Drop off และล็อบบี้อยู่ใกล้กับ Main entrance
ภาพ Perspective ของ Lobby ใช้โทนสีเดียวกันกับภาพนอกให้ความรู้สึกหรูหราและอบอุ่น
สิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ทางปีกซ้ายของอาคาร
ตั้งอยู่บริเวณ โพเดียมชั้น 5 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส
ภาพจำลองห้องฟิตเนส
ภาพจำลองสระว่ายน้ำซึ่งเป็นแบบลานน้ำล้นขนาด 25 x 7.8 เมตร ระบบเกลือ
ชั้นดาดฟ้าหรือชั้น 32 มี Sky Lounge และสวนหย่อม มองเห็นวิวตัวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน
ภาพจำลอง Sky Lounge และห้องสมุด
ด้านหลังอาคารมีสนามบาสแบบครึ่งสนามสำหรับ 3 on 3
ทางขึ้นอาคารจอดรถหลักจะอยู่บริเวณกลางตัวอาคาร โครงการแบ่งแยกพื้นที่จอดรถเป็น 2 ส่วนคือชั้น 1-4 และจอดที่ชั้นล่างรอบๆอาคาร ซึ่งหากไปดูในหัวข้อแปลนอาคารจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ
ที่จอดรถทั้งหมดรองรับได้ประมาณ 50% รวมซ้อนคันแล้ว
แปลนอาคาร
Master Plan : พื้นที่โครงการมีทั้งหมด 4 ไร่ 1 งาน 24.3 ตารางวา ชั้นล่างมีสวนกระจายอยู่รอบโครงการ ด้านหน้าติดทางเข้าคือจุด Drop off ถัดเข้ามาเป็นยูนิตร้านค้า 4 ห้องและ Lobby ด้านในสุดมีสนามบาส บริเวณที่ไฮไลท์สีแดงคือถนนภายในโครงการซึ่งกว้าง 2 เลนวิ่งสวนกันได้ ส่วนการจอดรถนั้น ที่ผมได้มีเกริ่นว่าแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่สีฟ้าเป็นลานจอดรถเฉพาะชั้นล่าง ทางเข้าออกลานนั้น จะแยกกันกับพื้นที่สีเขียว ที่เป็นลานจอดรถหลัก และใช้ขึ้นต่อไปยัง ชั้น 2-4 และมีช่องจอดอีกนิดหน่อยตามสวนรอบๆอาคาร
ชั้น 5 เป็นที่ตั้งของ Facilities หลัก ได้แก่ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส มีห้องพักอาศัยหนาแน่นอยู่ที่ 26 ยูนิต สำหรับชั้นนี้ ลิฟต์มีให้ 3 + 1 ตัว
ชั้นเลขคู่ ตั้งแต่ชั้น 6 – 28 (ไม่รวมชั้น 22) เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 27 ยูนิตต่อชั้น
ชั้นเลขคี่ตั้งแต่ชั้น 7 – 29 (ไม่รวมชั้น 21) เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 27 ยูนิตต่อชั้นเท่ากัน
ชั้น 21 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 27 ยูนิตต่อชั้นเท่ากัน
ชั้น 22 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 27 ยูนิตต่อชั้นเท่ากัน
ชั้น 30 รูปแบบห้องจะแตกต่างจากชั้นล่างๆที่ผ่านมา คือไม่มีห้อง Studio แล้วแต่จะเป็น 1-2 ห้องนอนแทน โดยความหนาแน่นลดลงเหลือ 18 ยูนิต
ชั้น 31 เหมือนกับชั้น 30 ครับหนาแน่นเท่ากันที่ 18 ยูนิต
ชั้น 32 หรือชั้นดาดฟ้า เป็นที่ตั้งของพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งคือ Sky Lounge, ห้องสมุดและสวนลอยฟ้า
แปลนห้อง
ต่อไปผมขอพามาดูแปลนห้อง ซึ่งทางศุภาลัยเขาทำเป็นโมเดลแปลนห้อง 3 มิตีขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น สำหรับแบบห้องทั้งหมดภายในโครงการมีอยู่ 7 แบบแบ่งเป็น
ซึ่งแบบย่อยในแต่ละหมวดนั้น แปลนห้องจะคล้ายกันอาจแตกต่างกันที่ตำแหน่ง, มุมเสาและขนาดระเบียงห้อง ผมจึงขออนุญาตยกมาพูดถึงแค่แบบละห้องครับ
เริ่มกันที่แบบ Studio : Cimone Suite 33 ตร.ม. ถึงจะเป็นแค่สตูดิโอ แต่ขนาดห้องทำออกมาใหญ่ตามสไตล์ศุภาลัย ที่เน้นเรื่องของคุณภาพชีวิตที่ดี รูปแบบไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย เปิดประตูมาเจอกับโซน Pantry ด้านข้างเป็นห้องน้ำ ขยับเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาตรงข้ามกับชั้นวางทีวี ถัดไปเป็นห้องนอน ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และด้านในสุดวางโต๊ะทานอาหาร ชิดหน้าต่างด้านข้างเป็นระเบียง
ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished หรือจะเลือกเป็นห้องแบบ Fully Fitted ที่มีให้เฉพาะเคาน์เตอร์ครัวก็ได้ แล้วนำมาใช้เป็นส่วนลดเงินสดแทนมูลค่า 150,000 – 300,000 บาท
รายการเฟอร์นิเจอร์ : Cimone Suite
1. ชั้นวางทีวีบิลท์อิน
2. ตู้เสื้อผ้า
3. โต๊ะทานข้าว
4. เก้าอี้ทานข้าวแบบ Bar Stool 2 ตัว
5. โต๊ะข้างเตียง 2 ตัว
6. เตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมฟูก
7. โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
8. โต๊ะกาแฟ
รูปแบบหน้าแคบแต่ยาวลึกเข้าไป 3.8 x 8.85 เมตร
ภาพมุมสูงแสดงให้ดูการจัดวางได้ชัดเจน ประตูห้องอยู่ทางซ้าย ซึ่งห้องนี้มีห้องตัวอย่างจริงให้ชม และเป็นเพียงแบบเดียวเท่านั้นที่มีห้องตัวอย่าง
ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง
เฟอร์นิเจอร์มีให้หน้าตาแบบนี้เลยครับ
ระเบียงและหน้าต่างห้อง
1 Bedroom : Bianco Suite ขนาด 46 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตร ลึก 8.25 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ทางซ้ายห้องนั่งเล่นอยู่ที่ทางเข้า ถัดไปเป็นห้องครัวแบบปิด และมีที่นั่งทานอาหารในตัว อีกด้านเป็นห้องนอน ระเบียง และห้องน้ำแบบเปิดเข้าออกได้ 2 ทาง จากห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
รายการเฟอร์นิเจอร์ : Bianco Suite
1. ตู้รองเท้า
2. โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง
3. โต๊ะข้างโซฟา
4. ชั้นวางทีวีบิลท์อิน
5. โต๊ะทานข้าว
6. เก้าอี้ทานข้าว 3 ตัว (ทานข้าว 2 + ทำงาน 1)
7. โต๊ะข้างเตียง
8. เตียง 5 ฟุตพร้อมฟูก
9. โต๊ะทำงาน
10. ชั้นวางและกระจก (โต๊ะเครื่องแป้ง)
11. ตู้เสื้อผ้า
ห้องนี้ไม่มีห้องตัวอย่างครับ
ภาพมุมสูงห้อง Bianco Suite
ผนังอีกด้านนึง
ห้องน้ำเข้าออกได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ระเบียงและหน้าต่างห้อง
2 Bedroom : Avella Suite ขนาด 64.5 ตร.ม. หน้ากว้าง 8.75 เมตร ลึก 8.9 เมตร ตัวเลขนั้นไม่สามารถนำความกว้าง ยาว มาคูณกันหาขนาดพื้นที่ได้นะครับ เพราะมันมีส่วนเว้าอยู่หลายจุด ประตูห้องอยู่ทางล่างขวาของแปลน เข้ามาเจอกับโต๊ะกินข้าวก่อนเลย ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปถึงห้องนั่งเล่น ใกล้ๆ กับทางเข้าเป็นครัวแบบปิด ห้องน้ำอยู่บริเวณกลางห้อง ทำหน้าที่เป็นตัวคั่นระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ระเบียงมีถึง 3 จุดด้วยกันคือ ในห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนใหญ่
รายการเฟอร์นิเจอร์ : Avella Suite
1. ชั้นวางทีวีบิลท์อิน
2. โต๊ะกาแฟ
3. โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง
4. โต๊ะข้างโซฟา
5. ตู้เสื้อผ้า (ห้องนอนใหญ่)
6. โต๊ะข้างเตียง (ห้องนอนใหญ่)
7. เตียง 5 ฟุตพร้อมฟูก (ห้องนอนใหญ่)
8. โต๊ะทำงาน พร้อมชั้นวางของด้านบน
9. โต๊ะข้างเตียง (ห้องนอนรอง)
10. เตียง 3.5 ฟุตพร้อมฟูก(ห้องนอนรอง)
11. ตู้เสื้อผ้า (ห้องนอนรอง)
12. โต๊ะเครื่องแป้ง (ห้องนอนรอง)
13. โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 5 ตัว (ทานข้าว 4 + ทำงาน 1)
Avella Suite ประตูทางเข้าห้องแอบอยู่ด้านขวา
ภาพมุมสูง
ห้องน้ำมีห้องเดียวใช้ร่วมกัน เข้าออกจากพื้นที่ส่วนกลาง
ระเบียงห้องนั่งเล่นและห้องครัว
ระเบียงห้องนอนหลัก
ห้องตัวอย่าง
ต่อไปเป็นห้องตัวอย่าง ซึ่งทางโครงการมีให้ชมเพียงแบบเดียว คือห้องแบบ Studio : Cimone Suite ขนาด 33.0 ตร.ม. ซึ่งการขายนั้น ผมได้พูดในหัวข้อก่อนหน้านี้แล้วว่า มีให้เลือกทั้งแบบ Fully Furnished เฟอร์ครบชุดตามรายการข้างต้นหรือแบบ Fully Fitted ที่จะมีให้เฉพาะเคาน์เตอร์ครัว, ซิงค์, ฮอบ, ฮูดและเครื่องปรับอากาศ แล้วนำมาเป็นส่วนลดเงินสดก็ได้ครับ
แปะแปลนห้องให้ดูอีกทีเผื่อลืม ถึงจะเป็นแค่สตูดิโอ แต่ขนาดห้องทำออกมาใหญ่ถึง 33.0 ตร.ม. ตามสไตล์ศุภาลัยที่เน้นเรื่องของ คุณภาพชีวิตที่ดี รูปแบบไม่ซับซ้อนเข้าใจง่าย เปิดประตูมาเจอกับโซน Pantry ด้านข้างเป็นห้องน้ำ ขยับเข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาตรงข้ามกับชั้นวางทีวี ถัดไปเป็นห้องนอนปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และด้านในสุดวางโต๊ะทานอาหาร ชิดหน้าต่างด้านข้างเป็นระเบียง
เข้าไปดูห้องตัวอย่างกันครับ
เข้าประตูมาโซนแรกเป็น Pantry
พื้นห้องปูด้วยลามิเนต 8 มม.
ทางขวาเป็นแนวเคาน์เตอร์ครัวที่มีให้ครบชุดตามนี้ ยกเว้นไมโครเวฟกับตู้เย็น
ทางซ้ายเป้นห้องน้ำ
ไฟในส่วน Pantry และห้องน้ำให้แบบดาวน์ไลท์
ไฟในห้องหลักให้แบบโคมซาลาเปา
เพดานห้องเล่นระดับให้ตามในภาพนี้คือ เพดานห้องส่วนครัวจะดรอปต่ำลงมาจากปกติ 2.6 เมตร เหลือ 2.4 เมตร
ไปโฟกัสที่ครัวกันอีกทีครับ เคาน์เตอร์ให้บนล่าง
ท็อปเคาน์เตอร์ลามิเนต ด้านหลังกรุกระเบื้องกันเปื้อนให้ด้วย
บานปิดไม้ ไม่มี Soft close นะ
เตาไฟฟ้า Electrolux 2 หัว
ซิงค์ Mex
เหนือซิงค์ติดชั้นวางของเพิ่มให้อีกจุด
เคาน์เตอร์ด้านบนมีช่องวางไมโครเวฟ ซึ่งระดับสูงเอาเรื่องทีเดียว
ลองเปิดดูการแบ่งช่องด้านใน
ฮูดของ Electrolux
มองย้อนกลับจากด้านในออกไปยังทางเข้าห้อง ส่วนต่อไปผมจะพาไปดูห้องน้ำครับ
ห้องน้ำนี้เป็นแบบ Sexy bathroom ด้วยกระจกเข้ามุม แต่ถ้าไม่ใช่แนว ก็หามูลี่มาติดบังสายตาเอาครับ โดยส่วนตัวผมชอบนะ เพราะทำให้เวลาเข้าห้องน้ำแล้วไม่รู้สึกอึดอัด
ประตูห้องน้ำไม่กว้างนัก คนตัวใหญ่ต้องเดินตะแคงเข้า
ธรณีห้องน้ำหินอ่อนสีดำ
พื้นที่รวมๆภายในห้อง ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาล แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยบานกระจก Temper
สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำ ดูหรูหราดีทีเดียว
โถสุขภัณฑ์ตำแหน่งวางกำลังเหมาะ ต่อการใช้งานสายชำระอยู่ขวามือ ที่แขวนทิชชู่อยู่ซ้ายมือ (ด้านของคนใช้งาน)
ด้านบนมีราวแขวนผ้า
หัวสายฉีดชำระ
ฉากอาบน้ำกระจก Tempered หรือกระจกนิรภัย เปิดปิดแบบบานสวิง
มือจับขนาดใหญ่พอให้แขวนผ้าขนหนูผืนเล็กได้
ฉากกระจกวางบนธรณีหินอ่อนสีดำ
มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย
ฝักบัวปรับระดับได้พร้อมชั้นวางสบู่ ซึ่งมีให้แค่จุดนี้จุดเดียวไม่พอต่อการใช้งานจริงครับ หาตะแกรงสแตนเลสแบบแขวนมาเพิ่มเติมน่าจะดี
หัวก๊อกของ Englefield
อันนี้เป็นมุมมองจากด้านในห้องน้ำไปยังห้องนั่งเล่นครับ ไม่รู้สึกอึดอัดเวลาใช้งาน
ไปดูด้านในห้องกันต่อครับ
ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนถัดมา โดยวางโซฟาเข้ามุมชิดห้องน้ำ
โซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะกาแฟ
โซฟาแบบเปิดลิ้นชักเก็บของด้านล่างได้ด้วย
มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีบิลท์อิน ระยะดูทีวีถ้าเอาตามหน้ากว้างห้องเลยก็ 3.8 เมตรครับ ถือว่าไกลทีเดียว
ทีวีในห้องตัวอย่างนี้เป็นขนาด 32 นิ้วซึ่งอัพขนาดมากกว่านี้ คงไม่ได้ถ้าเลือกใช้เฟอร์เจอร์ที่ทางโครงการแถมมาให้
ชั้นวางนี้บานปิดต่างๆเป็นไฮกรอสสีขาว
เปิดปิดด้วยระบบโช๊คแบบนี้
ขยับอีกนิดไปดูห้องนอน
ห้องนอนให้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมฟูก และโต๊ะข้างหัวเตียงอีก 2 ตัว ซ้ายขวา พื้นที่ด้านปลายเตียงเหลือ ให้เดินบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้าสบายๆ ประมาณเมตรกว่า
ด้านข้างฝั่งนี้ก็เหลือเยอะ เพราะต้องแบ่งพื้นที่เผื่อเข้าออก สำหรับที่นั่งรับประทานอาหาร
เตียงนอนอีกมุมหนึ่ง
ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า ซึ่งไม่ได้เป็นแบบบิลท์อินนะครับ แต่ทางโครงการจะก่อผนังด้านข้างให้ตู้เข้ากับช่องพอดีแบบนี้
เป็นตู้ใหญ่ขนาด 4 ประตูกว้าง 1.8 เมตร ลองเปิดดูการแบ่งพื้นที่ด้านใน
หลังตู้เก็บของเพิ่มเติมได้อีก แต่จะมีข้อเสียคือ ไม่มีบานปิดปล่อยไว้นานๆฝุ่นจะจับหนา
ที่นั่งทานข้าวดูแปลกตาพอสมควรเพราะใช้เป็นแบบบาร์เคาน์เตอร์
แน่นอนว่าที่ทางโครงการออกแบบมาอย่างนี้ ก็เพื่อให้นั่งทานข้าว พร้อมกับชมวิวเมืองด้านนอกไปด้วยนั่นเอง เหมือนกำลังดินเนอร์อยู่ในโรงแรม ที่ยิ่งชั้นสูงบรรยากาศทิวทัศน์ยิ่งดี
หรือจะใช้เป็นโต๊ะทำงานก็ได้นะ เพราะมีลิ้นชักเก็บของเก็บเอกสารต่างๆ
เก้าอี้ที่ให้เป็นแบบบาร์สตูลปรับระดับได้ 2 ตัว
พื้นที่สุดท้ายคือระเบียงห้อง
ประตูเป็นแบบบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
มือจับประตูแบบนี้จับง่ายดี แต่ผมเปิดล็อคยังไงก็เปิดไม่ออกหรืออาจเป็นเพราะทางโครงการล็อคปิดตายเอาไว้
ไม่เป็นไรครับดูจากด้านในก็ได้ ระเบียงกว้าง 1.8 x 1.3 เมตร พื้นปูด้วยเซรามิค
ไฟระเบียง
ราวกันตกเหล็กสีดำและมีระแนงบังคอมฯแอร์
สวิชต์ไฟของ bticino
ราคา (มี.ค. 59)
Studio – Cimone Suite 33.0 – 33.5 sq.m. : ราคา 1.97 – 2.39 ล้านบาท
– จอง 5,900 บาท
– ทำสัญญา 59,000 บาท
(พิเศษ จอง+ทำสัญญา 50,000 บาท)
ดาวน์ 30 งวดๆละ 5,900 บาท
รวมเงินดาวน์ 177,000 บาท
ส่วนลดกรณีไม่รับเฟอร์นิเจอร์ 150,000 บาท
1 Bedroom – Bianco Suite 41.5 – 46.0 sq.m. : ราคา 2.41 – 3.23 ล้านบาท
– จอง 8,900 บาท
– ทำสัญญา 89,000 บาท
(พิเศษ จอง+ทำสัญญา 75,000 บาท)
ดาวน์ 30 งวดๆละ 8,900 บาท
รวมเงินดาวน์ 267,000 บาท
ส่วนลดกรณีไม่รับเฟอร์นิเจอร์ 200,000 บาท
1 Bedroom – Bianco Suite 53.0 sq.m. : ราคา 2.95 – 3.39 ล้านบาท
– จอง 8,900 บาท
– ทำสัญญา 89,000 บาท
(พิเศษ จอง+ทำสัญญา 75,000 บาท)
ดาวน์ 30 งวดๆละ 8,900 บาท
รวมเงินดาวน์ 267,000 บาท
ส่วนลดกรณีไม่รับเฟอร์นิเจอร์ 220,000 บาท
2 Bedroom – Avella Suite 64.5 sq.m. : ราคา 3.70 – 4.27 ล้านบาท
– จอง 12,900 บาท
– ทำสัญญา 129,000 บาท
(พิเศษ จอง+ทำสัญญา 100,000 บาท)
ดาวน์ 30 งวดๆละ 12,900 บาท
รวมเงินดาวน์ 387,000 บาท
ส่วนลดกรณีไม่รับเฟอร์นิเจอร์ 300,000 บาท
อุปกรณ์พื้นฐาน
– เครื่องปรับอากาศ
– วอลล์เปเปอร์
– ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว
– เครื่องทำน้ำอุ่น
– ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย
ค่าส่วนกลาง 35 บาท/เดือน/ตร.ม.
ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ –Supalai Monte II ตั้งอยู่ใกล้กับแยกศาลเด็กบริเวณหัวมุม ระหว่างถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง และถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจ เพราะอยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ และเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย อีกทั้งยังไม่ไกลจากสถานีขนส่งเชียงใหม่อาเขต มหาวิทยาลัยพายัพ และโรงพยาบาลเทพปัญญา ทำให้ทำเลตรงนี้ น่าจะมีอนาคตที่ดีทีเดียว
ความอุดมสมบูรณ์ – ก่อนอื่นเลยขอพูดในกรณีเดินเท้าไปใช้งาน เนื่องจากชั้นล่างของโครงการมีร้านค้า 4 ยูนิต ซึ่งน่าจะมียูนิตร้านสะดวกซื้ออย่างน้อย 1 ห้อง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นแบรนด์ใด ขณะที่โครงการ มอนเต้ บิซ ที่อยู่ข้างกันนั้นก็เป็นอาคารพาณิชย์ แต่ก็ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างนัก ว่าจะเป็นร้านค้าประเภทใด พึ่งพาได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าขยันหน่อยเดินไปเซ็นทรัลเฟสเลยก็ได้ แต่ถ้ามีรถผมว่าขับรถไปดีกว่านะ ถึงจะใกล้โครงการก็จริงแต่การเดินไปนั้นไม่ถึงกับสะดวกนัก เพราะต้องข้ามถนนใหญ่ ที่มีรถวิ่งเยอะ รวมถึงแยกศาลเด็กที่ใช้ข้ามถนนนั้น ต้องรอไฟแดงนานทีเดียว ซึ่งถ้าหากใช้งานรถยนต์เป็นหลัก ก็จะมีตัวเลือกมากขึ้น ทั้งตลาดสามแยก, บิ๊กซี, แม็คโคร เป็นต้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่สะดว เพราะโครงการอยู่ใกล้กับถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ถนนความเร็วสูง ที่ใช้เป็นประตูในการเข้าออกจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าขับไปจนสุดถนน ก็จะเป็นถนนนิมมานต์ ที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องอาหารการกิน และแหล่ง hangout ยามราตรี ส่วนถนนอีกเส้นที่อยู่ด้านหน้าโครงการ คือถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ใช้เดินทางออกไปยังจังหวัดเชียงราย และถ้าเป็นขาเข้าผ่านแยกศาลเด็ก จะเป็นถนนแก้วนวรัฐ ที่ใช้เดินทางเข้าไปยังตัวเมืองเชียงใหม่
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – การสัญจรด้วยรถสาธารณะนั้น จะแตกต่างจากกรุงเทพอย่างสิ้นเชิง โดยคนเชียงใหม่จะใช้รถสองแถวแดงกันเป็นหลัก ซึ่งมีผ่านมาที่หน้าห้างเซ็นทรัลเฟส ทำให้การขึ้นลงรถอาจจะต้องไปใช้งานที่บริเวณหน้าห้างดังกล่าว
การออกแบบโครงการและวัสดุ – ลักษณะโครงการ Supalai Monte II เป็นคอนโด High-Rise 1 อาคาร สูง 32 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัย 734 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่เศษ ซึ่งเป็นโครงการที่สองต่อจาก Supalai Monte @ เวียง เชียงใหม่ โครงการแรกที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกำลังก่อสร้างซึ่งคืบหน้าไปมากแล้วในส่วนของตัวอาคาร (มี.ค. 2559)
– รูปแบบ Layout มีทั้งหมดถึง 7 แบบด้วยกันแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ Studio, 1 Bed และ 2 Bed ซึ่งผมขอพูดถึงในส่วนของห้องแบบ Studio ขนาด 33 ตร.ม. ที่มีห้องตัวอย่างให้ดู การจัดวางเรียบง่ายตามสไตล์ห้อง Studio ที่ไม่มีการแบ่งกั้นห้องนอน แต่ด้วยความที่ห้องถือว่ามีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่แต่ละโซนได้อย่างครบครัน ได้แก่ ครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ระเบียงและมุมทานข้าว ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจคือห้องน้ำเป็นแบบแยกส่วนแห้งเปียกที่ชัดเจน และมีกระจกเข้ามุม ที่สามารถมองผ่านจากห้องนั่งเล่นได้ ทำให้เวลาใช้งานภายในห้องน้ำแล้วรู้สึกโปร่งสบาย
– สำหรับการขายนั้นทางโครงการมีให้เลือกว่าจะเอาแบบ Fully Furnished หรือ Fully Fitted ก็ได้ หากเป็นตัวเลือกแรกทางโครงการนั้นมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบพร้อมเข้าอยู่เลยทั้งเตียงพร้อมฟูก ตู้เสื้อผ้า โซฟา ชั้นวางทีวี โต๊ะกินข้าวและเฟอร์นิเจอร์ปลีกย่อยอีกเพียบ หรือถ้าเลือกแบบ Fully Fitted ก็จะมีอุปกรณ์พื้นฐานให้คือ เคาน์เตอร์ครัวครบชุดทั้งซิงค์ ฮอบ ฮูด, วอลล์เปเปอร์, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องทำน้ำอุ่นและฉากกระจก Temper ห้องอาบน้ำ โดยนำมาเป็นส่วนลดได้ตั้งแต่ 150,000 – 300,000 บาทขึ้นอยู่กับแบบห้อง
– ส่วนวัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปได้แก่ พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.4 – 2.6 เมตร วัสดุกรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ โคมไฟซาลาเปาในห้องนอน และโคมไฟดาวน์ไลท์ในครัวและห้องน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวก – ทางโครงการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 3 จุด เริ่มจากชั้นล่าง ที่มีสวนสาธารณะอยู่บริเวณด้านหน้าโครงกา รและด้านหลังเพิ่มเติมด้วยสนามบาส จุดที่สองอยู่ที่ชั้น 5 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ Infinity edge ขนาด 25 x 7.8 เมตร ระบบเกลือและห้องฟิตเนส จุดสุดท้ายคือชั้นดาดฟ้าที่มี Sky Lounge, ห้องสมุดและสวนลอยฟ้า ลานจอดรถมี 4 ชั้นจอดได้ทั้งหมดประมาณ 50% รวมซ้อนคันแล้ว ลิฟต์แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและลิฟต์บริการ 1 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัย มีจุดเด่นที่ทางเข้า-ออกเป็นระบบ Easy Pass ไม่ต้องหยิบบัตรขึ้นมาแตะเครื่องสแกน ส่วนรปภ.และ CCTV มี 24 ชม.ตามมาตรฐานความปลอดภัยอยู่แล้ว
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | รายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | ใกล้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | มีรถสองแถวแดงเป็นตัวเลือกหลัก |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แบบห้องมีให้เลือกเยอะ ตามไลฟ์สไตล์ และงบประมาณ อุปกรณ์พื้นฐานให้มาหลายชิ้นและคุณภาพดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | ครบครันทั้งสวนด้านล่างและสวนลอยฟ้า สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Sky Lounge ยกระดับความสะดวกด้วยระบบ Easy Pass |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาพุ่งขึ้นสูงจากวันเปิดตัวค่อนข้างมาก นั่นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความน่าสนใจในตัวโครงการได้เป็นอย่างดี |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.0 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 053-241-333
Website : http://www.supalai.com/th/ProjectCondo/Detail/ศุภาลัย มอนเต้ II
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
ให้เช่า//ขาย ศุภาลัย มอนเต้ เชียงใหม่
ขนาด 65 ตรม. ชั้น19 ขาย 4.9 ล้านบาท ,ให้เช่า 20,000 บาท/เดือน
2ห้องนอน 1ห้องน้ำ1 ห้องนั่งเล่น 1ห้องครัว 2 ระเบียง(วิวดอยสุเทพ)
เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมให้เช่า
สนใจติดต่อ คุณเกด(เจ้าของ)
โทร/ไลน์ : 065-464-7459
โทร/ไลน์ : 082-654-2149