EP.413 รีวิว ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 The Origin Sukhumvit 105 คอนโดพร้อมอยู่ พื้นที่ส่วนกลาง 2,500 ตร.ม. เปิด 24 ชม. ใกล้ BTS แบริ่ง เริ่ม 1.69 ล้าน* (จำนวนจำกัด)
Written by : Pure Thitapa / Som Sawarose
Photo by : Eins Gannika
สวัสดีค่ะ ผู้อ่าน Condonayoo ทุกท่าน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก Origin Property
บนทำเลศักยภาพ ในซอยสุขุมวิท 105 หรือ ซอยลาซาล ตรงข้าม ดาดฟ้า ลาซาล แหล่ง Lifestyle เพื่อสุขภาพ และ ใกล้ Summer Lasalle Community Mall ภายใต้แนวคิด Urban Eco-Living Community
เดินทางสะดวกสบายทั้งคนใช้รถ และไม่ใช้รถ ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง, ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์ และ ถนนบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วน 3 สาย ทั้งทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ วงแหวนกาญจนาภิเษก รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า, ตลาดสด, สถานศึกษาชื่อดัง และ โรงพยาบาลชั้นนำ
ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร บนเนื้อที่ 5-1-63 ไร่ จำนวน 672 ยูนิต + 1 ร้านค้า มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 22.50-44.50 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2563
เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน พื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,500 ตร.ม. เปิด 24 ชม.* อาทิ Lobby, Amphitheater, Fitness, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 40 เมตร, Co-Working Space, Co-Kitchen Space, Private Dining Space, Garden, Jogging Track
ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น อาคารละ 2 ตัว, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. มี Digital Door Lock และ ระบบ Smart Home Automation ติดตั้งมาให้ทุกห้อง ในราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท* Fully Fitted (จำนวนจำกัด ก.ค.64)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3wCu5sG
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 020-300-000
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 THE ORIGIN Sukhumvit 105 |
เจ้าของโครงการ | ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ / Origin Property |
เนื้อที่ทั้งหมด | 5-1-63 ไร่ |
จำนวนอาคาร | 3 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 672 ห้อง + 1 ร้านค้า |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 40% รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ | 6 ตัว (ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 2 ตัวต่อ 1 อาคาร) |
โซน | เขตบางนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 105 ถนนลาซาล แขวงบางนา เขตบางนา กทม. |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน (พ.ค.62) |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปลายปี 63 |
ราคา | เริ่ม 1.69 ล้านบาท* จำนวนจำกัด (ก.ค.64) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 77,000 บาท/ตร.ม.* (ก.ค.64) |
ค่าส่วนกลาง | 48 บาท/ตร.ม./เดือน* |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | GROUND FLOOR. ( 1 Facility)
1st & 2nd FLOOR. ( 2 Facilities)
A TOWER (3rd Floor)
C TOWER (2nd Floor)
|
จุดเด่นของโครงการ | The Origin สุขุมวิท คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ตรงข้ามดาดฟ้า ลาซาล ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีลาซาล |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท 105 ถนนลาซาล แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/uk9hbSceHFMiFgJM9
ทำเลที่ตั้งโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นหูว่าซอยลาซาลค่ะ ซึ่งตัวโครงการนั้นจะอยู่ติดกับซอยลาซาล 30 วัดจากจุดขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เข้ามาประมาณ 2 กม.เท่านั้น
เนื่องจากถนนลาซาลเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิท และศรีนครินทร์ จึงเป็นซอยที่ค่อนข้างจะคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์ มีตลาดและร้านค้าเดิมมาอยู่แล้ว อีกทั้งยังอยู่ติดกับถนนบางนา-ตราด โดยมีซอยฝั่งเลขคี่ที่สามารถลัดเลาะไปออกได้ ตรงเส้นบางนาก็มีทั้งจุดขึ้นทางด่วน และ Central บางนาด้วย
เมื่อเทียบกับซอยแบริ่งแล้ว ซอยลาซาลจึงถือว่าสะดวกสบาย และเป็นที่นิยมมากกว่า จะเห็นได้จากความหนาแน่นของชุมชน มีโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับ Demand ที่อยู่อาศัยที่ยังเกาะเส้นรถไฟฟ้า และจุดขึ้น-ลงทางด่วน
มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว แต่ยังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก อีกอย่างก็คือถนนลาซาลจะยังอยู่ในเขตของกรุงเทพฯ ในขณะที่ซอยแบริ่ง ซอยเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดออกไปจะอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วค่ะ
สำหรับคนใช้รถ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าทำได้สะดวก ถ้าจะเข้าเมืองหลัก ๆ ก็จะใช้เส้นสุขุมวิทได้เลย ถ้าจะออกนอกเมืองไปฝั่งสำโรง-ปากน้ำ ก็สามารถใช้เส้นสุขุมวิท วิ่งตรงอย่างเดียวไปจนถึงสมุทรปราการก็ได้
จากถนนสุขุมวิท 105 หรือ ซอยลาซาลจะเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ ซึ่งใช้วิ่งเข้าเมืองได้เช่นกัน สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางรามคำแหง จนถึงเส้นลาดพร้าว ตรงแถว ๆ The Mall บางกะปิ หรือวิ่งลงไปทางบางปู จะไปสุดที่ถนนสุขุมวิทพอดี
ภายในซอยลาซาลเอง ก็จะมีซอยย่อย ๆ ที่สามารถใช้เชื่อมไปยังถนนแบริ่งได้ และมีซอยที่เชื่อมกับเส้นบางนา-ตราด ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา-ตราด แล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง
ก็จะเจอกับห้าง Central บางนา และจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี ใกล้ทางด่วนและวงแหวนอุตสาหกรรม
ทางด่วน ตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนหลายจุด เป็นตัวช่วยเสริมให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น จากเส้นทางปกติที่อาจจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่ใกล้ที่สุดก็คือจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร อยู่ห่างจากตัวโครงการไปจุดขึ้น เพียง 3.2 กม.* ด้วยระยะขับรถประมาณ 7 นาที* สามารถใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักร, รามอินทรา, รังสิต,ปากเกร็ด หรือจะเข้าเมืองไปทางสีลม-สาทรก็สะดวก
อีกจุดนึงที่ใกล้ก็คือจุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีตรงเส้นบางนา-ตราด ที่เราได้กล่าวกันไปแล้ว เราสามารถไปได้หลายเส้นทางค่ะ จะเลือกใช้ถนนสุขุมวิท หรือเลือกใช้ ซอยบางนา-ตราด 12 จะสามารถลัดไปออกถนนบางนา-ตราดไปขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีก็ได้ ตรงนี้จะใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีนะ
นอกจากนี้ตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษก โดยจากซอยลาซาล 24 จะสามารถลัดมาออกซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งออกมาที่ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกเมือง ตรงไปจะมีทางแยกออกไปฝั่งซ้ายมือเพื่อขึ้นวงแหวนไปทางพระราม 2 ค่ะ
แยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สำหรับคนไม่ใช้รถ มีความสะดวกสบายสูง ทำเลของโครงการนั้นเป็นทำเลที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย หน้าโครงการอยู่ติดถนนซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล ที่นอกจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ก็ยังสามารถใช้บริการรถสาธารณะอื่น ๆ ได้อีก
เพราะในซอยลาซาลเองก็จะมีรถสองแถว, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอด สามารถเรียกได้ง่ายเพราะเป็นซอยที่มีผู้คนและรถสัญจรผ่านไป-มาอยู่แล้ว ถ้าออกไปที่เส้นทางหลักอย่างถนนสุขุมวิทหรือถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
ที่เด่นที่สุดก็คือ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่ง ในระยะประมาณ 2 กม. อาจไม่ใช่ระยะที่เดินถึงได้สบาย ๆ แต่คนชอบเดินสามารถเดินได้ และเป็นระยะที่ต่อรถมอเตอร์ไซค์หรือสองแถวไปถึงถนนใหญ่สุขุมวิทได้ใน 6-8 นาที*เท่านั้น ทำให้ลูกบ้านที่ใช้รถสาธารณะในการเดินทางเป็นหลัก สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ปัจจุบันสามารถนั่งเชื่อม 3 จังหวัดได้แล้ว ทั้งกทม., สมุทรปรากร และ ปทุมธานี
ในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 จะไปสุดสายที่ สถานีสำโรง เป็นสถานี Interchange กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีสำโรง ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 1 สถานี
และมีรถไฟฟ้าสาย บางนา-สุวรรณภูมิ วิ่งขนานกับเส้นบางนา-ตราด (โครงการในอนาคต) โดยจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีศรีเอี่ยม ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานี ศรีลาซาล อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.8 กม.
จากที่ตั้งโครงการสามารถต่อรถไป BTS แบริ่ง ได้ในเวลาเพียง 6-8 นาที*เท่านั้น โดยโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 มีระยะห่างประมาณ 2 กม.จาก BTS แบริ่ง ประตู 1 ที่อยู่ติดปากซอยสุขุมวิท 105
ความอุดมสมบูรณ์ รอบโครงการจัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมากค่ะ ในระยะเดินนี่ของกินเพียบ ร้านอาหารเยอะมาก ติดด้านหน้าโครงการทั้งสองฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4-4.5 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ร้านอาหารอร่อย ๆ มีร้านถ่ายรูป ร้านขายแว่น ร้านขายเครื่องเขียน ร้านทำผม ร้านสำหรับส่งพัสดุ เป็นต้น
เนื่องจากภายในซอยเป็นแหล่งชุมชมที่มีคนอยู่อาศัยมากมาหลายสิบปีแล้ว จึงนับว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากเมื่อเทียบกับซอยที่อยู่ใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้จุดเด่นของโซนนี้คือมีโรงเรียนดี ๆ เยอะค่ะ ทั้งโรงเรียนเอกชนไทยและนานาชาติ รวมไปถึงออฟฟิศสำนักงาน นิคมอุตสาหกรรม โรงงานต่าง ๆ รวมกว่า 870 โรงงาน
นอกจากนี้โครงการยังอยู่เยื้อง ๆ กับโครงการ ดาดฟ้า ลาซาล แหล่ง Lifestyle เพื่อสุขภาพ สำหรับชาวลาซาล ที่มีร้านอาหารชื่อดังอย่าง โอ้กะจู๋ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ยอดนิยมอันดับหนึ่ง ในระยะเดินเพียงแค่ 140 เมตร
ดาดฟ้า ลาซาล เป็น Community Mall สไตล์ Market park ชื่อดังที่เป็นที่นิยมในโซนนี้ ภายในมีความน่าสนใจที่ไม่เหมือนใครหลายอย่างค่ะ จุดขายคือเน้นผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์สดๆจากฟาร์ม ไร่ สวน ที่เป็นมิตรกับสังคมและสุขภาพ พร้อมกับพื้นที่ภายในสำหรับถ่ายรูปสวย ๆ ชิค ๆ ได้แบบจัดเต็ม
ตรงข้ามกับโครงการใกล้ ๆ กับ ดาดฟ้า ลาซาล ก็จะมีตลาดสดลาซาล ร้านค้า ร้านอาหาร ก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งก๋วยเตี๋ยว, บะหมี่หมูแดง, ไก่ย่างห้าดาว, ข้าวมันไก่, ข้าวขาหมู, กับข้าวทำสำเร็จ, อาหารตามสั่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถ้าเข้าไปในซอยแบริ่งก็มีร้านอาหารอร่อยอีกหลายร้านเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ร้านวีทีแหนมเนือง, ร้านพิซซ่าท้ายซอยแบริ่ง, ก๋วยเตี๋ยวไก่ข้ามฟาก, ตำตำ และร้านเพลินพุง ในซอยแบริ่งก็จะมี รร.เซนต์โยเซฟบางนาด้วยนะ
ถ้าออกมาดูที่เส้นสุขุมวิทบ้าง ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาซาลจะมี APT Bearing Mall ที่เป็นจุดให้บริการจอดรถ Park & Ride ตรงนั้นจะมีตลาด มีทั้งอาหาร, ร้านค้า และร้านสะดวกซื้อคอยอำนวยความสะดวกให้ ซอยติดกันมี รพ.มนารมย์
เลยไปหน่อยติดทางขึ้นทางด่วนมี The Coast Village เป็น Community mall ที่ภายในมีร้านค้ากว่า 40 ร้านด้วยกัน ลงมาทาง BTS สถานีสำโรง ก็จะมีทั้ง Imperial World สำโรง, Big C สำโรง, สำโรงเซ็นเตอร์ และ ตลาดสำโรง อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
แหล่ง Shopping และห้างใหญ่ ๆ จะกระจุกตัวกันอยู่บนเส้นบางนา-ตราด เป็นส่วนใหญ่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Central บางนา, Big C, SB Design Square, Index Living Mall, Mega บางนา และ Ikea บางนา
หากเข้าเส้นศรีนครินทร์ก็จะมี Seacon Square และ Paradise Park ที่อยู่ไม่ไกล หรือห้างใหญ่ในอนาคตอย่าง The Bangkok Mall ที่ตอนนี้ตอกเสาเข็มก่อสร้างกันไปแล้ว และมีกำหนดสร้างเสร็จ ประมาณปี 2566-2567
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Map : 13.662491, 100.617420
การเดินทางเริ่มจาก ทางพิเศษสาย S1 บางนา-อาจณรงค์ ⇒ ทางออก 17 B สมุทรปราการ ⇒ ถนนสุขุมวิท ⇒ BTS บางนา ⇒ BTS แบริ่ง ⇒ แยกลาซาล ⇒ ถนนสุขุมวิท 105 หรือ ถนนลาซาล ⇒ กลับรถ ศูนย์การค้าดาดฟ้า ลาซาล ⇒ The Origin สุขุมวิท 105 *ติดซอยลาซาล 30
ภาพประกอบการเดินทาง เราใช้ทางพิเศษสาย S1 บางนา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไปสมุทรปราการ ตามทางออก 17 B ค่ะ
ลงทางด่วนเข้าสู่ถนนสุขุมวิท เราก็จะเห็น Sky Walk BTS บางนา – BTS อุดมสุข ที่สามารถเดินเชื่อมเข้าอาคารไบเทคบางนา และ ศูนย์การค้า The Bangkok Mall ที่กำลังก่อสร้างอยู่ตรงแยกบางนาในอนาคตด้วยค่ะ
ผ่าน BTS บางนา, กรมอุตุนิยมวิทยา และสนามกีฬาภูติอนันต์ กองทัพเรือ พอผ่านปั๊ม Shell ให้ชิดซ้าย
พอถึงแยกลาซาล เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิท 105 หรือ ถนนลาซาล แยกนี้จะติดกับ BTS แบริ่ง ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2 กม.*
จากแยกลาซาลไปโครงการประมาณ 2 กม.*
ปากซอยก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ซ้ายมือเรียงยาว
ผ่าน Center Point Studio Entertainment ตรงข้ามก็จะเป็นลาน Center Point Skate Parc ตลาดนัด ลานจอดรถ และทางเข้า รร.นานาชาติ St.Andrews สุขุมวิท 107 ค่ะ
ขับตรงไปตามทางเรื่อย ๆ พอถึงแยกนี้ให้เลี้ยวขวา ถ้าตรงไปทางซ้ายจะลัดไปออกซอยบางนา-ตราด 2
ผ่าน Summer Lasalle ซึ่งเป็นแหล่งอาคารสำนักงาน ส่วนด้านหน้าจะเป็นศูนย์การค้า Sunny At Summer Lasalle
พอผ่านตลาดลาซาล เราก็จะเห็นตัวโครงการทางขวามือ จากนั้นให้ชิดขวากลับรถที่ตรงหน้าศูนย์การค้า ดาดฟ้าลาซาล
ถึงโครงการ The Origin สุขุมวิท 105
ถึงโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 ติดซอยลาซาล 30
ตัวโครงการ
ก่อนเข้าไปดูภาพจริง เรามาดูผังที่ดินโครงการกันก่อนเลยนะคะ สำหรับโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 จะอยู่ติดถนนสุขุมวิท 105 ฝั่งขาเข้าวิ่งไปถนนใหญ่สุขุมวิท ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ทางทิศเหนือ ติดทางเข้าออกโครงการทั้งทิศตะวันออก ตะวันตก และฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4-4.5 ชั้น
รอบ ๆ มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ในระยะเดินสบาย ๆ นี่มีร้านอาหารอร่อย ๆ เปิดขายอยู่นับ 20-30 ร้าน และเป็นร้านดังของย่าน หรือร้านอร่อยที่เป็นที่นิยม และยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านทำผม ร้านไปรษณีย์ ร้านขายยา คลินิก ร้านขายของต่าง ๆ และ ตลาดสด
ที่สำคัญที่ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น Community Mall ดาดฟ้า ลาซาล ที่ด้านในมีทั้งคาเฟ่ ตลาดนัดขายของที่น่าสนใจจากฟาร์ม ไร่ สวน หรือของทำมือ พร้อมร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ
ด้านหน้าโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 อยู่ติดถนนสุขุมวิท 105 ฝั่งขาเข้า ที่ใช้ขับออกถนนสุขุมวิท และ รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง
จากหน้าโครงการมองตรงออกมา ได้มุมมองแบบนี้
จากหน้าโครงการมองออกมาทางซ้ายมือ จะเห็นถนนซอยสุขุมวิท 105 ริมสองข้างทางเป็นตึกแถว 4-4.5 ชั้น ที่เปิดเป็นร้านค้า และร้านอาหารต่าง ๆ
เดินเลี้ยวซ้ายมาดูบรรยากาศกันก่อนเลย
เดินตรงมาเราจะเจอกับร้านเป็ดย่างร้านดังอยู่ ชื่อร้านว่าเป็ดย่างลิตเติ้ลดั๊ก เป็นตึกแถว 2 ห้อง เปิดขายเป็ดย่าง บะกุ๊ดเต๋ หมูแดง หมูกรอบ อาหารตามสั่ง ที่พิเศษคือร้านนี้มีไส้เป็ดกรอบ ๆ ขายด้วย
ผ่านขึ้นมาจะมีร้านค้าต่าง ๆ อีกหลายร้าน ที่สำคัญทางเท้าเค้าค่อนข้างกว้างค่ะ เดินไปไหนมาไหนได้สะดวกดีทีเดียว
ซ้ายมือนี้จะเป็น CP Fresh Mart ที่เป็น Super Market ขนาดย่อม ๆ ใกล้บ้านเลย ภายในเค้าจะมีขายของสด อย่างเนื้อหมูสด, กุ้งสด, ไข่ไก่ มีอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็ง รวมถึงเครื่องปรุงอาหารต่าง ๆ นอกจากนั้นด้านหน้าจะมีตู้เติมเงิน และ ตู้ ATM ของธนาคารออมสินตั้งอยู่ด้วย
ถัดมาจะมีไปรษณีย์ และ ร้านขายยา ทำเนียบยา ด้านข้างมีตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยให้บริการอีก 1 ตู้
ตรงขึ้นไปก็จะมีร้านค้าอื่น ๆ เปิดขายอยู่อีกเพียบ อย่างเช่น ร้านทำผม, ร้านถ่ายรูป ล้างรูป ถ่ายเอกสาร
ถัดมามีร้านอาหารทั้งเกาเหลาเลือดหมู ข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด และถัดไปเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ราคาย่อมเยา
มองไปฝั่งตรงข้ามจะมีร้านค้าอีกเยอะมาก ๆ ทั้งร้านบะหมี่หมูแดงเจ้าดัง, ร้านกาแฟสด Inthanin, ร้านขายเสื้อผ้า, The Pizza Company, ร้านกระเพาะปลา, ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น-หมูตุ๋น และร้านขายผลไม้ตามฤดูกาลเปิดอยู่
จากหน้าโครงการเดินไปทางฝั่งขวามือกันบ้างนะคะ ถ้าเรามองไปฝั่งตรงข้าม เยื้อง ๆ กับตัวโครงการจะมีตลาดนัดลาซาล และ ดาดฟ้า ลาซาล เปิดอยู่
ติดกับที่ดินโครงการฝั่งซ้ายมือ จะเป็นแพทย์อัมพรคลินิกเวชกรรม ถัดออกไปเป็นร้านอาหารขายข้าวหมูแดง-หมูกรอบ
ผ่านขึ้นมาจะมีร้านแว่นท็อปเจริญ, ร้านขายเครื่องเขียน, ร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และร้านตัดผม-ร้านเสริมสวยเปิดอยู่
มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นดาดฟ้า ลาซาล
พาเดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม ตรงซอยลาซาล 31 จะเป็นทางเข้าตลาดนัดลาซาล ด้านในจะเป็นที่จอดรถของทางตลาด และที่จอดรถเพิ่มเติมของร้านโอ้กะจู๋ ที่เปิดขายอยู่ด้านหน้าดาดฟ้า ลาซาล นั่นเองค่ะ
ติดกับตลาดนัดลาซาล ก็จะเป็นดาดฟ้า ลาซาล Community Mall เก๋ ๆ ภายในซอยสุขุมวิท 105
ดูภาพรวมรอบ ๆ โครงการกันไปแล้ว เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูรายละเอียดภายในตัวโครงการกันต่อเลยค่ะ
The Origin สุขุมวิท 105 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 3 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 5-1-63 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 672 ยูนิต + 1 ร้านค้ายูนิต โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปเมื่อช่วงปลายปี 63 ที่ผ่านมา
ซุ้มทางเข้าของโครงการออกแบบเป็นสีขาวขอบเทาสบายตาเข้ากันกับสีอาคาร แต่ก็มีลักษณะเป็นขอบโค้งโฉบเฉี่ยวนำสายตาเข้าสู่ภายในโครงการ มีป้อมรปภ.อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
มองเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร A ซึ่งออกแบบมาเป็นแบบเพดานสูง และออกแบบให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น 24hr.Co-Working Space, Co-Passion Space, Lounge, Meeting Room, Private Dining Space และ Co-Kitchen Space เป็นต้นค่ะ
เริ่มจากด้านหน้าโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 ถนนเมนด้านหน้าเป็นพื้นสแตมป์คอนกรีตสีเทาทูโทน แบ่งช่องทางเข้า-ออกสวนทางกัน ด้านข้างมีทางเท้าสำหรับคนเดินแยกมาให้ชัดเจน และทางเข้า-ออกจะมีระยะ Setback เข้าไปประมาณ 40 เมตร
ด้านหน้าโครงการจะมีซุ้มป้ายชื่อ The Origin Sukhumvit 105 เป็นภาษาอังกฤษ ด้านหลังแต่งด้วย Vertical Garden ต่อเนื่องไปจะเป็นป้อม รปภ. และ Drop-Off เชื่อมต่อ Lobby อาคาร A
รถยนต์เข้า-ออกผ่านระบบ Key Card Access + ไม้กระดกอัตโนมัติ ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่รปภ. ก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง
ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off และ อาคาร A ทางฝั่งซ้ายมือ ต่อเนื่องไปจะเป็นอาคาร B และ อาคาร C ที่มีส่วนกลางตั้งอยู่ตรงคอร์ทกลางระหว่าง 2 อาคาร
มองกลับมาที่ทางเข้าโครงการ จะเห็นได้เลยว่าบรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ มองขึ้นไปที่ด้านบนจะเป็น Facilities บนชั้น 2 ของอาคาร A ที่จะเปิดรับวิวได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากหน้าโครงการ และวิวภายในโครงการ
เลี้ยวซ้ายมาจะเป็น Drop-Off สำหรับจอดรับ-ส่ง ตรงเข้าไปจะเป็นประตูทางเข้าสู่ Lobby อาคาร A และใช้ขึ้นไปสู่ Facilities ที่เปิดใช้งาน 24 ชม. บนชั้น 2 ที่ใช้งานร่วมกันได้ทุกตึกค่ะ
ผ่านเข้ามาตามทางจะเจอกับที่จอดรถใต้อาคาร A การเดินรถจะเปลี่ยนมาเป็นแบบ One Way วนซ้ายไปตามเข็มนาฬิกาได้เลยค่ะ
วนไปตามทางก็จะมาออกตรงใต้พื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคาร A, B และ C หรือจะวิ่งออกมาทางอาคาร C ก็ได้เช่นกัน
ผังอาคารชั้น 1 ที่ดินโครงการเป็นแบบหลายเหลี่ยมหลายมุม จากถนนเข้ามาด้านในจะเจอทางเข้าอาคาร A และส่วนกลางหลักที่ใช้ร่วมกัน 3 ชั้น ส่วนชั้น 1 ของอาคาร จะเป็นที่จอดรถ โดยไม่มียูนิตที่พักอาศัย ส่วนอาคาร C ชั้น 1 เป็นส่วนสระว่ายน้ำเชื่อมต่อกับสวน และห้องฟิตเนส
โดยอาคาร C มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย จะเป็นห้องที่อยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสมากที่สุด อาคารทั้งสามอาคารล้อมสวนและพื้นที่ส่วนกลางหลักตรงกลางเอาไว้
แบ่งพื้นที่ส่วนกลางตามชั้นและอาคารต่าง ๆ ได้ดังนี้
GROUND FLOOR. (1 Facilies)
1st & 2nd FLOOR. ( 2 Facilities)
A TOWER (1st-3rd Floor)
C TOWER (2nd Floor)
LOBBY & FACILITIES อาคาร A
จาก Drop-Off จะมีประตูกระจกบานเลื่อนอัตโนมัติ ช่วยลดการสัมผัส ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุค New Normal มาก ๆ
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Reception และ Lobby ขนาดใหญ่
ภายใน Lobby ได้เพดานสูงโปร่งโอ่อ่า ผนังห้องเป็นกระจกใสตัดแสง Full Height ทั้งหมด ทำให้เปิดรับวิวได้กว้าง และเปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้อย่างเต็มที่มาก ๆ นอกจากนั้นเค้ายังจัดเตรียมชุดโซฟารับรองมาให้หลายมุม ใช้นัดพบกับเพื่อน ๆ ที่มาได้สบาย ๆ เลยค่ะ
จาก Lobby ด้านในจะเชื่อมต่อกับสวนหย่อม และ พื้นที่นั่งเล่นในสวนด้านนอกได้ บรรยากาศภายนอกได้ความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่, ต้นไม้พุ่มเตี้ย และ ผนัง Vertical Garden แบบนี้
ภายใน Lobby ก่อนที่จะเข้าโถงลิฟต์ จะมี Smart Locker จัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วย เหมาะกับการใช้ชีวิตยุคใหม่ New Normal มาก ๆ
เข้ามาดูภายในโถงลิฟต์อาคาร A กันต่อเลย ที่นี่มีลิฟต์ล็อกชั้นให้ 2 ตัว ต่ออาคาร ภายในตกแต่งมาในโทนสีน้ำเงินเข้ม ตัดด้วยกระจกเงาสีชา ที่ดูทันสมัย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น และวัยทำงานแบบ First Jobber
Mail Room จะอยู่ด้านในสุดค่ะ แบ่งกล่องจดหมายแยกแต่ละยูนิต ไล่ชั้นต่ำไปสูงให้เป็นระเบียบ มีเลขที่ห้องบอกหน้าตู้ และมีกุญแจล็อกกันของหายไว้ให้
ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 3 ไปดูรายละเอียด Facilities ส่วนอื่นกันต่อ
24hr. Co-Working Space + Vending Machine & Office Supply ที่เราใช้นั่งทำงาน ทำการบ้าน อ่านหนังสือหรือนั่งพักผ่อนได้ดี รวมถึงมีตู้กดขายของ และอุปกรณ์สำนักงานช่วยอำนวยความสะดวก ออกแบบเพดานมาสูงโปร่ง ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและสร้างสรรค์ในการทำงาน
ภายในห้องจะจัด Functional ไว้หลากหลายมาก ๆ กระจายมุมทำงานไว้ให้หลายแบบ รองรับทั้งการใช้งานคนเดียว แบบคู่ หรือแบบกลุ่มก็ได้ทั้งนั้นค่ะ
ขวามือมีโต๊ะกลม พร้อมเก้าอี้ให้ 2 ที่นั่ง
ซ้ายมือเป็นมุมโซฟาทรงโค้ง พร้อมโต๊ะกลมเล็ก ๆ รองรับได้กลุ่มละ 3-4 คน
ผนังห้องให้เป็นกระจกใสตัดแสงแบบ Full Height แบบนี้ คือจะเปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดีมาก ๆ
ถัดมาขวามือจะเป็น Meeting Room หรือ ห้องประชุม ที่แยกโซนออกมาเป็นสัดส่วน ภายในจัดเตรียมอุปกรณ์สำนักงานมาให้ครบ ทั้งโต๊ะประชุมตัวยาว พร้อมเก้าอี้ 6 ที่นั่ง และมี Whiteboard จัดเตรียมมาให้ใช้ Present งานได้ด้วย
ถัดมาอีกห้องจะเป็น Co-Passion Space ที่จัดเป็น Multi-Function Studio มีอุปกรณ์ไฟ ฉากจัดเตรียมให้เรียบร้อยแล้ว รองรับลูกบ้านที่ขายสินค้าออนไลน์, คนที่ชอบถ่ายรูปเป็นงานดิเรก หรือชาว Freelance ที่รับงานถ่ายภาพ ก็สามารถลงมาใช้งานตรงนี้กันได้ แบบไม่ต้องไปเสียค่าเช่า Studio แพง ๆ ที่ด้านนอกโครงการ
เข้าไปที่ด้านในจะมีมุมทำงาน และมุมนั่งเล่นอีกเยอะ
ขวามือจะเป็น Amphitheater เป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือแบบเล่นระดับ พร้อมหมอนรองนั่ง และหมอนอิง
ติดกันเป็นเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้อีก 3 ที่นั่ง ใช้นั่งทำงานแบบเดี่ยวได้
อีกฝั่งจะมีโซฟานุ่ม ๆ พร้อมโต๊ะญี่ปุ่นในตัว ให้นั่งทำงานแบบเดี่ยวได้อีก 3 ชุด
ตรงเข้าไปด้านในสุดจะเป็น Private Dining Space & Co-Kitchen Space พื้นที่ทำขนม ทำอาหาร หรือจัดปาร์ตี้สังสรรค์กลุ่มเล็ก ๆ ได้ ผนังห้องได้เป็นกระจกใสแผงใหญ่รอบด้านเลย มองออกไปเห็นวิวหน้าโครงการ และภายในโครงการ
ตรงกลางจะมีโต๊ะทานข้าว ขนาด 6 ที่นั่ง พร้อม Island ที่ใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร หรือ Mini Bar ได้
ข้าง ๆ กันจะมีชุดโต๊ะนั่งเล่นแยกมาให้อีก 4 ที่นั่ง
ด้านในสุดเลยจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวสำหรับประกอบอาหาร โดยทางโครงการจะมี Hob-Hood, ซิงค์ล้างจาน, เตาอบ และ อุปกรณ์ทำครัวมาตรฐานจัดเตรียมไว้ให้ครบเลยค่ะ
Facilities อาคาร B และ C
ไปดูพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงคอร์ทกลางที่ดินโครงการ และที่อาคาร C กันต่อเลย
ตรงเข้ามาด้านในเราจะเจอกับสวนสาธารณะ และ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตรงคอร์ทกลางโครงการ
ด้านล่างจะเป็นสวนพักผ่อนแบบเล่นระดับ ภายในจัดเตรียมมุมนั่งเล่นพักผ่อนไว้หลายมุม และมี Sunken Seat จัดไว้ให้ด้วย
จากสวนด้านล่างเดินขึ้นมาขั้นที่ 2 จะเจอกับโถงทางเดินพื้นกระเบื้องลายหินอ่อน ที่ใช้เดินไปใช้งานพื้นที่พักผ่อนริมสระได้
ริมสระว่ายน้ำก็จะได้ฟังก์ชันมาตามนี้เลย ทั้งตัว Sunken Seat, Net Seating Area, Mini Bar และ มุมนั่งเล่นพักผ่อน ที่ใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้
ด้านบนสุดโซน Outdoor จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่หน้าตึก C เป็นสระขนาด 6×40 ซม. วางที่นั่งข้างสระและจัดสวนรอบสระมาร่มรื่น โดยขอบสระเป็นน้ำตกช่วยเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติให้สวนในโครงการ
Pool Terrace จัดเตรียม Sunbed มาให้นอนอาบแดดอีก 5 ชุดด้วยกัน
ด้านท้ายก็จะมีชุดเด้าอี้หวายเทียมให้อีก 3 ชุด รองรับได้ 6 ที่นั่ง
เอาบรรยากาศสระว่ายน้ำสวย ๆ มาให้ได้ชมอีกมุม
ริมสระก่อนทางเข้าห้องน้ำส่วนกลาง จะมี Rain Shower ไว้ให้อาบน้ำก่อนลงว่ายน้ำอีก 2 ชุด
ห้องน้ำหญิงตกแต่งมาในโทนสีชมพู-ขาว และ กระเบื้องตกแต่งลายหินอ่อน ภายในจัดฟังก์ชันมาตรฐานมาให้ครบ ทั้งชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ + กระจกเงา, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และล็อกเกอร์เก็บของ
ห้องน้ำชายจะเปลี่ยนการตกแต่งมาเป็นโทนสีเทา-ขาว แต่ก็ยังได้ฟังก์ชันมาตรฐานต่าง ๆ มาครบเช่นเดียวกันค่ะ
ลองมองกลับมาที่ตัวอาคาร C ที่เห็นตรงผนังกระจกติดกับสระว่ายน้ำ จะเป็นที่ตั้งของห้องฟิตเนสทั้งหมด
ห้องฟิตเนสจะเป็นห้องหน้ากว้างมาก วางขนานไปกับสระว่ายน้ำ และสวน เพื่อให้ได้รับวิวสวย ๆ ในทุก ๆ จุด เข้ามาด้านในขวามือจะเป็นห้องโยคะ พร้อมอุปกรณ์การเล่นครบเซ็ต
อีกฝั่งจะเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ มีเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยหลายชนิด ทั้งแบบ Cardio และ Weight Training เหมือนได้เข้ายิมในห้างชั้นนำก็ว่าได้
ฝั่งที่ติดกับผนังกระจกวิวสระว่ายน้ำ จะเป็นโซน Cardio ทั้งหมด มีเครื่องออกกำลังกายทั้งเครื่องนั่งปั่นจักรยาน, ลู่วิ่งไฟฟ้า และเครื่องเดินวงรี
อีกด้านจะเป็นโซน Weight Training ทั้งหมด โดยจะวางเครื่องออกกำลังกายเรียงยาวไปจนสุดมุมห้องเลย
ด้านในสุดจะเป็น Boxing Room ตัวพื้นเป็นแผ่นยางกันกระแทก ช่วย Save เวลาที่เราหกล้ม มีกระสอบทรายให้ 2 ชุด และมีอุปกรณ์ซ้อมมวยต่าง ๆ เช่น นวม เบาะฝึก และมีม้านั่งพักเหนื่อยจัดเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องฟิตเนส ทุกจุดจะตกแต่งให้ดู Active ทันสมัย ด้วยสีพื้นและผนังที่เป็นโทนสีสดใส
ถัดจากห้องฟิตเนส ตรงทางเข้าอาคาร C จะมีมุมพักผ่อนแบบ Semi-Outdoor ให้อีกจุด จัดชุดโตีะเก้าอี้หวาย พร้อมหมอนอิงให้อีกหลายชุด
ภายในโถงลิฟต์อาคาร C
ส่วนภาพนี้จะเป็นโถงลิฟต์อาคาร B โดยทุก ๆ อาคารจะเป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้น มีให้ 2 ตัว เช่นกันค่ะ
Typical Floor Plan หรือผังส่วนยูนิตที่พักอาศัยชั้น 2-8 ของอาคาร A, B, C ค่ะ เรามาไล่ดูรายละเอียดผังกันไปทีละอาคารนะคะ
ผังอาคาร A ชั้น 2 จะเห็นว่าส่วนกลางด้านหน้าจะเป็นเพดานสู งและชั้นลอยที่แยกกับส่วนยูนิตที่พักอาศัยมีประตูคั่นเป็นสัดส่วนเพื่อความเป็นส่วนของผู้อยู่อาศัยที่ชั้น 2 นั่นเอง
อาคาร A ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 34 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift อยู่ค่อนไปทางฝั่งทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องสองฝั่ง
ผังอาคาร A ชั้น 3 จะเห็นว่าส่วนกลางด้านหน้าจะเป็นส่วน Co-Working Space, Co-Passion Space, Lounge, Meeting Room Private Dining Space, Co-Kitchen Space ที่แยกกับส่วนยูนิตที่พักอาศัย
มีประตู Key Card คั่นเป็นสัดส่วน เพื่อความเป็นส่วนของผู้อยู่อาศัยที่ชั้น 3 แต่ก็ถือว่าอยู่ใกล้พื้นที่พักผ่อนและส่วนกลางขนาดใหญ่ของโครงการมากกว่าชั้นอื่นๆในอาคาร A ค่ะ เดินมาใช้งานได้สบาย ๆ
อาคาร A ชั้น 3 มีห้องพักทั้งหมด 34 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift อยู่ค่อนไปทางฝั่งทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องสองฝั่ง
ผังอาคาร A ชั้น 4-8 มีห้องพักทั้งหมด 34 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift อยู่ค่อนไปทางฝั่งทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องสองฝั่ง
ผังอาคาร B ชั้น 2-8 มีห้องพักทั้งหมด 32 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว L มี Core Lift อยู่ตรงกลาง ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องสองฝั่ง
อาคาร C ชั้น 2 เป็นส่วนสระว่ายน้ำเชื่อมต่อกับสวน และห้องฟิตเนส โดยอาคาร C มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย จะเป็นห้องที่อยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางมากที่สุด ชั้น 2 มีห้องพักทั้งหมด 17 ยูนิต
ซึ่งมีความหนาแน่นยูนิตต่ำสุดเมื่อเทียบกับชั้นอื่น ๆ ในโครงการค่ะ ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift ค่อนไปทางทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องฝั่งเดียว
อาคาร C ชั้น 3 มีห้องพักทั้งหมด 23 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift ค่อนไปทางทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องฝั่งเดียว
อาคาร C ชั้น 4-8 มีห้องพักทั้งหมด 33 ยูนิต ผังอาคารรูปตัว I มี Core Lift ค่อนไปทางทิศเหนือ ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร โถงทางเดินแจกเข้าห้องฝั่งเดียว
UNIT TYPE
โครงการ The Origin สุขุมวิท 105 มีแบบห้องให้เลือก 5 แบบดังนี้
1 Bedroom Type B1 ขนาด 22.50-24.00 ตร.ม.
1 Bedroom Type B2 ขนาด 27 ตร.ม.
1 Bedroom Smart Walk in Closet Type B3 ขนาด 27 ตร.ม.
1 Bedroom Plus Type BP1 ขนาด 31.50-32.50 ตร.ม.
2 Bedroom Type C1 ขนาด 44.00-44.50 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างให้ชม 2 แบบ ด้วยกันค่ะ ได้แก่ แบบ 1 Bedroom Type B1 ขนาด ประมาณ 24 ตร.ม. และ 1 Bedroom Type B3 Smart Walk-in Closet Type ขนาด ประมาณ 27 ตร.ม.
ห้องขายแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินครบชุดพร้อมฐานเตียง ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์ ฉากกั้นห้องอาบน้ำ เครื่องปรับอากาศติดตั้งมาในห้องนั่งเล่นและห้องนอน Digital door lock และระบบ Smart Home Automation ติดตั้งมาให้ทุกห้อง
แปลนห้องตัวอย่าง Type B1 เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวปิด ขวามือเป็นห้องน้ำ ที่ออกแบบมาได้ลงตัวมาก ๆ ภายในแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย จากห้องครัวจะแยกโซนกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ถัดเข้าไปจะเจอกับห้องนอน ที่รวมมุมพักผ่อนเข้าไว้ด้วยกัน รองรับโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลางเล็ก ๆ ได้ ในห้องนี้จะได้ฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า พร้อมชั้นวางทีวี และ โต๊ะเครื่องแป้งบิวท์อินมาให้ ข้างเตียงนอนฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่ลึงลงไป ให้เราทำเป็นมุมทำงานแบบเดี่ยวได้ อีกฝั่งเป็นประตูออกไประเบียง มีก๊อกสนาม และแขวน CDU ให้เรียบร้อยค่ะ
ประตูห้องพักได้เป็นบานไม้ HDF ปิดผิวลายไม้สีอ่อน วงกบไม้เนื้อแข็งทาสีขาวครีม พร้อมตาแมวไว้ส่องคนที่หน้าบานประตู พื้นห้องพักยกสูงจากโถงทางเดินเล็กน้อย ช่วยป้องกันแมลงตัวเล็ก ๆ และกันฝุ่นพัดเข้าสู่ห้องพัก
กลอนประตูได้เป็น Digital Door Lock มือจับก้านโยกของ COLT ที่ใช้งานได้ 2 แบบ คือ กดรหัสผ่าน และ แตะ Key Card
เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับห้องครัวปิด และห้องน้ำเป็นอันดับแรก ต่อเนื่องไปเป็นห้องนอน และระเบียง ความสูงพื้น-เพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Slimline ทั้งห้อง
และที่นี่ผนังห้องจะเป็นผนัง Solid Wall ซึ่งเป็นนวัตกรรมจาก SCG คือจะเหมือนเป็นผนังสำเร็จที่มีการเก็บเสียงได้ดีกว่าผนังสำเร็จทั่วไป และสามารถแขวนชั้นลอยได้เพราะมีความแข็งแรงสูง โดยห้องที่ได้จะเป็นผนัง Solid Wall ฉาบเรียบทาสีขาว
จากด้านในมองกลับออกมาที่ประตูทางเข้า พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. ที่เหมาะกับการใช้งานหนัก และทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนระยะใช้งานตรงกลางเหลือกว้าง ประมาณ 1.2 เมตร ยืนทำอาหาร, ล้างจาน และ เดินเข้า-ออกได้พอสะดวก
ห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ครัวบิวท์อิน พร้อมตู้เก็บของด้านบน หน้าบานปิดผิวลายไม้สวย ๆ ตามนี้ ด้านข้างเว้นพื้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็น ขนาด 6-8 คิว ได้
หน้าท็อปครัวปิดผิวลามิเนตลายหินอ่อนสีขาว ผนังทำ Backsplash กระจกเงา ติดราวแขวนผ้าเช็ดมือ และ เต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ตามนี้
สิ่งที่ให้มากับชุดครัวเลยก็จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele
ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Hafele
ด้านล่างจะมีตู้เก็บของ, ลิ้นชักเก็บของ และ ช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. โดยด้านหลังจะเดินงานระบบไฟฟ้า-ระบบประปา ท่อน้ำดี, ท่อน้ำมทิ้งมาให้พร้อมต่อใช้งานได้เลยค่ะ
ตู้เก็บของใต้ซิงค์ แบบบานเปิด ภายในจะเป็นช่องโล่ง ๆ เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน หรือจะใช้เป็นที่วางถังขยะใบเล็ก ๆ ก็ได้
อีกฝั่งจะมีลิ้นชักเก็บช้อน-ส้อม และตู้เก็บของ พร้อมชั้นลอยเล็ก ๆ ให้อีก 2 ชั้น
ด้านบนได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยที่ด้านในตามนี้เลย
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ ประตูห้องน้ำเป็นบานทึบสีขาว ลูกบิดกลมกดล็อก ธรณีเป็นหินเทียมสีขาว เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญยังไม่บวมน้ำ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
ห้องน้ำออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัวเลย แม้ว่าจะเป็นห้องขนาด 24.00 ตร.ม. แต่ภายในมีพื้นที่ใช้งานที่กว้าง และยังแบ่งส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำใช้เป็นของ American Standard ทั้งหมดค่ะ
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกันกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. ผนังตกแต่งกระเบื้องผิวมันสีขาว สลับกับกระเบื้องลายหินสีเทาได้ Mood & Tone เดียวกัน
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนแห้งกันก่อน โดยจะติดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ตามนี้ ในระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด
อ่างล้างมือทรงเหลี่ยมแบบแขวนผนัง หน้าอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้จุกจิกได้เล็กน้อย พร้อมหัวก๊อกโครเมียมแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวกดี
ผนังข้าง ๆ อ่างติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ + USB Post พร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ เอาใจคนที่ชอบเล่นมือถือในห้องน้ำ หรือจะเอาไว้เสียบพวกไดร์เป่าผม, เครื่องโกนหนวด หรือเสียบชาร์จลำโพง Bluetooth ก็ได้ค่ะ
ถัดมาจะเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลสครบชุด
ผนังส่วนแห้งติดกระจกเงาบานใหญ่ให้แบบนี้ และที่เพดานส่วนแห้งจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ จุดนี้จะกั้น Shower Box กระจก Temper ประตูบานสวิง มือจับตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้ให้แบบนี้
ด้านในติดตั้งฝักบัว Hand Shower ผนังเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ และมีการเดินงานระบบไฟฟ้า Junction Box ที่ให้เราติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลย
ส่วนอาบน้ำเค้าจะมีธรณีแยกมาให้อีกชั้น กันน้ำกระเด็นออกไปที่ด้านนอก ส่วนพื้นที่ใช้งานด้านในขนาดกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ถัดจากห้องครัวและห้องน้ำเข้าไป จะเจอกับส่วนพักผ่อนที่รวมห้องนั่งเล่น, ห้องนอน และ ห้องทำงานไว้ในพื้นที่เดียวกัน
ข้างเตียงนอนฝั่งที่ติดกับผนังห้อง จะจัดเป็นมุมนั่งเล่นโดยวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง เสริมด้วยโต๊ะกลมเล็ก ๆ ด้านหน้ามาให้ดูเป็นไอเดีย
ผนังด้านหลังอาจจะตกแต่งเพิ่มเติมด้วยชั้นวางของแนวยาว ไว้วางหนังสือ หรือของตกแต่งบ้านกันได้ ส่วนที่ผนังด้านข้างทางโครงการจะติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Daikin แบบ Inverter ขนาด 12,000 BTU มาให้เลย 1 ตัว
ระยะใช้งานตรงมุมนั่งเล่นกว้างกำลังดี สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นมุมทานข้าวไป ดูหนังไปด้วยก็ยังได้
ถัดมาวางเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้
ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่เว้นลึกลงไป ให้เราทำเป็นมุมทำงานแบบ Work From Home อยู่ที่บ้านได้สบาย ๆ และยังได้แสงธรรมชาติที่เพียงพอจากหน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่อีกด้วยค่ะ
มองกลับมาดูอีกฝั่งของห้องกันบ้าง เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินปลายเตียงที่เราเห็นนั้นคือทางโครงการมีให้มากับห้องทั้งหมดเลยนะ ทั้งตู้เสื้อผ้าบานเปิดความสูงจรดฝ้าเพดาน, ชั้นวางทีวี พร้อมตู้เก็บของ และ โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
ตรงชั้นวางทีวี และโต๊ะเครื่องแป้งจะบิวท์อินเล่นระดับมาให้พอดีต่อการใช้งาน สามารถวางทีวีขนาด 42-52 นิ้วได้ ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้ามาให้พร้อมต่อใช้งาน
ถัดออกไปจะเป็นระเบียงซักล้าง และ พื้นที่แขวน CDU
ประตูระเบียงเป็นกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อน 3 ตอน ยกธรณีสูงขึ้นมา ประมาณ 15 ซม. ช่วยกันน้ำฝน กันฝุ่นพัดเข้ามาในห้องได้
ระเบียงขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับวางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือวางเป็นพวกต้นไม้กระถางมากกว่า ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. พร้อมเจาะท่อระบายน้ำมาให้ ผนังด้านข้างติดตั้งก๊อกสนามมาให้ด้วย 1 จุด
ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กแนวตั้งทาสีเทากันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร
มองขึ้นไปที่ด้านบนติด CDU ปล่อยลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร และติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง ค่ะ
จากระเบียงของห้องตัวอย่างที่อยู่ที่ชั้น 5 มองออกไปด้านนอก จะได้วิวของพื้นที่ส่วนกลาง อย่างสระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวสวย ๆ แบบนี้เลยค่ะ
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
ห้องที่ 2 ที่เราจะพาไปชมกันคือห้องตัวอย่างที่มีการจัดผังแบบใหม่ โดยเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27 ตร.ม. แต่จะมีส่วน Smart Walk-in Closet ด้วยค่ะ จากผังเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น มีครัวปิดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ถัดเข้าไปเป็นห้องนอน โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนห้องนอนมาให้ จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมกับส่วนห้องน้ำและส่วน Smart Walk-in Closet ติดระเบียง
ประตูห้องพักได้มาเหมือนกันทั้งหมด พร้อมกลอนระบบ Digital Door Lock มือจับก้านโยกของ COLT
เปิดประตูเข้าไปจะกับห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก มองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนอน ที่มีฉากกั้นห้องมาให้ Spec เหมือนกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกเลยค่ะ คือใช้พื้นไม้ลามิเนต 8 มม. เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ไฟเพดาน Led Slimline ผนังห้อง Solid Wall แบบฉาบเรียบทาสีขาว จาก SCG ที่เก็บเสียงได้ดี
ห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลมด้านหน้า และ วางโต๊ะทานข้าว ขนาด 1 ที่นั่งด้านข้างมาให้ดูระยะใช้งาน
ข้างโซฟาฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้าห้อง ทางโครงการจะบิวท์อินตู้เก็บรองเท้า, ชั้นวางของ และตู้เก็บของด้านบน พร้อมเว้นช่องไว้ให้วางตู้เย็น ขนาด 6-8 คิว ได้ค่ะ
มองมาอีกฝั่งของห้อง จะเจอกับห้องครัวปิด ตรงกลางเป็นชั้นวางทีวี ขวามือสุดเป็นห้องน้ำแบบ Double Access
โครงกาบิวท์อินชั้นวางทีวี พร้อมตู้เก็บของ และ ชั้นวางของมาให้แบบนี้ รองรับทีวีขนาด 42-52 นิ้วได้สบาย ๆ ผนังด้านหลังเดินงานระบบให้แล้ว และติดตั้งแอร์ Daikin Inverter 12,000 BTU มาให้ด้วยค่ะ
ไล่ดูรายละเอียดไปทีละส่วนนะคะ เริ่มจากห้องครัวที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า
ประตูห้องครัวเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60×60 ซม. ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
ภายในจะได้เคาน์เตอร์ครัวบิวท์อิน L-Shape เข้ามุมมาตามนี้ ส่วน Spec หน้าบาน, ซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า และ เครื่องดูดควันได้มาเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ทั้งหมดค่ะ
ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตลายหินสีขาว มีอ่างล้างจานสแตนเลส 1 หลุม พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้เรียบร้อย ผนังครัวทำ Backsplash กระจก และติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ด้วย 2 จุด
อ่างล้างจานสแตนเลสแบบฝังหลุมเดียว ไม่มีที่พักจานด้านข้าง ก็อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานสะดวก
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele
ด้านบนจะได้ที่วางไมโครเวฟ, ชั้นวางของ และตู้เก็บของบานเปิดตามนี้
ส่วนด้านล่างก็จะมีตู้เก็บของ พร้อมชั้นลอยต่าง ๆ และมีลิ้นชัก พร้อมถาดใส่ช้อน-ส้อมมาให้ครบเซ็ต
ออกจากห้องครัวมาแล้ว เราจะพาเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ
ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นบาน UPVC สีขาว ลูกบิดกลมกดล็อก พร้อมยกธรณีสูงขึ้นมา ประมาณ 3 ซม. ช่วยกันฝุ่นและความชื้นจากห้องน้ำ และปิดหน้าท็อปด้วยหินเทียมสีขาว ที่ไม่บวมน้ำ และเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีมาก ๆ เลยค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบาย ๆ ไม่อึดอัด พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานห้องน้ำติดไฟดาวน์ไลท์ เหนือโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศมาให้
จากห้องน้ำมีประตูเปิดออกได้ 2 บาน บานนึงเปิดออกไปห้องนั่งเล่น อีกบานเปิดออกไปส่วน Walk-in Closet ติดระเบียง
ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ
อ่างล้างมือและกระจกเงาบานกว้างติดตั้งมาให้ได้ขนาดตามที่เห็น ผนังข้างอ่างล้างมือมีเต้าเสียบปลั๊กไฟ + USB Port พร้อมฝาครอบกันน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush สายฉีดชำระพร้อมที่แขวนทิชชู่สแตนเลส
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจก Temper มีก่อธรณีขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นสแตนเลสรูปตัว U สามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้
พื้นที่อาบน้ำขนาดใหญ่ดี แยกท่อระบายน้ำส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย
ฝักบัวเป็นของ American Standard ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ผนังทำชั้นวางขวดสบู่ แชมพู ครีมนวดผมมาให้ ด้านบนเดินงานระบบไฟฟ้าติด Junction มาให้พร้อมต่อเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลย
เข้าไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ จะมีฉากกั้นห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 บาน วงกบอะลูมิเนียมสีดำกระจกเขียวตัดแสง ข้อดีของประตูเลื่อนแบบ 3 บานคือทำให้มีช่องเปิดประตูที่กว้างขึ้นกว่าแบบ 2 บานนั่นเอง ตัวรางประตูบานเลื่อนเป็นแบบฝังพื้น เดินไม่สะดุดแบบนี้
เข้าไปด้านในจะเจอกับส่วนของห้องนอน และ Walk-in Closet ที่เชื่อมกับระเบียงทางซ้ายมือ
ในห้องนอนวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต มาให้ชิดหน้าต่างฝั่งนึง ห้องจริงเราจะไม่ได้ฟูกที่นอน แต่จะได้เป็นฐานเตียง 5 ฟุต และชั้นวางของข้างเตียงเล็ก ๆ แทน
หน้าต่างโครงการให้มาบานใหญ่กว้างเต็มผนังนะคะ ซึ่งเป็นข้อดีทำให้ตัวห้องรับแสงธรรมชาติได้มาก กระจกบานบนซ้ายเป็นกระจกบานกระทุ้ง สามารถเลื่อนเปิดรับลมและช่วยถ่ายเทบรรยากาศในห้องได้ ที่เหลือเป็นกระจกบานฟิกซ์
ปลายเตียงมีระยะประมาณ 30 ซม. ถ้าจะติดทีวีแนะนำให้แขวนกับผนังดีกว่าวางบนชั้นทีวีปลายเตียงค่ะ เพื่อให้พอมีระยะห่างจากเตียงบ้าง พร้อมติดเครื่องปรับอากาศมาให้ที่ผนังปลายเตียงได้ตามนี้ และมีประตูบานเลื่อนเปิดไปส่วน Walk-in Closet ได้
ผนังปลายเตียงจะเดินงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟ และช่องเสียบสายเคเบิลทีวีมาให้ครบตามนี้เลยค่ะ
ประตูบานเลื่อนเปิดไปส่วน Walk-in Closet เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน
ส่วน Walk-in Closet ทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและช่องเก็บของมาให้ตามนี้เลยนะ
ระยะใช้งานส่วน Walk-in Closet เป็นระยะพอดี ๆ กว้างประมาณ 70 ซม. โดยจะมีประตูบานที่สามารถเปิดออกไประเบียงได้
ประตูตรงระเบียงเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมสีดำ แบบบานเลื่อน 3 ตอน มีธรณีประตูยกขึ้นมาระหว่างระเบียง และ Walk-in Closet ประมาณ 15 ซม. เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง
ระเบียงซักล้างปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. มีพื้นที่เหลือพอที่จะวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือฝาบน ขนาดไม่เกิน 7 กก.ได้ และทีด้านหลังจะเดินงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ท่อน้ำดี และท่อทิ้งมาให้ครบ
ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็กสีเทากันสนิม ความสูงประมาณ 1 เมตร มีระแนงสูงด้านข้างใช้บัง CDU ที่แขวนอยู่ที่ผนัง อีกฝั่งติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง
บรรยากาศภาพรวมภายในห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.00 ตร.ม. ค่ะ
และอีกหนึ่งความว้าวที่จะเกิดขึ้นจากโครงการภายใต้แบรนด์ The Origin คือบริการสุดแสนวิเศษ ที่เกิดจากความเข้าใจ ในตัว GEN Z อย่างแท้จริง ที่ออริจิ้นต้องการตอบสนองให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยให้ชีวิตมนุษย์คอนโด ‘ง่ายขึ้น’ แน่นอนว่า เราจะพบในโครงการ The Origin สุขุมวิท 105 ด้วยเช่นกัน
Servicw Excellence บริการสุดว้าว ที่เกิดจาก “ความเข้าใจ”
Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application ตอบโจทย์ความ ’เข้าใจ’ ในการจัดสรรเวลาที่มีค่าของคุณ เพื่อให้คุณสามารถจัดสรรเวลาดีๆ ที่มีค่า ไปตามหา Passion ไปใช้ชีวิตในแบบของคุณ
Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อม ช่างล้างแอร์ ช่างไฟ ตอบโจทย์ความเข้าใจในความต้องการให้คุณไม่ต้องมากังวลกับงานช่างที่ไม่ได้ถนัดอีกต่อไป
Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่ม ผ่าน Machine ภายในโครงการ ให้ทุกมื้อที่คุณต้องการ สามารถสั่งผ่านปลายนิ้วได้ในพริบตา
Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application ลดเวลาความวุ่นวายที่ต้องเจอในทุก ๆ เดือน
ราคา (ก.ค.64)
โปรโมชัน ก.ค.64
รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บ.* พร้อมรับสิทธิพิเศษ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3wCu5sG
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม**
บทสรุปโครงการ
ทำเลโครงการ : The Origin สุขุมวิท 105 คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 หรือถนนลาซาล ใกล้จุดขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 6-8 นาที*เนื่องจากถนนลาซาล เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิทและศรีนครินทร์ จึงเป็นซอยที่ค่อนข้างจะคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์ มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับ Demand ที่อยู่อาศัยที่ยังเกาะเส้นรถไฟฟ้า และจุดขึ้น-ลงทางด่วน และมีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก
ในอนาคตจะมีโครงการเปิดใหม่ อาทิ Bangkok Mall และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ก.ค.2565 ทำให้โครงการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นบนทำเลนี้ เป็นที่จับตามอง ของลูกค้า พนง.ออฟฟิศ ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย เดินทางสะดวก เข้าเมืองได้ง่าย รวมถึง นักลงทุน ที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ ต่อยอดในอนาคต
ภายในซอยมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่ตลอด 24 ชม. ตรงข้ามกับโครงการเองก็จะมีตลาดสดลาซาล และดาดฟ้า ลาซาล ที่เป็น Community Mall ขนาดใหญ่ มีของกิน ของใช้เปิดขายครบมาก ๆ ใกล้ ๆ ก็มีห้างใหญ่อย่าง Central บางนา, Hypermarket อย่าง Big C รวมถึงพวก Community Mall และห้างอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง สามารถเดินทางไปได้ไม่ยาก
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ทำได้สะดวกสบายค่ะ ขับรถออกไป 2 กม. ถึงถนนสุขุมวิทแล้ว ซึ่งสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง จากถนนลาซาล จะเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ได้ด้วย ซึ่งใช้วิ่งเข้าเมือง-ออกเมืองได้อีกเส้น ภายในถนนลาซาลเอง ก็จะมีซอยย่อย ๆ ที่สามารถใช้เชื่อมไปยังถนนแบริ่งได้ อย่างเช่นซอยลาซาล 24 และซอยลาซาล 23 และ 55 ที่เชื่อมกับเส้นบางนา-ตราด
ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา-ตราด แล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง ก็จะเจอกับ Central บางนา และ จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีทางด่วนให้เลือกใช้ได้อีก 3 สาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที* วิ่งตรงสู่พระราม 4, สาทร, สีลม หรือส่วนอื่น ๆ ในกรุงเทพฯได้เลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : บริเวณหน้าโครงการมีรถสองแถววิ่งผ่าน ตั้งแต่ช่วงตี 5 จนถึง 3 ทุ่ม และ มีวินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่ง เพียง 6-8 นาที* และในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง สถานีศรีลาซาล ให้ได้ใช้งานกันอีกด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : 1 Bedoom และ 1 Bed Plus ออกแบบห้องมาได้ลงตัว อยู่อาศัยแบบคนเดียว และ แบบคู่รักได้สบาย ๆ ส่วนแบบ 2 Bedroom จะเหมาะกับคนที่ชอบห้องกว้าง ๆ หรือคนที่เป็นครอบครัวเริ่มต้น มีลูกเล็ก ๆ ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ พร้อมแอร์ Daikin Inverter ครบทุกห้อง สำหรับราคานี้ก็ถือว่าเลือก Spec วัสดุมาได้ดีเลยค่ะ ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร มาตรฐานคอนโดมิเนียมทั่วไป เพดานติดไฟ Led Panel
พื้นเป็นลามิเนต และห้องน้ำกับระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน สุขภัณฑ์ American Standard มีฉากกั้นห้องน้ำมาให้เรียบร้อย อ่างล้างมือมีที่เก็บของมาให้ พร้อม Digital Door Lock และระบบ Smart Home Automation ติดตั้งมาให้ทุกห้อง
สิ่งอำนวยความสะดวก : มีมาให้อย่างครบครันและออกแบบมาได้ทันสมัย ใช้งานได้จริง และออกแบบให้กระจายไว้ตามอาคารต่าง ๆ เพื่อให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวกทั่วถึงกันทั้งหมด และในช่วงสถานการณ์ปกติจะเปิดใช้งานตลอด 24 ชม. อีกด้วย โดย Facilities จะประกอบไปด้วย Lobby, Amphitheater, Fitness ขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6 x 40 ม. พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระ
มี 24hr. Co-Working Space, Co-Kitchen Space, Private Dining Space, Garden, Jogging Track, ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น อาคารละ 2 ตัว, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 020-300-000
Website : https://www.origin.co.th/condominium/the-origin-sukhumvit-105
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
The Politan Aqua คอนโดพร้อมอยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
The Origin สุขุมวิท 105 ใกล้ BTS แบริ่ง เริ่ม 1.69 ล้าน*
Supalai Veranda รัตนาธิเบศร์ ใกล้ MRT บางกระสอ และ MRT แยกนนทบุรี
เสนาคิทท์ เวสต์เกต-บางบัวทอง 1 เริ่ม 799,000.
The Room สุขุมวิท 38 ใกล้ BTS ทองหล่อ เริ่ม 8.9 ล้าน*
The Excel ลาดพร้าว-สุทธิสาร ใกล้ MRT สุทธิสาร เริ่ม 1.79 ล้าน*
ANIL Sathorn 12 ติด BTS เซนต์หลุยส์
แสดงความคิดเห็น