EP.418 รีวิว คอนโด นิช โมโน แจ้งวัฒนะ Niche Mono Chaengwattana
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ จาก Sena x Hankyu กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ติด ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพียง 120 เมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เดินทางสะดวก ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ทั้ง Makro แจ้งวัฒนะ, Central แจ้งวัฒนะ และอยู่ใกล้ศูนย์ราชการฯ อีกด้วย
นิช โมโน แจ้งวัฒนะ เป็นคอนโด High Rise สูง 35 ชั้น มี 1 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 3 – 3 – 03 ไร่ จำนวน 921 ยูนิต มีห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 28.00 – 53.00 ตร.ม. กับคอนเซปต์ Recharge Your Digital Life ภายใต้แนวคิดที่ละเอียดละออแบบผู้หญิง “Made from Her” ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย ผ่าน “ขบวนการ Geo Fit+” ที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยมาทดลองปรับปรุงจนใช้งานได้จริงในโครงการ โครงการขายห้องแบบ Fully Furnished พร้อมระบบ Home Automation ผ่าน Sena 360 Application ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2565 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน รองรับทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ Grand Lobby, Co – working Space, Mini Bar, Co – meeting Room, Digital Theater, First Aid Room, Vending Machine, Washing Machine Area, EV Charger, Playground & Kid Zone, Garden, Outdoor Terrace, Mail Box, Smart Locker, Fitness
Upbeat Active Pool, Kid Pool, Chilling Area, Sky Jogging Track, Sky Yoga Area, BBQ Zone, Co – party, Sunset Terrace, Star Terrace, Seating Area, Stretching Area, Solar Roof, Passenger Lift, Visitor Parking, Lady Parking & Dropping Area, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้นเบาๆ ที่ 1.89 ล้านบาท
เชิญเลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดของโครงการกันเลยดีกว่าค่า
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.sena.co.th/
ชื่อโครงการ | นิช โมโน แจ้งวัฒนะ Niche Mono Chaengwattana |
เจ้าของโครงการ | เสนา ฮันคิว / Sena x Hankyu |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3 – 3 – 03 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 35 ชั้น |
จำนวนห้อง | 921 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | โดยประมาณ 438 คัน หรือ คิดเป็น 47.6% รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | แจ้งวัฒนะ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนน แจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างเดือนมิถุนายน 2563 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน มิถุนายน 2565 |
ราคา | เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* พิเศษเฉพาะช่วง VVIP Price |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | รอข้อมูลจากทางโครงการ |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Niche MONO แจ้งวัฒนะ คอนโดใหม่จาก Sena x Hankyu บนทำเลศักยภาพ 2 นาที จากสถานีศรีรัช | 3 นาที จากศูนย์ราชการ ส่วนกลางจัดเต็ม 3 ชั้น พร้อมระบบ Home Automation |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนน แจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120
พิกัด : 13.898434, 100.546065
แผนที่จากทางโครงการ โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ เพียง 120 เมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เดินทางสะดวก ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ทั้ง Makro แจ้งวัฒนะ, Central แจ้งวัฒนะ และอยู่ใกล้ศูนย์ราชการฯ อีกด้วย
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็นคอนโด High Rise จาก Sena x Hankyu ที่ออกมาปักหมุดลง New Epicenter ในย่านแจ้งวัฒนะ โดยตัวโครงตั้งอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ถ้านึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน ให้หาทางเข้าเมืองทองธานีค่ะ ตัวโครงการจะอยู่เลยไปนิดเดียวเท่านั้น
ซึ่งจุดที่ตัวโครงการตั้งอยู่นั้น ยังเป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้าและอยู่ใกล้ทางด่วน เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุด โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เพียง 120 เมตรจากหน้าโครงการ ถึงทางขึ้น – ลงสถานีเลยค่ะ อีกทั้งอยู่ใกล้แหล่งงานและสาธารณูปโภคอย่างครบวงจร ตามแบบแจ้งวัฒนะสไตล์ ทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, ศูนย์ราชการฯ, สนามบินดอนเมือง รวมถึง เมืองทองธานี ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญของย่านแจ้งเลยก็ว่าได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางหลักๆ แน่นอนว่าต้องใช้ถนนแจ้งวัฒนะค่ะ จากถนนเส้นนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักเส้นอื่นๆ ได้ง่าย สะดวกทั้งขาเข้าเมืองและออกเมือง ไม่ว่าจะเป็น ถนนพหลโยธิน วิ่งไปทางจตุจักร และตรงเข้าสู่อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ไม่ยาก และเป็นทางหลักที่ใช้วิ่งไปรังสิต – อยุธยา ถนนวิภาวดี – รังสิต ที่วิ่งคู่ขนานกับเส้นพหลโยธิน แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่า เพราะไม่มีแยกไฟแดง อีกทั้งสามารถเลือกใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปเชื่อมกับทางด่วนสายอื่นๆได้
ถนนติวานนท์ เป็นเส้นที่ใช้วิ่งลงไปทางงามวงศ์วาน เชื่อมกับถนนนครอินทร์ผ่านช่วงเอสพลานาดและพันธุ์ทิพย์พลาซ่าพอดี ถนนรามอินทรา ใช้วิ่งตรงไปถึงมีนบุรี หรือเลี้ยวเข้าถนนนวมินทร์ ตรงแยกนวมินทร์ – กม.8 ลงไปถึง บางกะปิ – ถนนรามคำแหงเลยค่ะ และจากโครงการวิ่งผ่านแยกปากเกร็ดเข้า ถนนชัยพฤกษ์ ไปทางบางบัวทองก็สะดวก
มีอีกหนึ่งตัวช่วยในการเดินทาง นั่นก็คือ ทางพิเศษศรีรัช ที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากๆ เพื่อหลบเลี่ยงการจราจรชั้นล่าง สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัช วิ่งไปลงแถบพระราม 9 ได้ในเวลาราวๆ ครึ่งชม. ค่ะ
ทางด่วน เรามาดูจุดขึ้นทางด่วนกันค่ะ อย่างที่บอกว่าตัวโครงการอยู่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัชมากๆ จากหน้าโครงการไปกลับรถเพียง 1.8 กม. ถึงทางแยกยกระดับขึ้นทางด่วน พอเลี้ยวซ้ายวิ่งขึ้นไปบนทางด่วนจะวิ่งไปพระราม 9แต่ถ้าจะวิ่งขึ้นไปทางปทุมธานี พอเข้าทางแยกซ้ายจากถนนแจ้งวัฒนะแล้ว ให้วิ่งออกทางขวาค่ะ
และขากลับเข้ามาที่โครงการก็สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัชมาลงแถวๆ ทางเข้าเมืองทองธานี
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ทาวด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยไปกลับรถที่ถนนวิภาวดี – รังสิต ได้อีก 1 ช่องทางค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการจะมีทั้ง รถเมล์, รถตู้สายต่างๆ รวมถึง วินมอเตอร์ไซค์ และ แท็กซี่ วิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา สามารถเรียกรถได้สะดวกมาก เพราะบริเวณด้านหน้าโครงการจะมีป้ายรถเมล์ด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่ออำนวยความสะดวกได้ค่ะ อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เพียง 120 เมตร ถึงทางขึ้นสถานีเลย ถือว่าสะดวกมากสำหรับคนที่ต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นหลัก โดยรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านหน้าโครงการก็คือช่วง แคราย – มีนบุรี ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 4 สาย ด้วยกันก็คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (ใกล้กับแยกแคราย), รถไฟฟ้าสายสีแดง ที่ สถานีหลักสี่ (ถนนวิภาวดี – รังสิต), รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ที่ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (บริเวณวงเวียนหลักสี่) และเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ สถานีมีนบุรี (ใกล้แยกรามคำแหง – ร่มเกล้า)
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากจะเป็นย่านที่สามารถเดินทางได้สะดวกแล้ว ย่านแจ้งวัฒนะยังอยู่ใกล้แหล่งงาน ที่มีสาธารณูปโภครองรับอย่างครบครันอีกด้วย จุดที่ใกล้ที่สุดก็คือ Makro แจ้งวัฒนะค่ะ เพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับตัวโครงการเลย ทางเข้า Makro ก็คือปั๊ม Shell เดินตรงเข้าไปก็ถึงตัวห้างแล้ว จะซื้อของเข้าบ้าน หรือหาอาหารกินง่ายๆ ใน Food Court และ Chain Restaurants ที่จัดเอาไว้ให้ด้านใน แต่จากตัวโครงการเลยไปเพียง 1 สถานี ก็จะถึง Central แจ้งวัฒนะ แล้ว และที่ฝั่งเดียวกันกับตัวโครงการแถวแยกคลองประปาก็จะมี Tesco Lotus, The Avenue ที่เป็น Community Mall ภายในมีโรงหนังของ Major ด้วย และ Big C ถ้าเป็นคนชอบเดินก็พอเดินไปได้อยู่นะ ราวๆ 1 กม. เท่านั้นเอง
(ที่มาภาพ : https://www.wongnai.com, http://www.siamfuture.com, https://www.prachachat.net)
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้อีกจุดนึงก็จะอยู่ที่ เมืองทองธานี เพราะภายในมีทั้ง ศูนย์แสดงสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, โรงแรม,โครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น Outlet, ตลาดเมืองทอง, ศูนย์อาหาร, Impact Arena และ Community Mall อย่าง Bee Hive ค่ะ อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, ศูนย์ TOT, IT Square และสนามบินนานาชาติดอนเมือง อีกด้วย นับว่าสะดวกสบายพอตัวค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.รามอินทรา > วงเวียนหลักสี่ > ถ.แจ้งวัฒนะ > แยกหลักสี่ > แยกคลองประปา > กลับรถ > โครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ
การเดินทางเราเริ่มต้นที่ถนนรามอินทรา ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางหลักสี่ เราจะผ่านศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก โดยมุ่งหน้าไปป้ายสีเขียวที่เขียนว่าปากเกร็ดค่ะ
ให้เราวิ่งชิดขวาเพื่อวิ่งขึ้นสะพานข้ามวงเวียนหลักสี่ ตามป้ายปากเกร็ดไป
วิ่งลงมาจากสะพานลงที่ถนนแจ้งวัฒนะ ทางฝั่งขวามือเราจะผ่าน Max Value หลักสี่
คราวนี้ให้เราวิ่งชิดขวา เพื่อวิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกหลักสี่ค่ะ เราจะเห็นตึก IT Square อยู่ไกลๆ ทางฝั่งขวามือ
พอลงมาจากสะพานข้ามแยกแล้ว ฝั่งซ้ายมือเราจะผ่านศูนย์ TOT
ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ ให้เราวิ่งไปตามป้ายปากเกร็ดค่ะ
ให้เรายังคงมุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด ฝั่งขวามือเราจะเห็น Big C แจ้งวัฒนะ
ให้เราชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแยกคลองประปาค่ะ ฝั่งขวามือเราจะเห็น Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ และ The Avenue
พอลงมาจากสะพานแล้ว เราจะเห็นป้าย Makro อยู่ฝั่งซ้ายมือ
ยังคงให้เรามุ่งหน้าไปทางปากเกร็ด แต่พอเราขับลอดใต้ทางพิเศษศรีรัชไปแล้ว ให้เราชิดซ้ายเพื่อกลับรถนะ
ข้างหน้าของเราทางฝั่งขวามือจะเป็นสะพานยกระดับไปทางสะพานพระราม 4 ให้เราชิดซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพานค่ะ
กลับรถตรงจุดกลับรถใต้สะพานแล้ววิ่งต่อบนถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้าเมือง
เราจะวิ่งผ่านทางเข้าเมืองทองธานีค่ะ ซึ่งจุดนี้จะใกล้กับตัวโครงการแล้วในอีก 200 เมตร ให้เราชิดซ้ายได้เลย
จากทางเข้าเมืองทองธานีมา 200 เมตร เราก็จะถึงโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ แล้วค่ะ
ปัจจุบันด้านหน้าโครงการถูกสร้างเป็นสำนักงานขาย ตำแหน่งจะอยู่ติดกับป้ายรถเมล์และสะพานลอยพอดีค่ะ
ภายในสำนักงานขายจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการและพาชมห้องตัวอย่าง ลูกค้าทุกท่านสามารถ Walk – in เข้าไปติดต่อได้ทุกวันเลยค่ะ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00น.
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ซึ่งจะอยู่ติดกับ Showroom ของ Isuzu พอดี เลียบ 2 ข้างเส้นแจ้งวัฒนะก็จะมีทั้ง อาคารพาณิชย์, โชว์รูมรถยนต์ และ คอนโดมิเนียม ยังพอมีที่ดินเปล่าหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็มีเหลือไม่เยอะแล้ว จากถนนใหญ่เข้าไปในซอย จะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของคนในละแวกนี้ มีทั้งหอพักและอะพาร์ตเมนต์อยู่ปะปนกันไปค่ะ
ตอนนี้เรามาอยู่กันที่บริเวณหน้าโครงการกันแล้ว เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจทำเลในละแวกนี้กันว่ามีบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากที่หน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่แจ้งวัฒนะเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์ มีทั้งร้านค้า, ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7 – Eleven และร้านอาหาร ทั้งร้านเชฟคลิ้นท์ เป็นร้านสเต็กรสชาติดีในบรรยากาศสบายๆ และร้านแจ่วชาบู กลิ่นหอมๆ ราคาก็สบายกระเป๋า
ซึ่งเราสามารถเดินข้ามสะพานลอยไปได้สะดวกเลยค่ะ ตำแหน่งสะพานลอยจะอยู่หน้าโครงการ ข้างๆ กับป้ายรถเมล์เลย
ป้ายรถเมล์หน้าโครงการค่ะ สะดวกมากสำหรับคนที่เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการด้วยรถประจำทาง
เดี๋ยวเราจะเดินมุ่งหน้าไปทางแยกปากเกร็ดกันก่อนนะคะ
พื้นที่ติดกับตัวโครงการทางฝั่งซ้ายคือโชว์รูมของ Isuzu ค่ะ
ถัดมายังคงมีผืนที่ดินเปล่าหลงเหลืออยู่นะ
เรามองไปที่ฝั่งตรงข้ามของถนนจะเห็นจุดขึ้นทางด่วนค่ะ จากตัวโครงการให้เราไปกลับรถมา ระยะทางประมาณ 1.8 กม. เท่านั้น
เราเดินไปอีกหน่อยจะเจอคอนโดเพื่อนบ้านข้างเคียงที่ขึ้นมาก่อนนานแล้ว
เดินจากตัวโครงการมาเพียง 200 เมตรก็จะถึงทางเข้าเมืองทองธานีแล้วค่ะ
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ คราวนี้เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางหลักสี่กันบ้าง
ติดกับตัวโครงการจะเป็นผืนที่ดินส่วนบุคคลค่ะ
เราเดินไปไม่ไกลก็จะเจอสำนักเครื่องกลและสื่อสาร กรมทางหลวง
และเรามองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็คือ Makro แจ้งวัฒนะนั่นเอง
:::: ตัวโครงการ ::::
Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็น High Rise Condominium ที่ออกแบบภายใต้แนวคิดที่ละเอียดละออแบบผู้หญิง “Made from Her” ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย มาพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนให้มากที่สุด ประกอบด้วยด้วย 4 หัวใจหลัก
ผ่าน “ขบวนการ Geo Fit+” ที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยมาทดลองปรับปรุงจนใช้งานได้จริงในโครงการ โดยสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยใน 4 ด้านคือ Geo Fit+ Days คุณภาพได้มาตรฐาน, Geo Fit+ Eco ใส่ใจสิ่งแวดล้อม, Geo Fit+ Stage ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัย และ Geo Fit+ Sonae เตรียมพร้อมฉุกเฉินป้องกันภัยธรรมชาติ
ทั้งหมดเกิดจากความใส่ใจของทาง SENA ที่ได้จับมือร่วมกับ Hankyu Realty ออกมาเป็นโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ เป็นอาคาร High Rise สูง 35 ชั้น มี 1 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 3 – 3 – 03 ไร่ จำนวน 921 ยูนิต มีห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 28.00 – 53.00 ตร.ม. ตกแบบ Fully Furnished พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกถึง 3 ชั้น
ประกอบด้วย Grand Lobby, Co – working Space, Mini Bar, Co – meeting Room, Digital Theater, First Aid Room, Vending Machine, Washing Machine Area, EV Charger, Playground & Kid Zone, Garden, Outdoor Terrace, Mail Box, Smart Locker, Fitness
Upbeat Active Pool, Kid Pool, Chilling Area, Sky Jogging Track, Sky Yoga Area, BBQ Zone, Co – party, Sunset Terrace, Star Terrace, Seating Area, Stretching Area, Solar Roof, Passenger Lift, Visitor Parking, Lady Parking & Dropping Area, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
กับคอนเซปต์ Recharge Your Digital Life ให้ชีวิตง่ายและสะดวกกว่าที่เคย ด้วยระบบ Home Automation ผ่าน Sena 360 Application เพียงปลายนิ้วสัมผัสบน Smart Phone, Digital Door Lock, Fiber Optic ในทุกห้องพักอาศัย, QR Code Entry เพิ่มความปลอดภัยสำหรับเข้า – ออกโครงการ, Hi – speed Wifi ในทุกพื้นที่ส่วนกลาง และ Smart Locker ที่เก็บของได้ปลอดภัย สะดวกต่อการใช้งาน
เรามาดูผังโครงการรวมกันค่ะ ทางเข้า – ออกหลักของตัวโครงการจะอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ โดยจุดนี้จะมีทั้ง Guard House เป็นป้อม รปภ. พร้อมกล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก การเข้า – ออกจะใช้ระบบ Key Card Access และ QR Code สำหรับ Visitor เพื่อผ่านเข้าไปด้านในโครงการ ซึ่งบริเวณด้านข้างของถนนทางเข้าก็จะมีทางเท้าแยกเอาไว้ ให้คนที่เดินเท้าเข้าโครงการสามารถเดินได้อย่างปลอดภัยค่ะ
พอเข้ามาถึงด้านในโครงการก็จะมีจุด Drop – off สำหรับดรอปลูกบ้านลงที่หน้า Lobby และมีทางวนไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถตามเส้นการสัญจรสีส้มเลย จะเป็นการเดินรถตามเข็มนาฬิกาแบบ One Way นะ
และสังเกตว่าบริเวณด้านหน้าโครงการในตำแหน่งเดียวกับสำนักงานขาย จะถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกลูกบ้านค่ะ
ภาพจากโมเดลเห็นทางเข้าโครงการจากถนนแจ้งวัฒนะวิ่งตรงเข้ามาถึงจุด Drop – off และเราก็จะเห็นว่าจากหน้าโครงการสามารถเดินไปถึงทางขึ้นสถานีศรีรัชเพียง 120 เมตรเท่านั้น
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเข้า – ออกของโครงการ ด้านข้างในตำแหน่งเดียวกับสำนักงานขายจะกลายเป็นร้านค้าค่ะ แต่ตรงนี้ยังไม่ทราบว่าทางโครงการจะเลือกของแบรนด์ไหนมาลงนะคะ
ชั้น 1 จากจุด Drop – off จะเข้าสู่ตัวอาคารหรือ Grand Lobby เป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co – working Space เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือ โดยจะมี Mini Bar พร้อม Vending Machine ให้ใช้บริการเวลาอยากดื่มกาแฟหรืออะไรเย็นๆ อีกทั้งยังมี Co – meeting Room สำหรับการใช้นั่งคุยงานแบบส่วนตัวหน่อย และมีห้อง Digital Theater ให้ลูกบ้านสามารถใช้บริการดูหนังหรือซีรี่ส์แบบจอใหญ่ๆ เหมือนโรงหนังส่วนตัวได้
จากพื้นที่โถงใหญ่นี้ก็จะเชื่อมต่อกับ Mail Room โดยบริเวณเดียวกันจะมี Smart Locker ให้ใช้บริการ และเข้าสู่โถงลิฟต์ด้วยระบบ Key Card Access และ QR Code เพื่อขึ้นสู่ชั้นจอดรถและชั้นพักอาศัยค่ะ ภายในโถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟต์ระบบล็อคชั้น คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ต่อจำนวนยูนิตพักอาศัยอยู่ที่ 230 : 1 ถือว่าเป็น Traffic การใช้ลิฟต์ค่อนข้างสูง อาจจะต้องยืนรอลิฟต์บ้างในช่วง Rush Hour
และจากโถงลิฟต์จะมีประตูเชื่อมออกไปที่บริเวณ Laundry และที่จอดรถด้านหลังอาคารด้วย ซึ่งที่จอดรถโดยรอบอาคารส่วนใหญ่จะถูกล็อคให้เป็น Lady Parking สำหรับลูกบ้านผู้หญิงที่ต้องกลับบ้านดึก เป็นจุดจอดรถที่ไม่เปลี่ยวสามารถเดินเข้าตัวอาคารได้ง่ายโดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วง 4 ทุ่มเป็นต้นไปค่ะ
นอกจากนี้พื้นที่ภายนอกอาคารก็ยังมี Garden เป็นสวนพักผ่อนสำหรับลูกบ้าน และมี Playground & Kid Zone เป็นสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ อีกด้วย
ภาพจากโมเดลเข้ามาที่จุด Drop – off เพื่อเข้าสู่ตัวอาคาร ภายนอกอาคารด้านหน้าจะมีสวนพักผ่อนและสนามเด็กเล่น ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอีกจุดจะอยู่ที่ชั้น 7 ค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Grand Lobby เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co – working Space และ Mini Bar โดยมี Vending Machine ให้บริการเครื่องดื่มเย็นๆ ออกแบบให้ดูสว่างและโปร่งโล่งด้วยพื้นและผนังโทนสีสว่าง บวกกับฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง และผนังกระจกโดยรอบ ตกแต่งผนังบางส่วนด้วยลายไม้และต้นไม้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและดูเป็นธรรมชาติ ภายในจัดวางทั้งชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนขนาดใหญ่ รวมถึงชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือหลายมุมเลยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Digital Theater เป็นโรงหนังส่วนตัวภายในโครงการ ให้ลูกบ้านสามารถเพลิดเพลินไปกับหนังและซีรี่ส์ดังจากทีมนิติบุคคล
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Playground & Kid Zone เป็นมุมสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นเด็ก ออกแบบมาให้มีสีสันสดใส เหมาะสำหรับการเรียนรู้และการเข้าสังคมของเด็กเล็ก
ชั้น 2 – 6 จะเป็นชั้นจอดรถ รวมทั้งโครงการมีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 438 คัน หรือ คิดเป็น 47.6% รวมจอดซ้อนคัน โดยจะสามารถเข้าสู่โถงลิฟต์ด้วยระบบ Access Card เพื่อลงสู่ชั้น Lobby หรือขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยค่ะ
ชั้น 7 ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยค่ะ แต่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ชั้นนี้จะเป็น Facilities อีก 2 รายการ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Outdoor นั่นก็คือ Upbeat Swimming Pool เป็นสระว่ายขนาดใหญ่ระบบเกลือ โดยจะมี Kid Pool แยกเอาไว้ให้ด้านข้าง พร้อม Chilling Area โดยรอบสระ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นพื้นที่ Indoor ก็คือ Fitness ที่มีพื้นที่สำหรับการออกกำลังกายถึง 200 ตร.ม. เลยทีเดียว
ส่วนพื้นที่ของห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีประตู Key Card ให้อีกชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยจะเป็น Tower ทรง L Shape แบบ Double Corridor มีช่องแสงให้ทั้ง 3 ฝั่ง ในชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ห้อง/ชั้นค่ะ จะเป็นห้อง 2 Bedroom อยู่ที่ 3 มุมของอาคาร ส่วนที่เหลือจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Upbeat Swimming Pool ขนาดใหญ่ สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบายๆ มี Pool Bed ให้ในส่วนที่เป็นจุด Shallow Pool และมีพื้นที่ Chilling Area สำหรับนั่งพักผ่อนโดยรอบสระ
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Fitness ที่มีขนาดถึง 200 ตร.ม. ภายในออกแบบให้ดูสว่าง โปร่งโล่ง และดู Active เพื่อเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio และ Weight Training โดยทางฝั่งของ Cardio จะอยู่ติดกับผนังกระจก ได้รับวิวเมืองและวิวจากสระว่ายน้ำค่ะ
ชั้น 8 – 35 ตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปจะเป็นพื้นที่ของห้องพักอาศัยแบบ Typical Floor Plan ทั้งหมดค่ะ โดยพื้นที่ในส่วนของ Upbeat Swimming Pool จะถูกเฉือนออกไป และพื้นที่ของ Fitness ก็จะกลายเป็นห้องพักอาศัยแทน รวมแล้วชั้นนี้มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 32 ห้อง/ชั้น
Rooftop บนชั้นดาดฟ้าของอาคารจะเป็นจุดที่เป็น Sky Garden Facilities ให้แบบจัดเต็มทั้งชั้นค่ะ ประกอบด้วย Sky Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกาย, Sky Yoga Area เพื่อการเล่นโยคะ เต้นแอโรบิค หรือกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ, BBQ Zone & Co – party สำหรับปิ้งย่างสนุกๆ ระหว่างเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว, Sunset Terrace พื้นที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินในฝั่งทิศตะวันตก, Star Terrace พื้นที่นั่งชมดาวในยามค่ำคืน, Seating Area พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนชมวิว, Stretching Area พื้นที่สำหรับยืดกล้ามเนื้อทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย และ Solar Roof เป็นพื้นที่ที่ทางโครงการติดตั้งแผง Solar Cell เพื่อนำไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้ในส่วนกลางของโครงการ
ภาพจากโมเดลบนชั้นดาดฟ้าของโครงการเห็นภาพรวมทั้งหมด
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ BBQ Zone & Co – party สำหรับปิ้งย่างสนุกๆ ระหว่างเพื่อนฝูงและคนในครอบครัว
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Star Terrace ให้นั่งชมวิวเมืองและท้องฟ้าในยามกลางคืน
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือ
ห้องออกแบบมาด้วยแนวคิด Made From Her การออกแบบใช้ความละเอียดอ่อนของผู้หญิงเป็นที่ตั้งทำให้ได้รายละเอียดของฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สามารถตอบรับความต้องการของลูกบ้านได้ทุกเพศ ซึ่งได้ผ่าน ขบวนการ Geo Fit+ ที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยมาทดลองปรับปรุงจนใช้งานได้จริงในโครงการ โดยตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์แบบพิเศษมาครบ สะดวกต่อการใช้งาน สามารถปรับรูปแบบการใช้งานได้ตามความเหมาะสม ช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องให้ดูกว้างขึ้นมาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type, Digital Door Lock, Fiber Optic และระบบ Home Automation มาในทุกห้องเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.0 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.0 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 53.0 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 53.00 ตร.ม. ไปชมรายละเอียดของห้องกันเลยค่ะ
::: ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน มีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง Living Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเจอ Living Area ก่อน, ถัดเข้าไปคือห้องนอน ส่วนฝั่งขวามือของห้องคือโซนห้องน้ำและห้องครัวซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดี อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโฟา – ชั้นวางทีวี+ตู้เก็บของ, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock มือจับแบบก้านโยก
เข้าไปภายในห้องจะเจอส่วน Living Area ก่อนและด้านในที่กั้นประตูบานเลื่อนกระจกเอาไว้คือห้องนอน ห้องทางฝั่งขวาคือห้องครัวและห้องน้ำ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย ผนังภายในห้องฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในห้องสูงถึง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Living Area 1 ตัวและภายในห้องนอนอีก 1 ตัว
เราเข้ามาดูรายละเอียดและเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้กันในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ
ในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งซึ่งกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องค่ะ โดยทางโครงการออกแบบโซฟาให้มีพนักวางแขนเพียงฝั่งเดียว เพื่อให้สามารถใช้นอนเล่นยืดขาได้
ตรงพนักวางแขนของโซฟาสามารถเปิด – ปิดได้ ใส่พวกของจุกจิกอย่างพวกกล่องกระดาษทิชชู่ได้ สามารถหยิบใช้งานได้สะดวกแถมยังดูเรียบร้อยอีกด้วย
ที่ฝั่งตรงข้ามเราจะได้ทั้งตู้เก็บของและชั้นวางทีวีมาทั้ง 2 ตัวเลยค่ะ
หน้าบานตู้เก็บรองเท้าส่วนนึงปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ อีกส่วนปิดด้วยกระจกเงา ภายในมีทั้งชั้นวางรองเท้า, ช่องเก็บของอย่างพวกเครื่องดูดฝุ่นหรืออุปกรณ์ทำความสะอาด และชั้นวางของจุกจิก ฝั่งที่ปิดผิดด้วยลามิเนตลายไม้จะเฉือนปลาย 45 องศาสามารถจับเปิดบานได้สะดวก บานเปิดทุกบานของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาทั้งหมดจะเป็นแบบ Soft Closed ด้วยนะคะ
และยังมีดีเทลเป็นตะขอสำหรับแขวนร่มให้ด้วยนะคะ
ชั้นวางทีวีใช้หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตเช่นกัน มีช่องเก็บของและลิ้นชักให้แบบนี้ ถ้าเราเลือกใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็จะทำให้เราได้พื้นที่วางของบนชั้นเพิ่มด้วย
ดูระยะดูทีวีค่ะ ช่วงประมาณนี้จะเหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 42 นิ้วนะคะ
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นเข้าไปก็คือส่วนรับประทานอาหารค่ะ
เราจะได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งพร้อมกับเก้าอี้อีก 2 ตัว สามารถวางเข้ามุมได้พอดีแบบนี้เลย
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อซึ่งจะกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ใช้กรอบอลูมิเนียมติดกระจกใส
เข้ามาภายในห้องนอนมีพื้นที่กำลังพอดีๆ ขนาดอยู่สบายไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ภายในห้องนอนเราจะได้ตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาด้วยตามภาพเลยค่ะ
เราจะเห็นว่าภายในห้องนอนจะสว่างมากๆ เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มา มีหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
มาดูรายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ในห้องกันต่อ ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นตู้ขนาดมาตรฐาน บานเปิดฝั่งนึงเป็นบานทึบส่วนอีกบานเป็นกระจกสีชาดำ ภายในมีทั้งราวแขวนเสื้อผ้า, ชั้นเก็บของ และลิ้นชักเก็บพวก Accessories ค่ะ
ที่บานเปิดฝั่งบานทึบจะติดกระเงาบานใหญ่สามารถส่องเช็คความเรียบร้อยได้ทั้งตัว และยังมีราวสำหรับแขวนพวกกระเป๋า หมวก ผ้าพันคอ หรือ Accessories อื่นๆ ที่สามารถดึงออกมาหยิบใช้งานได้ง่าย
ส่วนเตียงนอนที่เราจะได้เป็นเตียงขนาด 5 ฟุตเลยค่ะ ทางโครงการจะให้มาเฉพาะฐานเตียงส่วนฟูกและเครื่องนอนเราจะต้องเป็นคนซื้อเข้ามาเองนะ พื้นที่ข้างเตียงก็ยังเหลือสามารถวางโต๊ะข้างได้ 1 ตัวค่ะ
ที่ฐานเตียงก็ยังมีลิ้นชักให้เราสามารถใช้เก็บพวกผ้าปูเตียงแยกต่างหากได้อีกด้วย
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือพอเป็นทางเดินให้พอเดินผ่านได้ ตรงนี้ถ้าใครที่ชอบดูทีวีตอนก่อนนอนก็สามารถติดทีวีแบบแขวนผนังเพิ่มเติมเอาได้ค่ะ
จากส่วน Living Area จะเชื่อมต่อกับโถงหน้าโซนห้องน้ำและห้องครัวที่อยู่ฝั่งปีกขวาของห้อง ตรงนี้ยังเหลือพื้นที่ให้เราสามารถเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้เอง ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บผ้าที่ใช้แล้วหรือผ้าที่รอรีด, โต๊ะเครื่องแป้ง หรือตู้เก็บของก็ได้ค่ะ
เข้ามาดูห้องน้ำกันก่อนค่ะ ภายในห้องน้ำจะจัดโซนส่วนแห้งไล่เข้าไปยังส่วนเปียกโดยใช้สุขภัณฑ์ของ Kohler และ Englefield ทั้งหมด ส่วนพื้นในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นและผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนอย่างสวยงาม
ระหว่างพื้นภายนอกและพื้นห้องน้ำจะมีธรณีกั้นเอาไว้เพื่อกันน้ำไหลย้อน
ฝ้าเพดานภายในเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้พร้อมพัดลมดูดอากาศ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนังมีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง พร้อมติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ
ด้านหลังอ่างก่อ Lower Wall ให้ยาวไปถึงโถสุขภัณฑ์สามารถวางของใช้ได้เพิ่มเติม และติดกระจกเงามาให้
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered แบบบานเปิดเข้ามาให้เรียบร้อย ข้างๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
มือจับของบานเปิดก็สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กำลังดี
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้ พร้อมกับก่อม้านั่งเข้ามุมเล็กๆ มา ถ้าจะใช้วางขวดสบู่แชมพูแทนก็ได้เลยค่ะ
ขนาดหัวฝักบัวก็มีขนาดใหญ่แล้วนะคะ ที่หัวสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย
เราเข้าไปดูห้องครัวกันต่อค่ะ ห้องครัวจะกั้นส่วนออกไปด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกใสแบบนี้
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
ภายในห้องครัวสามารถวางเคาน์เตอร์ได้ฝั่งนึง จะเหลือพื้นที่ยืนปรุงอาหารประมาณ 80 ซม. ค่ะ
และนี่ก็คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวที่เราจะได้มากับห้องค่ะ ได้มาทั้งอ่างล้างจาน ทั้ง Hob+Hood
เคาน์เตอร์ครัวใช้ท็อปหินสังเคราะห์สีดำหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนต ใต้เคาน์เตอร์มีช่องสำหรับเก็บของและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟได้ และที่บานเปิดด้านในติดชั้นตะแกรงให้เก็บวางพวกสก๊อตไบรท์, ฝอยขัดหม้อ หรือน้ำยาล้างจานได้ด้วย
อ่างล้างจานแบบ 1 หลุมขนาดใช้งานสะดวกของ Franke พร้อมเขียงที่สามารถใช้วางพาดเพื่อเตรียมอาหารตรงอ่างล้างจานได้เลย จะเห็นว่าผนังด้านหลังติดแผ่น Back Splash พร้อมราวแขวนอุปกรณ์การทำครัวมาให้เรียบร้อยแล้ว
เตา Induction ขนาด 2 หัวของ Franke เช่นกันค่ะ
ในตำแหน่งเดียวกันนั้นเองก็ติดตั้งเครื่องดูดควันแบบมีฟิลเตอร์มาให้
ชั้นลอยข้างบนก็มีชั้นสำหรับเก็บของรวมถึงช่องสำหรับคว่ำจาน – ชาม – แก้วน้ำหลังล้างเสร็จให้ด้วย
ช่องเก็บของอีกฝั่งนึงบนจุดที่วางตู้เย็นค่ะ
จากห้องครัวจะอยู่ติดกับส่วนระเบียงค่ะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนเหมือนกัน
พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งระแนงเหล็กให้เป็นราวกันตก สามารถใช้ประโยชน์ได้ในการวางเครื่องซักผ้า, ตากผ้า
และแขวนคอมเพรสเซอร์ได้
::: ห้อง 2 Bedroom ขนาด 53.0 ตร.ม.:::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 3 – 4 คนเลยค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง ห้องครัว, Living Area และห้องนอน พอเข้ามาในห้องจะเป็นครัวปิด เชื่อมสู่ Living Area และทั้งฝั่งซ้ายและขวาคือห้องนอนอีก 2 ห้อง ซึ่งห้องนอน Master Bedroom จะมีห้องน้ำให้ในตัวเลย ส่วนห้องนอนรองจะอยู่ตรงกับห้องน้ำแขก เดินออกมาใกล้มาก เหมือนได้ห้องน้ำส่วนตัวเหมือนกัน นอกจากนี้ภายในห้องนอนทั้ง 2 ห้องยังได้ Walk – in Closet อีกด้วยค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโฟา – ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ+ช่องใส่ตะกร้าผ้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต+Walk – in Closet, ฐานเตียงนอนขนาด 6 ฟุต+Walk – in Closet, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock มือจับแบบก้านโยก
เข้ามาด้านในห้องส่วนแรกจะเป็นห้องครัวค่ะ ซึ่งเราจะได้ครัวแบบปิด กั้นส่วนจาก Living Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนเดิม
ทางฝั่งซ้ายของห้อง เราจะได้พื้นที่สำหรับวางตู้เย็น, เครื่องซักผ้า และชั้นลอยสำหรับเก็บของ
ในส่วนของชั้นลอยจะมีราวแขวนเสื้อผ้าติดมาให้ด้วย ส่วนช่องเก็บของด้านบนก็จะซ่อนตู้ไฟฟ้าเอาไว้เพื่อความเรียบร้อย บานเปิดยังเป็นแบบ Soft – closed และปิดผิวหน้าบานด้วยลามิเนตลายไม้เหมือนเดิมค่ะ
ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ได้มาเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ แต่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
เคาน์เตอร์ครัวใช้ท็อปหินสังเคราะห์สีดำหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนต ใต้เคาน์เตอร์มีช่องสำหรับเก็บของและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟได้ และที่บานเปิดด้านในติดชั้นตะแกรงให้เก็บวางพวกสก๊อตไบรท์, ฝอยขัดหม้อ หรือน้ำยาล้างจานได้ด้วย
อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม พร้อมเขียง, เตา Induction ขนาด 2 หัว และ Hood ดูดควันของ Franke ทั้งหมด จะเห็นว่าผนังด้านหลังติดแผ่น Back Splash พร้อมราวแขวนอุปกรณ์การทำครัวให้พร้อมแล้ว
ชั้นลอยข้างบนก็มีชั้นสำหรับเก็บของรวมถึงช่องสำหรับคว่ำจาน – ชาม – แก้วน้ำหลังล้างเสร็จให้เหมือนเดิม
ออกมาจากห้องครัว มาดูที่ส่วน Living Area กันต่อค่ะ
ทางฝั่งขวามือติดกับห้องครัว เราจะได้ตู้ Built – in สำหรับเก็บรองเท้า, เก็บของ รวมถึงตะกร้าผ้าสำหรับเสื้อผ้าที่ใส่แล้วด้วยค่ะ
มาที่ส่วนรับประทานอาหารเราจะได้ชุดโต๊ะ – เก้าอี้มาแบบ 4 ที่นั่งเลย
ขนาดของโต๊ะกำลังดีกับพื้นที่ห้องเลย จะสังเกตเห็นว่าที่ขอบโต๊ะจะมีตัวขอเหล็กสามารถใช้แขวนพวกกระเป๋าหรือผ้าเช็ดมือได้ค่ะ
ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงพอดี
ซึ่งในห้องนี้เราจะได้โซฟาเบดขนาดใหญ่มาแบบนี้เลยค่ะ ขนาดกำลังพอดีกับพื้นที่ห้อง
พร้อมชั้นวางทีวีที่ฝั่งตรงข้ามแบบเดิม
เราออกไปที่ระเบียงห้องกันต่อค่ะ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน
พื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วพอสมควร สามารถตากผ้าได้สะดวก ใช้วาง Compressor หรือจะนำเก้าอี้ออกมาวางเพื่อนั่งรับลมชมวิวได้
เราเข้าไปดูภายในห้องนอน Master Bedroom กันต่อเลยค่ะ
ขนาดของห้องนอนใหญ่จะกว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ เลย
เราจะเห็นว่าภายในห้องนอนจะสว่างมากๆ เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาทั้งผนังเลย มีหน้าต่างบานฟิกซ์แบบกระจกเข้ามุมและหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
ซึ่งทางโครงการก็จะให้ฐานเตียงนอนขนาด 6 ฟุตมาด้วย ส่วนทั้ง 2 ฝั่งของเตียงนอนก็ยังเหลือพื้นที่ให้เราวางโต๊ะข้างเพิ่มได้
และที่ใต้ฐานเตียงจะมีช่องสำหรับเก็บของให้
รวมถึงลิ้นชักสำหรับเก็บผ้าปูที่นอนเหมือนเดิม
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก และยังสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังเพิ่มได้ด้วยนะ
ทางด้านขวามือของห้องนอนจะเป็นส่วนของ Walk – in Closet กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน และห้องน้ำในตัวค่ะ
ภายใน Walk – in Closet ที่ทางโครงการทำ Built – in มาให้ มีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้าและชั้นเก็บของมากมาย
พื้นที่ยืนแต่งตัวด้านในขนาดประมาณ 0.9 x 0.9 เมตรค่ะ เป็นพื้นที่ขนาดกำลังพอเหมาะไม่แคบจนเกินไป
เราดึงลิ้นชักและราวแขวนออกมาให้ดูค่ะ
ส่วนภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ทั้งการวางผังไล่จากส่วนแห้งเข้าไปยังส่วนเปียก, วัสดุพื้นปูด้วยแกรนิตโต้ ผนังกรุกระเบื้องลายหินอ่อน และสุขภัณฑ์จาก Kohler และ Englefield รุ่นเดิมค่ะ แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะได้หน้าต่างระบายอากาศมาด้วย
อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนังมีขนาดกำลังดี พร้อมติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
โซนอาบน้ำติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้ พร้อมกับก่อม้านั่งเข้ามุม และจะมี Lower Wall เพิ่มขึ้นมาให้สามารถใช้วางพวกขวดสบู่แชมพูได้
ที่พื้นก่อธรณีและติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจก Tempered แบบบานเปิดเข้ามาให้เรียบร้อย
คราวนี้เราจะเข้าไปดูที่ห้องน้ำทางฝั่งซ้ายมือและห้องนอนรองทางฝั่งขวามือกันต่อค่ะ
ภายในห้องน้ำนี้จะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ในทุกประการเลยค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ
เข้ามาภายในห้องนอนรอง มีขนาดเท่ากับห้องนอน Master Bedroom เลยนะคะ แถมยังได้ Walk – in Closet มาด้วย ต่างกันตรงที่ไม่มีห้องน้ำในตัวมาให้ด้วยนั่นเอง
และภายในห้องนอนรอง ทางโครงการจะให้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาแทน ทำให้พื้นที่โดยรอบห้องจะเหลือเยอะกว่าทั้งฝั่งซ้ายและขวา
จนสามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มข้าง Walk – in Closet ได้เลยค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลือพอให้เราสามารถเดินผ่านได้ และยังติดทีวีแบบแขวนผนังได้ด้วย
Walk – in Closet ค่ะ จะได้เหมือนกับห้อง Master Bedroom ทุกประการ
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในห้องจะเป็นของ Schneider Electric ทั้งหมดค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2562) ::::
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก https://www.sena.co.th/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาเข้าเมือง ข้างๆ Showroom ของ Isuzu เป็นทำเลที่เกาะแนวรถไฟฟ้าและอยู่ใกล้ทางด่วน โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เพียง 120 เมตรจากในโครงการอีกทั้งอยู่ใกล้แหล่งงานและสาธารณูปโภคอย่างครบวงจร ทั้ง Central แจ้งวัฒนะ, ศูนย์ราชการฯ, สนามบินดอนเมือง รวมถึง เมืองทองธานี ที่นับว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญของย่านนี้
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินนั้นถือว่าสะดวกเพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะ จากถนนเส้นนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักเส้นอื่นๆ ได้ง่าย สะดวกทั้งขาเข้าเมืองและออกเมือง แต่ต้องยอมรับว่าถนนเส้นนี้เป็นอีกเส้นที่มีการจราจรติดหนักเอาการ เพราะอยู่ใกล้แหล่งงานอย่างศูนย์ราชการฯ ช่วง 4 โมงเย็นเป็นต้นไปเรียกว่าใครเลี่ยงได้เลี่ยงค่ะ แต่ยังดีที่มีทางพิเศษศรีรัช เป็นตัวช่วยในการเดินทาง ที่เรียกได้ว่าอยู่แทบจะติดกับตัวโครงการเลย ช่วงหลบเลี่ยงการจราจรชั้นล่างได้เป็นอย่างดี สามารถวิ่งไปลงแถบพระราม 9 ได้ในเวลาราวๆ ครึ่งชม. ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ นับว่าสะดวกสุดๆ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะที่มีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์, รถตู้, รถแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ ก็สามารถเรียกได้ง่าย ซึ่งเรายังสามารถเรียกรถจาก Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายได้ดี อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช เพียง 120 เมตรถึงทางขึ้นสถานีเลย ซึ่งรถไฟฟ้าช่วงแคราย – มีนบุรีนี้ จะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าอีก 3 สาย ทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม, สายสีเขียว และสายสีส้มค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ภายใต้แนวคิด “Made from Her” และ “ขบวนการ Geo Fit+” ผนวกกับคอนเซปต์ Recharge Your Digital Life หยิบจับเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาอำนวยความสะดวก ทำให้ได้ออกมาเป็นโครงการ Niche Mono แจ้งวัฒนะ ที่มีรายละเอียดที่ส่งเสริมการอยู่อาศัยให้มีคุณภาพตั้งแต่หน้าทางเข้าโครงการจนถึงด้านในห้องพักอาศัย ทั้งในแง่ของไลฟ์สไตล์, การพักผ่อน, ความปลอดภัย รวมถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันถึง 3 ชั้น
อิงจากห้องที่ได้ทำการเข้าไปรีวิว ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัวใส่ใจในรายละเอียดตามแนวคิด Made From Her และ Geo Fit+ ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตรทำให้ห้องโปร่งโล่ง แปลนห้องจะแบ่งส่วนห้องครัว, Living Area และห้องนอนออกจากกันเป็นโซน จึงได้ในเรื่องของการกำจัดกลิ่นที่ดีและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องครัวของ 1 Bedroom จะอยู่ติดกับระเบียงจึงสามารถช่วงระบายอากาศได้ดี ถึงแม้ว่าห้องครัวของ 2 Bedroom จะไม่ได้อยู่ติดกับระเบียงแต่ก็กั้นส่วนออกจาก Living Area ขนาดห้อง 1 Bedroom ของโครงการเริ่มต้นที่ 28 ตร.ม. ถือว่ากว้างเพียงพอต่อการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ
วัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาอย่างครบครัน มีการออกแบบที่ละเอียดรองรับครบทุกการใช้งาน หน้าตาสวยงามได้มาตรฐาน โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาครบพร้อมเข้าอยู่ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ Fiber Optic และระบบ Home Automation ด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครันถึง 3 ชั้น ประกอบด้วย Grand Lobby, Co – working Space, Mini Bar, Co – meeting Room, Digital Theater, First Aid Room, Vending Machine, Washing Machine Area, EV Charger, Playground & Kid Zone, Garden, Outdoor Terrace, Mail Box, Smart Locker, Fitness, Upbeat Active Pool, Kid Pool, Chilling Area, Sky Jogging Track, Sky Yoga Area, BBQ Zone, Co – party, Sunset Terrace, Star Terrace, Seating Area, Stretching Area, Solar Roof, Passenger Lift, Visitor Parking, Lady Parking & Dropping Area, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.7 | อยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะ ติดกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู อยู่ใกล้ทางพิเศษศรีรัช และอยู่ใกล้สาธารณูปโภคอย่างครบวงจร |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | เดินทางสะดวกอยู่ติดถนนใหญ่ แต่การจราจรจะติดขัดหน่อย มีทางด่วนใกล้ๆ เป็นตัวช่วยในการเดินทางได้ดี |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.5 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ และอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่สถานีศรีรัช เพียง 120 เมตร (ปี 2564) |
บ้านและวัสดุ | 7.9 | ห้องสไตล์โมเดิร์น ออกแบบรายละเอียดห้องมาได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Furnished ได้ของมาค่อนข้างเยอะ วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.8 | สิ่งอำนวยความสะดวกให้มาแบบพอประมาณ เทียบสัดส่วนกับห้องพักอาศัยแล้วน้อยไปหน่อย |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.9 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-4 คน ทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.93 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1775#56
WEBSITE : https://www.sena.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น