EP.490 รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว Life Phahon-Ladprao คอนโดใหม่ ยูนิตน้อย ติดถนนใหญ่ ใกล้ BTS ห้าแยกลาดพร้าว | 1 Bedroom Grand Simplex เริ่ม 5.29 ล้าน
สวัสดีค่า เพื่อน ๆ Condonayoo วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Lifeพหลฯ-ลาดพร้าว‘ คอนโดใหม่ในทำเลแห่งอนาคต และเป็นโครงการที่ 22 ที่ร่วมทุนระหว่าง AP Thailand และ Mitsubishi Estate มาฝากให้ได้ชมกันค่ะ
สำหรับโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว จะตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว อยู่ติดกับกองปราบปรามฯ และตลาด Jood Fairs แดนเนรมิต ใกล้ Mega Project อย่าง New Central Mixed-Use การเดินทางก็สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า, รถเมล์ หรือรถส่วนตัว
ใกล้ BTS ห้าแยกลาดพร้าว เพียง 300 ม.* มี Sky Walk ให้เดินเชื่อมสู่ MRT พหลโยธิน, Central ลาดพร้าว และ Union Mall ได้ ใกล้ห้าง Lotus’s ลาดพร้าว เพียง 60 ม.* และใกล้กับ รร.หอวัง เพียง 150 ม.* จากโครงการเดินเท้ามา แล้วข้ามสะพานเข้าสู่โรงเรียนได้เลยค่ะ
ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว เป็นคอนโด High-Rise 40 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 2-2-92.20 ไร่ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Emerge of Infinite Life เริ่มต้นชีวิตบทใหม่ แบบไร้ขีดจำกัด” อัปเกรดชีวิตอีกขั้นด้วยพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม”
ห้องพักอาศัยมีให้เลือกทั้ง แบบ Grand Simplex เพดานสูง 2.55 ม. ขนาดเริ่มต้น 28.50-65.00 ตร.ม. และแบบ New Vertiplex เพดานสูง 4.4 ม. ขนาดเริ่มต้น 28.50-65.00 ตร.ม. โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567
อัปเกรดชีวิตขึ้นอีกขั้นด้วยพื้นที่ส่วนถึง 6 ชั้น แบบจัดเต็ม รองรับไลฟ์สไตล์ของทุก Generation และรองรับการใช้งานของทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ทั้งการใช้งานแบบ Private, Couple และ Social
มี Highlight คือ Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันถึง 4 ชั้น เริ่มตั้งแต่ชั้น 38 ไปจนถึง Rooftop ทำให้สามารถ Take View ได้กว้าง มองเห็นทั้งวิวสวน 700 ไร่ และ City View 1 Bedroom Grand Simplex เริ่ม 5.29 ล้าน* / ราคาเฉลี่ย 150,000 บาท/ตร.ม. (ก.ค. 66)
ลงทะเบียนรับข้อมูลหรือแอดไลน์เพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://apth.ly/rewa
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว Life Phahon-Ladprao |
เจ้าของโครงการ | เอพี ไทยแลนด์/ AP Thailand |
เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 2-2-92.20 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 40 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | Grand Simplex เพดานสูง 2.55 ม.
New Vertiplex เพดานสูง 4.4 ม.
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 47% หรือ 283 คัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตจตุจักร |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. 10900 |
กำหนดการ | อยู่ระหว่างก่อสร้าง |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2567 |
ราคา |
|
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่ม 150,000 บาท/ตร.ม. (ก.ค. 66) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
สวนสาธารณะ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก | ชั้นใต้ดิน
ชั้น 1
ชั้น 2-7
ชั้น 8
ชั้น 8-34
ชั้น 35-39
ชั้น 38
ชั้น 39
ชั้น 40
ชั้น Rooftop
Security
|
Tel | 1623 |
Line | https://line.me/R/ti/p/@282vzkmp |
Website | UTM LINK Homenayoo |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. 10900
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/ZuZZP8vF6uD5Fmkh7
Life พหลฯ-ลาดพร้าว คอนโดใหม่โครงการที่ 3 บนทำเลพหลฯ-ห้าแยกลาดพร้าว บนอาณาจักรของแบรนด์ ‘Life’ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจาก AP Thailand โดยโครงการแรก คือ Life ลาดพร้าว ที่ Sold out ไปเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา, โครงการต่อมา คือ Life ลาดพร้าว แวลลีย์ ที่ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว และมียอดขายไปแล้วกว่า 75% ในปัจจุบัน
และล่าสุดกับโครงการน้องใหม่ Life พหลฯ-ลาดพร้าว เป็น โครงการใหม่ที่จะเปิดขายกลางปีนี้ มาพร้อมจุดเด่นสำคัญที่น่าสนใจ คือ การพัฒนารูปแบบของ Unit Layout ให้แตกต่างจาก 2 โครงการแรก
โดยจะมีการเพิ่มยูนิต Vertiplex เพดานสูง เพื่อเปิดรับมุมมองของผู้อยู่อาศัยให้กว้างขึ้น และที่สำคัญมีเพียง 598 ยูนิต เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจอีกมากมาย เช่น ใกล้ทุกอย่างเพียงย่างก้าวทั้ง New Central พหลโยธิน (โครงการในอนาคต), Central ลาดพร้าว, Lotus’s ลาดพร้าว และเพียงแค่ 300 ม.* จาก BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่นั่งยาวต่อเดียวถึงอโศกและสยาม
ใกล้ New Central พหลโยธิน Mixed-Use ใหญ่ของ Central และตลาด ‘Jodd Fairs แดนเนรมิต’ ตลาดนัดกลางคืนแห่งใหม่ บนพื้นที่ 33 ไร่ พัฒนาโดยคุณไพโรจน์ ร้อยแก้ว เจ้าของและผู้พัฒนาตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์, Jodd Fairs และ MON JODD โดยยังคงรักษาปราสาทแดนเนรมิตไว้อยู่
ใครที่คิดถึงวันวานเก่า ๆ ก็สามารถแวะมาเดินเล่น ถ่ายรูป ซื้ออาหาร Street Food อร่อย ๆ ทานกันได้ โดยร้านค้าที่จะมาเปิด ก็น่าจะเป็นร้านค้าดั้งเดิมที่เคยอยู่ที่ตลาด Jodd Fairs พระราม 9 นั่นเองค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว จะอยู่บนถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า ที่มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว ติดกับกองบังคับการปราบปราม เชื่อมต่อกับถนนลาดพร้าว, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนงามวงศ์วาน และถนนเกษตร-นวมินทร์ได้ ผ่าน ม.เกษตรฯ ขึ้นไปทางเหนือ จะเชื่อมไปยังโซนสายไหม, ลำลูกกา, รังสิต ออกไปนวนคร, บางปะอิน, อยุธยาได้เลยค่ะ
สำหรับถนนพหลโยธิน ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก จะมีความคึกตลอดทั้งวัน มีห้างสรรพสินค้า, โรงหนัง, โรงเรียน, อาคารสำนักงานชั้นนำ และโรงพยาบาลตั้งอยู่เยอะ จากโครงการสามารถเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวก และเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่อาจจะมีรถติดบ้างในช่วงเวลา Rush Hour ใครที่ไม่อยากขับรถ ก็เปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าแทนได้
การเดินทางเข้าเมือง จะใช้ถนนพหลโยธินหรือถนนวิภาวดีรังสิต ที่ไม่เสียค่าทางด่วนก็ได้ค่ะ 2 เส้นนี้จะเป็นถนนใหญ่เส้นหลักที่วิ่งคู่ขนานกันไป โดยจะวิ่งไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, พญาไท, ราชเทวี, พระราม 1, พระราม 9 ได้
หรือจะใช้ทางด่วน ก็มีดอนเมืองโทลล์เวย์ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการให้เลือกใช้ เส้นนี้จะเชื่อมกับทางด่วนสายอื่น ๆ ไปลงใจกลางเมืองของกรุงเทพ ไปพระราม 4, สาทร, สีลม ได้ในระยะเวลาประมาณ 25-30 นาที* (การจราจรปกติ)
ทางด่วน
สำหรับโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนหลายด่าน ใกล้ที่สุดจะเป็นจุดขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ ด่านลาดพร้าวขาออก ที่ใช้มุ่งหน้าไปดอนเมือง-รังสิตได้ โดยจะอยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 1.4 กม.* หรือขับรถมาประมาณ 3-5 นาที*
ถัดมาจะเป็นทางที่ใช้ในการเข้าเมือง นั่นก็คือจุดขึ้นดอนเมืองโทลล์เวย์ ด่านลาดพร้าวขาเข้า เส้นนี้จะใช้มุ่งหน้าไปดินแดง-พระราม 9 เชื่อมทางด่วนสายอื่น ๆ ได้ที่ด้านบน โดยจะอยู่ห่างจากโครงการ ประมาณ 2.2 กม.* หรือขับรถมาประมาณ 5-10 นาที*
นอกจากดอนเมืองโทลล์เวย์ ก็ยังมีทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านกำแพงเพชร 2 อยู่ใกล้ ๆ ค่ะ เส้นนี้จะใช้ออกเมืองไปโซนราชพฤกษ์-ถนนกาญจนาภิเษก โดยจะอยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 4 กม.* หรือใช้เวลาขับรถไปประมาณ 5-10 นาที*
สุดท้ายจะเป็นทางพิเศษศรีรัช ใกล้จุดขึ้นถึง 2 ด่าน ด่านแรก คือ ด่านบางซื่อ 2 ที่ใช้มุ่งหน้าไปดินแดง-พระราม 9 โดยจะอยู่ห่างจากโครงการในระยะทาง ประมาณ 4.3 กม.* หรือขับรถมาประมาณ 10-15 นาที*
อีกด่านจะเป็นจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ด่านประชาชื่น 1 เส้นนี้จะใช้มุ่งหน้าไปแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด โดยจะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 5.8 กม.* หรือขับรถมาประมาณ 10-15 นาที* เท่า ๆ กัน ทั้งหมดที่กล่าวไป สามารถเลือกใช้ได้ตามเส้นทางที่จะไป หรือเลือกใช้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมได้เลยค่ะ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : เป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้นะคะ จากโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว ที่อยู่ห่างจากโครงการ เพียงแค่ 120 ม.* วัดถึง Sky Walk และจาก Sky Walk จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน รวมถึงเดินเข้าห้าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall ได้เลย สะดวกมาก ๆ ค่ะ
จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว จะใช้นั่งเข้าเมืองไปอโศก-สยามได้เพียงต่อเดียว นอกจากนั้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ ยังเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่เดินทางเชื่อมต่อกันได้ถึง 3 จังหวัด แบบไร้รอยต่อ ทั้งกทม., สมุทรปราการ และปทุมธานี
ส่วนรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน จะสามารถนั่งไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ได้ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว ที่จะเปิดใช้งานภายในปลายปีนี้ และเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีกลางกรุงเทพ (Hub บางซื่อ)
และความพิเศษของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คือ จะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้า-ออกฝั่งธนและกรุงเทพชั้นในเป็นวงกลม ทำให้การเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองหรือย่านศูนย์กลางธุรกิจเพื่อไปทำงาน ไปเรียน หรือไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้นมากทีเดียวค่ะ
ภาพ Sky Walk เชื่อม BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ MRT พหลโยธิน ระหว่างทางจะมีทางออกไปยังห้าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall ได้ด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ใกล้ ๆ กับโครงการจะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้อยู่ 2 จุด คือ ป้ายรถเมล์หน้ากองปราบปรามฯ และป้ายรถเมล์หน้า Lotus’s ลาดพร้าว ฝั่งตรงข้ามโครงการ ก็มีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานเช่นเดียวกัน โดยจะมีทางม้าลายและสะพานลอยให้เดินไปใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ส่วนสายรถเมล์ที่ผ่าน ได้แก่ สาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 129, 136, 191, 503, 524, 529 และ 545 ค่ะ ส่วน Taxi และมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีวิ่งผ่านหน้าโครงการตลอดทั้งวัน เรียกใช้งานได้สะดวกมาก ๆ ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ๆ เพราะเป็นคอนโดที่อยู่บนทำเล Prime ของพหลฯ-ห้าแยกลาดพร้าว รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า, ห้างค้าปลีก, ตลาดนัดกลางคืน, สถานศึกษาชื่อดัง และโรงพยาบาลชั้นนำ ซึ่งจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และมอบความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัยย่านนี้ได้อย่างครบครัน
ห้างค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับโครงการเลย ก็จะเป็น Lotus’s ลาดพร้าว ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าปากทางโครงการ The Line ถัดออกไปก็จะมี Central ลาดพร้าว ที่มีทางเชื่อมเข้าห้างได้จากสถานีรถไฟฟ้า ห้าแยกลาดพร้าว และ Union Mall ที่สามารถใช้ Sky Walk เดินต่อไปได้ไม่ร้อน
และในอนาคตเยื้อง ๆ กับ Jodd Fairs แดนเนรมิต จะมี Mixed-Usd ขนาดใหญ่ ของ Central อีกแห่ง นั่นก็คือ New Central พหลโยธิน * (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 250 ม.*
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี Major รัชโยธิน, Avenue รัชโยธิน, Big C Extra ลาดพร้าว หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปลงจตุจักร ก็ศูนย์การค้าเก๋ ๆ อย่าง Mixt Chatuchak, Bangsue Junction, ตึกแดงวินเทจ จตุจักร และ JJ Outlet, JJ Mall, JJ Plaza, JJ Hall
ใกล้กับโครงการจะมีตลาด Jodd Fairs แดนเนรมิต บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ในระยะเดินเพียง 100 ม.* ตั้งอยู่ค่ะ ที่นี่จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ไปจนถึงเที่ยงคืน
ลูกบ้านที่อยู่โครงการนี้จะได้เพลิดเพลินไปกับร้านอาหาร Street Food อร่อย ๆ รวมถึงมีร้านนั่งชิล, ร้านขายของวินเทจ และมุมถ่ายรูปสวย ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญยังคงเหลือปราสาทแดนเนรมิตเดิม ไว้ให้ได้รำลึกถึงความหลังกันอีกด้วยค่ะ
นอกจากห้างที่กล่าวไปข้างต้น ใกล้ ๆ กับโครงการยังมี Lifestyle Mall, Co-Working Space และตลาดนัดเปิดอยู่หลายที่ ใกล้ Spaces Phahon 19 ที่เป็น Co-Working Space ให้เช่า ที่มีร้านสุกี้ตี๋น้อยเปิดอยู่ด้านหน้าด้วย เดินเท้าจากโครงการไปได้สบาย ๆ แค่ 150 ม.*
ถัดออกไปจะมี The One Park, Ratchayothin Hills, Ladprao Hills, Box Space, ตลาดกรีนวินเทจ รัชโยธิน, ตลาดลุงเพิ่ม หลังการบินไทย, สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาฯ, ตลาดนัดจตุจักร และตลาด อ.ต.ก. ทั้งหมดนี้จะอยู่ในระยะทางสั้น ๆ เพียง 150 ม.-3 กม.* เท่านั้น
สถานศึกษาที่ใกล้กับโครงการมาก ๆ จะเป็น รร.หอวัง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Lotus’s ลาดพร้าว วัดระยะทางจากโครงการไปเพียง 150 ม.* มีสะพานลอยให้ใช้ข้ามเข้าสู่ประตูหลักของโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ใครซื้อไว้ให้ลูก ๆ หลาน ๆ หรือเป็นบุคคลากรอยู่ที่นี่ บอกได้เลยว่าใช้ชีวิตสะดวกสุด ๆ
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี รร.สตรีวรนาถบางเขน, รร.เซนต์จอห์น, ม.เซนต์จอห์น, สถาบันการบินพลเรือน,รร.บีคอนเฮาส์ แย้มสอาดลาดพร้าว, รร.ช่างฝีมือทหาร, ม.เกษตรฯ บางเขน, มรภ.จันทรเกษม
ใกล้โรงเรียนนานาชาติถึง 3 แห่ง ได้แก่ John Wyatt Montessori School, St. Stephen’s International School และ Oakbury International School
โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด จะเป็น รพ.เปาโลพหลโยธิน ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 3.4 กม.* ถัดออกไปไม่ไกลก็จะมีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำอีก 3 ที่ ได้แก่ รพ.วิมุต, รพ.เปาโลเกษตร และ รพ.วิภาวดี ทั้งหมดอยู่ในรัศมีอุ่นใจค่ะ เจ็บไข้ไม่สบายขึ้นมา ขับรถไปหมาหมอได้ในระยะเวลา 10-20 นาที* เท่านั้น
แหล่งงาน อาคารสำนักงาน และหน่วยงานราชการใกล้ ๆ กับโครงการต้องบอกว่ามีเยอะมาก ๆ ถ้าให้พูดหมดคงไม่ไหว ขอยกตัวอย่างที่ใกล้ ๆ และสำคัญมาให้เห็นภาพแทนนะคะ
ใกล้ที่สุดแบบติดกับโครงการเลยจะเป็น กองปราบปรามฯ ที่ประตูคนเดินของกองปราบปรามฯ เค้าจะอยู่ติดกับประตูคอนโดนี้เลย ถัดออกไปอีกนิด ประมาณ 100 ม. จะเป็น Rasa Tower มีทางม้าลายจากหน้ากองปราบปรามฯ ให้เดินข้ามถนนเข้าไปสำนักงานได้เลย
ถัดมาก็จะมี Phahol 19 Building, I Tower, ตึกช้าง, อาคารพร้อมพันธุ์, SCB Park Plaza, ชินวัตรทาวเวอร์ 3, TTB Bank Head Office, Sun Towers, TST Tower, S-Oasis Tower และอาคารเล้าเป้งง้วน 1
ใกล้สถานที่ราชการและขนส่ง อย่าง สำนักงานที่ดินฯ สาขาจตุจักร, สำนักขนส่งฯ จตุจักร,สำนักงานศาลยุติธรรม รัชดา, สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (Hub บางซื่อ) และสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
สวนสาธารณะ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Maps : 13.818926, 100.563533
การเดินทางเริ่มจาก ห้าแยกลาดพร้าว ⇒ ถนนพหลโยธิน ⇒ กลับรถ ⇒ Life พหลฯ-ลาดพร้าว *ติดกองปราบฯ และ Lotus’s ลาดพร้าว
ภาพประกอบการเดินทาง เราใช้ถนนพหลโยธิน ฝั่งที่มาจากจตุจักร มุ่งหน้าไปรัชโยธิน
ผ่าน BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ Central ลาดพร้าว ซึ่งห่างจากโครงการ ประมาณ 220 ม.* โครงการจะอยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้าค่ะ
ผ่านที่ตั้งโครงการขวามือ ที่อยู่ติดกับกองปราบฯ แต่เราต้องไปกลับรถตรงหน้าสำนักงานที่ดินจตุจักรฯ
ผ่าน Phahol 19 Building ด้านหน้าจะมีสุกี้ตี๋น้อย และฟิตเนส 24 ชม.
ชิดขวากลับรถ
ผ่านแดนเนรมิต ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของตลาด Jodd Fairs พอเห็นกองปราบฯ ให้ชิดซ้ายไว้ค่ะ
ถึงโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว
ด้านหน้าโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับกองปราบปรามฯ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567)
จากที่ดินโครงการ ตรงต่อมาประมาณ 300 ม.* Sales Gallery จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับประตูทางออก 4 ของรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวค่ะ
Sales Gallery เปิดให้ลูกค้าเข้าชมห้องตัวอย่างได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-18.00 น. ค่ะ
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว เป็นคอนโด High-Rise 40 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินรูปตัว L หน้าโครงการจะติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว ติดกับประตูทางเข้าจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ตรงข้ามกับโครงการ จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 2-3 ชั้น เยื้อง ๆ มาทางซ้ายจะเป็น รร.หอวัง และ Sky Walk เชื่อม BTS ห้าแยกลาดพร้าว และ MRT พหลโยธิน
ข้างโครงการทางฝั่งทิศใต้ จะเป็นที่ดินบุคคลอื่น และ Lotus’s ลาดพร้าว ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 70 ม.* อีกฝั่งทางทิศเหนือ จะเป็นพื้นที่ของกองปราบปรามฯ ทั้งหมด ติดกองปราบปรามฯ จะเป็นตลาด Jodd Fair แดนเนรมิต บนพื้นที่กว่า 33 ไร่ ส่วนด้านหลังโครงการทางฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นอาคารสูง 3-4 ชั้น และอาคารสูง 8-30 ชั้น ค่ะ
รอบโครงการ
พาเดินสำรวจรอบ ๆ โครงการเพื่อให้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ กันหน่อยค่ะ จากภาพจะเป็นประตูทางเข้าหลักของโครงการ โดยจะตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว
มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดกลับรถ และร้าน ฟัง pls.
จากโครงการพาเดินไปทางขวามือกันก่อน
ติดกับประตูทางเข้าโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว จะอยู่ติดกับประตูทางเดินเท้าของกองปราบปรามฯ
ตรงขึ้นมาอีกหน่อย จะเจอกับประตูทางเดินเท้าของกองปราบปรามฯ อีก 1 จุด
ด้านหน้ากองปราบปรามฯ
ภายในกองปราบปรามฯ ซึ่งอยู่ติดกับโครงการแบบ 0 ม.* เลยค่ะ
ถ่ายจากหน้ากองปราบปรามฯ ขึ้นไป จะเห็นตัวอาคาร Life พหลฯ-ลาดพร้าว และยังแอบเห็น Life ลาดพร้าว และ Life ลาดพร้าว แวลลีย์ ด้วย
ผ่านกองปราบปรามฯ มา จะเป็นที่ตั้งของตลาด Jodd Fairs แดนเนรมิต ซึ่งที่ด้านหน้าจะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งาน
ป้ายรถเมล์ด้านหน้ากองปราบปรามฯ
ป้ายบอกทางของสายรถเมล์ที่ผ่าน มีให้เลือกใช้หลายสาย
ถัดมาจะเป็นตลาด Jodd Fairs แดนเนรมิต ที่เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น. จากโครงการเดินเท้ามาหาของกิน มา Hangout กับเพื่อน ๆ ได้สบาย
ตรงนี้จะมีทางม้าลายให้ใช้เดินข้ามไปยัง Rasa Tower ได้อย่างปลอดภัยค่ะ
ถัดจาก Rasa Tower จะเป็น @Space ที่มี Fitness 24 Seven และร้านสุกี๋ตี๋น้อยเปิดอยู่ที่ด้านหน้าด้วยค่ะ
จาก Jodd Fairs แดนเนรมิต มองไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นที่ดินของ Central ที่คาดว่าจะพัฒนาเป็นห้างใหม่ มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า New Central พหลโยธิน ค่ะ
จากหน้าโครงการเดินขึ้นไปทาง BTS ห้าแยกลาดพร้าว ซ้ายมือจะมีห้างทองเปิดอยู่ 1 ร้าน
ตรงขึ้นมาจะเจอกับทางเดินเท้าของโครงการ The Line และติดกันจะเป็นทางเข้า-ออกของห้าง Lotus’s ลาดพร้าว
จากโครงการเดินมาห้าง Lotus’s ลาดพร้าว ได้ในระยะสั้น ๆ เพียง 60 ม.*
หน้าห้างจะมีสะพานลอยใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม และเป็นสะพานลอยที่เชื่อมกับ Sky Walk เพื่อเดินไปสถานีรถไฟฟ้าได้ค่ะ
ใต้สะพานลอยจะมีคิวมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการ อัตราค่าโดยสารตามภาพเลยค่ะ
ตรงขึ้นมาจะมีป้ายรถเมล์หน้าห้าง Lotus’s ลาดพร้าว ให้ใช้งานใกล้ ๆ อีก 1 จุด และมีป้ายบอกสายรถเมล์ติดไว้ให้เช่นกัน
หน้า Lotus’s จะมีสะพานลอย ใช้ข้ามไป รร.หอวังได้ และยังใช้ขึ้นไปเชื่อมกับ Sky Walk เพื่อเดินในร่มไปยัง BTS ห้าแยกลาดพร้าวได้เลยค่ะ
ข้ามสะพานลอยไปจะเชื่อมตรงสู่ รร.หอวัง ได้เลย ใครซื้อคอนโดที่นี่ เดินมาเรียน มาทำงานได้สะดวกมาก ๆ ค่ะ
ตรงขึ้นมาซ้ายมือจะเจอกับโชว์รูม Toyota
ผ่านโชว์รูม Toyota มา แล้วมองมาทางซ้ายมือ จะเป็นที่ตั้งของคอนโดแบรนด์ Life อีก 2 โครงการ
ติดกันจะเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery ใครที่นั่งรถไฟฟ้ามาชมโครงการ เดินมาออกที่ประตูทางออก 5 ฝั่งถนนพหลโยธิน ขาเข้าได้เลย ส่วนคนที่ขับรถส่วนตัวมา ให้เข้าก่อนถึง Sales Gallery แล้วไปจอดรถที่ด้านหลังได้เลยค่ะ
ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว ถ้าวัดระยะทางจากหน้าโครงการ เดินตามทางเท้ามาจะมีระยะทางอยู่ที่ 300 ม.* ค่ะ
มองขึ้นไปที่ด้านบนจะเป็น Sky Walk ที่เชื่อมมาจากสะพานลอยตรงหน้าห้าง Lotus’s ลาดพร้าว
ขึ้นไปดูด้านบนกันต่อ
ด้านหน้าจะเป็นที่จำหน่ายตั๋วโดยสารของรถไฟฟ้า
เดินตรงมาตรงทางออกที่ 3 จะเจอกับทางเชื่อมเข้าสู่ห้าง Central ลาดพร้าว ได้เลยค่ะ
มองมาทางขวามือจะเป็นบันไดทางลงไปยังหน้าห้าง
จากทางเชื่อมเข้าห้าง จะมีทางเดินเท้าตรงไปยัง MRT พหลโยธิน รวมถึงไป Union Mall ได้ด้วยค่ะ
PROJECT HIGHLIGHT
โครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว เป็นคอนโด High-Rise โครงการที่ 3 บนทำเลพหลฯ-ห้าแยกลาดพร้าว จาก AP Thailand ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Emerge of Infinite Life เริ่มต้นชีวิตบทใหม่ แบบไร้ขีดจำกัด” อัปเกรดชีวิตอีกขั้นด้วยพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม
Life พหลฯ-ลาดพร้าว เป็นคอนโด High-Rise 40 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ห้องพักอาศัย 598 ยูนิต พร้อมร้านค้าในโครงการอีก 1 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นคอนโด High-Rise ที่มีจำนวนห้องพักอาศัยน้อยกว่าคอนโด Life 1 และ 2
มาพร้อมส่วนกลางมากถึง 6 ชั้น โดยจุดเด่นหลักของโครงการนี้ คือ Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกันถึง 4 ชั้น เริ่มตั้งแต่ชั้น 38 ไปจนถึงชั้น Rooftop ทำให้สามารถ Take View ได้กว้าง มองเห็นได้ทั้ง Park View และ City View
Simplicity Luxury Life ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของโครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว คือ การออกแบบพื้นที่ที่สะท้อนอัตลักษณ์สไตล์ Timeless Modern ที่เรียบหรู ผ่านการเลือกสรรหินอ่อนนำเข้าหลากหลายชนิดที่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันและลวดลาย Craftmanship ที่ได้แรงบันดาลใจจากลายเส้นถนนและจุดตัดของผังเมืองโซนพหลโยธิน-ลาดพร้าว
นำมาออกแบบและถักทอผสานเข้าไปยังส่วนกลางจุดต่าง ๆ ภายในโครงการ อย่าง Neo Chanel Marble จากเมือง Carrara ประเทศ Italy ที่เป็นหินอ่อนขนาดใหญ่ที่มีเสน่ห์ของสานแร่สีดำและเทาเข้ม
ช่วยขับ Character และเพิ่มประสบการณ์พิเศษในการต้อนรับเข้าโครงการ ทั้งยังตกแต่งเพิ่มด้วย Van Gogh Onyx หินอ่อนที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลายธรรมชาติและมีสีสันพิเศษไม่เหมือนใคร ตลอดจนการเลือกใช้ White Onyx และ White Arabascato Marble หินอ่อนขนาดใหญ่ ที่มาตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ ให้ดูสวยหรู และรองรับการผ่อนคลายได้อย่างลงตัวค่ะ
PROJECT DETAIL
Ground Floor Plan : Life พหลฯ-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว มีทางเข้า-ออกหลักได้เพียงทางเดียวจากถนนพหลโยธิน ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off รับ-ส่งที่ด้านหน้า ผ่าน Drop-Off มาทางด้านขวามือ จะเดินรถยนต์แบบ 2 Way ตรงมาจะมี EV Charger ใต้อาคารให้ 2 Slots
ถัดมาจะเป็นทางขึ้น-ลงชั้นจอดรถยนต์ คิดเป็น 47% หรือจอดได้ 283 คัน วนผ่านด้านหลังอาคารมาทางฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร และที่จอดรถ Handicapped สำหรับคนที่ใช้ Wheelchair ค่ะ
มาดูพื้นที่ส่วนกลางกันต่อ เริ่มจากโซน Outdoor ด้านหน้าโครงการ จะมีประตูคนเดินเท้าและพื้นที่สีเขียวขนานไปกับถนนเมนในโครงการ ผ่าน Drop-Off ไปที่ด้านหลังจะเจอกับ Green Pavilion (4) มุมนั่งเล่นพักผ่อนในสวน ใช้เป็นที่นั่งในเล่นในตอนเย็น ก็บรรยากาศดี หรือจะใช้เป็นที่นัดพบเพื่อน ๆ นั่งรอเพื่อน ๆ กันได้
ส่วนอีกด้านเลข 5, 6, 7 จะเป็นร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต ถัดเข้าไปจะเจอกับ Smart Locker สำหรับฝากของ ใช้งานได้ง่ายผ่าน Application และ QR Code และด้านในสุดจะเป็นที่ตั้งของลิฟต์บริการใช้ในกรณีที่ต้องการขนย้ายข้าวของ โดยจะมีให้ทั้งหมด 1 ตัวค่ะ
จาก Drop-Off เดินผ่าน Semi-Outdoor มา จะเจอกับ The Parlour ที่เป็นห้องรับรองสำหรับลูกบ้าน เป็นห้องผนังเป็นกระจกใสรอบด้าน ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและเปิดรับมุมมองได้รอบด้าน
ถัดไปอีกทางจะเจอกับ Exclusive Lobby ที่ภายในมี Cozy Lounge (3) เปิดรับวิวสวนด้านนอก และมี Privilege Lounge แยกออกมาให้ สามารถใช้นัดพบแขกหรือเพื่อน ๆ ได้ โดยไม่ปะปนกับลูกบ้านท่านอื่น ๆ ที่เดินเข้า-ออกไปมา
ถัดมาที่ด้านจะมีโถงเดินทางให้เชื่อมต่อไปยัง Juristic, ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง, Mail Room และ Lift Lobby ที่เข้า-ออกผ่านระบบ Key Card Access ภายในมี ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้นให้ 4 ตัว รับรองว่าใช้งานได้เพียงพอแน่นอนค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง Green Pavilion สวนขนาดใหญ่ระยะทางกว่า 100 ม.* ซึ่งจะเป็นประตูด่านแรกในการต้อนรับเข้าสู่ความ Luxury Private บนโซนพหลฯ-ลาดพร้าว
ภาพและบรรยากาศจำลอง Exclusive Lobby ที่ใช้สไตล์การตกแต่งแบบ Exclusive and Exotic Material การตกแต่ง Interior จะใช้หินอ่อนและหินออนิกส์ ที่นำเข้าจากประเทศ Italy เป็นงาน Art Crafts ที่มีสายแร่และลวดลายต่าง ๆ ที่แทรกอยู่ในหิน ทำให้เกิดการมองเห็นที่แตกต่างในแต่ละช่วงเวลา
ภายในจัดเตรียมชุดโซฟารับรองมาให้หลายที่นั่ง ใช้เป็นห้องรับรองแขก, ห้องรับรองญาติพี่น้องที่แวะมาหาที่โครงการ หรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับนัดคุยงานอย่างไม่เป็นทางการได้ พร้อมพื้นที่เชื่อมต่อ Cozy Lounge, Privilege Lounge และ Semi-Outdoor มองเห็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ด้านนอก
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Parlour & Cozy Lounge พื้นที่แบบ Space in Space ที่ผ่านการคิดในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งนั่งพักผ่อน นั่งทำงาน และจัดปาร์ตี้ พร้อมการตกแต่งจากงานหินนำเข้าจาก Italy
แปลนอาคารชั้น 8 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 17 ยูนิต/ชั้น โดยโซนที่พักอาศัยจะแยกส่วนออกจาก Facilities อย่างชัดเจน และมี Green Buffer ซึ่งเป็นแนวต้นไม้พื้นที่สีเขียว ทำให้การใช้ชีวิตและการพักผ่อนของลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมี The Cardio Club เป็นห้อง Fitness ที่มี Treadmill ลูกบ้านสามารถดีไซน์การออกกำลังกายได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งแบบ Single Private หรือ Couple หรืออาจจะ Connect กับเพื่อนต่างคอนโดก็ได้ค่ะ
เพราะโครงการนี้จะมีฟังก์ชันที่รองรับการออกกำลังกาย ผ่านหน้าจอเครื่องออกกำลังกายได้ ในขณะเดียวกันลูกบ้านยังสามารถ Take View สวนด้านนอก เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้ด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 9 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็มชั้น โถงทางเดินในชั้นพักอาศัยจะเป็นแบบ Double Corridor มี Lift Lobby ตั้งอยู่ตรงมุมอาคาร ถัดมาจะเป็นลิฟต์บริการ ใช้ในการขนของ เคลื่อนย้ายข้าวของ มีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด ที่หัวและท้ายอาคาร ส่วนห้องชุดพักอาศัยในชั้น 9 จะมีทั้งหมด 19 ยูนิต/ชั้น ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 10-33 จะเป็น Typical Floor Plan ค่ะ ทุกชั้นวางผังห้องมาเหมือนกันทั้งหมด โดยจะมีทั้งหมด 19 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 34 มีห้องพักรวม 19 ยูนิต/ชั้น เป็นห้องพักแบบ New Vertiplex
แปลนอาคารชั้น 35 มีห้องพักรวม 19 ยูนิต/ชั้น เป็นห้องพักแบบ New Vertiplex
แปลนอาคารชั้น 36-37 มีห้องพักรวม 19 ยูนิต/ชั้น เป็นห้องพักแบบ New Vertiplex
แปลนอาคารชั้น 38 จะเป็นชั้นพักอาศัย และ Facilities โดยจะมีประตู Key Card Access แยกส่วนออกจากกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้านในชั้นนี้ ในส่วนของห้องพักจะมีทั้งหมด 15 ยูนิต/ชั้น ส่วน Facilities จะมีชื่อเรียกว่า Exclusive Sky Club เป็น Facilities ขนาดใหญ่ พื้นที่เชื่อมต่อกัน 4 ชั้น
เริ่มต้นที่ชั้น 38 ไปจนถึงชั้น Rooftop เพื่อตอบโจทย์การพักผ่อนที่เชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยฝั่งนี้จะมีลิฟต์ส่วนกลางแยกออกมาให้อีก 1 ตัว ใช้ขึ้น-ลงได้เฉพาะชั้นของ Facilities นั่นเองค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง Exclusive Sky Club บนชั้น 38 ห้องพักผ่อนที่รับวิวจากมุมสูงเสมือนนั่งอยู่ใน Sky Lounge ของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว โดยจะสามารถ Take View สวน 700 ไร่ และ City View ได้แบบ Panorama
แปลนอาคารชั้น 39 ฝั่งห้องพักอาศัยจะมีทั้งหมด 15 ยูนิต/ชั้น ส่วน Facilities จะอยู่ตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด ซึ่งชั้น 39 จะเป็นที่ตั้งของ The Cloud Social Club ที่ภายในมีฟังก์ชันแยกย่อยออกมาอีก 4 โซน ได้แก่ Social Club, Social Meeting, The Cloud Corner และ Private Living ค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Cloud Social Club พื้นที่แบบ Space in Space ในรูปแบบของ Co-Working Space และ Relaxing Space เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Multi-Cultural ทั้งการ Zoom แบบเดี่ยว, การประชุมแบบกลุ่ม หรือการประชุมกึ่งสันทนาการ พร้อมรับ City View ได้แบบ 360 องศา
แปลนอาคารชั้น 40 เป็นชั้น Full Facilities มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น Sky Pool Pavilion แบบ L-Shape ที่มีฟังก์ชันเสริมอีกกว่า 5 รายการ เช่น Sky Pool Bed, Sky Pavilion Seat, Sky Lap Pool, Kids Pool และ Sky Jacuzzi มี Active Atrium & Private Studio ให้ออกกำลังกายได้ 24 ชม.
มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และ Sauna สำหรับผู้ชาย และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และ Steam สำหรับผู้หญิง ทั้งยังมีห้องน้ำ Handicapped แยกไว้ให้อีก 1 ห้องค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง Sky Pool Pavilion สระว่ายน้ำ L-Shape ความยาวกว่า 30 ม.* ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ตอบไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมมุม Jacuzzi สำหรับผ่อนคลาย อีกทั้งยังสามารถ Take View สวนสาธารณะ 700 ไร่ ขนาดใหญ่ และวิวเมืองลาดพร้าวได้แบบ 360 องศา
Active Atrium โซนออกกำลังกายบน Rooftop แบบ 24 ชม.* โดยแยกโซน Cardio, Weight Training และ Private Gym
แปลนอาคารชั้น Rooftop เป็นสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ ภายในจัดฟังก์ชันแยกย่อยออกมาอีก 6 ฟังก์ชัน ได้แก่ Sky Private Seat, Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Sky Rooftop Bar, Private Sky Yard และ Private Backyard ค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Park Rooftop บนชั้นบนสุดของโครงการ จัดเต็มกับพื้นที่สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งชมวิวสวน 700 ไร่ และวิวแบบ 360 องศา แบบเล่นระดับ เพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แบบห้องพัก
Life พหลฯ-ลาดพร้าว ออกแบบและคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนห้องพักเพียง 598 ยูนิต และมีห้องพักให้เลือกมากถึง 19 แบบ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวผังห้องชุดรูปแบบใหม่ที่ “ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด”
ทั้งในรูปแบบ Grand Simplex เพดานสูง 2.55 ม. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.50-65.00 ตร.ม. ที่จัดสรรพื้นที่ห้องครัวแบบปิด เพิ่มขนาดพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้กว้างขึ้น แบ่งห้องนอน และ Walk-in Closet ให้เป็นสัดส่วน
แบบ New Vertiplex เพดานสูง 4.4 ม. ห้องชุดรูปแบบใหม่ ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยเป็น 2 เท่า พร้อม Walk-in Closet ขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.50-65.00 ตร.ม.
ส่วนรูปแบบห้องพักจะให้เลือก ดังนี้ค่ะ
Grand Simplex เพดานสูง 2.55 ม.
New Vertiplex เพดานสูง 4.4 ม.
ห้องตัวอย่าง
โครงการ Life พหลฯ-ลาดพร้าว มีห้องตัวอย่างรูปแบบใหม่ให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Fitted
โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังต่อไปนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง TYPE B1 : 1 Bedroom Grand Simplex ขนาด 35.00 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง TYPE B1 : 1 Bedroom Grand Simplex ขนาด 35.00 ตร.ม. เป็นห้องพักรูปใหม่ของแบรนด์ ‘Life’ จาก AP ที่ตอบโจทย์ชีวิตไร้ขีดจำกัด มีจุดเด่นตรงที่ได้เป็นห้องครัวปิด มีการเพิ่มขนาดพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างขึ้น มีห้องนอนให้เป็นสัดส่วน พร้อมพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำแบบ Double Access เพื่อการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ
จากแปลนด้านบนจะแบ่งพื้นที่ไว้ 5 ส่วนหลัก ๆ เปิดประตูเข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นห้องครัวปิด ที่กั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนไว้ให้ พื้นที่ใช้งานส่วนครัวกว้างขวาง ซ้ายมือเป็นชุดครัวที่ทางโครงการ Built-in มาให้มาตรฐานกับห้อง ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และประตูทางเข้าห้องน้ำจากห้องครัว โดยห้องน้ำจะมีขนาดกว้างดี แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย
ถัดจากห้องครัวเข้าไป จะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ โดยจะ Combine มุมทานอาหารและห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกัน ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นที่ตั้งของระเบียง กั้นแยกด้วยประตูกระจกบานเลื่อน โดยภายในจะเป็นระเบียงหน้ากว้าง สามารถวางราวตากผ้าหรือปลูกต้นไม้บนคอนโดได้ และยิ่งห้องสูงก็จะยิ่งได้เห็นวิวเมืองที่สวยมากขึ้น
อีกฝั่งของห้องจะเป็นที่ตั้งของห้องนอน มีพื้นที่กว้างมากขึ้น รองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้สบาย ๆ ในห้องนอนได้ติดหน้าต่างกระจกบานผสมชุดใหญ่มาให้ 1 บาน ใช้เปิดรับแสงในตอนกลางวัน เปิดชมวิวในตอนกลางคืน และมีบานกระทุ้งให้เปิดรับลม ระบายอากาศได้ อีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet เล็ก ๆ ที่ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าชิดผนังมาให้ ติดกันเป็นประตูห้องน้ำอีกทาง ทำให้ห้องนี้เหมือนได้ฟังก์ชันห้องน้ำในตัว สะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมากเลยค่ะ
ห้องจริงจะมีประตูไม้สำเร็จรูป พร้อมตาแมวที่หน้าบาน มือจับก้านโยกกลอน Double Lock ติดมาให้มาตรฐานทุกห้อง ส่วนธรณีทางเข้าห้องจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ช่วยกันแมลง กันฝุ่นผง และกันเสียงรบกวนได้ดี ที่สำคัญเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย และไม่บวมน้ำ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องครัวปิดเป็นอันดับแรก พื้นครัวจะปู Porcelain Tile 60 x 60 ซม. ซึ่งเหมาะกับการใช้งานหนัก แข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี และเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนฝ้าเพดานในห้อง Grand Simplex จะอยู่ที่ 2.55 ม. ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว และได้โคมไฟ Led Panel ที่ประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
ภาพรวมในห้องครัวปิด ซ้ายมือจะเป็นชุดครัว Built-in ที่มาพร้อมกับห้องมาตรฐาน ส่วนขวามือจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ และด้านหน้าจะมีพื้นที่เหลือให้วางตู้เย็น หรือเปลี่ยนเป็นเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ก็ทำได้ตามต้องการค่ะ
โครงการ Built-in ชุดครัวความกว้างพอดีผนังมาให้แบบในภาพ วัสดุที่ได้เกรดพรีเมียม ตู้เก็บของและลิ้นชักเก็บของบน-ล่าง ปิดหน้าบานด้วยเมลามีน ด้านล่างจะเป็นลายไม้ ส่วนด้านบนจะเป็นสีน้ำตาลแบบทึบ บานพับ-รางเลื่อนทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close ช่วยให้เปิด-ปิดได้อย่างนุ่มนวล ไร้แรงกระแทก และยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
หน้า Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ที่มีความแข็งแรงทนทาน ทนความร้อนได้ดี เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ผนังครัวทำ Backsplash Porcelain Tile สีเบจ 60 x 60 ซม. มาให้แบบในภาพ และตรงกลางจะติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
ด้านขวาของหน้า Top จะเป็นมุมทำอาหาร ติดตั้ง Hob 2 หัว ระบบควบคุมแบบสัมผัส พร้อม Slimline Hood ใช้งานง่าย สะดวก เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด ทั้งหมดใช้เป็นของ Teka
ด้านซ้ายของหน้า Top จะเป็นมุมล้างจาน ล้างผัก-ผลไม้ ตรงนี้จะได้เป็น Sink ฝังเคาน์เตอร์แบบหลุมเดี่ยวของ Teka พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกทรงสูง หมุนซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวกดี
ตรงกลางจะมีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหาร, ทำขนม และชงชา-กาแฟทานในตอนเช้าได้สะดวกค่ะ
ด้านล่างจะได้ตู้เก็บของใต้ Sink มา 1 ตู้ ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาดไม่เกิน 7 กก. ด้านหลังมีการเดินงานระบบน้ำ-ไฟมาให้พร้อมต่อใช้งาน ส่วนขวามือจะมีลิ้นชักเก็บของให้ 2 ช่อง และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟตรงกลาง
ตู้เก็บของใต้ Sink มีขนาดใหญ่ที่สุดค่ะ ภายในจะมีการติดแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำ กันชื้นมาให้ โดยห้องนี้จะเหมาะสำหรับทำเป็นห้อง Stock ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน อย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ, แชมพู-ครีมอาบน้ำ, ห่อกระดาษทิชชู่ รวมถึงใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้านก็ยังได้
ใต้มุมทำอาหารจะได้ลิ้นชักรางเลื่อน ที่มีถาดใส่ช้อน-ส้อมติดมาให้ที่ด้านใน ช่วยจัดระเบียบของและทำให้หยิบใช้งานได้สะดวก
ด้านล่างจะเป็นช่องวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน ที่ด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด และด้านล่างสุดจะเป็นลิ้นชักเก็บของรางเลื่อนพื้นที่โล่ง ๆ ค่ะ
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิด Soft Close มารวม 3 ตู้ ภายในมีชั้นลอยแยกย่อยมาให้ถึง 8 ช่อง สามารถวางถ้วยกาแฟ, เครื่องปรุงอาหาร, อาหารแห้ง และอุปกรณ์ของใช้ในครัวเรือนได้เยอะดีทีเดียวค่ะ
ตรงข้ามกับชุดครัว จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางตู้เย็นขนาด 6-10 คิว ได้ กำลังพอดี และที่ผนังด้านหลังจะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด พร้อมเสียบใช้งานค่ะ
บรรยากาศภาพรวมบริเวณห้องครัวปิด มีพื้นที่ใช้งานกว้างดี ยืนทำอาหาร, ล้างจาน, เตรียมอาหาร, อุ่นอาหาร, ซัก-อบผ้า เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องพักและห้องน้ำได้สะดวก ไม่ติดขัดเฟอร์นิเจอร์หรือผนังส่วนอื่น ๆ เลย
พาเข้าไปดูห้องน้ำกันก่อน ห้องจริงจะมีประตูติดมาเรียบร้อย ส่วนธรณีจะได้เป็นหินสังเคราะห์สีขาวเช่นเดิม ทำให้เช็ดล้างห้องน้ำได้สะดวก และไม่บวมน้ำ
จากห้องครัวมองตรงเข้ามาในห้องน้ำจะได้มุมมองแบบในภาพ และฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูทางห้องน้ำอีกบาน ที่สามารถเข้า-ออกได้จากห้องนอนนั่นเองค่ะ
ห้องน้ำขนาดใหญ่ ใช้งานได้สะดวก ตกแต่งพื้นและผนังด้วย Porcelain Tile 60 x 60 ซม. ในโทนสีอ่อน ช่วยให้ห้องน้ำดูหรูหรา สว่าง และสะอาดตา มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำด้วย Shower Screen Tempered Glass มาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์มาตรฐานใช้รุ่นพรีเมียมทั้งหมด โดยจะติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพค่ะ
ด้านหลังส่วนแห้งจะมี Low-Wall หินสังเคราะห์สีขาวแนวยาวให้วางของใช้ได้เยอะดี ผนังติดกระจกเงาขนาดใหญ่มาให้ 1 บาน ขับให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น ด้านบนเพดานจะติดพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 เครื่อง ช่วยลดกลิ่นอับและระบายความชื้นได้ดี
ภาพรวมส่วนแห้ง ติดตั้งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มาในระยะใช้งานสบาย ๆ
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ Kohler หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้อีกนิดหน่อย พร้อมก๊อกน้ำเป็นโครเมียมก้านโยกทรงสูง เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
ใต้อ่างล้างหน้าจะมีตู้เก็บของบานเปิด Soft Close ให้ 1 ตู้ ภายในเป็นชั้นวางของโล่ง ๆ สามารถเก็บของใช้ในห้องน้ำ, ผ้าเช็ดตัว, ผ้าเช็ดมือ หรือห่อกระดาษทิชชู่ได้ค่ะ
ถัดมาเป็นที่ตั้งของโถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush ของ Kohler พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ครบเซ็ต
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ โครงการติดตั้ง Shower Screen กระจก Tempered Glass ประตูบานสวิง มือจับสแตนเลสตัว C ที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวมาได้มาให้แบบในภาพ โดย Shower Screen จะวางบนธรณีหินสังเคราะห์อีกที เพื่อกันน้ำไหลย้อนกลับออกมาด้านนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
พื้นที่ใช้งานขนาดประมาณ 1.2 x 1.0 ม. ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ ไม่ติดขัดผนังรอบ ๆ
ภายในติดตั้งฝักบัว Hand Shower ของ Kohler พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำฝังกำแพงของ Englefield แบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานสะดวก ผนังด้านซ้ายติดชั้นวางของหินสังเคราะห์มาให้ 1 ชิ้น วางขวดครีมอาบน้ำ-แชมพูได้ประมาณ 2-3 ขวด
ผนังขวามือเจาะช่องทำชั้นวางของ และทำราวแขวนผ้าเช็ดตัวที่ด้านบนมาให้ ส่วนผนังข้างฝักบัวจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติด Junction Box รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้อย่างปลอดภัยค่ะ
มองกลับออกมาทางด้านหน้าห้อง จะเห็นว่ามีประตูเข้า-ออกห้องน้ำได้ 2 ทาง คือ จากห้องครัวและจากห้องนอนนั่นเอง
จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับ Living Area และระเบียงพักผ่อนที่ด้านนอก โดยจะกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกใส กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำ แบบบานเลื่อน 3 ตอน ให้แบบในภาพ
ตรงเข้ามาภายใน Living Area วัสดุพื้นห้องจะเปลี่ยน Porcelain Tile 60 x 60 ซม. มาเป็น Laminate ลายไม้ หนา 8 มม. ที่ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า และให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
Living Area จะมีการขยายพื้นที่ให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม สามารถรวมมุมทานอาหารและห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ให้ใช้งานได้สะดวก
ติดกับห้องครัวจะจัดเป็นมุมทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นแนวทางค่ะ ห้องจริงสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบที่ชอบเองได้เลย ส่วนบ้านไหนที่ไม่ชอบนั่งทานอาหารจริงจัง ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นมุมทำงานแบบ 1 ที่นั่ง แทนเข้าไปได้ค่ะ
ถัดจากมุมทานอาหารมา จะเป็นห้องนั่งเล่น ทางโครงการวางโซฟา Love Seat มาให้ดูเป็นไอเดีย ห้องจริงสามารถเพิ่มขนาดเป็น 3 ที่นั่ง หรือปรับให้เป็นโซฟา L-Shape ขนาด 3 ที่นั่งได้ ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะกาแฟได้อีก 1 ตัว
ตรงข้ามกับ Living Area ในห้องจริงจะเป็นผนังเปล่าฉาบเรียบทาสี สามารถวางชั้นวางทีวีตัวยาว 1.5-2 ม. ได้ หรือจะ Built-in เฟอร์นิเจอร์ให้เต็มพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของก็ทำได้เลยนะ
ผนังด้านบนจะติดแอร์ Wall Type มาให้ 1 เครื่อง และที่ด้านหลังทีวี จะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟและช่องเสียบสาย Cable TV มาให้พร้อมต่อใช้งานค่ะ
มองกลับมาทางฝั่งหน้าห้อง ตรงกลางจะมีพื้นที่เหลือกว้างพอประมาณ สามารถนั่งดูซีรีส์, นั่งทานอาหาร, นั่งทำงาน และมีพื้นที่เหลือให้เดินเข้า-ออกไปส่วนอื่น ๆ ของห้องพักได้สะดวก
ถัดจาก Living Area ไป จะเป็นระเบียงพักผ่อน กั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกตัดแสง กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทา แบบบานเลื่อน 3 ตอน มีการยกธรณี-วงกบขึ้นมาให้ประมาณ 15 ซม. เพื่อป้องกันน้ำฝนและสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
ด้านนอกจะเป็นระเบียงหน้ากว้าง ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะดี สามารถวางชุดโต๊ะกาแฟแบบ 1 ที่นั่ง, วางต้นไม้กระถาง หรือใช้เป็นพื้นที่ปลูกผักสวนครัวบนคอนโดก็ยังได้ค่ะ ตัวพื้นจะปู Ceramic Tile แบบกันลื่น 30 x 30 ซม. มาให้ สามารถกวาดพื้น ล้างพื้นได้สะดวก
ขวามือจะเป็นที่ตั้งของ CDU จำนวน 2 เครื่อง โดยจะติดหันพัดลมแอร์ออกไปที่ด้านนอกอาคาร และมีกริลระแนงความสูงจรดฝ้าเพดานติดมาให้อีกชั้น เวลามองจากด้านนอกอาคารเข้ามาก็จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของโครงการนั้นดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม
ส่วนด้านล่าง CDU จะติดก๊อกสนามให้ 1 จุด และเจาะท่อระบายน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อยค่ะ สามารถ Big Cleaning พื้นระเบียงได้สบาย ๆ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ล้างของใช้ชิ้นใหญ่ ๆ ก็ทำได้สะดวก
ฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ จากประตู-ราวกันตก จะมีความกว้างประมาณ 90 ซม. รองรับเก้าอี้สนาม หรือชุดโต๊ะน้ำชาได้ 1 ชุด
ไปดูห้องนอนกันต่อ ในห้องจริงจะมีประตูไม้สำเร็จรูป มือจับก้านโยกกลอน Double Lock ติดมาให้ ส่วนพื้นห้องนอนจะปู Laminate ลายไม้ หนา 8 มม. ต่อเนื่องจาก Living Area เข้าไปด้านในเลยค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอน จะเป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันการใช้งานไว้ 2 ส่วน คือ ซ้ายมือเป็นส่วนของเตียงนอน และขวามือเป็น Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้สะดวก
ห้องตัวอย่างวางเตียง Queen Size และโต๊ะหัวเตียง 1 คู่ มาให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นว่าเมือวางเฟอร์นิเจอร์เข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงและข้างเตียงให้ใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ สามารถเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และกวาดถูพื้นได้ง่ายดี
ข้างเตียงนอนจะมีหน้าต่างบานผสมติดมาให้ 1 ชุดโดยจะมีบานเปิด 1 บาน ไว้รับลม ระบายอากาศ ที่เหลือจะเป็นบาน Fixed ใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดี เปิดรับมุมมองภายนอกได้เต็มสายตา และยังช่วยให้ภาพรวมในห้องนั้นดูโปร่ง โล่ง กว้างมากขึ้นอีกด้วย
ปลายเตียงห้องจริงจะเป็นผนังเปล่าฉาบเรียบทาสี มีแอร์ Wall Type ติดมาให้ 1 ตัว จุดนี้สามารถติดทีวีแขวนผนังหรือชั้นวางของแนวยาวเข้าไปได้ ทางโครงการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 2 จุด และช่องเสียบสาย Cable TV ให้ 1 จุด
อีกฝั่งของห้องนอน หรือบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ โครงการตกแต่งเป็น Walk-in Closet เล็ก ๆ ในห้องจริงลูกค้าจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าบาน Tinted Glass แบบบานเลื่อน ขนาดเท่ากันกับในภาพ ติดกันจะมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งขนาด 1 ที่นั่ง เสริมเข้าไปได้ค่ะ
เมื่อเราวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ครบทั้งห้องเข้าไปแล้ว ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่เหลือกว้างดี สามารถนั่งแต่งหน้า ยืนแต่งตัว รวมถึงเดินเข้าห้องพักและห้องน้ำได้สะดวกดีค่ะ
ข้างตู้เสื้อผ้าจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำอีกทาง ทำให้ห้องนอนเปรียบเสมือนมีฟังก์ชันห้องน้ำในตัวเลยค่ะ
จากห้องนอนมองเข้ามาภายในห้องน้ำ จะได้มุมมองเป็นห้องน้ำหน้ากว้างแบบนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง TYPE D3 : 1 Bedroom New Vertiplex ขนาด 42.50 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง TYPE D3 : 1 Bedroom New Vertiplex ขนาด 42.50 ตร.ม. ห้องพักรูปแบบใหม่จาก AP ที่ได้ฝ้าเพดานสูง 4.4 ม. เพิ่มพื้นที่มากขึ้นเป็น 2 เท่า จากภาพจะเป็นแปลนชั้นล่างที่ภายในแบ่งฟังก์ชันไว้ 4 ส่วน หลัก ๆ คือ ห้องครัวปิด, ห้องน้ำ Double Access, ห้องนอน และ Living Area
จากภาพตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับโถงทางเดิน จุดนี้จะได้ความสูงฝ้าเพดานปกติ ซ้ายมือเป็นที่ตั้งของห้องครัวปิดและห้องเก็บของ ขวามือเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือ จากโถงทางเดินและจากห้องนอน
ตรงเข้ามาอีกหน่อย ขวามือจะเป็นที่ตั้งของห้องนอนชั้นล่าง พร้อมระเบียงส่วนตัว ซึ่งห้องนี้จะสามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องอื่น ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องทำงาน, ห้อง Live ขายของ Online หรือใช้เป็นห้องถ่ายงานของชาว Influencer เพื่อลงใน Platform ต่าง ๆ กันได้ค่ะ
เดินผ่านโถงทางเดินมา ซ้ายมือจะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ เพดานสูง 4.4 ม. พร้อมช่องแสงบานผสมขนาดใหญ่พิเศษ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความโปร่ง โอ่อ่า รับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดี และสามารถเปิดม่านชมวิวเมืองสวย ๆ ในตอนกลางคืนได้
ติดกับ Living Area จะมีบันไดทางขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งจะวางผังเป็นรูปตัว L ในห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ให้ลูกค้าได้ Customize เฟอร์นิเจอร์ได้เองตามไลฟ์สไตล์ โดยโครงการจะมีการกั้นห้องด้วยผนัง Tempered Glass บานกรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ให้ จากมุมนี้จะมองลงมาเห็น Living Area ได้เต็ม ๆ สายตาเลยค่ะ
เริ่มจากด้านหน้าห้องพัก ตรงเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดินที่ใช้แยกไปยังส่วนต่าง ๆ ของห้องพัก ความสูงเพดานส่วนแรกจะอยู่ที่ 2.55 ม. เท่ากันกับแบบห้อง Grand Simplex ตัวพื้นส่วนใหญ่จะปู Laminate ลายไม้ หนา 8 มม. ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี และได้โคมไฟ Led Panel ทั้งห้องค่ะ
เริ่มดูไปทีละส่วนนะคะ เริ่มจากซ้ายมือเป็นที่ตั้งของห้องครัวปิด กั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกใสบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทา เหมือนได้ครัวไทยในบ้าน ส่วนพื้นห้องครัวจะปูเป็น Porcelain Tile 60 x 60 ซม. ไม่บวมน้ำ และช่วยให้ทำความสะอาดได้สะดวก
ตรงเข้ามาจะเป็นห้องครัวตอนลึก มีหน้าต่างกระจกบานผสมติดมาให้ 1 บาน ใช้เปิดระบายอากาศออกนอกห้องได้ เหมือนเวลาที่เรามีครัวไทยและเปิดระบายออกทางลานซักล้างหลังบ้านเลยค่ะ
ส่วนของที่ได้มามาตรฐานจะเป็นชุดครัว Built-in รูปแบบเดียวกันกับห้องก่อนหน้านี้ ในห้องจะมีพื้นที่ใช้งานขนาดกว้างกำลังดี สามารถเตรียมอาหาร, ทำอาหาร, ล้างจาน, ซักผ้า และเปิดตู้เย็นหยิบของได้สะดวก ไม่ติดขัดกับส่วนอื่น ๆ
หน้า Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ผนังครัวทำ Backsplash Porcelain Tile มาให้แบบในภาพ และตรงกลางจะติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
หน้า Top ครัวจะฝัง Sink ฝังเคาน์เตอร์แบบหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกทรงสูงของ Teka มาให้แบบนี้ค่ะ
อีกด้านติดตั้ง Hob 2 หัว ระบบควบคุมแบบสัมผัส พร้อม Slimline Hood ใช้งานง่าย สะดวก
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิด บานพับ Soft Close มาทั้งหมด 3 ตู้ พร้อมชั้นลอยที่ภายในหลายชั้น ช่วยให้เก็บเครื่องปรุงอาหาร, ถ้วยชา-กาแฟ, ถ้วย-ชาม-จาน และของใช้ในครัวเรือนได้เยอะและเป็นระเบียบ
ด้านล่างจะได้ตู้เก็บของบานเปิดใต้ Sink ที่เก็บของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะ ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาดไม่เกิน 7 กก. ที่ด้านหลังจะมีการเดินงานระบบน้ำ-ไฟมาให้พร้อมต่อใช้งาน และขวาสุดจะมีลิ้นชักและช่องวางไมโครเวฟมาให้ครบ
ลิ้นชักชั้นบนสุดเป็นถาดใส่ช้อน-ส้อมเพื่อการหยิบใช้งานได้สะดวก
ด้านล่างเป็นช่องวางไมโครเวฟ ที่ด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้แล้ว ส่วนด้านล่างสุดจะเป็นลิ้นชักเก็บของรางเลื่อนแบบ Soft Close
ตรงข้ามกับชุดครัว จะมีห้องเก็บของพร้อมประตูปิดมาให้ 1 ห้องค่ะ ภายในปูพื้น Porcelain Tile 60 x 60 ซม. ต่อเนื่องเข้าไปเลย ส่วนพื้นที่ใช้งานมีพื้นที่พอเหมาะ สามารถเก็บของชิ้นใหญ่หรือของที่มีขนาดสูง อย่างกระเป๋าเดินทาง, ถุงกอล์ฟ, ร่มกันแดด หรือเครื่องดูดฝุ่นได้
ถัดมาจะเว้นพื้นที่ลึกลงไป รองรับการวางตู้เย็นขนาด 8-12 คิว ได้เลยค่ะ ผนังด้านหลังมีการติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย พร้อมเสียบใช้งานได้เลย
ตรงข้ามกับห้องครัวปิด จะเป็นห้องน้ำ Double Access และห้องนอน
มาดูห้องน้ำกันก่อน ห้องจริงมีประตูติดมาให้ทั้ง 2 บาน ธรณีใช้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ดูหรูหรา ไม่บวมน้ำ และช่วยให้เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่ายดี
ตรงเข้ามาจะได้มุมมองแบบในภาพ คือ จะเจอกับห้องน้ำและประตูอีกบานที่เข้า-ออกได้จากห้องนอน
ห้องน้ำขนาดกว้างขวางดี ตกแต่งพื้นและผนังด้วย Porcelain Tile 60 x 60 ซม. คุมโทนสีอ่อน ได้ความหรูหรา สะอาด น่าใช้งาน ฟังก์ชันการใช้งานภายในจะได้มาเหมือนกันกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ คือ จะมีการแบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย
สุขภัณฑ์มาตรฐานเป็นรุ่นพรีเมียม ติดตั้งมาให้ตำแหน่งตามภาพ ด้านหลังส่วนแห้งมี Low-Wall หินสังเคราะห์สีขาวแนวยาวพอดีพื้นที่ ให้วางของใช้ในห้องน้ำได้เยอะ และติดกระจกเงาขนาดใหญ่มาให้ 1 บาน มีตัวช่วยในการระบายกลิ่น ระบายอากาศ ลดความอับชื้น เป็นพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้า 1 เครื่องค่ะ
ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ ค่ะ ได้อ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง และก๊อกน้ำโครเมียมทรงสูง เปิด-ปิดใช้งานสะดวก ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบ ทั้งหมดใช้เป็นของ Kohler
ผนังด้านหลังจะมี Low-Wall แนวยาว และกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ให้แบบนี้เลย
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ ติดตั้ง Shower Screen Tempered Glass ประตูบานสวิง มือจับสแตนเลสตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้มาให้แบบนี้
พื้นที่ใช้งานกว้างขวางดีค่ะ ยืนอาบน้ำ สระผม ขัดผิวได้ไม่ติดผนังรอบ ๆ
ภายในติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกแบบฝังกำแพง ผนังซ้ายมือติดชั้นวางของหินสังเคราะห์มาให้ และที่ผนังด้านบนจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติด Junction Box รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลยค่ะ
มองกลับมาดูภาพรวมทางด้านหน้าห้องน้ำ จะเห็นว่าขวามือมีประตูอีกบาน ที่ใช้เข้า-ออกได้จากห้องนอนชั้นล่างค่ะ
ไปดูห้องนอน โดยเดินเข้าจากประตูหลักตรงโถงด้านนอกกันต่อ / ห้องจริงจะมีประตูไม้สำเร็จรูป มือจับก้านโยกกลอน Double Lock ติดมาให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในห้องมีพื้นที่ใช้งานกว้างขวางดีค่ะ โดยห้องจริงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in หน้าบาน Tinted Glass แบบบานเลื่อน ติดมาให้บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ 1 ตู้
โดยห้องนอนชั้นล่างหรือห้องอเนกประสงค์ ได้ความสูงฝ้าเพดานที่ 2.15 ม. ห้องนี้จัดเป็นห้องทำงานได้ หรือใช้เป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงเดี่ยว หรืออาจจะเป็นโซฟาเบดไว้รับรองแขกก็ได้ค่ะ
ห้องนี้จะมีระเบียงในตัว ทำให้ห้องดูมีความโปร่งสบายมากขึ้น โดยจะติดตั้งประตูบานเลื่อน ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat พร้อมยกธรณี-วงกบ กันน้ำฝนและสิ่งสกปรกพัดเข้าสู่ห้องพักมาให้แบบนี้
เปิดออกมาจะเจอกับระเบียงหน้ากว้าง ปูพื้นด้วย Ceramic Tile แบบกันลื่น 30 x 30 ซม. ส่วนพื้นที่ใช้งานได้มากว้างดี สามารถจัดสวนบนคอนโด, วางราวตากผ้า หรือจะวางชุดโต๊ะน้ำชา ไว้นั่งรับลมชมวิวเมืองในตอนกลางคืนก็ได้ค่ะ
ผนังขวามือจะติดกริลระแนงความสูง 4.4 ม. เท่ากันกับ Living Area ภายในห้อง ตรงนี้จะติด CDU 3 เครื่อง ปล่อยลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร ทำให้ลูกค้าใช้งานระเบียงได้สบาย ๆ ไม่ร้อนลมแอร์ และที่ด้านล่างมีพื้นที่เหลือให้วางของได้ ที่ผนังติดก๊อกสนามให้ 1 จุด และเจาะท่อระบายน้ำทิ้งที่พื้นมาให้เรียบร้อยค่ะ
อีกฝั่งของระเบียงจะได้เพดานสูงเช่นเดียวกัน มีระยะใช้งานเหลือสบาย ๆ เหนือประตูระเบียงติดโคมไฟกิ่งให้ 1 ดวง ใช้เปิดให้แสงสว่างในตอนกลางคืนได้ค่ะ
จากระเบียงพักผ่อน มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก จะเห็นภาพได้ชัดเจนว่ามีพื้นที่ใช้งานที่กว้าง และถ้าทำเป็นห้องนอน ก็จะเหมือนได้ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวเลยนะคะ ใช้งานได้สะดวกสบายดีทีเดียวค่ะ
จากส่วนแรกของห้องพัก เดินผ่านช่องทางเดินเข้าไปดู Living Area ที่เป็น Highlight ของห้อง New Vertiplex กันต่อค่ะ
สำหรับพื้น Highlight ของตัวห้อง ใครที่ชอบความแกรนด์ของห้องมักจะชอบ Layout รุ่น Vertiplex ที่เป็นโถงห้องนั่งเล่น Double Volume ฝ้าสูงถึง 4.4 ม. ได้หน้าต่างบานยาวสูง Full Height ถึงฝ้าเลย
ส่วนแรกติดกับบันได ทางโครงการตกแต่งเป็นมุมทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ห้องจริง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และฟังก์ชันได้เองตามต้องการ
ติดกันจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนค่ะ โดยจะวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นแนวทาง ซึ่งเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ให้ใช้งานได้สบาย ๆ และสามารถนั่งดูซีรีส์กับทีวีจอใหญ่ได้สบายสายตา
ตรงข้ามกับโซฟาในห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่งแนวยาวค่ะ จุดนี้เลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้เลยตามต้องการ รองรับได้ทั้งชั้นวางทีวีตัวยาว, ตู้โชว์, ชั้นวางของ รวมถึงใช้พื้นที่ข้าง ๆ กันทำเป็นมุมทำงานแบบ 1-2 ที่นั่ง ก็ยังไหว
บริเวณ Living Area จะมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงบานผสม Oversized ความสูงเกือบถึงฝ้าเพดานให้ 1 ชุด แบบนี้ค่ะ โดยตัวบาน Fixed จะใช้รับแสง และเปิดมองวิวด้านนอกได้กว้างมาก ๆ และยังมีบานกระทุ้งติดมาให้อีก 1 บาน ใช้เปิดรับลม เปิดระบายอากาศได้ด้วย
มองกลับมาดูภาพรวมบริเวณ Living Area จะเห็นว่ามีพื้นที่ที่โปร่งโล่งมาก ๆ
ขึ้นไปดูฟังก์ชันบนชั้น 2 กันต่อ ในส่วนของบันไดทางขึ้นจะเป็นทรง U Shape ลูกนอนเป็นไม้ Finger Joint สีอ่อน ราวจับเป็น Tempered Glass มือจับ Finger Joint ชนิดเดียวกันกับลูกนอน โดยจะติดยาวต่อเนื่องไปจนถึงชั้น 2 ให้เลย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนค่ะ ปูพื้นด้วย Laminate ลายไม้ หนา 8 มม. ทั้งชั้น ส่วนจุดที่ชอบของห้องนี้คือเค้ากั้นห้องมาให้เลย แบบนี้ก็จะประหยัดค่าแอร์ได้ และผนังที่เลือกใช้ก็จะเป็นกระจกใส ที่ยังทำให้ห้องได้ความโปร่งสบายอยู่ ส่วนความสูงฝ้าเพดานที่ชั้นลอยจะอยู่ที่ 2 ม.
พื้นที่บนชั้นลอยจะสามารถแบ่งเป็นห้องนอน, Walk-in Closet และโซนด้านนอกอาจจะแบ่งเป็นมุมนั่งทำงาน อ่านหนังสือได้อีกมุมนึง โดยไอเดียที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดู จะทำเป็นมุมทำงานขนาดใหญ่ รองรับการนั่งทำงานได้ 1-2 ที่นั่งได้กำลังพอดี
ส่วนใครที่ขายของ Online หรือทำงาน Online ใน Platform ต่าง ๆ ก็สามารถใช้มุมนี้จัด Prop สวย ๆ แล้วนั่ง Live Steam นั่งอัด VDO หรือตัดต่องานกันได้เลยนะคะ
ระยะใช้งานของจริงได้กว้างเท่านี้เลยค่ะ ซึ่งแม้จะวางโต๊ะทำงานเข้าไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินเข้า-ออก และขึ้น-ลงบันไดได้สะดวก หรือถ้าใครที่มีของใช้เยอะ ๆ จะใช้พื้นที่ตรงนี้ทำเป็นห้องเก็บของก็ได้นะคะ
ถัดจากมุมทำงานเข้ามา จะเจอกับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ เอาใจหนุ่ม-สาวที่รักในการแต่งตัวได้เป็นอย่างดี โดยจุดนี้จะรองรับตู้เสื้อผ้าเข้ามุมขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ และยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1-2 ที่นั่ง ได้ด้วยค่ะ
ต่อเนื่องมาที่ด้านในสุดจะเป็นส่วนของห้องนอน ที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูเป็นแนวทางค่ะ
พื้นที่ส่วนนี้จะรองรับเตียง Queen Size หรือ King Size ได้เลย ข้างเตียงนอนมีพื้นที่เหลือให้เดินเข้า-ออกได้สะดวก และสามารถวางโต๊ะหัวเตียง, ชั้นวางของแนวสูง หรือตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นก็ทำได้
ผนังปลายเตียงที่เป็นส่วนผนังทึบ จะติดแอร์ Wall Type ไว้ให้ 1 เครื่อง ด้านล่างมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 2 จุด และติดช่องเสียบสาย Cable TV ให้ 1 จุด รองรับทีวีแขวนผนังขนาด 40 นิ้ว ได้ และที่ผนังฝั่งหลังห้องจะมีหน้าต่างกระจกบานผสมติดมาให้อีก 1 ชุด
ส่วนผนังที่กั้นห้องบนชั้น 2 จะได้เป็นผนัง Tempered Glass บานกรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ซึ่งการที่ทางโครงการเลือกใช้เป็นผนังกระจก มีข้อดี คือ จะช่วยให้ภาพรวมของห้องทั้งหมดดูกว้าง โปร่ง สว่าง พักผ่อนได้ไม่รู้สึกอึดอัดนั่นเองค่ะ
จากชั้น 2 มองตรงออกมาจะเห็นหน้าต่างกระจกบานผสม Oversized ตรง Living Area แบบนี้
มองลงมาจะเห็นภาพรวมบริเวณ Living Area แบบในภาพค่ะ
ราคา (ก.ค. 66)
ลงทะเบียนรับข้อมูลหรือแอดไลน์เพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://apth.ly/rewa
**หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากโครงการยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการค่ะ**
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Life พหลฯ-ลาดพร้าว คอนโดใหม่ทำสุดฮอต และใกล้จะสร้างเสร็จในปี 2567 นี้แล้วนะคะ โดยโครงการจะอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า ที่มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว เพียง 300 ม.* จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว พร้อม Sky Walk เชื่อม MRT พหลโยธิน, Central ลาดพร้าว และ Union Mall ได้สบาย ๆ
ทั้งยังอยู่ติดกับติดกองปราบปรามฯ และตลาด Jood Fairs แดนเนรมิต รวมถึงใกล้กับโครงการ Mixed-Use ของ Central ‘New Central พหลโยธิน’ เพียงแค่ 250 ม.* เท่านั้น นอกจากนั้นที่นี่ยังอยู่ใกล้กับตลาดนัดสวนจตุจักร และตึกแดง เอาใจคนที่ชอบของมือสอง ของวินเทจ
จากโครงการนั่งรถไฟฟ้าไปเพียงต่อเดียว ก็เดินเข้าสวนได้เลย และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เป็นโครงการที่อยู่ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ถึง 3 สวน ได้แก่ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ), สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อีกด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สำหรับคนใช้รถส่วนตัวถือว่าสะดวกทีเดียว เพราะบนถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นถนนเส้นยาวและไม่ไกลจากห้าแยกลาดพร้าวและแยกรัชโยธิน จึงเชื่อมกับถนนหลักอื่น ๆ ได้อีกหลายสาย ทั้งลาดพร้าว, รัชดาภิเษก และวิภาวดี-รังสิต และมีถนนเส้นรอง เส้นทางลัดให้เลือกใช้เยอะ
จากถนนพหลโยธิน วิ่งผ่านห้าแยกลาดพร้าวมาเรื่อย ๆ ก็เข้าเขตพญาไท ไปยังตัวเมืองกรุงเทพได้เลย หรือจะออกเมืองไปโซนสายไหม, สะพานใหม่ม คูคต ก็ทำได้ง่ายค่ะ อีกทั้งที่ตั้งโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนหลักถึง 3 สาย ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าเมืองและออกนอกเมืองเป็นอย่างดีค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว และ MRT พหลโยธิน ในระยะเดินสบาย ๆ ให้ได้ใช้งานกัน นั่งต่อเดียวถึงสยาม และสายสีเขียวนี้ จะสามารถนั่งเชื่อม 3 จังหวัด กทม.-สมุทรปราการ-ปทุมธานี ได้แบบไร้รอยต่อ
ส่วนรถเมล์จะมีป้ายใกล้ ๆ อยู่ 2 ที่ คือ ที่หน้ากองปราบฯ และหน้า Lotu’s ลาดพร้าว มีรถเมล์ผ่านหลายสายมาก ๆ และมีให้เลือกใช้ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก ทั้งยังมีสะพานลอยให้ใช้ข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย
Taxi และมอเตอร์ไซค์รับจ้างจะมีคิวอยู่ที่ด้านหน้า Lotus’s ลาดพร้าว เรียกใช้งานง่ายมาก ๆ ส่วนใครไม่อยากออกมายืนเรียกรอ สามารถเรียนรถผ่านระบบ Katsan หรือเรียกรถผ่าน Application เอกชนต่าง ๆ แล้วนั่งรอที่ Lobby ได้เลยค่ะ
⇒ การออกแบบโครงการ, ห้องพัก และวัสดุ : ที่นี่พัฒนาเป็นคอนโด High-Rise 40 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักอาศัยรูปแบบใหม่ โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนเพียง 598 ยูนิต และมีห้องพักอาศัยมากถึง 19 รูปแบบให้เลือก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวผังห้องชุดรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตไร้ขีดจำกัด
ทั้งในรูปแบบ Grand Simplex ห้องชุดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.50-65.00 ตร.ม. (เริ่มชั้น 8-34) ที่จัดสรรพื้นที่ห้องครัวแบบปิด เพิ่มขนาดพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างขึ้น ห้องนอนให้เป็นสัดส่วน และพื้นที่ Walk-in Closet พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Fitted
และห้องชุดรูปแบบใหม่ล่าสุดกับ New Vertiplex ห้องชุดเพดานสูง 4.4 ม. เพิ่มพื้นที่มากขึ้นเป็น 2 เท่า พร้อม Walk-in Closet ขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.50-65.00 ตร.ม. (เริ่มชั้น 35-39)
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : พื้นที่ส่วนกลางรวม 6 ชั้น บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มีส่วนกลางทั้ง Outdoor และ Indoor เน้นการออกแบบพื้นที่ที่สะท้อนอัตลักษณ์สไตล์ Timeless Modern ที่เรียบหรูผ่านการเลือกสรรหินอ่อนนำเข้า
และลวดลาย Craftmanship ที่ได้แรงบันดาลใจจากลายเส้นถนนและจุดตัดของผังเมืองโซนพหลโยธิน-ลาดพร้าว มาออกแบบและถักทอผสานเข้าไปยังส่วนกลางจุดต่าง ๆ ภายในโครงการ
จุดเด่นหลักของโครงการนี้คือ Rooftop Facilities ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน 4 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 38 ไปจนถึงชั้น Rooftop ตอบโจทย์การพักผ่อนที่เชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด รองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ มี Fitness หลายฟังก์ชันให้ใช้งานได้ 24 ชม.*
และที่สุดของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็น Highlight คือ Sky Pool Pavilion & Jacuzzi สระว่ายน้ำ 5 ฟังก์ชัน ยาวกว่า 30 ม.* แบบ L Shape ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor อีกทั้งยังสามารถเทควิวสวนสาธารณะ 700 ไร่ ขนาดใหญ่และวิวเมืองลาดพร้าวได้เต็มสายตาเลยค่ะ
ลูกบ้านเข้า-ออกโครงการผ่านระบบ Katsan ที่จะอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ด้วยกล้องระบบ AI ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการ หรือจะให้ลูกบ้านทำ E-Stamp ผ่านมือถือของลูกบ้านแทนก็ได้ค่ะ
ส่วนการเข้า-ออกอาคารและส่วนกลางใช้เป็นระบบ Key Card Access มีกล้อง CCTV ติดมาให้ทั่วทั้งโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราและดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623
Line : https://line.me/R/ti/p/@282vzkmp
Website : https://apth.ly/rewa
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น