รีวิว คอนโด รีเฟล็คชั่น จอมเทียนบีช พัทยา Reflection Jomtien Beach Pattaya
Reflection Jomtien Beach พัทยา จาก เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นคอนโดระดับซูเปอร์ ลักซัวร์รี่ แห่งแรกบนหาดจอมเทียน ตั้งอยู่บนถนนจอมเทียน สาย 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใกล้หาดจอมเทียน, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี และ เซ็นทรัล
รีเฟล็คชั่น จอมเทียนบีช พัทยา เป็นคอนโด High-Rise 42-55 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการ ประมาณ 8-0-89 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 334 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน และ แบบเพ้นท์เ้ฮ้าส์ ขนาดเริ่มต้น 60.21-859 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2556
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, สนามเทนนิส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, รถรับส่ง, Laundry Room, สวนหย่อม ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ, ประตูคีย์การ์ด และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | รีเฟล็คชั่น จอมเทียนบีช พัทยา Reflection Jomtien Beach Pattaya |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 ห้องนอน ขนาด 60.21 – 62.60 ตร.ม. – 2 ห้องนอน ขนาด 102.93 – 116.04 ตร.ม. – 3 ห้องนอน ขนาด 217.55 – 217.85 ตร.ม. – 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ ขนาด 188.79 – 212.39 ตร.ม. – Penthouse ขนาด 305 – 859 ตร.ม. – (Sold Out) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 8 ไร่ 89.00 ตร.ว. |
จำนวนตึก | 2 อาคาร (Ocean Front Tower และ Ocean View Tower) |
จำนวนชั้น | Ocean Front Tower 55 ชั้น และ Ocean View Tower 42 ชั้น |
จำนวนห้อง | 334 ยูนิต – Ocean Front Tower 55 ชั้น จำนวน 102 ยูนิต – Ocean View Tower 42 ชั้น จำนวน 232 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 2 อาคาร มีที่จอดรถรวมกว่า 75% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด |
โซน | ชลบุรี |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนจอมเทียน สาย 1 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2556 |
ราคา | เริ่มต้น 5,900,000 บาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 99,489 บาท/ตรม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | 1. หาดจอมเทียน 2. ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง 3. โรงพยาบาล 4. โรงเรียนนานาชาติ 5. ซุปเปอร์มาร์เก็ต 6. สถานีตำรวจ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, สนามเทนนิส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, รถรับส่ง, Laundry Room, สวนหย่อม, อื่นๆ (สนามเด็กเล่น) |
จุดเด่นของโครงการ | “โครงการรีเฟล็คชั่น จอมเทียน บีช พัทยาเป็นโครงการระดับซูเปอร์ ลักซัวร์รี่ แห่งแรกบนหาดจอมเทียน ตกแต่งด้วยกระจกแบบ Full Height Glass 180 องศา Ocean View พร้อมด้วยสวนลอยฟ้า (Sky Garden) และ Floating cigar lounge & terrace”
เริ่ม 5.9 ล้านบาท แต่งครบ + ฟูกและม่าน ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน (Free All Expenses)* พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้ |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนจอมเทียน สาย 1 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พิกัด google map : 12.864431, 100.893705
แผนที่จากทางโครงการค่ะ สังเกตว่าโครงการจะอยู่ติดถนนเลียบหาดจอมเทียนเลยแบบนี้
โครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya เป็นโครงการคอนโดหรูแบบ High Rise ที่อยู่ติดหาดจอมเทียนเลยค่ะ โดยถนนหน้าโครงการจะเป็นถนนเลียบหาดนาจอมเทียนสาย 1 เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิทได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนนาจอมเทียนสาย 2, ถนนชัยพฤกษ์, ถนนทัพพระยาเชื่อมไปเทพประสิทธิ์ ไปพัทยาใต้และสุขุมวิทได้
นอกจากนี้มีถนนเส้นที่เพิ่งตัดใหม่คือถนนจอมเทียนสาย 2 จะเริ่มจากทัพพระยายาวาสุดที่สุขุมวิทได้อีกทาง หลักๆเวลาจะเข้าโซนพัทยาก็วิ่งตามเส้นเลียบหาดจอมเทียน 1 ไปเข้าทัพพระยา แล้วเลี้ยวขวาเข้าเทพประสิทธ์ก็เข้าไปสู่พัทยาใต้, พัทยากลาง, พัทยาเหนือได้แล้วค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีนะคะ ว่าพัทยาเป็นโซนที่มีความสะดวกสบายสูง เป็นทำเลทองยอดนิยมของชาวต่างชาติ เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนนึง และผับบาร์และแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีก็เป็นอีกจุดนึงที่ถือเป็นแม่เหล็กดึงชาวต่างชาติมาพักผ่อนแฮงก์เอาต์ที่พัทยากัน ทำให้มีโรงแรม คอนโดมิเนียม และรีสอร์ทต่างๆผุดขึ้นมามากมาย
โครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya มีทำเลอยู่ติดหาดจอมเทียนโซนที่เงียบสงบ บรรยากาศเหมือนหาดส่วนตัวแนวหัวหินมากกว่าแนวพัทยาค่ะ รอบๆจะเป็นโรงแรมและร้านอาหารซะเยอะ จะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนแบบอะโกโก้บาร์ หรือใดๆแบบพัทยาใต้นะคะ คือจะอยู่ห่างออกมาและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติหรือคนไทยที่ต้องการมาทะเลสงบๆ หาดสะอาดๆ หาอาหารทะเลอร่อยๆกิน แล้วอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถมาแปปเดียวถึง แบบนี้ซะมากกว่า
ส่วนห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะเกาะตัวอยู่ในโซนพัทยาซะมากกว่าค่ะ จากโครงการตรงตามเส้นเลียบหาดจอมเทียนไปตามทางเรื่อยๆ ง่ายๆเลย ประมาณ 7 – 8 กิโลเมตรก็จะเป็นโซนพัทยาแล้วค่ะ ก็เป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและเปิดแทบทั้งวันทั้งคืน เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร โดยมีระยะห่างจากโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya เป็นระยะทางดังนี้
วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน โดยเส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนมอเตอร์เวย์ → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท → เลี้ยวขวาเข้าถนนพัทยาใต้ → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพประสิทธิ์ → เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบหาดจอมเทียน → ตรงไปเรื่อยๆจะเจอโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya อยู่ทางซ้ายมือค่า
เริ่มเดินทางกันจากมอเตอร์เวย์มาพัทยา จะเจอป้ายตรงไปพัทยากลางกับพัทยาเหนือแบบนี้ ส่วนเราตรงไปนะคะ
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท
บนถนนสุขุมวิทโซนพัทยานี้จะมีอาคารพาณิชย์ ห้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างเยอะค่ะ จะมีป้ายเลี้ยวขวาเข้าพัทยากลางไปเซ็นทรัล เฟสติวัลได้ แต่วันนี้เราตรงไปเรื่อยๆนะคะ
ตรงไปอีกหน่อยจะเห็นป้ายเลี้ยวขวาไปพัทยาใต้อยู่ เราก็ชิดขวาเตรียมเลี้ยวขวานะคะ ขวามือจะมีห้าง Big C อยู่
เลี้ยวขวาเข้าพัทยาใต้ค่ะ
แล้วเราตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายเลี้ยวซ้ายไปหาดจอมเทียนอยู่ เราก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปเลยค่ะ
ตรงตามป้ายหาดจอมเทียนไปเรื่อยๆ
พอเจอป้ายถนนทัพพระยา ที่แยกทัพพระยาให้เลี้ยวซ้าย
จากแยกทัพพระยาพอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบหาดจอมเทียนมา รวมระยะทางประมาณ 5.6 กิโลเมตร ก็จะเจอโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya อยู่ทางซ้ายมือค่า ไปดูภาพการเดินทางกันต่อเลย
จากแยกทัพพระยา เราเลี้ยวซ้ายมาแล้วตรงไปตามทางเรื่อยๆนะคะ ที่ถนนทัพพระยานี้ถ้าเราเลี้ยวขวาจะเป็นถนนพระตำหนักค่ะ แต่เราตรงไปนะคะ
แล้วก็จะเจอป้ายทางเข้าหาดจอมเทียนในที่สุด
เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบหาดเลยค่ะ
ถนนเลียบหาดจอมเทียนเป็นถนน 2 เลน มีที่กว้างพอจอดรถข้างถนนได้ฝั่งนึง ขวามือจะเป็นทะเลหาดจอมเทียนค่ะ ซ้ายมือก็จะเป็นโรงแรมติดหาดและร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว
ตรงผ่านบ้านสวน นาจอมเทียน ที่เป็นทั้งร้านอาหารและรีสอร์ทไป
จะเจอร้าน สุดทางรัก พัทยา ซึ่งเป็นจุดสังเกตที่สำคัญนะคะ เพราะเป็นร้านอาหารใหญ่มาก อยู่ติดกับโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya เลย พูดง่ายๆว่าถ้ามาถึงสุดทางรักนี่ก็เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงโครงการแล้วค่ะ
ส่วนถ้าเราอยากไปเที่ยวถนนคนเดินแบบไม่ต้องขับรถไปก็นั่ง 2 แถวอย่างในภาพได้ มีวิ่งวนไปเส้นพัทยา 10 บาทต่อคนเท่านั้นค่ะ
ตรงไปอีกหน่อย จะเห็นว่าร้านสุดทางรักนี้เป็นร้านใหญ่นะคะ จะมีส่วน Wine Bar ด้วย นอกจากส่วนอาหารซีฟู้ด
ตัวโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya ก็จะอยู่ถัดจากร้านสุดทางรักมาแบบนี้
เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya ได้เลยค่ะ
จากหน้าโครงการมองออกไปจะติดหาดจอมเทียนแบบนี้เลย
ตัวโครงการ
โครงการ Reflection เป็นโครงการคอนโดหรูแบบ High Rise ที่อยู่ติดหาดจอมเทียนเลยค่ะ โดยที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนด้านหน้าทางเข้าติดทะเลหรือหาดจอมเทียน อีกสามด้านล้อมรอบไปด้วยโรงแรมและร้านอาหาร แต่ก็เป็นอาคารแบบ Low Rise แทบทั้งหมด Reflection เลยเป็นโครงการที่มองเห็นวิวออกไปได้ไกล และเห็นวิวทะเลหาดจอมเทียนในโซนที่สงบและสะอาดตาอย่างชัดเจน
ตัวอาคารในโครงการจะเป็นอาคารคู่กัน 2 อาคาร คือ Tower A (Ocean Front Tower / 55 ชั้น, 102 ยูนิต) และ Tower B (Ocean View Tower / 42 ชั้น, 232 ยูนิต) ซึ่งโครงการออกแบบตัวตึกให้เป็นรูป 3 เหลี่ยมเพื่อให้อาคาร B ที่อยู่ด้านหลังสามารถรับวิวทะเลได้ และส่วนด้านของอาคารจะไม่ปะทะกันตรงๆ ทำให้ทุกยูนิตได้เห็นวิวทะเลเหมือนกัน โดยทั้งสองอาคารจะมีระยะห่างกันอยู่ประมาณ 50 เมตรค่ะ
อาคาร A เป็นอาคารที่อยู่ติดหน้าหาดริมทะเลเลย ด้านหน้าของอาคารจึงหันเข้ารับวิวทะเลได้เต็มๆ เป็นมุมกว้างไม่มีอะไรบัง ก่อนจะเข้าไปดูภายในโครงการกัน เรามีภาพวิวจากอาคารและตัวอาคารมาให้ชมกันก่อนค่ะ
จากด้านหน้าทางเข้าโครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya จะเห็น Tower A ที่อยู่ด้านหน้าและหันด้านกว้างของอาคารมาด้านหน้าเพื่อรับวิวทะเลได้แบบมุมกว้าง
Tower A จะมียูนิตชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้น ภายนอกของอาคารส่วนระเบียงถูกออกแบบให้โค้งเว้าสลับกันเหมือนเกลียวคลื่น เนื่องจาก Tower A ชั้นนึงจะมียูนิตเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยจะเป็นยูนิตใหญ่แบบ 3 ห้องนอน และมีระเบียงอยู่ตรงกลางของแต่ละยูนิต ซึ่งก็เป็นระเบียงโค้งที่เราเห็นด้านหน้าอาคารนั่นเองค่ะ ส่วนมุมอาคารทั้งสองฝั่งที่เป็นกระจกเข้ามุมรูปทรงคล้ายผลึกนั้นเป็นหน้าต่างในห้องนอนใหญ่ของยูนิตที่ออกแบบมาให้รับวิวทะเลได้เต็มที่นั่นเองค่ะ
มุมมองระเบียงโค้งจากภายใน จะเห็นว่าระเบียงห้องมีกว้างขวางมากทีเดียวสมกับเป็นคอนโดระดับไฮเอนด์ริมทะเลนะคะ และมีความโค้งล้อไปกับคลื่นทะเล เช่นเดียวกันกับเพดาน ต่อให้ไม่ยืนริมระเบียงก็เห็นผืนน้ำทะเลเป็นแผ่นกว้างอย่างที่เห็น
เพราะเป็นอาคาร A ที่อยู่ติดหน้าหาดจอมเทียนเลย วิวที่เห็นจึงเป็นวิวทะเลมุมกว้าง ไม่มีอะไรบัง และหาดจอมเทียนโซนหน้าโครงการมีลักษณะเหมือนชายหาดส่วนตัว คือมีความสงบและสะอาดตา ไม่มีร่มมาปักที่หาด ไม่มีนักท่องเที่ยวมาปูเสื่อนั่ง หรือเล่นบานาน่าโบ้ทให้เห็นที่ด้านหน้าโครงการ
ภาพนี้เป็นมุมมองภายในของห้องนอนใหญ่ หรือหน้าต่างเข้ามุมทรงผลึก(Moonroof Corner Window) ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนั่นเอง เป็นหน้าต่างที่ทำให้ได้รับวิวทะเลแบบฟ้าจรดน้ำในมุมมองที่กว้างขึ้น มุมกระจกตรงกลาง ระหว่างเพดานกับผนัง ยังยื่นออกไปจากแนวพื้นห้องทำให้เห็นท้องฟ้าและน้ำทะเลชัดขึ้นไปอีกด้วย
ภาพด้านหลังของ Tower A ค่ะ อันนี้ถ่ายจาก Tower B จะเห็นระเบียงส่วนด้านหลังของ Tower A และ Grill เหล็กสีขาวที่ใช้บังตัวแอร์คอมเพรสเซอร์ก็ทำให้มองอาคารจากภายนอกแล้วดูเรียบร้อยและมีความต่อเนื่องดี
จากทางเดินเข้ามามองขึ้นไปด้านบนจะเห็นอาคารคู่หันมุมเข้าหากันและหันด้านออกรับวิวทะเลแบบนี้ Tower A (Ocean Front Tower / 55 ชั้น, 102 ยูนิต) อยู่ทางขวา ส่วน Tower B (Ocean View Tower / 42 ชั้น, 232 ยูนิต) อยู่ทางซ้ายมือ .. Tower A ที่อยู่ติดหาดมากกว่าจะมีความสูงมากกว่า Tower B 13 ชั้น
จาก Tower A มองไปที่ Tower B ค่ะ ตัวอาคารของ Tower B ก็จะหันมุมเข้ามาที่ Tower A เพื่อให้ระเบียงรับวิวทะเลได้ โดยไม่ถูก Tower A ที่อยู่ด้านหน้าบังวิวทะเลนั่นเอง
ภาพวิวจาก Tower B มองออกไปทางฝั่งสัตหีบ โดยจะเห็นหาดจอมเทียนอยู่ทางขวามือ ที่ดินข้างๆโครงการส่วนใหญ่เป็นโรงแรมและร้านอาหารแบบ Low Rise ทำให้มองวิวออกไปได้ไกลอย่างที่เห็น
ภาพวิวจาก Tower B มองออกไปทางฝั่งเกาะล้าน โดยจะเห็นหาดจอมเทียนอยู่ทางซ้ายมือ ที่ดินข้างๆโครงการส่วนใหญ่เป็นโรงแรมและร้านอาหารแบบ Low Rise ทำให้มองวิวออกไปได้ไกลเช่นกัน
มาดูผังโครงการชั้นล่างกันต่อค่ะ ถนนทางเข้าออกภายในโครงการนี้จะอยู่ชิดฝั่งขวามือและมีอาคารจอดรถ 3 ชั้นอยู่ด้านหลัง ด้านบนเป็นคอร์ตเทนนิส Tower A และ B ทั้ง 2 อาคารอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อด้วย Lobby Pavilion ที่ด้านข้างเป็นวิวสระบัว และสระว่ายน้ำอีกส่วนที่เรียกว่า Social Pool มีความพิเศษคือจะเป็นส่วนสระที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆอยู่ พร้อมสนามเด็กเล่นและลานบาร์บีคิวอยู่ใกล้ๆ และมีสระว่ายน้ำที่เป็นไฮไลท์ของโครงการอยู่ส่วนด้านหน้าโครงการติดหาดจอมเทียนอีก 2 สระอีกด้วย
โครงการนี้ให้ Facilities มาเยอะค่ะ และมีรายละเอียดที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยด้วย อันนี้เราอธิบายภาพรวมให้เห็นภาพก่อนพาไปดูภาพกันทีละส่วนนะคะ
เอาภาพตัดให้เห็นชั้นและความสูงของทั้ง 2 อาคารมาให้ดูกันค่ะ จะเห็นว่า Tower A นั้นออกแบบให้มีแค่ 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ส่วน Tower B จะมี 7 ยูนิตต่อชั้นและมีบางยูนิตที่เป็นแบบเพดานสูง เบิ้ลชั้นอยู่ ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ
อย่าง Tower A ชั้นล่างสุดจะมีห้อง Sauna แยกชายหญิง ที่ชั้นลอยหรือ M จะมี Kid’s Club, ห้อง Aerobic & Yoga และห้อง Fitness ที่ Sky Lounge ชั้น 26 มี Relaxation Room, Sky BBQ Terrace & Lounge, Sky Multi-Purpose Room และ Multi-Purpose Room
Tower B จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักๆเหมือนกับ Tower A เลยคือ ที่ชั้น M จะมี โต๊ะพูล, ห้องเครื่องซักผ้า, ห้อง Aerobic & Yoga และห้อง Fitness และมี Sky Lounge ชั้น 22 ที่มี Sky BBQ Terrace, Sky Lounge & Garden และ ห้องอเนกประสงค์พร้อมครัว
เราจะพาเดินดูกันไล่ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการเข้าไปด้านในนะคะ เริ่มจาก Facilities ชั้นล่าง โซนด้านหน้าสุดที่ติดหาดจอมเทียนที่จัดเป็นไฮไลท์ของโครงการ Reflection จุดนึงเลย คือมีสระว่ายน้ำวิวทะเลมาให้ 2 สระเลย คือ Lap Pool กว้าง 8 เมตร ยาว 50 เมตร ตามมาตรฐานโอลิมปิก ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้
สระถัดมาจะกว้างกว่า เอาไว้ว่ายน้ำเล่นหรือจะนอนอาบแดดไปเอาข้อเท้าแช่น้ำไปก็ได้เพราะมีที่นั่งให้กลางสระเลย ข้างสระจะมี Cigar Lounge อยู่ติดกับสระด้วยเอาไว้นั่งพักผ่อนหลบแดด จิบไวน์ สูบซิการ์ไป ชมวิวทะเลไปได้ด้วยค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่าา 🙂
เริ่มกันจากด้านหน้าโครงการกันก่อน ถนนทางเข้าโครงการค่อนข้างกว้างเลยค่ะ รถเข้าออกสวนกันได้ถึง 4 คัน และมีป้อมรปภ. อยู่ด้านข้างฝั่งขวามือ
พื้นถนนโครงการเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ สองฝั่งข้างทางยกพื้นเป็นทางเดิน ทางเดินฝั่งซ้ายอยู่ติดกำแพงโครงการสูง 3 เมตร ข้างกำแพงปลูกพุ่มไม้เป็นแนวยาวสร้างบรรยากาศร่มรื่นได้ดี ทางเดินฝั่งขวามือจะกว้างกว่าอยู่ติดสระว่ายน้ำ โดยมีทางลาดขึ้นไปสระว่ายน้ำด้านหน้าโครงการ และปลูกไม้ยืนต้นมาให้เป็นแนว
ที่จอดรถจะมี 2 จุด จุดแรกอยู่ส่วนด้านหน้าใต้สระว่ายน้ำ ถ้าอยู่ Tower A สามารถจอดรถใต้สระว่ายน้ำได้ แต่ถ้าอยู่ Tower B ก็ไปจอดที่ตึกจอดรถด้านหลังที่ด้านบนเป็นคอร์ตเทนนิสค่ะ
ภายในที่จอดรถของตึก A จะมีทางขึ้นไปสระส่วนกลางหน้าตึก A พอดี
ถ่ายภาพมุมสูงให้เห็นส่วน Facilities ด้านหน้าตึกมาให้ดูค่ะ จะเห็นว่าติดหาดจอมเทียนแบบนี้
ส่วนด้านหน้านี่จัดเป็นไฮไลท์ของโครงการ Reflection จุดนึงเลย คือมีสระว่ายน้ำวิวทะเลมาให้ 2 สระเลย สระขวามือของภาพคือ Lap Pool กว้าง 8 เมตร ยาว 50 เมตร ตามมาตรฐานโอลิมปิก ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้
สระซ้ายมือจะกว้างกว่า เอาไว้ว่ายน้ำเล่นหรือจะนอนอาบแดดไปเอาข้อเท้าแช่น้ำไปก็ได้เพราะมีที่นั่งให้กลางสระเลย ข้างสระจะมี Cigar Lounge อยู่ติดกับสระด้วยเอาไว้นั่งพักผ่อนหลบแดด จิบไวน์ สูบซิการ์ไป ชมวิวทะเลไปได้ด้วยค่ะ
ออกแบบมาได้สวยและลงตัวดีค่ะ ทั้งตัวสระที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายตามลักษณะการใช้งาน วิวทะเลที่มีความต่อเนื่อง และส่วนที่นั่งพักผ่อน ศาลา การจัดสวน จะเห็นว่าสระด้านหน้ามีกริดไลน์และจังหวะการจัดวางที่ออกแบบมาอย่างสวยงามทีเดียว
เดินไปดูส่วนสระว่ายน้ำด้านหน้ากันต่อค่ะ ทางเดินฝั่งขวามือจะอยู่ติดสระว่ายน้ำที่ถูกยกพื้นขึ้นไปประมาณ 2 เมตรให้พ้นจากระดับสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีทางลาดให้เดินขึ้นไปส่วนสระว่ายน้ำ ผนังเป็นผิวทรายล้าง และฝังไฟสำหรับตอนกลางคืนมาให้เป็นระยะ
ขึ้นมาด้านบนจะเป็นทางเดินหน้าสระทั้งสองสระนะคะ ขวามือของภาพเป็นบันไดทางขึ้นไปส่วน Lap Pool
ขึ้นมาหน้าสระแบบ Lap Pool จะมีที่นั่งหน้าสระมาให้ 3 ตัว
Lap Pool สระว่ายน้ำกลางแจ้งวิวทะเลขนาด 8 x 50 เมตร ลึก 1.3 เมตร ซึ่งความยาว 50 เมตรเป็นขนาดสระโอลิมปิกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายจริงจังนะคะ สระเป็นแบบ Infinity Edge Pool ทำให้มุมมองมีความต่อเนื่องกับผืนน้ำทะเลด้านหน้าอย่างที่เห็นในภาพ
ตัวสระ Lap Pool จะลึกกว่าสระด้านข้างนะคะ สังเกตจากพื้นขอบสระที่ยกขึ้นมาสูงกว่าประมาณ 20 เซนติเมตร ตรงกลางระหว่างสระปลูกต้นไม้มาเป็นแนว เพื่อความร่มรื่น และเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย
มองไปที่สระว่ายน้ำอีกสระด้านข้าง จะมีขนาดสระกว้างกว่า พื้นที่ส่วนแรกเป็นสระน้ำไหลสูงแค่ประมาณข้อเท้า เราลองเดินลุยดู ให้ความรู้สึกที่ดีกับเท้านะคะ เหมือนเดินในลำธารน้ำไหลอะไรแบบนั้นเลย แต่พื้นเรียบแล้วก็ช่วยนวดเท้าเวลาเมื่อยๆได้กำลังดี อันนี้ติดใจมาก และมีที่นั่งกลางสระมาให้ด้วยและปรับเอนได้อย่างที่เห็น ด้านข้างจะมีศาลาข้างสระพร้อมชุดโซฟาให้นั่งหลบแดดได้อีกจุด
ชุดที่นั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ Out Door พร้อมโต๊ะกาแฟ สำหรับนั่งพักผ่อน สังสรรค์ข้างสระ
ทางเดินหน้าสระฝั่งนี้ก็จะมีที่นั่งข้างสระมาให้อีก 5 ตัว
ข้างศาลาริมสระจะมีจุดล้างตัว ล้างเท้าก่อนลงสระอยู่ ฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower ให้มา 2 จุด
จากสระมองออกไปจะมีความต่อเนื่องกับผืนน้ำทะเลที่หาดจอมเทียนด้านหน้าแบบนี้ค่ะ ชอบการเลือกสีกระเบื้องสระที่มีความกลมกลืนไปกับสีของน้ำทะเลด้วย ทำให้ดูมีความต่อเนื่องมากขึ้นไปอีก
อาคาร Cigar Lounge ปลายสระใกล้หาดจอมเทียน ถูกออกแบบให้อยู่บนผิวสระว่ายน้ำ สามารถนั่งห้อยขาเล่นได้เลย และผนังกระจกจะสามารถเปิดออกได้เป็นทั้งประตูและหน้าต่างไปในตัวและมีทางเดินขึ้นไปนั่งรับลมด้านบนอาคารด้วย
ภายใน Cigar Lounge จะมีชุดเก้าอี้มาให้นั่งชุดใหญ่
ขอบสระว่ายน้ำ ขอบส่วนที่อยู่ตรงข้ามกับ Cigar Lounge จะมีที่นั่งในสระแบบจากุซซี่อยู่
ถัดจากศาลาริมสระมีลู่วิ่งต่างระดับมาให้แบบนี้
ถัดจากสระเข้ามา หน้า Tower A จะมี Reflective Pool คั่นระหว่างสระว่ายน้ำด้านหน้า กับทางเดินเข้าออกจาก Tower A ไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้สระด้านหน้า ก็จะเป็นทางเดินมีสระน้ำไหลสูงประมาณข้อเท้า แต่ปูพื้นกระเบื้องสระเป็นสีดำอมเทา และมีทางเดินปูแผ่นหินไปที่นั่งกลางสระได้
ภาพทางเดินเชื่อมในส่วนของ Reflective Pool ระหว่างสระว่ายน้ำและ Tower A ค่ะ ซ้ายมือจะเป็นบันไดทางลงไปที่จอดรถใต้สระว่ายน้ำ ขวามือจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำชายหญิง, ห้องซาวน่า และ Tower A
ทางลงไปลานจอดรถใต้สระว่ายน้ำ จะเป็นขั้นบันไดลงไปแบบนี้
ก็จะเป็นทางเดินมีสระน้ำไหลสูงประมาณข้อเท้า และมีทางเดินไปที่นั่งกลางสระได้
ที่นั่งกลางสระจะวางลงบนพื้นผิวทรายล้างล้อมรอบด้วยตัวบ่อน้ำอีกทีค่ะ สังเกตพื้นน้ำจะเห็นว่ามีลักษณะไหลเอื่อยๆอยู่ตลอดคล้ายน้ำทะเลจริง ส่วนตัวเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Out Door หวายเทียมพร้อมเบาะ จะมี Armchair และโต๊ะข้างมาให้วางเครื่องดื่มได้ โซนนี้เรียกว่า Floating Private Cabana ค่ะ
ไปดูห้องน้ำและห้อง Sauna กันต่อค่ะ ก็จะแยกฝั่งชายหญิงนะคะ โดยของผู้หญิงจะอยู่ฝั่งซ้าย ของผู้ชายจะอยู่ฝั่งขวา
ภาพประตูทางเข้าห้องน้ำหญิงค่ะ เป็นประตูบานสูงไซส์พิเศษ
เข้ามาในห้องน้ำจะเป็นห้องเพดานสูงแบบนี้ ฝ้าเพดานมีการเล่นไฟซ่อน ฝั่งขวามือส่วนแรกที่เห็นจะเป็นส่วนของห้องโถสุขภัณฑ์ 3 ห้อง เคาน์เตอร์อ่างล้างมือสองอ่างพร้อมกระจกเงาบานสูง ผนังด้านหลังเป็นหินโมเสกจรดเพดาน พื้นเป็นกระเบื้องผิวด้านแบบสามสีโทนเทาดำ
หน้าตาส่วนห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ตรงเข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อ
สุดทางจะมีล็อกเกอร์เก็บของมาให้ บนที่นั่งหินแกรนิตสีดำ มีไฟซ่อนด้านล่าง โซนนี้จะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าค่ะ โดยห้องซาวน่าจะอยู่สุดทางฝั่งขวามือ
ห้องอาบน้ำมี 2 ห้อง มีทั้งฝักบัวและ Rain Shower มาให้แบบนี้
ส่วนห้องซาวน่าเปิดเข้าไปถ่ายนี่อุ่นมากำลังน่านั่งเลย ก็มีแม่บ้านเตรียมหิน เตรียมห้องเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ ด้านในเป็นที่นั่งรูปตัว U นั่งได้ประมาณ 6 คนกำลังสบายๆ ไม่อึดอัด
ออกจากห้องน้ำมาจะเป็นทางเดินไปเข้าล็อบบี้ของ Tower A นะคะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูกันอีกที ตอนนี้ขอพาเดินดูพื้นที่ส่วนกลางด้านล่างให้หมดก่อน
ถัดเข้ามาโซนตรงกลางจะมี Tower A และ B ทั้ง 2 อาคารอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อด้วย Lobby Pavilion ที่ด้านข้างเป็นวิวสระบัว และสระว่ายน้ำอีกส่วนที่เรียกว่า Social Pool มีความพิเศษคือจะเป็นส่วนสระที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆอยู่ พร้อมสนามเด็กเล่นและลานบาร์บีคิวอยู่ใกล้ๆ จะเป็นอย่างไรไปดูกันต่อเลยค่า
Lobby Pavilion ที่เชื่อมอยู่ระหว่าง Tower A และ Tower B ด้านหน้ามีลานจอดรถมาให้ กรณีรับส่งคนลงที่ล็อบบี้
ทางเดินไปล็อบบี้ที่เชื่อมมาจาก Tower A ก็จะมีทั้งทางลาดสำหรับรถเข็นและขั้นบันได ตกแต่งด้วยเสาและระแนงที่ออกแบบมาแบบมีดีเทลดี
รวมถึงรายละเอียดของงานพื้นและ Hard Scape ต่างๆก็มีดีเทลที่สวยงามและน่าสนใจค่ะ ทางขึ้นมา Lobby Pavilion ของโครงการก็จะแต่งพื้นและเสาด้วยหินสีขาวดำ
ตัวล็อบบี้เองก็ล้อมด้วยสระบัวยกพื้นขึ้นไปประมาณ 50 เซนติเมตร มีน้ำตกจากสระบัวลงมาที่พื้นทางเดินเชื่อมด้วย ทำให้มีความรู้สึกเชื่อมต่อกันดี และได้ยินเสียงน้ำไหลในระดับที่พอดีๆ สร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
ด้านใน Lobby Pavilion ค่ะ เอาไว้ต้อนรับแขกหรือนั่งเล่นเองก็ได้ ตัวล็อบบี้มีความพิเศษคือสองฝั่งเป็นผนังกระจกที่เปิดออกรับลมได้เต็มที่ ในลักษณะของศาลาแบบ Semi Outdoor ได้ จากในภาพนี่ฝั่งขวาที่ติดสระบัวจะปิดม่านอยู่นะคะ
พอเปิดม่านมาฝั่งขวามือนี่จะมองออกไปเห็นวิวสระบัวทางฝั่งขวามือได้
ภาพสระบัวทางฝั่งขวามือค่ะ
ออกมาจาก Lobby Pavilion จะเห็นว่ามีชุดที่นั่งเอาไว้ให้เห็นเรื่อยๆค่ะ
ออกมาจาก Lobby Pavilion จะเป็นทางเดินเชื่อมไป Tower A เลี้ยวขวาจะเป็นทางเดินไป Social Pool ซึ่งมีความพิเศษคือจะเป็นส่วนสระที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆอยู่ พร้อมสนามเด็กเล่นและลานบาร์บีคิวอยู่ใกล้ๆ
เราเดินเข้าไปดู Social Pool กันต่อเลยค่ะ
Social Pool เป็นสระน้ำไหลอยู่ด้านข้าง Lobby Pavilion เป็นสระที่เหมาะจะพาเด็กมาเล่นเพราะออกแบบมาให้มีพื้นที่เล่นพร้อมลูกเล่นสนุกหลายส่วนเลยค่ะ และส่วนที่ออกแบบมาได้ดีคือ จะมีส่วนที่นั่งข้างสระหลายแบบที่ผู้ใหญ่ก็สามารถนั่งพักผ่อนแล้วเพลินเพลินกับสระน้ำได้เช่นกัน
ข้างๆสระว่ายน้ำจะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กมาให้ด้วย ประมาณว่าโซนนี้ให้เล่นได้เต็มที่ไปเลย
ส่วนเครื่องเล่นสำหรับเด็กก็จะวางมาบนสนามหญ้าเทียม เป็นชุดสไลเดอร์แบบนี้
ถัดมาจะเป็นส่วนสระน้ำไหลที่ลึกแค่ระดับข้อเท้า เน้นเป็นโซนปีนและไถลตัวเล่นของเด็กๆมากกว่า
มีลูกเล่นที่พิเศษอยู่คืออุโมงค์น้ำ ที่ปกติปิดอยู่แบบนี้
แต่ช่วงเย็นจะมีน้ำพุ่งออกมาแบบนี้ค่ะ
และมีลานสไลเดอร์มาด้วย
ภาพรวมทางขึ้นลานสไลเดอร์จะมีราวกันตกมาให้เรียบร้อย
ถัดจากลานสไลเดอร์จะเป็นส่วนสระว่ายน้ำ
ข้างสระว่ายน้ำโซนนี้จัดที่นั่งมาให้หลายจุดเลยค่ะ มีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งริมสระแบบหาอะไรมานั่งทานตรงนี้ได้สะดวก
และมีที่นั่งบนสระน้ำที่เอาเท้าจุ่มน้ำไปนั่งเล่นไปได้แบบนี้
มีแม้กระทั่งเตียงริมสระสำหรับนั่งเล่น นอนเล่นกันได้แบบนี้
ส่วนอาบน้ำก่อนลงสระมีมาให้ 2 จุดค่ะ จะอยู่หลังโซนที่นั่งข้างสระ
ด้านในจะมี Rain Shower มาให้ล้างตัวได้แบบนี้
ถัดจากสระว่ายน้ำ ข้างสระอีกฝั่งนึงจะมีลานบาร์บีคิวอยู่
บ่อน้ำที่คั่นระหว่างส่วนสระว่ายน้ำกับลานบาร์บีคิวค่ะ
ส่วนลานบาร์บีคิวทำมาเป็นเคาน์เตอร์หินขนาดใหญ่ มีเตาและอ่างล้างจานมาพร้อม มีพื้นที่เตรียมอาหารและวางอาหารมาให้เยอะดี
มีชุดโต๊ะเก้าอี้ทานอาหารสำหรับ 6 – 8 คนมาให้ 3 ชุด ก็จัดปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงหรือเพื่อนร่วมงานกันได้สบายๆค่ะ
เราเดินไปดูส่วนกลางใต้ Tower B กันต่อค่ะ ทางเดินเชื่อมไป Tower B ก็จะมีทั้งบันไดและทางลาดสำหรับรถเข็น
ด้านข้างมีสนามไดร์ฟกอล์ฟเล็กๆอยู่ด้วย
ที่หน้าทางเข้า Lobby ของ Tower B จะมีห้องสมุดอยู่
ภายในห้องสมุดจะมีชุดที่นั่งมาให้หลายชุดค่ะ เป็นห้องเพดานสูง พื้นปูแผ่นไม้สีเข้ม และผนังส่วนใหญ่เป็นผนังกระจกล้อมด้วยรั้วพุ่มไม้ ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาและมีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ
ชุดที่นั่งด้านในห้องสมุด จะมีทั้งชุดโซฟา อาร์มแชร์ สตูล และโต๊ะกาแฟตรงกลาง ด้านข้างเป็นชั้นหนังสือที่มีนิตยสารให้อ่านหลายหัวและหนังสืออีกหลายเล่ม
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะมีที่นั่งแบบแขวนและโต๊ะเคาน์เตอร์พร้อมเก้าอี้สูงมาให้
ส่วนด้านหลังห้องสมุดจะเป็นส่วนของสำนักงานนิติบุคคลค่ะ
ตอนนี้เราเดินมาถึงส่วนด้านหลังของโครงการกันแล้วค่ะ พื้นที่ส่วนกลางด้านหลังโครงการจะเป็นส่วนอาคารที่จอดรถสามชั้นที่ชั้นดาดฟ้าเป็นคอร์ตเทนนิส
จาก Tower B มองลงมาจะเห็นอาคารจอดรถ 3 ชั้นพร้อมคอร์ตเทนนิสด้านบนชัดเจน ก็จะเป็นอาคารจอดรถที่อยู่ใกล้ Tower B ค่ะ มีทางเดินเชื่อมเข้าอาคารมาให้กรณีฝนตก
เดี๋ยวเราพาเข้าไปเดินดูด้านในกันนะคะ สำหรับรถจะมีทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคารด้านนี้
ส่วนทางเดินเข้าอาคารจอดรถ จะมีทางเชื่อมกับ Tower B อยู่
ภาพภายในลานจอดรถค่ะ
ที่ลานจอดรถจะมีลิฟต์และบันไดสำหรับขึ้นลงอยู่ เดี๋ยวเราขึ้นไปดูคอร์ตเทนนิสกันต่อเลยค่ะ
คอร์ตเทนนิสจะอยู่ชั้น 4
เข้ามาก็จะเป็นสนามเทนนิส 2 สนามซ้ายขวา พร้อมที่นั่งพักมาให้ตรงกลางแบบนี้ค่ะ
สนามเทนนิสฝั่งซ้าย
สนามเทนนิสฝั่งขวา
เดี๋ยวเราพาขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางบนอาคารกันต่อค่ะ เริ่มกันจาก Tower A กันก่อนค่ะ ทุกอาคารเข้าออกด้วยการสแกน Key Card นะคะ
เข้ามาจะเจอโถงลิฟต์แบบนี้ แต่ละอาคารจะมีลิฟต์มาให้ 2 ตัว
พอเข้าใน Tower A ชั้นล่าง ฝั่งขวามือจะเป็นส่วน Mail Box
ภายในห้องเมลบ็อกซ์
เราพาขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น M หรือชั้นลอย (ชั้น 2 เหนือ Podium)ของ Tower A กันต่อนะคะ ชั้นนี้จะมีส่วนกลางอยู่ที่ครึ่งด้านหน้า(ส่วนผังสีอ่อน)วิวด้านหน้าอาคารต่อเนื่องไปที่ทะเล โดยจะมีห้อง Fitness, ห้องสำหรับเด็ก และห้องโยคะและแอโรบิกมาให้
โถงลิฟต์ชั้น M ของ Tower A
ประตูห้องฟิตเนสกับห้องโยคะจะอยู่ติดกันแบบนี้ เราเข้าไปดูห้องฟิตเนสทางซ้ายมือกันก่อนนะคะ
เป็นห้องฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำด้านหน้าโครงการและวิวทะเล
มีลู่วิ่งมาให้ 2 เครื่อง
เครื่องปั่นจักรยาน 3 เครื่อง
เครื่องซิทอัพ 1 เครื่อง และชุดบาร์ยกน้ำหนัก 1 ชุด
เครื่องยกน้ำหนักอีก 1 เครื่อง
เครื่องเพาะกายอีก 3 เครื่อง
ไปดูห้องโยคะและห้องแอโรบิกข้างๆกันต่อค่ะ ห้องนี้จะมีกระจกเงาบานใหญ่เต็มความกว้างผนังห้องหนึ่งด้าน มีบอลพิลาทีส และมีราวอลูมิเนียมสำหรับดัดตัวด้วย ถือเป็นดีเทลที่มีความใส่ใจคนออกกำลังกายดีค่ะ
ภายในห้องโยคะนี่จะมีประตูเชื่อมกับห้องฟิตเนสอีกด้วย
ถัดมาไปดู Kid’s Room หรือห้องเด็กของชั้น M กันค่ะ ผนังห้องเด็กติดวอลเปเปอร์ลายท้องฟ้า และผนังกระจกของห้องก็ติดภาพลูกโป่งสีสดใส
ในห้องจะมีสระลูกบอลที่เด็กๆน่าจะชอบมุม ชอบปีนเล่นกัน พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับเด็ก และเก้าอี้สำหรับผู้ใหญ่ในกรณีที่พ่อแม่หรือพี่เลี้ยงตามมานั่งเฝ้า
อีกฝั่งนึงก็มีของเล่นให้มุดให้ปีนเพิ่มอีก 2 – 3 อย่างค่ะ พื้นปูแผ่นยางนิ่มๆกันกระแทก และมีที่นั่งแบบ Bean Bag ลายขาวดำมาให้ผู้ใหญ่เอนหลังนั่งเฝ้าได้นานๆ
ถัดจากห้องเด็กมาจะมีห้องน้ำชายหญิงอยู่
เปิดเข้าไปดูส่วนห้องน้ำหญิงจะมีเคาเตอร์หินแกรนิตสีดำยาว และอ่างล้างมือมาให้ 1 อ่าง
และห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง
เราพาขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น 26 ของ Tower A กันต่อนะคะ ชั้นนี้จะมีส่วนกลางอยู่ที่ครึ่งด้านหน้า(ส่วนผังสีอ่อน)วิวด้านหน้าอาคารต่อเนื่องไปที่ทะเลเช่นกัน อีกครึ่งนึงที่เป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นส่วนของงานระบบนะคะ
ชั้นนี้จะเป็นส่วนของ Sky Lounge วิวทะเล โดยจะมีที่นั่งพร้อมเตาบาร์บีคิวมาให้ แบบว่าใครพาเพื่อนหรือจัดปาร์ตี้ชั้นนี้เหมาะมากค่ะ เพราะได้วิวทะเลมุมกว้างที่สวยจริงๆ และได้ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้อง ห้อง Relaxation 2 ห้อง และมีห้องน้ำบริการพร้อม จะเป็นอย่างไรไปดูภาพกันเลยค่ะ
ที่โถงลิฟต์ชั้น 26 จะมีประตูทางเข้าไปส่วน Sky Lounge แบบนี้
ส่วนไฮไลท์ของ Sky Lounge ก็คือลานบาร์บีคิววิวทะเลนั่นเองค่ะ
จัดเป็นจุดนั่งสังสรรค์ในครอบครัวหรือกับเพื่อนๆที่มีบรรยากาศดีมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากความสูงชั้น 26 นี้ทำให้มองออกไปได้ไกล และด้วยความที่โครงการตั้งอยู่ติดหน้าหาดจอมเทียนเลย ทำให้ได้วิวทะเลที่กว้างและสวยสะอาดตาอย่างที่เห็น ที่ Sky Lounge จะมีลานพร้อมเตาบาร์บีคิวแบบนี้มาให้ 2 จุดค่ะ จุดนึงก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้สำหรับ 6 – 8 คนที่กำลังเหมาะกับขนาดลาน
เคาน์เตอร์บาร์บีคิวเป็นเคาน์เตอร์หินแกรนิต
มีเตาบาร์บีคิวและอ่างล้างจานมาให้พร้อมแบบนี้ แบบว่าปิ้งย่างไป ชมวิวทะเลไป
ถัดจากเตาบาร์บีคิวจะเป็น Relaxation Room หรือห้องพักผ่อนมาให้ เอาไว้รับรองแขกกรณีจัดงานปาร์ตี้นะคะ เป็นห้องติดมุมที่มีมาให้ทั้งด้านข้างลานบาร์บีคิวทั้ง 2 แห่ง
เป็นห้องติดมุมที่ได้กระจกเข้ามุมทรงผลึกของ Tower A แบบนี้ และมีที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายจุด
มีเตียงมาให้นอนเล่น พร้อมโต๊ะกาแฟไว้วางอาหารได้
และมีชุดโซฟามาให้พร้อมโต๊ะกาแฟ นั่งได้ประมาณ 6 – 8 คน
ส่วนด้านข้างลานบาร์บีคิวอีกด้านจะมีประตูเข้าไปห้องอเนกประสงค์อยู่ โดยข้างลานบาร์บีคิวอีกฝั่งก็จะมีห้องอเนกประสงค์แบบนี้มาให้เช่นกัน
ภายในห้องอเนกประสงค์มีโต๊ะแบบเคาน์เตอร์ทรงสูง มาพร้อมเก้าอี้แบบสตูล นั่งได้ 8 ที่นั่ง
ถ่ายให้ดูด้านข้างค่ะ สุดผนังจะมีเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างจานมาให้ เหมาะจะใช้เป็นห้องทานอาหารหรือห้องประชุม
ห้องอเนกประสงค์ห้องที่ 3 อยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าเลยค่ะ
ในห้องมีโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ นั่งได้ 8 คน ใช้นั่งประชุมหรือรับประทานอาหารก็เหมาะ
เราพาขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น M หรือชั้นลอย (ชั้น 2 เหนือ Podium)ของ Tower B กันต่อนะคะ ชั้นนี้จะมีส่วนกลางอยู่ที่ครึ่งด้านหน้า(ส่วนผังสีอ่อน)เช่นกัน โดยจะมีห้อง Fitness, ห้องเล่นพูล, ห้องซักรีด และห้องโยคะและแอโรบิกมาให้
โถงลิฟต์ชั้น M ของ Tower B
ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ
เป็นห้องฟิตเนสเป็นผนังกระจกวิวสระว่ายน้ำและล็อบบี้ส่วนกลางโครงการ
มีเครื่องเพาะกายมาให้ 3 ชุด ผนังด้านหลังเครื่องเพาะกายเป็นกระจกเงาเต็มความกว้างผนัง
มีเครื่องยกน้ำหนัก เครื่องซิทอัพ และชุดบาร์ยกน้ำหนักมาอย่างละชุด
มีเครื่องวิ่งมาให้ 2 เครื่อง
มีเครื่องปั่นจักรยานมาให้ 3 เครื่อง
วิวจากห้องฟิตเนสจะเป็นสระว่ายน้ำและล็อบบี้ส่วนกลางโครงการ
อีกฝั่งนึงของชั้น M จะมีทางเดินไปห้องโยคะและแอโรบิก
ภายในจะเป็นห้องโล่งๆมีผนังกระจกเงาและบอลพิลลาทีสอยู่ แต่ไม่มีราวอลูมิเนียมสำหรับดัดตัวเหมือนห้องโยคะที่ Tower A นะคะ
ถัดมาจะเป็นห้องเล่นพูล ตรงข้ามห้องมีม้านั่งสีดำยาวไว้ให้นั่งเล่น
ห้องเล่นพูลค่ะ มีโต๊ะพูลมาให้กลางห้อง
ผนังฝั่งนึงทำชั้นวางของมาให้
อีกฝั่งนึงมีที่นั่งมาให้ และที่วางไม้
ถัดจากห้องเล่นพูลเป็นห้องซักผ้าฝั่งอยู่ตรงข้ามห้องน้ำ
ภายในห้องซักผ้า จะมีตู้กดน้ำ 1 ตู้ เครื่องซักผ้า 2 เครื่อง และเครื่องอบผ้าอีก 2 เครื่อง เป็นแบบหยอดเหรียญเพื่อความสะดวกสบายค่าหยอดเหรียญเครื่องซักผ้าราคาถังละ 80 บาท
ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำหญิงห้องน้ำชาย มีม้านั่งมาให้ตรงกลาง
ภายในห้องน้ำหญิงค่ะ มีอ่างล้างมือพร้อมเคาน์เตอร์มาให้ 1 อ่างและ โถสุขภัณฑ์
เราพาขึ้นมาดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น 22 ของ Tower B กันต่อนะคะ ชั้นนี้จะมีส่วนกลางอยู่ที่ครึ่งด้านบน(ส่วนผังสีอ่อนด้านทิศเหนือ) อีกครึ่งนึงที่เป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นส่วนของยูนิตที่พักอาศัยนะคะ แบ่งทางเข้าออกแยกกันอย่างชัดเจน ดังนั้นคนที่มาใช้งานส่วนกลางก็ไม่ต้องเดินเข้าไปในส่วนพักอาศัย
ชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B โดยจะมีที่นั่งพร้อมเตาบาร์บีคิวมาให้ แบบว่าใครพาเพื่อนหรือจัดปาร์ตี้ชั้นนี้ก็ได้ ฟังก์ชั่นค่อนข้างมีลักษณะเป็นห้องประชุม หรือใช้เป็นห้องคุยงานก็เหมาะ จะเป็นอย่างไรไปดูภาพกันเลยค่ะ
โถงลิฟต์ชั้น 22
เข้ามาจะเจอห้องผนังกระจกเอาไว้ให้นั่งพักผ่อนได้แบบนี้
ภายในห้องจริงๆเป็นห้องโล่งที่สามารถเอาไว้จัดงานหรือปรับใช้ได้หลากหลายนะคะ ทางโครงการเอา Bean Bag และเบาะมาวางไว้ให้เอนหลังเล่นรับลมทะเลสบายๆ
ผนังจะสามารถหมุนเปิดได้แบบนี้
ถัดจากห้องพักผ่อนจะเป็นห้องประชุม
ด้านในมีโต๊ะเก้าอี้พร้อม และสามารถเปิดผนังเชื่อมต่อกับห้องพักผ่อนได้อย่างที่เห็น
ลานตรงกลางก็เตรียมที่นั่งเอาไว้ให้หลายจุดและสุดฝั่งจะมีเตาบาร์บีคิวมาให้ด้วย
ภาพรวมที่นั่งรับรองอีกมุมค่ะ
มีทั้งชุดเก้าอี้และโต๊ะเล็กแบบ 3 ที่นั่ง
และชุดโซฟาหวายพร้อมโต๊ะกาแฟ
จะมีเตาบาร์บีคิวมาให้
เป็นชุดเตา พร้อมอ่างล้างจาน และเครื่องดูดควันค่ะ
พื้นที่ในการยืนย่าง ด้านหลังชมวิวทะเลได้ซะด้วย
เป็นวิวทะเล ฝั่งนี้หันหน้าไปทางสัตหีบค่ะ
นอกจากนี้จะมีส่วนครัวและห้องน้ำอยู่ โดยครัวอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ และห้องน้ำอยู่ทางฝั่งขวามือ
ฝั่งห้องครัวมีชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้
เข้าไปถ่ายในห้องน้ำหญิงมาให้ดูค่ะ
มีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้
แบบห้อง
ยูนิตในโครงการจะมีขนาดให้เลือกหลากหลายนะคะ ตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ดังนี้
โดย Tower A (Ocean Front Tower) จะมีแต่ห้องแบบ 3 ห้องนอนและเพนท์เฮ้าส์เท่านั้น
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างของโครงการจะมี 3 ห้อง คือแบบ 1 ห้องนอน Type E1 60.21 sq.m. และแบบ 2 ห้องนอน Type C2 116.04 sq.m. ที่ตึก B หรือตึก Ocean View Tower และ แบบ 3 ห้องนอน Type A1 217.85 sq.m. ที่ Tower A หรือตึก Ocean Front Tower ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมทุกห้อง เริ่มกันจากห้องแบบ 1 ห้องนอน Type E1 กันก่อนเลยค่า 🙂
ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน Type E1 ขนาด 60.21 ตารางเมตร ที่ตึก B หรือ Ocean View Tower นะคะ ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิด ส่วนไพรเวทอย่างห้องนอนและห้องน้ำจัดอยู่ฝั่งนึง และส่วนพับลิคหน่อยอย่างห้องนั่งเล่นริมระเบียงและครัวอยู่อีกฝั่งนึง จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานสูง พร้อมลูกฟักด้านบน ปิดผิวลายไม้สีอ่อน พร้อมวงกบประตูสีขาวสูงจรดเพดานห้องที่สูงถึง 3 เมตร ป้ายหน้าห้องทำเป็นสีเขียวอมฟ้าน้ำทะเล ดัดโค้งเป็นรูปคลื่นนิดๆ เข้ากับบรรยากาศคอนโดติดทะเลดี
มือจับประตูเป็นเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส ด้านนอกมีช่องเสียบรูกุญแจ ด้านในมีตัวบิดหมุนล็อกของ Hafele
เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่เปิดออกไประเบียงวิวติดทะเลได้ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกนำเข้าขนาด 60 x 6o cm. ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ทั่วไปนะคะ เพดานห้องสูง 3 เมตรซึ่งถือว่าให้มาสูงโปร่งเลยต่อให้เทียบกับคอนโดหรูอื่นๆ ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว
จากห้องนั่งเล่นมองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วนครัวและส่วนประตูทางเข้าห้องแบบนี้ เพดานส่วนครัวมีดรอปความสูงลงมาประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อเดินงานระบบ และแอร์แบบคอนซีล หรือแอร์ฝังเพดานของจริงได้ตามนี้
ชุดครัวที่ได้หน้าบานตู้สีขาว พร้อมชั้นลอยด้านบนและช่องวางตู้เย็น
อีกมุมนึงค่ะ เปิดหน้าบานตู้ให้ดูช่องเก็บของ บานพับตู้เป็นแบบ Soft Close Hinge ปิดแล้วนุ่มเสียงไม่ดังปึงปัง ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะพร้อมฝาปิดมาให้
ท้อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ที่ผนังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้ามาให้ ใช้เสียบเครื่องปั่นหรือเครื่องทำกาแฟได้ ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux ส่วนอ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสหลุมสี่เหลี่ยมไม่มีที่พักจาน
ที่ส่วนครัวจะวางโต๊ะกินข้าวแบบสี่ที่นั่งมาให้ ระยะกำลังพอดีๆ อาจจะมีแน่นๆบ้าง ถ้าจะเปิดตู้ฝั่งขวามือบ่อยๆนะคะ
ตู้ฝั่งขวามือเป็นตู้ Built in ซ้ายมือสุดเป็นหน้าบานตกแต่งผนังนะคะ ส่วนขวามือเป็นช่องเก็บงานระบบไฟ
เปิดออกมาจะมีส่วนที่เก็บของด้านล่างให้มาแบบนี้ด้วย
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 เมตร วางทีวีจอใหญ่ขนาด 60 – 70 นิ้วได้เลย และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้แบบสบายๆ
โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟ จริงๆพอวางสามที่นั่งได้นะคะ แต่ต้องเช็คหน้ากว้างผนังดีๆค่ะ เพราะด้านข้างติดประตูทางเข้าห้องนอนอยู่
มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี วางเฉพาะชั้นด้านล่างมาให้ดูระยะใช้งาน แต่สังเกตด้านบนผนังโล่งและมีพื้นที่พอทำชั้นลอยเพิ่มพื้นที่เก็บ หรือทำ Built in โต๊ะทำงานเพิ่มได้นะคะ
หน้าตาสวิตช์ไฟเป็นสีเงินของ Bticino
จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีขาว เปิดออกไประเบียงได้ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน ดรอปฝ้าบังราวแขวนม่านมาให้ของจริงได้ตามนี้นะคะ
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาและเดินขอบผิวทรายล้างมาให้ ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เฟรมอลูมิเนียมสีเทาแบบนี้ ระเบียงห้องนี่สมกับเป็นระเบียงคอนโดหรูติดทะเลเลยค่ะ เนื่องจากเน้นให้ระเบียงมีขนาดกว้าง รับลมรับวิวทะเลแบบเต็มที่ แถมยังมีอ่างจากุซซี่ที่ระเบียงอีกด้วย
วิวที่เห็นจะเป็นวิวติดหาด หันไปทางฝั่งพัทยา สังเกตว่าวิวหาดหน้าโรงแรมนี่สะอาดตามากเลย จะไม่มีคนมาปักร่ม หรือเล่น เจ็ตสกี หรือ บานาน่าโบ้ท กันแถวนี้นะคะ ทำให้ได้วิวทะเลที่สงบและสะอาดแบบนี้
แต่เนื่องจากห้องแบบ 1 ห้องนอน นี่จะอยู่ที่ตึก B ซึ่งจะอยู่ด้านหลังตึก A นะคะ ถึงตัวอาคารทั้งคู่จะออกแบบให้มีมุมและระยะที่สามารถเห็นวิวทะเลได้กว้างจริง แต่ตึก B ก็จะมีตึก A ที่อยู่ด้านหน้าหาดเลยบังวิวทะเลอยู่บางส่วนแบบนี้
กริลแอร์ไม่มากินพื้นที่ระเบียง แต่แขวนมาให้ที่ด้านนอกและมีกริลอลูมิเนียมสีขาวบังเพื่อความสวยงามเรียบร้อยของหน้าตาอาคารจากภายนอกด้วย
จากุซซี่ที่ระเบียง แบบแช่น้ำไปชมวิวทะเลไปแบบนี้ สังเกตที่พื้นว่าคิดและเตรียมงานเรื่องระบบระบายน้ำมาเป็นอย่างดี
มีเซาะร่องวิ่งไปที่ท่อระบายน้ำทั้งสองฝั่งของระเบียงด้วยแบบนี้
ตัวระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนเปิดเข้ามาได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะคะ โดยส่วนอ่างจากุซซี่จะอยู่ติดส่วนทางเข้าห้องนอน
เราเข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ พื้นห้องนอนทุกห้องจะเป็นไม้ Engineering Wood นะคะ
ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ ส่วนห้องนอนมีประตูบานสูงมาให้ด้านข้าง 1 ชุด ที่สามารถเปิดไปที่ระเบียงวิวทะเล นอนแช่จากุซซี่ไปดูทีวีในห้องนอนไปจากระเบียงได้เลย ห้องนอนขนาดกว้างขวางดีค่ะ มีพื้นที่มากกว่าส่วนห้องนั่งเล่นพอสมควร
ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 1 เมตรพอวางชั้นวางทีวีไปแล้วก็ยังเหลือระยะเดินประมาณ 70 เซนติเมตร กำลังดี
ข้างเตียงอีกฝั่งติดประตูออกไประเบียงวิวทะเล ฟังก์ชั่นนอนแช่จากุซซี่ไปดูทีวีในห้องนอนไปจากระเบียงได้เลยนี่เป็นอะไรที่ถือว่าพีคมากทีเดียว แบบว่าหันซ้ายดูหนัง หันขวาชมวิวทะเลแบบนี้เลย
มองไปที่อีกฝั่งของห้องนอนจะมี Walk in closet และทางไปห้องน้ำอยู่
ข้างเตียงฝั่งติด Walk in closet มีระยะประมาณ 60 เซนติเมตร หน้าบาน Walk in closet ทำมาเป็นประตูบานเลื่อนแบบแขวนรางด้านบน ไม่มีรางด้านล่างมาให้สะดุดกัน
ด้านใน Walk in closet มีส่วนของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้
โต๊ะเครื่องแป้งมาพร้อมกระจกเงาและลิ้นชัก
ระยะใช้งาน Walk in closet ค่ะ
ไปดูส่วนห้องน้ำในห้องนอนกันต่อ หน้าบานประตูห้องน้ำทำมาเป็นบานสูงแบบเดียวกับประตู Walk in closet เลยค่ะ คือทำมาเป็นประตูบานเลื่อนแบบแขวนรางด้านบน ไม่มีรางด้านล่างมาให้สะดุดกัน
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร
ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์ ผนังส่วนห้องอาบน้ำติดโมเสกสีขาวเหลือบมุกมาให้เต็มความกว้างผนัง ให้ลุคเรียบๆสบายตา แต่ก็หรูหราวิบวับไปในตัว
โถสุขภัณฑ์ของAmerican Standard แบบชิ้นเดียวขนาดใหญ่กำลังดี ด้านข้างมีท่อระบายน้ำส่วนแห้งมาให้ แยกจากส่วนเปียกในห้องอาบน้ำอีกที
อ่างล้างมือและกระจกเงาของจริงได้ตามนี้นะคะ ดูดีและมีที่เก็บของใต้อ่างล้างมือพร้อมบานปิดสีน้ำตาลอมทองมาให้
ตัวอ่างเป็นหินสังเคราะห์และก๊อกน้ำของ KASCH เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูค่ะ ข้างอ่างมีที่วางของมาให้ 1 ฝั่ง
ผนังข้างอ่างมีสวิตช์เปิดปิดไฟ และเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ กรณีเป่าผมหรือโกนหนวด
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์เต็มแนวกว้างของผนัง ส่วนเปียกลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
ชุดฝักบัวเป็นของ KASCH เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวมาให้ดูขนาดนะคะ นอกจากนี้ที่มุมห้องอาบน้ำมีที่วางของขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้ สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้
ห้องตัวอย่างห้องต่อไปที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน Type C2 ขนาด 116.04 ตารางเมตร ที่ตึก B หรือ Ociean View Tower เช่นกัน ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดเช่นกันนะคะ ความน่าสนใจในการออกแบบคือ ห้องนอนทั้งสองห้องและห้องนั่งเล่นจะติดระเบียงและรับวิวทะเลได้ทั้งหมด ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ และส่วนครัวมีระเบียงแยกอีกชุดอีกด้วย จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
สเป็ควัสดุจะเหมือนกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกที่พาไปชมกันนะคะ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่และการจัดวาง โดยเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวมองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่เปิดออกไประเบียงวิวติดทะเลได้ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกนำเข้าขนาด 60 x 6o cm. ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ทั่วไป เพดานห้องสูง 3 เมตรซึ่งถือว่าให้มาสูงโปร่งเลยต่อให้เทียบกับคอนโดหรูอื่นๆ ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว
มองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วนครัวและส่วนประตูทางเข้าห้องแบบนี้
ข้างประตูทางเข้าห้องจะมีประตูบานสูงแบบเดียวกัน มือจับก้านโยก เปิดมาเป็นห้องเก็บของ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกแผ่นเล็ก และเป็นตำแหน่งที่ใช้ติดแผงงานระบบไฟ ด้านในห้องเก็บของมีโคมไฟซาลาเปาติดเพดานมาให้
ส่วนครัวมีเคาน์เตอร์มาให้ 2 ฝั่ง ฝั่งที่เป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารแนวยาวนี่มีประโยชน์มาก ใช้เตรียมอาหารก็ได้ ใช้วางอาหารหรือลำเลียงไปที่โต๊ะอาหารด้านหน้าก็ได้ สะดวกดีค่ะ ระยะเดินตรงกลางระหว่างเคาน์เตอร์สองฝั่งประมาณ 80 เซนติเมตร
เปิดหน้าบานตู้ให้ดูระยะเปิดค่ะ จะเห็นว่าตัวบานไม่ชนกัน
ชุดครัวที่ได้หน้าบานเป็นไฮกลอสสีขาว พร้อมชั้นลอยด้านบนและช่องวางตู้เย็น ส่วนเคาน์เตอน์ด้านล่างปิดผิวลายไม้
เปิดหน้าบานตู้ให้ดูช่องเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง
ท้อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux
เคาน์เตอร์เตรียมอาหารแนวยาวฝั่งตรงข้าม ท้อปเป็นหินแกรนิต หน้าบานปิดผิวลายไม้
เปิดหน้าบานตู้ให้ดูช่องเก็บของด้านในค่ะ
ส่วนใกล้ๆอ่างล้างจานจะมีลิ้นชักพร้อมช่องเก็บช้อนส้อม ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะพร้อมฝาปิดมาให้
อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสหลุมสี่เหลี่ยมไม่มีที่พักจาน ที่ผนังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้
ที่มุมครัวจะมีประตูเปิดไประเบียงของครัวอยู่ด้วย
พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตรจากพื้นห้องครัว และปูกระเบื้องเซรามิกสีครีมผิวด้านขนาด 30×30 เซนติเมตร ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีขาว
ระเบียงครัวนี้มีประโยชน์หลายอย่างนะคะ อย่างแรกคือเวลาทำครัวเปิดประตูช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังเหมาะที่จะใช้งานประเภทตากผ้า หรือทำปิ้งย่างที่ควันเยอะๆโดยที่ไม่เข้าห้องได้ด้วย ทำหน้าที่เป็นเหมือนลานซักล้างหลังบ้านนั่นเอง
ที่ระเบียงครัวมีมุมที่ใช้วางเครื่องซักผ้าได้ มีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้เรียบร้อย
ถัดจากมุมครัวมาจะเป็นส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องน้ำค่ะ
ห้องอาหารสามารถจัดโต๊ะแบบ 4 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ และมีหน้าต่างบานใหญ่มาให้ด้านข้าง ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก และเปิดรับลมได้ด้วย ที่ฝ้าเพดานจะมีแอร์คอนซีลมาให้เรียบร้อย เดี๋ยวเราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อนะคะ
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร เสป็ควัสดุคล้ายกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกแทบทุกอย่างค่ะ
อ่างล้างมือและกระจกเงาของจริงได้ตามนี้นะคะ ดูดีและมีที่เก็บของใต้อ่างล้างมือพร้อมบานปิดสีน้ำตาลอมทองมาให้ ตัวอ่างเป็นหินสังเคราะห์และก๊อกน้ำของ KASCH ข้างอ่างมีที่วางของมาให้ 1 ฝั่ง แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ ส่วนเปียกลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ด้านบนมีหน้าแบบบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศและนำแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำ
ชุดฝักบัวเป็นของ KASCH แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก นอกจากนี้ที่มุมห้องอาบน้ำมีที่วางของขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้ สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ด้านข้างมีท่อระบายน้ำส่วนแห้งมาให้ แยกจากส่วนเปียกในห้องอาบน้ำอีกที ด้านบนเพดานมีพัดลมดูดอากาศมาให้
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นเปิดออกไประเบียงรับวิวทะเลได้กันต่อ ระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 เมตร วางทีวีจอใหญ่ขนาด 60 – 70 นิ้วได้เลย และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้แบบสบายๆ
มองไปที่ผนังส่วนชั้นวางทีวี ก็กว้างแบบที่ถ้าทำชั้นลอย หรือชั้นหนังสือ ชั้นเก็บของเต็มความกว้างผนังเพิ่มก็ได้พื้นที่เก็บของเพิ่มเยอะทีเดียว
ห้องนั่งเล่นมีผนังที่กว้างทีเดียว สามารถวางโซฟารูปตัว L 4 ที่นั่งได้สบายๆ สังเกตผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟและโทรศัพท์มาให้ วางโต๊ะข้างเพิ่มลงไปก็เหมาะดีค่ะ ติดกับห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ข้างประตูบานเลื่อนทั้งสองฝั่งเป็นกระจกบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกเขียวตัดแสง จัดเป็นช่องแสงธรรมชาติบานใหญ่ของตัวห้องเลย
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาและเดินขอบผิวทรายล้างมาให้ ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เฟรมอลูมิเนียมสีเทาแบบนี้
ระเบียงห้องนี่สมกับเป็นระเบียงคอนโดหรูติดทะเลเลยค่ะ เนื่องจากเน้นให้ระเบียงมีขนาดกว้าง รับลมรับวิวทะเลแบบเต็มที่ เอาเก้าอี้พร้อมโต๊ะมานั่งเล่นที่ระเบียงได้สบายๆ
ที่ระเบียงมีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ และทำท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย
วิวจากระเบียงห้องนี้จะเป็นวิวหาดจอมเทียน หันไปทางฝั่งสัตหีบค่ะ
ประตูบานเลื่อนเปิดเข้ามาได้ทั้งจากห้องนอนเล็กและห้องนั่งเล่นนะคะ
ทางเข้าจากระเบียงไปห้องนอนเล็กค่ะ เดี๋ยวเราเข้าไปดูส่วนห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่กันต่อนะคะ
จากห้องนั่งเล่นจะมีทางเดินไปส่วนห้องนอนอยู่
พื้นห้องนอนจะได้เป็นพื้นไม้ Engineering Wood ทุกห้อง พร้อมธรณีประตูสีเดียวกับพื้นไม้ค่ะ ประตูห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กจะตั้งฉากกันอยู่แบบนี้ เราเข้าไปดูห้องนอนเล็กทางฝั่งขวามือกันก่อนนะคะ
ห้องนอนเล็กจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงวิวทะเลที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ ที่เราไปสำรวจกันมาเมื่อกี้นั่นเอง ถึงจะบอกว่าเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ไม่ได้เล็กตามชื่อ เพราะในห้องวางเตียงคู่ 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะทำงาน โต๊ะข้าง และตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะว่ามีระยะกำลังพอดีๆเลย
ข้างเตียงฝั่งติดประตูจะมีระยะประมาณ 50 เซนติเมตร
ข้างเตียงฝั่งติดประตูก็มีระยะพอๆกันค่ะ คือวางโต๊ะข้างได้ และมีระยะเดินกำลังพอดีๆทั้งสองฝั่ง
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเห็นว่าปลายเตียงมีระยะประมาณ 80 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีได้สบายๆ ในห้องตัวอย่างวางโต๊ะทำงานและเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน
ใกล้ประตูทางออกทำตู้เสื้อผ้า Built in มาให้ หน้าบานปิดผิวลายไม้ เปิดให้ดูด้านในค่ะ
เราไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อนะคะ
ห้องนอนใหญ่นี่นอกจากจะมีระเบียงวิวทะเลส่วนตัวแล้ว จะมีห้องน้ำในตัว พร้อม อ่างอาบน้ำและ Walk in closet ด้วยค่ะ ในห้องนอนวางเตียง 6 ฟุตมาพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายมือติดหน้าต่างมีระยะข้างเตียงประมาณ 50 เซนติเมตร
ฝั่งขวามือข้างเตียงติดประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียง มีระยะข้างเตียงประมาณ 70 เซนติเมตร
เปิดผ้าม่านดูมุมหัวเตียงฝั่งติดระเบียงมีหน้าต่างกระจกเข้ามุมแบบที่เรียกว่า Bay Window มาให้ด้วย ทำให้วิวที่ได้มีความต่อเนื่องไม่ติดกรอบหน้าต่างแบบนี้
อย่างที่บอกนะคะ ว่าห้องนอนใหญนี้มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงส่วนตัววิวทะเลอยู่ พอเปิดประตูแล้วลมดีมากเลยค่ะ ม่านปลิวฟิ้วอย่างที่เห็น
พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาและเดินขอบผิวทรายล้างมาให้ ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เฟรมอลูมิเนียมสีเทาแบบนี้
เป็นระเบียงส่วนตัวสำหรับห้องนอนที่มีขนาดกว้างพอเอาเดย์เบดมาวางนอนเล่น หรืออาร์มแชร์พร้อมโต๊ะข้างมานั่งเล่น รับลมรับวิวทะเลแบบเต็มที่ได้สบายๆ
จากเตียงนอนมองไปที่ประตูทางเข้า ซ้ายมือจะเป็นมุมยุบเข้าไป จริงๆตรงนี้ใครเสื้อผ้าเยอะ เปลี่ยนจากโต๊ะเป็นตู้เสื้อผ้าก็ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนขวามือจะเป็น Walk in closet และห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ห้องตัวอย่างวางโต๊ะพร้อมกระจกเงาและแจกันดอกไม้มาแบบนี้
ส่วน Walk in closet จะเป็นทางเดินไปที่ห้องน้ำในห้องนอน ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า ด้านขวาเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง Built in มาให้ทั้งคู่
โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักพร้อมกระจกเงาบานสูง ผนังด้านข้างกรุผิวไม้พร้อมสวิตช์ไฟและเต้าเสียบมาให้เรียบร้อย
ซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้าและมีติดไฟมาให้ด้านใน เวลาเปิดจะสว่างแบบนี้
ระยะบานเปิดกับทางเดินค่ะ จะเห็นว่าพอมีระยะถอยยืนเลือกเสื้อผ้าได้อยู่แบบนี้
เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เสป็ควัสดุคล้ายกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกแทบทุกอย่างค่ะ โถสุขภัณฑ์ของ American Standard และห้องนี้นอกจากห้องอาบน้ำพร้อม Rain Shower แล้วยังมีอ่างอาบน้ำมาให้อีกด้วย
อ่างอาบน้ำอยู่ติดกับหน้าต่างบานสูงแบบบานเปิดแบบนี้
มองไปอีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาสเป็คเดียวกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆ และห้องอาบน้ำทางฝั่งซ้ายมือ
เป็นห้องอาบน้ำกระจกเทมเปอร์แบบเข้ามุม ฝักบัวเป็นของ Kasch เหมือนกันกับห้องอื่นๆ พร้อมที่วางของข้างชุดฝักบัวมาให้ยาวกว่าห้องอื่นๆ
เหนือฝักบัวจะมี Rain Shower มาให้ด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน Type A1 ขนาด 217.85 ตารางเมตร ที่ตึก A หรือ Ocean Front Tower ที่อยู่ติดหาดจอมเทียนนะคะ ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาชัดเจนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดเช่นกัน
ความน่าสนใจนอกจากมีห้องนอนสองในสามห้องและห้องนั่งเล่นที่จะมีประตูเปิดออกมาระเบียงและรับวิวทะเลได้ทั้งหมดแล้ว ห้องนอนทั้งสามห้องยังมีห้องน้ำในตัวอีกด้วย พร้อมครัวแบบ Pantry และ ครัวไทยแบบปิด ที่เปิดออกไปที่ระเบียงครัวและห้องแม่บ้านได้ จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
เนื่องจากชั้นนึง จะมีห้องแบบ 3 ห้องนอนแค่ 2 ยูนิตเท่านั้นนะคะ ทำให้ห้องแบบ 3 ห้องนอนเข้าออกแบบ Private Lift คือไม่ต้องแชร์โถงหน้าลิฟต์กับใครนั่นเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ตกแต่งกันได้ตามสไตล์เลย ขอบอกว่าวันที่ไปเราเห็นหลายชั้นที่มีคนเข้าอยู่แล้วตกแต่งกันไว้สวยมากๆค่ะ
จากโถงลิฟต์ มองไปฝั่งซ้ายมือจะมีประตูออกไปบันไดหนีไฟอยู่
เปิดเข้าไปดูกันหน่อย
บันไดหนีไฟเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมราวจับเป็นเหล็กทาสีขาวเรียบๆแบบนี้
มองไปทางฝั่งขวามือจะเป็นประตูบานสูงแบบ 2 บาน
เป็นประตูบานเปิดคู่ ที่เวลาเปิดทั้งคู่ก็จะได้ช่องเปิดทางเข้าห้องที่กว้าง เหมาะสำหรับเวลาจัดปาร์ตี้ หน้าบานติดคิ้วสีขาว พร้อมมือจับสแตนเลสสีเงินแบบก้านโยก
สเป็ควัสดุจะเหมือนกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกที่พาไปชมกันนะคะ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่และการจัดวาง โดยเข้าห้องมาจะเจอห้องรับแขก มองต่อเนื่องไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นด้านหลังและทางเข้าห้องนอนที่ทั้งหมดเปิดออกไประเบียงวิวติดทะเลได้
พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกนำเข้าขนาด 60 x 6o cm. ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ทั่วไป เพดานห้องสูง 3 เมตรซึ่งถือว่าให้มาสูงโปร่งเลยต่อให้เทียบกับคอนโดหรูอื่นๆ ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีฟ้าอ่อน
ทุกอย่างได้ตามที่เห็นเพราะขายแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ อย่างห้องรับแขกก็คือได้ตามนี้ มีโซฟา 3 ที่นั่ง อาร์มแชร์ เดย์เบด มาให้พร้อมโต๊ะกาแฟและโต๊ะข้าง และของตกแต่งต่างๆ จะเห็นว่าระยะใช้งานกว้างขวางทีเดียว
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องจะมีชั้นวางของริมผนังมาให้
ภาพรวมห้องรับแขกด้านหน้าและห้องนั่งเล่นด้านหลังค่ะ จะมีผนัง(ลายอิฐ)กั้นแบ่งโซนอยู่ครึ่งนึง ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงนะคะ สามารถปรับใช้ได้ตามไลฟ์สไตล์เลย ฝ้าเพดานหลุม มีแอร์คอนซีลหรือแอร์ฝังฝ้าติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ติดกับห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ข้างประตูบานเลื่อนทั้งสองฝั่งเป็นกระจกบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกเขียวตัดแสง จัดเป็นช่องแสงธรรมชาติบานใหญ่ของตัวห้องเลย
ระเบียงกว้างขวางมากค่ะ พื้นระเบียงลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นห้องปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาและเดินขอบผิวทรายล้างมาให้ ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เฟรมอลูมิเนียมสีเทา และมีความโค้งล้อไปกับคลื่นทะเล เช่นเดียวกันกับเพดาน
เพราะเป็นอาคาร A ที่อยู่ติดหน้าหาดจอมเทียนเลย วิวที่เห็นจึงเป็นวิวทะเลมุมกว้าง ไม่มีอะไรบัง และเป็นลักษณะเหมือนชายหาดส่วนตัว คือมีความสงบและสะอาดตา ไม่มีร่มมาปักที่หาด ไม่มีนักท่องเที่ยวมาปูเสื่อนั่ง หรือเล่นบานาน่าโบ้ทให้เห็นที่ด้านหน้าโครงการ
ระเบียงห้องนี่สมกับเป็นระเบียงคอนโดหรูติดทะเลเลยค่ะ เนื่องจากเน้นให้ระเบียงมีขนาดกว้าง รับลมรับวิวทะเลแบบเต็มที่ เอาเก้าอี้พร้อมโต๊ะมานั่งเล่นที่ระเบียงได้สบายๆ หรือจะเอาเดย์เบดมาวางนอนรับลมทะเล ชมวิวสวยๆ และมีเพดานระเบียงบังแดดให้ด้วย
จากระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนเข้าไปได้หลายห้องนะคะ บานใหญ่สุดจะเป็นห้องรับแขกที่เราออกมา รองลงมาเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดๆกัน มุมซ้ายขวาเป็นประตูบานเลื่อนบานเล็กหน่อยของห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กที่สามารถเปิดออกมาระเบียงได้เช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไล่ดูกันไปทีละส่วนอีกทีนะคะ
กลับเข้ามาที่ห้องรับแขก ด้านข้างจะเป็นส่วนห้องอาหารนะคะ จากผนังจะเห็นว่าสามารถกั้นห้องส่วนห้องอาหารเพิ่มได้ ถ้าไม่อยากให้มีกลิ่นเข้ามาในส่วนห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น จะเห็นว่าส่วนห้องอาหารจะมีแอร์ฝังฝ้าเพดานแยกมาให้ต่างหากอยู่แล้วกรณีอยากกั้นห้องเพิ่มนะคะ
ส่วนห้องอาหารจัดมาเป็นแบบ 6 ที่นั่งขนาดกำลังสวยค่ะ ก็คือเหลือระยะเดินรอบๆกำลังพอดี ขวามือเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
เข้าไปดูในห้องน้ำข้างห้องอาหารกันต่อค่ะ
เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room หรือแบบที่ไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร เสป็ควัสดุคล้ายกันกับห้องตัวอย่างห้องอื่นๆแทบทุกอย่างค่ะ
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวของ American Standard
อ่างล้างมือและกระจกเงาของจริงได้ตามนี้นะคะ ดูดีและมีที่เก็บของใต้อ่างล้างมือพร้อมบานปิดสีน้ำตาลอมทองมาให้ ตัวอ่างเป็นหินสังเคราะห์และก๊อกน้ำของ KASCH ข้างอ่างมีที่วางของมาให้ 1 ฝั่ง แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องอื่นๆ คือมีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังด้านข้างมาให้เช่นกัน
ออกมาจากห้องน้ำ ถัดจากส่วนห้องทานอาหาร จะมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ และครัวแบบ Pantry หรือครัวฝรั่งแบบเปิด มีเคาน์เตอร์มาให้ 2 ฝั่ง
ฝั่งซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารแนวยาวที่ใช้เตรียมอาหารก็ได้ หรือจะใช้วางอาหารหรือลำเลียงไปที่โต๊ะอาหารด้านหน้าก็ได้ สะดวกดีค่ะ และมีอ่างล้างจานสแตนเลสแบบมีที่พักจานด้านข้างมาให้
ฝั่งขวามือเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารพร้อมเตาไฟฟ้า ด้านบนทำชั้นลอยมาให้เก็บของเพิ่ม และเว้นที่เอาไว้สำหรับวางตู้เย็นมาให้ตามที่เห็น
เปิดให้ดูช่องเก็บของค่ะ สังเกตด้านบนเป็นชั้นบานเปิด Soft close ปกติ เคาน์เตอร์ชั้นล่างเป็นลิ้นชักก้นลึก 6 ช่อง
ลิ้นชักแบบก้นลึกแบบนี้วางของได้เยอะดีค่ะ
ใต้ช่องวางไมโครเวฟจะมีลิ้นชักพร้อมช่องสำหรับวางช้อนส้อมอยู่
ท้อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux
ระยะเดินตรงกลางระหว่างเคาน์เตอร์สองฝั่งประมาณ 1.5 เมตร เรียกได้ว่ากว้างขวางเดินไปมาได้สบายๆค่ะ ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวฝั่งซ้ายมือจะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานสูงมาให้อีกชุด ตรงกลางจะมีประตูบานเลื่อนเปิดไปส่วนครัวไทย
เป็นประตูบานเลื่อนแบบแขวนรางบนนะคะ สังเกตว่าที่พื้นจะไม่มีรางมาให้เดินสะดุด และยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าอีกด้วย พื้นส่วนครัวไทยจะปูกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ส่วนครัวไทยจะมีเคาน์เตอร์มาให้พร้อมชั้นลอยและบานปิดช่องเก็บของ เหนืออ่างล้างจานจะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 ชุด
เปิดหน้าบานบนล่างให้ดูช่องเก็บของค่ะ
อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสมีที่พักจานด้านข้าง
ด้านหลังชุดครัวที่ผนังมี Back Splash เป็นกระเบื้องเซรามิกกันผนังเปื้อนมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ Electrolux ผนังด้านข้างมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้
ที่ห้องครัวไทยจะมีประตูบานเปิดออกไปที่ระเบียงครัวและห้องแม่บ้านอยู่
มองกลับมาที่ผนังใกล้ประตูห้องครัวไทย จะมีเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้ามาให้ มีเดินท่อและเต้าเสียบปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำ
พื้นส่วนระเบียงจะปูกระเบื้องเซรามิกแบบผิวด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร และลดระดับพื้นลงไปจากครัวไทยประมาณ 5 เซนติเมตร ขวามือเป็นประตูออกไปบันไดหนีไฟ ตรงกลางเป็นประตูทางเข้าห้องแม่บ้าน และราวกันตกระเบียงอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
ไปดูฝั่งขวามือที่เป็นประตูออกไปบันไดหนีไฟกันก่อนค่ะ
เป็นโถงบันไดหนีไฟที่ใช้ร่วมกันกับอีกยูนิต 3 ห้องนอนอีกฝั่งของอาคารนะคะ ตัวโถงบันไดถือว่ากว้างทีเดียว
เข้าไปดูส่วนห้องแม่บ้านกันต่อค่ะ
พื้นห้องแม่บ้านจะสูงกว่าพื้นระเบียงประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาดเล็ก 20×20 เซนติเมตร ห้องแม่บ้านจะมีที่พอวางเตียงเดี่ยว ตู้เสื้อผ้าได้ และมีห้องน้ำในตัว
จะมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บานตามนี้ค่ะ
ส่วนห้องน้ำแม่บ้านก็จะเน้นการใช้งานเป็นหลักตามที่เห็นค่ะ
บนเพดานห้องน้ำแม่บ้านติดพัดลมดูดอากาศมาให้ พร้อมโคมไฟแบบซาลาเปา
ส่วนระเบียงครัวจะเป็นเหมือนลานซักล้างหลังบ้านนั่นเองค่ะ คือจะมีจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์ ทั้งแบบวางพื้นและแขวน พร้อมกริลอลูมิเนียมสีขาวบังแอร์คอมเพรสเซอร์เพื่อความเรียบร้อยของมุมมองภายนอกอาคาร
จากระเบียงมองไปจะเห็นตึก B แบบนี้
และเห็นวิวหาดจอมเทียนฝั่งพัทยา
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นด้านหลังห้องรับแขกกันต่อ ห้องนี้ก็จัดมาแนวเหมือนห้องอ่านหนังสือนะคะ แต่ใครจะวางโซฟา L shape แบบสี่ที่นั่งแล้วทำเป็นห้องเล่นเกมส์ ดูหนัง ก็มีพื้นที่พอสบายๆ
ระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร วางทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ ที่ห้องนั่งเล่นนี้จะมีประตูเปิดออกไประเบียงวิวทะเลเช่นกัน
จากห้องนั่งเล่น มองผ่านห้องรับแขกกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
ซ้ายมือของประตูทางเข้าห้องทำประตูบานสูงมาให้
ด้านในเป็นส่วนพื้นที่เก็บของ พื้นปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านขนาด 20 x 20 เซนติเมตร
ส่วนขวามือของประตูทางเข้าจะเป็นประตูห้องนอนเล็กค่ะ พื้นห้องนอนทุกห้องจะเป็นไม้ Engineering Wood นะคะ
ห้องนอนเล็กจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงวิวทะเลที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้และมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ถึงจะบอกว่าเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ไม่ได้เล็กตามชื่อ เพราะในห้องวางเตียงคู่ 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะทำงาน โต๊ะข้าง และตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะว่ามีระยะกำลังพอดีๆเลย
ปลายเตียงมีระยะประมาณ 1.5 เมตรเลย วางชั้นวางทีวีได้สบายๆ ในห้องตัวอย่างวางหีบเก็บของมาให้ดูระยะใช้งาน แทนการใช้ที่วางทีวี และฝั่งปลายเตียงส่วนผนังที่ปาดมุมเฉียงจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปที่ระเบียงได้
ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงวิวทะเล ที่เห็นน้ำทะเลจากในห้องได้เลยแบบนี้
เปิดออกไปก็จะเป็นระเบียงกว้างที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องนอนใหญ่นั่นเอง
ข้างเตียงฝั่งติดตู้เสื้อผ้าจะมีระยะประมาณ 60 เซนติเมตร
เปิดตู้ให้ดูระยะใช้งานค่ะ
มองไปที่ประตูทางออก ฝั่งขวามือจะมีประตูห้องน้ำในห้องนอนเล็กอยู่ เข้าไปดูกันต่อ
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีเบจแบบผิวด้านขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร เสป็ควัสดุคล้ายกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกแทบทุกอย่างค่ะ ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์
สุขภัณฑ์ของ American Standard ด้านข้างมีที่ว่างอยู่ สามารถวางชั้นวางของเพิ่มได้
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ ส่วนเปียกลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ชุดฝักบัวเป็นของ KASCH แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก นอกจากนี้ที่มุมห้องอาบน้ำมีที่วางของขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้ สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้
ส่วนห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็กทางเข้าจะอยู่ข้างห้องนั่งเล่นนะคะ โดยประตูจะตั้งฉากเข้าหากันแบบนี้ เราเข้าไปดูห้องนอนเล็กทางฝั่งขวามือกันก่อนเลยค่ะ
ในห้องนอนเล็กวางเตียงคู่ 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะข้าง และตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะว่ามีระยะกำลังพอดีๆเลย โดยห้องนอนเล็กจะมีหน้าต่างบานใหญ่มาให้
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะประมาณ 50 เซนติเมตรค่ะ ก็วางโต๊ะข้างได้ มีระยะเดินกำลังพอดีๆ
มองไปทางฝั่งประตูออกไปห้องนั่งเล่น ฝั่งขวามือเป็นประตูห้องน้ำในห้องนอนเล็ก ฝั่งซ้ายมือทำตู้เสื้อผ้า Built in มาให้
เปิดตู้ให้ดูระยะบานเปิดของตู้ค่ะ วางตู้เสื้อผ้าไปแล้วข้างเตียงก็เหลือระยะเดินประมาณ 60 เซนติเมตร
ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 70 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีประมาณ 30 เซนติเมตรหรือแขวนกับผนังก็จะเหลือระยะเดินได้อยู่
มองไปทางฝั่งปลายเตียงจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนเล็กอยู่
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีเบจขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร เสป็ควัสดุคล้ายกันกับห้องอื่นๆแทบทุกอย่างค่ะ ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ผนังหลังโถสุขภัณฑ์ และชุดฝักบัวเป็นผนังโมเสคโทนสีเบจน้ำตาลเคลือบประกายมุก เวลาแสงส่องเข้ามาก็ระยิบระยับสวยดี กระเบื้องโมเสกมีราคาแพง ส่วนใหญ่จะใช้ตกแต่งเป็นเส้น หรือพื้นที่เล็กๆซะมากกว่า นี่ทำมาให้เต็มความกว้างผนังและสูงจรดเพดานเลย ส่วนห้องอาบน้ำจะมีหน้าต่างมาให้1 ชุด
ชุดฝักบัวเป็นของ KASCH แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรก นอกจากนี้ที่มุมห้องอาบน้ำมีที่วางของขนาดกว้างพอสมควรติดมาให้ สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้
อ่างล้างมือและกระจกเงาของจริงได้ตามนี้นะคะ ดูดีและมีที่เก็บของใต้อ่างล้างมือพร้อมบานปิดสีน้ำตาลอมทองมาให้ ตัวอ่างเป็นหินสังเคราะห์และก๊อกน้ำของ KASCH ข้างอ่างมีที่วางของมาให้ 1 ฝั่ง แบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องอื่นๆ คือมีเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังด้านข้างมาให้เช่นกัน
ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูกันเป็นห้องนอนใหญ่ ที่เป็นจุดเด่นของโครงการเลยคือห้องนี้จะมีหน้าต่างกว้าง รูปทรงแบบผลึก โดยใช้องศา ที่ทำให้ได้รับวิวทะเลฟ้าจรดน้ำในมุมมองที่กว้างขึ้น มุมกระจกตรงกลาง ระหว่างเพดานกับผนัง ยังยื่นออกไปจากแนวพื้นห้องทำให้เห็นท้องฟ้าและน้ำทะเลชัดขึ้นไปอีก
หน้าแรกของออฟฟิเชียลเว็บไซต์ Reflection ก็ใช้หน้าต่างชุดนี้เป็นฉากแรกเลย ก็ถือเป็นมุมมองพิเศษที่ไม่เหมือนใครของโครงการค่ะ
นอกจากหน้าต่างทำมุมพิเศษแล้ว ห้องนอนใหญ่นี่ก็จะมีห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำและประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงอย่างที่เห็นในภาพค่ะ
ข้างเตียงฝั่งติดประตูออกไประเบียงมีความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร
จากข้างเตียงฝั่งติดประตูออกไประเบียง มองไปที่ปลายเตียง
ระยะปลายเตียงกว้างประมาณ 1.5 เมตร วางชั้นวางทีวี Bed Bench หรือโต๊ะทำงานได้สบายๆ
ข้างเตียงทางเดินไปประตูห้องน้ำ, Walk in closet และ ประตูทางเข้า มีระยะใช้งานกว้างประมาณ 1 เมตร จริงๆตรงนี้ใครเสื้อผ้าเยอะ สามารถเพิ่มตู้เสื้อผ้าติดผนังได้เพราะมีระยะพอนะคะ
จากเตียงนอนมองไปที่ประตูทางเข้า ซ้ายมือจะเป็นมุมป้านยุบเข้าไปที่ประตูทางออก ขวามือจะเป็น Walk in closet และซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ เปิดปิดด้วยประตูบานเลื่อนแบบแขวนรางบนทั้งคู่นะคะ เราไปดู Walk in closet ทางฝั่งซ้ายมือกันต่อเลยค่ะ
ส่วน Walk in closet ในห้องนอนใหญ่ เป็นพื้นที่รูปสามเหลี่ยม ด้านนึงเป็นทางเข้า ด้านนึงทำโต๊ะเครื่องแป้งและอีกด้านทำตู้เสื้อผ้ามาให้
ที่โต๊ะเครื่องแป้งติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ และกรุผิวลายไม้จรดเพดาน
เข้าไปดูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ฝั่งซ้ายมือกันต่อค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนนี่จะมีอ่างอาบน้ำและห้องอาบน้ำพร้อม Rain Shower ด้วยค่ะ ระยะใช้งานกำลังสบายๆไม่อึดอัด กระเบื้องพื้นสีขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นแบบ His&Her คือมีมาให้สองอ่างพร้อมก๊อกน้ำแยกชุดกัน
เริ่มจากอ่างอาบน้ำกันก่อน อ่างอาบน้ำวางมาให้ในมุมติดหน้าต่างบานสูงรับวิวทะเลพร้อมเปิดรับลมทะเลเข้ามาได้ ผนังเหนืออ่างมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้พร้อม มีระยะพอวางโต๊ะข้างใกล้ๆอ่างไว้วางหนังสือหรือนิตยสารไว้อ่านเล่นได้ด้วย
ก็อกและฝักบัวของอ่างอาบน้ำค่ะ
หน้าต่างข้างอ่างเป็นหน้าต่างบานสูงจรดเพดานแบบบานฟิกซ์ ยกเว้นหน้าต่างบานซ้ายบนที่จะเป็นบานเปิดเอาไว้ให้เปิดรับลมได้
อ่างล้างมือวัสดุแบบเดียวกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆพร้อมก็อกน้ำของ KASCH ค่ะ แต่ได้มาเคาน์เตอร์ใหญ่ และเป็นอ่างคู่แบบ His&Her คืออ่างแยกให้ สามีอ่างนึง ภรรยาอ่างนึง ไม่ปนกันตามลักษณะห้องน้ำหรูส่วนมาก
มองไปอีกฝั่งจะเป็นห้องอาบน้ำพร้อม Rain Shower และฉากกั้นกระจกเทมเปอร์เข้ามุมมาให้ ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard แต่สังเกตว่าเป็นรุ่นใหญ่กว่าห้องน้ำห้องอื่นๆนะคะ ขนาดเดียวกันกับโถสุขภัณฑ์ในห้องตัวอย่างห้องแรก
เป็นห้องอาบน้ำกระจกเทมเปอร์แบบเข้ามุม ฝักบัวเป็นของ Kasch เหมือนกันกับห้องอื่นๆ พร้อมที่วางของข้างชุดฝักบัวมาให้ยาวกว่าห้องอื่นๆ และเหนือฝักบัวจะมี Rain Shower มาให้ด้วยค่ะ
ราคา (มี.ค.59)
1 Bedroom : 60.21 sq.m. ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท (99,489 บาท/ตรม.)
**ห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built in, เครื่องปรับอากาศแบบซ่อนฝ้า พร้อมฟูกและม่าน
ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม./เดือน (ยูนิตปกติ), 60 บาท/ตร.ม./เดือน (ยูนิตเพนท์เฮ้าส์)
ค่ากองทุน : 750 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Reflection Jomtien Beach Pattaya มีทำเลอยู่ติดหาดจอมเทียนโซนที่เงียบสงบ บรรยากาศเหมือนหาดส่วนตัวแนวหัวหินมากกว่าแนวพัทยาค่ะ รอบๆจะเป็นโรงแรมและร้านอาหารซะเยอะ จะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนแบบอะโกโก้บาร์ หรือใดๆแบบพัทยาใต้ เนื่องจากอยู่ห่างออกมาพอสมควรและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติและคนไทยที่ต้องการมาทะเลสงบๆ หาดสะอาดๆ หาอาหารทะเลอร่อยๆกิน แล้วอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถมาแปปเดียวถึง แบบนี้ซะมากกว่า
ความอุดมสมบูรณ์ – ในระยะเดิน รอบๆโครงการ มีร้านอาหารทะเลดีๆหลายร้านให้เลือกค่ะ ร้านสะดวกซื้อแบบเปิด 24 ชั่วโมงก็มี Family Mart ที่อยู่ใกล้ๆ
ส่วนห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะเกาะตัวอยู่ในโซนพัทยาซะมากกว่าค่ะ จากโครงการตรงตามเส้นเลียบหาดจอมเทียนไปตามทางเรื่อยๆ ง่ายๆเลย ประมาณ 7 – 8 กิโลเมตรก็จะเป็นโซนพัทยาแล้วค่ะ ก็เป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและเปิดแทบทั้งวันทั้งคืน เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหาร
นอกจากนี้สำหรับคนชอบเที่ยวกลางคืน พัทยาก็มีชื่อเสียงอยู่แล้วเรื่องผับ บาร์ และร้านอาหารอีกเป็นร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย นอกจากสาธารณูปโภคเหล่านี้ก็ยังมี ปั๊มน้ำมัน อู่ซ่อมรถอยู่อีกด้วย เรียกว่าอยู่ได้แบบสะดวกสบายมากๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีเงินในกระเป๋าที่หนักพอสมควรค่ะสำหรับการอยู่ในย่านท่องเที่ยวที่มีค่าครองชีพสูง ซึ่งเราว่ามันก็น่าจะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนซื้อหรือเช่าคอนโดราคาระดับนี้นะคะ เนื่องจากย่านนี้ร้านอาหารส่วนมากราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200- 500 บาทต่อคนแทบทั้งนั้น แต่ก็มีร้านอาหาร ร้านขนมดีๆแบบ ขนมปังและอาหารแบบเยอรมันแท้ๆ, เค้กหรือซุปหอมหัวใหญ่แบบฝรั่งเศสแท้ๆ แนวๆนี้ให้ไปพบเจอกันหลายร้าน เนื่องจากมีคนต่างชาติมาอยู่เยอะมากนั่นเอง บางคนก็เปิดร้านอาหารเองซะเลย อะไรแบบนี้
แต่ก็จะมีร้านข้างทางมากมายเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะโซนถนนคนเดินและเลียบหาด จะมีแผงขายอาหารข้างทางมากมาย ที่ราคาอาหารเฉลี่ยอยู่ที่ 30-50 บาทต่อคนเท่านั้น ก็ถือว่ามีทางเลือกหลากหลายนะคะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถถนนหน้าโครงการจะเป็นถนนเลียบหาดนาจอมเทียนสาย 1 เชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิทได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็น ถนนนาจอมเทียนสาย 2, ถนนชัยพฤกษ์, ถนนทัพพระยาเชื่อมไปเทพประสิทธิ์ ไปพัทยาใต้และสุขุมวิทได้
นอกจากนี้มีถนนเส้นที่เพิ่งตัดใหม่คือถนนจอมเทียนสาย 2 จะเริ่มจากทัพพระยายาวาสุดที่สุขุมวิทได้อีกทาง หลักๆเวลาจะเข้าโซนพัทยาก็วิ่งตามเส้นเลียบหาดจอมเทียน 1 ไปเข้าทัพพระยา แล้วเลี้ยวขวาเข้าเทพประสิทธ์ก็เข้าไปสู่พัทยาใต้, พัทยากลาง, พัทยาเหนือได้แล้วค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนค่อนข้างง่าย อย่างแรกเลยคือโครงการมีรถกอล์ฟไปส่งในจุดที่สะดวกได้ และมีรถสองแถวแดงกับวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาให้เก็นอยู่เรื่อยๆ ที่นั่งไปโซนพัทยา หรือถนนคนเดินได้ในราคา 10 – 20 บาทเท่านั้น
การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารในโครงการจะเป็นอาคารคู่กัน 2 อาคาร คือ Tower A (Ocean Front Tower / 55 ชั้น, 102 ยูนิต) และ Tower B (Ocean View Tower / 42 ชั้น, 232 ยูนิต) ซึ่งโครงการออกแบบตัวตึกให้เป็นรูป 3 เหลี่ยมเพื่อให้อาคาร B ที่อยู่ด้านหลังสามารถรับวิวทะเลได้ และส่วนด้านของอาคารจะไม่ปะทะกันตรงๆ ทำให้ทุกยูนิตได้เห็นวิวทะเลเหมือนกัน โดยทั้งสองอาคารจะมีระยะห่างกันอยู่ประมาณ 50 เมตรค่ะ
Tower A เป็นอาคารที่อยู่ติดหน้าหาดริมทะเลเลย ด้านหน้าของอาคารจึงหันเข้ารับวิวทะเลได้เต็มๆ เป็นมุมกว้างไม่มีอะไรบัง Tower A นั้นออกแบบให้มีแค่ 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ส่วน Tower B จะมี 7 ยูนิตต่อชั้นและมีบางยูนิตที่เป็นแบบเพดานสูง เบิ้ลชั้นอยู่ ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ
ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished คือมีชุดครัวและชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in มาให้ ซึ่งช่วยเพิ่มที่เก็บของได้เยอะดี พร้อมฟูกเตียงและม่านเลย
สุขภัณฑ์ของ American Standard และชุดก็อกและฝักบัวของ Kasch ห้องน้ำมาแบบ Full Bath คือมีอ่างอาบน้ำและมีฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์พร้อมฝักบัวและ Rain Shower มาให้ อ่างล้างหน้าทำเคาน์เตอร์มาให้กว้างดี ห้องแบบ 3 ห้องนอน มีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มาให้ด้วย
ฝ้าเพดานห้องสูง 3 เมตร ถือว่าสูงโปร่งเลยแถมบางห้องมีห้องเพดานสูงเบิ้ลสองชั้นมาให้ด้วย พื้นเป็น Engineering wood 14 มม.กับพื้นหินอ่อนสังเคราะห์ 60 x 60 cm.
เรื่องการออกแบบห้อง มีมาให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน 60 ตรม. ซึ่งปรับแบบมาให้ลงตัวและมีห้องน้ำที่มีขนาดสบายๆใช้งานได้ไม่อึดอัด ไปจนถึงห้องแบบเพนท์เฮ้าส์แบบ Pool Villa และมีห้องนอนแบบ Duplex 2 ชั้น ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากคอนโดทั่วไป ซึ่งก็ถือว่ามีตัวเลือกหลากหลาย เจาะลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่มองหาคอนโดที่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนบ้าน พร้อมการรักษาความปลอดภัยแบบคอนโดมิเนียมที่มีความปลอดภัยสูง
สิ่งอำนวยความสะดวก – เรียกว่าจัดเต็มตามสไตล์เมเจอร์นะคะ ทางเข้าออกภายในโครงการนี้จะอยู่ชิดฝั่งขวามือและมีอาคารจอดรถ 3 ชั้นอยู่ด้านหลัง ด้านบนเป็นคอร์ตเทนนิส Tower A และ B ทั้ง 2 อาคารอยู่ตรงกลาง เชื่อมต่อด้วย Lobby Pavilion ที่ด้านข้างเป็นวิวสระบัว และสระว่ายน้ำอีกส่วนที่เรียกว่า Social Pool มีความพิเศษคือจะเป็นส่วนสระที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆอยู่ พร้อมสนามเด็กเล่นเด็กและลานบาร์บีคิวอยู่ใกล้ๆ และมีสระว่ายน้ำที่เป็นไฮไลท์ของโครงการอยู่ส่วนด้านหน้าโครงการติดหาดจอมเทียนอีก 2 สระอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนกลางที่ทั้ง 2 อาคารอีก
Tower A ชั้นล่างสุดจะมีห้อง Sauna แยกชายหญิง ที่ชั้นลอยหรือ M จะมี Kid’s Club, ห้อง Aerobic & Yoga และห้อง Fitness ที่ Sky Lounge ชั้น 26 มี Relaxation Room, Sky BBQ Terrace & Lounge, Sky Multi-Purpose Room และ Multi-Purpose Room
Tower B จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักๆเหมือนกับ Tower A เลยคือ ที่ชั้น M จะมี โต๊ะพูล, ห้องเครื่องซักผ้า, ห้อง Aerobic & Yoga และห้อง Fitness และมี Sky Lounge ชั้น 22 ที่มี Sky BBQ Terrace, Sky Lounge & Garden และ ห้องอเนกประสงค์พร้อมครัว ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อที่ดีค่ะ
ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันมากกว่า 75% ของจำนวนยูนิตโครงการ พร้อมระบบลิฟต์ล็อกชั้น, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9 | อยู่ติดหาดจอมเทียน บนถนนเลียบหาดจอมเทียนสาย 1 ที่มีความเงียบสงบเหมือนหาดส่วนตัว |
การเดินทาง ใช้รถ | 8 | เดินทางสะดวก ไปไหนมาไหนง่าย เข้าสู่แหล่งอำนวยความสะดวกโซนพัทยาได้ในระยะขับรถประมาณ 15 นาที |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8 | โครงการมีรถกอล์ฟไปส่งในจุดที่สะดวกได้ และมีรถสองแถวแดงกับวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาให้เก็นอยู่เรื่อย |
ห้องและวัสดุ | 8 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว มีความใส่ใจรายละเอียดขายแบบ Fully Furnished |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 9 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 99,489 บาท/ตรม. บาท/ตร.ม. บาท/ตร.ม. ได้คอนโดหรูติดหาดจอมเทียน พร้อมพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม ส่วนที่มีมูลค่าสูงของโครงการคือทำเลที่ดินริมหาดที่เร่ิมหายากและมีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบาย |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 9 | ดีมาก |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 038-233-111
Website : www.mde.co.th/ReflectionPattaya
Facebook : Reflection Pattaya
Instagram : REFLECTIONPATTAYA
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น