EP.264 รีวิว เดอะ พอยต์ คอนโด แหลมฉบัง The Point Condo Laemchabang
Written by Chaya Kaewcheychit
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้พวกเรา Condonayoo มีรีวิวโครงการที่น่าสนใจมาฝากกันอีกเช่นเคย โดยรีวิวฉบับนี้เป็นคิวของโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง ของทาง ควอลิตี้เฮ้าส์ (Q. House) ทำเลโครงการตั้งอยู่ในซอยดาวเทียม ใกล้นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง พร้อมรายล้อมด้วยสถานที่สำคัญมากมายได้แก่ ม.เกษตรศาสตร์, รพ.แหลมฉบัง, บ.ไทยออยล์ และ ฮาร์เบอร์มอลล์ เป็นต้น
เดอะ พอยต์ คอนโด แหลมฉบัง เป็นคอนโด Low-Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร บนพื้นที่ขนาดกว่า 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัย 679 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต ห้องพักอาศัยมีเพียงแบบเดียวคือแบบห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยได้ทันที
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีสวนหย่อมกระจายอยู่ตามจุดต่างๆแต่ละอาคาร ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัย ใช้การเข้าออกพื้นที่โครงการด้วยระบบ Key Card Access พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ CCTV 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 699,000 บาท
ชื่อโครงการ | เดอะ พอยต์ คอนโด แหลมฉบัง / The Point Condo Laemchabang |
เจ้าของโครงการ | คิวเฮ้าส์ / Q.House |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 5 ไร่ |
จำนวนตึก | 4 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 400 คัน |
โซน | แหลมฉบัง, ชลบุรี |
ขนส่งสาธารณะ | n/a |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนดาวเทียม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี |
กำหนดการ | เริ่มสร้างปี 2557 |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย |
ราคา | เริ่มต้น 699,000 บาท (พ.ย. 2561) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 30,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลาง | 30 บาท/ตร.ม./เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
หน่วยงานราชการ
วัดและอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “เดอะพอยต์ คอนโด แหลมฉบัง เริ่มต้นชีวิตสนุก…ลงตัวทุกฟังก์ชั่น ใกล้นิคมเพียง 1 ก.ม. เริ่ม 699,000 บาท” |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนดาวเทียม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
พิกัด : 13.100043, 100.922057
แผนที่จากทางโครงการ
The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโดที่มีจุดเด่นหลักคืออยู่ในทำเลใจกลางแหลมฉบัง ภาพลักษณ์ของทำเลแหลมฉบังที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือเป็นเมืองท่าที่สำคัญด้วยท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ “ท่าเรือแหลมฉบัง” จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นทำเลที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่รายล้อมอยู่รอบด้าน หรือจะเรียกว่าเป็นทำเลอุตสาหกรรมก็ได้ จากตัวโครงการสามารถเข้าถึงสถานที่ทำงานที่สำคัญของแหลมฉบังได้โดยง่ายเช่น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ท่าเรือแหลมฉบัง, บริษัทไทยออยล์ และเครือสหพัฒน์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นตัวโครงการจึงค่อนข้างตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก
ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ใกล้ถนนใหญ่เดินทางสะดวก หรือแม้แต่การเดินทางในระยะใกล้ก็มีเส้นทางลัดเลาะมากมายคล้ายเป็นใยแมงมุม ด้วยลักษณะนิสัยของคนในจังหวัดชลบุรีหากเดินทางไปไหนมาไหนในระยะที่ไม่ไกลนัก ส่วนใหญ่นิยมใช้รถจักรยานยนต์กันเป็นหลัก สามารถใช้ถนนเส้นรองโดยไม่ต้องออกถนนใหญ่เลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นจากโครงการเดินทางไปยังห้าง Harbor Mall สามารถใช้ซอยเมืองใหม่ 1 โดยที่ไม่ต้องออกไปยังถนนเส้นหลักสุขุมวิทเลยครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีข้อดีประการแรกเลยคือตัวโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ถนนเส้นที่นับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัดชลบุรี พอใกล้ถนนใหญ่ก็ช่วยให้เราสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง นอกจากทางเข้าหลักที่มาจากฝั่งถนนสุขุมวิทแล้ว ยังสามารถเข้าออกได้ทั้งจากเส้นมอเตอร์เวย์ช่วงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง หรือจะมาจากเส้นรองอย่างถนนเมืองใหม่กลางหรือถนนเก้ากิโลก็เข้าถึงโครงการได้เช่นกัน เรียกว่าสามารถเข้าโครงการได้จากทุกทิศทางเลยทีเดียว
ข้อดีประการที่สองคือ หากการใช้ชีวิตประจำวันต้องเดินทางไปมาระหว่างโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา หรือ แหลมฉบัง-พัทยา การเดินทางระหว่างโซนข้างต้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเพราะโครงการเราอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิทที่ใช้เดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีในการขับรถ ส่วนการเข้ากรุงเทพนั้นก็มีทางด่วนมอเตอร์เวย์เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดี หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดของตัวเมืองชลบุรีได้
ทางด่วนมอเตอร์เวย์ หลังจากที่ผมมีกล่าวถึงทางด่วนไปก่อนหน้านี้ ภาพนี้แสดงกราฟิกให้เห็นถึงระยะทางจากโครงการเพื่อไปใช้งานทางด่วนมอเตอร์เวย์ มีระยะทางอยู่ที่ 10 กม. หรือประมาณ 15 นาทีในการเดินทาง โดยผ่านถนนแหลมทองและเก้ากิโล
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากความเป็นทำเลอุตสาหกรรมที่รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างเช่น นิคมฯแหลมฉบัง, นิคมฯปิ่นทอง, เครือสหพัฒน์, บ.ไทยออยล์ และ Gistda เป็นต้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสริมให้การอยู่อาศัยการใช้ชีวิตสะดวกขึ้นอย่างครบถ้วนรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า Harbor Mall และ Robinson ศรีราชา โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งเช่น รพ.วิภาราม และรพ.แหลมฉบัง ส่วนสถานศึกษาก็มีรร.อัสสัมชัญศรีราชา และม.เกษตร ศรีราชา มีทุกอย่างครบจบที่ทำเลเดียว
ส่วนการหาของทานในชีวิตประจำวัน ใกล้กับโครงการมีร้านค้าที่เปิดรองรับการใช้งานคนในท้องถิ่นอยู่ประมาณหนึ่งมีทั้งร้านข้าวตามสั่ง, ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอาหารอีสาน เสริมความอุ่นใจด้วย 7-11 และ Family Mart ที่เปิด 24 ชม. อีกทั้งยังมีตลาดนัดที่เปิดช่วงเย็นให้หากับข้าวหรือวัตถุดิบอีกด้วย โดยทั้งหมดที่กล่าวมาอยู่ห่างจากโครงการแค่ 40-50 เมตรเท่านั้น เดินเท้าไปใช้งานสบายหายห่วง
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
หน่วยงานราชการ
วัดและอื่นๆ
แยกและถนนใกล้เคียง
::: การเดินทาง :::
สำหรับเส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการ เดอะ พอยต์ แหลมฉบัง ผมออกเดินทางจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรีโดยใช้ทางด่วนสายบูรพาวิถี หรือทางด่วนบางนา พอสุดทางด่วนก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี ให้ใช้ทางเลี่ยงเมืองออกไปยังมอเตอร์เวย์ เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด จากเส้นมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าตรงไปจนถึงทางออกแหลมฉบัง ทางที่ใช้สำหรับไปยังท่าเรือแหลมฉบังนั่นเอง ช่วงก่อนถึงถนนสุขุมวิทเล็กน้อยให้เข้าซอยมโนรมเพื่อไปเชื่อมกับถนนดาวเทียมซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ เดอะ พอยต์ แหลมฉบังครับ
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนบูรพาวิถี > เส้นเลี่ยงเมืองชลบุรี > มอเตอร์เวย์ > มอเตอ์เวย์ช่วงทางเข้าแหลมฉบัง > ซอยมโนรม > ซอยดาวเทียม > The Point Condo แหลมฉบัง
ผมขอเริ่มภาพประกอบการเดินทางจากด้านบนทางด่วนบูรพาวิถีกันเลยครับ โดยในภาพเป็นช่วงที่เราวิ่งมาจนสุดทางด่วนกำลังจะลงด้านล่างเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี
ขณะนี้เราอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี
ก่อนถึงตัวเมืองมีป้ายบอกทางเลี่ยงเมืองชลบุรี ให้เราออกซ้ายเพื่อใช้เส้นดังกล่าว หลีกเลี่ยงการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดด้านในตัวเมืองครับ
บนเส้นเลี่ยงเมืองให้เราตามป้ายพัทยาไปได้เลย
พอสุดทางเลี่ยงเมืองแล้วเราจะเข้าสู่ทางพิเศษหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์ ให้เราสังเกตป้ายศรีราชา ให้เราไปวิ่งอยู่ที่ทางคู่ขนานด้านนอกครับ
อันที่จริงแล้ว เราสามารถตามป้ายพัทยาต่อไปที่เส้นด้านในมอเตอร์เวย์ก็ได้ แต่จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ส่วนในวันที่ผมเดินทางนั้นเป็นวันธรรมดามีปริมาณรถไม่มากครับจึงสามารถวิ่งที่ทางคู่ขนานด้านนอกได้สบายๆ
ขับมาตามเส้นทางคู่ขนานจนเจอป้ายทางออกไปยังแหลมฉบัง ให้อยู่บนช่องทางจราจรช่วงกลางๆ เลน 2-3 เอาไว้
จากนั้นแหลมฉบังให้เลี้ยวขวา
ขณะนี้เราอยู่บนทางพิเศษหมายเลข 7 ช่วงทางลงท่าเรือแหลมฉบัง
ขับตรงต่อไปตามป้ายแหลมฉบัง
จุดสังเกตต่อไปคือให้ดูซ้ายมือไว้ หากเจอหน่วยงาน Gistda หน่วยงานทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ ให้เราเตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ
ภาพกราฟิกเพิ่มเติมจากจุดที่เราเจอกับ Gistda วิ่งชิดซ้ายเอาไว้ เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าซอยมโนรม ซอยที่สามารถเชื่อมต่อกับซอยดาวเทียมเพื่อเข้าถึงตัวโครงการได้
วิ่งผ่าน Gistda มาประมาณ 600 เมตร เจอกับทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยมโนรม อีกจุดสังเกตคือ ทางเข้าซอยจะอยู่ก่อนถึงถนนช่วงที่เป็นทางโค้งขวาครับ
ขับเข้ามาตามซอยมโนรมจนถึงสี่แยก ที่มี 7-11 ให้เลี้ยวซ้ายไปยังซอยดาวเทียม
จากสี่แยกเมื่อสักครู่ประมาณ 40-50 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ
::: บริเวณโครงการ :::
หลังจากที่ถึงตัวโครงการแล้ว ผมจะยังไม่พาเข้าไปที่ด้านในโครงการนะครับ แต่จะพาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันก่อน พื้นที่โดยรอบค่อนข้างเปิดโล่งด้วยผืนที่ดินเปล่า มีเพียงทางฝั่งซ้ายหรือทิศตะวันตกที่เป็นแหล่งชุมชนบ้านพักอาศัยดั้งเดิม ผมมองว่าการที่มีบ้านพักอาศัยเป็นเรื่องดีคือทำให้พื้นที่ดังกล่าวดูไม่เงียบเหงาจนเกินไป และยังมีร้านค้าร้านสะดวกซื้อตามมาเปิดให้บริการคนในพื้นที่อีกด้วย โดยจากโครงการเดินแค่ 40 เมตรก็ถึงบริเวณสี่แยกที่มีทั้ง 7-11 และ Family Mart ประกอบกับโดยรอบสามารถหาซื้อของทานได้ด้วย ส่วนมีอะไรบ้างนั้นเลื่อนตามไปดูภาพชุดต่อไปได้เลยครับ
เริ่มต้นเรามาตั้งหลักกันที่บริเวณถนนดาวเทียมด้านหน้าโครงการกันครับ
ถนนดาวเทียมเป็นถนนขนาด 2 เลนรถวิ่งสวนกันได้
บรรยากาศถนนเงียบสงบรถวิ่งผ่านไม่มาก อีกทั้งยังเป็นถนนที่ดูสะอาดโล่งสบายตา ฟุตบาทสองข้างทางน่าเดินครับ
เราไปดูกันหน่อยว่าแถวนี้ในระยะที่เดินด้วยเท้า เราพอจะฝากท้องที่ไหนได้บ้าง
แค่ข้ามถนนโครงการมาก็จะเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยว โกเด้ง-โฮเด้ง ลูกชิ้นหมูและเนื้อแฟรนไชส์เจ้าดัง
ติดกันมีร้านอาหารอีสาน “ร้านลาบชัยภูมิ” เจ้าของร้านยืนยันว่าเป็นสูตรอีสานดั้งเดิมของแท้ แซ่บหลายเด้อ
ถัดมาอีกร้านเป็นร้านอาหารตามสั่ง มีทั้งแบบราดข้าว-กับข้าว สุกี้ ก๋วยเตี๋ยว หากผมจะมาเป็นลูกบ้านโครงการ The Point เห็นร้านค้าที่อยู่รอบๆโครงการมีหลากหลายประเภทแบบนี้ก็อุ่นใจล่ะครับ ไม่อดตายแน่นอน
ของทานเล่นก็มีนะ ลูกชิ้น-ไส้กรอก-เกี๊ยวทอด ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ชา-กาแฟโบราณ
เดินดูร้านค้าเพลินๆ เผลอแป๊ปเดียวมาถึงสี่แยก มองเห็นร้านสะดวกซื้ออยู่ฝั่งตรงข้าม เรื่องการข้ามถนนนั้นไม่ต้องเป็นกังวล อย่างที่ผมบอกไปว่าแถวนี้รถผ่านเข้าออกไม่เยอะครับ แถมคนแถวนี้เขามีน้ำใจอีกด้วย เห็นคนตั้งท่าข้ามถนนก็พร้อมที่จะชะลอรถให้คนข้ามถนนก่อน
ตรงหัวมุมของสี่แยกดังกล่าว ช่วงเย็นจะมีความคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีตลาดนัดเปิดทุกวัน หาซื้อได้ทั้งกับข้าวพร้อมทาน หรือจะเป็นวัตถุดิบไปปรุงเองทำกินเองก็ได้ ใกล้โครงการมากครับจากตลาดนัดนี้ ด้านหลังยังมองเห็นอาคารของ The Point Condo ได้อยู่
หิวเมื่อไรก็แวะมาครับ 7-11
เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย Family Mart
ข้าง 7-11 มีร้านข้าวมันไก่ บะหมี่ไก่ แต่ร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นๆ
หลักจากที่ผมพาเดินดูร้านค้าร้านอาหาร แถวๆโครงการกันจนอิ่มท้องไปแล้ว ต่อไปถึงเวลาอันสมควรที่เราจะเข้าไปดูด้านในโครงการกันต่อครับ
ป้ายชื่อโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง
ทางเข้าออกโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัย ด่านแรกคือไม้กระดกที่ใช้กรองบุคคลภายนอก-ภายใน
ลูกบ้านแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดไม้กระดก ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อน
กล้อง CCTV มีทั้งขาเข้าและขาออก
ห้องพักเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามา มองเห็นบรรยากาศด้านในเป็นวิวที่เปิดโล่ง ดูสบายตา จุดไหนเป็นที่ว่างก็จะมีการเอาต้นไม้มาลงให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อเสริมความร่มรื่น
สำหรับเรื่องของที่จอดรถนั้น ทางโครงการแจ้งว่าสามารถจอดได้สูงสุดถึง 400 คัน โดยส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในระหว่างก่อสร้างเพื่อส่งมอบให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางต่อไป ปัจจุบันสามารถจอดได้ 107 คัน
อาคารพักอาศัยมีทั้งหมด 4 อาคาร สูง 8 ฃั้น เรียงตามลำดับตัวอักษร A-B-C-D โดยทางโครงการจะแบ่งด้วยการใช้สีประจำอาคารที่แตกต่างเพื่อง่ายต่อการจดจำ
รวมทิ้งสิ้น 683 ยูนิต
เริ่มจากอาคาร A เลือกใช้สีฟ้าน้ำทะเล
สุดถนนบริเวณด้านหน้าอาคาร A จะเป็นทางกลับรถ
ลานจอดรถจักรยานยนต์
สวนหย่อมมีการกระจายไปตามพื้นที่รอบอาคารต่างๆ โดยในส่วนของอาคาร A นั้น ถัดมาจากลานจอดรถมอไซค์ จะมีสวนที่อยู่บนทางขึ้นยกระดับ
การดูแลตกแต่งสวนดูเรียบร้อย ไม่ปล่อยหญ้ารุงรัง เพิ่มเติมด้วยม้านั่งหินสำหรับแวะนั่งพักผ่อน
กลับมาที่ถนนเมนหลักของโครงการ เพื่อไปดูอาคารถัดไป
ส่วนต่อไปคืออาคาร B, C และ D
ทางเดินขึ้นลานด้านหน้าอาคารมีสเตปบันไดที่ไม่ได้สูงมากนัก แล้วพอมีการเล่นระดับแบบนี้ก็ทำให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่น มีความสนุกเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทางขึ้นอาคารไม่ได้มีเพียงแค่บันไดเท่านั้น แต่มีทางลาดชันเอาไว้สำหรับรองรับผู้สูงอายุ, ผู้ทุพลภาพ หรือการใช้รถเข็นขนย้ายสิ่งของ แม้แต่พื้นที่ว่างด้านข้างทางลาด ทางโครงการยังจัดให้เป็นสวนได้อย่างลงตัว
สำหรับอาคาร B และอาคาร C หันหน้าเข้าหากัน
อาคาร B ใช้สีเหลืองเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร B
อาคาร C ใช้สีแดงเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร C
สวนหย่อมช่วงระหว่างอาคาร B และอาคาร C
ภาพรวมของสวนดูสวยงามเป็นระเบียบ แบ่งเป็นโซนทางเดินและโซนที่มีมุมนั่งเล่น
อาคารสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดคืออาคาร D ใช้สีเขียวมะนาวเป็นสีประจำอาคาร
ทางเข้าอาคาร D
สวนหย่อมอาคาร D
เดินย้อนกลับมาที่ด้านหน้าโครงการเพื่อไปดูส่วนต่อไปครับ
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะไปดูกันในวันนี้อยู่ที่อาคาร A
แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
โถงทางเดินภายในอาคารติดตั้งไฟส่องสว่าง พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
::: แปลนห้อง :::
แบบห้องภายในโครงการมีเพียงแบบเดียวคือแบบ Studio ขนาด 26 ตร.ม.
แบบห้อง Studio คือแบบห้องที่ไม่ได้มีการแบ่งส่วนกันระหว่างห้องนอนห้องนั่งเล่น โดยแปลนห้องนั้นจะเปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด เปิดประตูห้องเข้ามาเจอกับ Living Area ถัดเข้าไปเป็นส่วนวางเตียงนอน พื้นที่ตรงกลางระหว่างมุมนั่งเล่นและเตียงนอน มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่อาจจะใช้เป็นมุมทานข้าว หรือวางโต๊ะทำงาน อีกส่วนของห้องคือส่วนครัวและห้องน้ำ ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดมีเคาน์เตอร์ให้ ด้านนอกเป็นระเบียง ห้องน้ำนั้นมีการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก เป็นสัดส่วน
::: ห้องตัวอย่าง :::
เปิดประตูเข้าไปชมด้านในห้องตัวอย่างพร้อมๆกันเลยครับ
เข้ามาด้านในห้องผมขอพูดถึงวัสดุพื้นฐานก่อนครับ พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว ดวงไฟแบบดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตรโดยประมาณ กรอบประตูระเบียงหน้าต่างวัสดุอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted มีเคาน์เตอร์ครัว, ตู้รองเท้า, ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
ต่อไปเรามาดูพื้นที่การใช้งานแต่ละส่วนกันบ้าง เปิดประตูห้องเข้ามาส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อเข้าไปถึงส่วนวางเตียงนอนด้านใน ทางโครงการเสริมแนวระแนงไม้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อทำเป็นตัวแบ่ง partition ระหว่างห้องนอนห้องนั่งเล่นให้ดูมีความชัดเจนในการใช้งานมากขึ้น
ตรงบริเวณมุมนั่งเล่น หากเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถลงเฟอร์นิเจอร์ได้ 2 ส่วนคือส่วนของโซฟา และโต๊ะอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับทานอาหารได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวผนังสำหรับติดตั้งชั้นวางทีวี หรือจะใช้เป็นแบบแขวนผนังก็สามารถช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้ดี สังเกตทางขวาเห็นบานกระจกขนาดใหญ่นั่นคือตู้เก็บของที่ทางโครงการเค้าทำมาให้ลูกบ้านด้วยครับ และยังเป็นจุดที่ใช้ตรวจสอบความเรียบร้อยของตนเองก่อนออกจากบ้านได้ด้วย
ลองเปิดตู้เก็บรองเท้าดูการแบ่งช่องด้านใน 3 ชั้นล่างจะมีการลาดเอียงเหมาะแก่การเก็บรองเท้า และ 3 ชั้นบนเป็นช่องปกติเก็บของทั่วไป
ขยับเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ
ทางโครงการเลือกวางเตียงขนาด 5 ฟุตชิดกำแพงให้ดูเป็นตัวอย่าง หน้าต่างห้องเป็นแบบบานเลื่อนอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
การวางเตียงแบบนี้อาจจะทำให้การใช้งานจริงไม่สะดวกนักในกรณีที่อาศัยอยู่ 2 คนเพราะสามารถขึ้นลงเตียงได้จากฝั่งเดียว อาจจะสลับตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียงให้ไปอยู่ทางฝั่งขวาแทนเพื่อให้มีช่องทางเดินระหว่างเตียงกับหน้าต่าง แถมยังช่วยให้การเปิดปิดม่าน-หน้าต่างทำได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
มองย้อนไปทางฝั่งปลายเตียง มีตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้แบบนี้เลย บานประตูติดตั้งกระจกเงาสำหรับใช้แต่งตัว และมีพื้นที่ข้างตู้อาจจะเสริมเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือตู้เก็บของ หรืออาจจะใช้เป็นมุมโต๊ะทำงานก็ได้
ขยับเข้าไปยัง Pantry โครงการมีเคาน์เตอร์ครัวบิวท์อินให้แบบนี้ ด้านล่างเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ด้านข้างเหลือที่ว่างสำหรับใส่ตู้เย็นขนาดประมาณ 5-7 คิวกำลังพอเหมาะ
ท๊อปครัววัสดุเมลามีนสีขาว ฝังซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว
ด้านบนเพิ่มแนวชั้นวางของให้อีก 1 ชั้น ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในแนวตั้งได้ดี
ถัดออกไปจากห้องครัวคือระเบียงซักล้าง
พื้นที่ระเบียงเหมาะสำหรับวางเครื่องซักผ้า วางระบบประปาเอาไว้พร้อมรอใช้งานได้ทันที ส่วนปลั๊กไฟก็เสริมที่ครอบกันน้ำให้มีความปลอดภัย
คอมแอร์แขวนขึ้นด้านบน เพื่อให้ใช้งานระเบียงได้เต็มพื้นที่ มีระแนงเหล็กช่วยบังสายตาให้ตัวอาคารดูเป็นระเบียบเมื่อมองจากภายนอก โคมไฟเป็นแบบดวงกลมซาลาเปา
หันหลังกลับไปเจอกับทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำก่อธรณีสูงเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลมายังส่วนครัวที่พื้นเป็นลามิเนต
ภาพห้องน้ำมุมนี้แสดงให้เห็นการแบ่งพื้นที่ห้องน้ำได้ค่อนข้างชัดเจน วางโถสุขภัณฑ์ไว้ทางซ้าย ส่วนทางขวาด้านหลังประตูมีอ่างล้างหน้า และด้านในคือพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ
สุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งสายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่ให้แล้ว
ด้านหลังมีแนวกำแพงสำหรับวางอุปกรณ์ห้องน้ำ เหนือขึ้นไปด้านบนเป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัว
อ่างล้างหน้าอยู่ด้านหลังประตูพร้อมด้วยบานกระจกเงา
อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวของ American Standard
สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกอาบน้ำมีระยะประมาณ 120 x 80 ซม. ก่อธรณีกันน้ำไหลอีกชั้น
ฝักบัวมีราวแขวนที่สามารถปรับระดับความสูง ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางสบู่แชมพูให้แล้ว ไม่ต้องไปหาชั้นวางแบบแขวนมาเพิ่มเติม
เพดานติดตั้งพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้ภายในห้องน้ำมีอากาศและสุขอนามัยที่ดี
:: ราคา :: (ก.ย.61)
แบบห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม. : ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท – Fully Fitted
– ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน
*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด*
::: บทสรุปโครงการ :::
– ทำเลที่ตั้งโครงการ The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโดที่มีจุดเด่นหลักคืออยู่ในทำเลใจกลางแหลมฉบัง ภาพลักษณ์ของทำเลแหลมฉบังที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือเป็นเมืองท่าที่สำคัญด้วยท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ “ท่าเรือแหลมฉบัง” จึงส่งผลให้ทำเลแห่งนี้เป็นทำเลที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่รายล้อมอยู่รอบด้าน หรือจะเรียกว่าเป็นทำเลอุตสาหกรรมก็ได้ จากตัวโครงการสามารถเข้าถึงสถานที่ทำงานที่สำคัญของแหลมฉบังได้อย่างง่ายเช่น นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ท่าเรือแหลมฉบัง, บริษัทไทยออยล์ และเครือสหพัฒน์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นตัวโครงการจึงค่อนข้างตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก
ความอุดมสมบูรณ์ นอกจากความเป็นทำเลอุตสาหกรรมที่รายล้อมด้วยแหล่งงานขนาดใหญ่อย่างเช่น นิคมฯแหลมฉบัง, นิคมฯปิ่นทอง, เครือสหพัฒน์, บ.ไทยออยล์ และ Gistda เป็นต้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสริมให้การอยู่อาศัยการใช้ชีวิตสะดวกขึ้นอย่างครบถ้วนรอบด้าน ทั้งห้างสรรพสินค้า Harbor Mall และ Robinson ศรีราชา โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งเช่น รพ.วิภาราม และรพ.แหลมฉบัง ส่วนสถานศึกษาก็มีรร.อัสสัมชัญศรีราชา และม.เกษตร ศรีราชา มีทุกอย่างครบจบที่ทำเลเดียว
– การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ตัวโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทเพียงแค่ 700 เมตร ถนนเส้นที่นับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัดชลบุรี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง นอกจากทางเข้าหลักที่มาจากฝั่งถนนสุขุมวิทแล้ว ยังสามารถเข้าออกได้ทั้งจากเส้นมอเตอร์เวย์ช่วงทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง หรือจะมาจากเส้นรองอย่างถนนเมืองใหม่กลางหรือถนนเก้ากิโลก็เข้าถึงโครงการได้เช่นกัน เรียกว่าสามารถเข้าโครงการได้จากทุกทิศทางเลยทีเดียว
และหากว่าการใช้ชีวิตประจำวันต้องเดินทางไปมาระหว่างโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา หรือ แหลมฉบัง-พัทยา การเดินทางไปมาระหว่างโซนข้างต้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเพราะโครงการเราอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิทที่ใช้เดินทางอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีในการขับรถ ส่วนการเข้ากรุงเทพนั้นก็มีทางด่วนมอเตอร์เวย์เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดี หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดของตัวเมืองชลบุรีได้
– การเดินทางด้วยรถสาธารณะ แม้ว่าบริเวณด้านหน้าโครงการจะไม่มีสาธารณะวิ่งผ่าน แต่ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่จึงทำให้สามารถเข้าถึงถนนใหญ่เพื่อหารถสาธารณะได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้สองแถวในการเดินทาง แต่ด้วยลักษณะนิสัยของคนต่างจังหวัด หากเดินทางในระยะใกล้จะนิยมใช้รถจักรยานยนต์เป็นหลักไม่ค่อยได้ใช้รถสาธารณะกันเท่าไรนัก
– การออกแบบโครงการและวัสดุ The Point Condo แหลมฉบัง เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น ออกแบบด้วยสไตล์ Modern Resort บนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ห้องพักแบ่งเป็นห้องพักอาศัย 679 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกเพียงแบบเดียวคือ Studio ขนาด 26 ตร.ม. แม้ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่สามารถจัดฟังก์ชั่นได้ลงตัวครบทุกการใช้งาน ทั้งห้องนั่งเล่น, มุมทานข้าว, ห้องนอน, ห้องครัว, ระเบียง และห้องน้ำแยกส่วนแห้ง-เปียก ขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัวและตู้เสื้อผ้าให้
วัสดุพื้นฐานที่โครงการให้อยู่ในเกรดที่เหมาะสมตามระดับราคา พื้นห้องปูลามิเนต, ผนังฉาบเรียบสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ และกรอบประตูหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมอบขาว เพดานห้องสูงประมาณ 2.4 เมตร ในห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard
– สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางเปิดโล่งขนาดกว่า 1.5 ไร่ ประกอบไปด้วยสวนหย่อมที่กระจายอยู่โดยรอบและช่องว่างระหว่างอาคาร มีลานจอดรถที่สามารถจอดได้ถึง 400 คัน อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานด้วยระบบ Key Card Access ที่มีกรองคนทั้งการเข้าออกโครงการ และการเข้าออกในแต่ละอาคาร พร้อมด้วยกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.0 | ทำเลใจกลางเมืองแหลมฉบัง เข้าถึงสถานที่สำคัญง่ายโดยเฉพาะสถานที่ทำงานในโซนอุตสาหกรรม |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | ใกล้ถนนใหญ่ เข้าออกได้หลายทาง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 6.5 | หน้าโครงการไม่มีรถประจำทางหรือรถสาธารณะใดๆผ่าน จึงไม่ใช้ทางเลือกที่เหมาะสมนัก |
ห้องพักและวัสดุ | 7.0 | ห้องพักแบบ Studio จัดวาง Layout ได้ลงตัวกับขนาดห้อง 26 ตร.ม. มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.0 | พื้นที่ส่วนหย่อมและพื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่กว่า 1.5 ไร่ ระบบรปภ.มาตรฐานสมัยใหม่ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | ราคาเริ่มเพียง 699,000 บาท หยิบจับง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง ปล่อยเช่าก็ได้ เพราะใกล้แหล่งงานของแหลมฉบัง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.67 | ดี |
**การให้คะแนนเป็นเพียงความคิดเห็นของทีมงานเพียงกลุ่มเดียว ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้**
::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :::
Call Center : 1388
Website : https://www.qh.co.th/project/The-Point-CondoupCountry/Lamchabung
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น