EP.255 รีวิว คอนโด The Trust @BTS เอราวัณ คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ ติด BTS ช้างเอราวัณ
The Trust Condo @BTS เอราวัณ มีความน่าสนใจ ดังนี้
– ติดรถไฟฟ้า BTS ช้างเอราวัณ ต่อเดียวถึงสยาม
– ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก และ ทางด่วนขั้นที่ 1
– คอนโดพร้อมอยู่ พร้อมเฟอร์นิเจอร์
– ห้องรับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
– ระบบลิฟท์ล็อคชั้น และ CCTV ตลอด 24 ชม.
ราคาเริ่ม 1.39 ล้านบาท* (จองเพียง 2,500.*)
ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ คลิก https://www.qh.co.th/project/The-Trust-Condo/TCDBTSE
.
? สอบถามเพิ่มเติมโทร 1388
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Condonayoo ขอพาไปชมโครงการ The Trust @ BTS เอราวัณ จาก Q.House ตัวโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
อยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีช้างเอราวัณ – 11 สถานี ถึงทองหล่อ เดินทางสะดวกใกล้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และ วงแหวนกาญจนาภิเษก
เดอะ ทรัสต์ แอท บีทีเอส เอราวัณ เป็นคอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,570 ยูนิต บนเนื้อที่ 7-2-84.1 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือก 2 แบบ คือ Studio และ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 23.50-28.50 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน ทั้ง Lobby, Mail Room, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, พื้นที่พักผ่อนริมสระ, สวนพักผ่อนสไตล์รีสอร์ท, ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์, ห้องซาวน่า, ห้องสมุด, ห้องเล่นเด็ก, ลิฟต์โดยสาร 6+2 ตัว, ที่จอดรถ 476 คัน, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
ราคาเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท*
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
คอนโดพร้อมอยู่ ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Point Condo รังสิต-คลอง 6 ราคาเริ่ม 699,000.*
Casa Condo บางใหญ่ ราคาเริ่ม 1,009,000.*
The Trust Condo งามวงศ์วาน ราคาเริ่ม 1,390,000.*
The Trust Condo @BTS เอราวัณ ราคาเริ่ม 1,390,000.*
The Trust Condo นครปฐม ราคาเริ่ม 1,290,000.*
ชื่อโครงการ | เดอะ ทรัสต์ แอท บีทีเอส เอราวัณ The Trust @ BTS Erawan |
เจ้าของโครงการ | เดอะ คอนฟิเด้นซ์ ในเครือ ควอลิตี้เฮ้าส์ Q.House |
เนื้อที่ทั้งหมด | 7-2-84.1 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 30 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 476 คัน (ประมาณ 30%) ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | สมุทรปราการ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 25, 102, 142, 508, 511 และ 536 |
ที่ตั้ง | ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ |
กำหนดการ | Pre-Sale 22-23 พย. 57 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2560 |
ราคา | เริ่มต้น 1.39 ล้านบาท* (2566) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม.* (ต.ค.61) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “เดอะทรัสต์ @ BTS เอราวัณ คอนโด High Rise 30 ชั้น บนทำเลศักยภาพ ย่านสมุทรปราการ ด้านหน้าโครงการ ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 11 สถานี ถึงทองหล่อ ด้านหลังโครงการใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา |
:: ที่ตั้งโครงการ ::
ถ.สุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
พิกัด : 13.620185, 100.589386
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ The Trust @ BTS เอราวัณ ตั้งอยู่ติดกับ ถ.สุขุมวิทฝั่งขาเข้า อยู่ติดกับ BTS สถานีช้างเอราวัณ ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาจากสถานีแบริ่งเลยค่ะ โดยทำเลนี้ถือว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ เพราะมีโรงงานทั้งขนาดเล็กและใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีแรงงานและบุคคลากรเข้ามาอยู่อาศัยในย่านนี้ นอกจากนั้นก็จะเป็นลักษณะของชุมชนค่ะ มีทั้งบ้านพักอาศัย, โรงเรียน, ตลาด และวัด
หลังจากการเกิดขึ้นของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวก็ทำให้ย่านนี้มีโครงการที่อยู่อาศัยในแนวดิ่งมาปักหมุดลงตามเส้นรถไฟฟ้าอยู่หลายโครงการ โดยสถานีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือสถานีช้างเอราวัณนั่นเอง
ส่วนแหล่งความสมบูรณ์ตอนนี้จะยังคงกระจุกตัวอยู่แถวๆสำโรงทั้งห้าง, ร้านค้า และตลาด ถึงตอนนี้จะยังเจริญสู่แถบแยกบางนาไม่ได้ แต่ในอนาคตแน่นอนว่า เมื่อการคมนาคมดีขึ้นแล้ว, มีโครงการที่อยู่อาศัยตามมาแล้ว ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายมาเปิดค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น ถือว่าสะดวกสบายค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.สุขุมวิทซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่อีกหลายสาย ใกล้ๆก็จะมี ถ.เทพารักษ์ วิ่งออกไปทางบางบ่อ เชื่อมกับ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.บางนา-ตราด วิ่งยาวๆออกไปทางชลบุรี จะเข้าหรือออกเมืองก็สะดวกเว้นแต่ช่วงเวลา Rush Hour ที่รถจะติดเป็นปกติค่ะ
แต่เราสามารถเลี่ยงรถติดได้เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้ทั้ง จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ทั้งฝั่งขาไปพระราม 2 ทางนี้จะต่อ ถ.วงแหวนอุตสาหกรรมไปลง ถ.พระราม 3 ได้ และฝั่งขาไปทางบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถขับยาวไปลงที่ ถ.รามคำแหง ใกล้ๆ หมู่บ้านสัมมากร และ ถ.รามอินทรา ตรงแฟชั่นไอส์แลนด์ และ ตัวโครงการก็อยู่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนบางนา) ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก
ทางด่วน เราทำกราฟฟิคมาให้ดูจุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ทั้งฝั่งขาไปพระราม 2 และฝั่งขาไปบางนา ในระยะทางใกล้ๆเพียง 2 กิโลกว่าๆเท่านั้น
ส่วนจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครก็อยู่ห่างออกไปเพียง 6.9 กม. ใช้เส้นสุขุมวิทขับตรงไปง่ายๆ จะมีทางแยกขึ้นทางด่วนทางซ้ายมือ
ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินรอบตัวโครงการปัจจุบันนั้นยังไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่ค่ะ ถ้าข้ามไปฝั่งตรงข้ามบริเวณที่เป็นอาคารพาณิชย์ก็จะพอมีร้านอาหารและร้านแผงลอยเปิดอยู่บ้าง ทางโครงการจึงได้จัดพื้นที่สำหรับร้านค้าทั้งหมด 7 ยูนิตด้วยกันเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้าน ตอนนี้ร้านที่มาลงก็มี 7-Eleven ค่ะ
ดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าความอุดมสมบูรณ์ตอนนี้จะอยู่แถวๆสำโรง ซึ่งก็อยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 3 กม.หรือนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปเพียง 2 สถานีถึง (เมื่อสถานีช้างเอราวัณเปิดให้บริการแล้ว) ตรงนั้นก็จะมีทั้ง Imperial World สำโรง, สำโรง เซ็นเตอร์, ตลาดเอี่ยมเจริญ
ถ้าเป็น Hypermarket ก็จะมี Big C Jumbo จะอยู่ตรงกับจุดกลับรถพอดี ส่วนห้างเครือเซ็นทรัลก็จะอยู่ตรงถ.บางนา-ตราด นั่นก็คือเซ็นทรัลบางนา ข้างๆกันมี Big C อยู่อีกแห่งด้วย จากโครงการเดินทางไปก็ราวๆ 20 นาทีถึง
เนื่องจากย่านนี้ก็เป็นย่านชุมชนจึงอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน, โรงพยาบาล และวัดวาอารามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.เมืองสมุทรปราการ, รพ.เปาโล, รพ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์, รร.อัสสัมชัน สมุทรปราการ, รร.เซนต์โยเซฟ ทิพวัล, รร.นายเรือ, รร.สตรีสมุทรปราการ และอีกมากมายค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายสุดๆ เพราะว่ามีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ที่บริเวณหน้าโครงการเลยค่ะ นั่นก็คือสถานีช้างเอราวัณ เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมาจากสถานีสำโรง ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ (โดยสถานีช้างเอราวัณจะเปิดให้บริการภายในปี 2562) เข้าเมืองง่าย 11 สถานี ถึงทองหล่อ นอกจากนี้ สถานีสำโรง จะเป็น สถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ-สำโรง อีกด้วย
แต่ถ้าใครที่ชอบนั่งรถประจำทางก็มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่านอยู่เหมือนกันนะคะ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ก็มีวิ่งผ่านอยู่ตลอด แม้ว่าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวขับก็สบายหายห่วง
เราทำกราฟฟิคการเดินจากบริเวณหน้าโครงการไปถึงทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีช้างเอราวัณให้ดูค่ะ ซึ่งเดินไปไม่กี่สิบเมตรก็ถึง สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว โดยทางขึ้นสถานีที่ใกล้กับตัวโครงการที่สุดก็คือ ทางขึ้นหมายเลข 4 นะ
:: การเดินทางสู่โครงการ ::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่โครงการ The Trust @ BTS เอราวัณ โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร > ถ.สุขุมวิท > กลับรถ > ถ.สุขุมวิท > The Trust @ BTS เอราวัณ
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 17 นาทีค่ะ จากป้ายให้เรามุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ
วิ่งออกซ้ายขึ้นทางยกระดับตามป้ายไปสมุทรปราการ
เราจะมาลงที่ถ.สุขุมวิท ตรงไปไม่ไกลจะเห็น BTS สถานีบางนา
ขับมาจนเลยซ.ลาซาล (ฝั่งซ้ายมือ) ก็จะเห็นสถานีแบริ่งค่ะ
พอใกล้กับสถานีสำโรงเราก็จะเห็น Imperial World สำโรง ตามด้วย สำโรงเซ็นเตอร์อยู่ฝั่งขวามือ
พอขับข้ามสะพานคลองสำโรงมาก็จะเจอสถานีสำโรงเลยค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆจนเกือบถึงสถานีปู่เจ้า เราจะเห็น Big C Jumbo สำโรงอยู่ฝั่งซ้ายมือ
พอเจอทางแยกข้างหน้าให้เราขับชิดซ้ายเอาไว้ตามป้ายสมุทรปราการ แต่อย่าออกซ้ายสุดนะ ทางนั้นจะพาเรากลับไปบางนาค่ะ ข้างหน้าของเราก็คือถ.วงแหวนกาญจนาภิเษก
เราขับผ่านถ.กาญจนาภิเษกมาแล้วฝั่งซ้ายมือของเราจะเห็นช้างสามเศียรเลย
ไม่ไกลเราวิ่งจนมาถึงสถานีช้างเอราวัณ ฝั่งขวามือเราจะเห็นตึกของตัวโครงการแล้วค่ะ ให้เราวิ่งชิดขวาเพื่อที่จะกลับรถข้างหน้านี้
จะมีป้ายบอกตำแหน่งจุดกลับรถอยู่ค่ะ แต่ป้ายแอบเล็ก ต้องสังเกตดีๆ
พอเรากลับรถมาแล้วให้เราชิดเลนซ้ายเอาไว้เลยค่ะ จากจุดกลับรถขับมาอีก 1 กม. เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้ว
ภาพซุ้มทางเข้าโครงการแบบชัด ๆ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::
ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทตรง BTS สถานีช้างเอราวัณเลยค่ะ ด้านหลังของโครงการติดคลองบางนางเกร็งและที่ดินเปล่าบางส่วน ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นลักษณะของชุมชน เลียบถ.สุขุมวิทเป็นอาคารพาณิชย์ พอเข้าไปในซอยก็จะเป็นบ้านพักอาศัย ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ Aspire เอราวัณ ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า และ ลานจอดรถบรรทุก ทิศตะวันออก ติดกับ ถ.สุขุมวิท และทิศตะวันตก ติดกับ คลองบางนางเกร็ง
ตอนนี้เราอยู่กันที่บริเวณทางเข้าโครงการติดถนนสุขุมวิทค่ะ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการด้วยกันก่อนเลย
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการค่ะ จะเห็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง โดยชั้นล่างเปิดเป็นบริษัทและกิจการต่างๆ
มองไปทางฝั่งขวามือ มุ่งหน้าลงไปทางบางปู เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อน
เลียบถ.สุขุมวิททั้ง 2 ฝั่งก็จะมีฟุตบาทที่ค่อนข้างกว้าง สามารถเดินได้สะดวก
พื้นที่ติดกับตัวโครงการเป็นลานโล่งสำหรับจอดรถขนสินค้า
ฝั่งตรงข้ามมีร้านรักษาสัตว์, ร้านอาหารตามสั่ง และร้านขายกาแฟโบราณ
เดินตรงไปอีกไม่ไกลจะมีสะพานลอยข้ามฟากค่ะ
มุมมองจากบนสะพานลอย ฝั่งซ้ายมือคือโครงการ The Trust @ BTS เอราวัณค่ะ
เห็นพื้นที่บริเวณด้านข้างโครงการ
ถ้าเดินเลยจากสะพานลอยไปจะมีป้ายรถเมล์ อยู่ห่างจากตัวโครงการเพียง 140 เมตรเท่านั้น
คราวนี้เรากลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งซ้ายมือ มุ่งหน้าไปทางสำโรงค่ะ
พื้นที่ฝั่งซ้ายมือหน้าโครงการเคยเป็นสำนักงานขายเก่าของโครงการค่ะ แต่ตอนนี้สำนักงานขายถูกย้ายเข้าไปอยู่ที่ใต้ตึกด้านในแล้วนะ
เดินจากหน้าโครงการมาเพียง 70 เมตรเท่านั้น เราก็จะถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีช้างเอราวัณแล้ว ตรงนี้คือทางออกที่ 4 ค่ะ ใช้เวลาแค่นาทีเดียวเท่านั้น สะดวกมากๆ
เดินต่อไปเรื่อยๆ ข้างๆตัวโครงการจะมีคอนโด Aspire Erawan ค่ะ
ด้านหน้ามี 7-Eleven, ร้านอาหาร และ ร้านกาแฟสด D’Oro
ที่ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอาคารพาณิชย์เช่นกันค่ะสูง 4 ชั้น บริเวณนี้จะดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะภายในซอยเป็นชุมชน ตรงนี้มีทั้ง 7-Eleven, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านขายก๋วยเตี๋ยว, ร้านอาหารแผงลอย, ร้านขายราดหน้า, ร้านขายยา, คลีนิกรักษาตา เข้าไปในซอยก็จะมีร้านอาหารเล็กๆทานเร็วๆง่ายๆอีกหลายร้าน อ้อ ตรงนี้ก็จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์ด้วยนะคะ ถ้าอยากจะไปไหนใกล้ๆ จ่ายไม่แพง ก็เดินมาหาพี่วินตรงนี้ได้เลย
:: ตัวโครงการ ::
โครงการ The Trust @ BTS เอราวัณ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 1,570 ยูนิต บนพื้นที่ 7 ไร่เศษ ตัวโครงการเป็นคอนโดสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งครบครัน ตอบโจทย์การอยู่อาศัย พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้มาอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน
ผังโครงการชั้น 1 มาดูในส่วนของผังโครงการกันต่อค่ะ ตัวโครงการจะสามารถเข้า-ออกได้ทางเดียวจากถ.สุขุมวิท ผ่านซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV ผ่านเข้ามาเราจะเจอจุด Drop-off เพื่อเข้าสู่ตัวอาคาร ด้านข้างมีร้านค้าอยู่ถึง 7 ยูนิตด้วยกัน
เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารแล้วจะเจอกับโถง Lobby แบบ Double Volume โปร่งโล่ง และผ่านเข้าสู่โถงลิฟต์ด้วยระบบ Key Card Access โดยลิฟต์จะเป็นระบบล็อคชั้นต้องใช้ Key Card อีกเช่นกันค่ะ
ภายในอาคารจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว และลิฟต์ขนของอีก 2 ตัว เฉพาะลิฟต์โดยสารคิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ต่อยูนิตพักอาศัยเท่ากับ 265 : 1 ยังถือว่าเกินมาตรฐานไปนะคะสำหรับ High Rise Building
ส่วนอาคารจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 4 โดยการเข้าอาคารจอดรถก็จะใช้ระบบ Key Card Access อีกเช่นเคย รวมแล้วมีที่จอดรถทั้งหมด 476 คัน (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 30% ยังถือว่ารับได้หากคิดในฐานที่ว่าลูกบ้านส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก
จะเห็นว่าด้านหลังพื้นที่จอดรถจะมีพื้นที่สีเขียวด้วยนะ ตรงนั้นจะเป็นสวนหย่อมริมคลองค่ะ มีทั้ง Day Bed, ม้านั่ง และ ศาลา สำหรับนั่งพักผ่อนท่ามกลางสวน
ผังโครงการชั้น 5 ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยและ Main Facilities ของโครงการ ซึ่งจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 16 x 27 x 1.2 เมตร ถือว่ามีขนาดใหญ่ทีเดียว, ห้อง Sauna ในห้องน้ำ, ห้องสมุด, Kid’s Room และสวนสวยสไตล์รีสอร์ทขนาดใหญ่ จากชั้น 5 จะมีบันไดทางขึ้นไปยังฟิตเนส (ชั้น 6)
จะเห็นว่าผังอาคารถูกวางเป็นรูปตัว H มีสระว่ายน้ำและสวนวางขั้นระหว่างช่องอาคาร โดยจัดห้องพักแบบ Double Corridor วางห้องพักเอาไว้ทั้ง 2 ฝั่งของทางเดินค่ะ
ผังโครงการชั้น 8 เลยขึ้นมาจากชั้น 5 ที่เหลือชั้นอื่นๆก็จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด รวม 1,570 ยูนิต โดยมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 55 ยูนิตค่ะ โดยห้องพักทางทิศตะวันตกและทิศใต้จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเต็มๆ ส่วนทิศตะวันออกจะเป็นฝั่งที่ติดกับถ.สุขุมวิทและรถไฟฟ้าจะได้วิวเมืองและสวนแทน
:: แบบห้อง ::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบด้วยกันได้แก่
ห้องของที่นี่จะขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่จาก Stamark ทั้ง โซฟา, ชั้นวางทีวี, เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า+เตียงนอนแบบลอยตัว และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังมีโปรโมชั่น ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง ทีวี, ตู้เย็น และไมโครเวฟ อีกด้วย เดี๋ยวเราไปดูแปลนห้องแต่ละแบบกันต่อเลยค่ะ
Studio Type : 23.50 ตร.ม.
1 Bedroom Type : 28.50 ตร.ม.
:: บริเวณภายในโครงการ ::
ทางเข้าโครงการ
เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้างค่ะ
การเข้า-ออกตัวโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือซุ้มทางเข้าโครงการ ประกอบด้วย ป้อมรปภ., ระบบ Access Card Control, รั้วไม้กระดก โดยลูกบ้านจะสามารถขับผ่านเข้าไปภายในโครงการได้เลย ส่วนผู้ที่เข้ามาติดต่อจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการแลกบัตรและตรวจเช็คความปลอดภัยอีกที และมี CCTV ช่วยจับภาพเพิ่มความปลอดภัยให้อีกชั้น
ทางฝั่งขวาของซุ้มทางเข้าจะมีทางเท้ายกระดับแยกขึ้นมาจากพื้นถนน ลูกบ้านสามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างปลอดภัย
CCTV และระบบ Access Card Control
มองย้อนกลับไปที่ซุ้มทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
พอผ่านซุ้มทางเข้าโครงการเข้ามาแล้วก็จะเป็นถนนตรงเข้าไปสู่จุด Drop-off และอาคารจอดรถ
ฝั่งขวาที่เป็นทางเท้าเข้าสู่ตัวโครงการจะทำหลังคากันแดดกันฝนให้ด้วยนะคะ
ตรงเข้ามาจะเห็นตัวอาคารอยู่ตรงกลางค่ะ เราสามารถเลี้ยวขวาเข้าใต้อาคารสู่บริเวณ Drop-off ได้ หรือขับวนไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าอาคารจอดรถชั้น 1 หรือเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถเลยก็ได้
เดี๋ยวเราจะเดินวนไปดูด้านหลังอาคารกันก่อนนะ
บริเวณนี้ก็จะมีรั้วไม้กระดกอีกชั้นนึงค่ะ ผ่านด้วยระบบ Access Card
GARDEN
เราวนมาที่ด้านหลังของอาคารค่ะ ส่วนนี้จะเป็นสวนหย่อมสไตล์รีสอร์ท มีพื้นที่กว้างขวาง จัดเอาไว้อย่างร่มรื่นสวยงามด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์
ส่วนที่เห็นทางด้านขวามือ ทำเป็นสเต็ปยกระดับขึ้นไป 2 ระดับ ปลูกต้นปาล์ม
ส่วนนี้วาง Day Bed ไว้ให้หลายตัวเลยค่ะ โดยจะจัดเป็นคู่ๆให้เป็นมุมส่วนตัว
ส่วนสวนฝั่งซ้ายที่ติดคลองจัดเป็นม้านั่งริมทางเดิน บางส่วนทำหลังคาคลุมกันแดดกันฝนให้
ทางเดินด้านหลังตรงนี้เหมาะมากสำหรับมาเดินเล่นหรือเดินออกกำลังกายตอนช่วงเช้าหรือช่วงเย็น บรรยากาศเขียวชะอุ่มร่มรื่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้
เดินมาจนถึงด้านหลังจะมี Pavilion ด้านในจัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้เอาไว้ให้ 3 ชุด
ในวันพักผ่อนเรามานั่งอ่านหนังสือกินขนมกินของว่างบริเวณนี้ก็ได้บรรยากาศดีอีกแบบ
ภาพมองย้อนกลับไปประมาณนี้ค่ะ
เดินวนมาที่อีกฝั่งนึงของตัวตึก
PARKING
ตรงนี้จะเป็นทางเข้าลานจอดรถชั้น 1
เข้ามาทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซค์
ภาพบรรยากาศภายในลานจอดรถค่ะ
จากลานจอดรถก็จะมีประตูเชื่อมสู่ Lobby
โดยเราจะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูเข้าไปในตัวอาคารค่ะ
ส่วนทางเข้าอาคารจอดรถชั้น 2-4 จะอยู่บริเวณฝั่งขวาทางด้านหน้าของอาคาร
โดยการเข้าหรือออกจากอาคารจอดรถจะต้องผ่านระบบ Access Card และ CCTV ด้วยเช่นกัน
เครื่องจับสัญญาณ Key Card และ CCTV
ตอนนี้เราวนกลับมาที่บริเวณหน้าโครงการที่เดิมค่ะ
น้ำพุบริเวณ Drop-off
จากทางเข้าโครงการวนขวาเข้ามาใต้อาคารจะเป็นบริเวณ Drop-off ค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ ที่โถง Double Volume จะเป็นส่วนของ Lobby
SHOP UNITS
ถ้าเดินเข้าไปตามทางเดินบริเวณนี้ทั้งหมด 7 ยูนิต ก็คือร้านค้าค่ะ ปัจจุบันมี Laundromat และ 7-Eleven
ส่วนตอนนี้ยูนิตแรกจะใช้เป็นสำนักงานขาย
ภายในสำนักงานขายจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและคำปรึกษาเกี่ยวกับตัวโครงการ
ถัดมาเป็น Laundromat เปิด 24 ชม. และ SCG Express บริการส่งพัสดุ ราคาเริ่มต้น 40 บาท*
ภายในมีเครื่องซักผ้า-เครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ, ตู้กดน้ำดื่มหยอดเหรียญ มีพื้นที่ให้นั่งรอ หากต้องการใช้บริการส่งพัสดุต่าง ๆ ติดต่อพนักงานที่ด้านในได้เลยค่ะ
ถัดมาเป็น 7-Eleven
ส่วนด้านหน้ายูนิตร้านค้าจะเป็นพื้นที่สวนหย่อมและน้ำพุ มีโต๊ะเก้าอี้สนาม ให้ลูกบ้านนั่งเล่น หรือนั่งทานข้าวจาก 7-Eleven ก่อนออกไปทำงานได้ค่ะ
มองย้อนกลับมาทางร้านค้าชั้นล่าง
บริเวณสวนพักผ่อนและลานน้ำพุด้านหน้าร้านค้าค่ะ
LOBBY
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในตัวอาคารกันบ้างค่ะ เริ่มจากโถง Lobby
ภายใน Lobby จะเป็นโถงขนาดใหญ่ ฝ้าสูงโปร่ง Double Volume ตกแต่งอย่างสวยงามและเรียบง่าย
ภายในจัดชุดโซฟาเอาไว้รองรับอยู่หลายชุดค่ะ
บริเวณกลางโถงจะเป็นส่วนของ Reception Counter
บริเวณปลายโถงฝั่งขวามือจะเป็นโถงลิฟต์และห้องนิติบุคคลค่ะ
LIFT HALL
ทางเข้าโถงลิฟต์จะเป็นประตูบานเปิดคู่กระจกแบบนี้
การผ่านเข้า-ออกโถงลิฟต์ก็จะต้องใช้ Key Card
ภายในโถงลิฟต์กว้างขวางดีค่ะ ภายในมีลิฟต์โดยสารอยู่ 6 ตัว
MAIL ROOM
สุดปลายโถงจะเป็นห้อง Mail Room
ภาพบรรยากาศภายในห้อง Mail Room
คราวนี้เราขึ้นไปดูชั้นบนห้องพักและ Facilities ด้วยกันต่อเลย นี่คือบริเวณหน้าโถงลิฟต์ค่ะ โดยจะแบ่งลิฟต์ออกเป็นฝั่งละ 3 ตัว
ปุ่มกดลิฟต์
ภายในตัวลิฟต์ ตรงนี้จะใช้ลิฟต์ของ Hitashi ค่ะ สามารถรองรับได้ประมาณ 15 คนต่อเที่ยว ลิฟต์จะเป็นระบบล็อคชั้น ต้องใช้ Key Card เพื่อความปลอดภัยอีกชั้น
ขึ้นมาถึงโถงลิฟต์ชั้นที่เป็นห้องพักอาศัย ตรงนี้เขาจะตกแต่งแบบเรียบๆ โทนสีขาวสว่าง เพื่อปรับอารมณ์เข้าสู่ส่วนพักอาศัย
ภายในโถงทางเดินค่ะ กว้างประมาณ 1.5 เมตร โดยจะจัดให้ประตูห้องแต่ละห้องไม่เปิดมาเจอกันเพื่อความเป็นส่วนตัว
ช่วงกลางโถงจะมีบันไดหนีไฟพร้อม Fire Host Cabinet ด้านหน้าประตูหนีไฟ ประตูจะสามารถเปิดเข้าได้อย่างเดียวแล้วลงตรงสู่ชั้น 1 เลย ไม่สามารถใช้เดินไปชั้นอื่นๆได้
ภายในโถงบันไดหนีไฟค่ะ
ภาพวิวจากห้องพัักชั้น 26 ฝั่ง ถ.สุขุมวิทและเส้น BTS
ภาพวิวจากห้องพัักชั้น 26 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
5th FLOOR : SWIMMING POOL, LIBRARY, KID’S ROOM AND GARDEN
ตอนนี้เรามาอยู่ที่ชั้น 5 ค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ของ Main Facilities ในโครงการ
เดินออกมาจากโถงลิฟต์จะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ แจกออกไปยังส่วนต่างๆ ฝั่งซ้ายมือของเราคือสระว่ายน้ำ, ฝั่งขวาคือ ห้องน้ำ, ห้องสมุด, ห้องเล่นเด็ก และสวนส่วนกลาง ส่วนปลายโถงทางเดินจะมีบันไดขึ้นฟิตเนส
ภาพมองจากโถงอีกฝั่งย้อนกลับไป
มาเริ่มจากสระว่ายน้ำกันก่อนค่ะ
บริเวณข้างสระฝั่งซ้ายจะมีจุดชำระตัวก่อนลงสระให้
พื้นที่ข้างสระหรือ Pool Deck ในร่ม จะวาง Day Bed และชุด-เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้ให้
Day Bed ข้างสระ มีจัดเอาไว้ให้หลายชุดเลยค่ะ
สระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ ประมาณ 16 x 27 เมตร และลึก 1.2 เมตร เป็นสระน้ำเกลือ ว่ายน้ำแล้วผิวไม่เสีย
พื้นที่สระส่วนนึงแบ่งเป็นสระเด็กค่ะ ลึกเพียง 40 ซม.
ภายในสระก็จะจัด Day Bed สำหรับนอนพักผ่อนอาบแดดเอาไว้ให้
เดินไปตามทางเดินข้างสระฝั่งซ้าย มีจัดชุดโต๊ะเก้าอี้เอาไว้ให้อีกหลายชุด เป็นมุมสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
ชุดโต๊ะ-เก้าอี้ที่ทางโครงการจัดเอาไว้ให้
มองลงไปจากส่วนนี้เราจะเห็นสวนหย่อมชั้น 1 และคลองบางนางเกร็ง
ทางเดินริมสระว่ายน้ำ
มองจากพื้นที่สระฝั่งซ้ายไปยังฝั่งขวา
ส่วนบันไดเดินลงสระจะทำเอาไว้อยู่ภายในสระเลย ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงาม
มองจากฝั่งขวาของสระไปทางฝั่งซ้ายเมื่อสักครู่
ภาพมุมมองย้อนกลับ
มองจากบริเวณสระว่ายน้ำขึ้นไปที่ชั้น 6 จะเห็นผนังกระจกสูงชั้นครึ่ง ตรงนั้นก็คือห้องฟิตเนสค่ะ
เราจะเห็นห้องพักบางส่วนของชั้นนี้ เป็นห้องพิเศษที่ได้ระเบียงห้องขนาดใหญ่ติดสระว่ายน้ำ ภายในตกแต่งเอาไว้ให้อย่างเรียบร้อยสวยงามในราคาพิเศษ จะมีอยู่เพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นนะ
ห้องพักด้านในจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ และ พื้นที่สีเขียวทั้งหมดค่ะ
จากสระว่ายน้ำเรากลับเข้ามาภายในโถงทางเดิน เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ โดยฝั่งซ้ายคือห้องน้ำหญิง ส่วนฝั่งขวาคือห้องน้ำชาย
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ที่กว้างขวางทีเดียวค่ะ ตกแต่งด้วยโทนสีขาวดูสะอาดตา
เข้ามาในห้องจะเจออ่างล้างมืออยู่ด้านหน้าเลย มีจัดไว้ให้ 4 อ่าง
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
ที่ด้านในสุดของห้องจะเป็นห้องซาวน่าและมุมล็อคเกอร์
ถัดจากห้องน้ำจะเป็นห้องสมุด, ห้องเล่นเด็ก และสวนส่วนกลาง
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องสมุดฝั่งซ้ายและห้องเล่นเด็กฝั่งขวากันก่อน
ก่อนเข้าไปในห้องสมุดจะเป็นพื้นที่ห้องรับรอง มานั่งตากแอร์ในนี้ได้
จากห้องรับรองเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องสมุดค่ะ
ภายในจัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้เอาไว้ให้หลายชุดเลย จะเอาโน้ตบุ้คเข้ามานั่งทำงานเงียบๆก็ได้เหมือนกัน
ข้างๆห้องรับรองจะเป็นห้องเล่นเด็กค่ะ ภายในจะมีหน้าต่างเชื่อมกัน จากห้องรับรองสามารถมองเข้ามาคอยดูเด็กๆได้
เดินออกมาจากโถงอีกฝั่งตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อน
ภายในสวนจัดเอาไว้อย่างเรียบง่าย สไตล์รีสอร์ท บรรยากาศเหมาะสำหรับการพักผ่อน
ในแต่ละจุดของสวนจะจัด Day Bed เอาไว้ให้มานั่งเล่นพักผ่อนได้
ที่ฝั่งซ้ายของสวนจะมี Pavilion ค่ะ ภายในจัดชุดโต๊ะ-เก้าอี้เอาไว้ให้ เหมือนกับที่สวนหย่อมชั้นล่าง
พื้นที่รอบๆสวนก็จัดม้านั่งเอาไว้ให้
ภาพรวมภายในสวนพักผ่อน
มองมาทางหน้าโครงการเห็นสถานีรถไฟฟ้าเอราวัณ
ภาพมุมมองย้อนกลับจากสวนเข้าไปที่ตัวอาคาร
เราเดินไปจนสุดโถงทางเดินจะเห็นบันไดทางขึ้นไปยังฟิตเนส
6th FLOOR : FITNESS
ขึ้นมาถึงชั้น 6 ค่ะ เราก็จะเจอประตูทางเข้าฟิตเนสแบบนี้
ภายในฟิตเนสมีขนาดกว้างขวาง ฝ้าสูงประมาณชั้นครึ่ง ทำให้ดูโปร่งโล่ง เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
การจัดห้องก็จะแบ่งเป็นโซนฝั่งซ้ายและขวา
ในส่วนของฝั่งซ้ายก็จะมีจักรยานไฟฟ้าและเครื่องเดินวงรี มีให้อยู่หลายเครื่องเลย
เข้าไปด้านในก็จะเป็นเครื่องเล่นแบบ Weight Training ครบทุกสัดส่วน
มีชุดยกน้ำหนักจัดเอาไว้ให้คู่กับม้านั่งราบ
ม้านั่งราบค่ะ มีให้ 2 ตัว
ส่วนทางขวามือฝั่งติดกระจกวิวสระว่ายน้ำก็จะเป็นเครื่องเล่นแบบ Cardio ทั้งหมด มีทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า
เครื่องปั่นจักรยานไฟฟ้าแบบเอนปั่นก็มีค่ะ
รวมถึงเครื่องยืดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายก็มีจัดเอาไว้ให้
มองจากฟิตเนสลงไปที่สระว่ายน้ำชั้น 5
ภาพมองจากภายในฟิตเนสย้อนกลับออกไปค่ะ
:: ห้องตัวอย่าง ::
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น Studio ขนาด 23.50 ตร.ม.และ 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. ห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศ มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ
Studio ขนาด 23.50 ตร.ม.
เริ่มต้นที่ห้อง Studio ขนาด 23.50 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว เปิดเข้ามาเจอห้องนั่งเล่นอยู่ในโถงเดียวกันกับที่นอน
ส่วนห้องครัวและส่วนทานอาหารจะจัดแยกออกไป จะเห็นว่าสามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นส่วนเองเพิ่มได้หากต้องการป้องกันกลิ่นรบกวนจากการปรุงอาหาร ตัวห้องจะเป็นแบบหน้าห้องและความลึกห้องพอๆกัน
โดยห้องนี้จะเป็น Type ที่มีจำนวนยูนิตเยอะมากที่สุดในโครงการค่ะ สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับคือ โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดครัวพร้อมอ่างล้างมือ จาก Stamark, โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัว, เตียงนอนขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก, โต๊ะข้าง และ ตู้เสื้อผ้า ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเราจะได้แอร์ขนาด 12,000 BTU มากับตัวห้องเลย ไปชมห้องด้วยกันเลย (ห้องตัวอย่างแปลนสลับซ้าย-ขวานะคะ)
มาถึงประตูทางเข้าห้องแล้วค่ะ ประตูจะเป็นบาน HDF ด้านข้างติดเลขที่ห้องเอาไว้ให้
ส่วนมือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลส ใช้กุญแจไขเปิดห้อง
เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนเลย ถัดเข้าไปคือห้องนอน ส่วนห้องน้ำ, ห้องทานอาหาร และห้องครัว จะอยู่ฝั่งขวามือของห้อง ผนังห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี พื้นปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบสูง 2.45 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ นอกจากนี้ก็จะมี Sprinkle และ Smoke Detector มาให้เรียบร้อย
ห้องนี้จะขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้เครื่องปรับอากาศมา 1 ตัวขนาด 12,000 BTU มาดูการจัดการพื้นที่ภายในห้องกันต่อค่ะ
พื้นที่ห้องนั่งจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งจะกำลังพอดีกับพื้นที่เลย
ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นชั้นทีวีลายไม้ มีชั้นลอยสำหรับวางของให้ด้วย ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ช่องเสียบสายเคเบิลให้พร้อมต่อใช้งาน
ระยะดูทีวีตรงนี้กว้างประมาณ 1.8 เมตร ทีวีขนาด 42 นิ้วกำลังเหมาะค่ะ
ถัดจากพื้นที่ห้องนั่งเล่น ก็จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนอนแบบนี้เลยค่ะ
ในส่วนของห้องนอนจะอยู่ติดระเบียง มีประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมเป็นตัวเชื่อมสามารถเปิดออกไปได้ พื้นที่ห้องนอนมีขนาดกระทัดรัด วางเฟอร์นิเจอร์หลักๆก็เต็มพอดี ภายในห้องนี้เราจะได้เตียงแบบลอยตัวขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก) พร้อมโต๊ะข้าง และ ตู้เสื้อผ้า Built-in ค่ะ
เมื่อวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตแล้วก็เกือบจะเต็มพื้นที่ห้องพอดี ฝั่งซ้ายมือข้างประตูบานเลื่อนจะเหลือเอาไว้ประมาณ 30 ซม. พอที่จะเปลี่ยนผ้าปูเตียง หรือเปิดประตูออกไปที่ระเบียง
อีกฝั่งวางโต๊ะข้างพอดีๆ สามารถวางโคมไฟแบบตั้งพื้นได้อีกตัว
ในส่วนของปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in และ แอร์ Wall Type 12,000 BTU ค่ะ
ตู้เสื้อผ้ามีขนาดกำลังพอดี สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ภายในมีราวแขวนให้ 2 ระดับ พร้อมชั้นลอยเหนือหัว และลิ้นชักเก็บของ
พื้นที่ปลายเตียงก็เหลือพอเดินผ่านและเปิดตู้เสื้อผ้าได้
ภาพมองจากห้องนอนย้อนกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
จากพื้นที่โถงกลาง เราจะเดินเข้าไปดูภายในห้องทานอาหาร, ห้องครัว และห้องน้ำกันต่อ ตรงนี้เราสามารถติดประตูบานเลื่อนเพื่อกั้นส่วนของห้องได้ค่ะ
เข้ามาภายในห้องครัวและห้องทานอาหาร
เฟอร์นิเจอร์ก็จะได้ตามที่เห็นนี้เลยค่ะ ได้ชุดโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว จัดวางแบบเข้ามุมกำลังลงตัว
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวก็จะได้มาตามนี้เลย ใช้ของ Stamark พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง, ลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อม-ส้อม และ ช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
ชุดเคาน์เตอร์จะมีอ่างล้างจานมาให้ด้วยเลย แต่ไม่มีเตาปรุงอาหารมาให้นะ ตรงนี้เราสามารถใช้เป็นเตาไฟฟ้าแบบพกพาก็จะสะดวกค่ะ
ขนาดอ่างล้างจานกำลังดีเลยค่ะ ล้างจาน-ชามได้สะดวก / ก๊อกอ่างก็ใช้งานได้สะดวก เพราะมีทรงสูง และสามารถหมุนซ้าย-ขวาได้
คราวนี้เราออกไปที่ระเบียงของห้องกันบ้าง จะเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานและตัวล็อคท้ายบานแบบก้นหอยค่ะ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ห้องนี้จะเป็นห้องที่ได้ระเบียงที่กว้างขวาง สามารถตั้งเครื่องซักผ้าได้สบายๆ
พื้นที่ระเบียงจะเป็นส่วนที่แขวนคอยล์แอร์พอดี ตรงนี้เราจะได้ดวงโคมซาลาเปาและก๊อกสนามอีก 1 หัว
พื้นที่ระเบียงจะยาวเต็มหน้าห้องเลยค่ะ เชื่อมไปถึงหน้าห้องนอนด้วย
พื้นที่ระเบียงกว้างมาก จนเราสามารถวางชุดโต๊ะ-เก้าอี้ หรือจะวาง Day Bed เลยก็ยังพอ
ราวกันตกระแนงเหล็กทาสีดำกันสนิม ความสูง 1 เมตร
ส่วนห้องน้ำเราจะเข้าได้จากภายในห้องครัวนะคะ / ประตูเป็นไม้บานเรียบ ลูกบิดกลมกดล็อก ยกธรณีสูง 5 ซม. กันน้ำออก
พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม.ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม., 20 x 20 ซม. และกระเบื้องตกแต่ง จัดวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเรียงเข้าไปยังส่วนเปียก โดยสุขภัณฑ์จะใช้ของ Englefield ทั้งหมดค่ะ
ฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นฝ้าฉาบเรียบกันชื้นพร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
มาดูที่สุขภัณฑ์กันบ้าง อ่างล้างมือเป็นแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำและกระจกเงา
ขนาดอ่างกำลังดีค่ะ ขอบอ่างสามารถวางของใช้ได้อยู่บ้าง / ก๊อกน้ำแบบมาตรฐาน เป็นเกลียวหมุนเปิด-ปิด
ถัดเข้าไปเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบครบเซ็ท ระยะนั่งกำลังพอดีๆไม่แคบจนเกินไป
ภาพรวมส่วนอาบน้ำ
ส่วนของโซนอาบน้ำ ตรงนี้เราสามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้นะคะ พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในก็กำลังพอเหมาะ มีการทำขอบธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อนให้
ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ จะเห็นว่าเหนือหัวฝักบัวมีแผ่นเหล็กอยู่ จุดนั้นคืองานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ข้างๆเจาะผนังเข้าไปทำเป็นชั้นวางสบู่ให้เรียบร้อย
อื่นๆ สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องจะใช้ของ Bticino ทั้งหมดค่ะ
::: 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. :::
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ที่แตกต่างออกไปจากห้องที่แล้วก็คือจะกั้นส่วนห้องนอนแยกออกจากโถงกลางไปเลย ส่วนบริเวณโถงกลางก็จะรวม ห้องครัว, ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเอาไว้รวมกัน ตัวห้องจะเป็นแบบหน้าห้องและความลึกห้องพอๆกัน
ในห้องนี้เราจะได้ โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน จาก Stamark, โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัว, ชั้นเก็บรองเท้าแบบม้านั่ง, เตียงนอนขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูก และ ตู้เสื้อผ้า ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเราจะได้แอร์ขนาด 12,000 BTU ในโถงใหญ่, แอร์ขนาด 9,000 BTU ในห้องนอน ไปชมห้องด้วยกันเลย (ห้องตัวอย่างแปลนสลับซ้าย-ขวานะคะ)
เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนของห้องทานอาหารและห้องครัวก่อนเลย ถัดเข้าไปติดริมระเบียงคือห้องนั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าวัสดุของห้องนี้จะเหมือนกับห้องที่ผ่านมาทุกประการ พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์สูง 2.45 เมตรเช่นกัน ในห้องโถงกลางจะติดแอร์ขนาด 12,000 BTU มาให้เลย
พื้นที่บริเวณหน้าห้องจะเป็นส่วนครัวค่ะ ฝั่งขวาของประตูวางเคาน์เตอร์ครัว ส่วนฝั่งซ้ายของประตูวางตู้เย็น
ข้างประตูห้องพักมีตู้เก็บของความสูงจรดเพดานมาให้ ด้านในมีชั้นลอยมาให้หลายชั้น
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะใช้เซ็ทเดิม เหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการค่ะ
ส่วนทานอาหารจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นเลย
ที่ได้มาก็จะเป็นชุดโต๊ะพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวแบบนี้
ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากห้องที่แล้วก็คือม้านั่งค่ะ ใต้ม้านั่งเป็นชั้นวางรองเท้า สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง
จากส่วนทานอาหารเรามาดูห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดไปกันต่อ ภายในเราก็จะได้ชุดโซฟา พร้อมชั้นวางทีวีเหมือนเดิมค่ะ
ขนาดโซฟา 2 ที่นั่ง กำลังพอดีกับพื้นที่
ชั้นวางทีวีแบบเดิมค่ะ ระยะดูทีวีตรงนี้ก็พอๆกับห้องที่แล้วนะ
ระยะดูทีวีและการเดินเข้า-ออก ประมาณ 1 เมตร
จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปสู่ระเบียงห้อง
ห้องนี้จะเป็นห้องชั้น 5 ค่ะ ได้วิวสระว่ายน้ำพอดี ขนาดระเบียงก็กว้างขวาง สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ได้สบายๆ
ภาพมองผ่านระเบียงออกไปที่สระว่ายน้ำ
วิวสระว่ายน้ำจากระเบียงห้องพัก
พื้นที่ระเบียงจะยาวเต็มหน้าห้อง เชื่อมไปถึงหน้าห้องนอนเลย
ภาพมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
จากห้องโถงกลางเราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำและห้องนอนกันต่อค่ะ
เริ่มจากห้องน้ำ
ประตูทางเข้าห้องน้ำจะเปิดเข้าสู่กลางห้อง การจัดวางสุขภัณฑ์เรียงจากส่วนแห้งไปยังส่วนเปียกเหมือนเดิม ส่วนรุ่นของสุขภัณฑ์และวัสดุที่ใช้ก็จะเหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการค่ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อเป็นห้องสุดท้ายแล้ว
ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีค่ะ พอดีกับเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ให้ ในห้องนี้จะได้แอร์ขนาด 9,000 BTU มาด้วยเลย
ในส่วนของปลายเตียงก็ยังพอเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้
ถ้าอยากติดตั้งทีวีในห้องนี้ด้วย แนะนำให้เป็นทีวีแบบแขวนผนังนะ
ห้องนอนมีประตูออกไประเบียง
ระเบียงจะเชื่อมกับห้องนั่งเล่น
ข้างเตียงอีกฝั่งตู้เสื้อผ้าที่ได้มากับห้องก็จะเหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการ /ตรงขอบบานเลื่อนจะทำเป็นครีบขึ้นมาให้แบบนี้ สามารถจับเลื่อนเปิดได้ง่าย
โต๊ะเครื่องแป้งติดมากับตู้เสื้อผ้าแบบนี้ มีชั้นวางของ และ กระจกเงามาให้
ภาพอีกมุมมองนึงภายในห้องนอน
:: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ต.ค. 2561) ::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:: บทสรุปโครงการ ::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ The Trust @ BTS เอราวัณ ตั้งอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทฝั่งขาเข้า อยู่ติดกับ BTS สถานีช้างเอราวัณ เป็นทำเลแหล่งงานขนาดใหญ่ มีโรงงานทั้งขนาดเล็กและใหญ่ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งของชุมชน มีทั้งบ้านพักอาศัย, โรงเรียน, ตลาด และวัด โดยโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวก็ทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากขึ้น เห็นได้จากโครงการที่อยู่อาศัยในแนวดิ่งมาปักหมุดลงตามเส้นรถไฟฟ้าอยู่หลายโครงการ โดนสถานีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือสถานีช้างเอราวัณค่ะ
ส่วนแหล่งความสมบูรณ์ตอนนี้จะยังคงกระจุกตัวอยู่แถวๆสำโรงทั้งห้าง, ร้านค้า และตลาด ตรงนั้นก็จะมีทั้ง Imperial World สำโรง, สำโรง เซ็นเตอร์, ตลาดเอี่ยมเจริญ ถ้าเป็น Hypermarket ก็จะมี Big C Jumbo จะอยู่ตรงกับจุดกลับรถพอดี ส่วนบริเวณใกล้ๆตัวโครงการก็พอมีสาธารณูปโภค มีร้านอาหารเล็กๆอยู่บ้าง โดยโครงการได้จัดยูนิตร้านค้าเอาไว้ให้ใต้อาคารถึง 7 ยูนิตด้วยกัน ตอนนี้ที่เห็นก็คือมีเซเว่นมาลงแล้วค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนับว่าสะดวกค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่อีกหลายสาย เว้นแต่ช่วงเวลา Rush Hour ที่รถจะติดเป็นปกติค่ะ ใกล้ๆก็จะมีถ.เทพารักษ์ วิ่งออกไปทางบางบ่อ เชื่อมกับถ.ศรีนครินทร์ และถ.บางนา-ตราด วิ่งยาวๆออกไปทางชลบุรี
แต่เราสามารถเลี่ยงรถติดได้เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้ทั้ง จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก ทั้งฝั่งขาไปพระราม 2 ทางนี้จะต่อ ถ.วงแหวนอุตสาหกรรมไปลงถ.พระราม 3 ได้ และฝั่งขาไปทางบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถขับยาวไปลงที่ ถ.รามคำแหง ใกล้ๆหมู่บ้านสัมมากร และ ถ.รามอินทรา ตรงแฟชั่นไอส์แลนด์ได้เลย และ ตัวโครงการก็อยู่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนบางนา) เข้าเมืองได้สะดวก
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายสุดๆ เพราะว่ามีสถานีสถานีช้างเอราวัณ เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมาจากสถานีสำโรง ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ อยู่ที่หน้าโครงการเลย เดินไปแค่ 70 เมตรถึงเลย ตอนนี้ก็ใกล้ฤกษ์จะได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว นอกจากนี้ สถานีสำโรง (นั่งจาก สถานีช้างเอราวัณ ไป 2 สถานี) จะเป็น สถานี Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ-สำโรง อีกด้วย
ส่วนรถเมล์ก็มีหลายสายวิ่งผ่านอยู่ค่ะ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ก็วิ่งผ่านอยู่ตลอด แม้ว่าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวขับก็สะดวก
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 30 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 1,570 ยูนิต บนพื้นที่ 7 ไร่ วางผังอาคารเป็นรูปตัว H ใช้ผนังโครงสร้างคุณภาพจาก SCG ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว
โดยห้อง Studio ถึงจะมีขนาดเล็กก็ทำออกมาได้ดูโปร่งโล่ง เข้าไปในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลย ส่วนห้องครัว, ห้องทานอาหาร และห้องน้ำจะสามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นส่วนแยกออกไปได้ แต่ขนาดพื้นที่ห้องค่อนข้างมีจำกัด จึงทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างยาก ในกรณีที่ห้องไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย และไม่เหมาะกับคนที่มีของเยอะ เพราะจะไม่มีพื้นที่สำหรับเก็บของเลยค่ะ
ส่วนห้อง 1 Bedroom จะแบ่งส่วนห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร และห้องครัวเอาไว้ในห้องโถงใหญ่ด้วยกัน และแบ่งห้องนอนแยกต่างหาก จุดดีของห้องนี้ก็คือทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหากมีแขกไปใครมา ส่วนภายในห้องนอนก็จะมีขนาดค่อนข้างกระทัดรัดไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom ค่ะ
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ มาแต่ตัวได้เลย นอกจากนี้ก็ยังได้เครื่องปรับอากาศภายในห้องขนาด 9,000 BTU และ 12,000 BTU ด้วย ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท และมีโปรโมชั่นพิเศษ อยู่ฟรี 2 ปี*
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ที่นี่จะมี Facilities ให้พอสมควรเลย ตั้งแต่ชั้น 1 ก็จะมี Lobby, Mail Room, สวนหย่อมด้านหลังอาคาร และร้านค้าอีก 7 ยูนิต มาที่ชั้น 5 จะเป็นส่วนของ Main Facilities ประกอบด้วย Swimming Pool ขนาด 16 x 27 เมตร แบ่งสระเด็กสระใหญ่, Pool Deck พร้อม Day Bed, ห้องสมุด, ห้องเล่นเด็ก, ซาวน่า และ สวนสไตล์รีสอร์ท จากชั้น 5 มีบันไดขึ้นชั้น 6 ไปยัง Fitness ที่มีอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังให้อย่างครบครัน
เนื่องจากโครงการเน้นผู้อยู่อาศัยที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าด้วยจึงได้ทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 30% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย แต่ก็พอรับได้เพราะเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าค่ะ มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟต์อยู่ที่ 265 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานไปเท่าตัวนะ เพราะเป็นอาคาร High rise ด้วย อาจจะทำให้ต้องรอลิฟต์นานค่ะ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้งระบบ Access card สำหรับเข้าสู่ตัวอาคาร และ ภายในลิฟต์แบบระบุชั้น ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:: คะแนน ::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.9 | ตั้งอยู่ติดถ.สุขุมวิท อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีช้างเอราวัณ เป็นทำเลที่สะดวกสบายในแง่ของการเดินทาง แต่สาธารณูปโภคยังไม่เท่าสำโรง |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | เดินทางสะดวกอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน ไปไหนมาไหนง่าย |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 9.0 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ และอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีช้างเอราวัณ (ปัจจุบันมีบริการรถ Shuttle Bus ไปถึง สถานีสำโรง เพราะ สถานีช้างเอราวัณยังไม่เปิดใช้งาน) |
บ้านและวัสดุ | 7.5 | ห้องมาตรฐาน ฟังก์ชั่นมีความกระชับ วัสดุได้มาตรฐาน ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.9 | Facilities มีมาให้ครบ ออกแบบมาได้ดี ดูสวยงาม แต่ขนาดอาจจะน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตในโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.9 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-3 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นหลัก มีงบประมาณอยู่ราวๆ 1.59 ล้านบาท |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.0 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Call Center : 1388
สำนักงานขาย : 02-380-6000 หรือ 087-606-4334
Website : http://www.qh.co.th/project/The-Trust-Condo/TheTrustCondo-Erawan
แสดงความคิดเห็น