EP.96 รีวิว คอนโด ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา KnightsBridge The Ocean Sriracha
สวัสดีค่ะผู้อ่าน Condonayoo ทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ KnightsBridge the Ocean ศรีราชา จาก Origin ตัวโครงการตั้งอยู่ติด ถ.สุขุมวิท เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ใกล้ตัวเมืองศรีราชา เป็นจุดเชื่อมระหว่างเมืองกับแหล่งงาน อยู่ใกล้ J Park, โรบินสัน, ม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชา, รพ.พญาไท ศรีราชา เดินทางสะดวกเพราะตั้งอยู่ติดกับ ถ.สุขุมวิท เลยค่ะ
ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา เป็นคอนโด High rise สูง 36 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 772 ยูนิต บนเนื้อที่ 4-0-4.5 ไร่ โดดเด่นด้วยชัยภูมิที่ได้เปรียบ เพราะ “ด้านหลังพิงภูเขา ด้านหน้าวิวทะเล” มีห้องให้เลือก 5 แบบ คือ Superior (1 Bed), Deluxe (1 Bed), Suite (2 Bed), Penthouse และ Duplex ขนาดเริ่มต้นที่ 24.50 ตร.ม. โครงการขายแบบ Fully Furnished ขายไปได้กว่า 70% แล้ว และ เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้มาอย่างจัดเต็มค่ะ มีทั้ง Lobby, Mailbox, ร้านค้า, Kids Club, Library, Golf Simulator, Home Theater, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สวนพักผ่อน, Tatami Room, Onsen Room, Steam&Sauna, Access Card Control และ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 2.79 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
คอนโด ศรีราชา ที่น่าสนใจ…
KnightsBridge The Ocean ศรีราชา
โกลเด้น โคสต์ ศรีราชา
คีน เซ็นเตอร์ ศรีราชา
เดอะ ซี ศรีราชา
มาริน่า เบย์ฟร้อนท์ ศรีราชา
จี คอนโด ศรีราชา
เดอะ วิน คอนโด บ่อวิน
ซี ฮิลล์ คอนโด ศรีราชา
ศรีราชา เบย์วิว
เอ็กซ์ซีด บ่อวิน
ชื่อโครงการ | ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา KnightsBridge The Ocean Sriracha |
เจ้าของโครงการ | ออริจิ้น Origin |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-0-4.5 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 36 ชั้น |
จำนวนห้อง | 722 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 40% |
โซน | ศรีราชา, ชลบุรี |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ถนนสุขุมวิท เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 2.79 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 120,000 / ตร.ม. (Fully Furnished) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
นิคมอุตสาหกรรม และสถานที่ท่องเที่ยว
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | KnightsBridge the Ocean Sriracha “ฟ้าจรดน้ำ ทะเลจรดภูเขา” คอนโดใหม่ บนถนนสุขุมวิท ราคาเริ่มต้น 2.79 ลบ* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนสุขุมวิท เทศบาลนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
พิกัด GOOGLE MAP : 13.150906, 100.917593
ทำเล โครงการ KnightsBridge The Ocean ศรีราชา ตั้งอยู่ติดกับ ถ.สุขุมวิท ช่วงระหว่างตัวเมืองศรีราชา กับแหลมฉบังค่ะ ซึ่งเป็นถนนใหญ่สายหลัก ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ เป็นเส้นที่ออกไปทางพัทยาหรือระยองก็สะดวก ทำเลที่ตั้งของตัวโครงการนั้นก็ถือว่าโดดเด่น เพราะอยู่ใกล้ทั้งทะเลทั้งภูเขา และอยู่ไม่ไกลจากสาธารณูปโภค ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง, โรงเรียน, มหาลัย, โรงพยาบาล และสถานีรถไฟแหลมฉบัง อีกทั้งยังอยู่ติดกับตัวเมืองศรีราชา ซึ่งถือว่าเป็น Little Osaka เพราะมีภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกัน อยู่ติดกับภูเขาและทะเล อีกทั้งยังมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่กว่า 12,000 คน (อันเนื่องมาจากการสนับสนุนทางด้านภาคอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น)
ซึ่งจ.ชลบุรี เป็นเมืองหลักทางด้านอุตสาหกรรมและการค้าขายของภาคตะวันออก โดยมีท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก อีกทั้งในอนาคตจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจจากการเชื่อมต่อท่าเรือทวายของพม่า จึงจะมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยที่เมืองศรีราชาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแรงงานหรือบุคคลากรทั้งไทยและเทศอย่างแน่นอน
เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ในโซนเขตอุตสาหกรรมของอำเภอศรีราชา ซึ่งไม่ได้ใกล้แค่นิคมแหลมฉบังนะคะ ยังมีท่าเรือ Kerry Siam Seaport, ศรีราชาฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นแหล่งการขนส่งหลักทางเรือ และ นอกจากนิคมแหลมฉบังกับเครือสหพัฒน์แล้ว จากโครงการสามารถวิ่งออกถนนบายพาสมอเตอร์เวย์ต่อที่ถนน 331 เพื่อไปยัง นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง1-3, นิคมบ่อวิน, นิคมอมตะซิตี้, นิคมเหมราช และ Eastern Sea Boad ได้สะดวกมากๆ
นอกจากนิคมใหญ่ๆแล้ว ในละแวกโครงการก็ยังมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วย เช่น บริษัท Thai Oil, โรงงานปูนตรานกอินทรีย์ เป็นต้น หากสังเกตที่เส้นสุขุมวิทตลอดทางมาในระยะเพียงแค่ 3-4 กม. จะมีโชว์รูมรถยนต์อยู่เป็น 10 แห่งได้เลยค่ะ เนื่องจากตัวเมืองกรุงเทพฯกำลังขยายตัวออกย่านชานเมืองมากขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมนั้นก็เริ่มย้ายมาอยู่ในฝั่งชลบุรีและระยองมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้ในไม่กี่ปีมานี้ราคาที่ดินในย่านศรีราชานั้นพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว ซึ่งเหมาะแก่การลงทุนไม่ว่าจะอยู่เอง หรือปล่อยเช่า เพราะมีทั้งมหาลัย และนิคมอุตสาหกรรม และล่าสุดคือการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 เพื่อลดความแออัดของสุวรรณภูมิและดอนเมืองที่เพิ่งอนุมัติไปเมื่อ 3 มิย. ที่ผ่านมา
การเดินทางด้วยรถยนต์ แน่นอนว่าถนนหลักของโครงการก็ต้องเป็น ถ.สุขุมวิท เป็นถนนใหญ่สายหลัก ที่สามารถขับเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ หรือจะขับออกพัทยาและระยองก็สะดวก ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ติดกับตัวเมืองศรีราชาเลย ถ้ามาจากแยกบางแสนมุ่งตรงไปทางพัทยา ผ่านสี่แยกบางพระ และตึกคอม มาเรื่อยๆก็จะเห็นโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ
จากตัวโครงการก็มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยว อย่างเกาะลอย หรือชายทะเล และนิคมอุตสาหกรรมต่างๆได้ไม่ยาก สามารถเชื่อมต่อไปยัง ถ.เขาน้ำซับ เป็นทางลัดเลาะไปย่านชุมชนที่อยู่อาศัย ทะลุออก ถ.เก้ากิโล ซึ่งถนนเส้นนี้สามารถวิ่งออกไปยังแยกเซนต์ปอลคอนแวนต์, ออกไปยังถ.บายพาสมอเตอร์เวย์ หรือออกไปยังสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ได้ หรือเราจะใช้ ซ.ทุ่งสุขลา ไปออกถ.บายบาสมอเตอร์เวย์ก็ได้เช่นกัน
อีกทั้งในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการต่อขยายจากโครงข่ายทางพิเศษบูรพาวิถี ไปยังนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งชายหาดบางแสนและเมืองพัทยา เป็นโครงสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร รวมระยะทางทั้งหมด 68 กม. โดยมีจุดเริ่มต้นต่อจากทางพิเศษบูรพาวิถี บริเวณเทศบาลตำบลคลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี ยกระดับไปตาม ถ.สุขุมวิท ไปลงเข้าสู่เมืองพัทยา เป็นโครงการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกในอนาคตอีกด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ และรถไฟฟ้า รถสาธารณะจากแผนที่เส้นสุขุมวิทและเส้น 9 กิโลเป็นหลักค่ะมีทั้งรถมินิบัสและรถสองแถวซึ่งสามารถวิ่งสู่ม.เกษตรศรีราชา, ตัวเมืองศรีราชา, นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ไปถึงบางพระ บางแสน บ่อวิน และพัทยาได้ ดูเส้นทางรถ คลิกที่นี่
ส่วนคิวรถตู้ก็ไม่ไกลค่ะ ตั้งอยู่ที่ถนนทุ่งสุขลา คือคิวรถม.เกษตร นั่นเอง คลิกที่นี่ เพื่อดูคิวรถตู้อื่นๆ ในชลบุรี ส่วนข้อมูลการเดินทางอื่นๆ ในอ.ศรีราชา คลิกที่นี่ ค่ะ ขอบคุณทุกแหล่งข้อมูลด้วยนะคะ
ความอุดมสมบูรณ์ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินรอบตัวโครงการก็จะมีเป็นร้านกาแฟดอยช้างที่อยู่ติดกันค่ะ ที่เหลือจะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ประกอบกิจการการค้าต่างๆ ถ้าเป็นเรื่องกินในระยะเดินจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ แต่ในระยะขับรถนี่ถือว่าสะดวกมาก ถ้ามองหาอาหาร แถวๆแยกอ่าวอุดม หรือซอยทุ่งสุขลาก็มีร้านอาหารเปิดอยู่เยอะค่ะ ขับรถไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆและไปสะดวกก็จะมี โรบินสัน หรือ แปซิฟิคปาร์ค, อิออน ศรีราชา, ตึกคอม, Tops Market, จากแยกอัสสัมชัญวิ่งเข้า ถนนศรีราชา-หนองค้อ ก็จะมีห้าง Community mall สไตล์ญี่ปุ่น อย่าง J Park Nihonmura ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับชาวญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ข้างๆกันก็มี Easy Point 2 ศรีราชาค่ะ
ส่วนในโซนนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังฝังหน้านิคมก็จะมีโครงการ สวน iPlace ซึ่งเป็น Community mall ที่เรียงกันเป็นแนวยาวเลียบไปกับถนนสุขุมวิทหน้านิคมแหลมฉบัง ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นโรงพยาบาลวิภาราม สวนห้างสรรพสินค้าที่เปิดมานานแล้วอย่าง Harbour Mall อยู่บริเวณถนนเมืองใหม่กลาง ก็ขับไปได้ไม่ไกลค่ะ พื้นที่ติดกับ Harbour Mall ก็จะเป็น Makro Food service ถ้าเป็นสายเดินตลาดนัดหรือตลาดสดก็มีให้เลือกอยู่เยอะนะ ทั้ง ตลาดสดศรีราชา, ตลาดวรกิจ, ตลาดสี่มุมเมือง และยังมีอีกหลายที่เลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาล และสถานศึกษาอยู่ใกล้ๆอีกหลายแห่ง ทั้ง รพ.พญาไท, รพ.สมิติเวช, รพ.กรุงเทพ, ม.เกษตรศาสตร์, ม.บูรพา, รร.อัสสัมชัญศรีราชา, รร.เซนต์ปอลคอนแวนต์ และ รร.ดาราสมุทร
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทีมงาน Condonayoo มีภาพการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตาม ลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก
ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ- ชลบุรี > ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ป้าย บ.หุบบอน > แยกสวนเสือศรีราชา > กลับรถ > ถนนศรีราชา-หนองค้อ > แยกอัสสัมชัญ > ถนนสุขุมวิท > KnightsBridge The Ocean Sriracha
การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นจาก ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพชลบุรี ค่ะ วิ่งมาเรื่อยๆ ยาวจนเจอป้าย บ.หุบบอน อ.ศรีราชา ให้เตรียมชิดซ้าย
ให้สังเกตป้าย บ.หุบบอน อีกทีด้านซ้ายมือและ ชิดซ้ายออกสู่ ทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสู่แยกเข้าสวนเสือศรีราชา
วิ่งตรงไปเรื่อยๆก็จะเจอกับ แยกเข้าสวนเสือศรีราชา มีสะพานอยู่ด้านบนค่ะ ชื่อสะพานนี้ก็คือถนนศรีราชา-หนองค้อนั่นเอง พรุ่งนี้เราจะพาวิ่งถนนศรีราชา-หนองค้อผ่านตัวเมืองศรีราชาไปยังโครงการค่ะ การจะเข้าสู่ถนนศรีราชาหนองค้อหรือถนน 3241 ได้นั้น จากจุดนี้สามารถไปได้ 2 ทางค่ะคือเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสู่สวนเสือศรีราชาแล้วไปกลับรถเพื่อขึ้นสะพานด้านบนก็จะไปโผล่ที่ J Park Nihomnura แต่วันนี้เราจะพาไปเส้นทางสีแดงในภาพนะคะ ให้ตรงไป เพื่อไปกลับรถด้านหน้า ที่แยกเข้า ถ.ศรีราชา-หนองยายบู่
เลยแยกเข้าสวนเสือศรีราชา วิ่งมาอีก 1 กิโลเมตรก็จะเจอกับแยกเข้า ถนนศรีราชา-หนองยายบู่ค่ะซึ่งเป็นแยกไฟแดงโดยเราจะใช้เลนขวาสุดเพื่อกลับรถ
ตอนนี้เราอยู่ใต้สะพานกลับรถค่ะหากมองตรงไปก็จะเป็นถนนศรีราชา-หนองยายบู่นั่นเอง
วิ่งกลับมาอีก 1 กิโลเมตรให้ชิดซ้ายละเลี้ยวซ้ายออกสู่ ถนนศรีราชา- หนองค้อ
ตอนนี้เราอยู่บนถนนศรีราชาหนองค้อเราค่ะหากมองไปด้านซ้ายมือก็จะเจอกับโครงการ Community mall สไตล์ญี่ปุ่น J Park Nihonmura
เลยไปหน่อยก็จะเป็นโครงการ Easy Point 2
จากถนนศรีราชาหนองค้อนนี้คือเราจะวิ่งตรงไปยาวจนสุดทางเลยค่ะที่แยกอัสสัมชัญระหว่างทางก็จะข้ามทางรถไฟ
และเจอทางแยกอีกหนึ่งจุด ซึ่งเป็นแยกที่ถนนศรีราชา-หนองค้อ และถนนศรีราชาหนอง-ยายบู่ มาบรรจบกัน
ตรงไปเรื่อยๆจนเกือบออกปากซอยก็จะเจอกับทางเข้าโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาด้านขวามือซึ่งพื้นที่โรงเรียนนี้มีขนาดใหญ่มากค่ะตั้งแต่เลยทางแยกเมื่อสักครู่มาก็ยาวจนมาถึงจุดนี้เลย
ตอนนี้เราอยู่ที่แยกอัสสัมชัญนะคะ เราจะเลี้ยวซ้ายเพื่อออกสู่ถนนสุขุมวิท ด้านขวามือเป็นห้าง The best buy หากเลี้ยวขวาก็จะไปสู่ห้างสรรพสินค้าแปซิฟิคพาร์ค หรือโรบินสันศรีราชานั่นเอง
ตอนนี้เราอยู่บนถนนสุขุมวิทแล้วค่ะ วิ่งเลยแยกอัสสัมชัญมาหน่อยก็จะเจอแยกไฟแดงเซนต์ปอลคอนแวนต์
เลยแยกเซนต์ปอลคอนแวนต์มาก็จะเจอกับห้างตึกคอมศรีราชาด้านซ้ายมือ
จากนั้นก็วิ่งไปตามทางยาวไปเรื่อยๆเลยค่ะ เลยตัวเมืองศรีราชามาประมาณ 1.5 กิโลเมตรถนนก็จะเริ่มเป็นธรรมชาติปกคลุมมากขึ้นก่อนจะถึงโครงการด้านหน้า
ถึงแล้วค่ะ โครงการ KnightsBridge The Ocean Sriracha อยู่ทางด้านซ้ายมือ เยื้องๆกับ Sriracha TV ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเล็กน้อย
หน้าตาซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
นิคมอุตสาหกรรม และสถานที่ท่องเที่ยว
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการกันค่ะ จะได้เห็นกันว่ามีอะไรอยู่ในแถบนี้บ้าง มองจากแผนที่มุมสูงจะเห็นว่าโครงการเป็นคอนโดที่ล้อมรอบไปด้วยที่ดินเปล่าและธรรมชาติ ด้านหลังโครงการฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นภูเขาสวยงามค่ะ
เรามองไปที่ฝั่งตรงข้าม มีอาคารพาณิชย์ 2 ตึก ขนาด 3-6 คูหา จะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ติดกับถ.สุขุมวิทเลยค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ จะมุ่งหน้าไปทางแหลมฉบัง-พัทยา
ส่วนฝั่งขวามือจะมุ่งหน้าไปทางกรุงเทพฯค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจสภาพแวดล้อมทางฝั่งนี้กันก่อนนะ
มองไปอีกฟาก โดยส่วนมากบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นกิจการค้าขายต่างๆ และ Sriracha TV
ส่วนที่ติดกับตัวโครงการเลยก็จะเป็นร้านกาแฟดอยช้าง
ถ้าเป็นพวกแนวอาหารและเครื่องดื่มก็จะมีร้านนี้อยู่ร้านเดียวค่ะ ที่สามารถเดินมาได้สะดวก ภายในก็แอร์เย็นบรรยากาศดีค่ะ ร้านอื่นๆคงจะต้องนั่งรถสองแถว หรือขับรถไปเอง
เรากลับมาที่หน้าโครงการ คราวนี้เราจะเดินไปสำรวจทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าง
ติดกับตัวโครงการจะเป็นโรงไม้ค่ะ ขายพวกไม้อัด,ไม้โครง, พลาสวู้ด และบานพับ ถ้าเดินไปเรื่อยๆสัก 200 เมตร จะเจอร้านขายข้าวขาหมู, ข้าวหมูแดง, ข้าวหน้าเป็ด, ข้าวแกง และก๋วยเตี๋ยว พอเดินไปทานได้ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า ทางเดินไปจะเดินไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นักค่ะ เนื่องจากติดถนนใหญ่และรถค่อนข้างวิ่งเร็วค่ะ แต่สามารถนั่งรถสองแถวไปซื้อของกินในละแวกใกล้ๆกันได้ค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ KnightsBridge the Ocean ศรีราชา เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 722 ยูนิต บนพื้นที่ 4-0-4.5 ไร่ ค่ะ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัล Thailand Property Awards สาขา Best Condo Development (Eastern Seaboard) จาก Property Guru ปี 2017 นี้เอง ด้วยแนวคิดการออกแบบทั้งตัวอาคาร โดยเน้น Facilities ที่เอาใจกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะค่ะ
เนื่องจากอ.ศรีราชา เป็นเมืองอุตสาหกรรม และมีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มลูกค้า คือนักลงทุน ที่ต้องการซื้อห้องสำหรับเป็นทรัพย์สิน หรือปล่อยเช่ากับให้คนญี่ปุ่น ที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในละแวกเป็นจำนวนมากค่ะ โดยจะแบ่ง Facilities ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ
ชั้น 1 “Circle of Nature”, ชั้น 4 “Circle Of Community”, ชั้น 35-36 “Circle Of Wellness” และชั้น 35B “Circle Of Inspiration” ค่ะ รายละเอียดเราจะเจาะลงไปที่ Floor Plan แต่ละชั้นด้านล่างนะคะ
มาดูในส่วนของ Plan อาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะมีอยู่เพียงทางเดียวจากถนนสุขุมวิท เส้นทางการเดินรถจะวนขวาตามเข็มนาฬิกา ลอดใต้อาคาร เข้าไปแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม
ที่ชั้น G จะเป็นที่จอดรถทั้งแบบใต้อาคาร จากทางเข้ามาจะเจอ วงเวียน Drop-off สู่ Lobby และร้านค้า วนเข้าไปด้านหลังอาคารจะเข้าสู่อาคารจอดรถ ตั้งแต่ชั้น G-ชั้น 3 รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 40% ส่วนด้านหลังอาคารจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ Garden Alphitheather ค่ะ เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารจะเจอโถง Lobby ก่อนเข้าสู่ โถงลิฟท์ และ Mailbox
ชั้นที่ 4 จะเป็น Facilities หลักของโครงการทั้ง สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ออกแบบให้ดูสวยงาม และสนุกสนาน, สวนสาธารณะ ที่ออกแบบมาให้กลมกลืนไปกับวิวภูเขา ล้อมรอบสระว่ายน้ำ, Home Theater, Golf Simulator, Library, Kids Club และ Laundry
ชั้นที่ 5-35A จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย มีจำนวน 722 ยูนิต มีการจัดแปลนแบบ Double Corridor เหมือนคอนโดทั่วๆไป ผังอาคารเป็นรูปตัว L เฉียงๆ ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 31 ห้อง ที่ชั้น 6-11 ค่ะ ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 3 ตัว และ Service Lift อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 241 : 1 ถือว่าเกินค่ามาตรฐาน 100 : 1 นะคะ เพราะเป็นอาคารสูงด้วย จึงอาจจะต้องรอลิฟท์นานนิดนึง
ชั้น 12 ก็จะมีพื้นที่สวนลอยฟ้า เพิ่มขึ้นมา 1 จุดค่ะ
ชั้นที่ 13-17 ก็จะเป็นชั้นที่อยู่อาศัยค่ะ
ชั้นที่ 18, 24, 30 ก็จะมีพื้นที่สวนเพิ่มขึ้นมาเช่นเดียวกับชั้นที่ 12 แต่ขนาดเล็กกว่า ซึ่งการที่สวนค่อยๆไล่ระดับขึ้นไปนั้นเนื่องจาก ตัวอาคารด้านหลัง ฝั่งทีเ่ป็นสวน ติดกับถนนสาธารณะค่ะ จึงเป็นระยะถอยร่นตามกฏหมาย
ชั้น 31-35 หางของอาคารฝั่งทิศตะวันออกก็จะสุดท้ายอยู่แค่ที่ฝั่งโถงลิฟท์หลักค่ะ ทำให้ผู้ที่อยู่ชั้นนี้จะสามารถชมวิวอาคารมุมสูงจากโถงลิฟท์ได้ด้วย
ส่วนชั้นสุดท้ายที่มีห้องพักอาศัย นั่นก็คือคือ ชั้นที่ 35A ค่ะ เป็นห้องแบบ Penthouse 2 ยูนิต ส่วนที่เหลือจะเ็น Facilities ทั้งหมด ซึ่งจะต้องใช้การเดินขึ้นบันไดจากโถงลิฟท์ชั้นนี้ ตามลูกศรสีเขียวนะคะ
ชั้นที่ 35B จะเป็น Facilities หลักอีกชั้นนึงค่ะ โดยชั้นนี้จะมีทั้ง Lounge, Fitness, สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge, สวนหย่อม, Tatami Room, Onsen Room, Steam&Sauna ทุกๆห้องจะได้ทั้งวิวภูเขา และวิวทะเลทั้ง 2 ด้าน โดยชั้นนี้จะออกแบบมาเพื่อรองรับลูกบ้านชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยค่ะ
ชั้นที่ R หรือชั้น Roof Top จะเป็นสวนพักผ่อนเช่นกัน เหมาะสำหรับขึ้นมารับลมช่วงเย็นๆ และชมวิวตอนกลางคืนค่ะ ที่เห็นวงกลมด้านขวามือคือสามารถจอด Helicopter ได้ด้วยนะคะ
:::: Unit Type ::::
โครงการมีห้องทั้งหมด 4 แบบ ประกอบด้วย
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ เรียกได้ว่าแค่ขนเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้เลย เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลยค่ะ
1 ฺBedroom B1 Superior : พื้นที่ใช้สอย 24.50-29.00 ตร.ม.
:::: ภายในโครงการ ::::
เราพอจะทราบรายละเอียดของตัวโครงการไปบ้างแล้ว เดี๋ยวเราจะเข้าไปสำรวจตัวโครงการด้วยกันเลยค่า ตอนนี้เราอยู่ที่ซุ้มทางเข้าโครงการค่ะ พื้นทางเข้าปูด้วยกระเบื้องและคอนกรีตสแตมป์ มีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ชัดเจน เน้นสีดำตัดกับสีทองดูหรูหรา
การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมรปภ., ระบบ Access Card และกล้องวงจรปิด โดยทางพี่รปภ.จะเป็นคนเลื่อนเปิดรั้วเลื่อนให้เอง
เครื่องจับสัญญาณ Key Card และกล้อง CCTV ค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเป็นวงเวียนเพื่อส่งคนเข้า Lobby เลย โดยรถจะต้องขับวนตามเข็มนาฬิกา เข้าอาคารจอดรถทางซ้ายมือค่ะ
เราจะเดินไปสำรวจโดยรอบตัวอาคารตามทิศทางการขับรถนะ โดยมุ่งหน้าไปทางซ้ายมือ
ขับเข้ามาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ พอเลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีกหน่อย ก็จะเห็นทางเข้าอาคารจอดรถอยู่ทางขวามือค่ะ
เข้ามาในอาคารจอดรถกันแล้ว ก็จะแบ่งเป็นช่องให้จอดรถได้ทั้งทางซ้ายและขวา
โดยอาคารจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น G จนถึงชั้น 3 ส่วนชั้น 4 ก็จะเป็นห้องพักอาศัยแล้ว
ด้านหลังอาคารจะเป็นสวนสาธาณะ มีพื้นที่กว้างขวางเลยทีเดียว พื้นที่ทั้งหมดจะปูเป็นสนามหญ้า และลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ทั่วบริเวณ
พื้นบางส่วนก็ทำเป็นทางเดิน เราจะใช้เป็น Jogging Track ไปในตัวเลยก็ได้ ภายในสวนมีศาลาให้นั่งพักผ่อนด้วยค่ะ อากาศก็ดี๊ดี มีวิวภูเขาเป็นฉากอยู่ข้างหลังให้
เรากลับเข้ามาสู่ตัวอาคารค่ะ จากทางเข้าอาคารที่ Drop-off ด้านหน้าเข้ามาสู่โถง Lobby ฝั่งซ้ายมือของเราคือพื้นที่พักคอยค่ะ ถ้าเดินตรงเข้าไปจะเข้าสู่บริเวณโถงลิฟท์
ภายในถูกตกแต่งอย่างสวยงามและหรูหรา โดยจะใช้โทนสีสว่างเป็นหลัก ใช้กระเบื้องหินลายสวยเป็นคลื่นน้ำ ฝ้าสูงโปร่ง ประดับด้วย Chandelier สีทอง จัดชุดโซฟาสำหรับนั่งพักคอยเอาไว้ให้หลายชุด
เราเดินเข้ามาภายในโถงลิฟท์แล้วค่ะ ภายในมีลิฟท์โดยสารอยู่ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน ถ้าเดินตรงเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นห้อง Mailbox นะ
ประตูลิฟท์ค่ะ
ภายในลิฟท์ มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับได้ประมาณ 18 คน หรือ 1,350 กก.ต่อรอบ ภายในจะติดกระจกช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด
ปุ่มกดภายในลิฟท์ค่ะ โดยลิฟท์นี้จะเป็นระบบล็อคชั้น โดยการใช้ลิฟท์จะต้องใช้ Key Card ร่วมด้วย
บริเวณโถงลิฟท์ ส่วนเชื่อมกับลานจอดรถเพื่อเข้าสู่ตัวอาคาร
เราพามาที่ชั้น 4 ค่ะ ซึ่งเป็นชั้นที่รวม Facilities หลักของโครงการเอาไว้ ทั้งสวนสาธารณะ, สระว่ายน้ำ, Kids Club, Multi-Function Room, Golf Simulator, Home Theater และ ห้องซักรีดค่ะ
เราออกมาดูที่สระว่ายน้ำกันก่อน โดยออกแบบให้สระว่ายน้ำถูกล้อมรอบด้วยสวนสวย มีวิวภูเขาด้านหลังเป็นฉาก เรามาดูสระฝั่งปีกขวากันก่อน
สวนบางส่วนทำให้อยู่ในลักษณะเป็นเกาะ ต้องเดินข้ามสระไป เวลามาเดินเล่นผ่อนคลายคงจะสนุกดี
ภายในสวนใช้พันธุ์ไม้อย่างหลากหลายค่ะ โดยส่วนมากจะเป็นไม้พุ่ม มีปลูกต้นไม้ใหญ่ให้เป็นจุดๆไป
สระฝั่งปีกขวาจะเป็นรูปทรงแนว Free Form หักไปมา ทำให้เกิดมุมพักผ่อนภายในสระ ที่มีความเป็นส่วนตัว
โดยห้องที่อยู่ริมสระ จะเป็นห้องแบบ Duplex D1 และ D2 ค่ะ สามารถชมวิวทิวทัศน์ริมสระได้
จากชั้น 4 ขึ้นไปก็จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมดเลย
เราเดินมาดูที่สระที่ฝั่งปีกซ้ายกันบ้าง
สระฝั่งที่แล้วจะให้ลักษณะแนวๆหามุมส่วนตัวแล้วนั่งแช่น้ำเล่น ส่วนฝั่งนี้จะเป็นสระขนาดใหญ่ที่สามารถใช้ว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อออกกำลังกายค่ะ
ข้างๆสระมีจุดล้างตัวอยู่ค่ะ มีฝักบัวให้ 2 หัว
มองจากสระว่ายน้ำออกไปเราได้วิวภูเขาด้วยนะ เหมือนสวนโดยรอบสระจะเป็นตัวเชื่อมต่อสู่ภูเขาเลย
สวนบางส่วนทำเป็นหลุมพื้นหญ้าลงไป โดยรอบสามารถนั่งเล่นพักผ่อนได้อีกเช่นกัน
กลับเข้ามาภายในอาคาร เราจะไปดู Facilities ส่วนอื่นๆกันต่อ
เริ่มจากห้อง Home Theater ค่ะ ทำพื้นเป็น Step ขั้นบันไดลดระดับเหมือนในโรงหนัง เพื่อให้ทุกคนสามารถสนุกไปกับภาพยนตร์โดยไม่มีใครบังใคร อีกทั้งยังใช้พื้นพรม, ผนัง และ ฝ้าเพดานที่ช่วยดูดซับเสียง ไม่ให้เกิดเสียงสะท้อนด้วยค่ะ ลูกบ้านสามารถลงชื่อจองเพื่อมาใช้งานห้องได้นะ
ภายในห้องติดจอภาพขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เครื่องเสียงอย่างดี ดูหนังไม่มีสะดุด ไม่ขัดใจแน่นอน
เรามาต่อกันที่ห้อง Golf Simulator ค่ะ
ภายในห้อง Golf Simulator พร้อมอุปกรณ์และจอภาพขนาดใหญ่
มาดูที่ห้องซักรีดกันบ้าง
ภายในห้องซักรีดค่ะ ในอนาคตทางโครงการก็จะนำเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญมาตั้งให้บริการนะ
เข้ามาดูห้องน้ำหญิง และห้องน้ำชายกันบ้าง
ภายในห้องน้ำค่ะ ออกแบบมาให้ดูโปร่งและสว่าง เข้ามาถึงก็จะเห็นตู้ Locker อยู่บนผนังฝั่งขวามือเลย
ถัดเข้ามาเป็นโซนอ่างล้างมือ มีให้ 3 อ่าง ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องอาบน้ำ
เรามาดูห้องสมุดกันต่อ
ภายในห้องสมุดค่ะ มีการจัดโต๊ะ-เก้าอี้นั่งเอาไว้ให้หลายชุด รองรับได้ทั้งแบบกลุ่มและเดี่ยว
ถ้ามากับเพื่อนหรือครอบครัว เราอาจจะเลือกนั่งโต๊ะที่เป็นโซฟาค่ะ แต่ถ้าเรามาคนเดียว เราเลือกนั่งเก้าอี้เดี่ยวๆก็ได้ จะได้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากกว่า ไม่ต้องอยู่ติดกับใคร
ข้างๆห้องสมุดก็คือ Kids Club ภายในมีบ้านสไลเดอร์ขนาดใหญ่, ของเล่น และมุมนั่งเล่นของเด็กๆ
มุมนั่งเล่นของเด็กๆค่ะ มีทั้งหนังสือเด็ก และเครื่องเล่นชิ้นเล็กๆหลายอย่าง
บ้านสไลเดอร์มีบันไดทางขึ้นขนาดใหญ่อยู่ข้างๆค่ะ
ข้างบนก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับเด็กอีก 1 มุม
บางส่วนทำเป็นที่นั่งตาข่าย สามารถมองทะลุลงไปที่ชั้นล่างได้
จากชั้น 4 เราขึ้นมาต่อที่ชั้น 35 B ที่ชั้นนี้ก็จะมีสระว่ายน้ำ, สวนหย่อม, Tatami Room, Onsen Room, Steam&Sauna, ฟิตเนส และ Lounge ค่ะ โดยชั้นนี้จะออกแบบมาเพื่อเอาใจลูกบ้านญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลย
ออกมาดูที่สระว่ายน้ำกันก่อน เป็นสระแบบ Infinity Edge Pool ลอยฟ้า ชมวิวเมืองศรีราชา, ทิวทัศน์ของภูเขา และทะเล ไปพร้อมๆกัน
จากชั้นที่แล้วจะออกแบบให้ดูมีความสนุกสนาน ส่วนชั้นนี้ถูกออกแบบให้มีความเรียบนิ่ง และดูสงบมากขึ้น
ข้างๆสระว่ายน้ำได้ทำสวนหย่อมเล็กๆน่ารักๆเอาไว้ค่ะ
หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนแปลงผักแปลงเล็กๆ น่ารักมากเลย
สระว่ายน้ำฝั่งวิวภูเขา
สระว่ายน้ำฝั่งวิวทะเลค่ะ
มองจากสระว่ายน้ำย้อนกลับไปเข้าสู่ตัวอาคาร
ตามเข้าไปดู Tatami Room และ Onsen Room กันต่อ
ด้านหน้าทางเข้าทำเป็นทางเดินโรยด้วยหินกรวด ตกแต่งด้วยต้นไผ่ สร้างบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น
เข้ามาภายในห้อง Tatami ก็จะยกสเต็ปพื้นขึ้นมาแล้วปูด้วยเสื่อทาทามิเพื่อเป็นพื้นที่นั่งเล่นและพักผ่อนหลังแช่ Onsen ค่ะ การตกแต่งและโทนสีที่ใช้ได้กลิ่นอายจากญี่ปุ่นมาเลย โดยฝั่งนี้จะได้วิวภูเขาไปในตัว
ส่วนอีกฝั่งก็จะได้วิวทะเลอันสวยงามด้วยเช่นกัน ห้องเดียวได้ทั้งวิวภูเขาและวิวทะเลไปพร้อมๆกันเลย
จากนั้นเราเข้าไปดูห้องน้ำ และ Onsen กันต่อค่ะ
เข้ามาภายในห้องน้ำ มีพื้นที่กว้างขวาง ฝั่งนึงถูกจัดให้มีสไตล์หรูหราตามสไตล์ของคอนโด อีกฝั่งที่เป็น Onsen ตกแต่งให้ได้กลิ่นอายญี่ปุ่น ใช้โทนสีไม้อ่อนๆเป็นหลัก
ฝั่งที่เป็นห้อง Steam, Sauna, ห้องน้ำ และ Onsen ค่ะ
บริเวณด้านหน้าห้อง Steam ค่ะ จะมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บของได้อยู่ด้านหน้า
ภายในห้อง Sauna เป็นแบบที่เคยเห็นทั่วๆไป
คราวนี้เข้ามาดูภายในห้อง Onsen กันบ้าง
มีจุดให้อาบน้ำชำระตัวให้สะอาดก่อนลงแช่น้ำค่ะ
ส่วนด้านในจะเป็น Onsen บ่อแช่น้ำร้อน
บรรยากาศในการแช่น้ำดีมากเลยค่ะ ได้วิวภูเขา ให้ความรู้สึกที่สงบนิ่ง ในระหว่างที่เลือดลมก็ไหลเวียนดี
เรามาดูส่วน Lounge และห้องฟิตเนสกันต่อเลย
ภายใน Lounge ก็จะมีบาร์เล็กๆคอยให้บริการเครื่องดื่มด้วยนะ
มุมนั่งดริ๊งค์ส่วนตัวค่ะ ให้อารมณ์นั่งจิบแบบเงียบๆ เคล้าวิวจากธรรมชาติไป ฮ่าๆๆ
เข้ามาถึงห้องฟิตเนสค่ะ เป็นฟิตเนสที่มีขนาดใหญ่และมีเครื่องเล่นค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับอีกหลายๆโครงการ
ภายในก็จะมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight Training มาให้อยู่หลายชิ้น
มีมาให้อย่างครบเครื่องเลยนะคะ ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า
เครื่องเดินวงรี
จักรยานไฟฟ้า
ชุดดัมเบลและม้านั่งราบ
พร้อมชุดเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อที่รวมหลายๆเครื่องเอาไว้ในเครื่องเดียว
ขึ้นมาบนชั้น Roof Top ค่ะ ซึ่งทางโครงการได้จัดสวนเอาไว้เล็กน้อย ตอนกลางวันอาจจะร้อนไปหน่อย แต่ตอนกลางคืนนี่มานอนดูดาวท่าจะเวิร์ค
มุมมองลงไปที่สระว่ายน้ำชั้น 35B และวิวข้างล่าง
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ในวันนี้เราจะพาผู้อ่านไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกันนะคะ นั่นก็คือ
ไปชมกันเลยค่ะ
Deluxe (1-Bedroom) Type B2 ขนาด 33.00 ตร.ม.
เดี๋ยวเราพาไปดูห้องตัวอย่างกันนะคะ สำหรับบริเวณ Corridor ที่นี่จะเป็นแบบ Double Corridor มาตรฐาน ค่ะ ขนาดความกว้างโถงทางเดินนี้จัดมาให้กว้างขวางและสว่างดีทีเดียวทั้งจากไฟส่องแสว่างและการที่ได้ช่องเปิดขนาดใหญ่จึงช่วยให้แสงสว่างจากภายนอกส่องเข้ามาภายในได้ดี
ประตูทางเข้าห้องมีขนาด Oversize หรือใหญ่กว่ามาตรฐาน วัสดุเป็น HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตมีเล่นลายเล็กน้อย ส่วนกรอบประตูใช้เป็นวงกบไม้สีขาว
สำหรับห้องทุกห้องจะได้ Digital Door Lock เป็นมาตรฐานนะคะ
ด้านในเป็นแบบธรรมดา ล็อกด้วยกลอนประตูแบบบิด และเปิดด้วยก้านโยกสแตนเลสมาตรฐานค่ะ
เข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัวก่อนนะคะ ซึ่งโซนครัวนี้จะเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านใน และไปสุดที่พื้นที่นั่งเล่น ลักษณะครัวที่ได้จะเป็นแบบครัวเปิดนะคะ ข้อดีคือเหมาะกับขนาดห้องพักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก เพราะทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น แต่ก็จะแลกมากับการที่ไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักเท่าที่ควรนะคะ จะเหมาะกับการทำอาหารง่ายๆ เช่น อุ่น ต้ม นึ่ง เพราะกลิ่นอาหารจะได้ไม่โชยไปยังพื้นที่อื่นๆ
ความกว้างของพื้นที่ทางเดินให้มาพอสมควรเลยนะคะ สามารถเดินและทำอาหารบริเวณนี้ได้สะดวก
บริเวณที่ติดกับประตูทางเข้าห้องออกแบบให้เป็นตู้เก็บรองเท้าและอีกฝั่งเป็นตู้เก็บของใช้ต่างๆ เป็นฟังก์ชันที่ให้มาตรฐานและดีมากสำหรับการใช้งานจริงในห้องพักอาศัย เพราะมีพื้นที่จัดเก็บให้เรียบร้อยไม่เกะกะ ดูสวยงาม
ภายในตู้เก็บของ Built-in ชั้นมาให้ใหญ่ทีเดียวนะคะ ตู้นี้สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว สามารถเก็บของได้หลากหลายดีค่ะ และยังสามารถเก็บถุงกอล์ฟได้ด้วย เนื่องจาก Target หลักของที่นี่คือชาวญี่ปุ่นซึ่งชอบตีกอล์ฟ โครงการจึงออกแบบมารองรับค่ะ
อีกฝั่งเป็นตู้เก็บรองเท้าซึ่งสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยเช่นกัน สามารถเก็บรองเท้าได้หลายคู่แบบจุใจเลยทีเดียว หลายคนที่ชอบสะสมรองเท้าต่างๆ น่าจะชอบทีเดียวค่ะ
ถัดมาที่บริเวณเคาน์เตอร์ครัวกันนะคะ ติดกับเคาน์เตอร์ครัวนี้มีช่องว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาด 7.4 คิวบิกฟุต จะกำลังพอดีเลยค่ะ ถือว่าเว้นช่องว่างขนาดใหญ่พอสมควรเลยสามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้
ถัดมาส่วนท็อปของเคาน์เตอร์มีขนาดกะทัดรัด ใช้วัสดุเป็นหินสังเคราะห์ ด้านหลังกรุกระจกให้เป็นผนังกันเปื้อน ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและป้องกันคราบน้ำมัน คราบอาหารได้ดีเลยค่ะ
Sink ล้างจานและก็อกน้ำจาก MEX หลุมลึกพอสมควรสามารถจุจานชามได้กำลังดีค่ะ
ส่วนเตาเซรามิกแบบ induction 2 หัว จาก MEX
Hood ด้านบนจาก MEX เช่นกัน และอีกฝั่งซ่อนหลอดไฟให้แสงสว่างด้วย ทำให้บริเวณเคาน์เตอร์ครัวสว่างมากขึ้น
ด้านล่างเป็นลิ้นชักและบานเปิดปิดผิวด้วยลามิเนต เปิด-ปิดแบบ Soft Close ส่วนลิ้นชักด้านบนให้ช่องเก็บช้อนส้อมมาให้ด้วยเช่นกันค่ะ
ติดกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง แต่ต้องนั่งเยื้องกันเหมือนห้องตัวอย่างนะคะ จะเหมาะกับพื้นที่ภายในห้องมากที่สุด
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นทางเข้าห้องน้ำ
ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นแบบมาตรฐาน โดยด่านล่างยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อยสามารถกันน้ำไหลย้อนได้ดี
ภายในห้องน้ำได้ขนาดใหญพอสมควรนะคะ และมีการแบ่งโซนเปียกและแห้งไว้เรียบร้อยค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ฝั่งขวามือเป็นส่วนเคาน์เตอร์ในห้องน้ำ ซึ่งจัดมาให้ขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ พร้อมทั้งได้กระจกเงาขนาดใหญ่ตั้งแต่ผนังถึงอีกผนังนึงพร้อมซ่อนไฟด้านหลังตู้กระจกด้วยเพื่อให้ส่วนท็อปเคาน์เตอร์สว่าง มองเห็นได้ชัดมากขึ้น รวมไปถึงความสวยงามอีกด้วยค่ะ
ท็อปเคาน์เตอร์ใช้เป็นท็อปหินสังเคราะห์สีขาวสะอาดสวยงาม ขนาดอ่างล้างมือใหญ่พอสมควร สามารถใช้งานได้ดีเลยค่ะ
อีกฝั่งเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้กำลังดี ซึ่งจะต้องซื้อเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเท่านั้นนะคะ
ถัดมาคือสุขภัณฑ์พร้อมฝาอัตโนมัติจาก American Standard ด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟ และมีราวแขวนทิชชู่เรียบร้อยค่ะ
ลักษณะที่แขวนทิชชู่เป็นแบบแท่งสแตนเลสอย่างในภาพเลยค่ะ ใช้งานได้งานดี แค่สวมแกนทิชชู่เข้าไปเท่านั้น
อีกฝั่งเป็นปลั๊กไฟกันน้ำแบบมาตรฐาน ไว้เสียบไดร์เป่าผม หรือเครื่องโกนหนวดไฟฟ้าของคุณผู้ชาย
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นโซนเปียกหรือพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อนพร้อมยกธรณีประตูให้เรียบร้อย
ด้านในสุดได้อ่างอาบน้ำแบบจากุ๊ซซี่เป็นมาตรฐาน
ติดกันนั้นเป็นส่วน Shower ซึ่งจะเป็นฝักบัวแบบ Rain Shower นะคะ
ส่วนฝักบัวสายอ่อนจะอยู่ที่อ่างอาบน้ำค่ะ
ฝักบัวสายอ่อนขนาดกำลังดีใช้งานได้สะดวก และมือจับแข็งแรงดีค่ะ
ติดๆ กันนั้นก็มีติดตั้งราวแขวนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จาก American Standard เช่นกันค่ะ
สำหรับห้องน้ำนี้จะเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bath คือมีกระจกที่สามารถมองทะลุออกไปยังส่วนห้องนอนได้ด้วยนะคะ ข้อดีคือทำให้ห้องน้ำดูโปร่งโล่งเพราะมีช่องเปิดให้แสงเข้าได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะเหมาะกับการอยู่เป็นคู่หรืออยู่คนเดียวมากกว่าอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว ในแง่ความเป็นส่วนตัวนะคะ ซึ่งใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถติดฟิล์มฝ้าหรือติดม่านบริเวณกระจกใสได้ค่ะ
กลับมาที่พื้นที่นั่งเล่นกันนะคะ สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้จะอยู่ติดกับหน้าต่างด้านนอก มีพื้นที่กำลังดีสำหรับวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและวางทีวีขนาดกลางได้ดี ด้วยความที่มีระยะห่างระหว่างทีวีอยู่ที่ประมาณ 1.5 ม.
ชุดโซฟาเหมาะกับวางขนาด 2 ที่นั่งค่ะ และสามารถวางโต๊ะกลางได้พอดี
ส่วนชั้นวางทีวีเป็นแบบ Built-in ทั้งด้านล่างและด้านบนเลยค่ะ
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมพ่นสีดำ
สำหรับระเบียงห้องมาตรฐานจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ขนาดนี้นะคะ จะเป็นระเบียงขนาดมาตรฐานทั่วไป เฉพาะห้องในชั้น 4 เท่านั้นที่จะได้ขนาดระเบียงใหญ่แบบนี้ที่สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้สนามไว้นั่งเล่นได้สบายมากเลยค่ะ
ถัดมาที่ภายในห้องกันก่อนนะคะ บริเวณห้องนั่งเล่นนี้จะเชื่อมกับส่วนห้องนอนสามารถกั้นเป็นพื้นที่แยกจากกันหรือเป็นพื้นที่เดียวกันก็ได้
โดยการกั้นพื้นที่จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดพื้นที่ได้กว้างขวางเต็มที่ทีเดียวค่ะ และด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานนี้ช่วยให้ตัวห้องโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย
ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี พร้อมทั้งสามารถจัดชุดโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ขนาดกำลังดีในการใช้งาน
พื้นที่ด้านข้างเตียงมีพอสมควรเลยค่ะ แต่ฝั่งที่ติดกับหน้าต่างจะเหลือทางเดินเล็กน้อยนะคะ
หันไปทางอีกฝั่งก็จะเป็นห้องน้ำแบบ Sexy Bathroom และห้องน้ำเองก็อยู่ภายในห้องนอนเพื่อสะดวกในการใช้งาน
ด้านข้างเตียงมีลิ้นชักให้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยนะคะ
ก่อนจะถึงทางเข้าห้องน้ำจะเป็นส่วน Walk-in Closet เป็นสัดส่วน
โดยทางโครงการจะให้ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเป็นมาตรฐาน
ลักษณะของตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนปิดผิวด้วยลามิเนตสีไม้
ภายในตู้เสื้อผ้า Built-in สวยงามและมีแบ่งเป็นฟังก์ชันต่างๆ เหมาะกับการใช้งานดีค่ะ ส่วนประตูห้องน้ำเป็นประตูบานเลื่อนกระจกฝ้า ช่วยให้แสงภายในห้องนอนเข้ามายังห้องน้ำได้ดีมากขึ้น
จากส่วนพื้นที่เตียงนอนสามารถนอนดูทีวีส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้เลยค่ะ
Suite (2-Bedroom) ขนาด 60.00 ตร.ม.
มาดูที่ห้องพักอาศัยอีกห้องกันนะคะ เป็นห้อง 2 Bedroom มีขนาด 62 ตร.ม. ใหญ่กว่าห้องแรกอยู่พอสมควร เหมาะกับอาศัยอยู่เป็นครอบครัวมากขึ้น 3 คนกำลังดีค่ะ
เข้ามาภายในเป็นส่วนครัวและพื้นที่รับประทานอาหารก่อนที่จะเชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นด้านในสุด
สำหรับ Pantry ครัวรูปแบบเหมือนกับห้องแรกทุกอย่างนะคะ ในเรื่องของสเป็ควัสดุ แต่จะแตกต่างเล็กน้อยในส่วนขนาดที่มีขนาดใหญ่กว่า มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า
สำหรับช่องใส่เครื่องซักผ้านั้นสามารถวางได้ขนาดเครื่องประมาณ 7.5 กิโลกรัมจะกำลังดีสุดค่ะ
ด้านข้างเว้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น
ส่วนพื้นที่หน้าท็อปครัวมีขนาดใหญ่มากขึ้น มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารได้ดีทีเดียว
บริเวณครัวและพื้นที่รับประทานอาหารโดยรวม เมื่อหันไปทางฝั่งประตูหน้าห้องค่ะ
ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารมีพื้นที่เป็นสัดส่วนนะคะ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้กำลังดีเลยค่ะ
ถัดมาเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรเลย แบ่งพื้นที่เปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วน
บริเวณอ่างล้างมือทำเป็นเคาน์เตอร์พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านล่างไว้เรียบร้อยสวยงามทีเดียว ติดกับผนังเป็นตู้กระจกด้านล่างซ่อนไฟให้สวยงาม
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard มีพื้นที่กำลังดีไม่เล็กไป นั่งได้สบาย
อุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard เช่นกัน
ส่วนพื้นที่อาบน้ำได้ขนาดใหญ่มากทีเดียวนะคะ อาบได้สบายมากๆ
ฝักบัวได้ทั้งแบบ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน
ตรงข้ามมีทำช่องไว้สำหรับวางของตกแต่งหรือจะวางครีมแชมพูต่างๆ ได้สบายเลยค่ะ
อีกมุมของห้องน้ำค่ะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะออกไปยังส่วนพื้นที่นั่งเล่นกันต่อนะคะ
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ และบรรยากาศโปร่งโล่งทีเดียว ด้วยความที่ได้หน้าต่างบานใหญ่ทำให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาได้ดีทีเดียว สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย พร้อมโต๊ะกลาง หรือใครจะจัดฟังก์ชันเพิ่มเติมอย่างโต๊ะทำงานก็ยังได้นะคะ
สามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้เลยค่ะ
อีกมุมเป็นส่วนชั้นวางทีวี ซึ่งก็ได้ชั้น Built-in ขนาดใหญ่ วางของได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ
เดี๋ยวเรามาต่อที่ห้อง Master Bedroom กันนะคะ อยู่ด้านหลังชุด Built-in ทีวีนี่เองค่ะ
ส่วนเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลย แต่หากวางเตียง 5 ฟุตจะลงตัวสุดค่ะ มีพื้นที่ทางเดินรอบข้างได้สบาย ติดกับส่วนระเบียงด้านนอกเลยได้ประตูบานเลื่อนกระจกรับแสงสว่างภายนอกได้ดี
ขนาดระเบียงด้านนอกใหญ่จุใจทีเดียวค่ะ สามารถวางโต๊ะเก้าอี้แบบ Outdoor ได้สบาย จะจัด BBQ ปาร์ตี้ก็ง่าย
ถัดมาอีกฝั่งเป็นส่วนพื้นที่แต่งตัวประกอบไปด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าจะเป็นชุด Built-in ทั้งหมดนะคะ เริ่มต้นจากตู้เสื้อผ้ามีขนาดใหญ่พอสมควรเลย ความกว้างของหน้าบานกว้างมาก และเป็นแบบบานเปิดถนัดในการใช้งานดีค่ะ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งจะมาพร้อมกระจกเงาติดผนังให้เรียบร้อย ถัดไปอีกหน่อยเป็นทางเข้าของห้องน้ำในห้องนอนนะคะ สำหรับห้องน้ำนี้จะไม่ได้เป็น Sexy Bath เหมือนห้องแรกแล้วค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจน เฉพาะห้องน้ำใน Master Bedroom เท่านั้นที่จะได้ฝาอัตโนมัติบนโถสุขภัณฑ์และอ่างอาบน้ำค่ะ
บริเวณโถสุขภัณฑ์จัดพื้นที่มาพอดีๆ ด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟเรียบร้อย
บริเวณโซนแห้งนอกจากโถสุขภัณฑ์แล้วฝั่งตรงข้ามจะเป็นอ่างล้างมือนะคะ
อ่างล้างมือใช้สเป็คเดียวกับห้องน้ำด้านนอกเลยแต่มีขนาดเคาน์เตอร์เล็กกว่าเล็กน้อยเป็นไปตามขนาดของพื้นที่ในห้องน้ำ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำนี้มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ โดยโซนนี้จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเป็นสัดส่วนดีมากทีเดียว
ฝั่งขวาเป็นอ่างอาบน้ำพร้อมจากุ๊ซซี่ในตัว
ขนาดอ่างสามารถนอนแช่ได้สบายๆ นะคะ
อีกฝั่งเป็นโซน Shower โดยจะติดตั้งด้านบนเป็น Rain Shower และด้านล่างเป็นก็อกน้ำ
ก็อกน้ำด้านล่างนี้จาก American Standard เช่นกัน ดีไซน์สวยทีเดียวค่ะ
กลับมาที่ภายในห้องนอนใหญ่ก่อนจะไปห้องนอนเล็กกันต่อนะคะ
สำหรับห้องนอนเล็กนี้ บริเวณพื้นที่เตียงนอนจะเหมาะกับวางเตียงขนาด Single Bed ได้กำลังดีค่ะ แต่หากใครอยากได้เตียงขนาดใหญ่มากขึ้นหน่อยก็สามารถเลือกเป็นเตียง 5 ฟุตได้นะคะ แต่ก็จะไม่มีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงนะคะ
ภายในห้องนอนเล็กนี้จะมีกระจกใสที่มองทะลุไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นด้วย ทางโครงการตั้งใจออกแบบไว้สำหรับเป็นห้องเด็กเล็กหรือห้องผู้สูงอายุที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ดูแลเข้าถึงได้ดีกว่าเป็นห้องผนังทึบทั้งหมด รวมไปถึงช่วยในเรื่องความโปร่งโล่งของห้องที่มากขึ้นด้วย แต่หากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านบริเวณนี้ได้ค่ะ
ถัดมาจะเป็นส่วนตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ ซึ่งใช้สเป็คเดียวกับห้องนอนใหญ่เลย
ติดกับโต๊ะเครื่องแป้งจะเป็นส่วนระเบียงภายนอกค่ะ
ระเบียงภายนอกได้ขนาดพอสมควรในการใช้งานจริงเลยนะคะ แต่จะเป็นโซนสำหรับไว้ตากผ้าหรือซักล้างต่างๆ ส่วนด้านบนแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้เรียบร้อยค่ะ
ปิดท้ายด้วยรูปภายในห้องนอนเล็กบริเวณเตียงนอนกันอีกมุมนึงค่ะ
:::: ราคา (พย. 2560) ::::
ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
เฉลี่ย 120,000 บาท / ตร.ม. (Fully Furnished)
1 ห้องนอน B1 (Superior) ขนาด 25.53 ตร.ม.
ชั้น 10 Mountain View
ราคา 3,108,800 บาท
1 ห้องนอน B1 (Superior) ขนาด 35.31 ตร.ม.
ชั้น 7 Sea View
ราคา 4,298,200 บาท
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และข้อมูลที่อัพเดทที่สุดค่ะ
:::: สรุป ::::
• ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ KnightsBridge The Ocean ศรีราชา ตั้งอยู่ติดกับ ถ.สุขุมวิท ฝั่งมุ่งหน้าแหลมฉบังค่ะ และอยู่ช่วงระหว่าง ตัวเมืองศรีราชา กับแหลมฉบัง ซึ่ง ถ.สุขุมวิท เป็นถนนใหญ่สายหลัก ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ เป็นเส้นที่ออกไปทางพัทยาหรือระยองก็สะดวก ทำเลที่ตั้งของตัวโครงการนั้นก็ถือว่าโดดเด่น เพราะอยู่ใกล้ทั้งทะเลทั้งภูเขา ได้วิวทั้งสองฝั่งเลยค่ะ ไม่ว่าจะเลือกฝั่งไหนก็วิวสวยทั้งคู่ อยู่ที่ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน และอยู่ไม่ไกลจากสาธารณูปโภค ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง, โรงเรียน, มหาลัย, โรงพยาบาล มากมาย รวมถึงโครงการแบรนด์ KnightsBridge ตัวนี้ของ Origin ยังเป็นโครงการแรกที่ไม่เกาะแนวรถไฟฟ้าเหมือนที่อื่นๆ และอยู่ต่างจังหวัด เพราะเขามองเห็นศักยภาพทำเลที่เป็นศูนย์กลาง Logistic ในภูมิภาคอาเซียนค่ะ และยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัว มีแนวมอเตอร์เวย์ตัดใหม่ในอนาคต พัทยา-มาบตาพุด, ทางรถไฟเชื่อมแหลมฉบัง-ทวาย รวมถึงรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และที่สำคัญมากคือโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศในอนาคต รองจากสุวรรณภูมิ และดอนเมืองค่ะ
• การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โครงการเหมาะสำหรับผู้มีรถยนต์ส่วนตัวเนื่องจากติดถนนใหญ่ และรถวิ่งกันค่อนข้างเร็วค่ะ ถนนกว้างขับสบาย และอยู่ไม่ไกลจากจุดกลับรถไปยังฝั่งตรงข้ามอีกด้วย ข้อดีของทำเลนี้ก็คือเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ในโซนนิคมอุตสาหกรรม และเดินทางไปแหลมฉบังบ่อยๆค่ะ เพราะจะเดินทางสะดวกไม่ต้องรอรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนบริเวณตัวเมืองค่ะ
• การเดินทางโดยรถสาธารณะ รถสาธารณะ จะวิ่งอยู่ที่เส้นสุขุมวิทและเส้น 9 กิโลเป็นหลักค่ะ โดยจะมีทั้งรถมินิบัสและรถสองแถวซึ่งสามารถวิ่งสู่ม.เกษตรศรีราชา, ตัวเมืองศรีราชา, นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ไปถึงบางพระ บางแสน บ่อวิน และพัทยาได้ ส่วนคิวรถตู้ก็ไม่ไกลค่ะ ตั้งอยู่ที่ถนนทุ่งสุขลา คือคิวรถม.เกษตร นั่นเอง ก็นับว่าไม่ได้ลำบากอะไรนักค่ะ
• การออกแบบโครงการและวัสดุ โครงการ KnightsBridge the Ocean ศรีราชา เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 722 ยูนิต บนพื้นที่ 4-0-4.5 ไร่ ค่ะ การจัดผังจะเป็นลักษณะทรงบูมเมอแรง มีส่วนโค้งตรงกลาง ซึ่งทำให้เกิดห้องพักยูนิตที่เป็นโค้งที่ระเบียงอยู่หลายห้องด้วยกันค่ะ อีกทั้งยังช่วยเปิดมุมมอง ให้ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเล หรืออีกฝั่งที่เป็นวิวภูเขาได้อย่างเต็มๆ ซึ่งห้องที่อยู่ติดถนนใหญ่ก็อาจจะเสียงดังกว่านิดหน่อยค่ะ แต่ก็จะได้วิวทะเลสวยจริงๆ ส่วนแบบห้องทั้งหมดมี 5 แบบด้วยกันค่ะ คือ 1 Bed Superior, 1 Bed Deluxe, 2 Bed, Duplex และ Penthouse ซึ่งข้อดีคือทุกห้องใส่ใจเรื่องฟังก์ชั่นห้องน้ำที่เน้นมาให้มากกว่าคอนโดปกติ ห้องขนาดเริ่มต้น ก็มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ให้มาแบบ Fully Furnished ที่มีจุดวางถุงกอล์ฟให้ด้วย รวมถึงมีตู้เซฟดิจิตอลขนาดเล็กให้ และปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน แจ้งลงไปที่นิติบุคคลอยุ่ตรงหัวเตียงค่ะ
• สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย โครงการเน้น Facilities ที่เอาใจกลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ที่ชั้นคือชั้น 1, ชั้น 4 และชั้นดาดฟ้าค่ะ โดยชั้น 1 ประกอบด้วย Lobby สวยงามและ Garden Amphitheater ด้านหลังที่สามารถมองผ่านไปเห็นวิวภูเขาได้ , ชั้น 4 จะเป็นสระว่ายน้ำที่ออกแบบเป็น Play Pool ที่มีสวนแทรกไปด้วยค่ะ อื่นๆก็จะมี Home Theater, Golf Simulator, Library, Kids Club และ Laundry และชั้นสุดท้ายคือที่ 35B-ดาดฟ้า ที่จะมี สระว่ายน้ำ Sky 25 Lap Pool สามารถออกกำลังกายและชมวิวทะเลได้ มีห้อง Japanese Garden, Tatami Room, Onsen Room, Steam&Sauna ค่ะ ขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเป็น Sky Lounge และ Fitness ที่สามารถมองลงมาเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เช่นกัน อีกทั้งที่ดาดฟ้า ยังเป็นจุดชมวิว 360 องศา และมีที่จอด Helicopter อีกด้วย
ส่วนทีจอดรถทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 1-3 ค่ะ คิดเป็น 40% ถือว่าให้มากลางๆสำหรับโครงการที่เน้นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวก็นับว่าไม่มากนักนะคะ ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 3 ตัว และ Service Lift อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 241 : 1 ก็ยังถือว่าหนาแน่นสักหน่อย แต่ก๋ยังนับว่าชดเชยๆกันไปกับ Facilities ที่จัดเต็มมาให้ละกัน ระบบความปลอดภัยมาตรฐานค่ะ เข้า-ออกโครงการด้วยระบบคีย์การ์ด พร้อมรปภ. และ CCTV รอบโครงการ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.6 | ติด ถ.สุขุมวิท ช่วงมุ่งหน้าแหลมฉบัง เลยจากตัวเมืองศรีราชามาเล็กน้อย |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.7 | เดินทางสะดวกสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่ในโซนนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเป็นหลักค่ะเนื่องจากรถไม่ติดในตัวเมือง |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7 | มีรถสองแถวผ่านที่เส้นสุขุมวิทเป็นหลัก ออกไปหน้าโครงการก็เรียกได้ค่ะ |
บ้านและวัสดุ | 8.8 | อาคารสวย ทุกห้องได้ชมวิวสวยหมด ฟังก์ชั่นห้องหลากหลาย ห้องได้ Fully Furnished และห้องน้ำทุกยูนิต มีอ่างอาบน้ำค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.8 | ที่นี่ให้ Facilities มาจัดเต็มและหลากหลายจริงๆ ซึ่งแนวคิดก็จะเอาใจคนญี่ปุ่นเป็นหลักค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8 | โครงการเหมาะสำหรับ 1-5 คน ต้องการลงทุน-ปล่อยเช่า หรืออาศัย ทำงานอยู่ในโซนแหลมฉบัง-ศรีราชา เป็นหลัก งบประมาณเริ่มต้น 4.3 – 8 ล้านบาท |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.98 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น