EP.161 รีวิว คอนโด เดอ ลาพีส จรัญ 81 De LAPIS Charan 81
อ่านรีวิวสร้างเสร็จพร้อมอยู่คลิก https://www.homenayoo.com/de-lapis-charan-81/
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว CONDONAYOO ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาชมโครงการ De LAPIS จรัญ 81 จาก Grand Unity Development กันค่ะ
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตรง ซ.จรัญฯ 81 อยู่ติดกับ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ใกล้ ห้างเทสโก้ โลตัส จรัญฯ, ห้างตั้งฮั้วเส็ง, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, รพ.ยันฮี และอื่นๆ อีกมากมาย เดินทางสะดวกใกล้ ทางพิเศษศรีรีช-วงแหวนรอบนอก
เดอ ลาพีส จรัญ 81 เป็น High Rise Condominium มี 1 อาคาร เป็นอาคารพักอาศัย สูง 32 ชั้น จำนวน 635 ยูนิต, ร้านค้า 2 ยูนิต และ มีอาคารจอดรถ 1 อาคาร สูง 8 ชั้น ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยจริง ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีห้องให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ทั้งแบบห้อง Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 26.00 ตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี กรกฎาคม 2562 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Double Volume Lobby, Co-Working Space (Mezzanine), Garden, Infinity Edge Swimming Pool, Double Volume Fitness, Sauna, Co-Working Space, Sky Garden, Parking Building, Passenger Lift, Access Card Control, CCTV และ Security 24 hours ราคาเริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท (เริ่มต้น 95,000 บาท/ตร.ม.) (2561)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุดถึง 250,000 บาท คลิก : https://bit.ly/2EcERKU
ชื่อโครงการ | เดอ ลาพีส จรัญ 81 De LAPIS Charan 81 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด Grand Unity Development Co., Ltd. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-1-3.7 ไร่ |
จำนวนตึก |
|
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 260 คัน (คิดเป็น 41%) |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | จรัญสนิทวงศ์ 81 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 18, 110ร, 170ร, 175ร และ 203 |
ที่ตั้ง | ซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม. |
กำหนดการ | เปิดจอง 19-20 พ.ค. 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จ กรกฎาคม 2562 |
ราคา | เริ่มต้น 2.49 ล้านบาท (ราคาเปิดตัว) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 95,000 บาท/ตร.ม. (ราคาเปิดตัว) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | De LAPIS จรัญ 81 จาก Grand Unity คอนโดใหม่วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense บนทำเลศักยภาพ ติดรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) ใกล้ทางด่วนศรีรัช |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม.
พิกัด : 13.791732, 100.504244
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ De LAPIS จรัญ 81 ตั้งอยู่ติด ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตรง ซ.จรัญสนิทวงศ์ 81 ค่ะ ฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานพระราม 7 ซึ่ง ถ.จรัญสนิทวงศ์เนี่ยเป็นถนนในฝั่งธนบุรี เริ่มตั้งแต่ ถ.เพชรเกษมที่แยกท่าพระจนมาสิ้นสุดที่สะพานพระราม 7 จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือเป็นทำเลที่ติดถนนใหญ่ อีกทั้งยังอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัดอีกด้วย ทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าจะอยู่ตรงหน้าทางเข้า-ออกของโครงการพอดีเลยค่ะ โดยรอบโครงการยังมีบรรยากาศแบบชุมชนและบ้านพักอาศัย มีความอุดมสมบูรณ์พอตัวไม่ว่าจะในระยะเดิน และในระยะที่ขับรถไปได้สะดวก ตอนนี้ก็จะเห็นว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตามที่ดินแนวรถไฟฟ้าเป็นระยะๆ ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวต้องใช้ ถ.จรัญสนิทวงศ์เป็นหลักอย่างแน่นอน เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตรง ซ.จรัญฯ 81 ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด การเดินทางขาเข้าเมือง ต้องข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งพระนคร สามารถใช้ สะพานพระราม 8 และ สะพานซังฮี้ ข้ามไปฝั่งราชวิถี เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ จากนั้นก็เชื่อมไปเข้า ถ.พหลโยธิน – ถ.พญาไท วิ่งเข้าสยามได้เลย, ถ้าข้ามสะพานพระราม 7 จะเข้า ถ.วงศ์สว่างต่อไปยัง ถ.รัชดาภิเษกเชื่อมสู่พระราม 9 ได้เช่นกันค่ะ ถ้าจะเข้าเขตพระนครแถวสนามหลวง ให้ใช้เส้นจรัญสนิทวงศ์วิ่งมาแยกบรมราชชนนีเลี้ยวเข้า ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ข้ามสะพานปิ่นเกล้ามาก็ถึงสนามหลวงแล้ว ถ้าจะไปข้าวสาร, เยาวราช, หัวลำโพงต่อก็ได้เลย นอกจากนี้ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกวิ่งเข้าเมืองได้สะดวกมากๆ
ส่วนการเดินทางขาออกเมือง สามารถใช้เส้นบรมราชชนนี ไปโซนพุทธมณฑล, ราชพฤกษ์, วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือไปศาลายา วิ่งออกต่างจังหวัดไปทางนครปฐม และราชบุรี ส่วนเส้นจรัญสนิทวงศ์จะไปเชื่อมกับ ถ.เพชรเกษม ไปทางพระราม 3, บางแค, หนองแขม และอ้อมน้อย ได้ แต่ย่านนี้รถจะติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนนะคะ โดยเฉพาะเส้นบรมราชชนนี และเส้นจรัญสนิทวงศ์ ยิ่งตอนนี้มีก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่ด้วย ต้องเผื่อเวลากันดีๆ ด้วยนะ
นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างสะพานเกียกกาย ที่จะเชื่อมระหว่างถนนทหารข้างๆ รัฐสภาใหม่ และเชื่อมมาซอยใกล้ๆ กับ รพ.ยันฮี ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการ ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นอีกเส้นที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น มาเชื่อมออกถ.พหลโยธินตรงแยกสะพานควายได้เลยค่ะ
ทางด่วน จุดที่ช่วยให้การเดินทางของทำเลนี้สะดวกมากยิ่งขึ้นก็คือ ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก นั่งเองค่ะ ฝั่งขาเข้าเมืองให้เราวิ่งตาม ถ.จรัญสนิทวงศ์ ผ่านวงเวียนไปทางสะพานพระราม 7 จากนั้นให้กลับรถใต้สะพาน เข้าสู่ด่านเก็บเงินพอดี
ส่วนขาออกนอกเมืองให้เราวิ่งตาม ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตามทางเดิม แต่ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เลียบใต้ทางพิเศษศรีรัช ตรงไปข้างหน้าจะมีทางแยกขึ้นทางยกระดับค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากย่านนี้เป็นแหล่งพักอาศัย จึงสามารถหาร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อได้ทั่วไป ในระยะเดินจากโครงการก็จะมีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ, มี 7-Eleven เลียบตาม ถ.จรัญสนิทวงศ์ไป ส่วนห้างใหญ่ๆ ก็มีอยู่ใกล้กับตัวโครงการในระยะที่สามารถขับรถไปได้สะดวก มีทั้ง เทสโก้ โลตัส จรัญสนิทวงศ์, FoodLand, ตลาดบางศรีเมือง, ห้างตั้งฮั่วเส็ง, ห้างพาต้า, เซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า และ เทสโก้ โลตัส ปิ่นเกล้า และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกช็อปได้ตามไลฟ์สไตล์ค่ะ
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับสถานพยาบาล, สถานศึกษา และสถานที่ที่สำคัญอื่นๆ อีกด้วย ทั้ง รพ.ยันฮี ถัดไปหน่อยก็มี รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น รพ.ใหญ่อย่าง รพ.ศิริราชก็อยู่ไม่ไกล ถ้าอยากจะไปเดินเล่นสวนสัตว์ดุสิต หรือไปชมพระที่นั่งอนันตสมาคมก็อยู่ใกล้นิดเดียวเท่านั้นค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นนึงของโครงการเลยค่ะ เพราะจากตัวโครงการสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, รถกระป๊อ และรถแท็กซี่ ก็สามารถเรียกได้ง่าย มีวิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ถึงจะไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ค่ะ รถเมล์สายที่ให้บริการก็จะมี สาย 18, 110ร, 170ร, 175ร และ 203
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัด ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่บริเวณหน้าโครงการเลยค่ะ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว จากสถานีบางพลัดนั่งไป 3 สถานีก็จะถึงสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ สถานีเตาปูน ถัดไปอีก 1 สถานีเป็นสถานีบางซื่อ นั่งต่อไปลงจตุจักรเชื่อมกับ BTS ได้ คาดว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะเปิดให้ใช้บริการในปี 2562 แล้วนะ
และเนื่องจากโครงการใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา การใช้เรือโดยสารจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนละแวกนี้นิยมใช้กัน ซึ่งมีข้อดีคือสามารถหลีกเลี่ยงรถติดบนถนนและสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ในเวลาที่การจราจรหนาแน่น จะสามารถกะเวลาได้ง่ายกว่าไปนั่งรถติดบนถนนค่ะ ท่าเรือที่ใกล้โครงการจะเป็นท่าเรือพระราม 7 โดยเรือธงสีส้มจะจอดทุกท่า ส่วนสีเขียวจะจอดบางท่าเท่านั้นค่ะ ตั๋วโดยสารสามารถซื้อได้บนเรือหรือที่จำหน่ายตั๋วบนท่าเรือ ราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยอยู่ระหว่าง 13-32 บาท ซึ่งสามารถนั่งไปได้ไกลถึงบางศรีเมือง, นนทบุรี หรือไปสาทร ก็สามารถนั่งเรือด่วนประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ คลิกที่นี่เพื่อดูแผนที่ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา และ คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเรือด่วนสายต่างๆและเส้นทางการเดินเรือ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ De LAPIS จรัญ 81 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
สะพานกรุงธน (ซังฮี้) > ถ.ราชวิถี > แยกบางพลัด > ถ.จรัญสนิทวงศ์ > โครงการ De LAPIS จรัญ 81
วันนี้เราเริ่มต้นการเดินทางจากสะพานกรุงธน (ซังฮี้) ไปยังตัวโครงการกันค่ะ สภาพการจราจรวันนี้ค่อนข้างโล่งทีเดียว
ลงจากสะพานกรุงธน (ซังฮี้) เข้าสู่ ถ.ราชวิถี ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ ค่ะ
จากนั้นให้เราขับชิดซ้ายไปตามป้ายสะพานพระราม 7 เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ ถ.จรัญสนิทวงศ์
ขับชิดซ้ายเอาไว้ค่ะ ถ้าขึ้นสะพานไปจะไปออกพุทธมณฑลเลยนะ
จากนั้นให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ พอใกล้ถึงแยกบางพลัดให้เตรียมเลี้ยวขวา
พอถึงแยกบางพลัดแล้วให้เราเลี้ยวขวาเข้า ถ.จรัญสนิทวงศ์ไปเลยค่า
เข้ามาวิ่งใน ถ.จรัญสนิทวงศ์ จะเห็นว่าตอนนี้การก่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้คืบหน้าไปพอสมควรเลยค่ะ เราจะขับผ่าน รร.พิมลวิทย์ทางฝั่งซ้ายมือ
และวัดภาณุรังษี อีก 600 เมตรข้างหน้าเราก็จะถึงตัวโครงการแล้วค่ะ ให้ขับชิดซ้ายไว้เลย
จากหน้าทางเข้าวัดภาณุรังษีมา 600 เมตร เราก็มาถึงตัวโครงการกันแล้วค่ะ เราจะเห็นสำนักงานขายอยู่ที่ฝั่งซ้ายมือ และที่ข้างหน้าของเราก็คือสถานีรถไฟฟ้าบางพลัดนั่นเอง
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการยังคงมีความเป็นชุมชนอยู่ค่ะ สองข้างทางของถนนจะเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์ มีทั้งร้านค้า, ร้านอาหารเล็กๆ, ร้านขายยา, ร้านขายของชำ, ธนาคาร และร้านสะดวกซื้อ เข้าไปภายในซอยก็จะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ มีหอพักขึ้นแซมบ้างเล็กน้อย
ตอนนี้เรามาอยู่ที่หน้าสำนักงานขายของโครงการกันแล้ว เรามาเดินสำรวจพื้นที่และบรรยากาศโดยรอบโครงการด้วยกันเลยค่ะ
ข้างๆ สำนักงานขายเป็นทางเข้า-ออกโครงการ ซึ่งตอนนี้ภายในโครงการก็ได้ดำเนินการก่อสร้างกันแล้ว
มองไปทางฝั่งตรงข้ามของตัวโครงการ จะเห็นโรงรับจำนำ, เมืองไทยลิสซิ่ง และร้านเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ เราจะเดินไปสำรวจบริเวณโครงการทางฝั่งนี้กันก่อน จากตรงนี้เราจะเห็นสถานีรถไฟฟ้า MRT บางพลัดค่ะ อยู่ใกล้มากๆ เดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงแล้ว ตอนนี้ตัวสถานีก็มีขึ้นมาให้เห็นกันแล้ว คาดว่าจะได้เปิดให้ใช้งานกันก็ตอนปี 2562 นี้แหละ
ถัดจากตัวโครงการไปก็คือ อาคารพาณิชย์ขนาด 4 คูหา สูง 4 ชั้นครึ่ง ขั้นกลางด้วย ซ.จรัญสนิทวงศ์ 81
2 คูหาเปิดเป็นคลีนิกเวชกรรมเฉพาะทางผิวหนัง
เดินผ่านจากอาคารพาณิชย์มาจะมีพื้นที่ดินโล่งอยู่อีกจุดนึง ปัจจุบันใช้เป็นที่จอดรถเครน และรถกระบะขนของ ในอนาคตที่ดินผืนนี้น่าจะมีการพัฒนาเพิ่มเติมอีกค่ะ
เราเดินจากหน้าโครงการมาไม่กี่สิบก้าว เราก็มาถึงบริเวณทางขึ้น-ลงของสถานีบางพลัดแล้วค่ะ จะเห็นได้เลยว่าที่นี่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกมากทีเดียว
ถัดมาไม่ไกลเราเดินมาเจอธนาคารกสิกรไทยอีก 1 สาขา
มองไปที่พื้นถนน จุดนี้จะมีทางม้าลาย สามารถเดินข้ามถนนได้
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการค่ะ เราจะเดินไปสำรวจบริเวณโครงการทางฝั่งขวามือกันต่อ
อีกสิ่งนึงที่สามารถสังเกตได้เลยก็คือ ฟุตบาทบริเวณหน้าโครงการมีขนาดที่กว้างและเรียบทีเดียวค่ะ สามารถเดินได้สะดวก
จากหน้าโครงการเดินไปหน่อย จะมีสะพานข้ามคลองบางพลัด
ข้ามคลองบางพลัดมาแล้วตอนนี้เราอยู่ที่หน้าปาก ซ.จรัญ 79/1
ข้างๆ ซอย มีอาคารสูง 4 ชั้นครึ่ง ขายพวกชุดเครื่องนอนในราคาถูก และชุดราตรี
เดินถัดไปจะเจออาคารพาณิชย์เรียงไปเป็นตับ
ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการร้านค้าและร้านอาหาร ตรงนี้มีร้านขายไอศกรีมและของหวาน เปิดตอนช่วงบ่าย 3 ไปจนถึงดึกๆ เลย
เดินจนมาถึง ซ.จรัญฯ 79 หน้าปากซอยเป็นทางเข้าวัดบางพลัดค่ะ ต้องเข้าซอยลึกไปประมาณ 550 เมตร ที่หน้าปากซอยจึงมีร้านขายพวกสังฆทาน
จะเห็นว่าบริเวณหน้าปากซอยนี้จะมีความคึกคักพลุกพล่าน มีคนเดินสัญจรไปมาอยู่พอสมควร
ภายในซอยนี้ก็คือชุมชมบางพลัด ภายในเป็นบ้านพักอาศัยและร้านค้าของคนในชุมชน มีทั้งร้านขายยา, ร้านขายน้ำปั่น, ร้านอาหาร, ร้านขายผักสดและผลไม้สด และร้านขายสังฆทาน
ภายในซอยจะมีคิววินมอเตอร์ไซค์ด้วย เพราะมีคนเข้า-ออกซอยตลอด
ภายในซอยยังคงความเป็นชุมชนอยู่จริงๆ ค่ะ อีกทั้งยังมีวัดบางพลัดเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนอีกด้วย
เราเดินเลยจาก ซ.จรัญฯ 79 มาที่ ซ.จรัญฯ 77/3 ก็จะเจอ 7-Eleven อยู่ 1 สาขา
ที่หน้าปากซอยจรัญฯ 77/3 มีร้านอาหารขายข้าวราดแกง และร้านแผงลอยขายของทอด และขายน้ำปั่น
ร้านขายข้าวแกงปักใต้ ข้างๆ กันคือร้านข้าวยำไก่แซ่บ และร้านน้ำปั่น
เรามองย้อนกลับไปที่บริเวณหน้า 7-Eleven จะมีสะพานลอยให้เราเดินข้ามฟากได้อย่างปลอดภัย
เรากลับมาที่หน้าสำนักงานขาย เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูด้านในด้วยกันเลย
ภายในสำนักงานขายจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ ซึ่งจะคอยให้ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโครงการ รวมถึงพาเดินชมห้องตัวอย่างอีกด้วย
ภายในสำนักงานขายจะมีโมเดลตั้งให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการ
มีพื้นที่รับรองให้นั่งพักผ่อนและคุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโครงการในบรรยากาศสบายๆ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ De LAPIS จรัญ 81 เป็นคอนโดมิเนียม High rise สูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีทั้งหมด 635 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต บนพื้นที่ 3-1-3.7 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยจริง ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าตาคอนโดดูโมเดิร์นเรียบง่าย เล่นเส้นสายในแนวดิ่ง เน้นสีสันโทนสีขาว-เทาและกระจกใสดูสะอาดสะอ้าน แต่ยังคงความหรูหราและสวยงาม ภายในมี Facilities มาให้อย่างครบครัน
มาดูในส่วนของผังโครงการกันค่ะ รูปทรงที่ดินของตัวโครงการจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางเข้า-ออกของตัวโครงการอยู่บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซึ่งมีเพียงทางเดียว เส้นทางการเดินรถตามกราฟฟิกลูกศรสีขาว-ดำ จะสามารถเลี้ยวซ้ายวนเข้าสู่ Drop-off เข้าสู่ตัวอาคาร หรือจะตรงไปเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถก็ได้ จากอาคารจอดรถเข้าไปแล้วจะกลับออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม โดยถนนภายในโครงการรถสามารถขับสวนกันได้ 2 เลนค่ะ
ชั้น G โดยรอบตัวอาคารจะจัด Landscape อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมี Facilities อยู่หลายจุด ที่บริเวณหน้าโครงการจะมีพื้นที่ร้านค้าให้ 2 ยูนิต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ซึ่งปัจจุบันถูกใช้เป็นพื้นที่สำนักงานขายอยู่ จากจุด Drop-off เข้าสู่ตัวอาคารจะเจอโถง Lobby ขนาดใหญ่ ฝ้าเพดานสูง Double Volume เชื่อมต่อสู่พื้นที่ Co-Working Space บนชั้นลอย และเชื่อมต่อกับสวนภายนอกผ่านผนังกระจกบานใหญ่ จากนั้นบริเวณ Lobby จะเชื่อมสู่โถงลิฟท์ ระบบการผ่านเข้า-ออก และระบบการกดชั้นในลิฟท์จะต้องใช้ Key Card ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยค่ะ
ส่วนท้ายของโครงการเป็นอาคารจอดรถ สูง 8 ชั้น ภายในมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 260 คัน คิดเป็น 41% ถือว่าเพียงพออยู่นะ เมื่อเน้นการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะค่ะ
ชั้นลอย แสดงพื้นที่บริเวณ Co-Working Space ค่ะ เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับโถง Lobby
ชั้นที่ 2-14 ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นต้นไป จะเป็นส่วนของ Resident ทั้งหมด จัดผังอาคารแบบ Double Corridor มีช่องแสงอยู่ปลายทางเดินทั้ง 2 ฝั่ง ที่ชั้น 2-14 จะเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตหนาแน่นมากที่สุด มีอยู่ 23 ห้อง/ชั้น ซึ่งดูแล้วก็ไม่แออัดนะ และจำนวนก็ถือว่าไม่แออัดเกินไปสำหรับคอนโด High Rise จากสีของแปลนอาคาร ห้องสีฟ้าจะเป็นห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom ค่ะ ส่วนห้องสีน้ำเงินเข้มสุดจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms
จะเห็นว่าภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารให้ถึง 3 ตัว และเซอร์วิสลิฟท์อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อจำนวนลิฟท์อยู่ที่ 213 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานไปหน่อยสำหรับอาคารสูง อาจจะทำให้รอลิฟท์นานกันนิดนึงนะ
ชั้นที่ 15 มีการวางแปลนต่างจากชั้นที่ 2-14 เล็กน้อยค่ะ ชั้นนี้มีจำนวน 21 ยูนิต/ชั้น
ชั้นที่ 16-31 มีการวางแปลนไม่ต่างจากชั้นที่ 15 เลยค่ะ ชั้นนี้มีจำนวน 21 ยูนิต/ชั้น เหมือนเดิม
ชั้นที่ 31 จะเป็นชั้นที่รวม Main Facilities เอาไว้ทั้งหมด มีทั้ง Infinity Edge Swimming Pool, Double Volume Fitness, Sauna, Sky Lounge และ Sky Garden ชมวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทั้งชั้นเลยล่ะ
เรามาดูโมเดลเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการกันค่ะ นี่คือตัวโครงการจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นฝั่งหน้าโครงการที่ติดกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์ และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัด
ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นฝั่งที่ตัวโครงการติดกับ ซ.จรัญฯ 81 บริเวณหน้าโครงการจะมีอาคารร้านค้าสูง 1 ชั้น จำนวน 2 ยูนิต และด้านหลังโครงการเป็นอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น
ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นฝั่งด้านหลังของตัวโครงการ เห็นอาคารจอดรถเป็นเลเยอร์หน้า
ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นฝั่งที่ตัวโครงการติดกับคลองบางพลัดค่ะ
บริเวณหน้าโครงการมีอาคารร้านค้าอยู่ 2 ยูนิต อยู่ข้างๆ กับทางเข้าของตัวโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยของตัวโครงการเป็นแบบ Double Security System ค่ะ Resident ต้องใช้ Key Card ในการเปิดรั้วไม้กระดก และรั้วเลื่อนใหญ่ ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรและตรวจความปลอดภัยกับพี่รปภ.อีกที โดยบริเวณทางเข้า-ออก และบริเวณภายในโครงการจะติดกล้อง CCTV ให้ เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน
จากทางเข้าโครงการ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะวนเข้าสู่จุด Drop-off และมีที่จอดรถให้บางส่วน
ระหว่างจุด Drop-off และสวนพักผ่อนของโครงการจะมีรั้วกั้นเอาไว้เพื่อความปลอดภัยอีกชั้นค่ะ
อาคารจอดรถด้านหลังโครงการ สูง 8 ชั้น ชั้นดาดฟ้าจัดเป็นสวนหย่อมเพิ่มเติมให้อีกด้วย
อีกฝั่งของโครงการที่ติดกับคลองบางพลัด จะเป็นสวนพักผ่อนของโครงการ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในอาคารผ่านผนังกระจกขนาดใหญ่
ชั้นที่ 31 ของโครงการเป็น Main Facilities สามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้
ฝั่งสระว่ายน้ำ ออกแบบให้เป็นแบบ Infinity Edge เชื่อมต่อสระกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ฝั่งสวนพักผ่อนจะได้วิวเมืองกรุงเทพฯ ค่ะ
คราวนี้เรามาชมทัศนียภาพจำลองที่ทางโครงการได้ปล่อยออกมาให้เราได้ดูกันค่ะ จะเห็นว่าตัวโครงการเป็นตึกสูง 32 ชั้น จึงสามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว
ทัศนียภาพในมุมสูง จะเห็นว่าโดยรอบโครงการยังคงเป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยที่น่าอยู่ รอบโครงการจะไม่มีตึกสูงเลยค่ะ
ทัศนียภาพบริเวณจุด Drop-off ของตัวโครงการ ดูสูงและโอ่อ่าด้วยฝ้าเพดานแบบ Double Voulume
ทัศนียภาพภายในโถง Double Volume Lobby ภายในใช้วัสดุพื้นและผนังลายหินอ่อนสีขาว ดูหรูหราและสวยงาม
ทัศนียภาพสวนพักผ่อนที่ชั้นล่าง
ทัศนียภาพระหว่าง Co-Working Space ที่ชั้นลอยผ่านกระจกใส ลงมาที่สวนพักผ่อนชั้นล่าง
ทัศนียภาพภายใน Sky Lounge ที่ชั้น Rooftop เชื่อมต่อกับวิวเมืองด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่โดยรอบ
ทัศนียภาพวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและตัวเมืองฝั่งพระนครจากบริเวณสระว่ายน้ำ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 5 แบบด้วยกันได้แก่
ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted จะได้ เคาน์เตอร์ครัว, ชุด Built-in และ เครื่องปรับอากาศ มากับตัวห้องค่ะ เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลย
Type : Studio ขนาด 26.00 ตร.ม.
Type : 1 Bedroom ขนาด 26.00 ตร.ม.
Type : 1 Bedroom Corner ขนาด 34.50 ตร.ม.
Type : 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม.
Type : 2 Bedrooms ขนาด 60 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราพามาชมในวันนี้ มี 2 แบบ นั่นก็คือ แบบห้อง Studio ขนาด 26.00 ตร.ม. และ แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. ตามลำดับ เราไปดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของตัวห้องกันเลยค่า
::: แบบห้อง Studio ขนาด 26.00 ตร.ม. :::
แบบห้อง Studio ขนาด 26.00 ตร.ม. สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี ขนาดห้องไม่เล็กจนเกินไป ด้วยหน้าห้องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร จึงสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวกว่า และสามารถรับแสงธรรมชาติได้มากกว่า โดยห้องจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ก็คือ ส่วนห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องนอน, ห้องน้ำ และ ระเบียง โดยพื้นที่ของห้องจะเชื่อมต่อกันทั้งหมดเลย เป็นจุดที่ทำให้ห้องดูกว้างขวาง และไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ค่ะ
เราจะเดินเข้าไปชมห้องตัวอย่างพร้อมๆ กันเลย ประตูทางเข้าห้องจะใช้บาน HDF ลายไม้ เดินร่อง 1 เส้น ใช้ประตูสูงถึง 2.4 เมตร พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock Set จาก HAFELE
พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เก็บขอบรอยต่อให้เรียบร้อย
เข้าไปภายในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลยค่ะ ที่ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องครัวและส่วนรับประทานอาหาร และด้านในสุดติดริมหน้าต่างคือห้องนอน ฝั่งปลายเตียงจะเป็นส่วนของห้องน้ำและระเบียงห้อง ส่วนผนังของห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ
ฝ้าเพดานในส่วนของโถงหลักสูงถึง 2.75 เมตรเลย ส่วนฝ้าภายในห้องครัวจะดรอปลงมาเล็กน้อยเหลือ 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด ในส่วนของห้องครัวและห้องนั่งเล่นจะติด Heat Detector มาให้ และในส่วนของห้องนอนจะใช้ Smoke Detector ค่ะ
ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ของ Samsumg ระบบ Inverter ขนาด 18,000 BTU ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนอน
ทางด้านขวามือ ที่หน้าห้องจะมีชั้น Built-in สำหรับวางรองเท้ามาให้แบบนี้ พวกเฟอร์นิเจอร์ Built-in ทางโครงการจะใช้ของ Chic Republic ทั้งหมด
เราเข้ามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดีๆ พร้อมโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว
ฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีได้ เราจะเลือกใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังแทนก็ได้นะ จะได้ประหยัดเนื้อที่ อีกทั้งยังเพิ่มเนื้อที่สำหรับวางของด้วย
ระยะดูทีวีไม่กว้างมาก เหมาะสำหรับดูทีวีจอขนาด 32-42 นิ้ว จะกำลังดีค่ะ
มองไปที่ฝั่งด้านหลังโซฟา จะเป็นห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร
พื้นภายในห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. เก็บรอยต่อด้วยคิ้วไม้ให้เรียบร้อย
พื้นที่ของห้องครัวและห้องรับประทานอาหารถูกจัดเอาไว้อยู่รวมกัน ด้วยแปลนที่ลงตัวจริงๆ ค่ะ ถ้าเทียบกับห้อง Studio บางแบบ อาจจะไม่มีพื้นที่สำหรับปรุงอาหารจริงๆ จังๆ หรือโต๊ะสำหรับนั่งกินข้าวเลยด้วยซ้ำ
พื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร ขนาด 2 ที่นั่ง จริงๆ แล้วเป็นเคาน์เตอร์แบบ Island สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้อีกด้วย
ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวที่ได้มา จะวางเตาปรุงอาหาร และอ่างล้างจานเต็มพอดี
อ่างล้างจานขนาดกำลังพอดีค่ะ สามารถล้างจานได้สะดวก มีถาดสแตนเลสสำหรับคว่ำจานเวลาล้างจานมาให้ด้วย ใช้ของ HAFELE
เตาเซารามิคขนาด 2 หัว ใช้ของ HAFELE เหมือนกัน ติดตั้งมาพร้อมกับฮู้ดดูดควัน
ใต้เคาน์เตอร์พอมีช่องให้เก็บของและเก็บจานชามได้เล็กน้อยค่ะ
ส่วนชั้นลอยก็มีช่องสำหรับเก็บของได้อีก 4 ช่อง
ผนังด้านข้างทำตู้ Built-in ให้อีก มีชั้นสำหรับเก็บจานชาม-ช้อนส้อม และชั้นวางไมโครเวฟต่างหาก
ระยะระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะอยู่ที่ 1.1 เมตร ถือว่ากำลังดีเลยค่ะ แต่เวลาปรุงอาหารจะต้องเลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าใต้โต๊ะด้วยนะ
มองจากห้องนั่งเล่นเข้าไปยังส่วนของห้องนอน
เตียงนอนจะถูกจัดเอาไว้อยู่ข้างๆ หน้าต่างพอดี
ขนาดพื้นที่จะพอดีกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงเล็กน้อยสามารถเดินผ่าน และทำเตียงได้
ฝั่งด้านซ้ายจัดให้เหลือพื้นที่นิดหน่อย ให้เดินมาเปิดหน้าต่างได้
หน้าต่างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีขาว ติดกระจกเขียวตัดแสง เป็นกระจกนิรภัยทุกบาน ใช้มือจับแบบก้านโยก
ภาพมองย้อนกลับไปที่บริเวณหน้าห้อง
ที่ฝั่งปลายเตียงจะมีโถงทางเดินไปสู่ ส่วนแต่งตัว Walk in Closet, ห้องน้ำ และระเบียงห้องค่ะ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการออกแบบที่ดีอีกจุด ที่จัดเรื่องการอาบน้ำ, การแต่งตัว และการซักรีดเอาไว้จบในโซนเดียว
พื้นที่ทางเดินกว้างประมาณ 80 ซม. ยังสามารถเดินผ่าน และยืนแต่งตัวได้สะดวก
ที่ผนังฝั่งซ้ายมือ ทางโครงการทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ให้ค่ะ บานประตูเป็นบานเลื่อน ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้งซ้าย-ขวา
ภายในมีลิ้นชักเก็บของให้ 2 ช่องแบบนี้
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ สำหรับประตูห้องน้ำทางโครงการเลือกใช้บาน UPVC ค่ะ
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องดูขาวสะอาดตาน่าใช้งาน เป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม. พื้นห้องน้ำจะทำลดระดับลงจากพื้นห้องประมาณ 3 ซม.
ส่วนฝ้าเพดานก็เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์และหลอด LED มาให้พร้อมกับพัดลมดูดอากาศ ฝ้าภายในห้องน้ำจะทำลดระดับลงมาจากฝ้าภายในห้อง เหลืออยู่ที่ 2.35 เมตรค่ะ
ในส่วนของสุขภัณฑ์และ Accessories ภายในห้องน้ำจะใช้ของ HAFELE ทั้งหมด เริ่มต้นจากอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป มีขนาดกำลังดี ใช้งานได้สะดวก
ก็อกน้ำก็ใช้ทรงที่จับถนัดมือ ไม่มีเหลี่ยมมุม
ฝั่งซ้ายของห้องวางโถสุขภัณฑ์ ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำ มีระยะนั่งกำลังพอดี ไม่อึดอัด ติดตั้งมาพร้อมกับที่ใส่แกนกระดาษชำระ และสายฉีดชำระค่ะ
สายฉีดชำระมีน้ำหนักกำลังดี จับถนัดมือ
ส่วนฝั่งขวามือของห้องเป็นโซนอาบน้ำ ที่พื้นก่อธรณีมาให้เพื่อกันน้ำไหลย้อน พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเปลือยมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกนิรภัยเช่นกันค่ะ
มือจับของบานเปิดมีขนาดใหญ่ สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ในตัว
พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในถือว่ากว้างขวางได้มาตรฐาน
ที่ผนังติด Door Stopper ให้เรียบร้อย เพื่อกันประตูกระแทกผนัง
ภายในโซนอาบน้ำติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมราวปรับระดับมาให้เรียบร้อย ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ดีค่ะ เทียบกับมือให้ดูเลย สามารถปรับระดับของสายน้ำได้ด้วย ข้อดีของห้องน้ำห้องนี้ก็คือมีช่องแสงขนาดใหญ่ และมีหน้าต่างระบายอากาศ เทียบกับห้องชุดอีกหลายๆ ห้องที่เราๆ ก็จะเห็นว่าห้องน้ำจะใช้ระบบระบายอากาศของตัวอาคารเพียงอย่างเดียว ไม่มีหน้าต่างมาให้ด้วย
คราวนี้เราออกไปดูในส่วนของระเบียงห้องกันค่ะ ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สามารถเปิดประตูได้กว้างมากขึ้น ส่วนมือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานใช้ของ Colt
บริเวณขอบประตูจะทำสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. เพื่อกั้นพื้นที่ภายในและภายนอก และกันน้ำฝนด้วย
พื้นที่ระเบียงจะมีระแนงปิดกั้นเอาไว้เพื่อบังสายตาเวลาตากเสื้อผ้า มองจากภายนอกเข้ามา รูปด้านอาคารก็จะยังคงดูเรียบร้อยค่ะ
พื้นที่ระเบียงอาจไม่กว้างมากนัก แต่ก็พอวางเครื่องซักผ้าได้ 1 ตัว และยังตากผ้าได้ ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม.
พื้นที่เหนือหัวใช้ติดคอยล์แอร์ได้อีก ไฟตรงระเบียงใช้เป็นไฟกิ่งติดผนัง ติดหลอด LED ให้เหมือนเดิม
::: แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. :::
มาดู แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. ด้วยกันต่อเลยค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีหน้าแคบหน่อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนของห้อง เป็นขนาดห้องที่เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัย 1-2 คนอีกเช่นกัน ภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 6 ส่วน นั่นก็คือ ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องนอน, ห้องอเนกประสงค์ และระเบียง โดยห้องนี้จะแยกส่วนของห้องนอนออกจากโถงกลางด้วยผนังกระจกบานเลื่อน จึงทำให้ห้องนั่งเล่นยังคงได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ
เข้าไปดูภายในห้องด้วยกันเลยค่ะ ประตูทางเข้าห้องจะใช้บาน HDF ลายไม้ เดินร่อง 1 เส้น ใช้ประตูสูงถึง 2.4 เมตร พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock Set จาก HAFELE เหมือนเดิม
พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าเพดานฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED สูง 2.75 เมตร เข้ามาภายในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลยค่ะ ถัดเข้าไปคือห้องนอน ที่ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร และด้านในสุดคือห้องอเนกประสงค์และระเบียง
ภายในห้องนี้เราจะได้เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type ของ Samsung ระบบ Inverter ขนาด 9,000 BTU ภายในห้องอเนกประสงค์, ขนาด 12,000 BTU ภายในห้องนอน และขนาด 18,000 BTU ภายในห้องโถงใหญ่ค่ะ
ที่ผนังฝั่งซ้ายมือ ทางโครงการทำชั้นรองเท้า Built-in มาให้เหมือนเดิม
เราเข้ามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อเลยค่ะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะกว้างขวางขึ้น สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้พอดีๆ และยังสามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มได้อีก 1 ตัว
ฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีได้เหมือนเดิม
ระยะดูทีวีไม่ต่างจากห้อง Studio เท่าไหร่ค่ะ เหมาะสำหรับดูทีวีจอขนาด 32-42 นิ้ว จะกำลังดี
ภาพจากส่วนห้องนั่งเล่นมองไปยังห้องครัว, ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอน
เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนกันก่อนค่ะ ห้องนอนกั้นส่วนด้วยผนังบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน
พื้นที่ภายในห้องนอนยังคงปูด้วยไม้ลามิเนตเหมือนเดิม
พื้นที่ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีค่ะ เหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต
ภายในห้องได้ชุดหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์มาเหมือนเดิม
พอวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกเยอะค่ะ ที่ฝั่งขวามือเราสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้อีก 1 ตัว
ในส่วนของฝั่งปลายเตียงทางโครงการจะทำตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้แบบเดียวกันกับห้อง Studio
ภายในตู้เสื้อผ้า
เนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะมาก จึงแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังนะคะ
ภาพจากภายในห้องนอน มองย้อนออกมาที่ห้องโถงค่ะ
เราจะไปดูห้องครัวและห้องรับประทานอาหารกันต่อ ตามด้วยห้องน้ำ, ห้องอเนกประสงค์ และระเบียง
การจัดการพื้นที่ครัวของห้องนี้ก็จะไม่ต่างจากห้อง Studio ค่ะ
มีการจัด Island เอาไว้ตรงกลาง เป็นโต๊ะที่สามารถใช้เตรียมอาหาร และทานอาหารได้ในตัว ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาดเท่าเดิม
ส่วนชุดเคาน์เตอร์ครัวได้มาเหมือนเดิมค่ะ ช่องเก็บของอาจมีจัดแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
ชุดอ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และฮู้ดดูดควัน ใช้ของ HAFELE เหมือนเดิม
ระยะระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและ Island ก็มีเท่าเดิม
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
ภายในห้องน้ำห้องนี้จะไม่ต่างจากห้องแบบ Studio เลยค่ะ ทั้งการจัดแปลนห้อง, วัสดุ และสุขภัณฑ์ เหมือนเดิมทุกประการ
ตรงกลางห้องวางอ่างล้างมือ ส่วนฝั่งขวาของห้องวางโถสุขภัณฑ์รุ่นเดิม
ที่ฝั่งซ้ายของห้องเป็นโซนอาบน้ำ ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้เหมือนเดิม
ภายในจัดพื้นที่ยืนอาบน้ำมาให้กว้างได้มาตรฐาน
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมราวปรับระดับมาให้เรียบร้อย
มาที่อีกฝั่งนึงของห้องครัว จะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ภายในห้องมีพื้นที่เล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน, ห้องทำงาน และอ่านหนังสือ หรือเราอาจจะจัดเอาไว้ให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องสำหรับรับรองแขกในบางโอกาสก็ได้เช่นกัน
ขนาดพื้นที่ห้อง พอจะวางโต๊ะทำงาน, โซฟา, ชั้นวางหนังสือ หรือฟูกที่นอนขนาดเล็กๆ ได้อยู่
ภาพอีกมุมภายในห้อง
จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงห้องอีกที
พื้นที่ระเบียงก็จะเอาไว้ใช้วางเครื่องซักผ้า และแขวนคอยล์แอร์เหมือนเดิม
ขนาดพื้นที่ระเบียงจะกว้างกว่าห้อง Studio เล็กน้อยค่ะ
ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้องอเนกประสงค์
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (เมษายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (เมษายน 2561) ::::
– ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
– ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 97,000 บ/ตร.ม.
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุดถึง 250,000 บาท คลิก : https://bit.ly/2EcERKU
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ เป็นทำเลฝั่งธนบุรีอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา นั่นก็คือ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ข้างๆ ซ.จรัญฯ 81 จุดเด่นก็คือเป็นทำเลที่ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีบางพลัด อยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก การเดินทางสะดวกไม่ว่าจะขับรถเองหรือใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศแบบชุมชนบ้านพักอาศัย จึงสามารถหาอาหารทานได้ง่าย นับว่าสาธารณูปโภคมีอยู่อย่างครบครัน ไปไหนจับจ่ายใช้สอยสะดวกหมดค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวโครงการสามารถเดินทางได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นขาเข้าเมืองหรือขาออกเมือง เพราะอยู่ติดกับ ถ.จรัญสนิทวงศ์เลยค่ะ จะข้ามไปฝั่งพระนครก็ไม่ยาก เพราะอยู่ไม่ไกลจากสะพานพระราม 7, สะพานพระราม 8 และสะพานซังฮี้ พอข้ามไปแล้วก็เป็นจุดที่สามารถเชื่อมสู่ตัวเมืองได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแถบอนุสาวรีย์, สยาม, พญาไท, รัชดาภิเษก และพระราม 9
ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองก็สะดวกโดยเฉพาะทางฝั่งบางพลัด, ศาลายา, นครปฐม โดยใช้เส้นจรัญสนิทวงศ์วิ่งเข้า ถ.สิรินธร และ ถ.บรมราชชนนี แม้ว่ารถจะติดบ้างซึ่งเป็นเรื่องปกติของกรุงเทพฯ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะว่าบริเวณหน้าโครงการมีรถสาธารณะขับผ่านอยู่ตลอด ทั้งรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ สามารถหาเรียกได้ไม่ยาก อย่างเดินทางยังไงก็จัดได้หมด กระทั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็มีอยู่ที่บริเวณหน้าโครงการ เดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงสถานีบางพลัดแล้วค่ะ ซึ่งรถไฟฟ้าคาดว่าจะได้เปิดใช้งานในปี 2562 ก็พอดีๆ กับตอนที่โครงการสร้างเสร็จเริ่มโอนห้อง จากสถานีบางพลัดนั่งไปอีกแค่ 3 สถานี ก็จะถึงสถานีเตาปูนเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และนั่งไปอีก 1 สถานีก็จะถึงสถานีบางซื่อ เชื่อมกับ BTS พอดี
นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเดินทางทางน้ำได้ด้วยนะ เพราะตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือพระราม 7 วันไหนีรถติด วิ่งทางน้ำแทนเร็วกว่าเยอะค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 635 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต บนพื้นที่ 3-1-3.7 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าตาคอนโดดูโมเดิร์นเรียบง่าย ไซท์โครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงจัดวางอาคารแบบ Linear และวางผังห้องแบบ Double Corridor จากทัศนียภาพของโครงการทำออกมาได้ดูสวยงามทีเดียว ต้องมารอดูของจริงกันค่ะว่าจะเหมือนกันหรือไม่
ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว โดยหลักจะขออิงไปที่ห้อง Studio และห้อง 1 Bedroom Plus ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ห้อง Studio ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวดี สามารถใช้งานได้จริงเพราะจัดห้องได้อย่างลงตัว จุดเด่นของห้องก็คือมี Island อยู่ที่ห้องครัว ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารและโต๊ะกินข้าวได้ในตัว จัดโซนห้องน้ำ-Walk in Closet-โซนระเบียง Private Balcony เอาไว้ให้จบในโซนเดียว ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศ พร้อมระบบระบายอากาศของอาคาร
ส่วนการจัดแปลนห้อง 1 Bedroom Plus จะไม่ต่างจากห้อง Studio มากเท่าไหร่ แต่ที่ดีกว่าก็คือ มีพื้นที่ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ห้องนอนก็ถือว่ากว้างดี วางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่อีกพอสมควร และยังมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มอีก 1 ห้อง แต่เสียดายห้องน้ำไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ต้องพึ่งระบบระบายอากาศของตัวอาคารเพียงอย่างเดียว ส่วนของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาก็ค่อนข้างดีและมีคุณภาพทีเดียวนะ ชอบที่ปูพื้นห้องครัวด้วยกระเบื้อง จุดนี้ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ และพื้นจะสวยอยู่ยาวนานกว่าการใช้ลามิเนต ตอนนี้ราคาของโครงการเริ่มต้นที่ ตร.ม.ละ 95,000 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าให้มาพอใช้ได้เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ Lobby ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume เชื่อมต่อกับพื้นที่ Co-Working Space บนชั้นลอย และเชื่อมต่อกับสวนพักผ่อนผ่านผนังกระจกบานใหญ่ ขึ้นไปที่ชั้น 31 เป็น Main Facilities มี Sky Fitness และ Sky Lounge ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume, Swimming Pool แบบ Infinity Edge, ห้อง Sauna และ Sky Garden ภาพรวมทำออกมาได้ดูดีทีเดียว
ทางโครงการทำอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น เอาไว้บริเวณด้านหลังโครงการ มีที่จอดรถอยู่ 260 คันคิดเป็น 41% ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอนะ เพราะลูกบ้านบางส่วนก็น่าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าเป็นประจำ ส่วนภายในอาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 213 : 1 เกินมาตรฐานไปหน่อย อาจจะต้องยืนรอลิฟท์กันนิดนึง
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยระบบ Double Security System, กล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access Card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.7 | ทำเลติดกับถนนใหญ่และติดรถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน และมีสาธารณูปโภคอย่างครบครัน ในบรรยกาศแบบชุมชน |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | เดินทางสะดวกทั้งขาเข้าและขาออกเมือง อยู่ใกล้กับทางด่วน |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.0 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ และอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัด |
บ้านและวัสดุ | 8.0 | ห้องให้มาแบบ Fully fitted วัสดุและสุขภัณฑ์ได้มาตรฐาน ห้องจัดได้ลงตัว |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้อย่างครบครัน ภาพรวมทำออกมาได้ดูดี ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.8 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-3 คน ที่ทำงานในบริเวณใกล้เคียงนี้ หรือทำงานในตัวเมือง ต้องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวก หรือรถสาธารณะอื่นๆ รวมถึงขับรถยนต์ส่วนตัว ชอบบรรยากาศความเป็นชุมชน |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.9 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 02-652-4000
WEBSITE : http://www.grandunity.co.th
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น