รีวิว คอนโด 28 Chidlom ทเวนตี้เอท ชิดลม โครงการใหม่จาก SC ASSET
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ 28 Chidlom จาก SC ASSET เป็น 1 ใน 3 โครงการคอนโดมิเนียมในกลุ่ม Limited Luxury Collection เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร สูง 20 ชั้น และ 47 ชั้น ตั้งอยู่ในย่านในกลางเมืองติดถนนชิดลม เป็นย่านที่มีที่ดินราคาต่อตารางวาแพงที่สุดในประเทศ โดยรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงแรม สถานฑูต ศูนย์สุขภาพ ห่างจาก BTS ชิดลมประมาณ 280 ม.
ตัวโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Urban Oasis ใจกลางเมือง Facade อาคารออกแบบมาให้เหมือน Jewel-box พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio , 1 Bed , 2 Bed , 3 Bed , Duplex , Penthouse ขนาดเริ่มต้น 33 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | 28 Chidlom ทเวนตี้เอท ชิดลม |
เจ้าของโครงการ | บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) | SC ASSET |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-0-24 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร (The Tower & The Villa) |
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ที่จอดรถ 358 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟท์ |
|
โซน | ชิดลม |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนชิดลม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. |
กำหนดการ | เปิดจอง 25-26 ก.พ. 2560 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ พ.ค. 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 14 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 350,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 100 บาท , กองทุน 1,000 บาท |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | 28 CHIDLOM คอนโด High Rise ระดับ Super Luxury พร้อมกรรมสิทธิ์แบบ Free Hold ออกแบบภายใต้แนวคิด Urban Oasis ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพียง 280 เมตร จาก BTS ชิดลม |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนชิดลม แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
พิกัด Google โดยประมาณ : 13.746603, 100.544242
28 Chidlom เป็น 1 ใน 3 โครงการคอนโดมิเนียมในกลุ่ม Limited Luxury Collection by SC ASSET ซึ่ง 2 โครงการแรกเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วคือ Saladaeng One และ Beatniq แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องที่โดนเด่นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกันคือเรื่องทำเลครับ ทั้ง 3 ตัวอยู่ย่าน CBD ใจกลางเมืองทั้งหมด
พื้นที่โครงการตั้งอยู่ในย่านชิดลม ที่ดินเดิมเป็นบ้านพักอาศัย บ้านเลขที่ 28 ซึ่งได้นำมาใช้เป็นชื่อโครงการ “28 Chidlom” มีต้นไม้ร่มรื่น ท่ามกลางตึกสูงในเมืองเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบภายใต้แนวคิด Urban Oasis ใจกลางเมือง บนที่ดิน 3-0-24 ไร่ ทำเลโครงการค่อนข้างโดดเด่น โดยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีโครงการ High rise ที่ผู้ซื้อสามารถถือกรรมสิทธิ์แบบ Freehold และเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในรัศมี 500 เมตร รอบ BTS ชิดลม
ที่ตั้งโครงการ 28 Chidlom ตั้งอยู่ในซอยชิดลม อยู่ช่วงกลางซอยระยะจากแยกชิดลมไปโครงการประมาณ 280 ม. และจากฝั่งถนนเพชรบุรีมาโครงการประมาณ 300 ม. การเดินทางเข้าออกโครงการเนื่องจากถนนชิดลมเป็นแบบ One way บังคับวิ่งจากฝั่งเพชรบุรีมาแยกชิดลมเท่านั้น ถ้ามาจากเส้นเพชรบุรีก็วิ่งเข้าโครงการได้ปกติ แต่ถ้ามาจากเส้นเพลินจิตต้องเลี้ยวเข้าซอยสมคิดเป็น One way เหมือนกันเข้าจากฝั่งถนนเพลินจิตวิ่งไปออกถนนชิดลม แล้วเลี้ยวมาทางโครงการได้เลย หรือจะวิ่งไปใช้เส้นวิทยุและไปออกเพชรบุรีก่อนก็ได้ครับ ถ้าออกจากโครงการมา จะมาผ่านแยกชิดลมถ้าตรงข้ามแยกมาหลังสวน เลี้ยวขวาไปแยกราชประสงค์ เลี้ยวซ้ายไปแยกเพลินจิต
การเดินทางเข้าเมือง จากโครงการมาแยกชิดลมถ้าเลี้ยวขวาไปแยกราชประสงค์ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนราชดำริ ก็ไปได้ทั้งโซนราชดำริหรือยาวไปสีลมได้เลย ถ้าฝั่งเหนือก็จะไปแยกประตูน้ำไปออกเพชรบุรี ถนราชปรารภได้ ตรงแยกราชประสงค์ยังตัดกับถนนพระรามที่ 1 ซึ่งจะไปสยาม มาบุญครอง ตัดเข้าพญาไทได้เลย
จากแยกชิดลมถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิตตรงไปจะผ่านแยกเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุ เลยไปก็จะไปเชื่อมกับถนนสุขุวิทไป นานา อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย
ทำเลโครงการถือว่าสะดวกเนื่องจากอยู่ใจกลางเมือง แต่ถนนบางเส้นก็อาจจะงงบ้าง บางเส้นห้ามเลี้ยว บางเส้น One way ถ้าเข้าผิดเลนก็ยาวเลยครับ
ส่วนเรื่องการจราจรจะติดขัดมากในช่วงเวลาเร่งด่วน ออกจากโครงการมาก็ติดเลยครับ
การเดินทางออกนออกเมือง เส้นสุขุมวิทวิ่งยาวออกไปจนถึงพระโขนง อ่อนนุช บางนา สมุทรปราการ หรือจะใช้เส้นเพชรบุรีก็วิ่งออกไปโซนเดียวกัน แต่จะมีเพิ่มไปรามคำแหง พัฒนาการ เส้นพระรามที่ 1 วิ่งไปทางเขตพระนคร ไปปากคลองตลาด ข้ามสะพานพระปกเกล้าไปวงเวียนใหญ่ได้
ถ้าใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งออกไปทางแยกราชเทวีจะไปเชื่อมสะพานพระรามแปด ปิ่นเกล้า ออกบรมราชชนนี พุทธมณฑล จากแยกประตูน้ำวิ่งไปราชปรารภไปเชื่อมออกวิภาวดีรังสิตได้เลย
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยออกมาทางถนนเพลินจิตวิ่งไปทางสุขุมวิทจะเจอทางเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วน ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม. หรือวิ่งออกไปทางถนนวิทยุเข้าเพชรบุรีจะเจอจุดขึ้นทางด่วนอีกจุดจะไปโซนบางนา พระรามสี่ ดาวคะนองได้
การเดินทางโดยสาธารณะ จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS ชิดลมประมาณ 280 ม. ซึ่งจะอยู่ตรงปากซอยแยกชิดลมพอดี มีทางเดินเท้าสะดวกตั้งแต่หน้าโครงการยาวมาจนถึงบันไดทางขึ้นสถานีเลย หน้าโครงการโบกเรียก Taxi ได้สะดวกมีวิ่งผ่านหลายคันเลยครับ วินมอเตอร์ไซค์ก็มีวิ่งผ่านเรียกหน้าโครงการได้เช่นกัน รถเมล์ต้องออกมาเส้นสุขุมวิท หรือจะเส้นเพชรบุรีก็ได้ครับ มีวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมืองวิ่งเกือบทั้งคืน นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากคลองแสนแสบ มีบริการเรือด่วนโดยต้นสายเริ่มตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า ไปสิ้นสุดที่วัดศรีบุญเรือง ซึ่งท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือชิดลมประมาณ 250 ม. มีตัวเลือกในกรเดินทางหลากหลายดีครับ ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็อยู่โครงการนี้ได้สบายๆ
นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มมีแนวเส้นทางที่รองรับการเดินทางภายในเขตเมืองตามแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยเริ่มจากตลิ่งชันปลายทางมีนบุรี ทำให้ช่วยเพิ่มตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 1 ทาง โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านบริเวณแยกประตูน้ำ ซึ่งมีสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีประตูน้ำ และสถานีปรารภ แต่ก็คงต้องรอกันอีกสักพักใหญ่ครับ
จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่ารอบๆโครงการเกือบจะไม่มีพื้นที่ว่างเปล่าเลย จะเต็มไปด้วยสำนักงานออฟฟิศ โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ คอนโด ห้างสรรพสินค้า และสถานฑูต เรียกได้ว่า 28 Chidlom มีความพร้อมในด้านทำเล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันครับ
ผมจะพูดถึงเรื่องการเดินรถย่านนี้สักหน่อยครับ เนื่องจากซอยย่อยแถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ one way อย่างซอยชิดลมเองก็เช่นกัน ดูตามลูกศรสีฟ้าในภาพนะครับ ถ้าจะมาโครงการจากเส้นเพชรบุรีก็เลี้ยวเข้าซอยชิดลมมาได้เลย ถ้ามาจากถนนเพลินจิตก็ไปเลี้ยวเข้าซอยสมคิด หรือเลี้ยวเข้าวิทยุไปออกเพชรบุรีก่อนก็ได้ ถนนหลังสวนวิ่งตรงมาจากแยกชิดลมอย่างเดียววิ่งไปออกซอยสารสินเชื่อมออกราชดำริ และถนนวิทยุฝั่งใต้ได้ ซอยต้นสนเป็นซอยรถวิ่งสวนกันได้ และถนนวิทยุฝั่งเหนือจะเป็นแบบ one way วิ่งไปฝั่งเพชรบุรีอย่างเดียว แต่ถนนวิทยุฝั่งใต้จะวิ่งสวนกันได้ครับ ส่วนจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานครอยู่ไม่ไกลจากโครงการมีตรงถนนเพลินจิต และอีกจุดคือตรงเส้นเพชรบุรี
จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครมี 2 จุด จุดแรกคือฝั่งไปโซนแจ้งวัฒนะ ดินแดง พระรามเก้า โดยจากโครงการวิ่งมาแยกชิดลมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิตผ่านสถานี BTS เพลินจิต และจะเจอด่านขึ้นทางด่วนซ้ายมือ ระยะจากโครงการประมาณ 1 กม.
จุดขึ้นทางด่วนอีกจุดคือฝั่งวิ่งไปทางบางนา ดาวคะนอง พระรามสี่ โดยจากโครงการวิ่งมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกชิดลมเข้าถนนเพลินจิต และไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิทยุอีกที และตรงไปออกเพชรบุรีจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าเพชรบุรี ตรงไปอีกหน่อยขวามือจะเจอจุดขึ้นทางด่วน ระยะจากโครงการมาประมาณ 1.6 กม.
ภาพวิวมองไปทางพื้นที่โครงการ และจะเห็นสถานที่สำคัญรอบๆโครงการย่านนี้
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนเพชรบุรีมุ่งหน้าประตูน้ำ และมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยชิดลม จากนั้นข้ามคลองแสนแสบมาและเตรียมชิดเลนขวาได้เลยจากถนนเพชรบุรีเข้าซอยมาประมาณ 300 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือครับ
สรุปการเดินทาง ถนนเพชรบุรี > ซอยชิดลม > 28 Chidlom
เริ่มจากถนนเพชรบุรีมุ่งหน้าอโศก ซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัย
ถัดมาซ้ายมือก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ
เลยมาอีกหน่อยซ้ายมือเป็นวัดใหม่ช่องลม
จากนั้นจะเจอปั๊ม Esso ซ้ายมือ
ติดกันเป็นปั๊ม Shell
ขับตรงไปอีกครับ
จากนั้นจะเจอแยกอโศก – เพชรบุรี ซ้ายมือเป็น Singha Complex จะเป็นโครงการ Mixed-use project ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก
ขับตรงข้ามแยกอโศก – เพชรบุรีไปครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปอโศก เลี้ยวขวาไปพระรามเก้า
จากนั้นซ้ายมือจะเจอ รร.เซนต์ดอมินิก ติดกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ตรงมาอีกซ้ายมือเป็นซอยนานาเหนือ ขวามือเป็นถนนนิคมมักกะสัน
ถัดมาอีกเป็น รร.มักกะสันพิทยา
และข้างหน้าจะเจอทางด่วนเฉลิมมหานคร
ถัดมาซ้ายมือจะเป็นถนนวิทยุ
เลยมาก็จะเจอ Smile Square Bangkok
Smile Square Bangkok เป็นโครงการ Mix use มีห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร โรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียมครับตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม.
และก็จะเจอถนนชิดลมซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายได้เลยครับ
ก่อนเลี้ยวเข้าชิดลม ขวามือจะเป็นตลาดนีออน เป็นตลาดนัดกลางคืน มีร้านค้าร้านอาหารหลายร้านเลยครับ ห่างจากโครงการประมาณ 350 ม.
เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนชิดลมเป็นถนนขนาด 4 เลน เป็น One way วิ่งไปออกถนนเพลินจิตอย่างเดียว ขวามือเป็นท่าเรือชิดลม ห่างจากโครงการประมาณ 250 ม.
ข้ามสะพานมาก็ตรงไปอีกครับ ขวามือจะเป็นซอยสมคิด ให้เราเตรียมชิดเลนขวาสุดได้เลยนะครับ
จากนั้นจะเจอรพ.เจตนินซ้ายมือ
ขวามือจะเป็น 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 50 ม. ติดกันเป็นซอยราชดำริ 2
ถัดมาก็จะเจอพื้นที่โครงการทางซ้ายมือครับ
ด้านหน้าพื้นที่โครงการจะอยู่ติดถนนชิดลมเลยครับ
เดี๋ยวผมจะพาออกจากโครงการไป Siam Paragon ครับ ระยะทางประมาณ 1.3 กม.
เริ่มจากด้านหน้าโครงการ ตรงไปแยกชิดลม ซ้ายมือเป็น The 19 At Chidlom เป็นคอมมูนิตี้มอลล์
ถัดมาซ้ายมือจะเป็นอาคารสำนักงาน Alma Link Building ขวามือเป็นการไฟฟ้านครหลวง
พอถึงปากซอยก็จะเจอ Central ชิดลม ขวามือเป็นการไฟฟ้านครหลวง ให้เตรียมเลี้ยวขวาตรงแยกชิดลมครับ
ถึงแยกชิดลมเลี้ยวขวา ข้างบนเป็น BTS ชิดลมครับ
เลี้ยวขวามาจะเป็นถนนเพลินจิต ซ้ายมือเป็นโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
ถัดมาจะเป็น Amarin Plaza ซ้ายมือ
และจะเจอแยกราชประสงค์ เลี้ยวซ้ายจะไปราชดำริ เลี้ยวขวาไปประตูน้ำ เราตรงไปครับ
ข้ามแยกมาจะเป็นถนนพระรามที่ 1 ขวามือเป็น Central World จากโครงการเดินลัดมาทางซอยราชดำริ 2 จะมาออกข้าง Big C ราชดำริแล้วเดินข้ามสะพานลอยไปห่างจากโครงการประมาณ 550 ม.
ถัดมาจะเป็นวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
และจะถึง BTS สยาม ขวามือก็เป็น Siam Paragon ใครขยันเดินก็ได้นะครับเพราะมี Sky Walk เดินเชื่อมมาตั้งแต่ BTS ชิดลมเลย
ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS ชิดลมประมาณ 280 ม. ผมจะพาเดินจาก BTS ไปยังโครงการครับ
เริ่มกันที่ BTS ชิดลม
เดินลงมาจะมีป้ายแยกย่อยบอกทางออกไปยังสถานที่สำคัญต่างๆย่านนี้ ผมจะพาเดินไปทางถนนชิดลมครับโดยออกทางออกหมายเลข 5 หรือใครจะเดินออกทางออกหมายเลข 3 ก็ได้ครับ
ทางเดินมามองจากด้านบนจะตรงกับแยกชิดลม ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนเพลินจิต ซอยชิดลม และซอยหลังสวน ฝั่งนี้เป็นหลังสวน ซ้ายมือเป็น Mercury Ville ทางขวามือเป็นโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
อีกฝั่งเป็นถนนชิดลม ซ้ายมือเป็นธนาคารกรุงไทย ขวามือเป็น Central ชิดลม
เดี๋ยวเราเดินเข้าไปในเซ็นทรัลชิดลมแล้วลงไปเดินข้างล่างกันครับ ปลายสุดทางเชื่อม BTS จะเป็นทางแยกซ้ายออกไปยังเซ็นทรัลชิดลม และทางขวาไป Mercury Ville
เราจะเดินผ่านเข้าไปในเซ็นทรัลชิดลมก่อนนะครับ ใครจะแวะซื้อของก่อนก็ตามสบายเลย เราสามารถเดินไปออก Central Embassy ได้อีกด้วย
จาก Central ชิดลมจะมีป้ายบอกทางมาเชื่อมกับ Central Embassy
และจาก Central Embassy ก็มีทางเดินเชื่อมออกไปยัง BTS เพลินจิตอีกทีครับ
เดินออกมาจาก Central Embassy จะเป็นทางเดินเชื่อมไปยัง BTS เพลินจิต
เพลินจิตก็เป็นย่านสำคัญอีกแห่งของกรุงเทพฯ มองไปฝั่งพระรามสี่ เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน และสถานฑูตอีกหลายประเทศครับ ซ้ายมือเป็นอาคาร Park Venture ขวามือที่กำลังก่อสร้างเป็นธนาคารกรุงศรี ถัดไปเป็นโรงแรม Grande centre point ถัดไปอีกเป็นโครงการ 98 wireless
มองไปฝั่งเพชรบุรีขวามือเป็นอาคาร Wave Place ตั้งอยู่ติดกับโครงการ Nobel เพลินจิต ซ้ายมือเป็น Central Embassy ศูนย์การค้าระดับ high-end ถนนวิทยุเป็นถนนที่ขนานกับถนนหลังสวนและถนนเพลินจิต ที่ตัดมาจากพระรามสี่และยาวไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรบุรี
เรากลับมาที่แยกชิดลมกันต่อครับ
เดินลงมาที่ชั้นล่างจะเจอประตูทางออกมาจาก Central ชิดลม เดินตามทางเท้าไปครับ
ถัดมาซ้ายมือเป็นอาคารสำนักงาน Alma Link Building ซ้ายมือเป็นการไฟฟ้านครหลวง
ถัดมาขวามือมีล้อมรั้วก่อสร้างไม่แน่ใจว่าจะเป็นโครงการอะไร ฝั่งซ้ายจะเห็นอาคารอรกานต์ ติดกับอาคารก็จะเป็นพื้นที่โครงการแล้วครับ
ถัดมาขวามือเป็น 19 At Chidlom เป็นคอมมูนิตี้มอลล์มี Starbuck ในนี้ด้วย ฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่โครงการครับ
พื้นที่โครงการด้านหน้าอยู่ติดถนนชิดลมแบบนี้เลย ฝั่งซ้ายมือจะเป็นที่ดินของอาคารอรกานต์
ถัดมาขวามือเป็นร้านอาหาร Stone and Star
ถัดมาอีกจะเป็น รพ.เจตนิน
ฝั่งตรงข้าม รพ.เจตนินเป็นซอยราชดำริ 2 เดินไปทะลุออก Big C ราชดำริ และข้ามฝั่งไป Central World ได้เลยครับระยะทางประมาณ 550 ม. ช่วงต้นซอยจะเห็นว่ามีร้านอาหารตามสั่งครับ ขวามือเป็น 7-11 ห่างจากโครงการประมาณ 50 ม.
กลับมาด้านหน้าโครงการ
มองไปทางซ้ายพื้นที่โครงการติดกับอาคารอรกานต์สูง 16 ชั้น
มองไปทางขวามือจะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น
พื้นที่โครงการติดกับแนวอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นพอดี
ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการจะเป็นอาคาร 5 ชั้น และ 19 At Chidlom 3 ชั้น
มองไปทางซ้าย
มองไปทางขวา
หน้าโครงการตอนนี้ตกแต่งจำลองไลฟ์สไตล์คนเมืองกับ concept ของโครงการ “It’s a choice, Not an option”
กำแพงป้ายชื่อโครงการ และวางโมเดลไว้ขวามือ
ตรงนี้เป็นร้านค้า
มีป้าย concept ของโครงการ “It’s a choice, Not an option” ติดอยู่
มีรถจอดอยู่ 1 คัน พร้อมหุ่นสาวสวย
ด้านหน้าทางเข้า Sale gallery จำลองแผ่นหินอ่อนสีเขียวที่เป็นวัดสุหลักในโครงการครับ
ตัวโครงการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ The Villa สูง 20 ชั้น (ยังไม่เปิดขาย) และ The Tower สูง 47 ชั้น (เปิดขายตอนนี้) ทิศเหนือโครงการติดกับตึกแถวอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ทิศใต้ติดกับอาคารอรกานต์ 16 ชั้น ทิศตะวันออกหรือด้านหน้าโครงการติดกับถนนชิดลม ฝั่งตรงข้ามจะเป็นแนวอาคารสูง 3-5 ชั้น ส่วนทิศตะวันตกติดกับ TOT มีแนวอาคารสูงประมาณ 7-9 ชั้น
พื้นที่โครงการตอนนี้อยู่ในช่วงวางรากฐาน ฝั่งทิศใต้ติดกับอาคารอรกานต์สูง 16 ชั้น
ฝั่งทิศเหนือติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น
ฝั่งทิศเหนือถัดจากแนวอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นไป จะเห็นแนวอาคารสูงที่อยู่ถัดออกไปอีกหน่อย
ฝั่งทิศตะวันตกหรือด้านหลังโครงการ พื้นที่ติดกับ TOT ในระยะใกล้จะมีอาคารสูง 9 และ 7 ชั้น
ที่ดินจะติดกับที่จอดรถกลางแจ้งของ TOT
และจะเป็นอาคารสำนักงานของ TOT
ฝั่งทิศตะวันออกหรือด้านหน้าโครงการติดถนนชิดลม ฝั่งตรงข้ามจะเป็น 19 At Chidlom และ อาคาร 5 ชั้น
ย่านนี้เรียกได้ว่าเป็นย่าน CBD แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว เป็นทำเลที่โดดเด่นเหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตในเมือง แถวนี้มีทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดและอพาร์ทเม้นท์ระดับ Luxury โรงแรมหรูๆ ร้านอาหารดีๆ รวมไปถึงสถานฑูต ตรงแยกชิดลมมี Mercury Ville และ Central ชิดลมมีทางเดินเชื่อมไป Central embassy ห้างสรรพสินค้าระดับ High end เชื่อมไป BTS เพลินจิต ตรงแยกเพลินจิตมีอาคาร Wave Place อาคาร Park Venture
เส้นวิทยุมีโรงแรมระดับ 5 ดาว มีสถานฑูตหลายประเทศอยู่แถวนี้ และที่เป็นข่าวร้อนแรงช่วงนี้เลยคือที่ดินของสถานฑูตอังกฤษด้านหลัง Central embassy เนื้อที่กว่า 25 ไร่ ที่มีการประมูลราคากันไปล่าสุดเป็นเซ็นทรัลที่ได้ราคาประมูลอยู่ที่ 2-2.2 ล้านบาทต่อตารางวา ซี่งมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และถือว่าเป็นการประมูลที่แพงที่สุดในขณะนี้ โดยจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ Central embassy เราคงได้เห็นอะไรใหม่ๆอีกแน่นอนครับ
ถ้าคนตามข่าวย่านนี้เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา โรงแรม Swiss hotel ปาร์คนายเลิศที่ดินที่ต่อมาจากสถานฑูตอังกฤษได้ปิดตัวลง และตอนนี้ได้เปลี่ยนมือมาเป็น บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด (มหาชน) โดยจะพัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพครบวงจร BDMS Wellness Clinic
จาก BTS ชิดลมมี Sky walk เดินเชื่อมไปอัมรินทร์พลาซ่า , เกษรวิลเลจ , เซ็นทรัลเวิร์ด , พารากอน , สยาม , มาบุญคลอง เดินได้สะดวกเลย ถ้าไม่อยากเดินก็ขึ้น BTS ไปได้ง่ายดีครับ
ใกล้ๆโครงการข้ามฝั่งถนนหน้าโครงการมาจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ 19 at chidlom มี 3 ชั้น ที่เด่นเลยมี Starbuck , Max value ถัดมามีร้าน Stone and Star และฝั่งเดียวกับโครงการประมาณ 50 ม. มี 7-11 มีร้านอาหารตามสั่งตรงซอยราชดำริ 2 หรือเดินเข้าซอยไปทะลุออก Big C ราชดำริได้เลยประมาณ 550 ม. เดินข้ามฝั่งไปก็เป็น Central World มีทางเดินเชื่อมไปแพลตตินั่มได้อีก
นอกจากนี้ในอนาคตโครงการใหม่ Smile Square Bangkok เป็นโครงการ Mix use มีห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร โรงแรมระดับ 5 ดาว อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียมครับตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม. มีสถานศึกษาชื่อดังอย่าง มาแตร์เดอี, สาธิตปทุมวัน, ช่างกลปทุมวัน, จุฬาฯ
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
Model
มาต่อกันที่โมเดล ตัวโครงการอยู่บนพื้นที่ดินขนาด 3 ไร่ 24 ตารางวา พื้นที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าติดถนนซอยชิดลม แบ่งตัวอาคารมา 2 อาคาร ด้านหน้าคือ The Villa เป็นอาคารสูง 20 ชั้น และชั้นใต้ดินเป็นชั้นจอดรถ 6 ชั้นมียูนิตจำนวน 184 ยูนิตซึ่งตอนนี้ The Villa ยังไม่เปิดขายครับ ถัดเข้าไปคือ The Tower เป็นอาคารสูง 47 ชั้น 243 ยูนิต ซึ่งจะเปิดขายก่อน ยูนิตมีแบบ Studio , 1 Bedroom , 2 Bedroom , 3 Bedroom , Duplex 1 Bed , Simplex penthouse , Duplex penthouse ภายนอกอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยม ออกแบบ Facade อาคารให้มีลักษณะเสมือน Jewel-box Facade สะท้อนเอกลักษณ์ และความแตกต่างจากโครงการอื่นๆ
ความโดดเด่นของงานออกแบบตัวอาคาร ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือกันระหว่างบริษัทออกแบบชั้นนำระดับโลก อย่างบริษัท Kohn Pederson Fox (KPF) ที่มีชื่อเสียงของเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่ปรึกษาด้านงานออกแบบ โดยร่วมกับบริษัท Design 103 International สถาปนิกโครงการ พร้อมกับ TROP บริษัทออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมระดับแนวหน้าของประเทศและมีผลงานเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และอีกความร่วมมือจาก Breath ผลงานที่ได้จึงทำให้โครงการมีความสวยงาม
ภาพจำลองโครงการ จะเห็นว่าตัวอาคารค่อนข้างโดดเด่นดีครับ
มองจากมุมด้านหน้าจะเห็นแบบนี้ครับ The Villa จะมีสวนส่วนกลางที่ชั้น 18 และ The Tower มีสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ที่ชั้น 44
ด้านหน้าทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนชิดลม สังเกตตรงถนนจะเว้าเค้าไปเหมือนเป็นจุด Drop Off ด้านหน้าโครงการ
ประตูคนเดินจะอยู่ซ้ายมือ แยกจากทางรถเข้าออก
มองจากมุมด้านบนเข้าโครงการไปส่วนแรก จะเป็นมีพื้นที่สวนหย่อมด้านหน้า The Villa และทางเข้า Lobby
The Villa ชั้น 18 จะมีสวนหย่อม ขึ้นมานั่งพักผ่อนกันได้
ฝั่งด้านข้างทิศใต้ระยะประชิดที่ดินโครงการติดกับอาคารอรกานต์สูง 16 ชั้น เลือกชั้น 18 ขึ้นไปก็พ้นครับ วิวหลักๆของห้องพักอาศัยจริงๆจะเน้นฝั่งด้านหน้าโครงการ และด้านหลังโครงการมากกว่าครับ ฝั่งด้านข้างทั้งสองฝั่งส่วนใหญ่เป็นวิวจากห้องนอนซึ่งเราก็ปิดม่านกันอยู่แล้ว ที่อาคาร The Tower ออกแบบที่จอดรถอัตโนมัติไว้ฝั่งนี้ด้วย ความสูงถึงชั้น 12 ตรงกลางระหว่างสองอาคารจะเป็นสวนหย่อม โดยแนวคิดหลักของงานออกแบบโครงการ 28 Chidlom คือการออกแบบให้เป็น “An Urban Oasis” ใจกลางเมือง ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดของโครงการ โดยออกแบบให้มีการเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่สีเขียวทั้งภายนอก และภายในอาคาร เพิ่มความรื่นรมย์ให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างลงตัว (A Series of Courtyard)
จากทางเข้ามาจะเจอจุด Drop Off ของทั้งสองอาคาร เป็นวงเวียน วนเข้าที่จอดรถอาคาร The Villa ชั้นใต้ดิน 6 ชั้น จอดได้ 232 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) หรือจะมาเข้าที่จอดรถอัตโนมัติก็ได้ จอดได้ 126 คัน
ซูมส่วน Drop Off
ภาพจำลอง ส่วน Drop Off และ สวนระหว่าง 2 อาคาร (A Series of Courtyard)
ด้านหลังอาคาร The Villa สูง 20 ชั้น วิวฝั่งนี้จะมองเห็นเพื่อนบ้านของอาคาร The Tower พอดีครับ
ระยะห่างระหว่างสองอาคารประมาณ 25 ม. ซึ่งทางโครงการแจ้งว่ากว้างกว่าถนนชิดลมครับ แน่นอนครับว่าราคายูนิตชั้น 2-20 ทิศนี้จะเป็นราคาต่ำกว่ายูนิตอื่น
มาต่อกันที่อาคาร The Tower ส่วนที่เป็นที่จอดรถอัติโนมัติสูงถึงชั้น 12 มีช่องจอด 3 ช่อง จอดได้ 126 คัน ใช้ Key Card ควบคุม ทางเข้า Lobby อยู่ถัดเข้าไปอีก มีทางเชื่อมกับ Courtyard ด้านนอก ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 – 47 ชั้น 44 และ 44M จะเป็นชั้นส่วนกลาง
A Series of Courtyard
ภาพจำลองส่วน Lobby
ที่ชั้น 12 จะมี Spa Pool , Sauna , Steam
ภาพจำลอง Spa Pool ชั้น 12
รูปแบบ Facade อาคารออกแบบมาให้เหมือน Jewel-box คือเหมือนส่วนของตู้เพชรที่โชว์เพชรน้ำงามยื่นออกมาแตกต่างจากเพชรทั่วไป ทำให้ห้องเหมือนเป็นห้องมุม ถึงแม้ตำแหน่งจะไม่ได้อยู่มุมอาคารครับ ผมว่าส่วนนี้ออกแบบมาได้ดีครับ ทำให้อาคารดูมีมิติด้วยสวยดี
ภาพจำลอง Facade อาคาร ส่วนที่ออกแบบเหมือน Jewel-box
ด้านหลังโครงการ หรือทิศตะวันตกของ The Tower ที่ดินติดกับ TOT มีอาคารสูง 7-9 ชั้น โครงการออกแบบฝั่งนี้ให้เป็นส่วนที่ไว้เก็บคอมเพลสเซอร์แอร์ทุกยูนิตครับ ที่เห็นเป็นสีเทาทึบๆนั่นแหละครับ โดยทุกยูนิตจะไม่มีคอมเพลสเซอร์แอร์แขวนตรงระเบียงให้เกะกะสายตาเลย ส่วนที่เป็นมุมทั้งสองฝั่งจะเป็นยูนิต 2 Bedroom
ถนนวนมาสิ้นสุดที่ด้านหลังโครงการ เป็นจุดจอดรถส่งของ มีประตูทางเข้าลิฟท์ขนของได้เลย
ฝั่งด้านข้างอีกฝั่งทิศเหนือพื้นที่ติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น
มองจากมุมบนลงไปจะเห็นว่าฝั่งนี้จะจัดเป็นสวนส่วนกลางทั้งหมดครับ โดยพื้นที่สีเขียวมีขนาดใหญ่ถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดของโครงการ
มาดูสวนบนของ The Tower ชั้น 44 จะเป็นชั้นสระว่ายน้ำ ชั้น 45 จะเป็นห้อง Penthouse Simplex ส่วนชั้น 46-47 เป็นห้อง Penthouse Duplex มี 2 ยูนิตตอนนี้มีเจ้าของหมดแล้วครับ
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 6.8 ม. ลึก 1.2 ม. มุมสองฝั่งจะไว้สำหรับนั่งแช่ชมวิวขนาด 3 x 3 ม. ริมสระด้านในจะมีที่สำหรับนั่งพักผ่อนแบ่งมา 4 จุด มีประตูเดินออกมาจากด้านในเลย
มองจากด้านมุม
ภาพจำลองสระว่ายน้ำชั้น 44 รับวิวได้ 180 องศา
มองจากฝั่งด้านข้าง
ฝั่งด้านหลังโครงการชั้น 44 จะแบ่ง Facility เป็นสองฝั่ง ซ้ายมือเป็นฟิตเนส 2 ชั้น ฝั่งขวาเป็นสระว่ายน้ำเด็ก
สระว่ายน้ำเด็กจะเป็นแบบในร่มขนาด 7.3 x 7.65 ม. ลึก 60 ซม. จะมีที่นั่งพักรอสำหรับผู้ใหญ่ไว้ดูเด็กๆเล่นน้ำ
ภาพจำลองสระว่ายน้ำเด็ก และพื้นที่นั่งพัก
อีกมุมเป็นห้องฟิตเนส แบ่งด้านในมา 2 ชั้นครับ คือชั้น 44 และ 44M
ภาพจำลองห้องฟิตเนสชั้น 44M
มองจากฝั่งด้านข้างอีกฝั่ง
ชั้นดาดฟ้าทำเป็นพื้นที่สีเขียว
ภายในสำนักงานขายเดินเข้ามาจะรู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่ง กระจกสูงถึงฝ้า
ฝ้าด้านบนเป็นเงาสะท้อนทำให้ดูมีมิติ
จัดวางชุดโต๊ะนั่งไว้ริมสุด
อีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์ และโมเดล
ทางเดินไปยังห้องตัวอย่าง ได้อารมณ์ธรรมชาติ
มีจัดสวนตกแต่ง
ตามทางเดินไปยังห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างมี 2 แบบให้ดู แบ่งมา 2 ชั้น มีบันไดเดินขึ้น และลิฟท์สำหรับผู้ใช้รถเข็น
ทางเดินไปห้องตัวอย่าง
Floor Plan
Master Plan โครงการ จากทางเข้าโครงการมาจะเจอส่วนของอาคาร The Villa ก่อน ถนนในโครงการรถวิ่งสวนกันได้ และจะผ่านเข้าไปเจอ Drop Off วนเข้าที่จอดรถใต้ดินชั้น 1-6 ได้ หรือจะไปที่จอดรถอัตโนมัติที่อาคาร The Tower พื้นที่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคารจะเป็นสวน A Series of Courtyard ที่มีความเชื่อมต่อกันระหว่างภายในและภายนอกอาคาร Lobby จะมีแยกอาคารให้ ลิฟท์โดยสารมีอาคารละ 4 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2
ตอนนี้โครงการเปิดขายเฉพาะอาคาร The Tower ก่อนนะครับ ข้อมูลแปลนชั้นที่มีตอนนี้จะเป็นอาคาร The Tower ทั้งหมด และมีให้ดูบางชั้นครับ
แปลนชั้น 12 จะเป็น Heated Spa Pool , Sauna , Steam และห้องนำ้
แปลนชั้น 14 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดนับได้ 7 ยูนิต ห้องมุม 3 ฝั่งจะเป็น 2 Bedroom ฝั่งตะวันออกมุมล่างขวาเป็นห้อง Duplex 1 Bed ที่เหลืออีก 3 ห้องเป็น 1 Bedroom ตรงกลางฝั่งตะวันตกหรือด้านหลังอาคารจะเป็นโถงลิฟท์ และบันไดหนีไฟ และที่เห็นเป็นช่องขาวๆ เป็นส่วนสำหรับวางคอมเพลสเซอร์แอร์แต่ละยูนิต
แปลนชั้น 16 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด คล้ายชั้น 14
แปลนชั้น 19 ก็คล้ายๆกันครับแต่สลับตำแหน่งห้อง Duplex 1 Bed กับ 2 Bedroom ชั้นนี้มี 6 ยูนิต
แปลนชั้น 21 มี 6 ยูนิต ตำแหน่งห้องเหมือนชั้น 14 , 16
แปลนชั้น 42 จะเป็นห้องขนาดใหญ่ ชั้นนี้มี 4 ยูนิต ฝั่งตะวันตกจะเป็น 2 Bedroom 2 ห้อง ฝั่งตะวันออกจะเป็นห้อง 3 Bedroom 2 ห้อง
แปลนชั้น 44 เป็นชั้น Facility ทั้งชั้นมีสระว่ายน้ำขนาด 20 x 6.8 ม. ด้านหลังเป็นสระเด็กแบบในร่มขนาด 7.3 x 7.65 ม. มุมอีกฝั่งเป็นห้องฟิตเนสมี 2 ชั้น คือชั้น 44 และ 44M
แปลนชั้น 44M ตรงมุมสระเด็กจะมีทางเดินขึ้นไปส่วนนั่งรอเด็กๆเล่นน้ำ อีกฝั่งเป็นชั้น 2 ของห้องฟิตเนส
Units Type
โครงการนี้มีห้องให้เลือกดังนี้
แปลนห้อง 1 Bedroom 40 – 50 ตร.ม.
แปลนห้อง 2 Bedroom 69 – 91 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ
แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 1 Bedroom ขนาด 46.36 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนเลยได้เป็นครัวเปิด มีชุดเคาน์เตอร์ครัวตัว L ให้ ถัดเข้ามาเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วนห้องนั่งเล่น ตรงส่วนห้องนั่งเล่นผนังเป็นกระจกแบบ Bay Windows และมีประตูเดินออกมาตรงระเบียงห้องได้ ประตูห้องนอนอยู่ระหว่างส่วนครัว และห้องนั่งเล่น ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่ติดระเบียงไว้วางเตียงนอน ได้กระจกสูงเต็มบาน ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง หน้าห้องน้ำเป็น Walk in closet
เริ่มจากประตูหน้าห้อง บานสูง 2.8 ม. สีไม้เนื้ออ่อน
ได้ Digital doorlock ของ Alpha มือจับเป็นแบบคันโยก สั่งทำสีโดยเฉพาะ
ตรงวงกบประตูติดคิ้วสักหลาดมาให้กันฝุ่น แมลง
พื้นห้องจะยกระดับขึ้นจากพื้น Corridor เล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าห้องได้
เดินเข้าห้องมาส่วนแรกจะเจอห้องครัวก่อนเลย ได้เป็นครัวเปิด เชื่อมกับพื้นที่ด้านในเป็นห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องน้ำครับ พื้นส่วนครัวจะเป็นหินอ่อน ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็น Engineering Wood หนา 14 มม. ผนังจะได้ฉาบเรียบทาสีขาวทั้งห้อง ฝ้าสูง 3.1 ม. ไฟจะได้แบบดาวน์ไลท์
พื้นส่วนครัวจะเป็นพื้นหินอ่อนสีเข้ม สั่งทำผิวหน้าพิเศษมี Texture
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง จะเห็นส่วนครัวครับ
แผงสวิทซ์ไฟทั้งหมดเป็น Intelligent System ของ Schneider เป็น Remote Control สามารถดึงออกไปใช้ได้ แผงวงจรตัวนี้เป็นสวิทซ์ Master จะติดไว้ตรงประตูห้อง ควบคุมการทำงานเปิดปิดของไฟทั้งหมดในห้องได้ทุกส่วน แต่จะมีสวิทซ์แยกตามจุดอีกที
ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามนี้เลย หน้าบานได้เป็นกระจกเงา ส่วนด้านล่างเป็นบานทึบ เคาน์เตอร์จะเป็นตัว L
ตู้ทุกบานเป็นบานเปิด แบ่งชั้นด้านในมาให้เก็บของพอสมควร
ตู้ใต้อ่างล้างจานจะมีถังขยะซ่อนมาให้ด้วย
บานตู้ทุกบานมี Soft close ให้
ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch ผนังด้านในกรุกระจกมาให้ด้วยทำความสะอาดง่าย
อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวฝังท็อปของ Teka ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Grohe ส่วนท็อปเป็น Composite marble
ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้ Built-in ได้ตามนี้เลย ติดประตูห้องเป็นชั้นเก็บของหน้าบานกระจกเงา ตรงกลางมีช่องใส่เตาไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า ถัดมาเป็นตู้เย็น Built-in
ตู้บานแรกเปิดออกมาจะแบ่งชั้นมาให้แบบนี้
ด้านบนเป็นตู้เก็บของ 2 บาน
ด้านล่างวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ได้เครื่องซักผ้าของ Electrolux หรือเทียบเท่า
ตู้เย็น 2 ประตู Built-in ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า
ไม่โครเวฟได้ของ Kuppersbusch
ถัดจากส่วนครัวจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งพื้นจะเป็น Engineering wood มีตัวจบคิ้วสแตนเลส
จากส่วนครัวถัดไปจะเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันเลย
ติดกับเคาน์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ถัดไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น
วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งให้ดูระยะ ใครจะใช้โต๊ะบาร์แบบนั่งหันหน้าเข้าผนัง หรือเข้าเคาน์เตอร์เลยก็ได้ครับ ประหยัดพื้นที่ได้
เคาน์เตอร์ครัวฝั่งโต๊ะรับประทานอาหารมีลิ้นชัก 2 ชั้นไว้เก็บของได้
ถัดมาเป็นส่วนห้องนั่งเล่นวางโต๊ะกลางและโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดู ไม่ได้แถมให้นะครับ
ระยะดูทีวีประมาณ 1.36 ม. ผนังจริงๆจะเรียบเสมอผนังสีเทานะครับ ขวามือมีประตูเดินออกระเบียง
ผนังส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นกระจกแบบเข้ามุม Full-Height สูงจากพื้นถึงฝ้า รับวิวภายนอกได้เต็มๆ ส่วนนี้ที่โครงการออกแบบตามคอนเซปต์ Jewel-box ถ้าดูจาก Facade ภายนอกจะเห็นส่วนนี้ยื่นออกจากแนวอาคาร ทำให้ห้องเหมือนเป็นห้องมุมแม้ตำแหน่งจะไม่ได้อยู่ที่มุมอาคาร
กระจกที่ได้จะเป็น Insulated Glass หรือกระจก 2 ชั้นที่มีช่องว่างระหว่างกระจก มีคุณสมบัติลดเสียงจากภายนอกอาคาร และลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในอาคารและภายนอกอาคาร ทำให้ประหยัดพลังงาน เพราะเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง
โครงการทำรางม่านซ่อนมาให้เลย ส่วนผ้าม่านต้องติดเพิ่มเอง
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเปิดออก 1 บาน กรอบประตูและหน้าต่างจะเป็นอลูมิเนียมสั่งทำสีโดยเฉพาะ
มือจับประตูเป็นแบบคันโยก
เปิดประตูออกมาจะเจอระเบียงยาว ไม่มีคอมเพลสเซอร์แอร์ให้เกะกะพื้นที่ เพราะโครงการจัดวางไว้ที่ด้านหลังอาคารทั้งหมด
พื้นที่ระเบียงขนาด 3.06 x 0.91 ม.
มองกลับไปที่ประตูระเบียง ฝั่งขวาจะเป็นผนังกระจกของห้องนอนครับ
กลับเข้ามาในห้องต่อ มองเข้าไปด้านในไปดูห้องนอนกันต่อ แอร์ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้เป็นแบบ Ceiling Concealed Type คือฝังฝ้ามาให้เลย
ประตูห้องนอนจะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัว
ภายในห้องนอนแบ่งฟังก์ชั่นเป็น 2 ส่วน ซ้ายเป็นส่วนห้องแต่งตัวกับห้องน้ำ ขวาเป็นห้องนอน
วางเตียง King Size ให้ดูพื้นที่รอบๆ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 80 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 98 ซม.
ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือพื้นที่ประมาณ 72 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3 ม.
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บานฝั่งขวา ที่เหลือเป็นบาน Fixed สูงจากพื้นถึงฝ้า กระจกเป็น Insulated Glass เหมือนตรงห้องนั่งเล่น
หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 30 องศา
มองกลับเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วน Walk in closet แอร์ห้องนอนได้แบบฝังฝ้าเช่นกัน
ส่วน Walk in closet จะได้ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ขวามือจะเป็นห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้สูงจากพื้นถึงฝ้า หน้าบานเป็นกระจกเงา
มือจับบานประตูตู้เสื้อผ้า
ตู้หน้าบานกระจกเงามี 4 บาน เป็นบานเปิดออกทั้งหมด ด้านในแบ่งช่องและลิ้นชักมาให้พอสมควร ด้านในตู้จะมีไฟซ่อนมาให้ด้วยครับ
ด้านในสุดเป็นตู้หน้าบานกระจกสีชา ด้านในแบ่งชั้นมาให้
อีกฝั่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีกระจกบานใหญ่ ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ
โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชัก 2 อัน
ภายในห้องน้ำได้ของดีหลายอย่างเลย แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย ผนังและพื้นห้องน้ำจะได้เป็นหินอ่อนทั้งหมด
กระจกตรงอ่างล้างหน้าจะได้ตามนี้เลย ทำเป็นตู้เก็บของ 1 บาน
ตู้หน้าบานกระจก ทำเป็นตู้เก็บของมา 1 บาน มีปลั๊กไฟซ่อนไว้ด้านในตู้ด้วย
อ่างล้างหน้าของ TOTO ทรงสี่เหลี่ยมฝังท็อปหินอ่อน มีพื้นที่วางของรอบๆ
ก๊อกน้ำได้แบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Grohe
ตู้ใต้อ่างล้างหน้าเป็นบานเปิด 2 บาน
ติดกับอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ระบบไฟฟ้าของ TOTO แบบอัตโนมัติ
ฝั่งด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้เลยเป็นแบบบานเปิด
ด้านในติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ ผนังหินอ่อนลายสวยดีครับ
บนฝาติด Rain Shower มาให้ครับ
หน้าตาฝักบัวที่ได้ทรงกลมขนาดใหญ่พอดีมือ ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น ของ Grohe
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1 x 0.95 ม.
ธรณีส่วนเปียกสูงพอระมาณ ขอบธรณีลบเหลี่ยมลบมุมเรียบร้อยมีความละเอียด
มาดูอีกห้องเป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 73.53 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอโถงทางเดินก่อน ยาวเข้าไปเชื่อมกับส่วนครัว ได้เคาน์เตอร์ครัวตัว L จากส่วนครัวถัดมาจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร เข้ามาอีกเป็นห้องนั่งเล่น มีประตูเชื่อมออกระเบียง อีกฝั่งจะมีทางเดินมาห้องนอน เล็ก ภายในห้องนอนสามารถวางโต๊ะ ตู้ เตียงได้ ฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กจะเป็นห้องน้ำ ในสุดจะเป็น Master Bedroom ภายในกว้างขวางมีห้องน้ำในตัวพร้อมส่วน Walk in closet
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนโถงทางเดินก่อน มีพื้นที่วางตู้เก็บของได้ ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนครัวได้เป็นครัวเปิด ฝั่งซ้ายเป็นทางเดินไปยังส่วนรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และห้องนอน พื้นห้องส่วนแรกจะเป็นหินอ่อนเหมือนห้อง 1 Bedroom ส่วนที่เหลือจะเป็น Engineering Wood หนา 14 มม. ผนังจะได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง ฝ้าสูง 3.1 ม. ไฟได้ดาวน์ไลท์ทั้งหมด
เดินเข้าห้องมาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า ตรงโถงทางเดินมีพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บของได้ พื้นที่โถงทางเดินกว้างประมาณ 1.68 ม.
ตู้ฝั่งนี้โครงการ Built-in มาให้แบ่งชั้นไว้ให้เก็บรองเท้า แขวนร่ม กระเป๋า
ถัดเข้ามาเป็นส่วนครัว ได้เป็นครัวเปิด เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นตัว L เหลือพื้นที่เดินกว้างประมาณ 1.15 ม.
ชุดครัวจะได้ตามนี้ทั้งหมดครับ
ตู้เป็นบานเปิดออกทั้งหมด มี Soft close ให้ทุกบาน ได้ไมโครเวฟของ Kuppersbusch ใต้ไมโครเวฟเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า ติดกันได้ตู้เย็น 2 ประตู Built-in ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า
ตู้อีกฝั่งก็เป็นบานเปิดเช่นกัน ได้เตาอบของ Kuppersbusch วางใต้เตา
ตู้ใต้อ่างล้างจานเป็นบานเปิด มีถังขยะซ่อนมาให้ด้วย ติดกันเป็นลิ้นชักไว้เก็บของ 3 ชั้น
ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกขนาด 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Kuppersbusch
อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวของ Teka ขนาดใหญ่กว่า 1 Bedroom ฝังท็อป มีที่พักจานลดระดับจากท็อปเล็กน้อย ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Grohe
จากส่วนครัวมองไปจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วนห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นทางเดินไปห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
ส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น
วางโต๊ะกลม และเก้าอี้ 4 ที่นั่งให้ดู จะวางโต๊ะสี่เหลี่ยมก็ได้ครับ
ส่วนห้องนั่งเล่น วางโซฟา 3-4 ที่นั่งให้ดู พื้นที่สามารถวางโซฟาตัว L ได้สบายๆครับ ผนังกระจกแบบ Bay windows บานกระจกจะเป็น Insulated Glass หรือกระจก 2 ชั้น ส่วนตำแหน่งของห้อง 2 Bedroom จะอยู่ที่มุมอาคารทั้ง 4 มุมครับ
ระยะดูทีวีประมาณ 3.5 ม. ซ้ายมือมีทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูออกไปยังระเบียง เป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน ซ้ายมือมีช่องว่างไว้วางตู้โชว์ หรือเก็บของก็ได้
มือจับประตูบานเลื่อน
เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 1.88 x 0.95 ม.
กลับเข้ามาด้านใน แอร์ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบฝังฝ้า
ทางเดินเข้าไปยังห้องนอน ซ้ายมือมีตู้เก็บของขนาด 3 บาน Built-in มาให้
เป็นตู้บานเปิด 3 บาน แบ่งชั้นมาเยอะดี
เข้ามาตามทางเดิน ห้องแรกเลยขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ในสุดเป็นห้อง Master Bedroom
ถายในห้องนอน ขนาดวางโต๊ะตู้เตียงได้
วางเตียง 5 ฟุตให้ดู
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 64 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 88 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 74 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.88 ม.
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้งและบาน Fixed สูงจากพื้นถึงฝ้า กระจกเป็น Insulated Glass
ฝั่งด้านใน Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาด 3 บานมาให้เลย แอร์ในห้องนอนได้แบบฝังฝ้า
ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 3 บาน
ถัดมาเป็นห้องนำ้ซ้ายมือ ในสุดเป็นห้อง Master Bedroom
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง เดินเข้ามาจะเจอชุดอ่างล้างหน้าก่อน
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ TOTO ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนร้ำเย็นของ Grohe
ฝั่งนี้เป็นโถสุขภัณฑ์
โถสุขภัณฑ์ แบบใช้ถังพักน้ำซ่อนผนังของ TOTO
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้
ฝักบัวติดแบบปรับระดับสูงต่ำได้ ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1 x 0.90 ม.
ธรณีสูงพอระมาณ ขอบธรณีลบเหลี่ยมลบมุมเรียบร้อยดี
ในสุดเป็นห้อง Master Bedroom
ภายในห้องจะแบ่งเป็นสองฝั่ง ซ้ายเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องนอน
วางเตียง King Size ให้ดูระยะ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 77 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 1.04 ม.
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 91 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3 ม.
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน และบาน Fixed สูงจากพื้นถึงฝ้า กระจกเป็น Insulated Glass
ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ มี Walk in closet หน้าห้องน้ำ
ส่วน Walk in closet เดินมาจะเจอตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกเงา
เปิดออกมาจะเจอช่องแขวนเสื้อผ้า และลิ้นชักเก็บของ
อีกฝั่งก็เป็นตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน ในสุดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง
เปิดออกมาแบ่งช่องแขวนมา 2 ช่อง
โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชัก 2 ช่อง
ห้องน้ำอยู่อีกฝั่ง ฟังก์ชั่นเหมือนห้องน้ำในห้อง 1 Bedroom
ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าอยู่ฝั่งนี้
อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ของ TOTO ก๊อกน้ำเป็นของ Grohe
อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกมีฉากกั้นอาบน้ำให้
เปิดเข้ามาจะเจอฝักบัวติดอยู่ผนังด้านใน มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ 2 ช่อง
ด้านบนติด Rain Shower
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1 x 0.90 ม.
พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย
ราคา (ก.พ.60)
ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม
เงินจอง 100,000 – 500,000 บาท
ทำสัญญา 300,000 – 1,000,000 บาท
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – 28 Chidlom ย่านนี้ถือเป็น CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อใกล้สถานที่สำคัญแบบนี้แล้วเรื่องความอุดมสมบูรณ์คงไม่ต้องพูดถึง ย่านนี้ของกินเพียบครับตั้งแต่ร้านเล็กๆริมทาง ไปจนถึงร้านหรูๆในห้างสรรพสินค้า สามารถเลือกทานได้สบายๆ ออกมาหน้าโครงการก็เจอของกินแล้วใกล้ๆโครงการมี 19 at chidlom , Mercury Ville , Central ชิดลมมีทางเดินเชื่อม Central Emadbssy และ BTS เพลินจิต ตรงเพลินจิตมี ศูนย์สุขภาพครบวงจร BDMS Wellness Clinic มีอาคาร Park venture เป็นอาคารสำนักงาน มี Dean and deluca และร้านอาหารญี่ปุ่นในอาคาร ด้านบนยังมีโรงแรม Okura จากญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีสถานฑูตทั้งสวิส เวียดนาม อเมริกา จาก BTS ชิดลมมี Sky walk เชื่อมต่อไปตรงแยกราชประสงค์และไปสยามได้เลย ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ดีในระดับ Super Luxury ด้วยทำเลที่มีความเพียบพร้อมก็ย่อมส่งผลต่อราคาที่เฉลี่ยทั้งโครงการ (เฉพาะ The tower) อยู่ที่ 350,000 ต่อตารางเมตร โดยห้องขนาดเร่ิมที่ 33 ตร.ม. ซึ่งงบที่จะเป็นเจ้าของโครงการนี้ได้ต้องมีเงิน 11 ล้านขึ้นไปครับ ส่วนการตัดสินใจซื้อนั้นคงไม่ใช่เรื่องราคาอย่างเดียวครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าทำเลย่านนี้เป็นใจกลางเมืองแท้ๆ มีความเพียบพร้อมเกือบจะทุกด้าน โครงการที่เปิดใหม่ๆก็ไม่ค่อยมี ถ้าต้องการแบบบ้านพร้อมที่ดินย่านนี้ก็หายากไปอีกหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ และเป็นย่านที่มีราคาต่อตารางวาแพงที่สุดในประเทศ รวมไปถึงรูปแบบโครงการที่ออกแบบมาดี ทำให้การติดสินใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับว่าจะตัดสินใจเลือกจากปัจจัยใดขึ้นอยู่กับอารมณ์ล้วนๆ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยชิดลมที่เป็นซอย One way เข้าได้จากฝั่งถนนเพชรบุรีวิ่งไปแยกชิดลม การเดินทางถ้าคนไม่ค่อยได้ใช้เส้นทางย่านนี้อาจจะงงบ้างเพราะบางเส้นเป็น One way บ้างจุดห้ามเลี้ยวซ้าย-ขวา โดยหลักๆ เส้นเพลินจิตจะใช้ไปได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท อโศก หรือออกนอกเมืองไปทางบางนา สมุทรปราการ และอีกฝั่งไป ไปแยกราชประสงค์ สยาม ได้ และแยกเข้าราชดำริไปออกพระรามสี่ได้เลย เส้นวิทยุก็จะวิ่งไปออกเพชรบุรีได้เส้นนี้วิ่งไปประตูน้ำ ไปเข้าราชปรารภได้ อีกฝั่งจะไปคลองตัน รามคำแหง พัฒนาการ นอกจากนี้ยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครอีกด้วยครับ ส่วนเรื่องการจราจรติดขัดก็ต้องมีอยู่แล้วครับแต่จะหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนคือออกมาหน้าโครงการก็ติดแล้ว คงต้องเพื่อเวลากันด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS ชิดลมประมาณ 280 ม. เป็นระยะที่เดินได้สบายๆมีทางเท้าตั้งแต่หน้าโครงการยาวไปจนถึงทางขึ้นสถานีเลย Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ก็โบกขึ้นหน้าโครงการได้เลยสะดวกดี รถเมล์ต้องออกมาเส้นสุขุมวิท และเส้นเพชรบุรี มีรถวิ่งผ่านเข้า-ออกเมืองหลายสาย วิ่งเกือบทั้งคืน นอกจากนี้ยังใกล้ท่าเรือชิดลมระยะเดินประมาณ 250 ม. ค่อนข้างมีตัวเลือกหลากหลายดีครับ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 2 อาคาร คือ The Villa 20 ชั้น และ The Tower 47 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 3-0-24 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมวางซ้อนกัน 2 อาคาร ตัวอาคารออกแบบ Facade อาคารให้มีลักษณะเสมือน Jewel-box Facade ที่มีส่วนยื่นออกมาไม่ได้เรียบเสอมกันทั้งอาคาร ทำให้ดูมีมิติ ส่วนที่ยื่นออกมาผนังเป็นกระจก Full height ทำให้ห้องเหมือนเป็นห้องมุมแม้ตำแหน่งไม่ได้อยู่ที่มุมอาคารครับ นอกจากนี้ยังแนวคิดหลักโครงการยังออกแบบให้เป็น “An Urban Oasis” ใจกลางเมือง ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดของโครงการ โดยออกแบบให้มีการเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่สีเขียวทั้งภายนอก และภายในอาคาร (A Series of Courtyard) เพิ่มความรื่นรมย์ให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างลงตัว
การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกตั้งแต่ Studio ขนาด 33 ตร.ม. , 1 Bedroom ขนาด 40 – 50 ตร.ม. , 2 Bedroom ขนาด 69 – 91 ตร.ม. , 3 Bedroom ขนาด 120 – 200 ตร.ม. , Duplex 1 Bedroom 50 ตร.ม. , Penthouse 100 – 190 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่งไม่อึดอัด ฝ้าสูง 3.1 ม. โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้อ่างล้างจานของ Teka ฝังท็อป ท็อบเป็น Composite marble ก๊อกนำ้ของ Grohe ได้ไมโครเวฟ และ Hob & Hood ของ kuppersbusch ตู้เย็น Built-In ของ Electrolux สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ TOTO ส่วนก๊อกน้ำจะเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Grohe มีฉากกั้นส่วนเปียกให้ พื้นห้องน้ำและผนังเป็นหินอ่อนทั้งหมด แอร์ได้แบบ Ceiling Concealed Type ทุกส่วน พื้นส่วนครัวเป็นหินอ่อน ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineer Wood หนา 14 มม. บานกระจกได้ Full height และเป็น Insulated Glass
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 , 12 และ44 มี Lobby & Lounge มีทางเดินเชื่อมไป Courtyard เชื่อมกันทั้ง 2 อาคาร (A Series of Courtyard) สวนมีพื้นที่นั่งพักผ่อน มีสระน้ำเพิ่มบรรยากาศ ที่ชั้น 12 มี Spa Pool , Steam , Sauna ที่ชั้น 44 จะเป็น Facility ทั้งชั้น มีสระว่ายน้ำขนาด 20 x 6.8 ม. พร้อมส่วนนั่งแช่ มีสะเด็กแยกส่วนมุมด้านหลังอาคารขนาด 7.3 x 7.65 ม. และมีที่นั่งรอสำหรับผู้ใหญ่ไว้ดูแลเด็กๆ มุมอีกฝั่งจัดเป็นห้องฟิตเนส แบ่งเป็น 2 ชั้น และที่อาคาร The Villa ชั้น 18 จะมีสวนหย่อมมาด้วย ลูกบ้านสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้ง 2 อาคารครับ ลิฟต์โดยสารมีให้ 4 ตัว ลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถอาคาร The Villa จะเป็นชั้นใต้ดิน 6 ชั้น จอดได้ 232 คัน(ไม่รวมซ้อน) และที่อาคาร The Tower จะเป็นที่จอดรถอัตโนมัติมีช่องจอด 3 ช่อง จอดได้ 126 คัน ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | อยู่ใจกลางเมือง มีความเพียบพร้อมทุกด้าน |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | ห่างจาก BTS ชิดลม ประมาณ 280 ม. รถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi เรือ |
ห้องและวัสดุ | 9.0 | ออกแบบมาดี มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง วัสดุใช้ของดีสมราคา เก็บรายละเอียดได้ดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | Facility มี Lobby , สวนหย่อม , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | รูปแบบโครงการออกแบบมาดี อยู่ในทำเลใจกลางเมือง การตัดสินใจซื้ออยู่แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.41 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1749
Website : http://www.scasset.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น