EP.282 รีวิว แอชตัน สีลม Ashton Silom ราคาเริ่มต้น 7.7 ล้านบาท
Written By : Som Sawarose Khaisilp
สวัสดีค่า ผู้อ่าน Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เรามีรีวิวโครงการ Ashton Silom คอนโดหรูสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่สีลมซึ่งครองแชมป์ราคาประเมินที่ดินสูงสุดในประเทศมายาวนาน เนื่องจากเป็นทำเล CBD โซนใจกลางกรุงเทพฯซึ่งมีความสะดวกสบายสูง และที่ดินเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้กลายเป็นทำเลระดับ Prime อันเป็นที่ต้องการจากผู้ซื้อกำลังสูงตลอดมา
ตัวโครงการอยู่ห่างจาก BTS ช่องนนทรี ในระยะเดินประมาณ 350 เมตร ตัวอาคารออกแบบด้วยคอนเซ็ป “New Sculpture Building” ครั้งแรกกับการเปิดมุมมองของที่อยู่อาศัยในรูปทรงอาคารสูง ดูโดดเด่น ทันสมัย สะท้อนวิสัยทัศน์ของผู้ครอบครองได้อย่างลงตัว ด้วยนวัตกรรมใหม่ “Vertical Interlocking” นำเสนอยูนิตพิเศษโดยการเล่นระดับระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน พร้อมมอบฟังค์ชั่นการใช้งานในห้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แอชตัน สีลม เป็นคอนโด High-Rise สูง 48 ชั้น จำนวน 428 ยูนิต โดยมีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 31 – 86.5 ตร.ม. พร้อมชุดครัว, เครื่องปรับอากาศและสุขภัณฑ์แบบ Fully Fitted โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการครบครัน อาทิ Swimming Pool, Kid’s Pool, Onsen, Jacuzzi, Fitness, Private Fitness, Massage Room, Library, Private Theatre Lounge และ Business Lounge กล่าวได้ว่าเป็นโครงการที่นำทุกรายละเอียด ทุกความหรูหราแห่งการใช้ชีวิตมาไว้ในที่เดียว เพื่อความเป็นส่วนตัวเสมือนได้อยู่บ้านอย่างแท้จริง ห้องแบบ 1 ห้องนอน 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.7 ล้านบาท
คลิกเพื่อชมยูนิตพิเศษพร้อมสิทธิพิเศษและส่วนลดสูงสุดมูลค่า 850,000 บาท ที่นี่
โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
| ชื่อโครงการ | แอชตัน สีลม Ashton Silom |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ช่องนนทรี จำกัด |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ : 31-49.5 ตร.ม. – 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ : 71.5-86.5 ตร.ม. |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 2-1-44.3 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 48 ชั้น |
| จำนวนห้อง | – ห้องพักอาศัย 428 ยูนิต – ร้านค้า 1 ยูนิต |
| ที่จอดรถทั้งหมด | – ที่จอดรถชั้น 1M – 9 มีที่จอดทั้งหมด 309 คัน คิดเป็น 72% ของจำนวนยูนิตในโครงการ |
| โซน | สีลม |
| ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี 350 เมตร |
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. 10500 |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ก.พ. 2016 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | กำหนดเสร็จ ก.พ. 2019 |
| ราคา | เริ่มต้น 7.7 ล้านบาท |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ราคาเฉลี่ย 250,000 บาท/ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน | – เงินกองทุนรวม 850 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์- ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม. ชำระล่วงหน้า 1 ปี |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก | – Lobby – Swimming Pool- – Kid’s Pool – Onsen, Jacuzzi – Fitness – Private Fitness – Massage Room – Library – Business Lounge – Access Card Control – CCTV |
| จุดเด่นของโครงการ | คอนโด แอชตัน สีลม Ashton Silom คอนโดหรูสร้างเสร็จพร้อมอยู่ บนทำเลใจกลาง CBD ติดถนนสีลม ใกล้ BTS ช่องนนทรี ราคาเริ่มต้น 7.7 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. 10500
พิกัด google map : 13.726014, 100.526975
โครงการ แอชตัน สีลม เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ในทำเลติดถนนใหญ่สีลม ซึ่งเป็นทำเลโครงการแบบตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนรายได้สูงที่อยากได้ทำเลที่สะดวกสบายใจกลางเมือง ใกล้โรงเรียนดีๆสำหรับลูกๆ เพื่อเอาไว้อยู่เอง และยังตอบโจทย์นักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรปล่อยเช่ากลุ่มชาวต่างชาติระดับบนซึ่งส่วนใหญ่มองหาคอนโดมิเนียมในโซน CBD ชั้นในที่ใกล้รถไฟฟ้าและมีความสะดวกสบายสูงใกล้แหล่งที่ทำงาน และวิวสวย ซึ่งทำเลโซนสีลมนี้ถือเป็นทำเลทองยอดนิยมของชาวต่างชาติอยู่แล้ว
สำหรับนักลงทุนที่สนใจจะลงทุนปล่อยเช่าคอนโดฯในโซนกลางเมืองหรือโซน CBD นั้น แหล่งผู้เช่าชั้นดีคือตลาด Expat ค่ะ Expat ย่อมาจากคำว่า “expatriate” หมายถึง คนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน โดยมากจะเข้ามาเพื่อหางานทำ พูดง่ายๆว่าเป็นพวกคนต่างชาติที่ทำงานในไทยนั่นเองค่ะ ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นกลุ่มเป้าหมายของคนที่ซื้อคอนโดในใจกลางเมืองเพื่อปล่อยเช่านะคะ
บรรดา Expat ที่เข้ามาทำงานในไทย กว่าร้อยละ 70 เข้ามาทำงานในตำแหน่งงานระดับผู้จัดการขึ้นไป และแรงงานที่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ เช่น งานวิชาชีพ (Professionals) จากข้อมูลโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยสำรวจมาว่ากลุ่มอาชีพข้างต้นมีเงินเดือนสูงได้ถึงราว 300,000 บาท นอกจากนี้กลุ่ม Expat ยังได้รับสวัสดิการจากนายจ้าง ด้านสาธารณสุข การศึกษา และ ด้านอื่นๆ สำหรับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นการเอื้อต่อธุรกิจค้าปลีกและบริการในไทยอีกด้วย
การเลือกทำเลคอนโดเพื่อลงทุนปล่อยเช่าเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะ ถ้าทำเลไม่ดี ขายยาก ปล่อยเช่ายาก ราคาก็ไม่ขยับ แต่ถ้าคอนโดทำเลดี ราคามักจะสูง ปล่อยเช่าก็ง่ายมีคนเช่าตลอดค่ะ การเลือกทำเลเพื่อปล่อยเช่านั้นต้องดูกลุ่มคนที่เราต้องการให้ปล่อยเช่าเป็นหลักค่ะ
ถ้าให้เปรียบเทียบในแง่รายได้แล้ว แหล่งปล่อยเช่าที่ทำเงินได้ดีเสมอคือแหล่งใกล้โซน CBD หรือในตัวเมือง ใกล้ที่ทำงานค่ะ เนื่องจากการปล่อยเช่ากลุ่มคนทำงาน จะมีความมั่นคงสูง และมีรายได้แน่นอนและมีกำลังซื้อแน่นอนกว่านั่นเอง ทำเลสีลมเป็นทำเล CBD ที่ครองแชมป์ราคาประเมินที่ดินสูงสุดในประเทศมายาวนาน
รวมถึงปีล่าสุด กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจัดทำบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างในรอบบัญชีปี 2559-2562 สีลมก็ยังคงรักษาแชมป์เอาไว้ได้ด้วยราคาที่ดินถูกปรับขึ้น 4.1% หรือ 1 ล้านบาทต่อตารางวา แต่ราคาประเมินกับราคาซื้อขายจริงนั้นมีความแตกต่างค่อนข้างมากนะคะ โดยราคาตลาดที่ดินทำเลสีลมปี 59 เฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่ 1.65 ล้านบาทต่อตารางวา หรือมากกว่าราคาที่กรมธนารักษ์ประเมินถึง 65% ทีเดียว
นอกจากสีลมจะเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของประเทศแล้ว จากโครงการ Ashton Silom ในระยะ 1.2 กม. หรือนั่งรถไฟฟ้าสถานีเดียวจากโครงการ คือจาก BTS ช่องนนทรี มา ศาลาแดง ก็จะถึงสวนลุมพินีแล้วค่ะ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ขนาดกว่า 360 ไร่ และเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย เปิดให้บริการมา 91 ปีแล้วค่ะ
ในอดีต ย่านสีลมเป็นคันดินที่เกิดจากการขุดคลองเพื่อเชื่อมคลองบางรักกับคลองถนนตรง มีการทำคันดินให้เป็นถนน ซึ่งมีชาวต่างชาตินำเครื่องสีลม มาวิดน้ำจากคลอง เลยเป็นที่มาของชื่อถนนแห่งนี้ ก็เป็นถนนเส้นแรก ๆ ที่ตัดในกรุงเทพมหานคร ตอนนี้ก็อายุร้อยกว่าปีแล้วค่ะ ถือเป็นถนนที่เจริญและมั่งคั่งของกรุงเทพมหานครมายาวนาน
สำหรับคนไม่ใช้รถ โครงการ Ashton Silom จัดว่ามีความสะดวกสบายสูง การมาของรถไฟฟ้า MRT และ BTS ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ถนนสีลม บริเวณแยกศาลาแดง ช่องนนทรี และบางรัก ส่งผลมหาศาลต่อแนวทางการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีก โรงแรม ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงาน ภายในทำเลนี้นะคะ เพราะช่วยดึงดูดทั้งนักธุรกิจภายในประเทศและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนเปิดบริษัททำการค้ากันย่านนี้อย่างคับคั่ง เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบายเข้าถึงได้ง่ายของทำเลนั่นเอง
ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี เพียง 350 m. เพียงสถานีเดียวถึง BTS ศาลาแดง จุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า MRT สายสีลม ที่สามารถเดินทางไปยังแหล่ง CBD ต่างๆได้สะดวกง่ายดาย อย่างสยาม ชิดลม สาทร สีลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เนื่องจากอยู่ในใจกลางเมืองด้วยกันอยู่แล้วนั่งไปสถานีสองสถานีก็ถึง เช่นจากโครงการนั่งไปเพียง 3 สถานีก็ถึง สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัลเวิร์ลแล้วค่ะ นอกจากนี้แถวหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ผ่านให้เห็นกันอยู่ตลอด
จากแผนที่สถานที่สำคัญใกล้โครงการด้านบนจะเห็นว่า ทำเลโครงการ Ashton Silom อยู่ติดถนนใหญ่สีลม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร โดยถูกเปรียบเทียบเป็นวอลล์สตรีทของกรุงเทพฯ เนื่องจากเต็มไปด้วยโรงแรมห้าดาวและบริษัทชั้นนำต่างชาติ สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มาเปิดสำนักงานใหญ่ที่นี่ สถานฑูต สถาบันทางวัฒนธรรม ตลอดจนศูนย์การค้าและบรรดาโรงเรียนชั้นนำของประเทศ ในแผนที่แค่ใส่ชื่อสิ่งอำนวยความสะดวก โรงแรมและอาคารสำนักงานบางส่วนมาเท่านั้นนะคะ จริงๆยังมีอาคารสำคัญๆทางประวัติศาสตร์อีกมาก
นอกจากนี้ยังเป็นถนนท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งซื้อสินค้าและขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวตามบาทวิถีในเวลากลางคืน แถมสองฝั่งถนนใหญ่สีลมก็มีร้านอาหารคุณภาพดีๆและมีคอนเซ็ปร้านเก๋ๆให้ลองไปทานกันเยอะทีเดียว
สถานที่สำคัญใกล้โครงการ เช่น
สำหรับคนใช้รถ ที่ตั้งโครงการ Ashton Silom อยู่ติดถนนใหญ่สีลม ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกสีลม – นราธิวาส สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง เพราะถนนรอบๆจะเชื่อมต่อกันแทบทั้งหมดค่ะ แต่จะมีถนนสุรวงศ์, มเหสักข์ และสี่พระยา ซึ่งเป็นถนน One Way หรือวิ่งทางเดียวตามที่เห็นในแผนที่ด้านบน นะคะ ต้องศึกษาก่อนเดินทางกันหน่อย ไม่อย่างนั้นวิ่งไปแล้วต้องวนกลับมาที่เดิมอย่างที่เห็น
ถึงจะเป็นถนนในเมืองอยู่แล้ว วิ่งไปไหนมาไหนในเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นระยะวิ่งรถสั้นๆก็จริง แต่เพราะเป็นใจกลางเมือง เต็มไปด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล อาคารสำนักงานมากมาย บวกกับมีสี่แยกเยอะ ทำให้การจราจรในเวลาเข้าออกค่อนข้างแน่นอยู่ ก็ต้องศึกษาเส้นทางกันดีๆค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
อีกจุดเด่นของโครงการ Ashton Silom คือการที่อยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชเพียง 1.4 km. ทำให้การเดินทางมาโครงการจากทางด่วนนั้นใช้เวลาโดยประมาณเพียง 6 นาทีเท่านั้น
วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกันก่อน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนพระราม 4 → แยกศาลาแดง→ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลม → มุ่งหน้ามาทางแยกสีลม – นราธิวาส → เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ → ตรงมาเลยโรงแรม Pullman มาประมาณ 100 เมตร จะเจอโครงการ Ashton Silom อยู่ทางซ้ายมือแล้วค่า
เริ่มเดินทางกันจากถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปทางแยกศาลาแดง พอเจอโรงแรมดุสิตธานีก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสีลม
พอถึงแยกก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลมค่ะ ติดกับโรงแรมดุสิตธานีจะเห็น รถไฟฟ้า MRT สถานีสีลมอยู่ ข้างๆจะมีทางเดินเชื่อม Sky Walk จาก MRT สีลม ไป BTS ศาลาแดงอยู่
พอตรงเข้าถนนสีลมมา ซ้ายมือเราจะเห็นสีลม คอมเพล็กซ์ ซึ่งก็เป็นห้างที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 850 เมตรเท่านั้นนะคะ เรียกได้ว่าถ้าชอบเดินก็เดินมาได้สบายๆเลย ภายในจะมีห้างเซ็นทรัลและร้านอาหารมากมาย ถ้าไม่ชอบเดินก็นั่ง BTS มาลงสถานี ศาลาแดง ค่ะ ห่างจากโครงการสถานีเดียว
ตรงไปอีกหน่อยซ้ายมือจะเห็นซอยคอนแวนต์ ที่ภายในซอยมีโรงเรียนเซนต์โยเซฟ และร้านอาหารมากมาย หัวมุมซอยจะเห็นตึก CP แค่ยกตัวอย่างให้ดูนะคะ ระหว่างที่ขับมาจะเห็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เรียงรายเต็มไปหมด
เราวิ่งตามรางรถไฟฟ้า BTS มาตรงๆเรื่อยๆ พอเราเห็นรางรถไฟฟ้าเลี้ยวซ้ายไปสถานีช่องนนทรีแบบนี้ หมายความว่าข้างหน้าเราเป็นแยกสีลม – นราธิวาสแล้วค่ะ เราก็ตรงต่อไป
จากแยกสีลม – นราธิวาสนี่อยู่ห่างจากโครงการ Ashton Silom เพียง 100 เมตรเท่านั้น จากแยกนี่มองไปก็จะเห็นตึกโครงการ Ashton Silom ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้ว และ โรงแรม Pullman แล้ว
เราตรงไปเพื่อกลับรถนะคะ ก็มองขวามือไว้ค่ะ
เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ
พอกลับรถมาแล้วเราขับตรงผ่านแยกเดโชไป
ตรงเลยแยกเดโชมาหน่อยก็จะเจอโรงแรม Pullman Bangkok และโครงการ Ashton Silom แล้วค่ะ เราเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย
โดยโครงการ Ashton Silom ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วและตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สีลมเลย ก่อนเข้าไปดูโครงการกัน เรามีพาไปเดินดูบรรยากาศทางเดินเท้าจาก BTS ช่องนนทรีมาโครงการกันก่อนด้วยค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาเดินจากรถไฟฟ้า BTS สถานี ช่องนนทรี ไปโครงการ Ashton Silom กันต่อ จะได้เห็นภาพรวมทำเลที่มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูง ในระยะเดินจะมีโรงแรม อาคารสำนักงานและร้านอาหารมากมาย ในระยะเดินจาก BTS ไปโครงการนี่ก็จะเจอร้านอาหารอยู่หลายร้านทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้ถนนสีลมยังถือว่าเป็นถนนที่น่าเดินแห่งนึงของกรุงเทพนะคะ เนื่องจากเป็นถนนสายแรกของประเทศที่นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งหมดแทนการใช้เสาไฟฟ้า มีแนวต้นไม้ใหญ่ที่สร้างความร่มรื่นทั้งบนเกาะกลางและฟุตบาท 2 ฝั่งทางยาวตลอดเส้น จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
เริ่มเดินกันจากบันไดทางลง BTS สถานี ช่องนนทรี ประตู 3 ซึ่งเป็นทางลงที่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ
ข้างบันไดทางขึ้น BTS ช่องนนทรีนี้จะมีร้านกาแฟ Dean & Deluca สาขาใหญ่ด้านหน้าโครงการ Mahanakhon Cube อยู่ เป็นร้านกาแฟใหญ่บรรยากาศดี เปิดตั้ง 7 โมงเช้าถึงห้าทุ่มนะคะ ด้านในมีทั้งเค้ก อาหาร ขนมปัง และอื่นๆอีกมาก
ภายใน Dean & Deluca Mahanakhon Cube ค่ะ จะเห็นว่ามีขายช็อกโกแลต คุ้กกี้ แยม ชีส และวัตถุดิบปรุงอาหารอื่นๆอีกหลากหลาย และภายในร้านก็กว้างขวางทีเดียว มีชั้นสองด้วยนะคะ เสิร์ฟไวน์และแชมเปญด้วย
ลงมาจาก BTS ทางประตู 3 แล้ว เราเดินตรงไปตามทิศการวิ่งรถเลยค่ะ
ถัดมาจะเจอร้าน Gallery & Ten Shop ขายของนำเข้าจากญี่ปุ่น พวกถ้วยชา เป็นต้น ข้างทางเท้าติดถนนใหญ่สีลมนี่จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านอาหารอยู่หลากหลายเลยค่ะ
เดินถัดมาหน่อยก็จะเป็นร้านน้ำเต้าหู้ หย่งเหอ ซึ่งจริงๆขายอาหารจีนหลากหลายเมนูนะคะ ทั้งติ่มซำ เกี๊ยวซ่า ผัดผัก เสี่ยวหลงเปา แต่จุดเด่นคือทางร้านทำเต้าหู้เอง และมีเมนูเด็ดหลายเมนูทำจากเต้าหู้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้สด หรือเต้าหู้เผ็ดเสฉวน
ถัดมาจะเป็นร้านนวดสปาอยู่ เราเดินตรงไปเรื่อยๆนะคะ จะเจอร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่เรื่อยๆ แต่เส้นถนนนราธิวาสนี้ร้านอาหารจะเยอะหน่อยค่ะ อีกฝั่งนึงก็มีร้านอาหารอีกหลายร้าน พร้อมโรงแรมไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว
เราเดินตรงมาอีกหน่อยจะเจอแยกสีลม – นราธิวาสแล้วค่ะ เราข้ามทางม้าลายไปถนนสีลมอีกฝั่งตามลูกศร
ข้ามทางม้าลายมองซ้ายมองขวาดีๆนะคะ จะมีเกาะกลางถนนให้หยุดพักอยู่แบบนี้
พอข้ามมาแล้วจุดสังเกตคือร้านนวดชื่อ Massage And Barber ที่อยู่ตรงหัวมุมแยกเลย
เดินมาหน่อยจะเป็นร้านอาหารอินเดียและบาร์ในตัวชื่อ Cafe’ the India ราคาอยู่ที่จานละประมาณ 200 – 300 บาท ใครชอบทานอาหารอินเดียก็น่ามาลองดูนะคะ ดูมีเมนูให้เลือกหลากหลายดี
ถัดมาจะเป็นร้านอาหารจีนเชียงการีล่าค่ะ เป็นร้านอาหารจีนเก่าแก่บนถนนสีลม มีเมนูอาหารจีนอย่างเช่น ติ่มซำต่างๆ, เป็ดปักกิ่ง, ยำแมงกะพรุนน้ำมันงา, แปะก๊วยรังนก เป็นต้น
ถัดจากร้านอาหารจีนเชียงการีล่า เราเดินมาอีกนิดก็จะถึงส่วนด้านหน้าทางเข้าโครงการ Ashton Silom แล้วค่ะ
ก็จะถึงทางเข้าโครงการ Ashton Silom แล้วค่ะ โดยโครงการจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สีลมเลย
รอบโครงการ
โครงการ Ashton Silom ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สีลม รอบๆมีอาคารหลากหลายประเภทค่ะ ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม และ อาคารสำนักงาน ตามลักษณะ CBD ชั้นในส่วนมาก โดนด้านหน้าของโครงการจะอยู่ติดถนนสีลมฝั่งขาเข้า ห่างจากสี่แยกสีลมนราธิวาสประมาณ 100 เมตร
ติดกับที่ดินโครงการ นอกจากถนนใหญ่สีลมทางทิศใต้แล้ว ทิศเหนือจะเป็นบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น ทิศตะวันออกหรือฝั่งขวามือของภาพจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3 – 4 ชั้น ส่วนทิศตะวันตกจะมีที่ดินบุคคลอื่นคั่นอาคารสำนักงานสูง 7 ชั้นและโรงแรม Pullman Bangkok และอาคารแนวราบสูง 1 – 3 ชั้น
สำหรับเรื่องวิวในแต่ละทิศส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาค่ะเพราะส่วนที่พักอาศัยของโครงการเริ่มต้นที่ชั้น 10 และบริเวณรอบๆ ติดที่ดินโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบเกือบทั้งหมดและมองออกไปได้ไกล เราไปดูภาพรอบๆที่ดินโครงการกันต่อค่ะ
จากด้านหน้าที่ดินโครงการมองออกไปทางทิศใต้ที่ติดถนนสีลม มองออกไปวิวที่เราจะได้เป็นวิวเมืองฝั่งสาทรค่ะ หนึ่งในวิวเมืองสวยๆที่เราจะเห็นคือคอนโดมหานคร ที่ออกแบบโดย OMA เป็นอาคารแบบ Pixel แบบนี้ ก็เป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมที่ราคาแพงที่สุดในประเทศไทยตอนนี้นะคะ
ภาพวิวมุมสูงฝั่งทิศใต้ ด้านหน้าโครงการค่ะ วิวทิศใต้นี้มองไปจะเห็นวิวเมืองที่สวยงามฝั่งสีลมและสาทร จะเห็นตึกมหานครและรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดอยู่ด้วย
จะเห็นทางเดินเท้าหน้าโครงการติดถนนใหญ่สีลมแบบนี้ โดยจะปลูกต้นไม้ไว้เป็นแนวพร้อมเสาโคมไฟข้างทางสำหรับตอนกลางคืน
มองไปทางทิศตะวันออก ติดที่ดินโครงการจะเป็นตึกแถวและบ้านสูงไม่เกิน 4 ชั้น ถัดออกไปคั่นด้วยถนนนราธิวาส จะเป็นอาคาร ITF สูง 27 ชั้นแลั 32 ชั้น ทิศนี้จะมองออกไปทางฝั่งถนนสีลมวิ่งไปพระราม 4 และสวนลุมพินีค่ะ
ทิศตะวันตก ถัดจากที่ดินบุคคลอื่นไปจะเป็นอาคารสำนักงานสูง 7 ชั้น และโรงแรม Pullman Bangkok สูง 38 ชั้น และอาคาร AIA ทิศนี้จะมองออกไปทางฝั่งถนนสีลมวิ่งไปทางด่วนขั้นที่สอง และยังเป็นทิศที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย จัดเป็นอีกทิศที่มีวิวที่สวยนะคะ
ตัวโครงการ
โครงการ แอชตัน สีลม เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่แบบ High-Rise สูง 48 ชั้น จำนวน 428 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินติดถนนใหญ่สีลมขนาด 2-1-44.3 ไร่ ตัวโครงการออกแบบมาโดยใช้พื้นผิวภายนอกเป็นกระจกลามิเนตแบบ Teint Gray ช่วยกรองแสงให้ห้องสว่าง แต่ไม่จ้าหรือร้อนจากแดด พิเศษคือด้านนอกอาคารมองเข้ามากระจกจะสะท้อนเงาด้านนอก ทำให้ภายในอาคารมีความเป็นส่วนตัว และกระจกสีดำแบบ Reflective ทำให้ตอนกลางคืนเวลาเปิดไฟเกิดเป็นเอฟเฟ็คของอาคารที่สว่างออกมาแตกต่างจากอาคารรอบข้าง
เอาภาพโมเดลโครงการ Ashton Silom ตัวอาคารเป็นตึกสูง 48 ชั้น ทางเข้าติดถนนใหญ่สีลม ที่จอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1M – ชั้น 9 ส่วนยูนิตที่พักอาศัยอยู่ชั้น 10-33 และ 35-47 โดยพื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะมีอยู่ 4 ชั้น ดังนี้
ภาพจำลองมุมมองภายนอกอาคาร ที่ออกแบบตามคอนเซ็ป A COURAGEOUSINNOVATION ครั้งแรกกับนวัตกรรมการออกแบบด้วยแนวคิด Vertical Interlocking หรือการออกแบบเพิ่มลดระดับพื้นที่แนวตั้ง ซึ่งช่วยเปิดมุมมองของการอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับ ด้วยความสูงของห้องนั่งเล่นแบบ 2 ห้องนอนถึง 3.6 เมตร สามารถมองเห็นวิวเมืองจากมุมที่น่าประทับใจในห้องพัก พร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด
มาดูผังของโครงการชั้นล่างกันก่อนค่ะ จากถนนใหญ่สีลมเมื่อเข้าโครงการมาจะผ่านป้อม รปภ. มาจะมีจุด Drop off หน้า Lobby ตรงไปจะเป็นทางไปที่จอดรถ โดยที่จอดรถของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1M – 9 มีที่จอดทั้งหมด 309 คัน คิดเป็น 72% ของจำนวนยูนิตในโครงการค่ะ
เข้ามาด้านในอาคารจะเป็นส่วนของ Lobby, Shop Unit, Lounge, ห้องจดหมาย, มีลิฟต์โดยสารให้ 5 ตัว แบ่ง core ฝั่งนึง 3 ตัว ฝั่งนึง 2 ตัว เทียบกับจำนวนยูนิตที่พักอาศัยในโครงการคือ 428 ห้องก็ถือว่าให้มาสบายๆเลยค่ะ ลิฟต์บริการมี 2 ตัวแยกฝั่งละตัว ทางเข้าออกแยกกันต่างหากจากจากลิฟต์โดยสาร
ภายนอกอาคารเป็นกระจกเทมเปอร์และกระจกสีดำแบบ Reflective ทำให้ตอนกลางคืนเวลาเปิดไฟเกิดเป็นเอ็ฟเฟ็คของอาคารที่สว่างออกมาแตกต่างจากอาคารรอบข้าง
ภาพจำลองส่วนสะพานทางข้ามหน้าโครงการที่ถูกประสานเข้าด้วยกัน เผยให้เห็น alfresco living plaza และนำไปสู่สวนเขียวขจีกลางแจ้ง ถือเป็น landmark อันโดดเด่นอย่างชัดเจน
ซุ้มทางเข้าออกโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ จะเห็นชื่อโครงการ Ashton Silom ติดอยู่พร้อมสวนหย่อม ด้านในเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิของโครงการ ถัดไปเป็นป้อมรปภ.
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนด้านหน้าโครงการจัดสวนไว้ร่มรื่นด้วยสวนแบบ Alfresco Living Plaza ที่โดดเด่น เป็นสวนที่มีสองระดับ ด้านล่างมีพื้นที่พักผ่อนล้อมด้วยสวนและน้ำตกแบบไม่ซ้ำใคร ด้านบนเป็นเหมือนสะพานล้อมด้วยสวน รอบๆอาคารจะล้อมด้วยสวนหย่อมและต้นไม้ทำให้บรรยากาศของโครงการร่มรื่น
ที่สวนด้านหน้าโครงการจะมีสนามหญ้าลดระดับเป็นขั้นบันไดลงไปส่วนที่นั่งพักผ่อนในสวนด้านล่าง
ด้านล่างในสวนออกแบบมาเหมือนถ้ำและน้ำตกค่ะ ติดไฟที่เพดานสำหรับตอนกลางคืนมาให้เรียบร้อย มีมุมให้นั่งพักผ่อนมาหลายจุด ใช้นั่งพักผ่อนและชมวิวสวนได้ ทั้งๆที่อยู่ติดถนนใหญ่สีลมที่เป็นเต็มไปด้วยรถรา แต่เสียงของน้ำตกและการลดระดับสวนลงมา ช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ และลดเสียงของรถภายนอกได้ดี
จากทางเดินริมถนนใหญ่สีลม จะมีสเต็ปบันไดขึ้นสะพานผ่านสวนเข้าไปยังหน้าทางเข้าล็อบบี้อาคารได้
บนทางเดินด้านหน้าโครงการมีราวกันตกกระจกเทมเปอร์เปลือย ให้ความรู้สึกเหมือนสะพานข้ามสวน
วันที่เข้าไปถ่ายทำ ภายนอกและภายในอาคารบางส่วนยังอยู่ในช่วงเก็บความเรียบร้อยกันอยู่ เราเอาภาพโมเดลมาให้ดูกันก่อนนะคะ ด้านข้างโครงการ จะเห็นส่วนที่เป็นที่จอดรถชั้น 1M – 9 ต่อด้วยยูนิตที่พักอาศัยที่ชั้น 10 ขึ้นไป จากโมเดลจะเห็นว่าพื้นผิวโครงการใช้วัสดุหลากหลายนะคะ ทั้งกระจกเทมเปอร์, กระจกเงา, กระจกสีดำสะท้อนและ Vertical Garden ส่วนลานจอดรถ
ด้านหลังโครงการค่ะ จะเห็นส่วนที่เป็นที่จอดรถชั้น 1M – 9 ภายนอกอาคารส่วนนี้จะเป็น Vertical Garden และมีเว้นช่องแสงและช่องลมเอาไว้แบบนี้
เข้ามาจะมีทางเข้าล็อบบี้สองจุด ซ้ายมือของภาพคือประตูที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้อยากเจอคนเยอะ ไม่อยากผ่านโซนที่นั่งพักผ่อนชั้นล่าง ประตูซ้ายคือเดินไปขึ้นลิฟต๋ได้เลยโดยไม่ได้ผ่านโซนที่นั่งรอนั่นเอง ส่วนประตูขวามือเป็นทางเข้าล็อบบี้หลักค่ะ คือเข้ามาจะเชื่อมต่อกับส่วนที่นั่งพักผ่อน ห้องจดหมาย และสำนักงานนิติบุคคล
ประตูทางเข้าล็อบบี้เป็นประตูบานเปิดคู่บานสูง ความพิเศษคือพื้นผิวภายนอกเป็นกระจกลามิเนตแบบ Teint Gray ช่วยกรองแสงให้ห้องสว่าง แต่ไม่จ้าหรือร้อนจากแดด พิเศษคือด้านนอกอาคารมองเข้ามากระจกจะสะท้อนเงาด้านนอก ทำให้ภายในอาคารมีความเป็นส่วนตัว เข้าไปดูภายในอาคารกันต่อค่ะ
เข้ามาในส่วน Lobby ที่เรียกว่า Objets’ D’Art Lobby ที่ตกแต่งด้วยคอนเซ็ป Time Pause และชิ้นงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อสะท้อนการหยุดทุกช่วงเวลาแห่งความเร่งรีบไว้ภายนอกและเริ่มต้นผ่อนคลายอย่างไร้กาลเวลา
ล็อบบี้โครงการเป็นล็อบบี้เพดานสูง ตกแต่งด้วยงานศิลปะตามคอนเซ็ป Time Pause หรือหยุดเวลา ก็จะเป็นงานศิลปะที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้ตกแต่ง Lobby ของโครงการค่ะ
ที่ล็อบบี้จะมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการลูกค้า ให้ข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่างอยู่ค่ะ ด้านข้างจะมีเคาน์เตอร์สีดำของ The Agent ที่คอยดูแลเรื่องการ Resale และการปล่อยเช่าให้ลูกค้าอยู่ด้วย สำนักงานขายเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นค่ะ ใครสนใจดูห้องตัวอย่างก็แวะเข้ามาดูกันได้
ล็อบบี้นอกจากจะมีเพดานสูงโปร่งแล้วยังมีขนาดกว้างขวาง ภายในล็อบบี้วางชุดโซฟา และชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้หลายชุด
ชุดโซฟาสไตล์โมเดิร์นอิตาลีให้ลุคที่ดูเรียบแต่หรูหรา แต่ในขณะเดียวกันก็นั่งสบาย ใช้รับแขกหรือนั่งพักผ่อนได้ดี
มีชุดโต๊ะเก้าอี้มาให้อีกหลายชุดค่ะ
ฝั่งซ้ายมือจะมีทางเข้าโถงลิฟต์โดยสารยูนิตส่วนด้านหน้าอาคาร ที่ตกแต่งด้วยงานศิลปะตามคอนเซ็ป Time Pause หรือหยุดเวลา
โถงลิฟต์โดยสารยูนิตส่วนด้านหน้าอาคารมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
ถัดเข้ามาจะเจอห้องจดหมายอยู่ทางขวามือ และสำนักงานนิติบุคคลของอาคารทางซ้ายมือ
ภายในห้องจดหมายตกแต่งมาสวยงามด้วยวัสดุลายไม้ และกว้างขวางดีค่ะ
ถัดมาเป็นสำนักงานนิติบุคคล
ถัดมาเป็นโถงด้านหน้าทางเข้าลิฟต์โดยสาร จะเห็นว่ากว้างขวาง และมีที่นั่งมาให้ด้านหน้า
ถัดไปจะมี Smart Locker ให้คนในโครงการมาใช้งานกันได้
ถัดจาก Locker จะเป็นทางเดินไปห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชายของชั้น 1
เข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันต่อค่ะ
ภายในห้องน้ำมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือมาให้ 1 อ่างพร้อมกระจกเงา ตกแต่งหรูหราในสไตล์หินอ่อนสีขาว ดำ เทา
ภายในห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ มีห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง
กลับมาที่โถงด้านหน้าทางเข้าลิฟต์โดยสารกันต่อค่ะ ส่วนนี้ต้องใช้ Access Card สแกนผ่านเข้าไป
ภายในโถงลิฟต์โดยสารค่ะ ลิฟต์ในโครงการเป็นลิฟต์ล็อกชั้น ต้องสแกนการ์ดก่อนกดชั้น เพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ
ส่วนที่พักอาศัยจะเริ่มที่ผังชั้น 10 โดยมีห้องพักทั้งหมด 14 ยูนิต ผังโครงการจะแบ่งเป็นปีกซ้ายและปีกขวา มี Core Lift แยกกัน และโถงลิฟต์ทั้งสองฝั่งจะเชื่อมต่อกับคอร์ทยาร์ดตรงกลาง ฝั่งขวามือเป็นส่วนด้านหน้าโครงการหันไปทางถนนใหญ่สีลมซึ่งก็ได้วิวเมืองที่สวย แต่แดดฝั่งด้านหน้าหรือปีกขวาจะร้อนกว่าปีกซ้ายนะคะ เพราะหันไปทางทิศใต้ ซึ่งแดดในประเทศไทยวิ่งอ้อมใต้นั่นเอง ปีกขวาจึงเป็นด้านที่เจอแดดมากกว่าปีกซ้าย
ส่วนปีกซ้ายจะหันหน้าไปทางทิศเหนือและมีสวนหย่อมมาให้ 2 จุด ทิศลมทิศแดดฝั่งนี้ดีกว่าฝั่งขวาค่ะ คือได้แดดอ่อนๆตอนเช้าและลมดี แต่เรื่องวิวจะด้อยกว่าอย่างที่อธิบายในวิวรอบโครงการเอาไว้นะคะ เนื่องจากด้านหลังจะมีคอนโด M สีลมซึ่งบล๊อกวิวมุมซ้ายบนของผังโครงการอยู่ โถงทางเดินวางตัวเป็นแนวยาวแบบ Single Corridor คือเปิดประตูมาไม่ชนกับห้องอื่น
ผังชั้น 11 – 30 การจัดผังจะคล้ายๆกันคือมีห้องพักจำนวน 14 ห้องเช่นกัน แต่จะแยกอาคารปีกซ้ายและขวาออกจากกันเพื่อความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและตามกฏหมายระยะถอยร่นของอาคารสูงนะคะ ซึ่งก็เป็นเหตุผลนึงที่แยก Core Lift มาให้สองฝั่งตั้งแต่ต้น ม
โดยการจัดยูนิตห้องปีกซ้ายปีกขวาจะมีความแตกต่างกันอยู่คือ ฝั่งปีกขวา ส่วนด้านหน้าโครงการวิวถนนสีลมจะมีความหนาแน่นห้องน้อยกว่า คือมี 6 ห้องเท่านั้น และมีขนาดห้องที่ใหญ่กว่าค่ะ ขณะที่ฝั่งปีกซ้าย มีความหนาแน่นมากกว่าคือมี 8 ห้อง แต่โดยภาพรวมก็ถือว่ามีความหนาแน่นต่ำกว่าโครงการทั่วๆไปค่ะ ชั้นนึงเรามีเพื่อนบ้านไม่กี่ห้องเอง
ผังชั้น 32 – 33 การจัดผังส่วนที่พักอาศัยจะคล้ายกันค่ะ คือปีกซ้ายมีแปดยูนิต ปีกขวาเจอระยะถอยร่นอาคารมาเหลือ 4 ยูนิต ชั้น 32 ปีกขวาจะมีสวนมาให้แต่ชั้น 33 ไม่มีนะคะ แต่จะเป็นชั้นที่ได้วิวสูงและใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่าง Sky Fitness, สระว่ายน้ำ,ห้องสตีม, ห้องนวดและซาวน่าอยู่ที่ชั้น 34
ผังชั้น 34 เรียกได้ว่าเป็นชั้นส่วนกลางหลักๆเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยมีสระว่ายน้ำระบบเกลือกว้าง 4.5 – 6 เมตรแล้วแต่ช่วงนะคะ และมีความยาวรวมกว่า 60 เมตร ด้านในมี Jacuzzi, Onsen ให้นั่งแช่สบายๆ และมีสระว่ายน้ำเด็กจัดอยู่มุมนึงแยกต่างหาก ชั้นนี้มีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่มากให้ พร้อมห้อง Private Fitness กรณีมีโค้ช หรือโยคะนะคะ นอกจากนี้จะมีห้องซาวน่า, สตีม และห้องนวดด้วย
ภาพจำลองมุมมองจากด้านบนมองลงมาที่ตัวอาคาร ก็จะเห็นพื้นที่ส่วนกลางหลักๆของชั้น 34, 34Mและชั้น 48อยู่
ขึ้นมาชั้น 34 จะมีประตูเปิดออกไปพื้นที่ส่วนกลางของโครงการส่วนต่างๆ
วันที่ไปถ่ายทำพื้นที่โครงการหลายส่วนอยู่ในระหว่างเก็บความเรียบร้อยหน้างานค่ะ แต่เราเก็บภาพบางส่วนมาให้ชมกันก่อน
สระว่ายน้ำโครงการ Ashton Silom ชั้น 34 ที่เป็นแบบ Infinity Edge Pool มองออกไปเห็นวิวเมืองแบบนี้ จะเห็นในผังอาคารว่าสระว่ายน้ำหลักโครงการมีลักษณะเป็นรูปตัว J ให้ว่ายวนไปชมเมืองได้หลายด้าน ข้อดีคือเวลาคนมาให้สระหลายคนก็แบ่งกันใช้คนละฝั่งได้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว ส่วนวิวเมืองก็อย่างที่เห็นคะ คือสวยงาม ชัดเจน เพราะหันหน้าไปทางถนนสีลม รับวิวเมืองและตึกมหานครได้เต็มๆ
สระว่ายน้ำอย่างออนเซ็นและจากุซซี่ก็จะแยกสระกัน อารมณ์เหมือนไปออนเซ็นสปาค่ะ วันที่ไปถ่ายนี่สระออนเซ็นยังเก็บหน้างานอยู่นะคะ ส่วนในภาพเป็นสระจากุซซี่
ทางลงสระจากุซซี่เป็นขั่นบันไดลงไปแบบนี้
สระว่ายน้ำอีกฝั่งนึงค่ะ ฝั่งนี้สระจะมีขนาดใหญ่กว่า และอยู่ติดกับพื้นที่พักผ่อนริมสระขนาดใหญ่
ทางลงสระเป็นแบบขั้นบันได ข้างสระมีทางเดินไปส่วนที่นั่งพักผ่อนข้างสระ
ลานที่นั่งพักผ่อนข้างสระเป็นแบบในร่ม โครงการวางโซฟาแบบอาร์มแชร์มาให้หลายจุด
ถัดมาจะเป็นส่วนสระเด็กที่จะอยู่ติดกับห้องฟิตเนสเลยค่ะ
สระเด็กมีที่นั่งพักผ่อนริมสระแบบที่วางที่นั่งบนน้ำตื้นได้
ที่นั่งพักผ่อนริมสระวางเก้าอี้ Day Bed แบบปรับเอนได้ วางมาบนสระน้ำตื้น ให้นั่งพักผ่อนและเอาข้อเท้าจุ่มน้ำไปด้วยได้
เข้าไปดูในห้องฟิตเนสของโครงการกันต่อค่ะ
Double Horizon Fitness ที่อยู่ในชั้น 34 ที่ผนังโดยรอบห้องเป็นกระจกโชว์วิวเมือง สามารถออกกำลังกายและชมวิวเมืองไปด้วยได้ พร้อมเพดานสูงทำให้รู้สึกโปร่งสบายและหรูหรา
ภายในห้องฟิตเนสโครงการนี้ถือว่าจัดเต็มค่ะ คืออุปกรณ์ครบครัน และให้มาเยอะ โดยภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องเล่นมาให้ประมาณ 22 เครื่อง เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
ติดประตูทางเข้าห้องฟิตเนสจะมีห้อง Private Fitness ให้ใช้เล่นโยคะหรือแอโรบิกได้
ภายในห้อง Private Fitness วางเสื่อโยคะมาให้สามผืนพร้อมบอลพิลลาทีส
ถัดมามุมนี้วางเครื่องซิทอัพมา 3 เครื่อง บาร์ดัมเบล 1 ชุด และชุดที่วางบอลพิลลาทีส
ชอบที่มีเครื่องเพาะกายมาให้เยอะดีค่ะ มีชุดอุปกรณ์ที่ปกติจะเห็นตามห้องฟิตเนสใหญ่ๆอยู่หลายชุด
มีลู่วิ่งไฟฟ้ามาให้ 3 เครื่อง เครื่องเพาะกายมาให้ 1 เครื่อง
เครื่องปั่นจักรยาน 3 เครื่อง ลู่วิ่ง 1 เครื่อง
มีม้านั่งยาวเป็นที่นั่งพักผ่อนมาให้ 1 จุด มีทีวีจอใหญ่มาให้ดูด้วยค่ะ
มุมนี้มีเครื่องเพาะกายมาให้เยอะถึง 6 เครื่อง เรียกว่าออกกำลังกายได้ครบทุกส่วน
เพิ่มกล้ามเนื้อขาไปชมวิวใจกลางเมืองไป
มีเครื่องเพาะกาย คอ บ่า ไหล่ แขน ขา เรียกว่าครบครัน
ถัดจากห้องฟิตเนสเรามาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องน้ำหญิงฝั่งขวาและห้องน้ำชายฝั่งซ้าย
ภายในห้องน้ำนี่หรูหราจัดเต็มทีเดียว เข้ามาจะเห็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือและล็อกเกอร์เป็นส่วนแรก
มีอ่างล้างมือมาให้ 3 อ่าง วางมาบนเคาน์เตอร์หิน พร้อมกระจกเงาแต่งไฟซ่อน
ภายในห้องน้ำมีล็อกเกอร์เอาไว้ให้เก็บของสองฝั่ง พร้อมโต๊ะวางของตรงกลาง
ที่เพิ่มมาคือมีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แต่งหน้ากันได้แบบนี้
ถัดมาเป็นห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์อย่างละ 2 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำ มีที่วางสบู่แชมพู และราวแขวนผ้าสแตนเลสมาให้เรียบร้อย
ภายในห้องโถสุขภัณฑ์ มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มาให้วางของได้
ถัดเข้ามาด้านในมี Rain Shower และห้องอบไอน้ำอยู่
เข้ามาจะเป็นส่วน Rain Shower ให้ล้างตัวก่อนและหลังใช้ห้องอบไอน้ำได้
ภายในห้องอบไอน้ำหรือห้อง Steam กว้างขวาง นั่งได้ 5-6 คน
ผังชั้น 34 M ขึ้นมาอีกชั้นก็จะเป็นส่วนของห้องสมุด, ห้องดูหนัง, และห้องรับรองที่เหมาะจะเอาไว้รับแขกหรือขึ้นมานั่งพักผ่อนชมวิวนะคะ
ขึ้นมาดูชั้น 34 M กันต่อ
ขึ้นมาจะเจอประตูห้องสมุดหรือ Library เป็นห้องแรก
เข้ามาด้านในห้องสมุดจะแบ่งเป็นสองโซนค่ะ โซนแรกเป็นห้องประขุม
วางโต๊ะยาวสำหรับประชุมและมีทีวีสำหรับใช้เป็นจอ Presentation เวลาประชุมได้
อีกโซนในห้องสมุดเป็นโซนพักผ่อน มีชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกาแฟให้ขึ้นมานั่งพักผ่อน
ถัดมาเป็นห้องชมภาพยนตร์ หรือ Theatre Lounge ค่ะ เปิดตั้งแแต่ 6 am – 10 pm ก็เรียกได้ว่ามานั่งดูหนังได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลย
ห้อง Theatre Lounge ชั้น 34M หรือห้องชมภาพยนตร์นั่นเองค่ะ ภายในจะเป็นห้องพักผ่อนชมวิวเมืองพร้อมจอขนาดใหญ่และชุดที่นั่งพักผ่อน
ระยะดูทีวีกำลังสบายๆพร้อมทีวีจอใหญ่แบบนี้ ชุดโซฟาใหญ่หุ้มหนังสีส้มแบบ 3 ที่นั่ง พร้อมอาร์มแชร์ 2 ที่นั่ง และ Day Bed 2 ที่นั่ง
ฝั่งตรงข้ามห้องชมภาพยนตร์จะเป็นทางเดินไปส่วนห้อง Business Lounge ฝั่งซ้ายมือเป็นผนังกระจกใส มองลงไปเห็นห้องฟิตเนสชั้นล่าง
ภายในห้อง Business Lounge เข้ามาจะเจอโต๊ะพูลอยู่ทางซ้ายมือพร้อมอุปกรณ์การเล่นครบครัน
ขวามือเป็นที่โซนที่นั่งพักผ่อน จัดชุดโซฟามาให้ใช้รับรองแขกหรือนั่งคุยได้สะดวก
ผังชั้น 35 ขึ้นมาชั้น 35 – 45 จะเจอระยะถอยร่นอาคารจนเหลือเฉพาะปีกซ้ายอย่างเดียวแล้วค่ะ ชั้น 35 นี่จะอยู่ด้านบนชั้นส่วนกลางชั้น 34 เราจะเห็นว่ามี Sky Deck อยู่ด้วย แต่ขึ้นลงทางปีกขวาแยกส่วนกับทางปีกซ้ายนะคะ
ผังชั้น 46 จะเจอระยะถอยร่นอาคารจนเหลือแค่ 4 ห้อง เป็นชั้นที่พักอาศัยที่อยู่สูงเกือบที่สุดแล้วนะคะ ได้วิวเมืองสวยมองไปได้ไกล และจากโถงทางเดินหน้าลิฟต์จะมีประตูเชื่อมเปิดออกไป City Deck หรือระเบียงชมวิวเมืองซึ่งปลูกต้นไม้เอาไว้เป็นเหมือนสวนหย่อมเล็กๆของชั้นด้วย
ผังชั้น 47 จะเจอระยะถอยร่นอาคารจนเหลือแค่ 4 ห้อง เป็นชั้นที่พักอาศัยที่อยู่สูงที่สุดของโครงการแล้วค่ะ ซึ่งก็จะอยู่ใกล้กับ Social Club และ Botanical Lounge ชั้นดาดฟ้า
ผังชั้นดาดฟ้าชั้น 48 จะเป็นพื้นที่ของ Social Club ห้องพักผ่อนชมวิวเมือง และ Botanical Lounge หรือสวนหย่อมของโครงการที่ชั้นดาดฟ้า
วันที่ไปเก็บภาพสวนหย่อมกำลังอยู่ในระหว่างเก็บความเรียบร้อยหน้างานค่ะ แต่ส่วน Social Club เสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามีภาพมาให้ชมกันค่ะ
ภายใน Lounge & Social Club ชั้น 48 ที่ตกแต่งมาแบบหรูหราพร้อมผนัง Curtain Wall หรือกระจกแขวน เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน รับรองแขก และชมวิวเมืองจากชั้นสูงสุดของโครงการ
ภาพวิวมุมสูงฝั่งทิศใต้ ด้านหน้าโครงการค่ะ ระดับชั้นที่อยู่สูงสุดของโครงการทำให้มองออกไปได้ไกลและวิวเมืองที่สวยแบบนี้ วิวทิศใต้นี้มองไปจะเห็นรถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี และตึกมหานครอยู่ด้วย
Lounge & Social Club ตกแต่งมาหรูหราสวยงาม ให้บรรยากาศสไตล์ Rooftop Bar โดยมีส่วนโซฟาพักผ่อนชุดใหญ่และมีโซนบาร์พร้อมเก้าอี้ทรงสูงอยู่
ชอบที่โซนบาร์พร้อมเก้าอี้ทรงสูงทำมากว้างขวางและมีชุดอุปกรณ์ที่สามารถขึ้นมาดื่มพักผ่อน หรือจัดปาร์ตี้ได้จริงๆ
ในเคาน์เตอร์บาร์มีทั้งแก้วหลากหลายชนิดที่เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ พร้อมถาดเสิร์ฟและโถใส่น้ำแข็ง
และมีอ่างล้างจานมาให้ในเคาน์เตอร์บาร์เรียบร้อย
แบบห้อง
โครงการ Ashton Silom มีห้องให้เลือก 2 แบบ ดังนี้
ซึ่งก่อนเราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง เราเอาผังห้องแบบอื่นๆมาให้ดูกันก่อนนะคะ
Typical F 1 Bedroom ขนาด 31 – 31.5 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ขนาดเริ่มต้นของโครงการนะคะ เมื่อเดินเข้าไปจะเจอกับส่วนครัวที่ตรงไปจะเชื่อมต่อไปที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นห้องน้ำที่มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย และเชื่อมต่อกับห้องนอนได้
Typical E 1 Bedroom ขนาด 35 – 36 ตร.ม. แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่นเมื่อเดินเข้าไปจะเจอกับส่วนครัวที่ตรงไปจะเชื่อมต่อไปที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ห้องน้ำจะอยู่ชิดผนังและอยู่ภายในส่วนห้องนอนเลย แต่จะได้มุมวางโต๊ะทำงานเพิ่มในห้องนอนด้วย
Typical CS 2 Bedrooms ขนาด 71.5 – 72 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น โดยเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนโถงแจกไปห้องน้ำและห้องนอนทั้งสองห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว, จากโถงทางเข้าลงบันได 5 ขั้นไปเป็นห้องเพดานสูง ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัวเปิด ที่เชื่อมต่อกับห้องรับแขก
Typical AS 2 Bedrooms ขนาด 86 – 86.5 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น โดยเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนโถงแจกไปห้องน้ำและห้องนอนทั้งสองห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว, จากโถงทางเข้าตรงไปจะเป็นส่วนครัว ลงบันได 5 ขั้นไปเป็นห้องเพดานสูง ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องรับแขก
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปสำรวจกันเป็นห้อง Typical BS 2 Bedrooms ขนาด 75 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น โดยเมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนโถงแจกไปห้องน้ำและห้องนอนทั้งสองห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว, จากโถงทางเข้าตรงไปจะเป็นส่วนครัว ลงบันได 5 ขั้นไปเป็นห้องเพดานสูง ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องรับแขก
ตัวห้องแบ่งส่วน Private และ Public มาด้วยการจัดโซนโดยยกและลดระดับพื้น โดยเข้ามาจะเป็นส่วน Foyer ถัดไปเป็นห้องน้ำ และห้องนอนเล็ก ห้องนอนใหญ่ ถัดเข้ามาเป็นเปิด และบันไดลงไปส่วนห้องนั่งเล่นเพดานสูงติดระเบียง
โดยขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัวและชุดสุขภัณฑ์มาให้พร้อมเครื่องปรับอากาศและม่าน ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่า:)
ประตูห้องเป็นประตูบานไม้สำเร็จ HDF พร้อม Digital Door Lock ติดตั้งมาให้เรียบร้อย พร้อมตาแมวไว้ส่องดูคนที่มาเคาะได้
Digital Door Lock พร้อมมือจับเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส ของ Yale วิธีใช้งานมีทั้งแบบ แตะการ์ดเข้าไป, กดรหัส, และไขกุญแจเข้าห้อง
มองกลับไปที่ส่วนทางเข้าห้องจะเห็นภาพรวมส่วน Foyer หรือโถงทางเข้าห้องแบบนี้ เพดานห้องสูง 3 เมตร ซึ่งถือว่าให้เพดานมาสูงโปร่งเลยเมื่อเทียบกับคอนโดทั่วๆไป ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ LED ผนังห้องมาตรฐานฉาบปูนเรียบทาสีขาว ห้องตัวอย่างตกแต่งผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย
ติดประตูทางเข้าห้องมีชั้นวางของที่ Built in มาให้สูงจรดเพดาน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ห้องได้เยอะดีค่ะ ใช้วางรองเท้า วางของได้ดี เปิดบานตู้ให้ดูจะเห็นว่าระยะเปิดบานแล้วยังเหลือระยะเดินไปมาสบายๆ ถัดจากชั้นวางของห้องตัวอย่างวางเก้าอี้มาให้ดูเป็นไอเดีย ใช้นั่งเวลาใส่รองเท้าได้สะดวกดี
พื้นส่วนโถงทางเข้าและครัวไม่ใช่กระเบื้องแกรนิตโต้ธรรมดาแต่เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนจากอิตาลีสีขาวครีมลายหินอ่อน ถัดจากโถงทางเข้ามีสเต็ปบันไดขึ้น 3 ขั้น ขึ้นไปส่วนห้องน้ำขวามือ และห้องนอนใหญ่ซ้ายมือของภาพ
เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อนะคะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน อันนี้ดีนะคะ โดนน้ำยังไงก็ไม่บวมเหมือนธรณีลามิเนต ที่พอบวมขึ้นมาจะมีผลทำให้ประตูเปิดปิดยาก
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องพอร์ซเลนสีขาวครีมลายหินอ่อนจากอิตาลี พื้นห้องน้ำลดต่ำลงไปจากระดับพื้นโถงทางเดินประมาณ 5 เซนติเมตร ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ GROHE
ระยะใช้งานกำลังสบายๆ ไม่อึดอัด ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ต่อเนื่องจากเคาน์เตอร์มาให้วางของเพิ่มอีก
ผนังปูกระเบื้องมาให้จรดเพดาน ที่เพดานติดพัดลมดูดอากาศและติดไฟดาวน์ไลท์มาให้
ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีที่เก็บของมาให้พร้อมบานปิดผิวลายไม้
ส่วนอ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์หินอ่อนมาให้ ต่อเนื่องเป็น Low Wall มาด้านหลังโถสุขภัณฑ์ทำให้มีที่วางของได้เยอะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบชิ้นเดียวดูหรูหรา พร้อมที่แขวนทิชชู่และสายฉีดชำระสแตนเลส
ส่วน Shower Box กั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ และมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมาประมาณ 3 เซนติเมตร
ส่วนชุดฝักบัวขนาดใหญ่และปรับขนาดหยดน้ำได้ พร้อม Rain Shower และมีที่วางสบู่แชมพูติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ถัดจากห้องน้ำ ประตูบานตรงกลางคือประตูห้องนอนเล็กค่ะ ส่วนห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom อยู่ทางฝั่งซ้าย ที่เพดานจะมีเครื่องปรับอากาศแบบซ่อนฝ้ามาให้ได้ตามที่เห็น
พื้นส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นพื้นแบบ Engineering Wood
ในห้องนอนเล็กวางเตียงนอนเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุตมาให้ พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานวางมาให้ดูระยะใช้งาน
ปลายเตียงมีระยะประมาณ 40 cm. ทำชั้นวางของเล็กๆมาให้ดูเป็นไอเดีย
ข้างเตียงฝั่งติดผนังมีระยะประมาณ 25 cm. พอวางโคมไฟ หรือวางภาพเขียนได้
ข้างเตียงอีกฝั่งวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน
ติดประตูทางเข้าห้องนอนเล็กมีตู้เสื้อผ้าบานเปิดมาให้ดูระยะใช้งาน
ผนังฝั่งปลายเตียง ทำเครื่องปรับอากาศซ่อนผนัง Built-in type มาให้เรียบร้อย
เข้าไปดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom ประตูห้องตั้งฉากกันกับห้องนอนเล็ก
เข้าห้องนอนใหญ่มา ติดประตูฝั่งนึงจะมีพื้นที่ให้ทำ Built in ตู้เสื้อผ้าได้
ห้องตัวอย่างทำ Built in ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนมาให้ดูเป็นไอเดีย
ถัดเข้ามาจะเป็นประตูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน อันนี้ดีนะคะ โดนน้ำยังไงก็ไม่บวมเหมือนธรณีลามิเนต ที่พอบวมขึ้นมาจะมีผลทำให้ประตูเปิดปิดยาก
จัดสุขภัณฑ์มาให้แบบ Full Bath คือมีทั้งส่วน Shower Box และ Bathtub เพื่อรองรับสไตล์การใช้งานที่หลากหลาย ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall ต่อเนื่องจากเคาน์เตอร์อ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มอีก โถสุขภัณฑ์เป็นของ Grohe และใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีที่เก็บของมาให้พร้อมบานปิดผิวลายไม้ แบบเดียวกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ
ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีที่เก็บของมาให้พร้อมบานปิดผิวลายไม้
ส่วนอ่างล้างมือทำเคาน์เตอร์หินอ่อนมาให้ ต่อเนื่องเป็น Low Wall มาด้านหลังโถสุขภัณฑ์ทำให้มีที่วางของได้เยอะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบชิ้นเดียวดูหรูหรา พร้อมที่แขวนทิชชู่และสายฉีดชำระสแตนเลส
เข้าไปดูส่วน Shower Box และอ่างอาบน้ำกันต่อค่ะ ส่วนเปียกจะกั้นด้วยกระจกเทมเปอร์ และมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมาประมาณ 3 เซนติเมตร ด้านในมีชุดฝักบัวและ Rain Shower แบบเดียวกันกับห้องอื่นๆ แนะนำให้ติดชั้นวางของเข้ามุมเพิ่มไว้วางสบู่ แชมพู ครีมนวดเพิ่มนะคะ
อ่างอาบน้ำจะเป็นของ I spa อยู่ติดกับหน้าต่างบานสูงจรดเพดาน และมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 ชุดให้เปิดระบายอากาศได้
ส่วนชุดฝักบัวขนาดใหญ่และปรับขนาดหยดน้ำได้ พร้อม Rain Shower และมีที่วางสบู่แชมพูติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ขนาดภายในอ่างอาบน้ำ นอนแช่ได้สบายๆแบบนี้
ถัดเข้ามาด้านในห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่ให้ทำตู้เสื้อผ้า Built in ได้อีกจุด โดยห้องตัวอย่างทำชั้นวางของแบบเลื่อนเก็บที่ผนังได้มาให้ดูเป็นไอเดีย และติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นว่าทำเครื่องปรับอากาศซ่อนผนัง Built-in type มาให้เรียบร้อย
ส่วนห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ระยะเดินรอบๆสบายๆ วางโต๊ะข้างเตียงมาให้ทั้งสองฝั่ง ส่วนห้องนอนใหญ่ได้หน้าต่างบานใหญ่แบบ Full Height สูงจรดเพดาน พร้อมมีกระจกเข้ามุมทำให้สามารถรับชมวิวได้แบบเปิดเป็นมุมกว้าง
ข้างเตียงติดทางเดินไปห้องน้ำมีระยะใช้งานสบายๆประมาณ 1.5 m.
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งาน 60 cm.
ปลายเตียงมีระยะเดินประมาณ 60 cm.
สวิตช์ไฟแผงสีเงินแบบนี้
ถัดจากส่วนห้องนอนเราไปดูส่วนครัวกันต่อค่ะ
ชุดครัวหน้าบานเป็น Hi Gloss สีขาว มีชั้นลอยมาให้เก็บจานชามหรือสิ่งของด้านบนเพิ่มได้ ข้อดีคือเพดานที่สูงของห้องทำให้ทำที่เก็บของแนวตั้งได้เยอะ ของจริงได้ตามนี้ เปิดตู้และลิ้นชักให้ดูที่เก็บของค่ะ ชั้นลอยทำเก็บของมาให้ 3 ชั้น ติดผนังฝั่งขวามือข้างตู้เย็นก็ทำชั้นเก็บของมาให้สูงทีเดียว และจะเห็นว่าเปิดบานตู้แล้วยังเหลือระยะเดินกับระยะถอยได้สบายๆ ใต้อ่างล้างจานจะมีถังขยะแบบมีฝาปิดมาให้ด้วย
เปิดลิ้นชักใต้เตาไฟฟ้าจะมีช่องสำหรับแบ่งวางช้อนส้อมมาให้แบบนี้
เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัวมี Back Splash ติดมาให้ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ด้วย
เตาไฟฟ้าของ Smeg แบบ 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันจากแบรนด์เดียวกัน
อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลส 1 หลุม ไม่มีที่พักจานด้านข้าง ก็อกน้ำเป็นก็อกโครเมียมทรงโค้ง หันไปมาซ้ายขวาได้ พร้อมฝาปิดอ่างมาให้ ทำให้เวลาที่ไม่ได้ล้างจาน จะมีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นนั่นเอง
มีเตาอบไฟฟ้าของ Smeg มาให้ด้วยค่ะ
ถัดจากส่วนครัวไปจะเป็นไฮไลท์ของห้องนี้คือพื้นที่ลดระดับลงไปยังส่วนห้องนั่งเล่นเพดานสูง 3.6 เมตร ซึ่งเป็นลักษณะห้องที่หาได้ยากในคอนโดทั่วๆไป เนื่องจากมีการเล่นระดับกับพื้นห้อง และความสูงเพดานที่ต่างกัน ทั้งๆที่ไม่ใช่ห้อง Duplex จะเห็นว่าส่วนครัวมีราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เปลือยให้พื้นที่ดูโปร่งและเชื่อมต่อกัน
จากส่วนครัวลงบันไดมา 5 สเต็ป จะมีพื้นที่ส่วนห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นเพดานสูงเช่นกัน เป็นพื้นที่ที่มีความโปร่ง สามารถตกแต่งผนังหรือประดับงานศิลปะได้ดี
ห้องตัวอย่างจัดโต๊ะเก้าอี้แบบสี่ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน
มองกลับไปที่ส่วนครัว จะเห็นภาพรวมส่วนครัวและห้องรับประทานอาหาร ขวามือของภาพติดบันได ห้องตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางของมาให้ดูเป็นไอเดีย
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นเพดานสูง 3.6 เมตรกันต่อค่ะ จะเห็นว่าได้หน้าต่างแบบ Full Height สูงเป็นพิเศษให้วิวที่เปิดกว้างและบรรยากาศที่โปร่งและช่วยนำแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี กระจกหน้าต่างโครงการเป็นกระจกลามิเนตแบบ Teint Gray ช่วยกรองแสงให้ห้องสว่าง แต่ไม่จ้าหรือร้อนจากแดด พิเศษคือด้านนอกอาคารมองเข้ามากระจกจะสะท้อนเงาด้านนอก ทำให้ภายในอาคารมีความเป็นส่วนตัว
ด้านหลังชุดโซฟาวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้และชั้นวางของ Built in มาให้ดูเป็นไอเดีย
จากโต๊ะทำงานก็สามารถนั่งดูทีวีไปกับห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย
ที่ห้องนั่งเล่น ส่วนที่เป็นหน้าต่างเข้ามุม จะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศได้ โดยมีราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์เปลือยมาให้เพื่อความปลอดภัยเวลาเปิดปิดหน้าต่างนั่นเอง
ห้องนั่งเล่นวางชุดโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะข้าง สตูล และโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งานกำลังพอดีๆ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 m.
ที่ห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานสูง เป็นประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมสี Sahara Grey ที่เปิดออกไประเบียง โดยประตูและหน้าต่างของโครงการ แอชตัน สีลม ทำความสูงมาให้จรดเพดานแบบ Full Height จึงให้ความรู้สึกสูงโปร่ง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี
พื้นระเบียงของจริงจะลดระดับลงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ตัวพื้นปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาอ่อน
ระเบียงขนาดไม่ใหญ่ค่ะ เหมือนจะเป็นระเบียงเอาไว้ยืนรับลมชมวิวหรือปลูกต้นไม้อะไรซะมากกว่า และเป็นระเบียงที่ใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กด้วย แต่ข้อดีคือโครงการนี้จะไม่เอาแอร์คอมเพรสเซอร์มาติดที่ระเบียงนะคะ แต่จะแยกไปติดที่อื่นเลย ทำให้ไม่บดบังทัศนียภาพและไม่เสียพื้นที่ใช้งานด้วย ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ ส่วนราวจับเป็นอลูมิเนียมสีเงิน
ราคา
**ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมชุดครัวและเครื่องปรับอากาศแบบซ่อนฝ้าและเครื่องทำน้ำร้อน
ค่าส่วนกลาง : 85 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน : 850 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ –โครงการ แอชตัน สีลม ตั้งอยู่ในทำเลติดถนนใหญ่สีลม ซึ่งเป็นทำเลโครงการแบบตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนรายได้สูงที่อยากได้ทำเลที่สะดวกสบายใจกลางเมือง ใกล้โรงเรียนดีๆสำหรับลูกๆ เพื่อเอาไว้อยู่เอง และยังตอบโจทย์นักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรปล่อยเช่ากลุ่มชาวต่างชาติระดับบนซึ่งส่วนใหญ่มองหาคอนโดมิเนียมในโซน CBD ชั้นในที่ใกล้รถไฟฟ้าและมีความสะดวกสบายสูงใกล้แหล่งที่ทำงาน และวิวสวย ซึ่งทำเลโซนสีลมนี้ถือเป็นทำเลทองยอดนิยมของชาวต่างชาติอยู่แล้ว
เต็มไปด้วยโรงแรมห้าดาวและบริษัทชั้นนำต่างชาติ สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ มาเปิดสำนักงานใหญ่ที่นี่ สถานฑูต สถาบันทางวัฒนธรรม ตลอดจนศูนย์การค้าและบรรดาโรงเรียนชั้นนำของประเทศ จัดเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร
ความอุดมสมบูรณ์ – เนื่องจากโซนนี้มีโรงแรมเยอะ อาคารสำนักงานใหญ่ๆก็เยอะ โครงการล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายค่ะ
ตั้งแต่ห้างใหญ่ในระยะเดินสบายๆ 6 – 800 เมตร หรือนั่งรถไฟฟ้ามาสถานีเดียวถึงอย่าง Central สีลม, สีลมคอมเพล็กซ์ ไปจนถึงบรรดาตลาดนัดใกล้แหล่งอาคารสำนักงาน และร้านอาหารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก จัดเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและเปิดแทบทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ ทำให้หาของกินได้ง่ายและหาได้เช้าจรดค่ำ
รวมทั้งใกล้ๆในรัศมี 1 – 2 km. ยังมีทั้งโรงแรมพร้อมห้องอาหารหรูวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้าง โรงเรียน โรงพยาบาลหรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้เดินเล่นอย่างสวนลุมพินี ส่วนสาธารณะเก่าแก่ของประเทศ แถมสองฝั่งถนนใหญ่สีลมโซนนี้ก็มีร้านคุณภาพดีๆและมีคอนเซ็ปร้านเก๋ๆให้ลองไปทานกันเยอะทีเดียว
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ที่ตั้งโครงการ Ashton Silom อยู่ติดถนนใหญ่สีลม ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกสีลม – นราธิวาส สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง เพราะถนนรอบๆจะเชื่อมต่อกันแทบทั้งหมดค่ะ แต่จะมีถนนสุรวงศ์, มเหสักข์ และสี่พระยา ซึ่งเป็นถนน One Way หรือวิ่งทางเดียวตามที่เห็นในแผนที่ด้านบน นะคะ ต้องศึกษาก่อนเดินทางกันหน่อย ไม่อย่างนั้นวิ่งไปแล้วต้องวนกลับมาทีเดิมอย่างที่เห็น
ถึงจะเป็นถนนในเมืองอยู่แล้ว วิ่งไปไหนมาไหนในเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นระยะวิ่งรถสั้นๆก็จริง แต่เพราะเป็นใจกลางเมือง เต็มไปด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล อาคารสำนักงานมากมาย บวกกับมีสี่แยกเยอะ ทำให้การจราจรในเวลาเข้าออกค่อนข้างแน่นอยู่ ก็ต้องศึกษาเส้นทางกันดีๆค่ะ
สำหรับคนขับรถ อีกจุดเด่นของโครงการคือการที่อยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชเพียง 1.4 km. ทำให้การเดินทางมาโครงการจากทางด่วนนั้นใช้เวลาโดยประมาณเพียง 6 นาทีเท่านั้น
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี เพียง 350 m. เพียงสถานีเดียวถึง BTS ศาลาแดง จุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า MRT สายสีลม ที่สามารถเดินทางไปยังแหล่ง CBD ต่างๆได้สะดวกง่ายดาย อย่างสยาม ชิดลม สาทร สีลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เนื่องจากอยู่ในใจกลางเมืองด้วยกันอยู่แล้วนั่งไปสถานีสองสถานีก็ถึง เช่นจากโครงการนั่งไปเพียง 3 สถานีก็ถึง สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัลเวิร์ลแล้วค่ะ นอกจากนี้แถวหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ผ่านให้เห็นกันอยู่ตลอด
ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีท่าเรือให้ไปขึ้นเรือล่องแม่น้ำกันได้ มีโรงแรมกับร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวสวยๆมากมายค่ะ ขึ้น BTS ช่องนนทรี นั่งไป 2 สถานีถึง BTS ตากสิน จะมีทางเดินเชื่อมไปท่าเรือสาทรอยู่
อย่างใครต้องไปทำงานหรือไปทำธุระทางเส้นพระราม 3 จาก BTS ช่องนนทรี จะมีทางเดินเชื่อมต่อกับ BRT สถานีสาทรอยู่ สะดวกมากสำหรับใครที่ต้องเดินทางไปทำธุระย่านพระราม 3 นะคะ เพราะ BRT เป็นรถที่มีช่องทางการเดินรถแยกจากช่องทางปกติบนพื้นถนนเดิม ทำให้สามารถเลี่ยงรถติดได้ดี โดยรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ สายสาทร-ราชพฤกษ์ นี้เป็นสายนำร่องสายแรกในประเทศไทยอีกด้วย เก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ในอัตรา 12-20 บาทค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – จุดเด่นของ Ashton Silom คือทำเลทองของโครงการเป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ แต่การออกแบบก็ทำมาตอบรับความต้องการของชีวิตคนที่อยากอยู่คอนโดได้อย่างมีความใส่ใจในรายละเอียดสูงและมีดีไซน์ที่สวยงามตามแบรนด์อนันดาอยู่แล้ว โดยตัวโครงการออกแบบมาโดยใช้พื้นผิวภายนอกเป็นกระจกเทมเปอร์และกระจกสีดำแบบ Reflective ทำให้ตอนกลางคืนเวลาเปิดไฟเกิดเป็นเอฟเฟ็คของอาคารที่สว่างออกมาแตกต่างจากอาคารรอบข้าง
และที่น่าสนใจมากคือนวัตกรรมการออกแบบด้วยแนวคิด Vertical Interlocking หรือการออกแบบเพิ่มลดระดับพื้นที่แนวตั้ง ซึ่งช่วยเปิดมุมมองของการอยู่อาศัยอย่างเหนือระดับ ด้วยความสูงของห้องนั่งเล่นแบบ 2 ห้องนอนถึง 3.6 เมตร สามารถมองเห็นวิวเมืองจากมุมที่น่าประทับใจในห้องพัก พร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวพร้อมแอร์ซ่อนฝ้ามาให้ ซึ่งสเป็คมาสวย เพิ่มที่เก็บของได้เยอะดี โดยชุดครัวออกแบบมาพร้อมหน้าบานสีขาวมีไฮกรอสสีขาว พร้อมเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว เครื่องครัวของ Smeg ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ติด Back Splash กันผนังเปื้อนมาให้เป็นแนวยาวทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
พื้นและผนังห้องน้ำปูกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนสีขาวครีม ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ GROHE อ่างอาบน้ำของ I Spa เ มีฉากกั้นส่วนห้องอาบน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์และให้ขนาดฝักบัวมาใหญ่ดี พร้อมฟังก์ชั่นเปลี่ยนลั๊กษระการพ่นน้ำได้ด้วย พื้นห้องนอนเป็นไม้วีเนียร์ มีจบพื้นเป็นเส้นสแตนเลสสีทอง ซึ่งก็เป็นอีกดีเทลที่ทำได้หรูหราและสวยงามกว่าที่อื่นๆนะคะ และมี Digital Doorlock มาให้
เรื่องการออกแบบห้อง มีมาให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ : 31-49.5 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ : 71.5-86.5 ตร.ม ซึ่งปรับแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนปัจจุบันมากขึ้น ใส่ใจในเรื่องที่เก็บของ ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า และระยะใช้งานที่กำลังสบายๆพร้อมการรักษาความปลอดภัยแบบคอนโดมิเนียมที่มีความปลอดภัยสูง
สิ่งอำนวยความสะดวก – ที่จอดรถของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1M – 9 มีที่จอดทั้งหมด 309 คัน คิดเป็น 72% ของจำนวนยูนิตในโครงการ มีลิฟต์โดยสารให้ 5 ตัว แบ่ง core ฝั่งนึง 3 ตัว ฝั่งนึง 2 ตัว เทียบกับจำนวนยูนิตที่พักอาศัยในโครงการคือ 428 ห้องก็ถือว่าให้มาสบายๆเลยค่ะ ลิฟต์บริการมี 2 ตัวแยกฝั่งละตัว ทางเข้าออกแยกกันต่างหากจากจากลิฟต์โดยสาร
พื้นที่ส่วนกลางให้มาแบบจัดเต็มพร้อมดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครนะคะ ยกตัวอย่างเช่น Lobby ที่เรียกว่า Objets’ D’Art Lobby ที่ตกแต่งด้วยคอนเซ็ป Time Pause และชิ้นงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่ได้รับการออกแบบพิเศษเพื่อสะท้อนการหยุดทุกช่วงเวลา หรือส่วนสะพานทางข้ามหน้าโครงการที่ถูกประสานเข้าด้วยกัน เผยให้เห็น alfresco living plaza และนำไปสู่สวนเขียวขจีกลางแจ้ง ถือเป็นlandmark อันโดดเด่นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้จะมี Swimming Pool, Kid’s Pool, Onsen, Jacuzzi, Fitness, Private Fitness, Massage Room, Library, Private Theatre Lounge และ Business Lounge พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, กล้องวงจรปิดแบบ CCTV และระบบเข้าออกอัตโนมัตแบบ Access Control และ Key Card พร้อม Digital Door Lock ทุกห้อง
คะแนน
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9 | ทำเล CBD โซนในติดถนนใหญ่สีลม |
| การเดินทาง ใช้รถ | 9 | เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ไปไหนมาไหนง่าย ทางลัดเลาะเยอะ แต่ต้องระวังรถติด |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 9 | สะดวกมาก ใกล้ BTS ช่องนนทรี ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไป MRT ได้เพียงสถานีเดียวจากสถานีช่องนนทรีไปสถานีศาลาแดง แท็กซี่เยอะ วินมอเตอร์ไซค์เยอะ ใช้เลี่ยงรถติดได้ดี ทางเดินเท้ากว้างและดูไม่เปลี่ยว เดินไปไหนมาไหนได้สบายๆ |
| ห้องและวัสดุ | 9 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Fitted วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 9 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 9 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท/ตร.ม. ได้คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ทำเล CBD ชั้นในอย่างสีลม ใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้ทางด่วน ใกล้ห้าง ส่วนที่มีมูลค่าสูงของโครงการคือทำเลที่ดินย่านนี้ที่เร่ิมหายากและมีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายสูง |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 9 | ดีมาก |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-316-2222
Website : http://www.ananda.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น