Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน CONDONAYOO จะพาไปชมคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่วิวอุทยานสวนจตุจักร 700 ไร่ กับโครงการ The Privacy จตุจักร จาก พฤกษา เรียลเอสเตท โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ข้าง ม.เซนต์จอห์น ใกล้กับห้าแยกลาดพร้าว เพียง 450 ม.* จาก MRT พหลโยธิน และเพียง 650 ม.* จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว สะดวกสบายทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการใช้รถไฟฟ้า จึงน่าสนใจทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อการลงทุน
เป็นทำเลเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Central ลาดพร้าว, Union Mall, Big C, Lotus’s, ตลาดนัดจตุจักร, รร.หอวัง, รร.สุรศักดิ์มนตรี, ม.หอการค้าไทย, รพ.เปาโล พหลโยธิน, รพ.วิมุต อีกทั้งยังใกล้อาคารสำนักงานหลายแห่ง เช่น Sun Tower, ตึกการบินไทย และไทยรัฐ เป็นต้น
เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร เป็นโครงการคอนโด High Rise สไตล์ Modern Luxury สูง 34 ชั้น พัฒนาบนที่ดินประมาณ 3 ไร่ มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งโครงการ 835 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต แบ่งออกเป็น 5 แบบหลัก ๆ คือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 1 Bedroom Loft, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 26-53 ตร.ม. ตกแต่งห้องแบบ Fully Fitted (เฟอร์นิเจอร์ Built-in) และ Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-in + เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว พร้อมเข้าอยู่ได้เลย)
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการครบครัน อาทิ Hidden Forest สวนพักผ่อนสุดร่มรื่น, Lobby Lounge โอ่อ่าด้วยฝ้าเพดานสูง Double Volume, Mail Room, E-Library, Meeting Room, Green Space, Sky Pool เต็มอิ่มกับสระว่ายน้ำยาวกว่า 28 ม. แยกโซน Kid’s Pool, Jacuzzi, Sunken Seat, Shallow Pool และ Pool Terrace,
Sky Bar พักผ่อนในบรรยากาศที่หรูหราวิวสระว่ายน้ำ, Sauna & Steam พร้อม Changing Room และมุมแต่งตัวเป็นสัดส่วน, Workout Space ขนาดใหญ่แยกห้อง Fitness On Demand ออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ, Co-Working Space, Sky Lounge สุดอลังการด้วยวิวสวนกว่า 700 ไร่, Co-Kitchen, Sky Garden พร้อมระบบ Smart Living Transformation, Shuttle Bus Service รับ-ส่งสถานีรถไฟฟ้า และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท* (เม.ย. 67)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://bit.ly/40mQ3Az
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
| ชื่อโครงการ | เดอะ ไพรเวซี่ จตุจักร The Privacy Jatujak |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) / Pruksa |
| เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 3 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 34 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 835 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 43% รวมจอดซ้อนคัน |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | จตุจักร-ห้าแยกลาดพร้าว |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. |
| กำหนดการ | พร้อมอยู่ |
| ปีที่สร้างเสร็จ | 2565 |
| ราคา | เริ่มต้น 3.29 ล้านบาท* (เม.ย. 67) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 120,500 บาท/ตร.ม.* (เม.ย. 67) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 1st FL.
2nd FL.
3rd FL.
8th FL.
34th FL.
Rooftop
Other Services
|
| Tel | 1739 |
| Line | https://lin.ee/wL3vUJw หรือ @theprivacyjatujak |
| Website | https://www.pruksa.com/theprivacy/jatujak |
คอนโด BTS ห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมต่อ MRT พหลโยธิน
ที่ตั้งโครงการ
ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/vQ4iLdZNWMV77wJq6
ทำเลที่ตั้ง โครงการ The Privacy จตุจักร ตั้งอยู่ติดถนนวิภาวดี-รังสิตฝั่งขาเข้าเมือง มุ่งหน้าดินแดง โดยจะอยู่ข้าง ๆ กับ ม.เซนต์จอห์น ซึ่งอยู่เลยมาจากบริเวณห้าแยกลาดพร้าวประมาณ 450 ม.* ค่ะ เรียกว่าเป็นทำเลศักยภาพที่เป็นแหล่งรวมของ Office Building ขนาดใหญ่ ง่ายในการเชื่อมต่อตัวเมืองชั้นใน และยังเชื่อมต่อกับ Hub ที่อยู่อาศัยยอดนิยมหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนพหลโยธิน ลาดพร้าว จตุจักร สะพานควาย และอารีย์
นับว่าเป็นทำเลที่ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า 2 สถานี ทั้ง MRT พหลโยธิน และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ในระยะที่เดินได้สะดวก จึงเป็นทำเลที่แม้จะมีความเจริญอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการซื้อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และซื้อเพื่อเก็งกำไรจากการลงทุนค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนน Super Highway อย่างวิภาวดี-รังสิต เป็นถนนสายหลักที่ใช้เดินทางได้สะดวกทั้งการเข้าและออกกรุงเทพฯ และยังเชื่อมต่อกับถนนสายหลักเส้นอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น ถนนพหลโยธิน, ถนนสุทธิสาร, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนดินแดง, ถนนงามวงศ์วาน และเชื่อมต่อกับดอนเมืองโทลเวย์ จึงทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ซอยย่อย ๆ ใกล้เคียงลัดเลาะไปได้อีกหลายเส้นทางเพื่อเลี่ยงการจราจร โดยที่ฝั่งเดียวกันกับตัวโครงการจะมีซอยลัดออกถนนลาดพร้าวได้หลายซอยเลยค่ะ เช่น ซอยวิภาวดี-รังสิต 22 ใช้ลัดมาออกซอยลาดพร้าว 8 หรือซอยรุ่งทิวา , ซอยวิภาวดีรังสิต 20 ใช้ลัดไปซอยลาดพร้าว 18 และซอยลาดพร้าว 26 และซอยวิภาวดี-รังสิต 16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) ก็สามารถใช้ไปออกถนนรัชดาภิเษกได้ด้วยค่ะ
ทางด่วน ในส่วนของจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดก็หนีไม่พ้นดอนเมืองโทลเวย์ ซึ่งจะมีจุดขึ้นทางด่วนฝั่งขาเข้าเมือง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4.5 กม.* หรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที* เชื่อมต่อกับทางด่วนสายอื่น ๆ ไปโซนพระราม 9-สุวรรณภูมิ ได้ค่ะ
และอีกจุดนึงก็คือจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ประมาณ 5.2 กม.* จากโครงการ หรือใช้เวลาเดินทางคร่าว ๆ ประมาณ 10 นาที* ใช้เข้าเมืองไปโซนสีลม-สาทรได้สะดวกเหมือนกัน
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สถานีด้วยกัน ใกล้ที่สุดคือ MRT พหลโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว เดินจากโครงการไปเพียง 450 ม.* เดินบน Sky Walk ไปอีกนิดเดียวก็คือ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว เดินจากโครงการไปเพียง 650 ม.* (โดยทางโครงการเองจะมี Shuttle Bus Service อำนวยความสะดวกลูกบ้านไปส่งถึงที่ตัวสถานีรถไฟฟ้าเลยค่ะ)
ระยะของทั้ง 2 สถานีไม่ต่างกันมาก แล้วแต่ว่าจุดหมายปลายทางจะไปที่ไหน แต่ก็เป็นสายหลัก ๆ ที่ใช้เข้าเมืองกันทั้ง 2 สาย และ Interchange กับรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ได้ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม นั่งไปแค่ 1 สถานีก็จะถึง MRT จตุจักร หรือ BTS หมอชิต ซึ่งสถานีนี้เป็นจุดรวมการเดินทางด้วยรถสาธารณะให้เลือกมากมาย
นอกจากรถไฟฟ้าก็จะมีรถเมล์และรถตู้หลายสาย ใช้เดินทางไปปากเกร็ด, นนทบุรี, บางบัวทอง รังสิต ฯลฯ หรือใครสะดวกใช้รถเมล์ หน้าโครงการก็มีป้ายรถเมล์นะคะ โดยจะมีรถสาย 1-14, 1-37, 2-34, 2-48, 4-22, 24, 92, 107 และ 138 วิ่งผ่านหน้าโครงการเลย
ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลนี้จะเกาะความอุดมสมบูรณ์ช่วงห้าแยกลาดพร้าวและจตุจักรค่ะ อย่างตรงห้าแยกลาดพร้าวนี่สามารถเดินไปได้เลย ที่เด่น ๆ ก็จะมี Central ลาดพร้าว และ Union Mall มี Hypermarket อย่าง Big C ลาดพร้าว และ Lotus’s ลาดพร้าว เลยไปโซนรัชโยธินยังมี Major รัชโยธิน และ SCB Park Plaza นอกจากนี้ก็ยังมีตลาดอีกมากมายบนเส้นลาดพร้าว-รัชดา ไม่ว่าจะเป็น รัชดาไนท์บาซ่าร์, ตลาดทรัพย์จันทร์ผัน, ตลาดโชคชัย 4, ตลาดอินดี้, ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ มีห้างสำหรับวัสดุก่อสร้างอย่าง บุญถาวร หรือเลยไปไม่ไกลตรงเส้นเลียบด่วน ก็จะมี Central Eastville, Home Pro, CDC และ The Crystal ค่ะ
ถ้ามองมาทางฝั่งวิภาวดี-รังสิต ความอุดมสมบูรณ์ทางฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นของชาวออฟฟิศค่ะ (อย่างที่บอกว่าเป็นโซน Office Building) เช่น อาคารเล้าเป้งง้วน 1, TST Tower, Sun Tower, สนง.ใหญ่การบินไทย, Bangkok Airways, ไทยรัฐ, กลต., ทำเลนี้จึงมีความคึกคักสูงมาก)
โดยจะมีแหล่งใหญ่ ๆ อยู่ในซอยเฉยพ่วงหรือซอยข้าง Sun Tower กับตลาดลุงเพิ่ม หลังตึกการบินไทย (เดินไปทางซอยวิภาวดี 22 แค่ 600 ม.* เอง) ครอบคลุมทั้งการกินการ Shopping เลย อีกทีก็คือโซนจตุจักร ที่มีทั้งตลาดขนาดใหญ่เป็นตลาดนัดสวนจตุจักร และ JJ Mall ได้บรรยากาศการ Shopping อีกฟีลนึง
ส่วนสถานศีกษาและโรงพยาบาลในละแวกนี้ก็มีทั้ง ม.เซนต์จอห์น, รร.หอวัง, รร.สุรศักดิ์มนตรี, ม.หอการค้าไทย, ม.ราชภัฏจันทรเกษม, ม.เกษตรศาสตร์, รพ.โกลเด้นเยียร์, รพ.เปาโล พหลโยธิน, รพ.วิมุต, รพ.ประสานมิตร, รพ.เปาโล โชคชัย 4, รพ.เปาโล เกษตร เลยไปแถบอนุสาวรีย์ฯ ยังมี รพ.ราชวิถี, รพ.พญาไท 2 และ รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่อีกด้วยค่ะ
ที่สำคัญเลยก็คือ ทำเลนี้ยังอยู่ใกล้กับอุทยานสวนจตุจักร เป็นการรวมพื้นที่สวนสาธารณะ 3 แห่ง ทั้งสวนวชิรเบญจทัศ, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และสวนจตุจักร เข้าด้วยกันเป็นพื้นที่รวมกว่า 700 ไร่ รวมไปถึงสวนสมเด็จย่า 84 พรรษา (บริเวณข้าง ๆ Central ลาดพร้าว) เรียกว่าเรามีปอดขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ไปเดินเล่นพักผ่อนออกกำลังกายได้ง่าย และยังเป็นวิวให้โครงการอีกด้วย ถือว่ายกระดับคุณภาพชีวิตได้ดีทีเดียว
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
เรามีภาพการเดินทางไปโครงการโดยใช้รถส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนพหลโยธิน > ถนนวิภาวดี-รังสิต > The Privacy จตุจักร
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนพหลโยธิน มาจากทางรัชโยธินมุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว ตรงไปข้างหน้าเราจะเห็น Central ลาดพร้าว อยู่ทางฝั่งขวามือ
ด้านหน้าของเรานี้เองก็คือ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ตัวสถานีจะอยู่ติดกับตัวห้าง Central ลาดพร้าว เลยค่ะ
และมี Union Mall อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ มี Sky Walk เชื่อมต่อกับตัวสถานีเช่นกัน
ช่วงห้าแยกลาดพร้าวให้เราขับตรงไปทางดินแดงผ่านถนนลาดพร้าวไปก่อนค่ะ
จากนั้นให้เราชิดซ้ายเพื่อเข้าถนนวิภาวดี-รังสิตไปทางดินแดง
พอเข้าสู่ถนนวิภาวดี-รังสิตแล้วเราจะเห็น ม.เซนต์จอห์น อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
เลยจากห้าแยกลาดพร้าวมาเพียง 450 ม.* เราก็จะถึงโครงการ The Privacy จตุจักร แล้วค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้าโครงการ The Privacy จตุจักร
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ
ตัวโครงการ The Privacy จตุจักร พัฒนาบนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ ติดถนนวิภาวดี-รังสิต และทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ สภาพแวดล้อมทางฝั่งโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ข้างเคียงจะมีคอนโดของ The Saint Residence ซึ่งจะอยู่ทางทิศเหนือของโครงการค่ะ
รอบโครงการ
เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ โดยฝั่งด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นพวกกลุ่มอาคารสำนักงานมากมาย
จากทางเข้าโครงการหันไปทางฝั่งซ้ายมือมุ่งหน้าฝั่งดินแดง จะเห็นว่าทางเท้าบริเวณนี้กว้างมากเดินได้สะดวก
ตรงนี้จะมีป้ายรถเมล์อยู่ด้วยค่ะ มีผ่านหลายสายเลยตามที่กล่าวไปตรงพาร์ตของทำเล
เดินเลยไปอีกหน่อยเป็น BMW ถัดไปเป็นซอยวิภาวดี 22 ใช้วิ่งลัดไปออกเส้นลาดพร้าวได้ บริเวณนี้เองจะมีสะพานลอยใช้ข้ามถนนได้ค่ะ
ถ้าข้ามไปฝั่งตรงข้ามก็จะมี Equinox, Sun Tower, ธนาคารทหารไทย และตึกเล่าเป้งง้วน อยู่เรียงกันไป ใครทำงานอยู่ตรงนี้คือสะดวกมาก ๆ
กลับมาที่ด้านหน้าโครงการ หันไปทางฝั่งขวามือ เราเดินไปดูทางฝั่งห้าแยกลาดพร้าวกันอีกหน่อย
ตรงซอยวิภาวดี 24 ด้านในเป็นอาคารของ ม.เซนต์จอห์น นั่นเองค่ะ
คราวนี้ให้เราเดินตรงไปเรื่อย ๆ ตรงนี้ก็คือช่วงห้าแยกลาดพร้าว
มีสะพานลอยข้ามแยก ใช้เชื่อมกับ Sky Walk เข้า BTS พหลโยธินตรง Central ลาดพร้าว ได้เลย
ถ้าเลี้ยวขวาเข้าถนนลาดพร้าว ก็จะถึง MRT พหลโยธิน ตรงทางออก 2 แล้ว (จากโครงการเราใช้ซอยวิภาวดี 26 เดินทะลุซอยลาดพร้าว 2 มาได้เช่นกันค่ะ)
บริเวณนี้จะมีพวกร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกทานได้หลายร้าน
และฝั่งตรงข้ามของเราก็คือ Union Mall นั่นเอง ภายในมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารราคาย่อมเยาให้เลือกกินเลือก Shopping กันได้ ตลอด 2 ทางของเส้นลาดพร้าวก็มีร้านอาหารเด็ด ๆ อยู่อีกเพียบค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ The Privacy จตุจักร เป็นคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งโครงการ 835 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินประมาณ 3 ไร่ มีการออกแบบตัวโครงการในสไตล์ Modern Luxury โดยบริษัทออกแบบแนวหน้าอย่าง Palmer & Turner โดยเน้นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 1 ไร่ สอดคล้องต่อเนื่องกับวิวอุทยานสวนจตุจักร ให้ตรงกับ Concept การออกแบบคือ Live The Enchanting Moment สัมผัสมนต์เสน่ห์ใหม่แห่งการใช้ชีวิต
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 8 และยกขึ้นไปไว้บนชั้นสูงสุดคือชั้น 34 และ Rooftop มีที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-7 แบบ Conventional Parking ประมาณ 43% รวมจอดซ้อนคัน ส่วนชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 8-33 ค่ะ
ภาพโมเดลตัวโครงการรอบด้าน ทางฝั่งทิศเหนือ, ทิศตะวันออก และทิศใต้
และนี่ก็คือภาพของตัวอาคารจริง ภายนอกถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัย ใช้โทนสีหลัก ๆ เป็นสีเทาเข้ม ตัว Tower ใช้รูปทรงเรียบง่ายเป็นรูปตัว L
เรามาดูผังโครงการกันต่อค่ะ เริ่มจาก Master Plan ชั้น 1 มีทางเข้า-ออกจากถนนวิภาวดี-รังสิต เมื่อเข้ามาในโครงการจะต้องผ่าน Main Gate ก่อนเข้าสู่พื้นที่ภายในโครงการ ด้านหน้าโครงการจะเจอพื้นที่ส่วนกลางจุดแรกคือ Hidden Forest เป็นพื้นที่สวนสีเขียวที่ช่วยปรับอารมณ์และเป็น Barrier ระหว่างตัวอาคารและถนนใหญ่
ถนนภายในโครงการแบ่งเป็น 2 เลนวิ่งสวนกันได้ โดยจะขับวนทางฝั่งขวาของตัวโครงการเข้าสู่อาคารจอดรถ และวนออกมาที่ทางเข้า-ออกเดิม โดยจะมีจุด Drop Off บริเวณหน้า Lobby สำหรับส่งลูกบ้านและวนรถกลับออกไปได้เลย โดยบริเวณที่จอดรถชั้น 1 นี้เองจะมี EV Charger ไว้รองรับให้ ส่วนที่จอดรถหลัก ๆ จะขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2-7 ค่ะ
ภายในตัวอาคารส่วนแรกเป็น Lobby Lounge ซึ่งเป็นโถงต้อนรับหลัก ฝ้าเพดานสูง 5.8 ม. ติดกับ Lobby จะมีห้องน้ำรับรอง, Mail Room และ Lift Lobby มีลิฟต์โดยสาร 5 ตัว และลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารต่อห้องพักอาศัยประมาณ 169 : 1 ค่ะ นอกจากนี้ภายในโครงการยังมียูนิตร้านค้าอีก 3 ยูนิต แว่ว ๆ ว่าหนึ่งในนั้นจะเป็น 7-11 ซึ่งถือว่าจะสะดวกกับลูกบ้านมากเลยทีเดียว
ชั้น 2 จะมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 1 ด้วยบันไดโค้ง เป็นส่วนของ E-Library ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นที่จอดรถค่ะ
ชั้น 3 ต่อเนื่องจากชั้น 2 ขึ้นมาจะมีห้อง Meeting Room ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะเป็นที่จอดรถเหมือนเดิม
เราเข้าไปดูบรรยากาศจริงของโครงการกันเลย จุดแรกคือ Main Gate ของโครงการ ออกแบบมาเป็น Double Gate Security มีรั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเลื่อนอัตโนมัติ (เลื่อนปิดโครงการในเวลากลางคืนอย่างมิดชิด) ลูกบ้านของโครงการเข้า-ออกโดยใช้ระบบ Scan ป้ายทะเบียนรถ สามารถผ่านเข้า-ออกโครงการได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนแขกที่มาจากภายนอกโครงการก็จะต้องทำการแลกบัตรก่อนทุกครั้งค่ะ
สำหรับลูกบ้านของโครงการที่เดินเข้า-ออกโครงการ ก็จะมีทางเดินและประตูรั้วกั้นแยกต่างหากเพื่อความปลอดภัย ดีไซน์ด้วย Finishing ลายหินอ่อนดูหรูหราสวยงาม
ตรงนี้ลูกบ้านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access นะคะ แต่สำหรับผู้มาติดต่อจะต้องทำการกรอกข้อมูล กดหมายเลขห้องที่ต้องการติดต่อ และสแกนบัตรประชาชน เพื่อรับ QR Code ในการเข้าโครงการตามระบบเลย
ตรงเข้ามาจะผ่านสวน Hidden Forest เลยค่ะ เป็นพื้นที่สวนปรับอารมณ์ และยังเป็น Buffer ระหว่างถนนใหญ่กับตัวอาคาร ออกแบบแลนด์สเคปมาได้สวยงามมาก ๆ
มีการออกแบบสวนซ้อน ๆ กันเป็นหลายเลเยอร์ โดยการใช้ Hardscape, ไม้ใหญ่ให้ร่มเงา กับไม้พุ่ม และมีการซ่อนม้านั่งพักผ่อนเข้าไปอย่างกลมกลืน
นอกจากนี้ก็ยังมี Pavilion เป็นศาลานั่งพักผ่อนในร่มจัดเอาไว้ให้ เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน ชมวิว และอ่านหนังสือได้สบาย ๆ
จากบริเวณ Main Gate พอเข้ามาภายในโครงการแล้วจะมีการตัดถนนทางฝั่งขวาของตัวอาคารเพื่อวนเข้าสู่อาคารจอดรถ พื้นถนนตกแต่งด้วย Stamped Concrete ดูเรียบร้อยสวยงาม
บริเวณนี้เองจะเป็น Shop ทั้ง 3 ยูนิต ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายของโครงการค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในสำนักงานขายของโครงการ
จากนั้นจะเป็นทางวนขึ้นสู่อาคารจอดรถที่ชั้น 2-7
บริเวณที่จอดรถชั้น 1 เองก็จะมี EV Charger รองรับให้ถึง 3 จุดด้วยกัน
บริเวณด้านหน้า Lobby มีการออกแบบ Canopy เป็นจุด Drop Off สำหรับส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคาร มีหลังคากันแดดกันฝน ตกแต่งด้วย Waterscape เป็นลานน้ำพุ สร้างบรรยากาศได้ดี
ก่อนเข้าสู่พื้นที่ภายในอาคารจะมี Semi-Outdoor Lobby เป็นพื้นที่พักคอยโปร่ง ๆ ถ้าใครรอ Shuttle Bus ของคอนโดให้ไปส่งที่ตัวสถานีรถไฟฟ้า ก็มารอบริเวณนี้ได้ค่ะ และจะมีเคาน์เตอร์ห้องนิติบุคคลให้ติดต่อทางได้ฝั่งซ้าย ส่วนประตูเข้าสู่ตัวอาคารออกแบบเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติเพื่อความสะดวกสบาย และเพื่อลดการสัมผัสด้วย
ภายใน Lobby Lounge ออกแบบในสไตล์ Modern Luxury การตกแต่งเน้น Finishing ลายหินและลายไม้ ตัดกับงานโลหะโทนสี Copper ตกแต่งด้วยโคมไฟเส้นและไฟซ่อนที่ออกแบบมาอย่างเป็นเอกลักษณ์ ดูแวววาว หรูหราทีเดียว แถมยังออกแบบ Double Volume Space มีฝ้าเพดานสูงถึง 5.8 ม. ได้ความแกรนด์ และได้บรรยากาศที่ดูโปร่งสบาย
ภายในมีชุดโซฟาชุดใหญ่ ๆ จัดเอาไว้ให้นั่งพักผ่อนและพักคอยได้หลายชุด รวมไปถึงมีโต๊ะตัวใหญ่สำหรับนั่งทำงานได้ระหว่างการพักคอย
ผนังด้านหนึ่งออกแบบเป็นผนังกระจกสูงแบบ Full Height รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และยัง Connect กับแลนด์สเคปภายนอกอีกด้วย
ฝั่งหนึ่งของ Lobby Lounge จะมีประตูเชื่อมกับ Mail Room และบริเวณห้องน้ำรับรอง
ภาพบรรยากาศภายใน Mail Room จุดนี้ก็จะมี Smart Locker เตรียมเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศภายใน Mail Room
บริเวณ Lobby Lounge ฝั่งด้านหน้าเราจะเห็นบันไดวนเชื่อมต่อไปยัง E-Library และ Meeting Room บนชั้น 2 และชั้น 3 ค่ะ
ภาพบรรยากาศภายใน E-Library บนชั้น 2 การออกแบบภายในห้องยังคงความหรูหราโดยล้อมาจาก Lobby Lounge แต่จะดูอบอุ่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นด้วยพื้นลายไม้ ฝ้าเพดานที่ไม่สูงจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับการนั่งทำงานและการพักผ่อน มีการจัดมุมโต๊ะทำงานหลายมุม รวมไปถึงมีมุมให้งีบได้ด้วยนะคะ บริเวณนี้เราสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม. เลย
ถ้าต้องการนั่งทำงานเป็นกลุ่ม ก็มีโต๊ะรองรับพร้อม Smart TV ใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์
ภาพบรรยากาศภายใน Meeting Room บนชั้น 3 ส่วนแรกจะเป็นมุมโซฟาสำหรับนั่งพักคอย
ด้านในกั้นส่วนเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ มีโต๊ะประชุมรองรับได้ 8 ที่นั่งพร้อม Smart TV นัดประชุมคุยงานกันแบบเป็นส่วนตัวได้ โดยสามารถจองการใช้งานกับทางนิติบุคคลผ่าน Application ได้ค่ะ
เรากลับลงมาบริเวณ Lobby Lounge จะมีประตูเชื่อมสู่ Lift Lobby สามารถเข้า-ออกได้ด้วยระบบ Face Scan และการใช้ Key Card
ภาพบรรยากาศภายใน Lift Lobby จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 5 ตัวด้วยกัน เป็นลิฟต์ระบบล็อกชั้นทั้งหมด
ชั้น 8 ชั้นนี้จะเริ่มเป็นส่วนพักอาศัยแล้วค่ะ จะมีห้องพักอาศัยทั้งชั้น 34 ยูนิต และมีพื้นที่สวนส่วนกลางเป็น Green Space ขนาดใหญ่
จากโถงลิฟต์ของชั้น 8 จะมีประตูเปิดออกสู่พื้นที่สวน Green Space ได้
พื้นที่สวนชั้นนี้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่หันหน้าออกทางฝั่งอุทยานสวนจตุจักรและ City View ออกแบบเป็นสวนไล่ระดับประมาณ 1.5 ม. เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้ โดยบริเวณที่เป็นห้องพักอาศัยจะมีการปลูกแนวต้นไม้เพื่อทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ภายในสวนมีการออกแบบมุมนั่งพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ เป็นมุม ๆ วิธีการออกแบบทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวระหว่างพื้นที่โดยการใช้ไม้พุ่มในการแบ่งโซนและพรางสายตา
นอกจากนี้ก็ยังมีมุมศาลาพักผ่อนในร่ม สังเกตการออกแบบจะใช้ระแนงไม้กั้นแบบเฉียงเพื่อช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน
ชั้น 9-10 เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นจำนวน 35 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว L วางผังแบบ Double Corridor โดยมี Lift Lobby อยู่ตรงกลางระหว่างโถงทางเดินทั้ง 2 ฝั่ง
ชั้น 11-12, 12A-17 มีห้องพักอาศัยจำนวน 33 ยูนิต
ชั้น 18-27 ลักษณะของแปลนอาคารจะเหมือนกันเลยค่ะ ทั้งหมด 33 ห้อง เพียงแต่ลักษณะของห้องพักจะแตกต่างกันเล็กน้อย
ชั้น 28-29 ลักษณะของแปลนอาคารจะเหมือนกันทั้งหมด 33 ห้อง เพียงแต่ลักษณะของห้องพักจะแตกต่างกันเล็กน้อย
ชั้น 30, 32 มีห้องพักอาศัย 33 ยูนิต ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องแบบ 1 Bedroom Loft จำนวน 8 ยูนิต หันหน้าไปทางสวนจตุจักรค่ะ
ชั้น 31, 33 มีห้องพักอาศัย 25 ยูนิต
ชั้น 34 เป็น Main Facilities ของโครงการทั้งชั้นค่ะ หลัก ๆ แล้วจะเป็น Sky Pool แบ่งเป็นโซน Kid’s Pool, Jacuzzi, Sunken Seat, โซนสระในร่ม Shallow Pool และ Pool Terrace ให้นั่งพักผ่อน ส่วนด้านในตัวอาคาร ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็น Sky Bar โดยโซนนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำแยกชาย-หญิงพร้อมห้อง Sauna & Steam และ Changing Room
อีกฝั่งของอาคารเป็น Workout Space เป็นพื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ แยกส่วนห้องฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นมาตรฐาน และ Fitness On Demand 2 ห้องที่เป็นห้อง Studio รองรับการออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ
มี Co-Working Space เป็นห้องทำงานห้องใหญ่ ข้าง ๆ กันยังมี Theater Room และ Kid’s Room แยกให้ต่างหาก และ Highlight อีกจุดคือ Sky Lounge ที่หันหน้าไปทางสวนจตุจักร เห็นวิวสวน 700 ไร่แบบเต็ม ๆ
เราออกมาจากโถงลิฟต์เลี้ยวไปทางปีกซ้ายก่อนนะคะ
ทางฝั่งปีกซ้ายจะเป็นส่วนของ Workout Space, Kid’s Room, Theater Room, Co-Working Space และ Sky Lounge
เข้ามาดูภายใน Workout Space กันก่อนค่ะ ชั้นนี้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มี Space แบบ Double Volume ได้ความโปร่งโล่งสบาย พร้อมผนังกระจกแบบ Full Height รับแสงสว่างได้เต็มที่ และยังชมวิวได้แบบเต็มสายตาอีกด้วย
พื้นที่โซนหลัก ๆ จะเหมือนเป็น Commercial Gym เลย ได้อุปกรณ์ออกกำลังกายมาเยอะและครบครันมากทั้ง Cardio และ Weight Training Machine
ฝั่งที่อยู่ติดริมกระจกจะเป็นพวก Cardio Machine นะคะ มีทั้ง Treadmills, Ellipticals และ Spin Bikes ครบเลย
ส่วนฝั่งที่อยู่ติดผนังด้านในจะเป็น Weight Training Machine และยังมีพวก Cable Machines กับ Dumbbell Rack พร้อม Adjustable Benches และเครื่องสำหรับยืดเส้นให้อีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมี Fitness On Demand เป็นห้องสตูดิโอให้อีก 2 ห้อง ห้องหนึ่งจะเป็นแบบ Multi-Purpose ใช้ออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ โดยจะมี Smart TV ติดตั้งมาให้ ใช้เปิด VDO สอนออกกำลังกายได้ หรือจะนัดครูสอนจากข้างนอกเข้ามาก็ได้เช่นกัน
ภายในห้องยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Gym Ball และ Yoga Mat รองรับให้
อีกห้องจะเป็น Bike Studio มี Smart TV เปิด VDO สอนปั่นจักรยาน มาเล่นกันได้แบบเป็นกลุ่ม น่าสนุกทีเดียวค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็น Kid’s Room ค่ะ เป็นห้องสำหรับเด็กเล็กแยกให้ต่างหาก ระหว่างออกกำลังกายหรือนั่งทำงานก็ให้เด็ก ๆ มานั่งเล่นกันในห้องนี้ได้
ถัดมาเป็น Theater Room มีหน้าจอ TV ขนาดใหญ่พร้อมโซฟานั่งสบาย ๆ จองดูหนังและ Netflix กับเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวอย่างเป็นส่วนตัวได้
และยังมี Co-Working Space ขนาดใหญ่บนชั้นนี้อีกด้วยนะคะ การจัดเฟอร์นิเจอร์จะแบ่งออกเป็นหลายมุม มีทั้งโต๊ะตัวใหญ่เป็น Station ในการทำงานแบบจริง ๆ จัง ๆ ให้แชร์กัน มีมุมเก้าอี้แบบพนักพิงสูงพร้อมโต๊ะวางหนังสือหรือ Notebook ขนาดย่อม ๆ รองรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว อยากหามุมสงบ ๆ ของตัวเอง
และยังมีมุมโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางและอาร์มแชร์ รองรับการนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานแบบสบาย ๆ พักสายตาเพื่อชมวิวก็ได้เช่นกัน
อีก Highlight หนึ่งของชั้นนี้ก็คือ Sky Lounge นั่นเองค่ะ เพราะห้องนี้ออกแบบผนังกระจกแบบ Full Height มาทั้ง 3 ด้านเพื่อเปิดรับ City View และ Park View ได้แบบเต็มสายตา
การตกแต่งภายในห้องจะดูหรูหรา เหมาะสำหรับการพักผ่อนและการเข้าสังคม มีมุมโซฟาขนาดใหญ่สำหรับนั่งพักผ่อนหรือพูดคุยได้สบาย ๆ
และที่สำคัญคือมีมุมอาร์มแชร์สำหรับชมอุทยานสวนจตุจักรที่มีขนาดถึง 700 ไร่แบบนี้ เป็นวิวหลักล้านเลยค่ะ นั่งชมได้เพลิน ๆ ทั้งวัน
คราวนี้เรามาดูอีกฝั่งของตัวอาคารกันบ้างซึ่งจะเป็นส่วนของ Sky Pool และ Sky Bar ค่ะ
ตรงนี้จะมีห้องน้ำชาย-หญิงแยกให้ต่างหาก
ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่โดยแบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน ตรงกลางห้องออกแบบเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือขนาดใหญ่
ฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำ จัดสุขภัณฑ์รุ่นอัตโนมัติให้ใช้งานกัน
อีกฝั่งจัดเป็นโซน Changing Room มีตู้ล็อกเกอร์เตรียมเอาไว้ให้
มีมุมสำหรับนั่งแต่งตัวแต่งหน้าได้ หนุ่ม ๆ สาว ๆ น่าจะชอบกันนะคะ
มีโซน Shower
รวมไปถึงห้อง Sauna
และห้อง Steam ขนาดใหญ่ที่ได้วิวจากภายนอกด้วย
เราออกมาโซน Sky Bar และ Sky Pool กันต่อ
สำหรับ Sky Bar ก็จะเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนขนาดใหญ่ ที่มีการออกแบบฝ้าเพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume พร้อมผนังกระจกแบบ Full Height ชมวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งหนึ่งได้ City View และอีกฝั่งได้ Sky Pool View
มีโซฟาและอาร์มแชร์สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวและดื่มเครื่อมดื่มไปด้วยได้ บรรยากาศดีมาก ๆ
และยังมีโต๊ะบาร์ขนาดใหญ่ให้นั่งหันออกไปทางฝั่ง Sky Pool ได้ ได้การพักผ่อนหลากหลายรูปแบบ ครบทุกรสชาติเลยค่ะโครงการนี้
คราวนี้เราออกมาดู Sky Pool กันต่อ ทางโครงการออกแบบมาเป็น Lap Pool ระบบเกลือขนาดใหญ่ถึง 6 x 28 ม. ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบาย ๆ และยังออกแบบให้เป็น Infinity Edge Pool จึงสามารถชมวิวได้แบบเต็มสายตา
บริเวณรอบ ๆ สระยังออกแบบเป็นพื้นที่สำหรับ Sunbed ในร่มให้นอนพักผ่อนชมวิวได้แบบสบาย ๆ
มีโซนสระเด็กกั้นส่วนแยกให้ต่างหากเพื่อความปลอดภัยพร้อมน้ำตกแบบ Rain Shower
มุมหนึ่งบริเวณขอบสระออกแบบเป็น Jacuzzi นั่งนวดตัวและชมวิวได้เริ่ดมาก ๆ
โซนในร่มอีกส่วนหนึ่งจะมีโซน Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระและโซน Shallow Pool
มุมนี้เป็นมุมพักผ่อนที่น่ารักเหมือนกันค่ะ ออกแบบมาเป็น Day Bed กลางสระ เบาะสามารถปรับเอนนอนได้หลายระดับด้วย
ภาพรวมบริเวณสระว่ายน้ำอีก 1 มุม
ด้านหลังนี้เองจะมีประตูที่สามารถใช้ขึ้นไปชั้นดาดฟ้าได้
ก่อนขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าจะมี Mezzanine Floor อยู่ตรงกลาง เป็นโซนพักผ่อนในร่มแบบ Semi-Outdoor ดูเหมือนเป็นพื้นที่แบบลับ ๆ ที่ได้ความเป็นส่วนตัว นั่งพักผ่อนคุยกันเงียบ ๆ และยังได้ทั้งวิวเมืองกับวิวสวนแบบเต็มสายตาอีกด้วย เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะชอบมุมนี้กัน
ชั้น Rooftop เป็นพื้นที่สีเขียวกลางแจ้ง โดยจะมีทั้งส่วน Co-Kitchen, มุม BBQ และ Sky Garden พร้อม Jogging Track และโซนออกกำลังกายกลางแจ้งค่ะ
ชั้นนี้โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็น Sky Garden ที่ออกแบบเป็น Jogging Track โดยรอบ พร้อมมุมออกกำลังกายกลางแจ้งสำหรับสาย Outdoor หรือสายโยคะ ซึ่งจริง ๆ แล้วส่วนนี้ยังสามารถใช้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย
บริเวณด้านหลังปล่องบันไดออกแบบเป็นมุมสวนพร้อม Daybed สำหรับนอนเล่นพักผ่อนพร้อมวิวเมือง
อีกฝั่งหนึ่งของ Sky Garden ออกแบบมาเป็น Step Garden ใช้ออกกำลังกายฝึกความคล่องตัวได้
มีลานอเนกประสงค์กว้าง ๆ เป็นมุมนั่งพักผ่อนและมุม BBQ รอบ ๆ ออกแบบเป็น Jogging Track
ตรงนี้เองจะมี Co-Kitchen ที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานทำอาหารปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ได้ โดยสามารถจองการใช้งานได้เช่นกัน และจะมีค่าใช้จ่ายในการบริการเก็บล้างพื้นที่ในแต่ละครั้งประมาณ 1,000 บาทค่ะ
ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนทั้งหมด
และนี่ก็คือวิวสวนจตุจักรจากบนชั้นสูงสุดของโครงการ
แบบห้องพัก
ภายในโครงการจะมีห้องพักอาศัยแบ่งเป็น 5 แบบหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
ภาพแปลนห้องพัก
ตัวอย่างแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 26-27 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 30-31 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45.5 ตร.ม.
ตัวอย่างแปลนห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 53 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมวันนี้มี 2 แบบนะคะ คือ
ห้องพักอาศัยของโครงการจะตกแต่งมาให้ 2 แบบ คือ Fully Fitted และ Fully Furnished โดยห้องที่เราจะพาไปชมทั้ง 2 ไซซ์จะตกแต่งแบบ Fully Furnished ได้มาครบทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว พร้อมเครื่องปรับอากาศภายในห้อง รายละเอียดจะเป็นยังไงไปดูกันต่อเลย
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม.
มาเริ่มที่ห้องตัวอย่างแบบแรกเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ Living Area มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนจากห้องนอนและห้องครัว โดยจะเป็นห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียง และมีห้องน้ำที่เข้าได้จากทางฝั่งห้องครัว โดยรวมแล้วเป็นห้องที่อยู่อาศัยได้ประมาณ 1-2 คนกำลังพอดีค่ะ
ประตูทางเข้าหน้าห้องเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้ม มีตัวจบวัสดุพื้นติดตั้งมาให้เพื่อกันฝุ่นเข้าห้อง
ตัวบานมี Digital Door Lock ของ Unicor ติดตั้งมาให้แบบ Push and Pull ใช้งานได้ทั้งระบบ Finger Scan, Passcode, Key Card, กุญแจไข, Mobile App นอกจากนั้นยังติด Sensor วัดอุณหภูมิไว้ให้ ถ้าอุณหภูมิห้องสูงกว่า 60 องศา ประตูจะปลดล็อกอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยค่ะ
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็น Living Area เชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องครัวโดยมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนช่วยแบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ห้องมาตรฐานปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังติดวอลล์เปเปอร์ ฝ้าเพดานฉาบเรียบติด Downlight LED โดยมีความสูงฝ้าเพดานประมาณ 2.75 ม.
มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบทั้งห้อง พร้อมเครื่องปรับอากาศ 2 ตัวขนาด 9,000 BTU และระบบ Home Automation ที่สามารถสั่งการเปิด-ปิดไฟและแอร์ภายในห้องได้ผ่านสมาร์ตโฟนค่ะ
โดยสวิตช์ไฟทั้งห้องจะเป็นแบบ Touch Screen ของ Broadlink
เรามาดูในส่วนของมุมนั่งเล่นกันก่อน
มุมนี้เราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
เราได้ชั้นวางทีวีมาด้วย หน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะเป็นแบบมาตรฐานของโครงการนะ โดยระยะนี้สามารถดูทีวีจอขนาด 50-55 นิ้วกำลังพอดีค่ะ
และมีตู้เก็บของและเก็บรองเท้า Built-in มาให้ตรงมุมหน้าห้องพอดี ดีไซน์เก็บขอบโค้ง ใช้โทนสีครีมดูสวยงาม
ติดกันเป็นมุมรับประทานอาหาร เราได้ชุดโต๊ะและเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่งมา วางเข้ามุมได้พอดี
ภาพรวมภายในโซน Living Area อีกมุม
แม้ว่าห้องนี้จะเป็นไซซ์เริ่มต้นของโครงการ แต่ก็ได้ความโปร่งด้วยการกั้นส่วนพื้นที่ของห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทั้งฝั่งห้องนอนและฝั่งห้องครัว ทำให้ Space ของห้องดูเชื่อมต่อกัน ได้แสงสว่างอย่างเพียงพอ แต่ยังคงความเป็นสัดส่วนด้วย ซึ่งประตูของห้องนอนจะเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบอะลูมิเนียมแบบ 3 ตอน เวลาที่เปิดประตูเชื่อมพื้นที่ห้องก็ทำให้สามารถเลื่อนเปิดได้กว้างนั่นเองค่ะ
ภายในห้องนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติ และมีบานกระทุ้งให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ และในห้องนี้เราก็ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบเช่นกันตามที่เห็นเลยค่ะ
จะมีตู้เสื้อผ้า Built-in สูงชนเพดานห้อง หน้าบานเป็นบานเลื่อนกระจกใส ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าและชั้นวางของให้
รวมไปถึงมีลิ้นชักเก็บของให้แบบนี้
ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ให้เราสามารถ Built-in เพิ่มเป็นโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาขนาดย่อม ๆ ใช้แต่งตัวได้
นอกจากนี้ก็ยังมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ส่วนฟูกที่นอนทางโครงการให้เราเลือกซื้อแบบที่เราชอบเข้ามาเองได้
โดยข้างหัวเตียงจะมีปลั๊กไฟพร้อม USB Port เตรียมมาให้แบบนี้ค่ะ
ภาพรวมภายในห้องนอนอีก 1 มุม
เรามาดูห้องครัวกันต่อ ในส่วนของห้องครัวจะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้เปิดระบายอากาศได้ดี และปูพื้นด้วยกระเบื้อง Granito ขนาด 60 x 60 ซม. เพื่อให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้สะดวก
และนี่คือชุดเคาน์เตอร์ครัวที่เราได้มากับตัวห้องนะคะ มีเป็นชั้นเก็บของ ใช้วางพวกขวดเครื่องปรุงต่าง ๆ รวมไปถึงหนังสือสูตรอาหารได้
ตัวเคาน์เตอร์ครัวใช้ Top เป็นหินสังเคราะห์สีเทา ใต้เคาน์เตอร์มีลิ้นชัก, ตู้เก็บของ และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ ปิดผิวหน้าบานทั้งหมดด้วยลามิเนต โดยใช้ตัวบานแบบ Soft Close ทั้งหมด
บน Top เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างจานขนาด 1 หลุมพร้อมก๊อกน้ำหมุนซ้าย-ขวาได้
พร้อมเตาปรุงอาหารเซรามิกขนาด 2 หัวของ Franke
ด้านบนมีตู้ลอยพร้อมตู้เก็บของ, ชั้นวางไมโครเวฟ, ชั้นวางจาน รวมไปถึง Hood ดูดควันของ Franke
ส่วนพื้นที่ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดราวกันตกระแนงเหล็ก พร้อมระแนงบังสายตาบริเวณที่แขวน CDU และก๊อกสนามอีก 1 ตัว ใช้สำหรับการซักล้างและตากผ้าได้สบายค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวจะเข้าสู่โซนห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีการวางแปลนแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งอย่างเป็นสัดส่วน ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่โทนสีเทาทั้งแบบเรียบและแบบลายหินดูเรียบและสวยงาม และมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้บริเวณ Shower อีก 1 ตัว
ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้เป็นของแบรนด์ Cotto ทั้งหมดค่ะ มีอ่างล้างมือแบบฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป พร้อมก๊อกน้ำ ใต้อ่างมีตู้เก็บของให้ และมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำติดตั้งมาให้เผื่อการใช้งานพวกไดร์เป่าผมและที่โกนหนวดไฟฟ้าได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ด้านบนเป็น Built-in ตู้เก็บของนะคะ โดยติดตั้งหน้าบานเป็นกระจกเงา ใช้เก็บของได้เยอะเลย
ด้านในสุดเป็นโซน Shower มี Shower Screen เป็น Tempered Glass ติดตั้งมาให้พร้อมราวแขวนผ้าเช็ดตัวด้านหน้า
ด้านในมีชุด Rain Shower, Hand Shower และเจาะผนังทำเป็นชั้นวางของให้แบบนี้เลย
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม.
มาดูห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. กันต่อ พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย และมีการวางแปลนห้องที่แตกต่างกัน โดยห้องนี้จะวางห้องครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโซน Living Area และด้านในสุดเป็นโซนห้องนอนเชื่อมต่อกับระเบียง โดยแต่ละส่วนจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนแยกโซนกันอย่างเป็นสัดส่วน โดยรวมแล้วเป็นห้องที่อยู่อาศัยได้ประมาณ 1-2 คนเช่นกัน แต่รองรับความชอบและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันค่ะ
สำหรับสเป็กวัสดุของห้องทั้ง 2 ห้องนี้จะเหมือนกันเลยค่ะ แตกต่างกันตรงที่วิธีการวางแปลนของห้อง พอเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเจอกับห้องครัวก่อน เป็นครัวปิดกั้นส่วนจาก Living Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
และนี่คือเคาน์เตอร์ครัวที่ได้มากับห้อง มีตู้เคาน์เตอร์และตู้ลอยเก็บของได้พอสมควร และยังเหลือพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้ากับตู้เย็นได้
เราได้ Hop-Hood-Sink ของ Franke มาครบชุดเหมือนเดิม มาชั้นสำหรับวางเตาไมโครเวฟและชั้นวางจานชามให้ด้วย
ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียก-โซนแห้ง ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทาสีเรียบและลายหินธรรมชาติ พร้อมสุขภัณฑ์จากแบรนด์ Cotto มีอ่างล้างมือบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป, โถสุขภัณฑ์, ตู้แขวนผนังสำหรับเก็บของติดหน้าบานกระจกเงา, โซน Shower พร้อม Shower Screen, Rain Shower และ Hand Shower ครบตามการใช้งาน
เข้ามาด้านในห้องเป็นโซน Living Area ขนาดใหญ่ ได้หน้ากว้างเยอะ ดูทีวีจอขนาด 70 นิ้วได้เลยนะคะ
ตรงนี้จะกั้นส่วนจากห้องนอนด้วยบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนเช่นกัน ทำให้ทุกส่วนของห้องรวมไปถึงพื้นที่ห้องครัวได้แสงสว่างจากธรรมชาติด้วย
การใช้งานของ Living Area สามารถใส่ Dining Area เป็นโต๊ะรับประทานอาหารเข้าไปได้เลย เป็นห้องที่ไม่ได้นั่งกินข้าวแบบหันหน้าหากันจริง ๆ จัง ๆ แต่เป็นนั่งกินข้าวดูหนังไปด้วยชิว ๆ เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนหลาย ๆ คน
ฝั่งตรงข้ามวางเป็นชั้นวางทีวี เราสามารถใส่พวกชั้นวางของ Built-in ติดผนังเพิ่มเข้าไปด้วยก็ได้นะคะ
เข้ามาด้านในห้องนอนเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง รับแสงสว่างได้เต็มที่
ในห้องได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตกำลังพอดี ๆ กับพื้นที่ห้องเลยค่ะ
ตรงนี้จะมีมุมอเนกประสงค์ริมหน้าต่างด้วย วางเป็นอาร์มแชร์สำหรับนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือแบบนี้ก็ลงตัว หรือจะใส่เป็นโต๊ะทำงานขนาดย่อม ๆ ก็ได้นะ
ฝั่งตรงข้ามเราได้ตู้เสื้อผ้า Built-in มาสเป็กเดิมเลย ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้ลงตัว
พื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะมีหน้ากว้างมากขึ้น และมีการเก็บตัว CDU ขึ้นไปบนฝ้าเพื่อให้เราใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่
ห้องนี้จะเป็นฝั่งที่ได้วิวสวนจตุจักรและ City View นะคะ บรรยากาศดีทีเดียว
ภาพรวมบรรยากาศภายในห้องนอนอีก 1 มุม
ราคา (ก.พ. 67)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก https://bit.ly/40mQ3Az
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ The Privacy จตุจักร ตั้งอยู่บนเส้นวิภาวดี-รังสิตฝั่งมุ่งหน้าดินแดง ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว เป็นทำเลหนึ่งใน Hub ของคนเมือง เพราะมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย และยังเป็นทั้งแหล่งงานและแหล่งรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ถือว่าครบครัน ทำให้เป็นทำเลศักยภาพที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเปิดตัวของคอนโดใหม่หลายแห่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดการเติบโตของพื้นที่โซนนี้ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่านถึง 2 สายด้วยกันก็เป็นอีก 1 ปัจจัยที่สำคัญค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว สำหรับคนขับรถเอง ถ้ามองในแง่การเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นต่าง ๆ ก็ถือว่าเดินทางได้สะดวก เพราะเชื่อมต่อทั้งถนนพหลโยธิน ถนนสุทธิสาร ถนนรัชดาภิเษก ถนนดินแดง เชื่อมต่อกับดอนเมืองโทลเวย์กับทางด่วนศรีรัช และสามารถเชื่อมต่อไปยัง Hub อื่น ๆ รวมไปถึงตัวเมืองชั้นในได้สะดวกทีเดียว
การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า สะดวกมาก ๆ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สถานีในระยะ 450-650 ม.* ทั้ง MRT พหลโยธิน และ BTS ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งถือเป็นสายหลัก ๆ ในการเข้า-ออกเมืองโดยตรงอยู่แล้วโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย นอกจากนั้นหน้าโครงการเองก็มีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการเลย เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางที่ทั้งประหยัดและสะดวก
การออกแบบโครงการ, แบบบ้าน และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด High Rise ที่มี Highlight เป็นวิวสวนจตุจักร 700 ไร่ การออกแบบโครงการเน้นสไตล์ Modern Luxury ดูทันสมัยและหรูหรา มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะที่เน้นการพักผ่อนในหลากหลายรูปแบบ เน้นการทำงานเหมาะสำหรับชาวออฟฟิศ, คนที่ต้อง WFH และ Freelancer เรียกว่าให้มาครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้พอสมควร บรรยากาศในโครงการสวยน่าอยู่และพักผ่อน
ส่วนห้องพักอาศัยของโครงการจะมีตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom- 2 Bedroom ขนาด 26-55 ตร.ม. รองรับการอยู่คนเดียว, อยู่แบบเป็นคู่ และอยู่แบบเป็นครอบครัว ตอบโจทย์ทั้งพนักงานออฟฟิศที่เป็นคนโสด และคนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว โดยห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการจะตกแต่งให้แบบ Fully Furnished เพื่อให้ง่ายสำหรับคนโสดที่ไม่มีเวลาแต่งห้องเองมากนัก ส่วนห้องไซซ์ใหญ่ ๆ ขึ้นไปจะตกแต่งให้แบบ Fully Fitted เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวสามารถหาเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Home Automation และ Digital Door Lock เพื่อความปลอดภัยติดตั้งมาให้อีกชั้นค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ด้วยความที่ Highlight ของโครงการนั้นเป็นวิวสวนจตุจักร เพราะฉะนั้นการออกแบบพื้นที่สวนกลางของโครงการก็จะหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาออกแบบ โดยให้แต่ละฟังก์ชันที่เอาไว้ใช้พักผ่อนเปิดรับวิวสวนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ, พื้นที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่, ห้องออกกำลังกาย และ Sky Lounge ก็จะได้วิวสวนทั้งหมด
พวก Co-Working Space, Theater Room และห้องออกกำลังกายจะได้เป็น City View ที่สวยเหมือนกัน ส่วนชั้นล่างโซน Lobby ก็จะยังได้วิวสวนบริเวณด้านหน้าโครงการ เชื่อมต่อขึ้นไปมี E-Library และ Meeting Room รองรับตลอด 24 ชม. พร้อม Smart Living Transformation และระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ ถือว่าดีพอสมควรเลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Line : https://lin.ee/wL3vUJw หรือ @theprivacyjatujak
Website : https://www.pruksa.com/theprivacy/jatujak
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโด ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Privacy จตุจักร เริ่มต้น 3.29 ล้าน*
MARQUIS พญาไท เริ่ม 265,000 บาท/ตร.ม.*
PREMIO UNIC เอกมัย-ลาดพร้าว เริ่ม 1.99 ล้าน*
HI สุขุมวิท-บางจาก สเตชั่น เริ่ม 1.5 ล้าน*
The Address สยาม-ราชเทวี เริ่ม 8.29 ล้าน*
HAUS นางลิ้นจี่
ARLO สุขุมวิท 105-ลาซาล เริ่ม 1.79 ล้าน*
THE STAGE Mindscape รัชดา-ห้วยขวาง เริ่ม 3.69 ล้าน*
Chapter จุฬา-สามย่าน เริ่ม 5.59 ล้าน*
Nue Z-Square Suan Luang Station เริ่ม 1.79 ล้าน*
แสดงความคิดเห็น