รีวิว มิวนีค สุขุมวิท 23 / MUNIQ Sukhumvit 23 คอนโด Luxury พร้อมอยู่ เลี้ยงสัตว์ได้ ใจกลางย่าน CBD อโศก ใกล้ MRT สุขุมวิท และ BTS อโศก
Written by : THAnATH
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ MUNIQ สุขุมวิท 23 จาก Major Development ตั้งอยู่ในย่านอโศก ตัวโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 230 ม. เป็นซอยที่มีทางเชื่อมเข้าออกได้หลายทาง ทั้งจากถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี อยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช
ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 200 ม. ที่เป็นจุด Interchange ระหว่าง MRT สุขุมวิท กับ BTS อโศก ใกล้กับ ARL มักกะสัน และ ท่าเรือคลองแสนแสบ มศว ประสานมิตร ตัวทำเลถือเป็นย่าน CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีความเพียบพร้อมในทุกๆด้าน มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม สถานศึกษา โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า
มิวนีค สุขุมวิท 23 เป็นคอนโดระดับ Luxury ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘ LIVE AS ART ‘ เพื่อสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการทั้งการตกแต่งภายนอก และการตกแต่งภายใน คือ การผสมผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ ขณะเดียวกันยังตอบสนองต่อพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ทั้งโดดเด่นด้วยสไตล์มอนเดรียน อาร์ท (Mondrian Art)
ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายกึ่ง Minimal และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างเพื่อสะท้อนถึงความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังนำแนวคิดสวนแนวตั้งอย่าง Vertical Garden เข้ามาผสมผสานกับการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยทีมงานออกแบบระดับประเทศอย่าง Palmer and Turner งานตกแต่งภายในโดย BOIFFILS ส่วนงาน Landscape ออกแบบโดย Shma
รูปแบบโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดิน 1-1-37 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 201 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 Bedroom, 2 Bedroom, The Collection (Simplex, Duplex, Triplex) ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 34.74 – 191.11 ตร.ม. วัสดุที่เลือกใช้เกรดพรีเมียมแบรนด์จากต่างประเทศ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีให้ครบครันอาทิ Lobby, Mail Box, Smart Locker, Secret Garden, Sky Pool, Private Jacuzzi, Sky Terrace, Saunas & Locker, Fitness Center, Social Lounge, Exclusive Theatre room, Terrace Garden, Roof Top Panorama Lounge, Auto Parking, EV Charger, Access Card Control, CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.และเป็นโครงการ Pet Friendly Residences หรือคอนโดมิเนียมที่เลี้ยงสัตว์ได้ ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท*
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดและสิทธิพิเศษคลิก : https://bit.ly/36dogri
ชื่อโครงการ | มิวนีค สุขุมวิท 23 / MUNIQ Sukhumvit 23 |
เจ้าของโครงการ | Major Residences Co. , Ltd (a subsidiary of Major Development PCL) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-1-37 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 36 ชั้น |
จำนวนห้อง | 201 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 166 คัน คิดเป็น 82% ไม่รวมซ้อนคัน
|
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | อโศก สุขุมวิท |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างปี 2017 |
ปีที่สร้างเสร็จ | แล้วเสร็จปี 2020 |
ราคา | เริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ราคาพิเศษ 6.3 ล้านบาท* ภายใน ธันวา 63 |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 285,000 บาท / ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | แหล่งอำนวยความสะดวก
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | Ground Floor
35th Floor
36th Floor
|
จุดเด่นของโครงการ | มิวนีค สุขุมวิท 23 คอนโดหรู บนทำเลศักยภาพสูง ใจกลางสุขุมวิทย่านธุรกิจที่สำคัญ ใกล้ทางด่วน ใกล้จุด Interchnge สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิทเพียง 200 เมตร ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท 23 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด Google โดยประมาณ : 13.737721, 100.562858
MUNIQ สุขุมวิท 23 ตั้งอยู่ใจกลาง CBD ย่านอโศก ในซอยสุขุมวิท 23 เชื่อมต่อเข้าออกได้ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช ใกล้รถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Terminal21, Robinson สุขุมวิท, Emporium, Emquartier, Emsphere, Singha Complex
ที่ตั้งโครงการ MUNIQ สุขุมวิท 23 อยู่ในย่านอโศกเป็น CBD ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทำเลถือว่าเป็นใจกลางเมืองที่สามารถเชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆได้สะดวก บริเวณแยกอโศกเป็นจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี และถนนรัชดาภิเษก ทั้ง 3 เส้นนี้เช่ือมไปเส้นหลักๆที่สำคัญอีกหลายเส้น รวมไปถึงซอยย่อยต่างๆอีกด้วยครับ
ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 230 ม. ซอยนี้มีข้อดีตรงที่มีซอยย่อยเชื่อมไปออกหลายทางทั้งถนนอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 31 และซอยเพชรบุรี 38/1 การเดินทางเข้าโครงการถ้ามาจากฝั่งแยกอโศกก็เลี้ยวเข้าทางปากซอยสุขุมวิท 23 ได้เลย แต่ถ้ามาจากฝั่งพร้อมพงษ์ก็เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) ไปเชื่อมออกซอย 23 เข้าโครงการได้ครับ หรือจะขับผ่านแยกอโศกไปกลับรถตรง BTS นานา และตรงไปเข้าซอยสุขุมวิท 23 ก็ได้
การเดินทางเข้าเมือง ถ้าจะไปโซนเพลินจิตจากโครงการไปเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 21 ซอย 1 เพื่อเชื่อมออกถนนอโศกมนตรี จากนั้นตรงไปแยกอโศกเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท จากนั้นก็วิ่งไปนานา เพลินจิต ชิดลม แยกเข้าถนนวิทยุ และถนนราชดำริได้ หรือยาวไปสยามได้เลย จากโครงการถ้ามาออกปากซอยสุขุมวิท 23 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทจะไปพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัยได้เลย
ถ้าจะไปฝั่งพระรามสี่จากถนนอโศกมนตรี วิ่งตรงผ่านแยกอโศกเชื่อมเข้าถนนรัชดาภิเษกมาออกถนนพระรามสี่วิ่งไปแยกวิทยุ เข้าสาทร สีลมได้ครับ ถ้าไปโซนพระรามเก้า ตรงเส้นอโศกมนตรีจะมีจุดกลับรถให้ จากนั้นก็วิ่งตรงไปท้ายซอยข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี เข้าถนนอโศกดินแดงและไปเข้าถนนรัชดาภิเษกตรงแยกพระรามเก้า ที่ตัดกับถนนดินแดงและถนนพระรามเก้า ไปได้ทั้งอนุสาวรีย์ชัย ห้วยขวาง สุทธิสาร ลาดพร้าว RCA ตรงเส้นเพชรบุรีวิ่งไปเข้าท้ายซอยนานา หรือไปประตูน้ำได้ เลยไปอีกจะเป็นราชเทวีครับเข้าถนนพญาไทได้เลย
การเดินทางออกนอกเมือง เส้นสุขุมวิทวิ่งออกเมืองมาผ่านพระโขนง อ่อนนุช ยาวมาแยกบางนา วิ่งไปออกสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ยาวไปสมุทรปราการได้ หรือตรงแยกบางนาจะเชื่อมออกถนนบางนา-ตราด วิ่งไปเชื่อมถนนศรีนครินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว ยาวเลยไปออกฉะเชิงเทรา ชลบุรี พัทยาได้เลย และที่สำคัญเส้นนี้มีทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งไปจนถึงชลบุรีเลยสะดวกดี
ถ้าไปโซนพระรามสามใช้เส้นรัชดาภิเษกวิ่งไปทางพระรามสี่จากนั้นขึ้นข้ามสะพานข้ามแยกพระรามสี่ ก็เข้าถนนพระรามสามแล้วครับ ตรงถนนสาทรข้ามสะพานตากสินไปก็เป็นฝั่งธนยิงยาวออกไปราชพฤกษ์ได้เลย หรือตรงแยกพระรามเก้าเข้าถนนดินแดงไปเชื่อมออกวิภาวดีรังสิตได้ ถนนรัชดาภิเษกวิ่งไปวงศ์สว่าง พระราม 7 ไปจรัญสนิทวงศ์ได้
จากภาพรวมเส้นการเดินทางถือว่าสะดวกสามารถเชื่อมต่อไปได้หลากหลายเส้นทาง ทำเลที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางและมีทางเชื่อมออกไปยังโซนต่างๆได้ง่าย ถึงแม้จะเป็นข้อดี แน่นอนครับ ข้อเสียย่อมตามมาด้วยคงจะหนีไม่พ้นการจราจรที่หนาแน่นมากโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน บางครั้งออกมาหน้าโครงการก็ติดแล้ว ก็ต้องเผื่อเวลาและวางแผนดีๆครับ
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงการประมาณ 2.3 กม. จากโครงการมาออกถนนอโศกมนตรี ตรงมาแยกอโศกเลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท จากนั้นวิ่งตรงไปตามแนว BTS จะเจอจุดขึ้นทางด่วนใกล้ๆ BTS เพลินจิต
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัชห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กม. จากโครงการมาออกถนนอโศกมนตรี และกลับรถไปอีกฝั่ง ตรงไปข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี เข้าถนนอโศกดินแดงและจะเจอจุดขึ้นทางด่วน
การเดินทางโดยสาธารณะ จุดเด่นของโครงการอยู่ใกล้กับจุด Interchange ระหว่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ในระยะเดินประมาณ 200 ม. มีทางเดินสะดวกโดยผ่านอาคาร Interchange 21 ทางเดินเชื่อมถึงทางขึ้นลงสถานีเลย ถ้านั่ง MRT ไปลงเพชรบุรีเพียง 1 สถานี เป็นสถานีเชื่อมต่อกับ ARL มักกะสัน นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ถ้านั่งไปลงสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯเพียง 3 สถานี เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่
หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์และ Taxi วิ่งผ่านไปมาตลอดโบกเรียกได้ หรือจะให้เยอะหน่อยออกมาตรงเส้นสุขุมวิท มีทั้ง Taxi วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์มีวิ่งผ่านไปมาหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืนครับ นอกจากนี้ตัวโครงการยังไม่ไกลจากท่าเรือด่วนคลองแสนแสบ วิ่งระหว่างสะพานผ่านฟ้าถึงวัดศรีบุญเรือน โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือ มศว ประสานมิตร ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. เรียกได้ว่าค่อนข้างครบเครื่องเรื่องการเดินทางทีเดียวครับ ไม่ต้องมีรถส่วนตัวก็อยู่ที่นี่ได้สบายๆ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียนระดับ Luxury ขึ้นไปทั้งเก่าและใหม่ ส่วนบ้านพักอาศัยก็ยังมีให้เห็นอยู่อีกพมสมควร มีอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้าใกล้ และยังใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังอีกหลายแห่ง
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการย่านนี้ค่อนข้างเพียบพร้อมครับ มีให้เลือกตั้งแต่แบบริมข้างทางไปจนถึงร้านหรูๆในโรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า ในซอยสุขุมวิท 23 ตั้งแต่ปากซอยเข้ามามีร้านให้เลือกหลายร้านเลยราคาก็กลางๆครับมีทั้ง 7-11 ร้านข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ต้มเลือดหมู โจ๊ก อาหารตามสั่งต่างๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นก็เยอะครับในนี้ ตรงปากซอยมีอาคาร Jasmine city ก็มีทั้ง Subway และ Starbucks coffee ร้านอาหารก็มีในนี้ ใกล้ๆโครงการมีซอยคาวบอยเป็นซอยสถานบันเทิงยามราตรีชื่อดังย่านนี้เลย ช่วงเช้าในซอยมีร้านอาหารขาย หน้าโครงการก็มีร้านอาหารใกล้ๆ 2-3 ร้าน ถ้าเดินไปตรงซอยสุขุมวิท 21 ซอย 1 จะมี Lawson
จากโครงการประมาณ 120 ม. จะเป็นอาคาร Interchange ด้านในมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายา คลินิก ธนาคาร รวมไปถึงออฟฟิศสำนักงานต่างๆ หรือเดินเชื่อมต่อไป Terminal 21 ก็สะดวกครับเดินมาช้อปปิ้ง ดูหนัง กินอาหารอร่อยๆได้สบายๆ ถ้าเดินเลย Terminal ไปอีกหน่อยจะมีโรบินสัน หรือขึ้น BTS มาลงพร้อมพงษ์เพียงสถานีเดียวก็เป็น Em District แล้ว เลยไปอีกเป็นทองหล่อซอยนี้ก็เพียบพร้อมไปด้วยร้านอร่อยๆหลายร้านมีให้เลือกทั้งอาหารไทย ฝรั่ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น บางร้านปิดดึกด้วย เลยไปอีกนิดเป็นเอกมัยรวมสถานบันเทิงชื่อดังหลายแห่ง หรือนั่งไปลงเพลินจิต ชิดลม สยามก็ไม่กี่สถานีครับสะดวกดี
นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากโครงการ Singha Complex ตรงหัวมุมแยกอโศก-เพชรบุรี เป็นโครงการ Mixed-Use มีทั้งส่วนสำนักงานออฟฟิศ และพื้นที่ค้าปลีก ถ้าไปแถวพระราม 9 มีเซ็นทรัล ฟอร์จูน นอกจากนี้ยังใกล้สถาบันศึกษาอย่าง ม.ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร , สาธิต มศว , โรงเรียนนานาชาติ NIST , โรงเรียนวัฒนา , โรงเรียนเซนต์ดอมินิก , Bangkok Prep
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
แหล่งอำนวยความสะดวก
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่นๆ
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทตรง BTS พร้อมพงษ์ มุ่งหน้าไปทางแยกอโศก ขับตรงไปตามแนว BTS ผ่านแยกอโศก และไปกลับรถตรง BTS นานา จากนั้นตรงไป และเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23 และตรงเข้าซอยไปอีกประมาณ 230 ม. โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > กลับรถตรง BTS นาน > ซอยสุขุมวิท 23 > MUNIQ สุขุมวิท 23
เริ่มจากถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าไปทางแยกอโศก ตรงหน้าจะเป็น BTS พร้อมพงษ์
ฝั่งซ้ายของสถานีจะเป็น Emporium ขวามือจะเป็น Emquartier
ถัดมาซ้ายมือเป็นอุทยานเบญจสิริ
และจะเป็น Emsphere ที่กำลังก่อสร้างอยู่
ผ่านแยกอโศก ตรงแยกอโศกกลับรถไม่ได้นะครับ เราต้องไปกลับรถตรงแถว BTS นานา
ถัดมาซ้ายมือจะเป็น Times Square Building
ใกล้ๆกันเป็น Korea Town
และจะเจอ BTS นานา ให้กลับรถตรงแยกนี้ครับ
กลับรถมาก็มุ่งหน้าตรงไปทางแยกอโศกต่อครับ
ติดกับสถานี BTS อโศก จะเป็น Terminal 21 ใกล้ๆกันจะเป็น Robinson สุขุมวิท
จากนั้นผ่านแยกอโศก
ผ่านแยกอโศกมาให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23
จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23 ตรงเข้าซอยไปอีกประมาณ 230 ม. จะเจอโครงการทางซ้ายมือ
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 23 ปากซอยเป็นอาคาร Jasmine
เลี้ยวเข้าซอยมาก็ตรงไปอีกครับ
ตามสองฝั่งทางส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าร้านอาหารต่างๆ มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11
จากน้ันจะผ่านทางเข้าอาคาร Interchange
และจะเจอโครงการทางซ้ายมือ
ด้านหน้าโครงการติดกับซอยสุขุมวิท 23
ฝั่งซ้ายติดกับโครงการ Le Premier 1 สูง 21 ชั้น เทียบกับ MUNIQ สุขุมวิท 23 จะสูงเท่ากับชั้น 18
อีกฝั่งติดกับอาคารสูง 3 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามหน้าโครงการเป็นร้านอาหาร
มองไปทางซ้าย
มองไปทางขวา
ผมจะพาเดินจาก BTS อโศกไปโครงการ โดยจากสถานีออกทางออก 6 และเดินเชื่อม Sky Walk ไปเข้าอาคาร Interchange 21 และไปออกตรงซอยสุขุมวิท 23 เพื่อเดินไปยังโครงการ
เริ่มจากบนสถานีอโศก E4 จุดเด่นของสถานีคือเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท
จากนั้นเดินออกมายังทางออก 6 หรือใครจะเดินลงไปทางใต้ดินที่เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิทก็ได้ครับ สามารถเชื่อมไปยังอาคาร Interchange 21 ได้เช่นกัน
เดินบน Sky walk ข้ามแยกอโศก ฝั่งนี้มองไปทางถนนอโศกมนตรี หรือซอยสุขุมวิท 21 ท่ีเชื่อมไปถนนเพชรบุรี และพระรามเก้าได้ ย่านอโศกนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นย่าน CBD ที่สำคัญอันดับต้นๆของกรุงเทพฯ เราจะเห็นอาคารสำนักงานต่างๆ โรงแรม และคอนโดมิเนียมระดับ Luxury หลายแห่ง
อีกฝั่งมองไปทางถนนรัชดาภิเษกที่เชื่อมไปยัง พระรามสี่ และพระรามสามได้
จากนั้นเดินมาเชื่อมเข้าอาคาร Interchange 21
จากบน Sky Walk มองไปจะเห็นปากซอยสุขุมวิท 23
เดินเข้าอาคาร Interchange 21 จะเจอประตูทางเข้าแบบนี้ เวลาเปิดปิด 6.00 – 21.00 น. ถ้าประตูปิดเราลงไปเดินข้างล่างก็ได้ครับ
เข้ามาในอาคารจะเจอร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ
จากนั้นเราจะเลี้ยวขวาจะเห็นทางเดินแบบนี้ครับ
เดินมาจะเจอบันไดเลื่อน เราจะลงไปชั้นล่างสุด
ลงมาชั้นล่างสุดจะเจอประตูเลื่อนเชื่อมออกไปยังซอยสุขุมวิท 23
เดินออกมาจะเจอซอยสุขุมวิท 23 ตรงหน้า ตรงนี้จะมีร้านค้า และร้านอาหารขายอยู่
ออกมาปากทางจะเห็นวินมอเตอร์ไซค์จอดรอให้บริการอยู่ แต่เราจะเดินไปตามทางเท้าจนถึงโครงการ ซึ่งระยะทางจากตรงนี้ไปถึงโครงการเพียง 120 ม. เท่านั้นครับ
เดินมาจะผ่านซอยคาวบอย ในซอยช่วงเช้า-บ่ายจะมีร้านอาหารต่างๆ ช่วงกลางคืนก็จะเป็นแหล่งสถานบันเทิง
ถัดมาจะเป็นร้าน Scruffy Murphy’s Irish Pub
และจะผ่านไปรษณีย์ไทย
และจะเจอโครงการซ้ายมือครับ
Floor Plan
Master Plan โครงการเริ่มจากด้านหน้าทางเข้าติดกับซอยสุขุมวิท 23 ผ่านเข้ามาจะเจอป้อม รปภ. และมีไม้กระดก ผ่านเข้าไปถนนในโครงการจะเป็นแบบ One way วนซ้ายมาด้านข้าง ผ่านทางลงที่จอดรถใต้อิน และผ่าน Auto Parking 1 วนไปหลังอาคาร และไปด้านข้างอีกฝั่งจะเจอจุด Drop Off ถัดมาจะเจอ Auto Parking 2 และเชื่อมออกหน้าโครงการ
โซนพื้นที่ด้านหน้าจะเป็น Secret Garden เป็นพื้นที่สวนพักผ่อนขนาดใหญ่ ภายในตัวอาคารจะเป็น Lobby มี Mail Box และห้องนิติบุคคล มีห้องน้ำแยกชายหญิง และโถงลิฟต์โดยสาร มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว
แปลนชั้น 9-16 เหมือนกันครับ จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด มีห้องพักทั้งหมด 10 ยูนิต ซึ่งค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว แบ่งเป็นห้อง 1 Bed 6 ยูนิต และ 2 Bed 4 ยูนิต
แปลนชั้น 24 จะเป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 7 ยูนิต แบ่งเป็น 1 Bed 3 ยูนิต และ 2 Bed 4 ยูนิต ความพิเศษของชั้น 22, 24, 26, 28, 30, 32, 34 จะมี Terrace Garden เป็นสวนพักผ่อนตรงฝั่งด้านหน้าอาคาร
แปลนชั้น 26 เป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 6 ยูนิต แบ่งเป็น 1 Bed 2 ยูนิต และ 2 Bed 4 ยูนิต ชั้นนี้จะมี Terrace Garden มาให้ด้วย
แปลนชั้น 35 จะเป็นชั้น Facility จะมีสระว่ายน้ำแบ่งสระเด็ก และมีส่วนที่เป็น Jacuzzi พร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระ มีห้องน้ำพร้อมห้องซาวน่าแยกชายหญิง มีชั้นลอยเป็น Sky terrace
ที่ชั้น 36 เป็นชั้น Facility อีกชั้น จะมี Social Lounge , Fitness , Terrace Garden , Exclusive Theatre room และมีห้องน้ำแยกชายหญิง
ที่ชั้นดาดฟ้า ต้องขึ้นบันไดหนีไฟมาจากชั้น 36 จะเป็น Roof Top Panorama Lounge
ดาดฟ้าอีกชั้นเดินขึ้นบันไดมาอีกจะเป็น Secret Terrace
โครงการ
MUNIQ สุขุมวิท 23 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากการมองว่าการใช้ชีวิตเหมือนศิลปะอย่างหนึ่ง ต้องมีความสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว คือ มีศิลปะในการใช้ชีวิต หรือสุนทรียะแห่งการใช้ชีวิต มีความรับผิดชอบในการทำงาน และรู้จักหาความสุขให้กับตนเอง เรียกว่าสมดุลทั้ง ชีวิตการทำงาน ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว และค่อนข้างให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัย เพราะสามารถสะท้อนไลฟ์สไตล์ของเขาได้ดี ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากนครนิวยอร์ค เรียบหรู นุ่ม สุขุม แต่คงไว้ด้วยความหรูหรา
โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด ‘ LIVE AS ART ‘ เพื่อสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการทั้งการตกแต่งภายนอก และการตกแต่งภายใน คือ การผสมผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ ขณะเดียวกันยังตอบสนองต่อพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ทั้งโดดเด่นด้วยสไตล์มอนเดรียน อาร์ท (Mondrian Art) ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายกึ่ง Minimal และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างเพื่อสะท้อนถึงความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังนำแนวคิดสวนแนวตั้งอย่าง Vertical Garden เข้ามาผสมผสานกับการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยทีมงานออกแบบระดับประเทศอย่าง Palmer and Turner งานตกแต่งภายในโดย BOIFFILS ส่วนงาน Landscape ออกแบบโดย Shma
รูปแบบโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินโครงการขนาด 1-1-37 ไร่ รูปทรงอาคารสี่เหลี่ยมเล่นระดับเป็นขั้นบันไดที่ส่วนยอดของอาคารตามระยะร่นของอาคาร มีลูกเล่นที่ facade ใช้เส้นสายในการตกแต่งตามสไตล์ Mondrian Art ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8-34 ส่วน Facility จะอยู่ที่ชั้น 1 , 35 , 36 และชั้นดาดฟ้า ที่จอดรถจะเป็นแบบ Auto Parking จอดได้ 132 คัน และมีที่จอดแบบปกติที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น อีก 34 คัน ทั้งโครงการคิดเป็น 82%
เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ ซ้ายมือจะมีป้อม รปภ. และประตูสำหรับคนเดินเข้าออก
MUNIQ มีที่มาจากการผสมคำภาษาอังกฤษ โดย M มาจากอักษรตัวแรกของชื่อ Developer ” Major ” ส่วน ” UNIQ ” ลดทอนมาจากคำว่า Unique ที่แปลว่า มีลักษณะเฉพาะ หรือเป็นเอกลักษณ์
ที่ทางเข้าออกจะเป็นไม้กระดก ลูกบ้านใช้ระบบแบบ Easy Pass
ผ่านเข้ามาถนนสองฝั่งจะเป็นแนวพุ่มไม้และต้นไม้ตลอดแนว ดูร่มรื่นสบายตา
เงยหน้ามองตัวอาคาร
เดินเข้ามาถนนด้านในจะเป็นแบบ One way วนซ้ายอ้อมอาคารไปด้านหลังและออกมาด้านหน้า
มองกลับไปฝั่งด้านหน้าจะมีสวนส่วนกลางอยู่
Secret Garden ภายในสวนจะมีทั้งพุ่มไม้ ไม้ใหญ่ และสนามหญ้า พร้อมตกแต่งด้วย Water Feature บรรยากาศภายในสวนดูร่มรื่นดี
มองไปฝั่งด้านหน้ามีแนวรั้วและต้นไม้บังสายตาจากถนนซอยสุขุมวิทหน้าโครงการ
ทางเดินเชื่อมไปยังด้านหน้ากับประตูคนเดิน ริมสองฝั่งตกแต่งด้วย Water feature ฟังเสียงน้ำ บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติดี
มองกลับไปฝั่งด้านใน
มุมนี้เป็นที่นั่งพักผ่อน
จากสวนมองไปยังตัวอาคาร
กลับออกมาจากสวน เดินไปดูรอบๆอาคารกันต่อครับ
วนมาด้านข้างอาคาร มีป้ายบอกไปยัง Auto Parking 1 และ 2 และที่จอดรถชั้นใต้ดิน
ขวามือจะเป็นทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน แบบจอดปกติ จอดรถได้ที่ชั้น B1 และ B2
ถัดมาจะเป็น Auto Parking 1 จอดได้ทั้งรถแบบ SUV และ Sedan ความสูงไม่เกิน 1.90 ม. ขวามือด้านในจะมีประตูเดินเข้าไปยัง Lobby ได้
ตัวอาคารจากมุมด้านหลัง
วนมาด้านข้างอาคารอีกฝั่ง
ฝั่งนี้จะเป็นทางออกของ Auto Parking 1
ถัดมาจะเป็นจุด Drop Off มีหลังคากระจกยื่นออกมาตรงประตูทางเข้าออก Lobby
และตรงมุมด้านในจะเป็น Auto Parking 2 ตรงนี้จะต่างจาก Auto Parking 1 คือขับเข้าไปจอดตรงในวงกลมแล้วลงจากรถได้เลย และจะมีคานยกรถเข้าไปอัตโนมัติ ขาออกรถก็จะกลับด้านหน้าออกมาให้ และขับออกจากตรงนี้ได้เลย
ด้านหน้าทางเข้า Lobby สังเกตผนังฝั่งนี้จะเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ประตูเป็นกระจกบานเปิด มีทางลาดสำหรับรถเข็นให้ด้วย
เดินเข้า Lobby มาจะเป็นโถงขนาดใหญ่ ฝ้าสูงโปร่ง ภายในจะตกแต่งมาในสไตล์ Luxury Minimal ดูเรียบๆแต่ยังคงความหรูหรา โทนสีจะเน้น 3 สี ขาว เทา ดำ มุม และยังใช้เส้นสายในการตกแต่งตามสไตล์ Mondrian Art มุมนี้ถ้าเพิ่ม Chandelier สวยๆ และพร็อพตกแต่งอีกหน่อยจะดูสวยมากขึ้นครับ
จัดชุดโซฟาขนาดใหญ่มาให้ วางไว้ตามมุมต่างๆ
มุมโซฟาด้านใน
มุมโซฟาอีกฝั่ง มุมนี้จะมีจอแสดงสถานะรอรถของ Auto Parking 2 ขวามือมีประตูเดินเชื่อมออกไปได้เลย
มองไปอีกฝั่งด้านใน
ฝั่งนี้จะเป็นเคาน์เตอร์พนักงาน ขวามือมีมุมนั่งพักหรือนั่งรอรถของ Auto Parking 1
ด้านหลังเคาน์เตอร์จะเป็น Mail Room ขวามือมีทางเดินเข้าโถงลิฟต์
เดินเข้ามาขวามือเป็น Mail Room ซ้ายมือจะเป็นประตูดเข้าโถงลิฟต์ ด้านในจะมีห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในมี Mail Box ทั้ง 3 ฝั่ง ด้านหลัง Mail Room จะเป็น Smart Locker
ตรง Mail Room ด้านบนจะสะดุดตากับ Chandelier เป็นโครงสี่เหลี่ยมตารางดูสวยดีครับ
ถัดเข้ามาขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซ้ายมือจะเป็นประตูเชื่อมกับ Auto Parking 1
ห้องน้ำจะแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำชาย
ประตูทางเข้าโถงลิฟต์จะเป็นกระจกบานเปิด 2 บาน ต้องใช้ Key Card
ภายในโถงลิฟต์ตกแต่งมาโทนเดียวกับ Lobby
มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว ลิฟต์เป็นระบบล็อคชั้นขึ้นได้เฉพาะชั้นของตัวเองและชั้นส่วนกลาง
ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 35 จะเป็นชั้นส่วนกลางทั้งชั้น
เดินออกมาจากโถงลิฟต์จะเห็นสระว่ายน้ำตรงหน้าเป็นแบบ Semi-Outdoor ไม่ต้องกลัวแดดมีหลังคาให้ใช้งานได้ทั้งวัน
ริมสระมีที่นั่งพักผ่อนมาให้ เป็น Day Bed
สระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือขนาด 14 x 7.5 ม. ลึก 1.2 ม.
มุมปลายสระ
ชมวิวฝั่งด้านหน้าได้แบบ 180 องศา มองไปทางพร้อมพงษ์
มองไปฝั่งด้านข้างทิศเหนือ วิวมองเข้าไปในซอยสุขุมวิท 23
มุมฝั่งขวาจะเป็นส่วน Jacuzzi
นั่งแช่ตัวชมวิวรอบๆได้เลย
มองกลับไปอีกฝั่ง
ด้านในจะมีชั้นลอยเป็น Sky Terrace
ด้านล่างปลายสระฝั่งนี้จะเป็นสระเด็ก ขนาดประมาณ 7.5 x 3.1 ม. ลึก 60 ซม. และมีเหมือนเป็นม่านน้ำตกไว้ให้เด็กเล่นได้
ซ้ายมือจะเป็นจุดล้างตัว
บันไดทางเดินขึ้นไปชั้นลอย
ขึ้นมาชั้นนี้จะเป็น Sky Terrace เป็นที่นั่งพักผ่อน
ที่พื้นจะเป็นพื้นกระจกมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำ
ราวกันตกเป็นกระจกไม่บังวิว
มองออกมาเห็นสระว่ายน้ำและวิวด้านนอกแบบนี้
กลับลงมาชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ จะมีห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำชาย เข้ามาจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ขวามือเป็นตู้ล็อคเกอร์
อีกฝั่งเป็นโถปัสสาวะ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องซาวน่า
ภายในห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
อีกฝั่งเป็นห้องซาวน่า
ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 36 จะเป็นชั้นส่วนกลางอีกชั้น
เดินออกมาจากโถงลิฟต์จะเป็น Social Lounge เป็นที่นั่งพักผ่อน ชุดโซฟาจะเหมือนตรง Lobby เลย
มองไปอีกฝั่ง มีประตูเชื่อมออกไปยัง Terrace Garden
Terrace Garden เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและจุดชมวิว
กลับเข้ามาด้านใน มีทางเดินเชื่อมไปยังห้องฟิตเนส
เดินเข้ามาขวามือจะเป็นห้องฟิตเนส ซ้ายมือเป็นบันไดข้ึนไปยัง Exclusive Theatre room
ภายในห้องฟิตเนส วางเครื่องออกกำลังกายมาหลากหลายจากแบรนด์ Technogym มีดัมเบล เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ
มีลู่วิ่ง เครื่องเดิน เครื่องปั่นจักรยาน
มุมด้านในเป็นม้านั่งออกกำลังกาย และอุปกรณ์อื่นๆ
กลับออกมาด้านนอกเดินข้ึนบันไดไป Exclusive Theatre room ขวามือเป็นประตูบันไดหนีไฟ ที่สามารถเดินขึ้นไปยังส่วนกลางชั้นดาดฟ้าได้
มองข้ึนไปด้านบน
ภายในห้อง Exclusive Theatre room มีชุด Home Theatre มาให้ มานั่งดูหนังกันได้ ชุดโซฟาจะเป็นระบบปรับไฟฟ้า มีช่องสำหรับเสียบ USB ที่โซฟาไว้ให้ชาร์จมือถือได้
กลับมาชั้นล่างตรงประตูบันไดหนีไฟ เพื่อเดินข้ึนไปยังชั้นดาดฟ้า จะมี Panorama Lounge และ Secret Terrace
เดินข้ึนบันไดหนีไฟขึ้นไปครับ
ขึ้นมาจะเจอ Panorama Lounge
มีที่นั่งพักผ่อน และต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม ข้ึนมานั่งรับลมชมวิวกันได้
วิวฝั่งด้านหน้า ทิศตะวันออกมองไปทางพร้อมพงษ์
วิวด้านข้างฝั่งทิศเหนือ มองเข้าไปในซอยสุขุมวิท 23
วิวฝั่งด้านหลังทิศตะวันตกมองไปทางแยกอโศก
อีกส่วนขึ้นมาจะเป็น Secret Terrace เป็นจุดนั่งชมวิวสูงสุดของอาคาร ชมวิวได้ 180 องศา
วิวฝั่งด้านข้างทิศใต้ มองไปทางปากซอยสุขุมวิท 23
มองไปด้านข้างอีกฝั่งทิศเหนือ จะเห็น Panorama Lounge ด้านล่างแบบนี้
นอกจากนี้ฝั่งด้านหน้าอาคารที่ชั้น 22, 24, 26, 28, 30, 32, 34 เป็นชั้นที่เริ่มเป็นระยะร่นของอาคาร จะมี Terrace Garden เป็นสวนพักผ่อนซึ่งใช้งานได้เฉพาะเจ้าของห้องที่อยู่ชั้นนี้เท่านั้นครับ
Units Type
โครงการมีห้องให้เลือกแบบหลักๆดังนี้
1 Bedroom 35.35 ตร.ม.
1 Bedroom 42.80 ตร.ม.
1 Bedroom 43.46 ตร.ม.
2 Bedroom 54.68 ตร.ม.
2 Bedroom 63.42 ตร.ม.
2 Bedroom 69.69 ตร.ม.
2 Bedroom 86.24 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ
แบบแรก ที่จะพามาชมเป็น 2 Bedroom ขนาด 63.42 ตร.ม. ตำแหน่งห้องนี้จะอยู่มุมด้านหลังอาคาร ฝั่งทิศตะวันตกซึ่งทางโครงการจะให้กระจกของฝั่งนี้เป็นกระจก Low-E ทั้งหมดเพื่อช่วยลดความร้อนภายในห้อง เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน เคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นแบบตัว U เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร ติดกันเป็นระเบียง ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอนเล็ก ภายในห้องมีพื้นที่มาให้พอประมาณ ในสุดจะเป็นห้อง Master Bedroom ในห้องมีพื้นที่มาให้เยอะ มีส่วน Walk in closet พร้อมห้องน้ำในห้องนอน ในห้องน้ำจะได้อ่างอาบน้ำมาด้วย
โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมีชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อม Hob&Hood, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ ในห้องนอนจะได้ตู้เสื้อผ้า ได้แอร์ตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก และติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ ผนังห้องจะได้วอลเปเปอร์สีตามมาตรฐานของโครงการ
เริ่มจากประตูห้องเป็นบานลายไม้ ได้ Digital Door Lock ของ Hafele ใช้งานได้ทั้งรหัสผ่าน คีย์การ์ด และกุญแจ บ้านเลขที่โครงการนี้คือ 17 ครับ
ธรณีประตูห้องจะเห็นหินอ่อน พื้นในห้องจะเป็น Engineering wood สีเข้ม
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารด้านใน ฝ้าสูง 2.7 ม. ผนังห้องจะได้ฉาบเรียบพร้อมติดวอลเปเปอร์ ไฟจะได้แบบดาวน์ไลท์หลอด LED
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง
ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นแบบตัว U ตามนี้เลย มีพื้นที่มาให้เยอะดี
ชุดตู้ด้านบนเป็นแบบบานเปิด 5 บาน ทุกบานมี Soft close ให้หมด
ด้านล่างจะเป็นตู้แบบบานเปิด 4 บาน และลิ้นชัก 2 ช่อง ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะมาให้ด้วย
ใต้ลิ้นชักจะได้ไมโครเวฟของ gorenje (ออกเสียงว่า โก-เอน-ย่า ในภาษาสโลวีเนียน)
ด้านข้างจะได้ตู้เย็นของ gorenje แบบ 2 ประตู built-in ฝังเป็นส่วนนึงของชุดครัวมาให้ ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของ
ได้อ่างล้างแบบหลุมเดียวของ Franke ฝังท็อปมาให้เรียบร้อย ท็อปเคาน์เตอร์จะเป็นหิน Quartz
เตาไฟฟ้าได้แบบ 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ gorenje ผนัง Backsplash กรุกระเบื้องลายหินมาให้ทำความสะอาดได้ง่าย ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์
ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่เชื่อมต่อกัน มีพื้นที่ประมาณ 4 x 3 ม. วางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง
ระยะดูทีวีกำลังดี
ตรงส่วนรับประทานอาหารวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งมาให้ดู
ถัดไปจะเป็นระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน กระจกจะได้เป็น Low-E ช่วยลดความร้อนภายในห้อง
เปิดประตูออกมาจะเจอระเบียงขนาดประมาณ 2.5 x 1.1 ม.
ด้านข้างแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ จะมีระแนงบังสายตาเป็นประตูเปิดปิดได้
ด้ายในมีพื้นที่ไว้ให้วางของได้อีก
วิวจากระเบียงห้องตัวอย่างชั้น 14 มองไปจะเห็น Terminal 21 พอดีครับ
ด้านข้างจะเป็นโครงการ Las Colinas
อีกฝั่งเป็นโครงการ Celes Asoke
มองลงมาด้านล่างตอนนี้ยังเป็นบ้านพักอาศัยอยู่ครับ พื้นที่ใหญ่พอสมควร อนาคตก็อาจจะขึ้นอาคารสูงได้ครับ
มองกลับเข้ามาในห้อง แอร์ตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบฝังฝ้า
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง
เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องนอน 2 ตรงหน้าจะเป็นห้อง Master Bedroom
ภายในห้องน้ำ ฝั่งนี้จะเป็นชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า กระจกเงาพร้อมไฟซ่อนด้านหลังได้ตามนี้เลย
อ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นได้ของ Kohler ตัวอ่างล้างหน้าจะฝังท็อปเคาน์เตอร์มาให้มีพื้นที่วางของด้านข้าง ผนังฝั่งขวามีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบมาให้
ใต้อ่างจะมีตู้เก็บของ และติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ของ Stiebel Eltron
โถสุขภัณฑ์เป็นโถลอยตัวฝังติดกับผนังด้านหลังของ Duravit พร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษ
ด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบบานเปิด ด้านในจะเป็น Rain Shower & Hand Shower ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้าง
ภายในห้องนอน 2 มีพื้นที่มาให้ประมาณ 3 x 2.85 ม. วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู มีพื้นที่เหลือรอบด้าน กระจกในห้องบานสูงจากพื้นถึงฝ้า มีบานกระทุ้ง 1 บาน
มองไปฝั่งปลายเตียง
ฝั่งด้านในจะได้ตู้เสื้อผ้า built-in มาให้ เป็นตู้บานเปิด 3 บาน ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้า
ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่มาให้เยอะดี วางเตียง King Size ได้สบายๆ ช่องแสงมีให้ทั้ง 2 ฝั่ง มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บาน เปิดให้อากาศถ่ายเทได้
มองไปฝั่งปลายเตียง ขวามือมีทางเดินไปยังห้องน้ำ
มองไปฝั่งด้านข้าง
ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้าเช่นกัน ด้านในมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
เดินมาด้านในจะเป็นส่วน Walk in closet หน้าห้องน้ำ จะได้ตู้เสื้อผ้า built-in มาให้เป็นแบบบานเปิดทั้งหมด
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ฝั่งนี้เป็นชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ได้เหมือนห้องน้ำด้านนอกเลย
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์แบบลอยตัวฝังติดผนังของ Duravit
ด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียกติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบบานเปิด ด้านในได้ Rain Shower & Hand Shower ด้านข้างมีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ด้วย
ได้อ่างอาบน้ำได้ของ Kasch
แบบที่สอง 2 Bedroom ขนาด 86.24 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเป็นโถงทางเดินก่อน เชื่อมไปยังด้านในจะเป็นส่วนครัวได้เป็นครัวเปิด ถัดเข้ามาอีกส่วนจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วนห้องนั่งเล่นพื้นที่เปิดเชื่อมต่อกัน ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นระเบียง ตรงระเบียงมีพื้นที่มาให้เยอะดี วางชุดโต๊ะนั่งได้ ห้อง Master Bedroom จะอยู่มุมของตัวอาคารพอดี ภายในห้องมีพื้นที่มาให้เยอะดี มีห้องน้ำในห้องนอน ในห้องน้ำจะได้อ่างอาบน้ำ ห้องนอนเล็กจะอยู่อีกฝั่งมีพื้นที่มาให้พอประมาณ มีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้ ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง และมีทางเข้าออก 2 ทางคือจากในห้องนอนเล็ก และจากตรงส่วนรับประทานอาหาร
เดินเข้าห้องมาจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมไปด้านใน พื้นห้องจะเป็น Engineering wood ผนังจะได้ฉาบเรียบและติดวอลเปเปอร์ทั้งห้อง ฝ้าสูง 2.7 ม.
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง ตรงโถงทางเดินนี้เราสามารถทำเป็นตู้เป็นรองเท้า เก็บของได้
ถัดเข้ามาซ้ายมือจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร ขวามือจะเป็นส่วนครัว
ครัวจะได้เป็นครัวเปิดมีพื้นที่มาให้พอประมาณ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามนี้เลย ได้ตู้เย็นของ gorenje แบบ 2 ประตู built-in ฝังเป็นส่วนนึงของชุดครัวมาให้ ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของ
ชุดตู้ด้านบนเป็นแบบบานเปิดทั้งหมด ทุกบานมี Soft close
ด้านล่างเป็นบานเปิดและลิ้นชักมี Soft close ให้เช่นกัน ไมโครเวฟได้ของ gorenje
อีกฝั่งเป็นตู้บานเปิดพร้อมถังขยะ และลิ้นชักแบ่ง 2 ชั้นด้านใน
เตาไฟฟ้าได้แบบ 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ gorenje ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหิน Quartz
อ่างล้างจานฝังท็อปมาให้ของ Franke มุมนี้มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บานเปิดระบายอากาศได้
อีกฝั่งจะเป็นห้องสำหรับวางเครื่องซักผ้า
ภายในห้องมีพื้นที่ให้ประมาณ 1.2 x 1 ม. เดินระบบน้ำ ไฟและท่อน้ำทิ้งไว้ให้
ออกมาจากส่วนครัว จะเป็นส่วนรับประทานอาหาร
วางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดู มีพื้นที่เหลือรอบๆ
ถัดเข้ามาอีกเป็นส่วนห้องนั่งเล่น วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางมาให้ดู จะวางโซฟาแบบตัว L ก็ได้ครับ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 ม. ขวามือเป็นประตูห้อง Master Bedroom
ถัดไปเป็นระเบียงมีประตูกระจกแบบบานเฟี้ยม 4 บาน เปิดออกได้กว้างดี
ตรงระเบียงมีพื้นที่มาให้เยอะขนาดประมาณ 3 x 1.9 ม.
ตรงระเบียงเราสามารถเอาชุดโต๊ะนั่งเล่นมาวางได้ หรือจะวางกระถางต้นไม้ด้วยก็ได้ครับ
มองไปอีกฝั่งจะมีประตูเชื่อมเข้าออกกับห้องนอนเล็กได้
วิวจากระเบียงห้องตัวอย่างชั้น 14 มองออกไปทางทิศตะวันออกหรือฝั่งด้านหน้าอาคารนั่นเองครับ
มองลงมาเห็นสวนหน้าโครงการ และเห็นสระว่ายน้ำของโครงการเพื่อนบ้านด้านข้าง
มองกลับเข้ามาในห้อง แอร์ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบฝังฝ้า
ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่มาให้เยอะดี วางเตียง King Size ได้สบายๆ
มองไปฝั่งปลายเตียง
กระจกในห้องนอนได้บานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า
ข้างเตียงมีพื้นที่ไว้ให้วางอาร์มแชร์นั่งพักผ่อนชมวิวได้
วิวมองออกไปฝั่งเดียวกับระเบียง และมองเห็นระเบียงของห้องเราด้วย
ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ ในห้องนอนจะได้แอร์แบบฝังฝ้า
หน้าห้องน้ำจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง สุขภัณฑ์ได้เหมือนห้องแรก
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์แบบลอยตัวฝังผนังของ Duravit
มุมด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด ด้านในมี Rain Shower & Hand Shower พร้อมอ่างอาบน้ำ
กลับออกมาด้านนอก ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอน 2 และห้องน้ำ
ภายในห้องนอน 2 มีพื้นที่มาให้ประมาณ 5 x 2.2 ม. ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องนั่งเล่นมาให้ดู หรือจะวางเตียงเดี่ยวก็ได้
ในห้องจะมีประตูเปิดเชื่อมออกไปยังระเบียงได้
ฝั่งด้านในจะมีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้ แอร์จะได้แบบฝังฝ้า
หน้าห้องน้ำจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด
ประตูเข้าห้องน้ำจะเป็นกระจกบานเลื่อน
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งมาเรียบร้อย และมีทางเข้าออก 2 ทางคือจากในห้องนอน 2 และจากตรงส่วนรับประทานอาหาร
ราคา (ธ.ค.64)
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 285,000 บาท
***ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม
***เงินจอง 100,000-200,000 บาท และเงินทำสัญญา 3% ของราคาห้อง
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ***
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – ตั้งอยู่ในย่านอโศก ซึ่งเป็น CBD ที่สำคัญของกรุงเทพฯ เป็นย่าน Prime area ที่มีราคาที่ดินค่อนข้างสูงในอันดับต้นๆของกรุงเพทฯ รอบๆโครงการรายล้อมไปด้วยสำนักงานออฟฟิศ อพาร์ทเม้น คอนโดมิเนียม ร้านค้า ร้านอาหารที่มีตั้งแต่แบบข้างทางไปจนถึงร้านอาหารหรูๆตามโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆเรียกว่าชี้นิ้วเลือกได้เลย ตั้งแต่ปากซอยสุขุมวิท 23 เข้ามาสองฝั่งทางจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็นหลายร้านเลย ร้านสะดวกซื้อก็มีใกล้ๆโครงการ ตรง Jasmine city มี Subway และ Starbucks Coffee ใกล้ๆโครงการมีซอยคาวบอยเป็นซอยสถานบันเทิงยามราตรีชื่อดังย่านนี้
และยังใกล้อาคาร Interchange 21 ที่ด้านในมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายา คลินิก ธนาคาร รวมไปถึงออฟฟิศสำนักงานต่างๆ หรือเดินต่อไป Terminal 21 ก็สะดวกครับเดินมาช้อปปิ้ง ดูหนัง กินอาหารอร่อยๆได้สบายๆ ถ้าเดินเลย Terminal ไปอีกหน่อยจะมีโรบินสัน หรือขึ้น BTS มาลงพร้อมพงษ์เพียงสถานีเดียวก็เป็น Em District แล้ว เลยไปอีกเป็นทองหล่อซอยนี้ก็เพียบพร้อมไปด้วนร้านอร่อยๆหลายร้านมีให้เลือกทั้งอาหารไทย ฝรั่ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น บางร้านปิดดึกด้วย เลยไปอีกนิดเป็นเอกมัยรวมสถานบันเทิงชื่อดังหลายแห่ง หรือนั่งไปลงเพลินจิต ชิดลม สยามก็ไม่กี่สถานีครับสะดวกดี
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่จะเรียกว่าจุดศูนย์กลางเมืองก็ได้ครับ อยู่ใกล้แยกอโศกเชื่อมต่อเข้าออกเมืองได้สะดวก ถึงแม้โครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 เข้าจากปากซอยมาประมาณ 230 ม. แต่เป็นซอยที่สามารถเชื่อมเข้าออกได้ทั้งถนนอโศกมนตรี ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 31 และซอยเพชรบุรี 38/1
ถนนสุขุมวิทไปได้ทั้งพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย เพลินจิต ชิดลม สยาม และออกนอกเมืองไปอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการได้เลย หรือไปโซนพระรามสี่โดยใช้เส้นรัชดาภิเษก เข้าสาทร สวนลุม สีลม สามย่านได้เลย มีทางด่วนเฉลิมมหานครตรงเส้นนี้
ส่วนอีกเส้นคือเพชรบุรีเป็นเส้นที่วิ่งขนานกับสุขุมวิททั้งเข้าและออกเมืองครับจะไปเชื่อมกับท้ายซอยของสุขุมวิทต่างๆได้เลย ถ้าข้ามแยกไปจะเป็นถนนอโศกดินแดงซึ่งจะไปตัดกับแยกพระราม 9 มีถนนสำคัญอีก 3 เส้นคือ ดินแดงวิ่งไปอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือออกวิภาวดีรังสิตได้
อีกเส้นคือถนนพระรามเก้าวิ่งไปทางพัฒนาการออกมอเตอร์เวย์ได้ และเส้นสุดท้ายคือถนนรัชดาภิเษกวิ่งไปผ่าน ห้วยขวาง รัชดาฯวิ่งยาวไปวงศ์สว่างได้เลย และมีจุดตัดเข้าลาดพร้าว และวิภาวดีครับ มีจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชตรงเส้นอโศกดินแดง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –จุดเด่นของโครงการอยู่ใกล้กับจุด Interchange ระหว่าง BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ในระยะเดินประมาณ 200 ม. มีทางเดินสะดวกถึง MRT ประตู 2 อยู่ติดกับ Interchange 21 หรือถ้าจะไป BTS ก็เชื่อมออก Sky walk เดินถึงสถานีเลยสะดวกมากๆครับ ข้อดีของโครงการที่อยู่ใกล้ท้ัง BTS และ MRT คือเราสามารถเลือกและจัดการการเดินทางได้ว่าเราจะไปโซนไหนที่รถไฟฟ้าสายนั้นไปถึง ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนสายให้ยุ่งยากอีกด้วย
ถ้านั่ง MRT ไปลงเพชรบุรีเพียง 1 สถานี เป็นสถานีเชื่อมต่อกับ ARL มักกะสัน หรือไปลง MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ Taxi วิ่งผ่านไปมา หรือจะให้เยอะหน่อยออกมาตรงเส้นสุขุมวิท มีทั้ง Taxi วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์มีวิ่งผ่านไปมาหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง วิ่งเกือบทั้งคืน
ใกล้ๆโครงการมีบริการเรือด่วนคลองแสนแสบวิ่งระหว่างสะพานผ่านฟ้าถึงวัดศรีบุญเรือน โดยท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือ มศว ประสานมิตร ถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็อยู่โครงการนี้ได้สบายๆเลยครับ ไม่ต้องอารมณ์เสียเรื่องรถติดด้วยแถมประหยัดเวลาไปได้เยอะพอสมควร
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมา 1 อาคาร สูง 36 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 1-1-37 ไร่ ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘ LIVE AS ART ‘ เพื่อสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม สะท้อนผ่านการออกแบบโครงการทั้งการตกแต่งภายนอก และการตกแต่งภายใน คือ การผสมผสานศิลปะเข้ากับการออกแบบ ขณะเดียวกันยังตอบสนองต่อพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ทั้งโดดเด่นด้วยสไตล์มอนเดรียน อาร์ท (Mondrian Art)
ขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่ายกึ่ง Minimal และเลือกใช้วัสดุที่แตกต่างเพื่อสะท้อนถึงความพรีเมียมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังนำแนวคิดสวนแนวตั้งอย่าง Vertical Garden เข้ามาผสมผสานกับการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยทีมงานออกแบบระดับประเทศอย่าง Palmer and Turner งานตกแต่งภายในโดย BOIFFILS ส่วนงาน Landscape ออกแบบโดย Shma ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8-34 Facility หลักๆจะอยู่ที่ชั้น 1, 35, 36 และชั้นดาดฟ้า
การออกแบบห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกหลักๆ 1 Bedroom 34.74-43.46 ตร.ม. , 2 Bedroom 54.68-99.27 ตร.ม. และห้องแบบ The Collection เป็นแบบ Simplex, Duplex, Triplex 83.22-191.11 ตร.ม. ห้องออกแบบมาดูโปร่ง ฝ้าสูง 2.7 ม. ภายในห้องแบ่งพื้นที่มาเป็นสัดส่วน
โครงการขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมีชุดครัว อ่างล้างจาน, Hob & Hood ของ gorenje, ไมโครเวฟ และตู้เย็นของ gorenje, ตู้เก็บของ, ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Duravit , Kohler, Kasch พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก
ห้อง 2 Bed จะได้อ่างอาบน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนของ Stiebel Eltron แอร์ได้แบบฝังฝ้าตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน ผนังจะได้ฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ พื้นห้องเป็น Engineering wood ประตูจะได้ Digital Door Lock ของ Hafele ตำแหน่งห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก(ฝั่งด้านหลังอาคาร) บานกระจกจะได้เป็น Low-E ทั้งหมด
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1, 35, 36 และชั้นดาดฟ้า ที่ชั้น 1 เริ่มจากด้านหน้าอาคารจะมี Secret Garden เป็นสวนพักผ่อนขนาดใหญ่ ในอาคารจะเป็น Lobby ฝ้าสูงโปร่งมีพื้นที่นั่งพักผ่อนมาให้เยอะดี และเป็นจุดนั่งรอรถของ Auto Parking ตรง Mail Box และ Samt Locker ออกแบบมาได้สวย Chandelier ตรงนี้เด่นดี แต่อยากให้เพิ่มพร็อพตกแต่งใน Lobby อีกหน่อย และเพิ่ม Chandelier หรูๆ เท่ห์ๆ อีกจะดูแกรนด์มากขึ้นครับ
ที่ชั้น 35 จะมีสระว่ายน้ำแบบ Semi-outdoor ระบบเกลือขนาด 14 x 7.5 ม. แบ่งสระเด็กขนาด 7.5 x 3.1 ม. พร้อมม่านน้ำตก และมีส่วนที่เป็น Private Jacuzzi ชมวิวได้ 180 องศา มีพื้นที่พักผ่อนริมสระ และมีชั้นลอยที่เป็นพื้นกระจกเป็น Sky terrace ไว้นั่งพักผ่อนอีกจุด มีห้องน้ำและห้องซาวน่าแยกชายหญิง
ที่ชั้น 36 จะมี Social Lounge, Fitness เครื่องเล่นของ Technogym, Terrace Garden, Exclusive Theatre room และมีห้องน้ำแยกชายหญิง และที่ชั้นดาดจะมี Panorama Lounge เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิว และอีกชั้นเป็น Secret Terrace จุดพักผ่อนชมวิวสูงสุดของอาคาร นอกจากนี้ที่ชั้น 22, 24, 26, 28, 30, 32, 34 ฝั่งด้านหน้าจะมี Terrace Garden ให้สำหรับลูกบ้านชั้นนี้อีกด้วย
ลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถเป็นแบบอัตโนมัติ จอดได้ 132 คัน และมีที่จอดแบบปกติที่ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น อีก 34 คัน ทั้งโครงการคิดเป็น 82% ไม่รวมซ้อนคัน มีจุดจอดรถ EV Charger ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1266
Website : https://bit.ly/36dogri
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น