EP.83 รีวิว วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา WE CONDO Ekkamai-Ramindra
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา สร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก L&T Asset กันค่ะ ตัวโครงการอยู่่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่ สถานีวัชรพล เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ วงแหวนกาญจนาภิเษก
วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มี 5 อาคาร จำนวน 1,168 ยูนิต และร้านค้าอีก 5 ยูนิต บนเนื้อที่ 11-1-22 ไร่ มีขนาดห้องให้เลือกเป็น 1 Bedroom, 1 Bedroom Extra และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 24.90 ตรม.
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีมาให้อย่างครบครัน อาทิ Lobby, Mailbox, Fitness, Garden, ลิฟท์โดยสาร, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 1.79 ล้านบาท (เฉลี่ย 80,000 บาท/ตร.ม.)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | วี คอนโด เอกมัย-รามอินทรา WE CONDO Ekkamai-Ramindra |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แอล แอนด์ ที แอสเสท จำกัด / L&T Asset |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
เนื้อที่ทั้งหมด | 11-1-22 ไร่ |
จำนวนตึก | 5 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 1,168 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 467 คัน คิดเป็น 40% (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
โซน | แจ้งวัฒนะ, หลักสี่, ดอนเมือง, บางเขน |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปี 2558 |
ราคา | เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา คอนโดสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล สัมผัสธรรมชาติกับสระและสวนส่วนกลางที่ทอดยาวตลอดแนวอาคาร ตกแต่งพร้อมอยู่ทั้งเครื่องปรับอากาศและเฟอร์นิเจอร์ Medernform เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า เชื่อมต่อด้วยทางเข้าออก 2 ทาง ทั้งทางเชื่อมถนนรามอินทรา และถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.847135, 100.640498
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมข้างๆตลาดเลียบด่วนรามอินทรา จะอยู่บริเวณหัวโค้งถนนเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา โดยทางเข้าหลักของโครงการก็จะอยู่ตรงหัวโค้งพอดีค่ะ และมีทางเข้ารองอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่เรียกว่าถนนเลียบด่วนรามอินทรา ตรงข้างๆตลาดอีกทาง โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน
จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัย มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกนะคะ จะเข้าหรือออกตัวเมืองก็ไม่ยาก เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม และใกล้กับถนนรามอินทรา ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น จากถนนประดิษฐ์มนูธรรมวิ่งลงทางตอนใต้ จะตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนลาดพร้าว ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน วิ่งลงมาอีกจะมาตัดกับถนนพระราม 9 และสุดที่ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี โดยจะตัดผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอิน หรือ วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยจากทางเข้าหลักของโครงการให้วิ่งออกมาที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม จากนั้นให้ชิดขวาเอาไว้ จะเจอด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วนในระยะเพียง 2 กม.เท่านั้น เข้าสู่ย่านธุรกิจได้สะดวกและรวดเร็ว
ถ้าไปทางบางนาก็ให้พึ่งวงแหวนกาญจนาภิเษกเลยค่ะ โดยจากตัวโครงการออกมากลับรถที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อขึ้นสะพานทางเชื่อมสู่ถนนรามอินทรา จากถนนรามอินทราพอวิ่งผ่านซอยรามอินทรา 91 แล้วให้เข้าช่องจราจรทางซ้าย แล้วชิดขวาไปตามป้ายบางนา วิ่งสัก 10 นาทีเศษๆก็ถึงแล้ว
ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการส่วนมากจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต่างออกไปจากคอนโดมิเนียมในตัวเมืองที่โดยรอบจะมีแต่ความคึกคัก ทุกอย่างดูรวดเร็ว การสัญจรด้วยระบบขนส่งสาธารณะมีความสะดวกและมีให้เลือกอย่างหลากหลาย เรียกว่าสามารถกินอยู่ใช้สอยด้วยระยะเดินเพียงเล็กน้อย
ย่านนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ง่ายๆแบบการอยู่คอนโดมิเนียม แต่ชอบความเงียบสงบไม่หนาแน่นอึกทึกเท่ากับคอนโดในตัวเมือง ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และตลาดนัด ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด
เริ่มจากเส้นรามอินทรา ที่เด่นๆเลยก็คือ ตรง กม.2 มี เซ็นทรัลรามอินทรา และตรงกม.10 มีห้าง Fashion Island และข้างๆกัน The Promanade ซึ่งภายในก็จะมีทั้ง Shopping center, ห้าง Big C, ร้านอาหาร, โรงเรียนติวเตอร์, คลีนิกเสริมความงาม และ อื่นๆอย่างครบวงจร เส้นเลียบด่วนรามอินทราก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, ห้างใหม่อย่างเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ข้างๆตัวโครงการ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดพื้นใหม่อีก 10 ไร่ให้ร้านค้ามาลงติดเส้นรามอินทราอีกด้วย มาอีกด้านบนเส้นเกษตร – นวมินทร์ที่มีทั้ง Community mall, ตลาดนัดหัวมุม ตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว มา Hangout กับเพื่อนๆได้ในยามค่ำคืนค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ทั้งบนเส้นเลียบด่วนและรามอินทราจะมีรถสาธารณะผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์, รถตู้, วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ มีป้ายรถเมล์อยู่เป็นช่วงๆทั้ง 2 ฝั่งของถนน สามารถหารถได้ง่ายมากๆ อีกทั้งในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้เอง
ทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 59 กับ 61 (จากที่ทางโครงการกล่าวมา) โดย รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีกำหนดคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานตอนกลางปี 2563
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > สะพานเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรม-รามอินทรา > ถนนรามอินทรา > ถนนเชื่อมรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม > โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้าไปทางรามอินทรา ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 15 นาที
สังเกตป้ายรามอินทราให้ชิดซ้าย ลงที่ทางออกน.3-05 ค่ะ
ชิดซ้ายแล้วลงที่ทางออก จะลงบนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเส้นเลียบด่วนรามอินทรานั่นเอง
เมื่อลงจากทางด่วนมาแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะมีจุดสังเกตเป็นปั๊มปตท.ค่ะ คนที่เพิ่งลงจากทางด่วนมาอาจจะขับเข้าไปใช้ปั๊มนี้ได้ยากหน่อย เพราะระยะนับว่ากระชั้นมากทีเดียว และการจราจรบนเส้นเลียบด่วนก็นับว่าหน้าแน่นพอสมควร
วิ่งไปเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายถนนวัชรพล-มีนบุรี ให้เราชิดขวาค่ะ
ชิดไปทางขวาขับขึ้นสะพานเชื่อมระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา
จากนั้นจะมีทางแยกอยู่ 2 ช่องการจราจร ให้เราดูป้ายถนนวัชรพล-มีนบุรี แล้วออกช่องทางซ้ายนะ
เมื่อลงมาจากสะพานให้เราขับตรงไปออกที่ถนนรามอินทราไปทางมีนบุรี ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเข้าซอยวัชรพล
ขับไปเรื่อยๆสักพักเราจะเจอแยกไฟแดง ให้เราชิดขวาเพื่อยูเทิร์นค่ะ
เมื่อเรายูเทิร์นมาแล้วให้เราสังเกตป้าย ถนนพระราม 4-เอกมัย และบางนา-ดาวคะนอง ชิดซ้ายเอาไว้ค่ะ
ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าแยกทางด่วนข้างหน้าไปตามป้าย
จากนั้นยังให้เรายังคงชิดซ้ายอยู่ตลอด ถนนเส้นนี้จะเป็นทางเชื่อมไปยังเส้นประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ
ก่อนจะถึงถนนประดิษฐ์มนูธรรม เราก็จะเจอทางเข้าโครงการหลักอยู่ทางด้านซ้ายมือของเราแล้ว
รูปหน้าทางเข้าโครงการแบบชัดๆ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โดยรอบโครงการระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทราจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในแนวราบ โครงการบ้านจัดสรรทั้งทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, อาคารพาณิชย์ และร้านค้า บรรยากาศโดยรวมถือว่าไม่พลุกพล่านมากถ้าไม่นับบนถนนใหญ่ ภายในซอยจะยังมีที่ดินเปล่าหลงเหลือพอให้เห็นกันอยู่บ้าง
เดี๋ยวเราจะเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงกับตัวโครงการกันนะคะ จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง ? เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการ ข้างหน้าเราคือทางยกระดับขึ้นทางด่วนค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือ เราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งเลียบด่วนกันก่อนนะ
เมื่อเราเดินผ่านหัวโค้งเข้าเส้นเลียบด่วนมาแล้ว เราจะเจอสำนักงานขายอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ
ด้านหลังของสำนักงานขายก็คือตลาดนัดเลียบด่วนนั่นเอง
เข้าไปทางนี้จะทางเข้าอีกทางนึงของตัวโครงการด้วยนะ
ตรงไปข้างหน้าบนเส้นเลียบด่วนช่วงนี้จะมีทั้งหมู่บ้าน, ร้านค้า, ร้านอาหาร และลานเบียร์อยู่ตามข้างทาง บรรยากาศก็น่านั่งทีเดียว
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปสำรวจทางฝั่งขวามือบนเส้นรามอินทรากันต่อ
ทางเดินไปเส้นรามอินทรามีฟุตบาทที่เรียบและกว้าง สามารถเดินได้สะดวกและสวนทางกันได้ ไม่ต้องลงไปเดินเบียดบนถนนเลย
มาถึงเส้นรามอินทราแล้วที่ฝั่งขวามือของเราจะเจอพื้นที่อีก 10 ไร่ของตลาดนัดเลียบด่วนที่เปิดเพิ่มเพื่อรองรับร้านค้า
ฝั่งตรงข้ามจะเห็นว่ามีอาคารพาณิชย์อยู่เรียงกันเป็นตับเลย
เดินต่อมาอีกหน่อยจะมีสะพานลอยข้ามฟากอยู่ตรงหน้าปั๊มบางจากพอดี
ภายในปั๊มบางจากก็พอจะมีร้านกาแฟให้เข้าไปนั่งพักดื่มได้หากผ่านมาทางนี้
เลยปั๊มบางจากเราจะเจอป้ายรถเมล์เลยค่ะ
ด้านหลังของป้ายรถเมล์คือปั๊ม Caltex ภายในมี Mini Big C ค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา เป็นคอนโดมิเนียม Low rise สูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร มีทั้งหมด 1,168 ยูนิตบนพื้นที่ 11-1-22 ไร่ ตัวโครงการเป็นคอนโดสไตล์โมเดิร์น พร้อมสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกเหมือนกับเดินเล่นในสวนหลังบ้าน
มาดูในส่วนของ Plan อาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะมีอยู่ 2 ทาง ทางหลักจะอยู่บนถนนเชื่อมระหว่างรามอินทรา-ประดิษฐ์มนูธรรม ทางรองจะอยู่บนเส้นประดิษฐ์มนูธรรม โดยถูกวางอยู่บริเวณริมฝั่งขวาของไซท์ เส้นทางการเดินรถจะวนขวาตามเข็มนาฬิกาเข้าไปแล้วกลับออกมาที่ทางเข้า – ออกเดิม
ที่ชั้น G จะเป็นที่จอดรถทั้งแบบกลางแจ้งและใต้อาคารรวมทั้งหมด 467 ช่อง คิดเป็น 40% ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน Main Facilities จะอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 5 จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อม Day bed และสวนสาธารณะ ที่มีพื้นที่ให้เดินเล่นและนั่งพักผ่อนได้โดยรอบ
Facilities อีกจุดจะอยู่ที่ใต้อาคาร A ตรงนี้จะมีทั้ง Lobby Lounge, นิติบุคคล, Fitness, ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รวมถึงร้านค้าอีก 5 ยูนิต อาคาร A ที่เป็นเหมือนอาคารประธานก็จะค่อนข้างคึกครื้นกว่าอาคารอื่นๆ เพราะจะมีคนเข้า-ออกอยู่ตลอด
ตั้งแต่ชั้น 2 ของอาคาร A ขึ้นไปจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัย มีจำนวน 172 ยูนิต ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 24 ห้อง ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัวคิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 86 : 1 ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่หนาแน่นจนเกินไป
ในส่วนของอาคาร B-E จะมีผังอาคารคล้ายกันหมด ที่ชั้น G จะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถครึ่งนึง, Lobby, Mailbox และห้องพักอาศัยค่ะ
ตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด มีจำนวน 250 ยูนิต ชั้นที่มียูนิตหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 34 ห้อง ภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารอยู่ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์ 125 : 1 เกินเกณฑ์มาตรฐานไปหน่อย แต่เนื่องจากเป็นคอนโดแบบ Low rise ทำให้การรอลิฟท์นั้นไม่นานเกินไปนัก
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ :::
เราได้ชมรายละเอียดของโครงการกันไปบ้างแล้ว คราวนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปชมบรรยากาศจริงของโครงการกันบ้าง
ทางเข้าหลักของโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องจราจรเข้า-ออก การเข้า-ออกตัวโครงการนั้นจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย นั่นก็คือ ป้อมยามเป็นจุดตรวจ, ระบบ Access card, รั้วไม้กระดก และ กล้อง CCTV
ตรงนี้อาจจะลำบากพี่ยามหน่อยเพราะป้อมยามไม่ได้อยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ดังนั้นหากมีผู้มาเยือนโครงการ พี่ยามจะต้องเดินออกมาตรวจรถและแลกบัตรที่ฝั่งซ้ายด้วย
เครื่องอ่าน Access card และกล้อง CCTV
มุมมองย้อนกลับไปที่ทางเข้าโครงการ
::: บริเวณภายในโครงการ :::
เมื่อเข้ามาในตัวโครงการแล้วเราจะต้องขับวนซ้ายตลอดตามเข็มนาฬิกานะคะ เดี๋ยวเราจะเดินวนรอบดูตัวโครงการกันก่อน ที่ฝั่งซ้ายมือของเราคือตึก B และตึก C เราจะสามารถจอดรถได้ 2 ฝั่งทั้งกลางแจ้งและบริเวณใต้อาคาร
อ้อมมาด้านหลังโครงการจะเห็นพื้นที่ระหว่างตึก C และ E ทำเป็นสวนตรงกลาง Court
อีกด้านนึงคืออาคาร E และอาคาร D
เลยอาคาร D ตรงไปข้างหน้าจะเห็นทางเข้า-ออกฝั่งเลียบด่วนรามอินทรา
ทางนี้จะเป็นทางเข้า-ออกรอง ซึ่งจะเปิด-ปิดเป็นเวลา ตั้งแต่ช่วงตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมงเท่านั้นนะ
มองจากทางเข้า-ออกย้อนเข้ามาเห็นด้านหน้าอาคาร A
ทางเข้าของอาคารจะดูเด่นชัดกว่าอาคารอื่นหน่อย เพราะชั้นล่างเป็น Facilities ของโครงการ
เข้าไปภายในอาคารจะเจอส่วนของ Lobby Lounge ก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน และเป็นส่วนของประชาสัมพันธ์หลัก
ฝั่งขวามือด้านหลังประชาสัมพันธ์ คือห้องนิติบุคคล
ออกไปทางฝั่งซ้ายมือคือทางเข้าโถงลิฟท์, Mailbox และทางออกสู่ Facilities ของโครงการค่ะ
ออกมาจาก Lobby จะเป็นโถงทางเดินไปสู่ Facilities ส่วนต่างๆ
ในโถงทางเดินก็จะมีเก้าอี้นั่งเล่นจัดเอาไว้เป็นชุดๆ ได้วิวสวนของโครงการ
สุดโถงทางเดินคือห้อง Fitness
ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขวาง จัดอุปกรณ์การออกกำลังกายมาให้อย่างครบครัน
ฝั่งติดริมหน้าต่างเห็นวิวสวนจะวางพวกเครื่องเล่น Cardio ทั้งลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี และ จักรยานไฟฟ้า
อีกฝั่งที่ติดกระจกเงา จะเป็นอุปกรณ์ประเภท Weight training สร้างกำลังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
อีกมุมมีม้านั่งราบและชุดดัมเบล
จากห้องฟิตเนสจะเชื่อมกับ Changing room และห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำฝั่งซ้ายคือห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ส่วนฝั่งขวาคืออ่างล้างมือ โดยมีตู้ล็อคเกอร์อยู่ฝั่งในสุด
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
เราจะออกมาเดินชมสวนและดูสระว่ายน้ำกันต่อ
ที่ฝั่งขวามือของสระจะมีจุดล้างตัวให้ 1 จุด
บรรยากาศโดยรอบจัดออกมาได้ดูร่มรื่นดีมาก โดยรอบปกคลุมด้วยร่มเงาของต้นไม้ สระว่ายน้ำของที่นี่ยาวถึง 40 เมตรเลยค่ะ สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ ทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องสีออกฟ้าเขียว เอฟเฟคที่ได้ทำให้สระเป็นสีเขียวมรกต ยิ่งสวยเวลาแดดออก
ข้างๆสระมี Day bed ให้นอนพักผ่อนได้
บันไดทางลงจะอยู่ภายในสระค่ะ
โดยรอบสระจะทำเป็นทางเดินกว้างๆ เราสามารถใช้เป็น Jogging track ได้ด้วย
ตลอดทางจะมีม้านั่งไว้อยู่เป็นจุดๆ
มุมมองจากอีกฝั่งนึงของสระว่ายน้ำ ดูน่าใช้งานมากๆ
อีกโซนนึงจะเป็นโซนสวนและน้ำพุค่ะ เราเดินเข้าไปดูกันต่อ
ตลอดทางเดินจะปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา ประดับด้วยไม้พุ่มและสระน้ำ เชิญชวนให้เดินเข้าไป
สุดทางเดินแล้วจะเป็นโซนสนามหญ้าให้เด็กๆมาวิ่งเล่น
ฝั่งในสุดของสวนจะมีกำแพงน้ำตกสร้างบรรยากาศ
มุมมองย้อนกลับจากภายในสวน
เข้าไปดูในส่วนของอาคาร B-E กันบ้าง
เข้ามาภายในอาคารจะมาเจอส่วนของโถงพักคอยและประชาสัมพันธ์ก่อน
เข้าไปทางฝั่งขวามือคือห้อง Mailbox และโถงลิฟท์
ภายในห้อง Mailbox
ในส่วนของโถงลิฟท์เราจะต้องใช้ Access card ในการผ่านเข้าไปเพื่อเข้าถึงส่วนห้องพักอาศัย
เครื่องอ่าน Access card ติดอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของประตูโถงลิฟท์
เมื่อเข้ามาภายในโถงแล้ว ฝั่งซ้ายมือคือโถงลิฟท์ ในโถงเดียวกันนี้ก็มีห้องพักอาศัยบ้างแล้วซึ่งระเบียงห้องจะติดอยู่กับสวนและสระว่ายน้ำของโครงการ
เข้ามาภายในโถงลิฟท์ มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง ภายในมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว
หน้าตาทางเข้าลิฟท์ ประดับขอบด้วยกระเบื้องลายหินให้ดูโดดเด่นขึ้น
ลิฟท์ของโครงการใช้ของ Hitachi สามารถรองรับได้ 550 กก.หรือ 8 คนใน 1 เที่ยว
หน้าตาโถงลิฟท์ของชั้น 2-8 จะเป็นแบบนี้
ภายในโถงทางเดินของอาคารสว่างดี ดูไม่แคบและน่ากลัว
:::: ROOM TYPE และ ห้องตัวอย่าง ::::
::: ROOM TYPE :::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 6 แบบด้วยกันได้แก่
ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ใช้เฟอร์นิเจอร์ของ Modernform ทั้งหมด เรียกได้ว่าแค่ขนเสื้อผ้ามาก็เข้าอยู่ได้เลย เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลย
แบบ 1 Bedroom : ขนาด 24.90-33.20 ตรม.
แบบ 1 Bedroom Extra A : ขนาด 32.40-34.50 ตรม.
แบบ 1 Bedroom Extra B : ขนาด 33.90-34.80 ตรม.
แบบ 1 Bedroom Extra C : ขนาด 37.10-37.30 ตรม.
แบบ 2 Bedrooms A : ขนาด 43.70 ตรม.
แบบ 2 Bedrooms B : ขนาด 47.95-49.20 ตรม.
::: ห้องตัวอย่าง :::
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ลำดับเป็น 1 Bedroom ขนาด 24.90 ตรม. และ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40 ตรม. มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
:: แบบ 1 Bedroom ขนาด 24.90-33.20 ตรม. ::
เริ่มต้นที่ห้อง 1 Bedroom มีขนาดตั้งแต่ 24.90-33.20 ตรม.ค่ะ ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น, ห้องครัว และห้องนอนออกจากกัน ห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด ช่วยกันกลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ดี ตัวห้องจะเป็นแบบหน้าแคบแต่ลึก การจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องอาจจะยากกว่าห้องที่มีหน้ากว้างกว่า โดยห้องนี้จะเป็น Type ที่มีเยอะมากที่สุด
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องด้วยกันเลยค่ะ
เข้าไปภายในห้องเราจะเจอส่วนครัวก่อน ฝั่งขวามือคือห้องน้ำ ผนังภายในห้องเป็นฉาบเรียบทาสี
พื้นห้องส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม. มีข้อดีคือสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย พอเข้าไปในส่วนของห้องนอนก็จะแบ่งปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ค่ะ
ในส่วนของฝ้าเพดานจะเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้ ฝ้าสูง 2.4 เมตรตามมาตรฐาน
ภายในห้องขายแบบ Fully furnished เฟอร์นิเจอร์จาก Modern Form ทั้งหมด จะเห็นว่าเราได้ครัวแบบพร้อมใช้งานได้เลย เราจะได้ทั้งชุดเคาน์เตอร์และชั้นวางของเหนือหัวทั้งหมดค่ะ มาดูรายละเอียดกันต่อเลย
เคาน์เตอร์ที่ได้จะปิดผิวด้วยเมลามีน ใต้เคาน์เตอร์มีช่องเก็บของและชั้นวางเตาไมโครเวฟให้
ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต มีทั้งพื้นที่เตรียมอาหาร และ อ่างล้างจาน แต่เตาปรุงอาหารกับเครื่องดูดควันจะไม่ได้มาด้วยนะ แนะนำให้ติดตรงผนังหลังเคาน์เตอร์ เป็นกระเบื้อง หรือ แผ่น Splash board นะ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายๆ
ชุดก๊อกน้ำและอ่างล้างจานที่ได้เป็นของ Teka ขนาดกระทัดรัด ล้างจาน-แก้วกาแฟสะดวกอยู่
ก๊อกน้ำทรงสูง สามารถหมุนบิดไปซ้าย-ขวาได้ ใช้งานได้สะดวก
ชั้นเก็บของเหนือหัวก็พอจะเก็บของพวกแก้วและจานชามได้อยู่บ้าง
เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีก 1.15 เมตร เป็นระยะที่อีกคนจะสามารถเดินสวนข้างหลังได้โดยไม่รบกวนคนที่ยืนปรุงอาหารอยู่
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อยประมาณ 1 นิ้ว
ไฟที่ได้ภายในห้องก็เป็นดวงโคมดาวน์ไลท์เช่นกัน ภายในห้องน้ำจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ ทางโครงการจึงแก้ปัญหาด้วยการติดพัดลมดูดอากาศมาให้
ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 60 x 60 ซม.ทั้งพื้นและผนัง และกระเบื้องโมเสกประดับ สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็นของ American Standard ทั้งหมด โดยจัดวางสุขภัณฑ์จากส่วนแห้งเรียงเข้าไปยังส่วนเปียก
เราจะได้เซ็ทอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์ พร้อมกระจกตามนี้เลยค่ะ
อ่างล้างมือวางบนท็อปหิน White Calara ด้านข้างมีพื้นที่วางสบู่ล้างมือ ผนังส่วนนี้มีเต้าเสียบให้ สำหรับไดร์เป่าผม และที่โกนหนวดไฟฟ้า ซึ่งห้องจริงจะมีฝาครอบกันน้ำให้ด้วยค่ะ
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยม มีขนาดกระทัดรัดดี
ก๊อกน้ำทรงมนๆหน่อย ใช้งานได้ถนัดมือ
อีกฝั่งจะวางโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ระยะนั่งไม่แคบจนเกินไป
ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน
มุมในสุดของห้องน้ำติดตั้ง Shower box มาให้ เป็นแบบประตูบานเลื่อนเข้ามุมช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดี
ข้างๆติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในค่อนข้างกระทัดรัด ถ้าเป็นผู้ชายตัวโตๆ หรือไซส์ชาวตะวันตกอาจจะแคบไปสักหน่อย
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้
ขนาดก้านฝักบัวจับถนัดมือดีค่ะ แต่หัวอาจจะเล็กไปสักหน่อยสำหรับคนที่ชอบอาบน้ำแบบทีเดียวทั่วตัว
เราจะเข้าไปดูในส่วนของโซนพักผ่อนกันต่อ ทางโครงการติดตั้งประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน มาให้
มือจับแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นภายในโซนพักผ่อนดังที่กล่าวไปแล้วว่าจะปูด้วยพื้นลามิเนต
ภายในโซนพักผ่อนจะเป็นเหมือนแบบห้อง Studio ค่ะ รวมพื้นที่รับประทานอาหาร, ส่วนนั่งเล่น และเตียงนอนเอาไว้รวมกัน
ส่วนรับประทานอาหารจะถูกจัดไว้อยู่ติดกับห้องครัว
สามารถวางโต๊ะเข้ามุม และเก้าอี้สำหรับ 2 ที่นั่งได้ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้เราได้มากับตัวห้องด้วยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหารคือโซฟานั่งเล่น วางอยู่ข้างหัวเตียง
ที่ได้มากับห้องจะเป็นชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งยาวประมาณ 1.4 เมตร พร้อมโต๊ะกาแฟอีกตัว พอดีกับพื้นที่เลย
ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนของเตียงนอน
ที่ได้มากับห้องจะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่ห้องพอดี (ไม่รวมฟูกและเครื่องนอนนะ)
ฝั่งปลายที่นอนเราจะได้ชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้ามาแบบนี้
เราจะได้ทั้งชั้นวางทีวี และชั้นลอยตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยค่ะ
ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบบานเลื่อน เปิดได้ทั้ง 2 ทาง ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของให้
เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีกเยอะเลยนะ ระยะหน้าตู้เสื้อผ้ากับขอบเตียงจะอยู่ที่ 0.9 เมตร ยืนแต่งตัวหน้าตู้ได้สบายๆ
ในส่วนของฝั่งซ้ายมือของหัวเตียงจะมีพื้นที่ห้องเหลือเป็นมุม เป็นส่วนที่เหลือจากระเบียงห้อง ทางโครงการจึงได้จัดโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาให้ด้วย โต๊ะหัวเตียงข้างๆก็แถมมาด้วยเช่นกัน
มุมนั่งทำงานตรงนี้จะอยู่บริเวณช่องแสงพอดี ฝั่งซ้ายมือคือบาน Fix ส่วนฝั่งขวาคือบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงค่ะ
มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานแบบนี้
ออกไปดูระเบียงห้องกันบ้าง ทางโครงการจะแบ่งพื้นที่ระเบียงเอาไว้ไม่ใหญ่มาก เพื่อเอามาเพิ่มพื้นที่ให้ภายในห้องแทน ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงเช่นกัน
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ใช้ Boarder เป็นทรายล้างสีทอง ขนาดพื้นที่เพียงพอสำหรับการตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้าพอดีๆ
นอกจากนี้ก็จะเป็นส่วนที่ใช้แขวน Compressor ค่ะ หันหน้าเข้าหาผ้าที่ตากพอดี ช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้นด้วยนะ
มุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน
หลังจากที่อาคารสร้างเสร็จแล้ว ทางโครงการได้ตกแต่งห้อง 1 Bedroom เอาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างภายในอาคารจริงด้วยนะ มาดูกันค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มจากประตูทางเข้าเป็นบานสำเร็จรูป
พร้อมมือจับแบบก้านโยก ตรงนี้เราสามารถติดตั้งระบบ Digital Door Lock เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นนึงได้
เปิดเข้าไปภายในห้อง แปลนห้องนี้จะสลับด้านกับห้องที่ผ่านมานะคะ
พื้นห้องใช้วัสดุตามห้องตัวอย่างค่ะ โดยหน้าห้องจะเก็บงานตรงธรณีประตูเรียบร้อย
ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตรเท่ากัน เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้
ในโถงของห้องครัวข้างประตูทางเข้าติดตู้ Load center มาให้ ใช้ของ Bticino ค่ะ
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Haco นะ
ภายในห้องครัวได้เคาน์เตอร์มาเหมือนในห้องตัวอย่างทุกประการ
ในส่วนของห้องน้ำ ประตูเป็นบานสำเร็จรูป
พร้อมมือจับแบบลูกบิดสแตนเลส
ภายในห้องน้ำจะได้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องตัวอย่างทุกประการ
จากห้องครัวจะติดตั้งประตูบานเลื่อนกั้นส่วนระหว่างห้องครัวและส่วนพักผ่อนให้เหมือนกัน
ภายในส่วนพักผ่อนก็จะได้เฟอร์นิเจอร์มาตามที่แจ้งไว้ในห้องตัวอย่างค่ะ แต่ห้องนี้จะจัดห้องต่างออกไปตามฮวงจุ้ย
ฝั่งซ้ายมือจะวางเตียงนอน, โต๊ะทำงาน และชุดโซฟาเข้ามุมแทน
อีกฝั่งหนึ่งจะวางตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี และโต๊ะกินข้าวข้างระเบียง ทำให้ได้บรรยากาศอีกแบบ การจัดแบบนี้ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของห้องด้วยว่าชอบและมีพฤติกรรมการใช้งานแบบไหน 😉
ออกไปที่ระเบียงห้อง ชั้นบนๆก็จะได้วิวดีหน่อย
ได้ทั้งวิวสวนที่ร่มรื่นและสระว่ายน้ำของโครงการ บรรยากาศดูดีทีเดียวค่ะ
จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
:: แบบ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40-34.50 ตรม. ::
เสร็จจากห้องนอน 1 Bedroom มาดูห้องแบบ 1 Bedroom Extra A ขนาด 32.40-34.50 ตรม. กันต่อเลย ลักษณะการวางแปลนของห้องนี้ก็ไม่ต่างจากห้องที่ผ่านมาค่ะ แต่การแบ่งสัดส่วนห้องนั้นจะต่างกันตรงที่ จะรวมห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเอาไว้ในโซนเดียวกัน แล้วแบ่งโซนพักผ่อนแยกออกไปต่างหาก ห้องนี้ก็จะเหมาะสำหรับ 1-2 คนเช่นกัน
เข้าไปดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ
เข้าไปในห้องจะเจอส่วนของห้องครัวก่อน ตามด้วยส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ วัสดุภายในห้องจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ทั้งกระเบื้องปูห้องครัวขนาด 60 x 60 ซม., พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร ติดดวงโคมดาวน์ไลท์
มาดูส่วนครัวกันก่อน ตัวเคาน์เตอร์ครัวและชั้นวางของเหนือหัวจะได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ
จะแตกต่างกันตรงที่เราได้ Hob&Hood มาเพิ่มด้วย
เตาที่ได้เป็นเตาเซรามิกขนาด 2 หัวของ Teka
พร้อม Hood ของ Teka เช่นกัน
เมื่อวางเคาน์เตอร์แล้วก็ยังเหลือพื้นที่อีก 1.15 เมตร เป็นระยะที่อีกคนจะสามารถเดินสวนข้างหลังได้โดยไม่รบกวนคนที่ยืนปรุงอาหารอยู่ เท่ากับห้อง 1 Bedroom
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
ภายในห้องน้ำเราจะได้เหมือนห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ดังนั้นจะขอข้ามไปเลยนะคะ
เดินผ่านส่วนครัวเข้าไป จะเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านในสุดที่ถูกกั้นส่วนออกไปคือโซนพักผ่อนค่ะ
โต๊ะทานอาหารจะถูกจัดเข้ามุมข้างๆเคาน์เตอร์ครัวเลย สามารถจัดวางได้ 2 ที่นั่งเช่นกัน
เก้าอี้ฝั่งที่ชนกับชั้นวางทีวี เวลาถอยหลังเพื่อจะลุกอาจจะต้องระวังหน่อย เพราะระยะกระชั้นมาก โต๊ะกับเก้าอี้ชุดนี้เราได้มากับตัวห้องค่ะ
อีกฝั่งนึงจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ชุดโซฟา และโต๊ะกาแฟเราได้มากับตัวห้องค่ะ ส่วนชั้น Built-in ฝั่งซ้ายเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งเท่านั้น ไม่ได้มาด้วยนะ
จะเห็นว่าห้องนี้เราได้พื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางขึ้น ชุดโซฟาที่ได้มีขนาด 2.05 เมตรเลย
ฝั่งตรงข้ามเราได้ชั้นวางทีวีและชั้นวางของชุดเดิมค่ะ ระยะทีีวีตรงนี้ค่อนข้างดีนะ ดูทีวีจอใหญ่ๆสัก 60 นิ้วนี่ได้เลย
เราจะเข้าไปดูในโซนพักผ่อนกันต่อค่ะ ซึ่งจะถูกแบ่งด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม
ในส่วนของโซนพักผ่อนก็ยังมีพื้นที่ๆกว้างพอสมควร สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว
เตียงที่ได้เป็นขนาด 5 ฟุตเท่ากันพร้อมโต๊ะข้างหัวเตียง แต่โซฟาฝั่งขวามือไม่ได้มากับตัวห้องนะ
ฝั่งตรงข้ามก็ได้โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้ามาเหมือนเดิม
ซึ่งระยะปลายเตียงก็ยังเหลือพอๆกับห้อง 1 Bedroom นะ เดินผ่าน, เปลี่ยนผ้าปูเตียง หรือยืนแต่งตัวได้สบาย
ช่องแสงของห้องยังคงเหมือนห้อง 1 Bedroom ค่ะ มุมฝั่งซ้ายมีหน้าต่างบานเลื่อนและหน้าต่างบาน Fix ส่วนฝั่งขวามือมีประตูบานเลื่อนออกสู่ระเบียงห้องนอนได้
พื้นที่ระเบียงมีขนาดเท่ากับห้อง 1 Bedroom เช่นกัน
มุมมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2560) ::::
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2560) ::::
แบบ 1 Bedroom
– ขนาด 24.90-33.20 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้นที่ 1,790,000 บาท
– เงินจอง 5,000 บาท
– ทำสัญญา 30,000 บาท
แบบ 1 Bedroom Extra A
– ขนาด 32.40-34.50 ตรม.
– ราคาเริ่มต้นที่ 2,690,000 บาท
– เงินจอง 10,000 บาท
– ทำสัญญา 40,000 บาท
แบบ 2 Bedrooms A
– ขนาด 43.70 ตรม.
– ราคาเริ่มต้นที่ 4,100,000 บาท
– เงินจอง 15,000 บาท
– ทำสัญญา 45,000 บาท
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ WE CONDO เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่บริเวณหัวโค้งถนนเชื่อมประดิษฐ์มนูธรรมและรามอินทรา โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัย มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถส่วนตัวถือว่าค่อนข้างสะดวกทั้งขาเข้าและออกเมือง เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม สามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี โดยจะตัดผ่านวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอิน หรือ วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย
แต่ย่านนี้ก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นจะขอแนะนำให้เผื่อเวลาดีๆ และใช้ทางด่วนจะเร็วที่สุดค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เนื่องจากทั้งเส้นเลียบด่วนและเส้นรามอินทรามีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ทั้งรถเมล์, รถตู้, รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ จึงถือว่าไม่ยากลำบากค่ะ อีกทั้งในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วง แคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา และ รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีวัชรพล ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายนี้เอง ทางขึ้น-ลงสถานีจะอยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 59 กับ 61 (จากที่ทางโครงการกล่าวมา) ก็จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น แต่ก็อาจจะต้องรอกันอีกหลายปีหน่อยนะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น มี 5 อาคาร ทั้งหมด 1,168 ยูนิต บนพื้นที่ 11 ไร่กว่าๆ วางผังโครงการแบบ Linear เรียงแต่ละตึกเข้าไปเป็นคู่ๆ คือ B-D และ C-E โดยมีตึก A อยู่ตรงกลางเป็นตึกประธาน การวางแปลนแต่ละชั้นก็เรียบง่ายเป็นแบบ Double Corridor การวางอาคารแบบนี้ทำให้เกิด Space ตรงกลางระหว่างอาคาร ซึ่งถูกจัดให้เป็นส่วนกลางของโครงการทั้ง สวนสาธารณะ และ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
ส่วนห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ค่อนข้างลงตัว โดยหลักจะขออิงไปที่ห้อง 1 Bedroom และ 1 ฺBedroom Extra A ที่เราได้รีวิวให้ดูกันนะคะ ห้องทั้ง 2 แบบจะวางแปลนค่อนข้างเหมือนกัน มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันค่ะแล้วแต่ว่าใครจะเหมาะกับแบบไหนมากกว่า โดยห้อง 1 Bedroom จะเหมือนกับห้อง Studio คือกั้นส่วนเฉพาะห้องครัวออกไป ส่วนรับประทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น และเตียงนอนจะอยู่รวมกัน ทั้งห้องจะได้แสงสว่างอย่างทั่วถึง ห้องครัวถูกกั้นส่วนออกไป เมื่อปรุงอาหารกลิ่นก็จะไม่ฟุ้งไปทั่วห้อง โดยพื้นจะปูด้วยกระเบื้อง ซึ่งสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเมื่อเวลาเลอะเทอะ แต่เวลามีแขกไปใครมาจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่
ส่วนห้อง 1 ฺBedroom Extra A จะมีพื้นที่ๆกว้างขวางกว่า ภายในห้องจะไม่ได้กั้นส่วนระหว่างห้องครัว กับส่วนรับประทานอาหารหาร และห้องนั่งเล่น จึงทำให้ภาพรวมของห้องดูโปร่ง จะกั้นเฉพาะโซนพักผ่อนออกไปซึ่งทำให้ภายในห้องนั่งเล่นไม่ได้แสงสว่างผ่านทางหน้าต่าง ต้องอาศัยแสงสว่างผ่านทางโซนพักผ่อนเอา ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี ถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้พวกเฟอร์นิเจอร์ครบ แบบขนเสื้อผ้าเข้ามาอยู่ได้เลย นอกจากนี้ก็ยังได้แอร์ จาก Sumsung ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตรม.ละ 80,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ โดยจะมี สวนสาธารณะ และ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลาง Court ส่วนกลางอีกส่วนจะอยู่ที่ใต้ตึก A คือ Lobby Lounge, Fitness และร้านค้าอีก 5 ยูนิต
ทางโครงการได้ทำทำช่องจอดรถเอาไว้ประมาณ 40% แบบยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาน้อยไปหน่อย ถึงแม้ว่าจะมีลูกบ้านบางส่วนเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ตาม มีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารตั้งแต่ 86 : 1 จนไปถึง 125 : 1 แอบเกินมาตรฐานมานิดหน่อยแต่ถึือว่ารับได้นะ เพราะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low rise การรอลิฟท์จึงไม่นานมากอยู่แล้ว
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.8 | อยู่บนถนนเชื่อมระหว่างประดิษฐ์มนูธรรม-รามอินทรา ติดถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ และมีสาธารณูปโภคที่รองรับพื้นที่อยู่อาศัย |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ และอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และวงแหวนรอบนอก |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 7.5 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเทา (แต่กำหนดการเปิดใช้บริการน่าจะถูกเลื่อนออกไป จะยังขอหักคะแนนออกไปก่อน) |
บ้านและวัสดุ | 7.4 | โครงการสไตล์โมเดิร์น ให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างครบ วัสดุและสุขภัณฑ์ได้มาตรฐาน จัดห้องได้ค่อนข้างลงตัว แต่เทียบจำนวนยูนิตกับพื้นที่โครงการจะเห็นว่าค่อนข้างหนาแน่นพอตัวเลย |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกให้มาพอสมควร |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 3 คน เดิมอาศัย หรือทำงานอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ ต้องการเข้าเมืองได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว และสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.58 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 085 390 9955
WEBSITE : http://www.we-condo.com/
แสดงความคิดเห็น