EP.241 รีวิว คอนโด PHYLL พหล 34 ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ Phyll Phahol 34 จาก CPNR ตัวโครงการจะอยู่ติด ถ.พหลโยธิน ตรง ซ.พหลโยธิน 34 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. ติดรถไฟฟ้า BTS เสนานิคม เดินทางสะดวกรวดเร็วตามวิถีคนเมือง ไม่เสียเวลาเดินทาง ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์, เมเจอร์รัชโยธิน, เซ็นทรัลลาดพร้าว และ รพ.เปาโล เกษตร
ฟีล พหล 34 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 3-2-7.4 ไร่ มี 4 อาคาร จำนวน 358 ยูนิต กับอาคารสโมสร และสระว่ายน้ำ แยกเป็นสัดส่วน ออกแบบด้วยแนวความคิด Live everyday in Urban Hideaway ใกล้เมือง ใกล้สีสัน ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่เป็นความสุขส่วนตัว มีห้องให้เลือก 3 แบบ ขนาดเริ่มต้นที่ 25 – 35 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พฤศจิกายน ปี 2562 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครับครัน อาทิ Main Lobby, สระว่ายน้ำ ขนาด 20.00 x 6.50 เมตร, พื้นที่พักคอย, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุดและห้องนั่งเล่น, ห้องซักรีด, Smart Locker, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 145 คัน คิดเป็น 40.5% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน), Access Card Control, กล้อง IP CCTV ภายในลิฟท์ทุกตัว, Main Lobby ชั้น 1, ลานจอดรถ, ทางเดินชั้นห้องพัก, บริเวณทางเข้า – ออกโครงการ และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท*
เราไปดูรายละเอียดของโครงการด้วยกันเลยค่า
| ชื่อโครงการ | ฟีล พหล 34 Phyll Phahol 34 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์ จำกัด |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 3-2-7.4 ไร่ |
| จำนวนตึก |
|
| จำนวนชั้น |
|
| จำนวนห้อง | 358 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 145 คัน คิดเป็น 40.5% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เขตจตุจักร |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน |
|
| ที่ตั้ง | ซอย พหลโยธิน 34 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร |
| กำหนดการ |
|
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พฤศจิกายน ปี 2562 |
| ราคา | เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
|
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | Phyll Phahol 34 คอนโดใหม่จาก CPNR บนทำเลศักยภาพในโซนจตุจักร เดินทางสะดวก ติดถนนพหลโยธิน และ รถไฟฟ้า BTS สถานีเสนานิคม |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอย พหลโยธิน 34 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.836736, 100.574236
แผนที่โครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Phyll Phahol 34 ตั้งอยู่ติด ถ.พหลโยธิน ข้างๆ ซ.พหลโยธิน 34 ระหว่างแยกเสนานิคม และแยกเกษตร และยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม ที่สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน และ Monorail สายสีเหลือง
ทำเลย่านรัชโยธิน-เกษตร นั้นได้ชื่อว่าเป็น Business Hub เพราะเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีแนวโน้มการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องมาจากการขยายตัวของเมืองย่านลาดพร้าวและรัชดาภิเษก อยู่ใกล้ทั้งแหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช็อปปิ้ง, สถานศึกษาที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้ง SCB Park, ตึกช้าง, รร.สาธิต, ม.เกษตร, รร.หอวัง, Major รัชโยธิน และเซ็นทรัลลาดพร้าว จากการสำรวจข้อมูล ทำเลในย่านนี้ ตั้งแต่ พหลโยธิน-ลาดพร้าว-จตุจักร จนไปถึงเกษตร นั้นมีสัดส่วนการขายโครงการสูงถึง 90% ตาม Demand และ Supply ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
ด้วยศักยภาพของทำเล จึงถูกผลักดันให้เทียบเท่ากรุงเทพชั้นใน ย่าน สีลม, อโศก และ พระราม 9 ให้เป็น New CBD ของกรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ทาง BTS กำลังลงทุนร่วมกับ Gland (ผู้พัฒนาพระราม 9 ให้กลายเป็น New CBD) ก่อตั้งบริษัท Bay Water เข้าซื้อที่ดินแปลงใหญ่ ขนาด 48.5ไร่ เยื้องๆ กับแดนเนรมิต ถ.พหลโยธิน ด้วยราคามากกว่า 7,000 ล้านบาท สำหรับทำ Mega Project เป็นโครงการ Mix Used ครบวงจร ที่มีทั้ง ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, อาคารสำนักงาน, ร้านอาหาร และอาคารพักอาศัย รวมถึงมีแผนที่จะตัดถนนเชื่อมระหว่าง เส้นวิภาวดี-รังสิต กับ เส้นพหลโยธินอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกค่ะ เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ระหว่าง แยกเกษตร และ แยกเสนานิคม ไม่ไกลจากจตุจักร โดยสามารถใช้เส้นพหลโยธินออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้ แม้ว่าเส้นพหลโยธินจะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่ามีการจราจรที่ติดขัด แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น วิภาวดี-รังสิต ที่วิ่งขนานกับเส้นพหลโยธินเอง แต่มีการจราจรที่คล่องตัวกว่า สามารถใช้วิ่งไปทางดินแดง-รังสิตได้ โดยจะมีจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์อยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งเชื่อมต่อกับ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนา-พระราม 9
รัชดาภิเษก ตัดกับถ.พหลโยธินตรงแยกรัชโยธิน ใช้วิ่งลงไปทางพระราม 9 ได้, งามวงศ์วาน ตรงแยกเกษตร ใช้วิ่งไปทางฝั่งนนทบุรี, ถ.ประเสริฐมนูกิจ ตรงแยกเกษตรเช่นกันค่ะ ไปเชื่อมกับ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม มีจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นอีกตัวเลือกที่สามารถใช้ออกไปทางบางนาได้ หรือจะวิ่งขึ้นไปทางวัชรพลก็ได้ และ ถ.ลาดพร้าว ตรงห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งวิ่งขนานกับ ถ.ประเสริฐมนูกิจ เชื่อมกับ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรมได้เช่นกัน หรือจะใช้วิ่งต่อไปทางบางกะปิ เชื่อมสู่ ถ.ศรีนครินทร์ และ ถ.รามคำแหงได้ค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังอยู่ติดกับ ซ.พหลโยธิน 34 ซึ่งเราสามารถใช้เส้นทางนี้ลัดเลาะออก ถ.ประเสริฐมนูกิจ และ ถ.ลาดพร้าว-วังหิน เชื่อมสู่ ถ.ลาดปลาเค้าออก ถ.รามอินทราได้ และเชื่อมสู่ ถ.ลาดพร้าวค่ะ ถึงว่ามีตัวเลือกในการเดินทางอยู่พอสมควรเลย
ทางด่วน จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดก็คือทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ (อุตราภิมุข) สามารถเลือกใช้ได้ 2 เส้นทาง ลองดูเอาว่าวันไหนใช้เส้นไหนดีกว่ากัน โดยจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 5.7 กม.เท่านั้นค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็ถือว่าไม่ได้ไกลกว่ากันมาก โดยให้ออกไปกลับรถที่เส้นประเสริฐมนูกิจเพื่อวิ่งเข้า ถ.เลียบด่วน จุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ก่อนถึง CDC หรือจะเลี้ยวเข้า ถ.รัชดาภิเษก เชื่อมสู่ลาดพร้าว แล้วออกเลียบทางด่วนก็ได้เช่นกัน
ความอุดมสมบูรณ์ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าทำเลของโครงการนั้นเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เพราะอยู่ใกล้ทั้ง แหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช็อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้ที่สุดก็คือตรงแยกเกษตร มีร้านอาหารเด็ดๆ อยู่หลายร้าน ขายกันในราคานักศึกษา, ตลาดอมรพันธ์ และตลาดบางเขน ก็สามารถเดินไปได้สะดวก ส่วนแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเซ็นทรัลลาดพร้าว กับ แฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ใกล้แยกรัชโยธินก็จะมีทั้ง ตึกช้าง, Major รัชโยธิน, Avenue รัชโยธิน เลยไปอีกหน่อยก็ SCB Park อีกด้วย
ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Gourmet Market สาขา MRT ลาดพร้าว, Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบายๆ ถ้าออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสวิลล์, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้ไม่ยากค่ะ
นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รพ.วิภาวดี, รพ.เปาโล เกษตร, รร.หอวัง, ม.ราชภัฏจันทรเกษม, ม.ศรีปทุม และ ม.เกษตรศาสตร์ ใกล้ธนาคารซึ่งสะดวกต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยครบวงจรค่ะ
ดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการถือว่าสมบูรณ์มากๆ เลยค่ะ จะออกถนนใหญ่หรือเดินเข้าไปในซอยก็มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดทาง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน เพราะอยู่ติด ถ.พหลโยธิน มีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด ถ้าวันไหนไม่เร่งรีบมาก อยากประหยัดเงินก็สามารถขึ้นรถเมล์ได้ค่ะ สายที่ผ่านก็มีสาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 129, 178, 185, 188 และ 503
สำหรับการเดินทางด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้า ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่ สถานีเสนานิคม เลยค่ะ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงทางขึ้นสถานีแล้ว เชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ ที่ สถานีหมอชิต, MRT สายสีน้ำเงิน ที่ สถานีพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว และ Monorail สายสีเหลือง ที่ สถานีรัชโยธิน ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ
ในปัจจุบันตัวโครงการอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เพียง 3.0 กม.เท่านั้น (ทางออกที่ 3) สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS หมอชิต ในเพียง 2 สถานีค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.รามอินทรา > แยกหลักสี่ > ถ.พหลโยธิน >แยกเกษตร > Phyll Phahol 34
การเดินทางเราเริ่มต้นที่ถนนรามอินทราผ่าน Ease Park ด้านซ้ายมือ
ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางหลักสี่ เริ่มเบี่ยงเข้าฝั่งขวามือเพื่อขึ้นสะพานยกระดับตรงแยกลาดปลาเค้า โดยเราจะขับผ่าน Big C รามอินทราค่ะ
เตรียมขึ้นสะพานเพื่อมุ่งหน้าไปทางหลักสี่กันต่อ
เมื่อลงสะพานมาแล้วเราจะเจอกับสนามมวยลุมพินี ให้เราจะขับตรงไปเรื่อยๆ
เราจะผ่านศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก โดยมุ่งหน้าไปป้ายสีเขียวที่เขียนว่าลาดพร้าวค่ะ
จากนั้นมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวตามป้ายเลย
ก่อนจะขึ้นสะพานข้ามแยกหลักสี่มุ่งหน้าไปยังปากเกร็ดนั้น เราจะเริ่มเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พหลโยธินค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นเราจะเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.พหลโยธินด้านหน้านะ
เลี้ยวซ้ายตรงแยกหลักสี่เพื่อเข้า ถ.พหลโยธินค่ะ
พอเข้าถ.พหลโยธิน ผ่านกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 บริเวณเกาะกลางนี้มีการกั้นพื้นที่สำหรับทำรถไฟฟ้าในอนาคต
ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ เราจะผ่านม.ศรีปทุมทางฝั่งซ้ายมือค่ะ
ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแยกเกษตรไป
พอเราขับผ่านแยกเกษตรมาแล้ว ที่ด้านหน้าของเราจะเห็นตัวสถานีเสนานิคม ให้เราขับชิดซ้ายเลย
ทางเข้าโครงการจะอยู่บริเวณใต้สถานีเสนานิคมพอดี ซึ่งตอนนี้ทางโครงการได้ปิดล้อมรั้วบริเวณที่ตั้งโครงการเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน และ สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคม ล้อมรอบด้วยอาคารพาณิชย์ อีกทั้ง ร้านค้า และร้านอาหารมากมาย แถมยังอยู่ไม่ไกลจาก รพ.เปาโล เกษตร, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ศรีปทุม อีกด้วย
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการค่ะ เดี๋ยวเราจะมาเดินสำรวจบริเวณรอบๆ โครงการกันก่อน จะได้รู้ว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง
หันไปที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการ ก็คือพิพิธภัณฑ์ดิน ที่มีการจัดแสดงชุดดิน 62 ชุดในประเทศไทยค่ะ
ถ้าเราเงยหน้าขึ้นไปข้างบนก็จะเห็นตัวสถานีเสนานิคม อยู่ด้านหน้าตัวโครงการเลยนะ
เดี๋ยวเราจะเดินมุ่งหน้าไปสำรวจทางฝั่งแยกเสนานิคมก่อนค่ะ
ติดกับตัวโครงการเป็นตึกแถว ชั้นล่างเปิดเป็นกิจการร้านค้าต่างๆ ร้านแรกเลยก็คือร้านโคลาสุกี้-บะหมี่ เป็นร้านเก่าแก่ของย่านแยกเกษตรเลยค่ะ ในร้านให้อารมณ์เหมือนนั่งกินสุกี้อยู่ที่บ้าน นอกจากสุกี้แล้วก็มีเมนูอาหารจานเดียวด้วยนะ
เราเดินถัดมาหน่อยก็จะมี Max Value เป็น Mini Supermarket สามารถหาซื้อของสดหรืออาหารแห้งที่นี่ได้ค่ะ
เดินมาจนถึงหัวมุมมีร้านขายยาอยู่อีก 1 ร้าน
ซึ่งตรงนี้ก็คือ ซ.พหลโยธิน 34 นั่นเอง ถ้าเลี้ยวเข้าไปทางนี้เราสามารถลัดเลาะไปออก ถ.เกษตร-นวมินทร์, ถ.ลาดพร้าว-วังหิน และ ถ.ลาดพร้าวได้ด้วย
ที่ฝั่งตรงข้ามจะมีตลาดนัดมดแดง ข้างๆ กับกรมพัฒนาที่ดิน ภายในมี 3 โซนด้วยกัน คือ โซนร้านค้าในอาคาร, โซนร้านค้าเต๊นท์บริเวณด้านหน้า และโซนร้านค้าทั่วไปด้านหลัง ภายในก็มีของขายให้เลือกซื้อเยอะแยะมากมาย แต่หลักๆ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออาหารค่ะ
ข้าม ซ.พหล 34 มาแล้ว จะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ร้านนึงค่ะ
ข้างๆ กันนั้นเองก็เป็นร้านขายแว่นตา
ร้านซาลอน
ร้านขายของชำ
ร้านขายโจ๊กกวางเจา เจ้านี้เขาก็เปิดมานานแล้วเหมือนกันนะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ จะมีธนาคารกรุงศรี
จากหน้าโครงการเราเดินมาเพียง 190 เมตร ก็จะถึง รพ.เปาโล เกษตรแล้วล่ะค่ะ
ข้างๆ ทางเข้าโรงพยาบาลก็จะมี 7-Eleven เป็นร้านสะดวกซื้อสาขาที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด
จากหน้าโครงการเราเดินไป 210 เมตร ก็จะถึงป้ายรถเมล์แล้ว
มองไปตาม ถ.พหลโยธินทางแยกเสนานิคม จะเห็นว่าทั้ง 2 ฝั่งของถนนมีความคึกคักมากๆ เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
เรากลับมาที่บริเวณด้านหน้าโครงการ คราวนี้เราจะเดินมุ่งหน้าไปสำรวจทำเลทางฝั่งแยกเกษตรกันต่อค่ะ
ติดกับตัวโครงการทางฝั่งนี้ก็เป็นตึกแถวค่ะ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าโดยตลอด
หนึ่งในนั้นก็คือร้านเกาเหลาสามย่าน เดินมานิดเดียวก็มีของให้กินแล้ว
เลยไปอีกหน่อยมีร้านข้าวผัดปูเมืองทอง 1 ได้กลิ่นหอมกระทะเลยนะ นอกจากข้าวผัดปูแล้ว ในซุ้มนี้ก็ยังขายหมูสะเต๊ะ, กระเพาะปลา, กุ้งอบวุ้นเส้น และอื่นๆ อีกมากมาย เมนูอาจจะไม่ได้หลากหลายเหมือนร้านอาหารทั่วไป แต่เขาทำอร่อยหมดทุกอย่างเลยค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามกันบ้าง ก็จะเป็นตึกแถวเรียงกันไปตลอด มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารอยู่ปะปนกันไปหมด
เราเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเจอธนาคารกรุงเทพ สาขาบางเขน
ติดๆ กันก็มีร้านสปาและร้านสักคิ้ว 3 มิติ
มุมร้านกาแฟนั่งเล่นเล็กๆ ก็มีค่ะ สำหรับคนที่เดินผ่านไปมา
เราเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เห็นร้านค้าและร้านอาหารเปิดกันอย่างหลากหลาย แต่ตอนนี้เขากำลังทำทางใหม่อยู่นะคะ ทางจะแคบเดินยากนิดนึง
เราเดินมาถึง ซ.พหลโยธิน 34/2 เข้าไปด้านในจะมีเวิ้งขายของและขายอาหารอยู่ด้วยค่ะ
เดินเลยมาเราจะเจอ 7-Eleven อีก 1 สาขา สาขานี้เดินมาจากโครงการประมาณ 240 เมตรเท่านั้น
ข้างๆ เซเว่นก็จะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวและร้านขายเครปเนยสดกับชาไต้หวันด้วย
จากนั้นเราจะเดินผ่านกรมยุทธโยธาทหารบก
พอมองไปข้างหน้า เราก็เดินมาถึงแยกเกษตรแล้ว ถ้าเดินข้ามไปอีกฝั่งของ ถ.พหลโยธินก็คือ ม.เกษตรนั่นเอง
ส่วนสำนักงานขายของโครงการตั้งอยู่ด้านในเซ็นทรัลลาดพร้าวชั้นที่ 2 โซนธนาคาร ฝั่งตรงข้ามกับร้าน Godiva พอดี เราเข้าไปดูด้านในด้วยกันเลยค่ะ
บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ
ภายในสำนักงานขายแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย
ภายในสำนักงานขายจะมีโมเดลของโครงการตั้งโชว์เอาไว้ เพื่อให้เราได้เห็นภาพรวมของโครงการกันค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
ฟีล พหล 34 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 3-2-7.4 ไร่ มี 4 อาคาร จำนวน 358 ยูนิต กับอาคารสโมสร และสระว่ายน้ำ แยกเป็นสัดส่วน ออกแบบด้วยแนวความคิด Live everyday in Urban Hideaway ใกล้เมือง ใกล้สีสัน ให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่เป็นความสุขส่วนตัว มีห้องให้เลือก 3 แบบ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 – 35 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ทั้ง Main Lobby, สระว่ายน้ำ ขนาด 20.00 x 6.50 เมตร, พื้นที่พักคอย, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุดและห้องนั่งเล่น, ห้องซักรีด, Smart Locker, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 145 คัน, ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน รวมถึง กล้อง IP CCTV ภายในลิฟท์ทุกตัว, Main Lobby ชั้น 1, ลานจอดรถ, ทางเดินชั้นห้องพัก และบริเวณทางเข้า – ออกโครงการ
ผังโครงการ(ชั้น 1): ตัวโครงการจะสามารถเข้า – ออกได้ทางเดียวจากทางถนนพหลโยธิน ผ่านซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV
ที่ชั้น 1 ของอาคารจะเป็นลานจอดรถใต้อาคารทั้งหมด 145 คัน คิดเป็น 40.5% ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน (รวมชั้นจอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น) และเป็นส่วนของโถง Lift Lobby แยกทุกอาคาร เข้าสู่โถงลิฟท์ด้วยระบบ Access Card โดยทุกอาคารจะมีลิฟท์ให้ 2 ตัว ส่วนอาคาร Clubhouse ที่อยู่ตรงกลาง Court ระหว่างอาคาร A – D จะเป็นส่วนของ Main Lobby, จุดพักคอย, ห้องนิติบุคคล และ Smart Locker ค่ะ
ชั้น 2 – 8 : ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป ทั้งอาคาร A – D จะเป็น Residential Zone ทั้งหมด (เป็นผังอาคารแบบ Typical Floor Plan) อาคารทั้ง 4 อาคารเป็นรูป I Shape วางผังแบบ Double Corridor วาง Type ห้องขนาด 35 ตร.ม. เอาไว้ด้านใน Court ส่วนห้องขนาด 25 – 28 ตร.ม. จะถูกวางเอาไว้รอบนอก
อาคาร A มีจำนวน 82 ยูนิต, อาคาร B มีจำนวน 80 ยูนิต, อาคาร C มีจำนวน 98 ยูนิต และอาคาร D มีจำนวน 98 ยูนิต มีลิฟท์โดยสารให้อาคารละ 2 ตัว เป็นลิฟท์ที่ใช้ระบบระบุชั้นช่วยเพิ่มความส่วนตัวมากขึ้น คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ต่อจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ A 1 : 41/ B 1 : 40/ C 1 : 49/ D 1 : 49 เป็นตัวเลขที่ถือว่าได้ Traffic ในการใช้ลิฟท์ที่ดีไม่ต้องรอลิฟท์นาน อีกทั้งจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นก็อยู่ที่ 14 ห้องเท่านั้น ถือว่าไม่แออัดแล้วค่ะ
ภายในอาคาร Clubhouse นอกจากจะเป็นส่วน Main Lobby และพื้นที่พักคอยแล้ว ยังมี ห้องสมุด – ห้องนั่งเล่น, ห้องออกกำลังกาย, ซาวน่า, สระว่ายน้ำระบบเกลือ มีขนาดใหญ่ถึง 20 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กให้ภายในสระ ข้างๆ กันมี Jacuzzi สำหรับแช่เล่นให้อีก 1 จุด ล้อมรอบด้วยแลนด์สเคปที่สวยงาม
คราวนี้เรามาดูโมเดลของโครงการกันบ้าง จะได้เห็นภาพรวมของตัวอาคารกันว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร
เริ่มจากฝั่งทิศตะวันตกของโครงการ เป็นฝั่งที่อยู่ติดกับถนนพหลโยธินและรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีเสนานิคม จะได้แดดในช่วงบ่าย อาคารถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีครีมและสีน้ำตาลทำให้ดูอบอุ่นแบบบ้านพักอาศัย
ซึ่งทางฝั่งนี้จะเป็น Main Entrance ของตัวโครงการค่ะ
ฝั่งทิศเหนือ เป็นฝั่งที่โชคดีได้รับแสงแดดในช่วงเช้า
ฝั่งทิศตะวันออก เป็นฝั่งที่ได้แดดในช่วงเช้าเช่นกัน แต่จะโดนอาคารพหลโยธิน 34 เรสซิเดนท์ สูง 8 ชั้น บล็อคแดดออกไปบ้างแล้ว
และฝั่งทิศตะวันตก เป็นฝั่งที่อยู่ติดกับซอยพหลโยธิน 34 ได้รับแดดช่วงบ่ายไปเต็มๆ
ภาพโมเดลในมุมสูงค่ะ ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 4 คืออาคาร Clubhouse
มาซูมดูรายละเอียดของตัวโมเดลกันอีกนิดค่ะ จากทางเข้าโครงการตรงเข้ามาจะมีจุดที่เป็น Drop – off สามารถส่งผู้โดยสารลงที่ Main Lobby แล้ววนออกได้เลย หรือสามารถวนเข้าไปใต้อาคาร A – D เพื่อจอดรถ
Main Lobby จะสามารถเข้าได้ 2 ทางนะคะ ทั้งจากฝั่ง Drop-off และจากชั้นจอดรถใต้ดินเดินขึ้นมา
ภาพมุมสูงของ Clubhouse ที่ชั้น 3
เรามาดูภาพบรรยากาศจำลองของโครงการในเบื้องต้นกันก่อนค่ะ จะได้พอเห็นภาพว่าหน้าตาของโครงการจะเป็นอย่างไร และนี่ก็คือภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำของโครงการ เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 20 x 6.5 เมตร ล้อมรอบด้วยแลนด์สเคปที่สวยงาม ความเงียบสงบท่ามกลางเมืองที่มีสีสัน
ภายในสระว่ายน้ำแบ่งเป็นสระเด็กให้บริเวณฝั่งด้านในตรง Pool Deck เพื่อให้ใกล้กับจุดนั่งพักคอยอยู่ในสายตาผู้ปกครองมากที่สุด ส่วนอีกฝั่งนึงแบ่งเป็นจากุซซี่สามารถแช่น้ำได้
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำของโครงการ รอบสระจัดชุด Day Bed และ Pool Bed เอาไว้ให้นอนพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ใหญ่อย่างสงบสุข
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณอาคาร Clubhouse จากจุด Drop-off ขึ้นไปยังส่วน Main Lobby
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณทางเดินภายในโครงการที่ถูกจัดแลนด์สเคปเอาไว้อย่างร่มรื่นสวยงาม
ภาพบรรยากาศจำลองภายในฟิตเนส เป็นห้องที่ล้อมด้วยผนังกระจกทำให้ดูโปร่งโล่ง
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือ
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
ห้องพัก Type A หน้ากว้าง 5.4 เมตร ขนาด 25 ตร.ม.
ห้องพัก Type B หน้ากว้าง 5.4 เมตร ขนาด 28 ตร.ม.
ห้องพัก Type C หน้ากว้าง 7.6 เมตร ขนาด 35 ตร.ม.
นอกจากนี้ทางโครงการยังปูหลังคาด้วย Solar Slab ที่เป็นตัวสะท้อนความร้อนบนคอนกรีต ส่วนใต้คอนกรีตก็ยังติดฉนวนกันความร้อน Stay Cool ให้อีกชั้น ทำให้ห้องบนชั้น 8 นั้นเย็นกว่าและไม่ร้อนเหมือนห้องชั้นบนทั่วๆ ไปค่ะ
แม้ว่าจะเป็นคอนโด Low rise ทางโครงการก็ได้ทำการติดตั้งระบบ Heat Detector, Smoke Detector, Fire Sprinkle, Termite Protection รวมถึงตัว Generator สำหรับเหตุฉุกเฉินเพื่อจ่ายไฟฟ้าไปยังจุดสำคัญจุดต่างๆ รวมถึงลิฟท์ภายในอาคารให้สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชม.
อีก 2 ดีเทลที่น่าสนใจภายในห้องก็คือระบบ Overflow System ที่ฝังอยู่ใต้อ่างล้างจานกันการเปิดน้ำทิ้งไว้ น้ำจากส่วนนี้จะระบายออกไปทางระเบียงห้อง ป้องกันเฟอร์นิเจอร์และไม้ลามิเนตบวมจากน้ำขัง
และอีกระบบนึงก็คือระบบท่อภายในห้องน้ำ ดีไซน์โดย Central เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงได้ง่ายมากขึ้น
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง Type B ขนาด 28 ตร.ม. และ Type C ขนาด 35 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ
::: ห้อง Type B ขนาด 28 ตร.ม. :::
ห้อง Type B ขนาด 28 ตร.ม. เป็นห้องที่มีหน้ากว้าง 5.4 เมตร ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรสำหรับห้องประเภท 1 Bedroom มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างชัดเจน ทั้งโซน ห้องครัว, Common Area และห้องนอน พอเข้ามาในห้องจะเจอห้องครัวก่อนซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด กั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่คละคลุ้งไปทั่วห้อง และห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ตู้เก็บของ, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Cotto และ เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป
เข้าไปในส่วนแรกจะเป็นห้องครัว ฝั่งขวามือของห้องครัวคือห้องน้ำค่ะ ถ้าตรงเข้าไปด้านในห้องจะเป็นส่วนของ Common Area และห้องนอน ผนังภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
ส่วนพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle แต่ในส่วนครัวและห้องน้ำฝ้าจะดรอปจาก Common Area ลงมาเหลือ 2.3 เมตรนะ ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Common Area 1 ตัว และภายในห้องนอนอีก 1 ตัว
นี่คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวแบบมาตรฐานที่เราจะได้มากับตัวห้องค่ะ โดย Built – in ทั้งหมดออกแบบโดย Central และสั่งทำกับทาง Index
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นท็อปกระเบื้องสีขาวพร้อม อ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และฮู้ดดูดควันของ Teka ใต้เคาน์เตอร์พอจะมีช่องให้เก็บของและวางเครื่องซักผ้าได้ หน้าบานเป็น Particle Board ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ตัว Joint เปิด – ปิดแบบ Soft Closed
อ่างล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดกำลังใช้งานได้สะดวกพร้อมก๊อกน้ำทรงสูง
เตาปรุงอาหารแบบเตาเซรามิกขนาด 2 หัวพร้อมฮู้ดดูดควัน
นอกจากนี้ก็มีชั้นลอยสามารถวางเตาไมโครเวฟและเก็บของได้เพิ่มเติม แต่ตำแหน่งนี้อาจจะสูงไปหน่อยสำหรับการวางไมโครเวฟนะคะ เวลาจะวาง – หยิบจานอาหารต้องระวังนิดนึง
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวสามารถวางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้ 1 เครื่องพอดี
คราวนี้เราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องชนิดผิวด้านกันลื่นขนาด 30 x 30 ซม. ที่ประตูทำธรณีขึ้นมากั้นส่วนให้เรียบร้อย
ส่วนผนังในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.จากพื้นจรดฝ้า จัดวางอ่างล้างมือที่หน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการใช้ของ Cotto ทั้งหมดค่ะ
เนื่องจากห้องน้ำไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ จึงต้องพึ่งระบบระบายอากาศของตัวอาคารค่ะ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์ผิวกระเบื้องสีดำ อ่างมีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง
และก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Single Flush ด้านหลังที่เป็น Lower Wall ในห้องจริงๆ จะสามารถเปิดเพื่อทำการ Maintenance ได้ด้วยนะคะ
ผนังด้านข้างโถสุขภัณฑ์ ทางโครงการได้ออกแบบรายละเอียดทำเป็นชั้นสำหรับวางของให้
Accessories ใช้ร่วมกับโถสุขภัณฑ์ค่ะ
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีกันน้ำไหลย้อนพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ข้างๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
มือจับประตูบานเลื่อนเป็นครีบแบบนี้
ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กว้างขวางกำลังดีได้มาตรฐาน
ที่ผนังด้านในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้เลย
ขนาดหัวฝักบัวมีขนาดกำลังดีค่ะใช้งานสะดวก เทียบขนาดให้ดูกับฝ่ามือ
ส่วนฝั่งตรงข้ามทางโครงการก่อ Lower Wall มาให้ Top กระเบื้องสีดำ สามารถวางพวกขวดสบู่แชมพูและอุปกรณ์ในการอาบน้ำได้สบายๆ เลยค่ะ
ออกมาที่ห้องครัวค่ะ จากห้องครัวจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม 3 ตอนติดกระจกมาให้แบบนี้
และมือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานของ Colt
ส่วน Common Area จะประกอบด้วยส่วนรับประทานอาหารและส่วนห้องนั่งเล่น ซึ่งจะเชื่อมกับระเบียงห้องและห้องนอน
พื้นตั้งแต่ส่วน Common Area เข้าไปปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.ทั้งหมด เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
ที่ฝั่งขวามือของห้องจะมีตู้เก็บรองเท้า Built-in มาให้ นอกจากสามารถเก็บรองเท้าได้แล้ว ข้างๆ ยังทำเป็นราวสำหรับแขวนร่มให้ด้วยค่ะ ด้านบนก็ยังสามารถวางของตกแต่งหรือแขวนพวกพวงกุญแจได้ด้วย
ที่เห็นเป็นหมุดคือที่แขวนกุญแจนะคะ ทางโครงการทำมาให้เรียบร้อยแบบนี้เลย
ภาพรวมภายใน Common Area ค่ะ มาดูรายละเอียดกันเป็นส่วนๆ ด้วยกันต่อเลย
เริ่มจากมุมรับประทานอาหาร เราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งมาแบบนี้เลย
ถัดเข้าไปคือห้องนั่งเล่นค่ะ
ในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง วางแล้วพอดีกับพื้นที่ที่เหลือ
ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นดีเทลของชั้นวางทีวีภายในห้อง ที่สามารถหมุนได้ใช้งานระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน ช่วยประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ส่วนระยะดูทีวีของห้องนี้จะค่อนข้างกระชั้นนิดนึง เลือกใช้ทีวีขนาด 32 – 42 นิ้วจะกำลังดี
จากห้องนั่งเล่นจะสามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้ผ่านประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงได้
พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนราวกันตกเป็นกระจกติดตั้งบนโครงเหล็กค่ะ
พื้นที่ของระเบียงห้องนี้กว้างประมาณ 60 ซม. เพียงพอสำหรับการตากผ้าและการซักล้างค่ะ ซึ่งทางโครงการจะเตรียมก๊อกสนามมาให้ด้วยแล้ว
ส่วนตัว Compressor จะสามารถแขวนบนฝ้าได้แบบนี้ โดยจะมี Grill ช่วยบังเอาไว้ให้รูปด้านของอาคารดูเรียบร้อยมากขึ้น
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในส่วน Common Area
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ
ทางโครงการจัดสัดส่วนของห้องนอนให้กว้างขวางพอสมควรเลยนะ ในห้องทางโครงการให้ทั้ง เตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมเลย จริงๆ แล้วภายในห้องนอนเราจะได้หน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์มาด้วย แต่ห้องตัวอย่างติดกระจกเงามาแทนค่ะ
เตียงนอนที่เราได้มาจะเป็นส่วนฐานเตียง แต่ไม่ได้ให้ฟูกและเครื่องนอนมาด้วย
ใต้เตียงมีช่องสำหรับเก็บของให้ด้วยค่ะ
ดูระยะที่ปลายเตียงเหลือเป็นทางเดินผ่านได้สบายๆ
ฝั่งซ้ายมือของเตียงก็ยังเหลือที่พอสามารถวางโต๊ะข้างตัวเล็กๆ หรือโคมไฟตั้งพื้นก็ยังไหว
ส่วนฝั่งขวามือทางโครงการทำชุด Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แบบนี้ค่ะ
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า และลิ้นชักเก็บของ
ลิ้นชักและช่องเก็บของภายในตู้เสื้อผ้า
โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่พร้อมลิ้นชักเก็บของ
ระยะการใช้งานก็เหลือสบายๆ นะคะ สามารถเปิดตู้เสื้อผ้าและยืนแต่งตัวได้สะดวกเลย
::: ห้อง Type C ขนาด 35 ตร.ม. :::
ห้อง Type C ขนาด 35 ตร.ม. เป็นห้องที่มีหน้ากว้างถึง 7.6 เมตร ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน เนื่องจากห้องมีหน้ากว้างจึงสามารถจัดห้องและเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวได้ง่าย ถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางสำหรับห้องประเภท 1 Bedroom มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างชัดเจน ทั้งโซน ห้องครัว, Common Area และห้องนอน พอเข้ามาในห้องจะเจอส่วน Common Area ก่อน ส่วนครัวจะกั้นออกไปด้วยด้วยประตูบานเลื่อนกระจก แถมห้องครัวยังอยู่ติดกับระเบียงห้องทำให้สามารถระบายอากาศและกลิ่นได้ดียิ่งขึ้น และห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดโซฟาเบด, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง, ตู้เก็บของ, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Cotto และ เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
เริ่มจากประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูป
พอเข้าไปในห้องเราจะเจอ Common Area ก่อน ฝั่งซ้ายมือคือห้องครัว ส่วนฝั่งขวามือคือห้องน้ำและห้องนอน ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอนอีก 1 ตัว
ภาพมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า ทางด้านขวามือของประตูทางโครงการทำ Built-in ตู้เก็บของและเก็บรองเท้ามาให้แบบนี้
เปิดออกมาดูด้านในสามารถจุเก็บของได้พอสมควรเลย
ในส่วนของดีเทลชั้นวางของและหมุดแขวนพวงกุญแจก็ยังได้มาเหมือนเดิม
เราเข้าไปดูรายละเอียดแต่ละส่วนของห้องกันต่อเลยค่ะ
เริ่มจากส่วนรับประทานอาหาร
ทางโครงการให้ชุดโต๊ะ – เก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งมาให้ด้วยแบบนี้เลยค่ะ (แต่เก้าอี้จะได้มา 3 ตัวนะ)
ถัดจากส่วนรับประทานอาหารก็คือห้องนั่งเล่นค่ะ
ทางโครงการให้ชุดโซฟาเบดมาแบบนี้เลย สามารถปรับเพื่อเอนนอนได้ด้วย
ในห้องนี้เราก็ได้ชั้นวางทีวีแบบหมุนได้มาเหมือนห้องที่แล้วเลยค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของห้องเขาเลย
ระยะดูทีวีของห้องนี้จะกว้างกว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย แต่ยังเป็นระยะที่ใช้จอทีวีขนาดเท่าๆ กันอยู่นะ
ภาพจากส่วนนั่งเล่นมองย้อนกลับไปค่ะ
เราเข้าไปดูภายในห้องครัวกันต่อ ซึ่งกันส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกแบบ 3 ตอน
พื้นภายในห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมือนเดิม
ส่วนชุดเคาน์เตอร์ครัวของห้องนี้ก็จะได้เหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการค่ะ มีทั้งอ่างล้างมือ, เตาเซรามิคขนาด 2 หัว และฮู้ดดูดควันของ Teka ข้างๆ เหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้อีก 1 ตัว
จากห้องครัวจะเชื่อมกับระเบียงห้อง ข้อดีก็คือสามารถระบายอากาศและกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดีกว่า
พื้นระเบียงของห้องนี้ปูด้วยกระเบื้องแบบเดิม แต่พื้นที่ระเบียงจะกว้างขึ้นประมาณ 10 ซม.
และใช้พื้นที่บนฝ้าในการแขวนตัว Compressor เหมือนเดิมค่ะ
ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้องครัว
คราวนี้เราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำตามด้วยห้องนอนกันต่อ
ภายในห้องน้ำมีการวางเลเอ้าท์และใช้วัสดุ – สุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกประการค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ
ภายในห้องนอนห้องนี้มีขนาดพอๆ กับห้องที่แล้วเลยค่ะ ในห้องทางโครงการให้ทั้ง เตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมเหมือนเดิม จริงๆ แล้วภายในห้องนอนเราจะได้หน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์มาด้วย แต่ห้องตัวอย่างติดกระจกเงามาแทน
เตียงนอนที่เราได้มาจะเป็นส่วนฐานเตียง แต่ไม่ได้ให้ฟูกและเครื่องนอนมาด้วย
ที่ใต้เตียงเราจะได้ลิ้นชักเก็บของ
และช่องสำหรับเก็บของเพิ่มเติมมาด้วยนะ
ดูระยะที่ปลายเตียงเหลือเป็นทางเดินผ่านได้สบายๆ
ฝั่งขวามือทางโครงการทำชุด Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แบบนี้ รูปแบบแตกต่างจากห้องที่แล้วพอสมควร
โดยจะได้สัดส่วนของตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่มากขึ้น
โต๊ะเครื่องแป้งจึงมีขนาดเล็กลงหน่อยค่ะ แต่ก็ยังได้มาตรฐานใช้งานสะดวก สามารถใช้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้ด้วย
นอกจากนี้สวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Bticino ทั้งหมด
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการตั้งอยู่ติด ถ.พหลโยธิน ข้างๆ ซ.พหลโยธิน 34 ระหว่างแยกเสนานิคม และแยกเกษตร และยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม ที่สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน และ Monorail สายสีเหลือง เป็นทำเลมีแนวโน้มการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องมาจากการขยายตัวของเมืองย่านลาดพร้าวและรัชดาภิเษก อยู่ใกล้ทั้งแหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช็อปปิ้ง, สถานศึกษาที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้ง SCB Park, ตึกช้าง, รร.สาธิต, ม.เกษตร, รร.หอวัง, Major รัชโยธิน และเซ็นทรัลลาดพร้าว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางถือว่าสะดวกค่ะ เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ระหว่าง แยกเกษตร และ แยกเสนานิคม ไม่ไกลจากจตุจักร โดยสามารถใช้เส้นพหลโยธินออกไปทางอนุสาวรีย์ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้ จากเส้นพหลจะสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย แม้ว่ารถจะติดแต่ก็อยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งเชื่อมต่อกับ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ไปได้ทั้งทางบางนา-พระราม 9 ช่วยบรรเทาปัญหาลดติดได้เป็นอย่างดี
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสุดๆ เพราะอยู่ติด ถ.พหลโยธิน มีรถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอด และตัวโครงการยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง หมอชิต-คูคต ที่ สถานีเสนานิคม ซึ่งเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ ที่ สถานีหมอชิต, MRT สายสีน้ำเงิน ที่ สถานีพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว และ Monorail สายสีเหลือง ที่ สถานีรัชโยธิน ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ในปัจจุบันตัวโครงการอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เพียง 3.0 กม.เท่านั้น (ทางออกที่ 3) สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTS หมอชิต ในเพียง 2 สถานีค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด Low rise สูง 8 ชั้น มี 4 อาคารกับ 358 ยูนิต บนเนื้อที่ 3-2-7.4 ไร่ สไตล์โมเดิร์นที่ลงตัวด้วยการออกแบบให้เข้ากับชีวิตในเมืองท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ เพราะตัวโครงการถูกเซ็ทเข้ามาจาก ถ.พหลโยธินอยู่พอสมควร โดยตัวโครงการวางผังอาคารเป็นรูปตัว I ล้อมรอบ Clubhouse และจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ห้อง/ชั้น ถือว่าไม่แออัดแล้วค่ะ
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร ทำให้ห้องมีภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง แปลนห้องจะแบ่งส่วน ห้องครัว, Common Area และห้องนอนออกจากกันเป็นโซน จึงได้ในเรื่องของการกำจัดกลิ่นที่ดีและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เสียอย่างที่ห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาครบพร้อมเข้าอยู่ รวมถึงเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าให้มาอย่างเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ โดย Main Facilities ทั้งหมดจะอยู่ภายในอาคาร Clubhouse จุดนี้ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้านมากกว่า ที่ไม่ได้เอาส่วนกลางไปกระจายไว้ตามอาคารต่างๆ
ที่จอดรถของทางโครงการมีทั้งหมด 145 คัน คิดเป็น 40.5% ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน ส่วนภายในอาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารสูงสุดอยู่ที่ 49 : 1 เป็นตัวเลขที่กำลังดี Traffic ถือว่าน้อยค่ะ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วย กล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access Card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้นถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | อยู่ติด ถ.พหลโยธิน ข้างๆ ซ.พหลโยธิน 34 ระหว่างแยกเสนานิคม และแยกเกษตร และยังอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีเสนานิคม ที่สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน และ Monorail สายสีเหลือง |
| การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8.0 | อยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ระหว่าง แยกเกษตร และ แยกเสนานิคม ข้างๆ คือซอยพหลโยธิน 34 สามารถเดินทางและเชื่อมต่อสู่ถนนเส้นอื่นได้สะดวก เว้นแต่ว่ารถค่อนข้างติด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของย่านที่เจริญและคึกคักค่ะ อยู่ใกล้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ |
| การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.8 | โครงการอยู่ติดกับสถานีเสนานิคมเลย ซึ่งเชื่อมต่อรถไฟฟ้าอีก 3 สาย รถสาธารณะก็วิ่งผ่านเยอะ |
| บ้านและวัสดุ | 7.8 | ห้องสไตล์โมเดิร์น แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Furnished วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.7 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้ค่อนข้างเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 8.1 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 2 คน ต้องการหาที่อยู่ในย่านรัชโยธิน เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.15 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
สำนักงานขายเบอร์ 02-541-1322
WEBSITE : http://www.cpnresidence.com/register/10
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น