EP.298 รีวิว คอนโด ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา Siamese Exclusive Ratchada
Written by : Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน Condonayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาไปชมโครงการ Siamese Exclusive Ratchada จาก Siamese Asset ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้าเมือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ติดอาคารโอลิมเปีย ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีรัชดาภิเษก (ประตู 3) ประมาณ 100 เมตร รายล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์และแหล่งช้อปปิ้ง, สถานศึกษา, โรงพยาบาล และ อาคารสำนักงานครบครัน
ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับอยู่อาศัย และ คอนโดเทล บนพื้นที่โครงการขนาด 2-2-94 ไร่ ประกอบไปด้วย 4 อาคาร คือ Tower A สูง 4 ชั้น, Tower B สูง 7 ชั้น ซึ่งเป็นส่วนพาณิชย์, Hotel Service และสำนักงาน และ Tower C คอนโด High Rise 37 ชั้น ห้องชุดพักอาศัย 560 ยูนิต และ Tower D พื้นที่อาคารจอดรถ Auto Parking 10 ชั้น + 5 ชั้นใต้ดิน คันคิดเป็น 50 %
มีห้องชุดพักอาศัยให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ขนาด 31.00 – 57.00 ตร.ม. ฝ้าเพดานสูง 2.85 ห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.50 เมตร เริ่มก่อสร้าง พ.ค. 2562 และ คาดว่าแล้วเสร็จ ธ.ค.2565
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, Mail Box, Meeting Room, Co – Working Space, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, Sky Lounge, สวนพักผ่อน และ พื้นที่สีเขียว พร้อม Hotel Service ตลอด 24 ชม. และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท*(ก.พ.2562)
*Pre-Sale 23 กุมภาพันธ์นี้ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2QCV5Ux
ชื่อโครงการ | ไซมิส เอ๊กซ์คลูซีพ รัชดา Siamese Exclusive Ratchada |
เจ้าของโครงการ | ไซมิส แอสเสท / Siamese Asset |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-2-94 ไร่ |
จำนวนตึก |
|
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
|
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตห้วยขวาง |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้าเมือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง มี.ค. 2562 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จ มิ.ย. 2565 |
ราคา |
|
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
|
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Siamese Exclusive รัชดา คอนโดติดถนนรัชดาภิเษก มีทั้งส่วนพักอาศัยและลงทุนแบบ Hotel บริหารโดยเครือโรงแรมชั้นน้ำ พร้อมส่วนกลางครบครัน ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้าเมือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
พิกัด Google Maps : https://goo.gl/maps/ZLY1gHGFowm
แผนที่จากทางโครงการ
โครงการ Siamese Exclusive รัชดา ตั้งอยู่ติดถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าแยกสุทธิสาร ซึ่งมีระยะทาง 500 เมตร จากแยกลาดพร้าว – รัชดา และใกล้ MRT รัชดาภิเษกเพียง 100 เมตรเท่านั้น เป็นทำเลบนเส้นรัชดาภิเษกที่สามารถอิงกับเส้นลาดพร้าวได้เพราะยังเดินทางไปได้สะดวก ซึ่งทั้งเส้นรัชดาฯและลาดพร้าวนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ มีทั้งอาคารสำนักงานมากมาย โดยเฉพาะบนเส้นรัชดานี่ก็มีอาคารสำนักงานเด่นๆทั้ง AIA Capital, ตลาดหลักทรัพย์ไทย และล่าสุด G Land และอื่นๆ เพราะฉะนั้นจึงมีความอุดมสมบูรณ์สูงไปด้วย หาของกินง่ายทั้งเส้นรัชดาและลาดพร้าวเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกแน่นอน สามารถใช้เส้นรัชดาภิเษกเชื่อมได้ทั้งลาดพร้าวยาวไปถึงวงศ์สว่างฝั่งเข้าเมืองก็ขับนิดเดียวถึงอโศก, เพชรบุรีแล้ว แต่รถจะติดหนักหน่อยในเส้นทางที่ใช้มุ่งหน้าเข้าเมือง โดยเฉพาะช่วงแยกตัดรัชดา – พระราม 9 แล้วถ้าจะเข้าเส้นอโศกนี่ไม่ต้องพูดถึง เลี่ยงได้ควรเลี่ยงค่ะ ถ้ารีบจริงๆก็มีทางเลือกเป็นรถไฟฟ้าให้ใช้เป็น MRT รัชดาภิเษกซึ่งอยู่ใกล้โครงการเลยค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งขาเข้าเมือง มีระยะทางจากโครงการประมาณ 7.1 กม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 10 – 15 นาทีค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ โดยจากหน้าโครงการ (ไม่รวมระยะจากตัวอาคาร) เดินมาประมาณ 100 เมตร ก็ถึง MRT รัชดาภิเษกแล้วค่ะ ซึ่งจาก MRT รัชดาภิเษก นั่งต่อไป 4 สถานี ถึง MRT เพชรบุรีเชื่อมต่อ Airport Rail Link มักกะสันได้ ส่วนถ้าจะไปต่อ BTS ก็สามารถเลือกได้ทั้ง BTS หมอชิต นั่งไป 3 สถานี และ BTS อโศก นั่งต่อไปอีก 5 สถานีค่ะ
นอกจากนั้นในอนาคต สถานีลาดพร้าว (ถัดจาก MRT รัชดาภิเษก 1 สถานี) จะเป็นสถานี Interchange เชื่อมกับสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ซึ่งจะไปเชื่อมกับ รถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราที่ สถานีฉลองรัช อีกทีค่ะ
นอกจากนั้นก็จะมีป้ายรถเมล์ เดินจากโครงการมาทางหน้าตึก Olympia Thai ประมาณ 60 เมตร มีรถเมล์สาย 73ก, 136, 137, 172ร, 179, 185, 206, 514, 517, 529ร วิ่งผ่านค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่อยู่แล้ว สภาพแวดล้อมโดยรวมจึงค่อนข้างคึกคัก บนเส้นรัชดาภิเษกจะมีทั้งอาหารราคาพื้นๆและตลาดนัดสำหรับพนักงานออฟฟิศเยอะแยะมากมาย อย่างใกล้ๆโครงการเลยก็จะมีซอยข้างๆคลองน้ำแก้ว มีร้านอาหารตามสั่งราคาไม่แพง หรือจะเดินไปทาง MRT รัชดาภิเษกก็จะมีซุ้มร้านอาหารเล็กๆมาเปิดขายอยู่ค่ะ
ส่วนร้านสะดวกซื้อใกล้ๆโครงการก็จะอยู่ในตึก Olympia Thai ค่ะ มีทั้ง 7-11 และ S&P เดินจากโครงการไปนิดเดียวเท่านั้น หรือจะไปทางฝั่งแยกลาดพร้าว – รัชดา ก็จะมีสวนลุม ไนท์ บาซาร์ และตรง MRT ลาดพร้าวก็มี Gourmet Market อยู่ เหมาะกับคนที่รักสุขภาพ ชอบทำกับข้าวทานเองก็ไปซื้อวัตถุดิบคุณภาพดีได้ค่ะ
ขยับมาอีกหน่อยมาทางฝั่งพระราม 9 ก็จะมีรัชดาซอย 4 ด้านในจะมี 7 – 11 และร้านอาหารเยอะแยะเลยค่ะ ถัดจากรัชดาซอย 4 มีอีกนิดหน่อยก็จะมีศูนย์อาหารรัชดา ส่วนห้างใหญ่ๆแถวนี้ก็มีทั้ง Central พระราม 9, Fortune Town Esplanade และ The Street สามารถนั่งรถไฟฟ้า 3 – 4 สถานี หรือนั่งวินก็ได้ แปปเดียวก็ถึง Central พระราม 9 , Fortune แล้วค่ะ
ส่วนทางฝั่งลาดพร้าวก็มีทั้งร้านอาหารทั้งร้านทั่วไปและพวก Chain Restaurant, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายของชำ, ร้านขายยา, ร้านอินเตอร์เน็ต, คลีนิกเสริมความงาม, คลีนิกทันตกรรม ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยก็มีร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างเส้นลาดพร้าววังหิน,ถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาสนี่ก็อุดมสมบูรณ์มากๆ
ห้างใหญ่ๆฝั่งลาดพร้าวก็มีเซ็นทรัลลาดพร้าวกับแฟชั่นมอลล์อย่าง Union Mall อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธินพอดีค่ะ ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลลาดพร้าวค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางวันนี้เราเอามาฝาก 2 เส้นทางนะคะ คือการเดินทางด้วย MRT และรถยนต์ส่วนตัว
เริ่มที่ MRT รัชดาเลยค่ะ โดยเราออกทางประตู 3 จากนั้งเดินมาทางขวามือของตัวสถานี ผ่านตึก Olympia thai ก็จะถึงตัวโครงการแล้วค่ะ ระยะทางประมาณ 100 เมตร เท่านั้น
เริ่มการเดินทางที่ตัวสถานี MRT รัชดาภิเษก เดินออกมาทางออก 3 นะคะ
ถ้าหิวก็เดินไปทางซ้ายก่อนได้ มีซุ้มร้านอาหารเล็กๆ กับรถเข็นผลไม้มาเปิดขายอยู่
ซื้อของเสร็จแล้วเดินมาทางฝั่งขวามือของตัวสถานีต่อ จะเป็นตึก Olympia Thai
ด้านในมี 7-11 กับ S&P จะแวะซื้อขนมอีกก็ได้นะ
เดินต่อมาเรื่อยๆ ฟุตบาทด้านหน้าเดินได้สะดวก
เดินจากสถานีมาประมาณ 100 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์
เริ่มการเดินทางกันบนถนนพหลโยธิน เข้าถนนลาดพร้าว ขับตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกลาดพร้าว – รัชดา แล้วเลี้ยวขวา ขับต่อมาประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธิน > ถนนลาดพร้าว > แยกลาดพร้าว – รัชดาฯ > ถนนรัชดาภิเษก > โครงการ Siamese Exclusive รัชดา
เริ่มการเดินทางกันบนถนนหลโยธิน ช่วงก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าว ขับตรงตามป้ายลาดพร้าวกันไปเลยค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยบนถนนพหลโยธินสังเกตป้ายขึ้นสะพานเพื่อไปเส้นลาดพร้าว
ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ
พอวนออกสู่เส้นลาดพร้าวก็จะผ่าน Union Mall ทางซ้ายมือ
ขับตรงมาบนเส้นลาดพร้าวเรื่อยๆ ผ่าน Big C Extra ทางซ้ายมือ สามารถแวะซื้อของเข้าห้องก่อนได้
ขับมาเรื่อยๆ จนถึงแยกลาดพร้าว – รัชดาฯ แล้วเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าพระราม 9 ค่ะ
จากนั้นขับจากแยกมาประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Siamese Exclusive รัชดา ทางซ้ายมือแล้วค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถาน
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
รอบๆโครงการ
มาเดินดูบรรยากาศรอบๆกันบ้างค่ะ เริ่มจากด้านหน้าโครงการติดกับถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์
เดินไปดูทางฝั่งขวามือกันก่อน ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็น The Bazaar Bangkok Hotel ซึ่งภายในจะมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 และร้านอาหารสามารถเดินไปกินได้ค่ะ
ติดกับที่ดินโครงการเป็นคลองน้ำแก้ว
ถ้าเดินเข้ามาด้านในจะเจอร้านอาหารราคาย่อมเยาหลายร้าน
ข้ามคลองมาจะเป็นบ้านข้างเคียง
ถัดมาเป็นร้านกาแฟเล็กๆ
ถัดมาจัดเป็นศูนย์รถและคาร์แคร์ต่างๆหลายๆร้านติดกัน
มีร้านหมอฟัน
กลับมาที่ตัวที่ดินโครงการ เราเดินไปดูทางฝั่งซ้ายมือกันต่อ
ติดกับที่ดินโครงการเป็นอาคารสำนักงาน Olympia Thai
สูง 23 ชั้น
ด้านหน้ามีฟุตบาทกว้าง เดินได้สะดวก และมีป้ายรถเมล์ที่เดินมาจากโครงการได้เลยใกล้ๆค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Siamese Exclusive รัชดา เป็นโครงการคอนโด High Rise และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 2-2-94 ติดถนนรัชดาภิเษก ประกอบไปด้วย 4 อาคาร คือ Tower A, Tower B, Tower C และ Tower D
ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะรายละเอียดของตัว Tower C ซึ่งเป็นอาคารคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 560 ยูนิต + 3 ยูนิตร้านค้า และ Tower D ซึ่งเป็นอาคารจอดรถ โดยตัวโครงการนี้จะมีจุดเด่นที่รองรับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ทั้งแบบทั่วไปและแบบรายวันในรูปแบบของโรงแรม โดยจะแยกสัดส่วนไว้ให้อย่างชัดเจน ซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆพาไปดูกันทีละส่วนนะคะ
ส่วนตัว Tower A จะเป็นส่วนพาณิชย์ มีทั้งร้านค้า, ห้องประชุม เป็นต้น และ Tower B จะเป็น Back Office ของส่วนบริหาร Hotel ค่ะ ซึ่งส่วนพาณิชย์ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะเป็น Shop ของค่ายไหนมาเปิด เดี๋ยวถ้ามีอัพเดทเราจะมาเพิ่มข้อมูลให้อีกทีนะคะ
เริ่มจากผังรวมภายในที่ดินก่อน จะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เป็นภาพการวางตัวอาคาร เริ่มจากทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษก เมื่อเข้าไปภายในโครงการจะผ่าน Tower A ก่อน ถัดไปเป็น Tower B และด้านในสุดเป็น Tower C ซึ่งเป็นส่วน Residence ติดกันเป็น Tower D เป็นอาคารจอดรถ Auto Parking สูง 10 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 5 ชั้น
ภายในโครงการรองรับที่จอดรถทั้งหมดรวม 281 คัน ซึ่งจะแยกเป็น
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ภาพมุมนี้จะเห็นอาคาร A ที่อยู่ติดถนนรัชดาภิเษก มีทางเข้าภายในโครงการทางขวามือ
ภาพมุมจากระหว่าง Tower B และ Tower C
มาเจาะดูแปลนของ Tower C ที่ชั้น 1 กันต่อค่ะ อย่างที่บอกว่าโครงการนี้จะแบ่งส่วนคอนโดเป็น 2 ส่วน คือ
ซึ่งทั้ง 2 ส่วนจะแยกกันอย่างชัดเจนตั้งแต่ทางเข้าเลย โดยจะแยกเป็น Hotel Lobby และ Resident Lobby ทั้งสองส่วนจะไม่เชื่อมต่อกัน และมีโถงลิฟต์เป็นของตัวเองอย่างละ 2 ตัว และใช้ Service Lift ร่วมกัน 1 ตัว
จากแปลนจะเห็นว่าฝั่งด้านหน้าจะเป็นประตูทางเข้าสำหรับส่วน Hotel เข้าไปเจอ Hotel Lobby และมีบันไดเชื่อมขึ้นไปยังส่วนชั้นลอย ไปยังส่วนกลางคือ Co – Working Space
ส่วน Resident จะมีทางเข้าอยู่ฝั่งด้านข้าง เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอ Resident Lobby ถัดเข้าไปเป็น Mail Room และมีห้องน้ำรับรองไว้เรียบร้อย นอกจากนั้นก็จะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปบนชั้นลอยที่เป็นส่วนกลางหลักของส่วน Resident คือ Fitness และ Co – Working Space
แปลนชั้น Mezzanine ที่เชื่อมขึ้นมาจากส่วน Lobby ของทั้งส่วน Hotel และ Resident ซึ่งตรงนี้ต้องขออธิบายไว้นิดนึงค่ะ ว่าทั้ง Hotel และ Resident ก็จะแยกกันอย่างชัดเจนด้วย
โดยส่วนกลางหลักจุดเดียวของ Resident จะอยู่ที่ชั้นนี้ คือ Fitness และ Co – Working Space ซึ่งส่วน Hotel จะไม่สามารถเข้ามาใช้งานได้ จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
และส่วนกลางของ Hotel จะอยู่ที่ชั้นนี้คือ Co – Working Space และที่ชั้น 37 คือสระว่ายน้ำและฟิตเนสขนาดใหญ่ ซึ่งโดยปกติแล้วจะทำมาเพื่อรองรับส่วน Hotel แต่ถ้าลูกบ้านส่วน Resident ต้องการเข้ามาใช้งานที่ชั้น 37 ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสที่ชั้น Mezzanine ซึ่งเป็นส่วนกลางสำหรับลูกบ้านในส่วน Resident ค่ะ ใช้โทนสีสว่างๆ วัสดุโทนสีธรรมชาติ
บรรยากาศจำลองภายใน Co – Working Space ของส่วน Hotel
แปลนอาคารชั้น 2 – 19 เป็นส่วนพักอาศัยของ Resident ซึ่งแปลนทุกชั้นจะวางห้องเหมือนกันค่ะ และจุดสังเกตที่เราเห็นในแปลนคือตัวโถงลิฟต์จะมีแค่ส่วน Resident เท่านั้นที่เปิดเข้าสู่ส่วนพักอาศัยได้
แปลนอาคารชั้น 20 – 36 เป็นยูนิตพักอาศัยส่วน Hotel ซึ่งจะวางผังห้องมาเหมือนที่ชั้น Resident เลยค่ะ เพียงแต่โถงลิฟต์ก็จะมีแค่ส่วน Hotel เท่านั้นที่เข้าถึงได้
แปลนอาคารชั้น 37 เป็นส่วนกลางใหญ่สุดในโครงการ ซึ่งหลักๆจะรองรับสำหรับส่วน Hotel และถ้าลูกบ้านส่วน Resident จะเข้ามาใช้งานก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยส่วนกลางที่ชั้นนี้จะประกอบไปด้วย Fitness, Sky Lounge, ส่วนหย่อม และสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อม Jacuzzi
ภาพจำลองบรรยากาศบนชั้น 37 จะเห็นส่วนกลาง Outdoor คือสวนหย่อมพร้อมศาลานั่งพักผ่อน และสระว่ายน้ำวิวเมือง
บรรยากาศภายใน Sky Lounge ตกแต่งมาในโทนสีดำและทอง หรูหรา
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสบนชั้น 37 เครื่องเล่นครบครัน
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 6 Type โดยจะแบ่งใหญ่ๆเป็น 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ค่ะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องของโครงการจะขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัวครบชุดพร้อม Hob&Hood, ตู้เก็บของหน้าห้อง, ตู้เสื้อผ้า Built – in, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด และแอร์ Conceal พร้อม Wallpaper ทุกห้อง
โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมวันนี้จะมี 2 แบบ คือ
เริ่มที่ห้องตัวอย่างแบบแรก เป็นห้อง 1 Bedroom Type Bliss C ขนาดห้อง 36 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมต่อเนื่องไปยังพื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่น จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก ซึ่งตัวระเบียงของโครงการนี้ในห้องทุกแบบจะเป้นระเบียงที่มีขนาดไม่ใหญ่ มีไว้เพื่อวางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้าเท่านั้น เพราะงานออกแบบจะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องค่ะ
ส่วนห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น โดยจะได้ฉากกั้นห้องเป็นบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ ภายในห้องนอนจะเชื่อมต่อหับห้องน้ำ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดและอ่างอาบน้ำค่ะ
มาดูของจริงกันเลยค่ะ เริ่มที่ประตูทางเข้าหน้าห้องจะถูกดันให้ลึกลงไปจากโถงทางเดินเล็กน้อย เหมือนเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าห้องเล็กๆ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวขึ้นนิดหน่อย
ส่วนบานประตูของจริงจะได้เป็นบานทึบพร้อม Digital Door Lock
ผนังตรงส่วนหน้าห้องที่ดรอปเข้ามาจะทำเป็นตู้เก็บของบานทึบให้แบบนี้ค่ะ เราสามารถใช้เป็นตู้เก็บรองเท้าหรือพวกร่ม, เสื้อกันฝนได้ จะได้ไม่ต้องเลอะภายในห้องนะคะ
พื้นห้องจะใช้ Engineering Wood ลายไม้สีอ่อน
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นห้องครัวเปิด เชื่อมต่อเนื่องไปยังพื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่น ความสูงฝ้าเพดาน 2.85 เมตร ผนังในห้องจะติด Wallpaper มาให้เรียบร้อย
หันกลับมาดูพื้นที่พื้นที่บริเวณส่วนครัวเปิด ได้ Built – in ครัวตามนี้ เป็นเคาน์เตอร์ครัวครบชุดและพื้นที่วางตู้เย็น ตู้บานปิดผิวลามิเนตลายไม้ บานพับเป็น Soft Close ทั้งหมด
เหมาะสำหรับการเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าใครที่ชอบทำกับข้าวกินเองแบบจริงจังก็แนะนำให้กั้นห้องครัวเพิ่มนะคะ โดยถ้าจะให้ห้องไม่ดูทึบก็ควรกั้นด้วยประตูบานสไลด์กระจกใสค่ะ
Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ติดตั้งซิ้งล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ครบ ผนังด้านหลังติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด
ซิ้งค์ล้างจานได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมคุณภาพดี ขนาดพอใช้งานได้สะดวก ตัวก๊อกสามารถดึงออกมาได้
เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัว ยี่ห้อ Teka
ด้านล่างแบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิ้งค์ล้างจาน และลิ้นชัก พร้อมมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟหรือเตาอบตัวเล็กๆได้
ตู้ด้านบนติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้ พร้อมตู้เก็บของแบ่งเป็นชั้นๆ สามารถเก็บของได้พอสมควร
ถัดจากห้องครัวมาจะเป็นพื้นที่โถงกว้างๆ
ติดกับครัวจะมีมุมให้จัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร
สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ กำลังดี
พื้นที่โถงด้านในจัดเป็นห้องนั่งเล่น จุดเด่นของห้องนี้คือช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังทั้งจากห้องนังเล่นและห้องนอน ทำให้ห้องดุสว่างด้วยแสงธรรมชาติและทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ
ให้ดูช่องแสงจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนแบบชัดๆ จะได้เป็นบานฟิกซ์เต็มบานนะคะ แล้วก็จะมีบานกระทุ้งขนาดใหญ่ในห้องนอน ที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
พื้นที่ห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ดูรวมๆก้มีระยะที่สามารถใช้งานได้พอดีๆ
สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง กำลังดี
ฝั่งตรงข้ามสามารถ Built – in เป็นชั้นวางของสวยๆ หรือจะวางเป็นชั้นวางทีวีแบบง่ายๆก็ได้ค่ะ ที่เห็นนี่เป็นตัวอย่างเท่านั้นนะคะ ของจริงเป็นผนังโล่งๆค่ะ
ระยะดูทีวีเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์แล้วจะเหลือประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 32″ – 47″จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตาค่ะ
ติดกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงเล็กภายนอก
พื้นทีระเบียงจะเป็นระเบียงขนาดเล็ก มีกริลล์เป็นตะแกรงเหล็กสีดำติดตั้งมาเป็นกันตก พื้นที่ระเบียงจะทำมาเพื่อสำหรับติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์และวางเครื่องซักผ้าเท่านั้น โดยจะมีติดตั้งเต้าเสียบและก๊อกน้ำมาให้ด้วย
กลับเข้ามาภายในห้อง เรามาดูพื้นที่ในห้องนอนกันต่อ โดยในห้องมาตรฐานจะมีติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่กั้นพื้นที่มาให้นะคะ
พื้นที่ในห้องนอนจะมีขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ โดยฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนส่วนทางซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in และห้องน้ำ
เรามาดูทางฝั่งขวามือกันก่อน
พื้นที่ในห้องนอนเหมาะที่จะวางเตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ แต่ถ้าอยากได้เตียงใหญ่กว่านี้จะวางเป็นคิงส์ไซส์ก็พอได้อยู่
ในห้องตัวอย่างวางเตียงควีนไซส์มาให้ จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนระยะปลายเตียงก็ยังพอให้เดินผ่านได้สะดวกอยู่
พื้นที่อีกฝั่งของห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ ส่วนพื้นที่บนฝ้าเราจะเห็นแอร์คอนซีลที่จะได้เป็นมาตรฐานทุกห้องค่ะ
พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำจะทำเป็นมุมแต่งตัวได้แบบนี้
ตู้เสื้อผ้า Built – in ที่ทางโครงการให้มาจะได้ตามแบบนี้ค่ะ
มีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหน้าห้องน้ำ ขนาดกลางๆ พอใช้งานได้สะดวก
ส่วนระยะที่เหลือให้ยืนแต่งตัวก็กว้างพอให้ยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ
เราไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ
ห้องน้ำมาตรฐานจะได้ตามในห้องตัวอย่างเลย โดยจะติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด แยกส่วนแห้งส่วนเปียก เราไปดูกันทีละส่วนค่ะ
เริ่มจากธรณีประตูใช้เป็นหินแกรนิต ช่วยลดปัญหาการบวมในอนาคต
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ Lavenz พื้นอ่างแบบสโลป ขนาดอ่างค่อนข้างใหญ่ มีเตาเสียบพร้อมฝาปิดกันน้ำมาให้ด้วย
ก๊อกน้ำมีระบบน้ำร้อนน้ำเย็นเดินระบบมาให้เผื่อสำหรับลูกบ้านที่จะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ สามารถใช้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้
กระจกเงาได้เป็นแบบมีตู้เก็บของซ่อนด้านหลังด้วย สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆให้ไม่ต้องรกอยู่บนอ่างล้างมือค่ะ
ส่วนโถสุขภัณฑ์ที่ได้ จะเป็นแบบ Washlet ยี่ห้อ TOTO ติดตั้งมาให้พร้อมที่วางกระดาษชำระแต่จะไม่มีสายชำระนะคะ
อีกด้านจะเป็นห้องอาบน้ำ ติดตั้ง Shower Box มาให้แบบนี้เลย บานประตูเป็นบานผลัก มือจับเป็นก้านให้วางพาดผ้าขนหนูได้
ภายในห้องอาบน้ำมีทั้งอ่างอาบน้ำและติดตั้งฝักบัวมาให้ 2 แบบคือ Hand Shower แบบปรับขนาดหยดน้ำได้ และ Rain Shower ยี่ห้อ Grohe
ระยะสำหรับยืนอาบน้ำกำลังดี
อ่างอาบน้ำจะเป็นไซส์แบบพอดีกับห้องน้ำ ไม่ใหญ่เท่าไซส์มาตรฐานแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ถือว่ามีมาให้สำหรับคนที่ชอบแช่น้ำในห้องนะคะ
สวิทช์ไฟในห้องจะได้เป็นแป้นกดใหญ่ๆ ดูแปลกตาดีค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้องแบบ 2 Bedroom Type Eden C ขนาด 57 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวเปิด ต่อเนื่องไปยังพื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่น ติดกับห้องครัวและห้องทานอาหารจะเป็นห้องน้ำรับรอง และห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นค่ะ
มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันต่อเลย เริ่มที่หน้าห้องจะเหมือนกับห้องที่แล้ว คือประตูทางเข้าจะดรอปเข้าไปจากโถงทางเดินและมีตู้เก็บของติดตั้งไว้ให้หน้าห้องค่ะ
เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเจอพื้นที่ครัวเปิด ถัดเข้าไปเป็นห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่น
เข้ามาในห้องมองย้อนไปทางฝั่งประตูทางเข้าหน้าห้อง ให้เห็นภาพรวมทั้งส่วนห้องทานอาหารและห้องครัว
มาดูในพื้นที่ส่วนครัวกันก่อนค่ะ จะมีเคาน์เตอร์ครัวและช่องสำหรับวางตู้เย็น Built – in มาให้แบบห้องที่แล้ว แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น และหน้าบานเป็น Hi-Gloss
Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ขนาดเคาน์เตอร์ครัวกว้างขึ้นทำให้มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารมากขึ้นด้วยค่ะ
ใต้เคาน์เตอร์แบ่งเป็นตู้เก็บของและลิ้นชัก เพิ่มช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้ามา 1 ช่อง
ส่วนตู้ด้านบนแบ่งเป็น 3 ตู้ และแบ่งเป็นชั้นวางของด้านใน สามารถใช้เก็บของได้เยอะเลยค่ะ
ติดกับส่วนห้องครัวเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร
ถ้าจัดวางตามห้องตัวอย่างก็สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 5 ที่นั่ง กำลังดีค่ะ
ติดกับพื้นที่ทานอาหารอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำรับรองและ Master Bedroom
เรามาดูในส่วนห้องน้ำกันก่อนค่ะ
ภายในห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนสีขาวลายหินอ่อนทั้งหมด แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย
อ่างล้างมือติดตั้งมาให้พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง และบ่าวางของด้านหลัง ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Washlet
กระจกเงาได้บานใหญ่ ครึ่งนึงมีช่องเก็บของซ่อนอยู่ด้านหลัง
ห้องอาบน้ำติดตั้ง Shower Box มาให้ ด้านในติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower ยี่ห้อ Grohe
พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำในห้องพอให้ยืนอาบได้สะดวก
ออกมาจากห้องน้ำ ติดกันเป็นส่วนห้อง Master Bedroom
ภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดพื้นที่ใช้สอยพอดีๆ จัดวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆได้ครบ และมีห้องน้ำในตัว
มาดูในพื้นที่ห้องนอนกันก่อนค่ะ
ห้องนี้จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้าห้องได้เยอะ เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้งสำหรับเปิดเพื่อระบายอากาศ
พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้สบายๆ
มีระยะเหลือข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงขนาดเล็กๆได้
ส่วนฝั่งปลายเตียงมีระยะเหลือค่อนข้างกว้าง สามารถที่จะวางชั้นวางทีวีได้และยังมีระยะให้เดินผ่านได้สบายๆ
หันไปอีกฝั่งของห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้ และส่วนห้องน้ำ ส่วนแอร์ที่เห็นด้านบนก็จะติดตั้งมาให้แบบนี้เลยค่ะ
ตู้เสื้อผ้าห้องนี้ได้เป็นแบบบานสไลด์ซึ่งเหมาะกับระยะการใช้งานดีค่ะ
เรามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom จะได้สเปคมาเหมือนๆกับที่ห้อง 1 Bedroom ค่ะ
ระยะการใช้งานในห้องน้ำจะกะทัดรัดหน่อย
ภายในห้องอาบน้ำมี Shower Box กั้นมาให้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน
กลับออกมาที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้แบบเต็มๆ และมีบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศติดตั้งมาให้ด้วย
พื้นที่ในห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ กำลังดี
ฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีหรือ Built – in ชั้นวางของสวยๆเพิ่มก็ได้
ระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 32″ – 47″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตาค่ะ
ด้านหลังห้องนั่งเล่นมีพื้นที่เป็นมุมให้วางโต๊ะทำงานได้
พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานจะอยู่ระหว่างช่องวางตู้เย็นและระเบียง สามารถวางโต๊ะทำงานขนาดกลางๆได้
มีระยะให้ใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ
ส่วนระเบียงก็จะเหมือนห้องที่แล้ว มีขนาดเล็ก ทำมาเพื่อวางคอมเพรสเซอร์แอร์ แต่ห้องนี้จะมีช่องวางเครื่องซักผ้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวแล้ว พื้นที่ตรงพื้นระเบียงจึงยังเหลืออีกหน่อย ใครอยากทำสวนเล็กๆก็พอได้ค่ะ
เรามาดูภายในห้องนอนรองกันต่อ
พื้นที่ในห้องนอนรองก็ถือว่าไม่เล็กนะคะ โดยจะมีจุดเด่นคือช่องแสงขนาดใหญ่ที่ผนังทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องนี้ดูสว่าง และกว้างมากขึ้น
ช่องแสงฝั่งหัวเตียงมีเป็นบานกระทุ้งด้วย สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
ขนาดเตียงที่เหมาะกับห้องนี้จะเป็นเตียง 3.5 ฟุตค่ะ
หลังจากวางเตียงแล้วจะมีระยะเหลือข้างเตียงนิดหน่อย พอให้เปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้
ส่วนฝั่งปลายเตียงจะมีระยะให้พอเดินผ่านได้ ถ้าใครชอบดูทีวีก่อนนอนก็แนะนำให้ใช้เป็นแบบแขวนผนังนะคะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะมีตู้เสื้อผ้า Built – in ติดตั้งมาให้
ตู้เสื้อผ้าห้องนี้ได้เป็นบานเปิด ด้านในแบ่งเป็นราวแขวนและลิ้นชักมาให้ตามภาพ
มีระยะพอให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก
ราคา (ก.พ.2562)
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Siamese Exclusive รัชดา ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าแยกสุทธิสาร ใกล้แยกลาดพร้าว – สุทธิสาร และใกล้ MRT รัชดาภิเษกในระยะ 100 เมตร เท่านั้น สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักเพราะเป็นทำเลที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ทั้งรัชดาภิเษกและลาดพร้าว โดยพื้นที่รอบๆโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์, คอนโด High Rise, โรงแรม และอาคารสำนักงาน
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินพอจะมีให้พึ่งพา เป็นร้านแบบราคาไม่แพง แต่ลูกบ้านในโครงการน่าจะไม่ต้องกังวลในจุดนี้มากเพราะตัวโครงการเองจะมีส่วนที่เป็นยูนิตร้านค้าอยู่ในโครงการอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะเป็นร้านอะไรมาเปิดบ้างค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง จะอยู่บนถนนใหญ่รัชดาภิเษก นั่งรถไฟฟ้าไปหน่อยก็มีห้างรอบๆและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ที่อยู่ในโซนใกล้ๆโครงการเองก็มีทั้ง The Street, Esplanade, BigC, ตลาดนัดรถไฟ, เซ็นทรัลพระราม 9 และ ฟอร์จูนทาวน์
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบาย สามารถใช้เส้นรัชดาภิเษกเชื่อมได้ทั้งลาดพร้าวยาวไปถึงวงศ์สว่างฝั่งเข้าเมืองก็ขับนิดเดียวถึงอโศก, เพชรบุรีแล้ว แต่รถจะติดหนักหน่อยในเส้นทางที่ใช้มุ่งหน้าเข้าเมือง โดยเฉพาะช่วงแยกตัดรัชดา – พระราม 9 แล้วถ้าจะเข้าเส้นอโศกนี่ไม่ต้องพูดถึง เลี่ยงได้ควรเลี่ยงค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งขาเข้าเมือง มีระยะทางจากโครงการประมาณ 7.1 กม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 10 – 15 นาที แต่ถ้ารีบจริงๆก็มีทางเลือกเป็นรถไฟฟ้าให้ใช้เป็น MRT รัชดาภิเษกซึ่งอยู่ใกล้โครงการเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ถือว่าเป็นทำเลที่ไปไหนมาไหนสะดวก เดินจากโครงการประมาณ 100 เมตร ก็ถึง MRT รัชดาภิเษก แล้วค่ะ ซึ่งจาก MRT รัชดาภิเษก ก็สามารถไปต่อได้ทั้ง BTS และ Airport Rail Link โดยนั่งไปแค่ 4 – 5 สถานีเท่านั้น
และในอนาคต สถานีลาดพร้าว (ถัดจาก MRT รัชดาภิเษก 1 สถานี) จะเป็นสถานี Interchange เชื่อมกับสถานีรัชดาของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-พัฒนาการ ซึ่งจะไปเชื่อมกับ รถไฟฟ้าสายสีเทาช่วง วัชรพล-ทองหล่อ บนเส้นเลียบทางด่วนรามอินทราที่ สถานีฉลองรัช อีกทีค่ะ
นอกจากนั้นก็จะมีป้ายรถเมล์ เดินจากโครงการมาทางหน้าตึก Olympia Thai ประมาณ 60 เมตร มีรถเมล์สาย 73ก, 136, 137, 172ร, 179, 185, 206, 514, 517, 529ร วิ่งผ่านค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวโครงการเป็นโครงการคอนโดในรูปแบบที่มีทั้งคอนโดอยู่อาศัยปกติและส่วนที่เปิดให้ซื้อเพื่อลงทุนเป็นคล้ายๆคอนโดเทล ซึ่งถ้าเทียบจำนวนยูนิตส่วนแล้วก็เกือบประมาณครึ่งๆค่ะ สำหรับคนที่ตั้งใจซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าอยู่แล้วก็เป็นโครงการที่น่าสนใจเพราะสามารถที่จะปล่อยเช่าเป็นรายวันได้เลย โดยที่มี Chain จากโรงแรมดังมาบริหารให้อยู่แล้วและมี Yield 5% ใน 1 – 2 ปีแรก
ส่วนผู้ที่จะซื้ออยู่อาศัย ส่วนกลางที่ทางโครงการทำมามีการจัดแยกส่วนของ Hotel และ Resident ค่อนข้างชัดเจน เป็นสัดส่วน แยก Lobby, โถงลิฟต์ และส่วนกลาง แต่ก็จะมีข้อเสียหน่อยตรงที่ส่วนกลางของ Resident อาจจะดูไม่เยอะเมื่อเทียบกับส่วน Hotel ซึ่งตรงนี้ถ้าลูกบ้านต้องการใช้ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
ที่น่าสนใจคือการใช้กระจก Low-E ช่วยให้อาคารไม่ร้อน ประหยัดพลังงานในอาคาร ระบบระบายและกรองอากาศของตัวอาคาร ซึ่งจะช่วยระบาย CO2 ออกจากอาคารรวมถึงกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้ด้วย(ครอบคลุม PM 2.5)ทั้งในอาคารและในห้องพักค่ะ
ในส่วนของห้องขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว, ตู้เสื้อผ้า, ตู้หน้าห้อง, ชุดสุขภัณฑ์และฉากกั้นห้องน้ำ นอกจากนั้นก็จะติด Wallpaper และได้แอร์แบบ Conceal มาทุกห้องค่ะ ซึ่งถ้าดูจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการสำหรับราคานี้ก็ถือว่าเลือกสเป็ควัสดุมาได้มาตรฐาน ค่อนข้างคุ้มค่า ฝ้าเพดานสูง 2.85 เมตร ห้อง Loft สูง 4.5 เมตร สุขภัณฑ์ Grohe และ TOTO แบบ Washlet ชุดครัว Top หินสังเคราะห์ มีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันมาให้
สิ่งอำนวยความสะดวก : มองภาพรวมส่วนกลางทั้งหมดของโครงการก็ถือว่าให้มาครบครัน ขนาดพอดีๆกับโครงการ ไม่มากไม่น้อย ภาพบรรยากาศที่ทำมาให้ดูสวยน่าใช้งาน โดยส่วนกลางของ Resident จะมี Fitness, Co – Working ที่ชั้น Mezzanine และมี Lobby, Mail Room และส่วน Hotel มีส่วนกลางที่ชั้น 37 คือ Fitness, สระว่ายน้ำ, Sky Lounge และสวนหย่อม แต่ก็จะมีรายละเอียดการใช้ที่แยกในส่วน Resident และ Hotel ตามที่บอกไปเมื่อตอนต้น
นอกจากนั้นในส่วน Hotel ก็มีบริการแบบ Hotel Standard ที่คอยดูแลความเรียบร้อยให้กับผู้ลงทุน เช่น Concierge, Daily Maid, Room Service, Free Wi-Fi & Cable TV และอื่นๆ
ส่วนที่จอดรถจะใช้ร่วมกัน ซึ่งจะมีทั้งหมดประมาณ 50% แต่ก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยในเรื่องของการฟิกซ์ช่องจอดที่แยกเป็นทั้งส่วนโรงแรม, ลูกบ้าน และส่วนสำนักงาน ซึ่งตรงนี้ต้องรอดูระบบจัดการหลังเสร็จอีกทีค่ะ ลิฟต์โดยสารแยกส่วน Hotel 2 ตัวและ Resident 2 ตัว เฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 1 : 140 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ติดถนนใหญ่รัชดาภิเษก ใกล้แยกลาดพร้าว – รัชดาฯ ซึ่งเป็นโซนที่มีแหล่งงานขนาดใหญ่ ใกล้ MRT รัชดาภิเษกในระยะ 100 เมตร เดินถึงได้สบายๆ ความอุดมสมบูรณ์โดยรวมสูง |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เป็นถนนหลัก เดินทางสะดวกแต่รถค่อนข้างติด |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | เยื้องๆหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ และจากโครงการเดินไป MRT รัชดาภิเษกได้สบายๆ 100 เมตร |
ห้องและวัสดุ | 7.75 | ห้องทำมาดูโอเค เด่นที่ได้ฝ้าเพดาน 2.85 เมตร เป็นมาตรฐาน และห้อง Loft สูง 4.5 เมตร ส่วนของที่ได้ก็มาตรฐาน Fully Fitted มีชุดครัวและชุดสุขภัณฑ์, ตู้เสื้อผ้า,ตู้รองเท้า,ติด Wallpaper และเครื่องปรับอากาศมาให้ตามขนาดห้อง |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.75 | ส่วนกลางมาตรฐานมีมาให้ครบ แยกส่วน Hotel กับ Resident พอดีๆกับจำนวนยูนิต มียูนิตร้านค้าภายในโครงการช่วยอำนวยความสะดวก และมีส่วนโรงแรมดูและตลอดซึ่งน่าจะทำให้โครงการไม่เก่าเร็วค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลติดถนนใหญ่รัชดาภิเษก และใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รัชดาภิเษก ในโซนแหล่งงานขนาดใหญ่ ใกล้โรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงาน ไปไหนมาไหนสะดวก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.08 | ดีมาก |
*Pre-Sale 23 กุมภาพันธ์นี้ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2QCV5Ux
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 099-441-0888, 099-442-0888
Website : http://www.siameseasset.co.th/Exclusive-Member/RegisterSiamese_Ratchada
แสดงความคิดเห็น