EP.239 รีวิว AESTIQ Thonglor คอนโดหรูระดับ Ultimate Luxury ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ AESTIQ Thonglor ซึ่งเป็นคอนโด High rise ใหม่ล่าสุดจาก REAL ASSET กันค่ะ ตัวโครงการอยู่บน ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ทำเลแห่งศักยภาพทั้งความสะดวกสบายและการเดินทางใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ 1.9 กม. ใกล้ ถนนสุขุมวิท, ถนนเพชรบุรี และใกล้ 2 ด่วนหลัก ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และ ทางด่วนเฉลิมมหานคร
AESTIQ Thonglor เป็น High rise Condominium สูง 40 ชั้น ระดับ Ultimate Luxury มี 1 อาคาร จำนวนเพียง 203 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-3-88.9 ไร่ ออกแบบโดย A49 สถาปนิกชั้นนำของไทย จากแนวคิด The Reflection of You ออกแบบ Floor plan ให้เป็นแบบ Cluster ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้จะเกิดห้องมุมในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของมุมมองจากภายในห้องพักที่กว้าง และเป็นการเปิดรับการระบายอากาศธรรมชาติให้การอยู่อาศัยนั้นมีความแตกต่างจากการพักอาศัยภายในคอนโดมิเนียมทั่วไป
และออกแบบให้ฝ้าเพดานภายในสูงสุด 3 เมตร และเน้นพื้นที่กระจกบริเวณหน้ากว้างของห้องพัก ซึ่งบางยูนิตมีลักษณะเหมือนห้องที่ยื่นออกไปในอากาศ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่งดงามของทิวทัศน์เมืองได้เต็มที่ที่สุด
โครงการมีห้องให้เลือก 4 แบบคือ 1 ฺBedroom ขนาด 33 – 52 ตร.ม., 2 Bedrooms ขนาด 76 – 119 ตร.ม., 3 Bedrooms ขนาด 131 – 158 ตร.ม. และ Penthouse ขนาด 292 – 301 ตร.ม. พร้อมขายในรูปแบบ Fully Fitted ที่เลือกวัสดุชั้นดีมาเป็นองค์ประกอบภายในห้อง อาทิ พื้นไม้ Engineering Wood สีคลาสสิคโอ๊ค สำหรับห้องนั่งเล่นและห้องนอน, พื้นปูด้วยมาร์เบิ้ล พอร์ซเลน สำหรับห้องครัว ห้องน้ำ พร้อมอุปกรณ์ครัวซีรี่ส์ใหม่จาก Gorenje ในแบบครบชุด โดยทางโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม ปี 2564 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก ของทางโครงการมีการออกแบบเพื่อฉีกแนวการใช้ชีวิตแบบเดิมด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่ทันสมัย อาทิ ที่จอดรถ Super Car & Super Bike and Bicycle, Luxury Car Sharing Service, Shuttle Service, EV Charging Station, Golf &Bike Simulator, Private Theater, Private Onsen, Panoramic Gym, Sky Social Club, Reflection Pool, Aquatic Treadmill ฯลฯ
รวมทั้งยังมีบริการเสริมอื่นๆ ที่ดูแลโดย Concierge Service คอยให้บริการเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เปิดราคาขายเริ่มต้นที่ 280,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้นที่ 9.49 ล้านบาท
เชิญติดตามรายละเอียดแบบเจาะลึกของโครงการที่ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.aestiq.com/
ชื่อโครงการ | เอสทีค ทองหล่อ AESTIQ Thonglor |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด / REAL ASSET |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-3-88.9 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 40 ชั้น |
จำนวนห้อง | 203 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 220 คัน (ที่จอดรถ 2 ระบบ Auto Parking และ Conventional parking ) |
จำนวนลิฟต์ | ลิฟต์โดยสารส่วนตัวทุกยูนิต ( Passenger Lift 6 ตัว และ Service Lift 1 ตัว) |
โซน | ทองหล่อ |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. |
กำหนดการ |
|
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ธ.ค. 2564 |
ราคา | ราคาเริ่มต้น 9.49 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้นประมาณ 280,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | รอข้อมูลจากทางโครงการ |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | AESTIQ Thonglor คอนโดมิเนียมหรูระดับ Ultimate Luxury โครงการใหม่ล่าสุดจาก REAL ASSET Iconic Landmark แห่งใหม่ บนทำเลทองหล่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Reflection of you” สุนทรียะที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ ผ่านการออกแบบโดย A49 สถาปนิกชั้นนำของไทย พร้อม Tesla Car Sharing |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด : 13.738283, 100.584186
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ AESTIQ Thonglor ตั้งอยู่บน ซ.สุขุมวิท 55 หรือเราคุ้นหูกันดีว่า ซ.ทองหล่อ เป็นย่านที่โดดเด่นและขึ้นชื่อเรื่องไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ฮอตเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ จุดเด่นที่ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพก็คือ ความคล่องตัวในการใช้ชีวิต เพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย เป็นแหล่งของการสังสรรค์และเข้าสังคมที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารหรูชิคๆ เก๋ๆ, สถานบันเทิงที่มีชื่อ และ Community Mall อีกทั้งยังเป็นทำเลทองของย่านธุรกิจ เพราะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของพวก Office Building
นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีคอนโดระดับ Luxury และ Residential Building อยู่อีกหลายเจ้า ที่ดินในย่านนี้จึงมีราคาสูงและก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก ในปัจจุบันซอยทองหล่อนั้นมีความหนาแน่นอยู่พอตัวแล้วค่ะ จะหาพื้นที่สำหรับโครงการใหม่ๆ ก็นับว่าหาได้ค่อนข้างยากแล้ว
การเดินทางด้วยรถยนต์ ซ.ทองหล่อ เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่าง ถ.สุขุมวิท และ ถ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่รู้ๆ กันอยู่ว่ารถติดมากทีเดียว เนื่องด้วยปริมาณของคนที่อยู่อาศัย, ทำงาน และสัญจรผ่านไปมาก็ได้ใช้ ซ.ทองหล่อ และ ซ.เอกมัย ที่อยู่ขนานกันเป็นเส้นทางสำหรับเข้า – ออกเมืองฝั่งสุขุมวิท จึงพลอยทำให้ถนนเส้นนี้มีการจราจรที่หนาแน่นไปด้วย แต่ภายใน ซ.ทองหล่อก็ยังพอมีทางลัดเลาะอยู่บ้าง ทั้ง ซ.แจ่มจันทร์, ซ.ธารมรมณ์ 2 และ ซ.ทองหล่อ 10 ที่สามารถใช้ลัดไปยัง ซ.เอกมัยได้ และตรง ซ.เอกมัย 28 ก็สามารถเชื่อมกับต่อเส้นปรีดี พนมยงค์ ได้อีกทาง
นอกจากนี้ ยังมีทางลัดที่สามารถใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ นั่นก็คือ ซ.เอกมัย 10 หรือตรง Heath Land จะสามารถใช้วิ่งลัดเลาะมาออกที่บริเวณ ซ.สุขุมวิท 65 ได้ ถ้าต้องการเข้าเมืองทาง ถ.พระราม 4 ก็จะมี ซ.สุขุมวิท 36 และ 40 ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถใช้เชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ ส่วน ซ.สุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจาก ถ.พระราม 4 กลับเข้ามายัง ถ.สุขุมวิทได้ค่ะ
ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการยังใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมืองอีกด้วย จะเห็นว่าจากโครงการนั้นสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจาก ถ.สุขุมวิทไปทางสยาม, ถ.เพชรบุรีไปทางพญาไท หรือ ถ.พระราม 4 ไปทางสาทร – สีลม ก็ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าถนนโดยรอบจะเป็นถนนที่รถติด แต่ทุกเส้นพอจะมีทางลัดเอาไว้ให้พอลัดเลาะเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบางช่วงได้อยู่บ้างค่ะ
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัชด้วยค่ะ ถ้าจะออกไปทางรามอินทรา – วัชรพลหรือเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชไปทางปากเกร็ดหรือชลบุรี
อีกจุดขึ้นทางด่วนนึงที่อยู่ไม่ไกลก็คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ใช้ออกเมืองไปทางพระราม 2 จาก ถ.สุขุมวิทไป ถ.พระราม 4 ผ่าน ซ.สุขุมวิท 40 และจาก ถ.พระราม 4 วิ่งผ่าน ถ.กล้วยน้ำไทเข้า ถ.อาจณรงค์เพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ย่านทองหล่อนั้นโดดเด่นในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์, ร้านอาหารหรูชื่อดัง, Community Mall และสถานที่ Hang out ในตอนกลางคืนอยู่แล้ว ใกล้กับตัวโครงการในระยะเดินเลยก็จะมีทั้ง The Commons เป็น Community Mall แนวใหม่มุมถ่ายรูปเพียบ ภายในมีร้านอาหารดีๆ ถึง 4 โซน ได้แก่ Market Village Play Yard และ Top Yard, J Avenue ศูนย์ไลฟ์สไตล์ที่แรกในประเทศไทย มีซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร คลินิกความงาม Trendy Café และร้านอาหารนานาชาติชั้นนำมากมายให้เลือก, Penny’s Balcony, Tops Market ทองหล่อ, Seen Space, แหล่งร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง Nihonmura Mall และถ้าเข้าไปใน ซ.ทองหล่อ 10 (หรือ ซ.เอกมัย 5) ก็จะมีร้าน Pub&Restaurant หลายร้าน ถ้าเข้าไปใน ซ.แจ่มจันทร์ ก็จะมีร้านที่น่าสนใจอีกหลายร้านค่ะ
อย่างซอยพี่น้องที่อยู่คู่ขนานกันอย่าง ซ.เอกมัย ก็มี Big C เอกมัย อยู่ข้างๆ กับ Index Living Mall ที่ฝั่งตรงข้ามก็มี Park Lane เป็น Life Style Mall ภายในรวบรวมร้านค้า, ร้านอาหารหลากแนว, สปา, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์การเรียนรู้ และสวนสนุกของคุณหนูเอาไว้
ออกมาที่เส้นสุขุมวิทในระยะใกล้ๆ จะมีศูนย์การค้าอย่าง Gateway เอกมัย ตกแต่งเอาใจคอญี่ปุ่น, Major เอกมัย, Rain Hill, ท้องฟ้าจำลอง, Tops market ถ้านั่งรถไฟฟ้าไปแค่ 2 สถานีก็ถึงย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็น The EmDistrict ทั้ง Emquatier กับ Emporium ซึ่งในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีกด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็นับว่าสะดวกสุดๆ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับ ซ.ทองหล่อ ซึ่งก็มีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา รถแท็กซี่ก็เรียกได้ไม่ยาก ส่วนคิววินมอเตอร์ไซค์ก็มีให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเส้นเลยค่ะ สามารถเรียกใช้บริการได้อย่างง่ายดาย
ในส่วนของรถไฟฟ้า BTS สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีทองหล่อ ห่างจากหน้าโครงการประมาณ 1.9 กม. ถ้านั่งรถไปจะใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้นค่ะ ซึ่งทางโครงการจะมี Shuttle Service บริการรถ Bus ไปส่งถึงสถานีรถไฟฟ้าเลย
และถ้าเรานั่งไปถึง Terminal 21 ลงที่ สถานีอโศก จะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิท ค่ะ ในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา วิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเส้นทองหล่อ มา Interchange ที่ สถานีทองหล่อ อีกด้วย ถ้าจะนั่งขึ้นไปทางวัชรพลไปแถวๆ CDC และเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ จากตัวโครงการไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ สถานีแจ่มจันทร์ จะสะดวกที่สุด
จากบริเวณโครงการมาถึงทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ ทางออกที่ใกล้ที่สุดคือทางออกที่ 3 นะ ถ้าเราจะไป Gateway เอกมัยก็ให้นั่งไป 1 สถานีลงที่สถานีเอกมัยและออกที่ทางออก 4 ค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ถ.พัฒนาการ > ถ.เพชรบุรี > ซ.สุุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) > AESTIQ Thonglor
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์กันค่ะ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20 นาที เราจะมุ่งหน้าไปทางบางนา – ดาวคะนอง
มุ่งหน้าไปตามป้ายบางนา – ดาวคะนองเลยค่ะ
สังเกตป้าย ถ.พัฒนาการ เอาไว้ แล้วให้เราชิดซ้ายเตรียมลงที่ทางออก 5 นะ
ชิดซ้ายแล้วลงที่ทางออก 5 เลยค่า
เมื่อขับลงมาจากทางด่วนแล้วจะมีทางแยก 2 ทางเพื่อเข้า ถ.พัฒนาการแบบนี้ ให้เราชิดขวาเพื่อออกไปทาง ถ.เพชรบุรีค่ะ
เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วบนเส้นพัฒนาการจะเจอคอนโด The Leaf อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ให้เราขับชิดเลนซ้าย หรือขึ้นสะพานข้ามแยกก็ได้เหมือนกัน
ถ้าไม่ได้ขึ้นสะพานให้เราขับไปตามป้ายเพชรบุรีนะคะ
จะมาเจอแยกไฟแดงแบบนี้ให้เราอยู่เลนกลางเพื่อข้ามแยกค่ะ ถ้าออกซ้ายจะเข้า ซ.สุขุมวิท 71 หรือ ปรีดี พนมยงค์นั่นเอง ทางนั้นก็สามารถใช้เดินทางไปตัวโครงการได้เช่นกัน
เมื่อเราขับข้ามแยกมาแล้วจะเข้า ถ.เพชรบุรี เป็นจุดที่สะพานข้ามแยกเมื่อสักครู่ขับมาลงพอดีค่ะ
เราขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน ซ.สุขุมวิท 63 หรือ ซ.เอกมัยนั่นเอง
จากนั้นให้เราชิดซ้ายและเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.ทองหล่อค่ะ
เข้ามาภายใน ซ.ทองหล่อแล้วให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ เราจะขับผ่านอาคาร The Arcadia Head Quarters ที่ฝั่งขวามือ
จาก ถ.เพชรบุรี ตรงเข้ามาภายใน ซ.ทองหล่อ ผ่าน ซ.แจ่มจันทร์ มาประมาณ 140 เมตรก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือแล้วค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
ตัวโครงการตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามกับซอยทองหล่อ 25 พอดีค่ะ ซึ่งบริบทโดยรอบโครงการจะมีทั้ง Residential Building, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, อาคารพาณิชย์, อาคารสำนักงาน และบ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้นค่ะ
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานขายซึ่งที่ตั้งของตัวโครงการก็จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันนี้เลยค่ะ
เรามาเดินสำรวจบรรยากาศโดยรอบโครงการกันก่อนเลย จะได้เห็นว่าในระยะเดินใกล้ๆ กับตัวโครงการนั้นจะอุดมสมบูรณ์และสะดวกขนาดไหน ที่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการเป็นร้านขายรองเท้าค่ะ เรามองไปทางฝั่งขวามือก็คือซอยทองหล่อ 25 อยู่เยื้องๆ กับตัวโครงการพอดี
หันไปทางขวามือ เดี๋ยวเราจะเดินมุ่งหน้าไปทางฝั่งถนนเพชรบุรีกันก่อน
พื้นที่ติดกับตัวโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นซึ่งเปิดเป็นร้านค้าและกิจการต่างๆ อย่างคูหาแรกก็คือบริษัทออกแบบภายใน
ถัดมาเป็นร้านขนมปังเว้ยเฮ่ย เป็นขนมปังราคาย่อมเยา รสชาติอร่อย แถมไส้ขนมปังก็ให้มาอย่างจุใจเลยค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามมีร้าน S&P ด้วย
เราเดินไปเรื่อยๆ ก็จะมีคลีนิกเสริมความงามให้เห็นกันอยู่ทั่วๆ ไป
ร้านซาลอนทำผม
และร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นเซนิกุเทน
ถัดมาก็มีร้านเฟอร์นิเจอร์และร้านเสื้อผ้าสวยๆ
เรามองไปที่ฝั่งตรงข้าม ก็ถึงรพ.คามิลเลียนแล้วค่ะ ด้านหน้าโรงพยาบาลมีทางม้าลายให้ข้ามได้อย่างปลอดภัย
บางช่วงภายในซอยทองหล่อก็จะมีร้านอาหารประเภท Street Food อยู่ด้วยนะ
หากจะทำธุรกรรมทางการเงินก็ง่ายเพราะมีธนาคารอยู่หลากหลายเลย
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็คือโรงแรม The Residence on Thonglor ที่ชั้นล่างมี Family Mart ด้วยค่ะ
ไม่ไกลกันก็จะมี 7 – Eleven อยู่อีกสาขาเดินมาสะดวกมากๆ อยู่ข้างๆ ซอยแจ่มจันทร์นี่เองค่ะ
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของซอยแจ่มจันทร์ก็คือวิทยาลัยดนตรีและศิลปะการแสดง
เดินเลยมาหน่อยจะเจอคอนโด Noble Solo ชั้นล่างของคอนโดมีธนาคารกสิกรไทยอยู่อีก 1 สาขาค่ะ
กลับมาที่หน้าโครงการ เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางฝั่งถนนสุขุมวิทกันบ้าง
พื้นที่ติดกับตัวโครงการเป็นอาคารพาณิชย์เปล่า สูง 2 ชั้นค่ะ
ที่ฝั่งตรงข้ามก็คืออาคารพาณิชย์เหมือนกัน สูง 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านอาหารฝรั่งแบบ All Day Breakfast และข้างๆ กันเป็นร้านอาหารจีนค่ะ
ไม่กี่ก้าวจากตัวโครงการก็มีธนาคารธนชาตอยู่อีก 1 สาขา
ติดกันคือร้านขายรถจักรยานยนต์
และศูนย์ศัลยกรรมเสริมความงามใต้คอนโด The Height
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามมีอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นร้านกาแฟ, ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ และร้านอาหารไทย
ข้างๆ กันคือคอนโด Ivy ทองหล่อ
และร้านอาหาร Viva Market
ฝั่งตรงข้ามกับ Ivy Thonglor ก็คือร้าน Hang out ยอดนิยม Bottoms Up
ไม่ไกลกันมีร้านกาแฟร้านเล็กๆ จัดแบบบรรยากาศในสวนให้ดู Relax
ซึ่งอยู่ติดกับสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเลยค่ะ
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีพวกร้านข้าวแกงราคาย่อมเยาเอาใจคนอยากประหยัดกันบ้าง
เราเดินมาประมาณ 400 เมตรนิดๆ ก็จะเจอร้าน 72 Courtyard แล้ว
ซึ่งติดๆ กันเลยก็คือร้านดังอย่าง Mellow และ Penny’s Balcony
ฝั่งตรงข้ามกับ Penny’s Balcony ก็คือ J Avenue นั่งเองค่า
เรากลับมาที่หน้าสำนักงานขาย เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูข้อมูลและรายละเอียดของโครงการส่วนอื่นๆ กันต่อเลยดีกว่าค่ะ
ทางเข้าภายในสำนักงานขาย ออกแบบมาอย่างหรูหราและทันสมัยได้คอนเซ็ปต์ Future Nature
ภายในสำนักงานขายจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย
มุมนั่งพักผ่อนภายในสำนักงานขาย
นอกจากนี้ภายในสำนักงานขายจะมีโมเดลของโครงการตั้งโชว์เอาไว้ เพื่อให้เราได้เห็นภาพรวมของโครงการกันค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
AESTIQ Thonglor เป็น High rise Condominium สูง 40 ชั้น ระดับ Ultimate Luxury มี 1 อาคาร จำนวนเพียง 203 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-3-88.9 ไร่ ออกแบบโดย A49 สถาปนิกชั้นนำของไทย จากแนวคิด The Reflection of You ผนวกกับแนวคิดอาคาร Future Nature กับ 5 Keywords Fun, Future, Nature, Iconic และ Sustainable ออกแบบ Floor plan ให้เป็นแบบ Cluster ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้จะเกิดห้องมุมในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของมุมมองจากภายในห้องพักที่กว้าง และเป็นการเปิดรับการระบายอากาศธรรมชาติให้การอยู่อาศัยนั้นมีความแตกต่างจากการพักอาศัยภายในคอนโดมิเนียมทั่วไป และออกแบบให้ฝ้าเพดานภายในสูงสุด 3 เมตร และเน้นพื้นที่กระจกบริเวณหน้ากว้างของห้องพัก ซึ่งบางยูนิตมีลักษณะเหมือนห้องที่ยื่นออกไปในอากาศ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถชื่นชมทัศนียภาพที่งดงามของทิวทัศน์เมืองได้เต็มที่ที่สุด
โครงการมีห้องให้เลือก 4 แบบคือ 1 ฺBedroom ขนาด 33 – 52 ตร.ม., 2 Bedrooms ขนาด 76 – 119 ตร.ม., 3 Bedrooms ขนาด 131 – 158 ตร.ม. และ Penthouse ขนาด 292 – 301 ตร.ม. พร้อมขายในรูปแบบ Fully Fitted ที่เลือกวัสดุชั้นดีมาเป็นองค์ประกอบภายในห้อง มี Facilities ที่ทันสมัย เน้นการอยู่อาศัยที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากที่สุด
มาดู Master Plan ของโครงการกันค่ะ รูปทรงที่ดินของตัวโครงการจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางเข้า – ออกของตัวโครงการอยู่บนซอยทองหล่อเพียงทางเดียว พอเข้ามาภายในโครงการแล้วจะสามารถเลี้ยวขวาเพื่อไปส่งผู้โดยสารในส่วนของ Welcome Lobby และ Private Lobby แล้ววนกลับออกไปที่ทางเข้า – ออกเดิม หรือจากทางเข้าโครงการจะสามารถตรงเข้าไปเพื่อวนไปด้านหลังอาคาร จะมีที่จอดรถแบบ Automated Parking รวมทั้งหมด 196 คัน (ชั้น 3 – 9), ที่จอดรถ Supercar 3 คัน และที่จอดรถแบบ Conventional Parking อีก 21 คัน (ชั้น G) รวมทั้งหมด 220 คัน ได้ที่จอดรถมาเกิน 100% เลยค่ะ
ชั้นที่ 1 โดยรอบตัวอาคารจะจัด Landscape อย่างสวยงาม ที่จุดด้านหน้ามี Step Garden เป็นเสมือนสวนหน้าบ้าน และด้านหลังจะมี Hideaway Pavilion ที่ล้อมรอบด้วยสวนสวยดูสงบ เข้าสู่ตัวอาคารจะเป็นส่วนของ Lobby ค่ะ โดยทางโครงการจะแบ่ง Lobby ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันก็คือ Welcome Lobby สำหรับ Visitor, Private Lobby สำหรับ Resident และ Main Lobby สำหรับ Resident มาพบปะกับ Visitor โดย Visitor จะต้องเข้ามาที่ Welcome Lobby ที่ชั้น 1 ก่อน ซึ่งจะมี Reception เป็นจุดช่วยสกรีน 1 ชั้น และพาขึ้นลิฟต์ไปรอที่ Main Lobby ชั้น 2 เพื่อให้ลูกบ้านลงมารับเองค่ะ ส่วน Private Lobby นั้นจะสามารถเข้าได้เฉพาะ Resident เท่านั้น ซึ่งส่วนนี้จะสามารถเข้าสู่ Private Lift เพื่อขึ้นสู่ชั้นพักอาศัยได้
ชั้นที่ 2 ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Main Lobby, Greenery Space, Private Theater, Golf Simulator, Kids Club และ Meeting Room การเข้าใช้งาน Facilities ของโครงการจะต้องใช้ Key Card แตะเพื่อเปิดห้องทุกครั้ง และสำหรับ Facilities แบบ “Private” ทางลูกบ้านเองจะต้องทำการ Book ก่อนการเข้าใช้งานกับทางนิติบุคคลด้วยนะคะ
ชั้นที่ 10 Serene Garden เป็นพื้นที่สีเขียวส่วนกลางของโครงการอีก 1 จุดค่ะ
ชั้นที่ 11 ชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้นที่ 11 โดยจะมีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นอยู่ที่ 11 ยูนิต/ชั้น ดูจากผังอาคารจะเห็นว่ามีการวางผังแบบ Cluster เหมือนนำ 3 อาคารมาประกอบกันและเชื่อมด้วย Corridor และเกิดเป็นช่องเปิดระหว่างตึกที่สามารถดึง Fresh Air เข้ามาให้เกิด Ventilation ช่วยระบายความร้อนออกจากตัวอาคารได้เป็นอย่างดี ส่วนลิฟต์โดยสารทั้ง 6 ตัวนั้นถูกวางอยู่กระจายกัน (โดยมี Service Core อยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วย Corridor) ทำให้ห้องพักอาศัยแต่ละห้องได้โถงลิฟต์แบบ Private จริงๆ
ชั้นที่ 25 ชั้นพักอาศัย มีจำนวน 9 ยูนิต/ชั้น
ชั้นที่ 30 – 31 จะเป็นส่วนของ Main Facilities ประกอบด้วย Reflection Pool สระว่ายน้ำเกลือระบบ Ozone ยาวกว่า 25 เมตร, Upside Down Jacuzzi, Aquatic Treadmill, Private Onsen, Sauna&Steam แยกชาย – หญิง, Panoramic Gym, Bike Simulator, Skyline Garden, Sky Social Club และ Multi – purpose Room
ชั้นที่ 33 ชั้นพักอาศัย มีจำนวนเพียง 2 ยูนิต/ชั้นเท่านั้นค่ะ
ชั้น Rooftop Aestiq Peak เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของโครงการ
คราวนี้เรามาดูตัว Model ของโครงการกันบ้างเพื่อให้เห็นภาพรวมของตัวอาคารกันค่ะ ตัวอาคารจะเป็นอาคารผนังกระจก โดย Facade ด้านหน้าของโครงการฝั่ง City View (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) เป็น Curtain Wall ใช้กระจก Reflective Insulated Glass ส่วนผนังอาคารอีก 3 ด้านที่เหลือใช้ Laminated Glass หน้าตาอาคารดูสวยทันสมัยแนว Futuristic และมีการเล่นเส้นสาย Organic ที่โค้งแบบ Free Form เลียนแบบธรรมชาติ
ภาพด้านหลังอาคารฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้ตัวโครงการจะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
ภาพด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 2 ฝั่งนี้ตัวโครงการจะอยู่ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นและอาคารพาณิชย์เหมือนกันค่ะ
จากซอยทองหล่อเข้าสู่ตัวโครงการ ถ้าเลี้ยวขวาจะสามารถไปส่งผู้โดยสารลงที่ Private Lobby หรือ Welcome Lobby ที่ชั้น 1 ได้
แต่ถ้าตรงไปทางด้านหลังจะเข้าสู่พื้นที่จอดรถทั้ง Automated Parking และ Conventional Parking
พื้นที่สวนด้านหลังคือ Hideaway Pavilion
พอขึ้นมาที่ชั้น 10 จะเป็นส่วนของ Serene Garden
ชั้นที่ 30 และ 31 จะเป็น Main Facilities ของโครงการค่ะ
คราวนี้เรามาดูภาพบรรยากาศจำลองของตัวโครงการกันบ้างค่ะ รูปลักษณ์ของตัวอาคารสามารถออกแบบมาได้ดูล้ำสมัยตามคอนเซ็ปต์ Future Nature ด้วยเส้นสาย Organic แบบเส้นโค้ง Free Form และใช้ Curtain Wall กระจก Insulated Glass เพื่อปะทะแดดฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนอีก 3 ด้านใช้กระจก Laminate Glass
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณทางเข้าโครงการ เห็นส่วน Welcome Lobby และ Step Garden ที่เป็นเสมือนหน้าบ้าน
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Welcome Lobby โปร่งโล่งด้วยพื้นที่แบบ Double Volume และผนังกระจกสูง พร้อม Finishing ด้วยวัสดุสะท้อนเงาสีทองดูหรู
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Greenery Space เป็นพื้นที่ภายในอาคารที่ถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ มองลงไปที่ชั้นล่างก็จะได้วิวสวนบริเวณ Hideaway Pavilion
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Hideaway Pavilion ล้อมรอบด้วยน้ำและสวนที่ดูสงบนิ่ง มีการบังคับมุมมองของสายตาให้พุ่งขึ้นไปที่ท้องฟ้า และใช้วัสดุสะท้อนเงาโดยรอบเพื่อให้ได้ภาพสะท้อนของต้นไม้ค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Main Facilities ชั้นที่ 30 และ 31
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Private Onsen สามารถแช่น้ำพร้อมชมวิวเมืองได้โดยรอบ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Reflection Pool สระว่ายน้ำระบบโอโซนที่ยาวกว่า 25 เมตร ออกแบบในลักษณะ Semi-outdoor ให้เหมือนถ้ำ และเพิ่มความสนุกสนานด้วยเส้นโค้ง Free Form และวัสดุสะท้อนเงาล้อแนวคิด A Reflection of You
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Panoramic Gym ที่ได้วิวเมืองเกือบ 360 องศา ภายในมีอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายอย่างครบครันรวมถึง Bike Simulator ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีบริการ Concierge Service, Valet Parking&Doorman Service, Luxury Car Service ระบบไฟฟ้า 100% โดยทางลูกบ้านสามารถทำการ Booking ผ่านทางนิติบุคคลค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ด้วยกันค่ะ ได้แก่
ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted จะได้ เคาน์เตอร์ครัว, ชุด Built-in, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศแบบ Conceal Type มากับตัวห้องค่ะ เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลย
1 Bedroom Type A1A ขนาด 33.62 ตร.ม.
1 Bedroom Type A3 ขนาด 44.38 ตร.ม.
1 Bedroom Type A5 ขนาด 52.28 ตร.ม.
2 Bedroom Type B4 ขนาด 94.78 ตร.ม.
2 Bedroom Type B6 ขนาด 117.30 – 119.14 ตร.ม.
3 Bedroom Type C2B ขนาด 149.66 – 152.89 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราพามาชมในวันนี้ก็คือห้อง 2 Bedroom Type B6 ขนาด 119 ตร.ม. เราไปดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของตัวห้องกันเลยค่า
::: แบบ 2 Bedroom Type B6 ขนาด 119 ตร.ม. :::
การวางแปลนห้องของโครงการนี้จะเน้นในเรื่องของความ Private เป็นสิ่งสำคัญค่ะ จาก Private Lift ที่ชั้น Lobby ขึ้นมาถึงชั้นพักอาศัยจะเป็นโถงลิฟต์ส่วนตัวของห้อง ส่วนนี้ทำหน้าที่เหมือน Foyer และเป็น Shoe Cabinet สำหรับเก็บรองเท้า ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในห้อง เข้าไปภายในห้องจะเป็นส่วน Common Area ทั้งห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว และมีโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ, ห้องซักรีด, ระเบียง และห้องนอนเล็กค่ะ สังเกตว่าที่ห้องครัวจะมีประตูอยู่อีก 1 บาน ตรงนั้นจะเป็นประตูที่สามารถเปิดออกไปสู่ Service Core ได้
โดยทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted จะได้ เคาน์เตอร์ครัว, ชุด Built-in, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศแบบ Conceal Type มากับตัวห้อง ไปดูรายละเอียดแบบเจาะลึกกันเลยค่า
ภายในสำนักงานขายจำลองประตูลิฟต์เปิดออกสู่โถงลิฟต์ส่วนตัวของห้องค่ะ
พอออกมาจากลิฟต์จะเป็นโถง Foyer และ Shoe Cabinet ที่พื้นปูด้วย มาร์เบิ้ล พอร์ซเลน
Shoe Cabinet ที่ทางโครงการทำมาให้เรียบร้อย หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนต เป็นบานเปิดแบบ Soft Closed ค่ะ
ที่มุมบานเปิดตัดเฉียงแบบ 45 องศา ทำให้สามารถจับเปิดบานได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องเพิ่มมือจับ
เราเข้าไปดูในห้องกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต ติด Smart Digital Door Lock ของ Igloo Home นำเข้าจาก Singapore สามารถเปิดประตูได้ด้วย Password, Key Card, Key และ Bluetooth โดยลูกบ้านสามารถ Download ตัว Application มาลิ้งค์เข้ากับระบบ Bluetooth ของประตู ก็จะสามารถเปิดประตูเข้าห้องได้เลยค่ะ
พื้นภายในห้องปูด้วย Engineering Wood สีคลาสสิคโอ๊คแบบนี้
จาก Foyer จะเชื่อมสู่พื้นที่ Common Area ภายในห้อง คือห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร โดยทางโครงการจะเตรียมผนังฉาบเรียบทาสี, ฝ้าเพดานฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์พร้อมดรอปฝ้า สูง 3 เมตร และเครื่องปรับอากาศแบบ Conceal Type ให้ทั้งยูนิตเลยค่ะ สังเกตว่าห้องนั้นดูสว่างและโปร่งโล่งมากๆ ด้วยฝ้าเพดานที่สูงบวกกับผนังกระจกขนาดใหญ่
เราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องรับประทานอาหารกันก่อนค่ะ
พื้นที่ห้องรับประทานอาหารนั้นมีขนาดที่กว้างขวางพอสมควรเลยค่ะ ห้องตัวอย่างได้จัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นไอเดียในแง่การใช้สอยพื้นที่และการตกแต่งห้อง
สำหรับห้องรับประทานอาหารทางโครงการวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งเอาไว้ ขนาดกำลังเหมาะสมกับพื้นที่ค่ะ แต่จริงๆ แล้วยังสามารถรองรับได้ถึง 8 ที่นั่งเลยนะ
จากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับห้องครัวค่ะ โดยครัวที่ได้จะเป็นครัวเปิดแบบนี้ แต่เราสามารถทำฉากกระจกเพื่อกั้นส่วนเป็นครัวปิดเพิ่มเติมในภายหลังเองได้ง่าย
พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องมาร์เบิ้ลพอร์ซเลน จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็ดทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
ครัวของห้องนี้นับว่ามีขนาดใหญ่พอๆ กับครัวบ้านเดี่ยวเลยนะคะ ด้วยระยะที่กว้างนี้ทำให้ภายในครัวดูโปร่งโล่งและน่าใช้งาน ส่วนประตูด้านหลังห้องครัวคือประตูที่สามารถเปิดออกสู่ Service Core ค่ะ
ภายในห้องครัวทางโครงการได้เตรียมเคาน์เตอร์ Built – in พร้อม เตาปรุงอาหาร, ฮู้ดดูดควัน, อ่างล้างจาน, ไมโครเวฟ+เตาอบ และ Built – in ตู้เย็น ของ Gorenje มาให้เรียบร้อยแล้ว เรามาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
และนี่ก็คือเคาน์เตอร์ครัวพร้อมชั้นลอยเก็บของที่ทางโครงการเตรียมมาให้ บานเปิดเคาน์เตอร์เป็นแบบ Soft Closed ปิดผิวด้วยลามิเนต Top ครัวเป็นหินควอทซ์ ส่วนชั้นลอยเก็บของปิดผิวด้วยกระจกสีชาทองและเก็บขอบด้วยอลูมิเนียม
ลิ้นชักสำหรับเก็บพวกจานชามและช้อนส้อม เป็นแบบ Soft Closed ปิดผิวด้วยลามิเนตเหมือนกัน
เตาไฟฟ้าเซรามิคแบบ Induction ขนาด 4 หัวพร้อมฮู้ดดูดควัน
อ่างล้างจานขนาดใหญ่พร้อมก๊อกน้ำหัวสามารถปรับหมุนซ้าย – ขวาได้ สามารถใช้งานได้สะดวก
เตาไมโครเวฟ+เตาอบ ทางโครงการก็เตรียมมาให้พร้อมแล้วค่ะ
ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นตู้เย็นแบบ Built – in และเคาน์เตอร์แพนทรี่สำหรับเตรียมพวกเครื่องดื่ม
วัสดุที่ใช้ก็ใช้เซ็ทเดียวกันทั้งหมดเข้าชุดกัน
คราวนี้เราจะเข้าไปดูภายในห้องนั่งเล่นกันต่อ
ห้องนั่งเล่นจะล้อมด้วยผนังกระจกสูงถึงฝ้าเพดานทั้งหมดซึ่งทำเป็นผนังกระจกโค้ง ทำให้สามารถเปิดรับมุมมองได้มากถึง 270 องศาทีเดียว จะสังเกตได้ว่าไอเดียการจัดห้องตัวอย่างจะจัด Main Function ให้อยู่ติดผนังทึบเพื่อให้โดยรอบห้องสามารถเปิดรับมุมมองได้ทั้งหมดด้วย
พื้นที่ของห้องถือว่ากว้างขวางทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาเบดหรือโซฟารูปตัว L ได้สบายๆ เลย
ด้านผนังทึบใช้วางชั้นวางทีวีค่ะ ตรงนี้เราสามารถทำชั้น Built – in ได้หลายแบบเลย
ฝั่งทางซ้ายของชั้นวางทีวีก็คือประตูห้องนอนใหญ่นั่นเอง เราเข้าไปดูภายในห้องด้วยกันต่อเลย
ภายในห้องนอนใหญ่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัว
เริ่มจากส่วนพักผ่อน เป็นส่วนที่ล้อมรอบด้วยผนังกระจกโค้งที่ได้มุมมองถึง 270 องศา ห้องดูโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับธรรมชาติและท้องฟ้าได้บรรยากาศเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทเลยค่ะ
ทางโครงการจัดเตียงนอนขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างและสตูลมาให้ดูการใช้สอยพื้นที่ของห้อง
พอวางเตียง 6 ฟุตและโต๊ะข้างอีก 2 ฝั่งก็จะกำลังพอดีกับพื้นที่ห้องเลยค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนั้นก็ยังเหลือสามารถเดินผ่านได้สบายๆ
พื้นที่ปลายเตียงฝั่งนึงมีมุมเสาที่สามารถวางโต๊ะทำงานได้อย่างพอดี
หน้าต่างข้างเตียงฝั่งซ้ายมือเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งนะคะ ภายในห้องตามจุดต่างๆ นอกจากกระจกบานฟิกซ์แล้วก็จะมีกระจกบานกระทุ้งเอาไว้ให้เป็นช่วงๆ สามารถเปิดระบายอากาศได้
คราวนี้เราเข้าไปดูในโซนแต่งตัวกันต่อ
ซึ่งทางโครงการได้เตรียม Walk – in Closet มาให้เราพร้อมเลยแบบนี้
โดยจะมีบานสไลด์กระจกเงาให้ 1 บาน
ลิ้นชักเก็บของภายในตู้เสื้อผ้าค่ะ
จากบริเวณ Walk – in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนลงไปเล็กน้อย
ทั้งพื้นและผนังปูด้วย มาร์เบิ้ล พอร์ซเลน ใช้สุขภัณฑ์จาก Inax ทั้งหมด ซึ่งเทียบเท่ากับแบรนด์ Toto ค่ะ
เริ่มจากอ่างล้างมือกันก่อน อ่างล้างมือเป็นแบบ His&Her ฝังเคาน์เตอร์ เตรียมเอาไว้ให้ 2 อ่าง ใช้ Top Acrylic Solid Surface ส่วนหน้าบานเป็นแบบ Soft Closed ปิดผิวด้วยลามิเนตและกระจกสีชาทองเก็บขอบด้วยอลูมิเนียม
ตัวอ่างมีขนาดกำลังดีค่ะ สามารถใช้งานได้สะดวก ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำล้างมือของ Grohe
ส่วนด้านหลังกระจกเงาก็เป็นชั้นเก็บของแบบนี้ค่ะ
ที่ฝั่งตรงข้ามกับอ่างล้างมือมีตู้ Built – in สามารถเก็บพวกผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดมือได้
โถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ได้เป็นแบบ Inax Spalet หรือแบบ Washlet นั่นเองค่ะ
มีแผงสำหรับควบคุมติดเอาไว้ให้ที่ด้านข้าง
พร้อมที่แขวนแกนกระดาษทิชชู่ของ Grohe
โซนอาบน้ำกั้นส่วนจากโซนแห้งด้วยฉากกั้นอาบน้ำ Tempered Glass
มือจับบานประตูขนาดใหญ่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวเพิ่มเติมได้
พื้นภายในโซนเปียกจะลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำส่วนแห้งอีกเล็กน้อยค่ะ
ภายในโซนเปียกทางโครงการเตรียมอ่างอาบน้ำและชุด Rain Shower ระบบ Thermostat เอาไว้ให้ ส่วนผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางสบู่
เทียบขนาดหัวฝักบัวให้ดูกับอุ้งมือค่ะ มีขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก
ส่วนอ่างอาบน้ำที่ได้เป็นอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวของ Bathroom Design ทรงรี
ติดตั้งมาพร้อมกับเซ็ทก๊อกน้ำและฝักบัวสายอ่อนแบบตั้งพื้น
ออกมาที่ Common Area ภาพมองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง
จากห้องนั่งเล่นจะมีโถงทางเดินที่เชื่อมกับ ห้องน้ำ, ห้องซักรีด, ระเบียง และห้องนอนเล็ก
ภายในโถงทางเดินค่ะ ฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำ, ตรงกลางคือห้องซักรีดทะลุออกระเบียง และฝั่งขวามือคือห้องนอนเล็ก
เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อน
วัสดุและสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะใช้เหมือนกับห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่ค่ะ แต่สเป็คของสุขภัณฑ์บางชิ้นจะปรับลดลงมาเล็กน้อย
อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังเคาน์เตอร์เหมือนเดิม สำหรับห้องนี้มีให้ 1 อ่าง
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นระบบ Single Flush
พร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน
โซนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เหมือนเดิม
พื้นที่ภายในถือว่ากว้างขวางใช้ได้เลย ไม่อึดอัดแล้วค่ะ
ภายในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนพร้อมราวปรับระดับมาให้ ส่วนผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางสบู่ให้เหมือนเดิม
ออกมาจากห้องน้ำเข้าไปดูภายในห้องซักรีดกันต่อ
บริเวณห้องซักรีดเป็นห้องขนาดเล็กๆ ฝั่งขวามือทางโครงการทำตู้ Built – in สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและเก็บของให้
ภายในตู้เก็บของค่ะ สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ 1 เครื่อง
และชั้นลอยสำหรับเก็บของอื่นๆ
จากห้องซักรีดจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้องได้ โดยมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกที่สามารถเลื่อนเปิด – ปิดได้แบบนี้
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นที่บริเวณระเบียงมีขนาดไม่กว้างขวางมาก แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับการตากและการซักผ้าอยู่ค่ะ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบกันลื่นได้เป็นอย่างดี
ส่วนด้านข้างของระเบียงมี Grill ทำเป็นบานประตูกั้นส่วน ใช้เป็นพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ได้
เรามาถึงห้องสุดท้ายกันแล้วค่ะ นั่นก็คือห้องนอนเล็กนั่นเอง
พอเข้าไปด้านในจะเจอโถงหน้าห้องก่อน ทางฝั่งซ้ายมือทางโครงการทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ แล้วในส่วนนี้ลูกบ้านจะต้องหาติดตั้งเองค่ะ
ภายในห้องวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตและโต๊ะข้าง 2 ตัวเอาไว้ให้ดูพื้นที่ใช้สอย
พอวางเตียงและโต๊ะข้างแล้วจะเห็นว่ายังเหลือพื้นที่สามารถเดินโดยรอบเตียงนอนได้อยู่ แต่ของภายในห้องควรจะมีน้อยๆ หน่อยนะ
พื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลืออยู่พอสมควรเช่นเดียวกันค่ะ สามารถเดินผ่านได้ ถ้าจะติดตั้งทีวีแนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังเอานะ
ส่วนผนังฝั่งด้านซ้ายมือจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ 1 บาน สามารถเปิดเพื่อช่วยระบายอากาศภายในห้องได้
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (กันยายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (กันยายน 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ AESTIQ Thonglor ตั้งอยู่บน ซ.สุขุมวิท 55 หรือ ซ.ทองหล่อ เป็นทำเลศักยภาพที่มีความคล่องตัวในการใช้ชีวิต เพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย เป็นแหล่งของการสังสรรค์และเข้าสังคมที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารหรูชิคๆ เก๋ๆ, สถานบันเทิงที่มีชื่อ และ Community Mall อีกทั้งยังเป็นทำเลทองของย่านธุรกิจ เพราะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมของพวก Office Building นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีคอนโดระดับ Luxury และ Residential Building อยู่อีกหลายเจ้า ที่ดินในย่านนี้จึงมีราคาสูงและก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ซ.ทองหล่อ เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่าง ถ.สุขุมวิท และ ถ.เพชรบุรี เดินทางได้สะดวกแต่รถค่อนข้างติด ภายในซอยก็ยังพอมีทางลัดเลาะ ใช้ลัดไปยัง ซ.เอกมัย และ ซ.เส้นปรีดี พนมยงค์ ได้ ถ้าต้องการเข้าเมืองทาง ถ.พระราม 4 ก็จะมี ซ.สุขุมวิท 36 และ 40 ฝั่งตรงข้าม ที่สามารถใช้เชื่อมไปออกพระราม 4 ได้ ส่วน ซ.สุขุมวิท 42 ก็สามารถใช้เชื่อมจาก ถ.พระราม 4 กลับเข้ามายัง ถ.สุขุมวิทได้ค่ะ
อีกทั้งตัวโครงการยังใกล้จุดขึ้นลงทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทั้งขาเข้าและออกเมืองอีกด้วย จะเห็นว่าจากโครงการนั้นสามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ทั้งจาก ถ.สุขุมวิทไปทางสยาม, ถ.เพชรบุรีไปทางพญาไท หรือ ถ.พระราม 4 ไปทางสาทร – สีลม ก็ได้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าถนนโดยรอบจะเป็นถนนที่รถติด แต่ทุกเส้นพอจะมีทางลัดเอาไว้ให้พอลัดเลาะเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรบางช่วงได้อยู่บ้างค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางด้วยรถสาธารณะก็นับว่าสะดวกมาก เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับ ซ.ทองหล่อ ซึ่งก็มีรถสาธารณะวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา เรียกรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก อีกทั้งทางโครงการยังมี Shuttle Service บริการรถ Bus ไปส่งถึง BTS สถานีทองหล่อ ห่างจากหน้าโครงการประมาณ 1.9 กม. ถ้านั่งรถไปจะใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเส้นทองหล่อ มา Interchange ที่ สถานีทองหล่ออีกด้วย ซึ่งสถานีแจ่มจันทร์จะเป็นสถานีที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็น High rise Condominium สูง 40 ชั้น ระดับ Ultimate Luxury มี 1 อาคาร จำนวนเพียง 203 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-3-88.9 ไร่ จากแนวคิด The Reflection of You ผนวกกับแนวคิดอาคาร Future Nature กับ 5 Keywords Fun, Future, Nature, Iconic และ Sustainable จึงออกแบบ Floor plan ให้เป็นแบบ Cluster เพื่อให้เกิดห้องมุมในสัดส่วนที่มากกว่าปกติ ได้มุมมองภายในห้องที่กว้างมากขึ้น และช่วยทำให้สามารถระบายอากาศภายในตัวอาคารได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ
การวางแปลนห้องสามารถทำได้อย่างลงตัว ใช้สอยได้สะดวก ได้เฟอร์นิเจอร์ Built – in มาหลายส่วนเพื่อการจัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ ให้มาแบบ Fully Fitted ภายในห้องฝ้าสูงถึง 3 เมตร มีการดรอปฝ้ามาให้เรียบร้อย พร้อมแอร์แบบ Conceal Type ทำให้ห้องดูเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น พื้นห้องปูด้วยไม้ Engineering Wood สีคลาสิคโอ็ค สำหรับ Common Area และห้องนอน, พื้นปูด้วยมาร์เบิ้ล พอร์ซเลน สำหรับห้องครัว ห้องน้ำ พร้อมอุปกรณ์ครัวซีรี่ส์ใหม่จาก Gorenje แบบครบชุด ได้ในทั้งเรื่องคุณภาพและความสวยงาม โดยรวมแล้วห้องถือว่าลงตัวมากๆ ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ที่นี่ให้ Facilities มาเยอะทีเดียวนะ เทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการแล้วถือว่าดีมาก หลักๆ เลยจะเป็นแบบ Private ต้องทำการ Booking ก่อนการเข้าใช้เพื่อความเป็นส่วนตัว แม้กระทั่งลิฟต์ก็ยังได้เป็นแบบ Private Lift สร้างความเป็นส่วนตัวให้แก่ลูกบ้านมากที่สุด
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีบริการ Concierge Service, Valet Parking&Doorman Service, Luxury Car Service ระบบไฟฟ้า 100%, Shuttle Service, EV Charging Station ให้ที่จอดรถมากเกิน 100% เป็นระบบ Automated Parking และ Conventional Parking และระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ใช้ Key Card ในการเข้า – ออกตัวอาคาร รวมถึงส่วน Private ต่างๆ ควบคู่กับ รปภ.ตลอด 24 ชม. และ CCTV System ค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 1232
WEBSITE : https://www.aestiq.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น