รีวิว คอนโด อาร์ท แอท ทองหล่อ 25 Art @ Thonglor
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ทีมงาน Condonayoo มีคอนโดใจกลางทองหล่อมาฝากกันค่ะ กับโครงการ Art @ ทองหล่อ จาก A.K. Property ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
เดินทางสะดวกใกล้ถนนใหญ่ มีทางลัดเลี่ยงรถติดหลายเส้นทาง สามารถขึ้นทางด่วนได้หลายจุด ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 5 นาที และซอยทะลุสุขุมวิท 49 ไป Emquatier – Emporium ใช้เวลาแค่ 6 นาที มีรถรับ – ส่งจากโครงการ ไม่ไกลจาก Airport Link สถานีรามคำแหง และ MRT สถานีเพชรบุรี อีกด้วยค่ะ
เป็นทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวในศูนย์รวมไลฟ์สไตล์แบบไฮเอนด์ รองรับทุกความต้องการ อาทิ Maze ทองหล่อ, Market Place ทองหล่อ, Rain Hill, Park Lane เอกมัย, J – Avenue, Penny’s Balcony, The Commons, Donki Mall, Seen Space, รร.นานาชาติ Bangkok Prep, รร.นานาชาติเอกมัย, รพ.คามิลเลี่ยน และ รพ.สมิติเวช เป็นต้น
อาร์ท แอท ทองหล่อ 25 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ในสไตล์ Modern Oriental บนพื้นที่โครงการขนาด 0 – 3 – 63 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 102 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom แบบ Maximizing Space ขนาดเริ่มต้น 36.55 – 72.04 ตร.ม. ตกแต่งครบแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ออกแบบภายใต้แนวคิด Energy Efficiency Design ออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอยให้เปิดรับลมและแสงสว่างจากธรรมชาติด้วย Skylight รับแสงธรรมชาติกลางอาคาร โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2559
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, Library, 2nd FL. Private Garden with Skylight, Fitness Room, Swimming Pool, Rooftop Garden, ลิฟต์โดยสาร, ที่จอดรถ 55% ไม่รวมซ้อนคัน, ระบบ Key Card Access, กล้อง CCTV และ รปภ.24 ชม. ราคาเฉลี่ย 148,000 บาท/ตร.ม. (ต.ค. 63)
ชื่อโครงการ | อาร์ท แอท ทองหล่อ 25 Art @ Thonglor |
เจ้าของโครงการ | เอ.เค. พร็อพเพอร์ตี้ A.K. Property |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3 งาน 63.00 ตร.ว. |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 102 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 55% ไม่รวมซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว |
โซน | ทองหล่อ |
การคมนาคม |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยทองหล่อ 25 ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2559 |
ราคา | n/a |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 148,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Art @ Thonglor 25 คอนโดมิเนียมสู่ชีวิตความสะดวกสบายเหนือระดับ ตอบสนองทุกการพักผ่อนไร้ขีดจํากัด สัมผัสความสะดวกสบายในการพักผ่อนอย่างไร้ขีดจํากัด ด้วยการออกแบบภายในที่จัดสรรทุกฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัวกับทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ มาพร้อมดีไซน์ที่โปร่งโล่ง ภายใต้แนวคิด Maximizing Space เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสําหรับเป็นมุมพักผ่อน มุมทํางาน หรือมุมส่วนตัวของคุณตามต้องการสัมผัสกับความหรูหราในทุกรายละเอียดการตกแต่งสไตล์ Modern Oriental ที่จะทําให้คุณสัมผัสถึงประสบการณ์ การพักผ่อนที่หรูหราเหนือระดับอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยทองหล่อ 25 ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.740118, 100.580938
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Art @ ทองหล่อ ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 ซอยนี้จะค่อนไปทางเส้นเพชรบุรี ใกล้ ๆ สะพานข้ามคลองค่ะ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือมีความเป็นส่วนตัว ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยแบบชุมชนเพราะโครงการตั้งอยู่ในซอย แต่ก็ยังนับว่าโครงการตั้งอยู่ในทำเลของคนเมือง เป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือระบบขนส่งสาธารณะ มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตสูง และขึ้นชื่อว่าเป็นย่านของไลฟ์สไตล์ที่หรูหราทันสมัยตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร, คาเฟ่, สถานบันเทิง และ คอมมูนิตี้มอลล์ แล้ว ก็ยังเป็นศูนย์รวมของ Office Building ถือเป็นทำเลทองของย่านธุรกิจอีกด้วย
จึงไม่แปลกใจเลยว่าราคาที่ดินในซอยทองหล่อนั้นสูบลิบเป็นอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ส่วนมากจึงมีแต่ Residential Building ระดับ Luxury ขึ้นไป ไม่ใช่เพียงเพราะปัจจัยของราคาที่ดินเท่านั้น แต่เป็นการตอบสนองความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่เหนือชั้นกว่าของกลุ่มคนที่เข้ามาใช้ชีวิตในย่านนี้ด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ ซอยทองหล่อ เป็นเส้นที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสายหลักคือ ถนนสุขุมวิท และ ถนนเพชรบุรี จึงเป็นซอยที่มีการจราจรหนาแน่นอยู่พอสมควร แต่ก็ยังมีซอยพี่น้องที่อยู่คู่ขนานกันอย่าง ซอยเอกมัย และซอยปรีดี พนมยงค์ เป็นตัวช่วยในการระบายรถระหว่างถนนสองเส้นหลักนี้ ซึ่งทั้งซอยทองหล่อ, ซอยเอกมัย และ ซอยปรีดี พนมยงค์ นั้นต่างก็มีทางลัดเลาะเชื่อมถึงกันได้ ทั้งซอยแจ่มจันทร์, ซอยธารารมณ์ 2, ซอยทองหล่อ 10 เป็นซอยเชื่อมจากทองหล่อไปยังเอกมัย ส่วนซอยเอกมัย 28, ซอยเอกมัย 22 และซอยเอกมัย 12 เป็นซอยเชื่อมจากเอกมัยไปยังปรีดี พนมยงค์
และยังมีทางลัดที่สามารถใช้เลี่ยงรถติดตรงปากซอยเอกมัยได้ นั่นก็คือ ซอยเอกมัย 10 หรือตรง Heath Land จะสามารถใช้วิ่งลัดเลาะมาออกที่บริเวณ ซอยสุขุมวิท 65 ได้ นอกจากนี้ภายในซอยทองหล่อ 25 เองก็สามารถลัดไปเข้าซอยพร้อมพรรค ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 49, 43, 39, 31 และ 23 เพื่อออกถนนสุขุมวิทได้อีกทางด้วย และจากถนนสุขุมวิทเองก็จะมีซอยสุขุมวิท 40 และ 42 เป็นทางลัดที่สามารถใช้เชื่อมต่อกับถนนพระราม 4 ไปทางสาทรได้ หรือในช่วงเวลาที่รถไม่ติดมาก เราก็สามารถใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งตรง ๆ ไปเชื่อมกับถนนวิทยุและถนนราชดำริได้สะดวกเลยค่ะ
ทางด่วน โครงการนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษศรีรัชหลายจุดเลยค่ะ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของการจราจรในแต่ละช่วง ออกไปทางรามอินทรา – วัชรพล หรือไปทางปากเกร็ด บางนา ชลบุรี ก็ได้
อีกจุดขึ้นทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลก็คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ใช้ออกเมืองไปทางพระราม 2 จาก ถนนสุขุมวิทไป ถนนพระราม 4 ผ่าน ซอยสุขุมวิท 40 และจาก ถนนพระราม 4 วิ่งผ่าน ถนนกล้วยน้ำไทเข้า ถนนอาจณรงค์เพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยจึงไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่าน แต่ก็สามารถเรียกใช้รถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ยาก โดยสามารถเรียกผ่าน Line Taxi หรือ Grab Taxi ควบคู่กันไปได้ค่ะ
ในส่วนของรถไฟฟ้า BTS สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีทองหล่อ ห่างจากหน้าโครงการประมาณ 2.2 กม. ถ้านั่งรถไปจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น นั่งถัดไปสถานีเดียวก็ถึง สถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ The EmDistrict และถ้าเรานั่งไปถึง สถานีอโศก จะเป็นสถานี Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิท ในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา วิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเส้นทองหล่อ มา Interchange ที่ สถานีทองหล่อ อีกด้วย จากตัวโครงการไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ สถานีแจ่มจันทร์ จะสะดวกมากขึ้นเยอะเลยค่ะ
จากบริเวณโครงการมาถึงทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ ทางออกที่ใกล้ที่สุดคือทางออกที่ 3 และ 4 ถ้าเราจะไป Gateway เอกมัยก็ให้นั่งไป 1 สถานีลงที่สถานีเอกมัยและออกที่ทางออก 4 ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ซอยทองหล่อนั้นเป็นย่านของ Lifestyle คนเมืองที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีห้าง ร้านค้า และร้านอาหารเปิดให้บริการตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน
ที่ใกล้ ๆ กับตัวโครงการก็จะมี The Commons เป็น Community Mall ภายในมี 4 โซน ได้แก่ Market Village Play Yard และ Top Yard, J Avenue เป็นศูนย์ไลฟ์สไตล์แห่งแรกในประเทศไทย มีซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร คลินิกความงาม Trendy Café และร้านอาหารนานาชาติชั้นนำมากมายให้เลือก Penny’s Balcony, Tops Market ทองหล่อ, Seen Space, Maze ทองหล่อ, แหล่งร้านอาหารญี่ปุ่น Nihonmura Mall ในซอยแจ่มจันทร์ก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน และในซอยทองหล่อ 10 หรือซอยเอกมัย 5 ก็มี Pub & Restaurant หลายร้าน และมี Donki Mall เป็นห้างขายสินค้าลดราคายอดฮิตจากประเทศญี่ปุ่น
จากซอยทองหล่อเชื่อมต่อไปยังซอยเอกมัยก็มี Hypermarket Big C เอกมัย กับ Index Living Mall สามารถซื้อของและอาหารสดทั่วๆ ไปเข้าบ้านได้ ที่ฝั่งตรงข้ามกับ Big C ก็มี Park Lane เป็น Life Style Mall อีก 1 แห่ง จาก BTS ทองหล่อถัดไปอีกเพียงสถานีเดียวก็คือย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็น The EmDistrict ที่รวมห้างสรรพสินค้าระดับ Hi – end ประกอบด้วย Emquatier และ Emporium ซึ่งในอนาคตก็จะมี Emsphere อยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริอีกด้วยค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถ.เพชรบุรี > ซ.สุุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) > ซ.ทองหล่อ 25> Art @ ทองหล่อ
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนเพชรบุรี โดยทางฝั่งซ้ายมือนี้จะเป็นซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัย
ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกไฟแดงให้เราชิดซ้ายเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ โดยที่ด้านหน้าเราจะเห็นป้ายทางเข้า รพ.กรุงเทพ
พอเราขับรถเข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 55 สักครู่เดียวเราจะเห็น รพ.คามิลเลียน อยู่ทางฝั่งขวามือ ให้เราชิดขวาเลยค่ะ
เลยจาก รพ.คามิลเลียน มาเล็กน้อย เราจะเห็นทางเข้าซอยทองหล่อ 25 ให้เราเลี้ยวขวา
จากซอยสุขุมวิท 55 ตรงเข้ามาภายในซอยทองหล่อ 25 เลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายประมาณ 450 เมตรก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ
ตรงเข้ามาภายในซอยทองหล่อ 25 จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางค่ะ
แล้วให้เราเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่ง
บรรยากาศภายในซอยทองหล่อ 25 ดูเงียบสงบและเป็นส่วนตัวดีค่ะ ส่วนใหญ่มีแต่บ้านพักอาศัยส่วนตัวทั้งนั้นเลย
จากปากซอยตรงเข้ามาเพียง 450 เมตรเท่านั้น เราก็จะถึงโครงการ Art @ ทองหล่อ แล้วค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
โครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 ซึ่งบริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่บ้านพักอาศัยของคนในละแวกนั้น รวมถึง คอนโดมิเนียม และอะพาร์ตเมนต์ บรรยากาศในซอยนี้จึงมีลักษณะคล้าย ๆ กับการอยู่อาศัยในชุมชน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดกับเส้นทองหล่อโดยตรงมากค่ะ
เรามาเดินดูบริบทโดยรอบโครงการด้วยกันเลยค่ะ เริ่มจากที่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็น Minimart และร้านอาหารญี่ปุ่น
หน้าโครงการมีทางเท้าเดินได้สะดวก เดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปดูด้านในซอยทองหล่อ 25 กันก่อนค่ะ
ติดกับโครงการจะเป็นโรงแรมสูง 8 ชั้น
ถัดมาเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของคนในพื้นที่ สังเกตว่าซอยนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะทั้งซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งนั้น ส่วนคอนโดมิเนียมก็เป็นคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัยไม่สูงนัก คนจึงไม่พลุกพล่านค่ะ
ตรงเข้าไปด้านในจะเป็นทางสามแยก
ถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายมือจะเป็นซอยพร้อมพรรค มีทางลัดสามารถไปทะลุซอยสุขุมวิท 49 เข้า รพ.สมิติเวช ได้ แต่ถ้าเลี้ยวไปทางขวามือจะเป็นซอยตันค่ะ
เราทะลุมาที่ซอยสุขุมวิท 49 ก็จะมี The 49 Terrace เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลัก ๆ ในซอยนี้
ฝั่งตรงข้ามกับ The 49 Terrace จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ Piman 49 ค่ะ
ไม่ไกลจาก The 49 Terrace และ Piman 49 ก็มี Villa Market ด้วยค่ะ สามารถมาซื้อหาของใช้และอาหารสดได้ที่นี่ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของ Villa Market เองก็จะมีร้านขายอาหารอยู่อีก 2 – 3 ร้านด้วยกัน ทั้งอาหารอีสาน, อาหารใต้ รวมถึงร้านขายผัดกระเพรา อาหารสิ้นคิดประจำชาติเราเอง
รพ.สมิติเวชก็อยู่ไม่ไกล เจ็บป่วยเป็นอะไรก็มาง่ายไม่ต้องกังวล รพ.จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยทองหล่อ 13 ภายในมีทั้ง Nihonmura Mall และ SeenSpace สามารถทะลุออกเส้นทองหล่อได้อีกทาง
เรากลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เดี๋ยวเราจะเดินออกไปทางซอยทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 กันต่อ
ติดกับโครงการเป็นซอยแสงทองค่ะ ภายในซอยก็จะเป็นลักษณะของบ้านพักอาศัยเช่นกัน
โดยรอบโครงการมีแต่บ้านพักอาศัยส่วนตัวขนาดใหญ่ทั้งนั้น จะเรียกว่าเป็นทำเลแห่งสังคมคุณภาพก็ได้ค่ะ
เราตรงออกไปเลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายก็จะออกซอยทองหล่อแล้ว เดินจากโครงการไปเพียง 450 เมตรเท่านั้น
ถ้าเราออกมาที่หน้าปากซอยทองหล่อ 25 ก็ถึงรพ.คามิลเลียนแล้วค่ะ ด้านหน้าโรงพยาบาลมีทางม้าลายให้ข้ามได้อย่างปลอดภัย
ไม่ไกลกันบนเส้นทองหล่อก็มีร้าน Hang out ยอดนิยม Bottoms Up
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็จะมีพวกร้านข้าวแกงราคาย่อมเยาเอาใจคนอยากประหยัดกันบ้าง
เดินมุ่งหน้าต่อไปทางเส้นสุขุมวิทจะเจอร้าน 72 Courtyard
ซึ่งติด ๆ กันเลยก็คือร้านดังอย่าง Mellow และ Penny’s Balcony
ฝั่งตรงข้ามกับ Penny’s Balcony ก็คือ J Avenue นั่นเองค่ะ
ถ้าเราเข้าไปภายในซอยทองหล่อ 10 ก็ยังมีร้านอาหารน่านั่งอยู่หลายร้าน และมีห้างใหม่อย่าง Donki ขายของญี่ปุ่นลดราคาสุดฮิตอีกด้วย
และถ้าเราทะลุออกมาที่ซอยสุขุมวิท 39 ตรงนั้นก็จะมี EmQuatier เป็นห้างหรูขนาดใหญ่ ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยว
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับ EmQuatier ก็คือ Emporium ค่ะ ในอนาคตก็จะมี Emsphere ขึ้นด้วยกลายเป็น The EmDistrict เต็มตัว
:::: ตัวโครงการ ::::
Art @ ทองหล่อ เป็น Low Rise Condominium 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 3 งาน 63 ตร.ว. เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตพักอาศัยเพียง 102 ยูนิต ภายใต้แนวคิด Energy Efficiency Design ออกแบบให้ทุกพื้นที่ใช้สอยเปิดรับลมและแสงสว่างจากธรรมชาติด้วย Skylight กลางอาคาร ที่ช่วยในเรื่องของความโปร่งโล่งและการประหยัดพลังงานได้ดี
ภาพรวมของโครงการจะมีส่วนกลางหลัก ๆ อยู่ที่ชั้น 1 และชั้นดาดฟ้า ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 1 – 8 เป็นห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาด 36.55 – 72.04 ตร.ม.
เรามาดูแปลนอาคารกันค่ะ ชั้น 1 เริ่มจากที่ทางเข้า – ออกโครงการจะมี ป้อม รปภ. และกล้อง CCTV คอยตรวจสอบความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และมีรั้วเหล็กกั้นปิดโครงการในเวลากลางคืน พอเข้ามาด้านในโครงการจะเป็นส่วนของลานจอดรถใต้อาคาร ซึ่งจะมีทางลาดวนลงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน รวมแล้วมีที่จอดรถทั้งหมด 55% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
บริเวณด้านหน้าเป็นทางเข้าสู่ Lobby ภายใน Lobby จะเชื่อมต่อกับส่วนพักคอยโซน Outdoor, ห้องสมุด, ห้องน้ำ และโถงลิฟต์ ภายในโถงลิฟต์นั้นจะมีทางเชื่อมสู่ห้องพักอาศัยชั้น 1 ที่ถูกกั้นส่วนออกไปด้วยประตู Key Card มี Mail Box ด้านข้าง และมีลิฟต์โดยสารอยู่ 2 ตัว โดยชั้นนี้จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 6 ห้องด้วยกัน
ชั้น 2 เป็นชั้นของห้องพักอาศัยทั้งชั้น มีทั้งหมดเพียง 14 ห้อง/ชั้น และยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจมาก ๆ นั่นก็คือ การทำ Skylight กลางอาคารบริเวณชั้น 2 ให้เปิดโล่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุด เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในโถงทางเดินแต่ละชั้น ที่ถูกออกแบบให้เป็น Single Corridor โอมล้อม Private Garden สวนกลางอาคารเอาไว้ นอกจากจะช่วยในเรื่องของความสว่างและโปร่งโล่งแล้ว ยังทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น และยังได้บรรยากาศเหมือนการอยู่ในโรงแรมอีกด้วย
ชั้น 3 – 7 มีการวางแปลนเหมือนแปลนชั้น 2 ค่ะ แต่ส่วนที่พื้นที่สวนกลางอาคารจะถูกเปิดโล่งทั้งหมดเลย
ชั้น 8 ห้อง 2 Bedroom ฝั่งทิศเหนือ 2 ห้องจะกลายเป็นพื้นที่ส่วนงานระบบสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า ทำให้ชั้นนี้มีห้องพักอาศัย 12 ห้องค่ะ
ชั้นดาดฟ้า เป็นส่วนของ Main Facilities ประกอบด้วย Fitness Room, Swimming Pool ขนาด 6 × 12 เมตร และสวนพักผ่อนสไตล์ Modern Oriental
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
เราเข้าไปดูบรรยากาศภายในโครงการด้วยกันเลยค่ะ เริ่มจากที่ทางเข้า – ออกโครงการจะมี ป้อม รปภ. และกล้อง CCTV คอยตรวจสอบความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และมีรั้วเหล็กกั้นปิดโครงการในเวลากลางคืน
พอเข้ามาด้านในโครงการจะเป็นส่วนของลานจอดรถใต้อาคาร ซึ่งจะมีทางลาดวนลงไปที่ชั้นใต้ดิน รวมแล้วมีที่จอดรถทั้งหมด 55% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ภาพบรรยากาศส่วนลานจอดรถใต้ดิน
กลับขึ้นมาที่บริเวณลานจอดรถใต้อาคารชั้น 1 บริเวณด้านหน้าเป็นทางเข้าสู่ Lobby ซึ่งตรงนี้เราต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูเข้าไปค่ะ
ภายใน Lobby ถูกตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์ Modern Oriental ด้วยหินธรรมชาติ ได้ถึงกลิ่นอายแบบตะวันออก ภายในจะมี Reception Counter มีชุดโซฟาสำหรับนั่งพักคอย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่พักคอยโซน Outdoor ได้ด้วย นอกจากนี้ก็จะมีห้องน้ำและห้องสมุดอยู่ทางฝั่งหลัง Reception Counter ค่ะ
ภาพบรรยากาศส่วนพักคอยโซน Outdoor
ภาพบรรยากาศภายในห้องสมุดที่ลูกบ้านสามารถนำหนังสือมานั่งอ่านหรือนำ Notebook มานั่งทำงานได้
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยหินธรรมชาติ
และจาก Lobby ก็จะเชื่อมต่อกับโถงลิฟต์ ตรงนี้ลูกบ้านก็จะต้องใช้ Key Card เพื่อเปิดประตูอีกเช่นกัน
ภาพบรรยากาศภายในโถงลิฟต์ มีการตกแต่งล้อมาจากส่วน Lobby โดยจากโถงลิฟต์จะมีทางเชื่อมสู่โซนห้องพักอาศัยชั้น 1 มี Mail Box ด้านข้าง และมีลิฟต์โดยสารอยู่ 2 ตัว
โซนห้องพักอาศัยชั้น 1 ถูกกั้นส่วนออกไปด้วยประตู Key Card เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในชั้นนี้
ภาพบรรยากาศส่วน Mail Box ของลูกบ้านทั้งหมด 102 ยูนิต
ภาพบรรยากาศภายในลิฟต์ ทางโครงการเลือกใช้ลิฟต์ระบบล็อกชั้นของ Hitachi สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 750 กก. หรือ 11 คน/เที่ยว
โครงการยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจมาก ๆ นั่นก็คือ การทำ Skylight รับแสงธรรมชาติ โดยออกแบบเป็นพื้นที่ Private Garden กลางอาคารบริเวณชั้น 2 ให้เปิดโล่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเป็น Skylight เพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในโถงทางเดินแต่ละชั้น ที่ถูกออกแบบให้เป็น Single Corridor โอมล้อม Private Garden ตรงกลางเอาไว้ นอกจากจะช่วยในเรื่องของความสว่างและโปร่งโล่งแล้ว ยังทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น และยังได้บรรยากาศเหมือนการอยู่ในโรงแรมอีกด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศบริเวณ Private Garden กลางอาคาร ถูกออกแบบให้เปิดโล่งตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปถึงชั้นบนสุด โดยรับแสงธรรมชาติผ่าน Skylight
เราขึ้นมาบนโถงลิฟต์ของชั้นพักอาศัยกันค่ะ สังเกตว่าภายในโถงก็ได้รับแสงผ่านทาง Skylight ด้วย
ภาพบรรยากาศภายในโถงทางเดิน ถูกออกแบบให้เป็น Single Corridor จะไม่มีประตูห้องไหนหันหน้าชนกันทำให้ได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินมองออกไปที่ Private Garden พร้อมช่องรับแสงกลางอาคารจากธรรมชาติ Skylight ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงแรม และเวลาหลังเวลาเลิกงานทางโครงการก็จะเปิดน้ำตกด้วยค่ะ ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน คือโซน Indoor และโซน Outdoor
เรามาเริ่มจากโซน Indoor กันก่อน จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนสค่ะ การเข้าห้องฟิตเนสก็จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดประตูอีกเช่นกัน
ตรงนี้จะมีห้องน้ำแยกฝั่งชาย – หญิงเอาไว้ให้อยู่บริเวณด้านข้างฝั่งซ้าย – ขวาของห้อง
ภายในห้องฟิตเนสถูกล้อมรอบด้วยผนังกระจกถึง 3 ด้าน ทำห้องโปร่งโล่งสามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และยังสามารถชมวิวสวนจากโซน Outdoor ได้ด้วย โดยทางโครงการได้จัดอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายมาให้อย่างครบครันทั้งแบบ Cardio และ Weight Training
ในโซน Weight Training จะติดตั้งกระจกเงาสำหรับเช็กท่าทางในการออกกำลังกายมาให้ด้วยค่ะ
เราออกไปดูโซน Outdoor กันต่อค่ะ จะสามารถเข้า – ออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง
โซน Outdoor เป็นส่วนของสวนพักผ่อนและสระว่ายน้ำ ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบ Landscape อย่างสวยงาม โดยเลือกใช้พันธุ์ไม้ที่ให้กลิ่นอายแบบโซนตะวันออก มีการจัดมุมสำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวให้หลายมุม
ภาพบรรยากาศมุมนั่งพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ ในสวน ลูกบ้านสามารถขึ้นมานั่งพักผ่อนรับลมชมวิวได้สบาย ๆ
ส่วนสระว่ายน้ำจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือผสมคลอรีน แบบระบบน้ำล้น มีขนาดใหญ่ 6 x 12 เมตร โดยจะมีการแบ่งพื้นที่สระฝั่งหนึ่งให้เป็นสระเด็กด้วยค่ะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องภายในโครงการออกแบบด้วยแนวคิด Maximizing Space เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสําหรับเป็นมุมพักผ่อน มุมทํางาน หรือมุมส่วนตัวตามความต้องการ ตกแต่งสไตล์ Modern Oriental แบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้ดังนี้ค่ะ คือ
2 Bedroom Type A – 1 ขนาด 69 ตร.ม.
2 Bedroom Type B – 1 ขนาด 56 ตร.ม.
1 Bedroom Type C1 – 1 ขนาด 40 ตร.ม.
1 Bedroom Type D – 1 ขนาด 36.55 ตร.ม.
1 Bedroom Type E – 1 ขนาด 43.5 ตร.ม.
2 Bedroom Type F – 1 ขนาด 72.04 ตร.ม.
2 Bedroom Type G ขนาด 66.5 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ห้องตัวอย่างที่เราพามาชมในวันนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 43.5 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 72.05 ตร.ม. ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
::: 1 Bedroom ขนาด 43.5 ตร.ม. :::
ห้อง 1 Bedroom Type E ขนาด 43.5 ตร.ม. ถือว่าเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับคนได้ 2 คนแบบสบายพอตัว ภายในห้องถูกวางแปลนแบบ Open Plan เชื่อมต่อห้องครัว, ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ให้อยู่ในพื้นที่โถงขนาดใหญ่โถงเดียวกัน โดยห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง สำหรับห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบ Double Access สามารถเข้า – ออกได้ทั้งทางฝั่งห้องโถงใหญ่และทางฝั่งห้องนอนเพื่อความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ใช้ประตูบานสำเร็จรูปลายไม้ ติดมือจับประตู Digital Door Lock ของ Samsung มีตาแมวติดเอาไว้ให้ตรงกลางบานเพื่อความปลอดภัย และที่ด้านหลังบานก็มี Door Stopper ติดมาให้ช่วยกันประตูกระแทกผนังค่ะ
พอเข้ามาภายในห้องเราจะเจอห้องโถงขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างห้องครัวเข้าไปจนถึงห้องนั่งเล่น สำหรับห้องของโครงการนี้จะขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ ในห้องจะตกแต่งเหมือนห้องตัวอย่างทุกประการ ยกเว้นของตกแต่งกระจุกกระจิกจะไม่ได้ให้มาด้วยนะคะ
ในห้องมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีพื้น พื้นส่วนห้องครัวปูกระเบื้องแกรนิโตขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นและพื้นห้องนอนจะปูด้วย Engineering Wood ค่ะ
มาดูที่ห้องครัวกันก่อน เราจะได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L มาแบบนี้เลย จะเห็นว่าที่ใต้เคาน์เตอร์และบนตู้ลอยมีพื้นที่สำหรับเก็บของให้เยอะมาก ตรงนี้ก็มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟและวางตู้เย็นด้วยค่ะ สำหรับบานเปิดตู้และลิ้นชักทั้งหมดจะเป็นแบบ Soft Close ปิดผิวหน้าบานด้วยลามิเนต
เราเปิดตู้และลิ้นชักให้ดูพื้นที่เก็บของค่ะ เป็นขนาดเคาน์เตอร์ครัวที่สามารถใช้งานได้จริงไม่แพ้ครัวในบ้านเลย
ส่วน Top เคาน์เตอร์ใช้หินอ่อนลาย Emperador ติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ของ Teka และที่ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์จะกรุด้วยกระเบื้องมาให้ ทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดพวกคราบอาหารได้ง่ายค่ะ
อ่างล้างจานขนาดกำลังดีใช้งานได้สะดวก
เตาเซรามิกขนาด 2 หัว
เครื่องดูดควันของ Teka
ที่ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำจะเป็นแบบ Double Access สามารถเข้า – ออกได้จากห้องโถงและจากภายในห้องนอน ทำให้การใช้งานมีความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายค่ะ ภายในห้องน้ำตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายพิเศษและหินอ่อนลาย Emperador สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด และติดพัดลมดูดอากาศมาให้ที่ฝ้าเพดาน
เรามาดูอ่างล้างมือกันก่อนค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างฝังครึ่งเคาน์เตอร์ ใช้ Top หินอ่อนลาย Emperador ใต้เคาน์เตอร์มีตู้สามารถเก็บของได้
และที่ด้านหลังกระจกเงาก็มีชั้นให้วางของได้เช่นกัน
ถัดมาด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวระบบ Dual Flush พร้อมที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระ
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยบานเปลือยมาให้บนธรณีสำหรับกันน้ำไหลย้อน
ภายในก่อม้านั่งหินสำหรับนั่งอาบน้ำได้ ที่ผนังติดตั้งชุด Rain Shower พร้อม Hand Shower ระบบน้ำร้อน – น้ำเย็น และยังมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวติดมาให้ตามนี้ค่ะ
ภาพจากโซนอาบน้ำมองย้อนออกไปจะเห็นประตูทางฝั่งซ้ายคือประตูจากฝั่งห้องครัว (ห้องโถง) ส่วนประตูข้างหน้าคือประตูจากฝั่งห้องนอน
เรากลับออกมาที่ห้องโถง ติดกับห้องครัวจะเป็นส่วนรับประทานอาหารค่ะ
เราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารหน้าตาแบบนี้ เป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้บุผ้า และที่นั่ง Built – in พร้อมเบาะรองนั่งด้านใน
ถัดมาเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ ตรงนี้เราจะได้ชุดโซฟาบุผ้าขนาด 2 – 3 ที่นั่ง ได้โต๊ะข้าง โต๊ะกาแฟ และได้ชั้นวางทีวี Built – in มาแบบนี้ โดยห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้เราได้ช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นประตูบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงค่ะ
หน้าตาของโซฟา โต๊ะข้าง และโต๊ะกาแฟที่ได้
หน้าตาของชั้นวางทีวี Built – in ที่ได้ ปิดผิวด้วยลามิเนต ใช้โทนสีเดียวกันทั้งห้อง
พื้นที่ระเบียงก็มีขนาดใหญ่ดีทีเดียว พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดราวกันตกระแนงเหล็กสีดำ
ส่วนนี้ทางโครงการจะติดประตูระแนงอะลูมิเนียม ช่วยบังสายตาส่วนที่ใช้วางเครื่องซักผ้าและแขวน Compressor เพื่อความเรียบร้อยและความสวยงามอีกด้วยค่ะ
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เราเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ
พอเราเข้ามาภายในห้องแล้ว จะเห็นว่าทางโครงการให้สัดส่วนของพื้นที่ห้องนอนที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว พอวางเฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้นแล้วก็ยังเหลือระยะใช้สอยแบบสบาย ๆ
จะเห็นว่าในห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน
ภายในห้องเราจะได้ฐานเตียงขนาด King Size พร้อมโต๊ะข้างทั้ง 2 ฝั่ง
ได้ชั้นวางทีวีปลายเตียง พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือและเก้าอี้นั่งอีก 2 ชุด
และยังได้โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า Built – in แบบบานเปิดขนาดใหญ่มาด้วยอีกอย่างละชุด ส่วนที่ด้านข้างตู้เสื้อผ้าตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ชุดโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาและม้านั่งสำหรับแต่งตัว
ตู้เสื้อผ้า Built – in แบบบานเปิดขนาดใหญ่ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าให้ 2 ระดับ มีลิ้นชักสำหรับเก็บของ และมีชั้นสำหรับเก็บของข้างบน
ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องทั้งหมดจะใช้ของ Panasonic ค่ะ
::: 2 Bedroom ขนาด 72.04 ตร.ม. :::
ห้อง 2 Bedroom Type F – 1 ขนาด 720.4 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ สามารถรองรับคนได้ 3 – 4 คนแบบสบาย ๆ ภายในห้องถูกวางแปลนแบบ Open Plan เชื่อมต่อห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ให้อยู่ในพื้นที่โถงขนาดใหญ่โถงเดียวกัน โดยห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง และจากห้องโถงใหญ่จะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยัง ห้องน้ำ, ห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็กค่ะ
ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราอยากพามาชมก็คือห้อง 2 Bedroom ขนาด 72.04 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ พอเข้ามาในห้องเราสามารถเห็นได้เลยว่า พื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมาก โดยจะเป็นห้องโถงที่เชื่อมต่อระหว่าง ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น เอาไว้ในพื้นที่เดียวกัน
การตกแต่งห้องก็จะไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom คือเราจะได้เฟอร์นิเจอร์มาครบทุกอย่างตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง ยกเว้นพวก Prop ที่ใช้ตกแต่งนะคะ
ส่วนแรกจะเป็นห้องครัว เราจะได้ Built – in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U มาแบบนี้เลย มีตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บของได้เยอะมาก Top เคาน์เตอร์ใช้หินอ่อนลาย Emperador ติดตั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ของ Teka มาให้เหมือนเดิมค่ะ
เราเปิดตู้และลิ้นชักทั้งหมดให้ดูค่ะ จะเห็นเลยว่าทางโครงการให้พื้นที่เยอะมากจริง ๆ
อ่างล้างจานในห้องนี้จะได้ขนาด 2 หลุม ได้เตาเซรามิก 2 หัว และ Hood ดูดควันของ Teka
ถัดมาเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร ตรงนี้เราจะได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง เราจะต่อเก้าอี้เพิ่มส่วนหัวโต๊ะ – ท้ายโต๊ะรองรับในวันที่มีแขกคนสนิทมาร่วมทานอาหารด้วยก็ยังรองรับได้
และที่ผนังด้านหลังก็จะมีตู้ Built – in ขนาดใหญ่ สามารถใช้เก็บพวกกระเป๋าเดินทางหรือของชิ้นใหญ่ ๆ ได้เลยค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในติดกับระเบียงห้องเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ตรงนี้เราก็จะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะข้าง โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาเหมือนเดิม
ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่ระเบียงด้านนอก
ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
จากห้องโถงใหญ่จะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินไปยังห้องน้ำ (ฝั่งซ้าย) ห้องนอนใหญ่ (กลางโถง) และห้องนอนเล็ก (ฝั่งขวา) เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันก่อนค่ะ
ห้องน้ำมีการตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายพิเศษและหินอ่อนลาย Emperador ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด ภายในห้องเราจะได้อ่างล้างมือฝังครึ่งเคาน์เตอร์ ด้านหลังกระเงามีชั้นวางของให้ มีโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้ และที่ผนังก็ติดตั้งชุด Rain Shower และ Hand Shower แบบนี้
สำหรับห้องนอนเล็กเองก็มีขนาดพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพ เราจะได้ฐานเตียงนอนขนาด Queen Size โต๊ะข้าง ชั้นวางทีวีปลายเตียงพร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ และตู้เสื้อผ้าติดกระเงาขนาดเต็มตัวมาให้ โดยที่ห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาด้วยเช่นกัน
เตียงนอนขนาด Queen Size พร้อมโต๊ะข้าง
ชุดชั้นวางทีวี โต๊ะเขียนหนังสือ และกระจกเงา
ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดพร้อมกระจกเงาขนาดเต็มตัว
ห้องสุดท้ายจะเป็นห้องนอนใหญ่ พื้นที่ภายในห้องดูกว้างขวางมากและยังโปร่งโล่งด้วยช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน
ภายในห้องนี้เราก็จะได้ฐานเตียงนอนขนาด King Size โต๊ะข้าง 2 ฝั่ง
ชั้นวางทีวีปลายเตียงพร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ 2 ชุด
ถัดเข้ามาบริเวณโถงหน้าห้องน้ำ เราก็จะได้ชุดโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า Built – in มาแบบนี้
ห้องนอนใหญ่จะมีข้อได้เปรียบตรงที่มีห้องน้ำในตัวให้ด้วย ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งเหมือนห้องน้ำด้านนอกทุกประการ แต่ภายในโซนอาบน้ำจะก่อม้านั่งหินสำหรับอาบน้ำมาให้เหมือนห้อง 1 Bedroom ค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2563) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ ART @ ทองหล่อ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบไลฟ์สไตล์หรูหราและโดดเด่นอย่างย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นทำเลที่ขยับเข้ามาภายในซอยทองหล่อ 25 เพียง 3 นาทีในระยะเดินเท้า ก็จะได้ห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ในราคาต่อตารางเมตรที่ถูกลงไปมาก แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มอีกด้วยเพราะอยู่ในซอยที่เป็นชุมชนบ้านพักอาศัย และเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ทำเลนี้เป็นทำเลที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านอาหารหรู คาเฟ่ชิค ๆ สถานบันเทิงในยามกลางคืน รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ และยังอยู่ใกล้ The EmDistrict ที่รวมห้างสรรพสินค้าระดับ Hi – end อีกด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะโครงการเข้ามาจากซอยทองหล่อเพียง 450 เมตร จากซอยทองหล่อจะเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอย่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี ภายในซอยทองหล่อ 25 ยังสามารถทะลุไปถึงซอยสุขุมวิท 43, 39, 31 และ 23 ได้ เรียกว่ามีทางหนีทีไล่สามารถเลี่ยงรถติดได้พอสมควร นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังสามารถใช้จุดขึ้นทางด่วนได้อีกหลายจุดด้วยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าสะดวกค่ะ แม้โครงการจะไม่ได้อยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ หรือรถไฟฟ้า MRT เพชรบุรี ในระยะเดิน แต่ทางโครงการจะมีรถ Shuttle Bus คอยให้บริการไปส่งถึงที่ทางขึ้นสถานี บริเวณหน้าโครงการก็ยังมีรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันอีกด้วย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการจะถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Oriental ภาพรวมของโครงการดูหรูหราร่วมสมัย ได้กลิ่นอายแบบโซนตะวันออก รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางทุกส่วน ได้ความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีจำนวนเพียง 102 ยูนิต และยังได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโรงแรมด้วย Skylight รับแสงธรรมชาติและ Private Garden กลางอาคาร ช่วยประหยัดพลังงาน ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นของโครงการเลยค่ะ
ส่วนห้องภายในโครงการก็ขายแบบ Fully Furnished เป็นการตกแต่งที่สามารถเข้าอยู่ได้เลยจริง ๆ เพราะให้เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้นรองรับทุกการใช้งานพื้นฐานแล้ว โดยมีจุดเด่นตรงที่การให้พื้นที่ห้องขนาดใหญ่ พอวางเฟอร์นิเจอร์แล้วก็ยังเหลือระยะการใช้สอยแบบสบาย ๆ อย่างห้องไซส์เล็กสุดก็มีขนาดอยู่ที่ 36.5 ตร.ม. ไปแล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ให้มาอย่างครบครันโดยถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Oriental ไม่ว่าจะเป็น Lobby, โถงลิฟต์, ห้องสมุด, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำระเบบเกลือผสมคลอรีน ขนาด 6 x 12 เมตร และสวนพักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 082 – 218 – 9292
WEBSITE : https://www.artthonglor.com/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น