EP.27 รีวิว คอนโด แอชตัน อโศก – พระราม 9 Ashton Asoke – Rama 9
>> คลิก อ่านรีวิว คอนโด IDEO MOBI สุขุมวิท 40
>> คลิก อ่านรีวิว คอนโด IDEO MOBI พระราม 4
>> คลิก อ่านรีวิว คอนโด IDEO MOBI รางน้ำ
>> คลิก อ่านรีวิว คอนโด Ashton อโศก – พระราม 9
>> คลิก อ่านรีวิว คอนโด CELES ASOKE
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน Condonayoo วันนี้ขอพาทุกท่านไปชมโครงการคอนโด Ashton อโศก-พระราม 9 จาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง หัวมุมแยกพระราม 9 ใกล้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9
แอชตัน อโศก-พระราม 9 เป็นคอนโด High Rise มี 2 อาคาร 46 และ 50 ชั้น มี พื้นที่โครงการขนาด 3-3-77 ไร่ ห้องพักอาศัย 593 ยูนิต + ร้านค้า 6 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก 2 แบบ หลายขนาด แบ่งเป็น 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาด 32.5 – 68.5 ตร.ม. เปิดขายแล้วบางส่วน มีกำหนดเริ่มก่อสร้าง ธ.ค. 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ ทั้ง 2 อาคารแยกกัน ได้แก่ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, Co-Working Space, ห้องอเนกประสงค์, ร้าน DEAN & DELUCA และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ด้วย CCTV และ Access Card Control ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | แอชตัน อโศก-พระราม 9 Ashton Asoke-Rama 9 |
เจ้าของโครงการ | บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ / Ananda Development |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-3-77 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร |
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 65% หรือ 396 คัน (Automatic Parking 100%) |
จำนวนลิฟท์ |
|
โซน | อโศก-พระราม 9 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 76, 98, 136, 185, 206 |
ที่ตั้ง | ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. |
กำหนดการ | Pre-Sale 22-23 ก.ค. 2560 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2563 |
ราคา | ราคาเริ่มต้น 6.49 ล้านบาท (ส.ค. 2560) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 240,000 บาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “Ashton อโศก-พระราม 9“ A New Dawn. Rising Soon. คอนโดใหม่ระดับ Super Luxury บนที่ดินแปลงหัวมุมอโศก-พระราม 9 ใกล้ MRT พระราม 9 และ Airport Link มักกะสัน |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
พิกัด Google : 13.755618, 100.564370
จากแผนที่ของทางโครงการ ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนพระราม 9 ฝั่งดินแดง บริเวณแยกพระราม 9 พอดี มีระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สถานีพระราม 9 ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สายสุขุมวิท, Airport Rail Link และรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-สุวินทวงศ์) ที่เป็นโครงการในอนาคต
การเดินทางโดยรถยนต์ มีเส้นทางเชื่อมต่อหลายเส้นทาง ทั้งกรุงเทพฯชั้นในและขาออกนอกเมือง มีถนนเส้นสำคัญหลัก ได้แก่ ถนนดินแดง, พระราม 9, อโศก, รัชดาภิเษก, เพชรบุรี และสุขุมวิท ซึ่งล้วนเป็นถนนที่มีการใช้งานหนาแน่น และยังเป็นย่านธุรกิจที่กำลังเติบโต จึงมีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดตลอดทั้งวัน
ด้านความอุดมสมบูรณ์ นับว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจที่กำลังพัฒนามีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตสูง ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น Terminal 21, Central Plaza Grand Rama 9, Fortune Town, The Grand พระราม 9, Show DC ห้างสรรพสินค้าสไตล์เกาหลีที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อปลายปี 59 และ The Super Tower แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่คาดว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเอเชีย
นับว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่มีความครึกครื้น, ทันสมัย และเต็มไปด้วยสีสัน เป็นทำเลที่มีอนาคตไกล อาจกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจของประเทศในอนาคตเนื่องจากมีศักยภาพการเติบโตที่มากกว่าย่านสุขุมวิทและสีลม-สาทร จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยใจกลางย่านธุรกิจ และผู้ที่เน้นการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะแบบราง
:::การเดินทางโดยรถยนต์:::
โครงการ Ashton อโศก-พระราม 9
– ถนนสุขุมวิท เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับเส้นอโศกมนตรีโดยตรงที่แยกอโศก-สุขุมวิท เป็นถนนที่มีย่านธุรกิจดั้งเดิมของกรุงเทพฯ นอกจากอโศกก็ยังมี เพลินจิต, ชิดลม และสยาม และมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวจากหมอชิตไปถึงสมุทรปราการ จึงมีการใช้งานหนาแน่นเกือบ 24 ชั่วโมง
– ถนนอโศกมนตรี และ อโศก-ดินแดง เป็นถนนที่ตัดผ่านที่ตั้งโครงการอีกเส้น และเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อโครงการกับถนนสุขุมวิท เป็นย่านที่กำลังพัฒนา มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายและครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า, คอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงาน และมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ จึงมีการใช้งานที่หนาแน่นใกล้เคียงกับเส้นสุขุมวิท
– ถนนพระราม 9 เป็นถนนที่มีการใช้งานเพื่อเดินทางในระยะไกลสำหรับเข้า-ออกเมือง เช่น เพื่อเดินทางไปยังศรีนครินทร์ หรือลาดกระบัง เป็นถนนที่มีช่องทางการเดินรถที่ค่อนข้างกว้าง และเชื่อมต่อกับถนนเส้นสำคัญได้หลายเส้น จึงมักถูกใช้งานเป็นเส้นทางเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด
– ถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนที่มีเส้นทางจากแยกพระราม 9 ผ่านลาดพร้าวไปยังวงศ์สว่าง เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าจะคุ้นหูกันดี ถนนรัชดามีทั้ง Office Building และห้างสรรพสินค้า ในยามค่ำคืนก็เต็มไปด้วยไนท์คลับ และร้านอาหารสไตล์ Pub and Restaurant ที่ขึ้นชื่อ แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ ที่มาพร้อมกับเทรนด์รักสุขภาพในปัจจุบัน นั่นก็คือร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ Eco, แหล่งออกกำลังกาย และเส้นทางปั่นจักรยานในละแวกใกล้เคียง
– ถนนเพชรบุรี หรือเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นถนนที่มีเส้นทางจากพัฒนาการไปถึงแยกอุรุพงษ์ อยู่ระหว่างพระราม 9 -ดินแดงและสุขุมวิท ใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงการจราจรจากเส้นสุขุมวิท มีเส้นทางผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น RCA, อิตัลไทย, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก และประตูน้ำ
– ทางด่วนศรีรัช มีเส้นทางเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ที่แยกพระราม 9 -ศรีนครินทร์ มีเส้นทางผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังอิมแพคเมืองทองธานี มักใช้เป็นเส้นทางเพื่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจากลาดกระบัง หรือมอเตอร์เวย์ และจากในเมืองไปยังอิมแพคเมืองทองธานี
เส้นทางสู่ถนนสุขุมวิทจากโครงการ ใช้เวลาประมาณ 7-16 นาที ระยะทางประมาณ 2.6 กม.
จุดกลับรถห่างจากโครงการประมาณ 130 ม. ใช้เวลาประมาณ 1 นาที
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ ทางด่วนศรีรัช มีจุดขึ้นทางด่วนอยู่บนถนนจตุรทิศ มีระยะทางประมาณ 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-16 นาที
รถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ MRT สายสีน้ำเงิน สถานีพระราม 9 ห่างจากโครงการเพียง 180 ม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3 นาที สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า ARL สถานีมักกะสันที่สถานีเพชรบุรี, BTS สายสีเขียวสถานีอโศกที่สถานีสุขุมวิท และ MRT สายสีส้ม(โครงการในอนาคต) ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
แยกและถนนที่สำคัญ
ความอุดมสมบูรณ์ ในย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ที่หลากหลายและครบครัน ในระยะเดินถึงมีตลาดอยู่เจริญเป็นตลาดสดที่ใกล้โครงการมากที่สุด และ 7-11 เพียง 100 ม. จากโครงการ
นอกจากนี้ก็ยังสามารถเดินทางไปยังโรงแรม Grand Mercure, ฟอร์จูนทาวน์ ที่มี Tesco Lotus, G Land Building : Office Building ที่มีร้านอาหารมากมาย และ Central Plaza Grand Rama 9 บนถนนรัชดาภิเษก ในระยะไม่เกิน 400 ม. และยังมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ที่มี Metro Mall อีกด้วย
มีโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียงเด่นๆ ได้แก่ โรงพยาบาลพระราม 9, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลผิวหนังอโศก และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในระยะ 4 กม.
มีสถานศึกษาชื่อดัง ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย, โรงเรียนนานาชาตินิสท์, โรงเรียนบางกอกทวิวิทย์ และโรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจนท์ ในระยะ 5 กม.
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
:::การเดินทาง:::
การเดินทางในวันนี้ เริ่มจากแยกเพลินจิตบนถนนสุขุมวิท ขับตรงไปทางบางนา ประมาณ 1.7 กม. แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าอโศกมนตรีที่แยกอโศก-สุขุมวิท บริเวณหน้าเทอร์มินอล 21 ขับตรงไปตามเส้นอโศกประมาณ 2.1 กม. ถึงแยกพระราม 9 ให้เลี้ยวซ้าย สุดทางโค้งจะเจอทางเข้าโครงการอยู่บริเวณแยกพอดี
สรุปการเดินทาง : ถนนสุขุมวิท 1.7 กม > แยกอโศก > ถนนอโศกมนตรี 2.1 กม. > แยกพระราม 9 > ถนนดินแดง > Ashton อโศก-พระราม9
ภาพการเดินทางเริ่มต้นบริเวณแยกเพลินจิต มุ่งหน้าตรงไปทางบางนา
ข้ามแยกมาจพเจอสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต
จากสถานีเพลินจิตมาประมาณ 700 เมตรก็จะเจอกับสถานีนานา
จากสถานีนานามาประมาณ 600 เมตรจะเจอกับสถานีอโศก ซ้ายมือเป็นห้าง Terminal 21 สุดเขตพื้นที่ห้างจะเป็นแยกอโศก-สุขุมวิท ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าถนนอโศกมนตรีได้
เมื่อมาถึงแยกอโศก-สุขุมวิทให้เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นอโศกมนตรีได้เลยค่ะ
ถนนอโศกมนตรี 2.1 กม. > แยกพระราม 9 > ถนนดินแดง > Ashton อโศก-พระราม9
เข้ามายังเส้นอโศกมนตรีมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 ขับตรงไปประมาณ 2.1 กม. ก็จะถึงแยก
เมื่อถึงสะพานข้ามคลองตันบริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี จะเห็นป้ายบอกทาง ให้ตรงไปทางพระราม 9
ที่แยกอโศกเพชรบุรีจะมีสถานี MRT เพชรบุรี เลี้ยวขวาไปประตูน้ำ เลี้ยวซ้ายไปพัฒนาการ ให้ตรงข้ามแยกไปยังพระราม 9
ข้ามแยกอโศก-เพชรบุรีมาก็จะเจอกับแยกอโศก ที่เป็นจุดตัดของเส้นอโศกและกำแพงเพชร 7 มีสถานีแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน
ผ่านแยกอโศกมาไม่นานก็จะถึงแยกอโศก-เพชร ที่เป็นจุดตัดกับถนนจตุรทิศและมีทางด่วนศรีรัชตัดผ่าน อีก 300 ม. ก็จะถึงแยกพระราม 9 แล้ว
เมื่อใกล้ถึงแยกพระราม 9 จะมีป้ายบอกทางติดตั้งไว้ทางซ้ายมือ ให้ชิดซ้ายเพื่อเตรียมเลี้ยวไปทางเส้นดินแดง
ถนนอโศกมนตรี > แยกพระราม 9 : 100 ม. > ถนนพระราม 9 > Ashton อโศก-พระราม9
มาถึงแยกพระราม 9 แล้ว จะเห็นป้ายโครงการอยู่ทางซ้ายมือให้เลี้ยวซ้าย ไปยังทางเข้าโครงการ
เมื่อเลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 มาอยู่บนเส้นพระราม 9 -ดินแดงมุ่งหน้าไปทางดินแดงแล้ว ให้ชิดซ้าย ขับช้าๆ เพื่อเตรียมเข้าโครงการ ทางเข้าอยู่บริเวณปลายโค้งทางแยกพอดี
ถึงแล้วค่ะ โครงการ Ashton อโศก-พระราม9
:::บริเวณโครงการ:::
ภาพมุมสูงของโครงการ
ก่อนจะเข้าไปชมภายในโครงการ เรามาชมบริเวณรอบโครงการกันก่อนค่ะ
ขวามือของทางเข้ามีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง อัธยาศัยดี
ภาพถ่ายค่าโดยสารของจุดต่างๆที่เป็นที่นิยม โดยค่าบริการไป BTS สถานีอโศกอยู่ที่ 60 บาท
ติดกับวินมอเตอร์ไซค์หน้าถนนระหว่างโครงการกับ Life Asoke Ratchada เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง จำนวน 5 ห้อง
ซ้ายมือของทางเข้าโครงการเป็นแยกพระราม 9
ข้ามแยกไปเป็นอาคารหยินเทียน อาคารสำนักงานที่สร้างใหม่บนพื้นที่เดิมที่เคยเป็นอาบอบนวด Amsterdam
ด้านหลังของโครงการเป็นคลองสามเสน ข้ามคลองไปเป็นอาคารที่พักอาศัยรวมที่กำลังอยู่ในระหว่างรื้อถอน
ตรงข้ามกับโครงการทางถนนรัชดาภิเษกเป็นโรงแรม Grand Mercure Fortune Bangkok และ G Land Building
โรงแรม Grand Mercure Fortune Bangkok ติดกับฟอร์จูนทาวน์ที่เป็นไอทีมอลล์ ด้านในมี Tesco Lotus
ฝั่งอาคาร G Land Building มีทางออก MRT ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
ติดกับอาคาร G Land Building คือ Central Plaza Grand Rama 9
MRT พระราม 9 มีทางออกทั้งหมด 3 ทาง โดยทางออกที่ 1 คือหน้าฟอร์จูนทาวน์ ทางออกที่ 2 หน้าเซ็นทรัลพระราม 9
และทางออกที่ 3 คือหน้าอาคารจีแลนด์
โดยทางออกที่ 3 มีทางออกที่เป็นบันไดปกติแยกจากทางออกที่เป็นบันไดเลื่อน เป็นทางออกที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
ตรงข้ามโครงการบนถนนดินแดง มีอาคารพาณิชย์, ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม
มี 7-11 ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดอยู่บริเวณหัวมุมทางเข้าตลาด
ซอยข้าง 7-11 ด้านในเป็นตลาดอยู่เจริญ ตลาดสดที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
::: ภายในโครงการ :::
Sales Gallery ของโครงการ เป็นอาคารรูปร่างหน้าตาโฉบเฉี่ยวสะดุดตา ใช้วัสดุสีทองแดงเพิ่มความโดดเด่นให้กับอาคาร เป็นจุดเด่นของแยกพระราม 9 ในเวลานี้
เมื่อมาจากทางอโศก จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือที่แยกพระราม 9 พร้อมป้ายโฆษณาของโครงการขนาดใหญ่ มีลูกศรชี้ไปยังเซลล์แกลลอรี่
วัสดุที่ใช้ปิดผิวเซลล์แกลลอรี่ นอกจากโลหะสีทองแดงแล้ว ก็ยังมีกระจกเคลือบปรอทที่ด้านนอก ทำให้ภายในสำนักงานขายได้รับความสว่างจากธรรมชาติ ไปพร้อมกับความเป็นส่วนตัว ที่ไม่สามารถมองเข้ามาจากด้านนอกได้
ภาพถ่ายด้านหน้าของโครงการ ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางขวามือของสำนักงานขาย
ถนนภายในโครงการเป็นพื้นปูคอนกรีตบล็อกเป็นลายก่ออิฐ มีที่จอดรถอยู่ทางซ้ายมือจำนวน 5 ช่องจอด
ติดกับที่จอดรถทางด้านหน้าเป็นทางเข้าสำนักงานขาย มีบันไดทางขึ้นยกสูงจากถนนประมาณ 1-1.5 ม.
ประตูทางเข้าเป็นบานเปิดคู่สูงประมาณ 3 ม. มีพนักงานต้อนรับคอยเปิดประตู สะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายของโครงการที่ต้องการมากกว่าที่พักอาศัยโดยทั่วไป
เมื่อเข้ามาในสำนักงานขายทางขวามือก็จะเป็น Information Center หรือ Reception
ฝั่งตรงข้ามเป็น Lobby Lounge สำหรับรับรองและให้บริการข้อมูลแก่ผู้มาเยี่ยมชมโครงการ
ถัดจากเคาน์เตอร์รีเซฟชั่นมาก็จะเป็น Check In Point ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการชมห้องตัวอย่างที่เปรียบเสมือน Art Gallery ภายในสำนักงานขาย
มีบันไดทางขึ้นไปยังห้องตัวอย่างไซส์กลาง และไซส์ใหญ่ที่ด้านในสุด
จากประตูทางเข้า เดินตรงเข้ามาที่ด้านในก็จะมีหุ่นจำลอง (Model) ของโครงการจัดแสดงไว้ให้ชมด้วย
บริเวณพื้นที่จัดแสดงโมเดลเมื่อมองขึ้นไปยังชั้น 2 ก็จะเห็นห้องตัวอย่างไซส์เล็กสุดทางซ้ายมือ และไซส์ใหญ่สุดทางขวามือ ตรงกลางเป็นทางขึ้นไปยังห้องตัวอย่างเส้นทางที่ 2
เส้นทางสู่ห้องตัวอย่างเส้นทางที่ 2 นี้ค่อนข้างมีความสงบและบรรยากาศที่ดูลึกลับน่าค้นหา เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีบรรยากาศเหมือนกับ Art Gallery
ระหว่างทางเดินมีการจัดแสดงผลงานศิลปะจากวัสดุรีไซเคิล พร้อมคำบรรยาย
ผลงานศิลปะถูกจัดแสดงยาวไปจนถึงบริเวณทางเข้าห้องตัวอย่าง และนี่คือภาพถ่ายบริเวณหน้าห้องตัวอย่างไซส์เล็กสุด ที่เป็น Type B2 ขนาด 1 Bedroom 38 ตร.ม.
ฝั่งตรงข้ามของห้องตัวอย่างขนาด 1 Bedroom 38 ตร.ม. มีทางเดินที่เป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะ ยาวไปยังเลาจน์เล็กๆ
เป็นพื้นที่ที่จัดไว้เป็น Reading Area, Pre Function หรือใช้เป็นพื้นที่รับรอง
ทางขวามือคือทางเดินที่มาจากห้องตัวอย่างไซส์เล็กสุด และทางซ้ายมือคือทางเดินไปยังห้องตัวอย่างไซส์กลาง
ทางเดินที่จุดนี้จะมีความสว่าง และเรียบง่ายกว่าในช่วงแรก
ระหว่างทางจะเจอกับห้องประชุมก่อน การตกแต่งพื้นที่ภายในห้องประชุมก็ยังคงความสุขุม และเลือกใช้วัสดุที่เป็นโลหะ ตามคอนเซ็ปการออกแบบของอาคาร
และเมื่อเดินมาจนสุดทางเดินก็จะมาบรรจบกับบันไดทางขึ้นห้องตัวอย่างด้านข้างของ Information Counter ที่เห็นกันในตอนแรก
แบบจำลองอาคาร
ชมพื้นที่ส่วนต่างๆภายในสำนักงานขายกันไปแล้ว ก็มาดูรายละเอียดของอาคารจากโมเดลกันค่ะ
ด้านหน้าของอาคารเป็นด้านที่หันไปทางทิศเหนือ มีอาคาร Alpha และ Omega วางคู่กันเฉียง 45 องศาเข้าด้านใน โดยอาคาร Alpha มีความสูง 46 ชั้น และอาคาร Omega มีความสูง 50 ชั้น
ทิศตะวันตกของโครงการฝั่งที่ติดกับ Life Asoke Ratchada มีอาคารที่ติดกับรั้วฝั่งนี้คือ อาคาร Omega
ทิศใต้ของโครงการติดกับคลองสามเสน มีพื้นที่ส่วนกลางเพื่อการชมวิวประเภทสวนและ Atrium
และทิศตะวันออกของโครงการติดกับถนนอโศก-ดินแดง อาคารที่ติดกับรั้วฝั่งนี้คือ อาคาร Alpha
Podium ของอาคารเป็นพื้นที่ร้านค้า โดยที่ชั้น 1 จะเปิดเป็น Dean & Deluca มีทางเท้าเข้าสู่โครงการเชื่อมกับถนนอโศก-ดินแดง
ทิศเหนือของโครงการด้านหน้าอาคาร เป็นพื้นที่ส่วนกลางประเภทสวนสาธารณะ มีขนาดใหญ่เหมาะสมกับจำนวนยูนิต
ชั้น 40 ของอาคาร Alpha และชั้น 41 ของอาคาร Omega เป็นพื้นที่ของ Sky Pool
นอกจากขนาดของตัวสระและโครงสร้างที่ยื่นออกจากตัวอาคารที่เป็นจุดเด่นแล้ว ก็ยังมี Pool Deck ยกสูงขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ เพื่อให้ได้บรรยากาศเหมือนลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร และท้องฟ้า
ตำแหน่งลิฟท์รถของอาคาร Omega อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือมุมด้านหลังของอาคารพอดี
ตรงกับ Core Lift ของอาคาร Omega ที่ชั้น 12A มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนลอยฟ้า และเป็นชั้นเริ่มต้นของพื้นที่พักอาศัยของอาคาร
มุมด้านหลังของอาคารที่ติดกับถนนอโศก-ดินแดงของอาคาร Alpha เป็นตำแหน่งของลิฟท์รถ
ตรงกับ Core Lift ที่ชั้น 10 มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนลอยฟ้า และเป็นชั้นเริ่มต้นของพื้นที่พักอาศัยของอาคาร
ภาพถ่ายโมเดลบริเวณทางเข้าหลักของโครงการ
ภาพถ่ายโมเดลบริเวณสวนด้านหน้าของโครงการที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย
ผังโครงการ
ทางเข้า-ออกโครงการมีทางเข้า-ออกสำหรับรถเพียงจุดเดียวทางทิศเหนือ เป็นทางเข้า-ออกสวนกัน มีการวนรถอ้อมทางด้านหลังโครงการเพื่อเข้าไปจอดรถที่เครื่องจอดรถอัตโนมัติภายในอาคาร
พื้นที่ชั้น 1 เป็น Lobby และร้านค้า มีทางเข้า-ออกโดยการเดินเท้า คือจากทางด้านหน้าของโครงการ ที่ถนนพระราม 9 -ดินแดง และทางด้านข้างของโครงการจากถนนอโศก-ดินแดง ซึ่งเป็นทางเข้าหลักโดยการเดินเท้า เพื่อเข้ามาบริเวณ Dean & Deluca ที่อาคาร Alpha
ผังอาคาร
อาคาร Alpha เป็นที่จอดรถแบบ Automatic Packing ตั้งแต่ชั้น 2-9 เข้าสู่โซนห้องพักที่ชั้น 10 มีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต เป็นห้อง 1 bedroom 11 ยูนิต และ 2 bedroom 2 ยูนิต มีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Atrium และสวน
อาคาร Omega เป็นที่จอดรถแบบ Automatic Packing ตั้งแต่ชั้น 2-11 และอาคาร Alpha ชั้น 11 เป็นโซนห้องพักเหมือนที่ชั้น 10 ทุกประการ แต่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง
อาคาร Omega ชั้น 12 เป็นงานระบบ และอาคาร Alpha ที่ชั้น 12-17, 22-26 เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนยูนิตรวม 14 ยูนิต มียูนิตขนาด 1 ห้องนอนเพิ่มขึ้นมา 1 ห้องรวมเป็น 12 ยูนิต
อาคาร Omega เป็นห้องพักที่ชั้น 12A มี Atrium และสวน เหมือนที่ชั้นห้องพักชั้นแรกของอาคาร Alpha มีห้องพักทั้งหมด 9 ยูนิต แบ่งเป็น 1 bedroom 8 ยูนิต และ 2 bedroom 1 ยูนิต
ชั้น 14 อาคาร Omega มีห้องพัก 9 ยูนิตเท่าเดิม แต่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง
ชั้น 15-17 มีห้องพักรวม 10 ยูนิต/ชั้น โดยมีห้อง 1 bedroom เพิ่มมา 1 ยูนิต รวมเป็น 9 ยูนิต
ที่ชั้น 18 ทั้ง 2 อาคารมีจำนวนยูนิตลดลง 1 ห้อง และมี Atrium ที่ทิศเหนือ ซึ่งเป็นยูนิตของ 1 bedroom ทำให้มีจำนวนยูนิตของอาคาร Omega 9 ยูนิต และอาคาร Alpha 13 ยูนิต
ที่ชั้น 19 มีส่วนที่เปิดโล่งไปถึง Atrium ของชั้น 18 และมีห้องงานระบบที่ห้องขนาด 1 bedroom ทางทิศใต้ ทำให้อาคาร Omega เหลือห้องพัก 8 ยูนิต และอาคาร Alpha เหลือห้องพัก 12 ยูนิต
ชั้น 20 อาคาร Omega มีห้องพัก 9 ยูนิต อาคาร Alpha มีห้องพัก 13 ยูนิต มีส่วนกลางเป็น Atrium 2 จุดทั้ง 2 อาคาร เหมือนที่ชั้นห้องพักชั้นแรกของแต่ละอาคาร
ชั้น 21 อาคาร Omega มีห้องพัก 9 ยูนิต เหมือนที่ชั้น 14 และอาคาร Alpha มีห้องพัก 13 ยูนิต เหมือนที่ชั้น 11
พื้นที่ส่วนกลาง
ชั้น 41 ของอาคาร Omega และ 40 ของอาคาร Alpha เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกาย
และชั้น 42 ของอาคาร Omega, 41 ของอาคาร Alpha เป็นห้องสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ โดยที่อาคาร Omega เป็นพื้นที่ทำงานและกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายและบันเทิง ส่วนอาคาร Alpha ยังคงเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการออกกำลังกายเหมือนที่ชั้น 40
:::แบบห้อง:::
Ashton อโศก-พระราม9 มีแบบห้องให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ แบ่งเป็น
แบ่งเป็น 2 อาคาร ดังนี้
ALPHA 14 Type :
OMEGA 10 Type :
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type A4 : 1 Bedroom 32.5 ตร.ม. | B2 : 1 Bedroom 38 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type A4 M : 1 Bedroom 34 ตร.ม. | B3 : 1 Bedroom 46 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type B4 : 1 Bedroom 40 ตร.ม. | B6 : 1 Bedroom 36.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type B5 : 1 Bedroom 38.5 ตร.ม. | B7 : 1 Bedroom 40 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type B8 : 1 Bedroom 41.5 ตร.ม. | C4 : 1 Bedroom 42.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type B9 : 1 Bedroom 38.5 ตร.ม. | C4 M : 1 Bedroom 46 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type E1 : 2 Bedroom 68.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type E2 : 2 Bedroom 66 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type A1 : 1 Bedroom 34 ตร.ม. | A1 M : 1 Bedroom 31.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type A2 : 1 Bedroom 32.5 ตร.ม. | A3 : 1 Bedroom 32.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type B1 : 1 Bedroom 42.5 ตร.ม. | C1 : 1 Bedroom 40 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type B1 M : 1 Bedroom 42.5 ตร.ม. | C2 : 1 Bedroom 46.5 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type C3 : 1 Bedroom 43 ตร.ม.
แปลนห้อง อาคาร OMEGA Type D1 : 2 Bedroom 61 ตร.ม.
:::ห้องตัวอย่าง:::
วันนี้เราจะไปชมห้องตัวอย่างกัน 2 แบบ ได้แก่
ห้องตัวอย่างห้องที่ 1 : Type 1
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type C4 M : 1 Bedroom 46 ตร.ม.
จากทางเข้าเป็นห้องครัว ถัดไปเป็นห้องรับประทานอาหารห้องนั่งเล่น ซ้ายมือเป็นห้องทำงาน, ห้องน้ำ และห้องนอน ที่ติดกับระเบียง
บริเวณหน้าประตูทางเข้าเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 60 x 60 ซม. เพดานสูง 2.8 ม. แต่ในห้องตัวอย่างเป็นฝ้าดรอปลงมาเพื่อซ่อนเครื่องปรับอากาศประมาณ 30 ซม. ทำให้เหลือเพดานสูงประมาณ 2.5 ม.
เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเห็นว่ามีทางเดินไปทางขวาเพื่อไปยังส่วนของห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ที่เห็นภายในห้องตัวอย่างในห้องจริงจะไม่มีให้ เนื่องจากทางโครงการ ขายแบบ Fully Fitted ที่ให้เฉพาะครัวและห้องน้ำ
พื้นที่หน้าประตูของห้องบริเวณที่เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นพื้นที่ของห้องครัว มีเคาน์เตอร์ครัวยาวประมาณ 1.5 ม. พร้อมตู้ติดผนังเหนือเคาเตอร์ บานประตูตู้เป็นแบบกดกระเด้งทั้งหมด
ด้านขวาของเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ในห้องตัวอย่างได้ทำการ Built-in เป็นประตูปิดไว้ให้ดูสวยงาม
เคาน์เตอร์ครัวที่ให้มีขนาดประมาณ 0.6 x 1.5 ม. ท็อปเคาน์เตอร์เป็นไม้ HDF ปิดผิว PVC ลายหินแกรนิตสีดำ มีกันเปื้อนติดตั้งให้ที่ผนัง บานประตูและชั้นวางของเป็นไม้ MDF ปิดผิว PVC สีเทา
เคาเตอร์ครัวในห้องนี้เป็นแบบเดียวกันกับเคาเตอร์ครัวของห้อง ขนาด 38 ตร.ม. พื้นที่ใต้ซิงค์มีขนาดประมาณ 80 ซม. มีประตูบานเปิดคู่ ด้านในเป็นท่อน้ำทิ้ง มีถังขยะติดตั้งให้ที่บานประตู ฝั่งขวามือของเคาน์เตอร์กว้างประมาณ 60 ซม. แบ่งเป็น 3 ตอนด้านบนสุดเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน-ส้อม ชั้นล่างสุดเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของ ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ
ซิงค์ล้างจานเป็นแบบช่องล้างจาน 1 ช่องไม่มีที่คว่ำจาน มีฝาปิดซิงค์ล้างจานเป็นวัสดุเดียวกันกับท็อปเคาน์เตอร์
Hop ที่ให้มาเป็นขนาด 2 หัว ของยี่ห้อ Kuppersbusch จากเยอรมัน เป็นเตาระบบ Induction Hobs หรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ให้ความร้อนเร็วและปลอดภัย
Hood เป็นของ Teka ระบบ Recirculation type หรือระบบหมุนเวียนอากาศ ทำให้ไม่ต้องเจาะท่อระบายอากาศออกไปด้านนอก
ตู้เหนือเคาเตอร์ Built ยาวตลอดความยาวเคาน์เตอร์และสูงถึงฝ้าเพดาน แบ่งออกเป็น 3 ช่องขนาดไม่เท่ากันมีทั้งประตูบานเปิดคู่และบานเปิดเดี่ยว มีเมนสวิตช์บอร์ดอยู่ภายในตู้ช่องซ้ายสุด
ฝ้าดรอปซ่อนแอร์เหนือห้องครัว มีความสูงของระยะดรอปประมาณ 30 ซม.
จากห้องครัวเข้ามาเป็นพื้นที่ภายในห้องประกอบด้วย ห้องทำงานทางซ้ายมือ ทางขวามือเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น มีพื้นเป็นไม้ Engineering Wood หนา 11 มม.
ฝ้าเพดานภายในห้องสูง 2.8 ม. พร้อมโคมดาวน์ไลท์ทั้งภายในและภายนอก
พื้นที่ต่อจากห้องครัวเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร มีความกว้างประมาณ 2 ม. สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งและตู้เย็นได้ 1 ตู้
ต่อจากส่วนรับประทานอาหารเป็นห้องนั่งเล่น มีผนังเป็นกระจกเข้ามุมบานใหญ่ทำให้ได้วิวกว้างเต็มศักยภาพของห้องมุม ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการที่ออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องมุม
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีความลึกประมาณ 1.5 ม. สามารถวางโซฟาได้ 1 ตัวพอดี
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี กว้างประมาณ 1.2 ม. เหมาะที่จะวางทีวีขนาดประมาณ 42″ ที่เป็นขนาดเหมาะสมกับระยะดูทีวีประมาณ 1.5 ม.
ระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาประมาณ 1.5 ม. สามารถวางโต๊ะกาแฟแล้วยังเหลือพื้นที่ทางเดินที่สามารถเดินได้สะดวก เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวสำหรับคอนโด
ตรงข้ามกับพื้นที่รับประทานอาหารเป็นห้องทำงาน ห้องตัวอย่างกั้นเป็นผนังกระจก และประตูบานเลื่อนไว้อย่างเป็นสัดส่วน
โดยในห้องจริงจะไม่มีผนังกั้นให้ แต่หากกั้นผนังสูงจนถึงเพดานเป็นนผนังกระจกแบบในห้องตัวอย่าง ก็จะได้ห้องที่โล่งมากขึ้นช่วยและไม่อึดอัด
ห้องทำงานมีพื้นที่ห้องประมาณ 2 x 2 ม. มีหน้าต่างกระจกเข้ามุม ทำให้ห้องสว่างให้ดูกว้างยิ่งขึ้น
นอกจากบานกระจกติดตาย ก็ยังมีบานกระทุ้งด้วยอีก 1 บาน ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้
ซ้ายมือของห้องทำงาน มีทางเดินไปยังห้องนอน เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบในห้องครัว สุดทางเดินเป็นประตูทางเข้าห้องนอน ซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ โดยห้องน้ำมีประตูทางเข้าจากด้านในห้องนอนโดยตรงด้วย
ห้องนอนมีขนาดประมาณ 3 x 4 ม. มีพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่วางเตียงนอนทางขวามือ และซ้ายมือเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว
เตียงนอนในห้องตัวอย่างเป็นขนาดควีนไซส์ 1.5 x 1.8 ม. เหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงประมาณ 20 ซม.
ปลายเตียงชี้ไปทางประตูทางเข้ามีพื้นที่ผนังสำหรับติดตั้งทีวีกว้างประมาณ 1 ม.
ผนังด้านข้างเตียงมีประตูเปิดออกสู่ระเบียงเป็นประตูกระจกบานเปิดคู่ ช่องเปิดกว้างประมาณ 1.2 ม. เป็นช่องแสงให้กับห้องนอน
พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 10 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. เป็นลายก่ออิฐ มีพื้นที่ประมาณ 0.8 x 1.5 ม.
ซ้ายมือของระเบียงเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ มีระแนงเหล็กเพื่อบังสายตาติดตั้งไว้เพื่อความสวยงาม
อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็นพื้นที่แต่งตัว ในห้องตัวอย่างมีฝ้าดรอปเพื่อซ่อนแอร์ และทำ Built-in ให้ดูเป็นตัวอย่าง มีพื้นที่ประมาณ 1.5 x 2 ม.
Built-in ที่ทางโครงการทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสลับ ทำให้สามารถมองเห็นด้านในตู้เสื้อผ้าได้ เป็นดีไซน์ที่ทำให้ห้องดูโปร่งและน่าสนใจไปอีกแบบ
ตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้ามีประตูทางเข้าห้องน้ำจากห้องนอน
พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. เหมือนพื้นทางเดินและห้องครัว
พื้นห้องน้ำมีธรณีประตู และลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. มีพื้นที่รวมประมาณ 1.8 x 2 ม. แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งโดยใช้ Shower Box เป็นประตูและผนังกระจกติดตั้งลงบนเขิบสูง 5 ซม.
พื้นที่สวนแห้งประกอบด้วยอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ มีผนังก่อ 2 ชั้นสำหรับเดินท่อและเป็นบ่าสำหรับวางของ
อ่างล้างหน้ารูปทรงสามเหลี่ยมโค้งมนเลียนแบบธรรมชาติจากยี่ห้อ Kasch ช่วยสร้างความโดดเด่นมีสไตล์ให้กับห้องน้ำ ก๊อกน้ำเป็นยี่ห้อ Grohe
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบชิ้นเดียว มีสายชำระติดตั้งให้ทางขวามือของผู้ใช้งาน และที่ใส่กระดาษทิชชู่ทางซ้ายมือ
Shower Box มีความสูงประมาณ 2 ม. ด้านในมีฝักบัว 2 แบบคือ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 ซม. ก๊อกน้ำและชุดฝักบัวเป็นของยี่ห้อ Grohe
สุดท้ายสวิตช์ไฟและเต้ารับของโครงการเลือกใช้เป็นยี่ห้อ Siemens ที่มีรูปร่างขนาดและสีสันให้เลือกหลากหลาย เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแตกต่างและสวยงาม
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 : Type E1
แปลนห้อง อาคาร ALPHA Type E1 : 2 Bedroom 68.5 ตร.ม.
จากทางเข้าเป็นเป็นทางเดินยาวไปยังห้องนั่งเล่นที่ด้านในสุดของห้อง เป็นพื้นที่เดียวกันกับส่วนรับประทานอาหารและพื้นที่ทำงาน ก่อนถึงห้องนั่งเล่นคือห้องน้ำและห้องครัวทางขวามือ ทางซ้ายมือคือห้องนอน 2 ที่มีระเบียงและห้องนอน 1 ที่เป็นห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว
จากประตูทางเข้าห้องตัวอย่างมีการประดับด้วยผลงานศิลปะเป็นภาพวาดขนาดใหญ่เพื่อเป็น Approach ก่อนเข้าสู่ด้านในของห้อง พื้นห้องเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 60 x 60 ซม. เพดานสูง 2.8 ม.
เมื่อเข้ามาในห้องทางขวามือมีทางเดินต่อเข้าไปด้านใน
เดินตามทางเดินเข้ามาจะเจอกับทางเดินทอดยาวไปสู่ห้องนั่งเล่น มีความกว้างประมาณ 1 ม. และห้องแรกทางซ้ายมือคือห้องนอน 2
ภายในห้องนอน 2 มีขนาดประมาณ 2.5 x 3 ม. มีประตูทางออกสู่ระเบียงที่ด้านในสุดของห้องตรงข้ามกับประตูทางเข้า พื้นห้องเป็นพื้นไม้ Engineering Wood หนา 11 มม.
สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ 1.5 x 1.8 ม.
มีพื้นที่ข้างเตียงฝั่งประตูทางเข้าเหลือประมาณ 1.2 ม. ห้องตัวอย่างวางเป็นตู้เก็บของและโต๊ะหัวเตียงเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 80 ซม. ฝั่งขวามือของเตียงที่ติดกับระเบียงมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 20 ซม.
ผนังฝั่งปลายเตียงครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวีและอีกครึ่งหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ฝังในผนัง
ประตูทางออกสู่ระเบียงเป็นบานเปิดคู่แบบเดียวกับประตูระเบียงในห้อง 46 ตร.ม. ที่มีช่องเปิดกว้างประมาณ 1.2 ม.
ระเบียงก็มีขนาดเท่ากันคือ 0.8 x 1.5 ม. ลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 10 ซม.
ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์เช่นเดียวกัน
ห้องถัดมาคือห้องน้ำฝั่งตรงข้าม เป็นห้องน้ำกลางของห้อง
พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. เหมือนในห้อง 46 ตร.ม.
มีพื้นที่ส่วนแห้งประมาณ 1.5 x 1.8 ม. และแยกส่วนเปียกโดยกั้นประตูกระจก
อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมฝังในเคาน์เตอร์แบบ Half Counter มีพื้นที่เคาน์เตอร์กว้างประมาณ 1.2 ม. ลึกประมาณ 30 ซม. ทำให้มีพื้นที่วางของที่ด้านข้าง
โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์เป็นแบบเดียวกันกับห้อง 46 ตร.ม. แต่ที่ใส่กระดาษชำระอยู่ทางขวามือของผู้ใช้งาน
ประตูทางเข้าส่วนเปียกเป็นกระจกบานเปิดเดี่ยว ด้านในมีฝักบัว 2 แบบคือ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน เหมือนในห้องห้อง 46 ตร.ม.
พื้นที่ส่วนเปียกในห้องนี้มีขนาดประมาณ 1 x 1.5 ม.
ถัดมาที่ด้านข้างของห้องน้ำ เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าที่ทางห้องตัวอย่างทำเป็นประตูปิดไว้อีกเช่นเคย
ฝั่งตรงข้ามถัดจากห้องนอน 2 คือห้องนอน 1 ที่เป็นห้องนอนใหญ่
เมื่อมองผ่านประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนของเตียงนอน พื้นห้องนอนเป็นไม้ Engineering Wood อีกเช่นเคย
มีพื้นที่ห้องประมาณ 3 x 3 ม. พื้นที่ด้านในสุดของห้องนอนเป็นผนังกระจกกว้างเต็มผนัง มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้มาก อีกทั้งยังสามารถระบายอากาศได้
เตียงนอนที่จัดแสดงไว้ในห้องตัวอย่างเป็นขนาด King Size 1.8 x 1.8 ม. มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณด้านละ 60 ซม.
สามารถใช้เป็นทางสัญจรและวางโต๊ะหัวเตียงได้อย่างสบาย
ด้านปลายเตียงนอกจากจะมีพื้นที่สำหรับติดตั้งทีวีแล้ว ก็ยังมีทางเดินต่อไปเป็นส่วนแต่งตัวแบบ Walk In Closet
พื้นที่ส่วนแต่งตัวมีขนาดประมาณ 1.5 x 2 ม. เมื่อ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าจะเหลือทางเดินประมาณ 1 ม. ตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้ามีประตูทางเข้าห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้ง มีพื้นที่ส่วนแห้งประมาณ 1.2 x 2 ม.
ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีประตูกระจกกั้น และมีหน้าต่างกระจกเข้ามุม
อ่างล้างหน้าเป็นแบบวางบนเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำ เป็นอ่างแบบเดียวกันกับห้องน้ำของห้อง 46 ตร.ม.
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ก็เป็นแบบเดียวกัน
พื้นที่ส่วนเปียกมีขนาดประมาณ 1 x 1.5 ม.
มีอ่างอาบน้ำที่ด้านในติดกับหน้าต่าง พื้นที่วางอ่างอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 2 ม. อ่างอาบน้ำยี่ห้อ Cristina
ด้านหัวของอ่างอาบน้ำเป็นพื้นที่สำหรับวางของ ฝั่งปลายเท้าเป็นบานหน้าต่างเข้ามุม และพื้นที่ยืนอาบฝักบัว
ชุดฝักบัวเป็นแบบสายอ่อนแบบเดียว ยี่ห้อ Grohe เหมือนกัน แต่มีหัวฝักบัวขนาดใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 ซม.
ถัดมาเป็นพื้นที่ของห้องครัวที่เป็นพื้นที่ด้านข้างของทางเดิน และเป็นจุดสิ้นสุดของพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้
พื้นที่ครัวมีขนาดใกล้เคียงกับห้อง 46 ตร.ม.
เคาน์เตอร์ครัวยาวประมาณ 1.8 ม. แบ่งออกเป็น 3 ตอน ตอนละประมาณ 60 ซม.
ตู้เก็บของเหนือเคาน์เตอร์มีขนาดเท่ากับเคาน์เตอร์ และมีตู้เล็กเพิ่มมาด้านข้างบริเวณเหนือตู้เย็น เป็นตู้บานเปิดคู่ขนาดประมาณ 80 ซม.
Hop ยังคงเป็นของยี่ห้อเดิมแต่เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 4 หัว
Hood ยังคงเป็นยี่ห้อและขนาดเดิม
ซิงค์ล้างจานในห้องนี้เป็นแบบ 2 หลุม ขนาดประมาณ 30 x 40 ซม. และ 40 x 40 ซม. มีฝาปิดเช่นเคย
พื้นที่ด้านในสุดคือห้องนั่งเล่น เป็นพื้นไม้ Engineering Wood หนา มีหน้าต่างกระจกยาวตลอด 2 ฝั่งของผนัง ทำให้มีมุมมองกว้างและเชื่อมต่อกับภายนอก
ฝ้าเพดานตั้งแต่ทางเข้าจนถึงห้องนั่งเล่นเป็นฝ้าดรอปสำหรับซ่อนแอร์
ติดกับครัวเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร วางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งตัวใหญ่ได้อย่างสบาย
พื้นที่ด้านในถัดจากส่วนรับประทานอาหารเป็นห้องนั่งเล่นและห้องทำงาน มีพื้นที่รวมประมาณ 3 x 5 ม.
พื้นที่ห้องนั่งเล่นถูกออกแบบให้อยู่บริเวณมุมหน้าต่างพอดี เพื่อให้ได้วิวเมืองอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย เหมาะกับกิจกรรมอย่างการชมวิว
โดยพื้นที่สวนนั่งเล่นนี้มีขนาดประมาณ 2.5 x 3 ม. สามารถวางโซฟาแบบ L-shape และชั้นวางทีวีแล้วเหลือทางเดินประมาณ 1.5 ม. เหมาะกับทีวีขนาด 42″ จะอยู่ในระยะดูที่เหมาะสม
ที่หน้าต่างฝั่งชั้นวางทีวีมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บานทางขวามือบริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถเปิดระบายอากาศได้
โซฟาที่จัดแสดงในห้องตัวอย่างเป็นขนาดประมาณ 1 x 1.6 ม. ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ใหญ่และนั่งสบายมากๆ แสดงว่ามีขนาดของพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้าง ทำให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย
ด้านหลังของโซฟาเป็นพื้นที่ของห้องทำงาน
โครงการออกแบบให้วางโต๊ะทำงานติดกับด้านหลังของโซฟา จะได้พื้นที่เข้ามุมพอดี ทำให้สามารถจัดการกับพื้นที่สามเหลี่ยมที่ว่ายากได้อย่างลงตัว
ด้านข้างของโต๊ะทำงานที่ผนังฝั่งห้องนอน 1 สามารถ Built เป็นชั้นวางของ หรือจะเลือกเป็นแบบลอยตัวมาวางก็ได้
ข้อดีของการวางโต๊ะทำงานที่ด้านหลังของโซฟาแบบนี้ คือทำให้ได้วิว และสามารถมองเห็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในห้องได้อย่างทั่วถึง เรียกได้ว่าสามารถทำงานไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวไปด้วยได้พร้อมๆกัน
ภาพถ่ายจากมุมด้านในของโต๊ะทำงาน มองออกไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร
และขอจบการรีวิวห้องตัวอย่างขนาด 2 ห้องนอน 68 ตร.ม. ไปด้วยภาพถ่ายย้อนกลับจากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปยังทางเดิน ให้เห็นพื้นที่ใช้สอยโดยรวมของห้องค่ะ
:::สรุปรายการวัสดุมาตรฐาน (ส.ค.60):::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า***
:::ราคา::: (ส.ค. 2560)
***ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น สอบถามข้อมูลโดยตรงกับทางโครงการ***
:::บทสรุปโครงการ:::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : Ashton อโศก-พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง และพระราม 9 หัวมุมแยกพระราม 9 ฝั่งดินแดงพอดี เป็นทำเลทองที่หายได้ยาก เป็นที่ดินแปลงมุม อีกทั้งยังตั้งอยู่บนถนนที่มีการใช้งานตลอดทั้งวัน เป็น Location ที่เข้าถึงง่าย ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ เป็นย่านที่มีความเจริญ และมีแนวโน้มในการพัฒนาเติบโตได้อีกมากในอนาคต มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
ความอุดมสมบูรณ์ : มี 7ELEVEn ที่ใกล้ที่สุดอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนพระราม 9 ห่างจากโครงการเพียง 100 ม. มีตลาดอยู่เจริญอยู่ด้านหลังห่างจากโครงการ 130 ม. โดยการเดินเท้า มีห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อยู่ในระยะเดินถึง ได้แก่ G Land Building, ฟอร์จูน ทาวน์, Central Plaza Grand Rama 9 และ Super Tower ที่คาดว่าจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเอเชีย ในระยะเดินเพียง 300 ม.
สถานศึกษาในละแวกใกล้เคียง ที่มีชื่อเสียงได้แก่ โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.), โรงเรียนสาธิต มศว., โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST) และโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ในระยะ 4 กม. ใกล้โรงพยาบาลพระราม 9 โรงพยาบาลปิยะเวช โรงพยาบาลผิวหนังอโศก และโรงพยาบาลกรุงเทพ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สามารถเข้าโครงการได้จากหลายเส้นทาง มีถนนเส้นหลักในบริเวณโครงการ ได้แก่ ถนนอโศก-ดินแดง, อโศกมนตรี, พระราม 9, ดินแดง และรัชดาภิเษก การเดินทางเข้า-ออกโครงการ สามารถใช้เส้นสุขุมวิทเข้าอโศก-ดินแดง หรือใช้เส้นเพชรบุรีตัดใหม่ใหม่ เพื่อเข้า-ออกเมือง ใช้ถนนพระราม 9 เพื่อไปทางศรีนครินทร์, รามคำแหง และลาดกระบัง และถนนรัชดาภิเษก เพื่อไปยังลาดพร้าวได้ มีทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนศรีรัช และเฉลิมมหานครเป็นอีกทางเลือกในการเดินทางออกนอกเมือง หรือเข้าเมืองไปยังอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสีลม นับว่ามีเส้นทางที่หลากหลาย และอาจมีการจราจรที่ติดขัดในบางเส้น การใช้งานรถส่วนตัวในบริเวณนี้จึงควรมีการวางแผน และประมาณเวลาให้ดี
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : จากโครงการเพียง 200 ม. มีสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ใกล้กับจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ได้แก่ ARL มักกะสัน เพียง 1 สถานี (MRT เพชรบุรี), BTS อโศก 2 สถานี (MRT สุขุมวิท) และเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (โครงการในอนาคต) ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากขนส่งสาธารณะระบบรางที่มีความทันสมัย การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการ ก็ยังมีรถประจำทาง หรือรถเมล์ ให้เลือกใช้อีกหลายสาย ถือว่ามีการเดินทางด้วยระบบสาธารณะที่สะดวกสบายมาก
การออกแบบโครงการและวัสดุ : โครงการ Ashton อโศก-พระราม9 เป็นโครงการคอนโดระดับ Premium ตั้งอยู่บนที่ดินทำเลทอง เป็นคอนโดแห่งแรกที่มีที่ตั้งอยู่หัวมุมแยกพอดี จึงเป็นที่จับตามองของนักอสังหาริมทรัพย์ มี Concept เปิดตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยวรี “Omega & Alpha The First and The Last” ที่สื่อถึงกาลเวลาที่จะคงอยู่ตลอดไป นอกจากการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ด้านการออกแบบโครงการก็ยังจับมือกับบริษัทสถาปนิกชั้นนำของประเทศถึง 3 บริษัท คือ A49, Pia และ Trop เพื่อให้ได้อาคาร ที่โดดเด่นสวยงาม เป็นมากกว่าคอนโด
อาคารที่พักอาศัยแบ่งออกเป็น 2 อาคาร ได้แก่ Omega 50 ชั้น และ Alpha 46 ชั้น มีพื้นที่ส่วนกลางแยกอาคารอยู่ที่ชั้น 41-42 และ 40-41 และที่ชั้น 1 เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่จอดรถใช้เป็นระบบอัตโนมัติ 100%
ในส่วนของห้องพัก ทางโครงการได้ออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องมุม มีระยะเพดานสูงถึง 2.8 ม. ใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่และเข้ามุมที่นอกจากจะทำให้ห้องสว่างไม่อึดอัด ยังทำให้ได้รับวิวเมืองเป็นมุมกว้าง อีกทั้งได้ออกแบบ Unit Type มาให้เลือกถึง 24 Type ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมด เป็นเพียงยูนิตที่เปิดขายแล้วเท่านั้น มีให้เลือก 2 แบบคือ 1 bedroom จำนวน 21 Type และ 2 bedroom จำนวน 3 Type
วัสดุในห้องพักเป็นวัสดุมาตรฐานทั่วไป ซึ่งทางโครงการขายเป็นแบบ Fully Fitted ให้พื้นบริเวณทางเข้าและห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 × 60 ซม. ลายหินอ่อนสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ Engineering Wood หนา 11 มม. พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 × 30 ซม. สุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือ ของ Cristina และ Kasch ก๊อกน้ำ และชุดฝักบัว เลือกใช้ของ Grohe เคาน์เตอร์ในห้องน้ำเป็นหินแกรนิตสีดำทุกห้อง เคาน์เตอร์ครัว Built-in ที่ทางโครงการให้เป็นไม้ MDF ปิดผิว PVC สีเทา Top ไม้ HDF ปิดผิว PVC ลายหินแกรนิตสีดำ ที่เป็นมาตรฐานโดยทั่วไป
สิ่งอำนวยความสะดวก : ส่วนกลางของโครงการเป็นแบบแยกอาคาร มีการออกแบบที่น่าสนใจ และมีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนยูนิต ประกอบด้วย โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องออกกำลังกายหลากหลายประเภท, สวนพักผ่อน, Co-Working Space, ห้องอเนกประสงค์, ร้านค้า 6 ยูนิต มีไฮไลท์ คือ ร้าน DEAN & DELUCA ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นการรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ประกอบด้วย กล้องวงจรปิด CCTV, คีย์การ์ด และพนักงานรักษาความปลอดภัยค่ะ
:::คะแนน:::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | โครงการติดถนนอโศก-ดินแดง และพระราม 9 เป็นย่านธุรกิจและการศึกษา มีอาคารสำนักงานจำนวนมาก ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 มีเส้นทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ด้านความอุดมสมบูรณ์ มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงแรม และตลาด มี 7ELEVEn อยู่ฝังตรงข้ามในระยะเดินเพียง 100 เมตร และตลาดอยู่เจริญที่ด้านหลัง |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | โครงการตั้งอยู่หัวมุมถนนที่แยกพระราม 9 พอดี ในการเดินทางโดยรถยนต์ที่สะดวก สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย ใกล้ทางด่วนศิริราช และเฉลิมมหานคร แต่มีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.25 | ถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะนอกจากจะมีรถเมล์วิ่งผ่านหน้าโครงการ ก็ยังมีสถานี MRT พระราม 9 ห่างจากโครงการที่เพียง 180 ม. |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แบบห้องมีให้เลือกหลายแบบ เป็นห้องมุมทั้งหมด มีการออกแบบ เพื่อให้ได้วิวเมืองในมุมกว้าง จัด function ได้ลงตัว ใช้งานสะดวก และวัสดุที่ให้เป็นวัสดุมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | มีความหลากหลายครบครัน มี function พิเศษที่มากกว่าโครงการทั่วไป แยกตามอาคาร สามารถใช้งานได้สะดวกและทั่วถึง |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | แลกกับเวลาในการเดินทางเข้าเมือง และทำเลที่อุดมสมบูรณ์ กลางแหล่งธุรกิจ ใกล้สถานศึกษา มีรถไฟฟ้าเข้าถึง ตัวโครงการมีการออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร มีทั้งห้องที่เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียว และครอบครัว |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.125 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-316-2222
Website : http://www.ananda.co.th/condo/projects/ashton-asoke-rama9/
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น