Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
วันนี้ทีมงาน Homenayoo ขอพาไปชมโครงการ ‘Aspire สุขุมวิท-พระราม 4‘ คอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการใหม่ล่าสุดจาก เอพี ไทยแลนด์และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ พร้อมตอบอิสระการใช้ชีวิตแบบไฮบริดทุกรูปแบบของคนเมืองรุ่นใหม่ ให้ใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ Fast-Fun-Freedom ใจกลางสุขุมวิท
โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระราม 4 เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนง เพียง 600 เมตร* ใกล้ถนนสุขุมวิท ใกล้ทางด่วน 2 สายหลัก (รามอินทรา-อาจณรงค์ & เฉลิมมหานคร) Shortcut สู่ทองหล่อ-เอกมัย มุ่งตรงไปแหล่งไลฟ์สไตล์สุด Vibrant อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะทำงาน ช้อป กิน หรือเที่ยว โดยทางโครงการได้จัดเตรียมรถ เพื่อให้ทางนิติบุคคลฯ บริหารจัดการ รับ-ส่งไปยังสถานี BTS พระโขนง
แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 เป็นคอนโด High-Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,323 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต บนพื้นที่ดิน 4-3-55.8 ไร่ มีห้องชุดรูปแบบใหม่ดีไซน์พิเศษ รวมกว่า 36 รูปแบบ เติมเต็มการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างมีอิสระที่เลือกเองได้ ทั้ง Simplex เพดานสูง 2.5 เมตร (เริ่มชั้น 8-30) และ Vertiplex ห้องชุดเพดานสูงกับ Double Volume ที่สูงถึง 4.4 เมตร (เริ่มชั้น 31-37) พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 24.00-55.00 ตร.ม. โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จ ประมาณไตรมาส 2/2568
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน บนพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตร.ม.* เช่น The Linear Park, The Drop off, The Oasis, The Pick-up, The Aspire Common, The Mail Room, The Co-op Society, The Meeting, The Work Loft, The Chatroom, The Workout, The Gym, The Ride, The Island, The Aqua, The Beachfront, The Club, The Water Lounge, The Deck, The Cloud, The Peak, The Flyover พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้าน* หรือ เพียง 89,000 บาท/ตร.ม.* เท่านั้น (ส.ค.65)
ลงทะเบียนออนไลน์วันนี้รับสิทธิพิเศษรวมสูงสุด 100,000 บาท คลิก : https://bit.ly/3SIItvJ
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่างและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 Aspire Sukhumvit-Rama 4 |
เจ้าของโครงการ | เอพี ไทยแลนด์และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-3-55.8 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 38 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | ห้องชุดแบบ SIMPLEX : เริ่มชั้น 8-30
ห้องชุดแบบ VERTIPLEX : เริ่มชั้น 31 – 37
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 34% (ไม่รวมที่จอดรถซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตคลองเตย |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. |
กำหนดการ | โดยประมาณไตรมาส 3/2565 |
ปีที่สร้างเสร็จ | โดยประมาณไตรมาส 2/2568 |
ราคา | เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท* (ส.ค.65) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
|
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก | ชั้น G
ชั้น 2-7
ชั้น 8
ชั้น 38
ระบบรักษาความปลอดภัย
|
Tel | 1623 |
Website | https://www.apthai.com/ |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/jpiWq1CNqEprY5346
Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 คอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการใหม่ล่าสุดจาก เอพี ไทยแลนด์และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ ที่พร้อมตอบอิสระการใช้ชีวิตแบบไฮบริดทุกรูปแบบของคนเมืองรุ่นใหม่ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนง เพียง 600 เมตร* เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วน 2 สายหลัก
เป็นโครงการที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้พระโขนง, ทองหล่อ และเอกมัย ที่เต็มไปด้วยแหล่งอาหารการกิน ห้างสรรพสินค้าสำหรับ Shopping และแหล่ง Hang Out ที่ครึกครื้นและเต็มไปด้วยสีสัน รายล้อมด้วยแหล่ง Shopping, ร้านอาหาร, โรงเรียนนานาชาติ, โรงพยาบาล และใกล้ Summer Hub ที่เป็น Office Building, Summer Hill และ W District ที่เป็น Community Mall ขนาดใหญ่ บริเวณแยกพระโขนง
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : เดินทางได้สะดวกสบาย ตัวโครงการจะตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า ที่มุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 4 ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิท เพียงแค่ 200 เมตร* หรือจะกลับรถไปถนนพระราม 4 ฝั่งขาออก ที่มุ่งหน้าไปแยกพระโขนง เพื่อเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ก็ทำได้ง่ายมาก ๆ
การเดินทางเข้าเมือง มีให้เลือกหลากหลายเส้นทาง จากหน้าโครงการตรงไปจนถึงแยกพระราม 4 ขับตรงไปจะเชื่อมกับลุมพินี ออกไปจุฬา-สามย่านได้ หากเลี้ยวซ้ายจะเชื่อมกับถนนพระราม 3, สาทร, สีลม และหากเลี้ยวขวาจะเชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก ที่ใช้มุ่งหน้าสู่แยกอโศก ออกไปโซนพระราม 9 ได้เลย
จากโครงการกลับรถไปฝั่งขาออก ตรงแยกพระโขนง เลี้ยวซ้ายจะใช้มุ่งหน้าไปเอกมัย, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก ตรงยาวไปยังโซนสุขุมวิทตอนต้น ที่เป็น CBD ของกรุงเทพฯ ได้
จากแยกอโศก จะมีทางตัดเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ที่ใช้วิ่งออกไปยังอโศกมนตรี, อโศกดินแดง, เพชรบุรีตัดใหม่ และพระราม 9 ได้ ผ่านแยกพระราม 9 ตรงขึ้นไป ก็จะเชื่อมสู่โซนรัชดาฯ ห้วยขวาง, สุทธิสาร, ลาดพร้าว ตรงไปเชื่อมกับพหลโยธิน และวิภาวดีรังสิตได้เลยค่ะ
การเดินทางออกนอกเมือง จากแยกพระโขนง เลี้ยวขวาจะเชื่อมสู่ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก ใช้มุ่งหน้าออกไปยังอ่อนนุช, บางจาก, ปุณณวิถี, อุดมสุข, แบริ่ง, บางนา, สำโรง ตรงยาวออกไปยังปู่เจ้าสมิงพราย, บางปู และตัวเมืองสมุทรปราการได้เพียงเส้นตรง ขับรถได้ง่ายไม่ซับซ้อน ที่สำคัญใช้เวลาไม่นาน
ทางด่วน : ใกล้กับทางด่วนหลายสาย ใกล้ที่สุดจะเป็น ทางพิเศษฉลองรัช ด่านพระโขนง ที่ห่างจากโครงการเพียงแค่ 1.3 กม.* ใช้เวลาเดินทางจากโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วน ประมาณ 5-10 นาที* เส้นนี้จะใช้ออกไปยังโซนพัฒนาการ, พระราม 9, ลาดพร้าว, รามอินทรา และไปเชื่อมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก ใช้ออกเมืองไปสายไหม, ลำลูกกา และจังหวัดใกล้เคียงอย่างปทุมธานีได้
ทางด่วนอีกจุดจะเป็น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านอาจณรงค์ ที่เหมาะกับการใช้เดินทางเข้าเมืองมากกว่า จากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วน เพียง 1.4 กม.* ใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 10 นาที* ใช้เดินทางไปยังพระราม 4, เพลินจิต, จตุรทิศ ออกไปเชื่อมดอนเมืองโทลล์เวย์ได้ มีทางเชื่อมสู่ทางพิเศษศรีรัชที่ด้านบน เพื่อเข้าเมืองไปยังดินแดง, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือออกไปสาทร-สีลมได้แบบถึงกันทั้งหมด
หากจะออกเมืองก็จะมีทางเชื่อมกับทางพิเศษสาย S1 ที่ด้านบน ซึ่งจะมีทางเชื่อมไปยังทางพิเศษบูรพาวิถี ใช้ออกไปจังหวัดใกล้เคียงอย่างบางปะกง-ฉะเชิงเทรา และพัทยา-ชลบุรีได้ ใช้เวลาไม่เกิน 1-2 ชม.* หรือเชื่อมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้) มุ่งหน้าออกไปพระราม 2 สมุทรสาครได้ ใช้เวลาไม่นานเหมือนกันค่ะ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือเป็นคอนโดที่มี Location ที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ในระยะเดินได้ สำหรับโครงการนี้ จะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง ในะระยะเดิน ประมาณ 600 เมตร* โดยจะเดินเท้าลัดไปทางซอยสุขุมวิท 41/1 ตรงไปจนสุดจะเจอกับประตูทางออกที่ 2 ของสถานีพระโขนง หรือจะเดินขึ้นไปทางแยกพระโขนงก็ทำได้ เลือกใช้ได้ตามสะดวก
จากสถานีพระโขนง นั่งต่อไป 1 สถานี ถึงเอกมัย / 2 สถานี ถึงทองหล่อ / 3 สถานี ถึงพร้อมพงษ์ และ 4 สถานีถึงอโศก โดยสถานีอโศก จะเป็นจุด Interchange ไปยังรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่สถานีสุขุมวิท จากสถานีสุขุมวิท นั่งต่อไป 1 สถานี ถึงเพชรบุรี ที่มีจุด Interchange ไปยัง Airport Link มักกะสัน ใช้นั่งออกไปสนามบินสุวรรณภูมิกันได้ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที*
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : จากที่ตั้งโครงการมีป้ายรถเมล์ให้ได้ใช้งานกันใกล้ ๆ ซึ่งเลือกใช้ได้ทั้งฝั่งขาออก (หน้าโครงการ) หรือจะข้ามทางม้าลาย ข้ามสะพานลอยไปยังฝั่งขาเข้า (ตรงข้ามโครงการ) มีรถเมล์ผ่านหลายสาย ๆ ได้แก่ สาย 46, สาย 45, สาย 22, สาย 3-15, สาย 507, สาย 519 สาย 46 Mini ส่วน Taxi และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เรียกได้จากหน้าโครงการเลย มีผ่านตลอดทั้งวัน 24 ชม. ค่ะ
สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการในรัศมีไม่เกิน 5 กม.* มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก อัดแน่นไปด้วยสถานที่สำคัญที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน ในระยะเดินเท้าบนเส้นพระราม 4 ก็จะมีร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ เปิดขายอยู่ตลอด 2 ฝั่งถนน ทั้งขาเข้าและขาออก
เดินออกไปตรงแยกพระโขนง ประมาณ 500 เมตร* จะมีโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่กว่า 6,000 ตร.ม.* ที่ประกอบไปด้วย Summer Hill ภายในจะมีทั้งร้านค้า, ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, Tops daily, ศูนย์ออกกำลังกาย, สปา, Co-Working Space และ Summer Hub ที่เป็น Office Building ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา
นอกจากตัว Summer Hill ที่เป็น Community Mall แล้ว ก็ยังมีเจ้าถิ่นอย่าง W District ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาออก หรือฝั่งตรงข้ามกับ Summer Hill โดย W District จะเป็นเหมือนโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งโรงแรม, Co-Working-Space, สปา, ร้านอาหารนานาชาติ, ร้านกาแฟ, คาเฟ่ขนม, ตลาดนัดชิค ๆ รวมถึงลานเบียร์กลางแจ้ง และร้านอาหารแบบ Bar & Restaurant
ห้างสรรพสินค้า, Hyper Market และ Community Mall อื่น ๆ ในระยะใกล้เคียงก็มีให้เลือกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Gateway เอกมัย, Major Cineplex, Big C อ่อนนุช, Century The Movie Plaza, Habito Mall, People Park, สวนเพลิน มาร์เก็ต, The Phyll, Big C พระราม 4, Lotus พระราม 4, Lotus อ่อนนุช, K Village, Rain Hill รวมถึง Emporium และ Emquartier ก็อยู่ไม่ไกลนะคะ ห่างจากโครงการ เพียง 3.9 กม.* จะขับรถ หรือนั่ง BTS ไปก็ทำได้ค่ะ
สถานศึกษาที่ใกล้กับโครงการก็มีให้เลือกมากมายและด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานค่อนข้างเยอะ ทำให้มีโรงเรียนนานาชาติกระจายตัวอยู่รอบ ๆ นับ 10+ โรงเรียน ใกล้ที่สุดจะเป็น St.Andrews (Srivikorn Campus) ที่ห่างจากโครงการ เพียง 1.1 กม.*
ถัดออกไปจะมีโรงเรียนนานาชาติ St Andrews (Primary Campus), HEI, Wells (Sukhumvit Campus), Bangkok PREP, Wells (Thonglo Campus), Trinity และ ASB ส่วนโรงเรียนเอกชนอื่น ๆ ก็จะมี รร.พระแม่มารีพระโขนง, รร.พระหฤทัยคอนแวนต์ และอยู่ไม่ไกลจาก ม.กรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท เพียง 750 เมตร* เท่านั้นค่ะ
โรงพยาบาลที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด จะเป็น รพ.กล้วยน้ำไท ที่อยู่ห่างจากโครงการ เพียง 170 เมตร* เดินเท้าไปได้สบาย ๆ ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี Bangkok Mediplex, รพ.เทพธารินทร์, รพ.สุขุมวิท, รพ.สมิติเวชสุขุมวิท, รพ.ร่วมใจรักษ์ และ Med Park ทุกที่จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่มีแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะสามารถขับรถจากโครงการไปประมาณ 5-10 นาที* เท่านั้นค่ะ
โครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับ Office Building เกรด A หลายแห่งมาก ๆ ใกล้ที่สุดจะเป็น Summer Hub ที่เดินไปได้ในระยะทางเพียง 550 เมตร* ถัดออกไปจะเกาะกลุ่มกันอยู่บนเส้นสุขุมวิทและตรงแยกพระราม 4 เช่น UNESCO, T-One Building, มาลีนนท์ ทาวเวอร์, DKSH, M Tower, FYI Center, The PARQ, Thaibev Quarter
ใกล้กับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แลนด์มาร์กที่โดดเด่นใจกลางกรุงเทพฯ เชื่อมต่อสวนเบญจกิติ-สวนลุมพินีได้ และยังรองรับการจัดงานทุกประเภท ออกแบบด้วยดีไซน์ล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ ซึ่งตอนนี้จะอยู่ระหว่างการปรับโฉมใหม่ ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 97% และมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2565 นี้
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
พิกัด Google Maps : 13.712590, 100.588442
การเดินทางเริ่มจาก แยกพระราม 4 ⇒ ถนนพระราม 4 ⇒ แยกกล้วยน้ำไท ⇒ กลับรถ ⇒ ถึงโครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4
ภาพประกอบการเดินทาง เราใช้แยกพระราม 4 ที่มาจากพระราม 3 The PARQ จะอยู่ซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปแยกพระโขนง
ผ่าน FYI และ ตลาดสดคลองเตย ขับตรงไปตามทางเรื่อย ๆ เลยค่ะ โครงการจะอยู่ฝั่งขวามือ
ผ่านแยกเกษมราษฎร์ Big C Extra และ Lotus’s พระราม 4
ผ่านแยกกล้วยน้ำไท ขับตรงไป ประมาณ 550 เมตร* ชิดขวากลับรถ
โครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ
ชิดขวากลับรถ
ถึงโครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4
ด้านหน้าโครงการ และ Sales Gallery Aspire สุขุมวิท-พระราม 4
บรรยากาศภายใน Sales Gallery มีพื้นที่รับรองลูกค้า พร้อมฝ่ายขายประจำการตลอดเวลาทำการ โดยที่นี่จะมีห้องตัวอย่างให้ชม 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Simplex และ แบบ Vertiplex
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ : Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 ตั้งอยู่บนที่ดินตอนลึก บนเนื้อที่ขนาด 4-3-55.8 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,323 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต ทางเข้า-ออกหลักมีเพียงทางเดียว โดยจะเชื่อมต่อมาจากถนนพระราม 4 เข้ามาประมาณ 200 เมตร* ซึ่งจะช่วยลดเสียง ลดกลิ่นควันของท่อไอเสียรถยนต์บนถนนใหญ่ได้เป็นอย่างดี บรรยากาศรอบ ๆ โครงการจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ความสูงบ้าน 2-3 ชั้น สลับกับตึกแถวความสูงไม่เกิน 5 ชั้น อะพาร์ตเมนต์สูงไม่เกิน 8 ชั้น
รอบโครงการ
PROJECT DETAIL
โครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 คอนโดไฮบริดใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Diverse as you Aspire ชูจุดขายครั้งแรกของการได้ใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ ตอบทุกความแตกต่างอย่างอิสระของคนเมืองรุ่นใหม่ ทั้งพื้นที่ภายในห้องชุดดีไซน์ใหม่ทั้งหมด พื้นที่ส่วนกลางดีไซน์พิเศษ Triple Facilities พื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม.* ตอบฟังก์ชันที่เชื่อม Work-Active-Retreat ครบจบทุกมิติ บนทำเลดี ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้ BTS พระโขนง
Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 จะพัฒนาเป็นคอนโด High-Rise 38 ชั้น วาง Layout มาเป็นรูปตัว C หันหน้าออกไปทางฝั่งถนนพระราม 4 โดย Facade Design จะออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีนิยมอย่างสีเทาเข้ม, สีเทาอ่อน และสีขาว ที่ชั้น 8-ชั้น Rooftop และแต่ง Facade ชั้นจอดรถด้วยสีเทาเข้ม, สีขาว แซมด้วยสีแดง เพื่อให้อาคารดูไม่เรียบเฉยจนเกินไป
โมเดลจำลองโครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4
Master Plan โครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกกล้วยน้ำไท-แยกพระราม 4 มีระยะ Setback จากถนนใหญ่เข้ามาประมาณ 200 เมตร* โดยตลอด 2 ข้างทาง จะเป็น The Linear Park และ Urban Green Space เพิ่มความสดชื่น ร่มรื่น แต่ตั้งเริ่มเข้ามาในโครงการ ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับตัวอาคารพักอาศัย โดยชั้นล่างจะเป็น Seamless Lobby Court ที่ถูกออกแบบให้มีทั้งโซน Indoor & Outdoor
Ground Floor Plan จากถนนใหญ่ตรงเข้าประมาณ 200 เมตร* จะเจอกับ The Drop-Off สำหรับจอดรถรับ-ส่งลูกบ้าน และมี The Pick-up ไว้รับ-ส่งอาหาร Delivery ผ่าน The Drop-Off เข้าไป จะเจอกับที่จอดรถชั้น 1, ทางขึ้นอาคารจอดรถที่ด้านข้าง และสามารถวนไปจอดรถยนต์ที่ด้านหลังและด้านข้างอาคารอีกฝั่งได้ โดยที่จอดรถจะเริ่มจากชั้น G-ชั้น 7 คิดเป็น 34% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และที่ชั้นนี้จะมีร้านค้าขนาดใหญ่ให้ถึง 2 ยูนิต
สำหรับ Seamless Lobby Court จะประกอบไปด้วย The Oasis พื้นที่สวนพักผ่อนโซน Outdoor ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กจุดแรกของโครงการ ถัดเข้าไปที่โซน Indoor ประกอบไปด้วย The Aspire Common, The Co-op Society, The Meeting, The Work Loft, The Chatroom และ The Mail Room ส่วนโถงลิฟต์จะแยกไว้ 2 ฝั่ง เพื่อการใช้งานได้สะดวกทั่วถึงกัน โดยฝั่งทิศตะวันตกจะได้ลิฟต์ล็อกชั้น จำนวน 3 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว / ฝั่งทิศตะวันออกจะได้ลิฟต์ล็อกชั้น จำนวน 2 ตัว
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Oasis พื้นที่สวนแลนด์มาร์กแรกด้านหน้าอาคาร กับการออกแบบที่ผสานกลิ่นอายของงาน Landscape และพื้นที่สีเขียวสไตล์โมเดิร์นไปพร้อมกับการปรับให้เข้ากับบริบทการใช้งานจริงของคนรุ่นใหม่ในทุกพื้นที่ พร้อมจัดเตรียมม้านั่งพักผ่อนไว้ให้หลายที่นั่ง
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Aspire Common หรือ Main Lobby ขนาดใหญ่ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมจัดเต็มสเปซดีไซน์เป็นสัดส่วนตอบเทรนด์ Work From Anywhere มาพร้อมกับ The Co-op Society-The Meeting-The Work Loft-The Chatroom พื้นที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการทำงาน ประชุม หรือนัดพบปะพูดคุย ทั้งแบบส่วนตัวเดี่ยวหรือแบบกลุ่มก็สามารถทำได้สะดวกสบาย พร้อมมุมมองบรรยากาศดี ๆ ของสวนขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ
Mazzanine Floor Plan จะเป็นทางขึ้นไปยังชั้นจอดรถ จุดนี้จะมีที่จอดรถในช่องจอดมาให้แต่ไม่เต็มชั้น พร้อมลิฟต์โดยสารฝั่งทิศตะวันออก ให้ลูกบ้านใช้ขึ้นไปยังห้องพักอาศัยได้เลย
แปลนอาคารชั้น 2 เป็นที่จอดรถแบบเต็มชั้น และมีลิฟต์โดยสารให้เลือกใช้ครบทั้ง 2 ฝั่ง
แปลนอาคารชั้น 3-7 เป็นที่จอดรถแบบเต็มชั้น และมีลิฟต์โดยสารให้เลือกใช้ครบทั้ง 2 ฝั่ง
แปลนอาคารชั้น 8 เป็นชั้นเริ่มต้อนของห้องพักอาศัยแบบ Simplex และที่ตั้งของ Main Facilities ในส่วนของห้องพักจะมีทั้งหมด 27 ยูนิต/ชั้น ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะหันออกมาทางหน้าโครงการ มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor เช่นเดียวกัน สำหรับพื้นที่ Indoor จะประกอบไปด้วย The Workout, The Gym, The Ride ส่วนพื้นที่ Outdoor และ Semi-Outdoor จะประกอบไปด้วย The Aqua, The Island, The Plunge Pool, The Beachfront, The Club และ The Water Lounge
ภาพและบรรยากาศจำลอง Main Facilities บนชั้น 8 กับส่วนกลางรูปแบบใหม่ Active-Passive Facilities โดยโซน Outdoor และ Semi-Outdoor จะประกอบไปด้วย The Aqua สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาวกว่า 25 เมตร พร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกายทางน้ำที่หลากหลาย รวมถึงระบบ Hydrotherapy Massage Jet แบบครบวงจรที่ The Plunge Pool
นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งเสริมกิจกรรมการที่ผ่อนคลาย อย่างเช่น The Island เกาะกลางน้ำ พร้อมพื้นที่สีเขียวเพิ่มความร่มรื่น, The Beachfront-The Club-The Water Lounge พื้นที่พร้อมการออกแบบในสไตล์ Beach Club ให้เกิด Ambience ที่ช่วยเพิ่มความสนุกและต่อยอดการสร้างสรรค์ ช่วยเสริมสร้างพลังไปพร้อม ๆ กับบรรยากาศความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ภาพและบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส พร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น และคำนึงถึงการใช้งานแยกเป็น The Gym ฟังก์ชันออกกำลังกายแบบ Bodyweight พร้อมอุปกรณ์ครบครัน The Work Out ตอบสายรักสุขภาพด้วยเครื่องวิ่งแบบ Treadmill และ The Ride เอาใจสายปั่นจักรยานด้วยเครื่อง Cycling ให้ Cardio Workout แบบเข้มข้นและสนุกสนาน
แปลนอาคารชั้น 9 จะเป็นชั้นพักอาศัยแต่ยังไม่เต็มชั้นค่ะ โดยจะมีห้องพักรวมทั้งหมด 35 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 10-30 เป็น Typical Floor Plan ของห้องพักรูปแบบ Simplex เราจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าอาคารเป็นรูปตัว C มีห้องพักทั้งหมด 45 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 31-37 เป็น Typical Floor Plan ของห้องพักรูปแบบ Vertiplex มีห้องพักทั้งหมด 45 ยูนิต/ชั้น เช่นเดียวกัน ซึ่งชั้นสูง ๆ ประมาณนี้จริงจะสามารถเปิดรับวิวเมืองและวิวโค้งน้ำบางกะเจ้าได้เต็มสายตา
แปลนอาคารชั้น 38 จะเป็นที่ตั้งของ Retreat Facilities พื้นที่สีเขียวของโครงการ ประกอบไปด้วย The Cloud สวนสีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่ พร้อม The Deck สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ชมวิวเมืองได้กว้างเต็มสายตา
แปลนอาคารชั้น 38 (Upper) จาก The Cloud จะมี The Flyover หรือบันไดสีแดงที่ใช้เดินออกกำลังกาย และใช้เดินวนขึ้นไปชั้นดาดฟ้าได้ โดยจะผ่าน The Peak ที่เป็นพื้นที่พักผ่อน และใช้เป็นจุมชมวิวเมืองกทม. และวิวบางกะเจ้าได้
ภาพและบรรยากาศจำลอง Retreat Facilities บนชั้น 38 ทางโครงการออกแบบให้ทุกพื้นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นให้เป็นสถานที่เติมเต็มความรู้สึกผ่อนคลายใจกลางเมือง พร้อมเปิดรับวิวโค้งน้ำบางกะเจ้าที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งจากมุมสูงแบบ 360 องศา
Highlight อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ The Flyover สะพานดีไซน์พิเศษ ที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีแดงพิเศษ Crimson Red สีที่เติมเต็มอารมณ์ความรู้สึก เพียงแค่เดินผ่าน ไปพร้อม ๆ กับชมวิวโค้งน้ำบางกะเจ้า ท่ามกลาง The Cloud สวนสีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชันตอบการใช้งานหลากหลายโซนส่วนตัวแนบชิดขอบฟ้ากรุงเทพฯ
แบบห้อง
โครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 มีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ ได้แก่
ห้องชุดแบบ Simplex : เริ่มชั้น 8-30
ห้องชุดแบบ Vertiplex : เริ่มชั้น 31-37
แบบห้อง Simplex : Studio ขนาด 26.50 ตร.ม.
แบบห้อง Simplex : 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม.
แบบห้อง Simplex : 1 Bedroom ขนาด 34.00 ตร.ม.
แบบห้อง Simplex : 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตร.ม.
แบบห้อง Vertiplex TYPE G3 ขนาด 25.00 ตร.ม.
แบบห้อง Vertiplex TYPE I1 ขนาด 33.00 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
โครงการ Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 มีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบ Simplex 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม. และแบบ Vertiplex ขนาด 33.00 ตร.ม. ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ จะเป็นห้องชุดรูปแบบใหม่ดีไซน์พิเศษจาก AP ที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตที่แตกต่างอย่างมีอิสระที่เลือกเองได้ พร้อมพื้นที่แบบ Freespace ที่ลงตัวและใช้งานได้จริงในทุกยูนิต
โดยโครงการจะขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted วัสดุและสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับภายในห้องมาตรฐานมีดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง TYPE C1 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง New Simplex แบบ 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม. เป็นห้องพักดีไซน์ใหม่ มีการขยายพื้นที่ส่วนพักผ่อนให้กว้างมากขึ้น เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ โดยห้อง TYPE C1 จะเป็นห้องพัก Size เริ่มต้นของแบบ 1 Bedroom เป็นห้องพักตอนลึก แบ่งฟังก์ชันภายในไว้ 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
Free Space Zone ที่เป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันและเฟอร์นิเจอร์ได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของห้อง มีประตูห้องน้ำที่หมุนมาทางด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยให้ห้องครัวมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น
Recharged Zone ห้องนอน พร้อม Walk-in Closet และระเบียงพักผ่อน ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางราวตากผ้าหรือจัดสวนคอนโดได้
เปิดประตูเข้ามาด้านในห้องจะเจอกับ Common Area ที่เป็นพื้นที่ของครัวเปิดและมุมทานอาหาร มองต่อเนื่องไปจะเป็น Living Area และห้องนอน ที่อยู่ด้านในสุด ความสูงพื้น-เพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร พื้นห้องชุดปูลามิเนตลายไม้สีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Panel ประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
มองกลับออกมาดูภาพรวม Common Area จะมีระยะใช้งานสบาย ๆ ค่ะ สามารถยืนทำอาหาร, ล้างจาน, เปิดตู้เย็น, นั่งทานข้าว และเดินเข้า-ออก เคลื่อนย้ายข้าวของเข้าห้องได้สะดวก
โครงการติดตั้งชุดครัว Built-in หน้าท็อปหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง หน้าบานเป็นเมลามีนสีเทาและสีเบจ พร้อม Backsplash แกรนิตโต้ และติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ สำหรับต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ 1 จุด ค่ะ
ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกของ Teka มีฟังก์ชันพิเศษเป็นหน้าบานปิดซิงค์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหารหรือวางของได้มากขึ้นนั่นเอง
อีกฝั่งจะติดตั้งเตาเซรามิกไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันของ Teka แบบต่อท่ออากาศออกด้านนอกอาคาร
ด้านบนได้เป็นตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอย มีชั้นวางของไว้สำหรับวางเครื่องปรุง, อาหารแห้ง, อุปกรณ์ของใช้ในครัวเรือน และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน ด้านหลังติดเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
ส่วนด้านล่างเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. ด้านหลังมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ และงานระบบประปา ต่อท่อน้ำดี+ท่อน้ำทิ้งมาให้พร้อมใช้งาน
ข้างที่วางเครื่องซักผ้าจะเป็นตู้เก็บของ พร้อมชั้นวางของอะลูมิเนียมที่เลื่อนเข้า-ออกได้ ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของให้อีก 1 ช่อง
ชั้นวางของใต้ซิงค์ล้างจานจะมีการติดแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำ กันชื้นมาให้ ฝั่งนี้จะเหมาะสำหรับทำเป็นห้อง Stock ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน อย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ, แชมพู-ครีมนวดผม, สบู่อาบน้ำ, ห่อกระดาษทิชชู่ รวมถึงใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้านก็ยังได้
ข้างชุดครัวจะมีพื้นที่เหลือให้วางตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 6-10 คิวได้ ด้านหลังมีการติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้พร้อมต่อใช้งานเช่นเดียวกัน
ตรงข้ามกับครัวจะมีพื้นที่เหลือให้วาง หรือ Built-in ตู้เก็บรองเท้า ติดกันจะสามารถวางโต๊ะทานข้าว ขนาด 2-3 ที่นั่ง เข้าไปได้ค่ะ
ถัดเข้ามาจะเจอกับ Living Area ขนาดใหญ่ ห้องจริงจะเป็นผนังทึบฉาบเรียบทาสี โดยบริเวณนี้จะสามารถวางเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบ ทั้งโซฟา, โต๊ะรับแขก, ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงาน
ซ้ายมือสามารถวางโซฟาขนาด 2-4 ที่นั่งได้เลยค่ะ ในภาพจะวางเป็นขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะข้างและโต๊ะรับแขกด้านหน้า ใครที่ชอบพักผ่อนโดยการนั่งเอนดูหนังสบาย ๆ ก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นโซฟา L-Shape ได้เลยนะคะ
ตรงข้ามกับโซฟาจะสามารถ Built-in หรือวางชั้นวางแบบ Multifunction ได้ตามชอบ หรือจะแบ่งพื้นที่ครึ่งนึงให้เป็นมุมทำงาน หรือมุมประชุมออนไลน์อยู่ที่บ้านก็ได้ค่ะ ส่วนห้องจริงจะได้เป็นผนังทึบฉาบเรียบทาสี พร้อมเดินงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ Lan Internet ให้ครบ
มองกลับมาดูบรรยากาศภาพรวมภายใน Living Area
ที่ตั้งของห้องน้ำจะอยู่ภายใน Living Area ออกแบบให้ทางเข้าหันเข้ามาภายในห้อง ได้ความเป็นส่วนตัว โดยห้องจริงจะมีประตูติดมาให้มาตรฐาน และมีการยกธรณีกระเบื้องสูงขึ้นมาให้ 5 ซม. เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนกลับออกมาด้านนอก
ห้องน้ำตอนลึกขนาดกว้างกำลังดี แบ่งส่วนแห้งและกั้นแยกส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาและกระเบื้อง 3 มิติสีเทาอ่อน ดูโมเดิร์น น่าใช้งาน สุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ตำแหน่งตามภาพ ได้เป็นของ Cotto มีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมแบบฝังฝ้า 1 ตัว
อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้จุกจิก อย่างเช่น ที่ใส่แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน, สบู่ล้างมือ, กระดาษทิชชู่ รวมถึงน้ำหอมดับกลิ่นได้ / ส่วนตัวก๊อกจะเป็นโครเมียมก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก ทุกเพศทุกวัย
ผนังติดตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงามาให้ พร้อม Low-Wall แนวยาวไปจนสุดด้านหลังโถสุขภัณฑ์ เพิ่มพื้นที่ให้วางของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะมากขึ้น โดยไม่ต้องเจาะผนังติดชั้นเพิ่มเอง
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลสครบเซ็ต
ผนังขวามือมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ 1 ชิ้น ด้านในสุดเป็นส่วนเปียก กั้นแยกโซนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด ประมาณ 1.0 x 0.80 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ด้านในติดฝักบัว Hand Shower ของ Cotto พร้อมราวปรับระดับความสูง-ต่ำ และถาดใส่สบู่ ก๊อกน้ำได้เป็นแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก
ถัดจากห้องน้ำ และ Living Area เข้าไปจะเป็นที่ตั้งของห้องนอน พร้อม Walk-in Closet และระเบียง
ประตูห้องนอนจะได้เป็นกระจกเขียวตัดแสง แบบบานเลื่อน 3 ตอน ความสูงจรดฝ้าเพดาน ตัวกรอบประตูใช้เป็นสี Euro Grey วัสดุเป็นอะลูมิเนียม Powder Coat แข็งแรง ทนทาน เก็บเสียงได้ดี และมี Door Stopper ติดกันกระแทกมาให้ด้วยค่ะ
ห้องนอนขนาดกว้างดี รองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต และ มีพื้นที่ Corner เล็ก ๆ ให้วางตู้เสื้อผ้าได้
ในห้องตัวอย่างจะวางเตียงนอน 5 ฟุต, โต๊ะทำงาน และโต๊ะหัวเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน
ข้างเตียงนอนจะมีหน้าต่างบานผสมติดมาให้ 2 ชุด โดยจะมีทั้งแบบบานเปิด ไว้รับลม ระบายอากาศ และมีบานฟิกซ์ด้านล่างใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดี เปิดรับมุมมองภายนอกได้เต็มสายตา และยังช่วยให้ภาพรวมในห้องนั้นดูโปร่ง โล่ง กว้างมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
ปลายเตียงห้องจริงจะเป็นผนังเปล่าฉาบเรียบทาสี มีเครื่องปรับอากาศ Wall Type ติดมาให้ 1 ตัว จุดนี้สามารถติดทีวีแขวนผนังหรือชั้นวางของแนวยาวเข้าไปได้ อีกฝั่งจะเป็น Corner สำหรับวางตู้เสื้อผ้า หรือจะวางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ก็ได้ตามชอบ
ในห้องตัวอย่างวางตู้เสื้อผ้าบานเปิด ความกว้าง ประมาณ 1.5 เมตร มาให้ดูเป็นไอเดีย โดยด้านหน้ายังพอมีพื้นที่เหลือให้ยืนแต่งตัว เลือกหยิบเสื้อผ้าได้สบาย ๆ
ติดกันจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ใช้เปิดออกไปยังระเบียงด้านนอก พร้อมยกธรณี-วงกบขึ้นมา ประมาณ 10 ซม. เพื่อป้องกันความชื้น, ฝุ่นผง และน้ำฝนไม่ให้กระเด็นเข้าสู่ห้องพักโดยตรง
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเบจ 30 x 30 ซม. พร้อมเจาะท่อระบายน้ำทิ้ง ติดก๊อกสนามมาให้เรียบร้อย จุดนี้จะสามารถวางราวตากผ้าหรือจัดสวนครัวเล็ก ๆ บนคอนโดได้
ราวกันตกได้เป็นระแนงเหล็กแนวตั้งสีเทา ความสูง ประมาณ 90 ซม. ติดกันจะเป็นกริลอะลูมิเนียมสีเทาไว้บัง CDU เวลามองจากด้านนอกอาคารเข้ามาก็จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของโครงการนั้นดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม
มองกลับเข้ามาดูบรรยากาศภาพรวมภายในห้อง TYPE C1 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง TYPE I1 New Vertiplex ขนาด 33.00 ตร.ม.
แปลนห้องตัวอย่าง New Vertiplex ขนาด 33.00 ตร.ม. เป็นห้องชุดรูปแบบใหม่ เพดานสูง Double Volume ที่สูงถึง 4.4 เมตร โดยจะตั้งอยู่ที่ชั้น 31-37 ออกแบบรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและความคุ้มค่าในการใช้งานพื้นที่ทุกตารางนิ้วได้จริง
โดยห้องที่เราจะพาไปชมจะเป็นห้อง Highlight ของโครงการ เริ่มด้วยการดีไซน์ส่วนพักผ่อน และพื้นที่ครัวที่เปิดมุมมองที่โปร่งโล่ง มี Plus Room แบบปิดเป็นสัดส่วน ตั้งอยู่ติดหน้าต่างบานใหญ่และระเบียงพักผ่อน ช่วยให้ Plus Room ดูโปร่งและกว้าง เปิดรับลมรับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน
ภายใน Plus Room จะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องรองรับทุกกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมในแต่ละวัน ทั้งยังมี Storage เพดานสูงให้เก็บของหรือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ ในส่วนของพื้นที่เพดานที่สูงอีกด้าน จะมีบันไดล้อเลื่อน และชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้
ส่วนห้องนอนบนชั้นลอยเหนือ Plus Room จะรองรับเตียง 5 ฟุต และมี Corner หน้ากว้างให้วาง หรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ได้ ข้างเตียงนอนจะมีหน้าต่างบานผสมชุดใหญ่ ให้เปิดรับวิวเมืองและวิวโค้งน้ำบางกะเจ้าได้อย่างเต็มอิ่มเพิ่มขึ้น
เปิดประตูเข้าภายในห้องพักจะเจอกับ Common Area ที่เป็นห้องครัวเปิดและห้องน้ำ ฝ้าเพดานภายในห้อง Vertiplex ได้ความสูงมากถึง 4.4 เมตร ให้ความรู้สึกที่โปร่ง โล่ง สบาย พื้นห้องชุดปูลามิเนตลายไม้สีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Panel ทั้งห้อง ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้าได้ดี
มองกลับออกมาดูภาพรวมตรง Common Area ซ้ายมือหน้าห้องน้ำทางโครงการ Built-in ตู้เก็บของแนวสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนระยะใช้งานตรงกลางเหลือกว้าง ประมาณ 1 เมตร สามารถยืนทำอาหาร, ล้างจาน, เปิดตู้เย็น เดินเข้า-ออกห้องน้ำและห้องพักได้อย่างสะดวก ไม่ติดขัดเฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่น ๆ
ชุดครัว Built-in ที่ได้รับเหมือนกันกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ทุกประการ ได้หน้าท็อปหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมบานปิดหน้าซิงค์, เตาเซรามิกไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ต่อท่อระบายอากาศออกด้านนอกอาคาร พร้อม Backsplash, ตู้เก็บของบน-ล่าง, ช่องวางไมโครเวฟ และช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่เดินงานระบบประปา+ไฟฟ้ามาให้พร้อมต่อใช้งาน
ข้างชุดครัวมีพื้นที่เหลือกำลังดี สามารถวางตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 6-10 คิว หรือจะวางตู้เย็น 8 คิว แล้วเสริมด้วยชั้นวางของแบบมีล้อเลื่อนก็ทำได้
ตรงข้ามกับครัวจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ ห้องจริงติดประตูไม้ และยกธรณีกระเบื้องสูง 5 ซม. ป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอกให้แบบนี้
ห้องน้ำแบบห้องหน้ากว้าง ได้การตกแต่งลายกระเบื้องพื้น-ผนัง, ฟังก์ชันการใช้งานส่วนแห้ง-ส่วนเปียก และสุขภัณฑ์มาตรฐานจาก Cotto เหมือนกันกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้ทุกประการ
ภาพรวมส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลส ผนังด้านหลังมี Low-Wall แนวยาวให้วางของใช้ได้เยอะ พร้อมติดตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงา เพดานติดพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 เครื่อง
ด้านในสุดเป็นส่วนเปียก แยกโซนด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเลื่อน 3 ตอนให้แบบในภาพ ภายในติดตั้งฝักบัว Hand Shower ของ Cotto พร้อมราวปรับระดับความสูง-ต่ำ และถาดใส่สบู่ ก๊อกน้ำได้เป็นแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.2 x 0.80 แมตร ระยะใช้งานกำลังพอดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ
ถัดจาก Common Area เข้ามาจะเจอกับ Living Area และ Plus Room ที่ด้านในสุด ขวามือจะมีบันไดทางขึ้นไปยังชั้นลอย ที่เป็นฟังก์ชันของห้องนอน และ Walk-in Closet
Living Area ได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง สามารถรวมพื้นที่นั่งเล่น และมุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ตรงข้ามกันจะเป็นผนังเปล่าข้างบันได จุดนี้จะสามารถวาง หรือ Built-in ชั้นวางทีวีความกว้าง ประมาณ 1-1.5 เมตรได้ โดยผนังด้านหลังจะมีการเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ Lan Internet มาให้เรียบร้อย
ระยะใช้งานตรงกลางเหลือกว้างประมาณ 2 เมตร นั่งดูซีรีส์กับทีวีจอใหญ่ได้สบายสายตา ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟไว้สำหรับวางของทานเล่นหรือของใช้จุกจิกได้ และสามารถเดินเข้า-ออก Plus Room และระเบียงได้อย่างสะดวก
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็น Plus Room แยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สี Euro Grey
Plus Room ขนาดใหญ่ เป็นห้อง Hybrid Activities ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย รองรับทุกกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมในแต่ละวัน ไม่ว่าจะทำเป็นห้องทำงาน, ห้องแต่งตัว หรือจะทำเป็นห้องนอนอีกห้อง ก็มีพื้นที่เพียงสำหรับการวางเตียงเดี่ยว, ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวี
ภายในห้องตัวอย่างนี้จะตกแต่งเป็นห้องทำงาน และมุมทำงานอดิเรกมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ความสูงจากพื้น-ฝ้าเพดานส่วนนี้จะอยู่ที่ ประมาณ 2.15 เมตร
ในห้องจะมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงบานผสมขนาดใหญ่ติดมาให้ 1 ชุด โดยจะมีทั้งแบบบานกระทุ้งไว้เปิดรับลม ระบายอากาศ และบานฟิกซ์ที่ใช้เปิดรับแสง และยังสามารถ Takeview โค้งน้ำบางกะเจ้าได้ด้วยค่ะ
ติดกันจะเป็นประตูทางออกไประเบียง ได้เป็นประตูกระจกเขียวตัดแสง บานกรอบอะลูมิเนียมสี Euro Grey แบบบานเลื่อน 3 ตอน พร้อมยกธรณี-วงกบสูงขึ้นมา ประมาณ 10 ซม. เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก ความชื้น และน้ำฝนไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องโดยตรง
ระเบียงซักล้างขนาดพอเหมาะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทากันลื่น 30 x 30 ซม. พร้อมติดก๊อกสนาม และเจาะท่อระบายน้ำทิ้งมาให้เรียบร้อย
ติดตั้งราวกันตกระแนงเหล็กสีเทากันสนิม ความสูง ประมาณ 90 ซม. พร้อมกริลบัง CDU ที่ด้านบนสุด โดยเพดานส่วนนี้จะสูง 4.4 เมตร เท่ากันกับ Living Area ภายในห้อง
มองขึ้นไปด้านบนจะติด CDU ไว้ทั้งหมด 2 ตัว ผนังซ้ายมือติดโคมไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง
จากระเบียงมองกลับเข้ามาภายใน Plus Room จะเป็นที่ตั้งของ Storage ใต้บันได มีประตูปิดมิดชิดเป็นสัดส่วน โดยห้องนี้จะตอบโจทย์ชาวคอนโดที่มีของเยอะ ๆ สามารถเก็บของชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย รวมไปถึงของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างกระเป๋าเดินทาง, ถุงกอล์ฟ และเครื่องดูดฝุ่นได้สบาย ๆ
จาก Plus Room มองกลับเข้ามาภายใน Living & Common Area
อีก Gimmick ที่อยากจะพูดถึงห้องนี้คือจะมีพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอย ที่มีบันไดให้เดินขึ้น-ลงไปเก็บของได้อย่างสะดวก
ตัวบันไดออกแบบให้เป็นแบบล้อเลื่อนแบบดึงเข้า-ออก ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่กว่าบันไดแบบฟิกซ์
ด้านบนชั้นลอยเป็นพื้นที่โล่ง ๆ สามารถทำเป็นห้องเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือจะใช้เป็นห้องเก็บของสะสม โดย Built-in ตู้แนวสูงไปเลยก็ได้ค่ะ
ขึ้นไปที่ชั้นลอยที่ทำเป็นห้องนอนกันต่อ จุดนี้จะได้บันไดสำเร็จรูป ลูกตั้ง-ลูกนอนไม้ยางพาราประสานสีอ่อน พร้อมราวเหล็กสีดำ มือจับชนิดเดียวกันกับตัวลูกนอน
ด้านบนจะได้เพดานสูง ประมาณ 2.05 เมตร พร้อมพื้นที่สำหรับวางเตียงนอน และ Walk-in Closet โดยพื้นชั้นลอยจะปูด้วยลามิเนตลายไม้ทั้งชั้น
ภายในสามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง และมีพื้นที่เหลือใช้งานได้สะดวกดี
ในห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่มาอีก 1 ชุด เช่นเดียวกันคือจะมีทั้งแบบบานกระทุ้ง ไว้เปิดรับลม เปิดระบายอากาศ และตัวบานฟิกซ์ที่ใช้รับแสง และมองวิวบ้านเรือน วิวคุ้งน้ำบางกะเจ้าได้
ปลายเตียงนอนจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ ที่สามารถติดชั้นวางของ หรือทีวีแขวนผนังเข้าไปได้ ด้านบนติดเครื่องปรับอากาศ Wall Type มาให้มาตรฐาน 1 เครื่องค่ะ
บรรยากาศภาพรวมห้องพัก New Vertiplex ขนาด 33.00 ตร.ม.
ราคา (ส.ค.65)
ลงทะเบียนออนไลน์วันนี้รับสิทธิพิเศษรวมสูงสุด 100,000 บาท* คลิก : https://bit.ly/3SIItvJ
**หมายเหตุ ราคา โปรโมชัน แบบห้องพักและสเปกวัสดุอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทเท่านั้น โปรดโทรสอบถามราคาและโปรโมชันปัจจุบันที่สำนักงานขายอีกครั้งค่ะ **
บทสรุปโครงการ
♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Aspire สุขุมวิท-พระราม 4 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพระราม 4 เป็นคอนโดใหม่ในย่าน Business District ใกล้ทั้งฝั่งพระราม 4 และฝั่งสุขุมวิท ถือเป็นทำเลที่มีความ Prime แบบ Shortcut Access มีทางลัดเข้าสู่เอกมัย-ทองหล่อได้ ในเวลาสั้น ๆ และสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้อย่างรวดเร็วทันใจ อยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน, สวนสาธารณะ, โรงเรียนนานาชาติ, โรงเรียนเอกชนชื่อดัง และโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย
ที่สำคัญคือเป็นทำเลที่ใกล้กับโครงการ Mixed-Use หลายโครงการ ทั้งอยู่ระหว่างก่อสร้าง และโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ทำเลบริเวณนี้จะมีมูลค่าที่ดี และยังสามารถสร้าง Rental Yield ที่สูงขึ้นได้เมื่อคอนโดสร้างเสร็จ ตอบโจทย์ทั้งคนซื้ออยู่เอง และนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อเก็งกำไร และปล่อยเช่าเป็นอย่างมาก
♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ถนนพระราม 4 เองก็สามารถใช้วิ่งเข้าออกเมืองได้ และยังสามารถเชื่อมกับถนนสุขุมวิทได้ ทั้งวิ่งเส้นหลักและมีซอยลัดให้เลี่ยงรถติดตรงแยกพระโขนงได้อีก ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 2 สาย ทั้งขาเข้าและขาออกเมือง
♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ตัวโครงการห่างจาก BTS พระโขนง ประมาณ 600 เมตร* เดินไปได้สบาย ๆ หรือจะใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้ จะไปไหนมาไหนก็สะดวก ไม่ต้องเสียเวลารถติด โดยเฉพาะถ้าจะนั่งเข้าเมือง ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ ก็มีทั้งรถเมล์ ที่เดินจากโครงการไปไม่ไกลก็ถึงป้ายรถประจำทาง ส่วน Taxi กับพี่วินมอเตอร์ไซค์ ก็มีผ่านหน้าโครงการตลอดทั้งวัน
♦ การออกแบบโครงการและที่ดิน : โครงการนี้เป็นคอนโด High-Rise 38 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 4-3-55.8 ไร่ มีห้องพักทั้งโครงการ 1,323 ยูนิต และร้านค้าในโครงการ 2 ยูนิต จำนวนต่อชั้นอยู่ที่ 45 ยูนิต (Typical Floor Plan) ถือเป็นโครงการขนาดกลาง ๆ ไม่หนาแน่นมาก หน้าตาอาคารดูโมเดิร์นทันสมัย และเน้นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ มองจากภายนอกเข้ามาดูร่มรื่น น่าอยู่
ห้องชุดรูปแบบใหม่ดีไซน์พิเศษ รวมกว่า 36 รูปแบบ ตอบโจทย์ความต้องการและการใช้ชีวิตที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่แบบ Freespace ที่ลงตัวและใช้งานได้จริงในทุกยูนิต โดยส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-37 โดยแบบห้องชุดมีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ รูปแบบ Simplex ห้องพักเริ่มต้นที่ชั้น 8-30 ได้ห้องชุดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24.00-55.00 ตร.ม.
โดยห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องผังใหม่ 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม. ที่จัดสรรทุกสเปซได้อย่างเป็นสัดส่วนและลงตัว มาพร้อมครัวปิด พื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง / อีกแบบจะเป็น Vertiplex เพดานสูง Double Volume ที่สูงถึง 4.4 เมตร ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 25.00-52.00 ตร.ม. ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและความคุ้มค่าในการใช้งานพื้นที่ทุกตารางนิ้วได้จริง พร้อมเปิดรับวิวเมืองและวิวโค้งน้ำบางกะเจ้าได้อย่างเต็มอิ่มเพิ่มขึ้น
โดยห้องตัวอย่างแบบ Vertiplex ขนาด 33.00 ตร.ม จะมีการดีไซน์ส่วนพักผ่อน และพื้นที่ครัวที่เปิดมุมมองที่โปร่งโล่ง Plus Room แบบปิดเป็นสัดส่วน พร้อม Storage ใต้บันได ให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องรองรับทุกกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม ส่วนพื้นที่เพดานที่สูง สามารถติดตั้งชุดเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของดีไซน์พิเศษแบบ Double และห้องนอนบนชั้นลอยพร้อม Walk-in Closet โดยห้องชุดสไตล์ Vertiplex จะเริ่มต้นในชั้น 31-37 เป็นต้นไปค่ะ
♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : ได้พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 5,000 ตร.ม.* พร้อมดีไซน์ทุกมิติการใช้งานพื้นที่ภายนอกและภายใน Work-Active-Retreat แบบไร้รอยต่อ เริ่มต้นที่ชั้น G มี The Oasis พื้นที่สวนแลนด์มาร์กจุดแรก, The Aspire Common Main Lobby ขนาดใหญ่ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อม The Co-op Society,The Meeting,The Work Loft, The Chatroom พื้นที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการทำงาน พร้อมมุมมองบรรยากาศดี ๆ ของสวนขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ
ที่ชั้น 8 จะได้เป็นส่วนกลางรูปแบบใหม่ Active-Passive Facilities ด้วยการออกแบบสเปซฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้แบบ Infinity Loop เริ่มด้วยฟิตเนส และ The Ride เชื่อมต่อไปยัง The Aqua สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาวกว่า 25 เมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่งเสริมกิจกรรมการผ่อนคลาย อย่างเช่น The Island, The Beachfront, The Club, The Water Lounge ในสไตล์ Beach Club
และ Rooftop (ชั้น 38) Retreat Facilities ที่เปิดรับวิวโค้งน้ำบางกะเจ้าได้แแบบ 360 องศา ไฮไลต์ มี The Flyover สะพานดีไซน์พิเศษ ที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีแดงพิเศษ Crimson Red ให้เดินเล่น หรือใช้เป็นจุดชมวิวโค้งน้ำบางกะเจ้า ท่ามกลาง The Cloud สวนสีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่พร้อมฟังก์ชันตอบการใช้งานหลากหลายโซนส่วนตัวแนบชิดขอบฟ้ากรุงเทพฯ เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623
Website : https://bit.ly/3SIItvJ
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น