Written by : Pure Thitapa
วันนี้เราจะไปชมคอนโดใหม่ในรอบ 5 ปี ที่เปิดตัวในโซนอนุสาวรีย์ฯ กับโครงการ ‘ASPIRE วิภา-วิคตอรี่‘ คอนโด Mass Segment ใหม่ล่าสุดจาก AP Thailand (EIA Approved) บนทำเลสุด Rare Item ติดถนนใหญ่ ใกล้ “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” เชื่อมต่อไปยังทำเลอื่น ๆ ได้ง่าย ทั้งกรุงเทพฯ ชั้นใน, ชั้นนอก, ปทุมธานี และปริมณฑล หรือจะไปถนนพระราม 9 และถนนวิภาวดี-รังสิตก็ทำได้ง่าย
เดินทางสะดวกสบายด้วยรูปแบบการเดินทางหลากหลาย ใกล้ทางด่วนหลัก 3 สาย, รถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, Airport Link ราชปรารภ, รถไฟฟ้าใต้ดิน และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน ตัดผ่านหน้าโครงการอีกด้วยค่ะ
‘ASPIRE วิภา-วิคตอรี่‘ ถือเป็นคอนโดใหม่ที่สุดในย่านนี้ ที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย ตอบรับทุกรูปแบบในการใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกและคล่องตัว ใกล้ตลาดสด, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียนชั้นนำ, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน, สถานที่ราชการ และโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมากกว่า 17 แห่ง
แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโด High-Rise สูง 29 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 2-2-70.7 ไร่ มีห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 593 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต พร้อมผังห้องชุดแบบใหม่ที่มีให้เลือกมากถึง 18 แบบ รองรับทั้งการอยู่คนเดียว, แบบ Couple และครอบครัวเริ่มต้นที่เน้นการใช้เวลาร่วมกัน
มีห้องพักให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ ห้องชุดแบบ Simplex (ห้องเพดานสูง 2.5 ม.) ตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 2 Bedroom 2 Bath ขนาดเริ่มต้น 26.50-60.00 ตร.ม. และห้องชุดแบบ Vertiplex (ห้อง Double Volume เพดานสูง 4.45 ม.) ขนาดเริ่มต้น 26.00-46.00 ตร.ม. โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/ 2568
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน กระจายไว้ทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางเมืองที่โอบล้อมตัวอาคารในส่วนของชั้น G พร้อมสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 ม. รองรับการออกกำลังกาย Outdoor หลากหลายรูปแบบ
ชั้น 1 ภายในร่ม ประกอบไปด้วย The Parlour, The Aspire Common, The Breathtaking Scenery, The Hop & Bounce Yard และ The Co-Op Society ที่รองรับการทำงาน, การพักผ่อน, พบปะเพื่อนฝูง หรือติดต่อธุรกิจได้ และมีการแบ่งโซนส่วนตัวและส่วนกลางออกจากกันได้อย่างลงตัว
ที่ชั้น 8 จะมี The Aqua มาพร้อมฟังก์ชัน Aqua Exercise และ Jacuzzi เพื่อความผ่อนคลายสูงสุด และ The Healthy Space พร้อมอุปกรณ์ฟิตเนสครบครันในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group รวมถึงมี The Sky Lounge และ The Sky Park พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 29 ที่ทุกจุดของชั้นนี้จะสามารถชมวิวเมืองได้รอบด้านแบบ 360 องศาเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสุดพรีเมียม ทั้งการเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Katsan ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์, เข้า-ออกอาคารพักอาศัย, ส่วนกลาง และลิฟต์โดสารผ่านระบบ Face Scan ช่วยลดการสัมผัส สะดวกไม่ต้องพกกุญแจ มี CCTV ติดมาให้ที่ด้านหน้าและภายในโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประจำการตลอด 24 ชม. | 1 Bedroom New Layout ราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท* (ม.ค. 67)
ลงทะเทียนรับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* คลิก : https://apth.ly/kprf
รายละเอียดอื่น ๆ ของโครงการนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ / ASPIRE Vibha-Victory |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด / AP Thiland |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-2-70.7 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 29 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | Simplex ชั้น 8-21
Vertiplex (ห้อง Double Volume เพดานสูง 4.45 ม.) ชั้น 22-28
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 240 คัน (ประมาณ 40.5 % รวมจอดซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตดินแดง |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ถนนอโศก-ดินแดง หัวมุมแยกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/66 (EIA Approved) |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/2568 |
ราคา | เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (ม.ค. 67) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 98,000 บาท/ตร.ม.* |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด คอมมูนิตี้ มอลล์ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก | ชั้น Ground
ชั้น 8
ชั้น 29
ระบบรักษาความปลอดภัย
|
Tel | 1623 |
Line | https://line.me/ti/p/~@apthai |
Website | https://apth.ly/kprf |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนอโศก-ดินแดง หัวมุมแยกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/42vDNkmvB1xPc7eg7
ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโด Mass Segment ที่ดีที่สุดจาก AP Thailand ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางสามเหลี่ยมดินแดง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำเลฮอตที่ทำให้ทุกจุดหมายใกล้แค่เอื้อม ปัจจุบันในย่านดินแดง ราชปรารถ เชื่อมต่ออนุสาวรีย์ชัยฯ รวมถึงย่านวิภาวดี แทบจะไม่มีโครงการใหม่ ๆ เปิดตัวมานากว่า 5 ปีแล้ว
โดย Supply ที่มีราคาขายเฉลี่ยในโหมด 115,000-155,000 บาท/ตร.ม. จำนวน 2 ใน 4 โครงการ ได้ปิดการขาย 100% ไปแล้ว ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี ส่วน Supply ที่คงเหลือขายอยู่ ณ ปัจจุบันประมาณ 100 ยูนิต ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2017
ในขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีอยู่อย่างต่อเนื่อง กลุ่มดีมานด์ในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นคุณหมอ, พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยศักยภาพของทำเลที่แวดล้อมด้วย Medical Center มากถึง 17 ยกตัวอย่างเช่น รพ.ราชวิถี, รพ.เด็ก, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.พญาไท 2 และ รพ.รามาธิบดี
นอกจากนั้นยังมีพนักงานออฟฟิศ จากอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มศึกษา และนิสิตแพทย์ ที่ยังคงต้องการหาซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยที่ใกล้ที่ทำงาน สถานศึกษา เพื่อ Save เวลาในการเดินทาง และเพิ่มเวลาส่วนตัว เวลาในการพักผ่อนให้มีมากยิ่งขึ้น
ใครใช้รถยนต์ส่วนตัว ทำได้สะดวกมาก ๆ สามารถเชื่อมต่อไปยังทำเลอื่น ๆ ทั้งกรุงเทพฯ ชั้นใน, ชั้นนอก, ปทุมธานี และปริมณฑลได้ง่าย มีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะใช่เส้นทางด้านล่าง หรือทางด่วน โดยที่นี่จะใกล้กับทางด่วนได้ถึง 3 แห่ง ทั้งทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ จากโครงการขับรถไปสนามบินดอนเมืองได้ง่ายมาก เพียงครึ่งชม.* ไม่เกินนี้
ส่วนเรื่องของขนส่งสาธารณะ มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายมาก ๆ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้ง BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, MRT พระราม 9 รวมถึง Airport Link ราชปรารถ ที่ใช้นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้เพียงต่อเดียว สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาได้ดีมาก ๆ
เมื่อเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะมีบริการ Shuttle Service ไปส่งที่ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ ให้บริการ และในอนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านหน้าโครงการ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้เกิดการลงทุน และการพัฒนาต่าง ๆ ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : โครงการตั้งอยู่ติดถนนอโศก-ดินแดง ตรงหัวมุมแยกดินแดง ทำให้เดินทางเข้าเมือ-ออกเมืองได้สะดวก ใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ เพียง 950 ม.* เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลาย อย่างเช่น ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนราชปรารภ, ถนนราชวิถี, ถนนพญาไท, ถนนพหลโยธิน, ถนนเพชรบุรี, ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 9
จึงทำให้สะดวกทั้งการเดินทางเข้าเมืองไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ เดินทางออกเมืองไปโซนปริมณฑล และเดินทางไปยังโซนอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้กับทางด่วนหลายสาย ในระยะทางไม่ถึง 2 กม.* ก็ขึ้นทางด่วนได้เลย
ใกล้ทั้งทางด่วนศรีรัช ด่านพหลโยธิน 2 ที่ใช้วิ่งไปงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ หรือออกไปปริมณฑลในย่านบางแค-บางบัวทอง ใกล้ด่านพหลโยธิน 1 ที่ใช้วิ่งไป New CBD พระราม 9 ได้ง่าย ใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครได้ที่ด้านบน และใกล้กับดอนเมืองโทลล์เวย์ ที่ใช้วิ่งไปดอนเมือง-รังสิต หรือเข้าเมืองไป CBD พระราม 4-สาทรได้ค่ะ
ส่วนการเข้าถึงโครงการถ้ามาจากในเมือง หรือมาจากฝั่งราชปรารภ, ราชวิถี, พญาไท หรือพหลโยธิน จะต้องผ่านอนุสาวรีย์ฯ เพื่อเข้าเส้นดินแดง แล้วไปกลับรถตรงแยกประชาสงเคราะห์ แล้วข้ามแยกดินแดงมาไม่ไกล ตัวโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับแยกดินแดงเลยค่ะ
ใครที่มาจากฝั่งรัชดาภิเษก, อโศก, พระราม 9, เพชรบุรี สามารถเข้าเส้นดินแดง มุ่งหน้าราชวิถีได้เลย โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้าอยากจะเลี่ยงรถติดในบางช่วงเวลา ก็สามารถใช้ถนนดินแดงตัดใหม่ได้ จะมาโผล่ตรงแยกดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายไปนิดเดียวก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ อยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ด่านพหลโยธิน 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ / ดาวคะนอง-กาญจนาภิเษก (บางแค-บางบัวทอง) ในระยะทางประมาณ 1.5 กม.* หรือใช้เวลาขับรถไปเพียง 4-12 นาที*
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ตั้งอยู่ใกล้กีบจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ด่านพหลโยธิน 1 ฝั่งเข้าเมืองชั้นใน ที่มุ่งหน้าไปพระราม 9 / บางนา-ดาวคะนอง ได้ในระยะทางประมาณ 1.9 กม. หรือใช้เวลาขับรถไปเพียง 5-12 นาที* ค่ะ
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ จะอยู่ใกล้กับทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ (ทางยกระดับอุตราภิมุข) ด่านดินแดง 2 บนถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งมุ่งหน้าไปดอนเมือง-บางปะอิน ในระยะทางประมาณ 2.9 กม.* หรือใช้เวลาขับรถไปประมาณ 6-12 นาที* ทางนี้จะใช้มุ่งหน้าออกเมืองไปรังสิต, ปทุมธานี, บางปะอิน และอยุธยาได้ง่าย
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ใกล้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 1.2 กม.* หรือใช้เวลานั่งรถมาประมาณ 3 นาที*
โดยโครงการจะมี Shuttle Service ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าให้บริการด้วยนะคะ แต่ถ้าใครเร่งรีบหน่อย ไม่อยากรอรอบของ Shuttle Service ก็สามารถใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ด้านหน้าโครงการไปต่อรถไฟฟ้าได้เลย ค่าโดยสารประมาณ 30-40 บาท*
จาก BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นั่งเข้าเมืองไป เพียง 3 สถานี ถึงสยาม ใช้นั่งออกไป Hangout, Shopping, ดูหนัง, หาของทานอร่อย ๆ ที่ Siam Square, Siam Center หรือ Saim Paragon ได้ หรือจะใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปห้าแยกลาดพร้าว เพื่อไปเดินเล่นห้าง Central World ก็ง่าย นั่งออกไปแค่ 5 สถานี เท่านั้นเองค่ะ
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ตั้งอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประตูทางออก 4 ในระยะทางประมาณ 1.2 กม.* หรือใช้เวลาประมาณ 3 นาที* จริง ๆ ใครที่ชอบเดินออกกำลังกาย สามารถเดินไปได้นะ เพราะทางเท้าริมถนนมีขนาดค่อนข้างกว้าง และตลอดริมทางก็จะมีร้านค้า, ร้านอาหาร และ 7-Eleven เปิดอยู่ ทำให้ดูไม่เปลี่ยว เดินชิล ๆ ออกกำลังกายได้เลย
นอกจาก BTS อนุสาวรีย์ฯ แล้ว ก็จะมี Airport Link ราชปรารภ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมาก ระยะทางมาประมาณ 1.3 กม.* สามารถใช้บริการพี่วินมาต่อรถได้ง่ายเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่เดินทางออกไปยังมักกะสัน, รามคำแหง, หัวหมาก และลาดกระบัง
ใครที่ทำงานที่สนามบิน หรือต้องเดินทางไปเที่ยว ไปทำงานต่างประเทศบ่อย ๆ สามารถใช้ Airport Link นั่งไปสุดสายที่สนามบินสุวรรณภูมิได้เลยค่ะ สะดวกดีนะ ไปเวลาไหนก็ได้ รถไม่ติด แถมประหยัดดีด้วย และในอนาคตตัว Airport Link จะเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีส้ม (อนาคต) สถานีราชปรารภที่ตัดผ่านหน้าโครงการได้อีกด้วยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ในระยะเดินมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายนะคะ โดยจะมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และมีตลาดศรีวนิช ในซอยศรีวนิช ระยะเดิน ประมาณ 180 ม.* ให้ออกไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อของกิน ของใช้กลับมาที่บ้านได้
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างที่ต้องอาศัยการขับรถ หรือนั่งรถไฟฟ้าไป ก็จะมีกระจายอยู่รอบ ๆ หลายโซนเลย ในระยะประมาณ 4 กม.* จะมีห้างสรรพสินค้า และแหล่ง Shopping กระจายอยู่รอบ ๆ หลายแห่ง
รวมถึงใกล้กับย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระยะประมาณ 3 กม.* ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่พาณิชยกรรม, สถานที่ราชการ และที่อยู่อาศัยดั้งเดิม รวมถึงอยู่ใน Medical Hub ที่มีโรงพยาบาลของภาครัฐและโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง และขึ้นชื่อในการรักษาโรคเฉพาะทางที่ยาก ๆ อยู่มากกว่า 17 แห่ง ด้วยกันเลยค่ะ
ห้างสรรพสินค้า และแหล่ง Shopping ที่ใกล้กับโครงการจะมี King Power รางน้ำ, Century The Movie Plaza, Vanit Village Aree, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า, Shibuya ประตูน้ำ, Platinum Mall, City Complex, Paladium Mall
ออกไปโซนสยาม-ราชเทวี-พระราม 9 ก็จะมีศูนย์การค้าระดับ World Class ของไทยหลายที่มาก ๆ เช่น Siam Discovery, Siam Center, Siam Paragon, Siam Square One, Gaysorn Village, Singha Complex และ Central พระราม 9 ซึ่งขับรถไปได้ไม่ไกล หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปก็ได้ เพราะหลายห้างจะมีทางเชื่อมเข้าต่อห้างได้เลย
ใกล้กับสถาบันการศึกษาชื่อดังหลายแห่งและมีให้เลือกครบทุกระดับชั้น ครบทุกหลักสูตรการศึกษา เช่น รร.นิธิปริญญา ที่อยู่ติดกับโครงการเลย ถัดออกไปจะมี รร.พิบูลประชารังสรรค์, รร.ศรีอยุธยา, รร.สันติราษฎร์วิทยาลัย, รร.แม่พระฟาติมา, รร.อำนวยศิลป์, รร.เซนต์ดอมินิก, รร.จิตรลดา, รร.สามเสนวิทยาลัย และ รร.สุรศักดิ์มนตรี
ใกล้โรงเรียนนานาชาติดัง ๆ หลายที่ เช่น RBIS International School, St. Andrews Dusit, Siam Singapore International School และ KIMS Ari Campus
ใกล้กับจุฬาฯ, ม.ราชมงคลตะวันออกฯ, ม.หอการค้าไทย รวมถึงวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, วิทยาลัยแพทย์พระมงกฏเกล้า และ ม.มหิดล บางคณะ โดยเฉพาะด้านการแพทย์เช่น คณะเภสัชศาสตร์ คณะสาธารณะสุข และคณะทันตแพทย์ เป็นต้น
ใกล้กับโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทยมากกว่า 18 แห่ง ยกตัวอย่างเช่น เช่น รพ.ราชวิถี, รพ.เด็ก, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.พญาไท 2, รพ.พญาไท, รพ.รามาธิบดี, รพ.บำรุงราษฎร์, รพ.วิชัยยุทธ และ รพ.พระราม 9 เป็นต้น
รอบล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานอีกหลายแห่ง เช่น อาคารเพชราวุธ, อาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ สำนักงานใหญ่, กระทรวงแรงงาน, สำนักงานเขตดินแดง, ศาลาว่าการกรุงเทพฯ, One Origin Phayathai, SM Tower, One Origin Sanampao, ททบ.5, CP Tower 3, กรมแพทย์ทหารบก, Spring Tower, PEARL Bangkok, Vanit Place, G Tower, Unilever House, The Ninth Tower และ Bai Yoke Tower ค่ะ
ศูนย์การค้า
ตลาด คอมมูนิตี้ มอลล์ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Maps : 13.763727, 100.547416
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ⇒ ถนนราชวิถี ⇒ แยกสามเหลี่ยมดินแดง ⇒ ถนนดินแดง ⇒ อุโมงค์ลอดแยกดินแดง ⇒ กลับรถที่แยกประชาสงเคราะห์ ⇒ ASPIRE Vibha-Victory
ภาพประกอบการเดินทาง เราจะเริ่มกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาจากฝั่งพญาไทมุ่งหน้าไปดินแดง-พระราม 9 โครงการจะอยู่ติดแยกดินแดงฝั่งขาเข้าค่ะ
จากนั้นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดเข้าสู่ถนนราชวิถีมุ่งหน้าไปดินแดง-พระราม 9
ผ่าน Victory Hub และ Center One
ขับตรงไปเรื่อย ๆ ผ่านแยกสามเหลี่ยมดินแดง
ลอดทางด่วนฯ ผ่านสำนักงาน ปปส. จากนั้นชิดขวาลงอุโมงค์ทางลอดแยกดินแดง ตามป้ายไปประชาสงเคราะห์
ออกมาจากทางลอดให้อยู่เลนซ้าย ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยก
จากนั้นชิดขวากลับรถที่แยกประชาสงเคราะห์ค่ะ
ผ่านแฟลตดินแดงตรงมาเรื่อย ๆ อยู่ 2 เลนซ้าย
พอผ่านแยกดินแดงแล้วชิดซ้าย
ถึงโครงการ ASPIRE Vibha-Victory
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโด High-Rise 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนดินแดง ติดแยกดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ถนนวิภาวดี-รังสิต, รถไฟฟ้า 3 สาย และทางด่วน
สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ที่ดินโครงการ ขออธิบายเป็นทิศหลัก ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ทิศเหนือ จะอยู่ติดกับถนนดินแดง หรือแยกดินแดง ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงานไทยวิวัฒน์ และ Mersi Clinic คลินิกเสริมความงาม ทิศใต้ ด้านหลังโครงการ อยู่ติด รร.นิธิปัญญา
ข้างโครงการฝั่งทิศตะวันตก อยู่ติดซอยส่วนบุคคล และเกล้าสยาม คอนโด ความสูง 11 ชั้น ถัดไปอีกหน่อย จะเป็นอาคารเพชราวุธ ความสูง 10 ชั้น ส่วนด้านข้างโครงการ ฝั่งทิศตะวันออก ติดถนนดินแดงตัดใหญ่ และแนวทางด่วนเฉลิมมหานครนั่นเองค่ะ
รอบโครงการ
ที่ตั้งโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ จะอยู่ตรงหัวมุมแยกดินแดง
โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในระยะทางเพียง 950 ม.* และอยู่ห่างจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประตูทางออกที่ 4 เพียง 1.2 กม.*
จากที่ดินมองตรงออกมาจะเห็นถนนดินแดง มองไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นถนนวิภาวดีรังสิต
มองกลับไปทางขวามือจะเป็นแยกดินแดง ที่กลับรถไปฝั่งตรงข้ามจะเชื่อมกับถนนวิภาวดีรังสิต หรือขับตรงยาวเข้าโซนพระราม 9 ได้เลย ใช้เวลาไม่กี่นาที*
ด้านหน้าที่ดินเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery เปิดให้ลูกค้าเข้าชมห้องตัวอย่างทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.
บรรยากาศภายใน Sales Gallery จะตกแต่ง Interior ในโทนสีน้ำเงิน-ฟ้า ซึ่งเป็นโทนสีเดียวกันกับตัวอาคารนั่นเองค่ะ
ติดกับที่ดินโครงการจะเป็นอาคารเพชราวุธ ถัดไปด้านในจะเป็นเกล้าสยาม คอนโด
Site โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
ตัดผ่านถนนตรงกลางเข้าไปด้านในสุด จะเป็นที่ตั้งของ รร.นิธิปัญญา ค่ะ
PROJECT DETIAL
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ถือเป็น ‘ASPIRE’ คอนโดในเวอร์ชันใหม่ที่ทาง AP ตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อให้สอดรับกับดีมานด์และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนี้โดยเฉพาะ พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Convergence Living as you desire ผ่านความพิเศษ 3 มิติ คือ
โมเดลโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่
ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-2-70.7 ไร่ เป็นคอนโด High-Rsie สูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต + ร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-28 โดยชั้น 8-21 เป็นห้องชุดแบบ All New Simplex ขนาด 26.5-60 ตร.ม. และชั้น 22-28 เป็นห้องชุดแบบ All New Vertiplex ขนาด 26-46 ตร.ม.
มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันจัดเต็ม ตามแนวคิด Recharge as you desire กับพื้นที่สีเขียวสุดเงียบสงบเสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ กับพื้นที่สีเขียวทั้งโครงการประมาณ 1.2 ไร่ มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 3 ชั้น พร้อม Facilities ที่ครบครัน ทันสมัย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
แปลนอาคารชั้น 1 ผังที่ดินโครงการจะเป็นรูปตัว L ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่กว่า มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวผ่านถนนดินแดง โดยจะมีระยะ Setback เข้ามาประมาณ 50 ม.* ข้อดี คือ จะช่วยลดความวุ่นวายจากรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาบนถนนใหญ่ เข้ามาด้านในจะเดินรถแบบ One Way วนซ้ายไปตามเข็มนาฬิกา โดยด้านหลังอาคารจะเป็นทางขึ้นชั้นจอดรถยนต์ ที่จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-7 และมีร้านค้า 1 ยูนิต ก่อนทางรถออก
ด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า The Breathtaking Scenery เป็นสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 ม. ภายในจะมีฟังก์ชันอื่น ๆ แทรกไว้ให้ใช้งาน ทั้ง The Stay, The Stage และ The Step เป็นทั้งสวนหย่อม พื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่รองรับการออกกำลังกาย Outdoor หลากหลายรูปแบบ
นอกจาก The Breathtaking Scenery แล้ว ก็จะมี The Hop & Bounce Yard พื้นที่สีเขียวจุดที่ 2 ที่ตั้งอยู่ปีกด้านหลังโครงการค่ะ ตรงนี้จะประกอบไปด้วย The Strenght, The Endurance, The Balance และ The Flexibility ทั้งหมดจะเป็น Active Zone ไว้สำหรับออกกำลังกาย และมีสนามเด็กเล่นของน้อง ๆ หนู ๆ ในโครงการจัดเตรียมมาให้ด้วยค่ะ
ภายในอาคารจะมี Facilities ในร่ม อื่น ๆ อีกหลายรายการ อย่างเช่น The Aspire Common เป็นพื้นที่ส่วนกลางในร่ม อยู่ติดกับสวนหน้าโครงการ มีการฟังก์ชันออกมาให้อีกหลายรายการ เช่น The Co-Op Society & The Work Hub, The Work Hub, The Chill Out และ The Green Terrace ทั้งหมดจะรองรับการทำงานและพักผ่อน แบบเปิดรับวิวสวนได้กว้างเต็มสายตาค่ะ
ถัดมาด้านในจะเป็น The Parlour เป็นเหมือน Common Area หรือ Lobby รับรองเพื่อน ๆ หรือคนที่แวะมาหาที่บ้าน โซนนี้จะมี Shop 1 ยูนิต มีห้องนิติบุคคล, Delivery Station, Mail Room พร้อมลิฟต์โดสารระบบล็อกชั้น จำนวน 3 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว โดยการเข้า-ออกอาคาร, ลิฟต์โดยสาร และชั้นพักอาศัย จะใช้เป็นระบบ Face Scan ทั้งหมด สะดวกดีนะคะ ไม่ต้องพก Key Card หรือกุญแจให้ยุ่งยากเลยค่ะ
โมเดลจำลอง The Breathtaking Scenery ด้านหน้าโครงการ
โมเดลจำลอง The Hop & Bounce Yard พื้นที่สีเขียวด้านหลังโครงการ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Co-Op Society เป็นห้องประชุมที่เป็นส่วนตัวและนั่งใช้งานได้หลายคน ชวนเพื่อน ๆ มานั่งพูดคุย แชร์ไอเดีย ประชุมงานต่าง ๆ กันได้ เชื่อมต่อกันจะเป็น The Work Hub เป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว ที่ถูกกั้นแยกโซนออกมาให้เป็นสัดส่วน ใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยยังคงมีหน้าต่างให้มองพื้นที่สีเขียวด้วยเช่นกัน
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Aspire Common ตกแต่งภายในมาได้หรูหรากว่าแบรนด์ Aspire ตัวอื่น ๆ มาก ทั้งตัวพื้นที่ใช้เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนโทนสีดำ-ขาว, แต่งผนังและฝ้าเพดานด้วยวัสดุเลียนแบบไม้ และใช้ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ ทำให้เปิดรับวิวสวนและต้นไม้สีเขียวด้านหน้าโครงการได้กว้าง พร้อมจัดเตรียมโซฟารับรองมาให้หลายที่นั่ง ลูกบ้านใช้เป็นที่นั่งรอเพื่อน ๆ, นัดพบแขก หรือใช้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนก็ได้เช่นกัน
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Parlour เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกบ้าน ออกแบบให้เป็นห้องเพดานสูง ใช้ผนังกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ พร้อมตกแต่งภายในให้ดูอบอุ่น ผ่อนคลาย เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และเส้นสายแบบ Organic Form ที่ดูกลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียวที่ด้านนอก
ภายในจัดเตรียมชุดโซฟารับรองมาให้หลายที่นั่ง ใช้เป็นห้องรับรองแขก, ห้องรับรองญาติพี่น้องที่แวะมาหาที่โครงการ หรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับนัดคุยงานอย่างไม่เป็นทางการได้ และไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งพักผ่อนอยู่จุดไหน ก็สามารถชมวิวสวนสวย ๆ ได้จากทุกจุดในห้องเลยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 2-7 เป็นชั้นจอดรถยนต์ทั้งหมดเลยค่ะ ลูกบ้านสามารถจอดได้ห้องละ 1 คัน ไม่ระบุช่องจอด โดยที่จอดรถจะคิดเป็น 40.5% หรือประมาณ 240 ไม่รวมจอดซ้อนคัน ทุกชั้นจะใช้ลิฟต์โดยสาร ระบบ Face Scan ออกจากที่จอดรถมา ก็สามารถกดลิฟต์ลงไป Lobby หรือขึ้นไปชั้นพักอาศัยของตัวเองได้เลยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 8 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยแบบ Simplex และ Facilities หลักของโครงการ ผังอาคาจะเป็นรูปตัว L มีทั้งหมด 20 ยูนิต/ ชั้น ห้องพักหันครบทุกทิศ ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor มีโถงลิฟต์อยู่ตรงมุมอาคาร มีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด ที่หัว-ท้าย ส่วนลิฟต์บริการสำหรับขนย้ายของ ก็จะอยู่ติดกับโถงลิฟต์โดยสารเลยค่ะ
ส่วนกลางบนชั้น 8 มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้งค่ะ ในร่มจะประกอบไปด้วย The Healthy Space เป็นฟิตเนสหน้ากว้างขนาดใหญ่ ภายในจัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายมาตรฐานมาให้ครบค่ะ สามารถออกกำลังกายไป ชมวิวสระว่ายน้ำด้านหน้าไปได้
ถัดออกไปที่กลางแจ้ง จะเป็นสระว่ายระบบน้ำเกลือ เป็นสระแบบ Lap Pool ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ทั้งยังมีการแยกโซน Jacuzzi และสระว่ายน้ำเด็กออกมาให้ด้วย และที่ท้ายวระว่ายน้ำ จะมี Pool Terrace ไว้นั่งพักผ่อน เชื่อมต่อไปจะเป็นห้องย้ำส่วนกลาง โดยห้องน้ำชาย จะมี Sauna มาให้ และฝั่งห้องน้ำจริง จะได้เป็น Steam แทนค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Healthy Space ที่ชั้น 8 เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยมาให้ครบในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group ทั้งยังออกแบบมาเป็นห้องหน้ากว้าง และใช้ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งหมด
มีการแบ่ง Partition แยกไว้เป็นโซน ๆ เพื่อเว้นระยะห่างออกจากกัน และทำให้ออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทั้งยังสามารถชมวิวสระว่ายน้ำและวิวสวนสีเขียวที่ด้านนอกได้อย่างผ่อนคลายสบายตาดีมาก ๆ เลย
โมเดลจำลอง The Aqua สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ด้านนอก พร้อมสระเด็ก และ Jacuzzi และ The Healthy Space ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ในร่มที่ชั้น 8
แปลนอาคารชั้น 9 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็มชั้นค่ะ การวางผังห้องพักจะเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ตัวอาคารเป็นรูปตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor พร้อมโถงลิฟต์ตรงมุมอาคาร และบันไดหนีไฟที่หัว-ท้ายรวม 2 จุด
ในส่วนของห้องพักจะเป็นแบบ Simplex ทั้งหมด มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด โดยชั้นนี้จะมีทั้งหมด 30 ยูนิต / ชั้น ห้องพักโซนในจะได้วิวสระว่ายน้ำและวิวสวนจากชั้น 8 แบบใกล้ชิด
แปลนอาคารชั้น 10-14 วางผังมาเหมือนกันกับชั้น 9 และมีห้องพักจำนวน 30 ยูนิต/ ชั้น เท่ากันค่ะ
แปลนอาคารชั้น 15 วางผังมาเหมือนกันกับชั้น 9 /10-14 โดยจะมีห้องพักจำนวน 30 ยูนิต/ ชั้น เท่ากัน โดยชั้นสูง ๆ อย่างชั้น 15 ขึ้นไป ห้องพักด้านในจะมองเห็นวิวส่วนกลางชั้น 8 และวิวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนห้องฝั่งอื่น ๆ ก็จะได้เป็นวิวเมืองฝั่งวิภาวดีและฝั่งพระราม 9 ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 16-21 มีทั้งหมด 30 ยูนิต/ ชั้น วางผังมาเหมือนกันกับชั้นก่อนหน้าทั้งหมด โดยชั้น 21 จะเป็นชั้นสุดท้ายของห้อง Simplex แล้วนะคะ
แปลนอาคารชั้น 22-28 ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไป จะเป็นห้องพักแบบ Simplex เพดานสูง 4.45 ม. มีห้องพักให้เลือกทุกขนาด ตั้งแต่ 26-46 ตร.ม. ส่วนวิวจะได้มุมมองเดียวกันทั้งหมด คือโซนในเป็นวิวเมืองและฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนด้านอื่น ๆ จะได้วิวเมืองทางฝั่งวิภาวดี และพระราม 9 ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 29 เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มชั้น มีทั้งโซนกลางแจ้งและในร่ม โดยด้านนอกจะเป็น The Sky Park เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จัด Landscape มาได้อย่างสวยงาม มีการปลูกต้นไม้ใหญ่โตเต็มวัย สลับกับต้นไม้พุ่ม ไม้ประดับ และไม้ดอกตามแนวทางเดิน ให้บรรยากาศที่ร่มรื่น อากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งในสวนก็จะมีการจัดฟังก์ชันการใช้งานให้หลากหลายเลยค่ะ
ด้านนอกจะมี The Green Tard ที่เปิดรับวิวได้ 360 องศา มาพร้อม The Pavilion, The Portico และ The Patio ให้ขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิว วันไหนอากาศดี ๆ ก็สามารถขึ้นมานั่งอ่านหนังสือเล่มกันได้ ตรงกลางสวนจะมี Walkway ให้เดินออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนเย็นได้เหมืนกันค่ะ
นอกจากกลางแจ้งแล้ว ก็จะมีโซนในร่ม ที่เป็น The Sky Lounge จัดเตรียมไว้ให้ ด้วยที่นี่เป็นคอนโด High-Rise ที่สูงถึง 29 ชั้น ทำให้ใช้ห้องนี้เป็นห้อง Hangout ห้องพักผ่อน วันไหนเบื่อ ๆ ก็สามารถขึ้นมานั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ นั่งชมวิวเมืองสวย ๆ ได้รอบด้านเลยค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Sky Lounge ห้องพักผ่อนสุดหรู ฟีลอยู่โรงแรม 5 ดาว ภายในใช้เส้นสาย Futuristic ที่โฉบเฉี่ยว และทันสมัย และยังคงออกแบบ The Sky Lounge ให้เป็นห้องผนังกระจกรอบด้าน ทำให้ชมวิวเมืองสวย ๆ ได้ 180 องศา
ภายในยังมีการจัดเตรียมบาร์น้ำและชุดโซฟารับรองให้หลายที่นั่ง มีให้เลือกเยอะทั้งแบบเดี่ยว, แบบคู่ และแบบกลุ่ม จะขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงาน นั่ง Hangout หรือขึ้นมาชมวิวเมือง ดูไฟสวย ๆ ในตอนกลางคืนก็ได้เช่นกันค่ะ
ภาพและบรรยากาศจำลอง The Sky Park หรือสวนสีเขียวบนดาดฟ้าแบบเต็มชั้น ภายในมีการจัด Landscape มาได้สวยงาม บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เล็ก ต้นไม้ใหญ่ที่โตเต็มวัย จัดมาให้หลากหลายสายพันธุ์เลยค่ะ
พร้อมทางเดินเล่นในสวน ให้เดินหรือวิ่งออกกำลังกายได้ และยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจอีกหลายจุด รวม ๆ แล้ว ที่นี่จะมีพื้นที่สีเขียวให้มากถึง 1.2 ไร่ เปรียบเสมือนเป็นโอเอซิสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้ค่ะ
โมเดลจำลอง The Sky Park บนชั้น 29
UNIT TYPE
ห้องพักอาศัยในโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็น Layout รูปแบบใหม่ มีให้เลือกหลากหลายแบบ โดยทาง AP เข้าใจในความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้ยุคนี้
ที่ต้องการพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ แม้พื้นที่จำกัดแต่ก็สามารถออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญอยู่สบาย ไม่อึดอัด ด้วยการดีไซน์ผ่าน Layout ใหม่นี้ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย
โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ มีห้องพักให้เลือกมากถึง 18 ดีไซน์ กับห้องชุด 2 แบบ ได้แก่
ห้องพักแบบ All New Simplex ขนาด 26.5-60 ตร.ม.
ห้องพักแบบ All New Vertiplex ห้องชุดเพดานสูง 7 ดีไซน์ ขนาด 26-46 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
โครงการ Aspire วิภา-วิคตอรี่ มีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Fitted
โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังต่อไปนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 1
แปลนห้องตัวอย่างห้องแรก คือ ห้อง TYPE F1 1 Bedroom ขนาด 35.00 ตร.ม. แบบ Simplex เพดานสูง 2.5 ม. โดยห้องนี้จะเป็น Layout ใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ASPIRE ที่ถูกนำมาใช้ที่นี่เป็นโครงการแรก ตัวห้องพักจะเป็นห้องตอนลึก มีการแบ่งพื้นที่ภายในได้อย่างน่าสนใจ และคิดว่ายังไม่ค่อยมี Dep รายไหนทำกันค่ะ
โดยรูปแบบห้องพักนั้น จะแบ่งพื้นที่ไว้ 3 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนแรกจะเป็นห้องครัวปิด ที่มีระยะใช้งานกว้างกำลังพอดี ถัดเข้าไปส่วนที่ 2 จะเป็นห้องนอน ที่เชื่อมต่อกับ Walk-in Closet และห้องน้ำ
และส่วนที่ 3 จะเป็นห้องนั่งเล่น ที่จัดเอาไว้ชิดหน้าต่างด้านหลังสุดของห้อง เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ ที่อยู่ติดระเบียง ตรงนี้สามารถทำเป็น Working Area ได้ โดยทุกจุดจะมีประตูกระจกกั้นแยกส่วนให้เพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนกันค่ะ
ประตูห้องพักจะได้กลอน Digital Door Lock เปิดเข้ามาห้องนี้ จะเจอกับห้องครัวปิดเป็นส่วนแรก ห้องนี้เป็นแบบ Vertiplex ได้เพดานสูง 2.5 ม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Panel ทั้งห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟและพลังงานได้ดี
ห้องครัวเป็นห้องแบบตอนลึกค่ะ โดยจะจัดวางชุดครัวชิดผนังทางซ้ายมือไว้ให้ สามารถทำอาหารทานจริงจังได้ ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกสีเบจ 30 x 30 ซม. มาให้ เหมาะกับการใช้งานหนัก ๆ และช่วยในเรื่องเช็ดถูทำความสะอาดพื้นได้ง่าย
ติดกับชุดครัวด้านหน้าห้อง จะมีพื้นที่เว้นไว้ประมาณ 90 ซม. ตรงนี้จะสามารถวางชั้นวางรองเท้า หรือตู้เก็บของแบบ Multi Function ขึ้นไปสูงถึงฝ้าเพดานเลยก็ได้ จะช่วยให้เก็บของได้เยอะ และเป็นระเบียบมากขึ้นค่ะ
ถัดมาตรงกลางจะเป็นชุดครัวที่โครงการติดตั้งมาให้มาตรฐานกับห้องค่ะ หน้าท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีการกรุกระเบื้องทำ Backsplash มาให้ และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด รองรับการเสียบต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เลย
ได้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกของ Teka มาให้ หน้าอ่างจะมีฝาปิดหน้าซิงค์แถมมาให้ด้วย ใช้ทำเป็นหน้าโต๊ะในเวลาที่ต้องการเตรียมอาหารในพื้นที่ที่กว้างขึ้นได้ค่ะ
อีกฝั่งจะติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควัน Slimline ของ Teka ผนังด้านหลังมีราวแขวนผ้า และหมุดแขวนของใช้ติดมาให้ด้วยนะคะ
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ เปิดออกมาจะมีชั้นลอยให้ 2 ชั้น ทำให้เก็บของชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย หรือใช้เป็นตู้เก็บถ้วยกาแฟ อาหารแห้งก็ดี อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางไมโครเวฟ และชั้นวางพวกขวดเครื่องปรุงได้ที่ด้านบนค่ะ
ด้านล่างมีให้ทั้งตู้เก็บของบานเปิด และลิ้นชักเก็บของ
ชั้นแรกเป็นลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อน-ส้อม
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของบานเปิด ภายในมีชั้นลอย 2 ชั้น ใช้เป็นตู้เก็บถ้วย จาน ชาม หรือของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะพอสมควร
อีกฝั่งจะเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ ภายในจะมีลิ้นชักรางเลื่อน และที่พื้นตู้จะติดแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำ กันชื้นมาให้ ตู้นี้จะเหมาะสำหรับทำเป็นห้อง Stock ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน อย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ, แชมพู-ครีมอาบน้ำ, ห่อกระดาษทิชชู รวมถึงใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้านก็ยังได้
ถัดจากชุดครัวมาจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 90 x 60 ซม. รองรับตู้เย็น 2 ประตู ขนาดตั้งแต่ 6-10 คิว ได้สบาย ๆ เลย ที่ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมเสียบต่อใช้งานค่ะ
มองกลับมาทางหน้าห้องพัก ระยะห่างจากชุดครัวไปจนถึงผนังห้องมีความกว้างประมาณ 1 ม.* ถือว่าเป็นระยะที่ไม่ใหญ่จนกินพื้นที่ส่วนอื่นจนเกินไป สามารถยืนทำอาหาร, ล้างจาน, เตรียมอาหาร, อุ่นอาหาร, เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องพักได้สะดวกอยู่ค่ะ
ต่อเนื่องไปจะกั้นแยกส่วนครัวและห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีเทา ความสูงจรดฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูโปร่งและกว้าง อยู่สบายไม่อึดอัดค่ะ
เข้ามาตรงกลางห้องพัก Type นี้ จะจัดฟังก์ชันออกมาเป็นห้องนอน พร้อมพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้อีกที ในส่วนของพื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม. ที่ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า และเหมาะกับโซนพักผ่อนมากกว่าค่ะ
ภาพรวมการวาง Layout ของห้องนอนให้ Type นี้ จะเป็นรูปตัว L ที่สร้างความรู้สึกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
ภายในห้องนอนจะรองรับเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และมีพื้นที่เหลือด้านข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ หรือจะวางของตกแต่งบ้านอื่น ๆ เข้าไปแทนก็ได้
ตรงข้ามกันมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้างเลยค่ะ เดินเข้า-ออกไปด้านในและด้านนอกได้สะดวกดี ในห้องจริงจะได้เป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ เลือก Custom เฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการเลย จะวางตู้วางทีวีตัวยาว ชั้นวางของแนวสูง
หรือจะปรับให้เป็นมุมทำงานแบบเดี่ยว และติดทีวีแขวนผนังเข้าไปแทนก็ได้นะ งานระบบต่าง ๆ อย่างปลั๊กไฟ, Cable TV และ Lan Internet ทางโครงการเค้าก็เตรียมไว้ให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย
ข้างเตียงนอนฝั่งที่อยู่ติดกับประตูครัว จะเป็นพื้นที่แบบ Flexible Area ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ โดยห้องจริงผนังตรงส่วนนี้จะมีการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนมาให้ด้วย ใช้แยกโซนออกจากกันได้เป็นสัดส่วนดี
ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็น Walk-in Closet มาให้ดูระยะใช้งาน พื้นที่ที่ได้มาค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานไว้คนละฝั่งได้ แต่ถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะหน่อย จะวางตู้เสื้อผ้าไว้ทั้ง 2 ฝั่ง เลยก็ได้เหมือนกันค่ะ
เอาไอเดียในห้องตัวอย่างมาให้ดูเล็กน้อย ซ้ายมือโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดความสูงจรดฝ้าเพดานเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บเสื้อผ้าและเก็บของชิ้นใหญ่ที่ด้านบนได้ อีกฝั่ง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งตัวยาวพอดีผนัง รองรับการนั่งแต่งหน้า ทำผมพร้อม ๆ กัน 2 คน ได้
ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำแบบห้องหน้ากว้าง มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นฉากกั้นอาบน้ำแยกส่วนเปียกไว้คนละฝั่ง ตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังในโทนสีเทาอ่อน ทำให้ห้องดูกว้าง สะอาด น่าใช้งาน สุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ตำแหน่งตามภาพ โดยใช้เป็นของ American Standard ทั้งหมดเลยค่ะ
ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด โดยจะวางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ไว้ใกล้ ๆ กัน และที่ใต้อ่างจะมีพื้นที่เหลือให้วางตะกร้าใส่ผ้า, ชั้นวางอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือวางเป็นต้นไม่ฟอกอากาศเข้าไปแทนก็ได้เหมือนกัน
ด้านหลังจะมี Low-Wall แนวยาวเต็มพื้นที่ส่วนแห้ง ทำให้วางของใช้จุกจิกอย่างขวดสบู่ล้างมือ, โฟมล้างหน้า, สกินแคร์ต่าง ๆ, กล่องกระดาษทิชชู รวมถึงน้ำหอมปรับอากาศก็ได้
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมจอบมน ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิดใช้งานได้สะดวกดี ที่หน้าอ่างจะมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้อีกนิดหน่อย ส่วนใต้อ่างจะมีตู้เก็บของบานเปิดให้อีก 1 ตู้ ใช้เป็นตู้ Stock ของใช้ในห้องน้ำได้เป็นระเบียบดีเลยค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต ทั้งที่แขวนกระดาษทิชชูและสายฉีดชำระ
ผนังด้านหลังอ่างติดตู้เก็บของบานเปิด หน้าบานกระจกเงาให้ตามนี้ค่ะ ภายในจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ เหมาะเอาไว้เก็บสกินแคร์ น้ำหอม หรือยาประจำบ้านได้ และที่ใต้ตู้จะมีชั้นลอยให้อีก 1 ชั้น ที่เหมาะกับการวางของใช้ที่ต้องหยิบเป็นประจำ
ผนังฝั่งตรงข้ามติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ 1 ชิ้น
ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนอาบน้ำ ตรงนี้จะกั้นแยกส่วนด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนไว้ให้เลยค่ะ ส่วนด้านในมีพื้นที่กว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำ ขัดผิวได้ไม่ติดผนังรอบ ๆ
ภายในติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ, ถาดวางสบู่ และได้ก๊อกน้ำแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย
ข้าง ๆ กันจะมีพื้นที่เว้นลึกลงไป ตรงนี้สามารถซื้อชั้นวางของเล็ก ๆ แบบแนวสูง ไว้สำหรับวางอุปกรณ์ของใช้ในการอาบน้ำได้
ที่เพดานด้านบนจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง ช่วยลดกลิ่น ลดความอับชื้นได้ดี
จากห้องน้ำมองกลับออกมาที่ Walk-in Closet และห้องนอน
ถัดจากห้องนอนไปจะกั้นแยกส่วนกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ความสูงจรดฝ้าเพดานเช่นเดิม
ด้านหลังสุดของห้อง Type นี้ จะจัดฟังก์ชันให้เป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่อเนกประสงค์ติดระเบียงซักล้าง
ห้องนั่งเล่นถูกย้ายมาอยู่ด้านในสุด ชิดกับหน้าต่างกระจก Oversized ทำให้พักผ่อนไป ชมวิวไปได้
ภายในได้พื้นที่มากว้างกำลังดีค่ะ เลือกซื้อโซฟามาวางได้หลายรูปแบบ จะวางเป็นโซฟาตัว I หรือจะวางเป็นโซฟา L-Shape ขนาด 2-3 ที่นั่ง ก็ยังไหว ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟไว้วางของทานเล่นและเครื่องดื่มได้ด้วย
ตรงข้ามกันจะเป็นผนังเปล่าฉาบเรียบ ด้านบนติดแอร์ Wall Type มาให้ 1 เครื่อง ส่วนด้านล่างเราสามารถวางชั้นวางทีวีตัวยาว ติดชั้นวางทีวีหรือแขวนทีวีจอใหญ่ที่ผนังได้ค่ะ ซึ่งงานระบบไฟฟ้า, Cable TV และ Lan Internet ทางโครงการเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วค่ะ
บริเวณนี้จะมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงบานผสมขนาดใหญ่พิเศษติดมาให้ 1 ชุด โดยจะมีทั้งกระจกบาน Fixed ไว้ชมวิวและรับแสงธรรมชาติ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งแยกไว้ให้ 1 บาน ใช้สำหรับเปิดรับลม เปิดระบายอากาศได้ด้วย
ต่อเนื่องไปที่อีกด้านของห้อง จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ มีความยืดหยุ่นสูง เลือกปรับฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาสัยเลย
ในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องทำงานที่อยู่ติดกับระเบียงไว้แบบนี้ค่ะ พื้นที่จริงจะสามารถวางโต๊ะทำงานตัวยาว ขนาด 1 ที่นั่งหลวม ๆ หรือจะวางเป็นแบบ 2 ที่นั่ง ก็ยังไหว
ส่วนใครที่มีอาชีพเสริมเป็น Influencer, Tiktoker, Youtuber เราสามารถ Set เป็น Studio ในการถ่ายงาน ตัดต่องาน หรือใครที่ขายของ Online จะใช้มุมนี้นั่ง Live ขายของก็ยังไหวนะคะ
ติดกันจะเป็นประตูทางออกไประเบียงด้านนอกค่ะ กั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง บานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีเทา ที่แข็งแรง และเก็บเสียงรบกวนได้ดี มีการยกธรณี-วงกบขึ้นมาให้ประมาณ 15 ซม. เพื่อป้องกันน้ำฝนและสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
ระเบียงซักล้างได้พื้นที่มากว้างใช้ได้เลยค่ะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. ให้เต็มพื้นที่ มีการเตรียมงานระบบน้ำประปา, ระบบไฟฟ้า และท่อระบายน้ำทิ้งมาให้ครบ
สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน ขนาดตั้งแต่ 7-12 กก. ได้สบาย ๆ ด้านหน้ายังมีพื้นที่เหลือให้วางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือใช้เป็นที่ปลูกต้นไม้สวย ๆ เพิ่มความสดชื่นให้กับห้องก็ได้ค่ะ
ส่วนที่เหลือจะติดตั้งราวระแนงเหล็กทาสีเทากันสนิม พร้อมกริลบัง CDU ความสูงจรดฝ้าเพดาน ช่วยให้ภาพรวมของอาคารดูเป็นระเบียบ เมื่อมองจากด้านนอกเข้ามา และที่ผนังจะมีการติดตั้งโคมไฟกิ่งให้แสงสว่างในตอนกลางคืนไว้ด้วยอีก 1 ดวงค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2
แปลนห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้อง TYPE N2M ขนาด 32.50 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบ Vertiplex เพดานสูง 4.45 ม. เอาใจคนที่ชอบอยู่คนโดแต่ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน โดยห้องนี้จะเป็น Layout ใหม่ พื้นที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย แม้พื้นที่จำกัดแต่ก็สามารถออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
เข้ามาในห้องชั้นล่างจะเป็นห้องตอนลึก ส่วนแรกเป็นห้องครัวปิด ติดกับห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ผ่านเข้าไปที่ด้านในจะเจอกับ Common Area เพดานสูง 4.45 ม. ที่รวมห้องอเนกประสงค์, มุมนั่งเล่นพักผ่อน และมุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน มีระเบียงซักล้างตั้งอยู่ที่มุมห้องด้านหลังสุด
ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนที่ได้พื้นที่มาครึ่งนึงของขนาดนี้ ชั้นบนจะได้ฝ้าสูงราว ๆ 2 ม. นิด ๆ ได้เป็นพ้นที่โล่งกว้าง สามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และมีพื้นที่เหลือให้ทำ Walk-in Closet เข้ามุมได้ และความพิเศษของห้อง Vertiplex ในทุกขนาดเลยก็คือ จะมีห้องน้ำ Powder Room ให้บนชั้น 2 ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินลงไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างเหมือนห้อง Vertiplex ในโครงการก่อน ๆ ที่มีห้องน้ำให้ใช้งานเพียงแค่ห้องเดียวค่ะ
การเข้า-ออกห้องในทุกแบบ ทุกขนาดจะใช้กลอน Digital Door Lock เหมือนกัน ในส่วนของ Spec วัสดุต่าง ๆ ในห้อง จะได้มาเหมือนกันค่ะ คือ พื้นครัวปูกระเบื้อง 30 x 30 ซม., พื้นห้องชุดปูลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม., ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมโคมไฟ Led Panel ทังห้อง
ตรงห้องครัวนี้ทางโครงการจะติดตั้งชุดครัว Built-in พร้อมตู้เก็บของบน-ล่างมาให้เหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ ติดกันจะเว้นพื้นที่กว้างประมาณ 90 ซม. ลึก 60 ซม. ให้วางตู้เย็นขนาด 6-10 คิว ได้ ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้เช่นเดิม เสียบต่อใช้งานได้เลย
ชุดครัวลายหินอ่อนและลายไม้ ขนาด 1.2 x 0.60 ม. พร้อมฟังก์ชันมาตรฐานที่ครบครัน
หน้าท็อปจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทนความร้อน ทนน้ำได้ดี เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ผนังทำ Backsplash และมีปลั๊กไฟติดมาให้ครบ สามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เลย
ได้เตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Teka
ได้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำทรงสูงแบบก้านโยก ทำให้ล้างจาน ล้างของได้ง่าย โดยหน้าซิงค์จะมีบานหินสังเคราะห์ปิดมาให้ด้วย ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าครัวให้เตรียมอาหาร วางของต่าง ๆ ได้เยอะมากขึ้นค่ะ
ด้านบนเป็นตู้เก็บของลายไม้บานเปิด พร้อมชั้นลอย และชั้นวางไมโครเวฟ
ด้านล่างได้ฟังก์ชันมาครบเหมือนห้องก่อนหน้า คือ มีตู้เก็บของพร้อมชั้นวางของที่เลื่อนเข้า-ออกได้ มีลิ้นชักพร้อมถาดจัดระเบียบช้อม-ส้อม และตู้เก็บของบานเปิด ที่มีชั้นลอยที่ด้านในค่ะ
ตรงข้ามกันจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ
ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่แนวยาวให้วางตู้เก็บของหรือชั้นวางของเข้าไปได้ค่ะ อาจจะวางเป็นตู้รองเท้าแบบเตี้ย แล้วใช้หน้าโต๊ะด้านบนวางของที่ต้องหยิบใช้บ่อย ๆ อย่าง กุญแจบ้าน, กุญแจรถ, หมวก หรือกระเป๋าถือ และถ้ามีพื้นที่ข้าง ๆ เหลืออีกหน่อย ก็ซื้อถังขยะมีฝาปิดมาวางเพิ่มเข้าไปได้เลย จะอยู่ในตำแหน่งที่ทิ้งของใช้ต่าง ๆ ได้ง่ายดีด้วย
ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องจริงมีประตูปิดมิดชิด และมีการยกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลย้อนกลับออกมาที่ด้านนอกได้
ห้องน้ำเป็นห้องหน้ากว้างค่ะ แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำ และใช้ลวดลายกระเบื้องพื้น-ผนัง รวมถึงสุขภัณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ ของ American Standard เหมือนกันกับห้อง Simplex ก่อนหน้านี้ทุกประการเลยค่ะ
ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยม พร้อมตู้เก็บของลายไม้บานเปิด ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ผนังได้ตู้เก็บของหน้าบานกระจกมา 1 ตู้ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ตค่ะ
ถัดไปจะเป็นส่วนอาบน้ำ ติดฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แยกส่วนมาให้ พื้นที่ใช้งานด้านในให้มากว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้ไม่รู้สึกอึดอัด
ภายในติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ มีที่วางสบู่ และก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก และที่เพดานจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง ช่วยระบายกลิ่น ลดความอับชื้นได้ดีค่ะ
มองกลับออกมาดูภาพรวมทางด้านหน้าห้อง จะเห็นว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถยืนทำอาหาร เตรียมกับข้าว ล้างจาน เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องน้ำ และส่วนด้านในของห้องได้สะดวก
จากห้องครัวและห้องน้ำจะถูกกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้จนสุดก็จะยิ่งเดินเข้า-ออกได้สะดวก และเวลาที่เราทำอาหารทานที่บ้าน ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่ากลิ่นและควันจะเข้าไปรบกวนส่วนพักผ่อนที่ด้านในค่ะ
ผ่านประตูครัวเข้ามา จะเจอกับส่วนของฝ้าเพดานปกติอยู่นะคะ โดยตรงนี้จะเป็นพื้นโล่ง ๆ ที่ปรับฟังก์ชันได้หลากหลาย และด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์นั่นเองค่ะ
ด้านหน้าห้องอเนกประสงค์และห้องครัวตรงนี้ จะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ สามารถซื้อพวกตู้เก็บของแนวสูง, ชั้นวางของ หรือวางตู้กระจกโชว์งานสะสมต่าง ๆ เข้าไปได้ค่ะ ส่วนใครที่ชอบความ Greenery หน่อย ก็จัดเป็น Pocket Garden เล็ก ๆ ที่มุมห้องตรงนี้ได้เลย
สำหรับห้องอเนกประสงค์ จะกั้นเป็นห้องผนังกระจกเข้ามุม ได้ประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดได้ถึง 2 ฝั่ง ของจริงผนังมุมห้องจะเป็นกระจกใสบานเปลือย ไม่ได้มีการตีเกล็ดทำกระจกฝ้าไว้ให้นะคะ ซึ่งการที่ใช้เป็นห้องผนังกระจกเข้ามุม จะช่วยให้ภายในดูโปร่งและกว้างขึ้น
ภายในตกแต่งเป็นห้องทำงานแบบเป็นส่วนตัวมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานที่บ้านเป็นหลักดีเลยค่ะ หรือใครทำงาน Online ใน Platform ต่าง ๆ ก็น่าจะถูกใจนะคะ
และในความจริงห้องนี้จะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้อีกหลายรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นห้องดูหนังส่วนตัว, ห้องออกกำลังกาย, Live Studio ห้องแต่งตัว เพราอยู่ใกล้ห้องน้ำ หรือห้องนอนขนาดเล็กก็สามารถทำได้
โดยจะมีห้องเก็บของแยกอย่างเป็นสัดส่วนอยู่ด้านในด้วย ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มสุด ๆ เลย
ของจริงจะมีประตูไม้บานทึบปิดมาให้นะคะ ภายในปูลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องเข้าไปให้เลย ไม่กักเก็บฝุ่น และทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งด้านในให้พื้นที่มาแบบตอนลึก เก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือจะเก็บของที่มีขนาดใหญ่ อย่าง เครื่องดูดฝุ่น, ถุงกอล์ฟ, จักรยานพับได้, ของเล่นของลูก ๆ หรือกระเป๋าเดินทาง ก็จุได้ตั้งแต่ขนาด 16-28 นิ้ว เลยค่ะ
Highlight อยู่ตรงนี้เลย นี่คือ Living Area เพดานสูงถึง 4.45 ม. เลยค่ะ ได้ทั้งความโปร่ง โล่ง สบาย มองขึ้นไปจะเห็นชั้นลอยที่ด้านบน และที่เพดานเราก็สามารถหา Chandelier สวย ๆ มาติดเพิ่มความ Luxury ให้กับห้องได้ โดยบริเวณนี้จะสามารถรวมห้องนั่งเล่น และมุมทานอาหารเข้าไว้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างลงตัว
มาดูรายละเอียดไปทีละส่วนนะคะ เริ่มกันที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรกค่ะ
บริเวณห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาตัว I หรือจะวางเป็นโซฟา L-Shape ขนาด 2-3 ที่นั่ง ได้กำลังพอดี ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่เสริมเข้าไปได้
ตรงข้ามกันติดกับบันไดสามารถวางตู้วางทีวีตัวยาวเข้าไปได้ค่ะ ที่ผนังด้านล่างจะมีการเตรียมงานระบบไฟต่าง ไ มาให้เรียบร้อย พร้อมเสียบต่อใช้งานได้เลยค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในสุดของห้อง จัดเป็นมุมทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นไอเดีย ผนังด้านหลังจะได้เป็นหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่แบบ Full Height เปิดรับแสงสว่างเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งสว่าง
ติดกันจะเป็นประตูทางออกไประเบียงซักล้าง ตรงนี้จะกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เช่นเดิม
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. มาให้เต็มพื้นที่ค่ะ สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า-ฝาบน ขนาด 7-12 กก. ได้เลย งานระบบน้ำ-ไฟมีมาให้พร้อมต่อใช้งาน
ราวกันตกมีให้เหมือนกัน คือ จะมีทั้งราวระแนงเหล็กแนวตั้งความสูงปกติ และกริลบัง CDU ที่ติดมาให้สูงจรดฝ้าเพดาน และที่ผนังอีกข้างจะมีโคมไฟกิ่งติดมาให้ 1 ดวง
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
ขึ้นไปที่ชั้นลอยกันต่อค่ะ ในส่วนของบันไดจะเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป ราวเหล็กสีดำ มือจับชนิดเดียวกันกับตัวลูกนอนที่เป็นไม้ยางพาราประสาน
ที่ชั้นลอยจะมีราวระแนงกันตกติดมาให้ที่บริเวณส่วนหน้าแบบนี้ด้วยนะคะ
สำหรับชั้นลอยนี้จะเป็นพื้นที่ห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัว ขนาดกว้างขวาง โปร่งโล่ง ได้เพดานสูง 2 ม. กว่า ๆ อยู่สบาย ไม่อึดอัดค่ะ ตัวพื้นก็จะปูเป็นลามิเนตลายไม้ ให้ Mood & Tone ที่ Cozy โดยพื้นที่ใช้งานที่ให้มาถือว่ากว้างกำลังพอดีค่ะ วางเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบทีเดียว
ตรงนี้จะรองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้ ซึ่งเมื่อวางเข้าไปแล้วก็ยังมีพื้นที่คงเหลือให้วางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ตามต้องการ
อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าความพิเศษของห้องแบบใหม่ของ Vertiplex นี้ คือจะได้ห้องน้ำ Powder Room ที่ชั้นลอยเพิ่มเข้ามาด้วย รับรองว่าใช้งานได้สะดวก ทั้งตอนกลางคืนและตอนเช้า ก็สามารถเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวได้ที่ด้านบนนี้ได้เลย ไม่ต้องลงบันไดไปชั้นล่างค่ะ เป็นการออกแบบของ AP ที่เข้าใจ Insight ของผู้อยู่อาศัยอย่างมากเลย
ถัดจากเตียงนอนมา จะมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมห้องแบบนี้ได้เลย ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนเลือกเสื้อผ้า ยืนแต่งตัว นั่งแต่งหน้า และเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำได้สะดวกอยู่ค่ะ
ติดกันจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ได้ฟังก์ชันแบบ Powder Room และใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเพื่อง่ายต่อการ Maintenance ดีค่ะ
ห้องน้ำขนาด Compact แต่ก็ใช้งานได้ไม่รู้สึกอึดอัดนะ ภายในตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังคุมโทนสีอ่อน ทำให้ห้องดูสว่าง สะอาดดี ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบเลย ทั้งโถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระ และอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อม Low-Wall และกระจกเงา ที่สำคัญมีพัดลมระบายอากาศติดมาให้ด้วยค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู
อ่างล้างหน้าของ Cristina ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับขนาดห้อง มีก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิดใช้งานสะดวก พร้อม Low-Wall เอาไว้วางขวดสบู่, แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน, โฟมล้างหน้า หรือสกินแคร์ต่าง ๆ ได้
บรรยากาศภาพรวมห้องนอนบนชั้นลอย
จากชั้นลอยมองลงมาที่ด้านล่าง จะเห็น Living Area ทั้งหมดแบบนี้เลยค่ะ
ราคา (ม.ค. 67)
ลงทะเทียนรับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* คลิก :https://apth.ly/kprf
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโดใหม่ บนทำเลที่หาที่ดินได้ยากในปัจจุบัน และที่นี่ยังเป็นคอนโดโครงการแรกในรอบ 5 ปี ที่เปิดใหม่ในย่านนี้ โดยจะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนในทำเลใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ ติดริมถนนใหญ่ สามารถเชื่อมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯชั้นใน, ชั้นนอก และปริมณฑลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
สถานที่สำคัญใกล้โครงการก็ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า ทั้งห้าง Center One, Victory Hub, The Season Mall, King Power รางน้ำ, Century The Movie Plaza และยังรายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลชั้นนำของไทยมากกว่า 17 แห่ง เช่น รพ.ราชวิถี, รพ.พญาไท 2, สถาบันสุขภาพเด็ก, รพ.รามาธิบดี, รพ.พระมงกุฎเกล้า และ รพ.ทหารผ่านศึก รวมถึงใกล้สถานศึกษาชื่อดังทั้งไทยและนานาชาติหลายแห่งมาก ๆ ค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทางมาก เพราะที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง ติดแยกถนนดินแดง ตัดกับถนนวิภาวดี- รังสิต สามารถออกไปได้ทั้งถนนวิภาวดี-รังสิต, ราชวิถี, ราชปรารภ, พญาไท , ศรีอยุธยา และเดินทางไป New CBD พระราม 9 ได้ง่าย ใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย ทั้งทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในวันเวลาที่เร่งด่วนได้ดีมาก ๆ ค่ะ
⇒ การเดินทางโดยรถสาธารณะและรถไฟฟ้า : อย่างที่รู้ว่าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีทั้งรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, Airport Link สถานีราชปรารถ, MRT พระราม 9 ให้ใช้บริการ โดยโครงการจะมีบริการ Shuttle Service ไปส่งถึง BTS สถานีอนุสาวรีย์ฯ ด้วยนะคะ
ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน ตัดผ่านหน้าโครงการอีกด้วย ส่วนรถเมล์ รถตู้ ก็ไปขึ้นได้เลยที่ Hub ใหญ่ตรงอนุสาวรีย์ฯ เรียกได้ว่าตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย เชื่อมต่อกรุงเทพชั้นใน ชั้นนอกและปริมณฑลได้อย่างสะดวก
⇒ การออกแบบโครงการ, แบบห้องพัก และวัสดุ : ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโด High-Rise สไตล์โมเดิร์น ภายนอกใช้โทนสีน้ำเงิน-ฟ้า-ตัดด้วยเส้นสายสีเทา ดูโดดเด่นไม่เหมือนคอนโดในละแวกใกล้เคียง ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-2-70.7 ไร่ สูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต และร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต
ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-28 โดยชั้น 8-21 เป็นห้องชุดแบบ All New Simplex เพดานสูงปกติที่ 2.5 ม. ขนาด 26.5-60 ตร.ม. และชั้น 22-28 เป็นห้องชุดแบบ All New Vertiplex เพดานสูง 4.45 ม. ขนาด 26-46 ตร.ม. ขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว พร้อม Hob, Hood, Sink By Teka, ฉากกั้นอาบน้ำ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard และ Digital Door Lock
ในส่วนของห้องชุดพักอาศัยจะมาพร้อมคอนเซ็ปต์ Flexible as you desire ที่มาพร้อมห้องชุดดีไซน์ใหม่ ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง ตาม Insight ของลูกค้าในโครงการที่ผ่านมา โดยจะมีให้เลือกมากถึง 18 ดีไซน์ กับห้องชุด 2 แบบ ได้แก่
1. All New Simplex 11 ดีไซน์ ขนาด 26.5-60 ตร.ม. พิเศษกับผังใหม่ 1 Bedroom Extra 35 ตร.ม. กับ 2 ฟังก์ชันใหม่ Flexible Area ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Living Area หรือ Bedroom ติดอากาศ
รวมถึง ห้อง Extra ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ระหว่าง Working Area หรือ Walk-In Closet สร้างความรู้สึกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ห้องชุดในสไตล์ All New Simplex ประกอบด้วยแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Extra, 2 Bedroom 1 Bath และ 2 Bedroom 2 Bath ราคาเริ่มต้น 1 Bedroom 2.99 ล้าน*
2. ห้องชุดเพดานสูงแบบ All New Vertiplex 7 ดีไซน์ ขนาด 26-46 ตร.ม. กับพื้นที่แนวตั้งในมิติใหม่ด้วย Double Volume ที่สูงถึง 4.45 ม. เพิ่มพื้นที่มากขึ้นเป็น 2 เท่า ได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ล่าสุด คือ ห้องชุดในสไตล์ All New Vertiplex โดยเริ่มในชั้น 22-28
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : ที่นี่จะมาพร้อมคอนเซ็ปต์ Recharge as you desire เปิดวาร์ปทุกมิติของการพักผ่อน กับพื้นที่สีเขียวสุดเงียบสงบเสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ สัมผัสความโปร่งโล่งสบายสุดส่วนตัว มีพื้นที่ให้พักผ่อน รีชาร์จตัวเอง และฮีลใจได้ในหลาย ๆ มุม
ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 3 ชั้น (ชั้น G, ชั้น 8 และชั้น 29) รวมพื้นที่จุก ๆ กว่า 3,500 ตร.ม. โดยไฮไลต์ของพื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้คือ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมตัวอาคารในส่วนของชั้น G พร้อมสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 ม. ที่ด้านหลังโครงการ
มี Lobby ที่แยกย่อยฟังก์ชันออกมาเป็นมุมต่าง ๆ ที่ชั้น 1 แบบในร่ม ให้เลือกใช้ได้ทั้งการพักผ่อน ทำงาน และนัดพบคุยงาน คุยธุรกิจต่าง ๆ ได้ ส่วนชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชัน Aqua Exercise & Jacuzzi และ The Healthy Space พร้อมอุปกรณ์ฟิตเนสครบครันในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group รวมถึง The Sky Lounge และ The Sky Park พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 29 พร้อมวิวเมือง 360 องศาแบบไร้ขีดจำกัด
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยต้องบอกว่าแน่นหนาได้มาตรฐานตามแบบฉบับของ AP มี CCTV ให้รอบโครงการ ส่วนการเข้า-ออกโครงการ ลูกบ้านจะใช้เป็นระบบ Katsan ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ลงทะเบียนไว้กับทางนิติบุคคล และยังสามารถ Pre Register ให้กับเพื่อน ๆ ผ่านเข้ามาในโครงการได้
ส่วนการเข้า-ออกตัวอาคารพักอาศัย, ชั้นพักอาศัยที่อยู่ร่วมกันกับส่วนกลาง, ห้องส่วนกลางต่าง ๆ รวมไปถึงลิฟต์โดยสาร จะใช้เป็นระบบ Face Scan ในการเข้า-ออก ขึ้น-ลงห้องพักค่ะ เป็นระบบที่ทันสมัย แม่นยำ และช่วยคัดกรองบุคคลภายนอกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญไม่ต้องพกพวงกุญแจให้ยุ่งยากอีกต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623
Line : https://line.me/ti/p/~@apthai
Website : https://apth.ly/kprf
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโด ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
blue สุขุมวิท 89 เริ่ม 2.49 ล้าน*
แอสปาย ห้วยขวาง เริ่ม 3.49 ล้าน*
SHUSH ราชเทวี เริ่ม 8.99 ล้าน*
SOLACE พหลฯ-ประดิพัทธ์ เริ่ม 2.99 ล้าน*
COCO PARC พระราม 4 เริ่ม 6.99 ลบ.*
Aspire วิภา-วิคตอรี่ เริ่ม 2.99 ล้าน*
Via ARI เริ่ม 19.99 ล้าน*
บ้านร่วมทางฝัน 4 เพชรเกษม-บางแค เริ่ม 1.44 ล้าน*
The Muve บางนา เริ่ม 1.69 ล้าน*
The Muve บางแค เริ่ม 1.89 ล้าน*
Atmoz Oasis อ่อนนุช เริ่ม 1.69 ล้าน*
แสดงความคิดเห็น