EP.258 รีวิว คอนโด บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ BEAT Bangwa Interchange
คลิกเลย >> สร้างเสร็จพร้อมอยู่ https://www.homenayoo.com/beat-bangwa-interchange/
Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ BEAT บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ จาก Northland Development กันค่ะ ตัวโครงการจะตั้งอยู่ในถนนเทอดไท แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ใกล้ทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS และ MRT สถานีบางหว้า ในระยะที่เดินง่าย เพียง 280 เมตร เดินทางสะดวกรวดเร็วตามวิถีคนเมืองเชื่อมสู่ CBD ได้ภายใน 15 นาที และใกล้ มหาวิทยาลัย, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายบนถนนราชพฤกษ์
BEAT Bangwa Interchange เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 2 – 3 – 72 ไร่ 2 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 402 ยูนิต, และร้านค้าอีก 1 ยูนิต ออกแบบด้วยแนวความคิด BEAT OF YOUR LIFE จังหวะชีวิตของความเป็นเมืองที่รวดเร็ว รวมกับจังหวะชีวิตที่คุณสนุกในทุกจังหวะ การต่อเนื่องในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางการเชื่อมต่อทุกจังหวะอย่างลงตัวใกล้เมือง มีห้องให้เลือก 3 แบบด้วยกัน 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 25.6 – 51.1 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, Co – working Space, Fitness, Game Room, Swimming Pool, Library Corner, Laundry, สวนหย่อมโดยรอบโครงการ และสวนหย่อมที่ชั้น 4, 24/7 Convenience Store, Shuttle Service, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 135 คัน คิดเป็น 39%, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ทางโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท*
เราไปดูรายละเอียดของโครงการด้วยกันเลยค่า
ชื่อโครงการ | บีท บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ BEAT Bangwa Interchange |
เจ้าของโครงการ | บริษัท นอร์ธแลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด / Northland Development |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-3-72 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 135 คัน คิดเป็น 39% |
จำนวนลิฟต์ | อาคารละ 2 ตัว |
โซน | เทอดไท |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถสองแถวท้องถิ่น |
ที่ตั้ง | ถนนเทอดไท แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างปี 2562 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* (ต.ค. 61) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 69,000 บาท/ตร.ม.* (ต.ค. 61) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | BEAT Bangwa Interchange คอนโดใหม่ บนถนนเทอดไท ใกล้รถไฟฟ้า BTS บางหว้า และ ม.สยาม เชื่อมต่อ CBD ได้เพียงไม่กี่นาที ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนเทอดไท แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
พิกัดโครงการ : 13.716465, 100.455860
พิกัดสำนักงานขาย : 13.720207, 100.457406
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ BEAT บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท เข้ามาจากถนนราชพฤกษ์เพียง 280 เมตรในเขตภาษีเจริญใกล้กับ BTS สถานีบางหว้า ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฝั่งธนฯ ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ที่ขยายตัวออกมาจากย่านวงเวียนใหญ่และจรัญสนิทวงศ์ซึ่งเป็นชุมชนเก่าที่มีความหนาแน่นสูง พื้นที่ที่อยู่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีห้างร้านมากมายมาเปิดพอเข้าไปในซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชนและหมู่บ้าน
ทำเลของโครงการนั้นก็ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางของกรุงเทพฯ และก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสาธารณูปโภคต่างๆ และจะมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมีแผนการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯ อีกหลายสาย ซึ่งจุดนี้จะทำให้มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็น ทาวน์โฮม, บ้านเดี่ยว รวมถึง คอนโดมิเนียมทั้ง Low rise และ High rise โดยส่วนมากความอุดมสมบูรณ์จะเกาะกลุ่มอยู่ตามเส้นเพชรเกษมและเส้นราชพฤกษ์ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเทอดไท ซึ่งสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนได้ถึง 7 สายด้วยกัน ทั้ง ถนนวุฒากาศ, ราชพฤกษ์, จอมทอง, กัลปพฤกษ์, จรัญสนิทวงศ์, พระราม 3 และเพชรเกษม ได้อย่างง่ายดาย และยังอยู่ไม่ไกลจากจุดตัดถนนใหญ่ๆ จึงทำให้เดินทางสะดวก
ส่วนการวิ่งเข้า – ออกเมืองก็ทำได้ง่ายค่ะ เพราะจากตัวโครงการจะอยู่ห่างจากสะพานตากสินเพียง 6.6 กม.เท่านั้น ข้ามสะพานไปก็เข้าสู่สาทรแล้ว จากโครงการก็สามารถวิ่งไปทางวงเวียนใหญ่โดยใช้ถนนเทอดไทหรือวิ่งออกถนนราชพฤกษ์เพื่อข้ามสะพานพระปกเกล้าเพียง 6.3 กม. ถ้าจะออกไปฝั่งพุทธมณฑล, นครปฐม, สมุทรสาคร ก็สามารถใช้ถนนเพชรเกษมเป็นหลัก ส่วนทางพระราม 2 และบางขุนเทียนก็วิ่งจากเส้นกาญจนาฯ ลงไปได้หรือจะวิ่งจากถนนบางแคก็ไปก็ได้เหมือนกันค่ะ
ทางด่วน ส่วนทางด่วนก็สามารถใช้ทางพิเศษศรีรัชที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนสายอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นทาง บางนา – ชลบุรี
หรือพระราม 9, จตุจักร, ปากเกร็ด ก็สามารถเดินทางไปได้ง่าย
ความอุดมสมบูรณ์ ภาพรวมภายในถนนเทอดไทค่อนข้างมีความเป็นชุมชนสูงทีเดียวเพราะเป็นย่านของบ้านพักอาศัย ตลอดถนนทั้ง 2 ฝั่งมีบรรยากาศเป็น บ้านพักอาศัยส่วนตัว, อาคารพาณิชย์, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, ร้านขายยา, ร้านเสริมสวย, โรงเรียน และวัดวาอาราม ระยะสามารถเดินจากตัวโครงการไปได้สะดวกค่ะ
มาดูในภาพที่กว้างมากขึ้นในระยะที่สามารถขับรถไปได้สะดวก ที่เด่นๆ และใกล้กับตัวโครงการก็จะมี The Circle และ Food Villa บนเส้นราชพฤกษ์ มาที่เส้นเพชรเกษมจะมีทั้ง ซีคอน บางแค, ตลาดใหม่ บางแค, Tesco Lotus และ The Mall บางแค อยู่ในระยะใกล้ๆ กันเลย ถ้าขับไปถึงแยกตลาดพลูตรงนั้นก็จะมีตลาดพลูที่รวมอาหารอร่อยเก๋าตั้งแต่รุ่นพ่อ และถ้าลงไปที่เส้นกัลปพฤกษ์ตรงนั้นก็จะมี Hypermarket ครบทุกแบรนด์เลยค่ะ
นอกจากนี้จากตัวโครงการก็ยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญๆอีกหลายแห่ง ทั้ง ม.สยาม, ร.ร.นานาชาติ British Columbia, ร.ร.ฐานปัญญา, รพ.พญาไท 3, ร.พ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า, ร.พ.ตากสิน, ร.พ.เพชรเกษม, วัดอ่างแก้ว, วัดอรุณฯ, วัดโพธิ์, พระบรมมหาราชวัง และสนามหลวงอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากโครงข่ายรถไฟฟ้าด้วยนะคะ สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น BTS สถานีบางหว้า จากตัวโครงการเดินไปขึ้นทางเชื่อมกับสถานีเพียง 280 เมตรเท่านั้น และเดินต่อบนทางเชื่อมสถานีไปอีก 420 เมตรก็จะถึงตัวสถานีพอดี อีกทั้งตัวโครงการยังมี Shuttle Service เป็นบริการเสริมเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้านอีกด้วย
ส่วนในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้าวิ่งเลียบเส้นราชพฤกษ์ขึ้นไปสุดบริเวณทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน ส่วนอีกสายนึงก็คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางแค โดยคาดว่าจะได้ใช้งานในช่วงปี 2562 นอกจากนี้ภายในถนนเทอดไทเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์, รถแท็กซี่ รวมถึงรถสองแถววิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันด้วย
มาดูระยะการเดินทางจากตัวโครงการไปที่สถานีบางหว้าแบบชัดๆ กันค่ะ จากหน้าโครงการเราเดินเลียบถนนเทอดไทไปจนถึงปากซอยเข้าถนนราชพฤกษ์เพียง 280 เมตรก็จะถึงจุดขึ้นทางเชื่อม BTS บางหว้า จากตรงนั้นให้เราเดินบนสะพานทางเชื่อมต่อไปอีก 420 เมตร รวมระยะทางเป็น 700 เมตรก็จะถึงที่ตัวสถานีพอดี
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนราชพฤกษ์ > ถนนเทอดไท > BEAT บางหว้า อินเตอร์เชนจ์
วันนี้เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนราชพฤกษ์ช่วงสะพานข้ามถนนบางแวกกันค่ะ ทางซ้ายมือจะมี D Condo Campus Resort เป็นจุดสังเกต
ตรงไปเรื่อยๆ เราจะวิ่งผ่านศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าย่อย BTS สายสีลม
จากนั้นให้เราวิ่งตรงตามป้ายรัชดาภิเษกไปค่ะ
ที่ข้างหน้าของเราจะมีทางแยก ให้เราเลือกช่องทางขวาสุดเพื่อขึ้นสะพานข้ามถนนเพชรเกษมไป
ลงจากสะพานข้ามถนนเพชรเกษมมาแล้วจะมีป้ายบอกทางไปถนนเทอดไท ข้างหน้าจะมีทางออกสู่ทางคู่ขนานค่ะ
ให้เราชิดซ้ายและวิ่งออกสู่ทางคู่ขนานเลยค่า
จากนั้นให้เราขับตรงตามป้ายถนนเพชรเกษม – ถนนเทอดไทไปเรื่อยๆ
และให้เราชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถที่ข้างหน้าค่ะ
ชิดขวาแล้วกลับรถเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่งนึงของถนนราชพฤกษ์
พอกลับรถมาแล้วให้เราวิ่งตามป้ายถนนเทอดไทต่อไป
ข้างหน้าของเราจะมีทางแยกให้เราวิ่งออกทางแยกฝั่งซ้ายค่ะ
จากนั้นให้เราชิดขวาวิ่งตามป้ายถนนเทอดไทต่อไปเพื่อขึ้นทางยกระดับไปลงทางคู่ขนานถนนราชพฤกษ์
และให้เราชิดซ้ายวิ่งตามป้ายถนนเทอดไทไปเหมือนเดิม
คราวนี้ที่ข้างหน้าของเราจะมีทางแยกซ้าย – ขวาอีกครั้ง ให้เราชิดซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเทอดไทค่ะ
และให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเทอดไทเลย ฝั่งซ้ายมือของเราจะเห็นทางเดินลอยฟ้าเชื่อมสู่ BTS บางหว้าค่ะ
ภายในถนนเทอดไทจะมีบรรยากาศแบบชุมชนบ้านพักอาศัย ช่วงต้นๆ ของถนนจะค่อนข้างเงียบสงบหน่อย ให้เราวิ่งตรงไปอีก 280 เมตรค่ะ
เราตรงเข้ามาอีก 280 เมตรก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือของเราแล้วค่า
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริบทโดยรอบโครงการภายในถนนเทอดไทจะมีบรรยากาศแบบชุมชนที่พักอาศัยค่ะ ตัวโครงการล้อมรอบด้วยบ้านของชาวบ้านสูงประมาณ 1 – 2 ชั้น ภายในซอยยังคงหลงเหลือที่ดินเปล่าบางส่วนให้พัฒนาได้ ลึกเข้าไปในถนนเทอดไทไม่ไกลจากตัวโครงการจะมีความเป็นชุมชนมากขึ้น มีทั้งอาคารพาณิชย์, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ, โรงเรียน และวัดภายในชุมชนค่ะ
ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการแล้วค่ะ ซึ่งตอนนี้กำลังทำโครงเหล็กเพื่อล้อมรั้วและติดป้ายโครงการกันอยู่
เรามาเดินสำรวจบริบทโดยรอบโครงการกันค่ะว่าจะมีบรรยากาศของการอยู่อาศัยเป็นอย่างไร เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิมของคนในท้องถิ่น
มองไปทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นป้ายเขตโรงเรียน เพราะฉะนั้นในย่านนี้จะต้องขับรถช้าๆ หน่อยนะ
ทั้งฝั่งซ้ายและขวาบนถนนเทอดไทจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งเก่าและใหม่ของคนในย่านนี้
เดินข้ามสะพานข้ามคลองมาจะเห็นวัดอ่างแก้วอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ
ภายในซอยก็จะมีร้านค้าและร้านอาหารร้านเล็กๆ คอยเปิดให้บริการผู้คนในย่านนี้
เดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยวัดโคนอนจะมี 7 – Eleven อยู่ 1 สาขาและมีร้านรถเข็นขายอาหารอยู่ 2 – 3 ร้านด้านหน้า จากโครงการเดินมาเพียง 190 เมตรเท่านั้นค่ะ
กลับไปที่บริเวณด้านหน้าโครงการ เรามองไปทางฝั่งขวามือเห็นบรรยากาศช่วงต้นๆ ของถนนจะค่อนข้างเงียบสงบมากกว่าด้านใน
ทั้ง 2 ฝั่งของถนนจะมีบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินขนาดใหญ่ รวมถึงผืนที่ดินเปล่าเป็นบางช่วง
เราเดินออกมา 280 เมตรก็จะถึงจุดขึ้นทางเชื่อม BTS บางหว้าแล้วค่ะ
บนทางเชื่อมเองก็จะมีที่จอดจักรยานให้บริการด้วยนะ
และมีทางลงเชื่อมกับท่าเรือบางหว้าด้วยค่ะ
บริเวณท่าเรือบางหว้าค่ะ จะมีเรือโดยสารให้บริการในช่วงเช้าตั้งแต่ 6.00 – 9.15 น.และช่วงเย็นตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป โดยวิ่งจากท่าเรือบางหว้าไปยังวัดกำแพงบางจาก
และบริเวณนั้นเองก็จะมีคิวรถตู้เพื่อวิ่งไปยังนครปฐมอีกด้วย
จากจุดขึ้นทางเชื่อม BTS บางหว้า เราเดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 420 เมตรก็จะถึงตัวสถานีบางหว้าแล้วค่า
ส่วนสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ที่ใต้ BTS บางหว้าเลยค่ะ จะอยู่บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาไปบางแคนะ
ภาพบรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย
:::: ตัวโครงการ ::::
BEAT Bangwa Interchange เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 2 – 3 – 72 ไร่ 2 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 402 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต ออกแบบด้วยแนวความคิด BEAT OF YOUR LIFE จังหวะชีวิตของความเป็นเมืองที่รวดเร็ว รวมกับจังหวะชีวิตที่คุณสนุกในทุกจังหวะ การต่อเนื่องในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางการเชื่อมต่อทุกจังหวะอย่างลงตัว เหมือนกับ Beat ของดนตรี มีห้องให้เลือก 3 แบบด้วยกัน 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 25.6 – 51.1 ตร.ม.
และส่วนกลางแบบ 7 Beat 7 Spaces ทั้ง Active Space ปลดปล่อยพลังงานความมันส์ไปกับพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง, Creative Space สร้างสรรค์ ได้อย่างเต็มที่ กับ Co – working Space, Comfort Space สบาย ผ่อนคลาย ไปกับ Swimming Pool และ Jacuzzi ที่เป็นส่วนตัว, Ozone Space สดชื่นและใช้พื้นที่ร่วมสังสรรค์เล็กๆ ไปกับเพื่อนๆ ในสวนหย่อมลอยฟ้า, Fit and Firm Space กับจังหวะที่เป็นคุณใน Fitness, Fun and Learning Space สนุกและเรียนรู้ไปกับพื้นที่ Game Room และ Shade Space ร่มรื่น พักผ่อน กับพื้นที่สวนส่วนกลางที่มากกว่าโดยรอบโครงการ รวมถึง 24/7 Convenience Store, Shuttle Service, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ 135 คัน, Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
ผังโครงการ(ชั้น 1): ตัวโครงการจะสามารถเข้า – ออกได้ทางเดียวจากทางถนนเทอดไท ผ่านซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV
เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้วจะแยกออกเป็น 2 อาคาร จากทางเข้าจะผ่านหน้าอาคาร B และผ่าน Main Lobby ก่อน จากนั้นขับเข้าไปใต้อาคาร A เป็นอาคารจอดรถโดยวนตามเข็มนาฬิกาขึ้นไปได้ถึงชั้น 3 และวนกลับออกไปที่ทางเข้า – ออกเดิม
จาก Main Lobby จะเชื่อมต่อกับ Creative Space หรือ Co – Working Space, Fun and Learning Space หรือ Game Room และ Fit and Firm Space หรือ Fitness ที่ได้วิวสวนสวยรอบๆ โครงการโดยจะมีประตูทางเข้า – ออกเชื่อมสู่สวนและเชื่อมต่อไปยัง Active Space เป็นลานกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าโครงการก็จะมี 24/7 Convenience Store ที่เปิดให้บริการลูกบ้านได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดด้วย จะหาซื้อของกินหรือของใช้ก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย
และจาก Main Lobby ก็จะเชื่อมสู่โถงลิฟท์ของทั้ง 2 อาคาร โดยลูกบ้านสามารถเข้าสู่โถงลิฟท์ด้วยระบบ Access Card เพื่อเข้าสู่ Residential Zone ในส่วนของอาคาร B จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลย มีทั้งหมด 23 ห้อง/ชั้น แต่อาคาร A จะเริ่มต้นที่ชั้น 4 ค่ะ
ชั้นที่ 2 : อาคาร A ยังคงเป็นอาคารจอดรถค่ะ ส่วนอาคาร B จะเป็น Typical Floor Plan ขึ้นไปถึงชั้นที่ 8 โดยมีห้องพักอาศัยสูงสุดอยู่ที่ 35 ห้อง/ชั้น วางผังอาคารเป็นรูปเกือบม้าแบบ Double Corridor
ชั้นที่ 3 : อาคาร A เป็นอาคารจอดรถชั้นสุดท้ายค่ะ รวมทั้งหมด 135 คัน คิดเป็น 39% ส่วนอาคาร B ยังคงใช้แปลนเหมือนเดิมทุกประการ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือ Comfort Space หรือ สระว่ายน้ำระหว่างอาคาร A และ B เป็นสระว่ายน้ำแบบ Free Form ขนาดใหญ่ ยาวถึง 20 เมตร ภายในมีสระ Jacuzzi และล้อมรอบด้วยพื้นที่พักผ่อน
ชั้นที่ 4 : ตั้งแต่ชั้นนี้เป็นต้นไปที่อาคาร A จะเข้าสู่ Residential Zone ทั้งหมดแล้วค่ะ ผังอาคารวางเป็นรูปตัว C ล้อมรอบ Ozone Space ก็คือพื้นที่สวนหย่อมลอยฟ้าค่ะ ภายในอาคาร A จัดวางห้องพักแบบ Double Corridor มีจำนวนยูนิตพักอาศัยสูงสุดอยู่ที่ 26 ห้อง/ชั้น
ชั้นที่ 5 : ตั้งแต่ที่ชั้น 5 เป็นต้นไปจะเป็น Typical Floor Plan ของทั้งอาคาร A และอาคาร B ค่ะ รวมทั้งหมดอาคาร A มีจำนวน 134 ยูนิต คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ต่อจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1 : 67 ส่วนอาคาร B มีจำนวน 268 ยูนิต คิดเป็นอัตราส่วนลิฟท์ต่อจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 1 : 134
คราวนี้เรามาดูภาพบรรยากาศของตัวโครงการกันบ้างค่ะ ตัวโครงการใช้สีน้ำตาล – เทาดูเรียบง่ายและอบอุ่น และมีการใช้เส้นสายของคานพื้นกับ Void ช่วยสร้างจังหวะให้กับตัวอาคารมากขึ้น
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ที่เชื่อมต่อกับ Co – working Space ตกแต่งด้วยพื้นลายหินอ่อน และฝ้า – ผนังตีไม้ระแนงดูหรูและอบอุ่นเหมือนบ้าน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Fitness ปูพื้นด้วยพรมสีเขียวเหมือนหญ้า ตกแต่งผนัง – ฝ้าเพดานด้วยระแนงไม้ ล้อมรอบด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่สามารถ Take View สวนได้โดยรอบ ภายในจัดเครื่องออกกำลังกายให้ 10 ชิ้น
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Game Room ภายในมีโต๊ะพูล และ Movie Area ตกแต่งให้ดูสนุกสนานมากขึ้นแต่ดูเย็นด้วยสีโทนน้ำเงิน
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Ozone Space หรือสวนลอยฟ้าที่ชั้น 4 จัดพื้นที่โดยรอบให้มีจุดนั่งเล่นพักผ่อนหรือตั้งวงสังสรรค์กันได้เบาๆ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 20 เมตร ล้อมรอบด้วยพื้นที่สำหรับการพักผ่อนโดยเฉพาะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลักๆ คือ
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.6 – 32.3 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 32.5 – 40 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 45.7 – 51.1 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 26.15 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 45.82 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Fitted มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลย
::: แบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.15 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน ภายในห้องมีการแบ่งโซนออกเป็น 5 โซนด้วยกัน คือ ห้องครัว – ห้องรับประทานอาหาร, ห้องนั่งเล่น, ระเบียง, ห้องนอน และห้องน้ำ พอเข้ามาในห้องจะเจอห้องครัวและห้องรับประทานอาหารก่อน ถัดเข้าไปคือห้องนั่งเล่น และห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นไวนิล SPC, ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Mogen และ เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูไม้อัด HDF สีขาว
พร้อมอุปกรณ์ Smart Door Lock จาก Hyundai มีความพิเศษที่สามารถรองรับบัตร Rabbit ในการเปิดประตูห้องแทนคีย์การ์ดได้ด้วย โดยจะต้องทำการเซ็ทค่ากับทางนิติบุคคลค่ะ
เข้าไปในส่วนแรกฝั่งซ้ายจะเป็นห้องครัว ฝั่งขวามือคือห้องรับประทานอาหาร ถ้าตรงเข้าไปด้านในห้องจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน ผนังภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
พื้นห้องปูด้วยไวนิลลายไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนน้ำและสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหมด โดยฝ้าเพดานของอาคาร A จะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร ส่วนอาคาร B สูง 2.4 เมตรค่ะ ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 2 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Common Area 1 ตัว และภายในห้องนอนอีก 1 ตัว
นี่คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวแบบมาตรฐานที่เราจะได้มากับตัวห้องค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นท็อปปิดผิวด้วยลามิเนตลายหินอ่อนพร้อม อ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และฮู้ดดูดควันของ MEX ใต้เคาน์เตอร์พอจะมีช่องให้เก็บของได้พร้อมชั้นวางไมโครเวฟ หน้าบานเป็น Particle Board ปิดผิวด้วยลามิเนตสีขาวอมเทา ตัว Joint เปิด – ปิดแบบ Soft Closed
ดีเทลที่มุมบานเปิด เฉือนปลายออก 45 องศาทำให้สามารถจับเปิดตัวบานได้ง่าย
อ่างล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดกำลังใช้งานได้สะดวกพร้อมก๊อกน้ำทรงสูง
เตาปรุงอาหารแบบเตาเซรามิกขนาด 2 หัว
ติดตั้งมาพร้อมกับฮู้ดดูดควันในตำแหน่งเดียวกัน
นอกจากนี้ก็มีชั้นลอยสามารถเก็บของได้เพิ่มขึ้น
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะสามารถจัดเป็นโซนรับประทานอาหารได้
ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เราสามารถวางชุดโต๊ะ – เก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่งได้แบบพอดีกับพื้นที่เลยค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ
ในส่วนนี้เราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งแถมมาด้วย 1 ตัว
อีกฝั่งก็จะได้ชั้นวางทีวีมาแบบนี้เลย เราสามารถใช้ทีวีแบบแขวนผนังเอาก็ได้นะ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการวางของได้
ท็อปของชั้นวางทีวีปิดผิวด้วยลามิเนตลายหินอ่อน และหน้าบานลามิเนตสีโทนเทา – น้ำตาล
ภายในห้องนี้มีระยะดูทีวีค่อนข้างจำกัดค่ะ แนะนำให้ดูทีวีจอขนาดประมาณ 32 -42 นิ้วนะ
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง กั้นส่วนจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกสีชาดำ โดยทางโครงการจะแถมผ้าม่านแบบทึบมาให้ด้วยค่ะ
ที่ติดตั้งมือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
ที่พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซารามิกชนิดผิดด้านขนาด 30 x 60 ซม. ส่วนราวกันตกเป็นระแนงเหล็กแบบนี้เลยค่ะ
นับว่าพื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีขนาดที่ค่อนข้างกว้างขวางนะคะ สามารถวางเครื่องซักผ้า, ตากผ้า และแขวนตัวคอมเพรสเซอร์ได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นห้องที่ชั้น 1 ตึก B จะมี Window Shadow Shade ติดตั้งมาให้ด้วยเพื่อใช้เลื่อนบังสายตาได้ค่ะ
ภาพจากระเบียงห้องมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง
เราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ ห้องนอนจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมติดกระจกสีชาดำแบบ 3 ตอน ซึ่งสามารถเลื่อนเปิดให้โล่งเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ได้แบบนี้เลย
ดีเทลมือจับประตูทำเป็นแนวเซาะร่องแบบนี้ทำให้ดูเรียบและสวย
ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่กำลังดีเทียบกับขนาดรวมของห้องเลยค่ะ ภายในห้องนี้เราจะได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าแบบเปลือยไม่มีบานเปิด
จะเห็นว่าขนาดของเตียง 5 ฟุตจะกำลังพอดีกับพื้นที่เลยค่ะ ยังเหลือพื้นที่โดยรอบให้สามารถเดินผ่านและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้
จากห้องนอนเราสามารถเลื่อนประตูบานเลื่อนไปอีกฝั่ง แล้วสามารถนอนดูทีวีจากมุมนี้ได้ด้วยเลย
จะเห็นว่าภายในห้องนอนนั้นมีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้ ซึ่งในห้องนี้ทางโครงการก็แถมม่านมาให้เหมือนกัน
หน้าต่างบานกระทุ้งฝั่งซ้ายมือสามารถเปิดได้แบบนี้เลยค่ะ
อีกฝั่งนึงของห้องจะเป็นโซนตู้เสื้อผ้า ซึ่งทางโครงการจะให้มาเฉพาะตู้เสื้อผ้าแบบเปลือยนะ ไม่ได้แถมกระจกเงาและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้
แต่บริเวณใต้โต๊ะเครื่องแป้งทางโครงการจะให้ปลั๊กที่สามารถรองรับสาย USB ได้ด้วย
หน้าตาตู้เสื้อผ้าที่เราจะได้มาค่ะ มีราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้
ลิ้นชักเก็บของใต้ตู้เสื้อผ้าค่ะ
จากนั้นเราเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นที่ห้องจะลดระดับจากพื้นห้องนอนลงไปประมาณ 1 นิ้ว
ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องผิวด้านขนาด 30 x 60 ซม. ส่วนผนังในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องแบบคล้ายกันจากพื้นจรดฝ้า จัดวางอ่างล้างมือที่หน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการใช้ของ Mogen ทั้งหมดค่ะ
มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป อ่างมีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง ด้านหลังอ่างทางโครงการก็ก่อ Lower Wall มาให้เรียบร้อย
ขนาดอ่างล้างมือค่ะ
ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี
บริเวณกำแพงด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีการเจาะช่องผนังตามแนวดิ่ง สามารถทำชั้นกระจกเพื่อให้สามารถวางของได้มากยิ่งขึ้น
ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการก่อธรณีกันน้ำไหลย้อนพร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิดมาให้เรียบร้อย ข้างๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ตรงมือจับประตูเราก็สามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้
ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กว้างขวางกำลังดีได้มาตรฐาน
ที่ผนังจะติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนพร้อมชั้นวางสบู่ให้แบบนี้เลยค่ะ
ส่วนหัวฝักบัวก็มีขนาดกำลังดี เหมาะมือ ใช้งานได้สะดวกค่ะ
นอกจากนี้ทั้งสวิตช์และปลั๊กไฟจะใช้ของ Bticino ค่ะ
::: แบบห้อง 2 Bedroom ขนาด 45.82 ตร.ม. :::
ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2 – 3 คนค่ะ ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างเป็นสัดส่วนระหว่าง Common Area, ห้องนอน และห้องครัว พอเข้ามาในห้องจะเป็นครัวแบบปิด เชื่อมสู่ Common Area และจาก Common Area จะมีโถงทางเดินที่เชื่อมสู่ห้องนอนอีก 2 ห้องและห้องน้ำค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นไวนิล SPC, ชุดโซฟาเบด, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Mogen และ เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูไม้อัด HDF สีขาว พร้อมอุปกรณ์ Smart Door Lock จาก Hyundai
เข้าไปด้านในส่วนแรกจะเป็นครัวแบบปิดค่ะ พื้นห้องปูด้วยไวนิลลายไม้ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนน้ำและสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ผนังภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทั้งหมด โดยฝ้าเพดานของอาคาร A จะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร ส่วนอาคาร B สูง 2.4 เมตร เครื่องปรับอากาศจะมีให้ 3 เครื่อง ติดเอาไว้ภายใน Common Area 1 ตัว และภายในห้องนอนอีกห้องละ 1 ตัว
ด้านหน้าสุดของห้องทางโครงการให้ตู้เก็บของและเก็บรองเท้า Built – in มาด้วยแบบนี้
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้มาก็เหมือนเดิมค่ะ แต่มีจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจึงได้ช่องเก็บของที่มากขึ้น ได้อ่างล้างจาน, เตาเซรามิกขนาด 2 หัว และฮู้ดดูดควันของ MEX มาเหมือนเดิม
นอกจากนี้ก็มีชั้นลอยสามารถเก็บของได้เพิ่มขึ้น
พอวางเคาน์เตอร์ครัวแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ในการยืนปรุงอาหารกว้างประมาณ 90 ซม. ถือว่ากว้างกำลังดีค่ะ แต่เวลายืนปรุงอาหารอยู่คนอาจจะเดินสวนด้านหลังยากหน่อยนะ
จากห้องครัวจะกั้นส่วนจาก Common Area ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกอลูมิเนียม 3 ตอนแบบนี้
เข้าสู่ห้องโถงใหญ่หรือ Common Area ค่ะ จะประกอบด้วยพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น
ภาพมองย้อนกลับไปที่ประตูครัว พื้นที่ด้านหน้าที่เหลือเราสามารถใช้วางชั้นวางของ ใช้แขวนพวกกุญแจรถกุญแจบ้านได้ และก็อย่าลืมเหลือพื้นที่สำหรับตู้เย็นด้วยนะคะ ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 60 ซม.ค่ะ
ภาพบรรยากาศโดยรวมภายใน Common Area
พอเข้ามาภายในโถงส่วนแรกที่เจอก็คือส่วนรับประทานอาหารค่ะ
ซึ่งตรงนี้เราสามารถจัดวางชุดโต๊ะ – เก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งได้เลย จะกำลังเหมาะสมกับพื้นที่
ถัดจากส่วนรับประทานอาหารเข้าไปด้านในเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น
ภายในห้องนั่งเล่นเราจะได้โซฟาเบดขนาด 3 ที่นั่งมาด้วย
ส่วนที่ฝั่งตรงข้ามเราก็จะได้ชั้นวางทีวีมาแบบเดิมเลยค่ะ แต่ขนาดของชั้นอาจแตกต่างกันบ้างนะ
จากห้องนั่งเล่นจะสามารถเชื่อมสู่พื้นที่ระเบียงได้ กั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมติดกระจกสีชาดำ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแบบเดิมเหมือนห้องที่แล้วค่ะ ราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก
ขนาดของระเบียงจะสามารถวางเครื่องซักผ้า, ตากผ้า และแขวนตัวคอมเพรสเซอร์ได้สบายๆ
ภาพจากระเบียงห้องมองย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน
จากส่วน Common Area จะเชื่อมกับโถงทางเดินที่เชื่อมสู่ห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้อง
ประตูฝั่งทางขวามือบานแรกก็คือห้องน้ำค่ะ
พื้นที่ห้องจะลดระดับจากพื้นห้องนอนลงไปประมาณ 1 นิ้ว
ที่พื้นปูด้วยกระเบื้องผิวด้านขนาด 30 x 60 ซม. ส่วนผนังในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องแบบคล้ายกันจากพื้นจรดฝ้า จัดวางอ่างล้างมือที่หน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการใช้ของ Mogen เหมือนเดิมทุกประการ
แต่อ่างมือจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นใช้งานได้สะดวกกว่า ด้านหลังอ่างก็ก่อ Lower Wall มาให้สามารถใช้วางของได้เพิ่มเติม
ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน
ส่วนด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำค่ะ มีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดี
และที่ผนังในห้องนี้จะติดตั้งชุด Rain Shower พร้อมฝักบัวและชั้นวางสบู่มาให้พร้อมเลย
คราวนี้เราเข้าไปดูห้องนอนต่อเป็น 2 ห้องสุดท้ายค่ะ เริ่มจากห้องตรงกลางโถงเป็นห้องนอนเล็กและตามด้วยห้องฝั่งซ้ายของโถงเป็นห้องนอนใหญ่
ภายในห้องนอนเล็กเป็นห้องที่มีขนาดกระทัดรัด แต่ก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัวนะคะ ทั้งเตียงนอนขนาด 3 ฟุต, โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า หรือลูกบ้านจะใช้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ใช้แทนห้องทำงานหรือ Walk – in ก็ได้
ทางโครงการจัดวางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่จริงๆ แล้วจะไม่ได้แถมมากับตัวห้องด้วยนะ
มุมโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็จะเหลือเป็นแอเรียประมาณนี้ค่ะ ยังสามารถเปิด – ปิด และหยิบของจากตู้เสื้อผ้าได้
สิ่งที่เราจะได้มาภายในห้องนี้ก็คือตู้เสื้อผ้า Built – in แบบบานเลื่อนทึบ สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ภายในมีชั้นวางของและลิ้นชักใส่ของให้ด้วย
ส่วนช่องแสงภายในห้องนี้ก็จะได้หน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้งเหมือนเดิม
ตามด้วยห้องนอนใหญ่เป็นห้องปิดท้ายค่ะ
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีความพิเศษมากขึ้น เพราะเราจะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุตแถมยังได้ Walk – in Closet อีกด้วย
พอวางเตียงนอนแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างได้สบายๆ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะเหลือค่อนข้างน้อยจึงไม่แนะนำให้วางอะไรเพิ่ม ถ้าอยากติดตั้งทีวีในห้องด้วยแนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังแทน
พื้นที่อีกฝั่งของห้องยังเหลือค่อนข้างเยอะค่ะ เราสามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ลงได้พอดี
เราเข้าไปดูด้านใน Walk – in Closet กันต่อซึ่งกั้นส่วนจากพื้นที่พักผ่อนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ภายใน Walk – in Closet นั้นจะจัดชุดตู้เสื้อผ้าให้ถึง 2 ชุดเลยค่ะ แถมยังได้ตู้เก็บของสำคัญพร้อมบานเปิดกระจกเงาขนาดใหญ่
ส่วนพื้นที่ยืนแต่งตัวภายในห้องถือว่ากว้างได้มาตรฐานแล้วค่ะ
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ตุลาคม 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (ตุลาคม 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ BEAT บางหว้า อินเตอร์เชนจ์ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท เข้ามาจากถนนราชพฤกษ์เพียง 280 เมตร ใกล้กับ BTS สถานีบางหว้า ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฝั่งธนฯ ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ที่ขยายตัวออกมาจากย่านวงเวียนใหญ่และจรัญสนิทวงศ์ซึ่งเป็นชุมชนเก่าที่มีความหนาแน่นสูง ภาพรวมภายในถนนเทอดไทค่อนข้างมีความเป็นชุมชนสูงทีเดียวเพราะเป็นย่านของบ้านพักอาศัย ตลอดถนนทั้ง 2 ฝั่งมีบรรยากาศเป็น บ้านพักอาศัยส่วนตัว, อาคารพาณิชย์, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, ร้านขายยา, ร้านเสริมสวย, โรงเรียน และวัดวาอาราม
ใกล้กับตัวโครงการก็จะมี The Circle และ Food Villa บนเส้นราชพฤกษ์ มาที่เส้นเพชรเกษมจะมีทั้ง ซีคอน บางแค, ตลาดใหม่ บางแค, Tesco Lotus และ The Mall บางแค อยู่ในระยะใกล้ๆ กัน ตรงแยกตลาดพลูก็จะมีตลาดพลูที่รวมอาหารอร่อย และถ้าลงไปที่เส้นกัลปพฤกษ์ตรงนั้นก็จะมี Hypermarket ครบทุกแบรนด์ นอกจากนี้จากตัวโครงการก็ยังอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญๆ อีกหลายแห่งด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเทอดไทซึ่งสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนได้ถึง 7 สายด้วยกัน ทั้ง ถนนวุฒากาศ, ราชพฤกษ์, จอมทอง, กัลปพฤกษ์, จรัญสนิทวงศ์, พระราม 3 และเพชรเกษม ได้อย่างง่ายดาย และยังอยู่ไม่ไกลจากจุดตัดถนนใหญ่ๆ จึงทำให้เดินทางสะดวก
จากตัวโครงการจะอยู่ห่างจากสะพานตากสินเพียง 6.6 กม.เท่านั้น ข้ามสะพานไปก็เข้าสู่สาทรแล้ว จากโครงการก็สามารถวิ่งไปทางวงเวียนใหญ่โดยใช้ถนนเทอดไทหรือวิ่งออกถนนราชพฤกษ์เพื่อข้ามสะพานพระปกเกล้าเพียง 6.3 กม. ถ้าจะออกไปฝั่งพุทธมณฑล, นครปฐม, สมุทรสาคร ก็สามารถใช้ถนนเพชรเกษมเป็นหลัก ส่วนทางพระราม 2 และบางขุนเทียนก็วิ่งจากเส้นกาญจนาฯ ลงไปได้หรือจะวิ่งจากจากถนนบางแคก็ไปก็ได้เหมือนกัน อีกทั้งยังอยู่ใกล้ทางพิเศษศรีรัชซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนสายอื่นๆ ได้ง่าย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีบางหว้า จากตัวโครงการเดินไปขึ้นทางเชื่อมกับสถานีเพียง 280 เมตรเท่านั้น และเดินต่อบนทางเชื่อมสถานีไปอีก 420 เมตรก็จะถึงตัวสถานีพอดี อีกทั้งตัวโครงการยังมี Shuttle Service เป็นบริการเสริมเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้านอีกด้วย
ส่วนในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้าวิ่งเลียบเส้นราชพฤกษ์ขึ้นไปสุดบริเวณทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน ส่วนอีกสายนึงก็คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางแค โดยคาดว่าจะได้ใช้งานในช่วงปี 2562 นอกจากนี้ภายในถนนเทอดไทเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์, รถแท็กซี่ รวมถึงรถสองแถววิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันด้วย นับว่าสะดวกสบายพอสมควรค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 2 – 3 – 72 ไร่ 2 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 402 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต ออกแบบด้วยแนวความคิด BEAT OF YOUR LIFE จังหวะชีวิตของความเป็นเมืองที่รวดเร็ว รวมกับจังหวะชีวิตที่คุณสนุกในทุกจังหวะ การต่อเนื่องในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางการเชื่อมต่อทุกจังหวะอย่างลงตัว เหมือนกับ Beat ของดนตรี มีห้องให้เลือก 3 แบบด้วยกัน 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 25.6 – 51.1 ตร.ม. พร้อมส่วนกลางแบบ 7 Beat 7 Spaces
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 2.4 – 2.6 เมตร แปลนห้อง 1 Bedroom จะได้ครัวเปิดรวมกับส่วน Common Area ส่วนห้องนอนจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ สามารถเลื่อนเปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่ภายในห้องได้ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นไปจะแบ่งส่วน ห้องครัว, Common Area และห้องนอนออกจากกันเป็นโซน ได้ครัวแบบปิดและห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบจึงได้ในเรื่องของการกำจัดกลิ่นที่ดีและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เสียอย่างที่ห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียวเพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Fitted แถมเฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างเยอะเกือบเป็น Fully Furnished รวมถึงเครื่องปรับอากาศและผ้าม่านด้วยค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางของโครงการให้มาค่อนข้างหลากหลาย ออกแบบมาในรูปแบบ 7 Beat 7 Spaces ทั้ง Active Space ปลดปล่อยพลังงานความมันส์ไปกับพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง, Creative Space สร้างสรรค์ ได้อย่างเต็มที่ กับ Co – working Space, Comfort Space สบาย ผ่อนคลาย ไปกับ Swimming Pool และ Jacuzzi ที่เป็นส่วนตัว, Ozone Space สดชื่นและใช้พื้นที่ร่วมสังสรรค์เล็กๆ ไปกับเพื่อนๆ ในสวนหย่อมลอยฟ้า, Fit and Firm Space กับจังหวะที่เป็นคุณใน Fitness
Fun and Learning Space สนุกและเรียนรู้ไปกับพื้นที่ Game Room และ Shade Space ร่มรื่น พักผ่อน กับพื้นที่สวนส่วนกลางที่มากกว่าโดยรอบโครงการ รวมถึง 24/7 Convenience Store, Shuttle Service, ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวภายในอาคาร อัตราส่วนอยู่ที่ A(1 : 67) นับว่าดีเลยค่ะ และ B(1 : 134) เกินค่ามาตรฐานไปหน่อยแต่พอรับได้เพราะเป็นคอนโด Low Rise, ที่จอดรถ 135 คัน หรือ 39% และระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง Access Card Control, กล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม.
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.8 | ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท เข้ามาจากถนนราชพฤกษ์เพียง 280 เมตร ใกล้กับ BTS สถานีบางหว้าในระยะ 700 เมตร |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.9 | สามารถเข้า – ออกได้หลายเส้นทาง ล้อมรอบด้วยถนนใหญ่หลายเส้นและใกล้ทางด่วน |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.0 | อยู่ใกล้จุดขึ้นทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS บางหว้า เพียง 280 เมตร (ห่างจากตัวสถานี 700 เมตร) มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ |
บ้านและวัสดุ | 7.6 | ห้องสไตล์โมเดิร์น แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Fitted วัสดุสวยงามและได้มาตรฐาน ได้ของแถมเยอะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.7 | สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้หลายอย่าง มีมาให้ค่อนข้างเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.8 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 3 คน ต้องการหาที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่เดินได้สะดวก สามารถเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่าย |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.8 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
โทร : 02 – 023 – 3488
WEBSITE : http://www.beatcondo.com/
พิกัดสำนักงานขาย : 13.720207, 100.457406
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น