Written by : Nin Yanin & Pure Thitapa
Photo by : Nin Yanin & Eins Gannika
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน CONDONAYOO ขอพาไปชมโครงการ Centric รัชโยธิน คอนโดจาก SC ASSET ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางรัชโยธิน ติดถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. เดินทางสะดวกสบาย เพียง 150 เมตร จากรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธิน ใกล้ทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ และ ทางพิเศษศรีรัช
นอกจากนั้นยังเป็นหนึ่งในทำเลที่เป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิต รายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Major รัชโยธิน, Central Plaza ลาดพร้าว, ม.เกษตรศาสตร์ และ รพ.เปาโล เกษตร ฯลฯ
เซ็นทริค รัชโยธิน เป็นคอนโด High Rise ระดับ Luxury Class สูง 21 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 2-0-77.63 ไร่ กับห้องพักอาศัยเพียง 261 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้น 24.00 – 55.00 ตร.ม. กับแนวคิด A Place For Your Hybrid Lifestyle…เชื่อมต่อทุกความต้องการกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียว
ฝ้าภายในห้องสูงโปร่งถึง 3 เมตร โครงการขายห้องพักแบบ Fully Furnished ที่ได้ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน-ลอยตัว, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องปรับอากาศ, ประตู Digital Door Lock และ Rue Jai Living Solutions Platform นวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบใหม่จาก SC ASSET ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และเปิดให้ชมห้องจริงบรรยากาศจริง พร้อมสัมผัสประสบการณ์ Hybrid Living Experiences ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2562 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน โดดเด่นด้วย Triple Facilities รวมพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม. เพียบพร้อมไปด้วย Grand Lobby, Semi Outdoor Lobby, Business Lounge & Private Meeting Room, Residence Lobby Lounge, Smart Mail Room & Smart Locker
Triple Volume Co-working Space, Sensational Garden, Outdoor Dining Space, Infinity Edge Pool & Jacuzzi, Panoramic Sky Fitness, Virtual Class Exercise Room, ลิฟต์โดยสาร, EV Charger, ที่จอดรถ คิดเป็น 46% หรือ ประมาณ 121 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน, Access Card Control, CCTV และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 3.89 ล้านบาท
ในรายละเอียดและบรรยากาศภายในโครงการของจริงจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญเลื่อนลงไปอ่านด้านล่างนี้ได้เลยค่า
ชื่อโครงการ | เซ็นทริค รัชโยธิน Centric Ratchayothin |
เจ้าของโครงการ | เอสซี แอสเสท / SC ASSET |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-0-77.63 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 21 ชั้น |
จำนวนห้อง | 261 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 46% หรือ ประมาณ 121 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | รัชโยธิน |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | สาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 126, 129, 178, 185, 188, 503, 543ก และ 545 |
ที่ตั้ง | ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. |
กำหนดการ | ไตรมาส 1/2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | ไตรมาส 4/2562 |
ราคา | เริ่มต้น 3.89 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 168,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | เซ็นทริค รัชโยธิน คอนโดใหม่ บนทำเลสมบูรณ์แบบ ใจกลางรัชโยธิน เพียง 150 เมตร จาก BTS รัชโยธิน 2 สถานี ถึง Central Plaza ลาดพร้าว |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.831835, 100.571290
ทำเลที่ตั้ง Centric รัชโยธิน ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน เยื้องกับเมเจอร์ รัชโยธิน ใกล้ รพ.เปาโล เกษตร เพียง 150 เมตร ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธิน สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้อีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน และ Monorail สายสีเหลืองค่ะ
โดยทำเลย่านรัชโยธินนั้นได้ชื่อว่าเป็น Business Hub อยู่ใกล้ทั้งแหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งMajor รัชโยธิน, Central Plaza ลาดพร้าว, ม.เกษตรศาสตร์, รพ.เปาโล เกษตร สำนักงานขนาดใหญ่อย่าง SCB Park และ ตึกช้าง จากการสำรวจข้อมูล ทำเลในย่านนี้ ตั้งแต่ พหลโยธิน-ลาดพร้าว-จตุจักร จนไปถึงเกษตร นั้นมีสัดส่วนการขายโครงการสูงถึง 90% ตาม Demand และ Supply ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่อปล่อยเช่า เพื่อการลงทุน หรือการซื้อเพื่ออยู่เองค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางถือว่าสะดวกค่ะ เพราะว่าตัวโครงการอยู่ติดกับ ถนนพหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ใกล้กับแยกใหญ่ ทั้งแยกเกษตร, แยกรัชโยธิน และ ห้าแยกลาดพร้าว โดยสามารถใช้เส้นพหลโยธิน วิ่งตรงยาวออกไปทางอนุสาวรีย์ ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้เลย แม้ว่าเส้นพหลโยธินจะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่ามีการจราจรที่ติดขัด แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น
ทางด่วน นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้น ดอนเมือง โทลล์เวย์ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 2.8 กม. หรือใช้เวลาขับรถไปประมาณ 8 นาทีถึงค่ะ
และอยู่ใกล้กับจุดขึ้น ทางพิเศษศรีรัช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเดินทางเข้าเมืองได้เป็นอย่างดี ระยะทางเดินทางไป 3.6 กม. หรือใช้เวลาประมาณ 15 นาทีถึง
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สำหรับการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเช่นกัน ตัวโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธิน มี Taxi และ วินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นยังมีรถเมล์ผ่านหลายสาย มีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานกระจายไว้ริมถนนพหลโยธินหลายจุด รถเมล์สายที่ผ่านก็จะมี 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 126, 129, 178, 185, 188, 503, 543ก และ 545 ค่ะ
สำหรับการเดินทางด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้า ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วง หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ สถานีรัชโยธิน เดินไปเพียง 150 เมตร ถึงตัวสถานี ปัจจุบันได้เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการแล้วค่ะ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้อีก 3 สาย นั่นก็คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และ Monorail สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
ความอุดมสมบูรณ์ โดยรอบโครงการในรัศมีไม่เกิน 10 กม. มีความอุดมสมบูรณ์ และ เป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเกือบเท่ากรุงเทพชั้นใน เพราะอยู่ใกล้ทั้ง แหล่งงานขนาดใหญ่, แหล่งช้อปปิ้ง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมายครบถ้วน
แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในย่านนี้ ใกล้ที่สุดจะเป็นตัว Major รัชโยธิน ที่ตั้งอยู่เยื้องๆ กับตัวโครงการ ออกไปนั่งเล่น ฟังเพลง ช้อปปิ้ง ทานข้าว ดูหนังได้ครบที่นี่ทีเดียว ถัดออกไปหน่อยก็คงหนีไม่พ้น Central ลาดพร้าว และ Union Mall ที่อยู่บริเวณทางออกรถไฟฟ้า MRT สถานีพหลโยธิน
ถ้าจะดูเป็น Hypermarket เพื่อซื้อของเข้าบ้านก็จะมี Gourmet Market สาขา MRT ลาดพร้าว, Big C ลาดพร้าว 2 และ Tesco Lotus อยู่ตรงข้ามกับ Central ลาดพร้าว ออกไปทางจตุจักรก็มีพวก JJ Mall, JJ Green และตลาดนัดจตุจักรให้เลือกเดินในวันสบาย ๆ ตรงแยกเกษตรก็มีร้านอาหารเด็ด ๆ อยู่หลายร้าน
ออกไปทางเส้นเลียบด่วนรามอินทราจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Central Festival Eastville, The Crystal และ CDC เลยขึ้นไปบนเส้นเกษตรนวมินทร์จะเป็นแหล่ง Community Mall และตลาดนัดขนาดใหญ่ จากตัวโครงการสามารถไปได้ไม่ยากค่ะ
นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก โรงพยาบาล, สถานศึกษาทั้ง รพ.เปาโล เกษตร, รพ.วิภาวดี, รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น, รพ.นนทเวช, รร.หอวัง, รร.สารวิทยา, รร.นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์, รร.สตรีวิทยา 2, มรภ.จันทรเกษมฯ, ม.เกษตรศาสตร์, ม.เซนต์จอห์น และ ม.ศรีปทุม
ใกล้หน่วยงานราชการ, รัฐวิสาหกิจ และ แหล่งงานชั้นนำอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตัวตึกช้าง, กรมที่ดิน, กรมยุทธโยธาทหารบก,กองปราบฯ, ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่, SCB Park, กรมป่าไม้, TMB สำนักงานใหญ่, ปตท. สำนักงานใหญ่ และ ศาลอาญา โดยรวมแล้วคือมีสาธารณูปโภคคอยรองรับอย่างครบครันที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยครบวงจรค่ะ
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนรามอินทรา > เวียนหลักสี่ > ถนนพหลโยธิน > Centric รัชโยธิน
การเดินทางเราเริ่มต้นที่ถนนรามอินทรา ให้เราวิ่งมุ่งหน้าไปทางหลักสี่ เริ่มเบี่ยงเข้าฝั่งขวามือเพื่อขึ้นสะพานยกระดับตรงแยกลาดปลาเค้า โดยเราจะขับผ่าน Big C รามอินทราค่ะ
เราจะขับผ่านศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบกอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ สังเกตเห็นว่าตอนนี้เส้นรามอินทราก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูกันอยู่ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
จากนั้นมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าวตามป้ายเลยค่ะ ชิดซ้ายเอาไว้ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามวงเวียน
เราขับตามป้ายลาดพร้าวต่อไป เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายข้างหน้าเพื่อเข้าถนนพหลโยธินค่ะ
ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินค่ะ จากตรงนี้เราจะเห็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีวัดพระศรีมหาธาตุพอดี
พอเข้าถนนพหลโยธิน ผ่านกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 เราก็จะเห็นตัวสถานีกรมทหารราบที่ 11 พอดีค่ะ
จากนั้นเราก็จะขับผ่านสถานีบางบัว, สถานีกรมป่าไม้ และสถานี ม.เกษตรศาสตร์
พอขับผ่านสถานี ม.เกตรศาสตร์ แล้วให้เราขับขึ้นสะพานข้ามแยกเกษตรไปค่ะ
ลงจะสะพานข้ามแยกมาสักครู่เราก็จะเจอสถานีเสนานิคมอยู่ข้างหน้า
คราวนี้เราไม่ต้องขับขึ้นสะพานข้ามแยกแล้วนะคะ ให้เราชิดซ้ายขับผ่านแยกเสนานิคมไป เพราะจุดลงจากสะพานนั้นจะกระชั้นเกินไป เราจะชิดซ้ายเข้าโครงการไม่ทันนะ
เราขับผ่านแยกเสนานิคมมาเพียง 300 เมตร เราก็จะเห็นทางเข้าโครงการ Centric รัชโยธิน อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
Centric รัชโยธิน ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว หน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันตก ติดถนนพหลโยธิน และ แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ด้านหลังโครงการฝั่งทิศตะวันออก ติดบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ที่ดินเปล่า ส่วนด้านข้างโครงการทางฝั่งทิศเหนือ และ ฝั่งทิศใต้ เป็นอาคารพาณิชย์ 3-5 ชั้นค่ะ
ก่อนที่จะเข้าไปชมด้านในโครงการ เราขอพาเดินสำรวจรอบ ๆ โครงการดูว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง โดยจะเริ่มจากหน้าโครงการ เดินเท้าขึ้นไปยังที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้ารัชโยธินกันค่ะ พร้อมแล้วไปชมกันเลย..
จากหน้าโครงการมองออกมา..เป็นถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว มองขึ้นไปด้านบนเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
เดินเลี้ยวซ้ายตามทางเท้าไปสถานีรถไฟฟ้าหรือฝั่งแยกรัชโยธินกันค่ะ
จากหน้าโครงการเราเดินไปเพียง 30 เมตรเท่านั้นก็จะมีสะพานลอย ซึ่งได้มีการก่อสร้างเชื่อมกับตัวสถานีรัชโยธินด้วย Sky Bridge ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าและเดินกลับเข้ามาที่โครงการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
เราเดินลงมาจากสะพานลอยมุ่งหน้าไปทางแยกรัชโยธินกันต่อ พื้นที่ติดกับตัวโครงการฝั่งริมถนนนั้นจะเป็นอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านค้าต่างๆ
มีเมืองไทย ลิสซิ่ง สาขาย่อยพหลโยธิน 30/1
ไม่ไกลกันตรงข้างซอยพหลโยธิน 30/1 มีโรงเรียนสอนออกแบบทรงผมเกศเกล้าซาลอน
มองไปที่ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ทั้งแถบเหมือนกันค่ะ ชั้นล่างเป็นร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
มีปั๊ม Esso ภายในมี Lotus Express เป็นร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ที่สุด และมีร้านกาแฟ Rabika Coffee อยู่ข้างหน้า
เราเดินจากตัวโครงการไปไม่ไกลก็ถึงป้ายรถเมล์แล้ว
มองไปด้านหลังป้ายรถเมล์จะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ-เย็นตาโฟ และร้านอรอุบล 2 ขายอาหารไทย-อีสาน
ถัดมาเป็นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ปลีก-ส่ง ราคาเบาๆ
ตอนนี้มีคาเฟ่เล็กๆ น่านั่งมาเปิดใหม่ตรงนี้ด้วยนะ และที่อยู่ติดกันเลยก็คือคลิกนิกภาวิณี การแพทย์
เราเดินต่อไปจะมีธนาคารกสิกร สาขาบางเขน ด้านล่างมีที่จอดรถ และ ตู้ ATM แบบถอน-โอน-เติม-จ่าย ให้บริการ
ถัดจากหน้าธนาคารกสิรไปนิดเดียวเราก็ถึงสถานีรัชโยธินแล้ว ตรงนี้จะมีลิฟต์โดยสารสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นด้วยนะคะ หรือจะเป็นผู้ที่มีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ก็ใช้ได้
ถัดไปอีกนิดเดียวก็มีทางเดินขึ้นตัวสถานีค่ะ ตรงนี้จะเป็นทางออก 4 นะ
เราเดินตรงไปข้างหน้าผ่านกลุ่มอาคารพาณิชย์ริมถนนพหลโยธินที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และกิจการต่างๆ มากมาย
สำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินขึ้นบันได ให้เดินเลยมาอีกหน่อยจะมีบันไดเลื่อนค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือด้านหลังบันไดเลื่อนจะมี 7-Eleven อยู่ 1 สาขา ด้านหน้ามีตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ให้บริการด้วย
เราเดินเลยตัวสถานีรัชโยธินไปนิดเดียว หรือเดินผ่านซอยพหลโยธิน 30 (ซอยอาลาดิน เป็นเส้นทางลัดไปยังซอยรัชดาภิเษก 36 และ ซอยของโรงเรียนช่างฝีมือทหาร) ไปหน่อย ก็จะเห็น Major รัชโยธินอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้ว
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ Centric รัชโยธิน เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางแยกเสนานิคมกันต่อค่ะ
ติดกับตัวโครงการทางฝั่งนี้ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านค้าเช่นกัน อย่างร้านนี้เป็นร้านขายของชำ
ถัดมาอีกหน่อยมีธนาคารพัฒนาวิสหากิจ
มีศูนย์ภาษาอังกฤษสันติสุขรัชโยธิน และสุกี้ดารา
ใกล้ๆ กันนี้เองก็จะมีธนาคารออมสิน สาขาบางเขน
รวมถึงธนาคารกรุงเทพ สาขาเสนานิคม อยู่ใกล้ๆ กันหมดเลยค่ะ
เดินต่อไปจะมีป้ายรถประจำทางอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตรเอง
พอใกล้หัวมุมแยกเสนานิคมก็จะมีร้าน Tattoo เป็นร้านอาหารเล็กๆ ขายอาหารใต้ เครื่องดื่มเย็นๆ กาแฟ และมีบริการสักลายด้วยนะ
เดินมาจนถึงแยกเสนานิคม ข้างหน้าเราเลี้ยวขวาเข้าไปก็คือซอยเสนานิคม 1 เป็นซอยที่สามารถใช้ไปเชื่อมกับถนนเส้นใหญ่ๆ ได้หลายสาย
:::: ตัวโครงการ ::::
Centric รัชโยธิน เป็นคอนโดระดับ Luxury Class จากแนวคิด A Place For Your Hybrid Lifestyle…เชื่อมต่อทุกความต้องการกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียว ที่ตั้งใจออกแบบโครงการให้ตอบรับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตทุกแง่มุมของคนเมือง โดยผสมผสานพื้นที่ภายในโครงการสำหรับวันทำงานและวันพักผ่อนให้ลงตัว ผ่านห้องพักอาศัยที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการกว่า 14 รายการ รวมพื้นที่กว่า 1,500 ตร.ม.
ตัวโครงการเป็น High Rise Condominium มี 1 อาคาร สูง 21 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 2-0-77.63 ไร่ มีห้องพักอาศัยเพียง 261 ยูนิต ทำให้ตัวโครงการค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่หนาแน่น มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้น 24.00-55.00 ตร.ม.
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธิน และ แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีสวนพักผ่อนตั้งอยู่ที่ด้านหน้าโครงการ ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-3 ส่วนห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 5-20 พื้นที่ส่วนกลางถูกกระจายไว้หลายชั้น คือที่ชั้น 1 ประกอบด้วย Grand Lobby, Semi Outdoor Lobby, Smart Mail Room & Smart Locker, Residence Lobby Lounge และ Business Lounge & Private Meeting Room ชั้น 4 เป็น Triple Volume Co-working Space และ Co-relaxing Space และ ชั้น 21 มี Infinity Edge Pool & Jacuzzi, Panoramic Sky Fitness และ Virtual Class Exercise Room
ตัวอาคารถูกออกแบบมาให้ดูเรียบเท่และทันสมัย มีเอกลักษณ์โดยการใช้กล่อง Pixel มาประกอบกัน มีการเบี่ยงผนังตัวอาคารบางส่วน เพื่อให้ห้องพักได้เปิดรับวิวที่กว้างขึ้น ใช้สีโทนเทาเข้มตัดกับเส้นกรอบสีขาวทำให้ดูคม และยังมีจุดเด่นอยู่ที่บริเวณที่ชั้น 4 ตรง Triple Co-working Space ที่ถูกออกแบบให้เหมือนกล่อง Cubic ใสลอยอยู่ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวอาคาร
นอกจากนี้ทาง SC Asset ยังมีการนำเทคโนโลยี Rue Jai Living Solutions Application ที่ถูกออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกผู้พักอาศัย สามารถใช้ ควบคุมการเปิด/ปิดระบบแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ ภายในห้องพักได้ รวมถึงยังมีระบบ Motion Sensor เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น
แปลนอาคารชั้น 1 ทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธินเลยค่ะ การเดินรถยนต์ในโครงการเป็นแบบ One Way จากทางเข้าโครงการวนขวาเข้ามาจะเจอจุด Drop Off ในร่มอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นที่จอดรถกลางแจ้งและสวนพักผ่อน ขับวนเข้าไปด้านหลังอาคารจะมีทางขึ้นไปยังชั้นจอดรถที่ชั้น 1-3 โดยมีที่จอดรถทั้งหมด 46% หรือ ประมาณ 121 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
จากจุด Drop Off เข้ามาในตัวอาคารประกอบไปด้วย Grand Lobby เพดานสูง 5.5 เมตร เชื่อมต่อกับ Semi Outdoor Lobby ถัดเข้าไปด้านในเป็น Residence Lobby Lounge สำหรับลูกบ้านเท่านั้น เพื่อใช้นั่งรอลิฟต์โดยสาร คัดกรองการเข้า-ออกโดยใช้คีย์การ์ด มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว ซึ่ง Residence Lobby Lounge จะเชื่อมต่อกับ Smart Mail Room & Smart Locker นอกจากนั้นยังมี Business Lounge และ Private Meeting Room ให้ลูกบ้านได้ใช้งานกันอีกด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 4 เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น ประกอบไปด้วย Triple Facilities ที่ชั้น 1 เป็น Co-Living Space, ชั้น 2 เป็น Co-Working Space และ ชั้น 3 เป็น Reading Lounge ส่วนด้านนอกนั้นคือ Co-Relaxing Space ที่มี Sensational Garden สวนไม้หอม พร้อม Outdoor Dining Space ไว้นั่งเล่นพักผ่อนหรือทำ BBQ ได้
แปลนอาคารชั้น 6 เป็นชั้นพักอาศัย รูปแบบแปลนเป็นรูปตัว L อัตราส่วนห้องพักอยู่ที่ 11 ยูนิต/ชั้น โครงการออกแบบมาให้ประตูของห้องพักทุกห้องไม่ชนกับห้องพักห้องอื่นๆ และไม่มีผนังส่วนไหนที่ติดกับโถงลิฟต์, ห้องขยะ และ ห้องงานระบบเลยค่ะ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้เปรียบในเรื่องความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว โดยที่ชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นอื่นๆ เนื่องจากว่าทางฝั่งตะวันตกจะไม่มีห้องพักอาศัยเลย ทำให้ชั้นนี้ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ไปโดยปริยาย
แปลนอาคารชั้น 7 เป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น อัตราส่วนห้องพักอยู่ที่ 17 ยูนิต
แปลนอาคารชั้น 8-18 เป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น อัตราส่วนห้องพักอยู่ที่ 17 ยูนิต/ชั้น
แปลนอาคารชั้น 19 เป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น อัตราส่วนห้องพักอยู่ที่ 15 ยูนิต
แปลนอาคารชั้น 20 เป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น อัตราส่วนห้องพักอยู่ที่ 15 ยูนิต
แปลนอาคารชั้น 21 : เป็นพื้นที่ส่วนกลางบนจุดสูงสุดของตัวอาคาร ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ Infinite Edge Pool ระบบเกลือ ความยาวรวมถึง 25 เมตร พร้อม Jacuzzi และ Sunset Deck, Panoramic Sky Fitness เปิดรับวิวได้กว้างถึง 2 ฝั่ง, และ Virtual Class Exercise Room
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบหลักๆ คือ
โดยโครงการขายห้องพักแบบ Fully Furnished ที่ได้ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน-ลอยตัว, ชุดเคาน์เตอร์ครัวจาก Mex พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Electrolux, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard, เครื่องปรับอากาศจาก Daikin, ประตู Digital Door Lock จาก Yale และ Rue Jai Living Solutions Platform นวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบใหม่จาก SC ASSET เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ
ห้อง Studio ขนาด 24 ตร.ม.
ห้อง Studio ขนาด 26 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 38 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 39 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม.
ห้อง 2 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม.
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
::: ทางเข้าโครงการ และ ที่จอดรถ :::
เราได้ดูรายละเอียดของโครงการกันไปหมดแล้ว คราวนี้เราจะพาเข้าไปชมบรรยากาศจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากที่บริเวณทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนพหลโยธินเลย ด้านหน้าจะมีป้ายโครงการสีขาวสามารถสังเกตได้ง่าย
การเข้า-ออกโครงการนั้นจะใช้ระบบ Easy Pass ผ่าน Bluetooth นะคะ ลูกบ้านที่ถือ Key Card สามารถขับผ่านเข้าไปภายในโครงการได้เลยโดยไม่ต้องหยิบบัตรออกมาแตะเอง โดยทางโครงการได้แบ่งรั้วไม้กระดกออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก บริเวณทางเข้า-ออกนี้เองก็จะมี รปภ. คอยรักษาความปลอดภัยและช่วยอำนวยความสะดวกอยู่ สำหรับลูกบ้านที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะนั้น สามารถใช้ทางเท้าที่อยู่ทางฝั่งซ้ายมือติดกับตัวอาคารในการเดินเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัย
เครื่องรับสัญญาณ Key Card และกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัย
พอขับผ่านรั้วไม้กระดกเข้ามา สังเกตทางฝั่งซ้ายมือจะมีทางเลี้ยวเข้าสู่จุด Drop-off และที่จอดรถภายในร่ม
จากทางเข้าโครงการตรงไปจะเป็นลานจอดรถกลางแจ้งค่ะ ถ้าเลี้ยวซ้ายขับทวนเข็มนาฬิกาไปด้านหลังอาคารก็จะเห็นทางขึ้นชั้นจอดรถ
และทางฝั่งขวามือด้านข้างลานจอดรถกลางแจ้ง (ฝั่งติดถนนพหลโยธิน) เป็นส่วนของสวนหย่อมเล็กๆ สามารถใช้นั่งพักผ่อนได้ ถ้าเราเดินจนไปสุดทางเท้า พื้นที่ข้างหน้าจะเป็นร้านกาแฟในอนาคต ที่ลูกบ้านสามารถเดินไปใช้บริการได้จากภายในโครงการเลย
เราเลี้ยวเข้ามาภายในจุด Drop-off เป็นจุดที่ใช้รับ-ส่งลูกบ้าน และยังมีที่จอดรถในร่มอยู่อยู่ด้านหน้า สำหรับลูกบ้านและผู้ที่ต้องการเข้ามาติดต่อให้สามารถเดินเข้า Grand Lobby ได้เลย
คราวนี้เราขึ้นมาดูที่ชั้นจอดรถกันบ้าง ซึ่งก่อนที่จะขึ้นมาที่ชั้นจอดรถได้นั้น จะมีรั้วไม้กระดกกั้นไว้อีกชั้นเพื่อคัดกรองให้เฉพาะลูกบ้านหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตขึ้นมาได้เท่านั้น
ที่นี่จัดที่จอดมาให้ทั้งหมด 121 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 46% แบบไม่รวมซ้อนคัน ถือว่าพอรับได้เนื่องจากว่าเป็นโครงการที่อยู่ติดแนวรถไฟฟ้าค่ะ
จากบริเวณลานจอดรถนั้นสามารถเขื่อมกับโถงลิฟต์เพื่อขึ้นสู่ชั้นพักอาศัยได้เลย โดยลูกบ้านจะแสกน Key Card เพื่อเปิดประตูโถงลิฟต์ เป็นมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ
::: Grand Lobby & Semi Outdoor Lobby :::
เรากลับมาที่บริเวณจุด Drop-off อีกครั้งเพื่อเข้าสู่ภายในอาคารหรือส่วน Grand Lobby กันค่ะ
ภายใน Grand Lobby ถูกออกแบบอย่างหรูหรา สวยงาม ด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อน ยกฝ้าเพดานสูง 5.5 เมตร สร้าง Double Volume Space ทำให้บรรยากาศดูโอ่อ่าและโปร่งโล่ง ตรงกลางโถงมีเคาน์เตอร์ Reception สำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อ
ภายในโถงจัดชุดเก้าอี้-โซฟาหลายชุดสำหรับนั่งพักคอยและนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
มองไปที่บริเวณด้านหลัง Grand Lobby จะมีประตูออกไปที่ Semi Outdoor Lobby ค่ะ
Semi Outdoor Lobby ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ดึงน้ำและไม้ประดับเข้ามาใช้ตกแต่งให้รู้สึกผ่อนคลาย แม้จะไม่ได้มีพื้นที่เยอะพอสำหรับการลงต้นไม้ใหญ่ แต่ทางโครงการใช้ Green Wall เข้ามาแทนที่ได้อย่างสวยงามลงตัว
จาก Grand Lobby จะมีโถงทางเดินฝั่งขวามือเชื่อมต่อกับ Residence Lobby Lounge, Business Lounge & Private Meeting Room และห้องน้ำค่ะ
ปัจจุบัน Business Lounge & Private Meeting Room ยังถูกใช้เป็น Office ของฝ่ายขายอยู่ เลยยังไม่ได้เก็บภาพมาใช้ชมกันนะคะ
ห้องน้ำในส่วน Lobby ตกแต่งล้อกันมาโดยใช้วัสดุและโทนสีเดียวกัน
::: Residence Lobby Lounge, Smart Mail Room & Smart Locker :::
สำหรับ Residence Lobby Lounge หรือโถงลิฟต์นั้นจะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้าไปเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการค่ะ
ภายใน Residence Lobby Lounge หรือโถงลิฟต์นั้น ถูกจัดให้มีพื้นที่กว้างขวาง โปร่งโล่ง และดูสวยงาม สำหรับให้ลูกบ้านใช้นั่งรอลิฟต์ได้โดยไม่รู้สึกว่าอึดอัดเหมือนนั่งอยู่ภายในโรงแรม โดยกั้นส่วนจาก Grand Lobby ด้วยผนังกระจกใส ให้พื้นที่ยังดูเชื่อมต่อกันไม่ปิดทึบ เจ้าหน้าที่บริเวณ Reception ก็ยังสามารถมองเห็นดูแลความปลอดภัยได้
จาก Residence Lobby Lounge เชื่อมต่อกับ Smart Mail Room มีจุดเด่นตรงที่ลูกบ้านสามารถใช้ Key Card แตะที่จุดรับสัญญาณ กล่องจดหมายก็จะกระเด้งออกมาเอง ไม่ต้องเสียเวลาคอยมองหาเลขที่ห้องค่ะ
ภายในบริเวณเดียวกันนี้เองก็จะมี Smart Locker เป็นช่องรับ-ส่งของแบบอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง สามารถฝากของ พร้อมระบุเลขห้อง และเบอร์โทรศัพท์ของผู้อยู่อาศัย หลังจากนั้นระบบก็ส่งข้อความไปยังสมาร์ทโฟนของผู้รับพร้อมพาสเวิร์ด เพื่อใช้นำมาสแกนรับพัสดุด้วยตัวเอง
ภายในโถงลิฟต์นั้นมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนการใช้งาน 130.5 : 1 นอกจากนี้ยังมี Service Lift อีก 1 ตัวแยกส่วนกับลิฟต์โดยสารเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน
ลิฟต์ของโครงการเป็นลิฟต์ระบบล็อคชั้นจาก Mitsubishi Electric สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1000 กก. หรือ 15 คน/เที่ยว
::: 4th FL. Triple Volume Co-working Space & Co-Relaxing Space :::
เราขึ้นมาที่ชั้น 4 ทั้งชั้นจะเป็น Facilities ของโครงการประกอบด้วย Triple Volume Co-working Space และ Co-Relaxing Space โดยใช้ทางออกฝั่งขวามือ ทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นผนังถูก Set เข้าไป ตรงนั้นคือห้องน้ำสำหรับคนที่มาใช้งาน Facilities ในชั้นนี้ค่ะ
บริเวณโถงหน้าห้องน้ำค่ะ แยกฝั่งชาย-หญิงให้เรียบร้อย
ภายในห้องน้ำ ตกแต่งให้ดูสว่าง สะอาดตา น่าใช้งาน
เราเดินออกมาจากโถงทางเดิน ก็จะเจอ Co-Relaxing Space อยู่ทางฝั่งซ้ายมือก่อน เดินตรงไปมี Cover Way จะเป็นส่วนของ Triple Volume Co-working Space
Co-Relaxing Space ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนเปิดโล่ง มีพื้นที่ Sensational Garden และ Outdoor Dining Space
ทางโครงการออกแบบมาให้เป็นสวนเล่นระดับ ทางฝั่งซ้ายมือออกแบบ Water Feature มาเป็นขั้นบันได สร้างเสียงน้ำไหลเพื่อความผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตกแต่งด้วยพรรณไม้หลากหลายพันธุ์
พื้นที่บางส่วนปูพื้นหญ้า วาง Day Bed และวางเก้าอี้ทรงหินกรวดเอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้
พื้นที่ด้านหลังสวนถูกยกเล่นระดับขึ้นไปเป็น Outdoor Dining Space เป็นส่วนที่ลูกบ้านสามารถจัดปาร์ตี้ BBQ เล็กๆ ได้ โดยมีเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารและเตา BBQ เตรียมเอาไว้ให้ สำหรับเตา BBQ ถ้าจะใช้งานให้แจ้งกับทางนิติบุคคลให้ยกเตาออกมาให้นะคะ
คราวนี้เราเข้าไปดูในส่วนของ Triple Co-working Space กันต่อ
ภายใน Triple Co-working Space นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน เริ่มจากชั้นล่างสุดคือ Co-living Space ชั้นกลางคือ Co-working Space เป็นชั้นที่เรากำลังยืนอยู่ ส่วนชั้นบนคือ Reading Lounge
พอเดินเข้ามาภายใน Co-working Space สิ่งแรกที่สะดุดตาเลยก็คือตู้สำหรับคุยโทรศัพท์ค่ะ บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง เวลาใครที่ต้องคุยโทรศัพท์กระทันหันก็สามารถมาใช้งานส่วนนี้ได้ เสียงจะได้ไม่ไปรบกวนลูกบ้านคนอื่นๆ
ส่วนบริเวณฝั่งตรงข้ามก็จะมีเคาน์เตอร์สำหรับดื่มกาแฟ ตรงนี้จะมีเครื่องชงกาแฟคอยให้บริการ ลูกบ้านเพียงนำแคปซูลกาแฟที่ชื่นชอบมาเองค่ะ
พื้นที่โซน Co-working Space นั้นมีพื้นที่ให้เลือกใช้งานได้หลายแบบ เรามองขึ้นไปชั้นบนจะเป็นส่วนของ Reading Lounge
มีเคาน์เตอร์นั่งทำงานแบบนั่งเดี่ยว แบบ 2 คน พร้อมปลั๊กไฟและ USB Port ให้ใช้งาน
หรือจะเป็นชุดโซฟาเพื่อรองรับกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น หรือเอาไว้ใช้นั่งเอนหลังอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ
เราขึ้นมาที่ชั้นบนสุดเป็นส่วนของ Reading Lounge ค่ะ จัดเป็นเคาน์เตอร์แนวยาวสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ตรงปลายสุดเป็นประตูเชื่อมออกไปส่วนระเบียงทางด้านข้างได้
มองจาก Reading Lounge ลงไปจะเห็น Facilities ทั้งหมดเลยค่ะ และเห็นบันไดวนเดินลงไปยังส่วน Co-living Space ด้วย
และจากส่วน Reading Lounge จะสามารถเชื่อมต่อไปยังชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยได้ ซึ่งทางโครงการจะควบคุมการเข้า-ออก ให้ผู้ที่อยู่อาศัยในชั้น 5 สามารถใช้ประตูบานนี้ได้เท่านั้น
พื้นที่ระเบียงต่อจาก Reading Lounge มองลงไปจะเห็น Sensational Garden และ Outdoor Dining Space ถ้าเหนื่อยล้าจากการอ่านหนังสือ อยากพักสายและรับลมก็สามารถเดินออกมาใช้งานที่ระเบียงส่วนนี้ได้
เราเดินลงไปดูที่ Co-living Space ที่อยู่ชั้นล่างสุดกันต่อเลยค่ะ
พื้นที่ Co-living Space ก็เป็นพื้นที่อีกมุมนึงที่น่าใช้งานมาก โดยออกแบบเห็นเป็น Step ขั้นบันได มีปลั๊กไฟและ USB Port ให้ใช้งานได้ และมีมุมที่จัดเป็นโซฟานิ่มๆให้นั่งพักผ่อน ฟังเพลง อ่านหนังสือได้สบายๆ เทียบกับการจัดพื้นที่ของชั้นบนๆ แล้ว ชั้นนี้จะ Relax มากที่สุด
โดยรวมการตกแต่งของ Triple Co-working Space นี้จะดูโมเดิร์น ดูสนุกสนานและกระตุ้นการทำงานด้วยการแซมสีแดง แต่ก็ใช้โทนที่อบอุ่นอย่างไม้เข้าไปเพื่อให้รู้สึกว่าสามารถพักผ่อนได้เช่นกัน สังเกตที่ผนังด้านข้างมีตู้ Locker สำหรับเก็บของมีค่าอย่าง โทรศัพท์มือถือ, Tablet, Notebook หรือหนังสือ เวลาเดินออกไปคุยโทรศัพท์หรือเข้าห้องน้ำได้
จาก Co-living Space มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่และมีประตูเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ระเบียงทางด้านนอกได้ มองออกไปเห็นวิวทางด้านหน้าของโครงการ ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าพอดี ส่วนตัวสถานีจะอยู่ถัดไปอีก 150 เมตร ทำให้โครงการนั้นยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ
พื้นที่ระเบียงส่วนนี้ถูกออกแบบเป็น Semi-outdoor Space ยังมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน แต่จะได้ในเรื่องของการรบลมและวิวที่เปิดโล่ง เรามองตรงไปจะสังเกตเห็นบันได เป็นทางเชื่อมขึ้นไปยัง Sensational Garden นั่นเองค่ะ
::: 21st FL. Infinity Edge Pool & Jacuzzi, Panoramic Sky Fitness & Virtual Class Exercise Room :::
ชั้นที่ 21 เป็นชั้นสูงสุดของโครงการ Centric รัชโยธิน ซึ่งเป็น Sky Facilities ทั้งชั้นเลย ประกอบด้วย Infinity Edge Pool & Jacuzzi, Panoramic Sky Fitness และ Virtual Class Exercise Room ค่ะ
พอเดินออกมาจากโถงลิฟต์จะเห็นบันไดขึ้นไปส่วน Virtual Class Exercise Room ที่ชั้นบน ห้องกระจกด้านข้างคือห้องฟิตเนส และข้างๆ กันคือ Infinity Edge Pool
สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 25 เมตร เรียกว่าสามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงๆ พื้นสระตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ดูหรู ล้อมาจากการตกแต่งรวมของพื้นที่ภายในอาคาร
โดยสระของที่นี่จะเป็นแบบ Infinity Edge Pool สามารถมองวิวได้กว้างโดยไม่มีขอบสระมาบังค่ะ จากสระว่ายน้ำมองตรงออกไปจะเป็นวิวฝั่งรัชโยธินและวิภาวดี-รังสิต
และที่บริเวณด้านหลังสระก็จะมีบันไดเดินลงสระ และ Jacuzzi อยู่ติดกับขอบสระเลย สามารถนั่งแช่น้ำชมวิวเมืองได้สบายๆ
ที่ด้านข้างสระจะมีส่วน Sunset Deck ที่จัดวาง Pool Bed เอาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนชมวิวได้
โดยจะมีจุด Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระจัดเอาไว้ให้อยู่ด้านข้าง Sunset Deck ค่ะ
ห้องด้านข้าง Infinity Edge Pool ก็คือ Panoramic Sky Fitness นั่นเอง เป็นห้องที่ได้วิวจากทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งจากฝั่ง รัชโยธิน-วิภาวดี-รังสิต และจากฝั่งพหลโยธิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยในแนวราบ ภายในมีการจัดเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ให้อย่างครบครัน
เครื่องออกกำลังกายที่ทางโครงการเลือกใช้จะเป็นของ Life Fitness ส่วนแรกจะเป็นโซน Cardio มีลู่วิ่งไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า และ เครื่องเดินวงรี
ฝั่งด้านในเป็นโซน Weight Training ค่ะ มีม้านั่งราบสามารถปรับระดับเบาะได้ มีชุดดัมเบล และมี Multi-function Machine สำหรับออกกำลังกล้ามเนื้อได้ครบทุกส่วน
จากบริเวณประตูโถงลิฟต์ เรามองย้อนกลับไปจะมีโถงทางเดินไปยังห้องน้ำค่ะ
ทางโครงการจัดห้องน้ำแยกฝั่งชาย-หญิงให้เรียบร้อย
ภายในห้องน้ำก็มีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยพื้นและผนังลายหินอ่อน จัด Lighting มาให้อย่างเพียงพอ จึงทำให้ดูสว่าง ไม่อับ น่าใช้งาน ทางฝั่งซ้ายมือของห้องเป็นโซน Locker สำหรับเก็บของใช้ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นโซนอ่างล้างมือ, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
คราวนี้เราขึ้นบันไดข้าง Panoramic Sky Fitness มาจะเป็นส่วนของ Virtual Class Exercise Room ค่ะ
สำหรับ Virtual Class Exercise Room นี้เรียกได้ว่าเป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับการออกกำลังกายเลยค่ะ ลูกบ้านสามารถใช้เป็น ห้องสำหรับคลาส Yoga, Yoga Fly, Body Jam, Body Combat หรือ คลาส Body Weight ก็สามารถรองรับได้หมด
โดยทางโครงการจะเตรียมอุปกรณ์อย่างจอทีวีเอาไว้ให้สำหรับเปิดวีดีโอออกกำลังกาย และมีผ้าสำหรับ Yoga Fly เอาไว้ให้ 3 ชุดด้วยกัน แต่สำหรับคนที่เล่น Yoga Fly เป็นประจำอยู่แล้วแนะนำให้ซื้อผ้ามาใช้เองส่วนตัวจะดีกว่าค่ะ
นอกจากนี้แล้ว บนชั้นดาดฟ้าสูงสุดยังจัดเป็นสวนหย่อมขนาดย่อมให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมานั่งพักผ่อนในยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วยค่ะ
เรามองออกไปทางฝั่งหน้าอาคาร เห็นรางรถไฟฟ้าและสถานีรัชโยธินที่อยู่ห่างออกไปอีก 150 เมตรได้
::: Residence FL. Corridor :::
เราได้เดินดู Facilities ทั้งหมดของโครงการไปแล้ว คราวนี้เราจะมาดูพื้นที่ของชั้นห้องพักอาศัยกันบ้างค่ะ เริ่มจากส่วนโถงลิฟต์ ถูกตกแต่งอย่างเรียบๆ ปรับอารมณ์ให้เข้าสู่โหมดของการพักผ่อน
ออกมาจากโถงลิฟต์มีทางแยกฝั่งซ้าย-ขวา ทางฝั่งขวามือจะเป็นโถงยาว ที่ปลายโถงมีช่องแสงให้ 1 จุด
ส่วนทางซ้ายมือ ปลายโถงยังมีทางเดินแยกไปทางซ้าย เป็นส่วนปลายตัว L
บริเวณปลายตัว L นี้จะไม่มีช่องแสงนะคะ แต่สังเกตได้ว่าโถงทางเดินของโครงการมีการจัด Lighting เอาไว้ให้อย่างเพียงพอ ทำให้โถงดูโปร่งและสว่าง ดูแล้วไม่รู้สึกว่ามีจุดอับที่ดูน่ากลัว
สังเกตภายในโถงทางเดินจะมีประตูหนีไฟอยู่ 2 จุดด้วยกัน สำหรับใช้ในเหตุฉุกเฉินค่ะ
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
ทางโครงการ Centric รัชโยธิน เปิดห้องตัวอย่างจริงให้ชมทั้งหมด 2 แบบด้วยกันค่ะ นั่นก็คือแบบ 1 Bedroon Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. และ แบบ 2 Bedroom ขนาด 55.00 ตร.ม. ทางโครงการขายห้องพักให้แบบ Fully Furnished สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้
::: 1 Bedroon Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. :::
ห้องตัวอย่างแบบที่ 1 เป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในห้องแยกเป็นสัดส่วน พักอาศัย 2 คนได้สบายๆ เข้ามาในห้องส่วนแรก ขวามือเป็นมุมครัว และ มุมรับประทานอาหาร ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ แบบ Double Access ถัดเข้าไปเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ ซ้ายมือเป็นห้องนอน พร้อม Walk-in Closet และ ระเบียงพักผ่อน โดยระเบียงพักผ่อนจะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือทั้งจากห้องนอน และ จากห้องอเนกประสงค์ค่ะ
เริ่มจากประตูห้อง เป็นไม้สำเร็จรูปปิดผิวเมลามีนลายไม้สีอ่อน พร้อมตาแมว วงกบประตูเป็นไม้เนื้อแข็งทาสีเทาอ่อน
กลอนประตูเป็น Digital Door Lock 3 ระบบ ของ Yale คือใช้ได้ทั้งแตะคีย์การ์ด, กดรหัส และ ไขกุญแจ
เปิดประตูห้องพักเข้ามาจะเจอกับมุมครัว และ ห้องน้ำเป็นส่วนแรก มองต่อเนื่องไปเป็นมุมพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. มีระยะทางเดินหรือระยะการใช้งานจากเคาน์เตอร์ครัว-ผนังห้องกว้างประมาณ 1.1 เมตร ช่วยให้เรายืนเตรียมอาหาร, ทำอาหาร, ล้างจาน, เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องพัก และ ห้องน้ำได้อย่างสะดวก
ความสูงพื้น-เพดานภายในห้องนี้สูงถึง 3 เมตรเลยนะ ทำให้ห้องโปร่งโล่งอยู่สบาย ถ่ายเทอากาศได้ดี ผนังห้อง และ ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ไฟภายในห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมดค่ะ
ที่บริเวณหน้าห้อง ทางการโครงทำตู้ Built-in สำหรับใส่รองเท้า, เก็บของ และห้อยกุญแจ ให้แบบนี้ค่ะ
ติดกันเลยคือ Built-in เคาน์เตอร์ครัวขนาด 1.35 x 0.60 เมตร ให้แบบในภาพเลยค่ะ ปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ และใช้บานเปิดแบบ Soft Close มีช่องสำหรับเก็บพวกจานชามช้อนส้อมได้
หน้าท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทากันเปื้อนให้ และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
หน้าท็อปครัวติดตั้งเตาเซรามิก 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส + เครื่องดูดควันสลิมไลน์จาก Mex
อ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว + ก๊อกน้ำโครเมียมทรงสูงจาก Mex เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งตรงนี้จะมีฝาสำปรับปิดอ่างเพื่อให้เรามีพื้นที่ในการเตรียมอาหารมากขึ้น อีกทั้งยังดูเรียบร้อยดีด้วย
นอกจากนี้ทางโครงการยังให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องครัวมาด้วยเลยค่ะ ทั้งตู้เย็นจาก Electrolux ขนาด 1 ประตู
รวมถึงไมโครเวฟจาก Electrolux ด้วยเช่นกัน
ข้างเคาน์เตอร์ครัว เป็นมุมรับประทานอาหาร ได้โต๊ะแบบพับเก็บได้ ขนาด 70 x 50 ซม. พร้อมเก้าอี้ไม้เบาะผ้าอีก 2 ตัว
ที่ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวยังมีตู้เก็บของ Built-in แบบบานเปิด ด้านในเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า พื้นด้านในปูด้วยกระเบื้องเช่นเดียวกันกับห้องครัว ภายในเดินงานระบบประปา ไฟฟ้าให้พร้อมต่อใช้งาน ด้านบนเป็นชั้นวางของ และ กล่องเซอร์กิตไฟของห้องชุด ซึ่งเราจะได้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ขนาด 8 กก. มากับห้องด้วยเลย
ส่วนด้านข้างตู้เก็บของก็คือห้องน้ำค่ะ โดยห้องน้ำของห้องแบบ 1 Bedroom Plus จะเป็นแบบ Double Access เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากจุดนี้ และ จากห้องนอนค่ะ
เข้ามาด้านในห้องน้ำ แบ่งฟังก์ชั่นส่วนแห้ง และ ส่วนเปียกให้ พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. แบบในภาพ สุขภัณฑ์ต่างภายในห้องน้ำทั้งหมดของ American Standard ค่ะ
เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ท็อปด้านข้างเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ส่วนด้านล่างเป็นตู้เก็บของบานเปิด Soft Close ด้านในมีชั้นวางของจัดเตรียมไว้ให้ เก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้อย่างเป็นระเบียบ
ผนังด้านบนติดกระจกส่องหน้าสี่เหลี่ยมให้ 1 บาน ผนังด้านข้างมีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด ไว้เสียบไดร์เป่าผม หรือ เครื่องโกนหนวดต่างๆ
ดูขนาดอ่างใหญ่กำลังดี สามารถใช้งานได้สะดวก วางของกระจุกกระจิกอย่างพวก แปรงสีฟัน หรือสบู่ล้างมือได้
ข้างกันคือโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ติดสายชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่เอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ ผนังข้างโถสุขภัณฑ์ทำช่องสำหรับวางของให้แบบนี้ เพดานด้านบนตำแหน่งโถสุขภัณฑ์มีพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้าของ Mitsubishi ให้ 1 เครื่องค่ะ
ส่วนเปียกมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยติดตั้งเอาไว้ให้ ตัวประตูเป็นบานสวิง มือจับโครเมียมตัว U แขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
ส่วนอาบน้ำทำธรณีขึ้นมา 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลย้อน พื้นที่ใช้งานด้านในขนาด 90 x 80 ซม.
ด้านในติดฝักบัวแบบ Hand Shower ให้ พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ
หัวฝักบัวมีฟังก์ชั่นสามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้
ถัดจากมุมครัว และ ห้องน้ำเข้ามาเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน และ ห้องอเนกประสงค์ ส่วนนี้เปลี่ยนจากพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้มาเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ค่ะ
ซ้ายมือได้ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง 1 ตัว ระยะใช้งานตรงกลางกว้างประมาณ 1 เมตร พอเดินเข้า-ออกได้สะดวก
ขวามือได้ชั้นวางทีวี พร้อมตู้เก็บของ ความกว้าง 90 ซม. ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ทั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ และ สายเสียบเคเบิลทีวีให้พร้อมต่อใช้งาน
ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นห้องอเนกประสงค์ กั้นส่วนจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ขนาด 2.3 x 3.0 เมตร ซึ่งการกั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกแบบนี้จะช่วยให้ห้องยังคงสว่างและดูกว้างขวางค่ะ
พื้นที่ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็เป็นขนาดพื้นที่ที่ประสิทธิภาพ สามารถจัดฟังก์ชั่นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงานส่วนตัว ห้องอ่านหนังสือ เป็นพื้นที่สำหรับขยายห้องนั่งเล่น หรือจะใช้เป็นห้องนอนแขกก็ยังทำได้ค่ะ เพราะพื้นที่ห้องนั้นสามารถรองรับเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้เลย
ทางโครงการยังให้ชุดโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้นั่งมาด้วย 1 ตัว
อาร์มแชร์และโต๊ะข้างสำหรับนั่งอ่างหนังสือก็ได้มากับห้องด้วยเช่นกัน
ห้องนี้ได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่แบบ Bay Window มีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศ 1 บาน ภาพรวมช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง สบาย
และจากภายในห้องอเนกประสงค์ยังมีประตูกระจกบานเปิด สามารถเชื่อมออกไประเบียงพักผ่อนด้านนอกได้ โดยชุดประตูที่ใช้นี้จะเป็นของ CMECH ใช้กรอบอลูมิเนียมสีเทา ลูกฟักกระจกบานสูง มือจับเป็นแบบก้านโยก กลอน Double Lock ค่ะ
ระเบียงพักผ่อนจะสามารถเชื่อมต่อได้ 2 ทาง คือจากห้องอเนกประสงค์และจากห้องนอน ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลื่นสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. มีพื้นที่ใช้งานขนาด 2.3 x 0.80 เมตร ติดราวกันตกเหล็กโปร่งทาสีดำน้ำมันกันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร
มองขึ้นไปด้านบนทำเป็นห้องเก็บ CDU ของห้องชุดทั้งหมด ปล่อยลมร้อนออกนอกอาคาร ทำให้ออกมาใช้งานบริเวณระเบียงได้สบายๆ ไม่ร้อนค่ะ
ภาพวิวจากห้องบนชั้น 12 มองออกไปเห็นรางรถไฟฟ้าไปทางแยกเกษตร
ภาพจากห้องอเนกประสงค์มองย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น
เราไปดูภายในห้องนอนกันต่อค่ะ
ภายในห้องนอนมีการแบ่งการใช้งานไว้ 2 ส่วน คือส่วนพักผ่อน และส่วน Walk-in Closet กับห้องน้ำ เดินเข้ามาด้านในเราจะเห็นส่วนพักผ่อนก่อน ซึ่งอยู่ติดกับระเบียงด้านนอก ประตูระเบียงฝั่งห้องนอนเป็นแบบกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีเทา ขนาด 2.3 x 2.1 เมตร ยกธรณีสูง 15 ซม. ป้องกันน้ำฝน และ สิ่งสกปรกต่างๆ พัดเข้าสู่ห้องพัก
ในห้องนี้เราจะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาด้วย ได้มาเฉพาะฐานนะคะ ไม่รวมฟูก ด้านข้างเตียงนอนยังเหลือพื้นที่สามารถวางโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้ ซึ่งที่หัวเตียงฝั่งนี้มีพอร์ต USB ให้ 2 ช่อง และ ระบบ Motion Sensor เวลาตอนดึกเราลุกไปเข้าห้องน้ำไฟจะติดขึ้นเองโดยอัตโนมัติค่ะ
ที่ฐานเตียงมีลิ้นชักสำหรับเก็บของให้ด้วยนะ เหมาะมากสำหรับพวกผ้าปูที่นอนค่ะ
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก สำหรับคนที่ชอบดูทีวีตอนกลางคืน แนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังนะ
ต่อเนื่องไปอีกฝั่งของห้องเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ ด้านใน Built-in ตู้เสื้อผ้า และ ลิ้นชักเก็บของให้แบบ Full Function
Built-in ที่เราจะได้นั้นคือเหมือนได้ภาพทุกประการค่ะ ตรงกลางมีลิ้นชักเก็บของให้ 3 ช่อง พร้อมชั้นวางของจุกจิกด้านบน ขวามือเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด หน้าบานเป็นกระจก นอกจากจะเอาไว้ส่องเช็คความเรียบร้อยเวลาแต่งตัวได้แบบเต็มตัวแล้ว ยังช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้ดูกว้างและโปร่งขึ้นด้วย
ตู้เสื้อผ้าแบ่งไว้ให้ 2 ตู้ เป็นแบบบานเปิดทั้งหมดค่ะ ด้านในมีชั้นแขวนผ้า, ลิ้นชักเก็บของ พร้อมชั้นวางของด้านบนให้แบบในภาพ รวมถึงมีการติดหลอดไฟ LED ให้แสงสว่างเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องทั้งหมดใช้ของ Siemens ค่ะ
เครื่องปรับอากาศได้มา 3 ตัว ภายในห้องนั่งเล่น, ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอน จาก Daikin
และที่กล่าวไปแล้วก็คือ Rue Jai Living Solutions Platform นวัตกรรมการอยู่อาศัยแบบใหม่จาก SC ASSET ตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมการเปิด/ปิดระบบแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศภายในห้องพัก และ ระบบ Motion Sensor ติดตั้งมาให้ครบทุกยูนิตค่ะ
::: 2 Bedroom ขนาด 55.00 ตร.ม. :::
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นแบบ 2 Bedrooms ขนาด 55.00 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในห้องพักแยกการใช้งานเป็นสัดส่วน เหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 3-4 คน พักอาศัยได้สบายๆ จุดเด่นของห้องนี้ก็คือเหมือนได้ Master Bedroom มาถึง 2 ห้องเลยค่ะ เปิดประตูห้องพักเข้ามาจะเจอกับมุมรับประทานอาหารเป็นส่วนแรก ต่อเนื่องไปยังมุมพักผ่อน และ ระเบียง ส่วนห้องครัวจะอยู่ทางฝั่งขวามือของมุมรับประทานอาหาร เป็นครัวแบบปิด ภายในครัวมีประตูเชื่อมสู่ห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าจากทางฝั่งห้องนอนรองได้ด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนอีกห้องจะเป็นห้องนอนใหญ่ ได้ห้องน้ำในตัวจริงๆ ไม่แบ่งร่วมกับใคร
เริ่มจากประตูห้อง เป็นไม้สำเร็จรูปปิดผิวเมลามีนลายไม้สีอ่อน พร้อมตาแมว วงกบประตูเป็นไม้เนื้อแข็งทาสีเทาอ่อน ติด Digital Door Lock 3 ระบบ ของ Yale
เดินเข้ามาภายในห้อง จะเจอมุมทานอาหารเป็นส่วนแรก มองต่อเนื่องไปเป็นมุมพักผ่อน และ ระเบียงด้านนอก ความสูงพื้น-เพดาน 3 เมตร เท่ากันทุกห้อง พื้นห้องชุดปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพื้น ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด
เราหันกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องจะเห็นห้องครัวอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือมีตู้ Built-in สำหรับเก็บของและเก็บรองเท้าค่ะ
หน้าบาน Built-in ภายในห้องปิดผิวด้วยเมลามีนและใช้บานเปิดแบบ Soft Close เหมือนเดิม
ห้องครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบปิด ข้อดีก็คือช่วยกันกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดีกว่า กลิ่นจะไม่ฟุ้งไปทั่วห้อง
พื้นห้องครัวปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. เราจะได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L มาแทน ทำให้ได้พื้นที่ในการเตรียมอาหารมากขึ้น
เคาน์เตอร์ครัวใช้ท็อปหินสังเคราะห์สีขาว หน้าท็อปครัวติดตั้งเตาเซรามิก 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส + เครื่องดูดควันสลิมไลน์ และอ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว + ก๊อกน้ำโครเมียมทรงสูงจาก Mex ผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทากันเปื้อน และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด ปิดผิวหน้าบานด้วยเมลามีนลายไม้ และใช้บานเปิดแบบ Soft Close มีช่องสำหรับเก็บพวกจานชามช้อนส้อมได้ นอกจากนี้ยังได้ ตู้เย็น, ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้า มาพร้อมใช้งานด้วยค่ะ
ตู้เก็บของด้านบนมีหลายช่อง เก็บของใช้ได้เยอะเลยทีเดียว
ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบ Double Access เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากจุดนี้ และ จากห้องนอนค่ะ ประตูทางฝั่งนี้ใช้ประตูบานเลื่อน ช่วยประหยัดพื้นที่
เข้ามาด้านในห้องน้ำ แบ่งฟังก์ชั่นส่วนแห้ง และ ส่วนเปียกให้ พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. แบบในภาพ สุขภัณฑ์ต่างภายในห้องน้ำทั้งหมดของ American Standard ค่ะ
เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยม ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ท็อปด้านข้างเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ส่วนด้านล่างเป็นตู้เก็บของบานเปิด Soft Close ด้านในมีชั้นวางของจัดเตรียมไว้ให้ เก็บอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้อย่างเป็นระเบียบ
ที่ผนังด้านข้างติดกระจกส่องหน้าสี่เหลี่ยมให้ 1 บาน ผนังด้านข้างมีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด ไว้เสียบไดร์เป่าผม หรือ เครื่องโกนหนวดต่างๆ
โถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ติดสายชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่เอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ส่วนเปียกมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยติดตั้งเอาไว้ให้ ตัวประตูเป็นบานสวิง มือจับโครเมียมตัว U แขวนผ้าเช็ดตัวได้
ส่วนอาบน้ำทำธรณีขึ้นมา 5 ซม. กันน้ำไหลย้อน พื้นที่ภายในกว้างขวาง สามารถอาบน้ำได้สะดวก
ด้านในติดฝักบัวแบบ Hand Shower ให้ พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ
จากห้องครัวเรามาดูมุมรับประทานอาหารกันต่อค่ะ เราจะได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง และยังเหลือทางเดินโดยรอบที่สามารถเดินผ่านได้สะดวก
ในภาพจะเป็นการตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ของจริงที่ลูกค้าจะได้รับ สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโครงการอีกครั้งค่ะ
สังเกตที่ด้านหลังโต๊ะรับประทานอาหารก็มีตู้เก็บของ Built-in มาให้อีก 1 ตู้ด้วย
ถัดจากมุมรับประทานอาหารเข้ามาเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน
ภายในมุมนี้เราจะได้ชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง สตูล 1 ตัว และชั้นวางทีวีอีก 1 ตัวค่ะ จัดออกมาแล้วมีพื้นที่กำลังสบายๆ ไม่อึดอัด
ห้องนี้ได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ มีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศ 1 บาน
จากมุมนั่งเล่นมองย้อนกลับไปที่มุมรับประทานอาหาร จะมีประตูระเบียงขนาดใหญ่ เป็นแบบกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีเทา ยกธรณีสูง 15 ซม. ป้องกันน้ำฝน และ สิ่งสกปรกต่างๆ พัดเข้าสู่ห้องพัก
ระเบียงพักผ่อนปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้กันลื่นสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. ติดราวกันตกเหล็กโปร่งทาสีดำน้ำมันกันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร พื้นที่ด้านข้างทำเป็นห้องเก็บ CDU ของห้องชุดทั้งหมด ปล่อยลมร้อนออกนอกอาคาร ทำให้ออกมาใช้งานบริเวณระเบียงได้สบายๆ ไม่ร้อนค่ะ
เราไปดูภายในห้องนอนรองกันต่อค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอนจะเป็นส่วนพักผ่อน พื้นที่ของห้องนอนรองนี้มีขนาดใหญ่พอๆ กับห้อง Master Bedroom ทั่วๆ ไปเลย จึงสามารถวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ สังเกตภายในห้องสว่างมากทีเดียวเพราะได้หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับระบายอากาศอีก 1 บาน
ซึ่งเราก็จะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาด้วยค่ะ แต่ไม่รวมฟูกนะ ห้องนี้จึงสามารถนอนได้ถึง 2 คนเลย
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือสามารถเดินผ่านได้สะดวก สำหรับคนที่ชอบดูทีวีตอนกลางคืน แนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังเอา
อีกฝั่งนึงของห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดขนาดมาตรฐานมาให้ ภายในติดกระจกเงาเอาไว้ที่ตัวบาน สังเกตว่ายังเหลือพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำอีกหน่อย เราสามารถตั้งชุดโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็กๆ หรือตู้ลิ้นชักสำหรับเก็บของ-เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้อีกค่ะ
คราวนี้เรามาดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ
พอเราเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้ว ส่วนแรกเลยจะเป็นโถงห้องน้ำอยู่หน้าห้อง ส่วนพื้นที่ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนพักผ่อนค่ะ
ซึ่งภายในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ก็จะใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำอีกห้องทุกประการ แตกต่างกันที่ Lay Out การจัดห้องน้ำ และเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทางห้องนอนใหญ่เพียงทางเดียวค่ะ
อ่างล้างมือ, ก๊อกน้ำล้างมือ และกระจกเงาแขวนผนัง มีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำติดตั้งมาให้ด้านข้าง
โถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
โซนเปียกติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยให้เหมือนเดิม พร้อมทำธรณีกันน้ำไหลย้อน
ภายในก็ติดตั้งชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับให้
เราเดินเข้ามาภายในส่วนพักผ่อน มีพื้นที่ที่กว้างขวางมากขึ้น จนสามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ
ทางโครงการให้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตมา พอวางดูแล้วเรายังสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งอีก
พื้นที่ปลายเตียงนอนก็ยังเหลืออีกเยอะเลยนะคะ เราสามารถวางชั้นวางทีวี, โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้
ส่วนตู้เสื้อผ้าจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของเตียงนอนค่ะ มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของตู้ห้องนอนรอง เป็นตู้แบบบานเปิด ภายในติดกระจกเงาเอาไว้ให้ที่ตัวบาน
:::: ราคา (มกราคม 2562) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ Centric รัชโยธิน คอนโดใหม่จาก SC ASSET ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ระหว่างแยกเกษตร และ แยกรัชโยธิน โครงการนี้ถือว่าอยู่ในทำเลใจกลางรัชโยธิน ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในทำเลที่เป็น ศูนย์กลางของการใช้ชีวิตรายล้อมด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Major รัชโยธิน, Central Plaza ลาดพร้าว, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รพ.เปาโล เกษตร ฯลฯ ใกล้สถานีรภไฟฟ้าสถานีรัชโยธิน เพียง 150 เมตร ซึ่งตอนนี้ได้ให้ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางสะดวกสบาย ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนพหลโยธิน ตำแหน่งอยู่ใกล้กับแยกใหญ่ทั้งแยกเกษตร, แยกรัชโยธิน และ ห้าแยกลาดพร้าว โดยสามารถใช้เส้นพหลโยธิน วิ่งตรงยาวออกไปทางอนุสาวรีย์ ต่อไปถึงอโศก หรือออกไปทางสะพานใหม่ได้เลย
แม้ว่าเส้นพหลโยธินจะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่ามีการจราจรที่ติดขัด แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ไม่ว่าจะเป็นถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนงามวงศ์วาน, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และ ถนนลาดพร้าว
ใกล้ทางด่วนเส้นหลัก 2 เส้นทาง นั่นก็คือ ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ระยะทางจากโครงการไปประมาณ 2.8 กม. หรือ ใช้เวาลาประมาณ 8-10 นาที และ อีกเส้นก็คือทางพิเศษศรีรัช ระยะทางจากโครงการไปประมาณ 3.6 กม.ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เดินทางสะดวก เพียง 150 เมตร ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธิน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้อีก 3 สาย คือ BTS สายสีเขียว เชื่อมต่อเข้าสยาม-อโศก-ทองหล่อ, MRT สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-หัวลำโพง และ Monorail สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
นอกจากรถไฟฟ้าแล้วหน้าโครงการยังมี Taxi และวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นยังมีรถเมล์ผ่านหลายสาย มีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานกระจายไว้ริมถนนพหลโยธินหลายจุด รถเมล์สายที่ผ่านก็จะมี 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 129, 136, 188, 191 และ 503 ค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ คอนโด High-Rise 21 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 2-0-77.3 ไร่ เป็นส่วนตัวด้วยห้องพักเพียง 261 ยูนิต การออกแบบอาคารสไตล์โมเดิร์นตามแบบฉบับของ SC ASSET ภายนอกใช้โทนสีเทาเข้ม เน้นเส้นตรง แต่ก็มีการเพิ่มกิมมิคด้วยการวางพิกเซลซ้อนกัน มีการเบี่ยงผนังตัวอาคารบางส่วน เพื่อให้ห้องพักได้เปิดรับวิวที่กว้างขึ้น
ในส่วนของห้องพักมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ด้วยกันค่ะ คือ แบบ Studio ขนาด 24.00-26.00 ตร.ม., แบบ 1 Bedroom ขนาด 30.00 ตร.ม., แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00-39.00 ตร.ม. และ แบบ 2 Bedrooms ขนาด 55.00 ตร.ม. และจุดเด่นของห้องพัก คือได้เพดานที่สูงโปร่งถึง 3 เมตร และเน้นใช้ประตู หน้าต่าง กระจก Bay Window บานใหญ่ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยพักผ่อนได้อย่างสบายๆ
วัสดุห้องพัก โครงการขายแบบ Fully Furnished ออกแบบมาสวยหรู ดูน่าใช้งาน โดยลูกค้าจะได้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน และ ลอยตัว รวมถึงเคาน์เตอร์ครัวแบบบิวท์อินท็อปหินสังเคราะห์สีขาว + Hob & Hood + ซิงค์ล้างจานของ Mex มีเครื่องปรับอากาศของ Daikin ให้ 1-3 ตัว แล้วแต่ขนาดห้องพัก สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ American Standard ฟังก์ชั่นห้องน้ำแยกส่วนแห้ง และส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย + พัดลมระบายอากาศให้ทุกยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย โครงการนี้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ในส่วนของ Facilities จะแบ่งไว้ 3 ส่วนด้วยกัน คือที่ชั้น 1, ชั้น 4 และ ชั้น 21 ดาดฟ้า ที่ชั้น 1 จะมีทั้ง Grand Lobby เพดานสูง 5.5 เมตร, Residence Lobby Lounge, Business Lounge & Private Meeting Room, Smart Mail Room & Smart Locker และโถงลิฟต์โดยสาร
ขึ้นไปที่ชั้น 4 เป็น Triple Facilities ประกอบไปด้วย Co-Living Space, Co-Working Space, Reading Lounge และ Co-Relaxing ที่มีทั้ง Sensational Garden พร้อม Outdoor Dining Space ไว้นั่งเล่นพักผ่อน ทำ BBQ
ส่วนที่ชั้นดาดฟ้า ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ Infinite Edge Pool ระบบเกลือ พร้อม Jacuzzi ความยาวรวมถึง 25 เมตร, Panoramic Sky Fitness เปิดรับวิวได้กว้างถึง 2 ฝั่ง, Sunset Deck และ Virtual Class Exercise Room
ในส่วนของที่จอดรถ เริ่มตั้งแต่ชั้น 1-3 คิดเป็น 46% หรือ ประมาณ 121 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ลิฟต์โดยสารให้มา 2 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว พร้อมบันไดหนีไฟ เข้า-ออกโครงการ และอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Key Card Access เพื่อความปลอดภัย พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบ ๆ โครงการ และ ภายในอาคาร มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
CALL CENTER : 1749
WEBSITE : https://www.scasset.com/th/condominium/centric-ratchayothin
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น