รีวิว คอนโด แชปเตอร์ ทองหล่อ 25 Chapter Thonglor 25 คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ สไตล์ Minimal Luxury ใกล้ BTS ทองหล่อ เริ่ม 3.99 ล้าน*
Written by Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ Chapter Thonglor 25 คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ สไตล์ Minimal Luxury จาก พฤกษา เรียลเอสเตท บนทำเลแห่งไลฟ์สไตล์ที่คึกคักตลอด 24 ชม. ใจกลางทองหล่อ แต่ยังได้ความสงบเป็นส่วนตัว ในซอยแสงเงิน ภายในซอยทองหล่อ 25 เขตวัฒนา กทม.
เดินทางสะดวก มีบริการ Shuttle bus รับส่งที่ BTS ทองหล่อ การเดินทางสามารถลัดเลาะเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่เชื่อมต่อไปยังซอยต่าง ๆ บนสุขุมวิท ทั้งสุขุมวิท 39, สุขุมวิท 49 และสุขุมวิท 55 และไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัชเพียง 4.1 กม.
ทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร, คาเฟ่, Community Mall, โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล ชั้นนำมากมาย เช่น Donki Mall, J Avenue, The Commons, Eight ทองหล่อ, รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รร.นานาชาติ Bangkok Prep, Bangkok Adventist international School, Ekkamai International School เป็นต้น
แชปเตอร์ ทองหล่อ 25 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 2-3-33.8 ไร่ จำนวน 288 ยูนิต ออกแบบในแนวคิด “Minimal Luxury Comfort” ความหรูหราที่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายใจในการอยู่อาศัย
มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 28.91-61.17 ตร.ม. ที่จอดรถมีทั้งแบบ Conventional และ Auto parking คิดเป็น 49% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ The marble pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Co-creating desk, Co-living garden, Cafe, The Social club, Fitness, The Capsule, Fine&Dine Club,
Laundry room และห้องน้ำแยกชายหญิง พร้อมห้อง Steam สำหรับผู้หญิง และ Sauna สำหรับผู้ชาย ระบบ Easy pass, ระบบ CCTV พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.pruksa.com/chapter/thonglor25
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1739
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | แชปเตอร์ ทองหล่อ 25 Chapter Thonglor 25 |
เจ้าของโครงการ | บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-3-33.8 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | ประมาณ 288 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 49% หรือ 142 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟต์ | ลิฟต์โดยสาร แบบล็อกชั้น 2 ตัว/อาคาร |
โซน | เขตวัฒนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยทองหล่อ 25 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. 10110 |
กำหนดการ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท* (พ.ย.64) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 138,000 บาท/ตร.ม.*(พ.ย.64) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Chapter Thonglor 25 คอนโดพร้อมอยู่ ใจกลางเมืองทองหล่อ เดินทางสะดวก ใกล้ BTS ทองหล่อ เพียง 5 นาที* ตอบโจทย์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันหลากหลายพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยทองหล่อ 25 แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กทม. 10110
พิกัด : https://goo.gl/maps/mfdm9Md9hSp
โครงการ Chapter ทองหล่อ 25 ตั้งอยู่ในซอยแสงเงิน ซึ่งเป็นซอยย่อยในซอยทองหล่อ 25 เป็นทำเลที่มีความสงบเป็นส่วนตัวในซอยทองหล่อที่เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีทั้ง Community Mall และห้างใหญ่ ๆ ใกล้โครงการหลายแห่ง เช่น Donki Mall, J Avenue, The Commons, Eight ทองหล่อ
ที่สำคัญคือใกล้ทั้งสถานพยาบาล และสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รร.นานาชาติ Bangkok Prep, Bangkok Adventist international School, Ekkamai International School เป็นต้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ทำเลตรงนี้วิ่งเชื่อมกับถนนหลักได้ทั้งฝั่งสุขุมวิท และฝั่งเพชรบุรี ใช้เดินทางไปย่านธุรกิจโซนอื่น ๆ อย่างพร้อมพงษ์, อโศก, สยาม และพระราม 4 วิ่งไปสาทรก็ทำได้สะดวก
และตัวซอยแสงเงินซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ จะเป็นอีกหนึ่งซอยลัดที่คนนิยมใช้เป็นทางเลี่ยงรถติด เพื่อเดินทางไปฝั่งพร้อมพงษ์, อโศก และสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ตั้งแต่ ซอยสุขุมวิท 23-55 ก็เชื่อมถึงกันหมดค่ะ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกสบายพอตัว
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 4.1 กม. จากโครงการมาประมาณ 10-12 นาที จะถึงจุดขึ้นทางด่วนค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการจะมี Shuttle Service รับส่งที่ BTS สถานีทองหล่อ โดยจากตัวสถานีทองหล่อ ถึงโครงการ จะมีระยะทางประมาณ 2.5 กม. ซึ่งด้วยระยะแล้วเราก็สามารถเรียกพี่วินตรงหน้าปากซอยทองหล่อนั่งเข้าโครงการได้ไม่ไกลค่ะ หรือจะนั่งทางปากซอยฝั่งถนนเพชรบุรีก็มีคิวใหญ่อยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ
นอกจากนั้นสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆ ก็มีตัวเลือกเป็น APRL รามคำแหง ระยะทางประมาณ 3.3 กม. เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง
ส่วนตัวเลือกในการเดินทางอื่นๆ อย่าง Taxi และ วินมอเตอร์ไซค์ก็เห็นมีวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่บ้างแต่ไม่ได้ถี่มากนักเพราะตัวโครงการอยู่ถัดเข้ามาในซอยหน่อยค่ะ แต่เพราะเป็นทำเลในเมือง เวลาที่เรารีบมาก แล้วต้องการกดเรียก Grab ก็มีรถวิ่งรอบ ๆ เยอะ และใช้เวลารอไม่นานค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ภายในโครงการจะมีส่วนที่เป็นคาเฟ่ เป็นพื้นที่ส่วนยูนิตให้เช่า ซึ่งทำบรรยากาศออกมาได้น่าใช้งาน และลูกบ้านก็ลงมานั่งได้สะดวก และดูมีความเป็นส่วนตัวดีมากค่ะ ส่วนในระยะเดินจากตัวโครงการก็จะพอมีร้านขายของชำและร้านอาหารให้พึ่งพาได้บ้าง
และถ้าพูดถึงในภาพรวมของทำเลโครงการนี้ก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะกับคนที่อยากอยู่ในย่านที่มีความคึกคักตลอด 24 ชม. และไลฟ์สไตล์ที่มีครบทั้งร้านอาหารและ Services ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร, คาเฟ่ และบาร์ดีๆ ถ้าให้ร่ายลิสต์รายชื่อกันทั้งหมดก็คงไม่ไหว
ขอยกตัวอย่างจุดใหญ่ๆแล้วกัน อย่าง J Avenue, The COMMONS, Eight ทองหล่อ ร้านอาหาร/ซาลอน/ร้านเสื้อผ้า/Foodland, Arena 10 สายเที่ยวกลางคืนต้องรู้จัก และ DONK DONK DONK DONKI! (DONKI Mall) Super Market 24 ชม. จากญี่ปุ่นมาเปิดด้วย เรียกว่าไม่ต้องไปไหนก็ครบละ ใกล้บ้านสุดๆค่ะ
ส่วนห้างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลก็มีเยอะมากเลยค่ะ ฝั่งเอกมัยก็มี Gateway เอกมัย และ Major เอกมัย ขยับไปอีกหน่อยเป็นห้างตระกูล EM ทั้งหลาย EmQuartier, Emporium และ EmSphere (ในอนาคต) ขยับไปทางอโศกก็มี Terminal 21 และ Singha Complex จากโครงการก็ไม่ไกลเหมือนกัน
ที่สำคัญคือเป็นทำเลที่อยู่ใกล้สถานศึกษาหลายแห่งอีกด้วยทั้ง Bangkok Prep International School, Bangkok Adventise International School, รร.ทอสี, รร.ไทยคริสเตียน, มศว., Wells International School, The American School of Bangkok, Ekkamai International School เป็นต้น
และโรงพยาบาลชั้นนำในโซนนี้ก็มี รพ.คามิลเลียน และ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ในระยะอุ่นใจ ขยับไปหน่อยก็มี รพ.กรุงเทพ, รพ.ปิยะเวท, รพ.สุขุมวิท, รพ.กล้วยน้ำไท เป็นต้น
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
การเดินทาง
เราเริ่มการเดินทางกันบนถนนเพชรบุรี > ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) > ซอยทองหล่อ 25 > ซอยแสงเงิน > โครงการ Chapter ทองหล่อ 25
เริ่มการเดินทางกันบนถนนเพชรบุรีฝั่งมุ่งหน้าอโศก
ขับตรงผ่านแยกเอกมัยเหนือ
ผ่านแยกมาแล้วเราจะเห็นป้ายเข้าซอยสุขุมวิท 55 ให้เตรียมเลี้ยวซ้าย
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ
เข้ามาในซอยแล้วเราขับตรงตามทางต่อไปเรื่อย ๆ
ขับมาประมาณ 700 ม. จะถึงซอยทองหล่อ 25 ทางฝั่งขวามือ
เราเลี้ยวเข้าซอยมาแล้วขับตามทางไปประมาณ 300 ม. จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยแสงเงินและขับต่อไปประมาณ 450 ม. จะถึงที่ตั้งโครงการ Chapter ทองหล่อ 25 โดยจะรวมระยะจากหน้าปากซอยทองหล่อ 25 ประมาณ 750 ม.
เข้าซอยทองหล่อ 25 มาแล้ว เราจะผ่านอาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยทางขวามือ
ขับตรงตามทางมาเรื่อย ๆ
เลี้ยวขวาเข้าซอยแสงเงิน จุดสังเกตคือโครงการ The Elite @Thonglor ทางซ้ายมือ
บรรยากาศในซอยแสงเงินจะมีความสงบ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ขับต่อเข้ามาอีกหน่อยก็จะถึงที่ตั้งโครงการ Chapter ทองหล่อ 25 แล้วค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ มีทั้งบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล, Mansion และ Apartment ให้เช่า
เรามาเดินดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ โครงการกันค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการ จะเป็นแมนชั่น สูง 9 ชั้น
ติดกันที่ฝั่งซ้ายมือจะเป็น Apartment สูง 4 ชั้น
ติดกันทางฝั่งขวามือเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล สูง 2 ชั้น
ถ้าเราเดินต่อมาอีกนิดจะเชื่อมออกไปบริเวณคลองแสนแสบค่ะ
บรรยากาศริมคลองดูเรียบร้อยและสะอาดดีค่ะ
มีทางเดินเลียบคลองด้วย ซึ่งเราสามารถออกมาเดินเล่นชิลล์ ๆ ได้นะคะ
กลับมาที่หน้าโครงการ เราไปเดินดูทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าน จะเห็นว่าหน้าโครงการมีคิวพี่วินอยู่นะคะ เรียกใช้บริการได้สะดวกทีเดียว
ถัดมาจะเป็นถนนซอยที่เชื่อมเข้าไปโซนด้านหลังโครงการ ซึ่งจะเป็นซอยตัน
บรรยากาศโดยรวมในซอยแสงเงินก็จะประมาณนี้ค่ะ เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลซะส่วนใหญ่
ลักษณะตัวบ้านก็ตั้งอยู่ติดถนนซอย หลังเล็ก/ใหญ่ สลับกันไป
นอกจากบ้านแล้วก็จะมีคอนโด Low Rise โครงการเล็กๆ
Apartment สูง 8 ชั้น
ไม่ไกลจากโครงการนักจะมี OSS เป็นสปาหินภูเขาไฟ
ออกจากจากซอยแสงเงินก็จะเชื่อมกับซอยทองหล่อ 25 ที่เราใช้เดินทางกันมาค่ะ
บรรยากาศในซอยทองหล่อ 25 ก็จะดูคึกคักขึ้นมาอีกหน่อย มีคอนโด Low Rise และ Apartment ให้เห็นมากขึ้น
มีร้านอาหารญี่ปุ่น Miyabi Kappo ที่อยู่ช่วงต้น ๆ ซอยด้วยค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Chapter ทองหล่อ 25 เป็นโครงการคอนโด Low rise สูง 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งโครงการ 288 ยูนิต บนที่ดิน 2-3-33.8 ไร่
ตัวโครงการออกแบบในแนวความคิด “Minimal Luxury Comfort” เป็นความหรูหราที่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายใจในการอยู่อาศัย
ตัวโครงการจะมี 2 อาคาร คือ อาคาร A และ อาคาร B มีทางเข้า-ออก หลักอยู่ติดซอยแสงเงิน เมื่อเข้าโครงการมาแล้วสามารถเข้าที่จอดรถที่ชั้นใต้ดินได้ทั้ง 2 ฝั่งอาคารค่ะ และนอกจากทางเข้าหลักด้านหน้าแล้ว ยังมีประตูทางออกเล็กทางฝั่งคลองแสนแสบให้ลูกบ้านออกไปเดินเล่นริมคลองได้ด้วย
ถ้าดูจากแปลนจะเห็นการวางส่วนกลางขนาดใหญ่ไว้กลางโครงการ เป็นพื้นที่เปิดโล่งให้กลิ่นอายความเป็นรีสอร์ตเบา ๆ และมีความเป็นส่วนตัวจากสายตาคนภายนอก
ซึ่งส่วน Facilities จัดมาให้เยอะมาก ๆ โดยเค้าจะวางไว้ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ซึ่งหลัก ๆ จะใส่ไว้ที่อาคาร A แต่ลูกบ้านจากอาคาร B ก็ยังเข้ามาใช้งานได้สะดวกนะ เพราะสามารถ Access จากบริเวณสระว่ายน้ำได้เกือบทุกฟังก์ชัน
โดยส่วนกลางจะมี The marble pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Co-creating desk, Co-living garden, Cafe, The Social club, Fitness, The Capsule, Fine&Dine Club, Laundry room และห้องน้ำแยกชายหญิง พร้อมห้อง Steam สำหรับผู้หญิง และ Sauna สำหรับผู้ชาย ซึ่งหน้าตาแต่จะส่วนจะเป็นยังไงเดี๋ยวเราไปเดินดูของจริงกันค่ะ
เริ่มที่หน้าโครงการ ทางเข้าอยู่ติดซอยแสงเงิน กำแพงรั้วหน้าโครงการใช้กระเบื้องลายหินอ่อนตัดขอบด้วยวัสดุสี Copper สีเดียวกับป้ายชื่อโครงการให้ความรู้สึกเรียบหรู
เข้ามาจะเจอส่วนคัดกรองลูกบ้านจุดแรกเป็นรั้วกั้นไม้กระดก ใช้ระบบ Easy pass ติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
ผ่านเข้าโครงการมาแล้วฝั่งซ้ายเป็นทางลงเข้าที่จอดรถอาคาร A
ส่วนฝั่งขวามือลงเข้าที่จอดรถอาคาร B
ที่จอดรถอยู่ที่ชั้นใต้ดิน มีที่จอดรถแบบ Conventional แบ่งช่องจอดมาตรฐาน
และที่จอด Auto Parking
บริเวณหน้าทางเข้าช่องจอด Auto parking จะมีห้อง Waiting roomค่ะ
ภายในจัดที่นั่งรับรอง และมีหน้าจอแสดงลำดับการใช้งานลิฟต์จอดรถ เมื่อรถของเราลงมาถึงชั้นล่างแล้วเราก็ค่อยออกไปรับรถได้
มาดูที่โซนส่วนกลางกันต่อ
จุดแรกที่เราจะเห็นตั้งแต่เข้าโครงการมาจะเป็นซุ้มทางเดินสีขาวสะอาดตา ที่ช่วยบังสายตาบริเวณส่วนกลางด้านในไว้ด้วย
การเข้าใช้งานด้านในพื้นที่ส่วนกลางจะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเป็นการคัดกรองผู้เข้าใช้งาน
เข้ามาด้านในพื้นที่ส่วนกลางจะเจอกับบรรยากาศเปิดโล่งที่สระว่ายน้ำ The white marble pool กลางโครงการ
ข้างสระเป็น Pool Deck และ Co-creating desk เป็นพื้นที่ semi-outdoor ที่จัดทั้งมุมสำหรับคนอยากมานั่งทำงาน และคนที่อยากมานั่งพักผ่อนริมสระสบาย ๆ
มุมสำหรับคนนั่งทำงาน อากาศถ่ายเทดี
มุมสำหรับนั่งเล่นชิล ๆ ริมสระ และไม่อยากตากแดดร้อน
The white marble pool เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 36×13 ม. มีจุดที่เป็นม่านน้ำตกเล็ก ๆ สร้างบรรยากาศ และบ่อ Jacuzzi แยกเป็นส่วนตัว 3 จุด
โซนในร่มจะมีสระว่ายน้ำบ่อตื้นสำหรับเด็ก ๆ
จากสระว่ายน้ำจะเชื่อมไปยังส่วนกลางได้เกือบทุกจุดค่ะ อย่างโซน Outdoor เราก็สามารถเดินไปตรง Co-living garden และ Cafe ได้
จุดแรก Co-living garden จัดเป็นที่นั่งยกระดับบนสวนที่ตกแต่งมาอย่างดี เหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า
วิวจากที่นั่งด้านบน Co-living garden
ด้านล่างเป็น Cafe พร้อมที่นั่งทาน โดยลักษณะจะเป็น Sunken ลงไป เล่นระดับกับสวนด้านบน ได้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว
เราไปดูส่วนกลางโซนด้านในตัวอาคารกันบ้างค่ะ ถ้ามองจากมุม Co-living garden เราจะเห็นส่วนที่อยู่ติดกับ Co-creating desk คือ Lobby อาคาร A และถัดเข้าไปด้านในคือ The Capsule
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องฟิตเนส
ตัวห้องทำผนังกระจกใสโดยรอบทำให้การใช้งานดูโปร่ง สามารถมองเห็นส่วนกลางข้างนอกได้รอบด้าน
ภายในจัดอุปกรณ์มาให้ครบทั้งโซนคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง
จัดลู่วิ่งมาให้ 3 ตัว, Elliptical 1 เครื่อง
อีกฝั่งเป็นจักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง และดัมเบลพร้อมเบาะปรับระดับ
และ Multi machine
จากห้องฟิตเนสจะมีทางเดินเชื่อมออกไปทาง Gate ด้านหลัง
ออกมาแล้วจะเชื่อมสู่คลองแสนแสบ
โครงการจะลงต้นไม้ติดทางเดินเลียบคลองมาให้บรรยากาศดูสวยน่าเดิน
บรรยากาศทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ติดกับฟิตเนสจะมีทางเดินเชื่อมไปยัง The social club และห้องน้ำด้านหลัง
เข้ามาเราจะเจอส่วนห้องน้ำแยกชาย-หญิง ก่อนค่ะ
ด้านในห้องน้ำชายทำออกมาสวยน่าใช้งานมาก ดูมีดีเทลตั้งแต่โซนอ่างล้างมือ รับกับโซนด้านใน
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำออกมาเป็นทรง Arc โค้งมนรับกับกระจกเงา
อีกฝั่งมีล็อคเกอร์ให้ใช้งาน และส่วนเคาน์เตอร์แต่งตัว
ด้านในเป็นห้อง Steam, ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำเลือกใช้อุปกรณ์สี Copper ดูหรูหรา
รวมถึงโถสุขภัณฑ์ก็ใช้อุปกรณ์โทนสี Copper เช่นกัน
ภายในห้อง Steam
ห้องน้ำหญิงทำออกมาในสไตล์เดียวกัน มีฟังก์ชั่นใช้งานเหมือนกันเลยค่ะ ต่างที่ห้องน้ำหญิงจะมีห้อง Sauna แทนห้อง Steam
ภายในห้อง Sauna
ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็น The social club โดยห้องนี้จะสามารถจองใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัวทุก 1 ชม. ค่ะ
ภายในตกแต่งออกมาสวยน่าใช้งานอีกเช่นกันค่ะ มีบรรยากาศที่ดูสบาย ๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามีความละเอียดในการตกแต่งให้มีความ Luxury
โดยฟังก์ชันในห้องนี้จะเหมาะกับการชวนเพื่อนมานั่งคุยกันสบาย ๆ มีทั้งโซนโซฟาขนาดใหญ่
โซนบาร์เครื่องดื่มเก๋ ๆ
โดยภายใน The social club จะมีห้องน้ำแยกไว้ให้ใช้งานด้วย ไม่ต้องเดินออกมาให้เสีย Mood
ด้านหน้า Lobby A ทำออกมาสวยเหมาะสมกับการเป็นจุดต้อนรับแขก
เข้ามาด้านในเจอส่วนโถง Foyer เบรคอารมณ์จากโซนด้านนอกให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก่อนจะแจกไปยังโซนด้านใน
Lobby ที่นี่มีที่นั่งรับรองเยอะดีค่ะ มีทั้งมุมโซฟาขนาดใหญ่ 2-3 ชุด
โซนโต๊ะนั่งทำงาน มุมนี้ก็น่าเอา Laptop มาเปลี่ยนบรรยากาศ Work from home
จาก Lobby เชื่อมไปฟังก์ชันด้านในอีก 2 ส่วน
ฝั่งขวามือเป็นห้อง The Capsule ส่วนซ้ายมือคือ Co-function space
Co-function space จะเป็นพื้นที่นั่งทำงานแบบแท้จริง เหมาะกับการนั่งทำงานกลุ่ม หรืออ่านหนังสือที่ต้องการสมาธิ
The capsule เป็นพื้นที่ Multi-function จะมานั่งเล่น ทำงาน/อ่านหนังสือ หรือจะมานอนเล่นก็ได้ เหมาะกับคนรุ่นใหม่
อีกฝั่งจาก Lobby A เชื่อมไปยังห้อง Laundry และ Fine&Dine Club
ในห้อง Laundry ปัจจุบันเตรียมงานระบบเรียบร้อย รอลงเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า
เข้ามาโซนด้านในสุดเป็นห้อง Fine&Dine Club
ห้องนี้เป็นห้องที่เราสามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมานั่งทานอาหารได้ มีทั้งโซนโต๊ะทานข้าว และมุมเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร
ฝั่งเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร และบาร์
ออกมาบริเวณหน้าห้อง Fine&Dine Club จะมีห้องน้ำไว้ให้ใช้งาน พร้อมรถเข็นสำหรับขนของ
ติดกับห้องน้ำเป็นโถงลิฟต์ค่ะ โดยการเข้าใช้งานในส่วนโถงลิฟต์จะต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านอาคาร A และถ้าใครต้องการขนของก็สามารถเดินไปหยิบรถเข็นที่หน้าห้องน้ำได้เลยนะ
ภายในส่วนโถงลิฟต์ทำออกมาสวยและจัด Lighting ให้อารมณ์มีความหรูหรา ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็น Mail room
ภายในห้อง Mail room จัดแบ่งกล่องรับจดหมายมาเป็นระเบียบ
ลิฟต์โดยสารมีอาคารละ 2 ตัว
ใช้ลิฟต์โดยสาร Mitsubishi จุผู้โดยสารได้ 11 คน หรือประมาณ 825 กก.
มาดูที่อาคาร B
Lobby จะมีขนาดใหญ่กว่าที่อาคาร A พอสมควรค่ะ โดยจุดแรกเราจะเข้ามาเจอเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ ใครจะมาดูห้องตัวอย่างก็สามารถติดต่อจุดนี้ได้เลย
ฝั่งขวามือเป็นห้องรับรองจัดชุดนั่งพักผ่อนแยกมาให้ 4-5 ชุด
เข้ามาอีกฝั่งเป็นห้องน้ำรับรองแยกชาย-หญิง และห้อง Mail room
ภายในห้อง Mail room ขนาดกว้างขวาง
ภายในโถงลิฟต์อาคาร B
บริเวณหน้า Lobby อาคาร B จัดเป็นสวนนั่งพักผ่อน
แปลนชั้น 2 จะเริ่มต้นที่อาคาร B ก่อน เพราะที่อาคาร A จะมีส่วนที่เป็นฝ้าเพดานสูงของพื้นที่ส่วนกลางค่ะ ซึ่งในชั้นพักอาศัยจะวางห้องแบบมาตรฐานคือ Double loaded corridor แต่ละชั้นจะมีประมาณ 22 ยูนิต ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นกลาง ๆ ส่วนตัวโถงลิฟต์จะวางไว้ช่วงประมาณกลางอาคาร ทำให้ระยะเดินไปห้องพักแต่ละฝั่งไม่ต่างกันมากนักค่ะ
ชั้นพักอาศัยของอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 3 โดยที่อาคาร A จะมีส่วนกลางเพิ่มเข้ามาอีกจุดคือ The Garden เป็นสวนหย่อมและพื้นที่นั่งพักผ่อนที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวเพราะล้อมด้วยไม้พุ่มทรงสูงค่ะ
ออกมาจากโถงลิฟต์เราก็จะเจอ The Garden
เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและนั่งทำงานได้
ชั้น 3-6 (อาคาร A) และชั้น 4-7 (อาคาร B) เป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น Typical floor plan
แปลนชั้น 7 และชั้น 8
โถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยทำออกมาเรียบ ๆ แต่ยังมีดีเทลที่เข้ากันทั้งโครงการ
ภายในโถงทางเดินชั้นพักอาศัย
แต่ละชั้นจะมีช่องหน้าต่างที่ช่วยระบายอากาศ
ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop จะมีจัดเป็นพื้นที่สวน The Sunset deck สำหรับขึ้นมานั่งพักผ่อนให้อีก 1 จุด
วิวมองลงไปเห็นพื้นที่ส่วนกลาง
แบบห้อง
ห้องในโครงการจะขายแบบ Fully furnished ตกแต่งครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ มีทั้งหมด 3 แบบ คือ
แปลนห้องแบบ Studio
แปลนห้องแบบ 1 Bedroom
แปลนห้องแบบ 1 Bedroom plus
แปลนห้องแบบ 2 Bedroom
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
เริ่มที่ห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 34 ตร.ม. ตัวห้องจะได้ห้องครัวปิดเป็นส่วนแรก มีประตูบานสไลด์ช่วยกันกลิ่นและควัน ถัดจากครัวเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปยังระเบียง
ส่วนห้องนอนจะกั้นแยกเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานทึบ ภายในห้องนอนมีส่วน Walk-in closet ที่กั้นแยกเป็นพื้นที่แต่งตัวแบบจริงจัง พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง และในส่วนห้องน้ำจะเข้าได้จากห้องนอนค่ะ
เริ่มที่ห้องแบบแรกคือ 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. ประตูห้องได้บานสำเร็จ ปิดผิวลายไม้
ติดตั้ง Digital door lock ของ Hafele ใช้งานได้ 3 ระบบ คือคีย์การ์ด, พาสเวิร์ด และกุญแจ
เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวปิด
หลังประตูทางเข้าห้องติดตั้ง Stopper กันประตูกระแทกเคาน์เตอร์ครัว
อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้จะได้ตั้งแต่หน้าห้องเลย คือตู้เก็บรองเท้า และเคาน์เตอร์ครัวครบชุดหน้าบานเมลามีน บานปิด Soft close โดยตู้ทางฝั่งขวามือจะเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นมาให้เรียบร้อย
ด้านบนตู้เก็บรองเท้าใช้วางพวกกุญแจ หรือซองจดหมาย/กล่องพัสดุต่าง ๆ ได้
เคาน์เตอร์ครัวอีกฝั่งก็ได้ครบชุดตามนี้เลยค่ะ ด้านหลังติดกระจกเงาเป็น Back splash ด้านล่างแบ่งช่องวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้
เคาน์เตอร์ด้านล่างแบ่งลิ้นชักและตู้เก็บของมาให้ตามนี้
อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติดตั้งมาให้จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ Hafele ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์
พร้อมเครื่องดูดควันยี่ห้อเดียวกัน
ซิ้งค์ล้างจานได้หลุมเดี่ยวพร้อมก๊อกน้ำ
ตู้ด้านบนติดไฟมาให้ด้วย และแบ่งช่องที่สามารถใช้เก็บของได้เยอะพอสมควรเลยทีเดียว
พื้นปูกระเบื้อง Porcelain ช่วยให้ทำความสะอาดได้สะดวก และทนทานกว่าพื้นไวนิลด้านในส่วน Living
ลักษณะครัวปิดจะกั้นด้วยบานสไลด์กระจกใจทำให้ห้องยังได้ความโปร่งสบาย
สำหรับความสูงฝ้าเพดานมาตรฐานจะอยู่ที่ 2.55 ม. ค่ะ ถัดเข้ามาจากส่วนครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาก็ครบชุดค่ะ ทั้งโต๊ะทานข้าว, โซฟา, ชั้นวางทีวี, โต๊ะกลางและโต๊ะเล็กข้างโซฟา
โต๊ะทานข้าวได้แบบ 2 ที่นั่ง ระยะการใช้งานกำลังพอดีกับขนาดห้อง ไม่ต้องไปเสียเวลาเลือกซื้อแล้วค่ะ
พื้นที่นั่งดูทีวีกระทัดรัด กำลังดี โดยในห้องจริงก็จะมีระยะเท่านี้เลยนะ เพราะเฟอร์นิเจอร์เค้าก็ให้มาครบหมดแล้ว
โซฟาที่ได้เป็นโซฟาผ้าขนาดประมาณ 3-4 ที่นั่ง รวมถึงโต๊ะข้างโซฟาก็ได้ตามนี้เลย
ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวีสวยๆ แบบนี้เลยค่ะ ซึ่งการซื้อทีวีมาติดตั้งเราจะเอาแบบวางบนโต๊ะก็ได้ หรือจะแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่างก็ประหยัดพื้นที่ดีนะ
ชั้นวางทีวีจะมีพื้นที่เก็บของด้านล่างมาให้อีกด้วย
จากห้องนั่งเล่นจะมีระเบียงซึ่งใช้ประตูบานสไลด์เป็นช่องแสงหลักของห้องไปในตัว
ระเบียงขนาดกระทัดรัด ใช้งานได้เต็มพื้นที่เพราะยกคอมเพรสเซอร์แอร์ขึ้นไปแขวนด้านบนแล้ว ส่วนขนาดพื้นที่ก็พอให้วางราวตากผ้าขนาดเล็กได้ค่ะ
กลับเข้ามาในห้องให้ดูภาพรวมมองย้อนจากห้องนั่งเล่นไปยังส่วนครัว เราจะได้ห้องแบบนี้เลยยกเว้นพวกของตกแต่งต่าง ๆ นะ
ถัดมา เราจะไปดูในห้องนอนกันต่อค่ะ
เข้ามาในห้องจะเห็นว่าเค้าให้ความสำคัญกับส่วนห้องนอนพอสมควรเลย โดยจะมีทั้งส่วน Walk-in closet และพื้นที่พักผ่อนด้านใน
สำหรับพื้นที่ห้องนอนจะมีเตียงพร้อมฟูกและหัวเตียงรวมถึงโต๊ะข้างเตียงก็ได้มาด้วย เราซื้อเพิ่มแค่หมอนและชุดเครื่องนอนก็พร้อมใช้งาน
ขนาดเตียงได้เป็นควีนไซซ์ค่ะ
ใต้เตียงมีลิ้นชักเก็บของมาให้ด้วย เป็นอีกหนึ่งจุดที่ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้กับชาวคอนโด
ระยะปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้สบาย ๆ พร้อมเดินช่องสัญญาณและเต้าเสียบปลั๊กไฟสำหรับคนที่ชอบดูทีวีก่อนนอนด้วย
จุดเด่นของที่นี่คือหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถเปิดได้เต็มหน้ากว้าง ช่วยให้ห้องระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
และในเรื่องความปลอดภัยเค้าก็มีทำราวกันตกมาให้เรียบร้อย เปิดกว้าง ๆ ได้เลย
อีกฝั่งเป็นส่วนห้องน้ำและ Walk-in closet โดยห้อง Walk-in closet จะกั้นด้วยกระจกสีชาเป็นสัดส่วน
ด้านในทำเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบไม่มีบานปิดนะคะ เพราะถือว่าพื้นที่ห้องแต่งตัวที่มีประตูปิดทั้งหมดช่วยกันฝุ่นได้ในระดับนึงแล้ว
ด้านข้างได้โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สตูล
ตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งมาพร้อมลิ้นชัก 3 ช่อง
ถัดเข้ามาที่ห้องน้ำจะแยกโซนแห้ง โซนเปียก ได้ตามนี้เลย เค้าทำห้องน้ำออกมาด้วยโทนหินอ่อนและตกแต่งด้วยอุปกรณ์สี Copper สวยน่าใช้งานมากค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้ TOTO และ Kohler
ตัวอ่างล้างมือติดตั้งมาพร้อมกระจกเงาทรงวงรี มีพื้นที่เก็บของทั้งบนล่าง
อ่างเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ มีพื้นที่วางของรอบ ๆ เหนืออ่างติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ
โถสุขภัณฑ์ได้แบบ Dual flush พร้อมอุปกรณ์คือสายชำระและที่วางกระดาษชำระ เป็นสี Copper ทั้งหมดค่ะ
ในส่วนห้องอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งฝักบัวแบบ Hand shower สี Copper พร้อมที่วางสบู่ และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
การระบายอากาศในห้องใช้พัดลมดูดอากาศ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้อง 1 Bedroom plus แปลนห้องนี้ส่วนแรกจะรวมพื้นที่ส่วน Common area คือครัว ส่วนทานอาหาร และห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน ห้อง Type นี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจังนัก เพราะครัวเป็นครัวเปิดค่ะ
ในส่วน Plus ห้องนี้คือห้องเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ที่ใช้ประตูเป็นบานสไลด์ทำให้ภาพรวมของห้องยังได้ความโปร่งโล่ง และยังสามารถเปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่การใช้งานของทั้ง 2 ส่วนได้ด้วย ส่วนห้องนอนจะมีขนาดใหญ่ แยกเป็นสัดส่วนจาก Common area โดยในห้องนอนจะมีระเบียงในตัว ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ทั้งจากห้องนอนและโซน Common area ค่ะ
มาที่ห้อง 1 Bedroom plus กันต่อค่ะ
ห้องนี้จะจัดสัดส่วนห้องในโซนแรกเป็น Common area ที่รวมส่วนครัว และห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ค่อยทำอาการจริงจังที่มีกลิ่นแรงมากนัก เพราะครัวจะได้เป็นครัวเปิดค่ะ
ภาพรวมในโซนแรกที่เป็นพื้นที่ครัวจะมีทั้งเคาน์เตอร์ครัว โต๊ะทานข้าว และตู้รองเท้ามาตรฐานมาให้ตามนี้เลย
ตู้รองเท้าแบบ Built-in มาตรฐานตามนี้
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้แบบเข้ามุมพร้อมพื้นที่วางตู้เย็น และไม่มีช่องวางเครื่องซักผ้านะคะ
ตู้ด้านบนแบ่งช่องเก็บของได้เยอะทีเดียว
ตู้ด้านล่างแบ่งเป็นลิ้นชัก, ตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ
ซิ้งค์ล้างจานและเตาไฟฟ้าได้ตามแบบเหมือนห้องแบบที่แล้วคือ เตา 2 หัว, ซิ้งค์ล้างจานหลุมเดี่ยว และเครื่องดูดควัน
ได้โต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ถ้าเรารู้สึกว่าใช้งานเคาน์เตอร์ครัวไม่ค่อยสะดวกก็สามารถปรับเลื่อนเองได้ เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว
ถัดเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกกว้างพอสมควรนะ
ห้องนี้ได้โซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
ฝั่งตรงข้ามได้ชั้นวางทีวีตามแบบ
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมไปที่ห้องอเนกประสงค์ หรือห้อง Plus ที่เพิ่มเข้ามาจาก 1 Bedroom มาตรฐาน
ห้องนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานที่บ้านเป็นหลักมาก ๆ ค่ะ เพราะมีขนาดกำลังดี สามารถปรับเป็นห้องทำงานได้สบาย ๆ
ซึ่งในห้องเค้าจะให้โต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาพร้อมใช้งานมาก ๆ ถ้าอยากจะเพิ่มพื้นที่เก็บของก็ทำตู้เหนือโต๊ะได้
อีกฝั่งจะวางโซฟาแบบผ้าขนาด 2-3 ที่นั่ง มาด้วย เวลาทำงานเหนื่อย ๆ ก็มานั่งเอนหลังได้
ช่องแสงในห้องได้บานใหญ่มาตรฐาน เปิดได้เต็มหน้ากว้าง
กลับมาที่ส่วน Common area เราจะไปดูในส่วนห้องนอน (ประตูทางซ้ายมือ) กันต่อ
ภายในห้องนอนมีขนาดกว้าง ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดเช่นกันค่ะ
ได้เตียงขนาดควีนไซซ์ พร้อมโต๊ะหัวเตียง
บรรยากาศในห้องจะดูสว่างโปร่งโล่ง เพราะได้ช่องแสงบานใหญ่ทั้งจากระเบียงและหน้าต่างภายในห้อง
มุมหน้าต่างจะมีเก้าอี้พอดีกับพื้นที่มาให้ด้วย เราใช้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือก็กำลังดีเลยค่ะ
ส่วนระเบียงจะมีขนาดกระทัดรัด วางคอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวนทั้ง 3 ตัว
ขนาดระเบียงเหมาะที่จะวางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือใครที่ใช้บริการห้อง Laundry ก็ใช้ระเบียงเป็นพื้นที่พักผ่อน หรือปลูกต้นไม้แทนไปได้เลย
วิวจากห้องมุมในก็จะเห็นส่วนกลางสวย ๆ แบบนี้
อีกฝั่งของห้องนอนจะให้ตู้เสื้อผ้าแบบจัดเต็ม พร้อมโต๊ะทำงาน
โต๊ะทำงาน/โต๊ะเครื่องแป้ง เค้าจะวางไว้ฝั่งปลายเตียงค่ะ ขนาดโต๊ะจะไม่ได้กว้างมาก น่าจะ Custom มาตามพื้นที่ใช้งานในห้อง
ติดกับโต๊ะทำงานเป็นตู้เสื้อผ้าชุดแรก ได้หน้าบานกระจกสีชาแบบนี้เลย
สำหรับห้องน้ำจะสามารถเข้าได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากส่วน Common area และห้องนอน
สำหรับห้องน้ำจะมีพื้นที่ใช้งานกำลังดี ใช้งานได้สะดวกค่ะ
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างขนาดใหญ่ มีพื้นที่วางของเหนืออ่างเยอะมาก ๆ และใต้อ่างยังมีตู้เก็บของอีก
โถสุขภัณฑ์ได้แบบมาตรฐาน
ห้องอาบน้ำกั้นมาให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย
ภายในติดตั้งฝักบัว พร้อมเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ขนาดห้องอาบน้ำพอให้ยืนอาบได้แบบสบาย ๆ
ราคา (พ.ย.2564)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.pruksa.com/chapter/thonglor25
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Chapter ทองหล่อ 25 ตั้งอยู่ในทำเลแห่งไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองที่มีความคึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะฉะนั้นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงโรงพยาบาล สถานศึกษา หรืออาหารการกินนั้นครบพร้อมอยู่แล้วไม่ต้องห่วงค่ะ
แต่ความแตกต่างของโครงการนี้คือที่ตั้งจะอยู่ถัดเข้ามาในซอยแสงเงิน เข้ามาจากซอยทองหล่อประมาณ 750 ม. เป็นระยะที่ถือว่าไม่ได้ไกล ยังคงมีความเป็นทองหล่อ และยังได้ความสงบเป็นส่วนตัวเพราะบริเวณโดยรอบในซอยจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลซะส่วนใหญ่ รวมถึงเหมาะกับคนที่อยากอยู่ทองหล่อแต่ไม่ชอบเสียงและมลภาวะจากรถที่วิ่งในซอยหลัก
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เดินทางได้สะดวก ตัวซอยแสงเงินนี้สามารถใช้วิ่งลัดไปมาในซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ได้ตั้งแต่ช่วงอโศก พร้อมพงษ์ มาถึงทองหล่อ เป็นเส้นทางที่คนแถวนี้นิยมใช้เลี่ยงรถติดบนถนนเส้นหลักกันค่ะ แต่ยังไงก็ตามเนื่องจากความเป็นทำเลในเมือง จึงต้องเผื่อใจสำหรับการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ แต่อย่างไรก็ดีทำเลตรงนี้ก็ยังมีตัวช่วยคือทางด่วนศรีรัช ที่ใช้วิ่งได้ทั้งขาเข้าและขาออกเมือง และมีจุดขึ้นลงอยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ใช้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ได้สะดวก โดยการไปถึงสถานีจะมีทั้ง Shuttle bus รับ-ส่ง ที่โครงการถึงสถานีทองหล่อ และอีกตัวเลือกในวันที่เร่งรีบคือคิวพี่วินหน้าโครงการ เดินออกมาก็เรียกใช้บริการได้สะดวก ส่วนขากลับเข้าโครงการก็สามารถรอนั่ง Shuttle bus กลับเข้าโครงการได้ หรือจะเรียกพี่วินหน้าปากซอยทองหล่อก็มีตลอดค่ะ
อีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิคือ Airport rail link รามคำแหง ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.3 กม. จะเรียกพี่วิน หรือ Taxi นั่งไปสถานีก็ไม่ไกล เป็นตัวเลือกที่ช่วยประหยัดค่าเดินทางและไม่ต้องเสี่ยงรถติดบนท้องถนนค่ะ
การออกแบบตัวโครงการและห้องพัก : โครงการนี้ใช้สไตล์ Minimal luxury ได้ความหรูที่ไม่เยอะ ไม่น้อย ดูคลีน ๆ ใช้โทนสีขาว, หินอ่อน และ Copper เป็นความหรูที่เรียกว่าค่อนข้างเป็นที่นิยมในยุคนี้ ทั้งตัวดีไซน์และฟังก์ชันส่วนกลางจะเหมาะกับคนรุ่นใหม่ คนทำงาน ไม่ได้เน้นกลุ่มครอบครัวและผู้สูงวัยมากนักค่ะ
ห้องพักขายแบบ Fully furnished ที่ให้ของมาครบจริง ๆ เฟอร์นิเจอร์หลักทั้ง Built-in และลอยตัวทุกชิ้น ทุกห้องได้หมดเลย ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วย ซื้อแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องนอน ก็เข้าอยู่ได้เลย
โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาจะมีทั้ง ชุดครัว พร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน, โต๊ะทานข้าว, โซฟา, ชั้นวางทีวี, โต๊ะกลางห้องนั่งเล่น และโต๊ะข้างโซฟา, ตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง, เตียงพร้อมหัวเตียงและฟูก, โต๊ะข้างเตียง, เครื่องปรับอากาศ 2 ตัวในห้อง 1 Bedroom และ 3 ตัวในห้อง 1 Bedroom plus, โต๊ะทำงาน+เก้าอี้+โซฟา (ในห้องอเนกประสงค์ของ 1 Bedroom plus)
ส่วนวัสดุมาตรฐาน ผนังฉาบเรียบ ทาสี, พื้นครัวปูกระเบื้อง Porcelain พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นปูไวนิล, เครื่องครัว Hafele ซิ้งค์ล้างจาน MEX, สุขภัณฑ์ TOTO และ Kohler ความสูงฝ้าเพดาน 2.55 ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก : ส่วนกลางถือว่าให้มาเยอะเลยทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตแล้วเหลือ ๆ โดยจะเน้นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มีโซนที่ใช้นั่งทำงานได้หลายจุด เปลี่ยนบรรยากาศไปได้เรื่อย ๆ ทั้ง Indoor และ Outdoor อย่างใน Lobby, Co-function space, The capsule, Co-living garden, Rooftop garden และมีพื้นที่นัดปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อน และครอบครัว คือ Fine&Dine club, The social club
และพื้นที่นั่งพักผ่อน ทำกิจกรรม ออกกำลังกาย ที่กระจายหลาย ๆ จุด ให้ได้เลือกใช้งาน เช่น The marble pool, Fitness, The garden, Sunset deck, Cafe
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยใช้ Easy pass, CCTV, รปภ. 24 ชั่วโมง ที่จอดรถแบบ Conventional และ Auto parking รวมประมาณ 49%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : https://www.pruksa.com/chapter/thonglor25
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ ทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
NIVATI ทองหล่อ 23
Chapter Thonglor 25
The Fine Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย
XT เอกมัย
The Privacy S101
KnightsBridge Space พระราม 9
ASHER KOOP รัชดา
Origin Plug & Play Ramkhamhaeng Triple Station
ดีคอนโด ไฮอเวย์-รังสิต
Kave TU
BEAT Bangwa Interchange
แสดงความคิดเห็น