Written by : Nan Kanyarat Thongpeng
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ แต่งเฟอร์นิเจอร์ครบชุด เดินทางง่าย สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS วันนี้เรามีรีวิวโครงการ D Mark Condo @Lasalle จาก บริษัท คอสโม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มาฝากให้ได้ชมกัน ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ซอยลาซาล 8 ถนนสุขุมวิท 105 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 650 เมตรเท่านั้น
เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกสบายผ่าน ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105 ที่ใช้เชื่อมไปยังถนนหลักได้อีกหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น สุขุมวิท, แบริ่ง, บางนา-ตราด, ศรีนครินทร์, สรรพาวุธ, เทพารักษ์, อุดมสุข หรือปู่เจ้าสมิงพราย เป็นต้น
ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนกาญจนาภิเษกฯ สามารถเดินทางไปยังจังหวัดข้างเคียงอย่าง สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ปทุมธานี หรือเข้าสู่ตัวเมืองย่าน CBD ได้แบบสบาย ๆ ทั้งยังอยู่ใกล้โครงการในอนาคตอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรงอีกด้วย
พร้อมรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรอบโครงการ อาทิ 7-Eleven, Tesco Lotus Express, ตลาดลาซาล 10, อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง, ไบเทค บางนา, Central Plaza บางนา, Seacon Square ศรีนครินทร์, รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูว์ส, รร.นานาชาติเบิร์คลีย์, รพ.ไทยนครินทร์ และ รพ.ศิครินทร์ เป็นต้น
ดีมาร์ก คอนโด แอท ลาซาล เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาด 341 ตารางวา จำนวนห้อง 93 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ คือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.14 – 36.31 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished ฟรี! เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน + เตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน, แอร์ และฉากกั้นอาบน้ำ โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยช่วงกลางปี 2564
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ พื้นที่สีเขียวรอบโครงการ, Lobby, Mailbox, Co-Working Space, Ozone Garden, Fitness Zone, สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control เสริมด้วยกล้อง CCTV ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท* (มี.ค. 63)
ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร และตัวโครงการจะน่าสนใจแค่ไหน เชิญคุณผู้อ่านเลื่อนชมรีวิวโครงการได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | ดีมาร์ก คอนโด แอท ลาซาล D Mark Condo @Lasalle |
เจ้าของโครงการ | บริษัท คอสโม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด |
พื้นที่โครงการ | 341 ตารางวา |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 93 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 40% ของจำนวนห้องชุด (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
โซน | สุขุมวิท, บางนา |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยลาซาล 8 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. |
กำหนดการ | กรกฏาคม 2562 |
ปีที่สร้างเสร็จ | มิถุนายน 2564 |
ราคา | เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท* (มี.ค. 63) |
ค่าส่วนกลาง | 50/ตร.วา/เดือน |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
วัดและอื่น ๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | D Mark Condo @Lasalle “ชีวิตดีดี ในสไตล์ที่เป็นคุณ” กับคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ใกล้ BTS แบริ่ง เพียง 650 เมตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ กับฟังก์ชันที่ลงตัว สะดวกสบาย พร้อมครัวแยกส่วนชัดเจน สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้ง Co-Working Space, Fitness Zone, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ และ Ozone Garden ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษ 1.79 ล้านบาท* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยลาซาล 8 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
พิกัด Google Maps : 13.659455, 100.605902
ทำเลที่ตั้ง โครงการ D Mark Condo @Lasalle ตั้งอยู่บนซอยลาซาล 8 ห่างจากปากซอย ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105 ประมาณ 220 เมตร และห่างจากปากซอยบริเวณ ถ.สุขุมวิท หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 650 เมตรเท่านั้น โดยภายในซอยลาซาล 8 สามารถใช้เชื่อมออกไปยังซอยลาซาล 12 และ 16 ออกไปยัง ถ.แบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ได้ การเดินทางของ ถ.ลาซาล และ ถ.แบริ่ง เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท และศรีนครินทร์
และใช้เชื่อมไปยังถนนหลักได้อีกหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น บางนา-ตราด, สรรพาวุธ, เทพารักษ์, อุดมสุข หรือปู่เจ้าสมิงพราย เป็นต้น ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร และกาญจนาภิเษกฯ ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก
สามารถเดินทางไปยังจังหวัดข้างเคียงอย่าง สมุทรปราการ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ปทุมธานี หรือเข้าสู่ตัวเมืองย่าน CBD ได้แบบสบาย ๆ ทั้งยังอยู่ใกล้โครงการในอนาคตอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรงอีกด้วย
หากมองเป็นภาพรวมโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่มีความสะดวกสบาย และความอุดมสมบูรณ์สูง ที่เดินทางเข้าถึงได้ง่ายมากทั้งในระยะการเดินเท้าและระยะใกล้เคียง รายล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านสะดวกซื้อ, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ตลาด, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ
หากมองแค่ภายในซอยลาซาล 8 ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ดี โดยจะมีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายของชำ ในระยะที่เดินไปจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล มีหอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโด และอาคารพาณิชย์ที่จัดตั้งเป็นบริษัท
การเดินทางด้วยรถยนต์ หลัก ๆ ของโซนนี้มีให้เลือกใช้หลายเส้นเลยค่ะ ทั้ง สุขุมวิท, เทพารักษ, อุดมสุข, ศรีนครินทร์ หรือบางนา-ตราด เป็นต้น หากจะเข้าเมืองก็ใช้เส้นสุขุมวิท วิ่งผ่านแยกบางนา ไปอุดมสุข, พระโขนง, เอกมัย, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก หรือสยามได้เลย หรือจะตัดเข้าเส้นพระราม 4 ที่แยกพระโขนง ไปทางคลองเตย เชื่อมเข้าพระราม 3 หรือวิ่งตรงไปทางลุมพินี, วิทยุ, สาทร, สีลม และสามย่านก็ได้
หรือจะขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครแถว ๆ สี่แยกบางนาก็สะดวกประหยัดเวลาไปได้เยอะ ใช้เดินทางไปได้หลายที่ทั้ง พระราม 9, ดาวคะนอง, พระราม 2, แจ้งวัฒนะ, ดินแดง, วิภาวดีรังสิต และรามอินทรา
แต่หากจะออกนอกเมืองก็ใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทฝั่งโครงการวิ่งตรงผ่านสำโรง, ปากน้ำ, แพรกษา, บางปู, ปู่เจ้าสมิงพราย ไปสมุทรปราการง่าย ๆ และวิ่งข้ามไปยังพระราม 3 จากทางนี้ได้ หรือไปเส้นบางนา-ตราด ก็มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นวิ่งออกไปชลบุรี และพัทยา
หรือจะใช้เส้นนี้เชื่อมไปถนนกาญจนาภิเษกเดินทางไปฉะเชิงเทรา ไปรังสิต ฝั่งปทุมธานี อยุธยาก็ได้ อีกฝั่งจะวิ่งไปโซนบางขุนเทียน, บางแค และยาวไปทางนนทบุรี ส่วนเส้นศรีนครินทร์ใช้วิ่งไปบางกะปิ เชื่อมอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้ หรืออีกฝั่งวิ่งออกไปแถวปากน้ำ สมุทรปราการก็สะดวกเช่นกัน
ทางด่วน อีกจุดเด่นหนึ่งของโครงการ D Mark Condo @Lasalle คืออยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ประมาณ 2.1 กม. จากที่ตั้งโครงการออกไปยังเส้นสุขุมวิทวิ่งไปทางแยกบางนา ใช้เวลาราว 5 นาทีเท่านั้น
ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี จากที่ตั้งโครงการใช้ ถ.สุขุมวิทวิ่งไปเข้าบางนา-ตราด จะเจอจุดขึ้นทางด่วน มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5.5 กม.
และสุดท้ายอยู่ใกล้กับทางด่วนกาญจนาภิเษกฯ มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.4 กม. จากที่ตั้งโครงการใช้ ถ.สุขุมวิทวิ่งออกนอกเมืองไปทางสำโรงและปู่เจ้าสมิงพรายจะเจอจุดขึ้นทางด่วน
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จุดเด่นของโครงการ D Mark Condo @Lasalle คืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 650 เมตรเท่านั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองหมดปัญหารถติดไปทำงานสาย เดินทางสบายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นย่านที่รถติดสุด ๆ อย่าง อโศก เอกมัย หรือบางจาก
ระยะการเข้าถึง BTS แบริ่ง สามารถเดินได้สบาย ๆ หรือหากไม่ชอบเดินหน้าปากซอยลาซาล 8 ก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ นั่งไปปากซอยเพื่อไปขึ้น BTS แบริ่งได้ในราคา 10 บาท และหากขึ้น BTS ไปอีก 1 สถานี ไปลงสถานีสำโรง บริเวณนี้จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งเป็นโครงการในอนาคต และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง
ส่วนภายในซอยลาซาล 8 จะไม่ค่อยมีรถสาธารณะผ่าน ต้องเดินออกไปหน้าปากซอยอีกประมาณ 220 เมตร เพื่อไปยัง ถ.ลาซาล ที่จะมีทั้งรถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ และมีรถสองแถววิ่งผ่านไปมาจากปากซอยถึงท้ายซอยเลย หรือหากออกไปที่เส้นสุขุมวิทหรือศรีนครินทร์ก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง เรียกได้ว่าการเดินทางสะดวกมากทั้งกับคนไม่ใช้รถ และมีรถยนต์ส่วนตัวค่ะ
สรุปแยก และถนนสำคัญรอบโครงการ
ความอุดมสมบูรณ์ หากมองแค่ภายในซอยลาซาล 8 จะมีร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านขายของชำเปิดให้บริการ หรือหากออกไปยัง ถ.ลาซาล เดินไปทางขวามือจะเจอกับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Tesco Lotus Express และตลาดบริเวณลาซาล 10 ซึ่งทั้งสองฝั่ง ถ.ลาซาล ค่อนข้างคึกคักเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารมากมาย สามารถหาซื้อของกินของใช้ได้ง่ายตลอดทั้งวัน และเข้าถึงได้ง่ายในระยะการเดินเท้า
หากมองเป็นภาพรวมถือเป็นโครงการที่มีความอุดมสมบูรณ์ดีมาก รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกใหญ่ ๆ ที่ครบครันมากยิ่งขึ้น อาทิ อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง, ไบเทค บางนา, ตลาดสี่แยกบางนา, The Coast Village, Central Plaza, Big C, Tesco Lotus, Makro, SB Design Square, Paradise Park, เมกา บางนา, ตลาดนัดรถไฟ และ Seacon Square ศรีนครินทร์ เป็นต้น มีที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดให้เลือกเยอะเลยค่ะ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
วัดและอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์สู่จุดหมายโดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ SALE GALLERY และที่ตั้งโครงการ D Mark Condo @Lasalle โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ⇒ ตามป้ายไปทางบางนา และสมุทรปราการ ⇒ ไบเทค บางนา ⇒ BTS แบริ่ง ⇒ ถ.แบริ่ง (สุขุมวิท 107) ⇒ ถึง SALE GALLERY ⇒ ซ.แบริ่ง 1 ⇒ ซ.ลาซาล 8 ⇒ ถึงโครงการ D Mark Condo @Lasalle
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากทางพิเศษเฉลิมมหานคร ให้ขับตามป้ายไปบางนาค่ะ
จากนั้นตามป้ายไปยังสมุทรปราการ ชลบุรี
ขับต่อไปอีกสักพักจะเจอทางเบี่ยงซ้ายให้ตามป้ายไปทางสมุทรปราการ
หลังจากลงสะพานทางพิเศษเฉลิมมหานครมาแล้วจะพาเข้าสู่ ถ.สุขุมวิท ขับต่อไปอีกเล็กน้อยจะเจอ ไบเทค บางนา
ผ่านรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา และกรมอุตุนิยมวิทยาทางซ้ายมือ
ผ่าน ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ
โดยจากปากซอย ถ.ลาซาล ถึงที่ตั้งโครงการมีระยะทางเพียง 650 เมตร การเดินทางให้ขับตรงอย่างเดียว แล้วเลี้ยวขวาเข้า ซ.ลาซาล 8 ตรงไปจนเกือบสุดซอย แต่เดี๋ยวเราจะไปดูที่ SALE GALLERY กันก่อน ให้ขับตรงไปผ่านรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งค่ะ
ขับต่อมาไม่นานจะเจอกับ ถ.แบริ่ง หรือ ซ.สุขุมวิท 107 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย บริเวณนี้เป็นสี่แยกไฟแดงสังเกตเห็นได้ง่าย
โดยจากปากซอยสุขุมวิท 107 ถึงที่ตั้ง SALE GALLERY มีระยะทางเพียง 450 เมตรเท่านั้น
ขับเข้ามาในซอยให้ตรงตามทางไปเรื่อย ๆ ข้างทางมีป้ายโครงการชี้ทางอยู่ด้วย
ถึงแล้วค่ะ ที่ตั้ง SALE GALLERY ของโครงการ D Mark Condo @Lasalle ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามเป็น ซ.แบริ่ง 8
หลังจากที่เรามาถึง SALE GALLERY ของโครงการ D Mark Condo @Lasalle กันแล้ว ลำดับต่อไปเราจะพาไปดูที่ตั้งโครงการกันต่อค่ะ
การเดินทางไปสู่ที่ตั้งโครงการ ออกจาก SALE GALLERY ให้เลี้ยวซ้าย
ขับตรงต่อไปอีกราว 85 เมตร จะเจอ 7-Eleven ข้าง ซ.แบริ่ง 1 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยค่ะ
ขับตรงตามทาง ซ.แบริ่ง 1 ไปเรื่อย ๆ
ขับมาประมาณ 200 เมตร จะเจอทางแยกให้เลี้ยวขวาเข้า ซ.ลาซาล 12
ตรงไปจนสุดมีทางให้เลี้ยวซ้ายเข้า ซ.ลาซาล 8
จากนั้นจะเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายอีกที
ตรงต่อไปอีกเล็กน้อยให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งหากเลี้ยวขวาจะพาออกไป ถ.ลาซาล หรือ ซ.สุขุมวิท 105 เชื่อมไปยัง ถ.สุขุมวิท ออกไป BTS แบริ่งนั่นเอง
หลังจากที่เลี้ยวซ้ายขับตรงมาอีก 40 เมตร ถึงแล้วค่ะ โครงการ D Mark Condo @Lasalle 8
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
สำหรับบริเวณโดยรอบโครงการ D Mark Condo @Lasalle ตั้งอยู่บนซอยลาซาล 8 จากภาพมุมสูงติดกับโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลแนวราบ, หอพัก, อพาร์ทเม้นท์ และอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นบริษัทหรืออาคารสำนักงาน
ภายในซอยมีร้านอาหารตามสั่ง และร้านขายของชำเปิดให้บริการ แต่หากเดินออกไปยังหน้าซอยบริเวณ ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105 จะมีทั้งตลาด, ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Tesco Lotus Express และร้านค้าร้านอาหารที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ลูกบ้านสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายในระยะการเดินเท้า
นอกจากนี้ยังมีทางลัดเชื่อมไปยัง ถ.แบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ได้ง่าย ๆ โดยออกจากโครงการเลี้ยวขวาซอยแรก ขับตรงไปสุดซอยแล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ซอยลาซาล 12 ตามทางไปเรื่อย ๆ เชื่อมเข้าซอยแบริ่ง 1 ไปออกสู่สุขุมวิท 107 ค่ะ
:::: บริเวณภายนอกโครงการ ::::
หลังจากที่เราเดินทางมาถึงที่ตั้งโครงการแล้ว เราจะไปชมบรรยากาศจริงบริเวณรอบนอกโครงการกันก่อนเลยนะคะ โดยโครงการจะเริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างในช่วงกลางปี 2563 นี้ ซึ่งในวันที่เข้าไปเก็บภาพจะมีประตูรั้วสีขาวปิดทางเข้าอยู่
ข้างโครงการทางฝั่งซ้ายติดกับบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล มีบริษัทผลิตอุปกรณ์ส่วนประกอบสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน และเป็นทางตันค่ะ
ส่วนฝั่งขวาเป็นทางที่ใช้มุ่งหน้าออกไปยัง ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105
เดินตรงออกไปจะเจอบริษัทรับออกแบบ-ตกแต่งภายใน
มีบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ใกล้ ๆ กันเป็นที่จอดรถส่วนบุคคล
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเจอทางแยกเลี้ยวขวาของซอยลาซาล 8 หรือคนในละแวกเรียกว่าซอยคอกม้า
โดยซอยนี้ใช้เป็นทางลัดเชื่อมออกไปยัง ถ.แบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ได้ค่ะ
บริเวณนี้มีร้านขายอาหารตามสั่งเปิดให้บริการ
ติดกันเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และอู่ซ่อมรถ
เดินตรงออกไปอีกหน่อยเป็นโครงการคอนโด The Excel Hybrid
ตรงข้ามเยื้องกับคอนโดมีร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านขายของชำ
มีเครื่องซักผ้า และตู้กดน้ำหยอดเหรียญ
เดินต่อมาอีกสักระยะจะเจอ ลาซาล คอนโดมิเนียม
ตรงข้ามมีสถานที่บริการรับจอดรถรายเดือน
ด้านข้างเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และหอพัก
เดินออกมาเกือบถึงปากซอยลาซาล 8 มีร้านขายอาหาร
มุมมองภาพรวมทั้งหมดภายในซอยลาซาล 8 โดยในซอยจะเป็นถนน 2 เลน ให้รถวิ่งสวนกัน แต่จะมีรถจอดริมข้างทางทำให้เหลือวิ่งแค่เลนเดียวต้องคอยหลบรถเอา ส่วนขวามือที่เห็นเป็นร้านขายส้มตำค่ะ
ตรงข้ามกับซอยลาซาล 8 เป็นซอยลาซาล 7 บริเวณหน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
อัตราค่าโดยสารไม่แพง นั่งออกไปปากซอยฝั่งสุขุมวิทราคาแค่ 10 บาทเท่านั้น (มีนาคม 2563)
มุมมองย้อนกลับไปยังฝั่งซอยลาซาล 8 ค่ะ โดยหน้าปากซอยทางขวาเป็นร้านขายยำแซ่บ ที่จะเปิดขายในช่วงเย็น ๆ ส่วนทางซ้ายเป็นร้านขายชา กาแฟสด และร้านอาหารตามสั่ง มีขาหมู และเล้งแซ่บด้วย
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศทางฝั่งขวาหลังออกจากซอยลาซาล 8 กันต่อเลยนะคะ โดยเส้นนี้ใช้เดินทางออกไปยัง ถ.บางนา-ตราด และ ถ.ศรีนครินทร์ได้ค่ะ
ถัดจากร้านหน้าปากซอยมาแล้ว ติดกันเป็นร้านส้มตำ ยำ มีร้านขายยาเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 22.00 น. ปิดทุกวันเสาร์ ด้านหน้าเป็นร้านขายชากาแฟ
ข้างกันเป็นร้านขายทุกอย่าง 20 บาท มีพวกของใช้ภายในบ้าน หรือของใช้จุกจิกมากมาย ด้านข้างเป็นร้านขายผัดไทย หอยทอด ร้านอาหารตามสั่ง
มีร้านขายผลไม้ และร้านขายของชำ
เดินต่อมาอีกหน่อยไม่ไกลกันเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง และร้านชากาแฟ มีไอศกรีมกะทิสดมหาชัยขาย
ข้างกันเป็นร้านทอง
ถัดจากร้านทองเป็นตลาดลาซาล 10 มีร้านขายดอกไม้ ผลไม้ และร้านขายอาหารเพียบ
ข้างตลาดลาซาล 10 มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด ลูกบ้านสามารถเข้าถึงได้ในระยะการเดินเท้าเพียง 290 เมตรเท่านั้น
ฝั่งตรงข้าม 7-Eleven เป็น Tesco Lotus Express ด้านหน้ามีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้านชากาแฟ และร้านขายไก่ทอด เรียกได้ว่าสะดวกสบายมาก ๆ มีความอุดมสมบูรณ์สูงในระยะการเดินเท้า
มาต่อกันที่ฝั่งซ้ายหลังออกจากซอยลาซาล 8 กันเลย โดยฝั่งนี้ใช้มุ่งหน้าออกไปยัง ถ.สุขุมวิท ซึ่งปากซอยเป็นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งนั่นเอง
ติดกับปากซอยเลยเป็นโครงการคอนโด Supalai City Resort สุขุมวิท 105
ตรงข้ามเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านตัดผมสตรีและบุรุษ
ถัดไปอีกหน่อยเป็นร้านทันตกรรม และตรวจโรคทั่วไป ข้างกันเป็นร้านตัดผมชายวินเทจ และบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ และลูกชิ้นปิ้ง
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าซอยลาซาล 8 ค่ะ
มาดูกันที่บริเวณ SALE GALLERY กันบ้าง
ด้านหน้าเป็น ถ.แบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยแบริ่ง 8
ฝั่งซ้ายเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยัง ถ.แบริ่ง – ลาซาล และ ถ.ศรีนครินทร์
ส่วนฝั่งขวาเป็นทางที่ใช้ออกไปยังเส้นสุขุมวิท และแนวรถไฟฟ้า BTS ค่ะ
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ D Mark Condo @Lasalle เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวมทั้งหมด 93 ยูนิต บนที่ดิน 341 ตารางวา ห้องฟังก์ชันลงตัว เดินทางสะดวกสบายใกล้ BTS เพียง 650 เมตร
มาดูกันที่โมเดลโครงการต่อเลยค่ะ มีทางเข้า-ออกโครงการทางเดียวคือฝั่งซอยลาซาล 8 บริเวณทั่วทั้งโครงการมีสวนสีเขียวตกแต่งโดยรอบอาคาร
ชั้น 1 เป็นลานจอดรถใต้อาคาร สามารถจอดรถได้ราว 40% ของจำนวนยูนิตโครงการ และจอดซ้อนคันได้อีก 10%
ตัวตึกใช้โทนสีเทา สีขาวครีม และสีเหลือง มีการวางผังอาคารในรูปแบบตัว L บริเวณชั้น 2 โล่งแจ้ง เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของโครงการค่ะ
ส่วนกลางที่ชั้น 2 ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ มาพร้อมกับวิวที่ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว และที่พักผ่อนข้างสระ, สวน (Ozone Garden) สำหรับวันวันพักผ่อนแสนสบายท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ ภายใต้อาคารเป็นส่วนของ Lobby, Co-Living Space และสำนักงานนิติบุคคล
อีกฝั่งใต้อาคารติดกับทางลงสระเป็น Fitness Zone
ส่วนด้านหลังตัวตึกใช้โทนสีเทาเป็นหลัก ตัดด้วยระแนงหน้าต่างและรั้วระเบียงสีดำ เราไปชมผังโครงการแต่ละชั้นกันต่อเลยค่ะ
Master Plan ชั้น 1 ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ด้านหน้าตึกติดกับซอยลาซาล 8 เลยค่ะ มีระบบรักษาความปลอดภัย คือ กล้อง CCTV, Access Card Control และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พื้นที่ใต้อาคารชั้น 1 เป็นลานจอดรถ ตรงกลางมีโถงลิฟต์ขึ้นไปยังโซนพักอาศัย และบันไดหนีไฟ บริเวณรอบตัวตึกตกแต่งด้วยสวนสีเขียวทั่วทั้งโครงการ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ
แปลนอาคารชั้น 2 พื้นที่ส่วนกลางหลัก ๆ ของโครงการจะอยู่ที่ชั้นนี้ทั้งหมด โดยส่วนกลางประกอบด้วย สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ระบบเกลือ พร้อมลานนั่งพักผ่อนข้างสระ, สวน (Ozone Garden), Lobby, Co-Living Space, Fitness Zone และสำนักงานนิติบุคคล ยูนิตที่พักอาศัยมีความหนาแน่นต่ำ
แปลนอาคารชั้น 3 – 8 ถัดจากพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ขึ้นมา จะเป็นส่วนยูนิตที่พักอาศัยเต็มชั้น ตรงกลางเป็นลิฟต์โดยสาร มีโถงทางเดินเป็นรูปแบบตัว L กลับหัว และมีบันไดหนีไฟ 2 จุดกระจาย 2 ฝั่งของอาคารทุกชั้น
:::: บริเวณภายในโครงการ ::::
เนื่องจากทางโครงการมีกำหนดลงเสาเข็มก่อสร้างในช่วงกลางปี 2563 นี้ ปัจจุบันห้องตัวอย่างจึงมีให้ชมที่ SALE GALLERY บริเวณซอยแบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูภายใน SALE GALLERY กันต่อเลยนะคะ
หลังจากที่เดินทางมายัง SALE GALLERY จะเจอทางเข้าขนาดกว้างขวาง
หน้าโครงการฝั่งขวามีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
ส่วนฝั่งซ้ายมีป้าย SALE GALLERY สีขาว สกายทูปสีส้ม และลูกบอลชื่อโครงการสีเหลือเป็นจุดสังเกต
ด้านในเป็นสนามหญ้าสีเขียวสะดุดตา และสำนักงาน SALE GALLERY ชั้นเดียวขนาดใหญ่
สำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อหรือเยี่ยมชมห้องตัวอย่างสามารถจอดรถบริเวณสนามหญ้าด้านหน้า SALE GALLERY ได้เลย โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น. โทร 098-9950299
ลำดับต่อมาเดี๋ยวเราเข้าไปชมด้านในกันเลยค่ะ
ภายใน SALE GALLERY โปร่งสบาย พื้นที่ต้อนรับต่าง ๆ จัดเป็นสัดส่วน
มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์บริเวณหน้าทางเข้าเลย
ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่รับแขก และทางเข้าชมห้องตัวอย่าง
มีการวางโมเดลอาคารให้ชมกันด้วยในบริเวณนี้
มุมรับแขกจัดวางโซฟาขนาดใหญ่ชิดมุมทางฝั่งซ้ายพร้อมโต๊ะกลาง
ส่วนฝั่งขวาเป็นมุมรับแขกเช่นกัน แต่วางเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง 2 จุด
ใกล้ ๆ กันเป็นทางเข้าชมห้องตัวอย่างของโครงการค่ะ
::: แบบห้อง :::
โครงการ D Mark Condo @Lasalle มีแบบห้องทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่
แบบห้อง Type A
แบบห้อง Type B1
แบบห้อง Type B2
แบบห้อง Type C
แบบห้อง Type D
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านไปชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
โดยทางโครงการขายห้องพักแบบ Fully Furnished ฟรี! เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน + เตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน, แอร์ และฉากกั้นอาบน้ำ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ
แบบห้อง Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.14 – 31.31 ตร.ม. เป็นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom พื้นที่การใช้งานภายในห้องแยกเป็นสัดส่วน สามารถครีเอทฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว เมื่อเปิดประตูเข้าไปส่วนแรกเริ่มจากฝั่งซ้ายจะเจอกับห้องนั่งเล่น ติดกันทำเป็นมุมรับประทานอาหาร
ต่อเนื่องไปเป็นห้องนอนมีประตูทางเข้าบานเลื่อนขนาดใหญ่ ภายในห้องนอนเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุต มีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง และภายในห้องมีหน้าต่างเป็นช่องรับแสงบานใหญ่ทำให้ห้องไม่มืดทึบ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้วางตู้เสื้อผ้าขนาดกลางและทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง
ส่วนห้องฝั่งขวาเป็นพื้นที่ของห้องครัวแบบเปิด มีชุดครัวมาให้ครบทั้งเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน + เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน ติดกันเป็นห้องน้ำแบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย และมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก
หลังจากที่เราได้ชมแปลนห้อง Type A แบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 30.14 – 31.31 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูกันที่ห้องตัวอย่างกันต่อเลย
เริ่มที่บริเวณประตูทางเข้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป ปิดผิวลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง
พร้อมติดตั้งกุญแจมือจับแบบ Digital Door Lock สะดวก ทันสมัย ฟังก์ชันระบบล็อกแบบใช้รหัสผ่าน และคีย์การ์ด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องพัก
ที่พื้นมีตัวหยุดประตู Door Stopper
สวิตช์ไฟใช้ของ Panasonic
หลังจากที่เปิดประตูเข้ามาด้านในห้อง พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.45 เมตร ผนังปูนฉาบเรียบทาสีพื้น ด้านบนติดตั้งไฟดาวน์ไลท์
ห้องมีความโปร่งโล่งสบาย เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จัดวางได้อย่างลงตัว ด้านบนหน้าห้องนอนติดตั้งแอร์ 1 ตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
เริ่มจากส่วนแรกทางฝั่งซ้ายคือห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์แบบเรียบง่าย ด้วยโซฟาโทนสีเทาขนาด 2 ที่นั่งมีที่วางแขน พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลางลายไม้สีอ่อนขนาดกะทัดรัด ด้านข้างตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้น และผนังแขวนกรอบรูป พื้นด้านล่างปูด้วยพรมขนนุ่ม
ระยะห่างของการนั่งดูทีวีมีขนาดกำลังดี
ที่พื้นเหลือกว้างขวาง สามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย
ฝั่งตรงข้ามกับโซฟา ทางโครงการบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีขนาดพอเหมาะและตู้เก็บของ
ชั้นวางทีวีเป็นลายไม้สีอ่อนวางชิดติดกับผนังห้องทางฝั่งซ้าย ด้านบนมีชั้นวางของ และหลังจากวางทีวีแล้ว ด้านข้างยังมีพื้นที่เหลือให้วางของตกแต่งอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก
ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่มาให้ และมีช่องเก็บของแบบโปร่ง
ติดกับประตูบิวท์อินเป็นตู้เก็บของทรงสูงขนาดใหญ่ ด้านในมีชั้นวางของทั้งหมด 7 ช่อง ด้านล่างใช้เป็นที่วางรองเท้าได้
ติดกันกับโซฟานั่งเล่นมีที่เหลือให้ทำเป็นมุมรับประทานอาหาร ทางโครงการได้จัดวางเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง หากจะใช้งานควรเขยิบโซฟาไปทางซ้ายอีกหน่อย หรือเลื่อนเก้าอี้รับประทานอาหารออกมานั่งที่มุมตัวหนึ่งค่ะ
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูกันที่ห้องนอนต่อเลย
โดยประตูทางเข้าห้องเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่เต็มความกว้างของห้อง พร้อมติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมีที่ล็อกในตัว
มุมมองหน้าห้องนอนทางฝั่งขวา
มุมมองหน้าห้องนอนทางฝั่งซ้าย
ภายในห้องนอนจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่างครบครัน
ฝั่งซ้ายเป็นโซนพักผ่อน
ส่วนฝั่งขวาเป็นโซนแต่งตัว
ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบกำลังดี
หัวเตียงบิวท์อินเป็นโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง มีพื้นที่ให้เดินขึ้น-ลงได้อย่างสะดวกสบาย ที่ผนังติดวอลเปเปอร์สีเทา พร้อมตกแต่งด้วยกรอบรูปขนาดใหญ่
ส่วนฝั่งปลายเตียงบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดกลาง และมุมโต๊ะเครื่องแป้ง
ผนังด้านขวาข้างเตียงมีช่องรับแสงขนาดใหญ่ เป็นกระจกบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง ช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี ทำให้ห้องไม่มืดทึบ และรับแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะ
พื้นปลายเตียงสามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวก
มุมโต๊ะเครื่องแป้งบิวท์อินเป็นลายไม้สีอ่อนมีลิ้นชักเก็บของในตัว ด้านบนมีที่วางของใช้ต่าง ๆ และติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ ด้านล่างวางเก้าอี้สตูลขนาดกะทัดรัดได้อย่างพอดี
ติดกันบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดกลางแบบบานเลื่อนสไลด์ ด้านในมีราวแขวนผ้า และช่องเก็บของมาให้
มุมมองภาพรวมทั้งหมดของห้องนอน
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราออกไปดูที่ด้านนอกกันต่อเลยค่ะ
โดยเราจะไปดูกันที่ฝั่งขวาของห้องพัก ซึ่งเป็นส่วนของห้องครัวแบบเปิด ห้องน้ำ และระเบียงด้านนอก
ภายในห้องครัวแบบเปิด บริเวณนี้มีเคาน์เตอร์ครัวขนาดพอเหมาะและชุดครัวมาให้ สามารถติดประตูบริเวณทางเข้าเพื่อทำเป็นครัวแบบปิดได้
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวบิวท์อินเป็นลายไม้สีอ่อนขนาดพอเหมาะ พร้อมซิงค์ล้างจานในตัว เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน มีตู้เก็บของหลายช่อง
บนเคาน์เตอร์ท็อปครัวเป็นลายหินอ่อนสีเข้ม ติดตั้งซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียวพร้อมก๊อกน้ำโครเมียม ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้ต่าง ๆ สามารถประกอบอาหารได้แบบสบาย ๆ แต่ด้านหลังเคาน์เตอร์ไม่มี Backsplash กันเปื้อนมาให้ แนะนำให้กรุกระเบื้องเพิ่มเติม ระหว่างประกอบอาหารหากน้ำมันกระเด็นจะได้เช็ดออกง่าย ๆ
เคาน์เตอร์ด้านล่างมีช่องเก็บของบานปิดมาให้หลายช่อง
มีลิ้นชักเก็บของใช้ต่าง ๆ
หรือจะใช้เก็บหม้อ กระทะ อุปกรณ์เครื่องครัวอื่น ๆ ได้แบบสบาย ๆ
หรือจะใช้เก็บพวกน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มก็ได้ พร้อมมีช่องใหญ่สามารถวางตู้ไมโครเวฟได้อย่างพอดี
ส่วนด้านบนบิวท์อินเป็นตู้เก็บของบานปิด
ใช้เป็นที่เก็บอาหารแห้ง หรือเครื่องปรุงรสต่าง ๆ
หรือจะใช้เป็นที่เก็บอุปกรณ์เครื่องครัวเพิ่มเติมก็ได้
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวติดกับทางเข้าห้องน้ำมีที่เหลือกำลังดีให้วางตู้เย็นขนาดกลาง
ด้านบนมีตู้เก็บจานชามใบเล็ก ๆ และแก้วกาแฟ
ลำดับถัดมาเราเข้าไปดูกันที่ห้องน้ำต่อเลยนะคะ โดยจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องครัวเลย
มุมมองบริเวณหน้าห้องน้ำ
ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกไปด้านนอก
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวและแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
ติดตั้งกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ผนังฝั่งซ้าย มีการก่อกำแพง Low Wall สำหรับวางของใช้หรือของตกแต่งต่าง ๆ
ใช้อ่างล้างหน้าแบบลอยของ Cotto หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้อีกนิดหน่อย ใช้คู่กับก๊อกน้ำแบบปัดขึ้นจาก Prema
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto เป็นแบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานสะดวกไม่แออัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลส และมีถังขยะขนาดกะทัดรัดที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกนิรภัยบานผลักมือจับราวสแตนเลส
ด้านหน้าติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนูจาก Prema ให้ 1 จุด
พื้นที่ส่วนอาบน้ำหรือส่วนเปียกมีขอบธรณียกสูงขึ้นมา แบ่งระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน
ในพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ Prema พร้อมฝักบัวเรนชาวเวอร์ด้านบน แต่ต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเติมเองนะคะ
ใช้ชั้นวางสบู่จาก Prema และชั้นวางของกระจกจาก Cotto
ลำดับถัดมาเราไปดูพื้นที่ระเบียงด้านนอกกันต่อค่ะ โดยอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำเลย
ประตูเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกเป็นบานเลื่อนสไลด์ติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอเหมาะ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาภายในห้อง พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
มีพื้นที่เหลือให้วางเครื่องซักผ้าขนาดกำลังดี พร้อมเดินระบบน้ำ และปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย
ด้านบนติดตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ พร้อมมีรั้วระแนงเหล็กกั้นส่วนมาให้ด้วย
ลำดับต่อมาเราออกไปดูห้องตัวอย่างขนาดอื่นกันต่อเลยค่ะ
มาถึงแบบห้องสุดท้ายที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้แล้วค่ะ คือ ห้อง Type C แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้ 33.66 – 36.31 ตร.ม. พื้นที่การใช้งานแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น และมุมรับประทานอาหาร เชื่อมไปเป็นห้องนอนหลักมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ และขนาดห้องกว้างขวางกำลังดี สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้แบบสบาย ๆ พร้อมวางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ
จากนั้นออกมาหน้าห้องนอนมีประตูทางเข้าไปยังห้องนอนรอง ที่ปรับเปลี่ยนใช้งานเป็นฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอนผู้สูงอายุ, ห้องซักอบรีด, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องครัว หรือห้องทำงาน เป็นต้น ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนเช่นเดียวกัน ขนาดห้องจะเล็กลงมานิดหน่อย หากทำเป็นห้องนอนรองเหมาะสำหรับวางเตียงนอน 3 ฟุต พร้อมมีประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก มีที่เหลือให้วางเครื่องซักผ้าได้อีก
หน้าห้องนอนรองเป็นห้องครัวแบบเปิดมีชุดครัวมาให้ครบทั้งเคาน์เตอร์ครัว ซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน ใกล้กับห้องครัวคือห้องน้ำขนาดกว้างกำลังดี แยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
หลังจากที่เราได้ชมแปลนห้อง Type C แบบ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้ 33.66 – 36.31 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูกันที่ห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ
เริ่มกันที่บริเวณทางเข้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป ปิดผิวลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง
ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องพักด้วยการติดตั้งกุญแจมือจับแบบ Digital Door Lock ฟังก์ชันระบบล็อกแบบใช้รหัสผ่าน และคีย์การ์ด
ที่พื้นมีตัวหยุดประตู หรือ Door Stopper
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. เพดานห้องสูง 2.45 เมตร ผนังปูนฉาบเรียบทาสีพื้น ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ ห้องมีความโปร่งโล่งสบาย เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ จัดวางได้อย่างลงตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
เข้ามาส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น ฝั่งขวาทางโครงการจัดวางเป็นชุดโซฟา
ส่วนฝั่งซ้ายบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่กำลังดี
สำหรับชุดโซฟาเป็นขนาด 2 ที่นั่ง โทนสีเทามีที่วางแขน พร้อมวางหมอนอิง และโต๊ะกลางทรงสูงลายไม้สีอ่อนขนาดกะทัดรัด ด้านข้างตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้น ด้านล่างปูด้วยพรมขนนุ่ม
ระยะห่างของการนั่งดูทีวีมีขนาดกำลังดี ไม่แออัด
ที่พื้นกว้างขวาง สามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับชั้นวางทีวีเป็นลายไม้สีอ่อนมีขนาดใหญ่กำลังดี ด้านข้างติดกับประตูทางเข้ามีตู้เก็บของมาให้ด้วย
ชั้นวางทีวีใช้วางทีวีได้แบบสบาย ๆ ด้านข้างมีที่เหลือให้วางของตกแต่งได้อีก ด้านบนมีช่องวางของใช้ และของตกแต่งอื่น ๆ
ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของขนาดใหญ่มาให้ และมีช่องเก็บของแบบโปร่ง
ติดกับชุดโซฟามีที่เหลือให้ทำเป็นมุมรับประทานอาหาร โดยทางโครงการวางเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งชิดมุม ระยะการใช้งานกำลังดี
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูกันที่ห้องนอนหลักต่อเลยค่ะ โดยประตูทางเข้าห้องเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ พร้อมติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมีที่ล็อกในตัว
ภายในห้องนอนจัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่างครบครัน ไม่แออัด สบาย ๆ เหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตกำลังดี
ฝั่งหัวเตียงผนังติดวอลเปเปอร์สีเทา พร้อมตกแต่งด้วยกรอบรูป ด้านซ้ายติดกับหน้าต่างบิวท์อินเป็นโต๊ะข้างเตียง ทั้ง 2 ฝั่งมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้น-ลง หรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนฝั่งปลายเตียงบริเวณนี้สามารถแขวนทีวีที่ผนังได้สบาย ๆ มีการวางระบบไฟรองรับมาให้เรียบร้อย
พื้นปลายเตียงสามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวก
มาที่ข้างเตียงฝั่งขวาวางเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงบานเลื่อนจรดเพดาน พร้อมมีกระจกเงาบานใหญ่ในตัว
พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าเหลือเยอะ สามารถใช้เป็นที่ยืนแต่งตัวได้แบบกำลังดี
ภายในห้องมีหน้าต่างเป็นช่องรับแสงขนาดใหญ่ มีทั้งกระจกบานฟิกซ์และบานกระทุ้ง ทำให้ห้องไม่มืดทึบ ถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี หรือจะเปิดรับลมเย็น ๆ ก็ได้
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง เดี๋ยวเราออกไปดูส่วนอื่น ๆ กันต่อเลย
ลำดับถัดไปเราจะมาดูกันที่ห้องนอนรอง, ห้องครัว และห้องน้ำกันต่อค่ะ
โดยจะเข้าไปดูที่ห้องนอนรองกันก่อน
สำหรับห้องนอนรองเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นห้องอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอนผู้สูงอายุ, ห้องอ่านหนังสือ, ห้องทำงาน หรือจะทำเป็นห้องครัวแบบปิดเลยก็ยังได้ แต่สำหรับห้องตัวอย่างทางโครงการจัดให้เป็นห้องทำงานค่ะ
ฝั่งซ้ายของห้องจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด ด้านข้างตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้ ที่พื้นปูด้วยพรมสีขาวขนาดใหญ่
ส่วนฝั่งขวาเป็นชั้นวางหนังสือและชั้นวางของ
มุมมองภาพรวมภายในห้องค่ะ
ต่อเนื่องไปมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอเหมาะ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาภายในห้อง พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
มีพื้นที่เหลือให้วางเครื่องซักผ้า พร้อมเดินระบบน้ำ และปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย
ด้านบนติดตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ พร้อมมีรั้วระแนงเหล็กกั้นส่วนมาให้
ออกมาดูกันที่ห้องครัวกันต่อเลย
บริเวณนี้วางตู้เย็นขนาดกลางเข้ามุมได้แบบพอดี
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาเป็นลายไม้สีอ่อน พร้อมซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน มีตู้เก็บของหลายช่อง
ท็อปครัวเป็นลายหินอ่อนสีเข้ม ติดตั้งซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียวพร้อมก๊อกน้ำโครเมียม ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้ต่าง ๆ แต่ด้านหลังเคาน์เตอร์ไม่มี Backsplash กันเปื้อนมาให้ แนะนำให้กรุกระเบื้องเพิ่มเติมเอาค่ะ
มาดูที่เคาน์เตอร์ด้านล่างต่อ มีช่องเก็บของบานปิดมาให้หลายช่อง
มีลิ้นชักเก็บของใช้ หรือเครื่องครัวต่าง ๆ
ส่วนด้านบนบิวท์อินเป็นตู้เก็บของบานปิด
ใช้เป็นที่เก็บอาหารแห้ง หรือเครื่องปรุงรสต่าง ๆ
มีช่องเก็บเครื่องครัวอื่น ๆ เพิ่มเติม
ลำดับถัดมาเราเข้าไปดูกันที่ห้องน้ำกันต่อเลยนะคะ
ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย
ห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวและแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำทางขวามือ
ภายในติดตั้งกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ผนังฝั่งซ้าย มีการก่อกำแพง Low Wall สำหรับวางของใช้หรือของตกแต่งต่าง ๆ
ใช้อ่างล้างหน้าแบบลอยของ Cotto หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้อีกเล็กน้อย ใช้คู่กับก๊อกน้ำแบบปัดขึ้นจาก Prema
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto เป็นแบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานสะดวกไม่อึดอัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลส และวางถังขยะขนาดกะทัดรัดที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
มาดูกันที่โซนอาบน้ำหรือส่วนเปียกกันบ้าง โดยพื้นที่อาบน้ำมีการติดตั้งฉากกั้นมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกนิรภัยบานผลักมือจับราวสแตนเลส
ด้านหน้าติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนูจาก Prema ให้ 1 จุด
พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขอบธรณียกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ป้องกันน้ำไม่ไหลออกไปเปื้อนพื้นด้านนอก
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ Prema พร้อมฝักบัวเรนชาวเวอร์ด้านบน แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง
ด้านข้างมีชั้นวางสบู่จาก Prema และชั้นวางของแบบกระจกจาก Cotto
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มีนาคม 2563) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำและสุขภัณฑ์
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (มีนาคม 2563) ::::
ฟรี! ดาวน์ 0 บาท, เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน + เตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน, แอร์ และฉากกั้นอาบน้ำ ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท* คลิก
*รายละเอียดโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามกับทางโครงการอีกครั้งหนึ่ง
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ D Mark Condo @Lasalle ตั้งอยู่บนซอยลาซาล 8 ห่างจากปากซอย ถ.ลาซาล หรือสุขุมวิท 105 ประมาณ 220 เมตร และห่างจากปากซอยบริเวณ ถ.สุขุมวิท หรือรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 650 เมตรเท่านั้น ภายในซอยลาซาล 8 สามารถใช้เชื่อมออกไปยังซอยลาซาล 12 และ 16 ออกไปยัง ถ.แบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 ได้ การเดินทางของ ถ.ลาซาล และ ถ.แบริ่ง เป็นเส้นที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท และศรีนครินทร์
และใช้เชื่อมไปยังถนนหลักได้อีกหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น บางนา-ตราด, สรรพาวุธ, เทพารักษ์, อุดมสุข หรือปู่เจ้าสมิงพราย เป็นต้น ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร และกาญจนาภิเษกฯ ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก เดินทางไปยังจังหวัดข้างเคียงหรือเข้าสู่ตัวเมืองย่าน CBD ได้แบบสบาย ๆ และอยู่ใกล้โครงการในอนาคตอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรงอีกด้วย
โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่มีความสะดวกสบาย และความอุดมสมบูรณ์สูง ที่เดินทางเข้าถึงได้ง่ายมากทั้งในระยะการเดินเท้าและระยะใกล้เคียง รายล้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อ, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ตลาด, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, โรงพยาบาล และสถานที่ราชการ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โซนนี้มีให้เลือกใช้หลายเส้นเลย ไม่ว่าจะเป็น สุขุมวิท, เทพารักษ, อุดมสุข, ศรีนครินทร์ หรือบางนา-ตราด เป็นต้น ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ประมาณ 2.1 กม., ทางด่วนกาญจนาภิเษกฯ ประมาณ 4.4 กม. และทางด่วนบูรพาวิถี ประมาณ 5.6 กม.
หากจะเข้าเมืองก็ใช้เส้นสุขุมวิท วิ่งผ่านแยกบางนา ไปอุดมสุข, พระโขนง, เอกมัย, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก หรือสยามได้เลย หรือจะตัดเข้าเส้นพระราม 4 ที่แยกพระโขนง ไปทางคลองเตย เชื่อมเข้าพระราม 3
หรือวิ่งตรงไปทางลุมพินี, วิทยุ, สาทร, สีลม และสามย่านก็ได้ หรือจะขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครแถว ๆ สี่แยกบางนาก็สะดวกประหยัดเวลาไปได้เยอะ ใช้เดินทางไปได้หลายที่ทั้ง พระราม 9, ดาวคะนอง, พระราม 2, แจ้งวัฒนะ, ดินแดง, วิภาวดีรังสิต และรามอินทรา
หากจะออกนอกเมืองก็ใช้ได้ทั้งเส้นสุขุมวิทฝั่งโครงการวิ่งตรงผ่านสำโรง, ปากน้ำ, แพรกษา, บางปู, ปู่เจ้าสมิงพราย ไปสมุทรปราการง่าย ๆ และวิ่งข้ามไปยังพระราม 3 จากทางนี้ได้ หรือไปเส้นบางนา-ตราด ก็มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นวิ่งออกไปชลบุรี และพัทยา
หรือจะใช้เส้นนี้เชื่อมไปถนนกาญจนาภิเษกเดินทางไปฉะเชิงเทรา ไปรังสิต ฝั่งปทุมธานี อยุธยาก็ได้ อีกฝั่งจะวิ่งไปโซนบางขุนเทียน, บางแค และยาวไปทางนนทบุรี ส่วนเส้นศรีนครินทร์ใช้วิ่งไปบางกะปิ เชื่อมอ่อนนุช, รามคำแหง และลาดพร้าวได้ หรืออีกฝั่งวิ่งออกไปแถวปากน้ำสมุทรปราการ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 650 เมตรเท่านั้น ระยะการเข้าถึงสามารถเดินได้สบาย ๆ หรือหากไม่ชอบเดินหน้าปากซอยลาซาล 8 ก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ นั่งไปปากซอยเพื่อไปขึ้น BTS แบริ่งได้ในราคา 10 บาท และหากขึ้น BTS ไปอีก 1 สถานี ไปลงสถานีสำโรง บริเวณนี้จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งเป็นโครงการในอนาคต และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง
ส่วนภายในซอยลาซาล 8 จะไม่ค่อยมีรถสาธารณะผ่าน จะต้องเดินออกไปหน้าปากซอยอีกประมาณ 220 เมตร เพื่อไปยัง ถ.ลาซาล ที่จะมีทั้งรถแท็กซี่, วินมอเตอร์ไซค์ และมีรถสองแถววิ่งผ่านไปมาจากปากซอยถึงท้ายซอยเลย หรือหากออกไปที่เส้นสุขุมวิทหรือศรีนครินทร์ก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง เรียกได้ว่าการเดินทางสะดวกมากทั้งกับคนไม่ใช้รถ และมีรถยนต์ส่วนตัว
การออกแบบโครงการ : โครงการ D Mark Condo @Lasalle เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัยรวม 93 ยูนิต บนที่ดินขนาด 341 ตารางวา ตัวอาคารใช้โทนสีเทา สีขาวครีม และสีเหลือง มีพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งโครงการ
สำหรับส่วนกลางของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 2 มีลานจอดรถใต้อาคารอยู่ที่ชั้น 1 จอดได้ประมาณ 40% ของจำนวนยูนิตโครงการ และจอดซ้อนคันได้อีก 10% ห้องมีให้เลือก 5 แบบ ทั้งแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus บนขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30.14 – 36.31 ตร.ม.
วัสดุ : สำหรับฟังก์ชันภายในห้องพักสะดวกตามลักษณะของแต่ละ Type สามารถครีเอทพื้นที่ภายในได้อย่างลงตัวตามสไตล์ ห้องมีพื้นที่กว้างขวาง มีครัวแยกสัดส่วนหมดปัญหากลิ่นรบกวน ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ฟรี! เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน + เตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน, แอร์ และฉากกั้นอาบน้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร พื้นเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีพื้น
มีพื้นที่การใช้งานครบทั้งห้องนั่งเล่น, มุมรับประทานอาหาร, ครัวแยกส่วน, พื้นที่ระเบียงมีที่เหลือให้วางเครื่องซักผ้า, ห้องนอนขนาดกว้าง มีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยถ่ายเทอากาศ และห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ภาพรวมถือว่าใช้วัสดุมาตรฐานสมราคา ตั้งอยู่บนทำเลที่เดินทาง และหาของกินของใช้ได้สะดวกสบาย
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ตัวโครงการมีที่ดินขนาด 341 ตารางวา มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติ ส่วนกลางหลัก ๆ จะอยู่ที่ชั้น 2 ประกอบด้วย Co-Working Space, Fitness Zone, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ มีสวน Ozone Garden, Lobby, Mailbox ที่ประตูห้องพักอาศัยเป็นประตูแบบ Digital Door Lock
ที่จอดรถทั้งหมดจอดใต้อาคารได้ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) อาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับทำเลที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวที่ค่อนข้างสะดวกแบบนี้ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยเข้าออกโครงการ และตัวอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Access Card Control ติดตั้งกล้อง CCTV และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Call Center : 02 550 6475-6 หรือ 098 995 0299 ทุกวัน 9.00 น. – 19.00 น.
Website : https://www.dmarkcondo.com/
Facebook : https://www.facebook.com/DMARKcondoLasalle/
หากเพื่อนๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น