รีวิว คอนโด ฟิวส์ มิติ รัชดา-สุทธิสาร Fuse Miti Ratchada-Sutthisan
Fuse Miti รัชดา-สุทธิสาร จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่บนซอยอินทามระ 22 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ใกล้รถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร ประมาณ 1.2 กม., เซ็นทรัล พระราม 9, ฟอร์จูน พระราม 9, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า, The Street รัชดา, เอสพลานาด รัชดา และ รพ.พระราม 9
ฟิวส์ รัชดา-สุทธิสาร เป็นคอนโด High-Rise 17 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 1-2-41 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 281 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 28.00-48.50 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2558
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องตู้จดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ประตูคีย์การ์ด, ที่จอดรถ ประมาณ 40% (ไม่รวมซ้อนคัน), กล้องวงจรปิด, รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.01 ล้านบาท*
ชื่อโครงการ | ฟิวส์ มิติ รัชดา-สุทธิสาร Fuse Miti Ratchada-Sutthisan |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา / Pruksa |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | 1 Bed / 28.00 – 34.50 sq.m. 2 Bed / 48.50 sq.m. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1 ไร่ 2 งาน 41 ตร.ว. |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 17 ชั้น |
จำนวนห้อง | 281 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 114 คัน ประมาณ 40% (ไม่รวมซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟต์ | ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว |
โซน | ดินแดง, วิภาวดี, สุทธิสาร, รัชดาภิเษก |
ขนส่งสาธารณะ | รถไฟฟ้า MRT สุทธิสาร – 1.2 กม. |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถประจำทางสาย 54, 74ร, 117, 204 |
ที่ตั้ง | ซอยอินทามระ 22 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดงกรุงเทพฯ |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | เสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 3.01 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้นประมาณ 104,328 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.ม. / เดือน ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สระว่ายน้ำลอยฟ้า แยกสระเด็กและผู้ใหญ่ – Sky Fitness – MiTi Multi Space มุมพบปะสังสรรค์ – MiTi Theatre Room มุมดูหนังฟังเพลง – MiTi Garden สวนลอยฟ้า – Pocket Garden ชั้น 4, 12, MF และ Sky Loft – ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. และ CCTV 24 ชม. – Digital Door Lock |
จุดเด่นของโครงการ | UNFOLD YOUR LIFE ตอบทุกมิติความเป็นตัวคุณ คอนโดที่ชีวิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่สไตล์ใดสไตล์หนึ่ง แต่มีหลากหลายมิติ ที่แตกต่างรวมอยู่ในคนคนเดียวกันบนทำเลสุทธิสาร-รัชดา ซึ่งรายล้อมไปด้วยมิติแห่งการอยู่อาศัยในเวลากลางวัน และมิติแห่งมนต์เสน่ห์ ในยามค่ำคืนทุกดีไซน์และฟังก์ชั่นในทุกส่วนถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกย่างก้าวของคุณสนุกไปกับมิติการใช้ชีวิต |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยอินทามระ 22 ถนนสุทธิสาร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.789145, 100.564027
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Fuse Miti รัชดา – สุทธิสาร เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 17 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า ถนนสุทธิสาร ฝั่งมุ่งหน้าถนนรัชดาภิเษก ระหว่างซอยอินทามระ 22 และ ซอยอินทามระ 24 ตัวถนนสุทธิสารเป็นถนนที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกสะพานควาย และไปสิ้นสุดที่ถนนลาดพร้าว
สภาพแวดล้อมโดยรวมของถนนสุทธิสารมีความคึกคักสูง มีทั้งบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานมากมาย เพราะตัวถนนเส้นนี้เชื่อมอยู่กับถนนเส้นสำคัญๆหลายเส้นทั้งถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าว ทั้งยังมีเส้นทางให้ลัดเลาะหลายเส้นทาง ทำให้บริเวณรอบๆที่ตั้งโครงการค่อนข้างคึกคัก มีรถผ่านไปมาทั้งวัน รอบข้างเป็นที่อยู่อาศัยประเภทอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่
เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารที่ตัดกับถนนเส้นหลักๆหลายเส้น จึงทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ค่ะ โดยสามารถใช้ถนนเส้นหลักต่างๆได้ดังนี้
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ยังถือว่าสะดวกอยู่ เพราะตัวโครงการติดถนนใหญ่ ออกมาหน้าโครงการก้สามารถโบกรถ Taxi ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีคิวพี่วินอยู่หน้าโครงการ สามารถใช้บริการนั่งไป MRT สุทธิสาร (ค่าโดยสาร 20 บาท) หรือ BTS อารีย์ (ค่าโดยสารประมาณ 50 บาท)ได้ หรือถ้าใครต้องการใช้บริการรถเมล์ ก็มีให้เป็นทางเลือกอีก 1 ทาง โดยจะมีป้ายรถเมล์ห่างจากโครงการประมาณ 140 เมตร มีรถเมล์สาย 54, 74ร, 117, 204 วิ่งผ่านค่ะ
นอกจากเส้นทางต่างๆที่พูดถึงกันไปแล้ว ตัวโครงการก็ยังใกล้จุดขึ้นทางด่วน โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด คือ จุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ฝั่งมุ่งหน้าดอนเมือง มีระยะทางจากโครงการประมาณ 2 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งขาเข้าเมืองจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.4 กม. ใช้เวลาเดินทางจากโครงการประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ถือว่าสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันพอสมควร โดยใกล้ๆโครงการจะมีซุ้มขายอาหารที่จะมีพวกร้านอาหารตามสั่งให้เลือกหลายร้าน ติดกันก็มี Hyper Market อย่าง Tesco Lotus Express ให้มาซื้อของใช้กันได้สะดวก หรือจะเดินไปตลาดสุทธิสารก็ได้ ระยะทางจากโครงการประมาณ 210 เมตร จะมีร้านอาหารเยอะกว่าบริเวณซุ้มหน้าโครงการ และมีพวกผักผลไม้ขายด้วยค่ะ นอกจากซุ้มอาหารและตลาดแล้วยังมีร้านอาหารของผู้คนแถวนี้ที่เปิดในอาคารพาณิชย์เปิดแซมๆอยู่ตลอดทางค่ะ
ถ้ามองความอุดมสมบูรณ์ในมุมที่กว้างออกมาหน่อยก็จะเห็นว่าเส้นสุทธิสารนี้ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ทั้ง 2 ฝั่งเลยคือเส้นรัชดาภิเษกและแถวๆสะพานควาย, อารีย์ ที่จะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะ อย่างบนเส้นประดิพัทธ์ ช่วงใกล้แยกสะพานควายก็จะเป็นถนนเส้นที่มีร้านอาหารมาเปิดเยอะมากๆในช่วงเย็นจนถึงดึก ฝั่งอารีย์ก็มี Villa Market, Villa Aree ทางเส้นรัชดาก็ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะเป็นแหล่งของพนักงานออฟฟิศ ร้านอาหารราคาจับต้องได้ไปจนถึงมีระดับหน่อยก็มีให้เลือกหลายร้านค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆที่ใกล้โครงการที่สุดก็จะเป็น Central ลาดพร้าวค่ะ หรือจะใช้ MRT นั่งไป Central พระราม 9 ก็สะดวกนะคะ
การเดินทาง(Route)
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นบนถนนประดิพัทธ์บริเวณแยกสะพานควายฝั่งมุ่งหน้าสุทธิสารวินิจฉัยวิ่งตรงผ่านแยกสะพานควาย ตรงเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยตรง ไปเรื่อยๆผ่านแยกสะพานสุทธิสาร ให้สังเกตซอยอินทามระ 22 ทางขวามือ ติดกับซอยอินทามระ 22 จะเป็นโครงการ Fuse Miti รัชดา – สุทธิสาร
สรุปการเดินทาง ถนนประดิพัทธ์ > แยกสะพานควาย > ถนนสุทธิสารวินิจฉัย > แยกสะพานสุทธิสาร > Fuse Miti รัชดา – สุทธิสาร
เริ่มการเดินทางกันบนถนนประดิพัทธ์ บริเวณแยกสะพานควาย จากแยกสะพานควายนี้เราสามารถที่จะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางจตุจักร หรือเลี้ยวขวาไปทางอารีย์และเข้าเมืองได้ค่ะ
ผ่านแยกมาแล้วเราจะอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย ขับตรงตามทางไปเรื่อยๆถึงทางโค้งแรกเลี้ยวขวา
ถึงทางโค้งที่สองเราเลี้ยวซ้ายเพื่อไปถนนสุทธิสารวินิจฉัย ถ้าเราเลี้ยวขวาตรงนี้เราจะกลับไปยังเส้นถนนพหลโยธินที่เป็นถนนวันเวย์ค่ะ
เราตรงตามทางมาบนถนนสุทธิสารจนถึงบริเวณแยกสะพานสุทธิสารวินิจฉัย โดยตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายเราจะสามารถมุ่งตรงไปดอนเมืองได้ ส่วนเรายังขับรถตรงไปค่ะ
ผ่านแยกมาแล้วจะเจอกับถนนวิภาวดี ตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวขวาจะสามารถตรงไปดินแดงได้ แต่เรายังคงขับตรงไปค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยเรื่อยๆเราจะเห็น Tesco Lotus Express ทางซ้ายมือซึ่งตรงนี้จะเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุด มีศูนย์อาหารที่ด้านใน มีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้าน
ผ่านเทสโก้โลตัสมานิดหน่อยเราจะเห็นซอยอินทามระ 35 ทางซ้ายมือ และซอยอินทามระ 22 ทางขวามือ
ติดกับซอยอินทามระ 22 จะเป็นโครงการ Fuse Miti รัชดา – สุทธิสารค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
มุมมองรอบๆโครงการถ้าพูดในฝั่งผู้พักอาศัยถือว่าค่อนข้างเปิดโล่งเพราะเริ่มมียูนิตพักอาศัยตั้งแต่ ชั้น 4 เป็นต้นไป โดยอาคารรอบๆตัวโครงการ
ต่อมาเราจะลองมาเดินดูรอบรอบโครงการกันบ้างโดยจะเริ่มเดินจากทางซ้ายมือของโครงการจะพาไปดูศูนย์อาหารและ Tesco Lotus ข้างๆโครงการซึ่งจะเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ใกล้โครงการที่ สุดถัดมาจะข้ามถนนจากโครงการเดินไปตามทางเท้าเลียบถนนสุทธิสารวินิจฉัย(ฝั่งมุ่งหน้าถนนรัชดาภิเษก) เดินไปจนถึงซอยอินทามระ 41 และเดินจากโครงการบนถนนฝั่งโครงการไปทางขวามือ (ฝั่งถนนสุทธิสารวินิจฉัยมุ่งหน้าถนนพหลโยธิน) เดินไปจนถึงซอยถนนประชาสุขค่ะ
มาเริ่มเดินกันเลยค่ะ เริ่มจากออกมาข้างหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
ไปดูทางฝั่งซ้ายมือของโครงการกันก่อน
ติดกับโครงการจะเป็นซอยอินทามระ 22 ถัดไปเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นค่ะ
ถนนบริเวณนี้จะมีรถวิ่งจำนวนมากและรถค่อนข้างติดในช่วงเวลาเร่งด่วน จึงต้องมีเจ้าหน้าที่จราจรคอยมาให้ความสะดวกแบบนี้ค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยอินทามระ 35 เราลองข้ามไปดูกันค่ะ
หน้าปากซอยจะมีคิวพี่วินมอเตอร์ไซค์
อัตราค่าโดยสารของพี่วินค่ะ โดยจากคิวไปจนถึง MRT สุทธิสารจะมีราคา 20 บาท ถ้าไปที่ BTS อารีย์จะมีราคา 50 บาทค่ะ
ติดกันเป็นซุ้มอาหาร ภายในมีร้านเปิดหลายร้าน โดยจะเป็นร้านแบบรถเข็นแต่มีที่นั่งไว้อำนวยความสะดวกหลายชุดค่ะ
ติดกับซุ้มขายอาหารจะเป็นเวิ้งที่มี Tesco Lotus Express, ธนาคารกสิกร และกรุงเทพสาขาย่อย
กลับมาที่หน้าโครงการ เราไปดูทางขวามือกันบ้างค่ะ โดยเราจะข้ามถนนไปเดินถนนฝั่งตรงข้ามกันก่อนนะคะ พื้นที่เดินหน้าโครงการก็ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นยาวไปตลอดแถว
เมื่อพ้นอาคารพาณิชย์มาแล้วจะเจอกับธนาคารกรุงเทพ สาขาใหญ่ หน้าปากซอยอินทามระ 37
บรรยากาศภายในซอยอินทามระ 37 ค่ะ
หน้าธนาคารมีฟุตบาทกว้าง เดินสะดวก
เดินผ่านจากธนาคารมาก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ตลอดทาง โดยหน้าร้านอาคารพาณิชย์จะเปิดเป็นร้านต่างๆเช่น ร้านปั๊มกุญแจ, ร้านซ่อมรถยนต์, ร้านขายอะไหล่ เป็นต้นค่ะ
เดินมาเรื่อยๆถึงซอยอินทามระ 39 หน้าปากซอยเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น
บรรยากาศภายในซอยค่ะ จะเป็นที่อยู่อาศัยเป็นอาคารพาณิชย์ซะส่วนใหญ่
เดินต่อมาเราจะเจอกับร้านข้าวขาหมูและข้าวมันไก่ร้านค่อนข้างใหญ่จัดร้านได้สะอาดหน้าเข้าไปนั่งทานมากเลยค่ะ
ถัดมาก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ยาวไปเรื่อยๆค่ะ
ผ่านร้านพิซซ่าฮัท
เลยมาอีกหน่อยจะเป็นซอยที่มีร้านอาหารและร้านขายของเปิดภายในซอยหลายร้าน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตลาดสุทธิสาร
พื้นที่บริเวณนี้จะมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงโดยจะมีร้านอาหารเปิดหลายร้าน เช่น ร้านขายยา, เซเว่นอีเลฟเว่น
เดินต่อไปเรื่อยๆจะถึงซอยอินทามระ 41 ซอยนี้ก็มีของขายเยอะเหมือนกันค่ะ
บรรยากาศภายในซอยค่ะ
เราเดินมาจนถึงแยก เป็นถนนสุทธิสารตัดถนนประชาสุขสามารถใช้วิ่งไปเชื่อมกับถนนประชาสงเคราะห์ได้
กลับมาที่ตัวโครงการถัดมาเราจะมาเดินบนทางเท้าฝั่งโครงการกันต่อนะคะ โดยติดกับตัวโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น โดยรวมเป็นอาคารที่กำลังปรับปรุงค่ะ
ถัดมาเป็นซอยอินทามระ 24
บรรยากาศภายในซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงสองชั้นและบ้านเดี่ยวค่อนข้างเงียบค่ะ
ถัดมาเป็นอาคารถาวร Building สูง 6 ชั้น
ต่อมาจะเป็นพื้นที่โล่ง เดิมเคยเป็นพื้นที่เปิดร้านตลาดนัดชื่อซอยสุทธิสารพลาซ่า
ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3 ชั้นยาวไปค่ะ
เดินไปเรื่อยๆจะถึงตลาดสุทธิสาร เป็นอีกแหล่งความอุสมบูรณ์ที่สามารถเดินมาใช้บริการกันได้ มีร้านอาหารเยอะกว่าตรงศูนย์อาหารข้างโลตัสค่ะ
ถัดจากตลาดไปก็จะไปอาคารพาณิชย์ยาวไปจนถึงเส้นตัดถนนประชาสุข
ตัวโครงการ
โครงการ Fuse MiTi รัชดา – สุทธิสาร เป็นคอนโด High Rise สูง 17 ชั้น ยูนิตพักอาศัยจำนวน 281 ยูนิต การออกแบบโครงการโดยรวมสไตล์โมเดิร์น ตัวอาคารสีเทาทั้งอาคาร
ทางเข้าออกของโครงการจะมีทางเดียวคือทางเข้าหลักติดกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย จากทางเข้าโครงการเข้ามาจะเจอถนนกว้าง 6 เมตรเป็นถนนเดินรถแบบสวนกันค่ะ เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วจะต้องผ่านซุ้มรปภ.ซึ่งจะต้องใช้ Key Card Access ระยะใกล้ จากถนนหลักของโครงการจะเป็นเส้นทางนำเข้าไปสู่จอดรถในอาคารและรอบอาคารโดยรถที่เข้ามาส่งผู้โดยสารอย่างเดียวก็สามารถที่จะวนรอบอาคารไปออกที่อีกฝั่งของอาคารได้ ส่วนลูกบ้านจะสามารถจอกรถรอบอาคารและในอาคาร โดยที่จอดรถในอาคารจะมีตั้งแต่ชั้น 1 – 3 รวมที่จอดรถในอาคารและรอบๆอาคาร จะสามารถจอดได้จำนวน 49 % ส่วนการออกจากโครงการเมื่อลงมาจากที่จอดรถสามารถที่จะ เลี้ยวออกทางเข้าได้เลยหรือจะวนออกไปทางรถโดยสารได้ค่ะ
พื้นที่ด้านในอาคารจะมี Main Lobby ขนาดใหญ่ จาก Lobby จะแยกไปยังส่วน Mail Room, ห้องน้ำรับรองและห้องนิติบุคคล สำหรับโถงลิฟท์จะมีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัวเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และเซอร์วิสลิฟท์ 1 ตัวค่ะ โดยอัตราลิฟท์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัยอยู่ที่ 140 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานมาหน่อย อาจจะต้องรอลิฟท์นานนิดนึงในช่วงเวลาเร่งด่วน
มาดูตัวของการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการจะมีน้ำพุประดับและป้ายชื่อโครงการ
จากถนนสุทธิสารเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนกว้าง 6 เมตร ปูด้วยคอนกรีตสแตมป์ ทางขวามือจะเห็นตัวกั้นไม้กระดกเป็นทางเข้าไปสู่ส่วนด้านในโครงการค่ะ ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดกฝั่งรถขาออกจากโครงการค่ะ
สำหรับรั้วกั้นไม้กระดกจะใช้ระบบ Key Card Access
ในการผ่านเข้าไปด้านในจะต้องใช้ Key Card Access ระยะใกล้ คือต้องลดกระจกลงมาเพื่อแตะที่เครื่องรับสัญญาณก่อนค่ะ
เข้ามาด้านหลังรั้วกั้นไม้กระดก จะเจอกับที่จอดรถรอบอาคารทางซ้ายมือห้องกระจกที่เราเห็นนั้นจะเป็นส่วนของ Main Lobby
เข้ามาตามถนนหลักเราจะเห็นที่จอดรถข้างอาคารอยู่ตลอดทาง
ตามถนนหลักมาเรื่อยๆจะเจอทางเข้าสู่ที่จอดรถ
ทางขึ้นลงของที่จอดรถกว้างประมาณ 6 เมตร จะเป็นทางรถสวนกันแบบนี้ค่ะ
เข้ามาในที่จอดรถจะเป็นที่จอดรถโปร่ง อากาศถ่ายเทดี
แต่ละช่องจอด จะจอดได้ประมาณ 2-3 คัน ภายในช่องจอดจะมีคอนกรีตกันล้อ ผนังทั้งสองด้านเป็นผนังเปิดทำให้เวลาเปิดประตูรถไม่ต้องกลัวประตูกระแทกกับผนังค่ะ
ขึ้นมาดูที่ชั้น 2 จะเห็นประตูหนีไฟทางซ้ายมือ
ส่วนที่ชั้นสองครึ่งจะมีโถงลิฟท์เป็นทางเข้าไป
ภายในโถงลิฟท์จะมีลิฟท์ตัวหลัก 2 ตัว
และ service ให้บริการ 1 ตัว
ออกจากที่จอดรถเดินไปดูรอบรอบอาคารกันต่อนะคะ
บรรยากาศด้านหลังโครงการจะมีลงต้นไม้ไว้ให้ตามรั้วกำแพงช่วยให้บรรยากาศร่มรื่น ส่วนพื้นที่รอบอาคารยังคงเป็นที่จอดรถภายนอกค่ะ
ออกมาฝั่งหน้าโครงการ จะเห็นรั้วกั้นไม้กระดกฝั่งทางออกที่เราเห็นกันตอนเข้าโครงการเมื่อสักครู่ ซ้ายมือเป็น Sale Office
อมาเราจะเข้าไปดูด้านในอาคารกันบ้าง โดยประตูทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่ติดถนนทางเข้าแบบนี้
ข้างบันไดทางขึ้นหลักจะมี Slope สำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์ไว้ให้บริการด้วยค่ะ
ติดกับประตูทางเข้าหลักจะมีทางเข้าไปยังส่วน Sale Office
ภายใน Sale Office จะมี Presentation ของโครงการ
เข้ามาด้านในจะเป็นสำนักงานขายที่มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการค่ะ
กลับมาที่ประตูทางเข้าหลัก ต้องใช้ Key Card แตะเพื่อเปิดประตูค่ะ
ส่วนถ้าเราจะออกจากอาคารก็จะมีปุ่มกดโดยไม่ต้องแสกนคีย์การ์ดค่ะ
เข้ามาด้านในจะเจอ Main Lobby ตกแต่งแบบหรูหรา Modern Luxury มองตรงไปจะเป็นทางเข้าไปยังโถงลิฟท์ ขวามือเป็นทางเข้าไปห้อง Mail Box และห้องน้ำรับรอง
บรรยากาศของโถงรับรองโดยรวมค่ะ
พื้นที่โถงรับรองจะมีชุดโซฟาไว้ให้นั่งหลายชุดด้วยกัน ส่วนห้องทางขวามือที่เห็นจะเป็นส่วนของสำนักนิติบุคคลสามารถไปติดต่อขอข้อมูลตรงนี้ได้
เราไปดูในส่วนของ Mail Room และห้องน้ำรับรองกันก่อนค่ะ
ด้านในตกแต่งด้วยพื้นผิวเงาทำให้ดูมีความหรูหรามากขึ้นและทำให้ห้องดูกว้างน่าใช้ดีค่ะ
เข้ามาด้านในห้อง Mail Box จะมีกล่องจดหมายของแต่ละห้องเรียงกันไปตามแนวผนังแบบนี้ค่ะ
มาดูส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 กันบ้าง
ไปดูที่ห้องน้ำชายกันก่อนค่ะ
ภายในห้องน้ำชายจะมีสุขภัณฑ์ครบชุด คืออ่างล้างมือ 1 อ่าง,โถปัสสาวะชาย 1 โถและโถปัสสาวะอีก 1 โถค่ะ
ต่อมาเราไปดูในห้องน้ำหญิงกันต่อค่ะ
ภายในเหมือนกับห้องน้ำชาย เพียงแต่ว่าจะไม่มีโถปัสสาวะชายเท่านั้นเองค่ะ
ต่อมาเราไปดูด้านในโถงลิฟท์กันบ้าง โดยประตูทางเข้าโถงลิฟท์ เราสามารถผ่านเข้าไปได้เลย ไม่ต้องสแกนคีย์การ์ด เนื่องจากว่าเราได้สแกนกันไปตอนประตูทางเข้าหลักเรียบร้อยแล้ว
เข้ามาด้านในโถงลิฟท์ตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวดูหรูหราดีค่ะ ขนาดโถงค่อนข้างกว้าง มีลิฟท์ให้บริการ 2 ตัว
หน้าตาปุ่มกดลิฟท์ หน้าปัดดิจิตอลค่ะ
ภายในตัวลิฟต์มีกระจกเงา, กล้องวงจรปิด และราวจับรอบตัวลิฟท์สำหรับรับรองผู้ใช้วีลแชร์ด้วยค่ะ
ปุ่มกดแสดงชั้นด้านในตัวลิฟท์หน้าปัดระบบดิจิตอล ยี่ห้อ schneider รับน้ำหนักได้ 1,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 13 คน
ผังโครงการชั้น 4 โถงลิฟท์จะตั้งอยู่ช่วงกลางของโถงทางเดินทั้งหมด ทำให้การเดินไปยังห้องพักไม่ไกลมาก เมื่อออกมาจากโถงลิฟท์แล้วจะเจอโถงทางเดินแบบ Double Corridor คือเป็นห้องพักหันหน้าเข้าหากันหมด สุดโถงทางเดินแต่ละด้านจะมีช่องแสงช่วยระบายอากาศ ให้โถงทางเดินไม่อับ พร้อมทั้งให้แสงสว่างในเวลากลางวัน สำหรับพื้นที่ในชั้นนี้จะมีทั้ง ยูนิตพักอาศัยและส่วน Facility คือ Miti Garden และห้อง Multi Motion Room ซึ่งจะเป็นโถงพักผ่อนหรือสามารถใช้เป็นพื้นที่ Working Space สำหรับลูกบ้าน โดยภายในห้อง Miti Motion Room จะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปที่ชั้น 5 เป็นห้อง Theater Room ค่ะ
ผังโครงการชั้น 5 จะเป็นส่วนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด ส่วนห้อง Miti Motion Room นั้น คือห้อง Theatre Room ที่ต้องใช้บันไดในชั้น 4 นั่นเองค่ะ
มาดูของจริงกันบ้างค่ะ หน้าตาโถงลิฟท์บนชั้นอยู่อาศัยทั่วไป จะเรียบๆ มีป้ายบอกชั้นแบบนี้ค่ะ
เราไปดูทางส่วน Facility ของโครงการกันก่อน
โดยประตูทางซ้ายมือที่เราเห็น เป็น Miti Garden ส่วนขวามือจะเป็น Miti Motion Room ค่ะ
ออกไปดูส่วนสวนด้านนอกกันก่อน พื้นที่สวนด้านนอกจะ ปูด้วยหญ้าเทียมลงต้นไม้ไว้ให้นิดหน่อย มีม้านั่งยาวและชุดโต๊ะเก้าอี้ตั้งไว้ให้ใช้บริการ 2 ชุด
มุมจากสวนลองย้อนมาทำประตูห้องกระจกที่เห็นด้านข้างคือพื้นที่ของมัน Miti Motion Room ที่ใช้ผนังเป็นกระจกล้อมรอบทั้งหมด
กลับเข้ามาด้านในไปดูในส่วนของ Miti Motion Room กันต่อโ ดยการจะเข้าไปในห้องนี้ได้จะต้องใช้ Key Card แตะเพื่อผ่านเข้ามาในห้อง
พื้นที่นี้จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8 โมงถึง 3 ทุ่มค่ะ
เข้ามาด้านใดจะเจอพื้นที่โถงกว้างพร้อมชุดโซฟา มีที่นั่งพักผ่อนหลายชุด
ออกมาอีกส่วนจะเป็นพื้นที่ของ Double Volume คือจะมีฝ้าเพดานสูงขึ้นไปจนถึงชั้น 5 พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งน่าใช้งาน และมีชุดโต๊ะให้ใช้งานหลายชุด
รวมถึงมีโต๊ะที่อยู่ติดริมมหน้าต่างสามารถนั่งภายในห้องและยังชมวิวเมืองด้านนอกได้
จากชั้น 4 เราสามารถขึ้นบันไดไปต่อที่ชั้น 5 ได้
ขึ้นมาบนชั้น 5 จะเป็นส่วนของ Theater Room ภายในจะมีชุดโซฟายาวเหมาะสำหรับนั่งดูหนังเป็นครอบครัว ผนังเป็นกระจกโดยรอบแต่โครงการติดม่านสำหรับกันแสงไว้ให้ โดยห้องนี้สามารถมาใช้งานได้แต่จะต้องจองล่วงหน้าก่อนค่ะ
ให้ดูชุดโซฟาที่จัดมาให้
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจอทีวีขนาดใหญ่พร้อมโฮมเธียเตอร์
จากชั้นบนย้อนมาตรงส่วนของด้านล่างค่ะ
กลับมาที่โถงบันไดอีกฝั่งหนึ่งของชั้นจะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัย โดยจะมีประตูกระจกกั้นและต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้าไปด้านใน
เข้ามาด้านในจะเจอโถง กว้างประมาณ 1.5 เมตร เป็น Double Corridor มีห้องพักหันหน้าเข้าหากัน สุดโถงจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่เราจะเห็นว่าได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ค่อนข้างเยอะ และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศให้ห้องไม่อีบได้ด้วยค่ะ
โถงอีกด้านก็จะมีช่องแสงไว้ให้เช่นกัน
และจะมีช่องบันไดหนีไฟพร้อมถังดับเพลิงไว้ให้ทุกชั้น
ผังโครงการชั้น 6 – 9 จะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วน โดยยูนิตพักอาศัยของชั้นนี้จะเป็น 1 Bedroom ทั้งหมด
ผังโครงการชั้น 10 – 11 จะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วนล้วนๆเช่นกัน แต่จะมีห้องที่เป็น 2 Bedroom 1 ห้องเป็นห้องมุมหันหน้าไปทางทิศใต้และทิศตะวันออกค่ะ
ผังโครงการชั้น 12 จะเป็นยูนิตพักอาศัยและมีสวนเล็กๆทางทิศเหนือ ชั้นนี้จะมีห้อง 2 Bedroom 1 ห้องมุมเช่นกันค่ะ
ผังโครงการชั้น 13 มี Miti Garden ที่เชื่อมต่ออยู่กับสวนที่ชั้น 12 ค่ะ
เรามาดูของจริงกันบ้างออกมาจากตรงทางเดินออกมาจากโถงลิฟท์ ขวามือเป็นประตูเชื่อมออกไปสวนภายนอก
ออกมาที่สวนภายนอก พื้นปูด้วยหญ้าเทียม ตกแต่งด้วยสวนตามแบบมีต้นไม้ลงไว้ให้พอประมาณ มีชุดโต๊ะทานกาแฟตั้งไว้ให้ใช้บริการ
เราเดินไปดูตรงสวนด้านหน้า เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน จะมีโซฟาไว้ให้นั่งพักผ่อน พื้นที่ตรงนี้เหมาะที่จะออกมานั่งชมดาวตอนกลางคืน หรือมานั่งพักผ่อนช่วงเย็นจะเหมาะมากกว่าค่ะ เพราะว่าไม่มีต้นไม้ที่ให้ร่มเงาเวลากลางวันจึงอาจจะร้อนไปหน่อย
ตัวโซฟาที่ให้มาเป็นโซฟากลมสามารถนั่ง 2 คนได้มีเบาะมาให้เรียบร้อย
จากพื้นที่สวนด้านบนมองลงไปที่ชั้น 12
โดยสวนทั้ง 2 ชั้น จะเชื่อมกันโดยบันไดภายนอกอาคาร
สวนด้านล่างพื้นปูด้วยหญ้าเทียม และลงไม้พุ่มให้รอบๆ มีชุดโต๊ะกาแฟ 2 ชุด
ผังโครงการชั้น 14-16 จะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วนๆ มีห้องทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom
ผังโครงการชั้น 17 จะเป็นยูนิตพักอาศัย มีห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom พร้อมสวนเล็กๆฝั่งหน้าโครงการ
ผังโครงการชั้น Sky Loft จะเป็นชั้น Facility หลักของโครงการ เป็นชั้นดาดฟ้าจึงทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็น Outdoor เดินออกมาจากโถงลิฟท์จะเจอกับ Miti Garden เป็นสวนขนาดใหญ่ ออกไปทางขวาจะเป็นทางขึ้นไปยังส่วน Swimming Pool โดยจะมีสระเด็กแยกอยู่ข้างฟิตเนส สระว่ายน้ำหลักจะเป็นแบบ Infinity Edge Pool มีพื้นที่ล้างตัวข้างสระ 1 จุด ส่วนฟิตเนสจะได้เป็น Indoor Fitness ผนังกระจกล้อมรอบ โชว์ให้เห็นเมืองโดยรอบพร้อมทั้งมีห้องน้ำไว้ให้บริการ
เรามาดูของจริงกันบ้าง
โดยพื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้จะเปิดให้บริการทุกวัน 8 โมง ถึง 3 ทุ่ม
ออกมาข้างนอก โดยส่วนของ Facility ชั้นนี้จะเป็นสวนกว้างตกแต่งด้วยหญ้าเทียมและพื้นไม้ รอบๆ ลงพุ่มไม้ตกแต่งให้โดยรอบ และมีไฟสวนติดตั้งให้ตลอดทาง
มุมจากในสวนมองย้อนไปทางโถงลิฟท์และทางขึ้นสระว่ายน้ำค่ะ
ขึ้นไปดูในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ
ขึ้นมาด้านบนจะเป็นพื้นที่ของฟิตเนส และสระว่ายน้ำ
ฝั่งซ้ายมือเป็นสระเด็ก ล้อมรอบสระด้วยไม้พุ่ม
ส่วนของพื้นที่สระว่ายน้ำหลักฝั่งขวา จะมีฝักบัวสำหรับล้างตัว 1 จุด
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ รูปร่าง Free Form ขนาด 7 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร มุมมองกว้างสามารถมองเห็นวิวเมืองทางทิศเหนือได้โดยรอบ ไม่มีตึกมาบัง
ทางลงสระว่ายน้ำเป็นขั้นบันไดไล่ระดับลงเรื่อยๆ
และมี Day Bed ไว้ให้บริการ 6 ตัว
มุมจากสระมองย้อนกลับไปตัวอาคาร
เข้ามาดูในห้องฟิตเนสกันต่อ ภายในห้องฟิตเนสให้เครื่องเล่นมาค่อนข้างครบและมีชุดเก้าอี้สำหรับนั่งพักไว้ให้หลายตัวเลย
ตัวฟิตเนสใช้กระจกเป็นผนังโดยรอบ ทำให้ภายในห้องฟิตเนสดูโปร่งรับแสงธรรมชาติเข้ามาเยอะและเห็นวิวเมืองได้รอบด้าน
โดยภายในห้องฟิตเนสนี้จะมีลู่วิ่ง 3 ลู่
วิวจากลู่วิ่งมองออกไปด้านนอก
จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง, เครื่อง Abdominizer 1 เครื่อง
เบาะซิทอัพ 1 เบาะ, ลูกบอลโยคะและเสื่อโยคะอย่างละ 1 และดัมเบลคละขนาด 20 ชิ้น
เครื่อง Multi Press Muscle 1 เครื่อง
แบบห้อง
สำหรับห้องของโครงการนี้จะขายแบบ ขายแบบ Fully Fitted คือภายในห้องจะให้ เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า, แอร์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบชุด โดยมีห้องพักหลัก 2 แบบคือ
โดยห้องแบบ 1 Bedroom จะมีแยกย่อยไปอีกหลากหลาย Type คือ
ห้อง Type 1A 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.00 ตร.ม. – 31.00 ตร.ม.
ห้อง Type 1B 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.50 ตร.ม. – 34.50 ตร.ม.
ห้อง Type 1C 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.00 ตร.ม.
ห้อง Type 1D 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.00 ตร.ม.
ห้อง Type 2A 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.50 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างทาง โครงการจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ คือห้อง 1 Bed Room type 1A – 1 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร ฟังก์ชันภายในห้องจะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำและห้อง One Bedroom type 1B – 3 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว โดยวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมห้องตัวอย่างทั้ง 2 แบบพร้อมเปรียบเทียบกับห้องมาตรฐานที่เราจะได้ด้วยค่ะ
เริ่มจากห้องแบบ 1A – 1 จากแปลนห้องเมื่อเข้าไปในห้องเราจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อน โดยพื้นที่ครัวนี้จะได้เป็นครัวเปิดพร้อม Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ครบชุด ติดกับพื้นที่ควรจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมีฟังชั่นครบถ้วนแยกส่วนแห้งและส่วนเปียก โดยส่วนเปียกหรือห้องอาบน้ำจะกั้นด้วย Shower Box แยกให้เป็นสัดส่วนค่ะ
ถัดจากครัวจะเป็นส่วน Living Area พื้นที่ตรงนี้จะสามารถใช้เป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นได้ จากห้องนั่งเล่นเข้าไปจะเป็นส่วนของห้องนอน โดยกั้นระหว่างสองพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ขนาดของห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้พอดีๆ เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจะมี Built – in ตู้เสื้อผ้าให้ค่ะ และจากห้องนอนจะสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกค่ะ
มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันต่อ สำหรับประตูทางเข้าหลักของห้องจะได้เป็นบานประตูลามิเนต ลายไม้พร้อม Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung
พื้นในห้องเมื่อเข้าไปส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
เข้ามาในห้องพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นห้องครัวมองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ
ภายในห้องครัวจะได้ Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัวครบชุด ยี่ห้อ Modern Form จะมีซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว ยี่ห้อ FRANKE และเต้าเสียบเหนือซิงล้างจานค่ะ
ส่วนพื้นที่ใต้อ่างจะมีตู้สำหรับเก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน 1 ช่อง ลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม 1 ลิ้นชักและช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ 1 จุด
ตู้ด้านบนจะมีเครื่องดูดควันติดตั้งไว้ให้ พร้อมตู้เก็บของอีก 3 ช่องค่ะ
ติดกับห้องครัวทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำ
โดยประตูห้องน้ำจะได้เป็นบาน HDF สำเร็จรูป สีขาว ลูกบิดกลมมาตรฐาน มีบานเกล็ดด้านล่างไว้สำหรับระบายอากาศ
เข้ามาด้านในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างเป็นสัดส่วน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
สำหรับอ่างล้างมือที่ได้จะได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมฝังเคาน์เตอร์ใต้อ่าง พร้อมก๊อกน้ำเย็นยี่ห้อ American Standard ตัว เคาน์เตอร์ใต้อ่างล้างมือจะสามารถเก็บของได้พอประมาณ ส่วนด้านบนจะสามารถวางของได้นิดหน่อย เช่น พวกขวดสบู่ล้างมือหรือแปรงสีฟันเล็กๆค่ะ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ครบชุดยี่ห้อ American Standard พร้อมที่วางกระดาษชำระและสายชำระ
ตัวสายชำระมีขนาดกะทัดรัดดีค่ะ
ส่วนพื้นที่ห้องอาบน้ำ ทางโครงการจะติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมายังพื้นที่ส่วนแห้ง โดยบานประตูห้องอาบน้ำจะได้เป็นบานเปิด
มือจับด้านนอกเป็นก้านยาวแนวตั้ง และด้านในจะเป็นปุ่มเล็กๆแบบนี้ค่ะ
ฝักบัวที่ติดตั้งให้ภายในห้องอาบน้ำ จะได้ฝักบัวยี่ห้อ American Standard พร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ขนาดฝักบัวค่อนข้างใหญ่
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.90 x 1.20 เมตร พอให้ยืนอาบได้พอดีค่ะ
โดยพื้นระหว่างห้องครัวจนถึงห้องนั่งเล่นจะถูกกั้นด้วยตัวจบลามิเนต พื้นห้องนั่งเล่นปูพื้นลามิเนตลายไม้ สีอ่อนค่ะ
สำหรับพื้นที่ห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงสว่างธรรมชาติมาจากหน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนอน ทำให้ได้การแบ่งห้องโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าห้องแคบลงค่ะ
สำหรับพื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้ทางโครงการจัดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมชุดโต๊ะรับแขกเล็กๆอีก 1 ชุด ซึ่งดูจากขนาดพื้นที่แล้วโซฟาขนาด 2 ที่นั่งก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้โซฟาที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ก็สามารถที่จะเพิ่มเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ แต่อาจจะต้องเช็คระยะของห้องให้ดีๆก่อนที่จะไปซื้อมาติดตั้งค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะจัดเป็นชั้นสำหรับวางทีวีและตู้สำหรับเก็บของ โดยในห้องจริงจะไม่มีชั้นเก็บของ Built – in มาให้นะคะ โดยจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ซึ่งจะสะดวกสำหรับคนที่ชอบแต่งบ้านเอง โดยเราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะหาเป็นตู้เตี้ยๆมาติดตั้งเพื่อวางเฉพาะทีวีก็ได้ หรือถ้าใครอยากได้ที่โชว์ของก็สามารถที่จะ Built – in เป็นตู้เต็มผนังเพื่อที่จะได้มีช่องเก็บของเยอะๆก็ได้ค่ะ
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องนอน โดยประตูที่กั้นระหว่างพื้นที่ 2 พื้นที่นี้ จะเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน ตัวบานสูงจรดฝ้าเพดาน ทำให้พื้นที่ห้องดูโปร่งกว่าห้องแบบชุดทั่วไปค่ะ
โดยประตูที่ใช้กั้นระหว่างสองห้องนี้จะได้เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสค่ะ
ตัวรางติดตั้งไว้ที่พื้นแบบนี้ เวลาเดินต้องระวังสะดุดกันด้วยนะคะ
เข้ามาภายในห้องตกแต่งในโทนมืดๆหน่อย สไตล์ที่เท่ๆ สำหรับไอเดียในการตกแต่งห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก สำหรับใครที่ไม่ได้ชอบสีดำเป็นชีวิตจิตใจ เราแนะนำให้ใช้เป็นสีโทนอ่อนในการตกแต่งจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นและสว่างขึ้นด้วยค่ะ
ภายในห้องวางขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงที่เหลือฝั่งห้องนั่งเล่นเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร พอให้วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ แต่ถ้าใครเพิ่มขนาดเตียงเป็นคิงไซส์ก็อาจจะไม่มีที่เหลือพอให้วางโคมไฟหัวเตียงค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ในห้อง จะได้เป็นตู้เสื้อผ้า Built – in บานเลื่อน ตัวบานเป็นกระจกเงา 1 ฝั่ง ภายในตู้เสื้อผ้ามีราวแขวน 2 ชั้น ด้านบนมีช่องเก็บของแยกให้อีก 2 ช่อง
มือจับเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นออกมาจากบานประตูตู้แบบนี้ค่ะ
จากห้องนอนเราสามารถออกไปยังระเบียงภายนอกได้ โดยประตูที่เชื่อมระหว่างพื้นที่จะได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ขนาดค่อนข้างกว้างทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ
ออกมาพื้นที่ระเบียงด้านนอก พื้นระเบียงจะลดระดับลงไปประมาณ 8 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา
ราวกันตกระเบียงจะได้เป็นเหล็กสีเทาแบบนี้ค่ะ
พื้นที่บริเวณระเบียงจะมีโคมไฟติดผนังมาให้ 1 ดวง พื้นที่ฝั่งนึงจะสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยจะมีก๊อกน้ำและเดินท่อมาให้พร้อมค่ะ ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะต้องติดตั้งแบบลอยตัวโดยทางโครงการจะมีกริลสำหรับบังสายตามาให้เรียบร้อย ช่วยให้ภาพรวมของอาคารดูสวยและเรียบร้อยดีค่ะ ขนาดระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. พอให้วางราวตากผ้าได้หรือวางไม้กระถางเล็กๆได้ค่ะ
มาดูห้องตัวอย่างแบบที่ 2 กันค่ะ โดยห้องตัวอย่างแบบที่ 2 จะเป็นห้องแบบ 1B – 3 ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร
ฟังก์ชันในห้องเมื่อเข้าไปจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อน โดยพื้นที่ส่วนครัวของห้องนี้จะได้ขนาดค่อนข้างกว้างกว่าในห้องที่แล้วพอสมควรเลยค่ะ โดยจะมีพื้นที่ Pantry เพิ่มมากขึ้น แต่ยังได้เป็นครัวแบบเปิดอยู่ ซึ่งข้อเสียของครัวแบบเปิดคือเวลาที่เราทำอาหารแล้วมีควันเยอะๆก็อาจจะทำให้กลิ่นของอาหารฟุ้งไปยังส่วนต่างๆของห้องได้ และทำให้กลิ่นติดผ้าม่านหรือเตียงได้ง่ายค่ะ ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อแบ่งพื้นที่ห้องครัวให้เป็นครัวปิด แล้วยังสามารถทำให้ห้องดูโปร่งอยู่ได้ค่ะ
ภายในห้องครัวจะมีทางเชื่อมออกไปยังห้องน้ำ ภายในห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวนี้จะมีฟังชั่นครบ แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พร้อม Shower Box ค่ะ
ถัดจากห้องครัว จะเป็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น สำหรับห้องนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องที่แล้ว จึงทำให้มีที่เหลือพอสำหรับจัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2-3 ที่นั่งได้ และยังสามารถที่จะวางชุดโซฟารับแขกเพิ่มได้อีก 1 ชุด จากห้องรับแขกจะสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอกและห้องนอนค่ะ ภายในห้องนอนจะสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้หรือถ้าใครสะดวกที่จะวางเตียงขนาดคิงไซส์ก็ยังพอได้อยู่ค่ะ
พื้นห้องเมื่อเข้าไปจะเจอเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องครัว มองตรงไปจะเป็นส่วนห้องทานอาหารและห้องรับแขก
สำหรับพื้นที่ห้องครัวจะ Built – in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ครบชุด ยี่ห้อ Modern Form Top หินเทียม พร้อมเครื่องดูดควัน
พื้นผนังหลังเคาน์เตอร์จะปูกระเบื้องมาให้แบบนี้ เพื่อช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาดค่ะ
สำหรับเคาน์เตอร์ครัว ฟังก์ชันบนเคาน์เตอร์จะมีซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว ด้านล่างมีตู้เก็บของ 1 ตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม 1 ลิ้นชัก พร้อมช่องวางเตาไมโครเวฟ 1 ช่อง
ตู้ด้านบนจะได้เป็นช่องเก็บของแยกไว้ทั้งหมด 4 ช่อง และมีตู้เก็บของเล็กๆอีก 2 ตู้
ติดกับห้องครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ประตูห้องน้ำได้เป็นบาน HDF สีขาว
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา พื้นลดระดับลงไปประมาณ 7 ซม. เข้ามาด้านในห้องน้ำฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ของส่วนแห้งคือจะมีชุดอ่างล้างมือพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่าง มีชั้นวางของพร้อมกระจกเงาให้ 1 ชุด สุขภัณฑ์ทั้งหมดยี่ห้อ American Standard ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ ระยะการใช้งานพอดีๆค่ะ
โซนห้องอาบน้ำจะได้ Shower Box บานประตูแบบบานเลื่อนมือจับก้านยาวจับสะดวก
ธรณีห้องอาบน้ำยกสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.2 x 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆไม่อึดอัดเท่าไหร่ค่ะ
ฝักบัวในห้องอาบน้ำใช้ของ American Standard ขนาดค่อนข้างใหญ่พ ร้อมเดินสายไฟสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย
จากห้องครัวเราจะไปดูส่วนของห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นกันต่อ
โดยพื้นของห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นปูด้วยกับลามิเนต มีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย
มาดูส่วนพื้นที่ทานอาหารกันก่อน พื้นที่ทานอาหารทางโครงการจัดโต๊ะอาหารขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งโดยรวมดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีค่ะ แต่ถ้าใครที่มีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆก็สามารถที่จะเพิ่มเป็นโต๊ะพับออกมาได้อีก 1 ตอน เป็นโต๊ะขนาดประมาณ 4-5 ที่นั่ง เวลาไม่ใช้ก็สามารถพับเก็บให้เป็น 2 ที่นั่งได้จะช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้อีกหน่อยค่ะ
จากพื้นที่ทานอาหารเราไปดูส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นนี้ในห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าตามรูปล่างนะคะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นทางโครงการวางโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่ง มาให้ดูในตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ ไม่สามารถวางใหญ่ได้กว่านี้ไม่งั้นจะอึดอัดและไปกินพื้นที่ของห้องทานอาหาร
ฝั่งตรงข้ามวางเป็นตู้วางทีวีและชั้นวางของ
ระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 42″ – 50″ จะได้ระยะดูทีวีที่สบายตาค่ะ
จากห้องรับแขกเราจะไปดูในส่วนของระเบียงกันต่อ
สำหรับระเบียงของห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าของห้องที่แล้วค่ะ แต่ความกว้างพอกันคือประมาณ 80 ซม. สามารถวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าไว้ที่ระเบียงได้
มีกริลล์บังสายตาจากด้านนอกและติดตั้งดวงไฟติดผนังมาให้ 1 ดวง
กลับเข้ามาในห้อง มองย้อนไปทางประตูทางเข้าค่ะ ทางขวามือที่เราเห็นจะเป็นส่วนของห้องนอน
เราเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อ โดยประตูห้องนอนที่ได้จะได้เป็นบาน HDF สำเร็จรูป สีขาว ลูกบิดกลมมาตรฐาน
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตมีประสบการณ์เรียบร้อย
เข้ามาภายในห้องเราจะเห็นว่ามีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นชุดหน้าต่างบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยหลังจากวางเตียงขนาดควีนไซส์ลงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือได้อีก 1 ตัว ส่วนพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้แต่ถ้าใครที่เปลี่ยนเตรียมเป็นขนาด King Size ก็อาจจะไม่สามารถวางโคมไฟหัวเตียงได้ แต่ยังพอที่จะหาโต๊ะเครื่องแป้งที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่มาวางได้อยู่ค่ะ
สำหรับห้องนอนห้องนี้ก็ยังคงได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in แถมมาอีกเช่นกัน โดยลักษณะตู้จะเหมือนแบบห้องที่แล้วค่ะ คือหน้าบานเป็นกระจกเงา ภายในมีราวแขวน 2 ชั้น และมีช่องเก็บของด้านบนอีก 2 ช่อง
สวิตช์ไฟภายในห้องหน้าตาเรียบๆ แบบนี้ค่ะ
ราคา
สรุป
ทำเลที่ตั้ง : โครงการอยู่บนถนนสุทธิสารระหว่างซอยอินทามระ 22 และ ซอยอินทามระ 24 ช่วงที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับวิภาวดีรังสิต สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคัก มีรถสัญจรผ่านทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะใช้เป็นทางผ่านไปยังถนนหลักได้หลายเส้น มีการสับเปลี่ยนทิศทางจราจรบริเวณหน้าโครงการตามช่วงเวลาเร่งด่วน มุมมองรอบๆค่อนข้างเปิดโล่ง
ความอุดมสมบูรณ์ดดยรอบค่อนข้างสูงมี Tesco Lotus Express และซุ้มอาหารใกล้โครงการ ในระยะที่เดินได้ประมาณ 200-300 เมตร ก็มีร้านอาหารแทรกอยู่ตลอดทาง และมีตลาดสุทธิสารอยู่ในระยะ 210 เมตร ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆจะมี Central ลาดพร้าว และทางพระราม 9 คือ Central พระราม 9
การเดินทางโดยรถยนต์ : เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด แต่มีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น จากถนนสุทธิสารสามารถเชื่อมกับถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทางทั้ง วิภาวดีรังสิต, พหลโยธิน, รัชดาภิเษก และเส้นลาดพร้าว นอกจากนั้นซอยอินทามระยังสามารถใช้เป็นทางลัดหลีกเลี่ยงรถติดได้หลายเส้นทาง มีการจัดช่องทางจราจรเป็นวันเวย์ช่วยเพิ่มความคล่องตัวได้มาก ส่วนทางด่วนออกไปทางวิภาวดีมีโทลล์เวย์ หรือว่าทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางพิเศษศรีรัชอยู่ในรัศมี 5 กม.จากตัวโครงการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ค่อนข้างสะดวก สามารถเรียก Taxi ได้ที่หน้าโครงการเลย นอกจากนั้นก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ทั้งมีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการ มีป้ายในระยะ 100 กว่าเมตร อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือ MRT สุทธิสารตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกห่างจากตัวโครงการ 1.2 กม. โดยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ใกล้ๆโครงการ ค่าบริการ 20 บาทค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : แปลนห้องเป็นรูปแบบหน้าแคบแต่ลึก ทางโครงการจัดสรรพื้นที่ได้ดีแม้ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 29.00 ตร.ม. ก็ไม่รู้สึกอึดอัดตามขนาดห้อง มีพื้นที่ใช้สอยครบในส่วนของการใช้ชีวิตจริง โครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ยี่ห้อ Modernform, สุขภัณฑ์ครบชุด ยี่ห้อ American Standard พร้อม Shower Box และเครื่องปรับอากาศของ Daikin วัสดุที่ได้อยู่ในระดับที่ดีเหมาะสมกับราคา
สิ่งอำนวยความสะดวก : เป็นอีกจุดที่น่าสนใจของโครงการ Fuse MiTi ก่อนอื่นเลยขอพูดถึงห้องที่เป็น Signature ของโครงการคือ MiTi Motion Room ที่อยู่บนชั้น 4 ห้องดังกล่าวแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือห้องเอนกประสงค์ใช้เป็นมุมพักผ่อนหรือพบปะรองรับเพื่อนฝูงก็ได้ ส่วนที่สองคือ MiTi Theatre Room ห้องชมภาพยนตร์ ล็อบบี้สูง Double Volume มีสวนสีเขียวกระจายอยู่ชั้นต่างๆเพิ่มความร่มรื่น และชั้นดาดฟ้าประกอบด้วยสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool และฟิตเนส ขนาดของส่วนกลางถือว่าให้มาเหมาะสมกับจำนวนลูกบ้าน ค่อนไปทางหลวมๆหน่อย ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัวอัตราส่วนอยู่ที่ 1:140 ค่อนข้างเกินมาตรฐานไปหน่อย ได้ที่จอดรถ 40% อาจจะน้อยไปสำหรับโครงการที่เน้นลูกบ้านใช้รถยนต์ส่วนตัว
ระบบรักษาความปลอดภัยมี Key Card Access ที่ซุ้มรปภ., ประตูทางเข้าหลัก และในชั้นที่มี Facility จะต้องแตะ Key Card เพื่อเข้าไปยังส่วนพักอาศัย และส่วนกลางอย่าง Miti Motion Room จะต้องใช้ Key Card เช่นกันค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ติดถนนสุทธิสาร เดินทางสะดวก มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.75 | เดินทางสู่ถนนสายหลักของกรุงเทพได้สะดวก แต่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.5 | มีตัวเลือกหลากหลาย แต่ไกลรถไฟฟ้าไปหน่อย ต้องต่อพี่วิน |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แบบห้องลงตัว วัสดุคุณภาพดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | พื้นที่เยอะ ครบครันและหลากหลาย เหมาะสมกับจำนวนยูนิต |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดย่านสุทธิสาร หรือคนที่ทำงานแถวรัชดา พหลโยธิน เน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัว |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.87 | ดี |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-2772929, 02-2772250, 1739
Website : http://www.pruksa.com
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น