รีวิว คอนโด ไฮด์ สุขุมวิท 13 HYDE SUKHUMVIT 13
สวัสดีค่ะ ผู้อ่าน Condonayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดใหม่พร้อมอยู่ HYDE SUKHUMVIT 13 จาก Grande Asset Hotels and Property Company Limited
เป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 455 ยูนิต เป็นยูนิตแบบ 1-3 Bedrooms , 2 Bedrooms Duplex และ Penthouse ซึ่งตอนนี้เหลือเพียง 11 ยูนิตเท่านั้นนั่นคือ 2 Bedrooms Duplex จำนวน 9 ยูนิต และ Penthouse จำนวน 2 ยูนิต
โครงการมีที่ตั้งอยู่บนในซอยสุขุมวิท 13 ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียง 110 ม.เท่านั้นและยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีนานา ทำให้สะดวกในการเดินทางมากยิ่งขึ้นค่ะ
วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )
ชื่อโครงการ | ไฮด์ สุขุมวิท 13 / HYDE SUKHUMVIT 13 |
เจ้าของโครงการ | แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ / Grande Asset Hotels and Property Company Limited |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | 1 Bedroom / 31.00 – 76.00 ตร.ม. 2 Bedrooms / 72.00 – 116.00 ตร.ม. 2 Bedrooms Duplex / 155.37-218.14 ตร.ม. 3 Bedrooms / 97.00 – 183.00 ตร.ม. 3 Bedrooms Duplex / 240.07-256.05 ตร.ม. Penthouse / 436.55 – 497.00 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2 – 1 – 76.5 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 40 ชั้น |
จำนวนห้อง | 455 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 364 คัน (คิดเป็น 80% ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
โซน | สุขุมวิท, นานา, อโศก |
ขนส่งสาธารณะ | รถไฟฟ้า BTS สถานีนานา 270 ม. |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท13 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนากรุงเทพมหานคร |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ.2557 |
ราคา | เริ่มต้น 48.18 ล้านบาท (เฉพาะยูนิตที่เหลือ) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม. | เริ่มต้น 250,000 บ./ตร.ม. (เฉพาะยูนิตที่เหลือ) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | – BTS สถานีนานา 270 ม. – MRT สถานีอโศก 550 ม. – Villa Market 100 ม. – Robinson 400 ม. – Terminal 21 550 ม. – รพ.บำรุงราษฎร์ 1.2 กม. – รร.วัฒนาวิทยาลัย 1.2 กม. – อาคาร GMM Grammy 1.5 กม. – มศว 1.7 กม. – สาธิต มศว 1.7 กม. – Health Land 1.1 กม. – Central Embassy 1.4 กม. |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สระว่ายน้ำ (ทั้งในร่ม-กลางแจ้ง พร้อมจากุชชี) – ฟิตเนส – รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง – กล้องวงจรปิดรอบโครงการ – ประตู Key Card และลิฟต์ล็อคชั้น – สวนหย่อม – ห้องสมุด – WIFI Internet บริเวณ Lobby – เล้านจ์ – ห้องเด็กเล่น |
จุดเด่นโครงการ | หรูหราใจกลางเมือง เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย ติดถนนสุขุมวิท อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ถึง 2 สถานี(นานา / อโศก) อยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท และอยู่ท่ามกลางศูนย์การค้าและแหล่งธุรกิจที่สำคัญหลายแห่ง |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท13 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
พิกัด google map: 13.740981, 100.557002
โครงการ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 โดยห่างจากปากซอยที่ติดกับถนนสุขุมวิทเพียง 110 ม.เท่านั้นค่ะ อีกทั้งไม่ไกลจาก BTS สถานีนานา ทำให้เดินทางทั้งทางรถยนต์และรถสาธารณะสะดวกมาก โดยรอบมีร้านค้า ร้านอาหาร ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆอย่าง Central Embassy, Robinson และ Terminal 21 ในระยะที่เดินไปได้ ถือว่าเป็นทำเลใจกลางกรุงเทพที่สะดวกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
โครงการ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ใกล้กับถนนเส้นหลักอย่างถนนสุขุมวิท โดยจากที่ตั้งโครงการห่างจากถนนสุขุมวิทเพียง 110 ม.เท่านั้น จึงทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกมากค่ะ แต่เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักและเป็นย่านธุรกิจ ที่มีทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ร้านค้าร้านอาหารดังๆ ห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายแห่ง ทำให้เส้นนี้การจราจรจึงคึกคักพอสมควร และช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะติดมาก ยิ่งตรงแยกอโศกนี่ติดหนักเลยค่ะ เพราะว่าจากแยกอโศกนั้นไปยังปทุมวัน ,สุขุมวิทช่วงปลาย หรือจะไปทางพระราม 9 ก็ได้ จึงทำให้มีรถมาใช้เส้นนี้กันเยอะ
ดังนั้นการขนส่งสาธารณะอย่าง BTS จึงถือว่ามีความสำคัญมากทีเดียว เพราะทำให้สะดวกเวลาไปไหนมาไหน ไม่ต้องไม่ติดบนถนน โดยสถานี BTS ที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีนานา ห่างจากโครงการประมาณ 270 ม. หรือถ้าจะไป MRT ก็ห่างจากสถานีนานาไปยังสถานีอโศกแค่สถานีเดียว หรือจะเดินไปก็ได้ค่ะ ดังนั้นทำเลตรงนี้หลายคนจะมองตรงเรื่องที่ตั้งในตัวเมืองและใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถและมักใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำก็จะสะดวกค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
โครงการ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ตรงข้ามโครงการจะมี Trendy Building ซึ่งด้านล่างจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารค่ะ ถือว่าเป็นร้านค้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด ในซอยสุขุมวิท 13 ก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้า เล็กใหญ่มากมาย หรือจะไปตรงซอยสุขุมวิท 11 จะมี Villa Market
จากแผนที่จะเห็นว่าห้างสรรพสินค้าต่างๆนั้นจะเกาะอยู่เส้นสุขุมวิทค่ะ และไม่ไกลจากโครงการมากมีให้เลือกทั้ง Central Embassy, Robinson และ Terminal 21 ไปได้ด้วยการเดินเท้าหรือจะนั่ง BTS ไปก็สะดวกห่างจากโครงการเพียง 1 สถานีเท่านั้น หรือจะไปยัง Grand 5 ตรงนั้นก็จะมี Food land ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง หรือถ้าอยากชอบอาหารเกาหลีก็มีแหล่งเกาหลีหรือที่เรียกว่า Korean Town อยู่ไม่ไกล มีร้านอาหารเกาหลีให้เลือกมากมาย ทั้งแบบปิ้งย่าง ร้านอาหารคาว อาหารหวาน ร้านขนมปังหรือร้านขายพวกเครื่องปรุงอาหารแห้งก็มีให้ครบค่ะ
โดยรอบโครงการจะเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ๆ โรงแรมและอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนอย่างวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนเซนต์ดอมินิก โรงเรียนสาธิต มศว หรือจะเป็นมหาลัยทั้งมหาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) และถ้าเลยไปทางเขตปทุมวันก็จะมี จุฬาและเตรียมอุดม ส่วนคนที่ชอบออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติก็ไปยังสวนลุมพินีได้ไม่ยากค่ะ
เรามีภาพการเดินทางมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก BTS นานา→ ตรงไปตามถนนสุขุมวิท →เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 13 → ตรงเข้าไปประมาณ 110 เมตรก็จะเจอ โครงการ Hyde สุขุมวิท แล้วค่ะ
เริ่มจากสถานีนานาค่ะ ออกตรงทางออก 3 นะคะ
สถานีนานา โดยรอบจะมีร้านค้า ร้านอาหารตึกแถวตลอดข้างทางค่ะ
เดินตรงไปเรื่อยๆจะผ่านซอยสุขุมวิท 11 ให้ตรงไปนะคะ จะเห็นว่าในซอยนี้ดูคึกคักทีเดียว เพราะในซอยจะมีร้านอาหารมากมายเลย
ตรงมาก็ยังคงมีร้านค้าตามทางเรื่อยๆค่ะ
ผ่านซอยสุขุมวิท 11/1 ให้ตรงไป
เดินมาจะเริ่มเห็นพื้นที่ก่อสร้างซึ่งเป็นส่วนของ Hyatt Regency Sukhumvit ซึ่งเป็นโรงแรมที่ออกแบบมา Concept สอดคล้องกับตัวโครงการ Hyde สุขุมวิท
เดินมาจากสถานีนานาประมาณ 140 ม.ก็จะถึงปากซอยสุขุมวิท 13 แล้วค่ะให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป
ในซอยตรงนี้จะเดินลำบากหน่อยเพราะไม่มีฟุตบาท ดังนั้นเวลาเดินอย่าเหม่อนะคะ ต้องคอยระวังรถที่สัญจรไปมา ด้านขวาจะมีร้านค้า ร้านอาหาร 7-11 ร้านสะดวกซื้อต่างๆ
ตรงเข้าไปประมาณ 110 ม.ก็จะเจอกับโครงการ Hyde สุขุมวิท แล้ว โดยฝั่งตรงข้ามโครงการคือ Trendy Building
รอบๆโครงการ
โครงการ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 โดยห่างจากปากซอยที่ติดกับถนนสุขุมวิทเพียง 110 ม.ในซอยจะมีอาคารร้านค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม ซึ่งตัว Hyde สุขุมวิท ชั้นสูงๆขึ้นไปจะไม่มีอาคารบังวิว ยกเว้นด้านที่ติดกับตัวโรงแรม Hyatt Regency Sukhumvit ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
ตรงข้ามโครงการคือ Trendy Building จะเห็นว่าด้านล่างจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อค่ะ
ด้านขวาตรงไปก็จะเป็นถนนสุขุมวิท นั่นคือทางที่เราเพิ่งเดินมานั่นเอง
ด้านซ้ายจะเป็นภายในซอยสุขุมวิท 13 มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายค่ะ
เดินตรงมาทางนี้จะเป็นทางลัดไปซอยสุขุมวิท 11 หรือซอยนานา
ลัดจากตรงนี้ไปยังซอยสุขุมวิท 11 หรือซอยนานา เพื่อไปยัง Villa market ได้ค่ะ
สถานที่สำคัญ
– BTS สถานีนานา 270 ม.
– MRT สถานีอโศก 550 ม.
– Villa Market 100 ม.
– Trendy Building 8 ม.
– Robinson 400 ม.
– Terminal 21 550 ม.
– Time Square 350 ม.
– Korean Town 270 ม.
– สวนชูวิทย์ 170 ม.
– Nana Plaza 650 ม.
– Grand 5 750 ม.
– รพ.บำรุงราษฎร์ 1.2 กม.
– รร.วัฒนาวิทยาลัย 1.2 กม.
– อาคาร GMM Grammy 1.5 กม.
– มศว 1.7 กม.
– สาธิต มศว 1.7 กม.
– Health Land 1.1 กม.
– Central Embassy 1.4 กม.
– สวนลุมพินี 4.4 กม.
– Villa อโศก 2.2 กม.
– Amarin Plaza 2.0 กม.
– EmQuartier 1.7 กม.
– The Emporium 1.7 กม.
ตัวโครงการ
ตัวอาคารเป็นตัว L โดยด้านหน้าเป็นชั้นจอดรถ ซึ่งจะอยู่ติดกับส่วน Low Rise โดย Low Rise อยู่ติดกับตัว Hyatt ค่ะ อีกด้านของอาคารเป็น High rise ดัโครงการจะมี Lobby สองส่วนค่ะคือแยกระหว่างส่วนงนั้น Low Rise กับ High Rise โดย Lobby A จะเป็นส่วนของ Low Rise และ Lobby B จะเป็นส่วนของ High Rise ทางเข้าตัวอาคารจึงมีสองประตูหลัก แต่ทั้งสอง Lobby นั้นเชื่อมต่อสามารถเดินไปมาหากันได้ค่ะ
ดังนั้นพื้นที่ส่วนพักอาศัยจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว และมีลิฟต์ให้ ทั้งหมด 7 ตัวโดย Low Rise สามารถใช้ได้ทั้ง 7 ตัว แต่ High Rise ที่อยู่สูงขึ้นไปใช้ได้ 4 ตัวในส่วนของ Lobby B ค่ะ ดังนั้นจึงไม่มีห้องไหนเลยที่ต้องเดินไกลเพื่อใช้ลิฟต์ เรียกได้ว่าจัดห้องได้สะดวกต่อการใช้งานค่ะ
ส่วนของอาคารที่เป็น High Rise ออกแบบมาให้มีห้องมุมที่เน้นให้รับวิวด้านนอก เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่งของจำนวนยูนิตต่อชั้นค่ะ ดังนั้นใครชอบมุมไหน วิวส่วนไหนก็สามารถเลือกได้ตามสบาย แต่ห้องมุมที่อยู่ชั้นกลางๆ ด้านที่ติดกับตัวโรงแรม Hyatt นั้นอาจโดนบล็อควิวได้นะคะ ซึ่งน่าเสียดายมากเพราะวิวนั้นจะมองไปเห็นถึงเจ้าพระยาเลยค่ะ แต่ชั้นสูงๆยังคงได้วิวเจ้าพระยาอยู่นะคะ
แบบแปลนที่เห็นจะเป็นของชั้น 37-38 ค่ะซึ่งจะเป็นห้องแบบ Duplex ค่ะ รูปด้านบนคือชั้น 37 ซึ่งเป็นชั้นล่างของยูนิตที่เป็นแบบ Duplex ส่วนรูปด้านล่างคือชั้น 38 ที่เป็นชั้นบนของยูนิตที่เป็นแบบ Duplex นั่นเองค่ะ
สำหรับแบบแปลนข้างต้นนี้จะเป็นของชั้น 39-40 ซึ่งเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ จะเห็นนะคะว่า Penthouse มีเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น โดยทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและพื้นที่ครอบคลุมชั้นทั้งหมดและอยู่บนสุด ดังนั้นห้องทั้ง 3 ห้องจะไม่โดนบล็อควิว จึงได้วิวสวยๆทุกห้องเลยค่ะ
แบบแปลนที่เห็นจะเป็นของชั้น 39-40 ค่ะซึ่งจะเป็นห้องแบบ Penthouse ค่ะ รูปด้านบนคือชั้น 39 ซึ่งเป็นชั้นล่างของยูนิตที่เป็นแบบ Penthouse ส่วนรูปด้านล่างคือชั้น 40 ที่เป็นชั้นบนของยูนิตที่เป็นแบบ Penthouse นั่นเองค่ะ
สำหรับส่วน Facilities จะอยู่บนชั้น 5 ทั้งหมด โดยชั้นนี้จะไม่มีส่วนพักอาศัย ทำให้พื้นที่ Facilities ได้แบบจัดเต็มค่ะ โดยจะมีสระเกลือกว้างยาวตลอดแนวอาคาร ทั้งสระในร่มและมีส่วนกลางแจ้ง มีต้นไม้ปลูกให้ความชุ่มชื่นดูสบายตาตลอดแนวอาคาร พร้อมจุดนั่งเล่น นั่งพักผ่อนหลายมุม
ห้องสันทนาการต่างๆก็มีให้เยอะทั้งห้องเล่นเด็ก(Play room) ห้องสมุด ห้องคาราโอเกะ และฟิตเนสที่มีแยกห้องโยคะให้ด้วยค่ะ ในห้องน้ำก็มีทั้งซาวน่า อบไอน้ำ อ่างจากุชชี่
รางวัลที่ทางโครงการได้รับ
• Winner Thailand Property Awards 2012
– Best Affordable condo Development
• Asia Pacific Property Awards 2013-2014
– Best Residential High Rise Development
– Highly Commended High Rise Architecture Thailand
• Asia Pacific Property Awards 2015-2106
– Best Interior Design Private Residence Thailand
มาดูภาพอาคารจริงกันบ้างนะคะ ภาพนี้เป็นภาพถ่ายมุมสูง จะเห็นดาดฟ้าอาคาร และส่วนก่อสร้างโรงแรมที่กำลังก่อสร้างอยู่
รูปด้านด้านหน้าที่ติดกับซอยสุขุมวิท 13 ค่ะ จะเห็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งด้วยนะคะ
วิวที่ได้จากห้องที่อยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 13 ค่ะ จะเห็น Trendy Building อยู่ตรงหน้าเลยสำหรับชั้นล่างๆ
อีกมุมของอาคารให้เห็นรูปทรงและการออกแบบตัว facade
รูปด้านอาคารทางด้านทิศเหนือ ที่หันไปหาถนนเพชรบุรีค่ะ
วิวที่ได้จากห้องมุมนี้ค่ะ จะหันไปทางถนนเพชรบุรี
อันนี้ด้านหลังอาคาร หันไปทางถนนซอยสุขุมวิท 11 หรือซอยนานา,รถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต
วิวที่ได้สำหรับห้องที่อยู่ด้านนี้ค่ะ จะหันไปทางซอยนาน ถนนวิทยุ เห็นไกลออกไปอีกนิดก็จะเป็นสถานีเพลินจิต
มุมนี้บิดให้เห็นรูปทรงอาคารกันนิดนึงค่ะ
รูปด้านที่หันไปทางถนนสุขุมวิทค่ะ
วิวที่ได้จากห้องที่หันไปทางถนนสุขุมวิทค่ะ ห้องนี้วิวจะดีเพราะจะเห็นสวนเบญจกิติ และมองยาวไปก็จะเห็นไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
ส่วนด้านหน้าโครงการที่จะติดกับโรงแรมที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ
โครงการ Hyde สุขุมวิท และ Hyatt Regency Sukhumvit นั้นเป็นอาคารที่ออกแบบมาให้มี Concept ที่สอดคล้องกันค่ะ โดยตัว Hyde สุขุมวิท จะเป็น His หรือตัวแทนของผู้ชายที่ออกแบบให้รูปลักษณ์อาคารภายนอกมีลักษณะเป็น คล้ายเสื้อเชิ้ตแบบมีปกโค้งเข้า จะเห็นได้ตรงด้านบนสุดของอาคาร ส่วนตัว Hyatt นั้นจะเป็น Her หรือตัวแทนของผู้หญิง ที่มีความอ่อนหวานและลักษณะภายนอกที่มีรายละเอียดมากกว่า ดังนั้นตัวอาคารจะมีลูกเล่นและการทับซ้อนของเส้นสาย หรือ Facade แบบปกคือเสื้อผู้หญิงที่เป็นจีบ มีการโค้งเว้าและรายละเอียดมากว่านั่นเองค่ะ
คราวนี้มาดูอาคารแบบใกล้ๆกันบ้าง ตัวโครงการเป็นอาคาร 40 ชั้นโดยมีส่วนของที่จอดรถยื่นออกมาด้านหน้าอย่างที่เห็น การตกแต่งจะใช้โทนสีเทา ตัวอาคารจะเน้นความเรียบหรู ใช้สีคุมโทนค่ะ มีความร่มรื่นรอบๆโครงการ
ทางเข้าโครงการจะมีต้นไม้ และไม้พุ่มด้านหน้า มี รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง ทางเข้า-ออกจะมีทางนี้ทางเดียวนะคะ
ตรงส่วนอาคารด้านหน้าที่มีโลโก้โครงการจะเป็นอาคารจอดรถ โดยด้านบนสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 13 ค่ะ โดยจะมีป้อม รปภ.อยู่ประจำหน้าโครงการตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับจุด Drop Off หน้า Lobby A ตรงนี้เมื่อ Drop Off เสร็จก็วนออกมาทางออกได้เลยค่ะ และถ้าตรงไปก็จะเป็นทางไปยังที่จอดรถ โดยวนเวียนตรงจุด Drop Off จะมีบ่อน้ำซึ่งด้านบนจะมีการตกแต่งใน Concept เดียวกับตัวโลโก้ของโครงการ
เมื่อตามทางถนนในโครงการเข้ามาหให้เลี้ยวทางซ้าย เข้ามาจะเจอกับทางเข้า Lobby B ทางซ้ายมือค่ะ โดยตรงไปจะเห็นทางขึ้นไปยังที่จอดรถ ตรงนี้จะมี รปภ.ประจำอยู่และมีไม้กระดกกั้นค่ะ
ทางออกจากที่จอดรถค่ะ ตรงไปจะมีไม้กระดกกั้นอยู่
ทางเข้าด้านหน้าจะเป็นทางเข้า Lobby A ค่ะแต่ตรงนี้สามารถทะลุไปยัง Lobby B ได้นะคะ ตระประตูทางเข้าจะมีพนักงานคอยเปิดประตูให้ค่ะ
เข้ามาด้านใน Lobby A จะมีส่วนนั่งรอและเคาน์เตอร์ติดต่อ
มุมนั่งรอ นั่งเล่นมีหลายจุดและหลายรูปแบบค่ะ สามารถนั่งรอเพื่อนด้านล่างหรือรอแท็กซี่มารับก็สะดวก
ด้านซ้ายจะเป็นลิฟต์ส่วนของตึก A ค่ะ ด้านขวาเป็นที่นั่งรอ ถ้าตรงไปจะเป็นทางเชื่อมไปยัง Lobby B
ทางเชื่อมไปยัง Lobby B ค่ะ จะเห็นป้ายของโครงการสำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อสำนักงานขาย สามารถไปยังส่วนของ Lobby B และขึ้นไปยังชั้น 12 ได้เลยค่ะ
ทางเชื่อมระหว่างสอง Lobby จะมีผนังต้นไม้ให้ความชุ่มชื่นค่ะ และจะมีอ่างน้ำล้นแนวยาวตลอดซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำทำให้รู้สึกชุ่มชื่นและเย็นค่ะ
เข้ามาภายในส่วนของ Lobby B จะมีทั่งนั่งรอทั้งแบบโซฟาและแบบนั่งโต๊ะ
ด้านซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์ติดต่อ และลิฟต์โดยสารค่ะ ตรงไปจะเป็นทางออกไปยังด้านนอกส่วนทางขึ้นที่จอดรถ
ข้างเคาน์เตอร์จะมี Mail room ด้านข้างตรงประตูจะมี Intercom เวลาแขกมาติดต่อลูกบ้านก็สามารถติดต่อจากตรงนี้ให้กดลิฟต์เพื่อขึ้นไปหาลูกบ้านได้ ตรงนี้จะสะดวกมากเลยค่ะ
โถงทางเดินภายในอาคารจะปูด้วยแกรนิตโต้สีขาว ทางเดินจะมีหล้องวงจรปิด และสปริงเกอร์
ชั้น 12 ถ้าขึ้นมาจะเห็นป้ายสำนักงานขายตั้งอยู่ค่ะ สามารถเข้าไปติดต่อได้เลย แต่ละชั้นจะทีเลขบอกชั้นและมีผังอาคารของแต่ละชั้นบอกไว้ค่ะ
สำหรับชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดค่ะ วันนี้ทีมงานก็จะพาไปชมกันทุกมุมเลยนะคะ
เริ่มจาก เมื่อออกมาจากลิฟต์ โซนด้านหน้าอาคารจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำค่ะ สระจะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 13 มีทั้งแบบสระในร่มและกลางแจ้ง มีที่นั่งริมสระมากมายหลายมุม
มุมนี้จะเป็นสระเด็กค่ะ โดยจะแยกชัดเจนจากสระผู้ใหญ่ทำให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของเด็กได้ง่าย การตกแต่งจะใช้ระแนงไม้ เข้าชุดกับเก้าอี้ริมสระค่ะ เป็นสีที่สบายตาเหมาะกับการมานั่งพักผ่อน
มุมโซฟานั่งพักผ่อนค่ะ มุมนี้จะได้วิวสระและรับลมเย็นๆ
สระผู้ใหญ่จะเป็นระยาวตลอดแนวค่ะ ขนาดไม่กว้างมากแต่ยาว ทำให้ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ มีที่นั่งเล่นแช่น้ำตรงริมๆ
ริมสระก็จะมีเก้าอี้และที่นั่ง Day bed ให้นั่งพักผ่อน
ถ้าตรงมาเรื่อยๆก็จะเป็นส่วนของสระกลางแจ้ง มุมนี้สำหรับสาวๆหนุ่มๆที่ชอบผิวแทนสวยๆคงถูกใจ เพราะมีเก้าอี้ริมสระให้นั่งเล่นค่ะ แต่สำหรับมุมนี้ถ้าบ่ายๆเย็นๆ ก็ไม่มีแดดแล้วใครที่ชอบว่ายร่มๆก็มาว่ายช่วงบ่าย 3 เป็นต้นไปก็ได้เลยค่ะ
หันกลับไปจะเป็นเลยว่าสระยาวเชื่อมต่อกันมาเลยนะคะ และริมสระฝั่งที่ติดกับด้านนอกจะมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น และทำให้ดูชุ่มชื่นสบายตา
ที่นั่งริมสระมีทั้งแบบเป็นเก้าอี้ ที่นอนริมสระแบบนี้ค่ะ
สระวนยาวมาจนถึงอีกฝั่งค่ะ มุมนี้ก็กึ่งในร่ม กึ่งแดด ช่วงเย็นๆมุมนี้จะมีแดดส่องเข้ามาทำให้คนที่ชอบอาบแดดมากระจุกตัวอยู่ตรงนี้ แถมมุมนี้จะไพรเวทกว่านิดนึงเพราะไม่ใช่ทางเดินผ่านไปมาค่ะ
ระหว่างสระกับลิฟต์จะมีทางเดินตลอดเป็นแนวยาวแบบนี้เลยค่ะ
โดยอีกฝั่งจะเป็นส่วนของห้องสันทนาการต่างๆ
จะเป็นทางเดินยาวแบบนี้และห้องต่างๆจะอยู่ทางขวามือค่ะ
ห้องแรกนี้คือห้อง Sky Reception และห้อง Karaoke ด้านในค่ะ ซึ่งห้องนี้จะมีทางเชื่อมต่อกับห้องสมุดข้างๆ
ห้องสมุดค่ะ จะมีชั้นหนังสือและมุมนั่งเล่น มีชุดโฟซาสำหรับนั่งอ่านหนังสือสบาย ๆ หรือจะเป็นโต๊ะทำงานที่เอาไว้นั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือเปลี่ยนบรรยากาศ จะได้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องตัวเองค่ะ
ห้องน้ำแยกชาย หญิง โดยภายในจะมี Locker ,Jacuzzi ,ห้องซาวน่าและห้องอบไอน้ำ
ภายในห้องน้ำหญิงค่ะ ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม
Jacuzzi ตรงนี้ลูกบ้านสามารถใช้บริการได้ค่ะ
ห้องซาวน่า ห้องอบไอน้ำและห้องอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำชายค่ะ ก็จะมีทั้ง Locker, Jacuzzi ,ห้องซาวน่าและห้องอบไอน้ำเช่นเดียวกัน การตกแต่งจะเหมือนกันกับห้องน้ำหญิงเลย
ถัดมาจะเป็น Play room หรือห้องเด็กค่ะ ห้องนี้พื้นจะปูยาง เหมาะสำหรับเด็กเพราะเวลาล้มหรือเล่นจะได้ไม่เจ็บ และยังมีของเล่นเด็กด้านในด้วยค่ะ
ห้องโยคะ ห้องนี้เย็นๆจะได้บรรยากาศแบบนี้เพราะแดดส่องเข้ามาแต่มีต้นไม้บัง ทำให้ดูสบายตาเหมาะสำหรับการมาโยคะมาก
ด้านตรงข้ามกับสระหลักจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องเล่นหลากหลายครบครันเลยทีเดียว วิวที่ได้จะเป็นอาคารฝั่งซอยนานาค่ะ แต่มีต้นไม้ของโครงการปลูกตลอดแนวเพิ่มความร่มรื่น
มีจักรยาน 2 เครื่อง
มีเครื่องเล่นบอดี้เวทแบบนี้ 2 เครื่อง
ด้านนี้จะเป็นเครื่องเล่นชุดใหญ่ค่ะ
ลู่วิ่ง 3 เครื่อง
เครื่องวิ่งวงรี 2 เครื่อง
และเครื่องออกกำลังกาย ชุมดัมเบลชุดใหญ่ เครื่องเล่นเวทต่างๆมีให้แบบนี้
แบบห้อง
ตอนนี้ห้องในโครงการมีเหลือเพียง 11 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ส่วนวันนี้ทางทีมงานจะพาไปชมทั้งหมด 4 ยูนิตด้วยกัน คือ
– 2+1 Bedrooms Duplex Type DP4 ขนาด 179.78 ตร.ม.
– 2 Bedrooms Duplex Type DP1 ขนาด 188.94 ตร.ม.
– 2+1 Bedrooms Duplex Type DP6 ขนาด 216.86 ตร.ม.
– Penthouse 3 Bedrooms ขนาด 491.7 ตร.ม.
ทางโครงการมีห้องขายทั้งแบบ Fully Furnished และ Fully Fitted โดยแต่ละห้องอาจมีรูปแบบแปลนและการตกแต่งที่ต่างกันไป สำหรับห้องที่โครงการตกแต่งพร้อมอยู่ก็จะขายแบบ Fully Furnished คือได้ทุกอย่างที่เห็นในห้องค่ะ ส่วนใครที่ชอบตกแต่งห้องเองก็สามารถเลือกซื้อห้องที่โครงการขายแบบ Fully Fitted ได้
วันนี้ห้องแรกที่จะพาไปดูคือห้องแบบ 2+1 Bedrooms Duplex Type DP4 ขายแบบ Fully Furnished & Decorations items & Audio Vision หรือง่ายๆคือที่เห็นทุกอย่างในห้องนั้นได้หมดเลยค่ะ ห้องอยู่ในตำแหน่งห้องมุม ดังนั้นห้องนี้จะได้วิวโดยรอบและเป็นห้องที่ได้แสงธรรมชาติในทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน
เมื่อเข้าไปจะเจอกับส่วนครัวที่เป็นครัวเปิด มีเคาน์เตอร์ให้พร้อม ส่วนทานอาหารอยู่ติดกับระเบียงและส่วนนั่งเล่น ตรงนี้จะเห็นว่าฝ้าเพดานนั้นเป็นแบบ Double Height floor ทำให้ห้องนั่งเล่นดูโปร่งและดูหรูหรามากขึ้นค่ะ ชั้นล่างจะมีห้องนอนเล็ก 1 ห้อง เมื่อขึ้นชั้นบนจะมี 2 ห้องนอนด้วยกัน
ห้องแบบ 2 Bedrooms Duplex หมายเลขห้องจะเป็นป้าย Gold Brass มีการทำลายตัวเลขลึกลมไป ด้านล่างมีกริ่ง บานประตูเป็นไม้สีเข้ม ขนาดใหญ่สามารถเปิดได้กว้าง
ตรงประตูมี Digital Door Lock ของ Yale ค่ะ (ภาพนี้เอามาจากห้อง Penthouse นะคะดังนั้นตรงประตูอาจดูไม่เหมือนแต่ตัวเครื่องได้แบบเดียวกันค่ะ)
ตรงประตูมี Digital Door Lock ของ Yale ค่ะ ด้านในห้องค่ะ
เปิดเข้ามาในห้อง ห้องนี้จะตกแต่งแบบมีกลิ่นอายความเป็นเอเชียค่ะ จะเห็นได้จากเฟอร์นิเจอร์ โทนสีที่ใช้และลวดลายของวัสดุต่างๆ โดยจะตกแต่งโทนสีน้ำตาลเข้ม พื้นเป็นแกรนิตโต้ลายหิน ซึ่งห้องนี้การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นจะได้ทุกอย่างตามนี้เลยนะคะ
ผนังห้องจะเป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม ข้างประตูจะมี Intercom เวลาแขก call จากด้านล่างก็จะสามารถรู้ว่าใครมาติดต่อและกดลิฟต์ให้ได้จากตรงนี้เลยค่ะ ส่วนด้านล่างเป็นสวิตช์ไฟ
เมื่อเข้ามาตรงทางเดิน ด้านขวามือจะเป็นห้องเก็บของ ประตูเป็นไม้โทนสีเดียวกับประตูห้อง
เข้ามาแล้วหันกลับไปทางประตูห้องค่ะ จะเห็นห้องเก็บของทางซ้ายมือ
ภายในห้องเก็บของตรงนี้จะเป็นห้องที่ไว้วางเครื่องซักผ้าด้วยค่ะ แล้วจะมีห้องเล็กๆด้านในซ้อนอีกทีเป็นห้องเก็บของ พื้นปูด้วยแกรนิตโต้สีขาว ผนังเรียบฉาบปูนทาสี
เมื่อเดินเข้ามาอีกหน่อยส่วนแรกที่เจอคือห้องครัวค่ะ ครัวห้องนี้เป็นครัวเปิด เคาน์เตอร์ยาวเป็นตัว L พื้นที่เคาน์เตอร์เยอะ ด้านล่างเคาน์เตอร์จะเป็นช่องเก็บของค่ะ ใส่ได้เยอะเลย หน้าบานตู้จะเป็น หนาบาน Hi Gloss สีครีมอ่อนๆ และบานตู้ทุกบานจะเป็น Soft Close
ส่วนครัวจะหน้าตาแบบนี้ค่ะ ด้านบนมีไฟ Led ส่องสว่างและมีเก้าอี้แบบเคาน์เตอร์ให้นั่ง Top เคาน์เตอร์จะเห็นหินสังเคราะห์นะคะ
ที่เห็นทั้งหมดนี้ลูกบ้านที่ซื้อห้องนี้ได้หมดเลยนะคะ ระยะห่างจากเคาน์เตอร์กับตู้ด้านหลังมีระยะห่างเยอะค่ะ สามารถใช้งานได้สะดวก ก้มเอาของด้านล่างก็สะดวก
ด้านหลังเคาน์เตอร์จะเป็นตำแหน่งของตู้เย็น ตู็เก็บไวน์ เตาอบ ไมโครเวฟ และชั้นเก็บของต่างๆค่ะ
ภายในตู้เย็นและชั้นต่างๆ จะเห็นชั้นแคบๆแต่เป็นแนวยาว ทางโครงการทำเป็นชั้นแบบเลื่อนทำให้เก็บของได้เยอะและใช้สอยได้ง่ายค่ะ
Top เคาน์เตอร์จะเห็นหินสังเคราะห์ ทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L มีอ่างล่างจานให้ 2 อ่างด้านซ้ายจะมีเตาพร้อมที่ดูดควันเครื่องใหญ่ให้ พื้นที่เคาน์เตอร์เมื่อวางเตาและอ่างเหลือให้ใช้งานได้เยอะค่ะ
ด้านล่างตู้จะเก็บของได้เยอะ ทุกพื้นที่สามารถเปิดใช้งานได้เรียกได้ว่าทุกพื้นที่ใช้ได้คุ้มค่าสุดๆค่ะ
ตรงนี้จะเป็นช่องลึกเข้าไปเพราะเป็นส่วนต่อของเคาน์เตอร์ตัว L ใช่ไหมคะ ดังนั้นโครงการออกแบบให้เป็นชั้นวางของที่สามารถดึงออกมาได้ ดังนั้นพื้นที่จะไม่สุญเปล่าเลย
เตาไฟฟ้า 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันเครื่องใหญ่
เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเก้าอี้นั่ง ซึ่งเก้าอี้ตรงนี้ได้ไปด้วยนะคะ
ถัดจากครัวจะเป็นส่วนโต๊ะทานอาหารและห้องนั่งเล่นค่ะ จะเป็นพื้นที่ติดกับครัวโดยพื้นปูด้วยวัสดุเดียวกันต่อเนื่องมาเลย
ส่วนทานอาหารจะมีแผงกั้นแบบนี้ สามารถเลื่อนเปิดและปิดได้ เป็นแบบบานเลื่อนสีทองฉลุลาย
เมื่อปิดก็จะไม่ปิดทึบแต่ทำให้เป็นสัดส่วนแบบนี้ค่ะ ลวดลายไม่ไม่ใช่ลายเดียวทั้งแผง แต่มีความหลากหลายของลวดลายเพื่อให้เกิดความสวยงาม
ภายในสามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 8-10 ที่นั่งได้สบายๆเลยค่ะ โต๊ะชุดนี้โครงการมีให้นะคะ
วิวที่มุมทานอาหารจะได้ ด้านบนจะมีโคมไฟให้แบบนี้เลยค่ะ
ข้างมุมทานอาหารจะเป็นส่วนระเบียงห้อง โดยผนังส่วนนี้จะเป็นกระจกสูงถึงฝ้าเพดานเลยค่ะ
วิวที่ได้จะได้วิวเต็มๆแบบนี้เพราะราวกันตกเป็นราวแบบกระจกค่ะ
ระยะห่างระหว่างส่วนทานอาหารและส่วนครัวค่ะ
ส่วนติดกันนั้นะจะเป็นส่วนนั่งเล่นค่ะ พื้นที่สามารถวางโซฟาชุดแบบนี้ได้ สำหรับ 3-4 ที่นั่งค่ะพอดีสำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน แต่อาจเล็กไปหน่อยถ้ามีแขกมาที่บ้านค่ะ
ตรงนี้หน้าต่างจะเป็นกระจกยาวจนถึงฝ้าเพดานด้านบนเลย จึงมีม่านที่เป็นระบบเปิด-ปิดด้วยรีโมทค่ะ สะดวกมากๆเลยค่ะ ม่านที่เห็นเป็นลายฉลุนี้จะเป็นหนังวัวแท้นะคะ
มุมโซฟาพร้อมโต๊ะกาแฟหน้าโซฟาค่ะ ตรงข้ามจะเป็นที่วางทีวี สำหรับคนที่มีแขกมาเยอะ อยากเปลี่ยนโซฟาเป็นตัว L ให้ใหญ่กว่านี้ก็ทำได้ค่ะ แต่โต๊ะกาแฟคงต้องเล็กลงหน่อยเพื่อให้เดินผ่านได้สะดวก
มุมส่วนนั่งเล่นจะมีการตกแต่งด้วยไม้และสีทองค่ะ ชั้นวางของยาวตลอดแนวริมหน้าตางกระจกมุมนี้
และส่วนนี้ฝ้าจะเป็นแบบ Double Height คือสูงไปจนถึงระดับฝ้าเดียวกับชั้น 2 ค่ะ
อีกด้านจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ด้านข้างบันไดจะเป็นห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ค่ะ
ห้องน้ำประตูเป็นสีทองแบบเดียวกับผนังตกแต่งด้านนี้ค่ะ ห้องที่เห็นเปิดอยู่จะเป็นห้องอเนกประสงค์
สวิตซ์ไฟในส่วนของห้องนั่งเล่น ครัวและพื้นที่ด้านนอกจะเป็นแบบนี้นะคะ
พื้นภายในห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นด้านนอกเล็กน้อย พื้นเป็นวัสดุแบบเดียวกันค่ะ
ภายในห้องจะสว่างเพราะผนังที่ติดกับภายนอกจะเป็นกระจกทั้งแถบแบบนี้ค่ะ ดังนั้นต้องมีมู่ลี่เพื่อไม่ให้ดู Sexy เกินไปนะคะ
ภายในห้องน้ำผนังจะเป็นลายเดียวกับพื้นเลยค่ะ เหนืออ่างล้างหน้าจะมีกระจกเงาใบใหญ่ให้นะคะ
อ่างล้างหน้าของ Kohler พร้อมปลั๊กไฟที่มีฝาครอบเพื่อความปลอดภัย ตรงอ่างจะมีพื้นที่ให้วางของได้เล็กน้อยค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler เช่นกันค่ะ ตัวกดโถก็ดีไซน์แปลกตาเชียวค่ะ
ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์จะเป็นส่วนอาบน้ำซึ่งเป็น Shower box ให้ค่ะ โดยจะมีขอบขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งการมีส่วนอาบน้ำตรงนี้ก็จะสะดวกเพราะถ้าทำห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนเล็ก หรือห้องนอนแขก ก็สามารถทำได้เพราะมีห้องอาบน้ำตรงนี้ค่ะ
ฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Hansgrohe มีช่องเล็กๆด้านข้างให้วางของด้วยค่ะ
ห้องสุดท้ายของชั้นนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือหรือจะเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ค่ะ
มือจับเป็นคันโยกแบบนี้ของ OLIVARI ค่ะ
สวิตซ์ไฟในห้องจะเป็นแบบนี้นะคะ ซึ่งผนังในห้องนี้จะเห็นว่าฉาบเรียบทาสีธรรมดานะคะ
ภายในห้องที่ได้จะทำเป็นห้องพักผ่อนค่ะ มีตู้เก็บของให้พร้อมมีทีวีอยู่ในตู้เก็บของ และมีโซฟาชุดเล็กให้ค่ะ ห้องนี้ถ้าจะทำเป็นห้องนอนสามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ค่ะ แต่ถ้าวาง 5 ฟุตจะไม่มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเล็กๆหัวเตียงนะคะ
ระยะห่างระหว่างโซฟากับตู้เก็บของ สามารถวางโต๊ะกาแฟแบบนี้ได้ค่ะ
วิวที่ได้จากมุมนี้ค่ะ หน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องนี้สว่าง มีช่องเปิดตรงกลางหนึ่งช่องโดยเป็นบานกระทุ้งค่ะ
คราวนี้เราขึ้นไปดูชั้นบนกันบ้างนะคะ ราวกันตกจะเป็นกระจก ทำให้ส่วนนี้ดูไม่ทึบค่ะ ส่วนราวกันตกนั้นจะอยู่ฝั่งติดผนัง
ขั้นบันไดจะเป็นหินอ่อนทำลวดลายแบบนี้ค่ะ ทำให้ขั้นบันไดดูมีมิติ ไม่ทึบตัน
บันไดจะเป็นตัว U ค่ะชานพักเป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้าทำให้เดินใช้งานได้สะดวก
ขึ้นมาด้านบนจะมีห้องนอน 2 ห้องค่ะ ด้านหน้าคือ Master bedroom ด้านขวาเป็นห้องนอนเล็ก ผนังห้องห้องยังคงเป็นวัสดุเดียวกับชั้นล่าง
พื้นชั้นนี้จะปูด้วย Engineering Wood นะคะ ห้องแรกที่จะพาไปชมก็คือ Master bedroom
ภายในห้องนี้จะกว้างขวางมากค่ะ ห้องตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม แต่จะมีผนังที่ติดกับภายนอกจะเป็นหน้าต่างกระจกทั้งหมดทำให้ห้องนี้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาค่ะ
เตียงสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง และโต๊ะหัวเตียงโครงการมีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ทั้งสองด้านเลยค่ะ
ผนังหัวเตียงและฝ้าจะเห็นว่าเป็นวัสดุเดียวกันคือหนังโทนสีน้ำตาลแดงเข้มๆค่ะ
โดยห้องนี้จะได้วิวเต็มๆแบบนี้เลยค่ะ
ปลายเตียงติดตั้งทีวีแบบแขวนและมีชั้นวางของให้ค่ะ มุมนี้ก็จะมีโซฟาเล็กๆให้นั่งพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือได้ค่ะ
ข้างเตียงด้านนี้จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็ได้
ด้านนี้ของห้องจะเป็นส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ
โดยห้องนี้ส่วนแต่งตัวจะทำเป็น Walk in closet นะคะ ดังนั้นใครที่ชอบแต่งตัวหรือเสื้อผ้าเยอะคงถูกใจกันมากเลยทีเดียว ด้านบนไฟนั้นจะเป็นลายฉลุตกแต่งให้ห้องดูมีลวดลาย
ตู้เสื้อผ้าด้านขวาค่ะ ด้านในจะมีไฟ Led ติดตั้งให้
ตู้เสื้อผ้าด้านซ้ายค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ จะมีทั้งอ่างอาบน้ำและส่วนที่เป็น Shower box นะคะ ภายในจะเป็นแกรนิตโต้
ไฟในห้องน้ำจะเป็นการตกแต่งแบบเดียวกับห้องแต่งตัวนะคะ
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler ค่ะ
อ่างล้างหน้าของ Kohler มีกระจกเงาติดตั้งให้ด้านบนค่ะ ด้านข้างอ่างมีพื้นที่ให้วางของได้เยอะเลย
Shower box ค่ะ ห้องนี้จะมี Rain Shower แบบฝังอยู่ในฝ้าด้านบนเลยค่ะ
ข้างกันนั้นก็จะเป็นอ่างอาบน้ำ
ออกมาจาก Master bedroom จะเป็นโถงทางเดินไปยังห้องนอนเล็กค่ะ
มุมที่มองลงมาจากชั้น 2 ค่ะ จะมองลงไปเห็นยังส่วนนั่งเล่น
และชั้นนี้จะอยู่ระดับเดียวกับ Chandelier ที่แขวนอยู่เหนือส่วนนั่งเล่นค่ะ
ห้องนอนเล็กประตูเป็นประตูไม้ค่ะ ด้านหน้ามีเก้าอี้แขวนนั่งเล่นให้ค่ะ
ภายในห้องนี้ผนังจะแต่งเป็นโทนสีน้ำตาลทอง ทางเดินในห้องจะไฟ และกระจกเงาเล็กๆประดับยาวตามแนวทางเดินค่ะ ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำค่ะ ตรงไปจะเป็นส่วนที่นอน
ภายในห้องน้ำห้องนี้จะเป็นแกรนิตโต้สีขาวค่ะ ทำให้ห้องดูสว่างและสะอาด ด้านบนฝ้าจะเป็นลวดลายประดับเพื่อให้ห้องน้ำดูไม่เรียบขาวจนเกินไปค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นด้านนอกเล็กน้อย
ด้านซ้ายเมื่อเข้ามาจะเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ของ Kohler ค่ะ
อ่างล้างหน้าของ Kohler พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ด้านบน มีไฟส่องสว่างให้ข้างกระจกค่ะ
ส่วนอาบน้ำก็จะเป็น Shower box ให้ทำให้แยกส่วนแห้งและเปียกได้ชัดเจนค่ะ พื้นภายในจะมีขอบปูนขึ้นมา
ฝักบัวพร้อม Rain Shower ของ Hansgrohe มีช่องเล็กๆด้านข้างให้วางของด้วยค่ะ
ออกมาจากห้องน้ำจะเป็นส่วนที่นอนค่ะ
เตียงสามารถวางขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ หัวเตียงและฝ้าจะออกแบบให้ดูเชื่อมต่อกันเป็นไม้โทนสีเข้ม และห้องนี้ก็จะสว่างเพราะมีหน้าต่างกระจกฝั่งหนึ่งของผนังเลยค่ะ
วิวของห้องนี้ที่จะได้นะคะ
ระยะขอบเตียงที่เหลือ ตรงนี้สามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะมีชั้นวางของเล็กๆให้ค่ะ
ตรงนี้ก็วางโต๊ะหัวเตียงเล็กได้
ปลายเตียงเห็นเป็นช่องติดตั้งทีวีแบบแขวน และมุมนี้จริงๆแล้วจะเป็นตู้เสื้อผ้าด้วยนะคะ
ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของภายในที่จะได้ สามารถเก็บได้พอสมควรเลยค่ะ แต่ระยะห่างจากเตียงจะน้อยทำให้หยิบของที่อยู่ด้านล่างๆตู้จะยากหน่อย
ห้องต่อไปที่จะพาไปดูเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms Duplex ซึ่งจะตกแต่งอีกสไตล์ค่ะ อย่างที่บอกข้างต้นว่าแต่ละห้องมีการตกแต่งต่างกัน รูปแบบแปลนห้องต่างกัน ราคาห้องก็จะต่างกันด้วยนะคะ สำหรับห้องนี้จะตกแต่งแบบ Modern classic style เน้นโทนสีเรียบ และสว่างค่ะ ห้องนี้เนื่องจากเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนจึงมีพื้นที่ส่วนนั่งเล่นที่กว้างกว่าค่ะ
เข้ามาภายในห้องนี้พื้นชั้นล่างจะปูด้วย Engineering Wood ห้องนี้จะตกแต่งด้วยสีที่สว่างกว่า ใช้ทีโทนขาวและครีม ประตูเป็นไม้สีเข้มแบบเดียวกัน ภายในห้องจะดูโปร่ง ห้องนั่งเล่นและส่วนทานอาหารจะอยู่เชื่อมกันแบบนี้และเป็นส่วนที่ได้รับวิวเต็มๆเลยค่ะ
ส่วนทานอาหารสามารถวางโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งหรือจะวางตัวใหญ่กว่านี้ก็สามารถทำได้ค่ะ ด้านบนจะมี Chandelier และส่วนนี้จะเป็น Double Height คือฝ้าจะอยู่ในระดับเดียวกับฝ้าเพดานชั้น 2 ค่ะ ทำให้ส่วนนี้ดูโปร่ง ส่วนทานอาหารนี้จะอยุ่ติดกับระเบียงห้องนะคะ
ติดกันนั้นจะเป็นส่วนนั่งเล่น ห้องนี้ส่วนนั่งเล่นจะกว้างกว่าเพราะห้องนี้ไม่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างค่ะ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจึงกว้างขวาง สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้สบายๆ และจะเป็นมุมที่ได้วิวทั้งสองด้านของอาคารเพราะเป็นห้องมุม
อีกมุมของส่วนนั่งเล่นค่ะ วางโซฟาสำหรับ 6-7 ที่นั่งได้สบายๆ มีพื้นที่ให้วางโต๊ะกาแฟด้วยค่ะ
อีกด้านของห้องที่ติดกับประตูทางเข้าจะเป็นส่วนครัว จะเห็นนะคะว่าพื้นครัวนั้นปูด้วยวัสดุคนละแบบ ซึ่งจะปูด้วยแกรนิตโต้เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
เคาน์เตอร์และเครื่องครัวจะได้ทุกอย่างตามนี้ค่ะ มีตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้แช่ไวน์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน
ด้านข้างห้องครัวจะเป็นพื้นที่เปล่าตรงนี้ให้วางเครื่องซักผ้าค่ะ และด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำค่ะ สุขภัณฑ์จะเป็นของ Kohler ห้องนี้ไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ
ข้างบันไดขึ้นชั้นบนประตูห้องข้างๆคือประตูห้องเก็บของค่ะ บันไดยังคงเป็นหินอ่อนเช่นกัน
ขึ้นมาด้านบนพื้นชั้นนี้จะเป็น Engineering Wood นะคะ ชั้นนี้จะเป็นห้องนอน 2 ห้อง ด้านซ้ายคือ Master Bedroom ตรงไปสุดทางเดินเป็นห้องนอนเล็กค่ะ
วิวที่ก้มลงมาดูจากโถงทางเดินชั้น 2
ภายในห้องนอนเล็ก ห้องนี้ห้องนอนเล็กจะกว้างกว่าห้องเมื่อกี้เยอะพอสมควรเลยค่ะ วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆและมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงาน หรือจะวางโซฟาเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัวก็ได้ ปลายเตียงก็จะมีชั้นวางทีวีให้
ด้านซ้ายของเตียงจะเป็นห้องเข้าไป ซึ่งเป็นโซนห้องแต่งตัวและห้องน้ำค่ะ ประตูที่เห็นตรงหน้าคือประตูที่เปิดออกไปภายนอกเวลาฉุกเฉินนะคะ ตรงนี้จะเป็นส่วนแต่ตัวแบบ Walk in closet
ภายในห้องน้ำค่ะ แต่ด้วยกระเบื้องโทนสีขาวทำให้ห้องดูสว่าง มี Shower box แยกส่วนเปียกและแห้งชัดเจน
ภายใน Master bedroom ห้องนี้จะเล็กกว่าห้อง Master bedroom แรกที่เราพาไปชมนะคะ แต่ว่าพื้นที่ก็กว้างให้สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ ปลายเตียงก็จะมีชั้นวางทีวีให้
วิวที่ได้จากห้องนี้ำค่ะ
มุมวางเตียง พื้นที่ข้างเตียงก็เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงตัวใหญ่ได้ทั้งสองฝั่งเลย
เข้ามาในส่วนแต่งตัว ด้านซ้ายจะเป็นประตูห้องน้ำนะคะ
ห้องนี้ตู้เสื้อผ้าไม่ใหญ่เหมือนห้องที่แล้ว แต่ก็สามารถใช้สอยได้เพียงพอ ถ้าไม่พอก็สามารถต่อเติมตู้ไว้ด้านนอกตรงส่วนห้องนอนได้เพราะมีพื้นที่เหลือค่ะ
ภายในห้องน้ำนะคะ ห้องนี้จะมีทั้งส่วนที่เป็น Shower และอ่างอาบน้ำ และมีกระจกบานใหญ่เผื่อนอนแช่ในอ่างแล้วดูวิวด้านนอกพักสายตาค่ะ
ห้องต่อไปที่พาไปชมก็ยังเป็นห้อง 2 Bedrooms Duplex แต่ตกแต่งด้วย Contemporary style ซึ่งห้องนี้พื้นที่ใหญ่ขึ้นมาทำให้มีพื้นที่ตรงห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารที่กว้างค่ะ ส่วนครัวก็กว้างกว่าห้องเมื่อกี้และยังมีพื้นที่อเนกประสงค์เหลือสามารถทำเป็นมุมทำงานได้
** ห้องนี้ยังเก็บรายละเอียดอยู่นะคะ ดังนั้นอาจมีบางมุมที่ยังมีรอยฝุ่นหรือ พลาสติกติดกับตัวเฟอร์นิเจอร์อยู่ค่ะ แต่ทางทีมงานอยากให้มาชมการตกแต่งอีกสไตล์ที่หลายๆคนอาจจะชอบ
เข้ามาในห้อง พื้นห้องเป็น Engineering Wood ตกแตงห้องด้วยโทนสีขาว น้ำตาลค่ะ เข้ามาจะเห็นแทบทุกส่วนของห้องชั้นนี้ ด้านซ้ายเป็นครัว
ครัวที่ได้เคาน์เตอร์เป็นตัว L เครื่องครัวจะได้ทุกอย่างตามนี้ค่ะ มีตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้แช่ไวน์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน
ถัดไปนั้นจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและส่วนทานอาหาร ส่วนนั่งเล่นสามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้ โต๊ะทานอาหารวางขนาด 6-8 คนได้ค่ะ ติดกันนั้นจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง
บันไดเป็นตัว L ข้างบันไดจะเป็นมุมทำงานค่ะ สามารถวางเก้าอี้ทำงาน ได้ประมาณ 2 ที่นั่ง
ขึ้นมาจะเจอกับห้องนอนเล็กค่ะ ห้องนี้แม้จะไม่ใช่ Master bedroom แต่ขนาดห้องไม่น้อยเลยทีเดียว เตียงสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้ พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีได้ และในห้องยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานค่ะ
วิวที่ได้จากห้องนี้ค่ะ
ห้องนี้ส่วนแต่งตัวก็จะเป็น Walk in closet นะคะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนแต่งตัวและประตูห้องน้ำ
ห้องน้ำภายในค่ะ แต่งด้วยโทนสีครีม ทำให้ห้องดูสบายตา มี shower box แยกส่วนแห้งและเปียกชัดเจน
คราวนี้มาดู Master bedroom กันบ้างนะคะ ห้องนี้กว้าง วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ปลายเตียงวางโต๊ะวางทีวีได้ค่ะ หัวเตียงก็มีพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียง ตรงข้ามโต๊ะเครื่องแป้งก็สามารถวางโต๊ะทำงานเพิ่มได้นะคะ
และคุณผู้หญิงทั้งหลายคงชอบมากเพราะมีชั้นวางตรงโต๊ะเครื่องแป้งให้แบบไม่กั๊ก เครื่องสำอางค์ที่สะสมไว้ได้วางให้ดูครบทุกชั้นแน่นอนค่ะ ติดกันนั้นก็จะเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำ
ภายในห้องแต่งตัวค่ะ จะเป็นแบบ Walk in closet ค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ ห้องนี้อ่างล้างหน้าได้เป็นแบบ His&Her ไม่ต้องแย่งกันใช้งานในตอนเช้า ตรงกระจกก็เปิดเป็นชั้นเก็บของได้ ดังนั้นแยกอ่างได้เลยว่าใครใช้อันไหน
ในห้องมีทั้งแบบอ่างอาบน้ำและ Shower box ค่ะ
สำหรับ Penthouse 3 Bedrooms ขนาด 491.7 ตร.ม. จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว และพื้นที่ใช้สอยทุกส่วนจะกว้างเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่เพราะมีห้องนอนใหญ่ถึง 2 ห้องด้วยกันค่ะ ห้องนั่งเล่นก็จะกว้างขวาง พื้นที่เก็บของและครัวมีแยกเป็นครัวไทยต่างหากด้วยนะคะ
ห้อง Penthouse จะอยู่ที่ชั้น 39 นะคะซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยชั้นบนสุดมีเพียง 3 ยูนิตเท่านั้นค่ะประตูด้านหน้าจะใหญ่กว่าห้องแบบ Duplex มีหมายเลขห้องด้านหน้าชัดเจนและมีไฟส่องออกมาจากตัวเลขห้องด้วย ประตูจะมี Digital Door Lock ของ Yale
เปิดเข้าไปจะตรงกับลิฟต์ส่วนตัวภายในห้อง ซึ่งลิฟต์ในห้องคือจะสามารถขึ้นไปยังชั้น 2 ได้ค่ะ สะดวกสำหรับบ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือเหนื่อยๆจากที่ทำงานกลับมาก็ตรงไปยังห้องนอนชั้นบนได้เลย
ด้านขวาจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ พื้นจะเป็นไม้ตีห่างเว้นร่องค่ะ เหมาะสำหรับบ้านที่ชอบว่ายน้ำแบบมีความเป็นส่วนตัว และได้วิวสวยกว่าสระส่วนกลางค่ะเพราะเป็นชั้นบนสุดเลย
วิวที่ได้จากสระค่ะ ราวกั้นตรงสระจะเป็นกระจกทำให้เห็นวิวด้านล่างได้ชัดเจน ถ้ามีห่วงยางใหญ่ๆลอยเล่น ดูวิวสวยๆคงผ่อนคลายมากเลย
หันกลับไปตรงประตูเข้าบ้านค่ะ ด้านซ้ายจะเป็นผนังตรงนี้จะทำเป็นน้ำตกหรือจะเปลี่ยนเป็นบาร์เอาไว้ปาร์ตรี้ริมสระก็เก๋นะคะ
มุมจากสระอีกมุมค่ะ ช่วงเช้าๆมุมนี้จะมีแดดส่องเข้ามา ใครชอบอาบแดดให้ผิวแทนสวยๆก็ทำได้เลย
จากตรงนี้พื้นจะเป็นแกรนิตโต้ค่ะ ด้านซ้ายคือห้องน้ำ ด้านขวาคือประตูทางเข้าบ้าน
ภายในห้องน้ำค่ะ ว่ายน้ำเสร็จก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนี้ได้เลย จะได้ไม่เลอะเทอะเข้าไปในตัวบ้าน
ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูไม้บานใหญ่ค่ะ
ห้องนี้จะเป็นห้องที่ขายแบบ Fully Fitted นะคะ เข้ามาส่วนนี้จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและส่วนห้องทานอาหาร ห้องเป็นห้องมุมจะได้วิวเต็มๆแบบนี้ค่ะ หน้าต่างจะเป็นหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง
จากในห้องก็ยังเห็นส่วนของสระว่ายน้ำอยู่นะคะ
มุมนี้จะเป็นมุมครัวค่ะ
ครัวได้ตามแบบนี้พร้อมเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัวทุกอย่างตามนี้เลย ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้แช่ไวน์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน
ข้างกันนั้นจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ค่ะ ด้านซ้ายที่เห็นเป็นทางเดินจะเป็นห้องครัวไทย ห้องเก็บของ และห้องนอนเล็กชั้นล่าง
ห้องเก็บของค่ะ ตรงนี้ทางโครงการจะมีตู้ให้ตามนี้เลยค่ะ
ครัวไทยค่ะ พื้นที่ครัวไทยกว้างมากทีเดียว บ้านไหนที่ชอบทำอาหารคงถูกใจไม่น้อย
อีกมุมค่ะ ตรงนี้ก็ได้เครื่องครัวครบครันและตู้เก็บของเป็นระเบียบและมีให้เยอะ
ห้องนอนเล็กชั้นล่างค่ะ ภายในห้องนอนจะปูด้วย Engineering Wood
ห้องน้ำภายในห้องนอน
ส่วนนี้คือ Walk in closet ค่ะ
ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นห้องนอน 2 ห้องค่ะ ห้องแรกที่เจอเมื่อขึ้นมาคือห้องนอน 2
ภายในห้องนอน 2 ค่ะ ห้องนี้จะได้วิวเต็มๆแบบนี้เลย หน้าต่างจะเป็นบานเอียงลงมาแบบนี้ค่ะ ดังนั้นม่านที่ติดควรเป็นม่านติดยึดทั้งบนและล่างขึงไว้จะสะดวกเวลาใช้งานมากกว่าค่ะ ภายในห้องปูด้วย Engineering Wood
หันไปทางประตูทางเข้าก็จะเจอกับห้องแต่งตัวและห้องน้ำค่ะ
ห้องแต่งแตัวค่ะเป็นแบบ Walk in closet ค่ะไม่มีบานปิด
ภายในห้องน้ำค่ะ ห้องนี้อ่างล้างหน้าจะได้แบบ His&Her ค่ะ ส่วนอาบน้ำมีทั้งแบบอ่างอาบน้ำและ Shower
อ่างอาบน้ำก็จะได้วิวสวยๆแบบนี้ค่ะ
คราวนี้ไปดูอีกห้องกันนะคะ พื้นชั้นนี้ด้านนอกปูด้วยแกรนิตโต้ค่ะ
ภายใน Master bedroom พื้นปูด้วย Engineering Wood ค่ะหน้าต่างจะเป็นบานเอียงเช่นเดียวกัน
ห้องนี้ส่วนแต่งตัวจะใหญ่กว่าห้องนอน 2 ค่ะ เรียกได้ว่าใครชอบแต่งตัว เสื้อผ้าเยอะคงถูกใจมากแน่ๆ
ภายในห้องน้ำค่ะ จะเป็นห้องได้วิวสวยๆแบบนี้ะค่ะ มีอ่างอาบน้ำและส่วนที่เป็น Shower อ่างล้างหน้าห้องนี้จะได้แบบ His&Her เช่นเดียวกัน
มุมนี้จะเป็นมุมพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนค่ะ อาจทำเป็นมุมอ่านหนังสือหรือห้องนั่งเล่นด้านบนได้อีกมุม
ตรงจะจะเป็นลิฟต์ค่ะ ด้านขวาเป็นประตูส่วนทางเดินเหนือสระว่ายน้ำ
พื้นที่ตรงนี้อาจะทำเป็นมุมนั่งเล่นได้อีกมุมนะคะ ประตุที่เห็นตรงด้านหน้าคือประตูฉุกเฉินค่ะ เปิดไปยังด้านนอกห้อง
มองลงไปจากระเบียงก็จะเป็นวิวสระว่ายน้ำแบบนี้ค่ะ
ราคา (พ.ค.59)
– 2+1 Bedrooms Duplex Type DP4 Fully Furnished ขนาด 179.78 ตร.ม. ราคา 59.79 ลบ. (332,596 บ./ตร.ม.)
– 2 Bedrooms Duplex Type DP1 Fully Furnished ขนาด 188.94 ตร.ม. ราคา 48.18 ลบ. (255,000 บ./ตร.ม.)
– 2+1 Bedrooms Duplex Type DP6 Fully Furnished ขนาด 216.86 ตร.ม. ราคา 54.22 ลบ. (250,000 บ./ตร.ม.)
– Penthouse 3 Bedrooms Fully Fitted ขนาด 491.70 ตร.ม. ราคา 59.79 ลบ. (332,596 บ./ตร.ม.)
โครงการขายแบบ Fully Furnished และ Fully Fitted
ตอนนี้(พ.ค.59)เหลือเพียง 11 ยูนิตเท่านั้นนั่นคือ 2 ห้องนอน Duplex จำนวน 9 ยูนิต และ Penthouse จำนวน 2 ยูนิต
จอง Duplex เริ่มต้น 200,000 บาท
จอง Penthouse เริ่มต้น 300,000 บาท
และทำสัญญา 15% ของราคาขาย
ค่าส่วนกลาง : 50 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Hyde สุขุมวิท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 โดยห่างจากปากซอยที่ติดกับถนนสุขุมวิทประมาณ 110 ม. ไม่ไกลจาก BTS สถานีนานา ทำให้เดินทางทั้งทางรถยนต์และรถสาธารณะสะดวก โดยรอบมีร้านค้า ร้านอาหาร ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆในระยะที่เดินไปได้ ถือว่าเป็นทำเลใจกลางย่านธุรกิจที่สะดวกในหลายๆด้านค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ – ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ในซอยจะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมายค่ะ ตรงข้ามโครงการจะมี Trendy Building ซึ่งด้านล่างจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารค่ะ ถือว่าเป็นร้านค้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด
ส่วนความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ตลอดแนวถนนสุขุมวิทค่ะ โดยจะมีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อตลอด 24 ชั่วโมง,ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆไม่ไกลจากซึ่งจะมีทั้ง Central Embassy, Robinson และ Terminal 21 ไปได้ด้วยการเดินเท้าหรือจะนั่ง BTS ไปก็สะดวกห่างจากโครงการเพียง 1 สถานีเท่านั้น หรือจะไปยัง Grand 5 ตรงนั้นก็จะมี Food land ซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง หรือถ้าอยากชอบอาหารเกาหลีก็มีแหล่งเกาหลีหรือที่เรียกว่า Korean Town อยู่ไม่ไกลจากสถานีอโศกค่ะ ตลอดเส้นนั้นยังมีห้างใหญ่ๆอย่าง Emporium , EmQuartier หรือไปทางสยามก็มีทั้ง สยามเซ็นเตอร์,สยามพารากอน,เซ็นทรัลเวิลด์ และร้านค้าในสยามค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ โครงการอยู่ห่างจากสุขุมวิทเพียง 110 ม.เท่านั้น ซึ่งถนนสุขุมวิทนั้นถือว่าเป็นถนนเส้นหลักเส้นหนึ่งจึงทำให้การเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกเพราะเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ไปได้หลายเส้นทาง ซึ่งเส้นนี้สามารถตรงไปยังเพลินจิต ชิดลม สยาม ยาวไปจนถึงพระราม 1 ,หรือถ้าไปอีกทางก็จะเป็นสุขุมวิทช่วงปลาย ทองหล่อ เอกมัย อ่อนนุช ยาวเชื่อมไปจนถึงเส้นบางนา-ตราดค่ะ และถ้าจากแยกอโศกก็จะไปทางพระราม 9 หรือมุ่งไปยังพระราม 4 ก็ได้ ดังนั้นเท่าที่กล่าวมาแต่ละเส้นนั้นถือเป็นถนนเส้นหลักๆทั้งสิ้น จึงทำให้มีรถมาใช้เส้นนี้กันเยอะค่ะ
และเนื่องจากย่านนี้ถือว่าเป็นย่านธุรกิจที่คึกคักทำให้ช่วงแยกอโศกนั้นรถติดหนักพอสมควรเลยค่ะ ดังนั้นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเส้นนี้ต้องรู้จักทางลัดเลาะเพื่อให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้น
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เรื่องการขนส่งสาธารณะถือว่าสะดวกมาก เพราะเนื่องจากตรงถนนสุขุมวิทจะมีทั้งรถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ให้เรียกไม่ขาดสาย ไม่ไกลจากโครงการก็จะมี BTS นานา ประมาณ 270 ม.ซึ่งถือว่าสะดวกต่อการเดินทางมาก ถ้าจะไปเส้น MRT ก็ไปยังสถานีอโศกห่างจากโครงการเพียงแค่สถานีเดียวเท่านั้นค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ –ตัวห้องขายหลายแบบทั้งแบบ Fully Furnished และ Fully Fitted โดยห้องที่เป็นห้องตัวอย่างหรือห้องที่ตกแต่งพร้อมอยู่จะมีการแปลนไม่เหมือนกัน การตกแต่งก็จะคนละสไตล์ ดังนั้นใครที่ชอบตกแต่งห้องเองก็สามารถซื้อแบบ Fully Fitted ไปได้
ส่วนคนที่ซื้อแบบ Fully Furnished นั้นเรียกได้ว่าแค่ขนเสื้อผ้าเข้ามาก็พร้อมอยู่เลยค่ะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างพร้อมอยู่จริงๆ ที่เห็นในห้องว่าตกแต่งและมีอะไร ก็จะได้ทุกอย่างตามนั้นค่ะ เรื่องความสวยงามก็แล้วแต่สไตล์ว่าใครชอบแบบไหนนะคะ
เรื่องการออกแบบ ฟังก์ชั่นในห้องออกแบบได้ลงตัวค่ะ พื้นที่ใช้งานทุกส่วนไม่อึดอัด อาจมีบางส่วนที่ติดขัดบ้าง เช่นบางห้องส่วนนั่งเล่นอาจจะเล็กไปหน่อยสำหรับคนที่ชอบมีแขกมาบ้านแต่จะได้ห้องนอนเล็กชั้นล่างอีกห้อง หรือห้องที่ห้องนั่งเล่นใหญ่ก็จะไม่มีห้องนอนชั้นล่างค่ะ ส่วนการออกแบบเรื่องวัสดุถือว่าให้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์แบบคุ้มค่าสมกับราคาที่จ่ายไปค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก – ถือว่าให้มาแบบจัดเต็มมาก เพราะชั้น 5 ทั้งชั้นเป็นชั้นส่วนของ Facilities ทั้งหมดมีสระเกลือกว้างยากตลอดแนวอาคาร ทั้งสระในร่มและมีส่วนกลางแจ้ง มีต้นไม้ปลูกให้ความชุ่มชื่นดูสบายตาตลอดแนวอาคาร ห้องต่างๆก็มีให้เยอะทั้งห้องเล่นเด็ก ห้องสมุด ห้องคาราโอเกะ และฟิตเนสที่มีแยกห้องโยคะให้ด้วยค่ะ ในห้องน้ำก็มีทั้งซาวน่า อบไอน้ำ อ่างจากุชชี่ เรียกได้ว่าครบครันเลย ใครเบื่ออยู่ในห้องก็มานั่งเล่นตรงส่วนกลางได้เพราะมีที่นั่งเยอะและมีให้เลือกหลายมุมด้วยกันค่ะ
พร้อมระบบรักษาความปลอกภัย 24 ชั่วโมงและ CCTV ทั่วโครงการ มีที่จอดรถ 80% ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเยอะค่ะ มี Intercom ให้ทุกห้องซึ่งตรงนี้จะสะดวกต่อลูกบ้านมาก
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | อยู่ในซอยสุขุมวิท 13 ใกล้ถนนสุขุมวิทและ BTS สถานีนานา ใกล้แหล่งการศึกษาและโรงพยาบาล ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้ามีให้เลือกมากมาย |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | เดินทางสะดวกเชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง แต่ต้องระวังรถติดตอนเช้าและเย็นตรงแยกอโศก ถ้าช่วงรถไม่ติดสามารถบวกคะแนนเพิ่มได้เลยค่ะ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์และมีแท็กซี่ผ่านมาเรื่อยๆ ใกล้กันนั้นก็มี BTSนานา ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางอย่างมาก หรือจะใช้รถไฟฟ้าใต้ดินก็อยู่ไม่ไกล อยู่ในระยะเดินไปได้ |
ห้องและวัสดุ | 8.5 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัวมีความโปร่งเพราะฝ้าเพดานสูง แต่ก็มีบางจุดที่ติดขัดเล็กน้อย ขายแบบ Fully Furnished วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.0 | มีให้แบบจัดเต็ม ชั้น 5 ทั้งชั้นเป็นชั้นส่วนของ Facilities ทั้งหมด โดยมีทั้งสระว่ายน้ำในร่ม สระกลางแจ้ง พื้นที่นั่งพักผ่อนหลายจุด ห้องสมุด ห้องคาราโอเกะ ฟิตเนส ซาวน่า อบไอน้ำ ห้องเด็กเล่น |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 175,000บาท/ตร.ม. ราคาสูงแต่ได้ทำเลใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสำนักงาน ไปไหนมาไหนสะดวก มีขายทั้งแบบ Fully Furnished และ Fully Fitted |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.33 | ดี |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02651 1919
Website : http://www.hydesukhumvit.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น