EP.366 รีวิว KHUN by YOO inspired by Starck (1st Design Branded Residence) ระดับ Luxury ใจกลางทองหล่อ
Written by Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดหรู ใจกลางทองหล่อ กับโครงการ KHUN by YOO จาก แสนสิริ ตั้งอยู่หน้าปากซอยทองหล่อ 12 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ และรถไฟฟ้าสายสีเทา(รางเดียว) สถานีทองหล่อ 10 ในอนาคต
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง รายล้อมไปด้วยร้านอาหารดีๆ, Avenue และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ J Avenue, The Commons, The Taste, Eight,Donki Mall, Tops market ทองหล่อ , รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท และสถานีตำรวจทองหล่อ
คุณ บาย ยูอิน สไปร์ บาย สตาร์ค 1st Design Branded Residence ระดับลักซ์ชัวรี่ใน Sansiri Luxury Collection ภายใต้ความร่วมมือกับ YOO Studio แบรนด์ดีไซน์สตูดิโอระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกในประเทศไทย
ตัวโครงการเป็นคอนโด High-Rise 27 ชั้น พื้นที่โครงการขนาด 1 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 148 ยูนิต มีห้องพักให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน และ Penthouse ขนาด 41.50 – 302.75 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจัดเต็ม อาทิ The Greeting Hall, สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ปรับอุณหภูมิได้ ความยาว 30 เมตร, Jaccuzzi, Kid’s pool, Steam Room, The Reading Lounge, Meeting Room, Rooktop, The Gymnasium, Yoga Room, Game Room, Screening Room, The Eight Ball พร้อม Sky Lawn และ Khun Bar
ที่จอดรถแบบ Automated Parking 100% + Conventional รวม 102% , Electric Vehicle Charging Stations และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท (ธ.ค.2562)
ชื่อโครงการ | KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค) |
เจ้าของโครงการ | แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 27 ชั้น |
จำนวนห้อง | 148 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | Automated Parking 100% + Conventional Parking 4 คัน รวม 102% |
จำนวนลิฟท์ | ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว เซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว |
โซน | สุขุมวิท ทองหล่อ วัฒนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถไฟฟ้าสายสีเทา (ในอนาคต) |
ที่ตั้ง | ซอยทองหล่อ 12 ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 18 ล้านบาท (ธ.ค.2562) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 380,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด “Industrial Heritage” สะท้อนความทันสมัยของย่านทองหล่อ ทำเลที่พักอาศัยคุณภาพใจกลางเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของกรุงเทพฯ ผสานความหรูหรา ทันสมัย กับความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราอย่างหินอ่อน และความแปลกใหม่อย่างปูนเปลือย, ทองแดง, หินขัด ฯลฯการออกแบบภายในมีการเล่นสีสันที่ตัดกันและใช้เฟอร์นิเจอร์รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (Oversize) โดยให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้สอยอย่างครบถ้วนลงตัว เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในงานดีไซน์ที่ผสมผสานงานศิลปะ ตั้งอยู่ใจกลางทองหล่อ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยทองหล่อ 12 ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
พิกัด : 13.732910, 100.582321
โครงการ KHUN BY YOO ตั้งอยู่บนติดถนนทองหล่อ บริเวณปากซอยทองหล่อ 12 เป็นทำเลใจกลางเมือง แหล่งรวมการใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองระดับ Hi-end มีบรรยากาศที่คึกคักตลอด 24 ชั่วโมง มีการใช้งานหนาแน่นมากที่สุดในยามค่ำคืน มีถนนเส้นสำคัญรอบๆโครงการ เต็มไปด้วยความสะดวกสบายในทุกๆด้าน รวมถึงยังอยู่ไม่ไกลจากย่านออฟฟิศ ตั้งแต่พร้อมพงษ์, อโศก, เพลินจิต, ชิดลม, สีลม และสาทร
การเดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ, รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท, รถไฟฟ้า ARL สถานีรามคำแหง และรถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีทองหล่อ 10 ในอนาคต เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและเพชรบุรีตัดใหม่ ใกล้ทางด่วนศรีรัช, รามอินทรา-อาจณรงค์ และเฉลิมมหานคร
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตัวอยู่ติดซอยทองหล่อเส้นหลัก ที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก จะเข้าออกเมืองก็ใช้ ถนนสุขุมวิท เป็นถนนที่เป็นศูนย์รวมความเจริญด้านการคมนาคม มีระบบขนส่งสาธารณะหลากหลาย ทั้งรถประจำทาง, Taxi, รถไฟฟ้า BTS, MRT และรางเดียวในอนาคต การเดินทางโดยรถยนต์มีการจราจรที่หนาแน่น มาก-น้อยขึ้นอยู่กับช่วงเวลา
ส่วนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีเส้นทางเชื่อมระหว่างคลองตันกับเขตดุสิต จากถนนพัฒนาการสู่ถนนพิษณุโลกที่แยกอุรุพงษ์ มีการใช้งานเพื่อไปยังถนนสำคัญ และถนนสายรองอื่นๆอีกหลายเส้น
นอกจากนั้นยังใช้ซอยทองหล่อ 10 วิ่งเข้า ถนนเอกมัย หรือสุขุมวิท 69 ได้ มีเส้นทางยาวต่อเนื่องไปถึงเส้นรามคำแหง จึงมีการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งเป็นถนนทางผ่านและเป็นจุดหมายของการเดินทาง เป็นถนนอีกเส้นที่มีความหนาแน่นเป็นพิเศษในยามค่ำคืน และยังวิ่งเข้า ถนนพระราม 4 เพื่อวิ่งเข้าสู่ย่านสาทร-สีลม ได้ มีการจราจรที่คล่องตัวกว่าเส้นสุขุมวิท
มีจุดขึ้นทางด่วนกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้ง ทางด่วนเพลินจิต, พระราม 4, เอกมัย – รามอินทรา, สุขุมวิท 50 ฯลฯ แต่เนื่องจากย่านนี้รถค่อนข้างติดค่ะ เพราะทุกเส้นอยู่ในตัวเมืองทั้งนั้น ทำให้การเดินทางโดย “เลี่ยงเมือง” ทำไม่ได้ แต่โดยรวมการเดินทางก็สะดวกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกไปว่าเป็นทำเลในเมืองอยู่แล้วค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. หรือใช้เวลาขับประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนฉลงอรัช จะห่างจากโครงการประมาณ 3.9 ก.ม ใช้เวลาขับประมาณ 10 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วนเช่นกันค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากโครงการจะห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 1.1 กม. เป็นระยะที่คนชอบเดินออกกำลังกายก็เดินได้ มีฟุตบาทเดินสะดวกตลอดทาง ถ้าเดินก็ประมาณ 15 นาที หรือถ้าไม่อยากเดิน หน้าโครงการก็มีคิวพี่วิน เดินออกมาหน่อยก็เจอค่ะ นั่งไป BTS ทองหล่อประมาณ 20 บาท หรือจะเรียก Taxi ก็ได้ โดยใช้บริการ Concierge ใน Lobby แล้วนั่งรอรถเข้ามารับได้เลย ไม่ต้องเดินออกมาเรียกเอง แต่จากระดับโครงการลูกบ้านส่วนใหญ่ก็คงจะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักอยู่แล้ว มีรถไฟฟ้าไว้เป็นทางเลือกในช่วงเวลาเร่งรีบ หรือเลี่ยงรถติดในเมืองค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบไม่ต้องห่วงเลย เพราะ ทองหล่อ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว คึกคักตลอด 24 ชั่วโมง ครบทั้งร้านอาหาร, คาเฟ่ และบาร์ดีๆ ถ้าให้ร่ายลิสต์รายชื่อกันทั้งหมดก็คงไม่ไหว ขอยกตัวอย่างจุดใหญ่ๆแล้วกัน อย่าง J Avenue, The COMMONS, Eight ทองหล่อ ร้านอาหาร/ซาลอน/ร้านเสื้อผ้า/Foodland ในซอยย่อยข้างๆก็มี Arena 10 สายเที่ยวกลางคืนต้องรู้จัก และล่าสุดก็มี DONK DONK DONK DONKI! (DONKI Mall) Super Market 24 ชม. จากญี่ปุ่นมาเปิดด้วย เรียกว่าไม่ต้องไปไหนก็ครบละค่ะ ซึ่งที่พูดมานี่ใกล้โครงการมากๆ เดินไปได้เลยนะ ดีมากก!
ส่วนห้างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลก็มีเยอะมากเลยค่ะ ห้างตระกูล EM ทั้งหลาย EmQuartier, Emporium และ EmSphere (ในอนาคต) ขยับไปทางอโศกก็มี Terminal 21 และล่าสุดคือ Singha Complex จากโครงการก็ไม่ไกลเหมือนกัน หรือไปทางฝั่งเอกมัยใกล้ๆก็มี Gateway เอกมัย และ Major เอกมัย
นอกจากนั้นก็ยังมีสถานศึกษาที่อยู่ในโซนนี้ อย่าง มศว. และโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่ง เช่น Bangkok International Prep School, Wells International School, The American School of Bangkok, Ekkamai International School เป็นต้น
และโรงพยาบาลชั้นนำในโซนนี้ก็มี รพ.คามิลเลียน และ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท ในระยะอุ่นใจ ขยับไปหน่อยก็มี รพ.กรุงเทพ, รพ.ปิยะเวท, รพ.สุขุมวิท, รพ.กล้วยน้ำไท เป็นต้น
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
ศาสนสถานและอื่นๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
การเดินทาง
การเดินทางวันนี้ เริ่มต้นบนถนนสุขุมวิทบริเวณ BTS ทองหล่อ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ ขับตรงไปประมาณ 1 กม. จะเห็นโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ หน้าซอยทองหล่อ 12
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยทองหล่อ > ถนนเพชรบุรี > โครงการ KHUN by YOO
เริ่มการเดินทางกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยทองหล่อ เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อค่ะ
เข้ามาในซอยปุ๊ป เราจะเห็นคิวพี่วินอยู่ตรงหน้าปากซอยเลย เรียกใช้บริการได้
ภายในซอยทองหล่อนั้น แน่นอนว่าเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน ระหว่างทางก็จะผ่านทั้งร้านอาหาร, ร้านกาแฟ. Community mall, โรงแรม และคอนโดหลายแห่ง เช่น ในตึก Eight ทองหล่อ ก็จะมีร้านอาหารหลากหลายทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น อิตาเลียน และยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ต Foodland อำนวยความสะดวกครบครัน
เข้ามาในซอยทองหล่อเรื่อยๆจะผ่าน J Avenue ทางซ้ายมือ แหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้า และ Tops Supermarket
ขับตรงต่อมาอีกหน่อยจะถึงที่ตั้ง โครงการ KHUN by YOO ทางขวามือแล้วค่า
รอบๆโครงการ
เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางทองหล่อ สภาพแวดล้อมค่อนข้างหลากหลาย รอบๆจึงมีทั้งอาคารพาณิชย์และบ้านดั้งเดิม, ร้านอาหารดีๆ และมีอาคารสูงโดยรอบ ทั้งอาคารสำนักงาน, คอนโด High Rise และโรงแรมค่ะ
มาลองเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการ ติดซอยทองหล่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ และคอนโด TELA
ฝั่งซ้ายมือของโครงการ ติดกับซอยทองหล่อ 12
ในซอยเป็นตึกแถวและทาวน์เฮ้าส์ มีร้านอาหารมาเปิดขายช่วงพักเที่ยง
มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นอาคาร Home Place สูง 20 ชั้น ที่ชั้นล่างมี Family Mart, ร้านอาหาร และธนาคารด้วย เดินไปได้สบายๆ
ถัดจากซอยทองหล่อ 12 มาจะเป็นอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นร้านแหนมเนือง, ร้านนวด, ร้านเสริมสย
ถัดมาเป็นคลินิกเสริมความงาม
และร้านถ่ายรูปดั้งเดิม
ถัดมาอีกหน่อยถึงซอยทองหล่อ 14 หน้าปากซอยมีร้านอาหารญี่ปุ่น NOBU
ในซอยก็ยังมีคาเฟ่ และร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้านค่ะ
สุดซอยมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านเล็กๆ
ติดกับซอย 14 จะเป็นหมู่บ้านกลางกรุงค่ะ
เดินต่อมาอีกนิดมีร้านอาหารญี่ปุ่นอีกร้าน หน้าร้านมีคิวพี่วินค่ะ ใกล้โครงการเลย เดินมาได้สบายๆ
จากตรงนี้ไปอีกไม่กี่เมตรก็ถึง J Avenue และ The COMMONS
ติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นร้านซาลอน Treat
ถัดมาเป็นร้านข้าวหน้าเป็ด และก๋วยเตี๋ยว
ฝั่งตรงข้ามคือ The Taste มีร้านอาหาร และร้านกาแฟให้เป็นตัวเลือกใกล้ๆโครงการอีกจุดค่ะ
ถัดมาเป็นร้าน Wine Republic
ตรงต่อไปจะออกไปทางฝั่งถนนสุขุมวิท ซ้ายมือเข้าซอยทองหล่อ 10 ที่มี Arena 10 และ Donki Mall ให้สามารถเดินไปถึงได้สบายๆ
ตัวโครงการ
โครงการ KHUN by YOO โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ล่าสุดภายใต้ Sansiri Luxury Collection เป็นโครงการที่เน้นความแตกต่าง เน้นในเรื่องของการดีไซน์และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงร่วมมือกับ YOO Studio แบรนด์ดีไซน์สตูดิโอระดับโลก และ Philippe Starck ที่เป็น Co – Founder ของ YOO Studio
โดยออกแบบจากไลฟ์สไตล์ในทองหล่อ ออกมาเป็น Industial Heritage ผสมผสานความเก่าแก่และทันสมัย ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของฟิลิปป์ สตาร์ค ที่เกิดในฝรั่งเศสช่วงยุคหลังสงครามโลกที่ 2 ที่เป็นยุคหลังของการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม สะท้อนผ่านการใช้วัสดุแบบ “Raw Beauty” โชว์ความสวยงามของวัสดุตามธรรมชาติ อย่าง หินอ่อน ปูนเปลือย ทองแดง และหินขัด การออกแบบภายในจะเล่นสีสันที่ตัดกัน ใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งชิ้นใหญ่แบบโอเวอร์สเกล ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (Oversize) ค่ะ
โดยตัวอาคารจะเน้นสี Copper เป็นสีหลัก ซึ่งจะใช้ตั้งแต่หน้าโครงการ ตัวอาคารภายนอก ไปจนถึงดีเทลในส่วนกลางและฝ้าเพดานในระเบียงของยูนิตพักอาศัย
Master Plan มีทางเข้าออกทางเดียว ติดกับซอยทองหล่อ ตรงทางเข้าโครงการจะมีป้อมรปภ. ระบบรักษาความปลอดภัยมี เจ้าหน้าที่, กล้อง CCTV และลูกบ้านใช้ Access Card แบบ RFID หรือแบบ Easy Pass ใช้สัญญาณ Bluetooth ที่เมื่อเข้าระบบแล้ว จะมีแสดงช่องจอดให้เลย ว่าให้เราขับไปที่ลิฟต์จอดรถตัวไหน
ภายในโครงการ ส่วนแรกจะเป็นสวนหย่อม พื้นเล่นระดับ จัดที่นั่งพักผ่อนพร้อมลงต้นไม้ให้ร่มเงา ช่วยให้ตัวอาคารมีระยะห่างจากถนน ลดเรื่องเสียงและมลภาวะได้ในระดับนึงค่ะ ส่วนถนนภายในโครงการจะเป็นแบบ One Way คือรถวิ่งทางเดียว ถ้าขับตรงเข้ามาจากทางเข้า ก็สามารถเข้าลิฟต์จอดรถทั้ง 3 ตัว และ Drop ผู้โดยสารหน้าล็อบบี้ได้ทางฝั่งขวามือเลย ส่วนขาออกก็สามารถรับรถจากลิฟต์แล้วขับออกด้านหลังได้เลย
นอกจากลิฟต์จอดรถแบบ Auto Parking แล้ว ยังมีที่จอดรถ Conventional Parking ด้านหลังอีก 4 ช่องจอดพร้อม EV Charger 2 แท่น ชาร์จได้ 4 หัวจ่าย หรือ 4 คันพร้อมกัน รวมที่จอดรถ 8 ชั้น จอดรถได้ 102% 147 คันค่ะ
ส่วนภายในตัวอาคาร ส่วนแรกจะเป็น The Greeting Hall หรือโถงรับรอง มีทางเข้าออก 3 ฝั่ง คือจากถนนหลักตรงจุด Drop Off และอีก 2 ด้าน จากลิฟต์จอดรถ ช่วยอกนวยความสะดวกให้ลูกบ้านไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าด้านหน้าค่ะ
โดยใน Greeting Hall จะทำเป็นโถงฝ้าเพดานสูง จัดที่นั่งรับรองพร้อมเจ้าหน้าที่ Concierge คอยให้บริการ และมีห้องน้ำรับรองมาให้ 1 ห้อง ถัดเข้ามาจะเป็นโถงลิฟต์ โดยจะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ส่วน Service Lift จะมีแยกทางเข้าไว้ให้อีก 1 ตัวค่ะ
สลับมาดูบรรยากาศโครงการของจริงกันบ้างค่ะ เริ่มจากทางเข้าหลักโครงการ ติดถนนซอยทองหล่อ โดยฝั่งขวามือแยกเป็นทางเข้าคนเดิน และซ้ายมือจะมีป้อมรปภ. พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำหน้าโครงการคอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านและ Visitor ค่ะ
ลูกบ้านเข้าโครงการโดยใช้ Access Card ระยะใกล้ พอผ่านเข้ามาแล้วจะมีป้ายแสดง Gate ฝั่งซ้ายมือ โชว์ว่าลูกบ้านจะต้องเอารถเข้าจอดที่ Gate ไหน ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 Gate โดยถ้าเป็นไซส์ใหญ่จะถูกตั้งไว้ที่ Gate 3 ค่ะ
ติดกับถนนทางเข้าโครงการ ทางขวามือเป็นสวนหย่อม สนามหญ้า ลงต้นไม้ ชุดเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้ร่มเงาจากต้นไม้ในสวน และมีทำทางเดินไว้ให้พร้อม
ถัดเข้ามาด้านในเป็นถนนฝั่งด้านหน้าอาคาร พื้นถนนเป็นคอนกรีตสแตมป์ทั้งหมด ฝั่งซ้ายมือทำเป็น Vertical Garden ที่ช่วยให้ได้บรรยากาศเป็นส่วนตัวและได้ความร่มรื่นสบายตา
ส่วนตัวอาคาร ไล่จากฝั่งขวามือของเรา เป็นลิฟต์จอดรถ Gate 3 ติดกันเป็น The Greeting Hall และถัดไปเป็นลิฟต์จอดรถ Gate 1 และ Gate 2
หน้า Gate ของลิฟต์จอดรถทุกตัวจะเป็นเซนเซอร์ เปิดเองอัตโนมัติ โดยจะมี Traffic Assistace เป็นเจ้าหน้าที่คอยบริการ 24 ชม. คอยอธิบายขั้นตอนการจอดรถต่างๆ
เมื่อเราจอดเสร็จเรียบร้อย จึงคอนเฟิร์มส่งรถขึ้นไปจอด โดยจะมี 2 ระบบคือใช้คีย์การ์ดแตะ และ QR Code ซึ่งตัว QR Code จะช่วยอำนวยความสะดวกในส่วนของ Visitor เช่น เวลาเพื่อนมาหา เราก็สามารถสร้าง QR Code (One Time) ให้เพื่อนเข้าจอดรถและเข้าตัวอาคารได้ โดยจะสามารถเลือกได้อีกว่าจะให้ผ่านเข้าไปได้ถึงจุดไหน จะให้รอได้แค่ที่ Lobby หรือจะให้ขึ้นไปหาที่ห้องเลยก็ได้ สะดวกมากๆค่ะ
ติดกับลิฟต์จอดรถแต่ละฝั่งก็จะมีประตูให้เดินเข้าล็อบบี้ได้เลย ไม่ได้ต้องเดินอ้อมไปเข้าด้านหน้าอาคาร
หน้าประตูทางเข้าตัวอาคารจะเป็นจุด Drop Off ผนังที่ชั้นนี้ใช้เป็นกระจกทั้งหมด ยึดด้วยขาแมงมุมดูเท่ๆ
ถัดมาเป็นลิฟต์จอดรถ Gate 1 และ Gate 2 ข้างๆมีประตูเข้าล็อบบี้อีกฝั่ง
เข้ามาใน Lobby หรือ The Greeting Hall เป็นพื้นที่โถงรับรองกว้างๆ ที่พื้นปูหินอ่อนเป็นเส้นตรงนำสายตาไปยังโถงลิฟต์
มี Highlight คือ โคมไฟระย้าหรือ Chandelier ที่สั่งทำพิเศษของ Barovier and Toso เป็นแบบ Oversize และสีพิเศษเฉพาะโครงการนี้คือสี Caramelo ที่ล้อไปกับสี Copper ที่เป็นสีหลักของโครงการ
ภายใน The Greeting Hall จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้แบบกระจายเป็นกลุ่มๆ โดยเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจะเลือกโดย YOO Studio และ เกือบทั้งหมด(99%) เป็นเฟอร์นิเจอร์นำเข้าค่ะ
ชุดโซฟาที่เป็นพระเอกใน Greeting Hall คือ โซฟาที่เหมือนหุ้มด้วยผ้าม่านสีขาวจาก Busnelli แบรนด์ชื่อดังจากอิตาลี
วัสดุที่เลือกนำมาใช้ให้เข้ากับ Concept ที่ผสมผสานกันทั้งความ Classic และ Modern ดังนั้นวัสดุที่ใช้จะมีทั้ง หินอ่อน Arabescato ที่ให้ความ Classic, Raw Concrete ที่นำเข้าจากเยอรมัน เป็นงานทำมือทั้งหมด มีพื้นผิวที่เรียบเนียน แต่ยังให้ลายที่ดูเป็นคอนกรีต ดิบๆ, อลูมิเนียมฉลุพิเศษให้เกิด Texture
นอกจากนั้นตัวม่านยังใช้วัสดุที่ดูแปลกตาอย่างอลูมิเนียม ที่ทำสี Copper เอามาถักเป็นโซ่และดัดให้เลื่อนเปิดปิดได้เหมือนม่านจริง
ส่วนการรับรถจะมีจุดแตะ Access Card หน้าจอก็จะแสดงว่ารถจะลงมาที่ Gate ไหน โดยทั้งหมดจะใช้เวลารับรถไม่เกิน 4 นาที ค่ะ
ถัดเข้ามาด้านใน ฝั่งขวามือจะมีห้องน้ำรับรอง ประตูบานเลื่อน คนใช้วีลแชร์สามารถเข้าได้สะดวก
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยหินอ่อนจัดเต็ม เป็นหินอ่อน Arabescato Classic ซึ่งจะถูกใช้เป็นส่วนประกอบในงานตกแต่งส่วนกลางเกือบทุกส่วนในโครงการเลย
อีกฝั่งของ Greeting Hall จะเป็นโซน Concierge ผู้ช่วยคนสำคัญ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ เช่น ช่วยจองร้านอาหาร, จองรถ, จองโรงแรม หรือหาแม่บ้าน, ส่งซักแห้ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำในช่วงเวลา 9.00 – 18.00 น.ค่ะ
จาก Greeting Hall เชื่อมมายังโถงลิฟต์ จะใช้หินอ่อนแบบเดียวกันเชื่อมต่อยาวมาจากพื้นที่โถงต้อนรับด้านหน้า เน้นโทนสีที่สว่างหน่อย แต่ยังใช้วัสดุที่ดูตัดกับหินอ่อนเป็นผนังคอนกรีตอีกด้านนึงค่ะ
โดยลิฟต์โดยสารจะมีทั้งหมด 2 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว ใช้ลิฟต์ยี่ห้อ KONE ไซส์ใหญ่กว่าโครงการทั่วๆไป โดยจะสามารถรองรับน้ำหนักได้ 1,600 กก. หรือประมาณ 21 คน ภายในตัวลิฟต์ติดตั้งกล้อง CCTV และ บอร์ดกระจายข่าวอิเล็กทรอนิค
ตัวลิฟต์เป็นระบบล็อคชั้น ใช้คีย์การ์ดแตะ
ส่วน Visitor ที่มี QR Code ก็สามารถสแกนเพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ลงทะเบียนไว้ได้ค่ะ
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6 – 23 ที่น่าสนใจคือ ทางโครงการจัดการเอางานระบบทั้งพวกคอล์ยร้อน, คอมเพรสเซอร์แอร์, Boiler และงานเซอร์วิส อื่นๆจะเอามาไว้ตรง Corridor ที่ติดกับโถงลิฟต์ทั้งหมด ให้เราได้ใช้พื้นที่ในห้องได้เต็มที่ และช่วยให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวเวลาที่ต้องมีงาน Maintenance ก็ไม่ต้องเข้าไปด้านในห้องพักค่ะ
แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยสูงสุดแค่ 10 ยูนิตเท่านั้น ไล่ขึ้นไปเป็น 8 ยูนิต และ 4 ยูนิต
และชั้น 26 จะเป็น Penthouse 2 ยูนิต
ภายในโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยจะแตกต่างจากโครงการทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด อย่างแรกคือโทนสีที่ใช้จะค่อนข้างออกมาในโทนมืดๆ ติดวอลล์เปเปอร์สีเทาทั้งชั้น เน้น Lighting Design ที่ทำให้เกิดเป็นลายที่พื้นและผนัง และสะท้อนกับวัสดุเงาๆเหมือนเป็นของตกแต่งอีกชิ้นนึง
และในทุกชั้นจะมี Mail Box อยู่ตรงโถงลิฟต์แบบนี้เลย ได้ทั้งความสะดวกและความเป็นส่วนตัว เดินมาเช็คพัสดุหรือจดหมายใกล้ๆ ไม่ต้องลงไปถึงล็อบบี้เหมือนโครงการทั่วๆไป
ในส่วนของโถงทางเดินจะใช้ผนังโทนสีเข้มแบบนี้เลย บรรยากาศจะมืดๆเท่ๆ ทำออกมาดูดีด้วยการจัดไลท์ติ้งเช่นกัน
ฟหโถงทางเดินอีกฝั่งค่ะ สุดโถงทางเดินแต่ละฝั่งก้จะมีภาพตกแต่งมาให้มีดีเทลที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละชั้น
ชั้น 24 จะเป็นชั้นของสระว่ายน้ำ จัดเต็มกันไปเลยทั้งชั้นค่ะ โดยตัวสระจะเป็นสระ Infinity Edge Pool 180 องศา พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนข้างสระ ส่วนด้านในอาคารเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิง พร้อมห้อง Steam
ออกมาจากโถงลิฟต์จะเจอสระว่ายน้ำในร่ม กว้างขวางมากก ลมโกรก บรรยากาศดีสุดๆ โดยสระเป็นแบบ Infinity Edge Pool มองเห็นวิวทองหล่อและวิวเมืองโดยรอบได้ 180 องศากันเลย
ส่วนขนาดสระที่นี่ Half Olympic หรือ 30 x 4.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ และเป็นสระปรับอุณหภูมิคงที่ ประมาณ 29 – 35°C และที่พิเศษคือมีซ่อนไฟแบบไฟเบอร์ออปติกใต้น้ำ และฝ้าเพดานที่สะท้อนภาพภายในสระ ให้เราได้รู้สึกเหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางดวงดาว
ตัวสระจะยาวไปทางฝั่งซ้ายและขวา
พื้นที่ข้างสระจัดเป็นชุดเก้าอี้ไว้ให้นั่งหลายชุด ส่วนด้านหลังเป็นทำเป็นผนังโคมไฟ ใช้โคมไฟรุ่น Baby Romeo
ทางฝั่งขวามือแบ่งเป็นสระจากุซซี่พร้อม Spa Water Jet นวดผ่อนคลายได้ ภาพนี้เราจะเห็นวัสดุที่ใช้ในสระ ส่วนที่เล่นกับแสงจะเป็นเงินแท้ ให้แสงที่เป็นประกายสวย
พื้นที่ติดกับสระเป็นจุดนั่งพักผ่อน ชั้นบนคือห้อง The Reading Lounge
บนพื้นที่นั่งพักผ่อนจัดที่นั่งมาให้ พร้อมโต๊ะกลาง รอบๆตกแต่งด้วยโซ่สี Copper เส้นเล็กๆ ตอนเย็นๆเล่นกับแสงแดดสวยมากค่ะ
วิวจากที่นั่งพักผ่อนมองเห็นทั้งสระและวิวเมือง
จากจุดนั่งพัก อีกฝั่งจะเชื่อมเข้าไปด้านในตัวอาคาร เป็นโถงทางเดินที่เชื่อมไปห้องน้ำ
ถ้าเราเดินทะลุมาอีกฝั่ง หรือออกจากโถงลิฟต์มาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเป็นสระเด็ก ความลึก 50 ซม.
นอกจากงานก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาอย่างดีแล้ว ต้นไม้ที่ใช้ตกแต่งก็ยังเลือกใช้ต้นส้ม ที่มีผลเข้ากับสี Copper ของโครงการด้วยค่ะ
เข้ามาดูงานห้องน้ำส่วนกลางกันต่อ ทั้งห้องน้ำชายและหญิงจะตกแต่งมาเหมือนกันเลย ใช้หินอ่อนจัดเต็มทั้งห้อง
ฝั่งขวามือแยกไปเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง และล็อคเกอร์เก็บของ
ล็อคเกอร์เก็บของที่นี่ไม่ต้องใช้กุญแจค่ะ เราสามารถตั้ง One Time Password ได้เลย สะดวกดี นอกจากนั้นก็จะมีผ้าขนหนูสะอาดๆไว้ให้ใช้งานด้วย
ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องอาบน้ำ และ ห้อง Steam
มีโถปัสสาวะชายติดตั้งมาให้ 1 จุด
ภายในห้อง Steam
ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบพร้อมใช้งาน โดยในห้องอาบน้ำมี Rain Shower ติดตั้งมาให้ด้วย
ภายในห้องน้ำหญิง
ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง, ล็อคเกอร์ พร้อมผ้าขนหนู
อีกฝั่งเป็นห้องอาบน้ำ และห้อง Steam
ขึ้นมาที่ชั้น 25 โถงลิฟต์จะถูกตกแต่งด้วยภาพโทนสีขาวดำ
จากโถงลิฟต์จะแยกไปเป็นโถงทางเดินฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งจะเชื่อมไปยังส่วนกลาง 2 ฟังก์ชั่น
จากโถงลิฟต์มาทางขวามือเป็น The Gymnasium เป็นหอ้งฟิตเนสที่มีขนาดไม่ใหญ่โต แต่มีบรรยากาศน่าใช้งาน ดูโปร่งโล่ง ช่องแสงรอบห้อง แต่ที่เด่นจริงๆคืออุปกรณ์ที่ทางโครงการใช้ของ Technogym หน้าตาดี มีดีไซน์ที่ถูกเลือกมาแล้วทุกชิ้น ซึ่งจะคล้ายๆกับที่ The Monument ทองหล่อเลยค่ะ
วิวจากห้องฟิตเนสนอกจากวิวเมืองแล้วก็สามารถมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น 24 ด้วย
อุปกรณ์ที่จัดมาให้มีลู่วิ่ง 2 เครื่อง, Elliptical 2 เครื่อง
จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง, ดัมเบลคละน้ำหนัก 12 ชิ้น
ข้างๆกันมี Mini Bar พร้อมผ้าขนหนูไว้ให้ใช้งานด้วย สะดวกดีเลยค่ะ
Chest Press Machine, Leg Extension Machine และ เครื่องออกกำลังกายกล้ามเนื้อหลังอีก 1 ตัวค่ะ
อีกฝั่งจะเป็นห้อง Private Yoga
ภายในทำบรรยากาศมาได้สงบๆ น่าใช้งาน สามารถเล่นโยคะได้ หรือถ้าเด็กๆมาซ้อมเต้นในห้องนี้ก็ได้เหมือนกันค่ะ มีกระจกบานใหญ่เต็มผนังให้
มาที่ห้อง The Reading Lounge เป็นห้องไว้มานั่งพักผ่อน ทำงาน หรืออ่านหนังสือ ฟังก์ชั่นคล้ายๆ Co – Working Space แบบสบายๆ ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นห้องที่ได้วิวเปิดโล่งทุกด้าน มองเห็นวิวเมืองและสระว่ายน้ำที่ชั้น 24 ค่ะ
การจัดวางโซฟาตัวเอกของห้องจะวางเฉียงๆให้ได้รับวิวเต็มๆทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนรอบๆจะวางเก้าอี้เดี่ยวไว้ให้ 4 มุม พร้อมโต๊ะเล็กและโคมไฟที่ใช้เป็นชั้นวางหนังสือได้ด้วย
ตรงฐานโคมไฟมีช่อง USB ไว้ให้เสียบชาร์จมือถือไปด้วยในตัว
อีกฝั่งของห้องจะมี Private Meeting Room แยก อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
โดยส่วนตัวชอบห้องนี้ที่สุดเลยค่ะ เพราะนอกจากบรรยากาศจะเงียบๆไว้ให้มานั่งทำงานสงบๆ เหมาะกับคนทำงานแล้ว เค้ายังมีสเตชั่น Nitro Cold Brew ซึ่งจะมีให้เลือกเป็นกาแฟ และชาไทย (เราได้ลองชิมมาเผื่อทุกคนแล้วนะ มันดีมากก..ชาไทยมีความหวานจากตัวชาเองโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย เหมาะกับคนรักสุขภาพด้วยค่ะ)
พร้อมขนมจากคาเฟ่ดังๆในทองหล่อหมุนเวียนมาเสิร์ฟให้กับลูกบ้านด้วย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำที่สเตชั่นนี้ในช่วง 7:00 – 16:00 น.ค่ะ
ภายในห้อง Private Meeting Room จัดโต๊ะยาว 6 – 8 ที่นั่ง พร้อมจอทีวีมาให้ ไว้คุยในบรรยากาศสบายๆ
รูปที่ใช้ตกแต่งในโครงการนี้ที่เราเห็นทุกภาพซื้อลิขสิทธิ์มาอย่างถูกต้องทั้งหมด และที่เราเห็นด้านหลังก็เป็นบางส่วนของภาพ The Creation of Adam โดย Michelangelo ที่ถูกนำมาขยายให้ดูแปลกตา
ชั้น 27 จะเป็นส่วนกลางชั้น Rooftop มีทั้งส่วนกลาง Indoor และ Outdoor โดยด้านนอกจะเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งที่ทางโครงการจัดมาให้จะมีสวนโล่งๆ เพิ่ม KHUN Bar มาให้ นอกจากนั้นก็จะมีพื้นที่นั่งดูหนัง The Screening Yard และโซนเล่นเกมส์สนุกๆ The Fun Roof และถ้าใครอยากได้มุมส่วนตัวหน่อยก็จะมี Outdoor Private Lounge ซ่อนมาให้หลังพุ่มไม้อีก 2 จุด
ส่วนกลางภายในอาคารจะมีห้อง Games Room และ Screening Room ค่ะ
โถงลิฟต์ชั้น 27 จะมีห้อง Service อยู่ตรงข้ามตัวลิฟต์โดยสาร งานตกแต่งผนังใช้ Raw Concrete และหินอ่อน
ออกมาด้านนอกบนชั้น Rooftop ก็ยังใช้ส่วน Core เป็นสี Copper ล้อกับตรงโพเดียม และใช้โคมไฟ Fros รุ่น Baby Romeo เหมือนที่ชั้นสระว่ายน้ำ เวลาเปิดไฟตอนกลางคืนจะดูสวยมากค่ะ
สำหรับส่วนกลาง Outdoor ส่วนแรกคือ The Sky Lawn พื้นที่เปิดโล่งสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ
และมีเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อน White Carrera เพิ่มมาให้เป็น KHUN Bar ที่จะมีจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้านทุกวันเสาร์ที่ 1 ของเดือน โดยจะมีการจัด Movie Night พร้อมบริการเครื่องดื่ม Cocktail Sunset Night และของว่าง เสิร์ฟให้กับลูกบ้าน ส่วนในวันอื่นๆถ้าอยากใช้จัดปาร์ตี้เองก็สามารถจองกับส่วนนิติฯ ของโครงการได้
ติดกับ KHUN Bar ด้านหลังเป็น The Screening Yard ที่ใช้จัด Movie Night ติดจอทีวีขนาด 85 นิ้วมาให้ พร้อมที่นั่งหลายตัว
ติดกับโซนที่นั่งดูหนังเราจะเห็นฉากกั้นต้นไม้เขียวๆ
ด้านหลังฉากกั้นจะเป็น Out Door Private Lounge ไว้นั่งกันเงียบๆ เป็นส่วนตัว ซึ่งจะจัดมาให้ 2 จุดค่ะ
อีกฝั่งของชั้นนี้จะจัดเป็น The Fun Roof และ Out Door Private Lounge อีกจุด
The Fun Roof ตรงนี้ก็จัดมาให้ดูสนุกสมชื่อนะคะ สีสันสดใส เหมาะมาเล่นกันตอนเย็นๆ แดดร่ม ชั้นนี้ลมพัดดีมาก
ของที่จัดมาให้มีหมากรุกขนาดใหญ่ เล่นแล้วเหมือนได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ข้างๆก็จะมี xx จาก Barcelona ตั้งอยู่ในสโมสร Madrid เป็นตัวที่ตั้ง Outdoor ได้นะ ทนฝน/แดด/ลมค่ะ
ด้านใน Out Door Private Lounge ฝั่งนี้ค่ะ มีกล้องส่องทางไกลสีส้มมาให้ส่องกันขำๆ
ส่วนกลาง Indoor จากโถงลิฟต์แยกไป 2 ฝั่ง ซ้ายและขวา
เรามาดูทางฝั่งซ้ายมือกันก่อนเลย ด้านนี้เป็นห้อง The Eight Room สุดทางเดินเป็นห้องน้ำชาย
The Eight Ball เป็นห้องพูล ในห้องเก็บเสียงดีมากเพราะผนังทั้งสามด้านบุด้วยหนังแท้หมดเลย
พระเอกของห้องเป็นโต๊ะพูลสั่งทำพิเศษแบบ Bespoke โดย Jonathan Franc ขนาด 6 ฟุต ทำจากไม้วอลนัท ดีไซน์ขาโต๊ะทรง Queen Anne เพิ่มความคลาสสิค และตรงพื้นผิว Top ใช้หินอ่อน ที่มีข้อดีคือพื้นผิวจะสมูทมาก
ส่วน Chandelier ด้านบนก็สั่งทำพิเศษเป็นแบบเป่าแก้ว รุ่น Andromeda Pulse
ข้างๆโต๊ะพูลมีเก้าอี้นั่งรับรองไว้ให้
ด้านหลังมีผนังซ่อนที่ใช้เก็บอุปกรณ์เล่นพูล
อีกมุมภายในห้องค่ะ
ติดกับห้อง The Eight Ball จะเป็นห้องน้ำชาย
ภายในห้องใช้หินอ่อนทั้งห้อง มีอ่างล้างมือไว้ให้ใช้งาน 1 จุด
ด้านในแบ่งเป็นโถปัสสาวะ และโถสุขภัณฑ์แบบ Wall Hung
ออกมาที่โถงทางเดิน อีกฝั่งก็จะมีส่วนกลางเป็นห้อง The Screening Room และห้องน้ำหญิง
ภายใน The Screening Room นี้จัดเป็นเป็นห้องดูหนังหรือจะเป็น Game Room ก็ได้ค่ะ โดยผนังในห้องจะใช้เป็น Acoustic Laminate ช่วยดูดซับเสียงและกันเสียงออกไปด้านนอกได้ดี
มีจอขนาดใหญ่ รองรับ Apple TV ดู Netflix ได้ และใช้เครื่องเสียงของ Bang & Olufsen
การออกแบบห้องนี้ได้แรงบรรดาลใจจากเป็นบ้านสไตล์ยุโรป ใช้หลังคาทรงสามเหลี่ยมสูง ให้ห้องดูโปร่ง และใช้ Chandelier รุ่น The King is Me ให้ความอบอุ่นสบายตา
เฟอร์นิเจอร์รุ่น WOW Sofa เป็นโซฟาที่นั่งแล้วสบายมากๆ โดยผ้าที่บุเป็น Polyurethane ด้านในเป็นไส้ขนห่าน และจะมี Side Table ติดตั้งมาให้ 3 ตัว สามารถใช้ชาร์จมือถือได้ด้วย Wireless Charger สะดวกเลยค่ะ
ติดกับห้อง The Screening Room เป็นห้องน้ำหญิงค่ะ
ด้านในใช้หินอ่อนจัดเต็มเหมือนกัน แยกโซนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์
แบบห้อง
มีแบบห้อง 4 แบบ หลายขนาด แบ่งเป็น 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom และ Penthouse ดังนี้
แปลนห้อง ขนาด 1 Bedroom 41.5 – 52.5 ตร.ม.
แปลนห้อง ขนาด 2 Bedroom 82 – 97.75 ตร.ม.
แปลนห้อง ขนาด 3 Bedroom 139.25 – 149.75 ตร.ม.
แปลนห้อง แบบ Penthouse 294 – 302.75 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการมีให้ชมในตอนนี้จะมีแบบเดียว คือห้อง 2 Bedrooms ขนาด 97.75 ตร.ม.
เริ่มจากประตูหน้าห้องได้เป็นบานทึบสีขาว สูง 2.65 ม. หน้าห้องมีโคมไฟ Fros ติดตั้งไว้ให้ทุกยูนิต
ป้ายเลขที่ห้องใช้เป็นแผ่นวัสดุเงาเหมือนกระจก พร้อมกริ่งกดเรียกเจ้าของห้อง แทนการเคาะประตู
ทุกห้องติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ใช้ระบบกุญแจ, คีย์การ์ด และ Password ได้
เข้ามาในห้องส่วนแรกจะเจอจอ Home Automation ของ Legrand ที่ควบคุมผ่านระบบมือถือได้ ทั้งการปิดเปิดไฟ/แอร์ และสามารถเซต Theme Lighting ได้ เป็นชุดๆ เช่น ถ้าเรากำลังจะออกจากบ้านก็สามารถกดปุ่มเดียว เปิดได้ทั้งห้อง หรือถ้าจะดูหนังก็สามารถตั้งให้ชุดไฟในห้องหรี่ลงได้ตามความต้องการ
พื้นห้องยกขึ้นมาจากพื้นโถงด้านนอก 1 สเต็ป
เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงหน้าห้องเล็กๆ พื้นปูด้วยไม้ Merbau หรือ Engineering Wood หนา 14 มม. เป็นไม้ชนิดที่ใช้ทำเสากระโดงเรือหรือรถ มีความแข็งแรงทนทาน, ทนความร้อนและชื้นเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
ฝ้าเพดานตรงส่วนนี้จะดรอปลงมาเพราะเป็นจุดติดตั้งแอร์แบบคอนซีล มีความสูงฝ้าที่ 2.7 ม. ส่วนความสูงฝ้ามาตรฐานในห้องอยู่ที่ 3 ม. และระเบียง 2.9 ม.ค่ะ
เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงกว้างๆ แบ่งฟังก์ชั่นเป็นห้องนั่งเล่น, ห้องทานอาหาร และครัวเปิด
การจัดฟังก์ชั่นในห้องจริงจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนเลยเพราะห้องที่นี่ขายแบบ Fully Fitted มีเฉพาะชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานค่ะ
สำหรับการจัดฟังก์ชั่นในห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟา 4 – 5 ที่นั่งได้ สบายๆ
ฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวี หรือจะติดแบบแขวนผนังก็ทำให้ห้องดูโล่งดีค่ะ
ติดกับห้องนั่งเล่นแบ่งเป็นโซนห้องทานอาหารทางซ้ายมือ และครัวทางขวามือ
พื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารสามารถใช้โต๊ะขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้ กำลังดี
ระยะการใช้งานสำหรับโต๊ะ 6 ที่นั่ง ยังเหลือพื้นที่ให้ลากเก้าอี้เข้าออกได้สบายๆ
ส่วนครัวทางโครงการจะมี Built – in มาให้ตามนี้เลย เป็นครัวเปิดสวยๆ มี Kitchen Island (เฉพาะห้อง 97.75 ตร.ม.ขึ้นไป ส่วนห้อง 82 ตร.ม.ได้เป็นครัวไทยค่ะ) ใช้หินอ่อน Arabescato Chiaro สายแร่จะสีอ่อนกว่าที่ใช้ในส่วนกลาง
ด้านหน้าเป็นกระจก Super Clear White Satin Glass เป็นกระจกที่มีผิวสัมผัสนุ่มเหมือนซาติน เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและไม่เกิดรอยนิ้วมือ
ซิ้งค์ล้างจานที่ติดตั้งมาให้ ใช้ของ Foster ขนาดใหญ่เลยทีเดียว มีความพิเศษที่เวลาเปิดใช้งานเราจะได้ยินเสียงน้ำเบามากๆ และตัวพื้นผิวจะ Drain น้ำได้ดี ไม่มีคราบน้ำเกาะอยู่ภายในซิ้งค์ เพราะทำ Slope มาให้ทั้ง 4 ด้าน ส่วนตัวก๊อกก็ยังสามารถปรับระดับก๊อกน้ำ และหมุนไปทิศทางต่างๆได้ ให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านล่างเคาน์เตอร์ก็จะแบ่งเป็นตู้เก็บของพร้อมชั้นวางแก้ว, จาน ชาม พร้อมลิ้นชักวางถังขยะด้วย
ชุดครัวด้านหลังก็จะได้เต็มชุดแบบนี้ หน้าบานตู้ทั้งหมดเป็น Semi – Hi Gloss ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Smeg ประกอบด้วยตู้เย็น Built – in, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน, Semi – Oven
ตู้เย็น Built – in ตามขนาดตู้ จูของได้เยอะมากๆ ด้านล่างเป็นช่องแช่แข็ง
Top เคาน์เตอร์ครัว และ Backsplash ใช้หินอ่อนแบบเดียวกับตัว Island ติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบ Induction เหนี่ยวนำเฉพาะพื้นผิวหรือวัสดุที่เป็นโลหะ มือสัมผัสได้ ไม่ร้อน
ด้านบนเป็นตู้เก็บพวกของกระจุกกระจิก
ด้านล่างแบ่งเป็นลิ้นชักพร้อมไฟติดตั้งมาให้แบบนี้ จะได้หาของได้สะดวก
ข้างๆมีตู้อีกชุด
พร้อม Semi – Oven อบหรือกริลล์ได้เลย
ติดกับพื้นที่โถงพักผ่อน เป็นส่วนของระเบียง เป็นประตูสูงถึงฝ้าเพดานเลย ทำให้ห้องดูสูงโปร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งวัสดุของประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกในห้องพักใช้ Insulated Glass เป็นกระจกสุญญากาศหนา 3 ชั้น กันความร้อนและเสียงได้ดีมาก
ระเบียงห้องนี้กว้าง 7.6 ม. ใช้งานได้เต็มพื้นที่เลย เพราะไม่ต้องแบ่งไปใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ จะวางโต๊ะกาแฟซักชุด หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มสีเขียวให้กับห้องก็ได้
ราวกันตกใช้กระจกนิรภัย เปิดให้เห็นวิวกว้างๆ ไม่บังสายตา ด้านบนฝ้าใช้ Copper เข้ากับรูปแบบของตัวโครงการ
วิวห้องนี้จะเป็นวิวฝั่งถนนเอกมัย
กลับเข้ามาในห้อง เราไปดูในส่วนห้องนอนและห้องน้ำกันต่อ
เริ่มที่ห้องนอนรองกันก่อน
ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ค่ะ แต่ถ้าใครอยู่ 1 – 2 คน ใช้ห้องนอนเดียว ก็สามารถปรับเปลี่ยน ใช้เป็นห้องทำงานหรืออ่านหนังสือได้
หลังประตูทางเข้าของจริงจะเป็นพื้นที่เว้าเข้าไปในกำแพง สามารถทำเป็นชั้นวางของได้
ห้องนี้ก็จะมีแอร์คอนซีลติดตั้งมาให้เรียบร้อย ถ้าจัดเป็นห้องทำงานก็มีพื้นที่พอสมควรเหมือนกันนะ วางโต๊ะและตู้ได้เยอะเลยค่ะ
ช่องแสงในห้องได้เป็นบานใหญ่ สูงจรดฝ้าเช่นกัน มองเห็นวิวเมืองได้เต็มตา รับแสงะรรมชาติเข้าห้องได้เต็มที่ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดระบายอากาศได้
ฝั่งตรงข้ามห้องนอนรองก็จะเป็นห้องน้ำ
พื้นและผนังห้องน้ำใช้หินอ่อน Arabescato Chiaro ทั้งหมด โดยพื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นด้านนอกนิดหน่อย กันเรื่องน้ำกระเซ็นออกมาด้านนอก
ภายในห้องน้ำทำออกมาสวยหรู สุขภัณฑ์และโคมไฟที่เห็นได้ตามนี้เลย YOO Studio เลือกมาให้ทั้งหมด
อ่าล้างมือได้มาพร้อมเคาน์เตอร์ไม้มะฮอกกานี ขนาดอ่างกว้างพอสมควร ตัวก๊อกของ Axor ที่ออกแบบโดย Philippe Starck สามารถปรับน้ำร้อน น้ำเย็นได้
ใต้อ่างเป็นลิ้นชักแบ่งเป็นช่องๆให้เก็บของได้เป็นระเบียบ ไม่มีเครื่องทำน้ำร้อนให้เกะกะค่ะ เพราะเค้าเดินระบบไว้ที่ส่วนกลางด้านนอกหมดแล้ว
กระจกใช้ไม้มะฮอกกานีเหมือนกัน มีช่องเก็บของด้านหลัง
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush ยี่ห้อ Duravit
ห้องอาบน้ำแยกเป็นสัดส่วน กั้นด้วยกระจกนิรภัย บานประตูแบบผลัก
มือจับวางพาดผ้าขนหนูได้
ในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวให้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ขนาดใหญ่ ปรับอุณหภูมิน้ำได้ จาก Hansgrohe ด้านหลังมีผนังเจาะช่องมาให้ใช้วางของเพิ่มได้อีก
ขนาดห้องอาบน้ำกว้างเลย ยืนอาบได้สบายๆ
ถัดเข้ามาเป็นห้อง Master Bedroom หน้าห้องมีตู้ Laundry
พื้นด้านในปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย พร้อมแบ่งชั้นวางของและตะแกรงของ HAFELE นอกจากนั้นก็จะมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้ด้านบนด้วย
เข้ามาในห้อง Master Bedroom ขนาดห้องกว้างขวาง มีห้องน้ำในตัว
พื้นที่ในห้องวางเตียงคิงส์ไซส์ได้สบายๆค่ะ มีพื้นที่ข้างเตียง 2 ฝั่ง สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้
ปลายเตียงเดินสายสัญญาณและเต้าเสียบรองรับการติดตั้งทีวี
ช่องแสงในห้องเป็นหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน มองเห็นวิวด้านนอกได้เต็มๆตา ระบายอากาศได้ดี
พื้นที่อีกฝั่งเหลือค่อนข้างกว้าง สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ มีระยะให้ยืนแต่งตัวได้สบายๆ
ห้องน้ำของ Master Bedroom ใช้หินอ่อนทั้งห้องเหมือนกันค่ะ สุขภัณฑ์ก็ติดตั้งมาให้ตามนี้เลย ที่พิเศษคืออ่างล้างมือ His & Hers พร้อมอ่างอาบน้ำริมหน้าต่าง
อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ใช้แบบเดียวกับที่ห้องน้ำด้านนอก
อ่างอาบน้ำเซรามิคทั้งชิ้น ยี่ห้อ Kohler ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำและฝักบัว ขนาดสามารถลงไปนอนแช่ได้เลย
โดยอ่างอาบน้ำจะอยู่ติดกับช่องแสงบานใหญ่ ซึ่งข้อดีของการมีหน้าต่างบานใหญ่ๆในห้องน้ำ นอกจากเรื่องความสวยงามที่เราจะได้รับจากวิวด้านนอกแล้ว ก็ยังสามารถรับแสงแดด ใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับในห้องน้ำได้ดีอีกด้วยนะ
อีกฝั่งก็จะมีห้องอาบน้ำแยกมาให้อีก 1 ห้อง
ด้านในให้มาเหมือนห้องน้ำด้านนอกเลยค่ะ
ขนาดห้องอาบน้ำกว้าง ยืนอาบได้สบายๆ
ราคา (ธ.ค.2562)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ KHUN by YOO จัดว่าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง สะดวกครบครันไปด้วยร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ในระยะเดินใกล้ๆมีร้านอาหารร้านอร่อยๆและห้างหรือแหล่งช้อปปิ้งเต็มไปหมด ทั้ง J Avenue, The Commons, The Taste, Eight, Donki Mall ใกล้ๆก็เป็นซอยเอกมัย ซึ่งเป็นโซนที่มีชื่อเสียงที่อยู่แล้ว เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย ใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฮงก์เอาท์ นัดเจอกันร้านอาหารสวยๆ โซนนี้มีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์มากมาย เป็นหนึ่งในโซนที่โดดเด่นเรื่องไลฟ์สไตล์ที่มีสีสันและหรูหราเป็นที่นิยมที่สุดในกรุงเทพฯแห่งนึงเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว :โครงการตั้งอยู่ติดถนนซอยทองหล่อ จัดเป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบาย และมีทางเลือกในการเข้าออกเยอะค่ะ ออกซอยไปเป็นถนนใหญ่สุขุมวิทฝั่งขาออก วิ่งออกเมืองไปอ่อนนุช, บางนา, สมุทรปราการได้ วิ่งเข้าเมืองโซน CBD อย่างสุขุมวิทได้สะดวก ใกล้ พร้อมพงษ์, อโศก ในระยะขับรถเพียง 3 – 10 นาทีถึงเท่านั้น
ทำเลตรงนี้มีจุดขึ้นทางด่วนกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้ง ทางด่วนเพลินจิต, พระราม 4, เอกมัย – รามอินทรา, สุขุมวิท 50 ฯลฯ แต่เนื่องจากย่านนี้รถค่อนข้างติดค่ะ เพราะทุกเส้นอยู่ในตัวเมืองทั้งนั้น แต่โดยรวมการเดินทางก็สะดวกค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : เป็นทำเลที่คนไม่ใช้รถมีความสะดวกสบายสูง นอกจากอยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อใแล้ว โซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ขับผ่านอยู่เรื่อยๆ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้า อยากไปช็อปปิ้ง ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท จาก BTS สถานีอโศกได้
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือไปสนามบินบ่อยๆ ก็มีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีรามคำแหงในระยะประมาณ 3.2 กม. หรือระยะขับรถเพียง 7 – 10 นาทีเท่านั้น นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สบายๆ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : แน่นอนว่างานออกแบบของโครงการนี้ถือเป็นจุดเด่นมากๆ ทุกรายละเอียดจะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ทั้งงาน Craft และวัสดุที่สั่งทำพิเศษ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ทั้งโครงการถูกสั่งมาพิเศษ ที่ไม่ใช้งานแพทเทิร์นทั่วๆไป ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในโครงการไม่น่าเบื่อ ทุกมุมของส่วนกลางจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน และที่โดดเด่นอีกอย่าง เป็นความมีสเน่ห์ของแสนสิริที่เพิ่มมูลค่าให้กับโครงการนี้คือเรื่องของ Service ต่างที่จัดมาให้เต็มรูปแบบ ทั้ง Concierge, Traffic Assistance, Alphard Limousine และบริการ Nitro Coffee พร้อมของว่าง
ตัวห้องมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 1 Bedroom ถึง 3 Bedrooms และ Penthouse ทุกแบบเน้นช่องแสงขนาดใหญ่ เต็มถึงฝ้าเพดาน ทำให้ห้องโปร่งโล่งและสว่างด้วยแสงธรรมชาติ โดยตัวห้องขายแบบ Fully Fitted โดยจะมาพร้อมกับ ชุดครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด Top หินอ่อนแท้, ชุดสุขภัณฑ์, ระบบ Home Automation และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งสเป็ควัสดุมาดีมากตามมาตรฐานแสนสิริ แต่ที่โดดเด่นขึ้นมา คือการเลือกของที่ดีไซน์โดย Philippe Starck สวยและพรีเมียม
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน :ออกแบบและตกแต่งมาได้มีความเฉพาะตัว สวย และน่าใช้งานในทุกจุดเลยค่ะ โดยส่วนกลางหลักจะอยู่ชั้น Top Floor คือ 24, 25 และ 27 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิ, Fitness, Reading Lounge ที่บริการ Nitro Coffee พร้อมขนมจากร้านดังในทองหล่อ
ส่วนชั้นบนสุดจะมี Screening Room และ Game Room และมีพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งอย่าง The Sky Lawn + KHUN Bar, The Screening Yard และโซนเล่นเกมส์สนุกๆ The Rooktop และถ้าใครอยากได้มุมส่วนตัวหน่อยก็จะมี Outdoor Private Lounge
ที่จอดรถอัตโนมัติ 102% กล้องวงจรปิด CCTV และ Digital Door Lock ทุกห้อง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | – | ทำเลโซนพรีเมียม ใจกลางทองหล่อ ใกล้ BTS ใกล้ทางด่วน ใกล้แอร์พอร์ตลิงก์ รายล้อมไปด้วยร้านอาหารดีๆ และไลฟ์สไตล์ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง |
การเดินทาง ใช้รถ | – | เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ไปไหนมาไหนง่าย แต่ต้องระวังรถติด |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | – | สะดวกมาก มีวินมอเตอร์ไซค์,รถกะป๊อ, รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ และรถไฟฟ้าสายสีเทา แท็กซี่เยอะ |
ห้องและวัสดุ | – | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ช่องแสงขนาดใหญ่ ขายแบบ Fully Fitted วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี สเป็คอุปกรณ์เกรดพรีเมียมนำเข้าเยอะมาก |
สิ่งอำนวยความสะดวก | – | มีให้ครบครันและออกแบบสวยทุกจุดได้น่าใช้งาน มาพร้อม Service เต็มรูปแบบจากแสนสิริ |
ความคุ้มค่ากับราคา | – | เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใจกลางทองหล่อ งบประมาณสูง ชอบงานดีไซน์ที่แตกต่าง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | – | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Website : https://www.sansiri.com/condominium/khunbyyoo/th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น