รีวิว ไนท์บริดจ์ สมุทรปราการ ซิตี้ Knightsbridge Samutprakan City คอนโดพร้อมอยู่ ติด MRT ทิพวัล 0 เมตร

โพสโดย : admin | วันที่ : 29 March 2022
หมวดหมู่ : EP, คอนโด, คอนโด Origin ออริจิ้น, คอนโด สมุทรปราการ

รีวิว ไนท์บริดจ์ สมุทรปราการ ซิตี้ Knightsbridge Samutprakan City คอนโดพร้อมอยู่ ติด MRT ทิพวัล 0 เมตร

Written by Gift Pannida

สวัสดีผู้อ่าน CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพามาชมคอนโดพร้อมอยู่ โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้ จาก Origin Property ตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

เดินทางสะดวกอยู่ใกล้ถนนสุขุมวิท และเชื่อมต่อถนนศรีนครินทร์ ติดทางขึ้นสถานีไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีทิพวัล เพียง 1 สถานีถึง Interchange Station จุดเชื่อมต่อ BTS สำโรง

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบครบ โดยจะมีทั้งในระยะใกล้ อย่าง Palm Island Mall, Imperial World สำโรง, Big C Jumbo, รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล, รร.เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ และ รร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ และโซนใหญ่ ๆ ข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งศรีนครินทร์ และบางนา

ไนท์บริดจ์ สมุทรปราการ ซิตี้ เป็นคอนโด High Rise 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดิน 1-3-54 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 474 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 23.5-55 ตร.ม.

ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมระบบ Home Automation ควบคุมการเปิดปิดเครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่างในห้อง และ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะระบบ Android Touchscreen สามารถเชื่อมต่อระบบ Internet ไว้เช็ก Email, Facebook, Youtube, Line ได้ โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Visitor Lounge, Exclusive Residential Lounge, Co-working Space, Co-kitchen Space, Meeting Room, Sky Lounge, Sky Garden, Twilight Edge Pool, Private Jacuzzi, Fitness, Garden, Jogging track, Smart Locker, EV Charger, Auto Parking 49%, Easy Pass, CCTV, รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท* (มี.ค.65)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3u8slYS

สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ


โครงการ Origin Place ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
ออริจิ้น เพลส รามคำแหง 153
โซ ออริจิ้น เกษตร อินเตอร์เชนจ์
ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท – แพรกษา
ไนท์บริดจ์ สมุทรปราการ ซิตี้
ออริจิ้น เพลส พหลโยธิน 59 สเตชั่น
ออริจิ้น เพลย์ บางขุนนนท์
ออริจิ้น เพลส บางนา
ดิ ออริจิ้น บางแค
ออริจิ้น เพลส เพชรเกษม
ออริจิ้น ปลั๊ก&เพลย์ ศรีนครินทร์
บรอมตัน เพ็ท เฟรนด์ลี่ สุขุมวิท 107
บริกซ์ตัน เพ็ทแอนด์เพลย์ สุขุมวิท 107
บริกซ์ตัน สุขุมวิท 107
ดิ ออริจิ้น ปลั๊ก&เพลย์ สิรินธร สเตชั่น
บริกซ์ตัน เพ็ท แอนด์ เพลย์ พหลโยธิน 50 สเตชั่น



ชื่อโครงการ ไนท์บริดจ์ สมุทรปราการ ซิตี้ Knightsbridge Samutprakan City
เจ้าของโครงการ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ / Origin Property PCL.
เนื้อที่ทั้งหมด 1-3-54 ไร่
จำนวนตึก 1 อาคาร
จำนวนชั้น 35 ชั้น
จำนวนห้อง
  • ห้องชุดพักอาศัย 474 ยูนิต
  • ร้านค้า 1 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • Studio ขนาด 23.5-26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 1 ขนาด 27-28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31-39 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 53-55 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด Auto Parking 49%
จำนวนลิฟต์
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
  • ลิฟต์ขนของ 1 ตัว
โซน สุขุมวิท-เทพารักษ์
เส้นทางคมนาคม
  • ทางขึ้นสถานี MRT ทิพวัล : 0 ม.
  • รถไฟฟ้า MRT สถานีทิพวัล : 100 ม.
  • รถไฟฟ้าสายสีเขียว Interchange สำโรง : 1.7 กม.
  • ถนนสุขุมวิท
  • ถนนเทพารักษ์
  • ถนนศรีนครินทร์
  • ทางด่วนกาญจนาภิเษก
  • ทางด่วนเฉลิมมหานคร
  • ทางด่วนบูรพาวิถี
ที่ตั้ง ถนนเทพารักษ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
กำหนดการ สร้างเสร็จพร้อมอยู่
ปีที่สร้างเสร็จ ปี 2564
ราคา เริ่ม 2.79 ล้านบาท* (มี.ค.65)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เฉลี่ยประมาณ 106,000 บาท/ตร.ม.* (มี.ค.65)
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม.
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ห้างสรรพสินค้า

  • Palm Island Mall, Big C Market : 100 ม.
  • สำโรงเซ็นเตอร์ : 2.9 กม.
  • Imperial World สำโรง : 2.9 กม.
  • Big C Jumbo : 3.2 กม.
  • Jas Urban : 3.5 กม.
  • Lotus’s ศรีนครินทร์ : 3.6 กม.
  • ตลาดเอี่ยมเจริญ : 4.4 กม.
  • Food Land : 5.6 กม.
  • Bangkok Mall : 6 กม.
  • Makro ศรีนครินทร์ : 6.2 กม.
  • Big C ศรีนครินทร์ : 6.4 กม.
  • Central บางนา : 8.7 กม.
  • Big C บางนา : 8.8 กม.
  • Paradise Park ศรีนครินทร์: 9.2 กม.
  • Paradise Place ศรีนครินทร์: 9.6 กม.
  • Seacon Square ศรีนครินทร์: 10.4 กม.

สถานศึกษา

  • รร.เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ : 1.4 กม.
  • รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล : 1.8 กม.
  • รร.อัสสัมชัญ สมุทรปราการ : 2 กม.
  • รร.บางกอกพัฒนา : 7.9 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.จุฬารัตน์ 2 : 500 ม.
  • รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.2 กม.
  • รพ.มนารมย์ : 4.8 กม.
  • รพ.ศิครินทร์ : 6.2 กม.
  • รพ.ไทยนครินทร์ : 9.2 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่น ๆ

  • Bitec บางนา : 10.3 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
  • Visitor Lounge
  • Exclusive Residential Lounge
  • Garden
  • Jogging track
  • Co-Working Space
  • Co-Kitchen Space
  • Meeting Room
  • Sky Lounge
  • Sky Garden
  • Swimming Pool
  • Private Jacuzzi
  • Fitness
  • Skyscapper
  • Mail Box
  • Smart Locker
  • EV Charger
  • Auto Parking
  • Easy Pass
  • ระบบ CCTV / Access Card
Tel 020-300-000
Website https://www.origin.co.th

ที่ตั้งโครงการ

พิกัดโครงการ : 13.637661, 100.608785
ถนนเทพารักษ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้ ตั้งอยู่ติดถนนเทพารักษ์ช่วงตอนต้น ใกล้กับทางฝั่งสุขุมวิท ทำเลบนเส้นเทพารักษ์เป็นทำเลที่มีความเป็นชุมชนดั้งเดิมที่รองรับการขยายตัวมาจากเส้นสุขุมวิท และเส้นศรีนครินทร์ รวมถึงทางฝั่งฝั่งบางพลี และบางบ่อซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรม

ในปัจจุบันจะมีความเป็นชุมชนเดิม ที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์, อะพาร์ตเมนต์, คลังสินค้า และโครงการจัดสรรแนวราบ ผสมผสานกับความเป็นเมืองที่ขยายมาตามแนวเส้นรถไฟฟ้า ตั้งแต่มีการเข้ามาของ BTS เรื่อยมาจนปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังก่อสร้างอยู่เข้ามาเสริมจึงทำให้เกิดรูปแบบที่อยู่อาศัยที่เข้ามารองรับการขยายตัวของเมืองอย่างโครงการคอนโดมิเนียมที่เน้นเกาะเส้นแนวรถไฟฟ้า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโครงการ KnighstBridge สมุทรปราการ ซิตี้ ที่เราจะมารีวิวในวันนี้นั่นเองค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตัวถนนเทพารักษ์เป็นถนนใหญ่ 6-8 ช่องจราจร สามารถรองรับปริมาณรถได้เหมาะสมกับศักยภาพของการเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักได้หลายเส้น ทั้งถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนถนนตำหรุ-บางพลี, ถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ, ทางหลวงหมายเลข 1006, ถนนบางพลี-กิ่งแก้ว และสิ้นสุดที่ถนนปานวิถี (ถนนบางบ่อ-คลองด่าน)

ที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนเทพารักษ์ที่ห่างจากถนนสุขุมวิท 1.7 กม. ถือเป็นทำเลช่วงต้นของถนนเทพารักษ์ ใกล้ MRT ทิพวัล จุดที่ตั้งของโครงการจึงเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกค่ะ โดยถ้าเราจะวิ่งเข้าเส้นสุขุมวิทจะต้องไปกลับรถประมาณ 350 ม. จากนั้นวิ่งตรงเข้าสุขุมวิท ใช้เส้นทางนี้วิ่งเข้าตัวเมืองได้เลย ไปเอกมัย, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก, สยาม หรือเข้าถนนพระรามสี่ตรงแถวแยกพระโขนงเพื่อไปยังโซน สาทร สีลมก็ได้ หรือจะใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งออกเมืองก็สามารถวิ่งยาวออกชลบุรีได้เลย

ส่วนการเดินทางออกไปทางฝั่งนอกเมืองก็วิ่งออกจากโครงการแล้วขับตรงไปเข้าถนนเส้นทางที่กล่าวไปข้างต้น จะเชื่อมได้หลายโซน ทั้งศรีนครินทร์, ลาดกระบัง, ร่มเกล้า ส่วนถนนกาญจนาภิเษกวิ่งไปออกรังสิต, ปทุมธานี, อยุธยาได้ อีกฝั่งวิ่งไปโซนบางขุนเทียน, บางแค ยาวไปทางนนทบุรีได้เลย

นอกจากนั้นแล้วยังมีทางด่วนรอบ ๆ ให้เลือกใช้งาน เส้นทางแรกที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนกาญจนาภิเษกห่างจากโครงการประมาณ 5 กม. โดยวิ่งมาออกถนนสุขุมวิท วิ่งฝั่งขาออกขึ้นทางด่วนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งใต้ ด่านปากน้ำ 1

อีกเส้นทางคือทางด่วนเฉลิมมหานครห่างจากโครงการประมาณ 6.3 กม. จุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ตรงแยกบางนาค่ะ

และทางด่วนบูรพาวิถี โดยเราวิ่งเข้าเส้นบางนา-ตราด เพื่อตรงไปขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี จะมีระยะจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 8.2 กม. ค่ะ

สรุปแยก และถนนสำคัญรอบโครงการ

  • ถนนสุขุมวิท : 1.7 กม.
  • ถนนศรีนครินทร์ : 2.2 กม.
  • แยกเทพารักษ์ – ศรีนครินทร์ : 2.2 กม.
  • ถนนปู่เจ้าสมิงพราย : 2.7 กม.
  • ถนนกาญจนาภิเษก : 4.2 กม.
  • ถนนบางนาตราด : 5.7 กม.
  • ถนนสรรพาวุธ : 5.7 กม.
  • แยกบางนา : 5.7 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้คืออยู่แทบจะติดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีทิพวัลเลยค่ะ ในปัจจุบันถือเป็นโครงการที่อยู่ใกล้สถานีทิพวัลที่สุด ในระยะที่เดิน 0 เมตร ติดทางขึ้นสถานี และเดินถึงตัวสถานีเพียง 100 ม. เท่านั้น นั่งเพียง 1 สถานีไปลงที่สถานีสำโรงจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS สำโรง ซึ่งจะ Interchange กับ BTS สำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็ขึ้นตัวสถานีใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะใกล้เปิดใช้งานเร็ว ๆ นี้ (ประมาณปลายปี 2565) ค่ะ

นอกจากนั้นบนถนนเทพารักษ์จะมีคนอยู่อาศัยเยอะพอสมควร และถือเป็นถนนเส้นหลักอีกเส้นทางนึง จึงมีรถโดยสารวิ่งผ่านไปมาตลอด โดยเฉพาะ Taxi และพี่วิน จะเรียกไป BTS สำโรงเลยก็สะดวกรวดเร็วดี

ใกล้ ๆ โครงการมีป้ายรถเมล์ ทั้ง 2 ฝั่งถนน มีสะพานลอยเดินข้ามได้สะดวกแต่จะไม่ได้มีตัวเลือกสายรถเมล์มากนัก ถ้าต้องการใช้รถเมล์จริง ๆ ก็แนะนำให้ไปขึ้นตรงเส้นสุขุมวิทจะมีเยอะกว่าทั้งขาเข้าและออกเมือง นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางซึ่งก็เป็นที่นิยมของคนในพื้นที่คือรถสองแถวสายสำโรง-เปรมฤทัย ซึ่งจะวิ่งไปส่งถึง BTS สำโรงด้วยค่ะ ถ้าจะใช้ไป BTS ก็ข้ามมาฝั่งตรงข้ามโครงการเพื่อรอขึ้นรถได้เลย

ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลจากโครงการจะมี Palm Island Mall มี Big C Market และศูนย์อาหารที่ด้านในมีร้านอาหารหลายร้านให้เลือกทาน เป็นที่พึ่งพาในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีค่ะ ไม่ต้องออกไปไหนไกลบ้าน ส่วนสภาพโดยรวมของถนนเทพารักษ์จะมีความเป็นชุมชน พื้นที่ติดถนนก็มีอาคารพาณิชย์ ร้านค้าและร้านอาหารเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป ถ้ากด Application สั่งอาหารก็จะมีร้าน Local ให้เลือกทานอยู่พอสมควรค่ะ

รวมถึงมีแหล่งงานที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการอย่าง Hino Motors, Denso Thailand และมีสถานศึกษาที่ใกล้โครงการ เด็ก ๆ ไปเรียนได้สะดวก ทั้ง รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล, รร.เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ และ รร.อัสสัมชัญสมุทรปราการ

ความอุดมสมบูรณ์หลัก ๆ คิดว่ามาใช้ทางฝั่งสุขุมวิทก็จะสะดวกและมีให้เลือกหลากหลายกว่า แค่ออกมาประมาณ 3 กม. ก็มีทั้ง Imperial World สำโรง และ Big C Jumbo ให้เดินซื้อของเข้าบ้าน หรือจะเดินเล่น Shopping และดูหนังก็ถือว่ามีครบครันแบบไม่ไกลบ้าน

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในโซนใกล้เคียงที่ไปใช้งานได้สะดวกก็จะมีทั้งฝั่งศรีนครินทร์ ที่ใกล้โครงการหน่อยจะมี Lotus’s, Jas Urban, Food Land ขยับขึ้นไปนิดจะมี Makro, Big C, Paradise Park, Paradise Place, Seacon Square

และอีกโซนที่วิ่งไปได้สะดวกคือเส้นบางนา-ตราด ที่มีห้างใหญ่หลายแห่ง ทั้ง Central บางนา, Big C, Mega และ Ikea บางนา และในอนาคตจะมี Bangkok Mall ตั้งอยู่ใกล้ ๆ แยกบางนา โดยที่ตัว Bangkok Mall ภายในจะมีส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และมีส่วนที่เป็น Bangkok Arena ด้วยความจุ 16,000 ที่นั่ง เหมาะกับการจัดงานคอนเสิร์ต แข่งขันกีฬา และ Event ใหญ่ หากโครงการเสร็จสมบูรณ์จะเป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

  • ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าทิพวัล : 0 ม.
  • BTS สำโรง : 1.7 กม.

ห้างสรรพสินค้า

  • Palm Island Mall, Big C Market : 100 ม.
  • สำโรงเซ็นเตอร์ : 2.9 กม.
  • Imperial World สำโรง : 2.9 กม.
  • Big C Jumbo : 3.2 กม.
  • Jas Urban : 3.5 กม.
  • Lotus’s ศรีนครินทร์ : 3.6 กม.
  • ตลาดเอี่ยมเจริญ : 4.4 กม.
  • Food Land : 5.6 กม.
  • Bangkok Mall : 6 กม.
  • Makro ศรีนครินทร์ : 6.2 กม.
  • Big C ศรีนครินทร์ : 6.4 กม.
  • Central บางนา : 8.7 กม.
  • Big C บางนา : 8.8 กม.
  • Paradise Park ศรีนครินทร์: 9.2 กม.
  • Paradise Place ศรีนครินทร์: 9.6 กม.
  • Seacon Square ศรีนครินทร์: 10.4 กม.

สถานศึกษา

  • รร.เทพศิรินทร์ สมุทรปราการ : 1.4 กม.
  • รร.เซนต์โยเซฟทิพวัล : 1.8 กม.
  • รร.อัสสัมชัญ สมุทรปราการ : 2 กม.
  • รร.บางกอกพัฒนา : 7.9 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.จุฬารัตน์ 2 : 500 ม.
  • รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.2 กม.
  • รพ.มนารมย์ : 4.8 กม.
  • รพ.ศิครินทร์ : 6.2 กม.
  • รพ.ไทยนครินทร์ : 9.2 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่น ๆ

  • Bitec บางนา : 10.3 กม.

การเดินทาง

การเดินทางวันนี้ เราเริ่มต้นกันบน ถนนสุขุมวิท > ถนนเทพารักษ์ > โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้

เริ่มการเดินทางกันบนถนนสุขุมวิท ใครขับมาจากในเมืองก็มุ่งหน้าสำโรงมาเลยค่ะ พอถึงแถวสำโรง เราก็จะผ่าน Imperial World สำโรง ทางขวามือ

ติดกับ Imperial World สำโรง จะมี Big C Jumbo ทั้ง 2 ห้างนี้จะอยู่ใกล้โครงการ แค่ 3 กม. เราสามารถมาซื้อของใช้ หรือมาดูหนังได้สะดวกเลย

ขับตรงต่อมาเรื่อย ๆ เราจะผ่าน BTS สำโรง

ถึงแยกตัดเทพารักษ์ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทพารักษ์ค่ะ

เข้ามาแล้วเราจะผ่าน MRT สำโรง ที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยสถานีนี้เป็นสถานี Interchange กับ BTS สำโรงค่ะ

ขับต่อมาเรื่อย ๆ ผ่านร้านก้ามปู ทางซ้ายมือ

เราจะสังเกตเห็นป้ายโฆษณาโครงการเป็นระยะ ๆ

จากถนนสุขุมวิทเข้ามาประมาณ 1.7 กม. ก็จะถึงทางเข้าโครงการค่ะ โดยที่นี่จะใช้ทางเข้าร่วมกัน 2 โครงการ คือ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ และ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้

เข้ามาภายในแล้วเราเลี้ยวขวาเข้า โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้ ได้เลยค่ะ


สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างมีความหลากหลายค่ะ ทั้งที่ดินเปล่า , บ้านพักอาศัยแนวราบ และบริษัทที่เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ โดย

  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับถนนเทพารักษ์ ฝั่งตรงข้ามเป็นหมู่บ้านทิพวัล และบริษัท Hino Motors
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ บริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร จำกัด

เรามาเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันต่อค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการ ติดกับถนนเทพารักษ์ซึ่งในปัจจุบันมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่แต่การจราจรก็ยัง Flow ได้เรื่อย ๆ เพราะยังใช้งานถนนได้ฝั่งละ 2 เลนค่ะ

ติดกับที่ดินโครงการทางฝั่งขวามือเป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่

พื้นที่ติดถนนมีสะพานข้ามฝั่งได้

ฝั่งตรงข้ามเป็นบริษัท Hino Motors

ถัดจากสะพานลอยมาจะมีป้ายรถเมล์ค่ะ เดินจากโครงการมารอขึ้นรถสองแถว หรือรถเมล์บริเวณนี้ได้

ภาพรวมบนถนนเทพารักษ์รอบ ๆ โครงการ

กลับมาที่ตั้งโครงการ เราเดินดูทางฝั่งซ้ายมือกันบ้าง

ติดกับที่ตั้งโครงการจะเป็นบริษัท สยามร่วมกิจสหมิตร จำกัด

จากโครงการเดินไปประมาณ 100 ม. ก็จะถึงตัวสถานี MRT ทิพวัล แต่ในอนาคตเมื่อสถานีเสร็จพร้อมใช้งานจะมีทางลงสถานีอยู่บริเวณหน้าโครงการเลยค่ะ

42

และเดินจากโครงการมาประมาณ 170 ม. ก็จะถึง Palm Island Mall ค่ะ เดินมาซื้อของใช้หรือหาข้าวทานได้สบาย ๆ เลย


ตัวโครงการ

โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้ เป็นโครงการคอนโด High Rise พร้อมอยู่ สูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวนยูนิตพักอาศัย 474 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-3-54 ไร่

การออกแบบโครงการมาในสไตล์โมเดิร์นใช้โทนสีเทาเข้ม เทาอ่อนและขาว ฟังก์ชันภายในตัวอาคารจะแบ่งพื้นที่ส่วนกลางกระจายไว้ที่ชั้น 1-2, 11, 30 และ Rooftop ทำให้การเข้าใช้งานส่วนกลางมีการเฉลี่ย ๆ กันไปในแต่ละชั้น ไม่กระจุกรวมอยู่ที่เดียวกันทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานค่ะ

ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ ชั้น 11-29 และ 31-35 ส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 3-10 เป็น Auto Parking ทั้งหมด รวมประมาณ 49%

มาดู Master Plan กันก่อนค่ะ ตัวอาคารจะจัดวางตามแปลงที่ดินเลย คือจะออกแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทางเข้า-ออก 2 จุด จุดแรกเป็น Main Gate ติดถนนทางเข้าโครงการ และจุดที่ 2 อยู่ติดฟุตบาทถนนเทพารักษ์ เป็นทางเข้าสำหรับคนเดินเข้าโครงการ

ภายในโครงการเข้ามาจะเจอถนนที่วิ่งเข้าไปยังจุด Drop Off และเข้าที่จอดรถ Auto Parking ที่ด้านข้างอาคาร โดยที่นี่จะมีลิฟต์จอดรถ 3 Slots ค่ะ

สำหรับพื้นที่ด้านในที่ดินโครงการจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ซึ่งจะมีโซนด้านนอกจัดเป็นสวนหย่อมขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ เค้าจะมีมุมต่าง ๆ ให้นั่งเล่นพักผ่อน

และภายในตัวอาคารจะแบ่ง Lobby เป็น 2 ส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน โดย Lobby ด้านหน้า จะเป็น Lobby สำหรับรับรองแขกของลูกบ้าน รวมถึง Visitor ที่มาติดต่อธุระที่โครงการ และมีช่องรับส่งอาหาร Delivery โดยที่ไม่ต้องออกไปนอกตัวอาคาร

และ Exclusive Residential Lounge สำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ ซึ่งการเข้า-ออก Lobby จะต้องใช้ Key Card คัดกรองเพื่อความปลอดภัยอีกชั้นค่ะ

เรามาเดินดูบรรยากาศโครงการจริงกันต่อเลยค่ะ เริ่มจากทางเข้าโครงการสำหรับคนเดินจะอยู่ติดฟุตบาทถนนเทพารักษ์ ทำเป็นซุ้มทางเดินเชื่อมเข้าไปถนนภายในโครงการ

ส่วนทางเข้าสำหรับรถยนต์จะอยู่ติดทางฝั่งถนนทางเข้าโครงการ

ด้านหน้ามีป้ายชื่อโครงการพร้อมจัดสวนให้บรรยากาศดูสดชื่น

ตัว Main Gate แยกทางเข้า-ออก ด้านข้างมีป้อม รปภ. ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ตัว Main Gate แยกทางเข้า-ออก ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นรั้วกั้นไม้กระดก และกล้อง CCTV โดยลูกบ้านใช้ Easy Pass แตะเข้าโครงการได้เลย ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการค่ะ

เข้ามาภายในโครงการจะเจอถนนปู Concrete Stamp

ฝั่งซ้ายวิ่งเข้าไปยังจุด Drop Off สำหรับรถโดยสารก็สามารถวนออกจากโครงการได้เลย

ส่วนลูกบ้านที่จะเข้าที่จอดรถขับตรงต่อเข้ามาค่ะ

เข้ามาบริเวณที่จอดรถจะเจอจุด EV Charger ซึ่งเค้าจะมีบริการ 2 ช่องจอด

มีอุปกรณ์ติดตั้งเรียบร้อย พร้อมใช้งานได้เลย

ถัดเข้ามาเป็นทางเข้าลิฟต์จอดรถ มีทั้งหมด 3 Slots ซึ่งลิฟต์แต่ละตัวจะใช้เวลาในการนำรถลงมาถึงชั้นล่างประมาณ 3 นาที ต่อรอบค่ะ

ด้านข้างมีหน้าจอแสดงสถานะที่จอดรถ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่สวนหย่อมแล้วค่ะ ซึ่งข้อดีของการใช้ที่จอดรถเป็น Auto ทั้งหมดคือไม่จำเป็นต้องทำถนนวิ่งรอบโครงการทำให้บริเวณรอบโครงการจะเหลือพื้นที่ไว้ทำสวนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแบบนี้ค่ะ

ภายในสวนจัดม้านั่ง, ทางเดินพักผ่อน และ Jogging Track

ด้านในสุดเป็นมุมสำหรับเด็ก ๆ จัดเป็นสนามเด็กเล่นปูพื้นยางกันกระแทก

เราเข้าไปดูภายในตัวอาคารกันต่อเลย โดยเราจะเข้าจากด้านหน้าอาคาร ไล่ไปที่ Lobby ด้านในค่ะ

เข้ามาส่วนแรกเราจะเจอกับ Grand Visitor Lounge ความสูงฝ้าเพดาน 8 ม. ตกแต่งผนังเดินเส้นไฟขึ้นสูงถึงฝ้า และตกแต่งด้วย Chandelier ที่ดีไซน์มาให้เข้ากับสไตล์ภายรวมทั้งหมด ดูหรูหรา

ภายใน Lobby ก็จะแยกมุมไว้ให้หลาย ๆ มุมค่ะ ทำให้ผู้ที่เข้ามาใช้งานไม่รู้สึกอึดอัดที่จะต้องนั่งรวมกับคนอื่น ๆ

ฝั่งขวาก็จะแยกเป็นมุมนั่งพักผ่อน 2 โซน

ด้านในสุดเป็นมุมนั่งรอรับอาหาร Delivery หรือนั่งรอรับพัสดุ โดยที่ด้านนอกหน้าต่างจะมีโต๊ะวางอาหารที่มาส่งไว้ด้วย ก็สามารถให้พี่ไรเดอร์วางไว้แล้วเราค่อยลงมาเอาก็ได้ค่ะ

เข้ามาด้านในจะมีห้องแยกสำหรับเก็บพัสดุ

ภายในห้องค่ะ

ด้านหลัง Lobby จะมีบันได อันนี้จะเชื่อมขึ้นไปที่ห้องนิติฯ นะคะ

ถัดมาจะเป็นประตูอัตโนมัติเชื่อมออกไปที่จอดรถ และเราจะไปดูที่ Lobby ของลูกบ้านกันต่อ

บริเวณหน้าประตู Lobby ของลูกบ้าน จะมีตู้จำหน่าย Snack และเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ วันไหนไม่อยากออกจากบ้านเลยจริง ๆ ก็ลงมากดตู้ได้

เข้ามาภายใน Exclusive Residential Lounge จะตกแต่งออกมาให้ดูหรูหราอีกเช่นกัน

ส่วนแรกเป็นห้อง Locker อัจฉริยะ สามารถเอาของมาฝากไว้ได้

ภายในห้องค่ะ

ถัดเข้ามาด้านในเป็นโถงลิฟต์ และห้องน้ำรับรอง

ห้องน้ำจะมีแยกเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานของทุกวัย

และห้องน้ำมาตรฐาน ติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบ พร้อมใช้งาน

หน้าโถงลิฟต์มีรถเข็นสำหรับใช้ขนของไว้ให้บริการ

ภายในโถงลิฟต์ใช้โทนสีขาวและทอง เข้ากับภาพรวมของ Exclusive Residential Lounge ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว โดยใช้เป็นลิฟต์ล็อกชั้นขึ้นได้เฉพาะชั้นพักอาศัยของตัวเองและชั้นส่วนกลางเท่านั้น

กลับมาที่ด้านนอกของตัว Exclusive Residential Lounge

บริเวณด้านหน้าจะมีจอแสดงผลของ Auto Parking เราจะทราบเวลาที่รถลงมาถึงชั้นล่าง

เข้ามาด้านในจะแบ่งโซนที่นั่งเป็นหลาย ๆ โซน และมีขนาดใหญ่มากค่ะ โดยโซนแรกขวามือเป็นโซฟาและเก้าอี้เดี่ยว

ด้านในมีโต๊ะที่เราสามารถนำ Laptop มานั่งทำงานได้

ความสูงฝ้าเพดานในส่วนนี้จะสูงถึง 8 ม. ทำให้ห้องดูมีความโปร่งโล่งและดู Grand น่าใช้งานมาก และใช้รับแขกก็ได้เป็นหน้าเป็นตาเลยทีเดียวค่ะ

โซนด้านในแบ่งเป็นมุมนั่งอีก 3-4 จุด แยกวางไว้ทิ้งระยะห่างจากกันหน่อย ได้ความเป็นส่วนตัว

ห้องตรงกลางเป็น Mail Room ด้านในแบ่งช่องตามเลขที่ห้อง

ด้านหลังมียูนิตร้านค้า 1 ยูนิต ในอนาคตจะมีร้าน Gin Kitchen มาลงค่ะ

จาก Exclusive Residential Lounge จะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปที่ส่วนกลางชั้น 2 ส่วนถ้าใครไม่สะดวกเดินขึ้นบันไดก็สามารถใช้ลิฟต์โดยสารได้เช่นกันค่ะ

ที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนกลางประเภทที่เน้นการนั่งทำงาน และพบปะสังสรรค์แบบเป็นส่วนตัว โดยจะประกอบไปด้วย Co-working Space, Co-kitchen Space และ Meeting Room

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกเราจะเจอโถงอเนกประสงค์ ตรงกลางมีโซฟาจัดไว้ให้นั่งพักคอย

ห้อง Co-kitchen Space จะทำบรรยากาศออกมาให้ดูหรูหราน่าบุคไว้จัดปาร์ตี้หรือนัดทานข้าวกับเพื่อน ๆ ก็น่าสนใจค่ะ เพราะขนาดห้องที่ทำมาให้มีขนาดกว้างมาก และแยกทั้งมุมทานข้าวที่จัดโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งไว้ให้

ด้านหลังก็เป็นโซฟาม้านั่งไว้นั่งคุยกันสบาย ๆ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนเคาน์เตอร์ครัว

เตรียมเคาน์เตอร์มาให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารแบบกว้างมาก

วิวจาก Co-kitchen Space ก็ดูโปร่งโล่ง มองลงไปเห็น Lounge ด้านล่าง

อีกฝั่งเป็นห้อง Co-working Space ห้องนี้ก็ทำออกมาสวยอีกแล้วค่ะ ดูหรูและการเลือกใช้สีทำให้ดูกลาง ๆ ผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ วัยรุ่นก็น่าจะถูกใจ

ฝั่งขวามือแยกโต๊ะทำงาน 4 ที่นั่ง 2 ชุด

ซ้ายมือเป็นโต๊ะทำงานตัวยาว แบบโต๊ะสูง อันนี้ไว้เอา Laptop มานั่งทำงานหรือถ้ามีเพื่อน ๆ มานั่งทำงานก็มานั่ง Brainstorm กันได้

นอกจากโต๊ะทำงานแบบจริงจังแล้วก็ยังมีมุมนั่งพักสบาย ๆ เอา Ipad หรือหนังสือมานั่งอ่านก็ได้

ด้านในสุดเป็นห้อง Meeting Room กั้นแยกไว้ให้เลย พร้อมอุปกรณ์พร้อมประชุมทั้งโต๊ะยาว, หน้าจอทีวี และบรรยากาศที่มีความเป็นส่วนตัว สามารถปิดม่านกันแสงเวลาเราจะ Present งานได้

ชั้น 11 จะเป็นชั้นพักอาศัยและส่วนกลางค่ะ โดยในส่วนพักอาศัยจะมีกั้นเป็นสัดส่วน ต้องใช้คีย์การ์ดในการ Access เข้าไปยังห้องพัก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ

ส่วน Facilities ที่ชั้นนี้ก็จะเน้นแบบพักผ่อนสบาย ๆ จะมี Sky Lounge และสวน Sky Garden ค่ะ

ออกมาจากโถงลิฟต์ชั้น 11 เราจะเจอพื้นที่โถงที่เป็นจุดแบ่งระหว่างโซนส่วนกลาง และโซนห้องพักอาศัย

เรามาดูส่วนกลาง Outdoor ก่อนค่ะ ออกมาจะเป็นสวนลดระดับพื้นลงไป ซึ่งตรงนี้จะมีทั้งบันไดและ Slope สำหรับผู้ที่ใช้วีลแชร์ เพื่อให้เข้าใช้งานสวนได้ทุกคน

ภายในสวนจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ ปูพื้นและลงม้านั่งไว้ให้ในบรรยากาศที่ร่มรื่น จัดสวนสีเขียวมาให้ ต้นไม้เริ่มโตเต็มที่แล้วค่ะ

อีกฝั่งจะเล่นระดับยกสูงขึ้นมาหน่อย มุมนี้ไว้นั่งชมวิวเมืองได้เต็ม ๆ ตา

วิวจาก Sky Garden โล่ง ๆ ไม่มีตึกสูงบัง

เข้ามาใน Sky Lounge จะจัดมุมไว้ให้หลากหลาย

โซนแรกเป็นชุดโต๊ะที่ต้องการความเงียบ เป็นส่วนตัวหน่อย และมองเห็นวิวสวน Sky Garden

ด้านในมีบาร์เครื่องดื่ม ตรงนี้เหมาะกับการจองห้องแบบ Private และชวนเพื่อน ๆ มานั่งชิลกันได้เลยค่ะ

และด้านในสุดเหมาะไว้นั่งอ่านหนังสือ ทำเป็นที่นั่งไล่ระดับ บุเบาะนุ่ม ๆ มาให้ทุกขั้น

มีห้องน้ำรับรองด้วย เพราะฉะนั้นเราสามารถใช้เวลาที่นี่ได้โดยไม่ต้องขึ้นลงไปใช้ห้องน้ำที่ชั้นอื่นเลยค่ะ

แยกห้องน้ำชาย

แบ่งโซนห้องน้ำ

และห้องน้ำหญิง

แยกโถสุขภัณฑ์ไว้อีกมุมค่ะ

ชั้น 30 เป็นชั้นส่วนกลางหลักทั้งชั้น โดยจะแบ่งเป็นฟังก์ชันห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ แยกโซนห้อง Spinning Room และสระว่ายน้ำ Twilight Edge Pool

ชั้นนี้จะใช้โทนสีที่แตกต่างจากชั้นอื่น ๆ โดยจะใช้โทนสีเข้ม ดูเท่เหมาะกับการออกกำลังกาย

ห้องฟิตเนสที่นี่ทำขนาดมาได้กว้างมากค่ะ เน้นเป็นหน้ากว้างที่รับวิวเมืองได้เต็มที่

Interior ก็จะดูล้ำ ๆ ใช้เส้นสายที่ชวนให้ Active

แยกโซน Weight Training

อีกฝั่งเป็นห้อง Spinning room

ด้านในลงจักรยานมาให้เยอะทีเดียวค่ะ ชวนเพื่อน ๆ มาเปิดคลาสปั่นแข่งกันสนุก ๆ ได้เลย

รวมอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้ในห้องฟิตเนสจะมีดัมเบล, เบาะออกกำลังกาย 3 ชิ้น, Multi Machine, Elliptical 2 ตัว, จักรยานไฟฟ้า 2 ตัว, ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 เครื่อง

จากห้องฟิตเนสจะเชื่อมออกไปยังสระว่ายน้ำภายนอก โดยทั้งห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำจะมีส่วนห้องน้ำรองรับการใช้งานมาด้วยที่ชั้นนี้

ห้องน้ำแยกชาย-หญิงค่ะ

เข้ามาด้านในแยกอ่างล้างมือ 2 อ่าง

มี Locker พร้อมใช้งาน

ภายในแบ่งห้องน้ำ 2, ห้องอาบน้ำ 2 และ Steam Room 1 ห้อง

ภายในห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน

ห้องอาบน้ำใช้ฝักบัวแบบ Hand Shower

ภายในห้อง Steam มีม้านั่งไว้ให้ 2 ฝั่ง และไฮไลท์คือกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้เต็ม ๆ ระหว่างนั่งอบไอน้ำค่ะ

วิวจากห้อง Steam Room

ออกมาที่สระว่ายน้ำค่ะ ตัวสระจะมีทั้ง Semi Outdoor มานอนแช่นำ้ในร่ม หลบแดดได้ และเป็นสระขนาดใหญ่ สระเป็นระบบเกลือขนาด 20 x 12 ม. ที่วิ่งยาวออกไปถึงกลางแจ้ง

มีลูกเล่นเป็นทางเดินไล่ระดับไปยังส่วนกลางแจ้ง สำหรับคนที่ไม่อยากลงน้ำ

ด้านข้างมี Jacuzzi จุดนี้อยู่ในร่มค่ะ มานอนแช่ได้ไม่ต้องกลัวแดด

โซนด้านนอกของสระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Infinity Edge Pool นะคะ มองเห็นวิวรอบ ๆ โดยไม่มีอะไรบังสายตาเลย

มีโซนส่วนหย่อมและที่นั่งกลางแจ้งสำหรับคนที่อยากมาอาบแดด หรือช่วงเย็น ๆ แดดร่มลมตกก็มานั่งชมวิวได้

ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop ชั้นนี้จะต้องขึ้นมาทางบันไดหนีไฟนะคะ ชั้นนี้จะมีส่วนกลางคือ Rooftop Garden และ Sky Bar

Sky Bar จะวางไว้กลางแจ้ง มีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมม้านั่ง

ด้านหลัง Sky Bar เป็น Sky Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวอีกมุม หรือเวลาที่เรามีปาร์ตี้ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่โซน Indoor ได้

ด้านในมีห้องน้ำรองรับการใช้งาน

ภายในห้องน้ำแยกอ่างล้างมือ และโซนห้องน้ำ

วิวจาก Sky Lounge

ไฮไลท์อีกจุดนึงที่เพิ่มเข้ามาของชั้น Rooftop คือ Skyscraper มุมนี้ค่ะ

นอกจากได้วิวจากราวกันตกใสแล้วยังมีส่วนที่ยื่นออกไปเป็นกระจกนิรภัยอีกด้วย

ยื่นออกไปประมาณนี้ค่ะ

ถ้าใครใจไม่ถึงก็มีที่นั่งไล่ระดับด้านหลัง มุมนี้ก็มองเห็นวิวเมืองได้สวยไม่แพ้กัน

สำหรับโถงทางเดินในชั้นพักอาศัยจะทำออกมาเรียบ ๆ มีช่องระบายอากาศช่วยให้อากาศถ่ายเท เหมือนกันทุกชั้นค่ะ

หน้าตาฝั่งประตูห้องพักในแต่ละชั้น


แบบห้อง

โครงการมีห้องให้เลือก 6 แบบดังนี้

  • Studio ขนาด 23.5-26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 1 ขนาด 27-28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31-39 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 53-55 ตร.ม.

Studio ขนาด 23.5 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม.

1 Bed Plus ขนาด 31 ตร.ม.

1 Bed Plus ขนาด 39 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 53 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม.


ห้องตัวอย่าง

วันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ

  • 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.5 ตร.ม.

เริ่มที่ห้องตัวอย่างแบบแรก เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. การจัดฟังก์ชันของห้องนี้ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งจะรวมพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารไว้ด้วยกัน

จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมไปยังส่วนห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานสไลด์ 3 ตอน ส่วนอีกฝั่งจะทำเป็นโถงอเนกประสงค์เล็ก ๆ ที่ใส่ฟังก์ชันของตู้เก็บของและโต๊ะทำงานมาให้ เป็นจุดที่ใช้พื้นที่ในห้องให้เกิดประโยชน์ได้อีกมุมนึง

จากโถงอเนกประสงค์จะเชื่อมไปยังส่วนห้องน้ำ และครัวปิดที่ช่วยกันกลิ่นและควันได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง และจากครัวจะเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกเป็นจุดที่เปิดระบายอากาศได้เป็นอย่างดีค่ะ

มาดูของจริงกันค่ะ เริ่มจากประตูหน้าห้องได้บานมาตรฐานปิดผิวลายไม้สีอ่อน

ติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ใช้งานได้ทั้ง Key Card, กุญแจ และ Password

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเจอพื้นที่ห้องนั่งเล่น ความสูงฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 ม. พื้นปูลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม.

โดยห้องมาตรฐานจะได้เป็นห้องแบบ Fully Fitted มี Built-in เฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ มาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวไม่ได้ติดตั้งมาให้ ทุกยูนิตจะได้ระบบ Home Automation สามารถใช้เปิด-ปิด ไฟ แอร์ ผ่านมือถือได้เลยค่ะ

เข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะมีตู้รองเท้า Built-in ตัวนี้มีบานปิดเรียบร้อย และทำมาให้สูงถึงฝ้าเพดานเลย ทำให้มีพื้นที่เก็บรองเท้าและของกระจุกกระจิกเยอะหน่อยค่ะ

ติดกันเป็นชั้นวางทีวีโดยในห้องมาตรฐานจะมีชั้นวางตัวล่างติดตั้งมาให้ ส่วนชั้นวางของลอยด้านบนไม่ได้มีมาให้นะคะ

ชั้นวางทีวีแบ่งเป็นช่องเก็บของและตู้บานเปิด ด้านล่างเป็นแบบลอยตัวสามารถทำความสะอาดได้ง่าย

ระยะดูทีวีเหลือกำลังดี เราวางโต๊ะรับแขกขนาดเล็กแล้วยังมีที่เหลือให้เดินผ่านได้สะดวก

พื้นที่ในห้องสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งกำลังดี

ข้าง ๆ โซฟามีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่ง

ให้ดูระยะการใช้งานโต๊ะทานข้าว ถ้าอยากให้พื้นที่การใช้งานกระชับกว่านี้ก็เลือกใช้เป็นโต๊ะทรงเหลี่ยม และเปลี่ยนรูปทรงเก้าอี้ก็ช่วยได้ค่ะ

ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนห้องนอน, โถงอเนกประสงค์, ห้องน้ำ และห้องครัว

ฝั่งซ้ายมือเข้ามาเป็นพื้นที่โถงอเนกประสงค์เล็ก ๆ ที่เค้าจะมี Built-in เป็นชุดตู้และโต๊ะมาให้ มุมนี้สามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

โต๊ะมีลิ้นชัก 2 ช่องใช้เก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้

ติดกับโถงเป็นห้องน้ำ ที่นี่ใช้สุขภัณฑ์ Cotto ติดตั้งมาให้ครบ และแยกโซนแห้งโซนเปียก พร้อมติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยตัวของ Cotto มีช่องเก็บของใต้อ่างล้างหน้า

กระจกในห้องน้ำจะได้ Smart Mirror ระบบ Touch Screen ซึ่งมีฟังก์ชั่นเหมือนแอนดรอยด์เลย สามารถดาวน์โหลด Application ต่าง ๆ ลงเครื่องไว้ได้ จะเช็กเมล์, ดู Youtube ฟังเพลง(มีลำโพง) ได้หมดค่ะ

โดยจะมีแอปฯ มาตรฐานของ Origin ให้เราสามารถบุคเวลาใช้งานส่วนกลางต่างๆ, เช็กพัสดุและดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งเราจะเห็นระบบนี้ในโครงการตระกลู Park Origin แบรนด์ท็อปสุดของ Origin เท่านั้น แต่โครงการนี้ก็ให้มาด้วยค่ะ

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush ติดตั้งมาให้พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ

ห้องอาบน้ำกั้น Shower Box มาให้เรียบร้อย โดยภายในจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower และ Rain Shower มาให้แบบนี้เลย

ขนาดห้องกำลังยืนอาบได้พอดี ๆ

ติดกันอีกฝั่งเป็นห้องครัวค่ะ ได้เป็นครัวปิด กั้นด้วยกระตูบานสไลด์ 3 ตอน การเลือกใช้ประตูแบบ 3 ตอนจะช่วยให้เราเปิดได้กว้างขึ้นมากกว่าบานสไลด์ 2 ตอน

ภายในครัวจะได้แสงสว่างหลักจากประตูที่เชื่อมต่อออกไปที่ระเบียงค่ะ โดยชุดเคาน์เตอร์ครัวจะได้ตามนี้เลย มีช่องสำหรับวางตู้เย็น หน้าบานตู้ทุกบานมี Soft Close กันกระแทก ช่วยถนอมบานตู้ค่ะ

Top เคาน์เตอร์ใช้ หินสังเคราะห์ สีขาว มีความทนทาน ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบสองหัว ผนังด้านในของจริงจะได้เป็นฉาบเรียบทาสี

ติดตั้งเครื่องดูดควันของ Hafele มาให้ด้วยค่ะ

ตู้ด้านล่างเป็นบานเปิด 2 บาน และลิ้นชัก 2 ช่อง พร้อมช่องวางไมโครเวฟ

ตู้ด้านบนแบ่งเป็นตู้เหนือตู้เย็น ด้านในแบ่งเป็นชั้นวาง 2 ช่อง

และชุดหลักเหนือเคาน์เตอร์ครัวจะแบ่งเป็นช่องเก็บของ และมีชุดตะแกรงพักจานติดตั้งมาให้ด้วยบริเวณเหนืออ่าง สะดวกในการใช้งานค่ะ

ประตูเชื่อมระเบียงใช้บานสไลด์ 3 ตอน การที่มีครัวติดระเบียงทำให้มีช่องทางในการระบายกลิ่นอาหารได้เต็มที่มากขึ้น

ขนาดระเบียงค่อนข้างกะทัดรัดค่ะ มีติดตั้งก๊อกน้ำมาให้ 1 จุด เราจะใช้พื้นที่ระเบียงตรงนี้วางเครื่องซักผ้าก็ได้ หรือถ้าใครส่งเสื้อผ้าซักก็สามารถเอาไว้ทำสวนส่วนตัวเล็ก ๆ ริมระเบียงก็ได้ค่ะ

การติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์จะติดแบบแขวนไว้ด้านบนช่วยให้เรามีพื้นที่ระเบียงใช้อย่างเต็มที่

สำหรับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานสไลด์ 3 ตอน ทำให้ห้องนั่งเล่นยังได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาช่วยให้ห้องยังดูโปร่งค่ะ

ภายในห้องนอนจะมีขนาดกำลังดีค่ะ และได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง

พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียง Queen Size ได้กำลังดี มีระยะเหลือข้างเตียงให้เราเข้าไปยืนเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้

ติดกับเตียงอีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้า

ทุกห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ติดตั้งมาให้ค่ะ หน้าบานกรุกระจกเงาเต็มบานเราสามารถส่องเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้เลย

ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 คือห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม. ฟังก์ชันของห้องนี้ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับครัวเปิด โดยห้องนี้จะมีครัวขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับคนที่ปกติทานอาหารนอกบ้าน หรือเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ทานเองบ้าง แต่ไม่บ่อยนักค่ะ

ส่วนห้องนอนจะกั้นแยกด้วยประตูบานสไลด์ 3 ตอน ทำให้ห้องยังดูโปร่ง และห้องอเนกประสงค์หรือห้อง Plus จะอยู่ติดกับบริเวณครัว ขนาดห้องสามารถวางเตียงเดี่ยวได้ หรือจะไว้ทำเป็นห้องทำงานก็ได้ และจะเชื่อมอยู่กับระเบียงทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เต็ม ๆ ส่วนพื้นที่ติดกับครัวอีกฝั่งเป็นห้องน้ำที่กั้นแยกโซนแห้งโซนเปียกมาให้เรียบร้อยค่ะ

ภายในห้องส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นที่มีขนาดกว้างขึ้นมากว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย ความแตกต่างของฟังก์ชันเมื่อเทียบกับห้องแบบ 1 Bedroom คือ ในส่วนห้องนั่งเล่นคือมี Built-in ชุดโต๊ะและตู้อเนกประสงค์มาไว้ในห้องนั่งเล่นเลยค่ะ

พื้นที่ในห้องสามารถจัดวางโซฟา 2-3 ที่นั่ง กำลังฟิตพอดีกับระยะการใช้งานค่ะ

ฝั่งตรงข้ามมีชุดชั้นวางทีวี และตู้รองเท้าติดตั้งมาให้ตามแบบมาตรฐาน สเปกจะเหมือนกับห้องแบบที่แล้วเลย

ระยะดูทีวีกำลังพอดี มีพื้นที่ให้วางโต๊ะกลาง และมีระยะเหลือให้เดินผ่านได้สะดวก

ติดกับโซฟาจะเป็นชุดโต๊ะและชั้นวางของ Built-in

ซึ่งห้องนี้จะ Built-in มาให้พร้อมโต๊ะทานข้าวแบบพับได้ค่ะ ถ้าเราอยู่คนเดียวก็พับเก็บไว้ ช่วยให้ห้องโล่งขึ้น ส่วนเก้าอี้ก็อาจจะเลือกเป็นแบบที่พับเก็บด้วยก็ได้จะได้ประหยัดพื้นที่มากขึ้น

จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อไปยังห้องนอน ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นครัว, ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์

สำหรับห้องนอนในห้อง Type นี้จะใช้ประตูบานสไลด์ 2 ตอน

พื้นที่ในห้องมีระยะการใช้งานกำลังดี วางเตียงขนาด Queen Size ได้ พร้อมติดตั้งตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ตามมาตรฐาน

ติดกับห้องนั่งเล่นอีกฝั่งเป็นพื้นที่ครัวค่ะ ได้ครัวแบบเปิด แต่ถึงแม้จะเป็นครัวเปิดแต่ชุดครัวที่ Built-in มาให้จะมีอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบตามมาตรฐานเลยค่ะ ทั้งซิ้งค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และตะแกรงวางพักจาน

มีระยะให้ยืนเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้กำลังดี

ติดกับครัวเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแยกโซนแห้ง โซนเปียก ติดตั้งสุขภัณฑ์ Cotto พร้อมกระจกเงาอัจฉริยะมาให้ตามมาตรฐาน เหมือนกันในทุกห้องค่ะ

ขนาดห้องอาบน้ำจะกว้างขึ้นมาอีกหน่อย ยืนอาบได้สบาย ๆ

ส่วนห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยประตูบานสไลด์ 3 ตอนเช่นกัน ทำให้ห้องยังดูโปร่ง รับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในส่วนครัวได้

ห้องมาตรฐานจะได้เป็นห้องเปล่านะคะ ทางโครงการจัดเตียงเดี่ยวมาให้เราดูระยะการใช้งานในกรณีที่เปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องนอน หรือถ้าใครต้อง WFH เป็นประจำก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานก็ดีนะคะ เป็นสัดส่วนดี

ติดกับห้องอเนกประสงค์เป็นระเบียงค่ะ

พื้นที่ระเบียงพอให้วางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าขนาดเล็กได้

ราวกันตกเป็นเหล็ก ทาสี มีส่วนที่เป็นกริลล์บังสายตา ช่วยให้ภาพรวมของตัวตึกดูเรียบร้อยสวยงามมากขึ้น


ราคา (มี.ค.2565)

  • ห้อง 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  • ห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท
  • ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.

***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม***

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3u8slYS


สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ KnightsBridge สมุทรปราการ ซิตี้ ตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ ซึ่งเป็นทำเลที่รองรับการขยายตัวของเมืองทั้งจากฝั่งสุขุมวิท และฝั่งศรีนครินทร์ ซึ่งสภาพแวดล้อมโดยรวมของทำเลโซนนี้จะมีความเป็นชุมชน ช่วงต้นฝั่งสุขุมวิทที่โครงการตั้งอยู่จะมีความคึกคักพอสมควร และคาดว่าจะมีความคึกคักมากขึ้นในอนาคตเนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ใกล้พร้อมใช้งานในสิ้นปีนี้แล้วค่ะ

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็ถือว่าหาของกินของใช้ได้ง่าย มี Palm Island Mall ที่อยู่ใกล้โครงการ รวมถึงออกไปแค่ 1.7 กม. ก็ถึงสุขุมวิทแล้ว จะไปซื้อของตรง Imperial World สำโรง และ Big C Jumbo ก็ได้ หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS เข้าเมืองไปทองหล่อ เอกมัย พร้อมพงษ์ หรือเข้าสยามก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความเชื่อมต่อเข้าถึงตัวเมืองได้ด้วยรถไฟฟ้า ในราคาที่ยังจับต้องได้ค่ะ


การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นโครงการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่การใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกพอสมควรค่ะ เพราะด้วยตัวถนนเทพารักษ์ ใช้เดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง เข้าเมืองหลัก ๆ ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งมุ่งหน้าตรงเข้าเข้าเมืองได้เลยยาว ๆ สะดวกทั้งวิ่งไปเอกมัย, ทองหล่อ ยาวไปถึง สยาม

หรือคนทำงานวิ่งเข้าถนนพระรามสี่ไปลุมพินี, วิทยุ, สาทร, สีลม, สามย่านได้เลย และมีทางด่วนให้เลือกใช้งาน 3 เส้นทาง คือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางด่วนบูรพาวิถี และถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้


การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : โครงการนี้เป็นโครงการพร้อมอยู่ที่ตั้งอยู่ใกล้ MRT ทิพวัลที่สุดในตอนนี้ค่ะ ด้วยทางขึ้นสถานีที่อยู่ติดหน้าโครงการ และระยะถึงตัวสถานีแค่ 100 ม. ทำให้เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดพร้อมใช้งานก็จะสะดวกกับคนที่ใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น สามารถนั่งไปต่อ BTS สำโรงได้แค่ 1 สถานี เท่านั้น หรือถ้าวันไหนที่รีบเร่งตัวโครงการก็อยู่ในระยะที่ไม่ได้ไกลจาก BTS สำโรงค่ะ สามารถเรียกพี่วินให้ไปส่งตรง BTS ได้เลย นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางอื่น ๆ ทั้งรถเมล์, รถสองแถว หรือจะเรียก Taxi พี่วิน ก็มีวิ่งผ่านหน้าโครงการตลอดวันค่ะ


การออกแบบโครงการและวัสดุ : ที่นี่เป็นโครงการคอนโดพร้อมอยู่ สูง 35 ชั้น บนพื้นที่ดินขนาด 1-3-54 ไร่ ที่มีจำนวนยูนิตถือว่าไม่เยอะมากนักค่ะ แค่ 474 ยูนิต เมื่อเทียบกับความสูงอาคาร และจำนวนพื้นที่ส่วนกลางที่จัดให้มาถือว่าเหลือ ๆ ใช้งานกันได้สบายเลย

ห้องพักที่นี่จะขายแบบ Fully Fitted ของที่ได้จะมี ชุดเคาน์เตอร์ครัว, อ่างล้างจาน และ Hob & Hood ของ Hafele, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto พร้อมฉากกั้นส่วนเปียกและ Smart Mirror, ตู้เก็บของ, ชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า

พร้อมเครื่องปรับอากาศ Wall Type ตรงห้องนั่งเล่นและทุกห้องนอน ทุกยูนิตจะได้ระบบ Home Automation ความสูงฝ้าเพดาน 2.8 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

โดยห้องที่นี่จะมีให้เลือก 4 แบบหลัก ๆ คือ Studio ขนาด 23.5-26 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 27-28 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 31-39 ตร.ม., 2 Bedroom ขนาด 53-55 ตร.ม.


สิ่งอำนวยความสะดวก : Facility ของที่นี่ทำออกมาได้สวย มีความหรูที่มีความยุคใหม่ใช้งานได้ทุกวัยค่ะ โดย Facilities จะมีการกระจายไว้หลาย ๆ ชั้น ช่วยลดความหนาแน่นของการใช้งาน ซึ่งจะแบ่งไว้ที่ชั้น 1, 2, 11, 30 และดาดฟ้า

ชั้น 1 มี Visitor Lounge, Residential Lounge, สวนด้านหลังโครงการ ในสวนมีพื้นที่นั่งพักผ่อนและเลนสำหรับวิ่งออกกำลังกาย ชั้น 2 จะเป็น Co-working Space, Meeting Room และ Co-kitchen Space

ชั้น 11 มี Sky Lounge และสวนหย่อม Sky Garden ที่ชั้น 30 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 12 ม. พร้อมส่วน Jacuzzi และมีห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ และที่ชั้นดาดฟ้าจะเป็นสวนมีจุดชมวิว และ Sky Bar ไว้ขึ้นมาชมวิวรอบ ๆ และจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้

ที่จอดรถเป็นแบบ Auto Parking ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 49% ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Easy Pass


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 020-300-000

Website : https://bit.ly/3u8slYS

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สนใจลงโฆษณากับทาง CONDONAYOO ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน 086-1290293 
LINE ID : 123456786205 Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.