รีวิว คอนโด ลาวิค สุขุมวิท 57 LAVIQ Sukhumvit 57 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ
รีวิว โครงการ LAVIQ สุขุมวิท 57 จาก Real Asset ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ใกล้รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ประมาณ 260 เมตร ใกล้ท้องฟ้าจำลอง, Market Place ทองหล่อ, Rain Hill, Park Lane เอกมัย, รร.นานาชาติ Bangkok Prep, รร.นานาชาติเอกมัย, ม.กรุงเทพ, รพ.สุขุมวิท, รพ.เทพธารินทร์ และ รพ.กล้วยน้ำไท
ลาวิค สุขุมวิท 57 เป็นคอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 2 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา ห้องพักอาศัยรวม 235 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, Duplex, Penthouse ขนาดเริ่มต้น 42.00-357.00 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จปลายปี 2562
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Main Lobby : Furnished by FENDI CASA, Sanctuary Hill Garden + Playground Scupural Garden, ห้องสมุด, สระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edge ระบบ Ozone ยาว 36 เมตร พร้อมสระเด็ก, Rock-Climbing สำหรับเด็ก, Sky Deck, Party Terrace, Social Club, Executive Lounge, Golf Simulator, Bike Simulator, Fitness Studio, ห้องโยคะ, ที่จอดรถซุปเปอร์คาร์ และซุปเปอร์ไบค์, ที่จอดรถทั่วไป 100% ของจำนวนยูนิต, โรงจอดรถจักรยาน, EV Charger สำหรับรถพลังงานไฟฟ้า, Condo Concierge Service, ลิฟท์โดยสาร, กล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | ลาวิค สุขุมวิท 57 LAVIQ Sukhumvit 57 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด Real Asset |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 33 ชั้น |
จำนวนห้อง | 235 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bedroom : 42.00-45.00 ตร.ม. – 2 Bedrooms : 79.00-91.00 ตร.ม. – 3 Bedrooms : 115.00-144.00 ตร.ม. – Duplex : 92.00 ตร.ม. – Penthouse : 244.00-357.00 ตร.ม. |
ที่จอดรถทั้งหมด | – คิดเป็น 100% ของจำนวนยูนิต – สามารถจอดได้ 235 คัน (รวม 8 คัน ซุปเปอร์คาร์) |
โซน | สุขุมวิทช่วงกลาง |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ 260 เมตร |
รถโดยสารที่ผ่าน | 2, 25, 38, 40, 48, 98, 501, 508, 511 |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. |
กำหนดการ | เปิดจอง 1-2 ต.ค. 2559 |
ปีที่สร้างเสร็จ | ก่อสร้างเสร็จปลายปี 2019 |
ราคา | เริ่มต้น 9 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | – ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม.ล่วงหน้า 1 ปี – เงินกองทุนสะสม 600 บาท/ ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | คอนโดระดับลักซ์ชัวรี่ “LAVIQ สุขุมวิท 57″ โครงการใหม่จาก REAL ASSET สุนทรียภาพแห่งการใช้ชีวิต ในคอนโดหรูใจกลางสุขุมวิท เดินเพียง 3 นาที จาก BTS ทองหล่อ ตกแต่งด้วยแบรนด์ระดับโลก FENDI CASA ทำเลดีที่สุด ราคาดีที่สุด เริ่มต้น 9.7 ล้านบาท* |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
พิกัด GOOGLE MAPS : 13.724118,100.58040
แผนที่จากทางโครงการ
โครงการ LAVIQ – สุขุมวิท 57 ตั้งอยู่ภายใน ซอยสุขุมวิท 57 ลึกจากปากซอยประมาณ 130 เมตร ค่ะ และอยู่ห่างจาก แยกทองหล่อ หรือ ซ.สุขุมวิท 55 เพียง 100 เมตรเท่านั้น จากแยกทองหล่อเดินไปอีก 30 เมตรก็จะถึงสถานีรถไฟฟ้า bts ทองหล่อเรียกได้ว่าอยู่ใกล้มากเลยทีเดียว ดังนั้นเลยเรียกได้ว่าโครงการตั้งอยู่ใจกลางซอยทองหล่อซึ่งเป็นทำเลอันดับ 1 บนถนนสุขุมวิทซึ่งราคาที่ดินในปัจจุบันก็ปาเข้าไป 1.5 ล้านบาทต่อตารางวากันแล้วค่ะ ส่วนราคาขายคอนโดในย่านนี้ก็ไม่ต้ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรเช่นกัน โดยบริษัท Real Asset Development ตั้งใจจะทำให้โครงการนี้ เป็นคอนโดระดับ Super Luxury เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Hi-End โดยเน้นความหรูหราและคัดสรรวัสดุคุณภาพสุดพรีเมี่ยมซึ่งรายละเอียดภายนอกและภายในอาคารเดี๋ยวเราจะเจาะกันอีกทีในหัวข้อด้านล่างนะคะ
ภาพแผนที่แสดงทำเลบริเวณ ซอยสุขุมวิท 57 ค่ะซึ่งอยู่ถัดจากซอยทองหล่อมาเพียงแค่ 1 ซอยเลยเท่านั้น บริเวณปากซอยจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Hotel อยู่ด้านขวามือสังเกตง่ายมาก หากใครขับรถมาจากเส้นสุขุมวิทไม่ว่าจะขาเข้าหรือขาออกก็สามารถกลับรถที่บริเวณแยกทองหล่อและเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 57 ได้เลย ทำเลนี้ถึงแม้จะขึ้นชื่อเรื่องรถติดหนักมากเนื่องจากเป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่, โรงเรียน, โรงแรมทุกระดับ, โรงพยาบาล และสถานที่ราชการสถานฑูตต่างๆ แต่ก็มีทางหนีทีไล่ค่อนข้างเยอะค่ะ เอาจริงคือเยอะมากแบบที่ให้อธิบายในบทความนี้ก็คงจะยาวยืดเกินไป เอาเป็นหลักๆแล้วกันนะคะ ซอยทองหล่อเป็นซอยที่มีเส้นทางทะลุกับซอยเอกมัยได้ที่ ซอยเอกมัย 5 ซึ่งสามารถทะลุออกสู่ซอยทองหล่อ 10 ได้ ซึ่งถ.ทองหล่อและเอกมัยนั้น เชื่อมต่อกับถนนเพชรบุรี ซึ่งสามารถวิ่งเป็นวงกลมจากหน้าโครงการทะลุสู่ เส้นทางที่เราว่ามาเมื่อสักครู่ได้ แต่จากซ.สุขุมวิท 57 ใช้เส้นเอกมัยจะสามารถออก ถ.เพชรบุรี ได้สะดวกกว่า เนื่องจากเป็นสี่แยกไฟแดงทีจะไม่มีการกั้นปิดเหมือนแยก ซ.ทองหล่อ-สุขุมวิท ซึ่งกั้นบ้าง เปิดบ้างแล้วแต่ช่วงการจราจรค่ะ
ซึ่งถนนเอกมัยนั้นสามารถวิ่งตรงสู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และขึ้นทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ไปยังย่านนวมินทร์ หรือวิ่งออกเส้นพระราม 9 เพื่อไปดินแดง หรือรามคำแหงก็สะดวก และจากโครงการก็มีเส้นทางลัดออกสู่ถนนพระราม 4 ที่ใกล้ๆมากๆเลย นั่นก็คือ ซอยสุขุมวิท 40 หรือ ถนนบ้านกล้วยใต้ ซึ่งโครงการอยู่ห่างจากแยกบ้านกล้วยใต้เพียง 85 เมตรเท่านั้น ดังนั้นการเดินทางในละแวกโครงการถือว่าสะดวกสบายมากๆ
นอกจากจะมีเส้นทางลัดหลายเส้นทางแล้วยังอยู่กึ่งกลางระหว่างทางด่วนล้อมรอบโครงการเป็นวงกลมนั่นก็คือทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ไม่ว่าจะต้องการวิ่งไปไหนตัวเมืองกรุงเทพฯและปริมณฑลก็สามารถไปได้ในระยะทางใกล้เคียงกันแต่คงต้องหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า 8 โมงและตอนเย็นประมาณ 5 โมงเย็นหน่อยนะคะ เพราะแถวนี้เป็นย่านของคนทำงานและยิ่งช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอมรถจะยิ่งติดหนักมากเลยค่ะ ก็เป็นที่รู้กันดีสำหรับคนที่ต้องการหาคอนโดในโซนนี้ก็คงจะรับเรื่องพวกนี้ได้อยู่แล้วนะคะ
สาธารณูปโภคบริเวณหน้าโครงการภายในซอย ก็จะมีทั้งร้านอาหารต่างๆ ซึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่ง, ร้านซักรีด, ร้านเสริมสวย และร้านอาหารญี่ปุ่น บริเวณปากซอยตรงข้ามกับโรงแรม Mariott ก็เป็นโซนอาคารพาณิชย์ซึ่งมีเตนท์ขายอาหารอยู่เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นโซนที่เรียกได้ว่าเป็นมินิทาวน์ของชาวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ ถึงแม้จะไม่เยอะเท่าแถวพร้อมพงษ์แต่อาคารห้องแถวโซนนี้มีแต่ร้านที่รองรับคนญี่ปุ่นทั้งนั้น ทั้ง Japanese Club ร้านนวด และอพาร์ทเม้นท์ นอกจากนั้นทางเดินระหว่างซอย 57 ที่สามารถทะลุออกสู่ทองหล่อ ก็เป็นแหล่งร้านอาหารชื่อดังเช่นเดียวกันค่ะ แต่เริ่มจะไปทางเกาหลีบ้างแล้ว มีทั้งร้านปิ้งย่างเกาหลีร้านชาบูบาร์บีคิว ร้านดังก็ Ko si Rae นั่นเองส่วนตัวก็เคยไปทานมาอร่อยมากๆค่ะ
ส่วนโซนร้านอาหารไทยย่านที่ดังมากๆก็อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ ซ.สุขุมวิท 38 เดินข้ามสะพาน BTS ทองหล่อ ลงที่ทางออก 4 ก็จะไปโผล่ที่ปากซอย 38 มีร้านอาหารแนวสตรีทฟู๊ด เจ้าเก่าดั้งเดิมชื่อดังอยู่หลายร้าน หรือเรียกว่า Night Market Streetfood ของคนแถวนี้ ส่วนผู้ที่ชอบรับประทานอาหารยุโรปหรือฟิวชั่นที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย ก็อย่างที่ทราบกันเลยค่ะ เส้นทองหล่อทั้งเส้น มีให้แวะได้ตลอดทาง รวมถึงแทรกอยู่ใน Community Mall หลายแห่งด้วยเช่นกัน เช่น The Commons, Fifty Fifth, Market Place ทองหล่อ, Seen Space, J Avenue และ Funky Villa เป็นต้น ส่วนห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Gateway เอกมัยแ ละ The Emporium, Emquartier ซึ่งในอนาคตจะมีห้าง Emsphere ผุดขึ้นมาอีก แน่นอนว่าราคาที่ดินก็จะขึ้นอีกเช่นกัน ส่วนโซนอโศกก็ใกล้ห้าง Terminal21 และ Robinson สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้หมด สาธารณูปโภคในย่านนี้เยอะมากๆให้เอ่ยให้หมดคงต้องเปิดอีกรีวิวนึงละค่ะ ซึ่งสามารถหาของกินของใช้ได้ตลอดทั้งวันไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนเรียกได้ว่าเป็นย่านที่ไม่เคยหลับไหลเลยจริงๆ
ภาพจำลองห้างสรรพสินค้า Emdistrict ซึ่งประกอบด้วย The Emporium, The Emquartier ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2015 และที่กำลังก่อสร้างคือ Emsphere สร้างเสร็จประมาณ 2017-2019
ภาพจำลองมุมมองจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ไปยังโครงการ Laviq สุขุมวิท 57
::: สรุปแยกและถนนสำคัญใกล้เคียง :::
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตาม ลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก
ถนนสุขุมวิท > แยกอโศก > แยกทองหล่อ > ซอยสุขุมวิท 57 > Laviq – สุขุมวิท 57
การเดินทางเริ่มต้นจากถนนสุขุมวิทบริเวณแยกอโศกค่ะ
เมื่อวิ่งตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับแยกสวัสดีหรือซอยสุขุมวิท 31 นั่นเอง ให้วิ่งตรงไป
รอยแยกสวัสดีมาก็จะเจอกับสถานี BTS พร้อมพงษ์ค่ะ ด้านซ้ายมือคือห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ ฝั่งตรงข้ามคือห้างเอ็มโพเรียม
เลย BTS พร้อมพงษ์มาก็เจอแต่แยกอารีย์ แต่ปัจจุบันที่แยกนี้ไม่สามารถเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ เพื่อทะลุออก ถนนพระราม 4 ได้แล้วนะคะ เขากันกระถางต้นไม้อิฐปิดทางเอาไว้แล้วเนื่องจากการจราจรติดขัด จากจุดนี้ให้วิ่งตรงไปค่ะ
ด้านซ้ายมือจะเจอกับ Miracle mall และท็อปส์มาร์เก็ต
ตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอกับคอมมูนิตี้มอลล์ Rain Hill ค่ะ
มุ่งหน้าสู่แยกทองหล่อด้านหน้าจะเจอกับสถานี BTS ทองหล่อค่ะ ซ้ายมือก่อนถึง BTS จะเป็นโรงเรียน Bangkok Prep International School ก่อนถึงซอยสุขุมวิท 53 ซึ่งเป็นซอยทางลัดเลี่ยงรถติดออกสู่ถนนทองหล่อเราจะขับรถตรงไปอีกค่ะ
ถึงแยกทองหล่อแล้วรอสัญญาณไฟแดงอีกสักครู่หนึ่งก็จะเจอกับซอยสุขุมวิท 57 ด้านซ้ายมือ จากจุดนี้สามารถเดินไปถึงโครงการได้ในระยะ 260 เมตรค่ะ
ถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 57 แล้วค่ะ ด้านหน้าจะมีโรงแรม Bangkok Marriott Hotel สังเกตได้ชัดเจนให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย
จากปากซอยสุขุมวิท 57 ตรงเข้ามาจะประมาณ 130 เมตรก็จะเจอกับสำนักงานขายโครงการ ด้านขวามือ ซึ่งด้านหลังสำนักงานขายก็คือพื้นที่ตั้งของโครงการเรานี้เองค่ะ
พื้นที่ตั้งโครงการ Laviq – สุขุมวิท 57
::: จุดขับรถขึ้นทางด่วน :::
จากโครงการ สามารถขับรถขึ้นทางด่วนได้หลายทางค่ะ ทางขึ้น – ลงทางด่วนจะอยู่รอบๆโครงการในรัศมีไม่เกิน 5 กม.จากแผนที่ ที่เราได้พาชมไปข้างต้น ดูเหมือนจะสะดวกมากๆ โดยจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ด่านอโศกค่ะ แนะนำให้วิ่งเส้นเพชรบุรี จะติดน้อยกว่านะคะ โดยถึงแยกอโศก-เพชรบุรี ให้เลี้ยวขวา จะเจอจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัชด้านซ้ายมือ เพื่อไปทางเหนือของกรุงเทพฯมหานคร
หรือหากต้องการใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จากโครงการสามารถวิ่งออกซอยเอกมัย และตรงไปยาวๆได้เลยค่ะออกสู่ถนนประดิษฐมนูธรรมก็จะเจอกับจุดขึ้นทางด่วนเมื่อเลยถนนพระราม 9 ไปแล้ว
การขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร มีทางลัดจากโครงการให้เลี้ยวขวาบริเวณ แยกบ้านกล้วยใต้ ออกสู่ถนนพระราม 4 ที่แยก ม.กรุงเทพ ค่ะ
หากต้องการใช้ทางพิเศษเพิ่มมุ่งหน้าถนนพระราม 3 หรือแจ้งวัฒนะ จากแยกม.กรุงเทพ ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนกล้วยน้ําไท วิ่งตรงมาเรื่อยๆเลี้ยวขวาออกสู่ถนนอาจณรงค์ จะเจอทางขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครอยู่ด้านขวามือ สามารถมุ่งหน้าไปพระราม 3 ดาวคะนอง หรือจะวิ่งต่อดอนเมืองโทลเวย์หรือทางพิเศษศรีรัชก็ได้ค่ะ
ส่วนใครต้องการใช้ทางพิเศษเพื่อมุ่งหน้าไปบางนาจุดขึ้นทางด่วนจะค่อนข้างอ้อมหน่อยนะคะ โดยจะต้องไปขึ้นที่บริเวณแยกถนนเกษมราษฎร์วิ่งไปจนสุด จะเจอจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครมุ่งหน้าบางนาอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ
แต่เรามีอีกเส้นทางแนะนำหากต้องการไปที่สี่แยกบางนา ซึ่งจะสามารถวิ่งไปได้เร็วกว่าโดยให้วิ่งออกถนนกล้วยน้ำไท 2 ถนนทางรถไฟสายเก่าปากน้ำ วิ่งตรงมาเรื่อยๆเลยค่ะ จนถึง แยกสรรพาวุธ ให้เลี้ยวซ้ายออกสู่ถนนสรรพาวุธ ก็จะเจอกับสี่แยกบางนานั่นเองโดยทางนี้การจราจรจะติดขัดน้อยกว่าวิ่งเส้นสุขุมวิทมาเรื่อยๆ
::: การเดินทางโดยรถไฟฟ้า :::
โครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ในระยะเดิน 260 เมตร และรถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท (2.8 กม.) แต่ในอนาคตจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มเติมด้วย ดังนี้
1.รถไฟฟ้าสายสีเทา
สถานีทองหล่อ (260 เมตร) (ช่วงที่1 ทองหล่อ-วัชรพล)
และ สถานีพระโขนง (1.6 กม.) (ช่วงที่ 2 พระโขนง-พระราม3) ค่ะ ซึ่งสองสถานีนี้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS ทั้งคู่เลย แต่ปัจจุบันช่วงที่ 1 ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบ ทำให้อาจเปิดบริการล่าช้าจากที่คาดการณ์ไว้สักหน่อยค่ะ น่าจะประมาณปี 2564
2. รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี)
สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีประดิษฐ์มนูธรรม (14.2 กม.)
ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเทาสายที่วิ่งมาทองหล่อด้วยเช่นเดียวกัน
กำหนดเปิดให้บริการ ปี 2563
::: การเดินทางโดยรถประจำทาง :::
การเดินทางโดยรถประจำทางนั้นสะดวกสบายค่ะเนื่องจากเป็นย่านใจกลางเมืองและห่างจากบีทีเอสในระยะเดิน มีรถผ่านตลอดทั้งวัน และตลอดเวลา ทั้งรถเมล์ , Taxi, รถตู้ และรถสองแถว รวมถึงมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยในระยะเดินแค่ 130 เมตรเท่านั้น
:: รถเมล์สายที่ผ่าน ::
2, 25, 38, 40, 48, 98, 501, 508, 511
:::: สถานที่สำคัญใกล้เคียง ::::
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
::: บริเวณรอบโครงการ :::
วันนี้เราจะพาเดินชมบริเวณรอบโครงการจากรถไฟฟ้า Bts สถานีทองหล่อ ไปถึงภายใน ซ.สุขุมวิท 57 กันนะคะ ว่ามีอะไรในระยะเดิน 260 เมตรนี้บ้าง
:: จาก BTS สถานีทองหล่อ มายังโครงการ ::
จากสถานีทองหล่อให้ใช้ทางออกที่สามค่ะทางด้านซ้ายมือ
เมื่อเดินลงมาจากสถานีทองหล่อก็จะเจอกับแว่นท็อปเจริญเดินไปอีกประมาณ 30 เมตรก็จะถึงแยกทองหล่อ
ตอนนี้เราอยู่ที่แยกทองหล่อแล้วค่ะ ให้รอสัญญาณไฟเพื่อข้ามทางม้าลายไปยังฝั่งตรงข้าม
ข้ามฝั่งมาแล้วก็จะเจอกับป้ายแยกทองหล่อ เราจะเดินไปเรื่อยๆอีกประมาณ 100 เมตรก็จะถึงปากซอยสุขุมวิท 57
ระหว่างทางก็จะผ่านร้านอาหารมากมาย
มีแผงลอยขายผลไม้ด้วย
เลยแผงลอยมาก็จะเจอกับร้านกาแฟ น่ารักเชียวค่ะ
ถัดจากร้านกาแฟก็จะเจอ 7-11 ซึ่งมีตู้เอทีเอ็มกสิกรไทยอยู่ด้วย เดินเลยไปอีก 30 เมตร ก็ถึงปากซอยสุขุมวิท 57 ค่ะ
ตอนนี้เราอยู่ที่ปากซอยสุขุมวิท 57 แล้วสังเกตได้ง่ายเลยคือฝั่งตรงข้ามจะเจอกับโรงแรม Bangkok Marriott Hotel ให้เดินเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลย
หน้าโรงแรมบริเวณป้ายบอกซอยสุขุมวิท 57 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วยค่ะแต่ บนป้ายไม่มีบอกอัตราค่าบริการคงต้องถามพี่วินเอาเองนะคะ
เลี้ยวเข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 57 แล้ว ด้านซ้ายมือก็จะเจอกับแนวอาคารพาณิชย์ ซึ่งมีร้านอาหารและร้านนวดสำหรับคนญี่ปุ่นอยู่เรียงติดกัน ด้านหน้ามีเต็นท์ขายอาหารอยู่ด้วยค่ะ
เดินเลยมาหน่อยด้านซ้ายมือก็จะเจอกับอาคารบริษัท KBS ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสูงเจ็ดชั้น
ถัดไปก็จะเป็นอาคารห้องแถวสูงสองชั้นยาวไปจนถึงหน้าสำนักงานขายโครงการของเราเลย
ถึงแล้วค่ะสำนักงานขายโครงการ LAVIQ – สุขุมวิท 57 ด้านขวามือ
ฝั่งตรงข้ามก็คืออาคารห้องแถวสูงสองชั้น ที่เรากล่าวมาเมื่อสักครู่มี ทั้งร้านอาหารตามสั่งร้านเสริมสวยและร้านซักรีด
หน้าตาของอาคารสำนักงานขายโครงการค่า ดีไซน์โมเดิร์นสวยหรูเลยทีเดียว คงน่าเสียดายน่าดูหากต้องทุบทิ้งนะคะ เนื่องจากที่ตั้งของอาคารสำนักงานขายนี้คือสวนสาธารณะด้านหน้าโครงการในอนาคต ตามผังด้านล่าง
ผังพื้นแสดงที่ตั้งโครงการ และอาณาบริเวณโดยรอบค่ะ
พื้นที่ด้านซ้ายมือของโครงการเป็นถนนทางเข้าสำหรับรถขนวัสดุก่อสร้าง ซึ่งทางเข้าจะไม่ปะปนกับด้านขวามือ ไว้สำหรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมสำนักงานขายของโครงการ
ด้านในก็จะเป็นพื้นที่โครงการของเรานั่นเอง
จากโครงการเดินตรงไปอีกหน่อยก็จะสุดซอยสุขุมวิท 57 แล้วค่ะขวามือจะเป็นอาคารพาณิชย์สูงสามชั้น ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นซอยทางลัด ซึ่งสามารถเดินทะลุออกสู่ถนนทองหล่อได้
มองเข้าไปภายในซอยทางลัดค่ะ ทั้งสองฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์สูงสามชั้นครึ่ง ประกอบไปด้วยร้านอาหารชื่อดังหลายร้าน ทั้งร้านปิ้งย่างบาร์บีคิวสไตล์เกาหลี และญี่ปุ่นปะปนกัน
ด้านหน้า เป็นอาคาร J House สูง 5 ชั้นครึ่ง
กลับมาที่ซอยสุขุมวิท 57 บริเวณท้ายซอยเป็นทางเข้าโรงแรม Sawasdee Sukhumvit Inn
ที่เว็บไซต์ของโครงการ มีภาพถ่ายมุมสูงจำลองทิวทัศน์เมื่ออาคารสร้างเสร็จแล้วเอาไว้ให้ด้วยค่ะ สามารถคลิกเข้าไปดูได้ มีหลายระดับชั้นตั้งแต่ชั้น 16, 12A, 20, 27 ถึงชั้นบนสุดคือชั้น 33 เลย แต่เรายกภาพมาให้ชมแค่สองระดับชั้นนะคะ คือชั้น 6 ภาพด้านล่าง และชั้น 33 ด้านบน หากใครต้องการชมแบบครบๆต่อเนื่อง ให้ คลิกที่นี่
ภาพด้านบนนี้คือมุมมองจากโครงการไปทางทิศใต้ค่ะ ก็จะเห็นอาคารโรงแรม Marriott และอาคารคอนโดฝั่งตรงข้าม นั่นก็คือ IDEO Morph ซอย 38 นั่นเอง
วิวจากโครงการไปฝั่งทิศตะวันออก หรือมองไปทางด้านหลังของโครงการ เป็นแนวอาคารสูง หลายอาคาร ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 59 ค่ะ เช่น S59 Exclusive Apartment, Top View Tower, 59 Heritage, Shanti Sadan เป็นต้น
:::: ตัวโครงการ LAVIQ : สุขุมวิท 57 ::::
โครงการ LAVIQ – สุขุมวิท 57 เป็นโครงการคอนโดมีเนี่ยม High Rise ระดับ Super Luxury สูง 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 235 ยูนิต บนพื้นที่ 2-1-65 ไร่ค่ะ
ตัวอาคารออกแบบโดยบริษัทสถาปนิก Palmer & Turner ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ออกแบบห้างสรรพสินค้า Terminal21 บริเวณสถานี BTS อโศก อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ส่วนอินทีเรียออกแบบโดยบริษัท DWP Cityspace และ ภูมิสถาปัตยกรรมโดยทีมบริษัท Shma รวมถึงมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของอาคารเรียบร้อยด้วยบริษัท Ecosystem Engineerig Consultant จำกัด ค่ะ ซึงตัว Palmer & Turner เองนั้นก็ออกแบบอาคารที่ได้รางวัล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) จากสหรัฐอเมริกา มาแล้วเช่น Park Ventures ซึ่งมั่นใจได้เลยว่า อาคารนี้ ไม่ใช่เพียงเป็นอาคารคอนโดมิเนียมหน้าตาธรรมดา แต่ จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่หน้าตาทันสมัยที่สุดบริเวณโซนแยกทองหล่อนี้เลย รวมถึงภายในยังมีตัวชูโรงด้วยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านชั้นนำอย่าง FENDI Casa ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนที่มีความหรูหรา ทันสมัย และมีความเป็นแฟชั่นค่ะ
ผังพื้นชั้นหนึ่งของโครงการ จะเห็นว่าตัวอาคารจะถอยรุ่นจากซอยสุขุมวิท 57 เข้าไปถึง 30 เมตรด้วยกันค่ะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย ในอนาคตจะถูกจัดเป็นสวนสาธารณะที่ออกแบบโดย Shma เมื่อสำนักงานขายถูกเลื่อนย้ายเข้าไปภายในอาคารของโครงการนะคะ
ทางเข้าจะอยู่ด้านขวามือของ Site โดยจะมีวงเวียน Drop-Off สำหรับรับส่งที่ด้านหน้าโถงของ Lobby ก่อนที่จะเข้าสู่ด้านข้างขวามือของอาคารซึ่งเป็น ลานจอดรถซุปเปอร์คาร์ค่ะ ถัดไปก็จะเป็นทางขึ้นสู่อาคารจอดรถ ซึ่งก็คือชั้น Podium ทั้งหมด ตั้งแต่ชั้น 1-5 โดยสามารถจอดได้ทั้งหมด 235 คัน คิดเป็นที่จอดรถทั้งหมด 100% ของจำนวนยูนิตเลยทีเดียว ซึ่งแทบไม่เจอโครงการไหนที่ให้มาครบเต็ม 100% แต่โครงการนี้คือหมดห่วงเรื่องที่จอดรถไปได้เลยค่ะ โดยรวมแปดคันที่เป็นรถซุปเปอร์คาร์แล้ว อีกทั้งยังมี EV Charger ให้บริการสำหรับรถที่ใช้ไฟฟ้าด้วย ซึ่งจริงๆเมืองนอกเขาก็มีกันมานานแล้วนะ แต่ประเทศไทยจะหาจุดชาร์จรถค่อนข้างยากค่ะ
นอกจากที่จอดรถยนต์แล้วยังมีที่จอดรถ Super Bike และ Bicycle Garage ให้บริการอยู่ ที่ปีกซ้ายของอาคารอีกด้วย ส่วนยูนิตพักอาศัยจะอยู่ชั้น 6 เป็นต้นไปค่ะ จำนวนยูนิตพักอาศัยต่อชั้นสูงสุดที่ 11 ยูนิต โครงการมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และ Service&Fireman Lift อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนทั้งหมด 1:78 โครงการมีบริการ Concierge Service คอยดูแลและบริการลูกค้าภายในให้ด้วยนะคะ
:: 7,9,11th Floor Plan ::
:: 8,10,12th Floor Plan ::
:: 12A,15,17,19,21,23th Floor Plan ::
ยูนิคพักอาศัยชั้น 12A – 24 นั้นเหมือนกันทุกประการค่ะโดยจะเปลี่ยนไปจากชั้น 7-12 ตรงห้อง B3 ด้านซ้ายล่าง กลายเป็นห้อง C1 แทน
:: 14,16,18,20,22,24th Floor Plan ::
สรุปจำนวนยูนิตพักอาศัยทุกชั้นตั้งแต่ 6-24 เป็น 11 ยูนิตต่อชั้นค่ะ
:: 25-28th Floor Plan ::
ชั้น 25 – 28 ก็จะเหมือนกันทุกประการค่ะ โดยสองยูนิตฝั่งปีกทั้งด้านซ้ายมือจะถูกตัดออกไป และมี 4 ยูนิตที่ถูกยุบรวบกันกลายเป็น 2 ยูนิต นั่นก็คือ C4 และ C3 ซึ่งเป็นห้องแบบ 3 Bedroom โดยมียูนิตพักอาศัย 7 ยูนิต ต่อชั้น
:: 29th Floor Plan ::
มาถึงส่วนด้านบนสุดของ Tower อาคารกันแล้ว ออกแบบได้เท่มาก Main Facilities อยู่ที่ชั้น 29-30 ทั้งหมดค่ะ โดยจะเชื่อมกันที่โถงลิฟท์ และบันได Spiral Staircase บริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งประกอบด้วย Infinity-Edge Lap Pool สระว่ายน้ำรูปตัว L ขนาดใหญ่ ที่มี Chilling Area ล้อมรอบโดยจะมีส่วน Pool Counter Service และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ที่มีห้อง Steam อยู่ภายในด้วย
ชมผังชั้น 29 จะเห็นภาพชัดมากขึ้นนะว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง นอกจากนั้น ในส่วนปีกล่างของอาคารที่ชั้นนี้ยังมีห้อง Social Club, Party Terrace และ Sky Deck ให้บริการด้วยค่ะ
สระว่ายน้ำ Infinity-Edge Lap Pool ยาว 36 เมตร ระบบน้ำเกลือควบคู่กับระบบโอโซน ซึ่งเป็นระบบบำบัดน้ำในสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคในระยะเวลาอันสั้นกว่าระบบอื่นค่ะ ด้านบนคือภาพจำลองสระว่ายน้ำในเวลากลางคืน มีการจัดสวนและลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้เพื่อให้ร่มเงา ขณะนั่งเล่นชิวริมสระด้วย
ภาพบรรยากาศภายใน Social Club
บริเวณสระว่ายน้ำมีบันไดวน Spiral Staircase ซึ่งเชื่อมต่อกับห้องฟิตเนสที่ชั้น 30 ด้านหลังบันไดวนมีโซนปีนป่ายสำหรับเด็ก Kid’s Rock Climbing ด้วยค่ะ
:: 30th Floor Plan ::
ผังพื้นชั้น 30 ซึ่งสามารถเดินขึ้นมาจากบันได Spiral Staircase บริเวณสะว่ายน้ำสู่ระเบียงด้านหน้าห้องฟิตเนส และมีทางเดินเข้าสู่โถงลิฟท์ และห้องอื่นๆด้วย คือ ห้อง Fitness Studio ที่ภายในมีเครื่องปั่นจักรยานแบบ Simulator ด้วยค่ะสามารถจำลองการปั่นไปที่ไหนๆได้
นอกจากนั้นยังมีห้อง แยกสำหรับ Golf Simulator และห้องโยคะ เพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับกิจกรรมทั้งสองประเภทนี้ด้วย
ด้านหลังของสอนฟิตเนสทั้งหมดก็จะมี Executive Lounge และ ห้องประชุม สำหรับจัดเลี้ยงหรือติดต่อคุยงานต่างๆ ซึ่ง ผู้ใช้สามารถ Book ล่วงหน้าเพื่อใช้งานเป็นการส่วนตัวได้ โดยเสียค่าบริการกับนิติบุคคล
ภาพ Excutive Lounge ค่ะ
:: 31st Floor Plan ::
ที่ชั้น 31 ก็ยังเป็นยูนิตพักอาศัยแบบ 1-3 ห้องนอนอยู่ค่ะ แต่ถัดไป คือ 32 และ 33 จะเป็นยูนิต Penthouse ทั้งหมด โดยชั้น 32 จะมี 2 ยูนิต และชั้น 33 มี 1 ยูนิต โดยทุกยูนิตของ Penthouse จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวค่ะ
:: 32nd Floor Plan ::
:: 33th Floor Plan ::
ภาพจากโมเดลให้เห็นว่ายูนิตไหนอยู่ส่วนตรงไหนบ้างนะคะ ภาพนี้คือมุมมองจากด้านหน้าอาคาร
ส่วนภาพนี้คือมุมมองจากด้านหลังอาคาร
::: แบบห้องทั้งหมด ของโครงการ :::
แบบห้องทั้งหมดของโครงการจะมีทั้งหมด 16 แบบไม่เหมือนกัน ซึ่งแบ่งเป็นพาร์ทใหญ่ๆได้ดังนี้
ภายในห้องจะขายแบบ Partically Furnished พร้อมชุดครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำแบรนด์ดังจากอิตาลี
:: แปลนห้อง 1 Bedroom : 42-45 ตร.ม. ::
ภาพจำลองภายในห้องแบบ 1 Bedroom
:: แปลนห้อง 2 Bedrooms : 79-91 ตร.ม. ::
ภาพจำลองภายในห้องแบบ 2 Bedroom
ภาพจำลองจากห้อง 2 Bedroom และมุมมองที่จะได้เห็นวิวจากภายนอกอาคาร
:: แปลนห้อง 3 Bedrooms : 115-144 ตร.ม. ::
ภาพจำลองภายในห้องแบบ 3 Bedroom
:: แปลนห้อง Duplex : 92 ตร.ม. ::
ห้องแบบ Duplex ชั้น 1
ชั้น 2
ภาพจำลองภายในห้องแบบ Duplex
:: แปลนห้อง Penthouse : 244-357 ตร.ม. ::
แปลนห้องแบบ Pent House ทั้งหมด
:::: ห้องตัวอย่าง โครงการ LAVIQ – สุขุมวิท 57 ::::
มาถึงห้องตัวอย่างกันแล้วนะคะ วันนี้เราจะพาไปชมห้องทั้งหมด 2 แบบด้วยกันค่ะ คือ
::: แบบห้อง 1 Bedroom(A1) : 42 ตร.ม. :::
เริ่มต้นจากห้องแบบ 1 Bedroom Type A1 ขนาด 42 ตารางเมตร กันก่อนเลยนะคะ
ประตูทางเข้าห้องบานไม้สังเคราะห์ ปิดผิวลายไม้ โดยมีเส้นคิ้วที่ขอบบานสี Copper ดูหรูหรา โดยบานประตูนี้มีความสูงถึง 2.6 เมตร ซึ่งสูงกว่าระยะ Floor to Floor ของคอนโดทั่วไป เพราะว่าฝ้าเพดานของลาวีคนั้นสูงถึง 3 เมตรเลยค่ะ นี่คือระยะที่ Drop ฝ้าลงมาแล้วนะ จุดที่ไม่ Drop จะสูง 3.2 เมตร
มือจับเป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Sumsung แบบเมื่อใช้คีย์การ์ดแตะแล้วสามารถกดผลักเข้าไปในห้องได้เลยค่ะไม่จำเป็นต้องใช้อีกมือหนึ่งจับคันโยก หากถือของมาเยอะก็สามารถเข้าห้องได้โดยง่าย
ซึ่งปูพื้นด้วยวัสดุแตกต่างกันค่ะ ส่วนครัวจะปูด้วยพื้นหิน แต่ส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอนทั้งหมดจะปูด้วยพื้น Engineering Wood หน้ากว้าง 8 นิ้ว ซึ่งมีคิวธรณีแบ่งโซนกันตามภาพนี้
เรามาชมบริเวณทางเข้าของห้องกันก่อนนะคะ
สิ่งที่ได้ของห้องนี้ จะเป็นตู้เก็บของด้านข้างประตูค่ะซึ่งจะมีช่องสำหรับวางของตกแต่งและแขวนกุญแจบ้านหรือกุญแจรถได้ บานปิดตู้ทั้งหมดเป็นผิวแบบ High Gross
ด้านข้างอีกฝั่งของประตูก็มี Build In ตู้สำหรับเก็บของด้วยเช่นกันค่ะ ภายในสามารถวางเครื่องซักผ้าและตู้อบผ้าได้ ส่วนฝั่งติดประตูก็สามารถเก็บรองเท้าได้ ซึ่งก็จัดเป็นสัดเป็นส่วนดี
เครื่องซักผ้าจะได้ตามนี้เลยนะคะยี่ห้อ Teka
มือจับบานตู้เป็นวัสดุคิ้วสแตนเลสสี Copper
ไปชมโซนห้องครัวกันบ้างค่ะว่าจะได้อะไรบ้าง
ห้องครัวนี้ก็จะได้ตู้ Cabinet และเคาน์เตอร์ครัว Build-in มาให้เสร็จ วัสดุบานปิด High Gross ทั้งหมดเช่นกัน
มีช่องสำหรับวางตู้เย็นและเหนือตู้เย็นมีตู้ลอยสำหรับเก็บของด้วยค่ะ ตู้เย็นก็จะได้ตามนี้เลยเช่นกัน ไม่ต้องลำบากไปหาตู้เย็นที่ขนาดพอดีกับช่องมาใส่เพิ่ม
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวมีทางเดินตรงกลางประมาณ 1.1 เมตรจัดเป็นรูปตัว U โดยจะได้เตาไฟฟ้า, เตาไมโครเวฟแบบลอยตัว อ่างล้างจาน และเครื่องดูดควันติดมาให้เรียบร้อย
ในส่วนของลิ้นชักที่อยู่ใต้เตาไฟฟ้า เป็นช่องสำหรับเก็บช้อนส้อม ชุดท็อปครัวทำจากหิน Quartz ทั้งหมดค่ะรวมถึงผนังกันเปื้อนก็กรุด้วยหิน Quartz เช่นเดียวกัน
เตาเซรามิกแบบสองหัวยี่ห้อ Kuppersbusch หากเป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นก็จะได้เป็นแบบสี่หัวค่ะ
เตาไมโครเวฟแบบลอยตัวยี่ห้อ Teka ซึ่งจะได้ตามนี้เลย
เครื่องดูดควันยี่ห้อ Kuppersbusch
อ่างล้างจานแสตนเลสยี่ห้อ Teka แบบฝังอยู่ใต้ท็อปหิน Quartz ดีไซน์โมเดิร์น ดูจากในภาพเหมือนจะเล็ก แต่จริงๆแล้วใหญ่พอสมควรเลยเหมือนกันนะคะสามารถวางหม้อลงไปได้ทั้งสองหม้อ
ภายในตู้เคาน์เตอร์ด้านล่าง และด้านบนของอ่างล้างจาน
เหนืออ่างล้างจานมีไฟติดอยู่ที่ข้างใต้ของตู้เก็บของด้วยค่ะ เปิดปิดไฟโดยใช้สวิตสีดำที่มุมด้านซ้ายมือ ซึ่งเปิดแล้วจะสวยอย่างไรเดี๋ยวจะมีภาพให้ชมที่ห้อง 2 Bed
ก๊อกน้ำอ่างล้างจานยี่ห้อ Teka ดูแบบนี้ก็เป็นแค่ก๊อกธรรมดา
แต่จริงๆแล้วสามารถดึงส่วนหัวออกมาใช้งานในระยะไกลได้ค่า ลักษณะเป็นงวง
และมีระบบทำน้ำเย็น-อุ่นด้วย หักก๊อกทักไปทางซ้ายมือก็จะเป็นน้ำเย็น ส่วนขวามือก็จะเป็นน้ำอุ่น
ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ครัวก็จะมี โต๊ะ Island ที่เป็นโต๊ะทานอาหารไปในตัว ปิดท๊อปด้วยหิน Quartz เช่นเดียวกัน ลักษณะเป็นเหมือนเคาน์เตอร์บาร์ ที่สามารถนั่งทำงานและทานอาหารได้ จากเชื่อมต่อกับโซนห้องนั่งเล่นด้านหลังค่ะ
วัสดุโต๊ะเป็นขาสแตนเลส Top หิน Quartz สีเดียวกับชุดครัว
มุมมองจากห้องครัวผ่านโซนทานอาหาร ไปยังห้องนั่งเล่น
จากห้องนั่งเล่นมองย้อนกลับมาให้เห็นโซนทานอาหารและห้องครัวทั้งหมด ระบบแอร์ของที่นี่จะใช้เป็นแบบ Ceiling Concealed Type อยู่ที่ฝ้าเพดานเหนือห้องครัว เป็น Grill ติดตั้งอยู่ด้านบน โดยมีระบบเติมอากาศ (Fresh Air Intake) ทำให้อากาศหมุนเวียนตลอดเวลา
มาชมโซนห้องนั่งเล่นกันค่ะ
ห้องนั่งเล่นนี้สามารถวางโซฟาได้สองถึงสามที่นั่ง แนะนำให้หาโซฟาเป็นรูปตัวแอลก็จะสามารถนั่งได้เยอะคนยิ่งขึ้นนะคะ
ภาพมุมมองจากโซฟา ไปยังทีวี
ที่ผนังติดตั้งทีวีได้เดินปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ แต่จะได้เป็นผนังเปล่านะคะไม่ได้มีตกแต่งบ้านกระจกเอาไว้ให้ซึ่งลูกค้าสามารถดีไซน์เองได้เลยตามความชอบส่วนบุคคล
ประตูทางออกสู่ระเบียง วัสดุอะลูมิเนียมสีเทา มือจับแบบเซาะร่อง โดยการล็อคตัวบานจะใช้มือดันขึ้นดันลงอยู่ภายใน
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายไม้ ราวจับระเบียงเป็นวัสดุกระจกลามิเนต ตั้งบนโครงสแตนเลสแข็งแรงและค่อนข้างสูงประมาณ 1 เมตรเลย เนื่องจากเป็นอาคารสูงต้องมีระยะเพื่อความปลอดภัย
ธรณีระหว่างห้องนั่งเล่นและระเบียงถูกยกขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว เพื่อกันน้ำภายนอกซึมเข้าภายในตัวห้องหากฝนตก
ที่ภายนอกระเบียงมีติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งได้ทำตัวบานตีระแนงไม้สังเคราะห์เอาไว้ให้ด้วยเพื่อความสวยงามค่ะ
บริเวณระเบียงจะได้ไฟดาวน์ไลท์หนึ่งจุดติดอยู่ที่เพดาน
มุมมองจากระเบียงมองเข้ามาภายในห้อง นั่งเล่น เราจะพาเข้าไปชมภายในห้องนอนกันนะคะซึ่งประตูทางเข้าห้องนอนจะอยู่ด้านข้างของผนังวางทีวีตรงข้ามกับโต๊ะทานอาหารนี้เลย
ภาพแรกเมื่อมองเข้าไปภายในห้องนอน ก็จะเจอกับชั้นวางของซึ่ง Build In อยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าค่ะ สำหรับห้องนี้ก็จะได้ตามนี้หมดยกเว้นเตียง โต๊ะปลายเตียงและโต๊ะหัวเตียง
ภาพจากปลายเตียงเปล่ายังหัวเตียงค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมือ 80 เซนติเมตร ขวามือ 1 เมตร เดินได้สะดวกดี เนื่องจากบานตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นบานเลื่อนจึงไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางเดินหากต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า
คืนที่ปลายเตียงกว้าง 1 เมตร สามารถวางตู้ที่ปลายเตียงได้ขนาด 55 เซนติเมตร
ภาพจากหัวเตียงเตียงปลายเตียงค่ะที่ ผนังปลายเตียงมีเดินปลั๊กไฟและสาย อากาศสำหรับติดตั้งทีวีอยู่ภายในห้องนอนให้ด้วย
บานหน้าต่างภายในห้องนอนที่ได้ก็จะเป็นบาน Full Height สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานเลย ซึ่งมีช่องเปิดอยู่ที่ด้านขวามือสุดบริเวณหัวเตียง
เป็นมือจับแบบก้านโยกบาน กระทุ้ง สามารถเปิดออกไปได้กว้างดีค่ะ
เมื่อเปิดออกไปแล้วก็จะมีโครงก้านด้านข้าง ซึ่งจะล็อกบานเอาไว้อัตโนมัติ ไม่ให้ปิดพับลงมา หากต้องการจะปิดหน้าต่างกลับที่เดิม ก็แค่ผลักให้ตัวล็อกมันหมุนสักแก๊กหนึ่ง ก็จะสามารถดึงเข้าได้
อีกมุมมองหนึ่งจากห้องนอนมอง ไปยังตู้เสื้อผ้า
สำหรับห้องนอนนี้โครงการก็จะให้ตู้เสื้อผ้ามาแบบนี้เลยนะคะเป็นบานเลื่อนปิดแบบ HighGross โดยมีคิ้วสแตนเลสสี Copper เป็นมือจับ
ภายในตู้เสื้อผ้าทั้งสองฝั่งตอนบนสุดจะเป็นชั้นเก็บของรองลงมาก็จะเป็นราวแขวนเสื้อผ้า ชั้นล่างสุด จะถูกซอยเป็นสินชักช่องเก็บของมีหลายช่องทีเดียวเลย
ฝั่งซ้ายมือจะมีลิ้นชักข้างใต้มาให้ด้วย มือจับลิ้นชักเป็นลักษณะปาดเฉียงที่ด้านบนของตัวบาน
เกือบลืมเลยค่ะ สวิตช์ไฟและปลั๊กไฟ ทั้งหมดของโครงการยี่ห้อ Bticino สีเทาด้านผิวพ่นทราย
ภายในห้องน้ำผนังและพื้นปูด้วย Marble Pocelain ขนาด 60×60 ซม. โดยลดระดับจากพื้นห้องนอนและมีธรณีคิวปิดประมาณ 1 นิ้ว
อ่างล้างมือเซรามิกยี่ห้อ Villeroy & Bosh ติดตั้งอยู่ใต้ท็อปเคาน์เตอร์วัสดุ หินแกรนิตจริง ติดขอบอะลูมิเนียมสี Pink Gold
ก๊อกน้ำยี่ห้อ Gessi ค่ะ ขอบอกก่อนว่า สุขภัณฑ์และอุปกรณ์นั้น Made In Italy ทั้งหมดนะคะ
ด้านข้างอ่างล้างมือมีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำยี่ห้อ Bticino ไว้ด้วย สำหรับเสียบไดร์เป่าผม
มีตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์หน้าบานไม้สังเคราะห์ติดคิวอะลูมิเนียมสี Pink Gold สีเดียวกับด้านบนเคาน์เตอร์ด้วย
ข้างอ่างล้างมือจะเป็นจุดติดตั้งโถสุขภัณฑ์ค่ะ พื้นที่ข้างโถระยะมาตรฐานนั่งสบาย
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อเดียวกับอ่างล้างมือ Villeroy & Bosh ด้านบนของโถดีไซน์โมเดิร์น
สายชำระพลาสติกสีโครเมียมยี่ห้อ Cotto และ ที่วางกระดาษทิชชูสแตนเลสดีไซน์โมเดิร์นแบบเสียบ ยี่ห้อ Cotto เช่นเดียวกัน ติดอยู่ที่ผนังด้านข้างของโถสุขภัณฑ์
ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็น. ติดตั้งที่แขวนผ้าเช็ดตัวค่ะ
ที่แขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสยี่ห้อ Cotto ดีไซน์โมเดิร์น
บานเปิดเป็นแบบบานสวิง มือจับสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ทั้งภายในและภายนอก ดีไซน์โมเดิร์นทรงเหลี่ยม
เข้ามาชมภายในกันค่ะ
พื้นในโซนอาบน้ำปูด้วยหินขนาด 60 × 60 เซนติเมตรแบบผิวด้านสีเทา เพื่อพรางรอยคราบสบู่ ลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำปกติประมาณ 4 เซนติเมตร
โครงอ่างอาบน้ำปูด้วยหินจริงสีเดียวกับเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ตัวอ่างยี่ห้อ Bathroom Design
ก๊อกอ่างอาบน้ำนี่ห้อ Gessi แบบมีฝักบัวฝัง ที่ตัอ่างเมื่อเปิดก๊อกฝักบัวน้ำก็จะพุ่งลงมาเหมือนน้ำพุ
ส่วนโซนอาบน้ำจะได้ชุดฝักบัวแบบ Rain Shower พร้อม หัวฝักบัวแบบธรรมดามีโครงปรับระดับความสูง ยี่ห้อ Gessi
หัวเรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่ดีค่ะ
ส่วนฝักบัวที่ได้ก็ขนาดพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่
โดยจะมี ก๊อกน้ำ ที่ฝังอยู่ในตัวเป็นแบบ Thermo Stat โดยจากควบคุมอุณหภูมิน้ำให้คงที่ไม่ว่าจะเปิดน้ำเบาหรือแรง อุณหภูมิก็จะเท่าเดิมค่ะ
ชุดท่อระบายน้ำติดตั้งอำพรางให้ดูใกล้เคียงกับพื้นกระเบื้องปูห้องน้ำ
ภาพจากภายในโซนอาบน้ำมองไปที่ทางเข้าให้เห็นภาพรวมของห้องน้ำห้องนี้
::: แบบห้อง 2 Bedroom(B1) : 86 ตร.ม. :::
จบไปแล้วกลับห้อง A1 1 Bedroom นะคะ มาต่อกันที่ห้อง 2 Bed แบบ B1 กันค่ะประตูทางเข้าก็จะเหมือนกันทุกประการ
มองเข้าไปที่ประตูทางเข้าครัวที่ได้ก็จะคล้ายๆกันค่ะ
ผนังด้านข้าง Build In ตู้เก็บของเอาไว้ให้แต่สังเกตว่าจะไม่มีเครื่องซักผ้าแล้วเพราะตู้เก็บเครื่องซักผ้าบ้านถูกย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม บริเวณครัวแทน
ข้างประตูก็มีตู้เก็บของหน้าตาเดียวกันกับห้องที่แล้วเลยค่ะ มีช่องสำหรับแขวนกุญแจเหมือนกัน
ถ้ามุมมองไปยังห้องครัว เบื้องต้นหน้าตาคล้ายกันมากค่ะแตกต่างตรงที่ จะได้ Island แบบลอยตัวสามารถเดินได้โดยรอบ
ภายในตู้เย็น และตู้เก็บของเหนือตู้เย็น ซึ่งได้ขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว ยี่ห่อ Sumsung
Island ที่ได้จะเป็นแบบลอยตัวปิดด้วยท็อปหิน Quartz เช่นเดียวกัน เก้าอี้ไม่ได้ให้มาด้วยนะคะ
ด้านข้างมีติดตั้งไมโครเวฟยี่ห้อ Kuppersbusch แบบฝังเอาไว้ด้วย ห้องที่แล้วจะได้เป็นไมโครเวฟแบบลอยตัว
ฝั่งตรงข้าม Island ติดกับจุดวางตู้เย็นก็จะเป็นโซนอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้า โดยจะได้ตู้เก็บของเหนืออ่างล้างจานเป็นแบบมีชั้นซอยเล็กๆสามารถวาง ของตกแต่งได้ด้วย
อ่างล้างจาน สแตนเลสยี่ห้อ Teka ขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วค่ะสามารถทำอาหารหนักได้สบาย
เตาไฟฟ้าแบบสี่หัว ยี่ห้อKuppersbusch
ที่ใต้เคาน์เตอร์มีเตาอบแบบฝัง ยี่ห้อ Kuppersbusch
และ Wine Cellar หรือตู้เก็บไวน์ยี่ห้อ Teka ไว้ให้ด้วยค่ะ
เหนือเตาไฟฟ้า ก็มีเครื่องดูดควันให้ด้วยเช่นกัน ยี่ห้อ Kuppersbusch หน้าตาเหมือนกับห้องที่แล้ว
เนื่องจากห้องที่แล้วไฟข้างใต้เคาน์เตอร์เปิดไม่ได้นะคะ เลยมาเปิดให้ดูที่ห้องนี้แทนค่ะ ที่ใต้ตู้ซ่อนไฟแอลอีดีเอาไว้เป็นเส้นสามารถกดปิดเปิดได้ที่สวิตสีดำบริเวณมุม
ตู้เก็บเครื่องซักผ้าย้ายมาอยู่ตรงนี้นี่เอง
มุมมองให้เห็นห้องครัวในภาพรวม ก่อนที่จะไปดูโซนห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารด้านหลัง
ระยะดูทีวีประมาณ 3.2 นับตั้งแต่ประมาณหลังโซฟานะคะ ไม่รวมกับห้องทานอาหารซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรเลย
จริงๆห้องที่เราก็สามารถวางโซฟาได้ขนาดเดียวกับห้องนี้เลยนะคะแต่เขาวางให้ชมขนาดเล็กกว่าเท่านั้น
ที่ผนังวางทีวีห้องจริงจะได้เป็นผนังเปล่าเดินปลั๊กไฟและสายอากาศมาให้เรียบร้อยนะคะ ไม่ได้ ตกแต่งมาให้เหมือนอย่างที่เห็น
ด้านข้างโซฟาก็เป็นประตูออกสู่ระเบียงวัสดุ อะลูมิเนียมสีเทา พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายไม้
ภายนอกระเบียงก็จะเป็นจุดติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ หน้าตาเหมือนกันกับห้องที่แล้วเลยค่ะ
ซูมดีเทลราวจับระเบียงมาให้ดูสักหน่อย ห้องที่แล้วไม่ได้ซูม เป็นกระจกติดบนโครงสแตนเลสนะคะ ซึ่งจะทำให้ไม่บดบังวิวจากภายในห้องนั่งเล่น
กลับเข้ามาข้างในขาด้านหลังโซฟาเป็นห้องรับประทานอาหาร
ส่วนรับประทานอาหารสามารถวางเก้าอี้ได้ถึงหกที่นั่ง สังเกตที่โคมไฟคริสตัล Chandelier จะสูงพ้นศรีษะค่ะ เนื่องจากว่าเพดานสูงถึง 3 เมตร จึงทำให้สามารถติดตั้งโคมไฟระย้าได้สบายแบบไม่โดนชน
มุมมองจากโต๊ะทานอาหารไปยังห้องนั่งเล่นและประตูทางเข้า
ที่ข้างโซนรับประทานอาหารจะเป็นโถงทางเดินไปยังห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ แบ่งโซนได้ เป็นส่วนตัวดีค่ะ
ทางเดินกว้าง 1 เมตร โดยประตูห้องทั้งสามจะอยู่ที่ปลายสุดของโถง ซ้ายมือคือห้องน้ำ ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก และตรงกลางคือห้องนอนใหญ่ที่มี ห้องน้ำส่วนตัวอยู่ภายใน
เข้ามาชมภายในห้อง Master Bedroom กันก่อนนะคะมองย้อนไปทางด้านขวามือ เป็นโซนของห้องนอนส่วนหากมองไปทางด้านซ้ายมือจะเป็น Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ
โครงการวางเตียงขนาดคิงไซท์ 6 × 6 ฟุตมาให้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมือกว้าง 1.1 เมตร ส่วนขวามือกว้าง 1.6 เมตร ถือว่ากว้างมากๆเลย
ส่วนปลายเตียงกว้าง 1.8 เมตรค่ะสามารถวางตู้เก็บของหรือตู้วางทีวีได้ลึกถึง 60 เซนติเมตร ก็ยังเหลือทางเดินแบบสบายๆ
กิมมิคของห้องนี้ก็คือกระจกแบบ Corner Window ที่สูงจากพื้นจนถึงฝ้าเพดาน ทำให้กลายเป็นห้องนอนที่สามารถชมวิวได้กว้างมากๆรวมถึงแสงธรรมชาติแบบเต็มๆ
ภาพมุมมองจากหน้าต่าง Corner Window ไปยังประตูทางเข้าค่ะด้านข้างการเป็นประตูสู่โซน Walk-in Closet
ผนังข้างหน้า Walk in Closet ถูกทำเป็นตู้เก็บของและโต๊ะทำงานเอาไว้ให้ชมค่ะ ซึ่งหากใครเก็บเสื้อผ้าไม่พอก็สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้นะ
ประตูทางเข้า Walk-in Closet เป็นแบบบานเลื่อนมีกระจกฟ่าโปร่งแสงให้ด้วยเพื่อที่จะได้ทราบว่าภายในมีคนอยู่หรือไม่สังเกตจากไฟเปิดปิด ภาพขวาคือ Detail บานประตูด้านหลังภายในของห้องมีการติดตั้งโครงซ่อนเก็บงานเอาไว้เรียบร้อย
ห้องจริงจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบนี้เป๊ะเลยนะคะโครงการทำมาไว้ให้เสร็จ แต่ห้องนอนเล็กจะไม่มีตู้เสื้อผ้าให้นะต้องมาทำเอง ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนกระจกภายในสามารถเก็บของได้เยอะดีมีซอยช่องเอาไว้หลายช่อง
มีลิ้นชักสำหรับเก็บของกระจุกกระจิก เช่น สร้อยข้อมือ กระเป๋าสตางค์ หรือ เน็คไท
เข้าไปชมภายในห้องน้ำกัน ห้องน้ำนี้จะอยู่ติดกับภายนอกของอาคารนะคะโดยมีหน้าต่างสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเช่นเดียวกัน Sexy มากๆ คงต้องติดผ้าม่านหรือมู่ลี่หน่อยนะเพราะโครงการไม่ได้ติดมาให้
บริเวณประตูทางเข้า เป็นจุด ติดตั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมือแบบเต็มผนัง ฝั่งตรงข้ามเป็นโซนโถสุขภัณฑ์ ที่มีฉากกั้นกระจกแยก
วัสดุเคาน์เตอร์กระจกและอ่างล้างมือเหมือนกันกับห้องน้ำที่แล้วทุกประการค่ะ
เหนืออ่างล้างมือ เป็นตัวเก็บของบ้านกระจกเงาเช่นเดียวกัน
อ่างล้างมือยี่ห้อ Villeroy & Bosh มีพื้นที่ข้างอ่างเหลือเยอะมากสามารถวางของได้สบายๆ
ก๊อกน้ำแสตนเลสยี่ห้อ Gessi แบบ ฝังอยู่บนเคาน์เตอร์ แยกก๊อกน้ำเย็นและน้ำอุ่น
ส่วนสุขภัณฑ์มีฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย โดยพื้นไม่ได้ลดระดับลงนะคะ เนื่องจากยังเป็นส่วนแห้งอยู่
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Villeroy & Bosch โดยมีสายชำระ และ ที่วางกระดาษทิชชูยี่ห้อ Cotto ติดไว้ให้
บานเปิดกระจกมี Door Stopper ติดเอาไว้ให้เหนือประตูนะคะไม่ต้องห่วงว่าเปิดแล้วจะไปกระแทกเสาแต่อย่างใด
เข้ามาที่ โซนอ่างอาบน้ำค่ะ จะได้เป็นอ่างแบบลอยตัวโดยมีก๊อกน้ำและฝักบัวฟังอยู่ที่พื้น
อ่างอาบน้ำส่งวงรียี่ห้อ Bathroom Design
โดยมีก๊อกฝักบัวฝังที่พื้น ยี่ห้อ Gessi โดยที่ตัวฝักบัวสามารถดึงออกมาได้แล้วนะคะไม่เหมือนกับห้องที่แล้วที่ฝักบัวจะฟังอยู่กับอ่างและเปิดให้น้ำพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ
ตรงข้ามอ่างอาบน้ำเป็นโซน Shower ที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง และกั้นฉากกระจกบานสวิงเอาไว้
ภาพมุมมองจากภายในห้องน้ำย้อนกลับไปที่ห้องแต่งตัว
ออกมาจากห้องแต่งตัวก็จะเจอกับภาพห้องนอนใหญ่มุมนี้
ชมกันไปหมดแล้วนะคะสำหรับห้องนอนใหญ่ คราวนี้มาดูที่ห้องนอนเล็กกันบ้างค่ะประตูทางด้านขวามือข้างกันเลย
ห้องนอนเล็กที่ได้จริง จะเป็นห้องเปล่าแบบไม่มีตู้เสื้อผ้าให้นะคะ ช่องแสงของห้องเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่มากๆ เต็มบานสูงตั้งแต่พื้นจรดฟ้าเพดานโดยจะมีบานกระทุ้งอยู่ที่ด้านขวามือ บริเวณที่ผ้าม่านปิดอยู่
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมือเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร ขวามือเหลือประมาณ 80 เซนติเมตรไม่รวมตู้เสื้อผ้านะคะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือ 1 เมตรสามารถ Build In หรือวางตู้วางของได้ประมาณ 40 เซนติเมตรกำลังดี
ด้านข้างเตียงเป็น. ติดตั้งตู้เสื้อผ้าซึ่งสำหรับห้องนี้จะไม่ได้ตู้เสื้อผ้ามาด้วยนะ บริเวณฝ้าเพดานเป็นจุดติดตั้งแอร์แบบฝัง
ส่วนห้องน้ำสำหรับห้องนอนนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลยค่ะซึ่งเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับโซน Living ด้านนอก
ภายในห้องน้ำเหมือนกันทุกประการกับห้อง 1 Bedroom
โซนติดตั้งโถสุขภัณฑ์เหมือนกันทุกประการ
ช่องวางสบู่ด้านข้าง Rain Shower สำหรับห้องนี้จะฝังอยู่ด้านใน
ภาพมุมมองจากภายในห้องน้ำไปยังภายนอก
จากห้องน้ำ เดินกลับออกไปที่ โซน Living ก็จะเจอกับภาพนี้ค่ะ
:::: ราคา (พย.2559) ::::
ราคาเริ่มต้น 9.7 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. 240,000 บาท
ห้อง 1 Bedroom : A1 : 41.79 ตร.ม
ราคา 9,646,000 บาท
ห้อง 2 Bedroom : B1 : 86.03 ตร.ม.
ราคา 19,854,000 บาท
ห้อง 3 Bedroom : C1 : 114.54 ตร.ม.
ราคา 26,764,000 บาท
*ขายแบบ Partically Furnished พร้อมชุดครัว, สุขภัณฑ์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, แอร์ และตู้เสื้อผ้าที่ห้องนอนหลัก
**ข้อมูลราคาและ โปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
• ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ LAVIQ-สุขุมวิท 57 ตั้งอยู่บน Prime Area ติดแยกทองหล่อ ถัดมาเพียงแค่ซอยเดียวเท่านั้นค่ะ ปากซอยมีโรงแรม Bangkok Marriott คงไม่ต้องพูดอะไรมากนักสำหรับทำเลในโซนนี้ที่ราคาที่ดินพุ่งหนักมากและคอนโดระดับ Luxury ที่ราคาสูงแต่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สาธารณูปโภคครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กใหญ่, โรงเรียน, โรงแรมทุกระดับ, โรงพยาบาล และสถานที่ราชการสถานฑูตต่างๆ ส่วนบริเวณหน้าโครงการก็เป็นย่าน Mini Japan ค่ะ อาจไม่หนาแน่นเท่าโวนพร้อมพงษ์แต่ก็มีอยู่ร้านเว้นร้าน ตลอดทาง ร้านอาหารมีตั้งแต่หน้าโครงการและทางลัดที่สามารถเดินทะลุซ.ทองหล่อไปยัง Fifty Fifth มี 7-11 หน้าปากซอยบริเวณ ถ.สุขุมวิท
• การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โครงการตั้งอยู่ในโซนสุขุมวิทช่วงกลาง ดังนั้นการเดินทางเข้า-ออกตัวเมืองกทม.จะสามารถไปได้รอบทิศในระยะทางเท่าๆกันค่ะ ข้อเสียสำหรับโซนนี้คือรถติดหนักมาก ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ ซ.สุขุมวิท 57 เป็นซอยที่ไม่มีทางลัดนะคะ มีแต่สามารถเดินเท้าทะลุซ.ทองหล่อได้เท่านั้น แต่สามารถวิ่งเป็นวงกลมได้ผ่าน ถ.เอกมัย ผ่านทองหล่อซ. 10 อีกทั้งยังอยู่ใกล้แยกบ้านกล้วยใต้ ซึ่งสามารถทะลุสู่ ถ.พระราม 4 ได้ในระยะทางอันสั้นค่ะ นอกจากนี้ียังมีทางด่วนล้อมรอบโครงการเป็นวงกลมนั่นก็คือทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์
• การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางโดยรถประจำทางนั้นสะดวกสบายค่ะเนื่องจากเป็นย่านใจกลางเมืองและห่างจากบีทีเอสในระยะเดิน มีรถผ่านตลอดทั้งวัน และตลอดเวลา ทั้งรถเมล์ , Taxi, รถตู้ และรถสองแถว รวมถึงมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยในระยะเดินแค่ 130 เมตรเท่านั้น ในอนาคตจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเทาเข้ม วิ่งตัดผ่านที่เส้นทองหล่อ โดยสถานี Interchange ก็คือสถานีเดียวกับ BTS ทองหล่อที่ห่างจากโครงการเพียง 260 เมตรเท่านั้น รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเทาอ่อน ที่วิ่งเส้นพระราม 4 เริ่มจากพระโขนง, รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีมาตัดที่สถานีประดิษฐมนูธรรม ที่สามารถวิ่งตรงไปขึ้นจาก ถ.เอกมัย ได้
• การออกแบบโครงการและวัสดุ Super Luxury High Rise Condo สูง 33 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 2-1-65 ไร่ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Palmer & Turner, Shma และ DWP พื้นที่อาคารชั้นหนึ่งจะเป็นโซนต้อนรับส่วนชั้น 2 ถึง 5 จะเป็นอาคารจอดรถทั้งหมดค่ะ ถัดขึ้นไปชั้น 6 ถึง 28 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีสวนลอยฟ้าอยู่ที่ดาดฟ้าของชั้น 5 ตัวอาคารมีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัวและ Service & Fireman Lift อีก 1 ตัวค่ะ Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 29-30 ชั้น 31 จะเป้นยูนิตพักอาศัยแบบ 1-3 Bed ส่วนชั้น 32-33 จะเป็นห้องแบบ Penthouse ทั้งหมด 3 ยูนิตอยู่บนยอดอาคาร ภายในห้องที่ได้เน้นการตกแต่งให้ดูหรูหราด้วยวัสดุพื้นไม้และหิน โครงการขายแบบ Partically Furnished พร้อมชุดเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ เครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ และตู้เสื้อผ้าหรือ Walk-in Closet ซึ่ง Build-in มาให้เสร็จค่ะ จะขาดหลักๆก็แค่โซฟา เตียง เก้าอี้หรือโต๊ะทานอาหารเท่านั้น ภายในห้องได้หน้าต่างบานกระจกแบบ Full Height สูงจรดฝ้าเพดานถึง 3.0-3.2 เมตรด้วยกันค่ะ ชุดครัวที่ได้ยี่ห้อ Kuppersbusch, Teka ท๊อปหิน Quartz ส่วนสุขภัณฑ์หลักๆจะยี่ห้อ Villeroy&Bosch, Gessi พร้อม Accessories ยี่ห้อ Cotto, อ่างอาบน้ำ Bathroom Design และเคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่บิวด์อินตู้เก็บของกระจกเต็มผนัง ปูด้วยท๊อปหินแกรนิตจริง และได้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยทั้งหมด
• สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ถือว่าให้มาแน่นมากๆ และชูโรงด้วยแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ FENDI Casa ในพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดค่ะ โดยหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 1 เริ่มต้นจากหน้าโครงการซึ่งเป็นสวนสาธารณะ ออกแบบโดย Shma ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยในอาคาร โดยภายในและภายนอก จะไม่สามารถมองเห็นถึงกันได้ แต่ได้สัมผัสธรรมชาติจากต้นไม้ของโครงการทั้งสองฝั่ง ห้องสมุดจะอยู่ติดกับสวนโดยมีทั้ง Indoor และ Outdoor เลยค่ะ นอกจาก ห้องมุดและ Lobby Lounge แล้วที่ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง Control Room สำนักงานนิติบุคคล ห้องยาม, คนขับรถ และแม่บ้าน รวมถึง Bicycle Garage สำหรับผู้ชอบปั่นจักรยานด้วย
ส่วน Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 29-30 โดยจะเชื่อมต่อกันจากโถงลิฟท์ และบันได Spiral Staircase จากสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ระบบโอโซน ซึ่งมีมุมพักผ่อนโดยรอบ นอกจากนั้นยังมีห้องสำหรับกิจกรรมต่างๆเช่น Social Club, Party Terrace, Sky Deck, Executive Lounge, Meeting Room ที่สามารถ Booking สำหรับใช้งานส่วนตัวได้โดยแจ้งที่นิติบุคคลค่ะ ห้องฟิตเนสที่นี่ก็พิเศษมากๆอีกตรงที่มีเครื่อง Bike, Golf Simulator ให้ด้วย และห้องโยคะ ที่ถูกกั้นเป็นห้องแยกโซนไม่ปะปนกันค่ะ ที่นี่สามารถจอดรถได้ 100% เต็มนะคะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.7 | อยู่ในโซน Prime Area เลยแยกทองหล่อไปเพียงแค่ 130 เมตร แต่อยู่ลึกจากปากซอยสุขุมวิท 57 130 เมตร ขอหักคะแนนเล็กน้อยตรงต้องเข้าซอยแล้วกันนะคะ |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 8 | อยู่ทำเลใจกลางเมือง เดินทางสะดวกมาก แต่รถติดหนักมาก |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 9 | มีให้เลือกหลากหลายและตลอดเวลา ห่างจาก BTS ทองหล่อ 260 เมตร มีโครงข่ายรถไฟฟ้าที่จะตัดผ่านหลายสายในอนาคต |
บ้านและวัสดุ | 9.3 | ห้องขายแบบ Partically Furnished ได้ชุดครัวและตู้เก็บของแบบจัดเต็ม วัสดุดี สุขภัณฑ์จากแบรนด์ Made In Italy และห้องสูงโปร่งด้วยกระจกแบบ Full Height |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและหลากหลายมากๆ ข้อดีคือที่จอดรถที่มีมาให้เต็ม 100 % นี่แหละค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | โครงการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High-End ที่มีงบประมาณตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 9 | ดีมาก |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Call Center : 1232 กด 11
Website : www.laviq.com
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น