รีวิว คอนโด ไลฟ์ ลาดพร้าว Life Ladprao
Life ลาดพร้าว จาก AP Thailand ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ใกล้ MRT พหลโยธิน และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว ใกล้ยูเนียนมอลล์, เทสโก้ โลตัส, เมเจอร์ รัชโยธิน, สวนจตุจักร และ SCB Park
ไลฟ์ ลาดพร้าว เป็นคอนโด High Rise 45-46 ชั้น 2 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 7-0-71.4 ไร่ ห้องพักจำนวน 1,615 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ Duplex ขนาดเริ่มต้น 26.00-342.00 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, Intelligent Facility, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์ต่างๆ, สวนพักผ่อน, ประตูคีย์การ์ด, ที่จอดรถ, กล้องวงจรปิด, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | Life Ladprao (ไลฟ์ ลาดพร้าว) |
เจ้าของโครงการ | AP THAILAND |
เนื้อที่ทั้งหมด |
7-0-71.4 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร |
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
ยูนิตที่พักอาศัย 1,615 ยูนิต + ยูนิตร้านค้า 1 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 723 คัน หรือ 44.76% ของจำนวนยูนิตโครงการ |
จำนวนลิฟท์ |
|
โซน | พหลโยธิน |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. |
กำหนดการ | Presale วันที่ 20-21 พฤษภาคม 2016 ณ Sales Gallery Life ลาดพร้าว |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 2.9 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Life Ladprao คอนโดใหม่ทำเลติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว ติดโลตัสพหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ใกล้ห้าง ใกล้โรงเรียน และใกล้แหล่งอาคารสำนักงานใหญ่มากมาย มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูง ในราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
พิกัด google map : 13.817551, 100.562723
โครงการ Life ลาดพร้าว ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน โดยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้าง Central ลาดพร้าว กับโรงเรียนหอวังเลยค่ะ โดยที่ถนนพหลโยธินตอนนี้จะมีโครงการสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กำลังก่อสร้างอยู่ กำหนดสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 โดยสถานีที่อยู่ติดโครงการเลยคือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบันด้วย สร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็เป็นทำเลคอนโดแบบก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าเลยนะคะ แถม BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าวนี้ ยังเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินอีกด้วย
โซนนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีห้างใหญ่ๆอยู่ในระยะเดินไม่กี่ก้าวถึง มี Tesco Lotus ลาดพร้าวอยู่แทบจะติดโครงการเลย รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง
เรียกว่าอยู่เองก็หาของกินง่ายทั้งกลางวันกลางคืน ไปไหนมาไหนสะดวกมาก จะลงทุนหรือปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปแหล่งทำงาน สถานศึกษาได้ง่าย มีทางเลือกในการเดินทางเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์และห้างยอดนิยมของย่านลาดพร้าวอย่าง Central ลาดพร้าวและ Union Mall ใกล้ๆ เป็นแม่เหล็กช่วยดึงผู้เช่าได้ดี
สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากตัวโครงการจะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวแบบก้าวเดียวถึงแล้ว ปัจจุบันจากที่ตั้งโครงการเองก็สามารถเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 450 เมตร เท่านั้น แถมโซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าโครงการตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นั่งเพียงสถานีเดียวถึง BTS หมอชิต สถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักรปัจจุบัน
ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองของที่มีศักยภาพสูงของโซนลาดพร้าวที่น่าจับตามองค่ะ นอกจากห้างเยอะ เป็นแหล่งสำนักงาน และเป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเรื่องร้านอาหารและโรงเรียนดีๆมากมายมานานแล้ว จากผังด้านบนจะเห็นว่าในอนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าผุดขึ้นมาใกล้ๆหลายสายเลย ทั้ง BTS สายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว แบบก้าวเดียวถึง ออกมาเจอบันไดขึ้นสถานีเลย, เดินไป MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร นั่งไปสถานีเดียวถึง MRT ลาดพร้าว ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีรัชดา – ลาดพร้าวในอนาคตอีกด้วย
สำหรับคนใช้รถ เราทำไฮไลท์เส้นทางสำคัญรอบๆโครงการ Life ลาดพร้าว มาให้ดูค่ะ จะเห็นถนนใหญ่สำคัญอย่างพหลโยธิน, ลาดพร้าว, วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก ล้อมรอบโครงการอยู่ คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวกมาก มีทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหลักอย่างถนนพหลโยธิน โดยโครงการจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้ามาห้าแยกลาดพร้าวเลย ห่างจากห้าแยกลาดพร้าวเพียง 500 เมตรเท่านั้น พอถึงห้าแยกแล้วจะไปถนนวิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว, รัชดาภิเษก หรือไปขึ้นทางด่วนศรีรัชก็สะดวก, และจากลาดพร้าวยังสามารถตัดผ่าน Tesco Lotus มาออกถนนพหลโยธินลัดมาโครงการโดยสามารถเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวในวันที่การจราจรหนาแน่นได้อีกด้วย
เรามีภาพทางลัดจากถนนลาดพร้าวไปโครงการ Life ลาดพร้าว มาให้ชมกัน การศึกษาทางลัดเลาะต่างๆเป็นเรื่องจำเป็นของโซนในเมืองแบบนี้ค่ะ เพราะใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวเวลาการจราจรหนาแน่นได้ยาก โดยเฉพาะช่วงเย็นปริมาณรถบนถนนจะหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ
ดังนั้นแนะนำว่าถ้ามาทางลาดพร้าว ให้กลับรถใต้สะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าว มาเข้าลาดพร้าวซอย 1 วิ่งไปออก Tesco Lotus พหลโยธิน จะเป็นถนนพหลโยธินฝั่งที่ตั้งโครงการแทบจะติดกับโครงการเลย ระยะทางประมาณ 1 กม.เท่านั้น ตอนแรกๆอาจจะรู้สึกงงๆหน่อย แต่พอคุ้นทางเมื่อไหร่นี่ใช้ช่วยเลี่ยงรถติดได้ดีเลยค่ะ แถมระยะวนรถสั้นกว่ากันด้วย
โครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัช ในระยะประมาณ 4.9 กม.หรือระยะขับรถเพียง 7 นาทีเท่านั้น การมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆแบบนี้คนขับรถได้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะค่ะ เพราะทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะไม่ว่าจะไปพระราม 4, สีลม, สาทร หรือออกเมืองไป เมืองทอง, ดอนเมือง, รังสิต ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชไปได้สะดวก
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สิ่งอำนวยความสะดวก รอบๆโครงการ Life ลาดพร้าว ถือว่าอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่ายเช้าจรดค่ำค่ะ ความดีงามคือแทบจะอยู่ติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าว แบบห่างเพียง 80 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินไม่กี่ก้าวถึง เวลาซื้อของเข้าบ้านทำกับข้าวก็สะดวกมากๆ แถมอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย และอยู่ห่างจากยูเนียนมอลล์เพียง 500 เมตรเท่านั้น เรียกว่ามีห้างใหญ่ๆล้อมอยู่แบบเดินถึงสบายๆ และยังอยู่ใกล้ร.ร.หอวังและเซนต์จอห์น
รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้โซนนี้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง เรียกว่าอยู่เองก็สะดวกมาก จะปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย
แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่พหลโยธินซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก ตรงข้ามโครงการเลยจะมี Central ลาดพร้าว และมี Union Mall อยู่ใกล้ๆ ส่วนตัวเราชอบเซ็นทรัลสาขานี้มากที่สุดค่ะ คือแบบมีร้านอาหารเยอะและคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว แถมฝั่งตรงข้ามมี Union Mall แหล่งช้อปปิ้งราคาย่อมเยาว์ถูกใจมนุษย์เงินเดือนอยู่ด้วย เดินช้อปปิ้งข้ามไปข้ามมาสนุกดี ซึ่งจากห้าแยกลาดพร้าวนี่เราสามารถเดินไปสวนรถไฟได้เลยนะคะ ถ้าเป็นคนชอบเดินนะ ภายในร่มรื่น มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นได้ และมีหอสมุดพุทธทาสด้วย ใครอยากชวนที่บ้านมาเดินเล่นพักผ่อนปฎิบัติธรรม ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สวยสงบดีค่ะ
ห่างจากโครงการไปประมาณ 1.3 กม. จะมี Major รัชโยธินอยู่ นอกจากฟังก์ชั่นหลักอย่างดูหนังโยนโบวลิ่งแล้ว เมเจอร์รัชโยธินมีร้านอาหารเยอะมากค่ะ ด้านในมี Community Mall อยู่ด้วย ร้านอาหารเต็ม แถมยังมีตลาดนัดขนาดใหญ่ด้านข้างซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายซะเยอะ ใครชอบแต่งตัวน่าจะชอบค่ะ ของเยอะ เดินสนุก ราคาไม่แพงด้วย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการ
วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนลาดพร้าว → ห้าแยกลาดพร้าว→ วนรถเข้าถนนพหลโยธิน→ ตรงผ่านเซ็นทรัลลาดพร้าวและโรงเรียนหอวังไป แล้วกลับรถมาอีกฝั่ง (เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างอยู่ ที่กลับรถจึงเป็นแบบชั่วคราวนะคะ) ตรงมาจะเจอโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
เริ่มกันจากบนถนนลาดพร้าวฝั่งมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าวนะคะ ซ้ายมือจะเป็น MRT ลาดพร้าว และจะเห็นป้ายโฆษณาโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ด้วย
ตรงไปหน่อยจะมีจุดสังเกตก่อนถึงห้าแยกลาดพร้าวคือห้าง Union Mall ค่ะ ห้างนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของห้าแยกลาดพร้าวพอดี และจะมีทางเข้าห้างได้ทั้งสองฝั่งจากทางฝั่งลาดพร้าวและพหลโยธิน
เราตรงไปห้าแยกลาดพร้าว โดยไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกนะคะ
แล้วตรงตามทางวนรถเพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน
วนตามป้าย ลาดพร้าว – รัชโยธิน ไป
ก็จะมาถึงห้าแยกลาดพร้าวฝั่งพหลโยธินแล้วค่ะ เราจะเห็นห้าง Central ลาดพร้าวอยู่ทางซ้ายมือ และ Union Mall อยู่ทางขวามือ และตึก M ลาดพร้าว คอนโดเพื่อนบ้านของโครงการ Life ลาดพร้าว
เราขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมระหว่างห้าง Central ลาดพร้าว และ ห้าง Union Mall มาถ่ายถนนพหลโยธินหน้าโครงการตอนนี้ให้ดูกันนะคะ จากภาพจะเห็นว่าที่ดินโครงการอยู่ทางขวามือ ถัดจากตึก M ลาดพร้าว ไปหน่อย ก่อนถึง Tesco Lotus และโครงการจะอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย
และเราจะเห็นว่ากลางถนนพหลโยธินตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกันอยู่นะคะ โดยสถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ในปัจจุบันด้วย สร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็เป็นทำเลคอนโดแบบก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าเลยนะคะ แถมยังเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพหลโยธินอีกด้วย
เราตรงต่อไปบนถนนพหลโยธิน เห็น Central ลาดพร้าวอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
พอเราเลยโรงเรียนหอวังไปให้เลี้ยวขวาเพื่อกลับรถ เป็นที่กลับรถชั่วคราวนะคะ เนื่องจากรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างอยู่
กลับรถมาจะเจอ Tesco Lotus อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ Tesco Lotus นี้เป็นห้างที่เรียกได้ว่าอยู่เกือบติดโครงการเลยค่ะ โดยอยู่ห่างจากโครงการ Life ลาดพร้าว เพียง 70 เมตรเท่านั้น
ถัดจากโลตัสมาจะเป็นโชว์รูม TOYOTA ซึ่งจะอยู่ติดที่ดินโครงการเลย พอเราเห็นโชว์รูม TOYOTA ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ Life ลาดพร้าว ได้เลย
ที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินและสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานี ห้าแยกลาดพร้าว เลยแบบนี้ ตอนนี้ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย และสำนักงานขายพร้อมห้องตัวอย่างก็ใกล้เสร็จเปิดให้เข้าชมกันได้เร็วๆนี้ รอบๆโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
รอบโครงการ
โครงการ Life ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 45 ชั้น, อาคาร B สูง 46 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการ 1,615 ยูนิต โครงการใหม่จาก AP ที่ดินโครงการมีลักษณะหลายเหลี่ยมหลายมุมอย่างที่เห็น เพราะจะมีส่วนบ้านสูง 3 ชั้น ที่เจ้าของที่รักบ้านและที่ดินผืนนี้และตัดสินใจไม่ขาย ทำให้ลักษณะที่ดินมีลักษณะเว้นเข้ามา ซึ่งอันนี้ สำหรับผู้ซื้อถือเป็นข้อดีค่ะ คือมีระยะห่างระหว่างอาคารทั้งสองอาคาร A และ B มากขึ้น และได้พื้นที่เปิดโล่งมากขึ้นอีกด้วย ทิศใต้จะเห็นว่าเป็นพื้นที่โล่งกว้างเลย เพราะเป็นระยะถอยร่นจากสายไฟฟ้าที่พาดผ่านที่ดินตามกฏหมาย ทำให้เป็นโครงการที่ลูกบ้านได้พื้นที่เปิดโล่งเยอะเลยค่ะ จากเงื่อนไขของบริบทรอบๆ
ตัวโครงการมีทางเข้าออกอยู่ทางทิศตะวันตกติดถนนใหญ่พหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นโรงเรียนหอวังและ Central ลาดพร้าว
ทิศเหนือติดโชว์รูม TOYOTA และ Tesco Lotus ลาดพร้าว
ทิศตะวันออกติดลานจอดรถของ Tesco Lotus ตึกสูงที่อยู่ถัดออกไปคือคอนโด Abstract สูง 34 ชั้น
ทิศใต้เป็นอาคารแนวราบและอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น ตึกสูงรอบๆนี่จะมี M ลาดพร้าวทางทิศใต้สูง 44 ชั้น เรียกว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์สูง ล้อมด้วยห้าง โรงเรียน วิวดี ไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวในระยะประชิด
เริ่มกันจากด้านหน้าที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว กันก่อนนะคะ นี่เราข้ามฝั่งมาถ่ายที่ไซต์ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวหน้าโครงการ ให้เห็นภาพรั้วล้อมที่ดินโครงการชัดๆ ที่ดินโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินและออกมาเจอ สถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานี ห้าแยกลาดพร้าว เลยแบบนี้ ตอนนี้ล้อมรั้วเอาไว้เรียบร้อย และสำนักงานขายพร้อมห้องตัวอย่างก็ใกล้เสร็จเปิดให้เข้าชมกันได้เร็วๆนี้ เราพาไปเดินดูรอบๆที่ดินโครงการกันค่ะ
เริ่มจาก Tesco Lotus ลาดพร้าว ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 70 เมตรกันก่อนนะคะ เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมากๆ จัดเป็นความพีคอย่างนึกของโครงการเลย คือเดินมาซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต วัตสัน มาธนาคาร มากินกาแฟ เอ็มเค ฟูจิ หรือเดินตากแอร์เล่นได้สบายๆ ที่หน้า Tesco Lotus ลาดพร้าว จะมีสะพานลอยอยู่ เราใช้ข้ามฝั่งไปโรงเรียนหอวังและ Central ลาดพร้าวได้
ขึ้นสะพานลอยมาถ่ายภาพรวมถนนหน้าโครงการ Life ลาดพร้าว ให้ดูกันค่ะ เกาะกลางถนนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้ากันอยู่แบบนี้ ช่วงเวลาสร้างเสร็จคือ 2 ปี พอๆกับเวลาที่โครงการสร้างเสร็จนะคะ (ปี2563) จะเห็นว่ารอบๆไม่มีตึกสูงๆซักเท่าไหร่เลย มีแค่คอนโด M ลาดพร้าว เพื่อนบ้านโครงการเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นห้าง อาคารพาณิชย์ โชว์รูมรถ ที่สูงแค่ 3 – 4 ชั้น ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนหอวังก็มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ Central ลาดพร้าวเองก็มีระยะห่างมากพอ แบบเรียกว่าเป็นวิวแลนด์มาร์กของย่านนี้อีกวิวค่ะ
ลงจากสะพานลอยมา หน้า Tesco Lotus ลาดพร้าว มีป้ายรถเมล์อยู่ด้วย มีรถเมล์ผ่านหลายสาย ทั้งสาย 24, 26, 28, 34, 39, 59, 63, 90, 104, 107, 108, 112, 136, ปอ.พ. 34, ปอ.3, 9, 12, 13, 126 เรียกว่าไปได้หลายที่ ในราคาไม่แพง ถึงขั้นฟรีในบางสายเลย
ถัดจาก Tesco Lotus ลาดพร้าว มา จะเป็นโชว์รูม TOYOTA
ถัดจากโชว์รูม TOYOTA ก็จะเป็นที่ดินโครงการ Life ลาดพร้าว แล้วค่ะ
ตอนนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างจะตั้งอยู่บนที่ดินโครงการเลย ซึ่งตอนนี้เปิดให้เข้าชมกันได้แล้วค่ะ หน้าที่ดินโครงการมีทางเดินเท้าเรียบร้อยดี มีทำทางเดินผิวขรุขระสำหรับผู้พิการทางสายตามาให้เรียบร้อย
ภายในที่ดินโครงการเตรียมที่จอดรถไว้เรียบร้อย
มองไปฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น Central ลาดพร้าว ห้างใหญ่ยอดนิยมของคนย่านนี้ (รวมถึงเราด้วย มาเดินตั้งแต่เด็กจนโตเลย)
มองกลับไปที่ภาพรวมที่ดินโครงการอีกครั้งค่ะ
ฝั่งขวามือหรือทางทิศใต้ของโครงการเป็นอาคารสูง 2 – 3 ชั้น
ถัดมาติดถนนใหญ่พหลโยธินจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
ตัวโครงการ
โครงการ Life ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 45 ชั้น, อาคาร B สูง 46 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการ 1,615 ยูนิต และยูนิตร้านค้าอีกหนึ่งยูนิต ห้องมีให้เลือก 4 แบบค่ะ คือ Studio 26 – 29 sq.m., 1 Bedroom 35 sq.m., 2 Bed + 2 Bath 48-74 sq.m., Duplex 342 sq.m. ขายแบบ Fully Fitted
ข้อดีของโครงการนี้คือ เพราะเป็นโครงการใหม่ ฟังก์ชั่นภายในยูนิตที่พักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถูกพัฒนาและปรับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนปี 2017 มากขึ้นเยอะค่ะ มีส่วนที่เป็น Digital Co-working space ที่ให้ความสำคัญกับWifi 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ มีการเตรียมที่สำหรับชาร์จมือถือและแท็บเล็ตมาให้แบบ Wireless phone charger รวมถึงการนำแอพพลิเคชั่นมือถือมาใช้เพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่เรื่องการติดต่อเรื่องกับนิติ ไปจนถึงการเข้าออกห้อง ควบคุมระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในห้องจากมือถือได้
ทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีทั้งจอ Touchscreen ให้ใช้พรีเซ้นส์งานได้แบบล้ำๆ, มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบมาสวยงาม ใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือคุยงานได้สบายๆ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่อัพเดตและถูกปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ได้ดีค่ะ ประมาณว่าซื้อคอนโดแล้วได้ที่คุยงานหรือทำงานไปในตัวด้วยเลย เข้ากับสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่คนทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้นนั่นเอง
มาดูสำนักงานขายโครงการกันต่อค่ะ จะตั้งอยู่บนที่ดินโครงการติดถนนใหญ่พหลโยธินเลย
เป็นอาคารสไตล์มินิมอลดูเรียบง่าย เป็นอาคารสีขาวด้านบนติดป้ายโครงการ Life ลาดพร้าว มีลายวงกลมที่มีลักษณะเหมือนวาดด้วยพู่กันจีนอยู่ด้านหลัง ซึ่งลายวงกลมหรือสัญลักษณ์ มารุ (Infinity) นี้เป็นสัญลักษณ์ของโครงการที่ AP ร่วมทุนกับ Mitsubishi Estate Group บริษัทพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งการออกแบบและก่อสร้าง รวมถึงเทคนิค.เทคโนโลยีในโครงการก็จะได้รับการแชร์ความรู้ในเชิงลึกจากทีมดีไซเนอร์ญี่ปุ่น พร้อมดึงเสน่ห์ในการออกแบบเข้ามาผสมผสานเพื่อให้งานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในโครงการโดดเด่นยิ่งขึ้น สังเกตว่าคอนเซ็ปในการออกแบบมีการใช้พื้นผิวน้ำมาผสมด้วยทั้งสองฝั่งทางเดิน เพื่อให้อาคารมีอุณหภูมิที่เย็นขึ้น
สำนักงานขายโครงการเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า – 6 โมงเย็นค่ะ
ภายในสำนักงานขายมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการข้อมูลโครงการและพาชมห้องตัวอย่าง
เพดานสูงแบบระเบิด Space แบบเข้ามาแล้วโอ้โหเลยค่ะ ด้านบนเพดานมีตกแต่งลายฉลุเอาไว้เป็นแพทเทิร์นเหมือนกระดาษพับไปมา
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์มีหน้าจอ Presentation โครงการอยู่ พร้อมเก้าแบบมีฉากกั้นพร้อมที่วางคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ที่ให้ความเป็นส่วนตัวและใช้นั่งทำงานได้สบายๆ ในล็อบบี้โครงการจะมีเก้าอี้แบบนี้จัดมาให้ด้วยนะคะ
แล้วก็จะมีทางเดินไปส่วนที่นั่งรับรองและห้องตัวอย่าง
ทางเดินแต่งเส้นแสงโทนสีส้ม และกรุผนังด้วยสีดำเงา ช่วยนำสายตาและให้ประสบการณ์เหมือนกำลังเดินผ่านอุโมงอวกาศนิดๆ
เข้ามาด้านในจะเป็นส่วนที่นั่งรับรองลูกค้า ตกแต่งมาด้วยโทนสีอ่อน ขาว เทา ครีม ทอง และเส้นแสงสีเหลืองอมทองที่ผนังและไฟซ่อนที่ยกพื้น
มองไปอีกฝั่งก็จะมีที่รับรองอีกหลายชุด โมเดลโครงการ หน้าจอ Presentation โครงการ ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปชมห้องตัวอย่างของโครงการซึ่งมี 2 ห้อง
ผนังกระจกกว้างๆในส่วนที่นั่งรับรองลูกค้า จะโชว์วิวสวนที่มีบ่อน้ำ Vertical Garden และประติมากรรมขนาดใหญ่ตรงกลาง
คนออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ออกแบบโดย Tectonix โดยประติมากรรมชื่อ “The tree” หรือ ต้นไม้ ที่ให้ประสบการณ์ในการมองเห็นที่น่าสนใจ และดูต่างกันไปในแต่ละมุมมอง
ส่วนภาพจำลองโครงการและพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆของโครงการจะมีหน้าตาอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
ภาพจำลองโครงการ Life ลาดพร้าว ตัวอาคารถูกออกแบบมาสไตล์โมเดิร์น พร้อมการแต่ง Facade เป็นลายฉลุคล้ายๆลูกไม้ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Luxury Shop หรือหน้าร้านค้าไฮเอนด์จากต่างประเทศ พื้นสีอาคารทั้งสองตึกเป็นสีน้ำเงินเข้ม รวมกับความสูงของอาคาร ที่ถือว่าสูงเด่นเป็นสง่า ทั้งตึก A (45 ชั้น) และ B(46 ชั้น) นั้นสูงกว่าคอนโดหรืออาคารรอบๆแบบโดดเด่นมาเลย อาคารคู่ของ Life ลาดพร้าว จึงสามารถเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของย่านลาดพร้าว หรือเป็นแลนด์มาร์คที่ใครๆก็จดจำได้
ภาพจำลองทางเข้าโครงการ Life ลาดพร้าว ค่ะ ก็จะเป็นอลูมิเนียมฉลุลายเดียวกันกับส่วนที่ใช้ตกแต่ง Facade อาคาร
ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ จะเห็นว่ามีการออกแบบที่เปิดกว้างไว้ละเอียดดีค่ะ มีบ่อน้ำ ทางเดิน ม้านั่งที่ถูกออกแบบไว้โฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันก็ดูสบายๆ น่าเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนดี
ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Lobby ของโครงการ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา ดำ สไตล์โมเดิร์น
ภาพจำลองบรรยากาศ Social Lounge & Co Working Space ของโครงการ ออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว
ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Co-Working Space วางโต๊ะประชุมพร้อมเก้าอี้ และชั้นหนังสือมาให้ฝั่งนึง
ภาพจำลองบรรยากาศส่วนสระว่ายน้ำของโครงการ ก็เป็นสระแบบวิวเปิด ใช้ว่ายน้ำไป ชมวิวเมืองชั้นบนสุดของอาคาร(45 – 46)ไปด้วยกันได้
ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Sky Bar ของโครงการ มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบนได้
ภาพจำลองด้านข้างส่วน Sky Bar ทั้งสองชั้นของโครงการ มีบันไดเวียนขึ้นไปชั้นบน คนในโครงการสามารถขึ้นมาพักผ่อนชมวิวกันได้
ภาพจำลองส่วนยอดตึกของโครงการ
โมเดลจำลองโครงการ Life ลาดพร้าว ตัวอาคารถูกออกแบบมาสไตล์โมเดิร์น พร้อมการแต่ง Facade เป็นลายฉลุคล้ายๆลูกไม้ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Luxury Shop หรือหน้าร้านค้าไฮเอนด์จากต่างประเทศ พื้นสีอาคารทั้งสองตึกเป็นสีน้ำเงินเข้ม รวมกับความสูงของอาคาร ที่ถือว่าสูงเด่นเป็นสง่า ทั้งตึก A (45 ชั้น) และ B(46 ชั้น)
ทางเข้าเป็นไม้กระดกและ Access Card ผ่านเข้าโครงการ เข้าฝั่งซ้าย ออกฝั่งขวา
ถนนในโครงการกว้าง 6 เมตร มีสองเลน รถสวนกันเข้าออกได้ สังเกตจากในโมเดล จะเห็นว่าข้างถนนในโครงการปลูกต้นไม้มาเป็นแนว และทางทิศใต้มีที่จอดรถกลางแจ้งชั้นล่างอยู่
พื้นที่สีเขียวของโครงการมีการปลูกไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ปูสนามหญ้าและเตรียมทางเดินเอาไว้อย่างน่าสนใจ จะเห็นว่ามีการใช้บ่อน้ำกว้างๆเข้ามาร่วมหลายจุดทีเดียว
ซูมให้ดูสวนหน้าทางเข้า Tower B ค่ะ จากขนาดประตูในโมเดล จะเห็นว่าได้สวนส่วนกลางมาใหญ่ทีเดียว ในสวนมีที่นั่งมาให้หลายจุด
สรุปพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ
สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำาลังกาย, ห้อง Sauna, ห้อง Stream, Intelligent Facility อาทิ ห้องประชุม Private Meeting Room ที่ติดตั้งระบบ Digital เต็มรูปแบบ, Sky Working Space
อาคาร A ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว และอาคาร B ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว
สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด, ห้องจดหมาย, ร้านค้า
ส่วน Podium หรือส่วนฐานของอาคารจะเป็นลานจอดรถชั้น 2 – 10 นะคะ โดยยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 11 ขึ้นไป โดยที่ชั้น 11 ของทั้ง Tower A และ B จะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้วย ด้านบนเป็นพื้นที่สีเขียวของ Tower A
ภาพสีเขียวชั้น 11 ของ Tower B
สวนด้านหลังโครงการค่ะ จะอยู่ติด Tower B และมีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนมาให้ด้วย
ถ่ายให้ดูยอดตึกของอาคาร A และ B ค่ะ จะเห็นว่าทั้งสองอาคารมีที่จอดเฮลิคอปเตอร์มาด้วย
ส่วนดาดฟ้าของ Tower A ค่ะ จะมีสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง พร้อมลานที่นั่งข้างสระ และศาลาหลบแดด มีสวนชั้นดาดฟ้าให้ใช้เดินพักผ่อนได้
ส่วนดาดฟ้าของ Tower B จะคล้ายๆกัน คือจะมีสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง พร้อมลานที่นั่งข้างสระ และศาลาหลบแดด มีสวนชั้นดาดฟ้าให้ใช้เดินพักผ่อนได้
นอกจากนี้ที่ทางเดินแจกไปยูนิตที่พักอาศัยทุกชั้นของโครงการ จะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างคือ หน้าต่างหายใจได้ ซึ่งพอมองด้านบนก็จะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งคู่ธรรมดา
แต่ด้านล่างมีตะแกรงเหล็กกันแมลงและช่วยระบายอากาศอยู่
พอเปิดตะแกรงเหล็กมาจะเห็นด้านในเป็นหน้าต่างกระจกใสบานฟิกซ์พร้อมกริลระบายอากาศด้านบน ซึ่งลมสามารถผ่านเข้าออกเพื่อเพิ่มการถ่ายเทและระบายอากาศให้โถงทางเดินของโครงการนั่นเอง
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 35.7 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดในส่วนห้องนอน และมีฉากกั้นห้องในส่วนห้องนั่งเล่น ข้อดีนอกจากกลิ่นอาหารและควันจากครัวจะไม่เข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้ว ใครที่อยากปรับห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็สามารถทำได้ แล้วเปลี่ยนส่วนห้องรับประทานอาหารเป็นห้องนั่งเล่นแทน โดยมีการเดินงานระบบสำหรับสัญญาณทีวีที่ผนังข้างประตูห้องน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นผังห้องที่มีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์วิถีชีวิตคนปัจจุบันได้ดี
เข้ามาจะเจอส่วนชุดครัวก่อน ซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำ ถัดมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ ห้องนอนซึ่งภายในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูปิดผิวลายไม้ มีเจาะช่องตาแมวให้เอาไว้ส่องคนที่มาเคาะประตูได้
มือจับประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลส และมีช่องเสียบกุญแจหน้าตาธรรมดา แต่ความพิเศษคือ จะเห็นว่าด้านใน(ภาพขวา)มีตัวรับสัญญาณมือถืออยู่ คือสามารถใช้มือถือที่ลงแอพพลิเคชั่นเปิดล็อกห้องได้ ด้วยฟังก์ชั่น Entry / Unit Smart Lock / Air condition control ช่วยเสริมความปลอดภัยและสะดวกสบายดี และยังใช้มือถือควบคุมการเปิดปิดไฟและเครื่องปรับอากาศได้ด้วย
เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนค่ะ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ฝั่งซ้ายมือ ทำ Built in โต๊ะรับประทานอาหารมาให้ทางฝั่งขวามือ สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง ใช้งานชุดครัวพร้อมโต๊ะอาหารและเดินไปเดินมาพร้อมๆกันได้โดยไม่อึดอัด เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ หน้าบานเป็นเมลามีนสีครีม ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายในนะคะ ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็น และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก.มาให้
Top ครัวหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวมี Backsplash กระจกนิรภัยกันเปื้อนไว้ให้ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ FRANKE ด้านข้างเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ว่างมาให้ เวลาประกอบอาหารสะดวกดีค่ะ เพราะมีที่พักหม้อพักกะทะ หรือวางวัตถุดิบด้านข้างมาให้แบบนี้
ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้ล้างจาน, ล้างผัก, ผลไม้ได้สะดวก เทียบกับฝ่ามือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ
ด้านข้างชุดครัวมีพื้นที่ว่างมากพอวางชั้นวางของได้อย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างทำ Built in มาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ดี
ตรงข้ามชุดครัววางชุดโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ระยะเดินและเลื่อนเก้าอี้เข้าออกสบายๆค่ะ ใครไม่ค่อยใช้ห้องครัวหรือโต๊ะรับประทานอาหารจะเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นก็พอได้ค่ะ พอวางอาร์มแชร์หรือโซฟา 2 ที่นั่งเล็กๆได้
ผนังข้างประตูห้องน้ำ หรือผนังฝั่งขวามือของภาพ ห้องเปล่าที่ได้จะเตรียมระบบไฟและช่องเสียบสัญญาณทีวีไว้ให้เรียบร้อย กรณีอยากเปลี่ยนมุมนี้เป็นห้องนั่ง หรือเวลาทานอาหารชอบดูทีวีไปด้วย ก็สามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังได้ง่าย
เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้น ข้อดีคือใช้งานไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ประตูห้องน้ำที่ใช้งานไปนานๆส่วนใหญ่เปิดปิดยาก
ความพิเศษคือห้องน้ำของโครงการนี้เป็นแบบสำเร็จรูปนะคะ คือในตอนก่อสร้างเป็นแบบยกห้องน้ำมาใส่เลย เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ดีไซน์มาเนี้ยบดีค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย
ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ
ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส
ผนังฝั่งซ้ายมือเจาะช่องวางของมาให้ 2 ชั้น อันนี้ดีค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ใช้วางเครื่องหอม ผ้าเช็ดตัว หรือของช้กระจุกกระจิกอย่างครีมหรืออื่นๆได้อีกหลายอย่างเลย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ และเตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ผนังหลังชุดฝักบัวเจาะช่องด้านข้างมาให้ 2 ช่อง สามารถใช้วางครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดได้
ถัดจากส่วนครัวมาจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ส่วนห้องนั่งเล่นมีฉากกั้นห้องเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง
ส่วนห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้อยู่
โซฟาให้มาเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟได้ ใครอยากเปลี่ยนเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงเดี่ยวและตู้เสื้อผ้าได้เช่นกัน
มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ห้องตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงจะเป็นผนังโล่งต่อเติมกันเองตามสไตล์การใช้งานนะคะ
ส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดประตูเลื่อนกระจกเปิดออกไประเบียงได้ ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้ดี แถมวันไหนลมดีๆก็เปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ห้องนั่งเล่นได้เต็มที่ ประตูบานเลื่อนเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง
ธรณีประตูสูงขึ้นจากระเบียงประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง ส่วนราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กเส้นสีดำ (ทาสีน้ำมัน + กันสนิม)
ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งก๊อกน้ำมาให้และเดินท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย
แอร์คอมเพรสเซอร์ 2 เครื่องแขวนมาให้แบบนี้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงด้านใต้ได้อยู่ และราวกันตกส่วนนี้จะสูงจรดเพดานเพื่อเป็นกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ ของจริงจะมีประตูบานเปิดเป็นสัดส่วน
ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะทำงาน โต๊ะข้าง ตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะใช้งาน
ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 40 cm. คือพอเดินไปเดินมาได้ ถ้าชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่าง
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 50 cm. วางโต๊ะข้างมาให้ดูระยะใช้งาน
หน้าต่างในห้องนอนเป็นหน้าต่างบานใหญ่เป็นชุดมีกระจกบานกระทุ้ง 1 บานไว้ให้เปิดระบายอากาศ และบานฟิกซ์อีกสองบานเพิ่มช่องแสงธรรมชาติเข้ามามากขึ้น
ผนังฝั่งติดประตู วางตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมโต๊ะทำงาน
ข้างเตียงฝั่งตู้เสื้อผ้าวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ได้กำลังเหมาะ บางคนอาจใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วยในตัว
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำ
ห้องตัวอย่างห้องที่สองที่จะพาไปชมกันเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร ตัวห้องแบ่งโซน Private และ Public มาเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบและประตูบานเปิดในส่วนห้องนอน เข้ามาจะเจอส่วนชุดครัวก่อน ซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำ ถัดมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นพร้อมฉากกั้นห้อง ซึ่งมีประตูเปิดไประเบียงได้ ห้องนอนซึ่งภายในห้องสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ ห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
ประตูทางเข้าห้องจะเป็นแบบเดียวกันกับแบบ 1 ห้องนอนที่เราไปดูกันมาเลยค่ะ
เข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อนค่ะ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ฝั่งขวามือ และวางโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ทางฝั่งซ้ายมือ สังเกตว่าระยะใช้งานกว้างขวาง ใช้งานชุดครัวพร้อมโต๊ะอาหารและเดินไปเดินมาพร้อมๆกันได้โดยไม่อึดอัด เพดานห้องสูง 2.6 เมตร ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์ ผนังที่ได้จริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 มม. เราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
เริ่มจากส่วนครัวกันก่อนนะคะ หน้าบานเป็นเมลามีนสีครีม ทำ Built in มาให้ทั้งบนและล่าง เราเปิดชุดครัวให้ดูช่องเก็บของภายใน ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง มีเว้นช่องมาให้สำหรับตู้เย็น และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 กก.มาให้
Top ครัวหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนต่อน้ำ-ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวมี Backsplash กระจกนิรภัยกันเปื้อนไว้ให้ เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย
ฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้ ช่วยให้ล้างจาน, ล้างผัก, ผลไม้ได้สะดวก เทียบกับฝ่ามือให้เห็นระยะใช้งานค่ะ
ส่วนเตามาเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันของ FRANKE ด้านข้างเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ว่างมาให้ เวลาประกอบอาหารสะดวกดีค่ะ เพราะมีที่พักหม้อพักกะทะ หรือวางวัตถุดิบด้านข้างมาให้แบบนี้
ลิ้กชักใต้เตาไฟฟ้ามีช่องแบ่งสำหรับวางช้อนส้อมมาให้
ด้านล่างเตาฝังเตาอบไฟฟ้ามาให้ของแบรนด์ FRANKE เช่นกัน และมีลิ้นชักใต้เตาไฟฟ้ามาให้อีกชั้นด้วย
ตรงข้ามชุดครัววางชุดโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ระยะเดินและเลื่อนเก้าอี้เข้าออกสบายๆ
ถ่ายให้ดูระยะใช้งานหน้าประตูทางเข้าห้องค่ะ จะเห็นว่าระยะเดินไปมาและระยะใช้งานเก้าอี้มีระยะสบายๆ
ผนังด้านข้างโต๊ะอาหารทำ Built in ชั้นวางของ เพดานแขวนโคมไฟมาให้ดูเป็นไอเดีย
ถัดจากส่วนครัวไปจะเป็นห้องนั่งเล่นติดระเบียง ห้องตัวอย่างแต่งเพดานกับผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงได้เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบ ไฟดาวน์ไลท์ และผนังซ่อนไฟ
ส่วนห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 เมตร วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ และมีระยะพอวางโต๊ะกาแฟแล้วเหลือระยะเดินรอบๆได้อยู่
โซฟาให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง วางอาร์มแชร์ พร้อมโต๊ะกาแฟได้อยู่
มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ห้องตัววางชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งาน ของจริงจะเป็นผนังโล่งให้ต่อเติมกันเองตามสไตล์การใช้งานนะคะ
ส่วนห้องนั่งเล่นอยู่ติดประตูเลื่อนกระจกเปิดออกไประเบียงได้ ทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องได้ดี แถมวันไหนลมดีๆก็เปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ห้องนั่งเล่นได้เต็มที่ ประตูบานเลื่อนเป็นอลูมิเนียมพ่นสีลูกฟักกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือจะมีช่องเปิดที่กว้างขึ้นนั่นเอง มือจับเซาะร่องมาตรฐาน
ธรณีประตูสูงขึ้นจากระเบียงประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้นจากระเบียง ส่วนราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กเส้นสีดำ (ทาสีน้ำมัน + กันสนิม)
ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 ซม. ติดตั้งก๊อกน้ำมาให้และเดินท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย แอร์คอมเพรสเซอร์ 2 เครื่องแขวนมาให้และอีกเครื่องวางด้านล่างแบบนี้ และราวกันตกส่วนนี้จะสูงจรดเพดานเพื่อเป็นกริลบังแอร์คอมเพรสเซอร์
จากระเบียงมองเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นซึงเชื่อมต่อกับส่วนครัว
และจากห้องนั่งเล่นจะมีทางเดินแจกไปส่วนห้องน้ำ และห้องนอนทั้ง 2 ห้องอยู่
เราเข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 cm. เพื่อกันน้ำและความชื้น ข้อดีคือใช้งานไปนานๆก็ไม่บวมขึ้นมาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ประตูห้องน้ำที่ใช้งานไปนานๆส่วนใหญ่เปิดปิดยาก
ความพิเศษคือห้องน้ำของโครงการนี้เป็นแบบสำเร็จรูป คือในตอนก่อสร้างเป็นแบบยกห้องน้ำมาใส่เลย เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ดีไซน์มาเนี้ยบดีค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย
ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
ห้องน้ำห้องนี้มีความพิเศษอีกอย่างคือมีประตู 2 ประตู บานนึงเปิดไปโถงทางเดิน อีกบานเปิดไปห้องนอนเล็ก
อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ
ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ เทียบกับฝ่ามือให้ดูขนาดจะเห็นว่ากำลังเหมาะมือดี
ไปดูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดห้องน้ำกันต่อค่ะ
อย่างนึงที่เราชอบเกี่ยวกับการจัดผังห้องนอนแบบ 2 ห้องนอนนี้ คือจัดห้องนอนทั้ง 2 ห้องมาให้มีขนาดพอๆกันค่ะ ห้องนอนเล็กนี่วางเตียงคู่ 5 ฟุตมาให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นระยะเดินรอบๆกำลังสวย วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ และมีประตูเปิดไปห้องน้ำจากในห้องได้
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 50 cm. วางโต๊ะข้างมาให้ดูระยะใช้งาน
หน้าต่างในห้องนอนเป็นหน้าต่างบานใหญ่เป็นชุดมีกระจกบานกระทุ้ง 1 บานไว้ให้เปิดระบายอากาศ และบานฟิกซ์อีกสองบานเพิ่มช่องแสงธรรมชาติเข้ามามากขึ้น
ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 40 cm. คือพอเดินไปเดินมาได้อยู่
ถ้าชอบดูทีวีในห้องนอนแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่าง
ผนังฝั่งติดประตู วางตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมโต๊ะข้าง
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างแรกที่ไปดูกันมาค่ะ
เข้าไปดูส่วนห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อนะคะ ประตูห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันกับประตูห้องนอนเล็กเลย
ห้องนอนใหญ่นี่จะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
ในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตมาพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่ง
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างมีระยะใช้งานประมาณ 70 cm. วางโต๊ะข้างและอาร์มแชร์มาให้ดูระยะใช้งาน
หน้าต่างฝั่งนี้จะมีกระจกบานฟิกซ์เข้ามุมมาให้ด้วย
ข้างเตียงอีกฝั่งก็จะมีมุมสำหรับตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อม วางโต๊ะข้างเตียง และมีหน้าต่างแบบบานกระทุ้งมาให้
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน หน้าบานเป็นกระจกทำสีดำ แบบเดียวกันกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนห้องอื่นๆ
ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 80 cm. คือพอเดินไปเดินมาและวางชั้นวางทีวีแบบในห้องตัวอย่างได้
มองไปทางฝั่งปลายเตียงจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนอยู่ เข้าไปดูด้านในห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่นี้เป็นแบบสำเร็จรูปเหมือนกันกับห้องน้ำห้องอื่นค่ะ พื้นปูกระเบื้องผิวด้านสีครีม สุขภัณฑ์สีขาว มี Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่มด้วย
ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และติดไฟดาวน์ไลท์ กับติดพัดลมดูดอากาศมาให้เรียบร้อย
ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาและชั้นวางของใต้อ่างพร้อมราวสแตนเลสแขวนผ้าเช็ดมือของจริงได้ตามนี้ ผนังด้านข้างอ่างล้างมือมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวมาให้
เทียบฝ่ามือกับขนาดอ่างให้ดูระยะใช้งานค่ะ
ข้างโถสุขภัณฑ์ มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย โดยส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งที่แขวนทิชชู่มาให้ สายฉีดชำระเป็นสแตนเลส
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
ชุดฝักบัวเป็นเป็นแบบปรับระดับขนาดหยดน้ำได้ และเตรียมระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
ราคา (เม.ย.59)
**ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ Built in พร้อมเครื่องปรับอากาศ
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Life ลาดพร้าว จัดเป็นอีกโครงการที่ทำมาเพื่อขายลูกค้ากลุ่มคนในพื้นที่ ที่โตมาในย่านลาดพร้าว แล้วออกมามีครอบครัวของตัวเอง หรือคนที่ชอบอยู่ย่านลาดพร้าว และกลุ่มคนที่มองหาทำเลใจกลางเมืองโซนลาดพร้าว, พหลโยธิน เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่านักศึกษาหรือกลุ่มพนักงานจากตึก SCB, ปตท, เชฟล่อน, อีซูสุ, SCG และบรรดาอาคารสำนักงานรอบๆที่มีเยอะมาก
เนื่องจากทำเลมีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ มีห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเปิดทั้งกลางวันกลางคืนในระยะที่เดินถึงได้ ใกล้รถไฟฟ้า BTS ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ใกล้ห้าง สามารถไปทำงาน ไปเรียน ได้อย่างสะดวกสบาย จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมืองโซนนี้อยู่ และมีกำลังผ่อนประมาณเดือนละ 21,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
ความอุดมสมบูรณ์ : รอบๆโครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก หาของกินง่ายเช้าจรดค่ำค่ะ ความดีงามคือแทบจะอยู่ติดกับ Tesco Lotus ลาดพร้าว แบบห่างเพียง 80 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินไม่กี่ก้าวถึง เวลาซื้อของเข้าบ้านทำกับข้าวก็สะดวกมากๆ แถมอยู่ตรงข้าม Central ลาดพร้าวเลย และอยู่ห่างจากยูเนียนมอลล์เพียง 500 เมตรเท่านั้น เรียกว่ามีห้างใหญ่ๆล้อมอยู่แบบเดินถึงสบายๆ และยังอยู่ใกล้ร.ร.หอวังและเซนต์จอห์นอีกด้วย
รวมทั้งการที่มีอาคารสำนักงานใหญ่มากมายรวมถึงองค์กรขนาดใหญ่อย่าง PTT และ SCB Park อยู่ใกล้ๆ ทำให้โซนนี้มีตลาดนัดขายอาหาร ขายเสื้อผ้า ร้านอาหารเยอะ เพื่อตอบรับกับปริมาณผู้บริโภคในโซนนี้ซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง เรียกว่าอยู่เองก็สะดวกมาก จะปล่อยเช่าก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาที่สามารถใช้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ โครงการมีถนนใหญ่สำคัญอย่างพหลโยธิน, ลาดพร้าว, วิภาวดีรังสิต และ รัชดาภิเษก ล้อมรอบโครงการอยู่ คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวกมาก มีทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหลักอย่างถนนพหลโยธิน โดยโครงการจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้ามาห้าแยกลาดพร้าวเลย ห่างจากห้าแยกลาดพร้าวเพียง 500 เมตรเท่านั้น พอถึงห้าแยกแล้วจะไปถนนวิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว, รัชดาภิเษก หรือไปขึ้นทางด่วนศรีรัชก็สะดวก, และจากลาดพร้าวยังสามารถตัดผ่าน Tesco Lotus มาออกถนนพหลโยธินลัดมาโครงการโดยสามารถเลี่ยงห้าแยกลาดพร้าวในวันที่การจราจรหนาแน่นได้อีกด้วย
โครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัช ในระยะประมาณ 4.9 กม.หรือระยะขับรถเพียง 7 นาทีเท่านั้น การมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆแบบนี้คนขับรถได้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นเยอะค่ะ เพราะทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะไม่ว่าจะไปพระราม 4, สีลม, สาทร หรือออกเมืองไป เมืองทอง, ดอนเมือง, รังสิต ก็ใช้ทางด่วนศรีรัชไปได้สะดวก
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : แถวนี้คนไม่ขับรถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากตัวโครงการจะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวแบบก้าวเดียวถึงแล้ว ปัจจุบันจากที่ตั้งโครงการเองก็สามารถเดินไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร เท่านั้น แถมโซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าโครงการตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมงนะคะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ นั่งเพียงสถานีเดียวถึง BTS หมอชิต สถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สวนจตุจักรปัจจุบัน
ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองของที่มีศักยภาพสูงของโซนลาดพร้าวที่น่าจับตามองค่ะ นอกจากห้างเยอะ เป็นแหล่งสำนักงาน และเป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเรื่องร้านอาหารและโรงเรียนดีๆมากมายมานานแล้ว จากผังด้านบนจะเห็นว่าในอนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าผุดขึ้นมาใกล้ๆหลายสายเลย ทั้ง BTS สายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว แบบก้าวเดียวถึง ออกมาเจอบันไดขึ้นสถานีเลย, เดินไป MRT พหลโยธินได้ในระยะเพียง 500 เมตร นั่งไปสถานีเดียวถึง MRT ลาดพร้าว ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีรัชดา – ลาดพร้าวในอนาคตอีกด้วย
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ข้อดีของโครงการนี้คือ เพราะเป็นโครงการใหม่ ฟังก์ชั่นภายในยูนิตที่พักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถูกพัฒนาและปรับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้นเยอะ มีส่วนที่เป็น Digital Co-working space ที่ให้ความสำคัญกับWifi 24 ชั่วโมงทุกพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ มีการเตรียมที่สำหรับชาร์จมือถือและแท็บเล็ตมาให้แบบ Wireless phone charger รวมถึงการนำแอพพลิเคชั่นมือถือมาใช้เพิ่มความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย ตั้งแต่เรื่องการติดต่อเรื่องกับนิติ ไปจนถึงการเข้าออกห้อง ควบคุมระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศในห้องจากมือถือได้
ทั้งยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้ช่วยการทำงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รับทำงานฟรีแลนซ์หรือเปิดธุรกิจเล็กๆของตัวเอง ให้มีพื้นที่คุยงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีทั้งจอ Touchscreen ให้ใช้พรีเซ้นส์งานได้แบบล้ำๆ, มีฉากกั้นสำหรับคุยงานได้อย่างเป็นส่วนตัว และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบมาสวยงาม ใช้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือคุยงานได้สบายๆ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่อัพเดตและถูกปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ได้ดีค่ะ ประมาณว่าซื้อคอนโดแล้วได้ที่คุยงานหรือทำงานไปในตัวด้วยเลย เข้ากับสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่คนทำธุรกิจออนไลน์กันมากขึ้นนั่นเอง
แบบห้อง มีมาให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องแบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedrooms และ Duplex ซึ่งปรับแบบมาให้ลงตัวและมีห้องน้ำสำเร็จที่มีขนาดสบายๆ ใช้งานได้ไม่อึดอัด ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัว และชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in มาให้ ซึ่งสเป็คมาสวย เพิ่มที่เก็บของได้เยอะดี โดยชุดครัวเป็นหน้าบานปิดผิวสีครีม ท๊อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันพร้อมอ่างล้างจานสแตนเลสจาก FRANKE
ชุดสุขภัณฑ์ได้ของ Kohler ดูดี มีฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์พร้อมฝักบัว ฝ้าเพดานห้องสูง 2.6 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต 8 มม.กับพื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค 60 x 60 ซม. ประตูทางเข้าออกห้องใช้มือถือที่ลงแอพพลิเคชั่นของโครงการสแกนผ่านเข้าห้องแทนกุญแจได้
สิ่งอำนวยความสะดวก – ส่วนกลางบนอาคารของทั้งสองอาคารแยกส่วนกันนะคะ แต่จะได้ส่วนกลางที่เหมือนๆกัน โดยมีฟังก์ชั่นเดียวกัน และขนาดไม่แตกต่างกันมาก พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 คือสวนและล็อบบี้ แบบ Lounge / Co-working space / Social lounge ที่จอดรถชั้น 1 – 10 คิดเป็นจำนวน 723 ช่องจอด หรือ 44.76% ของจำนวนยูนิตโครงการ
ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 11 ขึ้นไป โดยที่ชั้น 11 แต่ละอาคารจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร โดยมี สระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness, Social lounge, Changing room, Sky theatre lounge และสวนพักผ่อน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทั้ง รปภ.24 ชั่วโมง, CCTV รอบโครงการ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | คอนโดใหม่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ตรงข้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว อยู่ติดโลตัสลาดพร้าว และเชื่อมต่อไปออกได้หลายทาง มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนและอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้ว ไปไหนมาไหนง่าย แต่ต้องระวังรถติด |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | สะดวกมาก ติด BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าวที่กำลังก่อสร้างอยู่ และเดิน 500 เมตร ถึง MRT พหลโยธิน รอบๆโครงการมีแท็กซี่เยอะ วินมอเตอร์ไซค์เยอะ รถเมล์เยอะ ทางเดินเท้ากว้างและดูไม่เปลี่ยว เดินไปไหนมาไหนได้สบายๆ |
ห้องและวัสดุ | 8.5 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว มีความยืดหยุ่นเข้ากับชีวิตคนปัจจุบันที่มีวิถีชีวิตหลากหลาย ขายแบบ Fully Fitted วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มีความใส่ใจรายละเอียดดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน ให้ความสำคัญกับการใช้มือถือและสัญญาณอินเตอร์เน็ต เอามาปรับใช้เพิ่มความสะดวกสบายให้คนในโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 112,000 บาท/ตร.ม. ได้ทำเลลาดพร้าว ใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้ทางด่วน ใกล้ห้าง และคอนโดที่มีการออกแบบมาอย่างละเอียด และดีไซน์ไม่เหมือนใครเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมืองโซนนี้อยู่ และมีกำลังผ่อนประมาณเดือนละ 21,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.5 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623 / 0-2261-2518
Website : www.apthai.com
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น