สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Condonayoo ขอพาไปชมคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่กับโครงการ Life ปิ่นเกล้า จาก AP Thailand
ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. เพียง 26 เมตร ถึง รถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขัน
เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนเส้นหลักทั้งถนนบรมราชชนนี, ถนนสิรินธร, ถนนพระเทพตัดใหม่ และ ทางพิเศษศรีรัช 2 ตรงข้ามกับโครงการเป็นตลาดนัดกลางคืน Indy ปิ่นเกล้า ใกล้ Central ปิ่นเกล้า, The Sense, Foodland, Makro จรัญฯ, รพ.ศิริราช, รพ.ตา หู คอ จมูก และ มหาวิทยาลัยชื่อดัง
ไลฟ์ ปิ่นเกล้า เป็นโครงการพรีเมียมคอนโดพร้อมอยู่ 23 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 4-3-86.9 ไร่ จำนวนห้อง 803 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 26.00-30.00 ตร.ม., 1 Bed Plus ขนาด 35.00 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้น 50.00-60.5 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2560
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, Mail Room, Smart Pod, Infinity Edge Pool ความยาว 40 เมตร, Panoramic Fitness, Casual Space, Steam, Sauna, สวนพักผ่อนชั้น 1 และ ชั้น 5, Family Mart, ที่จอดรถ คิดเป็น 52% ไม่รวมจอดซ้อนคัน, ลิฟต์โดยสาร แบบล็อกชั้น 4 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว, เข้า-ออกระบบ Access Card Control, กล้อง CCTV พร้อม รปภ. 24 ชม.
ชื่อโครงการ | https://condonayoo.com/life-pinklao/ไลฟ์ ปิ่นเกล้า Life Pinklao |
เจ้าของโครงการ | เอพี ไทยแลนด์ / AP Thailand |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-3-86.9 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 23 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 52% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตบางพลัด |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. 10700 |
กำหนดการ |
|
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ธ.ค. 2560 |
ราคา | เริ่มต้น 2.79 ล้านบาท* (ก.ค.62) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 93,000 บาท/ตร.ม.* (ก.ค.62) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | LIFE ปิ่นเกล้า คอนโดพร้อมอยู่ ติดรถไฟฟ้าบางยี่ขัน เพียง 5 นาที ถึงศิริราช พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่ครบครัน บรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่ |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. 10700
พิกัด Google Maps : 13.776593, 100.484715
จุดเด่นของทำเลโครงการ Life ปิ่นเกล้า คือเป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน ที่ห่างไปในระยะเดินแค่ 26 เมตร โครงการอยู่ในย่านที่เรียกว่าปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ใกล้พระนคร คนที่นี่อยู่อาศัยในย่านนี้มานานแบบรุ่นต่อรุ่น พอครอบครัวขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ไม่อยากย้ายไปไกลบ้านมากนัก และอีกกลุ่มคือคนที่อาศัยอยู่ย่านเยาวราช ที่ลูกหลานน่าจะขยับขยายมาอยู่โซนนี้กัน เพราะไปมาหาสู่กันง่าย นอกจากนี้ยังมีโอกาสปล่อยเช่านักศึกษาและกลุ่มคนทำงานสถานราชการและโรงพยาบาลใกล้เคียงต่าง ๆ ได้ เนื่องจากความสะดวกของทำเลนั่นเอง
คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่
ขออธิบายเรื่องรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้เห็นภาพกันชัดเจนขึ้นอีกหน่อยนะคะ โครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ นี้จะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดิน สามารถวิ่งไปสถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG ทำให้เพิ่มตัวเลือกด้านการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถส่วนบุคคลได้ดีค่ะ
ซึ่งจากตรงนี้เราสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชรไปเดินเล่นจตุจักรหรือจะไปขึ้นรถไฟฟ้าบนดินที่สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้เลย ทำให้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกลายเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าวงแหวนวงเดียวของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินสายใหม่วิ่งบนฟ้า (ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) และ สีน้ำเงินเก่ามุดลงใต้ดิน
ขอบคุณภาพจาก : Mangozero
การเดินทางโดยรถสาธารณะ-รถไฟฟ้า : โครงการตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT สถานีบางยี่ขัน ที่ห่างไปในระยะเดินแค่ 26 เมตร ที่คาดว่าจะเปิดใช้ได้ประมาณปี 2563 ถึงตอนนั้นคนไม่ใช้รถก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองเพิ่มขึ้นอีกทาง สำหรับคนที่ต้องการใช้รถสาธารณะอื่น ๆ ใกล้ที่ดินโครงการซ้าย-ขวามีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ สะดวกดี เรียกไปไหนมาไหนได้ง่าย
ส่วน Taxi ก็จะเรียกผ่าน Application หรือ เดินออกมาเรียกที่หน้าโครงการได้เลยมีผ่านตลอดค่ะ นอกจากนี้ออกมาหน้าโครงการประมาณ 90 เมตร จะมีป้ายรถเมล์อยู่แถวหน้าโครงการ โดยจะมีรถเมล์สาย 108, 175, 23, 56, 103, 203, ปอ. 10, ปอ.พ.4 วิ่งผ่าน เราสามารถนั่งข้ามไปฝั่งพระนครเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก
เดินมาหน่อยหรือต่อมอไซค์มาแถวหน้า PATA ปิ่นเกล้า ห่างจากโครงการ ประมาณ 650 ม. มีป้ายรถเมล์ รถสองแถว วิ่งผ่านหลายสายเกือบทั้งคืน มีคิวรถตู้ออกนอกเมืองไปพุทธมณฑล ศาลายา วัดไร่ขิง ซึ่งทำให้คนที่ต้องออกนอกเมืองบ่อยๆมีทางเลือกที่สะดวกและประหยัดดี
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีท่าเรือด่วนเจ้าพระยาพระยาจอดรับส่งผู้โดยสารทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ โดยจากโครงการสมมุติเราอยากข้ามไปท่าพระจันทร์ ไปม.ธรรมศาสตร์ หรือไปเดินถนนพระอาทิตย์ ไปหาอะไรกินที่ข้าวสาร เรานั่งวินมอเตอร์ไซค์จากโครงการมาท่าเรือพระปิ่นเกล้า 30 บาท และจากท่าเรือพระปิ่นเกล้า (ห่างจากโครงการประมาณ 2.2 กม.) ข้ามไปท่าเรือพระอาทิตย์ เพื่อไปถนนข้าวสาร หรือไปท่าเรือมหาราชเพื่อไป ม. ธรรมศาสตร์ ได้ใกล้ ๆ ค่ะ
ข้อดีของการนั่งเรือคือไม่ต้องไปเจอรถติดบนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและบนถนนนั่นเอง ตั๋วโดยสารสามารถซื้อได้บนเรือหรือที่จำหน่ายตั๋วบนท่าเรือค่ะ ราคาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยอยู่ระหว่าง 13-32 บาท ซึ่งสามารถนั่งไปได้ไกลถึงบางศรีเมือง นนทบุรี หรือไปสาทร ไปราษฎร์บูรณะได้เลย
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ทำเลโครงการ Life ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า ฝั่งธนฯ ในเขตบางพลัด โดยตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกบรมราชชนนี ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด
ถ้าจะเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาจะเป็นฝั่งพระนครโซนในที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานที่ราชการมากมายค่ะ ข้ามผ่านสะพานพระราม 8, สะพานซังฮี้ ข้ามไปสามเสน ราชวิถี เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือมาเข้าศรีอยุธยาไปพญาไทยาวไปพระราม 9 หรือมาถนนพิษณุโลกจะไปเชื่อมกับถนนเพชรบุรีได้ หรือข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปถนนพระอาทิตย์ สนามหลวงก็ใกล้ๆไม่กี่นาทีถึงเช่นกัน
ส่วนถ้าจะออกเมืองวิ่งเส้นบรมราชชนนี ไปโซนพุทธมณฑล ราชพฤกษ์ วงแหวนกาญจนาภิเษก หรือไปศาลายา ยาวออกต่างจังหวัดไปนครปฐม ราชบุรี ส่วนเส้นจรัญสนิทวงศ์จะไปเชื่อมกับถนนเพชรเกษม ไปพระราม 3 บางแค หนองแขม อ้อมน้อย ก็สะดวกดี แต่ย่านนี้รถจะติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะเส้น บรมราชชนนี และจรัญสนิทวงศ์ซึ่งตอนนี้มีก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วยคงต้องเผื่อเวลากันหน่อย
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ Life ปิ่นเกล้า นี่จัดว่าเป็นโซนชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้ ๆ แผงลอยขายอาหารบนทางเดินแถวรอบๆโครงการนี่ก็มีหลายร้าน หาของกินง่ายทั้งกลางวันกลางคืน ตรงข้ามกับโครงการเป็นตลาด Indy ปิ่นเกล้า ตลาดนัดกลางคืนขนาดใหญ่ มีร้านค้าเปิดท้าย ร้านอาหารอร่อย ๆ รวมถึงร้าน Hang Out ต่าง ๆ มากมายค่ะ
ห้างสรรพสินค้าในระยะใกล้เคียงโครงการที่อยู่ในระยะพอเดินไปได้สบายๆก็มีห้าง PATA ที่เป็นห้างเก่าแก่ ห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 650 เมตรเท่านั้น ภายในมีร้านค้าและธนาคาร ที่รอบๆห้างเองก็มีร้านอาหารและร้านขายของรอบๆหลากหลาย นอกจากนี้บนเส้นบรมราชชนนีก็มีห้างอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, Central ปิ่นเกล้า, The Sense อยากดูหนังก็มี Major ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม Central ปิ่นเกล้า
ขยับออกไปหน่อย ประมาณ 1-4 กม. จะมีตลาดสด 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดบางขุนศรี, ตลาดสหกรณ์ศาลาน้ำเย็น และตลาดบางขุนนนท์, Makro จรัญสนิทวงศ์, Foodland, รพ.ศิริราช, รพ.หู ตา คอ จมูก, สวนหลวงพระราม 8 และจากโครงการห่างจาก ม.ท่าพระจันทร์แค่ประมาณ 3.1 กม. เท่านั้น
สถานที่สำคัญใกล้โครงการ
การเดินทาง
สำหรับคนขับรถ วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนบรมราชชนนี → เลี้ยวซ้ายมาถนนจรัญสนิทวงศ์ → กลับรถมาถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งโครงการ → จะเจอโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ทางซ้ายมือ โดยโครงการจะอยู่ถัดจากซอยจรัญ 40 มาประมาณ 70 เมตร
เราเริ่มเดินทางกันจากถนนบรมราชชนนี ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนจรัญสนิทวงศ์นะคะ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่รวมแหล่งอำนวยความสะดวกใกล้โครงการเอาไว้หลายอย่างค่ะ อย่างขวามือจะเป็นห้าง Central ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักของคนย่านนี้
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอเมเจอร์ ปิ่นเกล้าอยู่ทางซ้ายมือ ใครชอบดูหนังโยนโบว์หรือแวะทานอาหารก็อยู่ไม่ไกลค่ะ เพราะจากตรงนี้ห่างจากโครงการ Life ปิ่นเกล้า สำหรับคนขับรถรวมระยะกลับรถก็ประมาณ 2.3 กม.
ตรงไปอีกนิดก็จะเจอ Tesco Lotus อยู่ทางฝั่งขวามือ
เราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆจนถึงแยกบรมราชชนนี ราก็เลี้ยวซ้ายไปถนนจรัญสนิทวงศ์ จุดสังเกตของถนนจรัญสนิทวงศ์นอกจากตอนนี้ที่กำลังก่อสร้างรางรถไฟสายสีน้ำเงินกันอยู่ ก็คือห้าง PATA ซึ่งเป็นห้างเก่าแก่ อยู่มานานแล้ว ซึ่งจากถนนบรมราชชนนีถ้าสมมติเราวิ่งตรงไปทางห้าง PATA ก็จะเป็นทางไปสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าข้ามไปฝั่งพระนครเพื่อเข้าเมืองนั่นเอง
พอเลี้ยวซ้ายมาถนนจรัญสนิทวงศ์ ขับมานิดเดียวเราจะเห็นป้ายและโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ โดยโครงการแทบจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขันเลย เราก็ตรงไปเพื่อกลับรถเข้าโครงการนั่นเอง
ตอนนี้มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นเกาะกลางถนน จากที่เคยเป็นถนน 6 เลนจราจร พื้นที่การก่อสร้างทำให้ลดเหลือ 5 เลนค่ะ คือวิ่งฝั่งละ 3 เลน และ 2 เลน และเนื่องจากมีการก่อสร้างรางรถไฟอยู่ การเดินทางไปไหนมาไหนจากเส้นจรัญสนิทวงศ์ตอนนี้ก็จะมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงให้เอื้อต่อการก่อสร้างรางรถไฟฟ้าค่ะ อย่างเช่นถ้าจะไปพระปิ่นเกล้า, สายใต้ ให้ลงอุโมงค์เพื่อกลับรถ ในช่วงเวลานี้นั้นเป็นต้น
ขับมาหน่อยก็จะเจอปั๊มน้ำมัน Susco อยู่ฝั่งซ้ายมือและถัดไปจะเป็นจุดกลับรถไปถนนฝั่งโครงการเลย พอเห็นปั๊มน้ำมัน Susco ก็เตรียมเลี้ยวขวาเพื่อกลับรถเลย
กลับรถมาแล้วเราจะอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกบรมราชชนนีที่เป็นฝั่งที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ กลับรถมาแล้วชิดขวาตรงไปประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
ถัดจาก MRT สถานีบางยี่ขันมาเพียง 26 เมตร จะเจอโครงการ เราเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ Life ปิ่นเกล้าได้เลย บรรยากาศรอบ ๆ โครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
โดยรอบโครงการ
ภาพขยายพื้นที่รอบๆโครงการ Life ปิ่นเกล้า โครงการตั้งอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซุ้มโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน เพียง 26 เมตร
จากภาพมุมสูง จะเห็นว่ารอบๆโครงการจะมีตึกสูงคือคอนโดคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า สูง 22 ชั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม และรางรถไฟฟ้าที่สูงประมาณตึก 5 ชั้นอยู่กลางถนนจรัญสนิทวงศ์หน้าโครงการ รอบๆติดที่ดินโครงการเป็นอาคารแนวราบสูง 2 – 5 ชั้นเป็นส่วนใหญ่
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือด้านหลังโครงการ มองไปจะเห็นยอดสะพานพระราม 8 เลย เนื่องจากยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวเมืองฝั่งนี้ซักเท่าไหร่ จะเห็นวิวแบบ City Sky Line เห็นวิวสะพานพระราม 8 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งพระนคร ช่วงกลางคืนพอเปิดไฟ จะเป็นวิวเมืองที่สวยทีเดียว เป็นจุดขายที่สำคัญของโครงการอีกจุดค่ะ รอบๆโครงการบรรยากาศจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ
ภาพทางเข้าโครงการ Life ปิ่นเกล้า ทางเข้าออกอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ มีสวนหย่อมตรงกลางแบ่งทางเข้าฝั่งซ้าย ทางออกฝั่งขวา ป้ายโครงการ Life อยู่บนรั้วโครงการฝั่งขวามือ ส่วนซ้ายมือจะมียกพื้นเป็นทางเดินเท้าพร้อมมีหลังคากันแดดกันฝนสำหรับคนเดินเข้าออกโครงการอยู่
จากทางเข้ามองไปที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ก็จะเห็นตึกคอมมอนเวลธ์ สูง 22 ชั้น และ ตลาดนัด Indy ปิ่นเกล้า
โครงการ Life ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กทม. ห่างจากรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน เพียง 26 เมตร ซึ่งขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก็สร้างแล้วเสร็จไปเกือบ 100% แล้วค่ะ
เดินเลี้ยวขวามาตามทางเท้า ริมถนนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 3.5-4 ชั้น เปิดเป็นร้านอาหารปักษ์ใต้, ร้านราดหน้าเอ็มไพร์, ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ, ร้านถ่ายเอกสาร และ ร้านทำตรายาง-นามบัตร
ซุ้มโครงการ Life ปิ่นเกล้า อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขัน เพียง 26 เมตรเท่านั้น ซึ่งโครงการใกล้จะเปิดใช้งานเร็ว ๆ นี้ไม่เกิน มี.ค. 2563 โซนนี้ก็จะเดินทางสะดวกขึ้นไปอีก
เดินผ่านทางขึ้นสถานีมาขวามือจะมีร้านข้าวราดแกงอีก 1 ร้าน
มองไปฝั่งตรงข้ามยังเป็นตลาดนัด Indy ดาวคะนอง มีร้านกาแฟ Cafe Amazon ที่เปิดขายตั้งแต่เช้าไปจนถึงตอนค่ำ
ตรงขึ้นมาขวามือเป็นร้านขายดอกไม้
ถัดมาเป็นร้านขายแอร์
ข้ามถนนซอยย่อยมาเป็นป้ายรถประจำทางชั่วคราวค่ะ
จากป้ายรถประจำทางมองกลับมาจะเห็นประตูทางขึ้นรถไฟฟ้า ประตูที่ 4 ค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้ายมือติดกับโครงการตอนนี้จะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง
หน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างติดกับโครงการค่ะ
จากหน้าโครงการขอพาเดินข้ามทางม้าลายไปดูบรรยากาศของตลาด Indy ปิ่นเกล้ากันหน่อย
ด้านหน้าตลาด Indy ปิ่นเกล้า
ประตูทางออกรถไฟฟ้า ลงฝั่งนี้จะเชื่อมต่อกับตลาดได้เลยค่ะ
สำหรับตลาด Indy ปิ่นเกล้า จะเป็นตลาดนัดกลางคืนขนาดใหญ่ เริ่มเปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนเกือบเที่ยงคืน ภายในจะมีทั้งร้านค้าแบบเปิดท้าย, ร้านอาหาร Sterrt Food อร่อย ๆ และ ร้านนั่งชิว Hang Out ค่ะ
โซนกินดื่ม Hang Out
โซนร้านอาหาร
ร้านค้าแผงลอยต่าง ๆ
มีโต๊ะเก้าอี้จัดเตรียมไว้สำหรับนั่งทานอาหารที่ซื้อภายในตลาด
ด้านหน้าริมถนนใหญ่ มีร้าน Cafe Amazon ที่เปิดขายเกือบทั้งวัน
ภาพวิวจากความสูงชั้นที่ 23 มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือทางด้านหลังโครงการ จากตรงนี้มองไปจะเห็นยอดสะพานพระราม 8 เลย เนื่องจากยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวเมืองฝั่งนี้ซักเท่าไหร่ จะเห็นวิวแบบ City Sky Line โดยเห็นวิวสะพานพระราม 8 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งพระนคร ช่วงกลางคืนพอเปิดไฟ จะเป็นวิวเมืองโซนกรุงรัตนโกสินทร์ที่สวยทีเดียว เป็นจุดขายที่สำคัญของโครงการอีกจุดค่ะ
ส่วนฝั่งนี้เป็นวิวฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีโรงแรมและอาคารที่พักอาศัยสูง 2 – 5 ชั้นอยู่ โดยภาพรวมก็คือฝั่งนี้ในระยะประชิดยังไม่มีตึกสูงขึ้นบังวิวส่วนที่พักอาศัยเลย
ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้จะมีตึกสูงคือคอนโดธนา ทาวเวอร์สูง 22 ชั้น และคอนโดธนา อาร์เคเดียสูง 23 ชั้นอยู่
มองกลับไปที่ฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ด้านหน้าโครงการ หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ จะมีตึกสูงคือคอนโดคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า สูง 22 ชั้นอยู่
ตัวโครงการ
โครงการ Life ปิ่นเกล้า คอนโดมิเนียมแบบ High Rise จำนวน 23 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ บนเนื้อที่ 4.3 ไร่กว่า มีทั้งหมด 803 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต ตัวอาคารทาสีเทา พร้อมแต่งขอบสีขาวเป็นเส้นนำสายตาและเพิ่มมิติให้ตัวอาคาร และมีคำว่า Life ติดอยู่ด้านบนยอดอาคาร ส่วนด้านหน้าอาคาร
ภาพทางเข้าโครงการ Life ปิ่นเกล้า ทางเข้าออกอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ มีสวนหย่อมตรงกลางแบ่งทางเข้าฝั่งซ้าย ทางออกฝั่งขวา ป้ายโครงการ Life อยู่บนรั้วโครงการฝั่งขวามือ ส่วนซ้ายมือจะมียกพื้นเป็นทางเดินเท้าพร้อมมีหลังคากันแดดกันฝนสำหรับคนเดินเข้าออกโครงการอยู่
ก่อนเข้าไปดูภาพโครงการกัน เรามาดูผังอาคารชั้น 1 กันก่อนนะคะ ด้านหน้าทางเข้าโครงการติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ เข้ามาด้านในโครงการจะเป็นถนนแบบ Two way คือฝั่งซ้ายขาเข้า ขวาขาออก แต่ฝั่งขาเข้าจะมีสองทางเลือกค่ะ 1.คือเข้ามาเสร็จเลี้ยวซ้ายผ่านสวนหน้าโครงการแล้วขับวนรอบโครงการมาเป็นขาออก 2. คือตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าลานจอดรถ
ส่วนสีเทาด้านหน้าที่ติดกับฝั่งสวนหน้าโครงการจะเป็น Family Mart เปิดตลอด 24 ชม. ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนนิติบุคคลค่ะ ส่วนสีส้มเป็นโถงต้อนรับและประตูเข้าไปส่วน Lobby วิวสวน ลิฟต์โดยสารมี 4 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว
ทางเข้าออกโครงการเป็นไม้กระดก มีป้อมรปภ.อยู่ฝั่งขวามือ รถเข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวา ลูกบ้านเข้าออกโดยใช้ Access Card คนนอกแลกบัตรกับรปภ.
เครื่องสแกน Key Card และ ไม้กระดกอัตโนมัติ
พื้นถนนส่วนทางเข้าเป็นคอนกรีตสแตมป์ ชอบต้นไม้ที่โครงการเลือกใช้ค่ะ ปลูกต้นหลิวไว้เยอะเลย ส่วนใบจะพริ้วตามลมตลอด ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและให้ความรู้สึกผ่อนคลายดี สวนชั้นล่างของโครงการออกแบบตามแนวคิด “Mura” A Village within Nature เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบแนวคิดญี่ปุ่น ที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม อย่างการเข้ารอยต่อของวัสดุไม้ที่พิถีพิถันอย่างลงตัว ผสมผสานกับการเอาความเป็นธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น
เข้าโครงการมาจะเจอสวนของโครงการทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนคนขับรถให้ขับตรงไปลานจอดรถใต้อาคารค่ะ
ฝั่งซ้ายมือจะมียกพื้นเป็นทางเดินเท้าพร้อมมีหลังคากันแดดกันฝนสำหรับคนเดินเข้าออกโครงการอยู่ จะเป็นทางเดินผ่านสวนของโครงการเข้าไปนะคะ ทางเดินมีผนังบางส่วนเป็นระแนงไม้ช่วยนำสายตาได้ดี และเกิดเป็นจังหวะของแสงที่ให้ความรู้สึกสงบ เราเดินตรงไปตามทางเข้าไปสำรวจโครงการกันเลยค่ะ
เข้ามาจะเจอศาลพระภูมิและศาลตายายอยู่ฝั่งซ้ายมือ
มองตรงออกมาเป็นบ่อน้ำตกสไตล์ญี่ปุ่น มีเสียงน้ำไหล สะพานข้ามลำธารหิน และทางเดินที่เห็นวิวสวน ที่ให้ความรู้สึกสงบและเป็นธรรมชาติ
มองขึ้นไปเห็นตัวอาคารโดดเด่น รอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ
เดินตามทางเท้ามาซ้ายมือมีมุมเด็กเล่น พร้อมม้าโยก 3 ตัว
ตรงขึ้นมาเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนชั้น 1
โซนออกกกำลังกายกลางแจ้ง มีเครื่องเล่น-เครื่องโหนปีนป่าย, เครื่องออกกำลังกายต่าง ๆ จัดเตรียมไว้ให้
มองไปทางตัวอาคารพักอาศัย จะเห็นสนามหญ้าที่ร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของต้นใหญ่แบบนี้
พื้นที่สำหรับ Sit Up และ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
พื้นที่ Warm-Up ร่างกาย
มองกลับออกมาจะเห็นทางเดินเท้า
ผ่านสวนและทางเดินเท้าออกมา ซ้ายมือเป็นจุดเริ่มต้น Jogging Track รอบตัวอาคารนั่นเองค่ะ
สำหรับคนใช้รถให้ขับตรงไป จะเจอกับทางเข้าชั้นจอดรถทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนคนเดินก็สามารถเดินบนทางเท้าต่อเนื่องไปยัง Lobby ได้เลยค่ะ
ขวามือเป็นที่จอดรถสำหรับ Visitor
Family Mart เปิดตลอด 24 ชม.
ถัดจาก Family Mart มา เป็นห้องนิติบุคคล, Smart Pod และ Drop-Off
Smart Pod ล็อกเกอร์อัจฉริยะสำหรับฝากของพร้อมใช้งาน 24 ชม.
ตรงขึ้นมาซ้ายมือเป็น Drop-Off
ผ่าน Drop-Off ซ้ายมือเป็นทางเข้าชั้นจอดรถยนต์
ภายในที่จอดรถโครงการค่ะ โครงการจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 คิดเป็น 52% ของจำนวนยูนิตโครงการ ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ซ้ายมือเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ถัดเข้าไปเป็นประตูทางเข้ารอง สามารถเข้าได้จากลานจอดรถ มีบันไดขึ้นไป และมีทางลาดสำหรับรถเข็นมาให้ด้านข้าง
ในลานจอดรถนอกจากจะมีลานจอดรถ, จักรยานและมอเตอร์ไซค์แล้ว ที่พิเศษคือมี EV Charger มาให้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในที่จอดรถ
จากด้านหน้าทางเข้าที่จอดรถมองกลับมาที่หน้าโครงการ
ภาพรวมด้านหน้า Drop-Off ก่อนเข้าตัวอาคารพักอาศัย
ตรงข้ามทางเข้า Lobby มีสวนหย่อมพร้อมประติมากรรมประดับอยู่
โถงหน้าทางเข้า Lobby โครงการจะมีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พร้อมป้าย Life อยู่ด้านหลัง
เดินไปดูทางซ้ายมือจะเป็นห้องประชุม, ห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิง และ ห้องนิติบุคคล
เดินไปทางขวาเพื่อเข้าไปดู Lobby ด้านในกันต่อค่ะ
Lobby ขนาดใหญ่ เปิดโล่ง เปิดรับวิวสวนธรรมชาติเต็มสายตา ตกแต่งมาในแนวผสมผสานระหว่างรูปแบบแนวคิดญี่ปุ่น ที่ออกแบบอย่างละเมียดละไม อย่างการเข้ารอยต่อของวัสดุไม้ที่พิถีพิถันอย่างลงตัว ผสมผสานกับการเอาความเป็นธรรมชาติเข้ามาอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น มีความโมเดิร์นและหรูหราอยู่ในตัวด้วยการเล่นแสงและการตกแต่งรายละเอียดด้วยสีทองและเอิร์ธโทน
มีมุมโซฟาและชุดเก้าอี้เตรียมไว้รับรองลูกค้าหลายชุด โดยจากภายใน Lobby มองออกไปจะเป็นวิวสวนที่ด้านนอก
ถัดเข้ามาซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ต้อนรับ ด้านข้างเคาน์เตอร์จะเป็นประตูทางเข้าไปส่วนโถงลิฟต์และห้องจดหมาย ที่ต้องสแกนบัตรเข้าไปนะคะ
บรรยากาศภาพรวมภายใน Lobby
ประตูทางเข้าอาคาร, โถงลิตฟ์ และ ห้องจดหมาย
ข้างประตูทางเข้าทางโครงการติดตั้งเครื่อง AED หรือ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าเอาไว้ให้
พอผ่านประตูเข้ามา ฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูเปิดไปห้องจดหมายของโครงการ
ภายในห้องจดหมายของโครงการกว้างขวางทีเดียว และตกแต่งมาหรูหราในโทนสีทอง และมีไฟซ่อนบนล่าง
ออกจากห้องจดหมายมาก็จะเป็นส่วนโถงลิฟต์ของโครงการ
ลิฟต์โดยสารมีให้ทั้งหมด 4 ตัว พร้อมลิฟต์บริการที่ด้านนอกอีก 1 ตัว
เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้นที่ต้องสแกนการ์ดก่อนเลือกชั้นเพิ่มความปลอดภัยให้คนในโครงการไปอีกระดับ ภายในลิฟต์มีกระจกเงามาให้ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนออกไปไหนมาไหนได้ด้วย
โครงการจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 คิดเป็น 52% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 3 เลย ผังส่วนที่อยู่อาศัยจะเหมือนกันกับชั้น 4 ค่ะ คือความหนาแน่นของห้องคือ 14 ยูนิตต่อชั้น โดยส่วนสีน้ำตาลด้านหน้าจะเป็นยูนิตแบบ 2 ห้องนอนชั้นละ 2 ห้องนะคะ ส่วนสีเหลืองๆที่เหลือจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 26 -35 ตร.ม. ชั้นนี้จะมีประตูกั้นแยกส่วนยูนิตที่พักอาศัยออกมาต่างหากจากลานจอดรถโดยใช้ Key card ในการเข้าออก
ชั้น 5 เป็นชั้นส่วนกลางหลักของโครงการ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool ขนาดยาว 40 x 8 m. พร้อมสวนล้อมรอบตามคอนเซ็ป Mori หรือสระในป่า นะคะ นอกจากนี้จะมีห้องฟิตเนส, ห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมกับห้อง Steam, Sauna, และห้องนั่งเล่นหรือ Casual Space
นอกจากนี้ชั้น 5 ก็จะมีส่วนยูนิตที่พักอาศัยแล้วค่ะ โดยมีรูปร่างเป็นตัว s ความหนาแน่นของยูนิตชั้นนี้คือ 38 ยูนิต ข้อดีของการอยู่ชั้นนี้คืออยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางที่สุดนะคะ ก็คือเวลาจะเดินมาสระว่ายน้ำ ชมสวน อบซาวน่า หรือออกกำลังกายก็ง่ายกว่าชั้นอื่น ไม่ต้องเดินไกล ที่โถงลิฟต์ชั้นนี้จะมีประตูกั้นส่วนยูนิตที่พักอาศัยแยกให้ต่างหากนะคะ คือคนที่อยู่ชั้นนี้เวลาจะเข้าไปส่วนที่พักอาศัยก็แตะบัตรเข้าไป ไม่ปนกัน
ขึ้นมาที่โถงลิฟต์ชั้น 5
ถัดจากโถงลิฟต์มาเป็นประตูเปิดไปส่วนยูนิตที่พักอาศัยของชั้น 5 ต้องใช้ Access Card แตะเพื่อเปิดประตูเข้าไป เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน
จากโถงลิฟต์ชั้น 5 มองตรงไปเป็นประตูทางเข้าพื้นที่ส่วนกลางค่ะ
เข้ามาด้านในขวามือเป็นมุมพักผ่อน จัดวางชุดโต๊ะกลาง และ เก้าอี้นั่งเล่นให้แบบในภาพ
มองมาทางซ้ายมือเป็นมุมพักผ่อนอีกฝั่ง จัดวางชุดโต๊ะสนามพร้อมเก้าอี้ให้หลายที่นั่ง โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นแบบ Semi-Outdoor นั่งเล่นพักผ่อนในร่ม แต่ได้รับลมธรรมชาติค่ะ
บรรยากาศภาพรวมพื้นที่พักผ่อนแบบ Semi-Outdoor
ส่วนฝั่งขวามือเป็นทางเดินไปห้องฟิตเนส และห้องน้ำ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
ห้องน้ำแบ่งเป็นห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง ซึ่งภายในมีห้อง Steam ห้องอาบน้ำ และล็อกเกอร์เก็บของอยู่
เริ่มจากห้องน้ำหญิงกันก่อน
ภายในห้องน้ำมีเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำยาว พร้อมกระจกเงาเต็มความกว้างผนัง และอ่างล้างมือ 3 อ่าง
ถัดเข้าไปเป็นห้อง Steam หรือ ห้องอบไอน้ำ ให้ผิวได้ขับเหงื่อ และรู้สึกสะอาด สดชื่น หลังอบไอน้ำมาให้ ด้านในนั่งได้ประมาณ 4 คนค่ะ
ขวามือเป็นล็อกเกอร์ ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำ
ถัดเข้ามาเป็นห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำมีให้อย่างละ 2 ห้อง
เข้ามาดูห้องน้ำชายกันต่อค่ะ
ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำ มีให้ 1 ห้อง และ ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
ซ้ายมือมีเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำยาว พร้อมกระจกเงาเต็มความกว้างผนัง และอ่างล้างมือ 3 อ่าง
ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ชาย ติดกันเป็นล็อกเกอร์เก็บของ ด้านในสุดเป็นห้อง Sauna
โถสุขภัณฑ์ชายระบบกดน้ำอัตโนมัติ พร้อม Low-Wall ที่ด้านหลัง มีให้รวม 3 ชุด
สำหรับห้องน้ำชายจะได้เป็นห้อง Sauna ภายในรองรับได้ประมาณ 3-4 คนค่ะ
ตรงข้ามห้องน้ำเป็นทางเข้าห้องฟิตเนส
ห้องฟิตเนส ที่อยู่ชั้น 5 เป็นห้องเพดานสูงให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ผนังโดยรอบห้องเป็นกระจกโชว์วิวสวน สระว่ายน้ำ และเมืองรอบๆ สามารถออกกำลังกายและชมวิวไปด้วยได้ มีเครื่องเล่นของ Matrix มาให้ประมาณ 14 เครื่อง
ฝั่งซ้ายมือเป็นโซนคาร์ดิโอ ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำ
มีเครื่องเดินสลับมาให้ 3 เครื่อง
เครื่องนั่งปั่นจักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 3 เครื่อง
ฝั่งขวามือได้วิวบ้านเรือน และ เป็นโซนของเวทเรนนิ่ง
แมชชีนชุดใหญ่ ไว้บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
ชุดบาร์ดัมเบล และเครื่องซิทอัพอีก 2 ตัว
เครื่องบริหารกล้ามเนื้อแขน-ขาเซ็ทใหญ่อีก 2 ชุด
จากห้องฟิตเนสจะมีประตูเปิดออกไปสวนและสระว่ายน้ำได้
มองไปอีกฝั่งของห้องฟิตเนสจะเป็นบันไดทางขึ้นไปยัง Casual Space ที่ชั้น 2
เข้าไปดูใน Casual Space กันต่อเลยค่ะ
ภายในห้องจะจัดชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนมาให้หลายชุด และมีโต๊ะยาวสำหรับประชุมอยู่ด้วย
มุมนั่งชิวแบบญี่ปุ่น พร้อมเบาะผ้า
ผนังฝั่งนึงเป็นกระจก มองออกไปเป็นวิวสวนและสระว่ายน้ำ
ภาพมุมบนจากอาคารฟิตเนสเปิดออกมาสวนและสระว่ายน้ำค่ะ
กลับมาที่พื้นที่พักผ่อนด้านหน้า แล้วเลี้ยวซ้ายขึ้นไปดูสระว่ายน้ำ, พื้นที่พักผ่อนริมสระ และ สวนกันต่อ
ขึ้นมาด้านบนขวามือเป็น Infinity Edge Pool ความยาวกว่า 40 เมตร ที่มาในรูปแบบ ‘Mori’ The Forest Pool พร้อมสระเด็กที่ด้านใน
สระเด็ก
สระผู้ใหญ่ เปิดรับวิวสวนสีเขียว และ วิวสะพานพระราม 8
จากสระว่ายน้ำจะเห็นวิวของยอดสะพานพระราม 8 แบบในภาพ
ริมสระมีทางเดินเชื่อมต่อได้รอบ
จุดแรกเป็น Shower สำหรับล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ
ถัดมาเป็นมุมพักผ่อน วางเก้าอี้หวายพร้อมเบานั่งทรงกลมให้ 3 ชุด
จากมุมพักผ่อนมองออกมาได้วิวสระว่ายน้ำ และ ห้องฟิตเนสแบบในภาพ
ตรงมาจนสุดจะมีบันไดลงไปยังสวน จุดนี้จะเดินเชื่อมไปฝั่งห้องฟิตเนสได้ด้วย
ทางเดินเชื่อมไปยังฝั่งห้องฟิตเนส ผนังใช้เป็นกระจกนิรภัยแบบใส ช่วยให้เปิดรับมุมมองได้กว้าง
จากจุดนี้มองกลับเข้ามาที่สระว่ายน้ำ ได้วิวสวย ๆ แบบนี้เลย
เดินเชื่อมมาอีกฝั่ง จะเจอกับกระถางปลูกต้นหลิวต้นใหญ่มาเป็นแนว เวลาลมพัด ต้นหลิวก็จะพริ้วตามลมสวยงามอย่างที่เห็นค่ะ
จากทางเดินจะแจกเข้าไปที่ Pavillion หรือศาลาข้างสระว่ายน้ำที่มีมาให้ 3 ศาลา พร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระรูปตัว U ด้านใน งานออกแบบในโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นนะคะ
ผ่าน Pavilion มาจะเจอกับห้องฟิตเนส ที่มีประตูทางเข้าได้อีกทาง
มุมพักผ่อนด้านหน้าห้องฟิตเนส
ด้านข้างเป็นทางเดินเชื่อมออกไปยังพื้นที่พักผ่อนที่ด้านหน้าได้ค่ะ
ภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5 จากมุมสูงค่ะ
ส่วนผังชั้น 6 ความหนาแน่นของห้องคือ 40 ยูนิตต่อชั้น การจัดผังห้องแทบไม่แตกต่างกับชั้น 5 เลย แต่มียูนิตเพิ่มขึ้นมา 2 ยูนิต จะมีส่วนที่เป็น Lounge หรือห้องนั่งเล่นอยู่ แต่ทางเข้าออกจะอยู่ที่ชั้น 5 จากในห้องฟิตเนสนะคะ
ห้อง 2 Bedrooms จะอยู่ที่มุมตึกทั้งหมด 5 ยูนิต ที่เหลือจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดค่ะ โถงลิฟต์โดยสารจะอยู่ที่มุมกลางตึกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ หรือค่อนมาทางด้านหน้าโครงการ พร้อมบันไดหนีไฟ 3 จุด
แปลนชั้น 7 – 23 จะเหมือนกันค่ะ คือนับได้ทั้งหมด 41 ยูนิต ผังเหมือนกันกับชั้น 6 เลยค่ะแค่เพิ่มห้องมุมแทน Casual Space มา คือจะมีแบบ 2 Bedrooms จะอยู่ที่มุมตึกทั้งหมด 6 ยูนิต ที่เหลือจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด
แบบห้อง
โครงการ Life ปิ่นเกล้า มีห้องให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้
ซึ่งก่อนเราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง เราเอาแบบห้อง 2 ห้องนอนมาให้ดูกันก่อนนะคะ
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างของโครงการที่พาไปชมกันวันนี้เป็นยูนิตแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ค่ะ ซึ่งเป็นวิธีคิดในการการแบ่งพื้นที่แบบใหม่จาก AP ด้วยการจัดพื้นที่ภายในที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้น และ มีพื้นที่ใช้งานที่กว้างขวาง เป็นสัดส่วน โดยเชื่อมต่อจากห้องนอน จะใช้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet หรือใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ พื้นที่ครัว ที่สามาถปรับได้ทั้งแบบครัวเปิด และครัวปิด ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวมาให้ และหากลูกค้าที่ต้องการครัวปิด ทางโครงการมีโปรโมชั่นแถมกระจกบานเลื่อนแบบเต็มบานที่บริเวณห้องครัวมาให้ ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
ประตูห้องเป็นบาน HDF สีครีม พร้อมวงกบสีเดียวกัน มีตาแมวมาให้ใช้ส่องคนที่มาเคาะประตูได้ ด้านข้างประตูมีแผ่นป้ายบอกเลขห้องอยู่
มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส ด้านนอกมีช่องเสียบกุญแจ ด้านในมีตัวบิดหมุนล็อก
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน ฝั่งซ้ายมือของห้องนั่งเล่นเป็นส่วนครัวและห้องน้ำ มองตรงไปเป็นส่วนห้องนอนมีฉากกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นมาให้ พื้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะเป็นไม้ลามิเนตสีอ่อนหนา 8 mm. ห้องตัวอย่างกรุผนังตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย
ผนังของจริงที่ได้จะเป็นวอลเปเปอร์โทนสีขาวนะคะ และฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว ติดไฟดาวน์ไลท์ค่ะ
แต่จริงๆโต๊ะกาแฟวางด้านข้างก็ได้นะคะ ไม่เกะกะทางเดินดี เนื่องจากส่วนห้องนั่งเล่นค่อนข้างยาวอยู่แล้ว อย่างในห้องตัวอย่างวางโซฟาแบบ 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะวางของด้านข้างมาให้เห็นระยะใช้งาน
มองกลับไปที่ทางเข้าห้อง เพดานห้องสูง 2.55 m.จากในภาพจะเห็นระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2 m. พอวางโต๊ะกาแฟได้
ชั้นวางทีวีวางได้ขนาดกว้างประมาณ 1.3 m. ค่ะ ตามความกว้างผนัง เราเปิดช่องเก็บของในชั้นวางทีวีให้ดูด้านในนะคะ ด้านบนชั้นวางทีวีติดเครื่องปรับอากาศมาให้ เป็นของ Panasonic
ถัดมาเป็นทางเดินไปห้องครัวกับห้องน้ำ ครัวได้เป็นครัวแบบเปิด ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ ถ้าหากลูกค้าต้องการได้เป็นครัวปิด ทางโครงการจะติดกระจกบานเลื่อนเพิ่มเติมให้ค่ะ ส่วนตู้เย็นจะเห็นว่ามีช่องว่างพอวางตู้เย็นขนาดใหญ่กว่านี้ได้อีกหน่อย
ภาพรวมส่วนผนังชั้นวางทีวี และทางเข้าส่วนห้องครัวจากห้องจริงที่ได้ค่ะ พื้นห้องครัวได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm. จะเห็นส่วนต่อระหว่างพื้นไม้ลามิเนตส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นแกรนิตโต้ส่วนห้องครัวอยู่นะคะ ตรงนี้ส่วนรอยต่อใช้จบพื้นเป็นไม้ลามิเนต
ทำ built in โต๊ะอาหารพร้อมวางเก้าอี้สำหรับ 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นไอเดียและให้เห็นระยะใช้งาน
ชุดครัวด้านบนมีชั้นลอยพร้อมหน้าบานมาให้ เปิดปิดมี Soft closed ไม่มีเสียงดัง ชุดครัวของจริงได้ตามที่เห็นนะคะ เปิดให้ดูว่าช่องเก็บของเป็นยังไง ชั้นลอยส่วนตรงกลางเป็นส่วนของเครื่องดูดควัน เปิดช่องเก็บของใต้อ่างล้างจานจะเห็นว่ามีถังขยะแบบมีฝาปิดมาให้ด้วย
ชุดครัวด้านล่างเป็นรูปตัว L ส่วน Top เป็นหินสังเคราะห์ เจาะช่องให้วางเครื่องซักผ้าอยู่ฝั่งขวา วางได้เฉพาะเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 kg แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แถมให้นะคะ ส่วนที่วางเตาไมโครเวฟอยู่ใต้เตาไฟฟ้า ก็ดูเป็นสัดส่วนดี แต่จริงๆพอต้องก้มแบบนี้ใช้งานลำบากกว่าวางบนเคาเตอร์นะคะ หลายคนคงใช้เป็นที่วางของแล้วเอาไมโครเวฟมาวางไว้ด้านบนเคาเตอร์มากกว่า
อ่างล้างจานฝังมาให้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานของ Teka หรือแบรนด์เทียบเท่า ด้านข้างอ่างวางที่พักจานมาให้ดูระยะใช้งาน
เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัว มีเครื่องดูดควันด้านบนของ Teka หรือแบรนด์เทียบเท่า มีเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ใกล้ๆ ใช้เสียบเตาไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำร้อน กาแฟ หรือ เครื่องปั่นน้ำผลไม้ได้ ผนังด้านหลังติด Back Splash หรือผนังกันเปื้อนมาให้ เวลาทำอาหารแล้วกระเด็นเลอะผนังก็เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ อันนี้ดีนะคะ โดนน้ำยังไงก็ไม่บวมเหมือนธรณีลามิเนต
ภาพรวมห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีขาวครีมขนาด 60 x 60 cm.
ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้เรียบร้อย
ส่วนอ่างล้างหน้าและกระจกเงาได้ตามที่เห็น ด้านล่างที่เห็นไม่ใช่ลิ้นชักนะคะ แต่เจาะที่แขวนผ้าเช็ดมือมาให้เฉยๆค่ะ
เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่าง จะเห็นว่าให้อ่างมาใหญ่เหมือนกัน ด้านบนมีที่วางของนิดหน่อย ตัวอ่างออกแบบโดย AP เองนะคะ ส่วนก๊อกอ่างล้างหน้าเป็นของ Grohe
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler หรือแบรนด์เทียบเท่านะคะ สายฉีดชำระและที่แขวนทิชชู่เป็นผิวสแตนเลส
ส่วนเปียกหรือส่วนอาบน้ำ จะมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์มาให้ พร้อมชุดฝักบัวของ Grohe
ในห้องน้ำจะมีแยกท่อระบายน้ำส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้นะคะ ส่วนแห้งจะอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์ ส่วนเปียกอยู่ตรงมุมผนังห้องอาบน้ำที่ยุบเข้าไปแบบนี้ มุมนี้เหมาะจะวางหรือต่อชั้นวางของเพิ่มนะคะ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่ต้องวางแชมพู สบู่ ครีมอาบน้ำไว้กับพื้น
ที่ชุดฝักบัวจะมีที่วางสบู่เล็กๆมาให้ เทียบขนาดฝักบัวกับฝ่ามือให้ดูค่ะ ขนาดฝักบัวกำลังเหมาะมือ
หน้าตาสวิตช์ไฟค่ะ เป็นสวิตช์สีขาวของ Siemens
เข้าไปดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ส่วนห้องนอนจะมีฉากกั้นห้องมาให้ เป็นกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม
มือจับเป็นแบบมาตรฐาน ตัวรางบานเลื่อนฝังพื้นมาให้
ในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดูระยะ มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือพอประมาณ ถ้าชิดเตียงไปฝั่งใดฝั่งนึงหัวก็ยังพอวางโต๊ะทำงานที่ฝั่งหัวเตียงได้ค่ะ
ข้างเตียงทั้งสองฝั่งกว้างประมาณ 40 cm. พอวางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้สบายๆ
ระยะปลายเตียงเหมาะจะวางชั้นวางทีวีแบบแขวนผนังได้นะคะ ห้องตัวอย่างติดทีวีแบบแขวนผนังมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ของจริงที่ผนังเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าและช่องเสียบสายสัญญาณมาให้เรียบร้อย
หน้าต่างห้องนอนเป็นกระจกบานใหญ่ ด้านบนขวาเปิดออกได้ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ ที่เหลือเป็นบานฟิกซ์ ทำให้มีช่องแสงธรรมชาติที่กว้างขึ้นนั่นเอง
ปลายเตียงมีประตูบานเลื่อนเปิดเข้าไปห้องอเนกประสงค์หรือ Walk in closet อยู่ เป็นประตูบานเลื่อนแบบแขวนรางบนนะคะ ทำให้ที่พื้นทางเดินเรียบ ไม่มีรางมาวางให้เกะกะ
ห้องตัวอย่างจัดมาเป็น Walk in closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
ระยะใช้งานภายในค่ะ ใครเสื้อผ้าเยอะนี่พอทำราวแขวนฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าได้อีกฝั่งนะคะ เพิ่มพื้นที่แขวนเสื้อผ้าได้
จากห้องอเนกประสงค์จะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไประเบียงได้
ธรณีประตูระเบียงสูงขึ้นมาประมาณ 10 cm. เพื่อนช่วยกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 cm. มาให้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีเทา
ที่ระเบียงจะเป็นจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์ ที่แขวนมาทั้ง 2 เครื่อง ทำให้พอใช้งานพื้นใต้แอร์คอมเพรสเซอร์ได้ มีก๊อกน้ำติดมาให้ที่ผนัง พื้นระเบียงมีเจาะท่อระบายน้ำและติดไฟผนังมาให้เรียบร้อย
ราคา (ก.ค.62)
30 ตร.ม. ลดเหลือ 2.79 ล้าน*, 35 ตร.ม. ลดเหลือ 2.99 ล้าน* / จอง 5 พัน ลดสูงสุด 5 แสน* ฟรีทุกค่าใช้จ่าย*
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/2ZPkjEE
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Life ปิ่นเกล้า เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ห่างจากรถไฟฟ้า MRT บางยี่ขันเพียง 26 เมตร เป็นทำเลฝั่งธนบุรี ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน คนที่นี่อยู่อาศัยในย่านนี้มานานแบบรุ่นต่อรุ่น พอครอบครัวขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ไม่อยากย้ายไปไกลบ้านมากนัก
อีกกลุ่มคือคนที่อาศัยอยู่ย่านเยาวราช ที่ลูกหลานน่าจะขยับขยายมาอยู่ทำเลนี้กัน เพราะไปมาหาสู่กันง่าย เป็นสังคมแบบชุมชนเก่าแก่ และมีสเน่ห์เฉพาะตัวอยู่ จากโครงการก็สามารถมองเห็นวิวสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และวิวเมืองฝั่งพระนครได้
ความอุดมสมบูรณ์ – นอกจากร้านสะดวกซื้อในโครงการแล้ว ในระยะใกล้จากโครงการที่เดินไปได้ก็มีห้าง PATA ที่เป็นห้างเก่าแก่ ภายในมีร้านค้าและธนาคาร ที่รอบๆห้างเองก็มีร้านอาหารและร้านขายของรอบๆหลากหลายค่ะ ห่างไปแค่ประมาณ 1 กิโลนิดๆ บนเส้นบรมราชชนนีก็มี Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, Central ปิ่นเกล้า, The Sense อยากดูหนังก็มี Major ปิ่นเกล้า อยู่ฝั่งตรงข้าม Central ปิ่นเกล้า อยู่
ขยับออกไปหน่อย ประมาณ 2 – 3 กิโลเมตร ตลาดสด 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดบางขุนศรี ตลาดสหกรณ์ศาลาน้ำเย็น และตลาดบางขุนนนท์, Makro จรัญสนิทวงศ์, Foodland, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก, สวนหลวงพระราม 8 และจากโครงการก็ห่างจาก ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ แค่ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – โครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งมุ่งหน้าไป ถ.บรมราชชนนี และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สำหรับคนใช้รถถือว่าสะดวกเลยค่ะ มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด ถ้าจะเข้าเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาฝั่งพระนครสะพานที่อยู่ใกล้สุดคือสะพานพระปิ่นฯ กับสะพานพระราม 8 ส่วนถ้าจะออกเมืองก็วิ่งเส้นบรมราชชนนีไปถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – โครงการอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานี บางยี่ขัน ในระยะเดินเพียง 26 เมตร ซึ่งโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ- ท่าพระ นี้จะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดินสามารถวิ่งไปสถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่แถวหน้าบริษัทปูนซีเมนต์ไทย หรือ SCG
โดยมีกำหนดเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสายใหม่นี้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2563 ทำให้เพิ่มตัวเลือกด้านการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถส่วนบุคคลได้ดีค่ะ นอกจากนี้ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) และสถานีรถไฟจรัญสนิทวงศ์ (สายสีแดง) ซึ่งปัจจุบันยังเป็นที่ตั้งของรถไฟชานเมืองอยู่ ซึ่งจะทำให้การเดินด้วยรถสาธารณะจากโครงการมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นไปอีก
การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวมาให้ สุขภัณฑ์ Kohler มีฉากกั้นห้องน้ำแต่ฝักบัวเป็นแบบธรรมดาไม่มี Rain Shower นะคะ และฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร พื้นเป็นลามิเนต 8 มม.กับแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. วัสดุที่ได้มาตามมาตรฐาน เหมาะสมกับราคา
ตัวโครงการเน้นการจัดฟังก์ชันยูนิตที่พักอาศัยในแง่การใช้งานที่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ขึ้น โดยมียูนิตแบบใหม่ขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งเป็นวิธีคิดในการการแบ่งพื้นที่แบบใหม่ โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือห้องอเนกประสงค์ค่ะ ส่วนห้องนั่งเล่นมีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ พื้นที่ครัว ที่สามาถปรับได้ทั้งแบบครัวเปิด และครัวปิด หากต้องการครัวปิดทางโครงการมี Promotion บานเลื่อนกระจกเต็มบานกั้นส่วนครัวให้ ห้องอเนกประสงค์จะตอบโจทย์มาก หรือใครที่มีเสื้อผ้าเยอะจนล้นตู้ส่วนนี้ก็มีประโยชน์มากค่ะ สามารถจัดเต็มได้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาตามแนวคิด “Mura” A Village within Nature เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบแนวคิดญี่ปุ่น ที่ออกแบบมาแบบใส่ใจรายละเอียด อย่างการเข้ารอยต่อของวัสดุไม้ที่พิถีพิถันอย่างลงตัวและพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ แบบ Infinity Edge Pool, ห้องฟิตเนส, และห้อง Steam, Sauna, ห้อง Casual Space ที่จัดรวมอยู่ในชั้น 5 มีร้านค้า Family Mart ที่ชั้นล่าง เปิดตลอด 24 ชม. สะดวกมาก ไม่ต้องออกไปซื้อของถึงด้านนอกโครงการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาตลอด 24 ชม.
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ถนนจรัญสนิทวงศ์ ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางเข้าออกเมืองสะดวกไม่ไกล เสียตรงรถติดและที่จอดรถ 52% ก็ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตห้อง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | สะดวกดีเพราะใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และติดถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์ และแท็กซี่ผ่านไปมาให้เห็นตลอด |
ห้องและวัสดุ | 7.8 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว วัสดุที่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานเมื่อเทียบกับราคาห้อง |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เริ่มต้นที่ 2.79 ล้าน* ได้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทำเลติดรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้างหลายห้าง ใกล้สวนสาธารณะ โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัย และเป็นย่านเก่าแก่ที่มีสเน่ห์เฉพาะตัว |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.13 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 1623
เว็บไซต์ : www.apthai.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น