EP.281 รีวิว ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 Lumpini Place Bangna Km.3
Written by : Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานเราจะขอพาไปอัพเดตเยี่ยมชมโครงการ Lumpini Place บางนา-กม.3 จาก L.P.N Development คอนโด Low Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาเบาๆ ย่านบางนา ในซอยบางนา – ตราด 23 หลัง Central Plaza บางนา ไม่ไกลจาก BTS อุดมสุข พร้อมด้วยรถรับ-ส่งจากโครงการไปยังรถไฟฟ้า ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง เพียบพร้อมทั้งร้านอาหารใกล้โครงการ และอยู่ในระยะที่เดินไป Central บางนาได้เลย นอกจากนั้นยังใกล้แหล่งงานโซนบางนาอีกหลายแห่งค่ะ
ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร สร้างเสร็จพร้อมอยู่ จำนวน 609 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 5 ไร่ มีห้องพักทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.50 – 39 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ช่วงปลายปี 2560
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการภายในครบครัน อาทิ เช่น Lobby, Mailbox แยกอาคาร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ห้องออกกำลังกาย, ห้องเรียนรู้, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข, สวนรวมใจ, ร้านค้า 5 ยูนิต (7-11, ร้านกาแฟ Inthanin, ร้าน Salon, ร้านซักรีด), ที่จอดรถ 200 คัน รวมซ้อนคัน คิดเป็น 34% ของทั้งโครงการ, เข้า-ออกโครงการระบบ Access Card Control และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท (ธ.ค.2561)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 Lumpini Place Bangna Km.3 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) L.P.N. |
เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 5 ไร่เศษ |
จำนวนตึก | 3 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 200 คัน หรือประมาณ 34% (รวมจอดซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟท์ | ลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว |
โซน | เขตบางนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 |
ที่ตั้ง | ติดถนนบางนา-ตราด 23 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. |
กำหนดการ | – |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่ม 1.69 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม |
|
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 43 บาท/ตร.ม/เดือน และเก็บ 38 บาท/ตร./เดือน ในปีที่ 1-2 แรก, ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม., |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | ลุมพินี เพลส บางนา กม. 3 คอนโดใหม่ หลังเซ็นทรัล บางนา ใกล้ทางด่วน สะดวกสบายทุกการเดินทาง ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยบางนา-ตราด 23 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
พิกัด : 13.6732805, 100.6366995
แผนที่จากทางโครงการ แสดงที่ตั้งโครงการและความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ หลักๆจะเป็น Central Plaza บางนา และ Big C บางนาค่ะ และจากภาพเราจะเห็นว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด ที่สามารถเชื่อมกับถนนได้ 3 เส้นคือถนนบางนา – ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข
โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด 23 ฝั่งมุ่งหน้าถนนบางนา – ตราด ตัวซอยจะสามารถทะลุไปบนถนนหลักได้ 3 เส้นคือ ถนนบางนา – ตราด, ถนนศรีนครินทร์ และถนนอุดมสุข จุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้คือใกล้ Central Plaza บางนา และ Big C บางนา ในระยะทางประมาณ 600 เมตร
ทำเลบางนาจริงๆแล้วถือว่าออกมาแถบชานเมืองแล้วค่ะ แต่ก็มีคนอยู่อาศัยแถบนี้เป็นจำนวนมาก จุดเด่นสำคัญของทำเลนี้ก็คือตัวถนนบางนา – ตราดเองนี่แหละค่ะ โดยตัวถนนบางนา – ตราดนี้จะเป็นถนนเส้นใหญ่ กว้าง 12 เลน มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่แยกบางนา ยาวไปถึงบางปะกง(จ.ฉะเชิงเทรา) เป็นถนนเส้นสำคัญที่ใช้เข้าออกเมือง มีรถสัญจรผ่านไปมาเยอะ ทั้งรถบรรทุก รถยนต์ส่วนบุคคล โดยช่วงถนนที่ตัวโครงการตั้งอยู่ถือว่าเป็นช่วงถนนที่คึกคักของถนนเส้นนี้เลยค่ะ เพราะยังเป็นช่วงถนนที่อยู่ใกล้เมือง ใกล้ Central บางนา
สภาพแวดล้อมในซอยบางนา – ตราด 23 หรือซอย Central บางนา จะมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก รวมไปถึงมีคนอยู่อาศัยเยอะเช่นกัน โดยความอุดมสมบูรณ์ในซอยจะเริ่มตั้งแต่ต้นซอยมี Central บางนาและ Big C เข้าซอย มาจะมี Bizzo บางนา เป็น Avenue ภายในมีร้านอาหารและบริการอยู่หลายร้าน นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารดีๆหลายร้าน หลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารทะเล, ร้านกาแฟ และร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นต้น ส่วนลักษณะของที่อยู่อาศัยภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดทั้ง High Rise , Low Rise และอพาร์ทเม้นต์หลายแห่ง
นอกจากนั้นซอยนี้จะสามารถใช้ทะลุออกไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขได้ทางซอยอุดมสุข 60 และซอยศรีนครินทร์ 56 และ 58 โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ช่วงกลางซอยระยะประมาณ 600 เมตร จากปากซอยฝั่งบางนา – ตราด และระยะทางประมาณ 1.2 กม. ถึงถนนศรีนครินทร์ และระยะทางประมาณ 950 ถึงถนนอุดมสุข
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร โดยจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7.1 กม. ขับรถไปประมาณ 9 – 15 นาทีก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้เส้นมุ่งหน้าลงทางใต้จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 7.6 กิโลเมตรใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกฝั่งวิ่งขึ้นทางเหนือจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 – 20 นาทีค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ค่อนข้างสะดวก รถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีอุดมสุข มีระยะทางจากโครงการประมาณ 4.6 กม. โดยจากตัวโครงการจะมีรถแวน 2 คัน สำหรับรับส่ง จากโครงการไปยัง BTS อุดมสุข (เสียเงินค่าโดยสาร) นอกจากนั้นนอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากลาดพร้าวมาถึงสำโรง โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนี้ จะสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีเทา, รถไฟฟ้าสายสีส้มและ Airport Rail Link โดยวิ่งมาตามเส้นลาดพร้าว, ถนนศรีนครินทร์ และสิ้นสุดที่สถานีสำโรง รวมทั้งสิ้น 23 สถานี และจะมีสถานีแยกศรีอุดมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
ส่วนการโดยสารรถสาธารณะอื่นๆ จะสามารถเรียก Taxi ได้ที่หน้าโครงการ หรือจะเดินมาหน้าปากซอยฝั่งบางนา – ตราด ระยะทางประมาณ 600 เมตร ข้าง Central บางนา ก็จะมีรถตู้วิ่งไปศรีนครินทร์ และมีคิวพี่วันให้นั่งเข้ามายังตัวโครงการได้ นอกจากนั้นจะมีป้ายรถเมล์ เดินจากหน้าปากซอยไปอีกประมาณ 50 เมตร มีรถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 และมีสะพานข้ามฝั่งถนนก็จะมีรถเมล์สายเดียวกันวิ่งเข้าเมืองค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง ภายในโครงการเองจะมียูนิตร้านค้า 5 ยูนิต ซึ่งยังไม่สรุปว่าจะมีร้านอะไรมาเปิดบ้าง แต่คร่าวๆน่าจะมีร้านสะดวกซื้อและร้านซักรีดค่ะ นอกจากนั้นภายในตัวซอยบางนา – ตราด 23 นี้ จะมีร้านอาหารมากมายหลายร้าน ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านคาเฟ่, อาหารทะเล จนถึงร้านบุฟเฟ่ และ Bizzo บางนา เป็นอเวนิวมีร้านอาหารภายในเยอะหลายร้าน ก็มีในระยะที่สามารถเดินถึงได้ไม่ไกลเลยค่ะ
และจุดเด่นของความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้คือ Central Plaza บางนา และ Big C บางนา ที่ปากซอย มีระยะจากโครงการประมาณ 600 เมตร สามารถเดินถึงได้เลยค่ะ นอกจากนั้นความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างของโครงการนี้ถือว่ามีความสมบูรณ์ค่อนข้างสูง บนถนนบางนาจะมีห้างใหญ่ๆเยอะ นอกจาก Central และ Big C แล้วถัดมาก็จะมี Chic Republic และ Index Living Mall ถัดมาอีกหน่อยก็จะมี Tesco Lotus Extra และจะมีห้างใหญ่ที่เด่นๆของโซนนี้อีกคือ Mega บางนาและ Ikea อยู่บริเวณแยกบางนาตราดตัดกาญจนาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท ส่วนใครอยากเดินตลาดนัดใหญ่ๆก็สามารถขับไปตามเส้นกาญจนาภิเษกขึ้นไปทางอ่อนนุชก็จะมี Number One Plaza ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีทั้งตลาดสดตลาดนัดและ Hyper Market อยู่ด้านใน ที่มีไว้รองรับนักศึกษาม. รามคำแหงและ ABAC บางนาค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลใกล้เคียงก็จะมีโรงพยาบาลไทยนครินทร์และปิยมินทร์ สวนสาธารณะที่ใกล้โครงการจะมีสวนหลวงร.9 เป็นสวนขนาดใหญ่บนเส้นศรีนครินทร์ค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนาเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานถนนบางนา – ตราด ฝั่งมุ่งหน้าฉะเชิงเทราขับตรงมาตามทางเรื่อยๆ สังเกต Central Plaza บางนา ทางซ้ายมือ และเลี้ยวเข้าซอยบางนา – ตราด 23 ตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆประมาณ 600 เมตร ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางขวามือ ส่วน Sale Office จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > แยกบางนา > ทางคู่ขนานถนนบางนา – ตราด >ซอยบางนา – ตราด 23 > Lumpini Place บางนา กม.3
เริ่มการเดินทางบนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา เราจะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปชลบุรี
ถึงแยกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางนา – ตราด
เมื่อเข้ามาบนเส้นบางนา – ตราดแล้วเราเบี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อเข้าเส้นคู่ขนานค่ะ
ขับเข้าเลนซ้ายแล้วตรงตามทางมาเรื่อยๆ ไม่ขึ้นสะพานนะคะ
เราขับมาสักพักจะเห็นเซ็นทรัลพลาซา บางนา ทางซ้ายมือ ถึงตรงนี้ให้เราชิดเลนเข้าเลนซ้ายได้แล้วค่ะ
ติดกับเซ็นทรัลบางนาเราจะเห็นซอยบางนาตราด 23 ติดกันจะเป็นบิ๊กซีบางนา
เราเลี้ยวเข้ามาในซอยบางนาตราด 23 แล้วจะเห็นคิวพี่วินทางซ้ายมือ ซึ่งใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ(รถตู้ หรือรถเมล์) ก็สามารถที่จะใช้บริการพี่วินเพื่อเข้าไปยังโครงการได้ค่ะ
ภายในซอยจะมีทั้งคอนโดและร้านต่างๆ นอกจากนั้นยังมี Bizzoบางนาซึ่งเป็น Avenue ขนาดใหญ่ภายในมีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆหลายร้านค่ะ
ขับเข้าซอยมาประมาณ 600 เมตร เราจะเห็นที่ดินของโครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ทางขวามือ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
เรามาดูบริเวณที่ดินโครงการกันบ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ดินเปล่า
ฝั่งขวามือจากที่ดินโครงการมองไปเราจะเห็น Grand Soccer Sport, สำนักงานขายเดิมและถนนซอยที่วิ่งตรงไปทางถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขค่ะ
บรรยากาศโดยรวมภายในซอยค่ะ
ภายในซอยจะมีร้านอาหารหลากหลายร้านทั้งร้านอาหารตามสั่ง, ร้านแหนมเนือง, ร้านบาร์บีคิวบุฟเฟ่ต์, ร้านซูชิพรีเมี่ยม, ร้านอาหารซีฟู้ด
ส่วนจากหน้าโครงการไปทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นถนนซอยฝั่งที่วิ่งตรงไปหน้าปากซอยฝั่งถนนบางนา – ตราดหรือทาง Central Plaza บางนาค่ะ
ติดกับที่ดินโครงการทางซ้ายมือจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ สูง 4 – 5 ชั้น
ถัดมาเป็นอาคารสูง 3 – 4 ชั้นค่ะ และด้านในก็จะมีเวิ้งเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ชื่อร้านสำราญ เริงใจ
ถัดมาฝั่งเดียวกับทางโครงการจะเป็นอู่ Cockpit
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านนวดแผนไทย
ถัดมาจะมีร้านซูชิฮานะและร้าน Pink Tender อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโดคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น
ถัดมาจะมี 7 – 11
และ Bizzo บางนา ซึ่งเป็น Avenue ขนาดใหญ่ ภายในจะมีร้านอาหารหลายร้าน เช่น ร้านเฝอ, ชาบูนางใน, แหนมเนือง, Tuna Ichiban นอกจากนั้นก็จะมีร้านสปา, ร้านขนมหวานอีกหลายร้านค่ะ
จากตัวโครงการเดินมาหน้าปากซอยประมาณ 600 เมตร ก็จะถึง Big C Supercenter และ ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Central Plaza บางนา
หน้าห้าง Central บางนา จะมีสะพานเชื่อมจากในตัวห้างข้ามไปยังอีกฝั่งถนน คนที่ใช้รถโดยสารทั้งรถเมล์และรถตู้สามารถที่จะข้ามไปขึ้นอีกฝั่งเพื่อเดินทางเข้าเมืองได้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร หน้าตาอาคารโดยรวมเรียบๆตามแบบคอนโดกลุ่ม Economy ของลุมพินี โครงการตอนนี้เสร็จแล้วหน้าตาเหมือนกับตัวโมเดลที่เราเคยพามาชมกันก่อนหน้านี้เลยค่ะ (คลิกที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดตัวโมเดลและแปลนโครงการ)
ขอเล่าข้อมูลโครงการนี้คร่าวๆกันก่อน โครงการนี้จะมียูนิตพักอาศัยจำนวน 609 ยูนิต + ร้านค้า 5 ยูนิตแบ่งเป็น อาคาร A 238 ยูนิต(+ ร้านค้า 5 ยูนิต), อาคาร B 147 ยูนิต, อาคาร C 224 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่เศษ ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งใต้อาคารและรอบอาคาร รวมประมาณ 200 คัน คิดเป็น 34% (รวมจอดซ้อนคัน) มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว
มาดูรายละเอียดตัวอาคารสร้างเสร็จกันต่อเลย เริ่มจากตัวอาคารใช้เป็นสีโทนเขียว น้ำตาล และส้ม ฟังดูอาจจะคิดว่าสีจะสดไปไหม แต่ลุมพินีเค้าจะใช้สีค่อนข้างหม่นๆนิดนึง ทำให้ตัวอาคารดูไม่จัดจ้านมาก ดูสบายตาขึ้นค่ะ
ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับซอยบางนา – ตราด 23
หน้าโครงการมียูนิตร้านค้า 5 ยูนิต ด้านหน้ามีฟุตบาทกว้างขวาง เดินได้สะดวก
ด้านในจะมีโถงทางเดินเชื่อมยูนิตร้านค้าทั้ง 5 ยูนิต มีตู้ ATM ของ LH Bank มาให้ 1 เจ้า ก็ถือว่าสะดวกดีนะคะ เดินออกมากดเงินได้สบายๆ ไม่ต้องออกไปหาตู้นอกโครงการ
ยูนิตแรกติดกับทางเข้าโครงการจะเป็น 7-11 สาขานี้มีขนาดกลางๆ ของครบ
ติดกับ 7-11 เป็นร้านซักอบรีด ลูกบ้านสามารถส่งซักรีดร้านนี้ได้เลย หรือถ้าใครอยากซักรีดเอง ในแต่ละอาคารก็จะมีห้องซักอบ แบบตู้หยอดเหรียญให้บริการอยู่นะคะ
ถัดาเป็นร้านตัดผม
ติดกันเป็นร้านกาแฟ Inthanin
และสุดท้ายเป็นร้านอาหารราคาไม่แพง มีทั้งข้าวราดแกง, ก๋วยเตี๋ยวมะระ
กลับมาที่ทางเข้าโครงการจะมีซุ้มทางเข้าแยกทางเข้า – ออก ตัวซุ้มมีหลังคาคลุม ตรงกลางเป็นป้อมรปภ. คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ด้านข้างซุ้มทางเข้าจะมีทางเดินสำหรับคนเดินเท้าเข้าโครงการ และป้ายโครงการ
โครงการนี้ใช้ระบบ Access Card ระยะใกล้ แตะบัตรเพื่อเปิดประตูรั้วกั้นไม้กระดก เข้าไปด้านในโครงการค่ะ
สำหรับเพื่อนๆหรือ Visitor ของลูกบ้านสามารถเข้ามาจอดในโครงการได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายตามนี้ค่ะ
เข้ามาด้านในโครงการแล้วจะเจอถนนวิ่งรอบโครงการ ตรงไปจะมุ่งหน้าไปที่อาคาร B และ อาคาร C ด้านหลัง
ฝั่งซ้ายมือจะมีถนนเชื่อมเข้าไปยังอาคาร A และศาลพระภูมิของโครงการค่ะ
เราเดินวนมาดูทางซ้าย เริ่มที่บรรยากาศด้านหน้าอาคาร A กันก่อน โดยด้านหน้าอาคาร A จะเป็นถนนภายในโครงการและที่จอดรถ Outdoor
ฝั่งขวามือจะติดกับพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ซึ่งลูกบ้านจากทุกอาคารสามารถเดินลงมาใช้ได้สะดวกค่ะ เพราะทุกอาคารจะจัด Lobby ไว้ไม่ไกลจากพื้นที่ส่วนกลางเลย
ที่จอดรถใต้อาคาร A จะแบ่งเป็นช่องจอดด้วยโครงสร้างเสาของอาคาร ช่องจอดละ 2 คัน
ถัดมาจากอาคาร A จะเชื่อมมาที่อาคาร C
ที่จอดรถภายในอาคาร C แบ่งช่องจอดมาเหมือนที่อาคาร A และจะมีลูกระนาดเพื่อชะลอความเร็วของรถในโครงการเป็นระยะๆ
วนตามทางมาเรื่อยๆ เข้ามาที่จอดรถของอาคาร C อีกฝั่ง จากมุมตรงนี้จะเห็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วย ซึ่งจริงแล้วจะมีอยู่ทุกอาคารค่ะ ส่วนฝั่งขวามือจะเป็น Lobby ของอาคาร C
ออกมาจากอาคาร C ก็จะเจอถนนหลักในโครงการที่วิ่งตรงไปยังซุ้มทางเข้าโครงการนั่นเองค่ะ
มุมนี้ยืนถ่ายจากถนนโครงการย้อนกลับมาทางฝั่งอาคาร มุมนี้ฝั่งขวามือคืออาคาร C และซ้ายมือคือ อาคาร B
พื้นที่ระหว่างอาคาร C และสวนสาธารณะของโครงการจะมีถนนและที่จอดรถแทรกอยู่ด้วย เรียกว่าวางแปลนมาให้ใช้ถนนเป็นที่จอดรถได้อย่างคุ้มค่าค่ะ
ถัดมาเรามาดูในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันต่อ อย่างที่บอกนะคะว่าส่วนกลางหลักของโครงการนี้จะอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยอาคารทั้ง 3 แต่ส่วนกลางแบบ Indoor จะอยู่ที่ชั้น 1 อาคาร B ซึ่งก็เป็นอาคารที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ลูกบ้านอาคาร A และอาคาร C ยังเดินมาใช้งานได้สะดวกอยู่ค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางส่วนแรกจะถูกจัดเป็นสำนักงานนิติบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่โครงการนี้ก็มีอัธยาศัยดี มาตรฐานเป๊ะตามมาตรฐานลุมพินีค่ะ
ถัดมาจากห้องของนิติบุคคลจะเป็นห้องเรียนรู้ ซึ่งจริงๆก็คือห้อง Co – Working Space หน้าตาห้องจัดมาเรียบง่ายแต่ฟังก์ชั่นครบ ทั้งโต๊ะนั่งทำงาน, โต๊ะยาวสำหรับประชุมและจอฉายสไลด์พร้อมโปรเจ็คเตอร์ก็มีให้บริการ นอกจากนั้นก็จะมีนิตยสาร และมุมนั่งอ่านหนังสือแบบส่วนตัว นอกจากนั้นยังมีคอมพิวเตอร์ให้บริการด้วย
อีกมุมของห้อง จะเห็นโซฟาติดผนังสำหรับนั่งพักผ่อน
โต๊ะยาวสำหรับนั่งประชุมงาน หรือพาเพื่อนๆมาทำงานกลุ่มก็ได้ค่ะ
ห้องนี้มีแสงสว่างธรรมชาติเข้ามาเยอะด้วยค่ะ เวลากลางวันจึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลย ช่วยประหยัดเงินค่าส่วนกลางไปได้อีก
มุมหนังสือและนิตยสารที่มีให้บริการ
ฝั่งขวามือเป็นมุมที่นั่งสำหรับคนที่ต้องการอ่านหนังสือแบบมีสมาธิ
ฝั่งซ้ายมือมีคอมพิวเตอร์ให้บริการ 2 เครื่องพร้อมอินเตอร์เน็ต
ถัดมาติดกับห้องเรียนรู้จะเป็นห้องเปี่ยมสุข ห้องนี้จัดมาให้สำหรับผู้สูงอายุในโครงการค่ะ
เวลาว่างก็สามารถให้ท่านมานั่งพักผ่อน พูดคุยกับเพื่อนๆได้ และมีโต๊ะหมากรุกไว้ให้เล่นแก้เบื่อด้วย
ถัดมาจากห้องเปี่ยมสุขจะเป็นทางเชื่อมไปสระว่ายน้ำ Outdoor ติดกันเป็นห้องฟิตเนส แต่เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดสระว่ายน้ำกันก่อนนะคะ
ทางเข้าไปยังส่วนสระว่ายน้ำจะยกระดับขึ้นไป 2 ขั้น ทางโครงการคำนึงถึงผู้ที่ใช้วีลแชร์จึงจัดทางลาดให้สามารถเข้าไปในส่วนสระว่ายน้ำได้สะดวกขึ้นด้วย
ด้านหน้าตรงส่วนสระว่ายน้ำจะมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความเรียบร้อยประจำอยู่ด้วยค่ะ
ก่อนจะไปดูสระว่ายน้ำขอแวะมาดูห้องสำหรับเด็กๆกันนิดนึง ห้องนี้อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยนะ
ห้องนี้จัดเฟอร์นิเจอร์เล็กๆสำหรับเด็กมาให้ พร้อมปูพื้นโฟมกันกระแทกมาด้วยเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นถ้าหากว่าเด็กๆล้มหรือคลาน
ออกมาที่สระว่ายน้ำ ตอนที่ไปเก็บข้อมูลเป็นช่วงเกือบเที่ยงแล้วนะคะ แต่ก็ยังดูร่มรื่นอยู่ สามารถมาว่ายน้ำได้สบายๆเลย
ตัวสระเป็นสระ Outdoor ตรงกลางทั้ง 3 อาคารเลย วิวของห้องฝั่งด้านในส่วนใหญ่จะเห็นวิวสระว่ายน้ำนะคะ
ติดกับพื้นที่สระมี Pool Terrace จัดชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักริมสระไว้ให้ 2 ชุด 8 ที่นั่ง
ตัวสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ พื้นปูกระเบื้องโมเสคมาตรฐาน ขนาดสระค่อนข้างกว้างนะ ว่ายออกกำลังกายพอได้อยู่
ตัวสระเป็นระบบน้ำล้น รอบๆตกแต่งด้วยกรวดก้อนใหญ่
มีแยกสระเด็กด้วย ทางลงสระเป็นบันไดขั้นเล็กๆ
ติดกับพื้นที่สระฝั่งสระเด็กมี Sun Bed ให้นั่งพักผ่อน และมีประโยชน์อีกอย่างสำหรับผู้ปกครองที่พาเด็กๆมาเล่นน้ำก็สามารถนั่งดูแลได้ใกล้ๆเลย
ภาพรวมของสระว่ายน้ำจะเห็นว่าอยู่ตรงสวนส่วนกลาง ล้อมรอบด้วยอาคารทั้ง 3 แต่ทางเข้าสระว่ายน้ำจะต้องเข้าจากทางหลักคืออาคาร B เท่านั้นนะคะ จะได้ช่วยรักษาระเบียบและความสะอาดของสระได้ง่ายขึ้น
ข้างสระมีจุดล้างตัวกั้นเป็นสัดส่วน ติดตั้ง Rain Shower มาให้ 2 ชุด
ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนห้องน้ำ แยกชาย หญิง
ภายในห้องน้ำชายตกแต่งมาแบบเรียบง่าย ติดตั้งอ่างล้างมือมาให้ 1 อ่าง และโถปัสสาวะชาย 2 โถ
ด้านในมีห้องส้วม 1 ห้อง
ภายในติดตั้งโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระ ที่วางกระดาษทิชชู่และถังขยะมาให้พร้อมใช้งาน
ภายในห้องน้ำหญิงตกแต่งมาเรียบๆเหมือนกันค่ะ ติดตั้งอ่างล้างมือ 2 อ่าง
และมีห้องน้ำ 2 ห้องค่ะ
ภายในห้องน้ำ
วิวภาพรวมสระว่ายน้ำมองย้อนไปทางอาคาร B
กลับมาที่ห้องฟิตเนส ห้องนี้จะกว้างกว่าส่วนกลางห้องอื่นๆ มีช่องแสงมาให้โดยรอบๆ ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย เวลาออกกำลังกายจะได้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
ฝั่งนึงของห้องมีติดกระจกเงามาให้สำหรับเช็คฟอร์มท่าออกกำลังกายของเรา และผนังฝั่งติดโถงทางเดินก็เป็นช่องแสงเต็มๆแบบนี้เลย ช่วยประหยัดค่าไฟในเวลากลางวันอีกจุดค่ะ
อุปกรณ์ที่จัดมาให้มีจักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง
ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 ลู่
เครื่อง Eliptical 1 เครื่อง
เบาะปรับระดับ 1 ชิ้น
ดัมเบลคละน้ำหนัก 12 ชิ้น
นอกจากนั้นก็จะมีเสื่อและบอลโยคะมาให้ด้วย พร้อมเก้าอี้นั่งพักอีก 3 ตัว
ถัดมาจากฟ้องฟิตเนสจะมีห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการให้บริการ 1 ห้อง
ภายในห้องจัดมากว้างขวางตามมาตรฐานค่ะ
ออกมาที่สวนสาธารณะด้านนอกกันบ้าง สวนนี้ทางโครงการมีชื่อเรียกน่ารักๆว่าสวนรวมใจ เป็นสวนหย่อมที่จัดกิจกรรมต่างๆมาให้หลากหลายเลย
จุดแรกเป็นสนามเด็กเล่น
จัดของเล่นชุดใหญ่มาให้ 1 ชุด พร้อมหลังคากันแดดด้วย หมดห่วงว่าเด็กๆจะต้องตากแดดร้อนตอนกลางวันค่ะ
ติดทางเดินในสวนจะมีพื้นที่อเนกประสงค์และที่นั่งพักผ่อนแบบนี้มาประมาณ 2 – 3 จุด
ขยับมาอีกหน่อยเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง
มีเครื่อง Double – Person Rambling Equipment หรืออุปกรณ์เดินอากาศคู่ 2 ชุด
เครื่อง Double Unit Surfboard อุปกรณ์แกว่ง แขน เอว ลำตัว
เครื่อง Three Sides Oblique Rotator อุปกรณ์บริหารเอว
เครื่อง Double Dynamic Bicycle อุปกรณ์จักรยานปั่นคู่
โดยอุปกรณ์ทุกชิ้นจะมีป้ายกำกับบอกวิธีใช้งานอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะเล่นกันผิดท่าเลยนะคะ
บรรยากาศในสวนอีกมุมนึงค่ะ
ชมส่วนกลางกันไปครบแล้ว เดี๋ยวเรามาดู Lobby ในแต่ละอาคารกันต่อเลย เริ่มที่อาคาร A
ด้านข้าง Lobby อาคาร A จะมีถังขยะแบบแยกประเภทไว้ให้ 5 ประเภท
ภายใน Lobby จัดตกแต่งเรียบง่าย โทนสีสว่าง มีชุดโซฟานั่งคอย 1 ชุดใหญ่ ประมาณ 4 – 5 ที่นั่ง
ทุกอาคารจะมีรถเข็นสำหรับขนสัมภาระ และวีลแชร์ไว้ให้บริการด้วย อยู่ในจุดที่ลูกบ้านสามารถยืมไปใช้งานได้สะดวกค่ะ
สำหรับทางเข้าจาก Lobby สู่โถงลิฟต์ด้านในจะต้องแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย
เข้ามาภายในพื้นที่โถงลิฟต์ของอาคาร A จะเจอโถงลิฟต์ทางซ้ายมือเลย ส่วนทางเดินที่เห็นทางขวาจะเชื่อมไปห้องเครื่อง, Mail Room และ Laundry ค่ะ
ห้อง Mail Room จะอยู่ติดกับห้อง Laundry จัดตู้รับจดหมายมาเป็นช่องๆตามห้องพัก
ภายในห้อง Laundry จะมีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ 2 เครื่อง และเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ 1 เครื่อง นอกจากนั้นก็จะมีเครื่องกดน้ำหยอดเหรียญด้วยอีก 1 เครื่อง ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ใครที่เคยอยู่คอนโดแล้วไม่ได้ติดเครื่องกรองน้ำไว้ในห้องจะรู้ว่าตู้กดน้ำแบบนี้มีประโยชน์มาก ช่วยเซฟเงินค่าน้ำดื่มไปได้เยอะเลยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย โถงลิฟต์ด้านหน้าก็จะหน้าตาเรียบๆ มีช่องแสงสำหรับระบายอากาศและให้แสงสว่างในเวลากลางวัน
หน้าโถงลิฟต์แต่ละชั้นจะมีป้ายเลขชั้นกำกับมาให้แบบนี้
ส่วนตัวลิฟต์จะใช้ของ Schneider ปุ่มกดหน้าลิฟต์มีแผงแสดงตัวเลขแบบดิจิตอล
ภายในลิฟต์ตกแต่งด้วยลายไม้ดูอบอุ่น พร้อมกระจกเงาให้เราได้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากโครงการ
แผงควบคุมในตัวลิฟต์มาตรฐาน มีโทรศัพท์เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินติดตั้งมาให้พร้อม
จากโถงลิฟต์ออกมายังโถงทางเดินฝั่งซ้ายมือ
บรรยากาศในโถงทางเดินส่วนพักอาศัยจะคล้ายๆกันทุกอาคาร มีช่องแสงแทรกมาให้ในโถงลิฟต์เพื่อให้บรรยากาศในโถงลิฟต์ดูโปร่งขึ้น และสามารถช่วยระบายอากาศในตัวอาคารค่ะ ส่วนลักษณะเส้นทางเดินของโถงลิฟต์ก็จะแตกต่างกันไปตามรูปทรงตัวอาคารนะคะ
ตัวอย่างช่องแสงในโถงทางเดินแต่ละชั้น จะเป็นบานฟิกซ์และบานกระทุ้งแบบนี้
มาที่ Lobby ของอาคาร B
ภายในตกแต่งเรียบง่าย สไตล์เดียวกันทั้งโครงการ สำหรับ Lobby อาคาร B จะได้วิวสวนสาธารณะด้านนอกด้วย บรรยากาศจะดูสบายตาขึ้นค่ะ
จัดชุดโซฟานั่งรับรองมาให้รวม 6 – 8 ที่นั่ง
หน้าประตูทางเข้าโถงลิฟต์มีบอร์ดสำหรับติดประกาศให้ลูกบ้านได้ทราบข่าวสาร ซึ่งตรงนี้จะมีอยู่ในทุกอาคารเช่นกัน
เข้ามาภายในโถงด้านในของอาคาร B จะเจอส่วน Mail Room ก่อน สามารถเช็คกล่องจดหมายของตัวเองก่อนขึ้นห้องได้เลย
ติดกับ Mail Room เป็นห้อง Laundry
ภายในห้อง Laundry มีเครื่องซักผ้า, เครื่องอบผ้า และตู้กดน้ำหยอดเหรียญพร้อมบริการเช่นกัน
ฝั่งตรงข้ามห้อง Laundry จะเจอกับโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
มาที่ Lobby ของอาคาร C ที่ตึกนี้จะมีที่นั่งคอยเป็นโซฟายาว 3 ที่นั่งและชุดเก้าอี้แยกอีก 2 ตัว พร้อมรถเข็นและวีลแชร์ให้บริการตามมาตรฐาน
เข้ามาที่โถงด้านใน มองตรงไปจะเป็นห้อง Mail Room ขวามือเป็นโถงลิฟต์
ภายในโถงลิฟต์มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
ภายใน Mail Room วางตู้จดหมายหันหน้าเข้าหากัน 2 ฝั่ง
ติดกับ Mail Room ทางซ้ายมือเป็นห้อง Laundry
ภายในห้อง Laundry จัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 2 เครื่อง, ตู้อบผ้า 1 เครื่อง และตู้กดน้ำอีก 1 เครื่องค่ะ.
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 3 แบบคือ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับรีวิวอัพเดตฉบับนี้เป็นโครงการสร้างเสร็จ และ Sold Out ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นห้องที่เราจะพามาชมจะเป็นห้องมาตรฐานที่มีเจ้าของนะคะ
โดยจะมีทั้งห้องเปล่าและห้องที่ตกแต่งเรียบร้อยเพื่อ Resale และปล่อยเช่า ถ้าใครสนใจห้องที่โครงการก็สามารถ Walk – in เข้าไปติดต่อที่สำนักงานนิติฯได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาอยู่ค่ะ ส่วนห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ชมเป็นไอเดีย สามารถเข้าไปอ่านได้ ที่นี่ ค่ะ
สำหรับห้องในวันนี้เราจะพาไปชมกันครบทั้ง 3 แบบเลยค่ะ โดยเริ่มจากห้องแบบ Studio ขนาด 22.5 ตร.ม. ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 39 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดานทุกห้อง 2.4 เมตร
มาเริ่มต้นจากห้องแบบแรกกันก่อนค่ะ เราจะเริ่มต้นที่ ห้องแบบ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอยประมาณ 39 ตร.ม. ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องมาตรฐานของทางโครงการที่ยังไม่ตกแต่งนะคะ โดยจะได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted เป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ครบชุดพร้อม Shower Box และตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ค่ะ
จากแปลน เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่โถงกว้าง แบ่งเป็นพื้นที่ครัว, พื้นที่ทานอาหารและห้องนั่งเล่นที่สามารถเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกได้ จากพื้นที่โถงด้านนอกจะสามารถเชื่อมถึงห้องนอน Master Bedroom และ ห้องนอนรองได้ ภายในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบชุด พร้อม Shower Box ติดตั้งมาให้
มาเริ่มดูห้องของจริงกันต่อค่ะ เริ่มจากประตูทางเข้าจะได้เป็นบานมาตรฐานสีขาว ใีตาแมวติดตั้งมาให้ไว้ส่องเช็คก่อนที่จะเปิดประตูห้อง
มือจับก้านโยก พร้อมตัวล็อคมาตรฐาน
เข้ามาด้านในตัวห้อง พื้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 มม. ลายไม้ สีน้ำตาลเข้ม พร้อมมีตัวจบติดตั้งมาให้ที่หน้าห้องเรียบร้อย
พื้นที่ด้านในห้อง ส่วนแรกเป็นโถงกว้าง รวมพื้นที่ห้องนั่งเล่น, ห้องครัวและห้องทานอาหารไว้ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งห้องมาตรฐานจะเห็นว่าเป็นโถงโล่งๆทั้งหมด ตรงนี้เราสามารถเลือกเองได้เลยว่าอยากกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนเพิ่มมั้ย หรือปล่อยโล่งๆแบบนี้ก็ทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขวางดีค่ะ
หันไปดูทางขวานิดนึง จะเห็นห้องนอน Master Bedroom และห้องน้ำที่อยู่ติดกับพื้นที่ครัว
เราเข้าห้องมาแล้วหันกลับมาดูด้านหลังประตูทางเข้ากันก่อน พื้นที่ตรงนี้ในแปลนโครงการจะจัดมาเป็นห้องทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารxx
ติดกับห้องทานอาหารเป็นห้องนอนรอง
ภายในห้องเป็นห้องโล่งๆ มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และหน้าต่างบานกระทุ้ง ขนาดบานค่อนข้างใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้อย่างเพียงพอเลย
เข้ามาในห้องหันย้อนกลับมาที่ประตูห้อง ผนังห้องทาสีขาวล้วน มีบัวสีขาวเก็บงานเรียบร้อย
ออกมาจากห้องนอนรอง ตอนนี้จะอยู่ในพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องครัว ส่วนประตูทางซ้ายมือคือห้อง Master Bedroom และขวามือคือห้องน้ำนะคะ
ครัวจะเป็นครัวเปิด ตรงนี้เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ แต่ดูจากพื้นที่แล้วอาจจะต้องกั้นติดส่วนห้องน้ำไปด้วยค่ะ ส่วนอุปกรณ์ที่ได้จะมีติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและซิ้งค์ล้างจานมาให้ตามแบบนี้เลย
ส่วนพื้นที่โถงห้องนั่งเล่นก็จะจัดไว้ติดกับประตูระเบียงบานใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่งสบายในวันหยุดที่ได้อยู่ห้องก็สามารถเปิดประตูระบายอากาศไว้ได้ยาวๆ แต่อย่างลืมติดมุ้งลวดกันแมลงกันด้วยนะคะ
หันกลับมาที่ส่วนครัว ติดกับครัวเป็นห้องน้ำค่ะ
เข้ามาด้านในห้องน้ำจะมีฟังก์ชั่นครบถ้วน แบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียก โทนสีที่ใช้ในห้องน้ำจะเน้นโทนขาวเทา ดูสะอาดตา ผนังและพื้นกรุกระเบื้องช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนวุขภัณฑ์ที่ได้จะใช้ของ Charmer และ American Standard มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ กระจกนิรภัยค่ะ
ติดกับห้องน้ำเป็นห้อง Master Bedroom
พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้สบายๆ ช่องแสงภายในห้องนี้จะเหมือนที่ห้องนอนรอง มีขนาดที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้อย่างเพียงพอ
ห้องนี้จะได้ตู้เสื้อผ้า Built – in มาด้วย ขนาดตู้มาตรฐาน วัสดุปิดผิวลามิเนตลายไม้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะมีติดช่องสัญญาณและเต้าเสียบสำหรับติดตั้งทีวีมาด้วย เผื่อใครที่ชอบดูทีวีก่อนนอนนะคะ
ขยับมาที่ห้องตัวอย่างที่ตกแต่งจากเจ้าของมาแล้วกันบ้าง เริ่มที่ห้องแบบเล็กก่อน คือห้องแบบ Studio พื้นที่ใช้สอย 22.5 ตร.ม. โดยอุปกรณ์มาตรฐานที่จะได้ติดมากับห้องก็จะเหมือนกับห้องที่แล้ว คือเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted เป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ครบชุดพร้อม Shower Box และตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ค่ะ
เรามาเริ่มดูที่ตัวแปลนห้องกันก่อนค่ะ เมื่อเข้าไปด้านในจะเจอกับส่วนห้องครัวเป็นพื้นที่เตรียมอาหารขนาดกระทัดรัด ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนพื้นที่ทานอาหารต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วนระเบียงซักล้างจะสามารถออกไปได้จากห้องนั่งเล่นและห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากส่วนของห้องนอน
มาดูของจริงกันเลย ห้องนี้ลักษณะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะคล้ายๆกับห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายเลยค่ะ สำหรับจุดเด่นของห้องนี้คือตัวห้องดูสว่าง โปร่งโล่ง หลักๆเพราะเป็นห้องสตูดิโอที่ไม่ได้มีผนังกั้นและเพราะมีช่องแสง 2 จุด ทำให้ห้องดูสว่างด้วยแสงธรรมชาติ และเวลาที่เปิดเพื่อระบายอากาศก็สามารถระบายได้ค่อนข้างเร็วเลย
หันกลับมาดูที่พื้นที่ครัวกันก่อน ชัดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิ้งค์ที่เห็นเป็นของมาตรฐานติดมากับห้องนะคะ ในส่วนครัวนี้ซื้อแค่ตู้เย็นกับเตาไฟฟ้า/ไมโครเวฟมาเพิ่มก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
ขยับมาที่ห้องนั่งเล่นของจริงจะเป็นห้องโล่งๆ สำหรับการตกแต่งห้องนี้ทำมาแบบง่ายๆ ด้วยการ Built – in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของข้างทีวีเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้กับห้องโดยรวม ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีเหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องคอนโดที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก จะได้มีที่เก็บของให้เป็นระเบียบมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆก็สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง กับโต๊ะกลางตัวเล็กๆได้แบบนี้
จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อไปยังห้องนอนและห้องน้ำ
ในห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่ เกือบเต็มหน้ากว้างเลย รับแสงธรรมชาติเข้าห้องได้เต็มที่แต่ถ้าใครกลัวร้อนก็แนะนำให้หาม่านกัน UV มาติดตั้งเพิ่มด้วยก็ดีค่ะ จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ไม่ซีดจางเร็วด้วย
ผนังฝั่งปลายเตียงมี Built – in ชั้นวางของมาเพิ่ม ตรงนี้เจ้าของห้องติดตั้งเพิ่มเองค่ะ
อีกฝั่งของห้องมีตู้เสื้อผ้าติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน ส่วนงานตกแต่ง เจ้าของตกแต่งมาโดยการติดกระจกเงาเต็มบาน ตรงนี้มีประโยชน์ที่นอกจากไว้ส่องเช็คความเรียบร้อยแล้วยังทำให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกหน่อยด้วยนะคะ นอกจากนั้นยังมีชั้นวางของข้างกระจกเงามาด้วย เพิ่มพื้นที่เก็บของในมุมเล็กๆน้อยได้ดี
ติดกับห้องนอนเป็นส่วนของห้องน้ำ โดยห้องนี้ก็จะได้สุขภัณฑ์มาตรฐานเหมือนห้องที่แล้วค่ะ โทนสีของห้องน้ำก็ใช้โทนเดียวกันคือพื้นและผนังกรุกระเบื้องโทนขาว เทา ทำให้ห้องน้ำดูสะอาดตาและรักษาทำความสะอาดง่าย
นอกจากนั้นก็จะมีฉากกั้นอาบน้ำ, ฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นนี่ติดตั้งเพิ่มเองค่ะ
ต่อมาเรามาดูห้อง 1 Bedroom กันต่อ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 26 ตารางเมตร ภายในห้องได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวและตู้เสื้อผ้า Built – in ห้องนี้จะมีการจัดวางแปลนคล้ายๆกับห้องแบบที่แล้ว เพียงแต่จะมีการกั้นห้องนอนมาเพิ่ม และมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นโดยจากแปลนเมื่อเข้าไปในห้องแล้วก็จะเจอกับส่วน Pantry ครัว ต่อเนื่องไปเป็นพื้นที่ทำงาน, ห้องนั่งเล่นและระเบียงภายนอก โซนห้องนอนจะถูกกั้นแยกโดยสามารถเข้าได้จากพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่น
เมื่อเข้ามาในห้องนอนจะมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถวางเฟอร์นิเจอร์จำเป็นได้ครบ ส่วนห้องน้ำจะสามารถเข้าได้จากห้องครัว ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก พร้อมสุขภัณฑ์ครบชุดค่ะ
ห้องนี้ตกแต่งมาค่อนข้างเต็มแล้วค่ะ เหลือแค่วางเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย เดี๋ยวเรามาชมกันไปทีละส่วนๆนะคะ
ให้ดูภาพรวมของห้องก่อน พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโถงกว้าง แยกเป็นห้องนั่งเล่น และห้องครัวทางขวา
หันกลับมาดูด้านหลังประตูทางเข้า เจ้าของห้อง Built – in เฟอร์นิเจอร์แบบเต็มชุด ทั้งชั้นวาง, ตู้เก็บของและโต๊ะทำงาน/ทานอาหาร โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ปิดผิวด้วยลายไม้สีค่อนข้างเข้มขึ้นมานิดนึงกับกระจกเงาสีชา ทำให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้นอีกหน่อย
ถัดเข้าไปด้านในวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง กำลังเหมาะกับขนาดของห้อง
ฝั่งตรงข้ามโซฟาสามารถ Built – in ชั้นวางทีวีสวยๆ + ชั้นวางหรือตู้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เป็นระเบียบ
วิวห้องนี้เห็นส่วนกลางและตึก C และ B
กลับเข้ามาในห้อง ย้อนมาดูพื้นที่ครัวจะอยู่หน้าห้องนอนและห้องน้ำ ได้เป็นครัวเปิด โดยจะมี Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัวและซิ้งค์ล้างจานมาตรฐานจากโครงการมาให้
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
ห้องน้ำจะให้อุปกรณ์มาตรฐานมาครบ ยี่ห้อ American Standard และ Charmer พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
ห้องอาบน้ำของห้อง Type นี้สามารถยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวติดตั้งมาให้แล้ว ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นต้องติดตั้งเพิ่มเองนะ
ติดกับห้องน้ำเป็นห้องนอนค่ะ
ภายในห้องนอนห้องนี้ลงเฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมติดวอลเปเปอร์ลายเดียวกับที่ห้องนั่งเล่น
ในห้องมาตรฐานจะมีตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้เช่นกัน ส่วนกระจกเงาบานใหญ่สามารถหามาติดตั้งเพิ่มเองได้ ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นนิดหน่อยแบบในห้องนี้ค่ะ
ราคา (ธ.ค. 2561)
สำหรับตอนนี้ห้องในโครงการจะเป็นราคา Resale ทั้งหมด ซึ่งใครที่สนใจสามารถเข้าไปสอบถามที่โครงการได้โดยตรงนะคะ แต่สำหรับราคาที่ทีมงานสำรวจมาตอนนี้จะมีราคาตามด้านล่างค่ะ
สรุป
ทำเล :โครงการ Lumpini Place บางนา กม.3 ตั้งอยู่ในซอยบางนา – ตราด 23 ฝั่งมุ่งหน้าบางนา – ตราด ซอยนี้จะสามารถใช้ทะลุออกไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนอุดมสุขได้ทางซอยอุดมสุข 60 และซอยศรีนครินทร์ 56 และ 58 โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ช่วงกลางซอยระยะประมาณ 600 เมตร จากปากซอยฝั่งบางนา – ตราด และระยะทางประมาณ 1.2 กม. ถึงถนนศรีนครินทร์ และระยะทางประมาณ 950 ถึงถนนอุดมสุข
สภาพแวดล้อมโดยรวมในซอยจะมีคนอยู่อาศัยค่อนข้างเยอะ มีคอนโด 2 โครงการและมีอพาร์ทเมนต์ Low Rise หลายแห่ง ส่วนความอุดมสมบูรณ์ก็มีสูงมากเช่นกัน โดยต้นซอยมี Central บางนาและ Big C เข้าซอย มาจะมี Bizzo บางนา เป็น Avenue ภายในมีร้านอาหารและบริการอยู่หลายร้าน นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารดีๆหลายร้าน หลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารทะเล, ร้านกาแฟ และร้านบุฟเฟ่ต์ เป็นต้น ส
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกโดยถนนเส้นหลักที่ใช้เป็นถนนบางนา – ตราด เชื่อมไปยังถนนเส้นสำคัญๆต่างๆ เช่น ถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้, ถนนกิ่งแก้ว ที่ช่วยให้เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก นอกจากนั้นตัวซอยสามารถลัดเลาะไปออกถนนอุดมสุข และถนนศรีนครินทร์จึงสามารถเลือกใช้เส้นทางในการหลีกเลี่ยงรถติดในเวลาต่างๆได้ และอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ (ถนนกาญจนาภิเษก)
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : โครงการจะมีรถแวน 2 คัน สำหรับรับ – ส่งไป BTS อุดมสุข (โดยจะเสียค่าโดยสารในแต่ละครั้งต่างหาก) หรือสามารถเดินมาหน้าปากซอยฝั่งถนนบางนา – ตราด จะมีคิวรถตู้ค่ะ และมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์สาย 2ส, 38ร, 45ส, 46ร, 48ร, 98ร, 132ร, 180, 558 และมีสะพานข้ามฝั่งถนนก็จะมีรถเมล์สายเดียวกันวิ่งเข้าเมืองค่ะ นอกจากนั้นก็สามารถเรียก Taxi และพี่วินที่วิ่งผ่านหน้าโครงการได้ตลอด
ส่วนรถไฟฟ้าในอนาคต ก็จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะมีสถานีแยกศรีอุดมที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยตัวสถานีจะอยู่บริเวณแยกศรีนครินทร์ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นค่ะ (กำหนดการเสร็จปี 2562)
การออกแบบโครงการและแบบห้อง :โครงการเป็นกลุ่มอาคาร Low Rise 3 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 609 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 5 ไร่เศษ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ หน้าตาภายนอกของตัวอาคารดูดีแบบเรียบๆสไตล์ลุมพินี สภาพแวดล้อมของโครงการเรียร้อยดีค่ะ ฟังก์ชั่นตัวอาคาร ที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ชั้น 2 – 8 จะเป็นยูนิตพักอาศัย มีส่วนกลางใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลางของทั้ง 3 อาคาร
แบบห้องภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ คือแบบ Studio 22.50 ตร.ม., 1 Bedroom 26 ตร.ม., 2 Bedroom 39 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในโดยรวมจัดออกมาให้พอใช้งานได้สะดวกตามลักษณะของแต่ละ Type โดยห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom จะเหมาะกับคนโสดที่อาจจะไม่ค่อยมีเวลา และไม่ค่อยทำอาหารบ่อยนัก เพราะครัวที่ได้มามีขนาดค่อนข้างเล็ก และพื้นที่สำหรับทานอาหารค่อนข้างแคบ ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีครัวที่กว้างขึ้นมาอีก และมีพื้นที่ทานอาหารจึงเหมาะสำหรับคนมีคู่หรือคนที่ทำอาหารทานเองบ่อยๆ
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ความสูงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ทุกห้องจะได้เคาน์เตอร์ครัว Built – in, ตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in ในห้องนอน Master Bedroom, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำพร้อม Shower Box วัสดุที่ได้พื้นปูลามิเนต สุขภัณฑ์ของ American Standard และ Charmer บานประตูเชื่อมระเบียง และช่องแสงเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง
สาธารณูปโภค :Facility ของโครงการให้มาพอสมควร ปัจจุบันเสร็จเรียบร้อยแล้ว งานก็เรียบร้อยดีตามมาตรฐานนะคะ สำหรับช่วงเวลาที่เข้าไปเก็บข้อมูลเป็นวันธรรมดาช่วงเช้าจนถึงบ่ายก็เห็นว่ามีคนมาใช้ส่วนกลางไม่เยอะเท่าไหร่ แต่อาจจะไม่เพียงพอถ้าลูกบ้านลงมาใช้พร้อมๆกัน ยังไงก็ตามเนื่องจากโครงการสร้างเสร็จแล้วเราจึงมีโอกาสที่จะเข้าไปชมบรรยากาศในโครงการของจริงได้ก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ โดยส่วนกลางจะมี สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนสาธารณะ, Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข, ห้องเรียนรู้
ที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 200 คัน หรือประมาณ 34% รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งถือว่าอาจจะน้อยไปหน่อยสำหรับทำเลที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกกว่าแบบนี้ ลิฟท์มีอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนแต่ละอาคารพอให้ใช้งานได้ไม่หนาแน่น ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. 24 ชม. CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
ตารางคะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ในซอยบางนา – ตราด 23 มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Central บางนา และ Big C บางนา บรรยากาศคึกคัก ตัวซอยเข้าถึงได้จากถนน 3 เส้น |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวก สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายสาย และใกล้จุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนเฉลิมมหานคร, วงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | สะดวก มีรถรับส่งจากโครงการไป BTS อุดมสุข หรือเดินออกมาหน้าปากซอยก็จะถึงถนนใหญ่ มีคิวรถตู้, พี่วิน, รถเมล์ |
ห้องและวัสดุ | 7.5 | แบบห้องมาตรฐานลุมพินี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted ได้เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้า Built – in |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 7.5 | มีพอสมควรอาจจะมีใช้งานแน่นๆบ้างในวันหยุด สระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, ห้องคุณหนู, ห้องเปี่ยมสุข,นิติบุคคล และสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัยมีซุ้มทางเข้าหลัก ใช้ Key Card Access ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV และรปภ. 24 ชม. และใช้ Key Card แยกแต่ละอาคาร |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สภาพโครงการเรียบร้อย 100% นิติฯมาตรฐานลุมพินี บรรยากาศในโครงการไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับผู้ที่หาคอนโดเพื่ออยู่อาศัย, ลงทุนปล่อยเช่า ย่านบางนาในงบประมาณไม่สูง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-396-1600
Website : http://www.lpn.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น