Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับนี้ทีมงาน Condonayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในราคาแบบสบายกระเป๋า กับโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น จากทาง L.P.N. ที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ตรงซอยแจ้งวัฒนะ 17 ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ทางพิเศษศรีรัชเพียง 3 นาที* และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เพียง 400 เมตรเท่านั้น
โดยโครงการจะอยู่เยื้องกับ Central แจ้งวัฒนะ, รพ.เวิร์ลเมดิคอล และยังอยู่ใกล้กับ ศูนย์การค้า B Hive, Big C Extra แจ้งวัฒนะ, รร.สาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์, ศูนย์ราชการฯ และ IMPACT Arena เมืองทองธานี ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย
ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น เป็น High Rise Condominium 26 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการประมาณ 3 ไร่ มีห้องพักอาศัยจำนวน 536 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio และ 1 Bedroom ขนาด 23.50-35.00 ตร.ม. มีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้กว้างขวาง อยู่สบาย และลงตัวกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น โดยทางโครงการจะขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมครัวและห้องน้ำ คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1 ปี 2567 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby, Mailbox, Co-Living Zone, Swimming Pool, Jacuzzi, Fitness Room, Sky Lounge, สวนพักผ่อน 4 ชั้น, เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access, กล้อง CCTV และ รปภ. ตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท* (เม.ย.65)
เราไปชมกันเลยค่ะว่าโครงการนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://bit.ly/3DdZpDb
ชื่อโครงการ | ลุมพินี เพลส แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น Lumpini Place Chaengwatthana-Pakkret Station |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) / L.P.N. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3 ไร่เศษ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 26 ชั้น |
จำนวนห้อง | 536 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 198 คัน คิดเป็น 37% |
จำนวนลิฟต์ | 3 ตัว |
โซน | แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยแจ้งวัฒนะ 17 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างเดือน มิ.ย. 2565 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ไตรมาส 1/2567 |
ราคา | เริ่มต้น 2 ล้านบาท* (เม.ย.65) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 89,000 บาท*/ตร.ม. (เม.ย.65) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 02-147-0775 |
Website | https://bit.ly/3DdZpDb |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี
พิกัด : 13.906002, 100.525935
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น ตั้งอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้าเมือง ตรงซอยแจ้งวัฒนะ 17 โดยทางเข้าของโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาภายในซอย 17 ประมาณ 55 เมตรค่ะ
จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือ เป็นทำเลในย่านพักอาศัยที่ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าแบบระยะเดิน คือเยื้องกับตัวโครงการ จะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 และ Central แจ้งวัฒนะ ซึ่งเดินจากโครงการไปได้เพียง 400 เมตรเท่านั้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ ด้วยที่ดินของโครงการที่อยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะ แต่มีการออกแบบทางเข้าให้ถัดเข้ามาภายในซอยแจ้งวัฒนะ 17 ประมาณ 55 เมตร เพื่อลดความวุ่นวายจากบนถนนใหญ่ ทำให้การเข้า-ออกโครงการนั้นง่ายและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยฝั่งที่โครงการตั้งอยู่จะเป็นขาเข้าเมือง ตรงไปประมาณ 1.8 กม. ก็สามารถขึ้นทางพิเศษศรีรัชเพื่อใช้วิ่งเข้าเมืองได้แล้ว
หรือขับเลยไปอีกก็จะสามารถเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทรา ถ้ากลับรถมุ่งหน้าแยกปากเกร็ด ก็จะเชื่อมต่อกับถนนติวานนท์และถนนชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้สะดวก ยกตัวอย่างว่า ถ้าจะไปสนามบินดอนเมือง ก็สามารถใช้เส้นแจ้งวัฒนะแล้วเลี้ยวเข้าวิภาวดี-รังสิตได้เลย หรือจะเลี่ยงไปทางเส้นคลองประปา แล้วเข้าถนนสรงประภาก็ได้เช่นกันค่ะ
ทางด่วน อย่างที่บอกไปค่ะว่าจุดขึ้นทางด่วนคืออยู่ใกล้กับโครงการมาก ๆ เพียง 1.8 กม. เท่านั้น หรือขับรถไปประมาณ 2-3 นาทีก็ถึง วันไหนที่ต้องการเข้าเมืองคือไปได้เร็วไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ด้วยความที่ถนนแจ้งวัฒนะเป็นถนนสายหลักอยู่แล้ว และก็มีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ตั้งอยู่ค่อนข้างเยอะ เช่น ศูนย์ราชการฯ และ ศูนย์ NT ทำให้มีรถประจำทางอย่างรถเมล์-รถตู้ผ่านอยู่หลายสาย เช่น รถเมล์สาย 51, 52, 150 และ 166 รถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ก็มีผ่านอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ง่ายเลยค่ะ
และที่เป็น Highlight ของทำเลก็คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ติดบนเส้นแจ้งวัฒนะผ่านหน้าโครงการ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เดินทางโครงการไปได้เลยค่ะ แค่ 400 เมตรเท่านั้น ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ นั่งตรงเข้าเมืองได้แบบสบาย ๆ และถ้าดูจากแผนงานและความคืบหน้าของการก่อสร้าง เราก็น่าจะได้ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูกันในปี 2565 นี้แล้วนะคะ
ความอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของความเป็นย่านแจ้งวัฒนะก็คือ ความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะนอกจากจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยแล้ว ก็ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการฯ, ศูนย์ NT และยังใกล้กับสนามบินดอนเมืองอีกด้วย ตามที่เล่าไปข้างต้นเลยค่ะว่าโครงการจะอยู่เยื้อง ๆ กับ Central แจ้งวัฒนะ เดินแค่ 400 เมตรก็เข้าไป Shopping ในห้างหรือหาอะไรทานอร่อย ๆ ได้แล้ว
นอกจากนี้ก็ยังใกล้กับ Big C, Lotus’s, Makro, Home Pro, The Avenue แจ้งวัฒนะ และ IT Square จะเห็นว่าบนเส้นเดียวคือรวม Hypermarket เอาไว้ครบทุกแบรนด์เลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้อีกจุดนึงก็จะอยู่ที่ เมืองทองธานี เพราะภายในมีทั้ง ศูนย์แสดงสินค้า, ศูนย์การค้า, โรงแรม, โครงการที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น Outlet, ตลาดเมืองทอง, ศูนย์อาหาร, Impact Arena และ ศูนย์การค้า Bee Hive
สถานศึกษาและโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการก็มีพอสมควรนะคะ อย่างข้าง ๆ Central แจ้งวัฒนะ ก็จะมี รร.สาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถัดไปอีกก็มี ม.สุโขทัย, รร.กองทัพบกอุปถัมภ์ฯ, ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ DPU และ รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี
โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคืออยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้อง ๆ กับโครงการเลยค่ะ เป็น รพ.เวิร์ลเมดิคอล และยังมี รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่สามารถไปได้สะดวก
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่น ๆ
สถานที่ราชการและอาคารสำนักงาน
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนแจ้งวัฒนะ > กลับรถ > ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 > โครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น
เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนแจ้งวัฒนะบริเวณหน้าศูนย์ NT (โทรคมนาคมแห่งชาติ) จะอยู่ตรงกับ MRT สายสีชมพู สถานีทีโอที พอดี ให้เราขับมุ่งหน้าไปทางแยกปากเกร็ดค่ะ
ตรงไปเรื่อย ๆ ให้เราขึ้นสะพานยกระดับ ทางฝั่งขวามือเราจะผ่านทั้ง Big C, The Avenue และ Lotus’s แจ้งวัฒนะ
สักพักเราจะผ่าน Makro แจ้งวัฒนะ ทางฝั่งซ้ายมือ
ข้างหน้าของเรานี้คือทางยกระดับศรีรัช ให้เราวิ่งลอดไปมุ่งไปทางปากเกร็ดค่ะ
พอลอดทางยกระดับมาแล้วเราจะเห็นไทวัสดุทางฝั่งซ้ายมือ
ตรงไปเรื่อย ๆ เราจะเห็นสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 เป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคะ และที่อยู่ถัดไปก็คือ Central แจ้งวัฒนะ นั่นเอง
เลย Central แจ้งวัฒนะ ไปไม่ไกลก็จะเห็น รพ.เวิร์ลเมดิคอล อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ เยื้อง ๆ กันก็คือที่ตั้งของโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น
ข้างหน้าเรานี้คือทางยกระดับถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ให้เรากลับรถที่จุดนี้ค่ะ
พอกลับรถมาแล้วให้เราตรงไปจนผ่าน รพ.เวิร์ลเมดิคอล เราจะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น ตั้งอยู่หน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 เลย
ที่ดินของโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น จะอยู่ติดกับถนนใหญ่ ส่วนทางเข้าโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาประมาณ 55 เมตรค่ะ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
จากกราฟิกจะเห็นว่าที่ดินของโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น จะอยู่ติดกับถนนแจ้งวัฒนะเลยค่ะ พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัย แต่ช่วงติดถนนใหญ่ก็จะเป็นพวกอาคารพาณิชย์และร้านค้าต่าง ๆ โดยเยื้อง ๆ กับโครงการที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็น รพ.เวิร์ลเมดิคอล และ Central แจ้งวัฒนะ ทำให้พื้นที่โดยรอบมีความคึกคักมากพอสมควร
สำหรับทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ภายในซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 55 เมตร
โดยจะมีสำนักงานขายตั้งอยู่หน้าปากซอยเลยค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในสำนักงานขาย
มองเข้าไปภายในซอย ฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็คือ คอนโด ลุมพินี วิลล์
เราเดินเข้าไปภายในซอยจะมีทั้งร้านค้าและอาคารพักอาศัยอยู่สลับไปมา
ติดกับอาคารพักอาศัยก็มีร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ภายในออกแบบได้น่ารักดีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามก็มีคอนโดมิเนียมอีก 1 อาคาร
เลยไปอีกจะมี 7-11 อยู่ 1 สาขา เดินจากโครงการมาแค่ 190 เมตรเอง ซึ่งด้านในมันจะเหมือนกับเป็นศูนย์อาหารเล็ก ๆ นะคะ มีทั้งร้านข้าวมันไก่, ร้านขายยำ, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านส้มตำ แถมยังอร่อยและราคาถูกด้วยนะ
คราวนี้เราจะเดินออกไปดูที่ถนนใหญ่กันบ้าง เราจะเดินไปทางแยกปากเกร็ดกันก่อน
ที่ฝั่งนี้เรามองไปก็จะเห็น รพ.เวิร์ลเมดิคอล อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ เดินจากโครงการไปได้ประมาณ 500 เมตร
ติดกับปากซอยจะเป็นศูนย์อะไหล่รถยนต์และร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง
ถัดมาเป็นปั๊มบางจากค่ะ ภายในก็มี Big C Mini และร้านกาแฟ Inthanin
ถัดไปบริเวณหน้า Infineon ก็จะมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยให้เดินข้ามฝั่งได้
คราวนี้เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางฝั่งวงเวียนหลักสี่กันบ้าง
ทางฝั่งซ้ายมือของเรานี้เองก็คือดุริยางค์ตำรวจ
เดินไปไม่นานก็ถึง Central แจ้งวัฒนะ แล้วค่ะ
สะพานลอยเหล็กที่เห็นอยู่นี้จะเป็นแบบชั่วคราวนะคะ ถ้าเดินไปถึงตัวสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 จริง ๆ ก็แค่ 400 เมตรเท่านั้น ในอนาคตเราสามารถใช้ทางขึ้น-ลงสถานีเพื่อข้ามไปฝั่ง Central แจ้งวัฒนะ ได้ด้วย
:::: ตัวโครงการ ::::
สำหรับโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น จะเป็น High Rise Condominium สูง 26 ชั้น จำนวน 1 อาคาร กับห้องพักอาศัยทั้งหมด 536 ยูนิต บนที่ดินโครงการขนาดประมาณ 3 ไร่ค่ะ
จุดเด่นของโครงการนี้ก็คือ การสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปภายในพื้นที่แต่ละส่วนให้มากขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตในเมืองได้สัมผัสกับธรรมชาติ เกิดความผ่อนคลาย และเหมาะสำหรับการพักผ่อน
ภาพรวมของโครงการ จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 5, ชั้น 19 และที่ชั้น 26 ชั้น 1-4 จะเป็นอาคารจอดรถ และชั้น 5-25 จะเป็นชั้นของห้องพักอาศัย
แปลนชั้น 1 เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการ ออกแบบให้อยู่ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 17 เพื่อความเป็นส่วนตัว และลดความวุ่นวายจากบนถนนใหญ่ ซึ่งจากทางเข้าโครงการถ้าเลี้ยวซ้ายจะผ่าน Main Gate ตรงนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัย เป็นป้อม รปภ., กล้อง CCTV และรั้วอัตโนมัติ โดยใช้ระบบ Access Card ในการเข้า-ออก พอผ่าน Main Gate ไปแล้วจะมีทางวนไปด้านหลังอาคารเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถ ตั้งแต่ที่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 4 รวมทั้งหมด 198 คัน หรือคิดเป็น 37% ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ
และจากทางเข้าโครงการ ถ้าตรงเข้ามาที่ด้านหน้าอาคารจะมีวงเวียนต้นไม้เป็นจุด Drop-off เพื่อส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคาร ซึ่งการเข้า-ออกอาคารก็จะต้องใช้ระบบ Access Card เพื่อความปลอดภัยเช่นกัน ส่วนแรกด้านหน้าอาคารจะเป็น Co-Living Zone เป็นห้องอเนกประสงค์ที่ใช้รองรับแขกได้ หรือจะใช้นั่งพักผ่อน และนั่งทำงานอ่านหนังสือก็ได้ มีการออกแบบให้เปิดมุมมองเชื่อมต่อกับสวนพักผ่อนภายนอก ถัดเข้ามาด้านในอาคารจะมีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนิติบุคคล จนไปถึง Lobby ที่อยู่ด้านใน ภายใน Lobby จะเชื่อมต่อกับโถงลิฟต์ ซึ่งมีลิฟต์โดยสารจัดเอาไว้ให้ทั้งหมด 3 ตัวค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเข้า-ออกโครงการ พอออกแบบให้เข้า-ออกจากภายในซอย ก็จะช่วยบรรยากาศของโครงการดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยโครงการจะเน้นพื้นที่สีเขียว ลงต้นไม้ใหญ่เพื่อให้เกิดความร่มรื่นน่าอยู่
ภาพจำลองบรรยากาศมุมสวนพักผ่อนภายในโครงการ ออกแบบให้มีชุดโต๊ะเก้าอี้และม้านั่งพักผ่อนขนาดใหญ่ สามารถออกไปนั่งพักผ่อนรับลมธรรมชาติได้
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co-Living Zone ออกแบบให้มีฝ้าเพดานสูงโปร่ง และเปิดมุมมองเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนพักผ่อนภายนอกด้วยผนังกระจกรอบด้าน
แปลนชั้น 5 แบ่งเป็นโซนห้องพักอาศัยทั้งหมด 24 ห้อง และ Main Facilities ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่โซน Outdoor มีทั้ง สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก-สระผู้ใหญ่ พร้อม Jacuzzi และพื้นที่พักผ่อนริมสระ ออกแบบให้เชื่อมต่อกับสวนพักผ่อน ที่มีการจัดม้านั่งให้โดยรอบ โดยจัดแยกมุมกันเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัว
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำของโครงการ มีการออกแบบ Landscape ให้โดยรอบ ช่วยทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายมากขึ้น
แปลนชั้น 6-18 เป็น Typical Floor Plan ซึ่งเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด มีการออกแบบ Tower ให้เป็นรูปตัว L เพื่อเปิดมุมมองในการรับวิว โดยจะมีจำนวนห้องพักอาศัยต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 27 ห้องค่ะ
แปลนชั้น 19 มีการแบ่งพื้นที่โซน Tower ออกไปเป็นพื้นที่สวนพักผ่อนอีก 1 ส่วน ทำให้เหลือห้องพักอาศัย 23 ห้อง/ชั้น
แปลนชั้น 20-25
แปลนชั้น 26 เป็นชั้นสูงสุดของโครงการ และเป็น Main Facilities อีก 1 ชั้นที่เราสามารถชมวิวเมืองจากมุมสูงได้โดยรอบ บนชั้นนี้จะประกอบด้วย Fitness Room, Sky Lounge และ Roof Garden เป็นสวนลอยฟ้าสำหรับพักผ่อน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Fitness Room พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ออกแบบฝ้าเพดานห้องให้สูงโปร่ง และเปิดรับวิวเมืองด้วยผนังกระจกถึง 3 ด้าน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Sky Lounge ออกแบบฝ้าเพดานห้องให้สูงโปร่ง และเปิดรับวิวเมืองด้วยผนังกระจกเช่นกัน ภายในมีชุดโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อนและชมวิวเมืองโดยเฉพาะ
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องชุดพักอาศัยภายในโครงการจะมีห้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบค่ะ
Studio ขนาด 23.50 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างด้วยกัน 2 ห้องค่ะ เริ่มจาก Studio ขนาด 23.50 ตร.ม. ตามด้วยห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม.
::: Studio ขนาด 23.50 ตร.ม. :::
สำหรับห้อง Studio ขนาด 23.50 ตร.ม. จะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ จุดเด่นของห้องก็คือ มีการออกแบบโดยรวมฟังก์ชันต่าง ๆ ให้อยู่ในโถงเดียวกัน ทั้งส่วน ห้องครัว, Living Area, Dining Area และห้องนอน ทำให้ได้พื้นที่ห้องที่กว้างขวาง ส่วนห้องน้ำจะถูกแยกส่วนออกไป โดยห้องน้ำจะอยู่ฝั่งหน้าห้อง ขนาดห้องเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยประมาณ 1-2 คนค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานทึบ
พอเข้าไปด้านในเราจะเจอกับพื้นที่โถงทางเดิน มีห้องครัวและห้องน้ำอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ตรงเข้าไปจะเป็นส่วนของ Living Area และห้องนอน รวมเป็นพื้นที่ห้องเดียวกัน ทางโครงการจะขายห้องแบบ Fully Fitted คือเราจะได้ห้องเปล่า พร้อมเคาน์เตอร์ครัว และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำมากับห้อง พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลต์ให้ทั้งหมด โดยจะมีความสูงอยู่ที่ 2.6 เมตรค่ะ
เรามาดูไอเดียการจัดห้องกันค่ะ เริ่มจากห้องครัวก่อนนะคะ
ซึ่งนี่ก็คือชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการให้มากับห้อง ที่ใต้เคาน์เตอร์และบนตู้ลอย มีพื้นที่สำหรับเก็บของเครื่องใช้ในครัวและมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าและวางเตาไมโครเวฟได้ค่ะ
บน Top เคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยเมลามีน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความคงทนกันน้ำกันรอยขีดข่วนได้ดี
มีอ่างล้างจานขนาด 1 หลุมติดตั้งมาให้ แล้วยังเหลือพื้นที่ในการเตรียมอาหารอีกพอสมควร ครัวนี้เหมาะสำหรับการเตรียมอาหารเบา ๆ นะคะ แต่สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ก็สามารถซื้อเตาไฟฟ้ามาตั้งเพิ่มได้
ฝั่งตรงข้ามยังมีพื้นที่เหลืออยู่อีกพอสมควร เราจะเพิ่มตู้เก็บของ, ตู้เก็บรองเท้า และเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารเพิ่ม โดยทำ Built-in สูงถึงฝ้าแบบนี้เพื่อให้ดูเรียบร้อยก็ได้ ซึ่งข้อดีอีกข้อของการทำ Built-in สูงถึงฝ้าไปเลยก็คือ มันจะไม่เป็นที่เก็บฝุ่นค่ะ เราก็ไม่ต้องเหนื่อยปีนขึ้นไปเช็ดบ่อย ๆ ด้วย
มาดูห้องน้ำกันต่อ ทางโครงการตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิโตขนาด 60 x 60 ซม. มีสุขภัณฑ์ติดตั้งมาให้ครบพร้อมใช้งานเป็นของ American Standard, Hafele และ Charmer หรือเทียบเท่า
ชิ้นแรกเป็นอ่างล้างมือแบบแขวนผนัง ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำแบบก้านโยกและกระจกเงา มี Low Wall ก่อมาให้สามารถวางของเพิ่มได้
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ
และฝั่งมุมในเป็นโซน Shower มีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Tempered แบบบานเลื่อน 3 ตอนติดตั้งมาให้
ที่หน้าบานเลื่อนจะมีครีบยื่นออกมาแบบนี้นะคะ ทำให้เราเลื่อนเปิด-ปิดได้สะดวก
ที่ผนังภายในติดตั้ง Rain Shower, Hand Shower ราวปรับระดับ และจานวางสบู่ โดยจะมีการเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว
เนื่องจากว่าห้องน้ำจะไม่ได้อยู่ติดกับผนังรอบนอกของอาคาร การระบายอากาศจึงใช้พัดลมดูดอากาศแทน โดยติดตั้งมาให้ที่บนฝ้า 1 ตัวค่ะ
เอกลักษณ์ของห้องนี้ก็คือ การรวมพื้นที่ของฟังก์ชันต่าง ๆ เข้ามาไว้ในห้องเดียวกัน โดยไม่มีการกั้นส่วนด้วยผนังทึบ ทำให้ห้องได้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและโปร่งโล่งมากขึ้น
สำหรับพื้นที่ห้องนี้เราวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตกับโต๊ะข้างได้สบาย ๆ ฝั่งด้านในจะจัดเป็นโต๊ะทำงานเพิ่มสักตัวก็ได้
ฝั่งตรงข้าม Built-in เป็นชั้นวางของ, ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้า ทำเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดแบบนี้ ก็ช่วยทำให้ห้องดูสวยและเรียบร้อยดี
พื้นที่ด้านข้างตรงมุมข้างหน้าต่างก็จัดเป็นมุมนั่งเล่นได้ วางโซฟา, ม้านั่ง หรือทำ Day Bed ขนาด 2 ที่นั่ง แล้ววางโต๊ะกลางสำหรับนั่งทำงานและนั่งรับประทานอาหารได้ในตัวเลยก็สะดวกดี และสังเกตว่าช่องแสงในห้องนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร นอกจากหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งโซฟาแล้ว ก็จะมีประตูบานเลื่อนฝั่งหัวเตียง
พวกนี้เป็นบานเลื่อนกระจกกรอบอะลูมิเนียมนะคะ เปิดออกไปก็เป็นพื้นที่ระเบียง
พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ติดราวกันตกระแนงเหล็กให้
โดยพวก Compressor จะถูกแขวนเอาไว้ที่ฝ้าด้านบน ทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มประสิทธิภาพค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องอีก 1 มุม
::: 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม. :::
มาดูห้องตัวอย่างอีกห้องกันต่อค่ะ เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ความแตกต่างระหว่างห้องนี้กับห้อง Studio ก็คือ การแยกส่วนห้องครัวและห้องนอนออกมาจาก Living Area ทำให้ได้พื้นที่ห้องที่มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยจะวางผังห้องใกล้เคียงกับห้อง Studio คือมีห้องน้ำและห้องครัวอยู่ด้านหน้าห้อง ส่วนฝั่งด้านในห้องก็จะเป็น Living Area, Dining Area, ห้องนอน และระเบียง เป็นห้องที่สามารถอยู่อาศัยได้ประมาณ 1-2 คนเช่นกัน
พอเข้ามาด้านในห้องส่วนแรกจะเป็นห้องครัวเหมือนกันค่ะ
ในห้องจะได้เคาน์เตอร์ครัวชุดเดียวกันมา เคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างจานขนาด 1 หลุมมาให้
ฝั่งตรงข้ามก็วางตู้เย็นและทำ Built-in เป็นตู้เก็บของและเก็บรองเท้าเพิ่มได้
ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็คือจะมีประตูบานเลื่อนติดตั้งมาให้แยกส่วนจากโถงกลางกลายเป็นครัวปิด ข้อดีก็คือจะช่วยกันกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดีมากขึ้น แต่สำหรับคนที่ต้องการทำอาหารแบบจริงจัง ก็ควรจะติดตั้งเครื่องดูดควันเพิ่มด้วยนะคะ
เข้ามาภายใน Living Area สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบาย ถ้าเราเปลี่ยนจากโต๊ะกาแฟ เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เราก็จะสามารถนั่งทานอาหารไปดูทีวีไปได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามเราก็ Built-in เป็นตู้เก็บของและชั้นวางทีวีพร้อมลิ้นชักเก็บของได้ หรือจะวางเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวก็ได้เหมือนกัน
ส่วนมุมด้านในห้องติดริมหน้าต่างจะเป็นมุมอเนกประสงค์ ในห้องตัวอย่างจัดออกมาเป็นโต๊ะนั่งทำงาน แต่ถ้าใครที่ชอบนั่งทานอาหารแบบจริงจังหน่อย จะจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารก็ได้นะคะ จะวางได้ประมาณ 2 ที่นั่งพอดี
สำหรับห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกมาด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ภายในห้องมีขนาดกำลังดีไม่อึดอัด ที่เห็นนี้คือเราวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างและตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งได้
ใครที่ชอบดูทีวีตอนก่อนนอนก็ให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังที่ฝั่งปลายเตียงเพิ่ม โดยจากห้องนอนจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่
พื้นที่ระเบียงใช้ตากผ้าและออกไปยืนรับอากาศข้างนอกได้
ส่วนอีกฝั่งจะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ตำแหน่งข้างประตูห้องน้ำก็วางตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานได้พอดี
ภายในมีการวางแปลนรวมไปถึงการตกแต่งด้วยวัสดุและสุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับห้อง Studio เลยค่ะ
:::: ราคา (เมษายน 2565) ::::
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://bit.ly/3DdZpDb
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม โทร 02-147-0775
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น เลยค่ะ เพราะเป็นทำเลที่ติดถนนใหญ่แจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้าเมือง ทำให้เดินทางได้สะดวก แต่ออกแบบทางเข้าโครงการให้อยู่ภายในซอย 17 เพื่อความเป็นส่วนตัว เข้า-ออกโครงการก็ง่ายมากขึ้นเพราะรถไม่ได้วิ่งเร็ว โดยจุดที่โครงการตั้งอยู่จะสามารถเดินไปยัง Central แจ้งวัฒนะ, รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 และ รพ.เวิร์ลเมดิคอล ได้เลยในระยะ 400-500 เมตร แถมถนนแจ้งวัฒนะก็ยังมีห้างอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ อีกเยอะ ศูนย์ราชการฯ, เมืองทองธานี หรือจะเป็นสนามบินดอนเมืองก็อยู่ไม่ไกลค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ด้วยความที่โครงการอยู่ติดถนนแจ้งวัฒนะซึ่งเป็นถนนสายหลักอยู่แล้วจึงทำให้การเดินทางนั้นเป็นเรื่องง่าย เพราะจากถนนแจ้งวัฒนะก็จะไปเชื่อมต่อกับ ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนรามอินทรา, ถนนติวานนท์, ถนนชัยพฤกษ์ และถนนเลียบคลองประปา ซึ่งใช้เดินทางไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้สะดวก แต่ที่สะดวกมากกว่านั้นก็คือ โครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางพิเศษศรีรัชแค่ 1.8 กม. หรือขับไป 3 นาทีถึง ใช้เข้าเมืองไม่นาน ไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ เป็นที่รู้กันว่าถนนแจ้งวัฒนะมีรถสาธารณะผ่านหลายสายอยู่แล้ว ทั้งรถตู้, รถเมล์ หรือวินมอเตอร์ไซค์ คือมีหมด ประหยัดเงินได้เยอะ แต่ที่น่าสนใจก็คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 ที่เดินไปแค่ 400 เมตรถึง เป็นตัวเลือกที่ทำให้การเชื่อมเข้าตัวเมืองหรือไปโซนอื่น ๆ เป็นเรื่องที่ชิลมากขึ้น
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการ Lumpini Place แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด สเตชั่น นั้นเป็น High Rise Condominium สูง 26 ชั้น ที่มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครบครัน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวมาให้มากขึ้น เพื่อให้การใช้ชีวิตในเมืองได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
โดยห้องพักอาศัยภายในโครงการจะมีการออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว และใช้งานได้จริง ห้อง Studio จะเน้นการออกแบบห้องให้เปิดโล่งเป็นโถงเดียวกันทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ยังจัดเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นสัดส่วนได้ ส่วนห้อง 1 Bedroom จะแยกครัวและห้องนอนออกไป ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ได้มาครบตามมาตรฐานที่คอนโดในปัจจุบันควรจะมี โดยจะมี Facilities หลัก ๆ อยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 5 และชั้น 26 มีทั้ง Co-Living Zone, สระว่ายน้ำ, Fitness Room และ Sky Lounge โดยมีการออกแบบพื้นที่โซน Indoor ให้มีฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง และล้อมด้วยผนังกระจกโดยรอบ เพื่อเปิดรับมุมมองและวิวสวน โดยทางโครงการได้เพิ่มสวนพักผ่อนเข้าไปในทุกชั้น เพื่อให้ความร่มรื่น สร้างความผ่อนคลายในการอยู่อาศัยได้ดีเลยค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 02-147-0775
WEBSITE : https://www.lpn.co.th/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น