รีวิว คอนโด Manor สนามบินน้ำ ใกล้ MRT สะพานพระนั่งเกล้า
Manor สนามบินน้ำ จาก Majordevelopment ตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ใกล้รถไฟฟ้า MRT สะพานพระนั่งเกล้า, ทางพิเศษศรีรัช, รพ.พระนั่งเกล้า, กระทรวงพาณิชย์, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ และ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี
แมเนอร์ สนามบินน้ำ เป็นคอนโด High Rise 25 ชั้น + 35 ชั้น รวม 2 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 10-3-75 ไร่ ห้องพักอาศัยจำนวน 1,848 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 25.44-76.39 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จปี 2559
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, สวนลอยฟ้า, ลิฟต์โดยสาร, ที่จอดรถ 48-50% รวมจอดซ้อนคัน, ประตูคีย์การ์ด, กล้องวงจรปิด, รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาท (วันเปิดตัว)
ชื่อโครงการ | แมเนอร์ สนามบินน้ำ Manor Sanambinnam |
เจ้าของโครงการ | เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ Majordevelopment |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bed (25.44 – 42.07 ตร.ม.) – 2 Bed (61.26 – 76.39 ตร.ม.) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 10 ไร่ 3 งาน 75.00 ตร.ว. |
จำนวนตึก | 4 อาคาร |
จำนวนชั้น | อาคาร A และ B สูง 25 ชั้น, อาคาร C และ D สูง 35 ชั้น |
จำนวนห้อง | 1,848 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 48% – 50% (รวมจอดซ้อนคัน) |
โซน | นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยาย ( สายสีม่วง , สายสีชมพู ) |
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี |
กำหนดการ | – |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2559 |
ราคา | เริ่มต้น 1,690,000 บาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 49,100 บ./ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – สระว่ายน้ำ (พร้อมสระเด็ก), ฟิตเนส, ซาวน่า, สตรีม (พร้อมตู้ล็อกเกอร์แยกชาย หญิง), สวนหย่อม, ห้องสมุด, อื่นๆ (ลู่วิ่ง, สนามเด็กเล่น, ห้องอเนกประสงค์, บริการซักแห้งแบบหยอดเหรียญ), สนามออกกำลังกาย (สนามบาสเกตบอล, ลานกิจกรรมอเนกประสงค์, ห้องสนุ๊กเกอร์, ห้องปิงปอง, ห้องโยคะ) |
จุดเด่นของโครงการ | “คอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพรียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย รายล้อมบรรยากาศอันสงบและร่มรื่น โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ “คลาสสิค โคโลเนียล” ที่ผสมผสานความคลาสสิคและกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมโลโลเนียลอย่างพิถีพิถัน พร้อมการออกแบบ Function ห้องให้เหมาะกับการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโรงแรม และ Community Mall หน้าโครงการ” |
ที่ตั้งโครงการ
ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
พิกัด : 13.882061, 100.485386
แผนที่จากทางโครงการ จะเห็นว่าด้านหน้าของตัวโครงการวางอยู่ติดกับถนนสนามบินน้ำ และด้านหลังจะถูกวางไว้ติดแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
โครงการ Manor สนามบินน้ำ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี ซึ่งก็ถือว่าออกมาเขตชานเมืองสักหน่อยแล้วค่ะ ทำเลโดยรวมของที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นทำเลที่กำลังพัฒนา เนื่องจากย่านนี้เป็นอีก 1 ทำเลที่กำลังจะมีรถไฟฟ้ามาเปิดให้บริการในอนาคต ทำให้พื้นที่ในละแวกนี้มีการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยต่างๆตามมาหลากหลาย โดยเฉพาะคอนโด High Rise ที่ขึ้นเกาะมาตามถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ
ถนนเส้นสำคัญของโครงการนี้ก็จะเป็นถนนสนามบินน้ำ ตามชื่อโครงการเลยค่ะ ถนนสนามบินน้ำเป็นถนนเส้นรอง ที่เชื่อมถนนเส้นหลักคือถนนติวานนท์, ถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนเส้นย่อยอย่างถนนเลี่ยงเมืองนนท์และถนนนนทบุรี 1 ทำให้การเดินทางสามารถใช้ทางลัดได้ค่อนข้างหลากหลายค่ะ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการค่อนข้างคึกคักเพราะจะมีสถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อยู่บริเวณช่วงต้นๆถนนสนามบินน้ำ ค่อนไปทางถนนติวานนท์ นอกจากนั้นก็จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบของชาวบ้านที่อยู่กันมาแต่ดั้งเดิม
การเดินทางเข้าออกโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวกสามารถใช้ได้หลากหลายเส้นทาง โดยที่ทุกเส้นทางจะเชื่อมมายังถนนสนามบินน้ำซึ่งเป็นถนนเส้นเดียวที่สามารถเข้าถึงโครงการได้ ซึ่งตัวถนนสนามบินน้ำเองก็เป็นเส้นทางลัดที่นิยมใช้เลี่ยงรถติด สำหรับเดินทางไปทางถนนติวานนท์ ผ่านแยกสนามบินน้ำ ที่สามารถเลี้ยวขวาเพื่อเลี่ยงรถติดเข้าถนนรัตนาธิเบศร์และเลี้ยวซ้ายขึ้นไปปากเกร็ดและแจ้งวัฒนะ หรือใช้ถนนเลี่ยงเมืองนนท์ที่ตัดผ่านไปยังถนนพระราม 5 ที่สามารถเชื่อมกับถนนนครอินทร์ ไปถึงบางใหญ่,ถนนราชพฤกษ์และ วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก หรือวิ่งยาวผ่านถนนพระราม 5 มาทางถนนพิบูลย์สงครามจะสามารถผ่านไปถึงเขตบางซื่อได้ค่ะ
สำหรับทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะป็นทางด่วนศรีรัช ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับทั้งขาเข้าและขาออกเมือง โดยจุดขึ้นทางด่วนฝั่งขาเข้าเมืองจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 8.3 – 8.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 20 นาที โดยสามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง คือวิ่งจากถนนสนามบินน้ำมาใช้เส้นรัตนาธิเบศร์แบบตรงๆเลย หรือถ้าช่วงเวลาไหนที่รถติด(ซึ่งถนนรัตนาธิเบศร์เวลาเร่งด่วนก็ติดหนักเอาการ ติดยาวไปจนถึงถนนงามวงศ์วานเลยค่ะ) ก็สามารถเลี่ยงไปใช้ถนนติวานนท์ลัดมาออกถนนรัตนาธิเบศร์ที่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนขึ้นมาอีกหน่อยค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนฝั่งขาออกก็จะมีระยะทางประมาณ 7 – 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 20 นาที ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือกใช้ค่ะ
ส่วนการเดินทางด้วยบริการรถสาธารณะ สามารถเรียกรถ Taxi ที่หน้าโครงการได้เลย นอกจากนั้นก็จะมีป้ายรถเมล์ที่บริเวณหน้ากระทรวงพาณิชย์เดินจากโครงการมาประมาณ 240 เมตร จะมีรถเมล์สาย 191 วิ่งผ่านจากการเคหะคลองจั่น – กระทรวงพาณิชย์ โดยจะผ่านเส้น ถนนรัตนาธิเบศร์ , ถนนงามวงศ์วาน และถนนวิภาวดีรังสิต
นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคมนี้ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งมีระยะทางจากโครงการประมาณ 1.65 กิโลเมตร และสายสีชมพูที่มีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีสนามบินน้ำที่บริเวณแยกสนามบินน้ำ ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 2 สถานีก็มีระยะทางที่ไกลจากโครงการพอสมควร ไม่อยู่ในระยะที่เดินถึง แต่ทางโครงการจะมีรถ Shuttle Bus คอยให้บริการรับส่งระหว่างโครงการกับสถานีรถไฟฟ้าอยู่ค่ะ ทำให้การเดินทางด้วยรถสาธารณะสะดวกขึ้น และสามารถกะเวลาที่แน่นอนได้มากขึ้นค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ของโครงการนี้หลักๆเลยจะเป็น Community Mall ที่ทางโครงการได้จัดไว้หน้าโครงการและจะให้ผู้ประกอบการมาลงทุนเปิดร้านค่ะ ส่วนความคึกคักอื่นๆจะเป็นรองถนนเส้นหลักอย่างรัตนาธิเบศร์และติวานนท์อยู่หน่อย แต่ก็ยังพอให้ได้จับจ่ายกันอยู่บ้าง เนื่องจากมีสถานที่ราชการอยู่หลายแห่ง จึงทำให้ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร เป็นช่วงๆแนวถนนรวมไปถึงตลาดจิตรและสนามบินน้ำ Market Place สำหรับพนักงาน ข้าราชการ และคนในแถบนั้นด้วย
ส่วนความอุดมสมบูรณ์แบบห้างใหญ่ๆ หรือ Hyper Market ส่วนใหญ่จะออกมาอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ที่ใกล้โครงการที่สุดคือ Central รัตนาธิเบศร์, BigC รัตนาธิเบศร์ และห้าง Esplanade, พันทิพย์, The Mall งามวงศ์วาน บนถนนงามวงศ์วาน ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ รัตนาธิเบศร์ และ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจาก รัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน > เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสนามบินน้ำ > ผ่านซอยนนทบุรี, ซอยวัดแคนอก > Manor สนามบินน้ำ
เริ่มต้นที่ ถนนรัตนาธิเบศร์ ฝั่งมุ่งหน้าถนนงามวงศ์วาน แยกเลี้ยวซ้ายไป สนามบินน้ำ (ด้านหลังเราจะเป็น สะพานพระนั่งเกล้า ตรงไปไปแคราย เลี้ยวซ้ายไป ท่าน้ำนนทบุรี, รถไฟฟ้าสายสีม่วง)
ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเบี่ยงซ้ายออกจาก ถนน รัตนาธิเบศร์ เพื่อเข้าสู่ถนน สนามบินน้ำค่ะ
ตอนนี้เรากอยู่บนถนนสนามบินน้ำกันแล้วค่ะ เราขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ
ผ่านซอย นนทบุรี 21
และผ่านซอย วัดแคนอก
จากหน้าปาก ซอย วัดแคนอก วิ่งมาอีก 350 เมตร จะถึงหน้าทางเข้าโครงการ คอนโด แมเนอร์ สนามบินน้ำ (ถัดไปเป็น กระทรวงพาณิชย์)
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
รอบๆโครงการ
ก่อนจะเข้าไปดูตัวโครงการเดี๋ยวเราจะมาดูรอบๆโครงการกันสักหน่อยก่อนนะคะ เริ่มจากภาพมุมสูงจะเห็นว่าทางเข้าด้านหน้าของโครงการจะอยู่ติดกับถนนสนามบินน้ำ ด้านหลังโครงการติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านข้างของโครงการถูกขนาบด้วยกระทรวงพาณิชย์และที่ดินเปล่า
มาดูภาพมุมสูงกันบ้างค่ะ หน้าโครงการอยู่ติดกับถนนสนามบินน้ำ
ตัวอาคารทางทิศตะวันตกติดกับที่ดินเปล่า ส่วนทางทิศตะวันออกติดกับกระทรวงพาณิชย์
ด้านหลังโครงการติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ภาพรวมอาคารจากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวจากอาคารทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวทางฝั่งทิศตะวันออกที่ติดกับที่ดินเปล่าเป็นที่พักอาศัยแนวราบ
วิวทางฝั่งทิศตะวันตกมองออกไปเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนการพาเดินดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการครั้งนี้ เราจะพาเดินไปจนถึงตลาดจิตร ซึ่งเป็นตลาดที่ถือว่าเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ ออกมาหน้าโครงการทางขวามือจะมีฟุตบาทกว้างขวางเดินสะดวก
ทางฝั่งซ้ายก็มีฟุตบาทกว้างเดินสะดวกเช่นกัน ถนนหน้าโครงการเป็นถนน 2 เลน ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 – 4 ชั้น
พื้นที่ติดกับโครงการจะเป็นกระทรวงพาณิชย์
ที่หน้ากระทรวงพาณิชย์จะมีสะพานข้ามฝั่ง เราสามารถข้ามไป 7 – 11 และร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอป้ายรถเมล์ จุดที่ใกล้โครงการที่สุด
ขนาดที่ดินของกระทรวงพาณิชย์ค่อนข้างใหญ่
ฝั่งตรงข้ามกระทรวงพาณิชย์จะมีร้านอาหารหลายร้านเลยค่ะ อย่างที่เราเห็นอยู่จะเป็นร้านขนมจีนบ้านคุณย่าข้างกันก็จะเป็นร้านโจ๊กบางกอก
เมื่อเราเดินเลยกระทรวงพาณิชย์มาจะเจอสะพานข้ามคลองบางธรณี
ข้ามสะพานมาจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านแถวนี้ ซึ่งจะมีทั้งเป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัยและ เปิดธุรกิจต่างๆ เช่น รับตัดเสื้อและมีร้านอาหารหลายร้านค่ะ
เดินมาอีกหน่อยจะถึงบ้านพักข้าราชการ กรมพลาธิการทหารบก
เดินมาจนสุดถนนจะถึงแยก
ถ้าเราเลี้ยวซ้ายมือจะเข้าซอยวัดตำหนักใต้
แต่ถ้าเราเดินตรงต่อมาเรื่อยๆจะถึงตลาดจิตรที่มีของขายเยอะมากๆ ทั้งตัวตลาดเองและพื้นที่รอบๆตลาดก็จะมีการตั้งเป็นซุ้มขายของตลอดทางค่ะ
ในซอยนนทบุรี 29 ก็มีของมาตั้งขายเช่นกัน
มี 7 – 11 ก่อนถึงตัวตลาด
สำหรับตัวตลาดจิตรเอง ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นของสด ผัก ผลไม้ แต่ก็ยังมีร้านอาหารอย่างร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่ด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในตลาด
ติดกับตลาดก็จะมี 7 – 11 อีกสาขา ซึ่งจะมีร้านค้ามาเปิดขายทั้งกับข้าวและขนมค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Manor สนามบินน้ำ เป็นโครงการคอนโด High Rise 4 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำ มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 1,848 ยูนิตและ Community Mall 1 อาคาร สำหรับการพาณิชย์ พื้นที่โครงการรวมประมาณ 10 – 3 – 75 ไร่
ตัวโครงการมีการออกแบบในสไตล์ Classic Colonial ได้ความรู้สึกหรูหรา ซึ่งมีความแตกต่างจากโครงการในละแวกนี้ที่จะเน้นการออกแบบในสไตล์ Modern กันเป็นส่วนใหญ่ และเนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่น จุดขายของโครงการจึงหนีไม่พ้นวิวของโค้งน้ำเจ้าพระยานั่นเองค่ะ นอกจากนั้นยังมี ส่วนกลางขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก ซึ่งจะมี Facilities ทั้งหมด 23 อย่างและมีฟังก์ชั่นครบครัน เช่น สวนสาธารณะ, พื้นที่เอนกประสงค์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องปิงปอง, ห้องโยคะ, Kid’s Room, สนามเด็กเล่น, สนามบาส, ห้องสมุดและห้องสนุกเกอร์ค่ะ
มาดูผังของโครงการกันก่อนค่ะ จากถนนสนามบินน้ำเมื่อเข้าโครงการมาจะผ่าน Community Mall ทางขวามือเป็นส่วนแรก ตัว Community Mall จะเป็นอาคารชั้นเดียว แยกเป็น 2 อาคาร มีที่จอดรถรองรับประมาณ 40 คัน และเมื่อเสร็จเรียบร้อยจะแยกบริหารคนละส่วนกับนิติบุคคลค่ะ
เมื่อผ่านส่วน Community Mall จะมีถนนแยกเป็น 2 ทาง ซ้ายและขวา ใช้ระบบคัดกรองผู้เข้าอาศัยโดย Key Card Access ระยะใกล้ เมื่อเข้ามาในส่วนพักอาศัย มีที่ Drop Off ผู้โดยสารตรงบริเวณหน้า Lobby หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายวิ่งมาตามถนนรอบโครงการ แลี้ยวขวาอีกครั้งที่ทางเชื่อมระหว่างอาคาร A,B และ C,D และเข้าที่จอดรถซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 1 – 6 ของอาคาร A และ B โดยที่จอดรถจะจอดได้ประมาณ 48% – 50% รวมจอดซ้อนคันค่ะ ซึ่งถือได้ว่าพอใช้ได้อยู่ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจับจองโครงการจะมีส่วนหนึ่งที่ซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า (เห็นได้จากการที่ทางโครงการก็ให้โปรโมชั่น Yield Guarantee ) รวมถึงถึงลูกบ้านที่จะใช้รถไฟฟ้าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ
ส่วน Facilities ที่ชั้น 1 นี้จะขอแยกผังออกมาเป็นอีกรูปให้ดูง่ายขึ้นนะคะ โดยส่วนกลางที่ชั้น 1 นี้จะแยกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือส่วนสวนที่สามารถใช้เป็นลานกิจกรรมเอนกประสงค์ พร้อมโถงรับรอง Colonial Style แบบ Open Air และส่วนสระว่ายน้ำที่จะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดยาว 50 เมตร พร้อมอาคารฟิตเนส, สวนริมน้ำ, สนามบาสและสนามเด็กเล่นในพื้นที่เดียวกัน
ขอข้ามขึ้นมาดูส่วน Facilities ที่ชั้น 6 กันก่อน ส่วนกลางที่ชั้น 6 นี้จะอยู่บน Podium ซึ่งด้านล่างจะเป็นชั้นจอดรถนะคะ จะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25 x 50 เมตร แยกสระเด็ก, สระผู้ใหญ่ พร้อมลานพักผ่อนริมสระน้ำและจุดชมวิวที่ปลายสุดของสระว่ายน้ำ สามารถมองออกไปได้วิวสวนของชั้น 1 และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านช่องตึก C, D ส่วนพื้นที่ในอาคารบริเวณรอบๆสระจะมีห้องสมุด, ห้องปิงปอง, ห้องสนุกเกอร์, ห้องสันทนาการ ที่อาคาร A และห้องโยคะ, Fitness, Kid’s Room ที่อาคาร B
นอกจากนั้นที่ชั้น 6 นี้จะมีสะพานเชื่อมอาคารกลุ่มหน้าคือ A,B กับอาคารกลุ่มหลัง C,D โดยอาคาร A จะเชื่อมโดยตรงกับอาคาร D และอาคาร B จะเชื่อมโดยตรงกับอาคาร C ค่ะ
เราพูดถึงส่วนกลางของโครงการกันไปครบแล้ว มาดูในส่วนพักอาศัยกันต่อค่ะ เริ่มจากอาคารชุดหน้า คืออาคาร A และ อาคาร B สูง 25 ชั้น ความหนาแน่นประมาณ 23 ยูนิต ต่อชั้น ห้องพักเริ่มต้นที่ 25.44 ตร.ม. – 28 ตร.ม. จะใช้ทางเข้าร่วมกันคือ Lobby หลักหน้าโครงการ จาก Lobby จะแจกซ้าย – ขวา ไปยังโถงลิฟท์ของแต่ละอาคาร การเข้าถึงโถงลิฟท์ได้นั้นก็ต้องใช้ Key Card Access โดย
อาคาร A
อาคาร B
ส่วนห้องนิติบุคคลและ Mail Box ทั้งของอาคาร A และ B จะอยู่ทางฝั่งอาคาร B ค่ะ
เนื่องจากอาคาร A และ B เสียพื้นที่ชั้น 1 – 5 ให้เป็น Podium ของที่จอดรถ ทำให้ยูนิตพักอาศัยของทั้ง 2 อาคารนี้จะเริ่มต้นที่ชั้น 6 ค่ะ
การวางห้องพักก็ง่ายๆ คือวางเป็นเส้นตรงเกาะโถงทางเดินไปค่ะ โดยโถงทางเดินชั้นทั่วไปจะกว้าง 1.5 เมตร สูง 2.4 เมตร ส่วนชั้นบนสุดของทุกอาคารคือชั้น 25 และชั้น 35 จะสูง 2.6 เมตรค่ะ
มาดูในส่วนของอาคารคู่หลังกันบ้างนั่นคืออาคาร C และ อาคาร D สูง 35 ชั้น 13 ยูนิต ต่อชั้นและมีห้องพักเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. – 72 ตร.ม. ซึ่งความแตกต่างของอาคารชุดหน้า (A,B) และ อาคารชุดหลัง (C,D) คืออาคารชุดหลังจะมี Privacy มากกว่า และขนาดห้องใหญ่กว่าทำให้ราคาห้องก็จะแพงกว่าตามไปด้วย
สำหรับทั้ง 2 อาคารนี้จะวางผังไว้เกือบจะเหมือนกันเลยค่ะ โดยที่ชั้น 1 จะมีโถงรับรองอยู่ติดกับโถงลิฟท์ และเนื่องจากที่ชั้น 1 นี้จะมีพื้นที่ติดกับส่วน Courtyard ทางโครงการจึงแบ่งพื้นที่ท่อนกลางของอาคารให้เป็นลานพักผ่อนใต้อาคาร ให้อากาศถ่ายเทผ่านช่องตึกได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ส่วนการใช้งานลิฟท์ของอาคาร C และอาคาร D
อาคาร C
อาคาร D
สำหรับผังอาคารชั้น 2 – 3 จะมีส่วน Corridor ที่เปิดโล่ง ต่อเนื่องยาวมาจากพื้นที่พักผ่อนใต้อาคาร ตรงนี้ขอบอกว่าลมโกรกดีมากๆเลยค่ะ แต่อาจจะรู้สึกแปลกๆหน่อย ถ้าเกิดห้องเราอยู่ทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วต้องเดินผ่าน Corridor เปิดโล่งนี้ทุกครั้ง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องของความรู้สึกนะคะ บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะรู้สึกเสีย Privacy แต่บางคนอาจจะชอบเพราะได้รับลมเย็นสบายก่อนเข้าห้องก็ได้ค่ะ 🙂
ส่วนผังอาคารตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปจนถึงชั้น 35 ก็จะเป็นส่วนของห้องพักล้วนๆ วางห้องเป็นแนวตรงเกาะไปกับ Corridor เหมือนที่อาคาร A และ B ค่ะ
มาดูตัวโมเดลกันบ้าง จะได้เห็นภาพรวมๆได้ชัดขึ้นนะคะ เริ่มจากทางเข้าโครงการจากถนนสนามบินน้ำ เมื่อเข้าโครงการแล้วจะผ่านส่วน Community Mall ทางขวามือก่อน
เข้ามาถึงส่วนพักอาศัยจะเจอวงเวียนต้นไม้เป็นจุดต้อนรับ จากตรงนี้เราต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปที่จอดรถ
ขับมาตามถนนผ่านอาคาร B และเลี้ยวเข้าถนนที่ตัดผ่านชุดอาคารด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเข้าไปยังที่จอดรถ
อาคารจอดรถที่อาคาร A และ B
สะพานเชื่อมอาคารชุดหน้ากับอาคารชุดหลัง จะอยู่ที่ชั้น 6
ส่วนทางฝั่งขวา หรือฝั่งที่ติดกับกระทรวงพาณิชย์ จะมีทางออกจากที่จอดรถและเป็นถนนเส้นที่วิ่งออกมาทางหน้าโครงการ
นอกจากนั้นก็จะมีซุ้มทางเดิน ช่วยบังแดดได้ดี ยาวไปจนสุดอาคาร C
Facility ที่ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25 x 50 เมตร , ลานพักผ่อนริมน้ำและที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ ส่วนในตัวอาคารจะมีห้องต่างๆเช่น ฟิตเนส, ห้องโยคะ, ห้องปิงปอง ฯ จะสามารถเข้าได้จากริมทางเดินข้างสระเลยค่ะ
ภาพรวมของอาคารฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา
สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 50 เมตร และกว้างประมาณ 25 เมตร รอบสระจะมีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน และอาคารฟิตเนส 2 ชั้น ไม่รวมชั้นดาดฟ้า ข้างสระว่ายน้ำอีกด้านจะมีสนามบาสและสนามเด็กเล่น ในส่วนของสระว่ายน้ำและสวนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีการออกแบบให้มีเส้นโค้งรับกับแม่น้ำ
ระหว่างอาคาร C และ D จะมีสวน Courtyard สามารถใช้เป็นลานกิจกรรมเอนกประสงค์ขนาด 27.00 x 14.00 เมตร มีโถงรับรอง และศาลานั่งพัก 2 จุด
ดูตัวโมเดลไปแล้ว ถัดมาเราจะพาไปดูของจริงกันต่อค่ะ โดยเราจะเริ่มจากทางเข้าอาคารไปยังที่จอดรถและ Facility ชั้น 1 จากนั้นจะเข้าตัวอาคารไปดูส่วน Facility ที่ชั้น 6 กันค่ะ
เริ่มจากทางเข้าโครงการจากถนนสนามบินน้ำ
ตัวโครงการตอนนี้เสร็จไปกว่า 95% แล้ว เหลือเก็บงานนิดๆหน่อยๆ ทั้งส่วนกลางและห้องพักอาศัย ซึ่งตอนที่เราเข้าไปเก็บภาพก็อยู่ในระหว่างเก็บงาน จึงอาจจะมีบางส่วนไม่เรียบร้อนเท่าไหร่นะคะ
เริ่มจากถนนทางเข้า 2 เลน ทางขวาเป็น Community Mall ที่ยังสร้างไม่เสร็จนะคะ
เข้ามาถึงส่วนพักอาศัยจะเจอวงเวียนพื้นถนนเป็น Concrete Stamp และ Drop Off หน้า Lobby
เข้ามาทางซ้ายมือจะเจอถนนเข้าไปยังส่วนจอดรถ
เข้ามาที่ถนนข้างอาคารเป็นถนนคอนกรีตธรรมดา
รั้วรอบโครงการเป็นรั้วคอนกรีต สูง 3 เมตร มีต้นไม้ลงไว้ให้ตลอดทาง ช่วยให้บรรยากาศของโครงการร่มรื่นขึ้นค่ะ
ตรงมาจนสุดอาคาร B เลี้ยวขวา
ด้านบนเป็นทางเชื่อมที่ชั้น 6 อาคาร B และ C
เลี้ยวขวาเข้ามาจะเจอถนนที่เชื่อมอาคารชุดหน้ากับอาคารชุดหลัง
ซ้ายมือเป็นสวนส่วนกลางที่ชั้น 1
ตรงมาจนเกือบสุดถนน จะเจอทางเข้าไปยังที่จอดรถ
ด้านในที่จอดรถขนาดกว้าง โดยจะมีสิทธิการจอดตามจำนวนห้องนอน (1 ห้องนอน1 สิทธิ์ / 2 ห้องนอน 2 สิทธิ์)
ขวามือเป็นทาง Slope สำหรับทางขึ้นชั้นบน
ซึ่งจะแยกทางขึ้น – ลงนะคะ Slope ทางลงอีกด้านจะอยู่อีกฝั่งนึง
จากทางเข้าที่จอดรถเมื่อสักครู่ ถ้าเราขับตรงมาขนสุดก็จะมีทางแยกไปทางออก
ซ้ายมือเป็นทางออกไปถนนฝั่งที่อยู่ติดกับกระทรวงพาณิชย์
ส่วนถ้าเราเลี้ยวขวาก็จะเป็นการวนเข้าที่จอดรถอื่นๆ นอกจากนั้นที่เราเห็นห้องทางซ้ายมือคือส่วนออฟฟิศที่เข้าถึงได้จากที่จอดรถด้วยค่ะ
ที่จอดรถบล็อคนึงจะจอดได้ 4 คัน
ให้ดู Slope ทางขึ้นและลง
ออกมาจากที่จอดรถจะเจอกับอาคารของกระทรวงพาณิชย์
ซ้ายมือจะเป็นทางเดินยาวไปจนสุดอาคาร
ส่วนทางขวาจะเป็นถนนออกไปหน้าโครงการค่ะ
ชมรอบๆโครงการกันไปแล้ว เราลองมาดูส่วนกลางของจริงกันบ้างค่ะว่าจะ หรูหรา Classic Colonial เหมือนที่คิดไว้หรือเปล่า มาดูที่ชั้น 1 กันก่อน แบ่งเป็นส่วนสวนและส่วนสระว่ายน้ำ
เริ่มที่สวนระหว่างอาคาร C และ D ก่อน
สวนจะลดระดับลงมาจากพื้นโดยรอบและลงหญ้าไว้เต็มพื้นที่ ส่วนการจัดสวนจะลงต้นปาล์มไว้ด้านข้าง
มีโถงรับรองกึ่ง Out Door สำหรับมานั่งชิลล์ๆชมสวน
มองออกไปอีกด้านของสวน คือฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีศาลานั่งพักอีก 1 จุด
ด้านในมีม้านั่งแบบนี้ และเนื่องจากตัวหลังคาของศาลานี้จะเป็นไม้ระแนงจึงไม่ค่อยกันแดดกันฝนเท่าไหร่ เหมาะสำหรับนั่งตอนเย็นๆ แดดร่มลมตกและลมพัดโกรก
เดินถอยออกมาจากศาลาและมองย้อนไปอีกครั้ง จะเห็นได้ชัดว่าการวางผังสวนนี้ จะจัดในรูปแบบสมมาตร ให้ความรู้สึกมั่นคง และถือว่าได้กลิ่นอายของ Classic Colonial อย่างที่ตั้งใจค่ะ
ถัดจากสวนเราก็จะมาดูส่วนสระว่ายน้ำที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยากันต่อ โดยส่วนกลางส่วนติดแม่น้ำเจ้าพระยาจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ, Fitness, สนามบาส, สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
ตัวสระเป็นสระระบบเกลือ ยาว 50 เมตร มีที่นั่งรอบสระ อาคารที่เราเห็นทาขวามือของรูปคือฟิตเนสค่ะ
ตัวสระแยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่
อีกมุมหนึ่ง
อาคารฟิตเนส จะเป็นอาคารรูปทรงกระบอก ติดกระจกรอบทำให้ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามา ด้านในฟิตเนสลงเครื่องออกกำลังกายไว้เกือบครบถ้วนแล้ว โดยในนี้จะประกอบไปด้วย ลู่วิ่ง 4 ตัว, เครื่องปั่นจักรยาน 4 ตัว, เบาะซิทอัพ 1 ชุด, เสื่อโยคะ 4 ผืน , ดัมเบลขนาดต่างๆ 20 ชิ้น และเครื่อง Training Station รวมเครื่องออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนหลัง , ไหล่, ขา และอื่นๆค่ะ
วิวที่มองมาจาดห้องฟิตเนสก็จะได้ประมาณนี้เลยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ตอนนี้ยังเป็นห้องโล่งๆ
ออกมาด้านนอกมีระเบียงรอบ
วิวฝั่งแม่น้ำที่ได้จากชั้น 2 ของอาคารฟิตเนส
ขึ้นมาชั้นดาดฟ้า จะมีราวกันจกให้โดยรอบ กลางวันแดดค่อนข้างแรก ไม่มีหลังคาคลุมให้นะคะ
เก็บภาพ Panorama บนชั้นดาดฟ้าของอาคารฟิตเนสมาให้ชมกัน อยากดูรูปใหญ่ คลิกที่รูปได้เลยค่ะ
ด้านหน้าสระ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีสวนและทางเดิน จัดเป็นเส้นโค้งรับแม่น้ำแบบนี้
สวนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกมุมหนึ่ง
ข้างสระอีกด้านมีที่นั่งริมสระไว้บังแดดนิดๆหน่อยๆ
เข้ามาต่อในตัวอาคารกัน เริ่มจาก Lobby หลัก ตอนนี้จะมีเซลล์คอยให้บริการลูกค้านั่งประจำการอยู่ ในอนาคตก็จะเป็น Lobby นั่งรอสำหรับแขกหรือเพื่อนๆที่มาเยี่ยมลูกบ้าน
ขวามือเป็นทางไปยังโถงลิฟท์ของอาคาร A
ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปอาคาร B
เราจะพามาดูทางฝั่งอาคาร B นะคะ เพราะมีห้อง Mail Box ของอาคาร A รวมอยู่ด้วย
เข้ามาด้านในจะเจอทางเดินแบบนี้
ขวามือจะมีห้องนิติบุคคลซ่อนอยู่
ออกมาถึงโถง Mail Box จะแยกเป็น 2 ฝั่ง ถ้ามองตรงไปจะเห็นประตูเข้าไปยังโถงลิฟท์
ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้อง Mail Box ของอาคาร B มีทางเข้า – ออก 2 ทาง
ด้านในก็เป็นตู้จดหมายเรียงราย
ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้อง Mail Box ของอาคาร A
ด้านในห้อง Mail Box หน้าตาเหมือนของอาคาร B ค่ะ
สำหรับการเข้าส่วนพักอาศัยจะต้องใช้ Key Card เพื่อเข้าสู่โถงลิฟท์นะคะ
ตัวแสกน Key Card
โถงลิฟท์ธรรมดาๆ ตกแต่งมาเหมือนส่วนอื่นๆของอาคาร มีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัว
1 ตัว ทางซ้าย
และ 2 ตัวทางขวา
กรอบลิฟท์ตกแต่งด้วยหินอ่อนสังเคราะห์ให้อารมณ์หรูหราเบาๆ
ภายในลิฟท์มีราวจับ
แป้นกดลิฟท์และจอแสดงผล
ลิฟท์ของ ThyssenKrupp บรรทุกได้ 1,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 13 คนค่ะ
ขึ้นมาถึงชั้น 6 มองออกไปจากโถงลิฟท์
ส่วนแรกที่เจอคือโถงโล่งๆ ประตูทางซ้ายมือคือส่วนพักอาศัย ที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป ส่วนขวามือคือทางออกไปยังส่วนกลางที่ชั้นนี้ค่ะ
สำหรับส่วนกลางที่ชั้น 6 นี้จะอยู่ระหว่างอาคาร A และ B ด้านนอกจะมีสระกลางแจ้ง ส่วน Facilities อื่นๆอย่างฟิตเนส, ห้องปิงปอง, ห้องอ่านหนังสือและอื่นๆจะอยู่ในอาคารค่ะ
ออกมาด้านนอกจะเจอกับลานพักผ่อนริมสระน้ำ
มีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน
ด้านในตัวศาลานั่งพักผ่อนจะโปร่งๆ หลังคาเป็นระแนงเลยกันแดดได้แค่บางส่วนนะคะ
จากศาลามองออกไปสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 25 x 50 เมตร
แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ด้วยน้ำพุ
วิวจากริมสระฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
สระเป็นระบบน้ำล้นแบบนี้ค่ะ
พื้นที่ข้างสระฝั่งซ้ายจะมีศาลาริมน้ำ 3 หลัง
วิวจากศาลาริมน้ำ
ระหว่างศาลาริมน้ำแต่ละหลังจะมีบ่อซึ่งอาจจะมีการเติมน้ำเพื่อสร้างบรรยากาศในอนาคต
ส่วนด้านขวาลงต้นปาล์มและหญ้าตกแต่งไว้
ที่ปลายสุดของสระว่ายน้ำจะมีระเบียง ที่มีราวกันตกเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นวิวได้กว้างค่ะ
มีที่นั่งยาวด้านหลัง
มองลงไปด้านล่างเห็น Courtyard และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านตึก C และ D
มองย้อนจากปลายสระไปยังศาลาพักผ่อน
พื้นที่ข้างสระทั้ง 2 ฝั่ง จะมีทางเดินกว้าง เดินได้สะดวก
ให้ดูลักษณะระเบียงห้องพักที่อยู่ชั้น 6 จะอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางเลย และถือว่าเปิดโล่งเลยทีเดียวค่ะ เลยอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปค่อนข้างยอะ และจะได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆที่มาเล่นน้ำในสระ แต่ถ้าใครที่ชอบอยู่กับส่วนกลาง เปิดออกมาได้วิวดีๆ ห้องที่ชั้นนี้ก็เป็นอีกทางเลือกนึงนะคะ
มีฝักบัวสำหรับล้างตัวก่อนลงสระ ฝั่งละชุด
จากทางเดินข้างสระ จะมีทางเข้าไปยังส่วนกลางอื่นๆของชั้น 6 เริ่มที่อาคาร B
มีห้องน้ำแยกชาย หญิง เข้าไปดูในห้องน้ำหญิงกันก่อนค่ะ
ด้านในมีอ่างล้างมือ 3 อ่าง พร้อมกระจกเงาบานยาว
มีห้องอาบน้ำ 3 ห้อง, ห้องน้ำ 2 ห้อง
ห้องอาบน้ำประตูกระจกใสแบบนี้ เหมาะกับการอาบน้ำล้างตัวเท่านั้น ถ้าจะอาบแบบจริงจังคงต้องขึ้นไปอาบที่ห้องของตัวเองกันนะคะ
ด้านในห้องอาบน้ำ
ด้านในห้องน้ำค่ะ
และห้องอาบน้ำอีกห้อง
ถัดมาไปดูในห้องน้ำชายกันต่อค่ะ
ด้านนมีอ่างล้างมือ 3 อ่าง พร้อมกระจกเงาบานยาว
มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำอย่างละ 2 ห้อง
และโถปัสสาวะ 3 ชชุด
เข้ามาในอาคาร จะไปดูห้องอื่นๆกันต่อค่ะ ที่อาคาร B นี้จะมีห้องโยคะ ส่วนประตูที่เห็นทางขวามือคือสะพานเชื่อมอาคารชุดหน้ากับอาคารชุดหลัง
ห้องทางซ้ายมือเป็นห้อง Library ค่ะ
ด้านในห้องโยคะจะมีหน้าต่างยาวตลอดแนวผนัง พร้อมกระจกเงา
อีกด้านของห้องโยคะ
นอกจากนั้นก็จะมีห้องฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำ สำหรับห้องฟิตเนสที่ชั้น 6 นี้จะประกอบไปด้วยลู่วิ่ง 2 เครื่อง, จักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง, ดัมเบลขนาดต่างๆ 20 ชิ้น, เครื่องซิทอัพ 1 เครื่อง, เครื่องแอพโดมิไนเซอร์ 1 เครื่อง และเครื่องบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ 1 เครื่อง
ออกมาดูทางเช่ือมอาคารชุดหน้าและชุดหลัง เป็นทางเดินกว้างและโปร่ง
จากทางเชื่อมนี้จะเห็นพื้นที่ดินเปล่าข้างอาคารได้ชัดเจน
มาดูส่วนกลางที่อาคาร A กันต่อค่ะ
ทางฝั่งอาคาร A จะมีห้องปิงปอง ตอนนี้ยังไม่มีอุปกรณ์นะคะ
นอกจากนั้นก็จะมี Kid’s Room
ห้องสนุกเกอร์
และห้องเกมส์ค่ะ
แบบห้อง
แบบห้องของโครงการนี้ถ้านับรวมแบบที่ Mirror แล้วจริงๆจะมีถึง 25 แบบ แต่ผังห้องที่ทางโครงการมีให้ดูจะมี 16 แบบ ทั้งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 25.44 ตร.ม. – 70.97 ตร.ม. ค่ะ ส่วนตำแหน่งของห้องแต่ละแบบก็จะถูกจัดวางไว้ตามตำแหน่งต่างๆของอาคารตามผังในแบบเลยค่ะ
ห้องตัวอย่าง
ก่อนจะไปดูห้องตัวอย่าง เราจะพาไปดูห้องที่ถือว่าเป็น Highlight ของโครงการกันก่อน คือห้องของอาคาร C,D ที่อยู่ติดฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ได้วิวโค้งน้ำเป็นรูปตัว S ค่ะ โดยห้องที่เราเข้าไปเก็บภาพมาให้ดูวันนี้ จะเป็นห้องในอาคาร C ชั้น 12 นะคะ
สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะมีให้ดูทั้งหมด 2 แบบ คือแบบเล็กสุด 25 ตร.ม. และ 61 ตร.ม. ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูทั้ง 2 ห้องเลยค่ะว่าจะหน้าเป็นอย่างไรบ้าง
เริ่มที่ห้องแบบแรกเป็นห้องขนาดเล็กสุด คือห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25.44 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ซึ่งห้องเล็กๆแบบนี้จะมีเฉพาะที่อาคาร A และ B เท่านั้นค่ะ สำหรับการจัดการขายจะแบ่งเป็น 2 โปรโมชั่นคือ
1. สำหรับผู้ซื้อเพื่อการลงทุนพร้อมโปร 6% Yield Guarantee ได้รับผลตอบแทนทุกๆ 3 เดือนเป็นเวลา 3 ปี และจะได้ห้องแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ของ Index
2.สำหรับผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจะได้แบบ Fully Furnish พร้อมแอร์ 2 ตัว โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดีที่สั่งทำเฉพาะของโครงการ Manor สนามบินน้ำ
เปิดเข้ามาจะเจอกับส่วน Living Room ก่อน จากส่วน Living Room จะถูกแบ่งเป็นห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้พอดีๆ หรือจะวางเป็นเตียงคิงส์ไซส์ก็ยังพอไหวแต่จะแน่นนิดนึงค่ะ ส่วนห้องครัวจะเป็นครัวเปิดมีพื้นที่ต่อเนื่องมาจากส่วน Living Room ภายในครัวจะได้เคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างจาน มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง
จากห้องครัวสามารถออกไปยังระเบียงเล็กๆด้านนอก จากผังจะเห็นว่าระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่ เหมือนเอาไว้ใช้วางแอร์คอมเพรสเซอร์และตากผ้ามากกว่าค่ะ ส่วนห้องน้ำก็สามารถเข้าได้จากห้องครัว ตัวห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้โดยการกั้นกระจกสำหรับห้องอาบน้ำค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ บานประตูสีขาว
พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ตัวพื้นระดับเดียวกันกับโถงทางเดิน ไม่มีธรณีกั้นขึ้นมาค่ะ
มือจับก้านโยก ตัวล็อคเป็นลูกบิดและกุญแจไขจากด้านนนอก
ด้านหลังบานประตูมีตัว Stopper ป้องกันประตูกระแทกผนังค่ะ
เข้ามาในห้องส่วนแรกที่เจอจะเป็นส่วนของ Living Room
ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง ตรงกลางห้องนั่งเล่น และทางเดินเชื่อมที่กับครัวค่ะ
โซฟาที่ได้จะเป็นโซฟาขนาดประมาณ 2 ที่นั่ง ขนาดนี้ก็พอดีๆเหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางทีวี ซึ่งเราจะได้ตู้วางทีวีที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษ
ตัวตู้เป็นไม้เนื้อดี มีลิ้นชักและตู้เก็บของอย่างละ 3 ช่อง จุของได้พอสมควรค่ะ
บานตู้เป็น Soft Closed เวลาเปิดปิดจะช่วยลดแรงกระแทกของบานตู้ค่ะ
ระยะห่างระหว่างโซฟาและตู้วางทีวีประมาณ 1.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาดประมาณไม่เกิน 42″ ค่ะ
ติดกับพื้นที่ส่วน Living Room จะเป็นส่วนของห้องนอน
ประตูกั้นห้องนอนกันส่วน Living จะเได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียม
มือจับแบบเซาร่อง มีตัวล็อคจากด้านในห้องนอนเท่านั้น
พื้นห้องนอนปูด้วย ลามิเนต ลายไม้ ตัวรางเลื่อนเป็นบานธรรมดา คือมีรางเลื่อนทั้งด้านบน และที่พื้นแบบนี้ค่ะ
เข้ามาในห้องนอนจะมีช่องแสง 1 จุด
ตัวช่องแสงเป็นชุดหน้าต่างแบบผสม บานฟิกซ์ 4 และบานกระทุ้ง 2 บาน อาจจะช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้ไม่ดีนักเพราะตัวบานกระทุ้งเปิดได้ไม่กว้างเท่าไหร่ค่ะ
เตียงที่ได้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ พร้อมตู้ข้างเตียง
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 50 เซนติเมตร เหลือพอให้เดินไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้พอดีๆค่ะ
ตู้ข้างเตียงที่ได้จะเป็นตู้ไม้แบบสั่งทำ มีช่องเก็บของ 1 ช่อง และลิ้นชักตื้นๆ สำหรับเก็บของเล็กๆน้อยๆอย่างโทรศัพท์ หรือรีโมทแอร์ได้
ฝั่งปลายเตียงจัดวางตู้เสื้อผ้า และตู้เล็กๆไว้ให้
ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นตู้ธรรมดา สีเข้ากับตู้อื่นๆที่สั่งทำมาพิเศษ ด้านในตู้จะมีราวแขวนเสื้อผ้าและมีแบ่งช่องเก็บของด้านล่างไว้ 3 ช่อง จากภาพจะเห็นว่าข้างตู้ยังมีพื้นที่เหลืออีกหน่อย ถ้าใครที่คิดว่าตู้เสื้อผ้าที่ได้มาเล็กไป ก็สามารถขยายให้เป็นตู้ที่ใหญ่ขึ้นได้นะคะ
มือจับตู้เป็นก้านยื่นออกมาแบบนี้ จับสะดวกดีค่ะ
ส่วนตู้ปลายเตียงจะเป็นตู้สั่งทำพิเศษอีกเช่นกัน มีช่องเก็บของ 1 ช่อง และลิ้นชัก 1 ช่อง
ระยะปลายเตียงเหลือแค่พอให้เดินได้แบบพอดี๊พอดี
กลับออกมาที่ส่วน Living ไปดูต่อกันที่ห้องครัวกันค่ะ ครัวที่ได้จะเป็นครัวเปิดแบบนี้ คือไม่มีการกั้นห้องมาให้ ซึ่งถ้าเราเป็นคนไม่ทำอาหารอยู่แล้วก็สามารถจะปล่อยไว้แบบนี้ได้เลย แต่ถ้าเกิดว่าชอบทำอาหารทานบ่อยหน่อยก็แนะนำให้กั้นห้องนะคะ กลิ่นอาหารจะได้ไม่ออกมาติดโซฟาค่ะ
เข้ามาในส่วนครัวจะได้แสงธรรมชาติมาจากประตูบานเลื่อนของระเบียงเพียงจุดเดียวเท่านั้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ในห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์บน ล่าง และโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ส่วนตู้เย็นนี่เราไม่ได้ ต้องไปหามาใส่กันเองนะคะ
ในส่วนของไฟส่องสว่างจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง
เคาน์เตอร์ชุดล่างจะมาพร้อมอ่างล้างจาน มีลิ้นชัก 2 ช่อง และตู้เก็บของใต้อ่างล้างจานอีก 1 ช่อง แต่เตากับไมโครเวฟจะไม่ได้ติดตั้งมาให้นะคะ
ตู้เหนือเคาน์เตอร์เข้าชุดกับตัวเคาน์เตอร์ จะได้เป็นบานเปิดด้านในมีช่งอเก็บของ 3 ช่อง
โต๊ะทางอาหารขนาด 2 ที่นั่งนี้ทางโครงการก็ให้มาด้วยนะคะ วางหันหน้าเข้าหากำแพงทานข้าวแบบเหงาๆตามสไตล์คนเมือง
ให้ดูระยะใช้งานจะเหลือแค่ประมาณ 70 เซนติเมตร ถ้าจะทานอาหารและทำอาหารไปด้วยอาจจะแน่นไปหน่อย คงต้องทำทีละอย่างนะคะ
มาที่ประตูบานเลื่อนไปส่วนระเบียงกันค่ะ บานประตูเป็นบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 2 เซนติเมตร
มือจับแบบเซาะร่อง มีตัวล็อคจากด้านใน
ระเบียงขนาดประมาณ 1.5 เมตร พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้แบบไม่เต็มพื้นที่ ส่วนตำแหน่งสำหรับติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ที่เหมาะสมก็คงไม่พ้นการติดตั้งแบบลอยตัวแบบนี้ค่ะ
วิวจากระเบียงห้องอาคาร B ค่ะ
กลับมาที่ห้องครัว ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแ้งส่วนเปียกให้ชัดเจน
ได้ไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง พร้อมที่ระบายอากาศ
อ่างล้างมือแบบลอยตัวทรงรี ยี่ห้อ Karat และก๊อกน้ำ Englefield
โถสุขภัณฑ์ของ Karat พร้อมสายชำระและ ที่วางกระดาษชำระ ระยะการใช้งานแบบกระทัดรัด
สายชำระหน้าตาธรรมดาๆ ขนาดค่อนข้างเล็ก
ด้านบนโถสุขภัณฑ์จะมีชั้นวางแบบลอยตัวของติดตั้งมาให้แบบนี้
ห้องอาบน้ำแยกออกจากส่วนแห้งด้วยกระจกกั้นอาบน้ำ แบบเปิดผลักเข้าไปในห้องอาบน้ำค่ะ
มือจับด้านนอกเป็นมือจับฉากกั้นแนวนอนที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่นวด้านในเป็นปุ่มยื่นออกมาให้จับแบบนี้ค่ะ
ด้านในห้องอาบน้ำจะมีพื้นที่ส่วนที่เว้าเข้าไป สำหรับเป็นี่นั่งหรือจะเอาไว้วางเครื่องใช้สำหรับห้องน้ำก็ได้ค่ะ
ธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นสูงประมาณ 4 เซนติเมตร ทำให้น้ำในห้องอาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งค่ะ
ด้านหลังบานประตูอาบน้ำจะมีตัว Stopper ติดตั้งไว้ให้ป้องกันการกระแทก
ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.90 x 1 เมตร
ฝักบัว Englefield ขนาดค่อนข้างใหญ่
มาต่อที่ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 61.26 ตารางเมตร ห้องแบบนี้จะมีที่อาคาร C และ D เท่านั้นค่ะ ลักษณะการขายจะขายแบบ Fully Fitted คือได้เฟอร์นิเจอร์หลักๆ คือ เคาน์เตอร์ครัว และชุดเครื่องใช้ในห้องน้ำ ส่วนเฟอร์นิเจอร์อื่นๆที่เราจะเห็นในห้องตัวอย่างจะเป็นแค่แนวทางในการตกแต่งเท่านั้น ซึ่งเราสามารถจัดการพื้นที่ในห้องได้ตามใจเลยค่ะ
สำหรับห้องแบบที่สองนี้เข้าห้องมาเราจะเจอกับส่วนครัวทางซ้ายมือก่อน ที่จะมี Built – in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ไว้ให้ ติดกับพื้นที่ครัวคือส่วน Living Room ต่อเนื่องไปยังส่วนของระเบียงค่ะ
จากส่วน Living Room จะแบ่งออกไปเป็นห้องนอนทางซ้ายและขวา โดยห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว สำหรับใช้เป็นส่วนตัวค่ะ ส่วนห้องนอนรองก็มีขนาดห้องนอนเท่าๆกันกับ Master Bedroom แต่ห้องนอนรองนี้จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับส่วน Living Room ค่ะ โดยห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันนี้จะสามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง คือจากทาง Living Room และจากภายในห้องนอนค่ะ
เปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนทานอาหารและส่วน Living ทั้งห้องจะมีช่องแสงจุดเดียวคือประตูบานเลื่อนที่เชื่อมออกไปยังระเบียงเท่านั้น แต่ก็ถือว่าได้เป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ให้แสงสว่างเพียงพอในตอนกลางวันค่ะ
หันกลับมาดูหลังบานประตูที่เราเปิดมาจากข้างนอกเมื่อสักครู่จะเห็นว่าหลังประตูจะมีตัว Stopper ให้เหมือนห้องที่แล้ว และมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยสำหรับวางตู้รองเท้าได้ค่ะ หรือใครจะ Built เป็นตู้สูงๆหน่อย ไว้สำหรับเก็บรองเท้าและของใช้อย่างพวกร่ม หมวก ก็จะเพิ่มฟังก์ชั่นให้กับพื้นที่ส่วนนี้ได้ดีค่ะ ส่วนประตูบานที่เห็นทางซ้ายมือคือห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างส่วน Living และ ห้องนอนรองค่ะ
เข้าไปดูในห้องน้ำกันก่อน
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลดระดับลงไปประมาณ 4 ซม.
เข้ามาในห้องน้ำ ถ่ายให้ดูลักษณะบานประตูที่เปิดจากส่วน Living ทางซ้าย และ ห้องนอนรองทางขวา
พื้นลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม. ทั้ง 2 ห้องเลยค่ะ
ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ยี่ห้อและลักษณะการจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนกับในห้องที่แล้วค่ะ คืออ่างล้างมือของ Karat ก๊อกน้ำ Englefield, โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ Karat มีชั้นวางของแบบลอยตัวติดไว้ให้เหนือโถสุขภัณฑ์
ส่วนของห้องอาบน้ำมีกระจกกั้นแยกไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วน
ฝักบัวใช้ของ Englefield พร้อมที่วางสบู่และก๊อกน้ำ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 1 เมตร อาบได้สบายๆค่ะ
กลับออกมาที่ส่วนครัวกันต่อ การจัดวางทั้งหมดที่เห็นจะเป็นการจัดวางให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้นนะคะ ของจริงจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวค่ะ
สำหรับห้องจริงที่ได้ จะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L นี้เท่านั้นค่ะ
เคาน์เตอร์ส่วนแรกให้ช่องเก็บของมาค่อนข้างเยอะค่ะ
เคาน์เตอร์อีกด้านจะมีอ่างล้างจานติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ
มาต่อที่ส่วน Living ทางโครงการจัดโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจริงๆดูจากที่โครงการจัดมาให้ ตัวเก้าอี้เดี่ยวที่วางอยู่อาจจะไม่ลงตัวเท่าไหร่ เพราะจะบังทีวีนะคะ
ระยะดูทีวีประมาณ ค่อนข้างกว้างประมาณ 3 เมตรเลยค่ะ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆได้ถึง 50″ – 70″ เลยค่ะ
มาที่ประตูบานเลื่อนไปส่วนระเบียงกันค่ะ บานประตูเป็นบานเลื่อนคู่ บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติพร้อมบานฟิกซ์สำหรับเป็นช่องแสงให้กันห้องอีก 2 บาน
พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม.
ระเบียงของห้องนี้ค่อนข้างยาว แต่ไม่กว้างเท่าไหร่ กว้างประมาณ 90 ซม. สามารถวางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆ ไว้ออกมานั่งจิบวันแดดร่ม อากาศดีๆได้ค่ะ
อีกด้านของระเบียงจะมีการเดินท่อและก๊อกน้ำมาให้เรียบร้อย สำหรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า
กลับเข้ามาด้านใน เราไปดูส่วนของห้องนอนรองกันก่อนค่ะ
พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนต มีตัวจบกั้นเรียบร้อยค่ะ
เข้ามาในห้องนอน หันกลับไปดจะเห็นส่วนที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่เราพาไปดูก่อนหน้านี้แล้วค่ะ
ห้องนอนรองมีช่องแสง 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้ง
เตียงที่วางมาให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ แต่จริงๆถ้าห้องนี้นอน 2 คน เราก็สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้ค่ะ จะได้นอนสบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอสมควร สามารถวางโต๊ะเล็กๆข้างเตียงได้
ฝั่งปลายเตียงก็โล่งๆ วางตู้เตี้ยๆไว้ 1 ตู้
ถ้าหาดเราวางตู้ตามห้องตัวอย่างก็จะเหลือระยะให้พอเดินได้แบบนี้ค่ะ หรือถ้าใครชอบดูทีวีในห้องนอนก็แนะนำให้ติดตั้งแบบแขวนผนังไปนะคะ จะได้ไม่เกะกะพื้นที่สัญจรมากนักค่ะ
อีกด้านของห้องจัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ
ระยะการใช้งานอาจจะดูติดขัดไปสักหน่อย ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้โต๊ะเขียนหนังสือก็แนะนำให้ปล่อยตรงนี้ให้โล่งๆไปดีกว่านะคะ จะได้มีพื้นที่สำหรับเปิดตู้ เลือกเสื้อผ้าค่ะ
ถัดมาเราจะเข้าไปดูส่วนของ Master Bedroom กันบ้างค่ะ
ด้านในห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนรองอยู่หน่อย มีช่องแสงอยู่ 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียม
เตียงที่วางมาให้ดูเป็นเตียงขนาดคิงส์ไซส์
ระยะข้างเตียงเหลือพอให้วางโต๊ะเล็กๆข้างเตียงได้
ปลายเตียงจัดเป็นตู้เก็บของ 1 ตู้ และโต๊ธเครื่องแป้ง 1 ชุด
ระยะการใช้งานที่เหลือหลังวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆลงไป ก็เหลือพอให้เดินได้ค่ะ แต่ระยะการใช้งานโต๊ะเครื่องแป้งค่อนข้างน้อยอาจจะต้องปรับขนาดเก้าอี้ให้ตัวเล็กกว่านี้อีกหน่อย หรือจะเปลี่ยนเป็นเก้าอี้สตูลแบบไม่มีพนักก็ดีค่ะ เวลาที่เราไม่ใช้งานจะได้เลื่อนเก็บไว้ใต้โต๊ะได้นะคะ
อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำส่วนตัวของ Master Bedroom และหน้าห้องน้ำก็จัดวางเป็นตู้เสื้อผ้าให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะการใช้งานตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำเหลือเฟือเลยค่ะ
เราไปดูด้านในห้องน้ำกันบ้าง
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลดระดับลงไปประมาณ 4 เซนติเมตร เหมือนห้องอื่นๆ
ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียก ยี่ห้อและลักษณะการจัดวางสุขภัณฑ์จะเหมือนกับในห้องน้ำห้องอื่นที่เราได้พาไปดูกันมาแล้วค่ะ คืออ่างล้างมือของ Karat ก๊อกน้ำ Englefield, โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ Karat มีชั้นวางของแบบลอยตัวติดไว้ให้เหนือโถสุขภัณฑ์
ส่วนของห้องอาบน้ำมีกระจกกั้นแยกไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วน
ฝักบัวใช้ของ Englefield พร้อมที่วางสบู่และก๊อกน้ำ
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 1 เมตร อาบได้สบายๆค่ะ
ปลั๊กและสวิทช์ไฟใช้ของ Bticino
ราคา (เม.ย.59)
ราคา 1.75 – 8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแบบและขนาดของห้องค่ะ
ค่าส่วนกลาง : 30 บาท/ตร.ม./เดือน (เริ่มเก็บเดือนตุลาคม 2559)
ค่ากองทุน : 300 บาท/ตร.ม.
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Manor สนามบินน้ำ ตั้งอยู่ในเขตนนทบุรี บนถนนสนามบินน้ำ ทำเลในวงกว้างโดยรวมๆยังถือว่าเป็นพื้นที่ ที่กำลังมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีความเจริญเพิ่มขึ้นตามการเข้ามาของรถไฟฟ้าทั้งสายสีม่วงและสายสีชมพู จุดเด่นทำเลนี้คืออยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ได้ประโยชน์จากวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างเยอะ รอบๆโครงการจะติดกับสถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์ที่จะมีพนักงาน ข้าราชการอยู่เยอะ นอกจากนั้นรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบของผู้คนที่อยู่มาก่อน ทำให้บรรยากาศรอบๆโครงการค่อนข้างคึกคักแต่ไม่วุ่นวายเหมือนถนนเส้นหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ มีความอุดมสมบูรณ์พอประมาณ มีร้านอาหาร, ตลาดให้ได้จับจ่ายใช้สอยอยู่ไม่ไกล
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว –การเดินทางเข้าออกโครงการถือว่าค่อนข้างสะดวกสามารถใช้เส้นสนามบินน้ำลัดไปยังถนนเส้นหลักๆอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ที่ใช้ออกไปฝั่งราชพฤกษ์,วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก หรือเข้าเมืองได้ และ ถนนติวานนท์ขึ้นไปปากเกร็ดและแจ้งวัฒนะได้ ซึ่งทุกเส้นทางสามารถเข้าและออกเมืองได้สะดวก เสียอย่างเดียวที่รถจะติดมากหน่อยบนเส้นรัตนาธิเบศร์ช่วงแยกแคราย ยาวไปปจนถึงถนนงามวงศ์วานค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – เรื่องการขนส่งสาธารณะปัจจุบันยังไม่สะดวกเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอพึ่งพาได้ โดยสามารถเรียกรถ Taxi หน้าโครงการ และที่หน้ากระทรวงพาณิชย์จะมีป้ายรถเมล์ ซึ่งจะมีรถเมล์สาย 191 วิ่งจากการเคหะคลองจั่น – กระทรวงพาณิชย์ โดยจะผ่านเส้น ถนนรัตนาธิเบศร์ , ถนนงามวงศ์วาน และถนนวิภาวดีรังสิต
นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีพระนั่งเกล้า โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.65 กม. และสายสีชมพูสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีสนามบินน้ำ โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. ซึ่งทุกสถานีอยู่ค่อนข้างไกลเกินระยะจะเดินถึงแต่ทางโครงการมีรถ Shuttle Bus บริการรับส่งโครงการ – สถานี จึงถือว่ามีความสะดวกพอสมควรเลยค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – การออกแบบโดยรวมของโครงการถือว่าทำออกมาได้ตาม Concept Classic Colonial ดูหรูหรา ส่วนกลางใหญ่และสวยดี แตกต่างจากโครงการโดยรอบที่จะทำออกมาในสไตล์ Modern กันซะส่วนใหญ่ ฟังก์ชั่นภายในถือว่าลงตัวดีค่ะ มีฟังก์ชั่นทุกอย่างครบครันและใช้งานได้ไม่แบบพอดีๆตามขนาดห้อง แต่ห้องแบบ 2 Bed อาจจะยังมีการจัดเฟอร์นิเจอร์ห้องตัวอย่างมาให้ดูยังไม่ค่อยลงตัวนัก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะได้เป็นห้องเปล่ามีเฟอร์นิเจอร์มาให้แค่บางส่วน เราจึงสามารถจัดสรรพื้นที่กันเองได้สบายๆ
ส่วนตัววัสดุให้มาค่อนข้างดีเมื่อเทียบในกลุ่มคอนโดราคาเริ่มต้นล้านกว่าๆ สำหรับรายละเอียด Spec ของที่ได้อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้างบางส่วน ซึ่งต้องสอบถามกับทางโครงการเพิ่มเติมนะคะ ซึ่งตอนนี้จะอัพเดต Spec ให้กันคร่าวๆ คือพื้นห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ และระเบียงเป็นแกรนิตโต้ ส่วนห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนต ไฟในห้องเป็นไฟดาวน์ไลท์ทุกห้อง ส่วนช่องแสงและบานประตูภายในจะได้เป็นบานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติทั้งหมดค่ะ ภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นครบ มีการแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกให้เรียบร้อยด้วยฉากกั้นกระจก สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมี อ่างล้างหน้าKarat, โถสุขภัณฑ์ Karat, ฝักบัวและก๊อกน้ำของ Englefield
สิ่งอำนวยความสะดวก – เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ยูนิตพักอาศัยมีมากถึง 1,848 ส่วนกลางจึงจัดมาให้แบบใหญ่มากตามไปด้วย เป็นไฮไลท์ของโครงการเลยก็ว่าได้ โดยจะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25 x 50 เมตร 2 สระที่ชั้น 1 และชั้น 6, ฟิตเนส 2 จุด, Courtyard ขนาด 27.00 x 14.00 เมตร , สนามบาส, สนามเด็กเล่น ส่วนกลางแปลกๆที่ให้มาก็จะมี Kid’s Room, ห้องปิงปอง, ห้องเกมส์, ห้องสมุด, ห้องสันทนาการ, ห้องโยคะ นอกจากนั้นหน้าโครงการจะมีส่วนของ Community Mall จะมีร้านค้าและร้านอาหารให้บริการกับลูกบ้านในโครงการ
มีที่จอดรถ 48% – 50% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่ากลางๆ เพราะโครงการนี้ถือว่ามีความสะดวกในการใช้รถยนต์ และก็ยังมีความสะดวกในการใชรรถไฟฟ้าด้วยแต่ไม่เด่นมากนัก ส่วนลิฟต์โดยสารของโครงการจะมีอัตราส่วน 154 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลารอลิฟท์สักหน่อยในช่วงเวลาเร่วด่วนอย่างตอนเช้าและตอนเลิกงานค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.25 | ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนสนามบินน้ำ บรรยากาศไม่เงียบเหงาแต่ก็ไม่วุ่นวาย ความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่ใช่ของโครงการก็พอมีตลาดและร้านอาหารใกล้ๆ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.5 | ที่ตั้งโครงการเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ สามารถเดินทางเข้าและออกเมืองได้สะดวก แต่รถจะติดหน่อยช่วงแยกบางแค |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | หน้าโครงการมีป้ายรถเมล์และมีแท็กซี่ผ่านมาเรื่อยๆ ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีชมพูพร้อมใช้งานก็จะสะดวกขึ้นอีกค่ะ |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ไม่อึดอัด วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ออกแบบได้ลงตัวกับสไตล์ของโครงการ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ชั้น 1 และชั้น 6 |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 66,430 บาท/ ตร.ม. เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก ไปถึงรถไฟฟ้าสายอนาคตได้ไม่ลำบาก เหมาะสำหรับคนที่หาคอนโดที่มีสไตล์ที่แตกต่าง ส่วนกลางใหญ่มาก ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีโปรโมชั่นทั้งสำหรับซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.1 | ดี |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-526-8833
Website : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น