EP.138 รีวิว คอนโด นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ Niche Pride Taopoon-Interchange
สวัสดีค่ะผู้อ่าน CONDONAYOO ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดโครงการใหม่ ที่มาพร้อมด้วยส่วนกลางจัดเต็ม น่าจับตามองสุดๆ กับโครงการ Niche Pride เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ จาก เสนาฮันคิว
ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ประชาราษฎร์ สาย 2 ติดสถานีเตาปูน ด้วยระยะเดินจากหน้าโครงการถึงบันไดตัวสถานีเพียงไม่ถึง 1 นาที ซึ่งเป็นสถานี Interchange Station รถไฟฟ้า 2 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ, สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ
นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร และอาคารเพื่อการพาณิชย์ 2 ชั้น 1 อาคาร ยูนิตที่พักอาศัย 742 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 3 – 1 – 64.1 ไร่ แบบห้องเริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 28.00 – 32.00 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.50 ตร.ม. ไปจนถึงแบบ 2 Bedroom ขนาด 49.00 ตร.ม. นะคะ โดยโครงการจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณ เมษายน 2563
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการมีให้ครบครันจัดเต็ม อาทิ Lobby, Mailbox, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดใหญ่ 6.75 x 51.50 เมตร, ฟิตเนสชั้นดาดฟ้า, สวนพักผ่อน และห้องอเนกประสงค์ต่าง ๆ ด้วยนวัตกรรม GEO Fit + My Select อย่างเต็มรูปแบบ และพื้นที่ส่วนกลางพร้อมห้องฟังก์ชั่นต่างๆ แบบ Vertical Facilities จัดเต็ม 30 ชั้น และกล้องวงจรปิดภายในโครงการ และ รปภ.ตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 3.2 ล้านบาท
วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูตัวโครงการกันค่ะว่าเป็นอย่างไร : )
ชื่อโครงการ | นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ Niche Pride Taopoon-Interchange |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เสนา ฮันคิว 1 จำกัด |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3 – 1 – 64.1 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 38 ชั้น |
จำนวนห้อง | 742 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 50% รวมซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ | ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว Service Lift 1 ตัว |
โซน | เตาปูน |
ขนส่งสาธารณะ | ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเตาปูน |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 5, 50, 65, 66, 97 |
ที่ตั้ง | ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. 10800 |
กำหนดการ | เมษายน พ.ศ.2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | เมษายน พ.ศ.2563 |
ราคา | เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้นประมาณ 128,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Niche Pride เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ คอนโด High Rise ใหม่ จาก เสนาฮันคิว ต้นแบบนวัตกรรม GEO Fit + My Select อย่างเต็มรูปแบบ และความอลังการของพื้นที่ส่วนกลางแบบ Vertical Facilities จัดเต็ม 30 ชั้น!! ครั้งแรกในเมืองไทย ที่ให้ความคุ้มค่าที่มากกว่ากับฟังก์ชั่นที่เหนือระดับและตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้อย่างครบถ้วน ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. 10800
พิกัด : 13.805925, 100.532039
โครงการ Niche Pride เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ฝั่งมุ่งหน้าถนนกรุงเทพ – นนทบุรี สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการโดยรวมอยู่ในย่านชุมชนเก่า รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ติดถนน ท่ีเปิดเป็นร้านต่างของชาวบ้านแถวนี้ จึงทำให้บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างคึกคัก ไม่เงียบเหงา แต่ก็ไม่วุ่นวายค่ะ
สำหรับจุดเด่นของโครงการนี้คงจะไม่พ้นทำเลที่เรียกได้ว่าติดรถไฟฟ้า MRT เตาปูน กันเลย ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อหรือสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยจากสถานีเตาปูนนี้จะเชื่อมกับ MRT รถไฟใต้ดิน สถานีใต้ดินบางซื่อ เพียง 1 สถานี ซึ่งจากหน้าโครงการเดินถึงบันไดขึ้นตัวสถานี เพียงไม่ถึง 1 นาที หรือประมาณ 100 เมตร เท่านั้นค่ะ
เนื่องจากสถานีเตาปูนตรงนี้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ คล้ายๆสถานีสยาม เป็นสถานีใหญ่ เพราะจะเป็นตัวเชื่อมกับรถไฟฟ้าที่วิ่งมาจากบางใหญ่เข้าสู่ตัวเมือง ทำให้ตอนนี้และในอนาคต รอบๆสถานีจะมีโครงการคอนโดมิเนียมผุดขึ้นมาอีกเยอะทีเดียวค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นทำเลที่คนไม่มีรถก็เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก มีทางเลือกในการเดินทางหลายทางค่ะ นอกจากรถไฟฟ้าที่เป็นจุดเด่นแล้ว หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ, มีป้ายรถเมล์อยู่ในระยะเดินถึงสบายๆเพียง 40 เมตร มีรถเมล์สาย 5, 50, 65, 66, 97 และยังสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้จากหน้าโครงการ ง่ายๆเลยค่ะ
ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์ ก็สะดวกสบายเช่นกัน ทั้งเข้า-ออกเมือง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดประชาราษฎร์ สาย 2 ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนหลักและถนนย่อยอีกหลายสาย ติดกับถนนกรุงเทพ – นนทบุรี ใกล้แยกเตาปูน และไม่ไกลจากถนนรัชดาภิเษก, ถนนประชาชื่น และทางด่วนศรีรัช, ถนนวงศ์สว่าง วิ่งข้ามสะพานพระราม 7 ไปยังฝั่งธนบุรีได้สะดวก โดยถนนเส้นสำคัญรอบๆโครงการคือ
ถนนประชาชื่น เป็นถนนเส้นยาวที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสาย ตรงไปยังถนนรัชดาภิเษก ถนนประชาราษฏร์สาย 2 ตรงเข้าถนนกำแพงเพชรและพหลโยธินได้สะดวก และเนื่องจากเป็นถนนเส้นยาวจึงเชื่อมตรงไปถึงนนทบุรี ซึ่งถือว่าเป็นถนนเส้นนึงที่นิยมในการเดินทางไปยังนนทบุรีกัน เชื่อมกับถนนสามัคคี, แจ้งวัฒนะ และงามวงศ์วาน
ถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนหลักอีกเส้นตรงไปยังพระราม 7 ได้และตรงเข้าพระราม 9, ลาดพร้าว, สุทธิสาร, อโศก สามารถตรงไปเรื่อยๆจนวิ่งเข้าลาดพร้าวแล้วไปยังรามคำแหง, รามอินทราได้อีก สำหรับถนนเตชะวณิชตรงไปยังพระราม 5 ได้ค่ะดังนั้นจึงเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ตรงเข้าตัวเมือง ไปยังราชวิถี และตรงไปยังเขตพระนครได้เลย
ถนนกำแพงเพชรก็เป็นถนนเส้นยาว ตรงไปเชื่อมกับถนนพหลโยธินซึ่งเป็นถนนหลักที่ปัจจุบันอาจมีบางช่วงเวลาที่ติดขัดเพราะกำลังก่อสร้างทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่เป็นถนนเส้นยาวจึงเชื่อมต่อกับถนนอื่นหลายสาย สามารถตรงไปยังรามอินทรา หรือไปยังจังหวัดนนทบุรีได้ไม่ยาก ถ้าตรงเข้าเมืองกรุงเทพก็จะวิ่งเข้าเส้นรัชดาภิเษก, ลาดพร้าว ไปยังพญาไทและราชเทวีได้
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช โดยจากโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาเข้าเมือง จะมีระยะทางประมาณ 3.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีค่ะ
ในส่วนของจุดลงทางด่วนศรีรัช มาโครงการเป็นระยะทางเพียง 3.7 กม. หรือระยะขับรถประมาณ 8 – 10 นาทีเท่านั้น
ทางด่วนศรีรัชนี้เชื่อมต่อทั้งทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ทำให้คนใช้รถไปไหนมาไหนสะดวกเลยค่ะ แนะนำว่า ถ้าจะออกเมืองไปทางรังสิต นครนายก ในช่วงที่พระราม 9 มีการจราจรหนาแน่น เราสามารถเลี่ยงไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์โดยออกไปลาดพร้าวไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ได้ เช่นเดียวกับทางด่วนเฉลิมมหานครที่สามารถลัดไปขึ้นทางวิภาวดีรังสิตได้เช่นกัน
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ที่ตั้งโครงการติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ถือว่ายังอยู่ในย่านที่พักอาศัย รอบโครงการจะมีอาคารพาณิชย์ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ และกิจการอื่น เช่น อาหาร, ร้านกาแฟ และธนาคาร นอกจากนั้นในระยะเดินไม่เกิน 200 เมตร จะมีทั้งตลาดเตาปูนและศูนย์การค้ามณีพิมาน ถัดไปหน่อยบนเส้นประชาชื่นก็จะมี Tesco Lotus Express
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง โดยรอบที่ตั้งโครงการจะมีสถานที่ราชการ โรงเรียน อาคารสำนักงานมากมาย ทั้งสำนักงานใหญ่ SCG, การประปานครหลวง, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, สถานีตำรวจ เตาปูน ส่วนโรงพยาบาลและโรงเรียนก็ถือว่าไม่ไกล สำหรับห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชอปปิ้งนั้นก็ไปไม่ยาก สามารถไปยังห้าแยกลาดพร้าวซึ่งจะมีทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าวและยูเนี่ยนมอล หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ยังเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรได้สะดวก เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้เลย
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนประดิพัทธ์ ขับตรงไปจนถึงแยกสะพานแดงแล้วเลี้ยวขวา เข้าถนนเตชะวณิช ขับตรงต่อไปขึ้นสะพานวิ่งเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ขับตรงต่อไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นโครงการ Niche Pride เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง ถนนประดิพัทธ์ > แยกสะพานแดง > ถนนเตชะวณิช > ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 > โครงการ Niche Pride เตาปู – อินเตอร์เชนจ์
เริ่มการเดินทางกันบนถนนประดิพัทธ์ ฝั่งมุ่งหน้าสะพานแดง
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ เราจะเห็นป้ายบอกทางขับตรงไปสะพานแดงค่ะ
เมื่อเราขับมาถึงแยกสะพานแดงแล้ว ให้เราเลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนเตชะวณิช และจากแยกนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายก็จะวิ่งเข้าถนนพระราม 5 ค่ะ
เลี้ยวขวามาแล้ว เราเข้าสู่ถนนเตชะวณิช ขับตรงต่อไปมุ่งหน้าสู่ถนนประชาชื่น
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ข้ามสะพานข้ามคลองประปา
ใช้เลนกลาง ขับขึ้นทางยกระดับเพื่อเข้าถนนประชาราษฎร์ สาย 2
ขับตามทางมาเรื่อยๆ เราจะเห็น Tesco Lotus ประชาชื่น ทางขวามือ
ขับลงมาจากทางยกระดับแล้ว เราจะออกสู่ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ขับผ่านแยกประชาชื่น ซึ่งจากแยกนี้จะสามารถใช้มุ่งหน้าไปรัชดาภิเษกและพงษ์เพชรได้
ขับตรงต่อจากทางลงมาประมาณ 500 เมตร จะถึงที่ตั้งโครงการ Niche Pride เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์ ทางซ้ายมือค่ะ
เข้ามาภายในที่ดินโครงการ ปัจจุบันจะมีอาคารสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะเป็นอาคารส่วนพาณิชย์ของโครงการค่ะ
ข้างสำนักงานขายจะมีที่จอดรถรองรับสำหรับผู้เข้าชมโครงการ
เข้ามาภายในสำนักงานขายจะเจอส่วนเคาน์เตอร์ต้อนรับ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมให้ข้อมูลค่ะ
ทางขวามือเป็นห้องตัวอย่าง และห้องน้ำรับรอง
ทางซ้ายมือจะจัดวางโมเดลของภาพรวมโครงการและแบบขยายส่วนกลางให้ชม และมีบันไดขึ้นไปยังห้องตัวอย่างบนชั้น 2
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ.
รอบๆโครงการ
บรรยากาศรอบโครงการ เป็นทำเลที่มีความเป็นชุมชนที่อยู่กันมาแต่เดิม รอบๆเป็นอาคารพาณิชย์ มีทั้งตลาด ร้านขายของชำ ร้านขายทอง มีของกินขายให้เห็นตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ ใกล้ๆจะมี Tesco Lotus อยู่ ร้านอาหารรอบๆก็มีหลายร้าน มีทั้งธนาคารกรุงเทพ และตลาดเตาปูนอยู่ใกล้ๆ
มาเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันค่ะ เริ่มจากด้านหน้าโครงการ จะติดกับถนนประชาราษฎรื สาย 2 ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็นอาคารพาณิชย์ติดถนนตลอดเส้น
ขวามือจากหน้าโครงการ ทางฝั่งตรงข้ามจะมีธ.กรุงเทพ และอาคารพาณิชย์
ติดกับที่ดินโครงการก็จะเป็นอาคารพาณิชย์เช่นกัน
โดยอาคารพาณิชย์ฝั่งนี้จะมีเปิดเป็นร้านตัดเสื้อ 2 – 3 ร้าน
นอกจากนั้นก็จะมีร้านนาฬิกา, คลินิกทันตกรรม ซึ่งเราจะเห็นว่าบรรยากาศร้านจะเป็นแบบเก่า อย่างที่บอกว่าแถวนี้เป็นชุมชนมาก่อนนะคะ
ถัดมาจะมีร้านขายของชำ
จากหน้าโครงการ ทางฝั่งซ้ายมือ จะเป็นฟุตบาทกว้าง เดินสะดวก เชื่อมไปยังรถไฟฟ้า MRT เตาปูน
ระหว่างทางเดินไปยังตัวสถานีจะมีพื้นที่ว่าง ซึ่งจะเป็นพื้นที่ของโครงการในอนาคตค่ะ
เดินจากหน้าโครงการมาไม่ถึง 1 นาทีหรือ ประมาณ 100 เมตร จะถึงบันไดทางขึ้นตัวสถานีแล้วค่ะ
บรรยากาศฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารพาณิชย์เช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและร้านอาหารค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Niche Pride เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 742 ยูนิต และอาคารเพื่อการพาณิชย์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 3 – 1 – 64.1 ไร่
โครงการจากความร่วมมือของ เสนาฮันคิว (เสนาฯ และ ฮันคิว เรียลตี้ หนึ่งในกลุ่มบริษัท Hankyu Hanshin Holding Group ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของญี่ปุ่น) ที่ใช้นวัตกรรม GEO Fit + My Select เน้นการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตัวห้องสามารถเลือกฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในห้องให้ตรงตามความต้องการตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ทั้งแบบ Relax และ Working
ส่วน Highlight จริงๆของโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางแบบ Vertical Facilities จัดเต็ม 30 ชั้น ที่จัดมาให้แตกต่างตามไลฟ์สไตล์ทั้ง 7 แบบ โดยแต่ละหมวดจะเรียกว่า Village แต่ละ Village จะแทรกอยู่ในส่วนพักอาศัยทุก 4 ชั้น ซึ่งจะแบ่งฟังก์ชั่นไว้ตามนี้ค่ะ
นอกจากนั้นยังมีส่วนกลางหลักที่ชั้น 38 ประกอบด้วย Sky Infinity Edge Pool, Sky Fitnessและสวนหย่อม
การออกแบบภาพนอกของตัวอาคารจะทำออกมานิ่งๆ ไม่หวือหวา เรียบๆแต่ดูดี ใช้โทนสีเทาและขาวเป็นหลัก แทรกด้วยโทนสีส้มตัดกับโทนรวมอาคารให้ดูไม่น่าเบื่อ และเน้นพื้นที่บริเวณ Vertical Facilities
ภาพรวมอาคารทางด้านทิศเหนือ ติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 จะเห็นว่าห้องส่วนใหญ่หัวหน้าไปทางทิศเหนือและใต้ค่ะ
ภาพรวมอาคารทางด้านทิศตะวันตก
ภาพรวมอาคารทางด้านทิศใต้
มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ เริ่มกันจากชั้น Master Plan จากถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ผ่านซุ้มประตูทางเข้าโครงการมา จะเจอส่วนอาคารพาณิชย์ ถัดเข้าไปด้านในจะมีที่ดินของโครงการเป็นสวนสาธารณะ หน้าประตูทางเข้าอาคารจะมี Drop off ส่วนที่จอดรถจะเข้าได้จากตัวอาคารทางฝั่งทิศตะวันตก
ภายในอาคารจะผ่านส่วน Lobby เข้าไปยังโถงลิฟท์ มีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัว แยกฝั่งละ 2 ตัว และ Service Lift อีก 1 ตัว
ทางเข้าจากถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เข้าไปจะผ่านอาคารเพื่อการพาณิชย์ ขับเข้าไปจะมีพื้นที่ Dropoff หน้าประตูทางเข้าอาคาร ส่วนที่จอดรถจะต้องวนไปเข้าทางขวามือค่ะ
ด้านหลังเราจะเห็นว่ามีที่ดินเป้นส่วนยื่นออกมาจากที่ดินหลัก ทางโครงการจัดให้เป็นสวนสาธารณะค่ะ
ผังโครงการ ชั้น 8 – 23 จะเป็นชั้นที่เริ่มเป็นส่วนพักอาศัย การวางห้องพักเป็นแบบ Double Corridoor ทั้งชั้นมีทั้งหมด 28 ห้อง ถือว่ามีความหนาแน่นกลางๆ จะเห็นว่ามีส่วน Facilities ที่เป็น Village วางอยู่ตรงข้ามกับโถงลิฟท์ ซึ่งตำแหน่งจะวางไว้ที่ตำแหน่งเดียวกันทุกชั้นค่ะ
ผังโครงการ ชั้น 24 จะมีส่วนพักอาศัยทั้งหมด 21 ห้องและมีสวนหย่อมแบบ Outdoor
โมเดลประกอบส่วนสวนหย่อมบนชั้น 24
ผังโครงการ ชั้น 25 – 37 จะเป็นส่วนพักอาศัยและ Village เหมือนกันทุกชั้น มีห้องพักอาศัยชั้นละ 21 ห้อง ไม่หนาแน่นค่ะ อยู่กันแบบสบายๆ
ผังโครงการ ชั้น 38 เป็นชั้นของส่วนกลางหลัก ขึ้นมาจะเจอ Inginity Edge Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6.75 x 51.50 เมตร สามารถว่ายเพื่ออกกำลังกายกันได้เลยค่ะ ติดกับสระว่ายน้ำเป็นสวนหย่อม พร้อมชุดเก้าอี้นั่งพักผ่อน
ส่วนพื้นที่ Indoor จะเป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ติดกันเป็นห้องน้ำแยก ชาย – หญิง และห้อง Steam
ภาพโมเดลบนชั้น 38 ที่เป็นส่วนกลางหลักโครงการ จะเห็นดีเทลการออกแบบของส่วนสระว่ายน้ำที่มีหน้ากว้างกว่า 5ม เมตร เชื่อมต่ออยู่กับฟิตเนสด้านใน โดนจะมีผนังกระจกกั้น ทำให้สามารถมองจากฟิตเนสออกมาเห็นทั้งวิวเมืองและสระว่ายน้ำ
บรรยากาศในห้อง Party Room ในชั้น 21 – 22 ห้องฝ้าเพดานสูง 2 ชั้น เปิดโล่ง ภายในห้องมีส่วนบาร์เครื่องดื่ม , ชุดโซฟานั่งพักผ่อน และมีส่วน Loft ชั้นบน ให้พื้นที่สังสรรค์ขนาดใหญ่
บรรยากาศภายในส่วน Co – Working Space ในชั้น 29 – 30 ต่อเนื่องกัน 2 ชั้น ได้พื้นที่ทำงานฝ้าเพดานสูงโปร่ง และได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเยอะค่ะ นอกจากนั้นส่วน Co – Working Space ยังมีแทรกอยู่ในชั้น 10, 15, 16, 20, 24 และ 36 คือจะมีอยู่ในทุก Village เลยค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Recreation Games Room มีอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ทั้งโต๊ะพูลและอื่นๆ บรรยากาศการตกแต่งจะใช้สีสดใส
บรรยากาศภายในห้อง Yoga Room ชั้น 13 – 14 ตกแต่งด้วยโทนสีอุ่น ให้บรรยากาศสงบเหมาะกับการเล่นกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบครัน
ภายในห้อง Kid Club ในชั้น 13 – 14 ใน Village 2 เป็น Village ที่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กค่ะ
บรรยากาศภายใน Sky Lounge ชั้น 34 – 35 เป็นห้องพักผ่อนหรือจะเป็นที่พบปะกับเพื่อนของลูกบ้าน
บรรยากาศภายในห้อง Executive Meeting Room จัดชุดโต๊ะนั่งประชุมชุดใหญ่ให้เหมาะกับผู้ที่มีธุรกิจ สามารถใช้นั่งคุยงานได้ค่ะ
ภายในห้อง Mini Theater บรรยากาศจะมืดๆ สบายๆ มีชุดโซฟาและจอทีวีติดตั้งมาให้
บรรยากาศในส่วนกลางหลัก ชั้น 38 กับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Infinity Edge Pool พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ ด้านหลังเป็นห้องออกกำลังกาย
บรรยากาศภายในห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ มองเห็นวิวเมือง
แบบห้อง
แบบห้องภายในโครงการนี้มีหลากหลายแบบค่ะ โดยจะแยกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ตามนี้
ซึ่งภายในห้องแต่ละแบบจะมีมุมที่เราสามารถเลือกฟังก์ชั่นภายในห้องได้ตามไลฟ์สไตล์ของเราเอง โดยจะมีให้เลือกแบบ Relax และ Working ที่จะแตกต่างกันที่เฟอร์นิเจอร์ชุดพิเศษที่ได้ภายในห้อง โดยแบบ Relax จะได้เป็นชุด Sofa Bench สำหรับนั่งพักผ่อน และแบบ Working จะมีชุดโต๊ะทำงานมาให้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับวันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่างกัน 2 แบบนะคะ คือห้องขนาดเล็กสุด A1 และห้องแบบ B4 ขนาด 32.00 ตร.ม.
มาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรก ห้องแบบ A1 Relax เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่ถูกจัดพื้นที่ในห้องนอน ริมหน้าต่างให้เป็นมุมพักผ่อน ซึ่งจุดนี้เราสามารถที่จะเลือกได้ ว่าจะจัดเป็น Relax มุมพักผ่อนเหมือนในห้องตัวอย่าง หรือ Working ที่จะเปลี่ยนโซฟาพักผ่อนเป็นชุดโต๊ะทำงานค่ะ
สำหรับผังในห้องตัวอย่างแบบแรก เมื่อเข้าไปในห้องส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งจะมีตู้เก็บรองเท้า, โซฟา, โต๊ะทานอาหารและชั้นวางทีวีติดตั้งมาให้ ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเช่ือมต่อไปยังห้องนอน, ห้องน้ำและห้องครัว
โดยในมุมที่เชื่อมไปยังห้องครัวและห้องน้ำจะมีโถงเล็กๆแบ่งตรงกลาง มีมุมเก็บของเล็กๆ ฝั่งซ้ายจากโถงเป็นห้องน้ำ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก ส่วนห้องครัวได้เป็นครัวปิด แยกสัดส่วนชัดเจน ภายในห้องครัวติดตั้งเคาน์เตอร์ให้พร้อมใช้งาน
จากห้องครัวจะมีประตูเชื่อมออกไประเบียงด้านนอก ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่ซักล้าง หรือเปิดเพื่อระบายอากาศเพิ่มได้ค่ะ
มาดูของจริงกันเลยค่ะ เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ในห้องมาตรฐานจะได้เป็นบาน HDF ปิดผิวพร้อมทำสี ติดตั้ง Digital Door Lock แบบ 4 ระบบ โดยสามารถใช้ กุญแจ, Password, Key Card และ Bluetooth
พื้นภายในห้องปูด้วยลามิเนต ลายไม้ ติดตั้งตัวจบมาให้เรียบร้อย
เข้ามาภายในห้อง ความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ผนังภายในห้องฉาบเรียบ ทาสี ส่วนแรกภายในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอน ซึ่งจะกั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส ทำให้ภายในห้องนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงภายในห้องนอนด้วยค่ะ
เข้ามาในห้องแล้วมองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าจะเห็นตู้เก็บรองเท้าข้างประตู
ตู้เก็บรองเท้าจะได้เป็นตู้ทรงสูง Built – in จรดฝ้าเพดาน ภายในแบ่งช่องเก็บรองเท้า, เก็บของและแขวนร่มหรือเสื้อคลุมค่ะ
มือจับเป็นแผ่นอลูมิเนียมยื่นออกมาจากบานตู้ และบานพับเป็นแบบ Soft Closed
พื้นที่ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ และทางโครงการจะแถมโซฟาบุผ้ามาให้ด้วย 1 ตัวค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟา ติดกับตู้เก็บรองเท้าจะเป็นชั้นวางทีวี
สำหรับชั้นวางทีวี ตู้ชิ้นล่างจะมีช่องเก็บของและลิ้นชัก 2 ช่อง
ส่วนตู้ลอยด้านบนจะเป็นตู้บานเลื่อน บานเปิดสลับ ใช้เป็นที่โชว์ของได้
ติดกับโซฟา เป็นโต๊ะทานอาหาร 1 ที่นั่ง แบบพับได้
พื้นที่การใช้งานกระทัดรัด เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง
เหนือโต๊ะทานอาหารจะติดตั้งตู้ลอย สำหรับเก็บของ
จากห้องนั่งเล่น จะเชื่อมไปยังห้องนอนทางขวามือ
ประตูห้องนอนได้เป็นบานเลื่อน แบบเปิดสลับ บานกรอบอลูมิเนียมสีน้ำตาล กระจกใส
พื้นภายในห้องนอนเป็นพื้นลามิเนต ลายไม้ ต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่น
ภายในห้องนอนได้รับแสงธรรมชาติมาเต็มๆ จากช่องแสงบานใหญ่ ทำให้ภายในห้องสว่างและดูโปร่งค่ะ
ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องจะสามารถวางเตียงขนาด ควีนไซส์ได้ และทางโครงการก็จะให้เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของด้านล่างมาพร้อมใช้งาน แต่ไม่มีฟูกมาให้นะ
ปลายเตียงติดตั้งช่องสัญญาณทีวีและเต้าเสียบ สามารถติดตั้งทีวีแบบติดผนังได้
พื้นที่เหลือปลายเตียงเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก
มุมพักผ่อนข้างเตียง จัดมาเป็น Day Bed ริมหน้าต่าง สามารถนั่งเอนหลังพักผ่อนได้ หรือถ้าใครเลือกเป็นมุม Working ก็จะได้เป็นชุดโต๊ะทำงานแทนค่ะ
ระยะการใช้งานที่เหลือระหว่างเตียงและ Daybed จะมีระยะเหลือพอให้เดินผ่านได้สะดวก
ช่องแสงภายในห้อง นอกจากจะได้เป็นบานกระจกขนาดใหญ่แล้ว ก็จะมีบานกระทุ้งที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่ง จะติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in มาให้เป็นมาตรฐานทุกห้อง
ตู้เสื้อผ้าจะได้ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร หน้าบานกระจกเงา ภายในแบ่งเป็นช่องแขวนเสื้อผ้าและช่องเก็บของ ส่วนด้านบนเป็นช่องสำหรับเก็บผ้าขนหนูหรือผ้าปูที่นอนค่ะ
ช่องเก็บของด้านล่างจะมีแบ่งเป็นลิ้นชัก 2 ช่อง สำหรับเก็บของอื่นๆ
กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น ติดกับทางฝั่งชั้นวางทีวีจะมีโถงเล็กๆ ที่สามารถทำเป็นมุมตู้เก็บของเพิ่มได้
ฝั่งขวามือจากโถงจะเป็นส่วนห้องห้องครัว
โดยครัวจะได้เป็นครัวปิด ประตูบานเลื่อน เปิดได้เต็มหน้ากว้าง
ภายในห้องครัวจะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวมาครบชุด ได้รับแสงธรรมชาติจากประตูเชื่อมระเบียงภายนอก
ระยะยืนทำครัว พอให้ยืนทำครัวคนเดียวได้สะดวก
ตัวเคาน์เตอร์ครัวจะติดตั้งซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ พื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ครัวเหลือไม่เยอะค่ะ จึงไม่เหมาะที่จะทำครัวแบบจริงจังเท่าไหร่ค่ะ
ซิงค์ล้างจานติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำทรงโค้ง ส่วนเตาไฟฟ้าจะได้ของ MEX แบบ 2 หัว
ด้านล่างเคาน์เตอร์แบ่งเป็นลิ้นชักเก็บของ 4 ช่อง พร้อมช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
ส่วนตู้เก็บของด้านบนจะติดเครื่องดูดควัน MEX แบ่งเป็นช่องเก็บของ 2 ช่อง
ภายในตู้ติดตั้งชั้นคว่ำจานแบบพับเก็บได้มาให้ค่ะ
เหนือพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นก็จะมีตู้เก็บของมาให้อีก 1 ช่อง
จากห้องครัวจะเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก ด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน บานกรอบอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง
ระเบียงภายนอก ติดตั้งราวกันตกเหล็กซี่ พร้อมกริลบังสายตาจากแอร์คอมเพรสเซอร์
ภายนอกระเบียง ติดตั้งก๊อกน้ำและท่อระบายน้ำ
กลับมาดูที่ส่วนของห้องน้ำกันต่อ
พื้นห้องน้ำ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีธรณีก่อสูงเพื่อกันน้ำกระเซ็นออกมาภายนอก
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีขาว ผนังกรุกระเบื้องรอบห้อง ติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด แยกส่วนแห้งส่วนเปียก
อ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างแบบลอยตัว พร้อมก๊อกน้ำ Englefield นอกจากนั้นข้างอ่างยังมีเต้าเสียบพร้อมฝากันน้ำมาให้ด้วยอีก 1 จุด
เหนืออ่างล้างมือติดกระจกเงาบานใหญ่
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ แบบ Dual Flush ยี่ห้อ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
สายชำระหน้าตาโมเดิร์น ขนาดพอดีมือ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำติดตั้ง Shower Box มาให้ บานประตูแบบผลักเข้าด้านใน
มือจับเป็นแท่งยาว สามารถวางผ้าขนหนูได้
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัว Kohler แบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมเครื่องทำน้ำร้อน ขนาดฝักบัวค่อนข้างใหญ่ อาบได้สะใจค่ะ
ด้านหลังฝักบัวมีช่องสำหรับเก็บของ แบ่งมาให้ 3 ชั้น สามารถใช้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้พอสมควร
พื้นที่ห้องอาบน้ำ พอให้ยืนอาบได้สะดวก และมีม้านั่งอาบน้ำติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ
ถัดมาเป็นห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ห้องแบบ B4 Working เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 32.00 ตร.ม. แตกต่างจากห้องแบบที่แล้วคือมีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และมีการจัดแปลนให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยแยกพื้นที่มุม Relax/Working มาไว้ในส่วนของห้องนั่งเล่น ส่วนห้องน้ำจะเข้าได้จากภายในห้องนอนเท่านั้นค่ะ
จากแปลน ส่วนแรกที่เข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องครัว พร้อมโต๊ะทานอาหาร ซึ่งครัวที่ได้จะได้เป็นครัวเปิด ซึ่งถ้าใครต้องการห้องครัวที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็จะต้องกั้นห้องเพิ่มกันเองนะคะ
ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น มีโซฟา ชั้นวางทีวี และมุม Working ที่ติดตั้งโต๊ะทำงานมาให้ ส่วนถ้าเราเลือกเป็น Relax จะได้เป็น Sofa Bench แทนค่ะ
ส่วนห้องนอนจะกั้นแยกจากห้องนั่งเล่น ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างขึ้น และมีห้องน้ำกับระเบียงภายในตัว
มาดูของจริงกันต่อ เมื่อเข้ามาภายในห้อง ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวเปิด ต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นด้านใน
ติดกับประตูทางเข้า จะได้ตู้เก็บรองเท้า ขนาดใหญ่ขึ้น มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น พร้อมพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า
เหนือพื้นที่วางเครื่องซักผ้าจะเป็นตู้ที่มีราวแขวนเพิ่มมาให้
ภาพรวมของห้องครัว ติดตั้งเคาน์เตอร์ชุดใหญ่มาให้ พร้อมโต๊ะทานอาหารแบบพับได้
ชุดเคาน์เตอร์ครัวโดยรวมจะเหมือนห้องแบบที่แล้ว แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เหนือเคาน์เตอร์จะมีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น
รวมถึงได้โต๊ะแบบพับได้ติดตั้งมาให้ด้วย 1 ตัว ซึ่งอาจจะใช้เป็นโต๊ะทานอาหาร หรือเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารก็ได้
ด้านข้างอีกฝั่งมีพื้นที่เก็บของ สามารถเก็บของเล็กๆอย่างเครื่องปรุงหรืออื่นๆ เช่น หนังสือ
ชุดตู้เก็บของด้านบนก็จะมีช่องเก็บของเพิ่มเติมมาด้านข้างด้วย
ถัดจากห้องครัว จะเชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่น และประตูทางขวามือที่เราเห็นจะเป็นห้องนอนค่ะ
เรามาดูภายในส่วนของห้องนั่งเล่นกันก่อน มุมห้องนั่งเล่นโดยรวมดูดีทีเดียวค่ะ ได้ช่องแสงบานใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่ง น่าใช้งานมากขึ้น
พื้นที่สำหรับวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่ง
ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีครบชุด
ริมหน้าต่างเป็นมุม Working ติดตั้งเป็นโต๊ะทำงาน ขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ
ระยะการใช้งานเหลือพอให้ใช้งานได้สะดวก
จากห้องนั่งเล่น เราไปดูในส่วนของห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นกันต่อ
ประตูห้องนอนได้เป็นบานเลื่อนกระจกใส
เข้ามาในห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้างเลยค่ะ
ภายในห้องนอนสว่าง ด้วยช่องแสงที่เป็นประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก
ในห้องมาตรฐานจะได้เตียงขนาดควีนไซส์ แต่ถ้าใครชอบเตียงคิงส์ไซส์ก็สามารถเพิ่มเติมกันเองได้ มีพื้นที่เหลือให้ใช้งานค่ะ
ให้ดูประตูเชื่อมระเบียงภายนอก จะเป็นบานเลื่อนเต็มความกว้างผนัง ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องแบบเต็มๆ ถ้าใครกลัวห้องร้อนก็สามารถติดตั้งม่านกันยูวีเพิ่มได้
พื้นที่ระเบียงภายนอกติดตั้งราวกันตก ส่วนด้านบนมีกริลบังสายตา
อีกฝั่งของห้องติดตั้งตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้าจะได้แบบมาตรฐานเหมือนห้องที่แล้ว
พื้นที่การใช้งานกว้าง ใช้งานได้สบายๆค่ะ
หน้าห้องน้ำจะมีตู้เก็บของเพิ่มมาให้ 1 บาน
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
ภายในห้องน้ำจะได้อุปกรณ์มาครบ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก พร้อมเครื่องทำน้ำร้อน
ระยะการใช้งานส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เหมาะสม
พื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้ง Shower Box ภายในติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower
พื้นที่อาบน้ำ พอให้ยืนอาบได้สะดวก
ราคา (ก.พ. 61)
ขายแบบ Fully Funished: เครื่องปรับอากาศ, ชุดสุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นห้อง, Furniture, พร้อมชุดครัว Built – in Hob&Hood เตาไฟฟ้า
โปรโมชั่น
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Nich Pride เตาปูน อินเตอเชนจ์ เป็นทำเลติดถนนและติดรถไฟฟ้า MRT สถานีเตาปูน ซึ่งเป็น Interchange station ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ และสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ ห่างจาก MRT สถานีใต้ดินบางซื่อในปัจจุบัน เพียงสถานีเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้เพียง 1 สถานี จาก MRT สถานีเตาปูนไปสถานีบางซ่อน ที่ตัวสถานีจะมี Sky Way เชื่อมกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งจะวิ่งไปมาระหว่างบางซื่อ – ตลิ่งชัน และในอนาคตจะเชื่อมต่อไปถึงนครปฐม – ฉะเชิงเทราเลยค่ะ
บรรยากาศรอบโครงการโดยรวมจะมีความเป็นชุมชนเดิม ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง รอบๆมีทั้งร้านขายของชำ, ร้านตัดเสื้อ, คลินิกทันตกรรม และมีตลาดใกล้ๆ เดินไปได้เลย นอกจากนั้นก็ยังมี Tesco Lotus ประชาชื่นไม่ไกล ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง ใช้ชีวิตประจำวันได้สบายๆ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ ตัวโครงการติดถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกค่ะ ขึ้นสะพานพระราม 7 ข้ามไปฝั่งธนฯ หรือจากแยกเตาปูนจะไปย่านธุรกิจอย่างรัชดาภิเษกได้ใช้เวลาไม่นานนอกจากนี้ยังมีทางขึ้นลงทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ตรงแยกโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ด้วย พูดถึงเรื่องรถติด แถวนี้ยังไม่ค่อยติดเท่าไหร่ค่ะ ยังห่างชั้นจากแยกแครายเยอะ จะมีนานๆทีที่ติดบ้างเป็นผลกระทบมาจากรถที่ติดตรงแยกวงศ์สว่างเป็นประจำนั่นเอง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : คนไม่ใช้รถไปไหนมาไหนง่ายมากค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดสถานีเตาปูนเลย เดินเท้าจากหน้าโครงการไปไม่ถึง 1 นาที หรือประมาณ 100 เมตร ก็ถึงบันไดสถานีแล้ว ซึ่งจากตรงนี้เราสามารถนั่งต่อไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินไปเดินเล่นจตุจักรหรือจะต่อ BTS สถานีหมอชิตเข้าเมืองไปสยามกันต่อได้ง่ายๆ ทำให้มันกลายเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าวงแหวนวงเดียวของประเทศไทย ซึ่งเชื่อมหัวกับบางซื่อ ท้ายกับหัวลำโพง วิ่งวนเป็นวงกลม สีน้ำเงินสายใหม่วิ่งบนฟ้า(ช่วงระยะ 5 กม จากเจริญกรุง-ถนนอิสรภาพเป็นใต้ดิน) สีน้ำเงินเก่ามุดลงใต้ดิน
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ติดถนนใหญ่ ประชาราษฎร์ 2 ซึ่งเรียกรถง่ายค่ะ มีทั้ง Taxi และรถเมล์ ถ้ารถติดก็มีพี่วิน ซึ่งวินมอเตอร์ไซค์จะอยู่บริเวณใกล้กับหน้าโครงการ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : การออกแบบโครงการทำออกมาได้น่าสนใจและมีลูกเล่นให้เยอะเลยค่ะ นอกจากจุดเด่นในเรื่องทำเลแล้ว ตัวโครงการยังมีจุดเด่นที่ส่วนกลางและฟังก์ชั่นในห้องที่ร่วมออกแบบและพัฒนากับบ.ฮันคิว ออกมาเป็นส่วนกลางที่แบ่งตามไลฟ์สไตล์ออกเป็น 7 Villages จัดเต็มมาให้ถึง 30 ชั้น และส่วนกลางหลัก และตัวห้องยังสามารถเลือกฟังก์ชั่นให้เหมาะกับตัวเองได้ด้วยแบบ Relax หรือ Working ถือว่าเป็นการลงรายละเอียดที่ยิบย่อยให้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้ดีเลยค่ะ
โครงการขายห้องแบบ Fully Furnished โดยให้ ชุดครัว, ชุดสุขภัณฑ์, โซฟา, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บรองเท้า, โต๊ะทานอาหาร, โต๊ะเอนกประสงค์, ม้านั่งบุผ้า, ตู้เสื้อผ้า, เตียง 5 ฟุต ไม่รวมฟูก, โต๊ะทำงาน/Sofa Bench 1 ชุด ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ Kohler, ก๊อกและอุปกรณ์ต่างๆ ใช้ของ Englefield ในห้องน้ำมีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. พื้นห้องน้ำและห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิค
วัสดุให้มาคุ้มค่ามากเมื่อเทียบรวมทั้งทำเล, การเลือกฟังก์ชั่นในห้องได้ และส่วนกลางขนาดใหญ่ แล้วยังได้ห้องแบบ Fully Furnished อีกค่ะ
ในส่วนของการออกแบบภายในห้องรวมๆแล้วทำออกมาดีตามมาตรฐาน ไม่มีส่วนที่ใช้แล้วรู้สึกติดขัด จุดเด่นจากที่เห็นในห้องตัวอย่างคือช่องแสงขนาดใหญ่ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น (ตามแปลนแต่ละห้อง)
สิ่งอำนวยความสะดวก : แน่นอนว่าเป็นจุดเด่น จุดขายของโครงการนี้เลย เพราะให้มาทุกชั้นพักอาศัย รวมทั้งหมด 30 ชั้น และส่วนกลางหลักอีก 1 ชั้น รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งสายปาร์ตี้และนักธุรกิจ ส่วนกลางหลักก็ได้ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำขนาดที่ว่ายออกกำลังกายได้เลย เรียกว่าเหลือๆกับจำนวน 742 ยูนิตพักอาศัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคำนึงถึงค่าส่วนกลางในอนาคตกันด้วยค่ะ
ส่วนลิฟท์โดยสารมีทั้งหมด 4 ตัว Service Lift 1 ตัว อัตราส่วน 1 : 185 ถือว่าหนาแน่นพอสมควร อาจจะต้องรอลิฟท์นานนิดนึงในช่วงเวลาเร่งด่วน
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.0 | ติดถนนใหญ่ประชาราษฎร์ สาย 2 ติดรถไฟฟ้า MRT เตาปูน ซึ่งเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์รถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ความอุดมสมบูรณ์โดยรวมดี |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.75 | เดินทางสะดวกไปไหนมาไหนง่ายทั้งเข้าเมืองและออกเมือง ไม่ไกลจากทางด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 9.0 | สะดวกมากติดรถไฟฟ้า 100 เมตร ถึงบันไดสถานี มีป้ายรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ใกล้ๆโครงการ |
ห้องและวัสดุ | 8 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว เลือกฟังก์ชั่นได้ 2 แบบ วัสดุอยู่ในระดับดี |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.5 | มีมาให้แบบจัดเต็มสุดๆ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | เริ่มต้นที่ประมาณ 128,000บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลติดรถไฟฟ้า โครงการมีส่วนกลางจัดเต็ม ห้องพักอาศัยเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์และ Fully Furnished แต่ควรคำนึงถึงค่าส่วนกลางในอนาคตด้วยค่ะ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.6 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1775 กด 39
Website : https://www.sena.co.th
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น