คอนโด โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์
Noble Around สุขุมวิท 33 จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์, เอ็มควอเทียร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มสเฟียร์, วิลล่า มาร์เก็ต, สวนเบญจสิริ และ รพ.สุขุมวิท
โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 คอนโด High Rise ใหม่ใจกลางสุขุมวิท มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน คาดว่าแล้วเสร็จปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ Sky pool, Maroon gym & Steam room, สวนพักผ่อน, ระบบ Home Automation, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ Access Card Control, กล้องวงจรปิด และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท*EP.870 รีวิว คอนโด โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 Noble Around Sukhumvit 33
| ชื่อโครงการ | โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 Noble Around Sukhumvit 33 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) / NOBLE |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 1 – 2 – 95.8 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 25 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 268 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 53% (ไม่รวมซ้อนคัน และรวมที่ชาร์ทรถระบบไฟฟ้า 2 คัน) |
| จำนวนลิฟท์ | ลิฟท์โดยสารความเร็วสูง 2 ตัว และ Service Lift 1 ตัว |
| โซน | สุขุมวิท |
| ขนส่งสาธารณะ | รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ |
| รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 2, 2ส , 25, 38ร, 40ร, 48ร, 98ร, 501, 508 และ 511 |
| ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. |
| กำหนดการ | เปิดลงทะเบียนที่สำนักงานตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 2560 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | ตุลาคม 2563 |
| ราคา | เริ่ม 5.5 ล้านบาท* |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | n/a |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน | n/a |
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ |
|
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด : 13.735461, 100.567456
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 (ติดกับที่ดินของ Noble BE33) มีทำเลที่อยู่ในใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท โครงการเข้าซอยมาประมาณ 350 เมตร ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ (ในระยะเดินประมาณ 550 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที) จุดเด่นของทำเลย่านนี้ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมาก พร้อมพงษ์ ซึ่งถือว่าเป็นย่านหรูมาแต่ดั้งแต่เดิม ราคาคอนโดย่านนี้เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับโซนอื่นๆของกรุงเทพแล้ว ก็ถือได้ว่าติดอันดับต้นๆของที่อยู่อาศัยราคาแพงของกรุงเทพเลยล่ะค่ะ จึงไม่แปลกที่จะมีคอนโดระดับ Luxury ผุดขึ้นมาหลายโครงการ อย่างของ Noble เอง ในซอยก็จะมีโครงการรุ่นพี่คือ Noble BE33 ที่จะมีค่าตัวสูงกว่า จึงได้มีตัว Around ที่จะมีค่าตัวที่จับต้องได้มากขึ้น เน้นกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นมาเพื่อให้เป็นอีกตัวเลือกค่ะ
สำหรับสภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆโครงการ ภายในซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 – 5 ชั้น และ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เป็นส่วนมาก ช่วงต้นซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ มีร้านนวด ร้านอาหารญี่ปุ่น มี 7-11 และ Family Mart โดยบรรยากาศช่วงต้นซอยจะค่อนข้างคึกคักในช่วงเช้าและช่วงเย็น ส่วนช่วงกลางซอยหรือตั้งแต่ช่วงโครงการเป็นต้นไปจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย เช่น อพาร์ทเม้นท์ จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบกว่าช่วงต้นซอยเยอะค่ะ
เนื่องจากเป็นทำเลกลางเมืองแบบนี้การเดินทางจึงสะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้าค่ะ เริ่มจากการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวของโครงการนี้นอกจากใช้ถนนสุขุมวิทเส้นหลัก ที่สามารถเชื่อมไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้อีก ทั้งถนนรัชดาภิเษก, ถนนพระราม 1, ถนนอ่อนนุช, ถนนพระราม 4 ยาวไปถึงถนนบางนา – ตราด, อุดมสุข และอื่นๆอีกหลายเส้นทางค่ะ
นอกจากถนนสุขุมวิทแล้วภายในซอยยังมีเส้นทางให้ลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้อีกหลายเส้นทางอย่างซอยพร้อมจิตร และซอยสวัสดีที่สามารถใช้เชื่อมไปซอยย่อยอื่นๆ เช่น ซอยสุขุมวิท 21, ซอยสุขุมวิท 39, ซอยสุขุมวิท 49 ลัดไปออกสุขุมวิทเลี่ยงรถติดได้นิดหน่อย และซอยสุขุมวิท 49/11 เชื่อมไปออกทองหล่อและซอยสุขุมวิท 38/1 ไปออกถนนเพชรบุรี
ส่วนการจราจรบนถนนสุขุมวิท พร้อมพงษ์นั้นก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหนาแน่นมากเนื่องจากเป็นจุดเชื่อมให้คนใช้เดินทางไป-มา ระหว่างถนนสุขุมวิท ถนนพระรามสี่ และถนนเพชรบุรี เพราะฉะนั้นก่อนจะเดินทางก็ต้องวางแผนหาทางหนีทีไล่กันดีๆ โดยรอบๆโครงการจะมีทางด่วนให้เลือกใช้หลายจุดด้วยกัน
ถึงแม้จะเป็นทำเลกลางเมืองที่การเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลยนะ จากที่บอกข้างต้นว่าการจราจรแถวนี้ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้บางทีที่อยากจะออกนอกเมืองก็อยากจะหาทางเลี่ยงรถติดอย่างการใช้ทางด่วนบ้าง ซึ่งจุดขึ้นทางด่วนรอบๆก็มีให้เลือกมากมายค่ะ แต่ข้อเสียคือเข้าถึงค่อนข้างยากหน่อย ด้วยระยะทางอาจจะดูไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ถ้าต้องฝ่ารถติดไปขึ้นนี่ก็เสียเวลาพอสมควรเหมือนกันค่ะ
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งขาออก ขึ้นไปดอนเมือง รังสิตได้ค่ะ โดยระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 -25 นาที
มีจุดขึ้นทางด่วนฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือแล้วก็ต้องมีเส้นที่ลงทิศใต้บ้าง โดยเส้นทางนี้จะสามารถไปบางนา, พระราม 3 ได้ มีระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 – 25 นาที
นอกจากนั้นก็ยังมีทางด่วนอีกเส้นที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการนัก คือทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยจุดขึ้นทางด่วนฝั่งมุ่งหน้าไปทางทิศใต้จะสามารถไปเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าไปบางนาได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 – 20 นาที
และจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือที่สามารถไปเชื่อมกับทางด่วนกาญจนาภิเษกวิ่งยาวไปออกปทุมธานีได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 – 25 นาที
**เวลาที่ใช้ในการเดินทางขึ้นทางด่วนข้างต้นเป็นเพียงการกะเวลาคร่าวๆ ในช่วงเวลาที่รถไม่ติดเพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยเวลาเดินทางตามระยะทางจริง แต่ในเวลาปกติรถอาจจะหนาแน่นกว่านี้ และต้องบวกเวลาเพิ่มไปอีกซึ่งก็ต้องวางแผนกะเวลาเดินทางกันให้ดีๆนะคะ
ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะเข้าซอยมาลึกหน่อยและไม่ได้อยู่ติดติดรถไฟฟ้าซะทีเดียวแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก ระยะประมาณ 650 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่กลางๆ ถ้าขยันหน่อยก็เดินถึงได้ ถ้าจะนั่งรถก็ไม่ไกล
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้มีเพียงพอแน่นอน ที่เป็นจุดหลักในย่านนี้ที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือห้างตระกูล EM ในเครือ The Mall ทั้งห้างเก่าแก่อย่าง The Emporium และห้างใหม่สุดฮอตอย่าง EmQuartier ซึ่งห้างทั้ง 2 แห่งนี้ก็มีระยะห่างจากโครงการแค่ประมาณ 0.8 – 1 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ
นอกจากห้างใหญ่แล้ว ภายในซอยสุขุมวิท 33 จะมีทั้ง Tops Daily ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทางฝั่งต้นซอยนอกจากร้านนวด, ผับ, บาร์แล้วก็จะมีร้านอาหารในเวลากลางวันเปิดอยู่หลายร้านเช่นกัน ทั้งร้านอาหารญ่ปุ่น และร้านอาหารตามสั่งทานง่ายๆก็มีค่ะ และถ้าออกมาตรงปากซอยก็จะมีอาคารสำนักงาน UBC Building II ซึ่งภายในตึกจะมีร้านกาแฟ Starbucks, 7-11 ด้านหน้าอาคารมีธนาคารรองรับธุรกรรมการเงินให้ถึง 2 ธนาคารค่ะ คือ ธนาคารกสิกร และ ธนาคารกรุงไทย และเพราะว่าที่แถวนี้มีชาวต่างชาติเยอะทั้ง 2 ธนาคาร จึงมีจุดแลกเปลี่ยนเงินตปท.ให้ด้วย ปากซอยอีกฝั่งติดถนนสุขุมวิทก็จะมี Family Mart สาขาใหญ่ และร้านอาหาร และร้านขนมมากมายหลายร้านให้เลือกตลอดทาง รวมไปถึง Villa Market
ยาวมาจนถึงซอยสุขุมวิท 33/1 ที่มีชื่อเรียกว่า Japanese Town ซึ่งจะมีร้านอาหาร, ร้านขนม, Fuji Super Market, ร้านขายของเครื่องใช้ รวมไปถึงโรงแรม ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นร้านญี่ปุ่นหมดเลย
ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://www.tourkrung.com/
นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 29 ไร่ ตั้งอยู่ฝั่งสุขุมวิทเลขคู่ สังเกตง่าย ๆ มีทางเข้า-ออก สวนอยู่ตรงทางขึ้น-ลง BTS พร้อมพงษ์ ภายในสวนมีลานกิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สามารถหาเสื่อ ไปนั่ง-นอนปิคนิคกันได้ ไม่เสียสตางค์ มี Jogging Track สำหรับวิ่งออกกำลังกาย พร้อมทั้งมุมของเด็ก จัดเป็นสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นครบครัน
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนสุขุมวิทเข้าซอยทองหล่อ ขับตรงไปประมาณ 1.1 กม. เข้าซอยทองหล่อ 13 ตรงไปจนสุดซอยจะเจอโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เราเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 49 และเข้าซอยสุขุมวิท 49/11 ขับตรงต่อไปเข้าซอยพร้อมจิตร และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 33 (ซอยข้างร้าน Rakuten) ขับตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเห็นสำนักงานขวาอยู่ทางขวามือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ซอยทองหล่อ > ซอยทองหล่อ 13 > ซอยสุขุมวิท 49 > ซอยสุขุมวิท 49/11 > ซอยพร้อมจิตร > ซอยสุขุมวิท 33 > Noble Around Sukhumvit 33
เริ่มการเดินทางกันบนถนนสุขุมวิทฝั่งมุ่งหน้าพระโขนง เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ
เลี้ยวซ้ายเข้ามาอยู่บนซอยทองหล่อ จะมีร้านอาหารให้เลือกทานมากมายหลายร้านตลอดทาง ทั้งกลางวันและกลางคืน
จากปากซอยทองหล่อมาประมาณ 1.1 กม. จะถึงซอยทองหล่อ 13 เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้ามาในซอยจะเป็นซอยที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่ยังคงเป็น 2 เลน วิ่งสวนกัน สภาพแวดล้อมในซอยมีร้านอาหารมากมายหลายร้าน หลายสัญชาติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านญี่ปุ่น โดยจะมี Avenue หลายแห่งด้วยค่ะ อย่างที่แรกที่เราเห็นทางซ้ายมือจะเป็น Seenspace
ถัดมาเป็น J Avenue มีร้านอาหารหลายร้านเช่นกัน
ขับตรงมาจนสุดซอยจะเชื่อมกับซอยสุขุมวิท 49 เราจะเห็นโรงพยาบาล สมิติเวช สุขุมวิท เราเลี้ยวขวาค่ะ
เลี้ยวขวามาเราเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 49 สังเกตป้ายเส้นทางลัดเพชรบุรีทางซ้ายให้เตรียมเลี้ยวเข้าซอยหน้า
เลี้ยวเข้าซอย 49/11
เข้ามาในซอยจะมี Fuji Super
ขับตรงมาจนสุดซอยจะเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 39 เราเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวามาแล้วตรงมาอีกหน่อย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิตร
ภายในซอยพร้อมจิตรก็จะมี Seed มีร้านอาหารภายในหลายร้านเช่นกัน
ขับตรงมาเรื่อยๆให้สังเกตร้าน Rakuten แล้วเราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 33
เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยสุขุมวิท 33 จะเป็นช่วงท้ายซอย ส่วนใหญ่เป็นอพาร์ทเม้นท์และบ้านเดี่ยวค่ะ
ภายในซอยนี้มี Tops Daily เป็นซุปเปอร์ที่ใกล้โครงการที่สุด
ขับตรงต่อมาจนถึงช่วงกลางซอย ให้สังเกตต้นไม้ใหญ่ติดฟุตบาท จะถึงที่ตั้งโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 แล้วค่าา
ทางเข้าสำนักงานขาย ด้านหลังมีที่จอดรถรับรองค่ะ
ภายในสำนักงานขาย ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและไม้สีอ่อน
เข้ามาด้านในจะเจอเคาน์เตอร์ต้อนรับ และส่วนโมเดล
อีกฝั่งจะเป็นที่นั่งรับรองหลายชุดค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
สภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆบริเวณในซอยสุขุมวิท 33 จะเป็นที่ที่มีคนต่างชาติอาศัยอยู่เป็นส่วนมาก เพราะฉะนั้นในซอยจึงมีร้านอาหารรวมไปถึงอพาร์ทเม้นท์หลายแห่ง
โดยจากภาพมุมสูงที่เราถ่ายมาให้ดูนั้นจะเน้นเฉพาะตัวซอยสุขุมวิท 33 เริ่มจากต้นซอย มีอาคารสำนักงาน UBO ซึ่งจะมีหนุ่มสาวออฟฟิศเยอะค่ะ เป็นผลให้ช่วงต้นซอยมีร้านอาหาร ผับ บาร์ค่อนข้างเยอะ โดยจะเปิดอยู่ในอาารพาณิชย์ติดริมถนนซอย นอกจากนั้นก็จะมีโรงแรม ร้านสะดวกซื้อ เรื่อยมาจนเกือบถึงตัวโครงการก็จะเริ่มเป็นโรงแรมและอพาร์ทเม้นท์ และถัดจากโครงการไปทางท้ายซอยก็จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ และบ้านเดี่ยวเกือบหมดค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารแทรกอยู่บ้าง 1 – 2 ร้าน และซุปเปอร์ที่เปิดพ่วงอยู่กับอพาร์ทเม้นท์ บรรยากาศจึงค่อนข้างสงบกว่าช่วงต้นซอยเยอะพอสมควร
ในส่วนของพื้นที่รอบโครงการ
เรามาเดินดูรอบๆโครงการกันสักหน่อย เริ่มจากด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนซอย ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเม้นท์ สูง 8 ชั้น
เราลองไปเดินดูบรรยากาศฝั่งท้ายซอยกันก่อนค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยว
ติดกับโครงการเป็นร้าน Pent 33
ถัดมาอีกหน่อยมีร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารัก
ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเม้นท์ AP Suites สูง 8 ชั้น ด้านล่างมี Tops Daily
ทางฝั่งเดียวกับโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว
ถัดมาอีกหน่อยมีร้านอาหาร ด้านหลังเป็นคอนโด สูง 38 ชั้น
ติดกันเป็นอพาร์ทเม้นท์ 33 Residence
ทางฝั่งเดียวกับโครงการคือ Newland Condominium สูง 7 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Rakuten
สุดซอยสุขุมวิท 33 จะเชื่อมออกมายังซอยพร้อมจิตร
ถ้าออกขวาจะไปซอยสุขุมวิท 49 ไปออกทองหล่อได้ค่ะ
ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเชื่อมกับซอยสวัสดีค่ะ
กลับมาที่ตัวโครงการเราไปดูทางฝั่งต้นซอยกันบ้าง โดยฝั่งตรงข้ามจะมีซอยย่อยอยู่
ภายในซอยมีร้าน Nandha น่านั่งอยู่ 1 ร้าน
พื้นที่ติดโครงการเป็นโครงการรุ่งพี่ Noble BE33
ถัดมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านต่างๆ เช่น ร้านนวด, ร้านอาหาร, ผับ บาร์
มีโรงแรมที่เลิกกิจการไปแล้ว 1 แห่ง
เดินมาอีกหน่อยมี 7-11 ที่ใกล้โครงการที่สุด
ถัดมาจะเห็นว่ามีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารญี่ปุ่น อิตาเลี่ยน และอื่นๆ
ถัดมาเป็นโรงแรม Lotus
และนอกจากร้านอาหารในซอยหลักแล้วยังมีซอยย่อยช่วงหน้าปากซอยที่มีร้านอาหารด้านในให้เลือกอีกหลายร้านเช่นกันค่ะ
มาจนถึงบริเวณปากซอยแล้วจะมีคิวพี่วินอยู่ค่ะ โดยจะมีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 10 บาท
ถึงปากซอยสุขุมวิท 33 เชื่อมออกมายังถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้ามเป็น Dinosaur Park เมื่อย้ายออกไปจะมี EM Sphere มาเปิด
หน้าปากซอยฝั่งขวามือมี Family Mart สาขาใหญ่
ถัดมาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น
ติดปากซอยอีกฝั่งเป็นอาคารสำนักงาน UBO
ภายในอาคารมีร้านกาแฟ ส่วนด้านหน้าอาคารก็มีร้านขนมๆน่ารักๆ
นอกจากนั้นฝั่งติดถนนสุขุมวิทจะมี Villa Market ให้ได้มาเลือกซื้อของใช้ประจำวันกันได้สะดวกเชียวค่ะ
นอกจากร้านอาหารและ Super แล้วก็ยังมีร้านหนังสือ ร้านแว่นตาและอื่นๆ เรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลเลยค่ะ
ถัดมาเราจะพามาชมในซอยใกล้เคียงที่มีชื่อเรียกว่า Japanese Town กันหน่อยนะคะว่าจะมีร้านอะไรบ้าง
เข้าซอยมาจะเร่ิมมีร้านอาหารตั้งแต่ต้นซอยเลยค่ะ ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น
ร้านขนมหวานก็มี ราคาไม่แรงมาก
ร้านทั่วไปก็มีนะ สำหรับชาวออฟฟิศ ทานง่ายๆ
นอกจากนั้นก็มีร้านขายของใช้ราคาถูกคล้ายๆไดโซะ
ร้านหนังสือก็มี
ร้านนวด Bear Hug น่ารักๆ
โซนด้านในจะมี Super ของ Fuji และ UFM
เข้ามาสุดซอยมี Fuji Super ด้านในมีทั้งของสด, ของแห้ง, ของใช้ import มาจากญี่ปุ่นมากมาย ปลาดิบเกรด Sashimi ก็มีขายเป็นชิ้นๆให้มาแล่เองด้วยนะ <3
ออกมาดูบนถนนใหญ่ ถ่ายจากบนสถานี พร้อมพงษ์ ฝั่งขวามือเป็นบันไดเชื่อมลงไปทางฝั่งโครงการ ส่วนทางซ้ายมือจะมีสวนเบญสิริ
ตัวโครงการ
โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 เป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น ยูนิตพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 274 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1 – 2 – 95.8 ไร่ ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้สี Two Tone สีน้ำตาลเข้ม และเทา ตัดด้วยเส้นอลูมิเนียมสีน้ำตาลอ่อน นอกจากจุดเด่นสำคัญคือ ทำเลกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายมากๆแล้ว ยังมีอีกจุดเด่นคือตัวห้องพัก ที่ออกแบบมาได้น่าสนใจใส่ฟังก์ชั่นมาครบ จัดแปลนสวยแม้ในห้องไซส์เล็กสุดในโครงการ ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นแปลนห้องในหัวข้อถัดไปค่ะ
วิวบนชั้น Rooftop จากฝั่งสระว่ายน้ำจะได้วิวเมืองทางทิศตะวันตกมองไปทางฝั่งอโศกค่ะ
วิวทางฝั่งด้านหน้าอาคารหรือทางทิศตะวันออกจะค่อนข้างโล่งในระยะใกล้ ไม่ค่อยมีตึกสูงระยะประชิด
วิวทางฝั่งทิศใต้ จะเห็นทางฝั่งสุขุมวิทและห้าง Emporium และ Emquatier ตึกสูงในระยะใกล้หน่อยจะมีโรงแรมข้างเคียงค่ะ
วิวทางฝั่งทิศตะวันตก จะเห็นตึกสูงไกลๆ
วิวทางฝั่งทิศเหนือจะดูโล่งหน่อย มีตึก Low Rise ในระยะใกล้ ส่วน High Rise ข้างๆก็อยู่ในระยะสายตาแต่ไม่มีผลเท่าไหร่ค่ะ
มาดูในตัวโครงการกันต่อ เริ่มจากโมเดลอาคาร เนื่องจากตัวโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 จะตั้งอยู่บนที่ดินติดกับ Noble BE33 ซึ่งมีความสูงมากกว่า หลายคนจึงอาจจะกังวลเรื่องการบังวิวกันเองของทั้ง 2 อาคาร หรืออาจจะมีห้องที่ได้มุมอับไปแต่ถ้าดูจากตัวโมเดลจะเห็นได้ชัดว่า ฝั่งอาคารด้านที่ติดกับ Noble BE33 จะเป็นเพียงช่องลมบางส่วนเท่านั้น ไม่มีช่องเปิดอื่นในห้องที่จะเปิดออกมาเจอวิวจังๆค่ะ
(Graphic ในภาพเป็นการจัดวางโดยคร่าวเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้น ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ค่ะ)
ยกตัวอย่างชั้นที่เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นมาให้ดูตัวแปลนอาคารฝั่งที่ติดกับ Noble BE33 ค่ะ จะเห็นว่าช่องเปิดมีเพียงเล็กน้อยเป็นช่องลมจากในส่วนห้องน้ำเท่านั้นค่ะ
ด้านหน้าโครงการฝั่งติดถนนซอยสุขุมวิท 33
รูปด้านอาคารฝั่งทิศเหนือจะเห็นการลดระดับขั้นของตัวอาคาร และใช้พื้นที่เป็นสวนพักผ่อนตามลำดับ
รูปด้านอาคารฝั่งด้านหลังหรือทิศตะวันตก
และตัวอาคารฝั่งทิศใต้ ติดกับ Noble BE33 ค่ะ
ตัวผังโครงการชั้น 1 จะเห็นว่ามีทางเข้าออกโครงการเพียงทางเดียวคือจากทางหน้าโครงการ โดยบริเวณหน้าทางเข้าโครงการจะมีป้อมรปภ. (Guard House) ที่จะมีรปภ. ประจำตลอด 24 ชม. เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลัก มีที่จอดรถชั้น 1 อยู่บริเวณด้านข้างโครงการอยู่ประมาณ 9 ช่องจอด และทางขึ้นที่จอดรถจะอยู่ด้านหลังอาคาร โดยจะแยกทางขึ้นที่จอดรถชั้นบน และทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน รวมจำนวนที่จอดรถประมาณ 53% ไม่รวมซ้อนคันค่ะ
ส่วนในตัวอาคารจะมี Lobby ขนาดใหญ่ และมีเคาน์เตอร์สำหรับฝากของ จาก Lobby จะเชื่อมต่อกับโถงลิฟท์ ซึ่งจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อคชั้น และ Service Lift อีก 1 ตัว ด้านหลังโถงลิฟท์จะติดกับ ห้อง Mail Room
มาดูตัวโมเดลกันบ้างจะได้เห็นภาพชัดขึ้น เริ่มจากหน้าโครงการจะมีป้อมรปภ. ประจำอยู่เป็นสัดส่วน
เข้ามาภายในโครงการจะต้องวิ่งรถไปเข้าที่จอดรถด้านหลังอาคาร ส่วนพื้นที่ด้านหน้าอาคารจะมีสวนหย่อมชื่อว่า Escape Garden เป็นพื้นที่รองรับการเข้าถึงจากภายนอก และรองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัย โดยมีต้นไม้ใหญ่ที่คงไว้แต่เดิมเพื่อแสดงถึงความยั่งยืนและความร่มเงา
ส่วนพื้นที่ Drop Off ผู้โดยสารจะอยู่ในร่ม ไม่ต้องกลัวเปียกฝนค่ะ
ภาพจำลองด้านหน้าโครงการก็จะออกมาเป็นแบบนี้ ขาวๆ หรูนิดๆ สะอาดตา
ชั้น 4 จะเริ่มเป็นยูนิตพักอาศัย และมีส่วนกลางอยู่ด้านบนของตัวทาวน์เวอร์ที่จอดรถ โดยที่ชั้นนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็น Forest Valley สวนพักผ่อนและทำกิจกรรมที่มีการเล่นระดับและแสงเงาของต้นไม้ทำให้ได้มุมการใช้งานที่แตกต่างกัน พร้อม Terrace บริเวณทางเชื่อมเข้าส่วนพักอาศัย และห้อง Laundry
ในส่วนของห้องพักอาศัยชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom และมีห้อง 2 Bedrooms ทั้งหมด 3 ห้อง โดยจะตั้งอยู่เป็นห้องมุมทิศเหนือ, ทิศใต้และทิศตะวันออกค่ะ
ส่วน Forest Valley ในโมเดลจะเห็นการจัดฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายทั้งส่วนสวนร่มรื่นและที่นั่งพักผ่อนและชุดโต๊ะนั่งทำกิจกรรม
มีการเล่นระดับพื้นเหมือนเนินเขาทำให้ได้บรรยากาศที่แตกต่างจากสวนธรรมดาๆ
ภาพจำลองบรรยากาศร่มรื่นภายในสวน
ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Lobby ที่ถึงจะไม่ได้เน้นโถงสูงแต่เน้นการใช้งานได้จริงและลดค่า Maintenance ในอนาคต ส่วนการตกแต่งจะให้ความแตกต่างด้วยสไตล์ที่เน้นความ Contrast ทั้งเส้นสายโค้ง/ตรง รวมถึงการใช้สีที่แตกต่าง เช่นการใช้พื้นเป็นลายตาราง และผนังเป็นหินสีแดง ส่วนไฟใช้โคมดวงกลมใหญ่ ให้บรรยากาศ Retro เบาๆ
ผังอาคารชั้น 5 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น โดยจะมีห้อง 2 Bedrooms ทั้งหมด 3 ห้อง และมีส่วนกลางคือห้อง Storage
ผังอาคารชั้น 6-12 จะเป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นค่ะ
ผังอาคารชั้น 14 ครึ่งนึงจะของชั้นจะเป็นส่วนกลางโดยจะมี Party Lounge กึ่ง Outdoor ที่เชื่อมเข้าส่วน Part Deck ได้ มีฟังก์ชั่นเสมือนห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถเป็นได้ทั้งห้อง Living – Dining – Library และ Party Hill เป็นสวน Outdoor ขนาดใหญ่ มีการเล่นระดับเป็นเนิน เหมือน Hill ทำให้ได้ที่ค่อยๆเปิดโล่งเห็นวิวเมือง ส่วนนี้จะรองรับการทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม เช่น จัดปาร์ตี้ BBQ เป็นต้น
มาดูส่วน Party Hill ด้านนอกกันชัดๆ จะเห็นว่ามีการเล่นระดับเหมือน Hill เล็กๆ ดูแปลกตาดี และน่าจะได้ประสบการณ์ใช้งานที่แปลกใหม่ดีค่ะ
บรรยากาศภายใน Party Lounge แยกส่วน Dining และ Living ตกแต่งด้วยโทนสีเขียว มีช่องเปิดสูงโปร่ง
ผังอาคารชั้น 15 – 20 ส่วนยูนิตพักอาศัยด้านหน้าจะถูกลกทอนไปตามรูปทรงอาคาร ชั้นนี้จะมียูนิตทั้งหมด 13 ห้อง/Floor ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะเหลือชั้นละ 2 ห้องค่ะ
ผังอาคารชั้น 21 จะมียูนิตต่อชั้นน้อยลงเหลือ 9 ห้องเท่านั้น และมีห้อง 2 Bedrooms เหลือเพียง 1 ห้องค่ะ
ผังอาคารชั้น 22 จะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มเข้ามาคือ Napping Valley มีดีเทลสลับกับสวนที่ชั้น 14 โดยสวนบนชั้นนี้จะเหมือนการเดินลงจาก Hill แทนค่ะและมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนแยกเป็นจุดๆ เป็นสัดส่วนดีค่ะ
ดูในตัวโมเดลจะเห็นการเล่นระดับที่ชัดเจนขึ้น ดูร่มรื่นค่ะ
ผังอาคารชั้น 23 – 24 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น มีทั้งหมด 9 ยูนิต และมี 2 Bedrooms 2 ห้องค่ะ
ผังอาคารชั้น 25 เป็น Facility หลักทั้งชั้น โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ Outdoor คือ Sky Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool ยาว 21 เมตร พร้อมสวนพักผ่อนและ Pool Terrace รอบสระ ส่วนพื้นที่ Indoor จะมี Maroon Gym ห้องออกกำลังกายวิวเมือง
ส่วน Facility บนชั้น 25 มีทั้งสระว่ายน้ำแนวยาว วิวเมืองพร้อม Terrace และเตียงริมสระ
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำและสวนภายนอก ตัวอาคารตกแต่งด้วยหินสีแดงสวยแปลกตา
บรรยากาศภายใน Sky Gym ใช้ผนังที่มี Reflect ทำให้ห้องดูสวยหรู ส่วนบนฝ้าเพดานยังมีการใช้เส้นโค้งในการตกแต่งเพื่อให้เข้ากับ Concept การออกแบบโดยรวม
แบบห้อง
จุดเด่นหลักอีกอย่างของโครงการนี้คือการวางผังในแต่ละห้องค่ะ โดยทางโครงการจะขายแบบ Fully Fitted มี Built – in ชุดเคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood Top หินสังเคราะห์ , ตู้เสื้อผ้า, Home Automation และสำคัญคือห้องน้ำจัดเต็มมาให้ตามแบบห้องตัวอย่างเป๊ะๆและใช้กระจก Low – E ที่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดแต่ยังให้แสงสว่างส่องเข้ามาได้เต็มที่ค่ะ
ส่วนผังห้องจะเน้นการจัดแปลนมาให้โปร่ง และได้ฟังก์ชั่นครบ ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นในห้องตัวอย่างค่ะ
สำหรับแบบห้องในโครงการหลักๆจะมี 2 แบบคือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom แต่มีหลายขนาดค่ะ โดยเฉพาะตัวห้อง 1 Bedroom จะแบ่งเป็น Type ย่อยๆ ตามขนาด ดังนี้
ห้องตัวอย่าง
เริ่มจากห้องตัวอย่างแบบเล็กสุดในโครงการ Type A ขนาด 27 ตร.ม. เมื่อเข้าไปในตัวห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องครัวและห้องทานอาหารแนกให้เป็นสัดส่วน ถัดไปจะเป็นประตูบานเลื่อนกั้นเข้าสู่ห้องนอน ซึ่งภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ค่อนกว้าง สามารถที่จะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวีได้ จากห้องนอนจะมี Walk – in Closet พร้อมตู้เสื้อผ้ามาให้ จาก Walk – in Closet เข้าไปจะเป็นส่วนของห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อยค่ะ
เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องวัสดุ บานไม้ HDF ปิดผิวลามิเนตลายไม้
มือจับได้แบบ Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale หรือเทียบเท่า หน้าตาแบบนี้ค่ะ
มองเข้าไปก็จะเจอกับโซนห้องครัวก่อนเลยค่ะ อยู่บริเวณทางเข้าเลย เป็นครัวปิดที่แบ่งพื้นที่กับส่วนทานอาหาร
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้เต็มเซ็ทแบบนี้ค่ะ ทั้งตัวเคาน์เตอร์ Pantry ครัวได้พร้อมตู้ลอยด้านบน Top เป็นหินสังเคราะห์ มี Hob&Hood ให้ด้วย (ไม่มีเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และตู้เย็นให้นะคะ)
Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาวสะอาดตา ติด Backsplash กันสกปรกให้ด้านหลัง เป็นหินสังเคราะห์สีเดียวกับ Top เคาน์เตอร์ค่ะ ตำแหน่งเตาไฟเซรามิกอยู่ตรงกลาง อ่างล้างจานอยู่ซ้ายมือแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ส่วนพื้นที่ด้านซ้ายมือสำหรับวางของให้มาเยอะใช้ได้ค่ะ ซึ่งถือว่าได้เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่พอใช้งานค่ะสำหรับห้องไซส์นี้
อ่างล้างจานสแตนเลสฝังใต้เคาน์เตอร์ ยี่ห้อ Franke หรือเทียบเท่า
เตายี่ห้อ Franke หรือเทียบเท่า หัวเตาแบบเซรามิก 2 หัว
พื้นที่ใต้เคาน์เตอร์สามารถเก็บของได้เยอะดีค่ะ บานเปิดแบบปาดเฉียงด้านบน จับสะดวก และติด Soft Closed กันกระแทก
ส่วนตู้ด้านบนปิดผิวเมลามีนสีขาวสะอาดตา สังเกตระยะตู้เย็นด้านบนสามารถหาตู้ที่ความสูงมากกว่าตู้ Smeg ที่โครงการจัดให้ชม มาวางได้เช่นกันนะคะ
ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารจะถูกจัดอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวพอดีค่ะ ซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำกั้นโซนไว้ ถัดเข้าไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับห้องนอน
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารนี้โครงการจัดมาให้ชมเป็นโซฟาเล็กรูปตัว L ซึ่งข้อดีนอกจากที่ช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งรับประทานอาหารแล้ว ยังทำให้ดูเหมือนเป็นอีก 1 Living Area นึง ที่สามารถมานั่งเอน หรือนั่งทำงานพิมพ์คอมพิวเตอร์ตรงนี้ได้ค่ะ
ภาพมุมมองจากประตูบานเลื่อน มองย้อนกลับไปที่ส่วนรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับห้องครัวและประตูทางเข้าห้องค่ะ ด้านหลังของเก้าอี้โซฟาเป็นผนังกรุแผ่นโพลีคาร์บอเนตโปร่งแสง เพื่อกั้นสายตาเนื่องจากหลังเก้าอี้เป็นตำแหน่งทางเดินเข้าห้องน้ำ ที่เชื่อมต่อกับภายในห้องนอนพอดี การใช้แผ่นโปร่งแสงนี้ทำให้ห้องดูไม่ทึบจนเกินไปค่ะ แต่ในห้องมาตรฐานผนังตรงนี้จะกั้นเป็นผนังทึบมาให้นะคะ
ชมห้องทานอาหารกันไปหมดแล้ว คราวนี้เราจะพาเข้าไปชมที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกันต่อค่ะ ประตูทางเข้าวัสดุอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง สามารถจับที่ขอบบานเพื่อเปิดได้เลย ตัวบานได้เป็นบานใหญ่ สูงจรดฝ้า ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นอีก
เข้าห้องมาแล้วก็จะเจอกับห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่เชื่อมต่อกันทันทีค่ะ จุดเด่นของห้องนี้อยู่ตรงที่ ไม่มีการแบ่งแยกโซน เหมือนอยู่หอพัก แต่มีโซนนั่งเล่นชิลๆอยู่ที่ปลายเตียง ทำให้ห้องนี้สามารถชมวิวได้แบบเต็มๆหน้ากว้าง เนื่องจากได้หน้าต่างแบบ Full Height สูงจรดเพดานมาอีกด้วย ส่วนกระจกอย่างที่บอกว่าได้แบบ Low – E Glass จึงสามารถเปิดรับแสงได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าห้องจะร้อนค่ะ
ส่วนฝ้าเพดานก็จะได้เป็นโคมดาวน์ไลท์ LED ทั้งหมดค่ะ ระบบแอร์ของที่นี่จะใช้เป็นแบบ Ceiling Concealed Type อยู่ที่ฝ้าเพดาน เป็น Grill ติดตั้งอยู่ด้านบน โดยมีระบบเติมอากาศ ทำให้อากาศหมุนเวียนตลอดเวลา
ภาพจากปลายเตียงไปยังหัวเตียงค่ะโครงการวางเตียงขนาด 5 × 5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง
พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมือ 80 เซนติเมตร ขวามือ 45 ซม. พอเดินรอบเตียงได้สะดวกค่ะ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาดเล็ก ได้ 1 ตัว ด้านซ้ายมือ เนื่องจากเป็นไฟท์บังคับเหลือพื้นที่ทางเดินสู่ห้องน้ำ และ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อถึงกันในภาพค่ะ
ส่วน Living Room จะถูกจัดอยู่ที่ปลายเตียง ซึ่งจริงๆหากวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง ขนานกับปลายเตียงเลยก็ได้นะคะ แต่โครงการวางเป็นเก้าอี้ และโต๊ะน้ำชามาให้ชม
จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่หน้าต่างภายในห้องนอนที่ได้ก็จะเป็นบาน Full Height สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานเลย เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเปิดคู่ตรงกลาง
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกพื้นผิวเลียนแบบโมเสก ราวจับระเบียงเป็นโครงเหล็กทาสีน้ำมัน แข็งแรงและค่อนข้างสูงประมาณ 1 เมตรเลย เนื่องจากเป็นอาคารสูงต้องมีระยะเพื่อความปลอดภัย พื้นลดระดับลงประมาณ 10 ซม.
ที่ภายนอกระเบียงมีติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งได้ทำตัวบานตีระแนงเอาไว้ให้ด้วยเพื่อความสวยงามค่ะ
มุมมองจากระเบียงมองเข้ามาภายในห้อง เราจะพาเข้าไปชมภายในส่วน Walk-in Closet ที่อยู่ด้านข้างซ้ายมือของเตียงกันนะคะ
ภายในส่วน Walk – in Closet จะได้เป็นตู้เสื้อผ้า Built – in แบบบานเลื่อน 2 บาน ตามแบบนี้เลยค่ะ โดยการทำตู้เสื้อผ้ากระจกใสข้อดีคือ ทำให้ห้องดูกว้างกว่าบานทึบค่ะ
ลิ้นชักภายในก็เก็บของได้พอสมควรเลยค่ะ
โถงทางเดินสู่ห้องน้ำกว้างประมาณ 80 ซม. พอให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก
ซึ่งห้องน้ำจะเชื่อมต่อกับ Walk-in Closet และห้องนอนเลย เหมาะกับผู้ชอบห้องน้ำที่มีความเป็นส่วนตัว
ธรณีประตูห้องน้ำวัสดุหินสังเคราะห์ค่ะ ถือว่าให้เสปคมาค่อนข้างดี เนื่องจากจุดนี้มักจะเป็นจุดที่สกปรกง่ายเมื่อคอนโดถูกใช้งานผ่านไปหลายปีค่ะ พื้นลดระดับลงจากห้องนอนประมาณ 1 นิ้ว
ภาพแรกเมื่อเข้าไปในห้องน้ำ ก็จะเจอกับโซนอ่างล้างมือเคาน์เตอร์ Build In ค่ะ ซึ่งได้กระจกบานใหญ่สูงทำให้ห้องดูกว้าง ซ่อนหลืบไฟไว้ให้ด้วย ผนังในห้องได้กระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนตามแบบนี้เลยนะคะ
อ่างล้างมือเซรามิกยี่ห้อ Kohler ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดใหญ่ดีค่ะ ติดตั้งอยู่บนท็อปเคาน์เตอร์ วัสดุหินสังเคราะห์ โดยมีปลายอ่างยื่นออกมาประมาณ 15 ซม.
ฝั่งขวามือของอ่างล้างมือจะเป็นจุดติดตั้งโถสุขภัณฑ์ค่ะ พื้นที่ข้างโถระยะมาตรฐานนั่งสบาย โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler หรือเทียบเท่า ดีไซน์โมเดิร์น พร้อมติดตั้งสายชำระ และที่วางกระดาษทิชชู่ไว้สองฝั่งซ้ายและขวามือ
ส่วนโซนอาบน้ำ จะอยู่ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์ค่ะ ติดตั้ง Shower Box กระจกมาให้เรียบร้อย
บานเปิดเป็นแบบบานสวิง มือจับสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ทั้งภายในและภายนอก
สำหรับพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคแบบด้าน กันลื่น ลายหินเข้ากับผนังค่ะ พร้อมทำธรณีแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง สูงขึ้นจากพื้นห้องน้ำปกติประมาณ 5 เซนติเมตร และติดตกแต่งคิ้วสแตนเลสเอาไว้ให้ด้วย
ส่วนโซนอาบน้ำจะได้ชุดฝักบัวแบบ Rain Shower พร้อม หัวฝักบัวสายอ่อนแยกกัน มีโครงปรับระดับความสูง ยี่ห้อ Kohler หรือเทียบเท่า
มาดูต่อกันในห้องขนาด 45.80 ตร.ม. กันต่อ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ที่มีขนาดกว้างมากขึ้น พื้นที่ในห้องสามารถแบ่งฟังก์ชั่นต่างๆได้ชัดเจนขึ้นค่ะ โดยส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่ครัว และห้องทานอาหาร เป็นครัวแบบเปิด ติดกับห้องนั่งเล่น ซึ่งสามารถที่จะกั้นห้องเพิ่มเติมเองได้ไม่ยาก จากห้องนั่งเล่นจะมีระเบียงภายนอก ซึ่งระเบียงจะไม่กว้างเท่าไหร่ เพราะเค้าจัดมาให้เป็นพื้นที่ใช้สอยในห้องเพิ่มขึ้นแล้วนั่นเองค่ะ
ส่วนห้องนอนจะกว้างขึ้น มีพื้นที่วางโต๊ะทำงาน และมีส่วน Walk – in Closet ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเท่านั้นค่ะ
เข้าไปดูในห้องตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ
เปิดเข้าไปในห้องส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ห้องครัวและห้องทานอาหาร เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่น และห้องนอน
แต่หากหันไปทางขวามือ จะเป็นพื้นที่หลังบานประตูในห้องตัวอย่างมี Built – in ตู้เก็บรองเท้าไว้เป็นตู้บานใหญ่ ซึ่งในห้องมาตรฐานจะไม่มีตู้นี้นะคะ แต่จะมีพื้นที่ซึ่งเราสามารถต่อเติมเองได้
จากภาพเมื่อสักครู่นี้ กลับหลังหันก็จะเจอกับภาพนี้ค่ะ เข้าสู่ภายในห้อง โซนรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับห้องครัวด้านหลังโต๊ะทานอาหาร และห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดออกไป
สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่ง แต่จากพื้นที่แล้วใช้เป็น 4 ที่นั่งจะสะดวกในชีวิตประจำวันมากกว่านะคะ
วัสดุเคาน์เตอร์ครัวได้เหมือนกันกับห้องที่แล้วทุกประการ เพิ่มเติมคือตู้ลิ้นชักเก็บของด้านขวามือที่ได้ขนาดใหญ่ขึ้น ตามขนาดห้องค่ะ
ส่วนตู้ลอย Cabinet ก็ให้มาเต็มพื้นที่เช่นเดียวกัน ช่องด้านบนสามารถวางเตาไมโครเวฟได้
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องทานอาหารและห้องครัวเป็นหนึ่งเดียวกันแบบนี้เลยค่ะ ซึ่งหากใครต้องการทำให้เป็นครัวปิด ก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนแยกได้นะคะ ส่วนห้องนอนจะแยกออกเป็นส่วนตัวด้านขวามือ
สำหรับห้องนั่งเล่นนี้จะแยกเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าห้องที่แล้วค่ะ ซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นที่สามารถชมวิวภายนอกอาคารได้โดยตรง และสามารถวางโซฟาได้ขนาด 3-4 ที่นั่ง
ทางโครงการจัดวางโซฟาผ้าขนาด 2-3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ ซึ่งสังเกตว่ายังเหลือพื้นที่ด้านข้างอีกเล็กน้อย หากวางโซฟาตัวยาวจริงๆถึง 4 ที่นั่งก็สามารถวางได้เช่นกัน
ระยะดูทีวีประมาณ 1.6 เมตรค่ะ เหลือพื้นที่ทางเดินออกสู่ระเบียงและวางโต๊ะน้ำชาประมาณ 1 เมตร
ผนังวางทีวีสามารถวางโต๊ะวางทีวีขนาด 35 ซม. ได้หรือแนะนำให้ Built – In เป็นตู้เก็บของลอยก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวสูงของห้องได้มากยิ่งขึ้นค่ะ และทีวีก็สามารถติดเป็นแบบแขวนได้เช่นกัน มีเดินสายอากาศและปลั๊กไฟเอาไว้ที่ผนังให้เรียบร้อย
ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ประตูบานเลื่อนวัสดุอลูมิเนียมสีดำ
พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 55 ซม. เช่นเดียวกับห้องที่แล้วค่ะ
จุดวางคอนเดนเซอร์แอร์ ก็ติดระแนงบังสายตาไว้ให้เช่นกัน
จากห้องนั่งเล่นเข้าไปชมภายในห้องนอนกันนะคะ ประตูห้องนอนที่ได้เป็นบานสวิง HDF
ภาพแรกเมื่อเข้าไปยังห้องนอนค่ะ ห้องนอนนี้จะได้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ มีพื้นท่ีสามารถจัดวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
โครงการวางเตียงขนาด King Size มาให้ชมค่ะ พร้อมตกแต่ง Wallpaper ลายป่าสวยงามเลยทีเดียว
พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 60 cm ค่ะ ไม่สามารถวางโต๊ะปลายเตียงได้ หากต้องการติดทีวี แนะนำให้เป็นทีวีแบบแขวน
ห้องนอนที่เชื่อมต่อกับระเบียงภายนอกเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งนับได้ว่า Unit Type นี้ จะได้ระเบียงแยกเป็นส่วนตัวออกจากกันถึง 2 จุด
พื้นที่ระเบียงของห้องนอนนี้จะกว้างเท่าๆกับห้องนั่งเล่น และติดระแนงให้เช่นเดียวกัน
กลับเข้ามาภายในห้องนอน อีกฝั่งหนึ่งก็จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว และ Walk-in Closet ที่แยกเป็นสัดส่วน
เข้าไปดูในส่วน Walk – in Closet และ ห้องน้ำกันต่อ
จุดติดตั้งแอร์ Ceiling Concealed Type เหนือห้องน้ำ
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ได้จะ Built – in มาเต็มพื้นที่และจุเสื้อผ้าได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ น่าจะหมดห่วงไปได้เลยสำหรับคนที่สมบัติเยอะ โดยลักษณะของตู้เสื้อผ้าแต่ละห้องจะถูกตกแต่งแตกต่างกันไปตามแต่ละ Layout ค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าพอดีก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ ซึ่งหากผู้ที่อยู่ห้องนั่งเล่นในส่วนด้านนอก ก็ต้องเข้ามาใช้ห้องน้ำที่จุดนี้เช่นเดียวกัน
ภาพแรกเมื่อมองเข้าไปภายในห้องน้ำค่ะ ก็จะเจอกับอ่างล้างมือเช่นเดียวกับห้องที่แล้วเลย ชอบที่เคาน์เตอร์อ่างปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อยและฝังในตัวพอดี
ฝั่งขวามือก็จะเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์ สำหรับห้องน้ำนี้ก็จะเชื่อมต่อกับภายนอกอาคารค่ะ ข้อดีคือสามารถระบายอากาศได้โดยตรง
ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นโซนอาบน้ำ ติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อย
พื้นโซนอาบน้ำทำธรณีแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย
ได้ฝักบัวอาบน้ำ Rain shower ยี่ห้อเดียวกันกับห้องที่แล้วค่ะ
และสุดท้ายทุกห้องจะติดตั้ง Home Automation มาให้ ควบคุมระบบไฟและแอร์ ซึ่งเราสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมกันได้เองไม่ยากด้วยค่ะ เพราะมีระบบเดินมาให้แล้ว
ราคา
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 อยู่ในใจกลางเมือง ย่านสุขุมวิท โดยตัวโครงการต้องเข้าซอยมาประมาณ 350 เมตร จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คือ ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ (ในระยะเดินประมาณ 530 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 8 นาที) สภาพแวดล้อมช่วงต้นซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 2 – 5 ชั้น เปิดเป็นร้านนวด ร้านอาหารญี่ปุ่น มี 7-11 และ Family Mart บรรยากาศจะค่อนข้างคึกคักในช่วงเช้าและช่วงเย็น ส่วนช่วงกลางซอยเป็นต้นไปจะเป็นพื้นที่อยู่อาศัย เช่น คอนโดและอพาร์ทเม้นท์ จึงทำให้บรรยากาศเงียบสงบกว่าช่วงต้นซอยเยอะค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ภายในซอยมีทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้หลายเส้นทาง เช่น ซอยพร้อมจิตร และซอยสวัสดีที่สามารถใช้เชื่อมไปซอยย่อยอื่นๆ เช่น ซอยสุขุมวิท 21, ซอยสุขุมวิท 39, ซอยสุขุมวิท 49 ลัดไปออกสุขุมวิทเลี่ยงรถติดได้นิดหน่อย และซอยสุขุมวิท 49/11 เชื่อมไปออกทองหล่อและซอยสุขุมวิท 38/1 ไปออกถนนเพชรบุรี และมีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ไม่ไกล
ส่วนถนนสุขุมวิทเส้นหลักเองก็สามารถใช้เชื่อมไปถนนเส้นอื่นๆได้ ทั้งถนนรัชดาภิเษก, ถนนพระราม 1, ถนนอ่อนนุช, ถนนพระราม 4 ยาวไปถึงถนนบางนา – ตราด, อุดมสุข และอื่นๆอีกหลายเส้นทางค่ะ และเนื่องจากเป็นทำเลกลางเมืองสุดๆ การจราจรจึงหนาแน่นพอตัว ทั้งบนเส้นหลักและในซอยบางช่วง จึงต้องกะเวลาในการเดินทางกันพอสมควรค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สะดวกค่ะ โดยตัวโครงการอยู่ห่างสถานี BTS พร้อมพงษ์ เป็นระยะ 550 เมตร ซึ่งถือว่ากลางๆ พอเดินถึง หรือจะเรียกพี่วินก็มีวิ่งผ่านไปมาหน้าโครงการบ่อยๆค่ะ หรือขาเข้าโครงการจากปากซอย ก็มีพี่วินที่หน้าปากซอยค่ะ นอกจากนั้นจะมีป้ายรถเมล์ 150 เมตร จากหน้าปากซอย ซึ่งจะมีรถเมล์สาย 2, 2ส , 25, 38ร, 40ร, 48ร, 98ร, 501, 508 และ 511 นอกจากนั้นก็สามารถเรียก Taxi หน้าปากซอยได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวอาคารออกแบบมาสไตล์โมเดิร์น ใช้สี Two Tone สีน้ำตาลเข้ม และเทา ตัดด้วยเส้นอลูมิเนียมสีน้ำตาลอ่อนเป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น ยูนิตพักอาศัยทั้งหมด จำนวน 268 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1 – 2 – 95.8 ไร่ ที่จอดรถ 53% ไม่รวมซ้อนคัน (พร้อมที่ชาร์ทรถระบบไฟฟ้า) โดยจะมีที่จอดรถชั้นใต้ดิน 3 ชั้นและบนอาคารอีก 2 ชั้นค่ะ
ห้องในโครงการขายแบบ Fully Fitted ห้องในโครงการจะเน้นแบบ 1 Bedroom ซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนห้อง 2 Bedrooms จะมีแค่ชั้นละ 1 – 3 ห้องเท่านั้น จุดเด่นของห้องในโครงการคือการจัดแปลนในห้องที่ทำออกมาได้ลงตัว จากห้องตัวอย่างที่เห็น แม้แต่ห้องขนาดเล็กสุด ก็ยังสามารถจัดให้มี Walk – in Closet, พื้นที่ครัวและห้องทานอาหารได้ครบ ฟังก์ชั่นห้องโดยรวมครบค่ะ
ส่วนวัสดุได้ของค่อนข้างดี ความสูงฝ้าเพดาน 2.75 เมตร ในห้องได้ Fully Fitted ประตู Digital Door Lock, ชุดเคาน์เตอร์ครัว Hob&Hood Top หินสังเคราะห์, ตู้เสื้อผ้า Built – in, พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูด้วยลามิเนต หนา 10 มม. ผิวสัมผัสเลียนแบบไม้จริง, ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ลายหิน, พื้นระเบียงปูกระเบื้องโมเสค, ไฟได้แบบดาวน์ไลท์ทั้งหมด, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Kohler และได้ Shower Box มาในทุกห้อง, ประตูบานกระจกได้แบบ Full Height และเป็นชนิด Low – E , ติดตั้งแอร์แบบฝังฝ้า และติดตั้งระบบ Home Automation มาให้พร้อมค่ะ
สาธารณูปโภค : ให้มาครบและมี Concept ดีค่ะ โดยจะมี Main Lobby, Mailbox ครบทุกยูนิต โถงลิฟท์ มีลิฟท์ 3 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 2 Service Lift 1 อัตราส่วนยูนิตต่อจำนวนลิฟท์ประมาณ 1 : 137 โดยปกติถือว่าอาจจะแน่นไปหน่อย แต่สำหรับโครงการนี้ใช้ลิฟท์แบบระบบความเร็วสูงจึงน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ค่ะ ที่จอดรถให้มาพอสมควร ประมาณ 53% ไม่รวมซ้อนคัน เป็นที่จอดรถชั้นใต้ดิน 3 ชั้น และบนอาคาร 2 ชั้น และมีที่จอดสำหรับชาร์ทไฟฟ้า 2 คันรวมอยู่ด้วยค่ะ
Facility ถือว่าจัดมาให้กลางๆ แต่ให้พื้นที่สีเขียวมาเยอะและมี Concept ดี โดยจะมีสวนที่ชั้น 1 Escape Garden, สวนที่ชั้น 4 Forest Valley, สวนที่ชั้น 14 Party Hill และสวนที่ชั้น 21-22 Napping Valley ซึ่งจะมีใช้การเล่นระดับของเนินดินร่วมด้วย ทำให้เกิดเป็นมุมการใช้งานที่แปลกใหม่
ส่วนกลางหลักอื่นๆ จะมี Party Lounge ที่ชั้น 14, Sky Pool ยาว 21 เมตร และ Maroon Gym ที่ชั้น Rooftop การตกแต่งจะใช้ความตัดกันของเส้นสาย, สี และ Materials ให้อารมณ์ Retro นิดๆ แต่ยังดูโมเดิร์น น่าสนใจดีค่ะ และเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตแล้ว ส่วนกลางก็มีเพียงพอให้ใช้งานได้ไม่น้อยเกินไปแน่นอนค่ะ
ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย มีป้อมรปภ. หน้าโครงการ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV มีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ใช้ Key Card Access ในการเข้าออกอาคาร, เข้าที่จอดรถ และลิฟท์แบบล็อคชั้นค่ะ
คะแนน
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ในซอยสุขุมวิท 33 ระยะทาง 350 เมตร จากถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS พร้อมพงศ์ ความอุดมสมบูรณ์พร้อมทั้งในระยะเดินและในวงกว้าง ใกล้ The District M มีสวนสาธารณะใกล้ๆ เดินทางสะดวก |
| การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวก มีซอยลัดเลาะ แต่รถจะติดหนักบ้างช่วงเวลาเร่งด่วน |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | หน้าโครงการมีพี่วินและ Taxi ผ่านไปมาตลอด หรือจะเดินจากโครงการประมาณ 550 เมตร จะถึง BTS พร้อมพงศ์ค่ะ |
| ห้องและวัสดุ | 8.5 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว แปลนห้องทำออกมาค่อนข้างดี ขายแบบ Fully Fitted วัสดุ และอุปกรณ์ที่ได้มีคุณภาพดี คุ้ม |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีมาให้เพียงพอและครบครัน ในสไตล์ที่แปลกใหม่ |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | คอนโดทำเลกลางเมือง ในซอยสุขุมวิท 33 เดินทางสะดวก ใกล้ BTS พร้อมพงศ์ มีความอุดมสมบูรณ์และห้างใหญ่ล้อมรอบตัวโครงการออกแบบค่อนข้างหรูดูดี เหมาะกับคนที่ทำงานในเมืองหรือใช้รถไฟฟ้าเป็นการเดินทางหลัก หรือใครที่เคยถูกใจตัว Noble BE33 แต่เกินงบไปหน่อย ก็สามารถมาจับตัว Noble Around ได้ค่ะ |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.16 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-251-5880
Website : https://goo.gl/Uz24dy
แสดงความคิดเห็น