EP.1434 รีวิว คอนโด เพ-ลา วุฒากาศ PE-LA Wutthakat
Written By : Chaya Keawcheychit
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ Condonayoo จะพาทุกท่านไปรีวิวกันที่โครงการ PE : LA วุฒากาศ จาก ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศ ใกล้รถไฟฟ้า BTS วุฒากาศเพียง 180 เมตร ใกล้ตลาดพลู และ เดอะมอลล์ ท่าพระ
เพ-ลา วุฒากาศ เป็นคอนโด High Rise 21 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 1-1-51 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 190 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ Duplex ขนาดเริ่มต้น 33 – 109 ตร.ม. เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีให้ครบครันได้แก่ Panoramic Pool View สระว่ายน้ำชั้น 19, ห้องฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ที่จอดรถ ประมาณ 89 คัน หรือคิดเป็น 50% พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัยด้วยการเข้าออกโครงโครงการระบบ Easy Pass พร้อมกล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | เพ-ลา วุฒากาศ / PE:LA Wutthakat |
เจ้าของโครงการ | ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | 1 Bed / 33 – 54.5 ตร.ม. 2 Bed / 58 – 109 ตร.ม. Duplex / 45.5 – 92 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1 ไร่ 1 งาน 51 ตร.ว. |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 21 ชั้น |
จำนวนห้อง | 190 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | 89 คัน หรือคิดเป็น 50% (ไม่รวมซ้อนคัน) |
โซน | วุฒากาศ, รัชดา-ท่าพระ, ตลาดพลู |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ซอยวุฒากาศ 21 ถนนวุฒากาศ เขตจอมทอง กรุงเทพ |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2559 |
ราคา | เริ่มต้น 3.39 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 67,xxx บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้าและตลาด
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ |
|
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ซอยวุฒากาศ 21 ถนนวุฒากาศ เขตจอมทอง กรุงเทพ
พิกัด : 13.713288, 100.471624
ทำเลที่ตั้งโครงการ คอนโด เพ-ลา วุฒากาศ อยู่บนถนนวุฒากาศ ซึ่งตลอดสองข้างทางจะมีลักษณะเป็นแหล่งพักอาศัยดั้งเดิมของชาวฝั่งธนฯ จำพวกอาคารพาณิชย์และตึกแถว เป็นบรรยากาศดั้งเดิมที่สัมผัสได้ถึงความเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมายาวนาน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถผสมผสานกับความเจริญที่กำลังกระจายออกมาจากตัวเมืองชั้นในเรื่อยๆ โดยสัญลักษณ์ที่เห็นชัดที่สุดคือรถไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าในระยะเดินเท้าได้เพียง 180 เมตร ประกอบกับถนนหนทางที่จากโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญเดินทางได้อย่างสะดวก
อีกหนึ่งเรื่องที่คนฝั่งธนฯ รู้จักกันเป็นอย่างดีคือโครงการนั้นอยู่ใกล้กับตลาดพลู แหล่ง Street Food ชื่อดังที่มีร้านค้าริมทางมากมายให้นักชิมแวะมาหาอะไรใส่ท้องได้ตลอดวันทั้ง เช้า สาย บ่าย เย็น โดยเมนูขึ้นชื่อย่านนี้คงต้องยกให้ กุ๊ยช่าย ตลาดพลู ที่มีให้เลือกอยู่หลายร้านแต่ละร้านจะถ่ายทอดสูตรกันมาอย่างยาวนานจนมีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากนั้นยังมีทั้งข้าวหมูแดงริมทางรถไฟ ร้านไอติมไข่แข็ง ร้านขนมไทย และอีกหลายๆเมนู ที่หากว่าผมร่ายยาวกว่านี้ จากรีวิวคอนโดจะกลายเป็นรีวิวร้านอาหารแทนไปเสียก่อนครับ
ส่วนรายละเอียดต่างๆที่ผมได้เกริ่นไปจะน่าสนใจขนาดไหน เราไปชมกันที่ละส่วนได้เลยครับ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถนนวุฒกาศหน้าโครงการเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนเทอดไทและถนนเอกชัย และมีถนนราชพฤกษ์ที่ตัดผ่านถนนวุฒากาศเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการเดินทาง แต่ทำเลดังกล่าวจะมีข้อจำกัดตรงที่จากโครงการเพ-ลา เราจะไม่สามารถเข้าใข้งานถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมืองไปยังสาทรได้ เพราะฉะนั้นในการเข้าเมืองอาจจะต้องอ้างอิงการใช้งานผ่านถนนเทอดไทเป็นหลัก ซึ่งตรงส่วนนี้ผมจะทำการลงภาพการฟิกแสดงเส้นทางเพิ่มเติมเป็นลำดับถัดไป
แต่หากเป็นส่วนของการมุ่งหน้าขาออก ไม่ว่าจะไปถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนบรมราชชนนี สามารถทำได้อย่างสะดวกเพราะจากโครงการสามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนราชพฤกษ์ และต่อเนื่องไปถนนกัลปพฤกษ์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัดต่างจากการเข้าเมือง
ซึ่งหากมองภาพรวมในส่วนของการเดินทางนั้น ถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกโดยเฉพาะการเดินทางไปยังย่านธุรกิจอย่างสาทร ซึ่งผมสามารถยืนยันได้ว่า หากเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่รถไม่ติด ใช้เวลาประมาณสัก 10 นาทีก็ถึงสาทรแล้วครับ ประกอบกับตรงบริเวณถนนสาทรนั้นเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด การใช้งานทางด่วนศรีรัชดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
การเดินทางเข้าสู่โครงการด้วยถนนเทอดไท การเข้าสู่โครงการนั้นจะมีอยู่ 2 เส้นทางหลัก เส้นทางแรกคือจากถนนเทอดไท โดยในส่วนของการใช้งานเส้นทางนี้นั้น ผมยกตัวอย่างการเริ่มต้นจากบริเวณแยกรัชดา-ท่าพระ สี่แยกใหญ่ที่อยู่บริเวณห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ มุ่งหน้าไปทางฝั่งตลาดพลู-เทอดไท เพื่อเชื่อมต่อสู่ถนนวุฒากาศ ซึ่งเส้นทางนี้ผมมองว่าเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดในการกลับเข้าบ้าน เนื่องจากอีกเส้นทางที่เข้าจากถนนราชพฤกษ์นั้นมีระยะการกลับรถที่ค่อนข้างไกล ซึ่งผมมีภาพเปรียบเทียบในภาพถัดไป
อีกเรื่องที่ผมอยากพูดถึงเกี่ยวกับเส้นทางนี้คือ ณ เวลานี้ (มิ.ย. 2562) มีโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้แยกรัชดา-ท่าพระ แน่นอนว่าช่วงเวลาก่อสร้างนั้นการเดินทางอาจจะได้รับผลกระทบจากช่องทางจราจรที่ลดลง การสัญจรอาจได้รับความไม่สะดวกอยู่บ้าง แต่อย่างที่เราทราบกันดีครับว่าหากอุโมงค์ดังกล่าวสร้างเสร็จแล้ว จะช่วยส่งผลดีต่อภาพรวมในระยะยาวอย่างแน่นอน นั่นรวมถึงลูกบ้านของเพ-ลา ก็จะมีส่วนที่ได้รับประโยชน์ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
การเดินทางสู่โครงการด้วยถนนราชพฤกษ์ แค่มองภาพกราฟิกสามารถเห็นได้ชัดเลยว่า ระยะทางจากแยกรัชดามุ่งหน้าไปกลับรถที่บริเวณแยกสวนเลียบนั้น มีระยะที่ไกลกว่าเส้นทางที่มาจากถนนเทอดไทอย่างชัดเจน แต่ในมุมกลับกันหากเรามาจากฝั่งนอกเมืองอย่างเช่นกัลปพฤกษ์หรือบรมราชชนนี เส้นทางนี้จะสามารถทำให้เรากลับเข้าบ้านได้อย่างสะดวก จึงต้อบอกว่าการเข้าออกโครงการนั้นมีความยืดหยุ่นสูงเข้าออกได้หลายทางตามลักษณะการเดินทาง
จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งไปแจ้งวัฒนะ จุดขึ้นทางด่วนดังกล่าวจะอยู่บริเวณถนนสุรวงศ์ เส้นทางดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะ, พระราม 9 และดินแดง ระยะทางอยู่ที่ 7.2 กม.
จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งไปบางนา จุดขึ้นทางด่วนดังกล่าวจะอยู่บริเวณถนนเจริญราษฎร์ใกล้กับแยกสุรศักดิ์ เส้นทางดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางฝั่งบางนา ระยะทางอยู่ที่ 7.6 กม.
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวเลือกนี้ถือว่าเป็นจุดขายที่สำคัญของโครงการก็ว่าได้ ด้วยการที่โครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ โดยมีระยะทางอยู่ที่ 180 เมตรเท่านั้น เดินแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น โดยในส่วนของการใช้งานนั้น หากเป็นฝั่งเข้าเมืองมุ่งหน้าไปสยาม ที่มีจุด Interchange อยู่ 2 สถานีคือสถานีศาลาแดงที่เปลี่ยนสายไปยังรถไฟใต้ดิน MRT หัวลำโพง-บางซื่อ และสถานีสยามที่เปลี่ยนสายไปยังสายหมอชิต
นอกจากนั้นที่สถานีปลายทาง BTS บางหว้า ในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง-บางแค ที่กำลังจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนกันยายนนี้แล้ว เพิ่มเส้นทางในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากขึ้น
ส่วนตัวเลือกเสริมช่องทางอื่น บนถนนวุฒากาศเองก็มีรถกระป้อสาย 07-24 บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า-บางบอน-วัดนางนอง วิ่งผ่านหน้าโครงการ ช่วงเวลาเดินรถมีผ่านตลอดทั้งวัน โดยรถกระป้อนี้ จะวิ่งไปเขตธนบุรี / ตลาดพลู / BTS วุฒากาศ / วัดนางนอง / วัดไทร / ศาลธนบุรี / วัดสิงห์ / ตลาดปิ่นทอง และ บิ๊กซี อัตราค่าโดยสาร 7 บาท ตลอดสาย
รวมถึงมีรถเมล์ผ่านหน้าโครงการอีก 2 สาย คือ
แผนผังสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ อย่างที่บอกไปว่าจากโครงการมีระยะเดินเท้าเพียงแค่ 180 เมตร โดยประตูทางออกที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ ทางออก 4 ที่มีบันไดเลื่อนขึ้นสถานีได้อย่างสะดวก
ขอบคุณภาพจาก : www.bts.co.th
ความอุดมสมบูรณ์ บนถนนวุฒากาศนั้นเราสามารถหาร้านอาหารได้ตลอดทั้ง 2 ฝั่ง แต่ตัวเลือกอาจมีไม่มากนัก หากเป็นไปได้อยากแนะนำให้ไปเดินเล่นที่บริเวณตลาดพลูที่มีตัวเลือกหลากหลายกว่า ส่วนห้างที่ใกล้ที่สุดมีเดอะมอลล์ ท่าพระ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะอยู่ใกล้โครงการและมีความครบครันดีทีเดียว จากโครงการขับรถเพียงแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปใช้งานก็สะดวก นั่งเพียง 1 สถานี จากวุฒากาศไปลงที่ตลาดพลูเดินต่อหน่อยก็ถึงห้างแล้ว
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
ห้างสรรพสินค้าและตลาด
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
อื่นๆ
::: การเดินทาง :::
สำหรับเส้นทางที่ผมใช้เดินทางไปยังโครงการในวันนี้ผมใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ ขับเลียบไปตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า BTS มุ่งหน้าไปทางแยกต่างระดับสวนเลียบเพื่อกลับรถมายังฝั่งขาเข้า จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนนวุฒากาศ ก็จะถึงตัวโครงการครับ
สรุปการเดินทาง : ถนนราชพฤกษ์ > BTS โพธิ์นิมิตร > แยกรัชดา-ท่าพระ > BTS ตลาดพลู > BTS วุฒากาศ > แยกสวนเลียบ > กลับรถ > ถนนราชพฤกษ์ > ถนนวุฒากาศ > PE-LA วุฒากาศ
เริ่มต้นภาพประกอบการเดินทางจากถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก บริเวณรถไฟฟ้า BTS สถานีโพธิ์นิมิตร
ขับมุ่งหน้าไปตามถนนราชพฤกษ์ตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า BTS
ผ่าน BTS ตลาดพลู
มุ่งหน้าสู่แยกต่างระดับสวนเลียบ
ที่แยกสวนเลียบ เราจะไปทางฝั่งของถนนเทอดไทตามป้ายบอกทางด้านบน
เมื่อถึงบริเวณ BTS วุฒากาศให้เตรียมชิดซ้ายได้เลยครับ
พอผ่าน BTS วุฒากาศมาจะเป็นแยกต่างระดับสวนเลียบ ให้ดูป้ายเทอดไทเป็นหลัก
เทอดไทชิดซ้าย
จากนั้นพอเราเบี่ยงออกซ้ายมาแล้ว จะมีทางแยกอีกครั้งให้เบี่ยวขวาเพื่อขึ้นสะพานไปเทอดไท
พอลงจากสะพานมาก็จะถึงทางเข้าสู่ถนนเทอดไท แต่การไปยังโครงการ เพ-ลา วุฒากาศ นั้นเราจะต้องกลับรถใต้สะพาน
กลับมาที่บริเวณแยกต่างระดับสวนเลียบอีกครั้ง ให้เราเข้าทางหลัก
หลังจากที่เข้าทางหลักมาแล้วให้ชิดซ้ายไปวุฒากาศ
เตรียมลงทางต่างระดับสู่วุฒากาศ ทางลงดังกล่าวจะอยู่ตรงข้ามกับสถานี BTS วุฒากาศ
เมื่อลงมาถึงถนนวุฒากาศแล้ว ให้เลี้ยวซ้ายไปทางฝั่งเทอดไท
พอเลี้ยวซ้ายเมื่อแยกสักครู่นี้ ก็จะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือโดยทันทีครับ
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ องค์ประกอบสองข้างทางของถนนวุฒากาศส่วนใหญ๋จะเป็นบ้านพักอาศัยรูปแบบของอาคารพาณิชย์และตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ตลอดทั้งซอย ทางใต้ของโครงการติดกับซอยวุฒากาศ 21 หากเดินลอดใต้ถนนราชพฤกษ์ไปจะมี 7-11 ที่เป็นสาขาใกล้ที่สุด และบริเวณเลียบถนนราชพฤกษ์มีทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ
หลังจากที่เดินทางมาถึงที่ตั้งโครงการกันแล้ว ผมจะพาเดินดูบรรยากาศถนนด้านหน้าโครงการ และการเดินเท้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศครับ
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนวุฒากาศ องค์ประกอบส่วนใหญ่ของวุฒากาศจะเป็นบ้านพักอาศัยรูปแบบตึกแถว และอาคารพาณิชย์ 2 – 4 ชั้น ตลอดทั้งซอย แต่ด้วยความที่เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้า จึงสามารถเห็นคอนโดใหม่ๆผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ถนนวุฒากาศเป็นถนนขนาด 4 เลน รถวิ่งสวนกันฝั่งละ 2 เลน และด้านหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งผ่าน ทั้งรถประจำทางและรถกระป๊อ
ป้ายรถประจำทางอยู่ด้านหน้าโครงการ คนที่นิยมเดินทางด้วยรถประจำทางจึงได้รับความสะดวกเป็นอย่างมาก
จากหน้าโครงการ มองไปทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นทางเดินเท้าเพื่อไปใช้งานรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศครับ
ทางฝั่งขวาของโครงการตั้งอยู่ติดกับซอยวุฒากาศ 21 ซึ่งด้านในนั้นเป็นซอยตัน
เดินผ่านซอยวุฒากาศ 21 มาประมาณ 50 เมตร ถึงสี่แยกไฟแดง สะพานที่เห็นอยู่ด้านบนคือถนนราชพฤกษ์
ที่แยกดังกล่าวหากตรงไปจะมุ่งหน้าสู่ถนนเอกชัย-จอมทอง หรือถ้าหากเลี้ยวขวจะเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งที่มุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษม-บรมราชชนนี
เดินลอดใต้ถนนราชพฤกษ์มาถึงอีกฝั่ง ตรงจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นบันไดทางขึ้นสถานี
จุดข้ามถนนตรงนี้เป็นทางม้าลายแบบที่มีสัญญาณไฟจราจรชัดเจนสำหรับการสัญจรด้วยเท้า สามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย
รวมระยะทางจากประตูโครงการถึงบันไดสถานีอยู่ที่ระยะทาง 180 เมตร
::: ภายในโครงการ :::
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการกันอีกครั้ง โดยคราวนี้ผมจะพาไปสำรวจด้านในโครงการกันบ้างครับ
ทางเข้าโครงการจะแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ทางซ้ายเป็นทางเข้า และทางขวาเป็นทางออกโครงการ หรือนึกภาพง่ายๆ ก็คือการเดินรถในโครงการนั้นเป็นรูปแบบตามเข็มนาฬิกาครับ
การเข้าออกโครงการนั้นมีระบบ Key Card ที่ใช้รูปแบบการสแกนระยะไกลแบบ Easy Pass เพื่อเปิดไม้กระดก แต่หากเป็นบุคคลภายนอกจะต้องติดต่อขอแลกบัตรกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนจึงสามารถเข้าไปด้านในได้ครับ
หันหลังกลับมองไปยังฝั่งตรงข้ามส่วนที่เป็นทางออก รูปแบบเดียวกันคือสแกน Easy Pass เพื่อเปิดไม้กระดก แต่หากเป็นคนนอกทางรปภ. เขาจะเดินมาแลกบัตรคืนพร้อมเปิดไม้กระดกให้
ในส่วนของการพาชมนั้นพื้นที่นั้น ผมจะพอเดินเหมือนทางเดินรถตามเข็มนาฬิกานะครับ จะได้ไม่สับสน โดยปกติแล้วลูกบ้านพอเปิดไม้กระดกเสร็จก็จะขับเข้าช่องทางด้านใต้อาคาร เพื่อขึ้นสู่ลานจอดรถชั้นบน
ผมขอพาเดินวนรอบนอกก่อน ตัวโครงการออกแบบได้ถูกหลักมาตรฐานสากล ด้วยการเว้นพื้นที่โดยรอบอาคารเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน
ลานจอดรถใต้อาคารอีกจุดหนึ่งตรงนี้เป็นลานจอดชั้น B
เดินวนไปตามถนนรอบอาคารจนมาถึงช่วงด้านหลังอาคาร
ช่องทางเดินรถภายในอาคารด้านขวา คือทางที่เชื่อมต่อมาจากถนนด้านหน้าอาคารที่พอแลกบัตรแล้วผ่านไม้กระดกเข้ามา
ทางลาดขึ้นลานจอดรถชั้นบนอยู่ทางด้านนี้ครับ
ลานจอดรถนั้นจะอยู่ที่ชั้น 1-5 ความกว้างของทางลาดและช่องทางเดินรถกว้าง รถวิ่งสวนกันได้สะดวก
แกนกลางลานจอดรถมีบันไดเชื่อมต่อช่วงระหว่างครึ่งชั้น
แต่ละชั้นจะมีทางเดินเข้าอาคารเชื่อมต่อไปยังบริเวณโถงลิฟต์
กลับมาที่ด้านนอกอาคารกันอีกครั้ง เพื่อไปดูด้านที่เหลือของอาคาร ซึ่งต้องเป็นทางเข้า Lobby อย่างแน่นอน
ที่บริเวณมุมของอาคาร มีพื้นที่จอดรถเสริมได้อีกเล็กน้อย และลานจอดรถจักรยานยนต์แยกโดยเฉพาะ
ถนนฝั่งนี้เป็นถนนด้านหน้า Lobby
ศาลพระพรหม และศาลเจ้าที่ประจำโครงการ ให้ลูกบ้านมีที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ทางเข้า Lobby
ขอเดินผ่าน Lobby ไปอีกนิดนึง
ลานตรงนี้มีเก้าอี้ม้านั่ง ทางโครงการจัดเอาไว้เป็น Smoking Area
ใกล้ๆกันมีประตูทางออกแบบเดินเท้า ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินเท้าเพื่อไปยังรถไฟฟ้า
เดินวนครบรอบจนมาถึงทางออกโครงการ
กลับมาที่บริเวณทางเข้า Lobby กันครับ
ภายใน Lobby ค่อนข้างโปร่งสบายด้วยเพดานที่สูงโปร่ง บวกกับผนังที่ใช้เป็นกระจกขนาดเต็มผนัง 2 ด้าน
ทางเข้าอาคารอยู่ที่มุมด้านใน เชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์
ด้านหน้าทางเข้าโถงลิฟต์มีห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแบ่งแยกชาย-หญิง
ด้านหลังเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังลานจอดรถ
และยังเป็นที่ตั้งของห้องนิติบุคคลด้วยครับ
กลับมาที่บริเวณโถงลิฟต์เพื่อขึ้นชั้นบนไปดูในส่วนของ Facilities หลักกันครับ
ผ่านเข้าออกโถงลิฟต์ต้องแตะคีย์การ์ดทั้งขาเข้าและขาออก
ภายในโถงลิฟต์ใช้งานเป็น Mailbox ไปด้วยในตัว
ลิฟต์โดยสารทางโครงการมีให้ 2 ตัว ยังไม่รวมกับลิฟต์ขนของที่อยู่อีกด้านของอาคารอีก 1 ตัว
ลิฟต์แบบล็อคชั้น ต้องแตะการ์ดก่อนถึงจะกดชั้นได้
จากชั้น 1 ผมจะพาขึ้นมากันที่ชั้น 19 ซึ่งเป็นชั้นที่ตั้ง Facilities หลักได้แก่ สระว่ายน้ำ และฟิตเนส
เนื่องจากว่าชั้น 19 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย แต่ในส่วนของห้องพักอาศัยนั้น จะมีประตูคีย์การ์ดกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อยังคงความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
ทางไปยังส่วนกลางอยู่อีกด้านของโถงทางเดิน
สุดทางเดิน ห้องฟิตเนสอยู่ทางซ้าย ส่วนสระว่ายน้ำอยู่ทางขวา
มาดูกันที่ฝั่งห้องฟิตเนสก่อนครับ เวลาเปิดให้ใช้งาน 7.00 – 22.00 น. อุปกรณ์ที่มีให้เพียงพอต่อการออกกำลังกายให้ครบทุกส่วน
เริ่มจากมุมคาร์ดิโอ มีเครื่องเดินวงรีและจักรยานปั่นอย่างละ 1 เครื่อง และเครื่องสั่นสลายไขมันอีก 1 เครื่อง
ลู่วิ่ง 2 เครื่อง
มุมจากห้องฟิตเนสนี้ สามารถเทควิวจากชั้น 19 ออกไปเป็น City View ถนนที่เห็นทอดยาวอยู่นี้คือถนนราชพฤกษ์
มุมถัดมาจะเป็นส่วนของการสร้างกล้ามเนื้อด้วย แมชชีนบริหารครบส่วน
เครื่องนี้บริหารกล้ามเนื้อขา
ส่วนด้านนี้สามารถบริหารช่วงบนได้ครบส่วนตั้งแต่หน้าอก, ไหล่, หลัง, ขา และท้อง
ส่วนไบเซปไตรเซป มีดัมเบลเป็นอุปกรณ์ในการบริหาร
จากห้องฟิตเนส ข้ามฝั่งไปดูสระว่ายน้ำกันบ้างครับ
ใกล้กับทางเข้าสระว่ายน้ำ ทางซ้ายมือเป็นส่วนชำระล้างก่อนใช้งานสระว่ายน้ำ
จุดล้างตัวและห้องน้ำแยกชายหญิง
ทางไปยังสระว่ายน้ำต้องขึ้นบันไดทางด้านนี้
ก่อนถึงสระว่ายน้ำ ระหว่างทางเป็น Sky Deck
พื้นที่ส่วนนี้เป็นแบบ Semi-outdoor เปิดรับลมเย็นสบาย
มีเก้าอี้ทรงกลมรองรับการนั่งพักผ่อนชมวิว โดยปกติที่นั่งจะมีเบาะวาง แต่เนื่องจากวันที่ผมไปเก็บภาพมีฝนตกลงมาทางโครงการจึงนำไปไว้ด้านในไม่ให้เปียกฝนครับ
มุมมองจาก Sky Deck เทควิวไปซึ่งเป็น City View เปิดโล่งสบายตา ไม่มีตึกสูงในระยะใกล้มาบดบังทัศนียภาพ
เดินผ่าน Sky Deck เข้าไปด้านใน ทางขวาที่เห็นบันไดคือทางขึ้นสู่จุดชมวิวอีกส่วน
ผ่านส่วนที่เป็น Semi-outdoor เข้าสู่สระว่ายน้ำกลางแจ้ง
ช่วงทางลงสระว่ายน้ำมี Pool Terrace สามารถนั่งเล่นนอนเล่นได้ด้วยเตียงแบบ Daybed ที่ทางโครงการจัดวางเอาไว้ให้
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 18 x 6 เมตร สระรูปแบบ Panoramic Pool View ขอบสระ Infinity Edge
สำหรับเจ้าตัวเล็กก็สามารถเล่นสนุกที่สระว่ายน้ำได้เพราะมีแบ่งแยกสระเด็กเอาไว้ให้ต่างหาก
จากบริเวณ Pool Terrace มองขึ้นไปด้านบน เห็นพื้นที่ใช้งานอีกส่วนซึ่งก็คือ Roof Garden
ขึ้นบันไดไปชมด้านบนกันครับ
Roof Garden มีที่นั่งเล่นสำหรับนั่งเล่นรับลมชมวิว
วิวจาก Roof Garden มองออกไปเห็นสถานีรถไฟฟ้าด้านล่างคือ BTS วุฒากาศ
สวนของ Roof Garden อาจจะไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก แต่บริบทสำคัญของพื้นที่แห่งนี้คือเรื่องการเทควิวเป็นหลักครับ
หลังจากที่เดินชมพื้นที่ส่วนกลางกันไปเป็นที่เรียบร้อย ผมจะพาไปดูส่วนต่อไปก็คือห้องตัวอย่างครับ
ห้องตัวอย่างของโครงการตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ครับ
::: แปลนอาคาร :::
Master Plan : ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนวุฒากาศ ผ่านประตูเข้ามาทางเดินรถวนตามเข็มนาฬิกา สำหรับลานจอดรถนั้นอยู่ที่ชั้น 1 – 5 โดยลานจอดรถนั้นจอดได้ 89 คันหรือคิดเป็น 50% ไม่รวมซ้อนคัน Lobby อยู่ทางซ้ายของอาคารเชื่อมต่อสู่โถงลิฟต์ โดยลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว ยังไม่รวมกับลิฟต์ขนของ 1 ตัวที่อยู่มุมซ้ายล่างของอาคาร
ชั้น 6 : เป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งแบบ 1 Bed และ 2 Bed
ชั้น 7-18 : เป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งแบบ 1 Bed และ 2 Bed
ชั้น 19 : Facilities Floor หรือชั้นส่วนกลาง มีฟิตเนสและสระว่ายน้ำขนาด 18 x 6 ม. ระบบเกลือ
ชั้น 20-21 เป็นชั้นของยูนิตประเภท Duplex
::: แปลนห้อง :::
แบบห้องโครงการมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ผมจะขอนำเสนอแบบห้อง 3 แบบด้วยกัน ซึ่งเป็นแบบห้องที่มีขายอยู่ในขณะนี้ได้แก่
1 Bedroom ขนาด 53 ตร.ม.
2 Bedrooms ขนาด 109 ตร.ม.
Duplex ขนาด 51 ตร.ม.
ส่วนแบบห้องที่ทางขายหมดไปแล้วมีอีกหลายแบบดังนี้
1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 34.5 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 37 ตร.ม.
2 Bedrooms ขนาด 84.5 ตร.ม.
Duplex ขนาด 45.5 ตร.ม.
Duplex ขนาด 92 ตร.ม.
::: ห้องตัวอย่าง :::
อันที่จริงจะเรียกว่าห้องตัวอย่างก็ไม่ถูกซะทีเดียว เนื่องจากว่าห้องที่เราจะได้รับชมนั้นเป็นห้องจริงที่ทางโครงการพร้อมส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ โดยต้องบอกว่าทางโครงการนั้นใกล้จะปิดการขายเต็มทีเนื่องจากว่าเหลือขายทั้งหมดเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น โดยห้องที่เราจะไปชมกันวันนี้มีเพียงแบบเดียวคือแบบ 1 Bedroom ขนาด 54.5 ตร.ม.
แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 54.5 ตร.ม. : เปิดประตูห้องเข้ามาส่วนแรกเจอกับ Pantry ครัวเปิดเชื่อมต่อเข้าไปยังโซน Dining Area และ Living Area ด้านใน ส่วนทางด้านซ้ายของแปลนใกล้กับ Pantry เป็นทางเข้าห้องน้ำ โดยห้องน้ำดังกล่าวสามารถเข้าออกได้ 2 ทางแบบ Double Access เข้าทางฝั่งห้องน้ำหรือห้องนอนก็ได้ โดยห้องนอนสามารถแบ่งพื้นที่ระหว่างพื้นที่วางเตียงนอน และ walk-in closet เป็นสัดส่วน ด้านนอกคือระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องนอน และห้องนั่งเล่น
เปิดประตูห้องเข้าไปด้านในห้องตัวอย่างกันครับ โดยทางโครงการเปิดให้เราได้รับชมแบบเดียวคือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33 ตร.ม.
พื้นที่โซนแรกของห้องคือโซน Pantry เปิดโล่งเชื่อมต่อด้านในสู่โซนนั่งเล่นและรับประทานอาหาร สำหรับวัสดุพื้นฐานของห้องพื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟดาวน์ไลท์ และเพดานห้องมีความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร
ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ทางโครงการให้เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ได้แก่ ครัวครบชุด, ชั้นวางทีวี, โต๊ะทานอาหาร+เก้าอี้ 2 ตัว, ตู้เสื้อผ้า และ ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
มองไปทางซ้ายมือคือ ทางเข้าห้องน้ำและห้องนอนตามลำดับ
เรามาโฟกัสดูฟังก์ชั่นการใช้งานของพื้นที่แต่ละส่วนกันครับ เริ่มจากบริเวณหน้าประตูที่เป็น Pantry ครัว จากภาพมุมนี้จะเห็นได้ว่าพื้นที่ในการยืนทำครัวค่อนข้างกว้างขวาง เวลาประกอบอาหารไม่เกะกะขวางทางการเดินออกนอกห้องหรือเข้าออกห้องน้ำ
โครงการให้เคาน์เตอร์ครัวครับชุดบนล่าง พร้อมอุปกรณ์พร้อมใช้งานทั้ง ซิงค์, เตาไฟฟ้า และฮูดดูดควัน ส่วนด้านหลังไม่ได้ติดตั้งวัสดุกันเปื้อนให้ ก่อนใช้งานจริงแนะนำว่าควรติดตั้งบานกระจกหรือจะกรุกระเบื้องกันเปื้อนก็ได้ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
ท๊อปครัวปิดผิวด้วยวัสดุลามิเนต ตู้ด้านล่างวัสดุไม้สีดำเว้นช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้า และมีช่องเก็บของแบบมีบานปิด 2 บาน โดยทางโครงการเดินระบบประปาให้เรียบร้อยแล้ว ซิงค์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้เป็นของ MEX
เตาไฟฟ้า 2 หัวของ MEX เช่นกัน
เคาน์เตอร์ครัวด้านบนเป็นตู้ไม้สีดำเช่นกัน
ลองเปิดตู้ให้ดูการแบ่งช่องเก็บของด้านใน
ฮูดดูดควันของ MEX
ขยับเข้าไปด้านในสู่ Living Area จุดนี้ทางโครงการให้ชั้นวางทีวีและโต๊ะทานอาหาร
ในส่วนของการใช้งานจริง อาจปรับเปลี่ยนจุดวางเฟอร์นิเจอร์ โดยขยับโต๊ะทานข้าวให้ไปอยู่ใกล้กลับโซน Pantry มากขึ้นเพื่อให้มีความเหมาะสมในการใช้งาน
หลังจากที่ย้ายโต๊ะทานอาหารไปไว้ใกล้กับ Pantry แล้ว จะทำให้มีพื้นที่สำหรับวางโซฟาในมุมนั่งเล่นนี้ได้ ซึ่งจากในภาพจะเห็นว่าหลังโต๊ะทานข้าวมีช่องเสียบสายอากาศอยู่ เพราะฉะนั้นจึงต้องสลับฝั่งระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวีเพื่อความเหมาะสม
ชั้นวางทีวีที่ทางโครงการให้มาเป็นแบบที่มีขนาดกว้างพร้อมชั้นวางของ และช่องเก็บของลิ้นชักด้านล่างอีก 3 ช่อง
มุมมองย้อนกลับไปยังฝั่งทางเข้าห้อง
ด้านนอกมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ เข้าออกผ่านประตูระเบียงแบบบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกสีเขียวตัดแสง
พื้นระเบียงนั้นทางโครงการจะตกแต่งให้แบบนี้ โดยมีหญ้าเทียม และพื้นทรายล้าง
ขนาดใช้งานพื้นที่ระเบียงกว้างขวาง สามารถเข้าออกเชื่อมต่อได้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ราวกันตกระเบียงเหล็กทาสีดำ มุมมองจากห้องตัวอย่างนี้อยู่ที่บริเวณชั้น 6 อาจจะมีติดอาคารตึกแถวเข้ามา แต่ก็ยังสามารถเทควิวได้กว้าง เนื่องจากในรัศมีใกล้เคียงไม่มีตึกสูง
กลับมาที่บริเวณทางเข้าห้องเพื่อไปด้านในห้องน้ำกันต่อครับ ทางด้านขวาของประตูห้องน้ำมีสเปซเล็กๆเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ อาจจะทำเป็นตู้วางของ วางตู้เย็น หรือจะเป็นมุมเขียนหนังสือก็ได้
มุมแรกที่ผมให้ดูพื้นห้องน้ำ เพื่อจะได้เห็นว่าห้องน้ำเป็นแบบ Double Access สามารถเข้าออกได้สองทางคือทั้งจาก Pantry และ ห้องนอน ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น
ส่วนฟังก์ชั่นการแบ่งแยกโซนแห้ง-เปียก ใช้งานแยกกันอย่างชัดเจนโดยมีฉากอาบน้ำกระจกนิรภัยเป็นตัวแบ่งพาร์ติชั่น ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องผิวมันสีขาวทำความสะอาดง่าย
อ่างล้างหน้าของ Kohler ฝั่งลงในเคาน์เตอร์หินแกรนิต ที่นอกจากจะดูสวยงามหรูหรา และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก๊อกน้ำของ VRH ปลั๊กไฟมีที่ครอบกันน้ำเพื่อความปลอดภัย
บานกระจกเงาขนาดกำลังดีพอเหมาะกับพื้นที่
โถสุขภัณฑ์ dual flush ประหยัดน้ำของ Kohler พร้อมอุปกรณ์ควบคู่พร้อมใช้งานทั้ง สายชำระและที่แขวนกระดาษชำระ
ตัวฉากอาบน้ำใช้ฉากกระจกนิรภัยแบบ Frameless วางบนธรณีแกรนิตสูงเล็กน้อยกันน้ำไหล ฝักบัวของ VRH พร้อมวางระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างประมาณ 110 x 80 ซม. เพียงพอต่อการยืนอาบน้ำได้สะดวก
บนเพดานติดตั้งพัดลมดูดอากาศ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และความชื้นเพื่อสุขอนามัยที่ดี
ส่วนต่อไปเราเข้าไปดูห้องนอนกันครับ
ภายในห้องนอนนั้นทางโครงการไม่ได้ให้เตียงมาด้วย แต่คำนวณจากสายตาแล้วมีพื้นที่กว้างพอสำหรับวางเตียงได้ทั้ง คิงส์ไซส์และควีนไซส์ ด้านนอกสุดมีทางออกสู่ระเบียงเมื่อสักครู่ที่เชื่อมต่อถึงห้องนั่งเล่นได้
มองย้อนกลับเข้ามาอีกฝั่งของห้อง มองเห็นพื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำ
ทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ บานเปิดปิดแบบเลื่อน พร้อมบานหนึ่งเป็นแบบกระจกเงาสำหรับแต่งตัว ส่วนห้องน้ำนั้นเป็นห้องน้ำแบบ Double Access ที่สามารถเข้าได้จากครัวและห้องนอน ซึ่งเราได้ชมกันไปเรียบร้อยแล้วครับ
ระบบควบคุมไฟฟ้า, ปลั๊ก และสวิชต์ ใช้ของ Haco Electric
::: ราคา ::: (ต.ค.62)
แบบห้อง 1 Bed ขนาด 53 ตร.ม. : ราคา 3.39 ล้านบาท* 2 ยูนิตสุดท้าย
แบบห้อง 2 Bed ขนาด 109 ตร.ม. : ราคา 7.1 ล้านบาท
แบบห้อง Duplex ขนาด 51 ตร.ม. : ราคา 5.9 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง : 40 บาท/ตร.ม./เดือน (ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://www.chanuntorn.com/promotions/summerset-pela
รายละเอียดโปรโมชั่น “Chanuntorn All Free” วันนี้ – 30 มิถุนายน 2562
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ : คอนโด เพ-ลา วุฒากาศ อยู่บนถนนวุฒากาศ ซึ่งตลอดสองข้างทางจะมีลักษณะเป็นแหล่งพักอาศัยดั้งเดิมของชาวฝั่งธนฯ จำพวกอาคารพาณิชย์และตึกแถว เป็นบรรยากาศดั้งเดิมที่สัมผัสได้ถึงความเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมายาวนาน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถผสมผสานกับความเจริญที่กำลังกระจายออกมาจากตัวเมืองชั้นในเรื่อยๆ โดยสัญลักษณ์ที่เห็นชัดที่สุดคือรถไฟฟ้า โดยเฉพาะที่ตั้งของโครงการนั้นอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าในระยะเดินเท้าได้เพียง 180 เมตร ประกอบกับถนนหนทางที่จากโครงการสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญเดินทางได้อย่างสะดวก
ความอุดมสมบูรณ์ : บนถนนวุฒากาศนั้นเราสามารถหาร้านอาหารได้ตลอดทั้ง 2 ฝั่ง แต่ตัวเลือกอาจมีไม่มากนัก หากเป็นไปได้อยากแนะนำให้ไปเดินเล่นที่บริเวณตลาดพลูที่มีตัวเลือกหลากหลายกว่า ส่วนห้างที่ใกล้ที่สุดมีเดอะมอลล์ ท่าพระ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะอยู่ใกล้โครงการและมีความครบครันดีทีเดียว จากโครงการขับรถเพียงแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปใช้งานก็สะดวก นั่งเพียง 1 สถานี จากวุฒากาศไปลงที่ตลาดพลูเดินต่อหน่อยก็ถึงห้างแล้ว
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ถนนวุฒกาศหน้าโครงการเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนเทอดไทและถนนเอกชัย และมีถนนราชพฤกษ์ที่ตัดผ่านถนนวุฒากาศเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการเดินทาง แต่ทำเลดังกล่าวจะมีข้อจำกัดตรงที่จากโครงการเพ-ลา เราจะไม่สามารถเข้าใข้งานถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมืองไปยังสาทรได้ เพราะฉะนั้นในการเข้าเมืองอาจจะต้องอ้างอิงการใช้งานผ่านถนนเทอดไทเป็นหลัก ซึ่งตรงส่วนนี้ผมจะทำการลงภาพการฟิกแสดงเส้นทางเพิ่มเติมเป็นลำดับถัดไป
แต่หากเป็นส่วนของการมุ่งหน้าขาออก ไม่ว่าจะไปถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนบรมราชชนนี สามารถทำได้อย่างสะดวกเพราะจากโครงการสามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนราชพฤกษ์ และต่อเนื่องไปถนนกัลปพฤกษ์ได้อย่างไม่มีข้อจำกัดต่างจากการเข้าเมือง
ซึ่งหากมองภาพรวมในส่วนของการเดินทางนั้น ถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกโดยเฉพาะการเดินทางไปยังย่านธุรกิจอย่างสาทร ซึ่งผมสามารถยืนยันได้ว่า หากเป็นช่วงเวลาระหว่างวันที่รถไม่ติด ใช้เวลาประมาณสัก 10 นาทีก็ถึงสาทรแล้วครับ ประกอบกับตรงบริเวณถนนสาทรนั้นเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุด การใช้งานทางด่วนศรีรัชดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ตัวเลือกนี้ถือว่าเป็นจุดขายที่สำคัญของโครงการก็ว่าได้ ด้วยการที่โครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ โดยมีระยะทางอยู่ที่ 180 เมตรเท่านั้น เดินแค่ 2-3 นาทีเท่านั้น โดยในส่วนของการใช้งานนั้น หากเป็นฝั่งเข้าเมืองมุ่งหน้าไปสยาม ที่มีจุด Interchange อยู่ 2 สถานีคือสถานีศาลาแดงที่เปลี่ยนสายไปยังรถไฟใต้ดิน MRT หัวลำโพง-บางซื่อ และสถานีสยามที่เปลี่ยนสายไปยังสายหมอชิต
นอกจากนั้นที่สถานีปลายทาง BTS บางหว้า ในอนาคตอันใกล้นี้จะเป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง-บางแค ที่กำลังจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนกันยายนนี้แล้ว อีกทั้งหน้าโครงการมีรถประจำทาง, รถสองแถว และรถ Taxi ผ่านเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง
การออกแบบโครงการ : เพ-ลา วุฒากาศ เป็นคอนโด High Rise 21 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 1-1-51 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 190 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ Duplex ขนาดเริ่มต้น 33.00 ถึง 109 ตร.ม.
แบบห้องทางโครงการทำออกมาหลากหลายขนาด โดยผมขอพูดถึงส่วนของห้องที่เราได้รับชมกันไปในวันนี้ เนื่องจากว่าเป็นห้องขนาดใหญ่ 53 ตร.ม. จึงทำให้การอยู่คอนโดนั้นไม่รู้สึกอึดอัด การใช้งานพื้นที่แต่ละส่วนมีสเปซเยอะแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน ห้องน้ำแบบ Double Access สะดวกในการใช้งาน ระเบียงขนาดใหญ่ สามารถจัดวางโต๊ะ outdoor รับลมชมวิว
ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินได้แก่ ตู้เสื้อผ้า,ชุด Pantry ครัว, ชั้นวางทีวี และโต๊ะทานอาหาร+เก้าอี้ 2 ตัว พร้อมเครื่องปรับอากาศ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler ติดตั้งฉากอาบน้ำแยกโซนแห้ง-เปียก ส่วนวัสดุพื้นฐาน พื้นปูลามิเนต 8 มม. ผนังห้อง+ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ไฟในห้องมาตรฐานแบบดาวน์ไลท์ เพดานสูง 2.8 เมตร กรอบประตูระเบียงอลูมิเนียมสีดำ อุปกรณ์ครัวของ MEX
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ Panoramic Pool View สระว่ายน้ำชั้น 19, ห้องฟิตเนส, สวนพักผ่อน, ที่จอดรถ ประมาณ 89 คัน หรือคิดเป็น 50% พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัยด้วยการเข้าออกโครงโครงการระบบ Easy Pass พร้อมกล้องวงจรปิด และ รปภ. 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | ติดถนนวุฒากาศ หาของทานง่าย เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนแต่และรถสาธารณะ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | สามารถเข้าออกได้หลายทาง เชื่อมต่อสาทร-พระราม 3 สะดวก |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.3 | ใกล้รถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ ระยะทางเพียง 180 เมตร หน้าโครงการมีตัวเลือกเสริมทั้ง รถเมล์, รถกระป๊อ, รถมอไซค์รับจ้าง และ Taxi |
ห้องและวัสดุ | 7.6 | มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายขนาด ขายแบบ Fully Fittedตู้เสื้อผ้า,ชุด Pantry ครัว, ชั้นวางทีวี และโต๊ะทานข้าว ระเบียงกว้างนั่งเล่นสบาย |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | สระว่ายน้ำ Panoramic View เทควิวเมืองได้กว้าง, ห้องฟิตเนส และ Roof Garden ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัย เข้าออก Easy Pass |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.2 | ราคาเฉลี่ยประมาณ 67,000 บาท/ตร.ม. ทำเลติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ส่วนกลางครบ ที่จอดรถให้มาเยอะ เป็นอีกโครงการที่น่าลงทุนหรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.02 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 084-737-3073
Website : https://www.chanuntorn.com/project/pela
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น