EP.442 รีวิว คอนโด เพลส 168 ปิ่นเกล้า PLACE 168 Pinklao
Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมคอนโดแบรนด์ใหม่จากทาง L.P.N. กับ PLACE 168 ปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ในย่านปิ่นเกล้ากันค่ะ โดยโครงการจะตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย กทม. ซึ่งเhttps://www.homenayoo.com/place-168-pinklaoป็นทำเลเก่าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสะดวกสบาย
ใกล้ Central Plaza ปิ่นเกล้า เพียง 500 เมตร และ MRT สถานีบางยี่ขัน เพียง 750 เมตร รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น Lotus’s ปิ่นเกล้า, PATA ปิ่นเกล้า, Major ปิ่นเกล้า, ม.ธรรมศาสตร์, รพ.ตา หู คอ จมูก และ รพ.เจ้าพระยา
จุดเด่นของโครงการ เพลส 168 ปิ่นเกล้า ก็คือการปรับภาพลักษณ์ของโครงการใหม่ ให้มีความทันสมัย ดีไซน์ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอบโจทย์การพักผ่อน และชีวิตด้านการทำงานมากยิ่งขึ้นแบบที่ทาง L.P.N. ไม่เคยทำมาก่อน จนเป็น High Rise Condominium 27-28 ชั้น 4 อาคาร (A-B-C-D) มีอาคารจอดรถ 10 ชั้น 1 อาคาร และอาคารสันทนาการ 2 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 6 ไร่
มีห้องพักอาศัยจำนวน 842 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 25-59 ตร.ม. พร้อมระบบ IOT ให้ภายในห้อง ซึ่งตอบโจทย์การพักผ่อน และชีวิตด้านการทำงานมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ประมาณ ก.พ. 2568 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการก็มีให้เยอะมากขึ้น อาทิ Pool & Jacuzzi, Fitness Room, Co-Living Space, Sky Lounge, E-Sports Room, Home Theater, Private Meeting Room, Business Room, Massage Room, EV Charger, Digital Key, Facility Booking พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.56 ล้านบาท* (ส.ค.65)
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://www.lpn.co.th/
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
| ชื่อโครงการ | เพลส 168 ปิ่นเกล้า PLACE 168 Pinklao |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) / L.P.N |
| เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 6 ไร่ 21.20 ตร.ว. |
| จำนวนตึก | 4 อาคาร (A-B-C-D) |
| จำนวนชั้น |
|
| จำนวนห้อง | 842 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 353 คัน คิดเป็น 42% |
| จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว/อาคาร |
| โซน | เขตบางกอกน้อย |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ประมาณ ก.พ. 2566 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ก.พ. 2568 |
| ราคา | เริ่มต้น 2.56 ล้านบาท* (ส.ค. 65) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 100,000 บาท/ตร.ม.* (ส.ค. 65) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า และตลาด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| Tel | 02-689-6888 |
| Website | https://bit.ly/3aPJ4u7 |
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
พิกัด : 13.774952, 100.479899
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ติดถนนบรมราชชนนีฝั่งขาออก เลยจากแยกบรมราชชนนีมาประมาณ 250 เมตร ซึ่งอยู่ในย่านปิ่นเกล้าฝั่งธนุบรีค่ะ ย่านปิ่นเกล้านั้นเป็นย่านที่เติบโตมาจากชุมชนเก่าแก่บริเวณบางกอกน้อย ซึ่งทำเลนี้ดังมาจากห้าง PATA ที่เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในย่านนี้ (จำลิฟต์แก้วและสวนสัตว์บนชั้น 6-7 กันได้ไหมคะ) และมีห้างอื่น ๆ ขึ้นตามมาอีกมากมาย ทำให้ทำเลนี้บูมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ก็เป็นทำเลที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกสบาย เพราะมีรถไฟฟ้า MRT ตัดผ่าน โดยพื้นที่ติดถนนใหญ่ส่วนมากจะเป็นอาคารพาณิชย์ นอกจากนั้นก็จะมีโครงการบ้านจัดสรรระดับไฮเอน และมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ จากแยกบรมราชชนนีจะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ้าเราจะเข้าเมือง ก็สามารถใช้สะพานพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8 และสะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้) ข้ามฝั่งมาพระนครได้ และเชื่อมสู่ย่านอนุสาวรีย์, สยาม, พญาไท, รัชดาภิเษก และพระราม 9 ได้ไม่ยาก แต่การใช้สะพานพระราม 8 และสะพานกรุงธน ต้องไปกลับรถแถว ๆ รพ.หู ตา คอ จมูก เพื่อเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ก่อน ดังนั้นถ้าจะให้สะดวกกว่า แนะนำให้วิ่งเข้าถนนสิรินธรแล้วข้ามสะพานกรุงธนแทน หรือขึ้นทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกไปเลยค่ะ
ส่วนการออกเมือง เราสามารถใช้เส้นบรมราชชนนีวิ่งยาว ๆ ไปเชื่อมกับเส้นเพชรเกษมเพื่อออกกาญจนบุรี หรือลงไปจังหวัดโซนภาคใต้ได้ง่าย แล้วก็ยังใช้เชื่อมกับเส้นพุทธมณฑลสายต่าง ๆ ได้สะดวกอีกด้วย
ทางด่วน ใกล้ที่สุดก็คือจุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ประมาณ 4 กม. จากโครงการ ใช้วิ่งเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช และวงแหวนฝั่งตะวันตกเพื่อเข้า-ออกเมืองได้ง่ายค่ะ
:: สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ ::
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถสาธารณะได้ง่ายอยู่แล้ว เพราะเป็นทำเลที่เฟื่องฟูมาตั้งแต่อดีต จึงมีรถประจำทางผ่านหลายสายเพราะเป็น 1 ในจุดหมายปลายทางที่ผู้คนจะมากัน จะใช้รถเมล์หรือรถตู้ก็มีหมดค่ะ ที่สำคัญคือพักหลังมานี้ยังมีรถไฟฟ้า MRT ตัดผ่าน โดยจะตัดอยู่บนเส้นจรัญสนิทวงศ์ โดยสถานีที่เดินไปได้สะดวกจะเป็นสถานีบางยี่ขัน ประมาณ 750 เมตรจากโครงการ ซึ่งก็เป็นระยะที่เดินไปได้ภายใน 10 นาทีแบบไม่ต้องรีบค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยความที่ย่านปิ่นเกล้าเป็นย่านที่มีความเจริญมานานแล้ว เลยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้กับโครงการเยอะเลยค่ะ อย่างห้างสรรพสินค้านี่เอาแค่ระยะไม่เกิน 500 เมตร ก็มีทั้ง Lotus’s, Central Plaza ปิ่นเกล้า, The Sense ปิ่นเกล้า, ปิ่นเงินปิ่นทองพลาซ่า และ Major ปิ่นเกล้า
ถัดออกมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็จะเป็นห้าง PATA ที่ทำให้ย่านนี้บูมขึ้นมา รวมไปถึงตลาดและ Community Mall เก๋ ๆ อย่าง ตลาดอินดี้ปิ่นเกล้า, ช่างชุ่ย, Tops Market ตลิ่งชัน และ ตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ สายใต้ใหม่ ก็อยู่ไม่ไกลเลย หรือถ้าออกไปย่านใกล้เคียงอย่างราชพฤกษ์ ก็จะมีทั้ง The Circle, Food Villa, The Crystal SB, Bnb Home และ The Walk อีกด้วย
ส่วนสถานศึกษาและโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ ไปสะดวกก็มีเยอะค่ะ ทั้ง รร.บดินทรเดชา นนทบุรี, รร.เซนต์คาเบรียล, รร.เขมะ สิริอนุสสรณ์, ม.ธรรมศาสตร์, ม.ศิลปากร, ม.ราชภัฎสวนดุสิต, ม.ราชภัฎสวนสุนันทา, รพ.ตา หู คอ จมูก, รพ.เจ้าพระยา, รพ.ศิริราช หรือเข้าเส้นราชวิถีไปก็จะมีโรงพยาบาลชั้นนำอีกหลายแห่ง
:: สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ ::
ห้างสรรพสินค้า และตลาด
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
เรามีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาให้ชมกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนจรัญสนิทวงศ์ >แยกบรมราชชนนี > ถนนบรมราชชนนี > โครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า
เราเริ่มต้นการเดินทางจากถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณ MRT สถานีบางพลัด โดยมุ่งหน้าแยกบรมราชชนนีค่ะ
ทางฝั่งซ้ายมือเราจะผ่าน Lotus’s จรัญสนิทวงศ์
ตรงไปข้างหน้าจะมีอุโมงค์ ให้เราลอดอุโมงค์ตามป้ายบอกทางได้เลยค่ะ
จากนั้นเราจะเจอ MRT สถานีบางยี่ขัน ซึ่งจากจุดนี้จะอยู่จากโครงการแค่ 750 เมตร
พอผ่าน MRT สถานีบางยี่ขัน มาแล้ว เราจะไม่ลงอุโมงค์แล้วนะคะ ให้อยู่ที่ช่องกลางเอาไว้ก่อน
จากนั้นให้เราชิดขวาไปทางพุธมณฑล
และเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนบรมราชชนนีที่แยกบรมราชชนนี
จากแยกบรมราชชนนีตรงมาประมาณ 250 เมตร เราก็จะเห็นสำนักงานขายของโครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
ภาพบริเวณหน้าสำนักงานขายของโครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บริเวณโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยและบ้านพักอาศัยค่ะ ส่วนพื้นที่ติดถนนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์และห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงคอนโดมิเนียมที่เกาะแนวรถไฟฟ้า
ติดกับสำนักงานขายจะเป็นทางเข้า-ออกที่ดินโครงการ
และนี่ก็คือภายในบริเวณที่ดินโครงการค่ะ ทางโครงการมีการปักตำแหน่งของแต่ละอาคารเพื่อให้เห็นภาพคร่าว ๆ
พื้นที่ตั้งโครงการบริเวณอาคาร A และ B
พื้นที่ตั้งโครงการบริเวณอาคารจอดรถ, อาคาร C และ D
เราออกมาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้บ้าง
เราเดินไปทางฝั่งถนนสิรินธรกันก่อนค่ะ ติดกับทางเข้าโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4.5 ชั้นซึ่งเปิดเป็นร้านค้าและกิจการมากมาย
มีร้านขายหนังสือและเครื่องเขียนร้านใหญ่
และร้านขายอาหารสัตว์
คลินิกทันตกรรมและเสริมความงามเห็นว่ามีอยู่หลายร้านเลยค่ะแถวนี้
เดินจากหน้าโครงการมาแค่ 250 เมตรก็จะถึง Lotus’s แล้วค่ะ ด้านหน้ามีตลาดขนาดย่อม ๆ ด้วย ขายอาหารหลายอย่างเลย
เดินเลยมาอีกหน่อยเราจะเจอตลาดมารวยค่ะ เป็นอีกตลาดที่รวมของกินเอาไว้เยอะมาก ด้านหน้าตลาดก็จะมี 7-11 อยู่ด้วย
ติดกับตลาดมารวยจะมีปั๊ม Susco
และถัดไปก็คือ Central Plaza ปิ่นเกล้าแล้วค่ะ เดินจากโครงการมาแค่ 500 เมตรเอง
ด้านหน้า Central จะเป็นจุดที่มีสะพานลอย
ข้ามสะพานลอยไปก็ถึงปิ่นเงินปิ่นทองพลาซ่าและ Major ปิ่นเกล้าแล้วค่ะ
กลับมาที่บริเวณหน้าโครงการ เราจะเดินไปทางฝั่งแยกบรมราชชนนีเพื่อไปรถไฟฟ้า MRT สถานีบางยี่ขัน กันค่ะ
ติดกับทางเข้าโครงการฝั่งนี้ก็เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4.5 ชั้นช่นกัน
ด้านหน้าจะเป็นป้ายรถเมล์พอดี เดินออกมาจากโครงการก็ยืนรอรถได้เลย
ถัดมาจะมีร้านขายสินค้าเกี่ยวกับเด็ก
พวกคลินิกเสริมความงามก็มีเยอะค่ะ
ใกล้กับแยกบรมราชชนนีจะมีทางม้าลาย ให้าเราข้ามไปฝั่งซ้ายเพื่อเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์
ข้ามมาที่ถนนจรัญสนิทวงศ์เราจะเห็นแนวรถไฟฟ้าอยู่ตลอดเส้น
ถนนเส้นนี้จะเป็นย่านที่พักอาศัยเหมือนกันค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะเจอร้านค้าและร้านอาหารอยู่ตลอดทาง หรือธนาคารก็มีจะเป็นธนาคารกสิกรไทย 
เดินมาจนถึงอาคารคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า
ข้างหน้าเรานี้เองก็คือสถานีบางยี่ขันค่ะ ทางออกที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางออก 1 ใช้ลิฟต์ก็ได้นะฝั่งนี้
โดยตัวสถานีจะอยู่ติดกับตลาดอินดี้ เป็นตลาดขนาดใหญ่เก๋ ๆ มีร้านอาหารและร้านนั่งชิลหลายร้านเลยค่ะ ว่าง ๆ อยากหาอาหารกินเล่นหรือนั่งดื่มสบาย ๆ ก็เดินมาได้แค่ 750 เมตรเท่านั้น
:::: ตัวโครงการ ::::
เท่าที่เราจำกันได้ เราจะคุ้นเคยกับคอนโดมิเนียมของ LPN เป็นตึกขนาดใหญ่ สีเขียว ๆ ตึกเดียวใช่ไหมคะ แต่ล่าสุดทาง L.P.N. ได้มีการปรับตัวโปรดักต์ใหม่ ทั้งในเรื่องของหน้าตาอาคาร ฟังก์ชันต่าง ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ออกมาเป็นโครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า เป็นโครงการแรกภายใต้ชื่อ 168 ที่หมายถึง 24 ชม. ใน 7 วันแห่งความสุข ซึ่ง 168 นี่เป็นเลขมงคลและเป็นเลขที่ตั้งของลุมพินีสำนักงานใหญ่อีกด้วย
โครงการนี้จะเป็น High Rise Condominium มีอาคารพักอาศัยทั้งหมด 4 อาคาร เป็นอาคาร A, B, D สูง 28 ชั้น และอาคาร C สูง 27 ชั้น รวมแล้วมีห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 842 ยูนิต นอกจากนั้นก็จะมีอาคารจอดรถสูง 10 ชั้น และอาคารสันทนาการสูง 2 ชั้น แยกออกมาจากอาคารพักอาศัย ทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 6 ไร่ เราจะเห็นเลยว่าทางโครงการได้ปรับรูปลักษณ์ของอาคารใหม่เป็นโทนสีขาว-เทา ทำเป็นลายแบบกล่อง ๆ เหมือนกับ Pixel เลยค่ะ
มาดูผังโครงการกันค่ะ เริ่มจากทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่บนถนนบรมราชชนนี พอเราผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาแล้ว เราจะเจออาคารจอดรถอยู่ทางฝั่งขวา สามารถจอดรถได้ประมาณ 353 คันหรือคิดเป็น 42% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ตรงเข้าไปด้านในจะมีวงเวียนน้ำพุเป็นจุด Drop-Off เข้าสู่อาคารพักอาศัยทั้ง 4 อาคาร อาคาร A และ B อยู่ฝั่งซ้าย อาคาร C และ D อยู่ฝั่งขวา
แต่ละอาคารก็จะมี Lobby แยกเป็นของตัวเอง ภายใน Lobby มีการออกแบบให้เป็นห้องกระจกเพดานสูงแบบ Double Volume ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Luxury ดูสวยน่าใช้งาน แต่ในส่วนของอาคาร C จะมี Co-Living Space เพิ่มมาให้ และที่ชั้น 2 ของอาคาร C ก็ยังมี E-Sports Room, Home Theatre, Business Room, Private Meeting Room และ Massage Room ให้เช่าใช้รายชั่วโมง โดยสามารถทำการ Booking การใช้งานแบบ Real Time ได้
ส่วนอาคารสันทนาการจะอยู่ฝั่งด้านในสุด เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นแรกมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 เมตร ส่วนพื้นที่บนชั้น 2 ของอาคารจะเป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการออกแบบ Landscape ให้โดยรอบโครงการเพื่อความร่มรื่น โดยจะมี Main Park และศาลานั่งพักผ่อนอยู่กลางโครงการ และยังมีการออกแบบ Jogging Track รอบโครงการ ได้ความยาวประมาณ 330 เมตรให้ลูกบ้านใช้เดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีค่ะ
ชั้นพักอาศัยของอาคาร A, B, D จะเริ่มต้นที่ชั้น 2-27 มีการออกแบบผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ให้โถงลิฟต์และ Service Core อยู่ตรงกลาง มีลิฟต์ให้อาคารละ 2 ตัว รอบ ๆ Core เป็นห้องพักอาศัย มีเพียง 8 ห้อง/ชั้นเท่านั้น การออกแบบแบบนี้ทำให้เราได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor เวลาเปิดประตูห้องออกมาจะไม่เจอกับประตูห้องพักห้องอื่น ๆ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และนี่คือ Typical Floor Plan ของอาคาร A ค่ะ
อาคาร B ชั้น 2-22 จะมีห้องพักอาศัย 8 ห้องเช่นกัน
อาคาร B ชั้น 23-27 จะมีการรวมห้องเป็นห้อง 2 Bedroom ทำให้ชั้นนี้เหลือห้องพักอาศัยเพียง 6 ห้องเช่นกัน
อาคาร D ชั้น 2-8 มีห้องพักอาศัย 8 ห้อง
อาคาร D ชั้น 9-27 มีห้องพักอาศัยจำนวนเท่ากัน แต่จะมีการเปลี่ยนไซซ์ห้องตำแหน่งล่างขวา
ส่วนห้องพักอาศัยของอาคาร C จะเริ่มต้นที่ชั้น 3-26 มีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 10 ห้อง/ชั้น แต่จะมีการวางผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และจัด Service Core เอาไว้ที่ริมอาคาร โดยจะมีลิฟต์ให้ 2 ตัวเช่นกัน นี่คือชั้นแปลนชั้น 3-10 ค่ะ
อาคาร C ชั้น 24-26 มีห้องพักอาศัยเหลือเพียง 6 ห้อง
นอกจากนี้ ที่ชั้นบนสุดของทุกอาคารก็จะมี Sky Lounge สำหรับผ่อนคลายชมวิวเมืองได้ โดยยังมีห้องให้เช่าสำหรับการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ได้อีกด้วย
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณจุด Drop Off ซึ่งเป็นออกแบบให้เป็นลานน้ำพุอย่างสวยงาม
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby อาคาร A ออกแบบให้เป็นห้องกระจกสูงแบบ Double Volume ตกแต่งมาในสไตล์ Modern Luxury
ภาพบรรยากาศจำลอง Co-Living อาคาร C รองรับการพักผ่อนและ Culture ของการ WFH
ภาพบรรยากาศจำลอง Sky Lounge อาคาร A ชมวิวเมืองจากมุมสูงด้วยผนังกระจกสูงถึงฝ้า
ภาพบรรยากาศจำลอง Sky Lounge อาคาร C ตกแต่งอย่างหรูหราในสไตล์ Modern Luxury มีโซฟาขนาดใหญ่ และโต๊ะสำหรับนั่งทาน Snacks ง่าย ๆ
ภาพบรรยากาศจำลอง Main Park เป็นสนามหญ้ากลางโครงการ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Main Park มีศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจจัดเอาไว้ให้
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณอาคารสันทนาการและสระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือ มีขนาด 25 x 6 เมตร ภายในสระมี Jacuzzi จัดเอาไว้ให้ ข้างสระบริเวณพื้นที่ใต้อาคารมี Sunbed สำหรับนอนพักผ่อนชมวิว โดยรอบจัด Landscape ให้ความร่มรื่น น่าพักผ่อนหย่อนใจ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Fitness Room บนชั้น 2 ของอาคารสันทนาการ ภายในมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจัดเอาไว้ให้ครบครัน สามารถออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนและสระว่ายน้ำได้
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
สำหรับห้องชุดพักอาศัยภายในโครงการจะออกแบบให้จะมีหน้ากว้างเป็นพิเศษ โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
Studio ขนาด 25 ตร.ม.
Studio ขนาด 29 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 59 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 ห้องค่ะ เป็นห้อง Studio ขนาด 25 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ไปชมกันเลยค่า
::: Studio ขนาด 25 ตร.ม. :::
มาเริ่มกันจากห้องไซซ์เล็กสุดของโครงการกันค่ะ แม้ว่าจะเป็นห้องแบบ Studio ขนาด 25 ตร.ม. แต่ก็มีการแบ่งสัดส่วนการใช้งานพื้นที่ให้ดี โดยจะมีครัวปิดให้อยู่หน้าห้อง ก่อนเชื่อมสู่ Living Area แบบหน้ากว้าง, ห้องน้ำ และระเบียง เป็นห้องที่จะเหมาะกับการอยู่คนเดียวหรืออยู่เป็นคู่ โดยทางโครงการจะตกแต่งห้องให้แบบ Fully Fitted ได้มาเป็นห้องเปล่า พร้อมเคาน์เตอร์ครัว และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำค่ะ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานทึบติด Digital ของ Hafele
พอเข้ามาด้านในห้องเราจะเจอกับห้องครัวก่อนเป็นอันดับแรก โดยครัวที่ได้นี้จะเป็นครัวปิดนะคะ มีประตูกั้นส่วนจาก Living Area เป็นบานเลื่อนกระจกกรอบอะลูมิเนียมสีขาว
และนี่ก็คือเคาน์เตอร์ครัวที่เราได้มากับห้องค่ะ
Top เคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยเมลามีน มีเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน ของ Hafele ติดตั้งมาให้
เป็นเตาเซรามิกขนาด 2 หัว
เราชอบตรงที่ที่นี่เขาให้อ่างล้างจานมาขนาดใหญ่ดีค่ะเมื่อเทียบกับอีกหลาย ๆ โครงการ ทำให้ใช้งานล้างจานล้างหม้อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แถมเครื่องดูดควันก็ใช้เป็นระบบที่ต่อท่อออกไปภายนอกอาคาร ทำให้ระบายกลิ่นได้ดี เหมาะสำหรับเป็นครัวที่ทำอาหารหนัก ๆ ได้เลย
ส่วนใต้เคาน์เตอร์กับบนตู้ลอยก็มีช่องให้เก็บของได้เยอะพอสมควร โดยจะมีลิ้นชักตรงกลางที่ใช้วางพวกขวดเครื่องปรุงได้ หยิบใช้งานได้สะดวก และการเปิด-ปิดพวกบานต่าง ๆ ก็ไม่ต้องระวังเรื่องเสียงมากเพราะเขาให้มาเป็นแบบ Soft Close แล้ว
ส่วนฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ก็มีพื้นที่ให้เราวางตู้เย็นขนาดมาตรฐาน 2 ประตูได้พอดี
เราเข้ามาภายใน Living Area กันต่อนะคะ จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นรวมกับห้องนอนเลยได้เป็นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ เหตุผลนึงที่ทางโครงการเลือกวางห้องครัวไว้ที่บริเวณหน้าห้อง ก็เพื่อให้เราได้พื้นที่ Living Area ที่มีหน้ากว้างนั่นเอง และห้องที่มีหน้ากว้างแบบนี้ก็มีข้อดีหลายอย่าง ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟังในรีวิวฉบับก่อน ๆ ว่า นอกจากเราจะจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัวง่ายแล้ว ห้องก็ยังดูโปร่งมากกว่าห้องตอนลึกด้วย เพราะเราจะได้ช่องแสงภายในห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
โดยช่องแสงภายในห้องนี้จะได้มาเป็นบานเลื่อน 2 บาน ใช้กรอบอะลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง ส่วนวัสดุอื่น ๆ ภายในห้อง ที่พื้นจะใช้เป็นพื้น SPC ที่สามารถรับแรงและมีความคงทนต่อรอยขีดข่วน และการบวมน้ำได้ดีกว่าพื้นลามิเนต ผนังเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนฝ้าเพดานจะติดดวงโคมดาวน์ไลต์ LED มาให้ พร้อมแอร์อีก 1 ตัว โดยจะมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตร
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีระบบ IOT ติดตั้งมาให้ภายในห้อง ซึ่งก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้เราได้พอสมควร เช่น เราสามารถเปิด-ปิดไฟและแอร์ผ่านมือถือได้ แล้วก็ยังมี Motion Sensor ให้เปิดไฟหน้าห้องโดยอัตโนมัติเวลาที่เรากลับเข้ามาภายในห้อง รวมไปถึง Leak Detector เป็นระบบตรวจจับการรั่วซึมให้อัตโนมัติอีกด้วยค่ะ
เรามาดูไอเดียการจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องกันค่ะ ส่วนแรกห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน โดยใช้เป็นอาร์มแชร์, เก้าอี้วางขา และโต๊ะอเนกประสงค์ นอกจากจะใช้นั่งพักผ่อนดูทีวีได้แล้ว ก็ยังใช้เป็นมุมนั่งทำงาน นั่งรับประทานอาหารได้ด้วย คือถ้าเป็นคนที่อยู่อาศัยคนเดียว มีเฟอร์นิเจอร์จัดเอาไว้เท่านี้มันก็ลงตัวกับชีวิตแล้ว แล้วก็ยังทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นอีกด้วย แต่ด้วยพื้นที่ห้องจริง ๆ ก็สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งกับโต๊ะกลางได้สบาย
ส่วนฝั่งตรงข้ามเราจะวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัว หรือจะ Built-in เป็นตู้เก็บของแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน
ด้านข้างที่เป็นประตูบานเลื่อน เปิดออกไปก็จะเป็นพื้นที่ระเบียง ที่พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และติดราวกันตกระแนงเหล็กทาสีดำมาให้ ตอนนี้คุณผู้อ่านเห็นพื้นที่แล้วอาจจะสงสัยว่า เอ้ะ! พื้นที่เท่านี้เราตากผ้าได้ แต่เราจะวางเครื่องซักผ้าตรงไหน ส่วนนี้เดี๋ยวจะเฉลยให้ทีหลังนะคะ
ถัดมาในส่วนของพื้นที่พักผ่อนหลับนอน
ห้องนี้จะเหมาะกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต เราจะได้มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะข้างได้
และมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งไซซ์ที่เห็นอยู่นี้ก็สามารถเก็บเสื้อผ้าของคน 1 คนได้สบาย ๆ 2 คนก็ยังสามารถแชร์กันได้ และประตูด้านข้างนี้คือห้องน้ำค่ะ
สำหรับห้องน้ำ ทางโครงการตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องโทนสีขาว-ครีมและกระเบื้องลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. มีกระจกติดมาให้เต็มผนัง และมี Low Wall สำหรับวางของก่อมาให้ ส่วนสุขภัณฑ์จะเป็นของแบรนด์ Hafele และ Charmer
มีอ่างล้างมือแบบแขวนผนังและก๊อกน้ำล้างมือ
ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน
ฝั่งด้านในเป็นโซน Shower มีฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจก Tempered ติดตั้งมาให้
ขนาดของพื้นที่ยืนอาบน้ำถือว่าใช้ได้
ที่ผนังภายในติดตั้งชุด Rain Shower, Hand Shower, ราวปรับระดับ และจานวางสบู่ รวมถึงติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้วค่ะ
ส่วนการระบายอากาศภายในห้องน้ำจะมีพัดลมดูดอากาศบนฝ้า 1 ตัว
และที่ติดคุณผู้อ่านเอาไว้ ก็คือพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ทางโครงการจัดมาเป็นฟังก์ชันในห้องน้ำค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่า บางคนก็ซื้อเครื่องซักผ้ามาในราคาสูง ถ้าเอาไปตั้งไว้ที่ระเบียงก็อาจจะทำให้เก่าและเสียง่าย รวมไปถึงการวางไว้ในห้องครัว ถ้าเกิดการรั่วขึ้นมาก็อาจจะทำให้พื้นห้องบวมได้ต้องมานั่งเปลี่ยนพื้นกันอีก ทางโครงการเลยแก้ปัญหาด้วยการวางไว้ในห้องน้ำแทน ซึ่งมองว่านี่ก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน
::: 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. :::
ขยับขึ้นมาเป็นห้อง 1 Bedroom 33 ตร.ม. ความแตกต่างของการวางแปลนก็คือ จะมีการจัดห้องให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น มีครัวหน้าห้องเชื่อมต่อกับโซน Living Area เหมือนเดิม แต่ห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบเพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกเราจะเจอกับครัวปิดที่พื้นที่ห้องใหญ่มากขึ้น
เห็นได้จากขนาดของเคาน์เตอร์ครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ได้พื้นที่เตรียมอาหารที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราก็ได้ Hob, Hood, Sink ของ Hafele มาเหมือนเดิมค่ะ
ดูช่องเก็บของและลิ้นชักทั้งบนและล่าง ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก
ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เราวางตู้เย็นและทำ Built-in เพิ่มได้ จะทำเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหาร-เตรียมเครื่องดื่ม หรือจะทำเป็นตู้เก็บของและเก็บรองเท้าก็ช่วยทำให้ห้องดูเรียบร้อยขึ้นได้
ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วน Living Area ความแตกต่างของห้องนี้ก็คือ จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ภาพรวมการอยู่อาศัยก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมค่ะ จะเห็นเลยว่าห้องครัวกับห้องนอนจะถูกกั้นส่วนออกไปด้วยผนังทึบ ส่วนพื้นที่โถงกลางห้องจะเป็น Living Area เป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่น และมีประตูระเบียงบานใหญ่รับแสงธรรมชาติ
ด้วยความที่ห้องนี้มันมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นพอสมควร การจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจึงแบ่งฟังก์ชันแยกจากกันไปเลยได้
โดยพื้นที่ติดกับห้องครัว เราสามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้พอดี
ถัดเข้าไปด้านในห้องติดกับระเบียงเป็นส่วนนั่งเล่น
ก็วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้แบบนี้ จะ Built-in ชั้นวางของเพิ่มข้างบนก็ได้ รวม ๆ คือกำลังลงตัวกับพื้นที่ห้องค่ะ
พื้นที่ระเบียงที่อยู่ติดกัน ใช้ตากผ้าหรือยืนรับลมได้
บรรยากาศภายในห้องจากอีกมุม
สำหรับห้องจริง ห้องนอนจะมีประตูบานทึบกั้นส่วนให้นะคะ
เราจะเห็นว่าทางโครงการเขาให้น้ำหนักกับพื้นที่ห้องนอนมากพอสมควร คือเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่เลยค่ะ
นอกจากว่าเราจะวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตและโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่งแล้ว
ที่รู้สึกประทับใจเลยก็คือเราทำตู้เสื้อผ้าได้ขนาดใหญ่มากกก… ตรงนี้คือแบ่งพื้นที่ออกไปเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแล้วนะคะ สาว ๆ น่าจะชอบกันเลยทีเดียว ถ้าใครอยู่แบบเป็นคู่ ตู้ขนาดนี้คือแชร์กันได้สบายมาก
ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ใกล้กับประตูห้องนอน ภายในมีการตกแต่งและให้สุขภัณฑ์มาครบ แล้วก็จะมีฟังก์ชันสำหรับวางเครื่องซักผ้าให้อยู่ที่บริเวณหน้าห้องเหมือนเดิมค่ะ
:::: ราคา (สิงหาคม 2565) ::::
ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษ คลิก https://www.lpn.co.th/
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ จุดเด่นคือการที่โครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นย่านที่มีการเจริญเติบโตมานานมากแล้ว เลยเป็นทำเลของพวกบ้านระดับไฮเอนและคอนโดที่เกาะแนวรถไฟฟ้า MRT จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเลยค่ะ เพราะแค่ระยะเดินเพียง 500 เมตร ก็มีห้างให้ไปจับจ่ายซื้อของ หาอาหารทาน หรือชอปปิงได้ถึง 4 แห่งแล้ว ทั้ง Lotus’s, Central Plaza ปิ่นเกล้า, ปิ่นเงินปิ่นทองพลาซ่า และ Major ปิ่นเกล้า สถานศึกษาหรือโรงพยาบาลก็หาได้ในระยะไม่ถึง 5 กม. ด้วยซ้ำ ให้ 3 ผ่านค่ะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โครงการตั้งอยู่ในฝั่งธนฯ บนถนนบรมราชชนนีฝั่งขาออก ซึ่งเป็นจุดที่ข้ามมาฝั่งพระนครได้ง่าย โดยใช้สะพานพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8 และสะพานกรุงธน เข้าเมืองได้สะดวก โดยจะมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชและวงแหวนฝั่งตะวันตกให้ใช้ได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ มีรถสาธารณะให้เลือกใช้หลายสายเลยค่ะ โดยจะมีป้ายรถเมล์อยู่ที่หน้าโครงการเลย แต่ถ้าใครจะใช้รถไฟฟ้า ก็ให้เดินไปขึ้น MRT สถานีบางยี่ขัน ซึ่งเดินไป 10 นาทีถึง นับว่าเป็นอีกจุดเด่นนึงของทำเลนี้เลย
การออกแบบโครงการ และวัสดุ ด้วยการปรับโปรดักต์ใหม่ภายใต้ชื่อ 168 ทำให้โครงการ Place 168 ปิ่นเกล้า มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าโครงการของลุมพินีตัวก่อน ๆ โดยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้าไป และยังมีการซอยอาคารออกเป็นหลายอาคาร เพื่อให้จำนวนยูนิตต่ออาคารตกอยู่ที่ 200 กว่า ๆ ยูนิต และมีห้องต่อชั้นเพียง 8-10 ห้อง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยเหมือนพวกโครงการระดับ Luxury Class รวมไปถึงห้องของโครงการ ก็ออกแบบ Layout ให้เป็นห้องที่มีหน้ากว้าง เพื่อให้ห้องโปร่งอยู่อาศัยได้สบาย พวกวัสดุต่าง ๆ ในห้องก็เลือกแบบที่ดูสวยงามมากกว่าเดิม รวมไปถึงการเพิ่มระบบ IOT ให้เพื่อความสะดวกสบาย และรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้ดี
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ภายในแต่ละอาคารจะมี Lobby และ Sky Lounge แยกเป็นของตัวเอง และจะมีพวก Co-Living Space, E-Sports Room, Private Meeting Room และ Massage Room ให้เพิ่มที่อาคาร C ซึ่งสามารถทำการ Booking เพื่อเข้าใช้งานแบบ Real Time ได้ นอกจากนั้นส่วนกลางจะอยู่ที่อาคารสันทนาการ เป็นสระว่ายน้ำ และ Fitness Room พร้อมสวนพักผ่อนและ Jogging Track รอบโครงการ ถือเป็นการพัฒนาอีกก้าวของลุมพินี ที่ทำให้ตัวโครงการสมบูรณ์และน่าอยู่ขึ้นค่ะ
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
TEL : 02-689-6888
WEBSITE : https://www.lpn.co.th/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น