หนุ่มร้อง ซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ย่านวุฒากาศ พบปัญหาเพียบ แถมต้องติดต่อซ่อมเองทุกอย่าง

โพสโดย : pure | วันที่ : 29 March 2020

เป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์บนโลกโซเชียล เมื่อมีผู้ใช้ Pantip สมาชิกหมายเลข 3009804 ออกมาแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์การซื้อคอนโดย่านวุฒากาศ แต่กลับพบปัญหาเพียบ ทั้งในเรื่องของห้องพักตัวเอง และ เรื่องปัญหาของส่วนกลาง โดยระบุข้อความไว้ว่า

ซื้อคอนโด เราเป็นลูกค้า เงินก็ต้องจ่าย ปัญหาเราก็ต้องมาแบกรับเอง ทำยังไงได้บ้าง?

ซื้อคอนโด เพลา คอนโดมิเนียม เจ้าของโครงการ บริษัท ชนันธร ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด เงินก็ต้องจ่าย/ปัญหาก็เยอะ

เริ่มต้น ตัดสินใจซื้อ ตั้งแต่ ปี 2559 เพราะทำเล ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก มีตลาดเช้าและเย็น ติดถนนวุฒากาศ คิดว่าโครงการจะดี แต่มีปัญหาเพียบ เราก็ไม่ได้ มีความรู้เรื่องคอนโดเท่าไหร่ เริ่มเข้าอยู่ก็มีปัญหาเลย ปัญหาแรก

1. ปลั๊กไฟติดผนัง มีไฟเข้า แต่เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าแล้วไม่ได้ ถึงกับต้องทุบผนังเช็คสายไฟและการต่อใหม่ เราก็ยย้ายเข้ามาอยู่แล้ว งานเข้าเลย

2. ซิงค์อ่างล้างจานน้ำรั่ว ซึมลงพื้น ต้องติดต่อ SB ผ่านทางโครงการ นานไปหลายเดือน

3. ระบบความปลอดภัยไม่เรียบร้อย ใช้การไม่ได้เลย

4. แอร์หมดประกัน โคตร เลยนี้ …ตอนแรกมีปัญหาเรื่องแอร์ ไม่เย็น ติดต่อทางโครงการ ผ่านทางนิติ ..นานเป็นเดือน ก็ได้รับแจ้งจากทางโครงการให้ลูกบ้านติดต่อผู้ให้บริการแอร์โดยตรง ไม่ต้องติดต่อผ่านโครงการ โครงการไม่รับบริการ (ลูกค้าติดต่อผู้ให้บริการแอร์โดยตรง) ทางลูกบ้านก็ได้ติดต่อไป

พอติดต่อไป เอยยย ถึงบ้างอ้อ!! แอร์หมดประกัน / พึ่งเข้าอยู่ได้ไม่กี่เดือน แอร์หมดประกัน ..คือสรุปโครงการ มาติดตั้งแอร์หมดประกันให้ลูกค้า (นึกถึง ตอนที่มาเดินดูโครงการ ติดตั้งแอร์เกือบทุกห้องแล้ว แต่ภายในห้องยังทำไม่เสร็จ) ก็คาดการว่า น่าจะติดตั้งพร้อมๆกัน

ก็เลยแจ้งกลับมายังโครงการ ว่าได้รับคำตอบจากบริษัทผู้ให้บริการแบบนี้ (เขาเช็คจากหมายเลขเครื่อง ประกันมันเริ่มตั้งแต่เอาออกมาจากโรงงาน) คิดว่าอาจจะติดตั้งแล้วทั้งโครงการ (เหมาติดตั้ง) ได้ประสานติดต่อกับโครงการและช่างแอร์ อยู่นาน 6-7 เดือน

5. ฝนตกน้ำซึมเข้าผนัง ผนังห้องแตกร้าว ทั้งแนวตามรูป ซ่อมครั้งแรก 2561 / ซ่อมครั้งที่2 2562 / เกิดปัญหาซ้ำ อยู่ในระหว่างเจรจาต่อรองซ่อม ครั้งที่ 3

ในระหว่างเกิดปัญหา ผมจะทำหนังสือ ถึงโครงการเซ็นรับทราบทุกครั้ง ครั้งที่ 3 นี้ ก็เช่นกัน พร้อมข้อเรียกร้อง แต่โครงการปฎิเสธ

พร้อมมีข้อเรียกร้อง แต่โครงการปฎิเสธ

ซ่อมห้องมาแล้ว 2 ครั้ง

ครั้งที่ 3 นี้ กำหนดการซ่อมและแก้ไข 8 วัน (ผมกำหนดวันเอง ภายใน 8 วัน ทำให้เสร็จ เพราะผลกระทบต่องานผมจะได้น้อยลง)

– 30 มีนาคม 63 ผู้เสียหายห้อง จะทำการเคลียร์ห้อง

– 31 มีนาคม 63 และ 1-3,7-9 เมษายน 63 ช่างโครงการเข้าดำเนินการ แก้ไขปัญหาให้เรียบร้อย

โครงการจ่ายชดเชยผู้เสียหายจากปัญหา ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับห้อง และค่าที่พักชั่วคราว ดังนี้

1. ค่าชดเชยปัญหาและผลกระทบ 8 วัน วันละ 2,000 บาท รวม 16,000 บาท (ผมเข้าอยู่แล้วของในห้องก็เยอะ ต้องหยุดงาน ต้องเฝ้าห้อง

ครั้งที่ 1และ 2 ผมไม่ได้คิดค่าชดเชยส่วนนี้ ก็คิดว่าไม่เป็นไร แต่มันก็มีปัญหากระทบหลายเรื่องสาระพัด แต่ครั้งที่ 3 นี้ เลยคิดค่าชดเชย โครงการจะได้ใช้สมองคิดบ้าง ลูกค้าเขาเดือดร้อนเพราะพวกคุณทำไม่ดี จะได้ไม่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำอีก)

2. ค่าที่พัก โรงแรม 30 วัน วันละ 1,000 บาท รวม 30,000 บาท (ทำงานจริงไม่กี่วัน แต่ที่เรียกร้อง 30 วัน เพราะครั้งที่ 1 และ 2 โครงการชดเชยตามวันที่ทำงาน ทำเสร็จต้องทนนอนดมกลิ่น เป็นเดือนสองเดือน ครั้งนี้เลยคิดนอนโรงแรม แต่โครงการก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด)

3. ค่าอื่นๆ เช่น ทำความสะอาดติดตั้งม้าน แอร์ เนื่องจากฝุ่น 3,000 บาท (ครั้งที่ 1 และ 2 ผมต้องจ่ายค่าติดตั้งอุปกรณ์ใหม่เองทั้งหมด)

ยอดรวมทั้งสิ้น 49,000 บาท

ข้อสุดท้าย หากเกิดปัญหาซ้ำอีก เป็นครั้งที่ 3 ขอให้โครงการชดเชยค่าเสียหาย (ตามเอกสาร)

เรื่อง ระบบความปลอดภัยไม่เรียบร้อย ใช้การไม่ได้เลย ทั้งที่มีลูกบ้านเข้าพักอาศัยแล้ว

แล้วก็เกิดไฟไหม้ แจ้งดับได้ทัน ถ้าลามนี่คือตายหมู่ ขนาดเกิดไฟไหม้ โครงการยังไม่คิดจะทำอะไร ก็ยังปล่อยปะละเลยมาเรื่อยๆ หลายปี และยังเอาคนงานออกไปทำงานที่อื่น อ้างว่างานเสร็จหมดแล้ว เหลือเก็บรายละเอียดนิดหน่อย เศร้า!! (2017/11/03)

ตอนนี้ไม่รู้ว่าระบบความปลอดภัย เรียบร้อย ใช้งานได้ดีไหม (2020/03/22)

ระบบลิฟต์ ก็มีปัญหา ปัญหาทุกวัน ทุกสัปดาห์ กว่าจะมาซ่อม-แก้ไขปัญหาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เหมือนว่าโครงการติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่ทำงานร่วมกันไม่ได้ แก้ปัญหาจุดที่มีปัญหา แล้วก็เกิดปัญหาใหม่ไปเรื่อยๆ เปลี่ยนอะไหล่ เปลี่ยนไป-เปลี่ยนมา ก็ไม่หาย หาอุปกรณ์เชื่อมต่อให้ฮาร์ดแวร์ทำงานร่วมกันได้ ก็ไม่หาย ลูกบ้านโวยวาย อยู่หลายปี

สุดท้าย ยอมเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ที่ทำงานร่วมกันได้ (ลิฟต์ยี่ห้อโคเน่) ไม่รู้ว่าทำไม่ยอมเปลี่ยน แต่ที่คิดในใจ ไม่ยอมเปลี่ยนตั้งแต่แรก แต่ยอมแก้ไขปัญหาเอาหน้ารอดไปเรื่อยๆหลายปี เพราะราคาฮาร์ดแวร์มันสูง (คาดเดา) ติดตั้งมาผิดตั้งแต่แรกแล้ว ลูกบ้านก็ใช้ๆไป แบบมีปัญหาก่อน ถ้าแก้ปัญหาได้ก็โชคดี

อัปเดตวันที่ 30 มี.ค. 63

ต่อ ซิ้งค์อ่างล้างจานน้ำรั่ว ซึมลงพื้น ต้องติดต่อ SB ผ่านทางโครงการ นานไปหลายเดือน

ตอนเข้ามาตรวจสอบ ก็ลองเปิดน้ำไหลปกติ เปิดดูใต้ซิ้งค์อ่างก็ไม่มีปัญหาอะไร น้ำไม่ซึ้ม ไม่มีสักหยด

พอตอนเข้าอยู่ อยู่ไปสักพัก มีน้ำซึม สังเกตไม่เห็นเลยมันซึมตรงไหน แต่ที่รู้ว่าซึม คือ ไม้รองพื้น เปียก และเริ่มบวม บวมมากพอสมควร ก็เลยรู้ว่าซิ้งค์อ่างล้างจานน้ำรั่ว ซึมลงพื้น …พีคสุดก็ตอนแจ้งซ่อม อะไรมันจะเสียเวลาและนานไปมากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

SB ก็หวยแตก การประสานงานก็ขาดๆ เกินๆ ปัญหาเราก็แจ้ง แต่ขาดการดำเนินการที่ดี ไม่มีประสาน หรือตามงานให้เรา ปล่อยเรื่องไปเรื่อยๆ ลูกค้าลูกบ้านก็รอ เรื่องนี้ลูกบ้านหลายท่านจะรู้ดี ยิ้มโคตรช้าาาาาา ไม่ช้าธรรมดา ช้าโคตรๆๆๆ (ช้าโคตรๆ)

เพิ่มเติมครับ ..ผนังห้องแตกร้าว น้ำซึม แถมมีปลวก … คือ ตอนเข้ามาตรวจสอบห้อง ผมก็ไม่ได้มีความรู้มากมาย ก็ได้ตรวจสอบอย่างดี เช็คผนัง แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากห้องผมโดยตรง มันมีรายละเอียดที่ทำให้เกิดปัญหานี้

รายละเอียด

ผนังห้องที่แตกร้าว ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ช่างมาแต่ละคน พูดไปเรื่อยเหตุผลไม่เหมือนกัน สรุปใจความสำคัญไม่ได้เลย อีกอย่างช่างยิ้มโคตรขี้โม้ แต่ที่มีน้ำซึม เกิดจากน้ำไหลลงมาจากบนดาดฟ้า ฝนตกหนักซึมเข้าผนัง กับเข้าทางหน้าต่างบานเลื่อน ไหลลงพื้นทำให้พื้นไม้มีความชื้น

ส่วนปลวกที่เห็น อาจจะเกิดการที่ผมชอบเปิดห้องไว้ ช่วงเย็นๆ ปัญหาน้ำเข้าทางหน้าต่างบานเลื่อน ช่วงหน้าฝนหลายๆห้อง ที่นี้ก็เป็นกันเกือบทุกห้อง

ท่อน้ำซึมห้อง ..แต่ท่อน้ำทิ้งนี้ ของห้องข้างบนห้องผม ที่รู้คือผมไม่ได้ใช้น้ำ แต่มีน้ำไหลเลยถามช่าง

แต่มาอยู่หลังห้องผม ผมก็งง!!!! ทำไมเขาไม่ต่อออกหลังห้องนั้นเลย และถ้าห้องข้างบนมีปัญหาท่อน้ำนี้ ทำยังไง? ..เขาบอกว่าต้องมาเคาะห้องผมเพื่อซ่อมท่อ ..อ้าว!! แล้วถ้าผมไม่อยู่ละ (ก็มีปัญหาไปเรื่อยๆ) ..กำเวรไหมละ !!!

ตอนผมตรวจห้องผมก็เดินเปิดน้ำ เช็ค ตามจุดต่างๆ จุดนี้ก็ไม่น้ำซึม ก็ผ่านไป โดยที่ผมไม่รู้เลยว่า เป็นท่อน้ำทิ้งห้องข้างบน