Written by : Nin Yanin
สวัสดีค่า วันนี้ทีมงาน Condonayoo จะพาคุณผู้อ่านไปชมคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ‘ทาวน์ อิน ทาวน์’ เพื่อตอบโจทย์ Demand ของการใช้ชีวิตและการทำงานในย่านนี้ กับโครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว จาก พี แอนด์ พี แอสเซท กรุ๊ป โครงการตั้งอยู่บนถนนอินทราภรณ์ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม.
เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนศรีวรา, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนลาดพร้าว และถนนรามคำแหง และยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช เพียง 1.2 กม.* เท่านั้น รวมไปถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพราะอยู่ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 83 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรามคำแหง เพียง 3 นาที*
รอบโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพราะอยู่ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาลหลายแห่ง เช่น Lotus’s Go Fresh ทาวน์ อิน ทาวน์, The Scene ทาวน์ อิน ทาวน์, Imperial World, Big C ลาดพร้าว, Central Eastville, The Mall รามคำแหง, The Mall บางกะปิ, รร.อุดมศึกษา, รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี), รร.นานาชาติสิงคโปร์ ประชาอุทิศ, รพ.ลาดพร้าว, รพ.เวชธานี, รพ.เปาโลโชคชัย 4 เป็นต้น
โครงการ พรีมิโอ ยูนิค เอกมัย-ลาดพร้าว เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ในสไตล์ Modern ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2-2-28 ไร่ มีห้องพักอาศัยจำนวน 340 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 3 แบบหลัก ๆ ได้แก่ 1 Bedroom 23-29 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม. และ 2 Bedroom 39-40 ตร.ม. ห้องตกแต่งพร้อมอยู่แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดจากแบรนด์ SB Furniture
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้มาแบบจัดเต็มถึง 27 รายการ* อาทิ Lobby สุดชิคพร้อม Co-Living Space, Unic Grand Park ปอดขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ, Unic Theater, Meeting Room, Lap Pool ขนาดกว่า Half Olympic ว่ายน้ำได้แบบจุใจ แยกโซน Kid Fun Pool ให้, Sauna แยกชาย-หญิง, Fitness Room ให้เครื่องออกกำลังกายครบครัน, Rooftop Garden, Shuttle Bus Service, เข้า-ออกอาคารพักอาศัยผ่านระบบ Face Scan + ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ผ่าน Auto Sliding Door, เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass พร้อม CCTV และ รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท* (เม.ย. 67)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก premiumplacegp.com/project/premio-unic/#opening
เราไปดูกันเลยค่ะว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
| ชื่อโครงการ | พรีมิโอ ยูนิค เอกมัย-ลาดพร้าว / PREMIO UNIC Ekkamai-Ladprao |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท พี แอนด์ พี แอสเซท กรุ๊ป จำกัด |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 2-2-28 ไร่ |
| จำนวนตึก | 2 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 340 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 40% ของจำนวนยูนิต หรือจอดได้ประมาณ 111 คัน (รวมซ้อนคัน) |
| จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว/อาคาร (ระบบล็อกชั้น) |
| โซน | เขตวังทองหลาง |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถนนอินทราภรณ์ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. |
| กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ธ.ค. 65 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | ไตรมาส 1 ปี 67 |
| ราคา | เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* (เม.ย. 67) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 85,000-90,000 บาท/ตร.ม.* (เม.ย. 67) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | Landscape (Unic Grand Park)
1st Floor
2nd Floor
3rd Floor
Roof Top Garden
Security & Service
|
| Tel | 02-552-6644 |
| Line | @premiumplace |
| Website | www.premiumplacegp.com |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนอินทราภรณ์ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม.
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/E9MfwGqkgSPewybKA
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนถนนอินทราภรณ์ (หรือฝั่งตรงข้ามกับ รร.อุดมศึกษา นั่นเองค่ะ) ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจอย่าง ทาวน์ อิน ทาวน์ ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะเป็นทำเลที่เป็นแหล่งรวมของออฟฟิศทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ของบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น Lotus’s และ The Scene ทาวน์ อิน ทาวน์ เรียกว่าเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ ได้ความสะดวกสบายสูง
ซึ่งโดยปกติแล้วอสังหาฯ ที่มักจะถูกพัฒนาในย่านนี้ก็มักจะเป็นพวกโครงการโฮมออฟฟิศหรืออาคารพาณิชย์ เพื่อรองรับการทำธุรกิจส่วนตัว หรือที่เห็นกันเยอะก็คือธุรกิจที่เกี่ยวกับงานด้าน ราคาก็จะอยู่ในหลักสิบล้านขึ้นไป ถ้าเป็นราคาบ้านก็จะอยู่ในเรนจ์ที่จับต้องได้ยากแล้ว เพราะถือว่าอยู่ในโซนเลียบด่วนรามอินทราที่มีแต่โครงการบ้านหรู ด้วยความที่เป็นทำเลศักยภาพ อยู่ใกล้ทางด่วน มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน จึงมีราคาที่ดินที่สูงมากแล้วนั่นเองค่ะ
เพราะฉะนั้น Option ที่อยู่อาศัยของพนักงานหรือคนทำงานในย่านนี้ในราคาที่ยังจับต้องได้ง่ายในช่วงล้านต้นจึงถือว่าหาได้ค่อนข้างยาก โครงการนี้จึงถือว่าถูกพัฒนามาเพื่อรองรับ Demand ในส่วนนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังใกล้เคียงอย่าง รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เพราะหากย้ายชื่อบุตรหลานของท่านเข้าในทะเบียนบ้านอย่างน้อย 2 ปี ก็จะได้สิทธิในการเข้าเรียนโรงเรียนนั่นเองค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ทาวน์ อิน ทาวน์ เป็นย่านธุรกิจ ก็เพราะว่าเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนสำคัญอื่น ๆ ได้ง่ายมาก โดยจากที่ตั้งของโครงการตรงถนนอินทราภรณ์ สามารถเดินทางออกไปถนนใหญ่ได้ถึง 3 สาย ทั้ง , ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นย่านสำคัญสำหรับการทำธุรกิจและเป็นย่านที่อยู่อาศัยในเมืองขนาดใหญ่
โดยถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเส้นเลียบด่วนรามอินทรา สามารถใช้ตรงเข้าพระราม 9-เอกมัยได้เลย
ทางด่วน ที่สำคัญคือบนเส้นประดิษฐ์มนูธรรมยังมีจุดขึ้น-ลงทางด่วนฉลองรัช หรือรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นตัวช่วยในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้เป็นอย่างดีค่ะ สำหรับจุดขึ้นทางด่วนขาเข้าเมืองจะอยู่ใกล้กับโครงการเพียง 1.2 กม.* เท่านั้น ใช้เดินทางไป พระราม 9-ดินแดง หรือเชื่อมต่อทางด่วนสายอื่น ๆ ได้
สำหรับขากลับเข้าโครงการจะมีจุดลงทางด่วนอยู่ใกล้ ๆ (ทางออก 9) ห่างจากโครงการเพียง 2.2 กม.* เท่านั้น มาจากตัวเมืองฝั่งสาทร-สีลม, พระราม 9-ดินแดง หรือโซนอื่น ๆ ก็ใช้เส้นนี้มาลงโครงการได้สะดวก
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ จุดเด่นของทำเลโครงการนี้ก็คือ มีรถไฟฟ้าตัดผ่านถึง 3 สายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 83 เพียง 3 นาที* จากโครงการ เป็นสายที่เชื่อมต่อกับ MRT สถานีลาดพร้าว, APL สถานีหัวหมาก, รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีแยกลำสาลี และ BTS สถานีสำโรง ซึ่งสายนี้ได้เปิดให้ใช้บริการกันไปแล้ว
รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรามคำแหง เพียง 5 นาที* จากโครงการ หรือบริเวณหน้า ม.รามคำแหง นั่นเอง และอีกสายก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่จะตัดผ่านบนเส้นประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นแผนพัฒนาในอนาคต ซึ่งทุกสถานีใกล้โครงการที่กล่าวมานี้สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่ให้ไปส่งได้สะดวกในเวลาไม่เกิน 5 นาที* เท่านั้นค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ในย่านทาวน์ อิน ทาวน์ ถือว่าดังในเรื่องของร้านอาหารชื่อดังอร่อย ๆ ที่เป็นร้านแนว Local Bars & Restaurant รวมไปถึง Local Cafe อีกมากมาย ในระยะที่สามารถเดินไปถึงได้ หรือขับรถในระยะใกล้ ๆ โดยใกล้ ๆ กับโครงการในระยะเดินไม่เกิน 500 ม.* จะมี Community Mall อยู่ด้วยนะคะ ทั้ง Lotus’s Go Fresh ทาวน์ อิน ทาวน์, Tree Square ทาวน์ อิน ทาวน์, The Scene ทาวน์ อิน ทาวน์ รวมไปถึง Makro Food Service บดินทรเดชา จะหาอะไรทานหรือจะซื้อของเข้าบ้านก็ทำได้สะดวกสุด ๆ
ส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย จะอยู่ในโซนใกล้เคียงอย่างโซนลาดพร้าว, เลียบด่วนรามอินทรา และบางกะปิ ไม่ว่าจะเป็น Makro Food Service ทาวน์ อิน ทาวน์, Imperial World, Big C ลาดพร้าว, Sand Haus เหม่งจ๋าย, Golden Place พระราม 9, Big C หัวหมาก, Foodland ลาดพร้าว, Home Pro เอกมัย-รามอินทรา, Lotus’s รามอินทรา-อาจณรงค์, The Mall รามคำแหง, Central Festival Eastville, CDC, The Crystal เอกมัย-รามอินทรา, The Mall บางกะปิ, N Mark Plaza, Happyland และมีโรงภาพยนต์อยู่ใกล้ ๆ อยู่ 2 ที่ ทั้ง Major Hollywood รามคำแหง และ Major Cineplex บางกะปิ ค่ะ
สถานศึกษาที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ก็คือ รร.อุดมศึกษา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเลยค่ะ หรือถัดออกไปเพียง 500 ม.* ก็จะถึง รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แล้ว ใครที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่นี่ หรือเป็นบุคคลากรของโรงเรียนนี้ สามารถเดินไปเรียนและไปทำงานได้สะดวกมาก ไม่ต้องเสียเวลาไปกับเดินทางในช่วง Rush Hour
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี รร.เทพลีลา, ม.รามคำแหง, รร.สาธิต ม.รามคำแหงฯ, รร.นวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา และ ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นย่านของโรงเรียนนานาชาติที่มีชื่อเสียงของ กทม. อีกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็น รร.นานาชาติสิงคโปร์ ประชาอุทิศ, รร.ฝรั่งเศสนานาชาติ กรุงเทพฯ, รร.นานาชาติ Regent’s, รร.สมาคมไทย-ญี่ปุ่น, รร.นานาชาติ KIS และ รร.นานาชาติ Traill เป็นต้น
นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำอีกหลายแห่งในระยะอุ่นใจ เช่น คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา, รพ.ลาดพร้าว, รพ.เวชธานี, รพ.เปาโลโชคชัย 4, รพ.รามคำแหง, รพ.ปิยะเวท และ รพ.กรุงเทพ ส่วนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ชอบเสริมความงาม รวมถึง เพื่อน ๆ ชาว LQBTQ ก็มี รพ.ศัลยกรรมตกแต่งกมล ตั้งอยู่ข้าง ๆ โครงการเลยค่ะ
ส่วนอาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ ใกล้ ๆ กับโครงการจะเป็นที่ตั้งของบริษัท และออฟฟิศชั้นนำที่มีชื่อเสียงกันเยอะอยู่แล้ว ทั้งยังมีโรงแรมทาวน์อินทาวน์, พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า-หอประชุมกองทัพบก, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) MRTA และอยู่ใกล้กับสำนักงานเขตวังทองหลาง เพียง 1.7 กม.* ทำให้ลูกบ้านที่นี่ง่ายต่อการติดต่อธุระราชการต่าง ๆ อย่างงานทะเบียนราษฎร และการทำบัตรประชาชน ก็สะดวกมาก ๆ ไม่ต้องลางานทั้งวันหรือเดินทางไกลค่ะ
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
เรามีภาพการเดินทางไปโครงการโดยใช้รถส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม > ถนนอินทราภรณ์ > โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว
เราเริ่มต้นการเดินทางจากบนถนนประดิษฐ์มนูธรรมฝั่งมุ่งหน้าไปลาดพร้าว-พระราม 9 ผ่านถนนเกษตร-นวมินทร์มาเล็กน้อย เราจะผ่าน Chic Republic และ CDC ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ
ตรงไปข้างหน้าจะมีถนนลาดพร้าวตัดผ่าน
ให้เราชิดขวาเพื่อขึ้นสะพานยกระดับข้ามถนนลาดพร้าวไปค่ะ
พอลงจากสะพานยกระดับแล้วให้เราชิดซ้าย จากนั้นให้เลี้ยวเข้าถนนอินทราภรณ์ตามป้าย รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
ภายในถนนอินทราภรณ์จะมีความคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์มากเลยนะคะ ทั้ง 2 ฝั่งของถนนจะมีร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ และอาคารพาณิชย์ อยู่ตลอดไม่ขาดช่วง โดยช่วงแรกของถนนจะมีขนาด 2 เลน
พอตรงเข้าไปด้านในถนนจะถูกขยายออกเป็นขนาด 4 เลน ทางฝั่งซ้ายมือของเราจะผ่าน Lotus’s go fresh ทาวน์ อิน ทาวน์ ถ้าเลี้ยวออกไปทางขวาก็คือถนนศรีวรานั่นเองค่ะ
ตรงเข้ามาภายในถนนอินทราภรณ์ประมาณ 600 ม.* เราก็จะถึงโครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว แล้วค่า
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ
โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 2 อาคาร พัฒนาบนที่ดินขนาดประมาณ 2-2-28 ไร่ ผังโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนอินทราภรณ์ สามารถเข้าถนนศรีวราได้ใน 100 ม.* โดยรอบโครงการมีความคึกคักด้วยความที่เป็นย่านธุรกิจ พื้นที่ที่อยู่ติดถนนหลักส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ พอเข้าไปภายในซอยเป็นอาคารพักอาศัย
โดยฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็คือ รร.อุดมศึกษา ฝั่งซ้ายของโครงการจะมี Community Mall เป็น Lotus’s go fresh และ The Scene ในอนาคตจะมี 7-11 มาเปิดอยู่ติดกับโครงการเลยค่ะ ส่วนฝั่งขวาก็จะมี รพ.ศัลยกรรมตกแต่งกมล ที่เคยกล่าวถึงไปตั้งแต่ต้น ๆ แล้ว
รอบโครงการ
เรามาเดินดูบรรยากาศโดยรอบโครงการกันค่ะ จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ใกล้ ๆ นี้บ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็คือ รร.อุดมศึกษา ใครที่เป็นบุคลากรของโรงเรียนนี้ หรือมีบุตรหลายเรียนอยู่ที่นี่ แค่ข้ามถนนก็ถึงโรงเรียนแล้ว
เราจะเดินย้อนไปทางฝั่งซ้ายมือ มุ่งหน้าไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมและถนนศรีวรากันก่อน
พื้นที่ติดกับโครงการจะเป็นที่ดินบุคคลอื่น ในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเป็น 7-11 และที่จอดรถให้เช่าแบบรายวันและรายเดือน สะดวกกับลูกบ้านของโครงการมาก ๆ
ตลอดถนนอินทราภรณ์ส่วนใหญ่พัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นธุรกิจร้านค้ามากมาย มีทั้งร้านอาหาร, คลินิกทันตกรรม, ร้านขายยา และร้านขายของอย่างหลากหลาย
เดินมาเพียง 100 ม.* ก็สามารถเข้าสู่ถนนศรีวราได้แล้ว
ซึ่งตรงหัวมุมระหว่างถนนอินทราภรณ์และถนนศรีวรานี้เองจะมี Community Mall ที่เราขับผ่านตอนขามาโครงการ นั่นก็คือ Lotus’s go fresh ทาวน์ อิน ทาวน์ ที่อยู่ติดกับก็คือ The Scene ทาวน์ อิน ทาวน์ เป็นระยะที่สามารถเดินมาจากโครงการได้สะดวก นอกจากจะสามารถซื้อของเข้าบ้าน, หาร้านอาหารอร่อย ๆ ทาน, Shopping ได้แล้ว ก็ยังมี Jetts 24 Hrs. เป็นยิมสัญชาติออสเตรเลียมาเปิดให้บริการกันอีกด้วย
จากหน้าโครงการเราจะเดินออกไปทางฝั่งขวามือ ฝั่งนี้จะเชื่อมต่อกับซอยลาดพร้าว 112 และซอยรามคำแหง 43/1 ค่ะ
เดินจากโครงการไปนิดเดียวก็จะถึง รพ.ศัลยกรรมตกแต่งกมล แล้ว ใครที่ชอบดูแลตัวเองด้วยหัตถการต่าง ๆ อยู่แล้วถือว่าสะดวกเลยค่ะ
ตลอด 2 ข้างถนนของถนนก็จะมีอาคารพาณิชย์และร้านค้าอีกมากมาย โดยฝั่งตรงข้ามกับโครงการก็จะมีตลาดนัดทาวน์ อิน ทาวน์ เปิดเป็นร้านและซุ้มขายอาหารหลายร้านให้เลือกฝากท้องกันได้สบาย ๆ
ตัวโครงการ
โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 340 ยูนิต ออกแบบภายใต้แนวคิด “Be Unique Live Smart” ก้าวสู่ชีวิตแบบ Digital ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองที่แตกต่างกัน
การออกแบบ Facade Design ของอาคารนั้น จะมีความ Unique คล้องกับชื่อโครงการ Premio Unic มีความโดดเด่น ทันสมัย มีการเล่น Movement ของ Facade และเซาะร่องผนังภายนอกสลับกันไปมา ตัวอาคารใช้โทนสีเทาเข้มและเทาอ่อนดูทันสมัย
ซึ่งที่นี่ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของระบบ Smart Home, Smart Screen และ Smart Facilities และความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่
ภาพมุมสูงของโครงการให้เห็นตัวอาคารโดยรอบด้าน
ภาพโมเดลจำลองของโครงการ ฝั่งด้านหน้า ด้านข้าง และบริเวณ Facilities กลางโครงการ
มาดูแปลนอาคารชั้น 1 กันค่ะ เริ่มจากทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ฝั่งถนนอินทราภรณ์ ตรงเข้ามาภายในโครงการจะมีการเดินรถยนต์แบบ One Way วนซ้ายไปตามเข็มนาฬิกา ซึ่งก็จะผ่านอาคาร A, อาคาร B และวนกลับออกมาทางเดิม ส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ใต้อาคารทั้ง 2 อาคาร และมีที่จอดรถกลางแจ้งบางส่วน จอดได้ประมาณ 111 คัน รวมจอดซ้อนคัน หรือคิดเป็น 40% ของจำนวนยูนิตพักอาศัยค่ะ
เข้าไปภายในอาคาร A และอาคาร B จะเป็น Lobby และ Co-Living Space เชื่อมต่อกับ Lift Lobby เพื่อขึ้นสู่อาคารพักอาศัยและมีประตูเชื่อมออกสู่ เป็น Court กลางโครงการ ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ มีการแบ่ง
แปลนอาคารชั้น 2 ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้นนี้ค่ะ ฝั่งอาคาร A จะมีทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น ส่วนฝั่งอาคาร B จะมีทั้งหมด 21 ยูนิต/ชั้น มีการออกแบบผังอาคารเป็นรูปตัว L และออกแบบโถงทางเดินให้เป็น Double Corridor สำหรับ Lift Hall จะอยู่ตรงกลางของแต่ละอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 2 ฝั่งเดินมาใช้งานได้สะดวก
โดยฝั่งอาคาร B จะมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็น Main Facilities แยกส่วนจากห้องพักอาศัยด้วยประตู Key Card ประกอบด้วย Lazy Theater, Meeting Room, Infinity Edge Pool ขนาด 20 x 7 ม. พร้อม Kid Fun Pool, มุม Pool Terrace, Jacuzzi Corner และห้องน้ำส่วนกลางกับห้อง Sauna แยกชาย-หญิง
แปลนอาคารชั้น 3 จะเป็นเหมือน Typical Floor Plan โดยอาคาร A มีห้องพักทั้งหมด 26 ยูนิต/ชั้น ส่วนอาคาร B มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 22 ยูนิต/ชั้น และมีพื้นที่ส่วนกลางแยกอาคารออกมาบริเวณสระว่ายน้ำเป็น Fitness Room
แปลนอาคารชั้น 4-8 จะเป็น Typical Floor Plan แล้วค่ะ อาคาร A มีห้องพักทั้งหมด 26 ยูนิต/ชั้น ส่วนอาคาร B มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 22 ยูนิต/ชั้น เหมือนชั้น 3 เลย
แปลนชั้นดาดฟ้า ชั้นนี้จะไม่มี Foor Plan มาให้ดูนะคะ แต่โดยพื้นที่จะเป็น Rooftop Garden อยู่ที่ฝั่งอาคาร A ประกอบไปด้วย Sky Theater, Golf Putting Garden และ Camping Area
เราเข้าไปดูบรรยากาศจริงภายในโครงการกันเลยค่ะ เริ่มจากบริเวณทางเข้าโครงการจะมี Security ด่านแรก เป็นป้อม รปภ., กล้อง CCTV และรั้วไม้กระดก ดูแลความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม. โดยลูกบ้านของโครงการสามารถเข้า-ออกผ่านระบบ Easy Pass ได้อย่างรวดเร็วไม่เสียเวลา
ตรงเข้ามาภายในโครงการจะมีการเดินรถยนต์แบบ One Way ตามเข็มนาฬิกา โดยให้เราวนเข้าไปใต้อาคาร A แล้ววนไปอาคาร B ที่อยู่ฝั่งด้านหลัง
ตรงเข้าไปใต้อาคาร A เราจะเจอ Auto Sliding Door เพื่อเข้าสู่โซน Lobby แบบนี้ค่ะ
ภาพบรรยากาศภายใน Lobby A เป็น High Ceiling Lobby ได้บรรยากาศที่ดูโปร่งสบาย มีการตกแต่งที่ดูทันสมัย ใช้สีสันในโทนสดใส มีเฟอร์นิเจอร์เป็นชุดโซฟาหลายชุดรองรับการนั่งเล่นพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ผนังฝั่งหนึ่งของห้องออกแบบเป็นหน้าต่างและบานกระจกขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวของ Main Park ได้บรรยากาศที่ดีทีเดียวค่ะ ส่วนประตูที่อยู่สุดทางเดินจะเป็นประตูที่สามารถเปิดออกสู่ Main Park ได้ โดยการเข้า-ออกตัวอาคารในทุก ๆ ส่วนตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไปจะต้องใช้ Key Card ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของ Lobby A จะมีประตูเชื่อมสู่ Lift Lobby
ในส่วนนี้เราสามารถเปิดประตูผ่านระบบ Face Scan และ Key Card ค่ะ
ภายใน Lift Lobby จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว/อาคาร เป็นการแบ่ง Traffic การใช้งานลิฟต์ได้ดี
จาก Lobby A เราออกมาที่ Main Park กันต่อ ส่วนนี้เป็นพื้นที่สวนกลางโครงการขนาดใหญ่ มีการจัดแลนด์สเคปเอาไว้อย่างสวยงาม ได้ความร่มรื่นน่าพักผ่อนหย่อนใจเพราะมีการลงต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาไว้หลายต้นเลย
ภายในสวนเองจะแบ่งเป็นมุมต่าง ๆ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ โดยติดกับ Lobby A จะเป็นมุม Chill Out Terrace เป็นพื้นที่โซน Outdoor ได้บรรยากาศแบบ Semi-Outdoor Space มีชุดโซฟาขนาดใหญ่จัดเอาไว้ให้นั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ และชมวิวสวนได้
ข้างกันเป็นมุม Amphitheater เป็นอีกจุดที่น่านั่งและมีความใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
ถัดมาเป็นมุม Private Garden และ Relax Air Flow ได้บรรยากาศการนั่งพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวใต้ร่มเงาไม้
รวมไปถึงมุม Multi-Purpose Area ออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์บาร์ เหมาะสำหรับคนที่อยากนั่งทำงานอ่านหนังสือโซน Outdoor หรือจะนั่งดื่มหรือทานขนมง่าย ๆ ก็ได้ค่ะ
จาก Lobby B ก็จะมีประตู Key Card ที่สามารถเปิดเชื่อมออกมาที่ Grand Park ได้เช่นกัน
เรามาดูในส่วนของ Lobby B กันต่อค่ะ
ด้านข้าง Lobby ออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อนโซน Semi-Outdoor ที่อยู่ติดกับ Main Park ได้บรรยากาศที่ดีเหมือนกัน
ด้านหน้า Lobby B ออกแบบให้เป็น Auto Sliding Door ให้สามารถเข้า-ออกอาคารได้สะดวก
ภายใน Lobby ตกแต่งด้วยโทนสีที่ดูน่ารักดูทันสมัย มีชุดเก้าอี้และโซฟาจัดเอาไว้ให้หลายชุดรองรับการนั่งพักคอย ส่วนฝั่งขวามือนี้เองจะมีประตู Key Card เพื่อเข้าสู่โซน Co-Living Space
ภาพบรรยากาศภายใน Co-Living Space เป็นห้องที่ได้วิวสวน บรรยากาศดีมากเลยค่ะ ภายในห้องมีการจัดชุดเฟอร์นิเจอร์เอาไว้ให้หลายชุด ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่รองรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะเป็นมุมโต๊ะทำงาน ใช้นั่งทำงานและทำการบ้านได้สบาย ๆ วันไหนใครที่ต้อง WFH จะมาใช้พื้นที่ส่วนนี้ก็ได้นะคะ
ตรงเข้าไปด้านในจะมีประตู Key Card เข้าสู่ Lift Lobby ส่วนทางฝั่งซ้ายมือนี้จะมีบันไดวนเพื่อขึ้นสู่ Facilities บนชั้น 2 ค่ะ
ขึ้นมาบนชั้น 2 แล้วเราจะเจอพื้นที่ห้องโถงพร้อมมุมสำหรับนั่งพักผ่อน ฟังก์ชันบนชั้นนี้จะเป็นส่วนของ Lazy Theater, Meeting Room, สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนสค่ะ
เราเข้ามาภายใน Lazy Theater กันก่อน
ข้อดีของที่นี่ก็คือเขามีการแบ่งมุมสำหรับการดูหนังให้ถึง 3 มุมเลยค่ะ สามารถดูหนังและใส่ Headphone แยกกันได้ และมีโซฟาให้นั่งเอนดูหนังได้สบาย ๆ เผลอ ๆ จะหลับกันได้เลย
ด้านใน Lazy Theater จะมี Meeting Room จัดเอาไว้ให้พร้อมโต๊ะประชุมขนาด 6 ที่นั่งและ Smart TV รองรับการประชุมคุยงานแบบเป็นส่วนตัว การประชุมออนไลน์ และการเปิดงานพรีเซ้นต์ได้ค่ะ
เราออกมาดูบริเวณสระว่ายน้ำกันต่อ
สำหรับสระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นสระระบบน้ำเกลือแบบ Infinity Edge Pool ชมวิวได้แบบไม่มีขอบบัง
ตัวสระว่ายน้ำมีขนาดถึง 20 x 7 ม. ใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบาย ๆ เลย
ภายในสระเองจะมีโซน Kid Fun Pool เป็นสระน้ำตื้นให้เด็กเล็กลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ก็ยังมีโซน Jacuzzi Corner เป็นมุมที่สามารถนั่งแช่น้ำและนวดตัวได้ มีทั้งมุมในร่มและมุมกลางแจ้งให้เลือกได้
ข้าง ๆ สระมีมุม Pool Terrace ให้นั่งพักผ่อนรับลมชมวิวได้
มีมุมพักผ่อนแบบยกระดับขึ้นมาที่ล้อมรอบด้วยแลนด์สเคปอย่างสวยงาม ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ
จากบริเวณสระว่ายน้ำจะมีบันไดขึ้นไปยังห้องฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 3 โดยใต้ห้องฟิตเนสจะเป็นส่วนของห้องน้ำแยกชาย-หญิงค่ะ
ภาพบรรยากาศภายในห้องน้ำ ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องลาย Terrazzo โทนสีขาว ดูทันสมัยและสวยงามสะอาดตา ภายในมีมุมเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
มีห้องน้ำและโซน Shower
รวมไปถึงห้อง Sauna ก็มีจัดมาให้เช่นกัน
เราขึ้นมาดูบรรยากาศภายในห้องฟิตเนสกันต่อค่ะ
ผนังของห้อง 2 ฝั่งถูกออกแบบให้เป็นผนังกระจกที่มีความสูงถึงฝ้าเพดาน ทำให้ดูโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และยังชมวิวระหว่างออกกำลังกายได้อย่างเต็มสายตาอีกด้วย ภายในห้องมีอุปกรณ์ออกกำลังกายให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Cardio Machine, Weight Training Machine และ TRX Corner
มีทั้ง Treadmills, Spin Bikes และ Elliptical
รวมไปถึง Smith Machine, Multi-Function Cable Machine, Dumbbell Rack, Adjustable Bench, Gym Ball, Yoga Mat และ TRX พร้อมกระจกเงาสำหรับเช็กท่าทางในการออกกำลังกายค่ะ
มาดู Rooftop Garden ที่อยู่บนชั้นดาดฟ้ากันต่อ
บนนี้ออกแบบแลนด์สเคปสร้างบรรยากาศได้ดีเลยค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็นมุม Golf Putting Garden, Camping Area และ Sky Theater
ในส่วนนี้เราสามารถติดต่อฝ่ายนิติบุคคลเพื่อของยืมตัว Projector สำหรับการฉายภาพยนตร์และดูหนังได้ด้วยนะคะ บรรยากาศตอนกลางคืนน่าจะดีทีเดียว
ภาพรวมของตัวโครงการในมุมสูงอีก 1 มุม
แบบห้องพัก
โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว มีห้องพักอาศัยให้เลือก 3 รูปแบบ 8 Type ดังนี้ค่ะ
ภาพแปลนห้องพัก
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน ดังนี้ค่ะ
โดยทางโครงการจะขายห้องพักในรูปแบบ Fully Furnished By SB Furniture ได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ครบทั้งห้องพร้อมเข้าอยู่ พร้อมเครื่องปรับอากาศจาก Samsung หรือเทียบเท่าค่ะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type 1B-1 ขนาด 23 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. TYPE 1B-1 หรือ Unic Closet เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการที่สามารถอยู่อาศัยได้ 1-2 คน พื้นที่ภายในห้องสามารถแบ่งออกเป็น 6 โซนด้วยกัน ด้านหน้าห้องเป็นโซนห้องครัว มีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนจาก Living Area และโซน Bedroom ที่ออกแบบรวมเป็นพื้นที่ห้องเดียวกัน และมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนแยกโซนจาก Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องน้ำกับระเบียงห้องค่ะ
เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานภายในห้องมีทั้งหมด 7 ชิ้นตามรายการนี้ เป็นเฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาอ่อนและลายไม้สีเข้ม โดยทุกชิ้นถูกออกแบบและ Customize ให้ลงตัวกับพื้นที่ของห้องโดย SB Interior Team จาก SB Furniture ค่ะ
เราเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันเลย เริ่มจากประตูทางเข้าห้องใช้เป็นประตูบานสำเร็จรูป HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน วงกบประตูเป็นไม้เนื้อแข็งทาสีเทาเข้ม พร้อมตัวจบธรณีลามิเนต ซึ่งจะช่วยกันแมลงและฝุ่นผงเล็ก ๆ จากโถงด้านนอก
ที่ตัวบานประตูมี Digital Door Lock ยี่ห้อ COLT ติดตั้งมาให้ สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระบบ การใช้ Key Card, Passcode และการใช้ไขกุญแจแบบ Manual ในกรณีที่ถ่านหมด มีมือจับแบบก้านโยกเปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกเราจะเจอกับพื้นที่ครัว เป็นครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนจาก Living Area เพื่อกันกลิ่นจากการปรุงอาหาร ส่วนวัสดุมาตรฐานภายในห้องอย่างพื้น ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม. ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี Smoky White พร้อมโคมไฟ Downlight หลอด LED ประหยัดพลังงาน และมีความสูงของฝ้าเพดานห้องอยู่ที่ 2.5 ม. ค่ะ
สำหรับห้องครัวเราจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เก็บของมาแบบนี้เลย พวกหน้าบานเปิดทั้งหมดปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้มแบบนี้
Top เคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยเมลามีนสีขาว กันน้ำและกันรอยขีดข่วนได้ดี ใต้เคาน์เตอร์มีชั้นวางของ, ชั้นวางไมโครเวฟ และตู้เก็บของใต้อ่างล้างจานให้
สำหรับเตาปรุงอาหารจะได้เป็นเตาเซรามิกขนาด 2 หัวของ MEX
ได้อ่างล้างจานขนาด 1 หลุมจาก Hafele มีก๊อกน้ำทรงสูง สามารถหมุนซ้าย-ขวาได้
บนตู้ลอยก็มีชั้นวางของและตู้เก็บของมาให้แบบนี้ และมี Hood ของ MEX แบบ Slimline ติดตั้งมาให้ค่ะ นับว่าเป็นชุดครัวที่พร้อมใช้งานและทำอาหารได้สะดวกเลย
ฝั่งตรงข้ามมีตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้า Built-in มาให้เรียบร้อย เป็นจุดที่เหมาะสำหรับใช้วางพวกของสำคัญอย่างกุญแจรถและกุญแจบ้านด้วย ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ให้เราวางตู้เย็นไซซ์มาตรฐานขนาดประมาณ 8 คิว ได้ด้วยนะ
ส่วนประตูที่กั้นส่วนระหว่างห้องใช้เป็นประตูบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมติดกระจกแบบ 3 ตอน ทำให้เลื่อนเปิดได้กว้างมากขึ้น
ตรงเข้าไปด้านในห้องจะเป็นส่วนของ Living Area และโซน Bedroom ต่อเนื่องกันเลยค่ะ ทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างและโปร่งมากขึ้น
สำหรับพื้นที่โซน Living Area มีขนาดกำลังลงตัวกับห้องไซซ์ 23 ตร.ม. นั่งพักผ่อนดูทีวีได้สบาย ๆ
โดยเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งบุผ้าโทนสีเทาอ่อน
และได้ชั้นวางทีวีแบบลอยตัว มีชั้นและตู้สำหรับเก็บของกระจุกกระจิกได้ รองรับทีวีขนาด 32-42 นิ้วได้ ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ Lan Internet มาให้เรียบร้อย
โซน Bedroom จะอยู่ติดฝั่งริมหน้าต่าง ซึ่งทางโครงการออกแบบขนาดหน้าต่างมาเต็มผนังเพื่อให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ใช้บานกรอบอะลูมิเนียมสีดำติดกระจกเขียวตัดแสง มีบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
โซนนี้เราได้ฐานเตียงนอนที่มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียง 1 ช่อง ขนาดกำลังลงตัวกับพื้นที่ห้องเลย เหลือพื้นที่เป็นทางเดินรอบ ๆ สามารถเดินผ่านได้
ภาพบรรยากาศภายในห้องอีกมุมหนึ่ง
ฝั่งปลายเตียงจะเป็นโซน Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบบานคู่ขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่ห้องยังดูเชื่อมต่อกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ในเรื่องของการแบ่งสัดส่วน และยังช่วยประหยัดแอร์ได้อีกด้วย
Walk-in Closet นี่ถือว่าเป็น Highlight ของห้องนี้เลยนะคะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าสวย ๆ เยอะ แม้จะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการแต่ได้ห้องตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบนี้ ที่มีการแบ่งเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมสตูลสำหรับนั่งแต่งตัว, ราวแขวนเสื้อผ้าตัวสั้น-ยาว และชั้นสำหรับวางของเพิ่มเติม ถ้าใครมีพวกกระเป๋าเดินทางก็สามารถเก็บได้เช่นกัน โดยจาก Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำและระเบียงของห้องค่ะ
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเบจและสีขาวขนาด 30 x 30 ซม. และขนาด 20 x 30 ซม. โทนดูสะอาดตา การวางแปลนของห้องแบ่งโซนแห้ง-โซนเปียกให้เรียบร้อย มีสุขภัณฑ์มาให้ครบตามการใช้งานจากแบรนด์ American Standard ส่วนการระบายอากาศจะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้บนฝ้า 1 ตัวค่ะ
ด้านหน้ามีอ่างล้างมือฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูปขนาดใหญ่พอสมควร รอบ ๆ อ่างใช้วางของได้พอสมควร มีตู้เก็บของให้ใต้อ่าง ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก และกระจกเงา
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน และมี Low Wall สำหรับวางของเพิ่มเติมได้
โซน Shower มี Shower Screen ติดตั้งมาให้บนธรณีแล้วค่ะ เป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน แบ่งโซนการใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว
ด้านในมีชุด Hand Shower พร้อมราวปรับระดับและชั้นวางของให้แบบนี้ พร้อมเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว
พื้นที่ยืนอาบน้ำด้านในขนาดยืนอาบน้ำได้สะดวก
ในส่วนของพื้นที่ระเบียงจริง ๆ แล้วจะจบอยู่บริเวณขอบผนังฝั่งซ้ายนะคะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกโดนสีเทา ติดตั้งราวกันตกระแนงเหล็กสีดำ มีก๊อกสนามติดตั้งมาให้ ใช้เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ ส่วนห้องตัวอย่างนี้จะเป็นยูนิตพิเศษที่ได้ระเบียงขนาดใหญ่
ส่วนตัว Condensing Unit จะถูกแขวนอยู่ข้างบนเพื่อให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ ถ้าใครได้ยูนิตนี้ไปสามารถปรับพื้นที่ระเบียงให้เป็นมุมสวนกระถางส่วนตัวได้เลย
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type B1-2 ขนาด 26 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. Type 1B-2 เป็นห้องขนาดรองลงมา สามารถอยู่อาศัยได้ 1-2 คน มีการแบ่งพื้นที่ภายในห้องที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น โดยสามารถแบ่งออกเป็น 6 โซนด้วยกัน ด้านหน้าห้องเป็นโซน Living Area ที่กั้นส่วนจาก Bedroom ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ห้องน้ำและห้องครัวจะอยู่ฝั่งด้านขวาของห้อง ได้เป็นห้องครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานภายในห้องตาม 7 รายการนี้เลยค่ะ เป็นเฟอร์นิเจอร์โทนสีเทาอ่อนและลายไม้สีเข้ม โดยทุกชิ้นถูกออกแบบและ Customize ให้ลงตัวกับพื้นที่ของห้องโดย SB Interior Team จาก SB Furniture
เข้ามาภายในห้องส่วนแรกเราจะเจอกับพื้นที่ Living Area เป็นมุมนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหาร มีการกั้นส่วนจากห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนวัสดุมาตรฐานภายในห้อง ปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดโคมไฟ Downlight หลอด LED และมีความสูงของฝ้าเพดานห้องอยู่ที่ 2.5 ม.
เรามาดูมุมนั่งเล่นด้านหน้าห้องกันก่อน จะเห็นเลยว่าพื้นที่ของห้องจะมีความกว้างขวางมากขึ้น
เราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งบุผ้าโทนสีเทาอ่อน
ฝั่งตรงข้ามได้ตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้า Built-in
ได้ชั้นวางทีวีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับจอทีวีไซซ์ใหญ่ขึ้นได้ ด้วยระยะของห้องเองก็เหมาะที่จะดูทีวีจอใหญ่ขึ้นเหมือนกันค่ะ
ถัดเข้าไปจัดเป็นมุมนั่งรับประทานอาหาร
ซึ่งเราจะได้โต๊ะและเก้าอี้ 2 ตัว วางแบบเข้ามุมได้ลงตัวพอดี
จากโซน Living Area จะมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน กั้นส่วนห้องนอนและห้องครัวออกไป ทำให้ห้องได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น ทำให้ห้องดูโปร่ง เพราะพื้นที่ห้องยังดูเชื่อมต่อกัน และยังได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอด้วย
เราเข้ามาดูภายในห้องนอนกันต่อ พื้นที่ภายในห้องนอนมีขนาดกว้างขวางพอสมควร และมีหน้าต่างขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดระบายอากาศได้
ในห้องนี้เราได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต
และได้ตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเปิดคู่ ภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้า, ชั้นวางของ และลิ้นชักเก็บของให้แบบนี้
ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวเองจะมีพื้นที่โถง ทางโครงการก็ไม่ปล่อยให้ Waste Space โดยการ Built-in ตู้เก็บของเพิ่มให้แบบนี้ค่ะ
สำหรับห้องน้ำจะมีการวางแปลน, การตกแต่ง และการใช้รุ่นสุขภัณฑ์เหมือนห้อง 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. เลย
ในส่วนของห้องครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก เพื่อให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายนั่นเอง โดยข้อดีของครัวห้องนี้ก็คือจะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้สามารถเปิดระบายกลิ่นได้ดีมากยิ่งขึ้น
ในห้องจะมีพื้นที่เว้นเอาไว้ให้สำหรับการวางตู้เย็น และมีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย Built-in มาให้แบบนี้ค่ะ รูปแบบและขนาดจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก แต่ตัวนี้จะมีช่องให้เราวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ด้วย
เปิดออกไปเป็นพื้นที่ระเบียง เพียงพอสำหรับการตากผ้าและงานซักล้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
พวก Condensing Unit จะถูกแขวนเอาไว้ด้านข้าง โดยมี Grill ออกแบบมาบังเอาไว้ให้เพื่อความเรียบร้อยของตัวอาคารค่ะ
ราคา (เม.ย. 67)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก premiumplacegp.com/project/premio-unic/#opening
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Premio Unic เอกมัย-ลาดพร้าว เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในย่านทาวน์ อิน ทาวน์ เพื่อตอบโจทย์ Demand ที่อยู่อาศัยของคนทำงานและพนักงานออฟฟิศในแถบนี้ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานและเชื่อมต่อเมืองในราคาที่ยังหยิบจับได้ง่าย แต่ได้อยู่ในย่านที่มีความสะดวกสบาย ทั้งในแง่ของการเดินทาง เพราะสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้ถึง 3 เส้น ทั้ง ประดิษฐ์มนูธรรม, ลาดพร้าว และรามคำแหง ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และรถไฟฟ้าถึง 3 สาย
รวมไปถึงในแง่ของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเที่ยว หรือ Shopping แค่ในระยะเดินไม่เกิน 500 ม.* หรือระยะขับรถไม่เกิน 5 กม.* ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรอบ ๆ โครงการรองรับทุกด้าน รวมไปถึงโรงเรียนชื่อดังอย่าง รร. บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งถือว่ายังเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนในโรงเรียนนี้หรือโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ถือว่าสะดวกสบายมาก ๆ เลยค่ะสำหรับคนที่ทำงานในย่านศรีวราและทาวน์ อิน ทาวน์ เพราะสามารถเดินทางไปทำงานโดยใช้เวลาเพียง 5-10 นาที* หรือถ้าทำงานในโซนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ลาดพร้าว และรามคำแหง ก็สามารถไปถึงที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ทางด่วนฉลองรัชในการเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนเพียงแค่ 3-4 นาที* เท่านั้นเอง
การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้า โครงการอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินได้เหมือนคอนโดในตัวเมืองชั้นในในระยะหลักร้อยเมตรก็จริง แต่ก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์หรือแท็กซี่ไปที่ตัวสถานีได้ไม่เกิน 5 นาที* นะคะ ก็ถือว่าดีแล้วสำหรับการอยู่อาศัยในโซนนี้ โดยสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดจะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 83 สายนี้เปิดให้ใช้งานกันแล้ว และอีกสายก็คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีรามคำแหง ซึ่งก็ใกล้จะเปิดให้ใช้บริการกันแล้วเช่นกันค่ะ
การออกแบบโครงการ, แบบบ้าน และวัสดุ ตัวโครงการพัฒนาบนที่ดินประมาณ 2 ไร่ เป็นคอนโด Low-Rise แบ่งออกเป็น 2 อาคาร เพื่อแบ่ง Traffic ของห้องพักอาศัยทั้งหมด 340 ยูนิต ทำให้บรรยากาศการอยู่อาศัยไม่หนาแน่น พอเข้ามาภายในโครงการจะได้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัว เพราะทางโครงการมีการสร้างแลนด์สเคปขนาดใหญ่ตรง Court กลางอาคาร เห็นได้จากทุกมุม สร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี มีการจัด Facilities มาให้ถึง 27 รายการ* ออกแบบมาได้อย่างสวยงามน่าใช้งาน ซึ่งถือว่าให้มาดีมากเมื่อเทียบกับคอนโด Low-Rise ทั่ว ๆ ไปใน Segment เดียวกัน
ส่วนห้องพักอาศัยของโครงการก็มีมาให้เลือกหลายแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่แตกต่างกัน โดยห้องที่พาเข้าไปชมจะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. และ 26 ตร.ม. ทั้ง 2 ห้องมีความแตกต่างกันโดยห้อง 1 จะมีจุดเด่นตรงที่ได้ Walk-in Closet มาขนาดใหญ่ ส่วนอีกห้องจะมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ของห้องในการพักผ่อนได้เป็นสัดส่วนมากกว่า ไม่ได้มีห้องไหนดีกว่าห้องไหน อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยว่าลงตัวกับห้องแบบไหนมากกว่ากัน
โดยห้องของโครงการจะตกแต่งมาให้แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ตัวใหญ่หลัก ๆ ของห้องมาครบแล้ว พร้อมแอร์ และ Digital Door Lock เพียงแค่ขนของเครื่องใช้ส่วนตัวเข้ามาภายในห้องพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่ได้แล้วค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการให้ Facilities มาถึง 27 รายการ* หลัก ๆ จะเป็น Lobby พร้อมพื้นที่ Co-Living Space, Main Park พร้อมมุมพักผ่อนภายในสวน, Lazy Theater, Meeting Room, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบ Infinity Edge Pool พร้อมมุมพักผ่อนริมสระ และห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน พร้อมการจัดแลนด์สเคปที่สวยงาม นอกจากนี้ทางโครงการยังมี Shuttle Bus Service ส่งถึงตัวสถานีรถไฟฟ้า และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถือว่าให้มาดีเลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-552-6644
Line : @premiumplace
Website : www.premiumplacegp.com
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโด ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Privacy จตุจักร เริ่มต้น 3.29 ล้าน*
MARQUIS พญาไท เริ่ม 265,000 บาท/ตร.ม.*
PREMIO UNIC เอกมัย-ลาดพร้าว เริ่ม 1.99 ล้าน*
HI สุขุมวิท-บางจาก สเตชั่น เริ่ม 1.5 ล้าน*
The Address สยาม-ราชเทวี เริ่ม 8.29 ล้าน*
HAUS นางลิ้นจี่
ARLO สุขุมวิท 105-ลาซาล เริ่ม 1.79 ล้าน*
THE STAGE Mindscape รัชดา-ห้วยขวาง เริ่ม 3.69 ล้าน*
Chapter จุฬา-สามย่าน เริ่ม 5.59 ล้าน*
Nue Z-Square Suan Luang Station เริ่ม 1.79 ล้าน*
แสดงความคิดเห็น