EP.561 รีวิว เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ / Reference Sathorn-Wongwianyai คอนโดดีไซน์ใหม่แต่งครบพร้อมอยู่ ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ เพียง 130 ม.* พร้อม Foodland หน้าโครงการ และส่วนกลางที่เปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชม. เริ่ม 3.69 ล้าน*
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่า เพื่อน ๆ Condonayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปอัปเดตตึกเสร็จโครงการ ‘Reference สาทร-วงเวียนใหญ่‘ คอนโดใหม่พร้อมอยู่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคน Gen Y ที่มองหาความสะดวกสบายและฟังก์ชันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ พัฒนาโดย SC Asset
โครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพของฝั่งธนบุรี บนถนนกรุงธนบุรี ภายในซอยกรุงธนบุรี 2 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. ห่างจากถนนใหญ่เพียง 50 ม.* และใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เพียง 130 ม.* ทำให้การเดินทางเข้าสาทร-สีลม-พระราม 4 เป็นเรื่องง่ายดาย
เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ ประกอบด้วยอาคารสูง 2 อาคาร ความสูง 32 ชั้น และ 51 ชั้น รวมทั้งหมด 792 ยูนิต + Retail 3 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ มาพร้อมวิวพิเศษที่สามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
อีกทั้งยังเป็น Smart Building อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมด้วย EV Charger, Smart Locker, ระบบ Facility Booking, Parcel Management, Face Scan และระบบ Active Air Flow
ห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 24.00-72.85 ตร.ม. ทุกยูนิตมาพร้อมการตกแต่งแบบ Fully Furnished และระบบ RueJai OS ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
พื้นที่ส่วนกลางถูกออกแบบให้รองรับความต้องการของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นสาย Extrovert ที่ชอบพบปะสังสรรค์ หรือผู้ที่ชื่นชอบความเงียบสงบและธรรมชาติในโซน Play Yard ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ครบครัน เช่น Moon Cave Swimming Pool, Jacuzzi, Fly-To-The-Moon Lounge, Eclipse Onsen, Orbit Co-Space และ Over The Moon Active Club โดยทั้งหมดนี้รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตลอด 24 ชม.
นอกจากนี้ โครงการยังมีบริการเสริม เช่น Muvmi รถรับ-ส่งพลังงานไฟฟ้า และ Foodland ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* (ม.ค. 68)
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/4iOpD3t
โครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | เรฟเฟอเรนซ์ สาทร-วงเวียนใหญ่ / Reference Sathorn-Wongwianyai |
เจ้าของโครงการ | เอสซี แอสเสท / SC Asset |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-2-72.8 ไร่ |
จำนวนตึก | 3 อาคาร |
จำนวนชั้น |
|
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | วงเวียนใหญ่ |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยกรุงธนบุรี 2 ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. 10600 |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2567 |
ราคา | เริ่มต้น 3.69 ล้านบาท* (ม.ค. 68) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 140,000 บาท/ ตร.ม.* (ม.ค. 68) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
สำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก | Tower A
Tower B
Tower C
Security
|
Tel | 1749 หรือ 02-079-1101 |
Line | https://lin.ee/tjzpahH |
Website | https://bit.ly/4iOpD3t |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยกรุงธนบุรี 2 ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กทม. 10600
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/NZsYjgaELpV6FAGR9
โครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ คอนโดใหม่สร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก SC Asset ตั้งอยู่ภายในซอยกรุงธนบุรี 2 ที่เข้ามาจากถนนกรุงธนบุรี เพียง 50 ม.* และมีจุดเด่นตรงที่อยู่ใกล้กับ BTS วงเวียนใหญ่ เพียงแค่ 130 ม.* ช่วยให้การเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญอย่างสีลมและสาทรเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย
โครงการนี้ยังรายล้อมด้วยแหล่งงานและสถานที่สำคัญ เช่น ICONSIAM, King Power Mahanakhon, The Mall ท่าพระ, Silom Edge, One Bangkok รวมถึงใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำทั้งทางฝั่งพระนคร และทางฝั่งสาทรอีกมากมาย
จุดเปลี่ยนสำคัญของทำเลวงเวียนใหญ่ คือ โครงข่ายรถไฟฟ้าที่ครบครัน โดยมี BTS สายสีเขียว ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ที่ช่วยเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีและพระนครอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าสายสีทอง เชื่อมต่อระหว่างสถานีกรุงธนบุรี-ประชาธิปก และใช้เดินทางเข้าสู่ห้าง ICONSIAM ได้โดยตรง
ในอนาคต “วงเวียนใหญ่” จะได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วย รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ สายสีแดงเข้ม ที่จะเป็นเส้นทางการเดินทางใหม่ ช่วยให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่รองรับการเติบโตของกรุงเทพฯ ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : เดินทางได้สะดวก ตัวโครงการจะอยู่ใกล้ถนนกรุงธนบุรี ฝั่งขาออก เชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ ซึ่งถือว่าเป็นถนนเส้นหลักของคนฝั่งธนฯ ที่เข้าเมืองก็ง่าย ออกเมืองก็สะดวก และยังเป็นถนน 6 ช่องจราจร ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างคล่องตัว
นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่น ๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมถนนสายสำคัญของโซนฝั่งธนฯ เกือบจะครบทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนกัลปพฤกษ์, ถนนเพชรเกษม, ถนนเทอดไท, ถนนรัชดาฯ-ท่าพระ, ถนนพระราม 3, ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน, สะพานตากสิน และถนนสาทร
สำหรับคนที่ทำงานในเมือง โซน CBD สาทร สีลม เดินทางได้สะดวกมาก สามารถกลับรถได้ใกล้ ๆ ตรงแยกตากสิน ที่อยู่ห่างจากโครงการไปแค่ 350 ม.* แล้วใช้ถนนกรุงธนบุรี ฝั่งขาเข้า ขับตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ตากสิน-บางหว้า) ข้ามสะพานตากสิน ก็จะเชื่อมกับโซนธุรกิจอย่างสีลม สาทรได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที* ก็ถึงแล้วค่ะ
หากต้องการไปโซนราชดำริ, สามย่าน, สยาม ก็ทำได้ง่าย ๆ โดยเลือกใช้เส้นทางการเดินทางตรงแยกสีลม หรือจะขับตรงไปตามถนนสาทร ไปออกสวนลุมพินี เข้าพระราม 4 ไปเชื่อมต่อถนนสุขุมวิทได้ ถ้าจะไปโซนพาหุรัด-เยาวราช-พระนคร สามารถใช้แยกตากสิน มุ่งหน้าสู่วงเวียนใหญ่ แล้วข้ามสะพานพระปกเกล้า ลงไปก็ถึงเลย
การเดินทางออกนอกเมือง เริ่มจากแยกตากสิน มุ่งหน้าไปถนนราชพฤกษ์ ฝั่งขาออก จะเชื่อมต่อกับเชื่อมถนนกัลปพฤกษ์, ถนนเทอดไท, ถนนเพชรเกษม และถนนกาญจนาภิเษกได้ หรือจากแยกตากสิน ขับลงใต้มาจะไปเชื่อมกับโซนพระราม 3, เจริญนครตอนปลาย, จอมทอง, พระราม 2, สุขสวัสดิ์ และใช้วิ่งยาวไปยังประชาอุทิศ-พระประแดง-สมุทรปราการได้เลยค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการเข้าเมืองไปโซนอื่น ๆ โดยใช้ทางด่วน สามารถขับรถมาทางฝั่งสาทร ตรงช่วงแยกสุรศักดิ์ จะมีทางด่วนศรีรัชให้เลือกใช้งานอยู่ 2 ด่าน คือ ด่านสุรวงศ์ ที่ใช้มุ่งหน้าไปดินแดง-พระราม 9-แจ้งวัฒนะ และด่านสาทร ที่จะเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครเพื่อใช้วิ่งต่อไปโซนสุขุมวิท-บางนา-ดาวคะนองได้ค่ะ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยสาธารณะและรถไฟฟ้า : จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประตูทางออกที่ 2 เพียงแค่ 130 ม.* เป็นระยะที่เดินได้สบาย ๆ นั่ง BTS ต่อไปเพียง 2-5 สถานี ก็เข้าสาทร-สีลมได้แล้ว สะดวกมาก หรือใครที่จะไปเดินเล่นสยาม ไปตลาดพลู-บางหว้า ก็นั่งยาวไปต่อเดียวได้เลยค่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนสาย
ส่วนใครที่อยากไปเดินห้าง ICONSIAM ก็สามารถนั่งไปลงที่สถานีกรุงธนบุรี แล้วต่อรถไฟฟ้าสายสีทองไปลงสถานีเจริญนคร ก็จะเชื่อมต่อเข้าห้างได้เลย ส่วนคนที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก็นั่งไปเปลี่ยนเส้นทางได้ที่สถานีศาลาแดง
ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สถานีวงเวียนใหญ่ให้ได้ใช้งาน ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้จะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีกำหนดการคร่าว ๆ ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 และคาดว่าจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี 2570-2571
ส่วนเส้นกรุงธนบุรีหน้าโครงการ ก็จะมีรถเมล์วิ่งผ่านไปมาหลายสาย ทั้งขาเข้าและขาออกเมือง มีป้ายรถเมล์อยู่ตรงปากซอยทางเข้าโครงการ / ส่วน Taxi และ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็เรียกได้ง่าย ๆ จากถนนใหญ่ มีผ่านตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากรถด่วนพิเศษ BRT ถ้าไปแถวโซนพระราม 3 ก็มาขึ้นตรง BRT ราชพฤกษ์ หรือใครจะใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือที่สะดวกสุดก็เป็นท่าสาทร นั่ง BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสินได้เลยค่ะ โดยรวมแล้วสะดวกสบาย มีทางเลือกที่หลากหลายดีทีเดียว
โครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ ประตู 2 เพียง 130 ม.* เท่านั้นค่ะ
สถานที่สำคัญโดยรอบโครงการ ในรัศมีไม่เกิน 10 กม.* มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้แหล่งชุมชน ส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ, อาคารพาณิชย์ และ คอนโดใหม่ รายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ใกล้กับโครงการในระยะทางไม่เกิน 2 กม.* จะมี Platform วงเวียนใหญ่ และ The Mall ท่าพระ ภายใน The Mall ท่าพระ ก็จะมีทั้ง Supermarket, ร้านอาหาร และ Shop ร้านค้าชื่อดังต่าง ๆ มากมาย มีศูนย์ซ่อมมือถือขนาดใหญ่ และโรงหนัง SF Cinema
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี ICONSIAM ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพื้นที่ขายรวมกันมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย รองจาก Central Westgate นอกจากนั้นยังมี Sena Fest, Reverside Plaza และ Robinson บางรัก
ส่วนฝั่งพระราม 3 และในตัวเมืองก็ยังมีให้เลือกไปอีกหลายที่ ยกตัวอย่างเช่น Central พระราม 3, Terminal 21 พระราม 3, Samyan Mitrtown, Silom Edge, One Bangkok ที่เพิ่งเปิดใหม่ หรือจะไป Siam Paragon / Siam Square โดยรถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวกไม่แพ้กันเลยค่ะ
สถานศึกษาใกล้ ๆ กับโครงการ จะมีให้เลือกครบทุกระดับชั้น และทุกหลักสูตรทั้งสามัญ, EP และนานาชาติ อย่างทางฝั่งธนฯ และพระนคร ก็จะมี รร.นานาชาติ Pioneers, รร.ศึกษานารี, รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย, รร.สตรีวัดอัปสรสวรรค์, รร.แม่พระประจักษ์, รร.ซางตาครู้สศึกษา, มรภ.ธนบุรี และ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ส่วนฝั่งในเมืองทางย่านสาทร-สีลม-สามย่าน และทางฝั่งพระราม 3 ก็จะมี รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, รร.อัสสัมชัญ บางรัก, รร.เซนต์หลุยส์, รร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รร.สารสาสน์เอกตรา, รร.พระแม่มารีสาธุประดิษฐ์, รร.นานาชาติ Shrewbury และ รร.นานาชาติ King’s Collage ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ค่ะ
ในส่วนของโรงพยาบาลก็อยู่ใกล้ทั้งฝั่งธนและในเมืองเลยค่ะ เช่น รพ.สมิติเวชธนบุรี, รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า, รพ.สมเด็จเจ้าพระยา, รพ.ตากสิน, รพ.เลิดสิน, รพ.พญาไท 3, รพ.ธนบุรี, รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.กรุงเทพคริสเตียน และ รพ.BNH ที่ขับรถจากคอนโดไปได้ไม่เกิน 1-5 กม.* เท่านั้นเองค่ะ
นอกจากนั้นยังเป็นโครงการที่อยู่ใกล้กับอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น Chartered Square, Sathorn Square, UOB สาทร, AIA Sathorn, Sathorn Thani, King Power Mahanakhon, Empire Tower, Bangkok City Tower และ Sathorn City Tower ทั้งหมดอยู่ทางฝั่งสาทร และอยู่ในระยะทางไม่เกิน 5 กม.*
ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
สำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/NZsYjgaELpV6FAGR9
การเดินทาง เริ่มจากสะพานตากสิน (BTS สะพานตากสิน) ⇒ ถนนกรุงธนบุรี (ห่างจาก BTS กรุงธนบุรี 130 ม.*) ⇒ ซอยกรุงธนบุรี 2 ถึงโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ *ใกล้แยกตากสิน
ภาพประกอบการเดินทาง เราเริ่มจากย่านเศรษฐกิจฝั่งพระนคร Real CBD สาทรผ่าน BTS สุรศักดิ์ มุ่งหน้าเข้าฝั่งธนบุรี
ตามแนวรถไฟฟ้า BTS ขับตรงมาเรื่อย ๆ ขึ้นสะพานตากสินฯ ผ่าน BTS ตากสินค่ะ
พอลงสะพานตากสินมาแล้วจากนั้นชิดซ้ายตามป้ายไป ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินค่ะ
ตรงมาจนเจอกับ BTS กรุงธนบุรี ให้เบี่ยงซ้ายออก
เบี่ยงซ้ายออกวิ่งทางคู่ขนาน
ขับตรงไปตามทาง
พอเบี่ยงออกแล้วเราจะผ่าน BTS วงเวียนใหญ่ แล้วชิดซ้ายซ้ายไว้ค่ะ เราจะเลี้ยวเข้า ซอยกรุงธนบุรี 2 (ถนนแดง)
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ซอยกรุงธนบุรี 2 ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของโครงการค่ะ ปากซอยมี 7-Eleven เปิดอยู่
ขับตรงเข้าไปประมาณ 50 ม.*
ถึงโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ แล้วค่ะ
ภาพมุมสูงโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ ตั้งอยู่ภายในซอยกรุงธนบุรี 2 หรือถนนแดง ห่างจากถนนใหญ่กรุงธนบุรี ประมาณ 50 ม.* และ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประมาณ 130 ม.* จากซอยกรุงธนบุรี 2 สามารถลัดออกไปทางซอยกรุงธนบุรี 4 เพื่อเชื่อมกับถนนสมเด็จพระเจ้าจากสินฯ ผ่านซอยตากสิน 11 ได้
และใช้ลัดออกไปถนนเจริญนคร ผ่านซอยเจริญนคร 40 ได้เช่นเดียวกัน ข้อดีคือใช้เป็นเส้นทางลัด โดยไม่ต้องผ่านแยกใหญ่ ๆ ที่รถติดในช่วงเร่งด่วนได้ค่ะ
ส่วนบริบทรอบ ๆ โครงการ จะเป็นชุมชนเก่าในย่านตากสิน รอบ ๆ โครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นส่วนมาก มีเพียงฝั่งทิศตะวันตก ที่ติดกับที่ดินโครงการจะเป็น The Rich สาทร-ตากสิน ที่เป็นคอนโด High Rise 23 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ซึ่งจะใช้ทางเข้า-ออกคนละซอยกัน หมดกังวลในเรื่องแย่งการใช้ถนนซอยย่อยไปได้ในระดับนึงค่ะ
รอบโครงการ
พาเดินสำรวจดูบริบทรอบ ๆ โครงการกันบ้างค่ะ จากที่ตั้งโครงการเดินออกมาจะเป็นซอยกรุงธนบุรี 2 ที่จะใช้เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ
มองไปทางซ้ายเป็นซอยกรุงธนบุรี 2 ฝั่งที่เชื่อมออกไปยังซอยซอยกรุงธนบุรี 2/1
มองไปทางขวาเป็นซอยกรุงธนบุรี 2 ฝั่งที่เชื่อมออกไปยังซอยซอยกรุงธนบุรี 4 ลัดออกไปถนนสมเด็จพระเจ้าจากสินและถนนเจริญนครได้ค่ะ
เดินตรงออกมาประมาณ 50 ม.* ถึงหน้าปากซอยกรุงธนบุรี 2 และถนนใหญ่กรุงธนบุรี
จากหน้าปากซอยถ่ายกลับเข้ามาให้ดูค่ะ สองข้างทางจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ และ ตึกแถว 3.5-4 ชั้น
จากหน้าปากซอยเดินไปทางขวามือ จะเชื่อมสู่สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ โดยวัดระยะทางจากโครงการเดินไป เพียง 130 ม.* เท่านั้น
โดยริมถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวร้านค้าและสำนักงานเกือบทั้งหมดนะคะ อย่างหน้าปากซอยโครงการเลย จะเป็นร้าน The October เป็นร้านอาหารแบบ Bar & Restaurant ติดกันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ฉลอง ถัดมาเป็นคลินิกทันตกรรม
ต่อเนื่องมาจะเป็นตึกแถวแบบที่อยู่อาศัย และมีคิวมอเตอร์ไซค์ให้บริการที่ด้านหน้า
ถึงสถานีรถไฟฟ้า วงเวียนใหญ่ แล้วค่ะ
บันไดทางขึ้น ประตูทางออก 2
ติดกับตัวสถานีจะเป็นบริษัท ลี แมชชีน ทูลส์ จำกัด ขายอุปกรณ์เครื่องมือช่าง เครื่องมือก่อสร้างและสินค้าอุตสาหกรรมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
กลับมาที่หน้าปากทางซอย 2 จะมีร้านอาหารแผงลอยเปิดขายตลอดทั้งวัน และมี 7-Eleven เปิดอยู่ 1 สาขา
ด้านหน้าปากทางจะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานด้วยค่ะ
ตัวโครงการ
PROJECT CONCEPT
Reference เป็นแบรนด์ใหม่ของ SC Asset ที่ตั้ง Positioning อยู่ระหว่าง The Crest และ Centric โดดเด่นด้วยการรักษาภาพลักษณ์พรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบโจทย์กลุ่มคน Gen Y อายุ 28-40 ปี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
สำหรับโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ ได้รับแรงบันดาลใจจากทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) สีลม-สาทร ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนเมืองที่ต้องการสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน ด้วยการออกแบบที่รองรับการใช้ชีวิตในแบบ Day & Night โครงการนี้สามารถตอบโจทย์การปรับเปลี่ยนบทบาทของชีวิตระหว่างช่วงกลางวันและกลางคืนได้อย่างลงตัว
ส่วนแรงบันดาลใจสำคัญของโครงการคือ “พระจันทร์” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการพักผ่อนและช่วงเวลากลางคืน แนวคิดนี้สะท้อนผ่านการออกแบบตัวอาคารที่เน้นรูปทรงกลมและเส้นโค้ง อันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนความงดงามของพระจันทร์ ทำให้โครงการนี้โดดเด่นและแตกต่างจากโครงการอื่นในพื้นที่เดียวกัน
รายละเอียดโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโดที่เพิ่งสร้างเสร็จในช่วงปลายปี 2567 และตอนนี้อยู่ในช่วงทยอยโอนกันแล้วนะคะ ตัวโครงการจะเป็นคอนโด High-Rise 2 อาคาร ความสูง 32 ชั้น และ 51 ชั้น รวม 815 ยูนิต พร้อมกับพื้นที่เชิงพาณิชย์อีก 3 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่
โดยมีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ แบบ Studio, แบบ 1 Bedroom, แบบ 1 Bedroom Plus และแบบ 2 Bedroom ขายห้องชุดในรูปแบบ Fully Furnished พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ ภายในโครงการอย่างครบครัน โดยห้องพักชั้นสูง ๆ และพื้นที่สวนกลางหลัก ๆ จะสามารถเทควิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว้างสุดสายตาตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่มีตึกสูงรอบ ๆ มาบังวิวเลยค่ะ
ภาพมุมสูงโครงการ
ด้านหน้าโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ อยู่ติดกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ และแนวรถไฟฟ้า BTS
มุมมองด้านข้างโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่
ด้านหลังโครงการ Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ อยู่ติดกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ จากห้องพักด้านนี้มองออกมาจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
BUILDING ZONE
Tower A
Tower B
Tower C
มาดู Master Plan โครงการกันบ้างค่ะ จากหน้าโครงการจะเข้ามาจากถนนกรุงธนบุรี ประมาณ 50 ม.* โดยอาคารแรกจะเป็น Tower C อาคาร 2 ชั้น ที่ชั้น 1 จะเป็นที่ตั้งของ Foodland ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. และชั้นบนจะเป็น The Ref Roof Garden สวนเล็ก ๆ ให้ขึ้นไปชมวิว นั่งเล่นได้
ต่อเนื่องเข้ามาจะเจอกับ Smart Gate และ Drop-Off การจอดรถจะต้องวนไปทางด้านหลัง โดยจอดได้ที่ Tower A รวม 9 ชั้น และมี EV Charger 10 ช่อง ให้ที่ด้านหลัง รวมถึงมี Zero Waste Park จัดไว้ให้อีก 1 จุด
โดยอาคารพักอาศัยจะมีทั้งหมด 2 อาคาร คือ Tower A สูง 32 ชั้น และ Tower B สูง 51 ชั้น จาก Drop-Off ตรงเข้ามาที่ Tower A จะเจอกับ Moon Lobby, Mail Room และ Smart Locker ต่อเนื่องไปจะเป็น Lunar Lounge ขนาดใหญ่ ใช้งานร่วมกันได้ทั้ง 2 ตึก และมี Orbit Co-Space สูง 2 ชั้น อยู่ที่ Tower B
สำหรับลิฟต์โดยสารของที่นี่ จะแยกไว้ 2 อาคาร ที่ Tower A จะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว และที่ Tower B จะมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว เนื่องจากเป็นอาคารที่สูงกว่า มีจำนวนชั้นและยูนิตเยอะกว่า ส่วนระบบของลิฟต์จะเป็นแบบล็อกชั้น ใช้งานผ่าน Face Scan หรือ Key Card ค่ะ
ด้านหน้าโครงการจะเป็นถนนแดง ซอยชุมชนดั้งเดิมของคนในย่านนี้ โดยจะเชื่อมต่อมาจากถนนกรุงธนบุรี ผ่านซอยกรุงธนบุรี 2 ได้
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะเป็น Foodland ที่เปิดให้บริการ 24 ชม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างตกแต่งร้าน และคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 68 นี้
ถนนทางเข้าโครงการทำพื้นแสตมป์คอนกรีตยาวต่อเนื่องไปจนถึงด้านใน และมีการจัดสวนแนวรั้วเพิ่มความร่มรื่นไว้ให้ด้วย
ด้านหน้าจะเป็น Tower C ที่เป็น Retail ถัดเข้าไปจะเป็นอาคารพักอาศัย ได้แก่ Tower A สูง 32 ชั้น และด้านในสุดจะเป็น Tower B สูง 51 ชั้น โดยจะมีชั้น 10 ที่เป็นชั้นที่ทั้ง 2 อาคารเดินเชื่อมต่อกันได้
ด้านหน้า Tower C จะมีที่จอดรถสำหรับลูกบ้านและลูกค้าที่แวะมาซื้อของจัดเตรียมไว้ให้ 4 คัน โดยแยกโซนระหว่าง Foodland กับโซนพักอาศัยออกจากกันอย่างชัดเจน
ซ้ายมือจะเป็นทางเดินเชื่อมจากหน้าโครงการ ผ่าน Foodland ที่อยู่ตรง Tower C เข้าไปยัง Tower A และ B ได้
มองขึ้นไปจะเห็นอาคารพักอาศัยทางด้านใน
การเข้า-ออกใช้ได้ทางเดียว ผ่านถนนทางเข้าเดียวกันกับ Foodland ลูกบ้านเข้า-ออกผ่านระบบ Smart Gate หรือระบบจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์
ตรงเข้ามาจะเจอกับ Drop-Off สำหรับจอดรับ-ส่ง ที่ด้านหน้า Tower A
ภายใน Drop-Off จะมีหลังคาคลุม ใช้เป็นจุดรอรถ ขึ้น-ลงรถได้สะดวก ไม่ต้องกลัวฝนและแดด
ตกแต่ง Drop-Off ด้วยม่านน้ำตกให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ด้านนอกจะเป็นจุดจอดรถ Muvemi บริการรถรับ-ส่ง ด้วยรถพลังงานไฟฟ้า
สำหรับลูกบ้านที่มีรถส่วนตัว จะต้องผ่าน Drop-Off เข้าไปด้านหลัง เพื่อเชื่อมกับที่จอดรถใต้อาคารและภายใน Tower A โดยจะมีทั้งหมด 9 ชั้น จอดในช่องจอดได้ 366 คัน
วนไปทางด้านหลังจะมี EV Charger ให้อีก 10 Slots เพื่อรองรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
มองมาทางซ้ายมือจะเป็นทางเดินเชื่อมระหว่าง Tower A และ B โดยใช้งานได้ที่ชั้น 1 และชั้น 10
วนไปด้านหลังโครงการจะเจอกับ Zero West Park ที่มีที่นั่งเล่นพักผ่อน และแปลงผักปลอดสารพิษปลูกไว้ให้ลูกบ้านลงมาเก็บไปทำอาหารได้
TOWER A ชั้น 1
ด้านหน้าทางเข้า Lobby ภายใน Tower A จะเป็นประตูแบบ Auto Door
เข้ามาภายในจะเจอกับ Lobby ที่มีชื่อเรียกว่า Moon Lobby เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขกหรือนั่งพักคอยได้
ต่อเนื่องไปทางซ้ายมือจะเชื่อมต่อไปยัง Mail Room และ Smart Locker ที่ทั้ง Tower A และ B จะใช้งานร่วมกันที่จุดนี้ค่ะ
ด้านหน้าทางเข้า Mail Room จะเห็นงานออกแบบภายในที่ชัดเจนมากขึ้น โดยส่วนกลางหลาย ๆ จุด จะนำเส้นสายทรงโค้งและทรงกลมตามคอนเซ็ปต์ “พระจันทร์” มาใช้ในการออกแบบ
ภายใน Mail Room จัดเรียงตู้จดหมายออกมาได้อย่างเป็นระเบียบ ลูกบ้านสามารถดูเลขที่ห้องได้จากป้ายวงกลมด้านหน้าเลยค่ะ
จาก Mail Room เค้าจะมีห้องที่เป็น Smart Locker จัดเตรียมไว้ให้ด้วย
ถัดจาก Moon Lobby จะเชื่อมต่อกับ Lunar Lounge พื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกบ้านเท่านั้น โดยตั้งแต่ทางเข้าส่วนนี้มาจะต้องใช้ระบบ Face Scan หรือ Key Card เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ส่วนภายในจะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเส้นสายทรงโค้ง โคมไฟทรงกลมเหมือนพระจันทร์ และใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อน ที่ดูอบอุ่น น่าใช้งาน
จาก Lunar Lounge จะเชื่อมต่อกับ Life Hall ได้ที่ด้านข้างค่ะ สำหรับลิฟต์โดยสารจะเป็นระบบล็อกชั้น ฝั่ง Tower A มีให้ 3 ตัว ใช้งานผ่าน Face Scan หรือ Key Card เช่นกัน
จาก Lunar Lounge จะมี Auto Door และโถงทางเดินขนาดใหญ่แบบ Semi-Outdoor ให้เดินเชื่อมต่อไปยังฝั่ง Tower B ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้งานร่วมกันได้
TOWER B ชั้น 1
เข้ามาทางฝั่ง Tower B ปุ๊ป จะเจอกับ Lift Hall โดยฝั่งนี้จะมีลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้นให้ 4 ตัว เนื่องจากมีจำนวนชั้นและห้องพักที่เยอะกว่าค่ะ
ผ่าน Life Hall มาทางซ้ายจะเชื่อมกับห้องน้ำส่วนกลาง ที่แยกฟังก์ชันห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิง และ Disabled ให้ครบ
จาก Life Hall เดินไปทางขวามือจะเชื่อมกับ Orbit Co-Space
บรรยากาศภายใน Orbit Co-Space หรือพื้นที่ Co-Working Space สำหรับลูกบ้าน ได้พื้นที่ใช้งาน 2 ชั้น หลายโซน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใช้วงกลม เส้นโค้ง และความโค้งมนเป็นองค์ประกอบหลัก ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและผ่อนคลาย
เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และสมาธิ การเลือกใช้เส้นโค้งในดีไซน์ยังสื่อถึงความลื่นไหลและความยืดหยุ่น ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดของการทำงานยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวและเปิดกว้าง
มีโซฟาพร้อมโต๊ะกลางไว้นั่งคุยงาน นั่งอ่านหนังสืออยู่ 2 ชุด
ตรงข้ามกันเป็น Meeting Room ที่ต้องทำการ Booking ผ่าน RueJai Application ก่อนเข้าใช้งาน
Meeting Room จะเหมาะกับลูกบ้านที่ต้องการทำงานเงียบ ๆ ต้องการประชุม Online แบบส่วนตัว หรือต้องการทำงานกลุ่มแบบใช้สมาชิก มีให้เลือกใช้ 2 ห้อง คือ ห้องขนาด 6 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง พร้อม Smart TV สำหรับต่อจอคุยงานค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ทำงานอีกจุด ภายในจัดเตรียมชุดโต๊ะทำงานให้หลายรูปแบบ แต่จะมีการเว้นระยะของแต่ละมุมให้ไม่ได้อยู่ชิดกันจนเกินไป เวลาลูกบ้านลงมาใช้งานพร้อม ๆ กันหลายคน หลายกลุ่ม ก็ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นั่นเอง
ส่วนฟังก์ชันที่มีให้ก็จะมีทั้งโซฟายาว โต๊ะเล็ก โต๊ะทำงานแบบกลุ่ม ทั้งแนวยาวและทรงกลม รวมถึงมี Pod สำหรับนั่งทำงานคนเดียวจัดไว้ให้ด้วยค่ะ
ตรงกลาง Orbit Co-Space จะมีบันไดโค้งให้เดินขึ้นไปใช้งานด้านบนได้
ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับพื้นที่นั่งทำงาน นั่งเล่นพักผ่อนอีกจุด โครงการจัดฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบ ทั้งมุมโซฟา และโต๊ะทำงาน โดยชั้นนี้จะได้ความเงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
แปลนชั้น 3-9 ทางฝั่ง Tower A จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด และใช้งานร่วมกันทั้ง 2 อาคาร ส่วนฝั่ง Tower B ชั้น 3 จะเป็นชั้นเริ่มต้นห้องพักอาศัย วางผังห้องหันทิศเหนือ-ใต้ และมีห้องพักจำนวน 13 ยูนิต/ ชั้น
TOWER A & B ชั้น 10
แปลนชั้น 10 จะมีทางเดินเชื่อมระหว่าง Tower A และ B มีพื้นที่ส่วนกลางจัดไว้ให้ตรงกลาง ประกอบไปด้วย Crescent Pavilion, Floating Terrace, Play Yard ส่วนห้องพักชั้นนี้ ฝั่ง Tower A จะมีทั้งหมด 11 ยูนิต และ Tower B จะมีทั้งหมด 13 ยูนิต ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 10 จะเป็นชั้นส่วนกลาง และเป็นชั้นที่มีทางเดินเชื่อมต่อระหว่าง Tower A และ B หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ชั้นนี้คือชั้นที่ลูกบ้าน Tower B จอดรถที่ Towe A เสร็จ ต้องเดินผ่านไปใช้ลิฟต์ทางฝั่งอาคารตัวเองนั่นเองค่ะ
จุดแรกจะเป็น Cresent Pavilion และ Floating Terrace ที่มีการทำทางเดินสวย ๆ ไว้ด้านข้างให้เดินเชื่อมไปด้านหลังได้
ตรงกลางเค้าจะออกแบบให้เป็น Shallow Pool มี Terrace พร้อมเก้าอี้พักผ่อน และอีกฝั่งจะเป็น Cresent Pavilion ที่นั่งใช้งานในร่มได้
ภายใน Cresent Pavilion รองรับการนั่งเล่นชิล ๆ หรือใช้เป็นที่นั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือรับลมเย็น ๆ ได้เลย
มองตรงออกมาได้วิวทางเดินเชื่อมระหว่าง 2 อาคาร สวย ๆ แบบนี้ค่ะ
ด้านหลังสุดจะเป็น Floating Terrace
Floating Terrace จะมีม้านั่งครึ่งวงกลมแยกไว้ 2 ทาง ใช้นั่งรับลม นั่งชมวิวเมืองท่ามกลางสวนสวยได้
จาก Floating Terrace มองออกไปเห็นวิวเมืองกว้าง ๆ แบบไม่มีอาคารสูงบัง
มองขึ้นไปด้านบนจะเห็น Tower A และ B วางอยู่คู่กัน ทำให้พื้นที่ตรงกลางได้ร่มเงา ลุกบ้านออกมาใช้งานได้ตลอดทั้งวันเลย
อีกฝั่งจะเป็น Play Yard ส่วนกลางอีกจุดบนชั้น 10
ด้านหน้าจะเป็นทางเดินเล่นระดับ ก่อนที่จะเชื่อมตรงสู่ด้านใน
บริเวณนี้จะมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนให้หลายจุด อีกทั้งยังมีสนามหญ้า บ้านต้นไม้ และสไลเดอร์ให้ลูกบ้านพาเด็ก ๆ ออกมาเล่นของเล่น หรือวิ่งเล่นบริเวณนี้ได้ด้วย
บริเวณบ้านต้นไม้และสไลเดอร์
เดินกลับออกมาจะเจอกับทางเดินเชื่อม 2 อาคาร แบบนี้ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 11 / 12 / 14 /15 ทางด้าน Tower A ห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 11 และทั้ง 2 อาคาร จะมีห้องพักเต็มชั้น วางผังหันทิศเหนือ-ทิศใต้ ฝั่ง Tower A มีห้องพักจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น และฝั่ง Tower B มีห้องพัก 13 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 16-19 และชั้น 21 วางผังมาเหมือนกัน โดยฝั่ง Tower A มีห้องพักจำนวน 10 ยูนิต/ ชั้น และฝั่ง Tower B มีห้องพัก 13 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 20 และ 20-24 ฝั่ง Tower A มีห้องพักจำนวน 10 ยูนิต/ ชั้น และฝั่ง Tower B มีห้องพัก 12 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 25 ฝั่ง Tower A มีห้องพักจำนวน 10 ยูนิต/ ชั้น และฝั่ง Tower B มีห้องพัก 12 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 20-30 ฝั่ง Tower A มีห้องพักจำนวน 10 ยูนิต/ ชั้น และฝั่ง Tower B มีห้องพัก 11 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 31 ฝั่ง Tower A จะเป็นชั้นของ Facilities ที่มีชื่อเรียกรวมว่า Over the Moon Active Club ซึ่งจะประกอบไปด้วย Fitness ขนาดใหญ่ พร้อม Moon Deck และมีห้อง Yoga / Pilates แยกไว้ให้ และฝั่ง Tower B จะเป็นห้องพักอาศัย มีจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 32 ฝั่ง Tower A จะเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารแล้ว ด้านบนจะมีพื้นที่สีเขียวให้ขึ้นมาเดินเล่น รับลมชมวิวได้ และฝั่ง Tower B จะเป็นห้องพักอาศัย มีจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น
TOWER A ชั้น 31
ทีนี้เราเดินมาฝั่ง Tower A แล้วขึ้นมาที่ชั้น 31 กันต่อค่ะ
ชั้น 31 ฝั่ง Tower A จะเป็น Over The Moon Active Club มีครบทั้ง Fitness / Yoga และ Pilates
จาก Lift Hall เลี้ยวไปดู Fitness กันก่อน
เข้ามาด้านในจะเจอกับโถงทางเดินแนวยาว ภายในจะมีทั้งพื้นที่วางเครื่องออกกำลังกาย ห้องน้ำส่วนกลาง และ Moon Deck ที่ด้านนอก
ซ้ายมือเป็นทางออกไป Moon Deck ฝั่งหน้าโครงการ
ด้านนอกจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้รับรองไว้ 2 ที่นั่ง รองรับการนั่งเล่น นั่งพักรอแฟน รอเพื่อนออกกำลังกาย หรือจะใช้เป็นที่นั่งพักเหนื่อยรับลมธรรมชาติหลังจากออกกำลังกายไปแล้วก็ได้ค่ะ
มองออกไปเห็นวิวเมืองกว้าง ๆ แบบนี้
ขยับเข้าไปด้านในจะเจอกับพื้นที่ออกกำลังกาย ซึ่งโครงการจะแบ่งพื้นที่สำหรับ Cardio และ Weight Training ไว้ให้ครบ นอกจากนั้นยังออกแบบให้เป็นห้องผนังกระจกโค้งแบบ Full Height อยู่มุมไหนก็เทควิวได้กว้าง ๆ
Cardio Zone จะมีเครื่องปั่นจักรยานแบบเอน แบบนั่ง, ลู่วิ่งไฟฟ้า และเครื่องเดินวงรีให้แบบนี้
ต่อเนื่องมาทางด้านในจะมีลู่วิ่งไฟฟ้าให้อีกจุด โดยพื้นที่จะเชื่อมกับ Weight Training ที่ด้านในได้
ตรงนี้จะมีลู่วิ่งไฟฟ้าให้อีก 3 ตัว มองออกไปเห็นวิวเมืองสวย ๆ
Weight Training จะมีอุปกรณ์และเครื่องเล่นบริหารกล้ามเนื้อให้ครบทุกสัดส่วน พร้อมปูพื้นด้วยแผ่นยางกันกระแทกมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนวิวรวม ๆ ที่ได้จาก Fitness จะมองเห็นได้ทั้งวิวเมืองโล่ง ๆ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้เลยนะ
มูฟกลับมาตรงกลางห้อง Fitness จะมีห้องน้ำส่วนกลาง ล็อกเกอร์ และตู้กดน้ำดื่มให้บริการจากภายในห้องเลย ตรงนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมาก ๆ
ห้องน้ำแยกฟังก์ชันให้ครบ ทั้งห้องน้ำชาย, ห้องน้ำหญิง และห้องน้ำ Disabled
ห้องน้ำทั้ง 3 ห้อง มีฟังก์ชันการใช้งานให้ครบ ทั้งอ่างล้างมือ กระจกเงา และได้โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย ใช้งานสะดวกดี
มีล็อกเกอร์ระบบ Digital Door Lock ไว้ให้ฝากของถึง 8 ตู้ และมีตู้กดน้ำดื่มให้บริการอีกด้วย
ตรงข้ามกับ Fitness จะเป็นห้อง Yoga และ Pilates 2 ห้องนี้ จะต้อง Booking ผ่าน RueJai Application ก่อนเข้าใช้งาน และทั้ง 2 ห้อง จะรองรับการจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาใช้งานที่ 2 ห้องนี้ได้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภายใน Yoga Room จะเป็นห้องผนังกระจกโค้ง ให้บรรยากาศที่โปร่งสบาย เทควิวได้รอบด้าน พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับเล่น Yoga อย่าง Yoga Ball, Yoga Matt และมี Smart TV ไว้เปิดดูคลิป หรือเปิดดูหนัง ฟังเพลงไปขณะเล่นได้
อีกห้องจะเป็น Pilates Room ซึ่งเป็นห้องผนังกระจกโค้งเปิดรับวิวได้รอบด้าน ภายในห้องจะมี Pilates Reformer จัดไว้ให้ 2 เครื่อง และมี Smart TV ติดไว้ให้ด้วยเช่นกันค่ะ
แปลนอาคาร B ชั้น 33 มีห้องพักจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคาร B ชั้น 34-35 ชั้น 38 และชั้น 45 มีห้องพักจำนวน 12 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคาร B ชั้น 36 มีห้องพักจำนวน 10 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคาร B ชั้น 37 และชั้น 39-44 มีห้องพักจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคาร B ชั้น 46-49 มีห้องพักจำนวน 11 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคาร B ชั้น 50 เป็น Sky Facilities ประกอบไปด้วย Moon Cave Swimming Pool ที่เปิดรับวิวได้รอบด้าน มองเห็นทั้งวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังมี Kids Pool, Jacuzzi และห้องน้ำส่วนกลางให้ครบเลยค่ะ
แปลนอาคาร B ชั้น 51 จะมีบันไดวนที่เชื่อมมาจากชั้น 50 หรือใครสะดวกใช้ลิฟต์ก็ได้เช่นกัน โดยชั้นนี้จะมี Eclipse Onsen และ Fly-To-The-Moon Lounge รองรับการสังสรรค์ พักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน
TOWER B ชั้น 50-51
มาต่อกันที่ Tower B บนชั้น 51 จะเป็นชั้นของ Moon Cave Swimming Pool ที่ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของพื้นที่ส่วนกลางโครงการนี้
Moon Cave Swimming Pool จะโดดเด่นด้วยผนังที่มีเส้นสายทรงโค้งเว้าไปมา ดูสวยงาม โดดเด่น และแปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน โดยจะมีการจัดฟังก์ชันไว้หลากหลาย ทั้งในร่มและกลางแจ้ง แบ่งเป็น Lap Pool, Terrace, Kids Pool และ Jacuzzi แยกไว้ให้ค่ะ
สำหรับ Lap Pool ที่อยู่กลางแจ้ง จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 30 ม. และกว้างประมาณ 10 ม. สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้อย่างเต็มที่
ขอบสระเป็นกระจก Temper ตลอดแนวสระ มองออกไปก็จะเห็นทั้งวิวเมืองโล่ง ๆ และวิวแม่น้ำสวย ๆ แบบ 180 องศากันเลยทีเดียวค่ะ
ด้านซ้ายมือจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังท้ายสระว่ายน้ำ, Pool Terrace และจุดล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำ
โซนนี้จะมีหลังคาคลุม ใครอยากแช่ตัวในช่วงเวลากลางวันก็มาใช้งานได้เลยค่ะ
ด้านนอกจะเป็น Pool Deck ที่มีชุดเก้าอี้สนามจัดเตรียมไว้ให้
จาก Pool Deck และปลายสระมุมนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ลอยกระทง หรือเทศกาลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ เราสามารถชมดูพลุที่จุดทางฝั่ง ICONSIAM และ Asiatique ได้ด้วยค่ะ
มองกลับมาที่สระว่ายน้ำ ด้านบนจะเป็นชั้น 52 และเป็นที่ตั้งของ Fly-To-The-Moon Lounge
กลับไปดูอีกฝั่งของสระว่ายน้ำกันบ้าง ตรงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนกลาง Kids Pool และ Jacuzzi รวมถึงมีบันไดวนให้เชื่อมไปยังชั้น 52 ได้โดยไม่ต้องใช้ลิฟต์
ตรงเข้ามาจะเป็นพื้นที่ในร่ม ขวามือเป็นห้องน้ำส่วนกลาง แยกห้องน้ำชาย, ห้องน้ำหญิง และ Disabled ไว้เป็นสัดส่วน
ต่อเนื่องมาจะเจอกับทางลง Lap Pool, Kids Pool และ Pool Deck ในร่มอีกฝั่ง
Kids Pool และ Jacuzzi จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ถัดมาเป็น Pool Deck ที่ใช้เป็นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือใช้เป็นมุมนั่งรอลูก ๆ เล่นน้ำก็ได้
มองออกมาเห็นวิว Lap Pool ด้านนอกแบบนี้ค่ะ
จากบันไดวน เดินขึ้นมาที่ชั้น 52
จะเจอกับโถงทางเดินที่ใช้เชื่อมกับ Eclipse Onsen และ Fly-To-The-Moon Lounge ที่อยู่อีกด้าน
ซ้ายมือเป็น Eclipse Onsen ที่จะต้อง Booking ก่อนเข้าใช้งานเช่นกัน
ตรงโถงทางเดินมีพื้นที่กว้าง สามารถใช้เป็นจุดชมวิวเมือง ชมพลุตามเทศกาล หรือจุดชมวิวแม่น้ำแบบนี้ได้
ตรงมาจนสุดจะมีประตูอีกบานให้เปิดเชื่อมกับโถงด้านหน้า Fly-To-The-Moon Lounge และ Lift Hall บนชั้น 51
Fly-To-The-Moon Lounge เป็นห้องสังสรรค์ขนาดใหญ่ ออกแบบห้องเป็นผนังกระจก Full Height เปิดรับวิวได้แทบจะ 360 องศา พร้อมจัดเตรียมโซฟารับรองไว้ให้หลายกลุ่ม หลายที่นั่ง ซึ่งช่วงที่มีเทศกาลก็สามารถขึ้นมาดุพลุ ดูวิวสวย ๆ ได้เช่นกันค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Tower A
Tower B
Tower C
แบบห้องพัก
โครงการมีห้องพักให้เลือกหลัก 4 แบบ ดังนี้ค่ะ
Studio ขนาด 24.19 ตร.ม.
Studio ขนาด 24.97 ตร.ม.
Studio ขนาด 25.75 ตร.ม.
Studio ขนาด 26.17 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.88 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.24 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.28 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาด 31.36 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 30.59 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 31.31 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 31.77 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 33.61 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 32.54 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 34.58 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 33.18 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 33.44 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาด 51.80 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 72.85 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 70.08 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 63.12 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 63.76 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 69.45 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างแบบขายดีมาให้ชมทั้งหมด 2 ห้อง ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 1
จุดเด่น
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom ขนาด 31.88 ตร.ม. เป็นห้อง Type ขายดีของโครงการ ฟังก์ชันภายในออกแบบมาได้ลงตัว พื้นที่กว้างทุกส่วน อยู่ 1-2 คนได้สบาย ๆ จุดเด่นของห้องนี้คือได้เป็นหเองครัวปิด พื้นที่กว้าง ต่อเนื่องไปเป็นมุมทานอาหารและห้องนั่งเล่น เชื่อมกับระเบียงซักล้าง
อีกฝั่งจะเป็นห้องนอนหน้ากว้าง มีพื้นที่แต่งตัว ที่อยู่ใกล้กับห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังออกแบบให้ห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่ในทุกจุด เปิดรับวิว รับแสงสว่างได้กว้าง และทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายมากยิ่งขึ้น
ประตูห้องเป็นลายไม้บานทึบ มีตาแมวให้ที่หน้าบาน พร้อมกลอน Digital Door Lock ของ Schlage สามารถใช้งานได้ 3 ระบบหลัก คือ Pin Code, Smart Card และ Application
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวปิดแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน ได้ฝ้าเพดานสูงโปร่ง 2.7 ม. ผนังห้องจริงเป็นแบบฉาบเรียบทาสี เพดานติดโคมไฟ Downlight หลอด LED ให้ทั้งห้องค่ะ
ห้องครัวได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง พื้นครัวปูแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. ให้เต็มพื้นที่ โดยตัวแกรนิตโต้ จะเหมาะกับการใช้งานหนัก มีความแข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี ที่สำคัญสะดวกต่อการเช็ดถูทำความสะอาดด้วยค่ะ
มองกลับมาทางหน้าห้องพัก จะเห็นว่าห้องครัวได้ถูกกั้นแยกพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบเปิดตรงกลาง ทำให้ใช้งานได้สะดวก เดินเข้า-ออก เคลื่อนย้ายของได้ง่าย และช่วยป้องกันกลิ่นควันจากการทำอาหารไม่ให้เข้ามารบกวนส่วนพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
ได้ชุดครัว Built-in ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชันครบ พร้อมตู้เก็บของบน-ล่างแบบ Soft Close ทั้งหมด เปิด-ปิดได้นุ่มนวลและใช้งานได้ในระยะยาว
หน้าท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ลายหินอ่อนสีขาว ผนังติดกระจกเงาทำเป็น Backsplash กันเปื้อนให้เรียบร้อย
Backsplash จะติด Smart Plug หน้ากากสีดำให้ 1 จุด ความพิเศษของปลั๊กตัวนี้ จะสามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ แล้วตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟผ่าน RueJai OS ได้ หากวันไหนอยากตุ๋นอาหาร อุ่นอาหาร หรืออบขนมทิ้งไว้ ก็ตั้งเวลาผ่าน App ได้เลย สะดวกมาก ๆ ค่ะ
ติดตั้ง Hob 2 หัว ที่ปรับความร้อนได้ 9 ระดับ มีระบบตัดการทำงานเมื่อร้อนเกินไปเพื่อความปลอดภัย และด้านบนจะติดตั้ง Slimline Hood มาให้ ทั้งหมดนี้ใช้เป็นของยี่ห้อ Hafele
ตรงกลางได้เป็น Sink สแตนเลสหลุมเดี่ยวแบบฝัง ก๊อกน้ำก้านโยกทรงสูง มีหน้าบานหินสังเคราะห์ปิดด้านบน Sink ไว้สำหรับเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้ด้วยค่ะ
ด้านบนได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยที่ด้านในหลายช่อง เก็บของได้เยอะ และช่วยจัดระเบียบของได้ดี
ใต้ตู้มีราวสแตนเลสและตะขอแขวนของติดมาให้ด้วย
ด้านล่างจะมีช่องวางไมโครเวฟ ชั้นวางของ และตู้เก็บของให้อีกหลายฟังก์ชัน
ขวามือได้ลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อน-ส้อม และลิ้นชักเก็บของโล่งอย่างละช่อง
ตรงกลางได้เป็นตู้บานเปิดใต้ Sink ภายในมีพื้นที่ให้ Stock ของใช้ในบ้านได้เยอะ อีกทั้งยังมีถังขยะ Built-in พร้อมฝาปิดติดมาให้ด้วยค่ะ
ซ้ายมือสุดจะมีตู้เก็บของพร้อมชั้นลอยให้อีก 2 ช่อง
ตรงข้ามกับชุดครัว จะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และมีตู้เก็บของ Buit-in มาให้ด้วยค่ะ
ด้านหลังประตูห้อง จะได้ตู้เก็บของบานเปิดแนวสูง พร้อมชั้นลอยที่ด้านใน 4 ชั้น และด้านล่างจะเป็นลิ้นชักรางเลื่อน ที่มีชั้นวางของให้อีก 3 ช่อง สามารถเก็บของที่มีความสูงพิเศษและรองรับการเก็บของได้เยอะ
มุมนี้เว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น 7-10 คิว ได้ ด้านหลังมีปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมต่อใช้งาน
ด้านบนตู้เย็นจะได้ตู้เก็บของบานเปิดพร้อมชั้นลอยมาอีก 1 ตู้
ผนังตรงกลางทางฝั่งนี้จะเป็นจุดติดตั้ง Home Hub ของ RueJai OS ซึ่งเป็น Living Solution หรือ Home Automation ที่ทาง SC Asset นำมาใช้กับคอนโดนี้ มีหน้าจอแสดงฟังก์ชัน วันที่-เวลา สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟผ่าน Application หรือจะใช้ปุ่มกดแบบ Manual ข้าง ๆ สำหรับกดเปิด-ปิดไฟฟ้าในห้องก็ได้
ภาพรวมภายในครัว มีพื้นที่ให้ยืนทำอาหาร ล้างจาน เปิด-ปิดตู้หยิบของใช้ต่าง ๆ ได้สะดวกเลย
ผ่านห้องครัวเข้าไป จะเจอกับ Living Area โดยส่วนที่เหลือของห้องจะปูพื้นด้วย SPC ลายไม้สีอ่อน หนา 4 มม. ที่เหมาะกับโซนพักผ่อน และให้ภาพรวมของห้องดู Homey มากขึ้นค่ะ
เข้ามาด้านในจะเจอกับมุมทานอาหาร ที่จัดไว้ใกล้ ๆ กับห้องครัวกันก่อน
ได้ชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ
ติดกันจะได้ฐานโซฟาลายไม้ พร้อมเบาะนั่ง และโต๊ะกลางที่ด้านหน้าครบชุด
โซฟาที่ได้เป็นขนาด 2-3 ที่นั่ง และที่ด้านล่างจะมีลิ้นชักเก็บของใช้จุกจิกให้ถึง 3 ช่อง ด้วยกัน
ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวี หรือใครอยากได้พื้นที่เก็บของมากขึ้น หรืออยากดูทีวีจอใหญ่ ๆ ก็เปลี่ยนไปติดทีวีที่ผนังแทนได้ค่ะ ด้านหลังจะมีการเตรียมงานระบบไฟฟ้าต่าง ๆ มาให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย
ตู้วางทีวีที่ได้เป็นลายไม้สีอ่อน ด้านบนสามารถวางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ และด้านล้างจะมีช่องเก็บของใช้จุกจิกให้อีก 3 ช่อง
ข้าง ๆ กันจะมีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางของแนวสูง ต้นไม้กระถางตกแต่ง วางเครื่องฟอกอากาศ หรือจะวางของแต่งห้องอื่น ๆ ก็เลือกเพิ่มได้ตามชอบ
ถัดจากห้องนั่งเล่นไปเป็นส่วนระเบียง ตรงนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาถึง 2 จุด คือ ซ้ายมือจะเป็นหน้าต่างบานเปิดพร้อมบานฟิกซ์ด้านล่าง และประตูระเบียงที่ได้เป็นบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียม Powder Coat สีเทาดำ เลื่อนเปิดได้กว้าง เดินเข้า-ออกใช้งานได้สะดวก
ระเบียงขนาดพอเหมาะ ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่น พร้อมติดราวระแนงกันตกเข้ามุมมาให้เรียบร้อย
ขวามือเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า รองรับได้ทั้งฝาหน้าและฝาบน จุดนี้จะมีการเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟมาให้พร้อมต่อใช้งาน
ด้านบนเป็นที่แขวน CDU 2 เครื่อง หันพัดลมออกไปด้านนอก ทำให้ใช้งานตรงระเบียงได้ไม่ร้อนลมแอร์ และด้านนอกจะมีการติดกริลเบี่ยงทิศทางลมแอร์มาให้ด้วยค่ะ
จากระเบียงห้องพักได้เป็นวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบเปิดโล่ง ไม่มีตึกสูงบัง
ด้านล่างจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งหมด
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก จะเห็นว่ามีความโปร่งสว่าง จากเพดานที่สูงถึง 2.7 ม. และมีช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้อง
อีกด้านจะเป็นห้องนอน ตรงนี้กั้นด้วยประตูลายไม้บานทึบ มือจับก้านโยก กลอน Double Lock เหนือประตูติดแอร์ Daikin Inverter ให้ 1 เครื่อง
เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องหน้ากว้าง แบ่งส่วนพักผ่อนไว้ด้านซ้าย และด้านขวาจะเป็น Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำในตัว
ในห้องจะได้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต ไม่รวมที่นอน และผนังตกแต่งด้านหลัง
วางเตียงนอนไปแล้ว ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลืองให้วางโต๊ะหัวเตียงเพิ่มเข้าไปได้
บริเวณหัวเตียงจะติดปลั๊กไฟ พร้อม USB Port รองรับการเสียบชาร์จแบตมือถือ หรือ Gadget อื่น ๆ ได้สะดวก
ปลายเตียงนอนเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ ที่มีการเดินงานระบบไฟฟ้าไว้แล้ว เราสามารถติด Smart TV จอใหญ่ได้ตามต้องการ และถ้าอยากมีที่วางของในห้องนอน หรือวางของตกแต่งบ้านอื่น ๆ ก็สามารถติดชั้นแนวยาวที่ผนังเพิ่มได้เองเลยค่ะ
ด้านข้างเตียงนอนจะได้หน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่มา 1 ชุด โดยจะมีทั้งบานกระทุ้งไว้สำหรับเปิดรับลม ระบายอากาศ และมีบานฟิกซ์ไว้เป็นช่องรับแสง และเปิดม่านชมวิวเมือง วิวแม่น้ำสวย ๆ กันได้
มองกลับมาอีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ
ผนังข้าง ๆ ประตูติดแอร์ Daikin Inverter ให้ในห้อง 1 เครื่อง
บริเวณ Walk-in Closet จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ลายไม้สีอ่อนมาครบเลยนะคะ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า
โต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่ง หลวม ๆ พร้อมลิ้นชักเก็บของ 2 ช่อง
ถัดมาจะมีชั้นวางของแนวสูง ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมตู้เสื้อผ้าติดเข้ามุมให้ 2 ตู้ รองรับการแบ่ง His & Her สำหรับคู่รักได้ค่ะ
ภายในตู้ทั้ง 2 ใบ ได้ฟังก์ชันมาครบ ทั้งราวแขวนผ้าบน-ล่าง ลิ้นชักเก็บของ ชั้นวางของด้านบน กระจกเงาบานสูง และมีไฟ LED ติดมาให้ด้วยค่ะ
ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ เวลาอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก
ห้องน้ำขนาดพอเหมาะ มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย พร้อมตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังด้วยโทนสีเทา-ขาว ดูหรูหรา สวยงาม สุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำใช้เป็นของ Kohler รุ่นพรีเมียม และมีตัวช่วยในการระบายอาศเป็นพัดลมฝังฝ้า 1 เครื่องค่ะ
ซ้ายมือได้อ่างล้างมือทรงเหลี่ยม พร้อมชั้นวางของลายไม้ใต้อ่าง ก๊อกน้ำแบบก้านโยก ผนังติดกระจกเงาดีไซน์สวยให้ตามนี้
หน้าอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้จุกจิกได้พอสมควร
ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟกันน้ำให้ 1 จุด รองรับการเสียบใช้ไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม หรือเสียบ Gadget อื่น ๆ ในห้องน้ำได้
ตรงข้ามกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู
ผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางของไว้ให้ และด้านหลังจะติดราวแขวนผ้าให้ 1 ชิ้น
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนอาบน้ำ กั้นแยกพื้นที่ด้วย Shower Screen ประตูบานสวิง มือจับสแตนเลสตัว U ที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเช็ดมือได้
ภายในติดฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower มีราวปรับระดับฝักบัว ก๊อกน้ำแบบก้านโยก และมีชั้นวางของที่กำแพงให้ 1 ชิ้น
พื้นที่ใช้งานได้มากว้างกำลังพอดี ยืนอาบน้ำ ขัดตัวได้ไม่ติดผนังรอบ ๆ
มองกลับออกมาดูภาพรวมภายในห้องนอน
ส่วนปลั๊กไฟภายในห้องจะได้เป็นแบบ Smart Switch ปุ่มกดแบบสัมผัส และมี Hub รองรับการสั่งงานเปิด-ปิดไฟในห้องผ่าน Application ได้ด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2
จุดเด่น
แปลนห้องตัวอย่าง แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.18 ตร.ม. จะเป็นห้องตำแหน่งหัวมุม ได้ความเป็นส่วนตัว ภายในห้องรองรับการอยู่อาศัย 2 คน หรือครอบครัวเริ่มต้นได้สบายมากขึ้น พร้อมจัดพื้นที่ภายในออกมาได้ลงตัว เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวเปิด และมุมซัก-อบผ้า
ต่อเนื่องไปเป็นมุมทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ด้านหลังสุดจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่รองรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลายรูปแบบ ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง ติดกันเป็นห้องนอน พร้อมมุมแต่งตัวภายในห้อง
ประตูห้องพักรูปแบบเดียวกันทั้งโครงการ พร้อมกลอน Digital Door Lock ใช้งานได้ 3 ระบบ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับครัวเปิด ต่อเนื่องไปจะเป็น Living Area พื้นห้องพักปู SPC ลายไม้สีอ่อน หนา 4 มม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี โคมไฟ Downlight หลอด LED และได้ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.
มองกลับมาหน้าห้องจะเป็นครัวเปิด พร้อมเคาน์เตอร์ Built-in 2 ฝั่ง
ข้างประตูห้องเป็นตำแหน่งของ Home Hub ของ RueJai OS ที่มีฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกันในทุกห้อง
ชุดครัวสำหรับทำอาหารจะอยู่ใกล้กับมุมทานอาหาร เพื่อสะดวกต่อการจัดเสิร์ฟ
ชุดครัว Built-in พร้อมตู้เก็บของลายไม้สีอ่อน บานพับและบานเลื่อนเป็นแบบ Soft Close ทั้งหมด
หน้าท็อปเป็นหินสังเคราะห์ลายหินอ่อนสีขาว ผนังกรุกระจกเงาทำเป็น Backsplash มาให้ และมี Smart Plug ที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟได้ให้ 1 จุด
ได้ Hob 2 หัว พร้อม Slimline Hood ของ Hafele
อีกฝั่งฝัง Sink ล้างจานหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำก้านโยกทรงสูง ที่มีหน้าบานปิด Sink ให้เหมือนกันทุกยูนิต
ด้านล่างได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมถังขยะ Built-in, ลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อนส้อม, ลิ้นชักเก็บของ และช่องวางไมโครเวฟ ที่มีปลั๊กไฟอยู่ด้านหลังติดไว้ให้พร้อมต่อใช้งาน
ด้านบนได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอย และราวสำหรับแขวนของ
อีกฝั่งเป็นมุมวางเครื่องซักผ้า และวางตู้เย็น โดยจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับมุมทานอาหาร และด้านหน้าห้องน้ำ
โครงการทำช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. มาให้ ด้านหลังมีการเดินงานระบบน้ำ-ไฟให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย
ด้านบนได้เป็นหน้าท็อปหินสังเคราะห์ลายหินอ่อนสีขาว รองรับการวางน้ำยาซักผ้า วางของที่ต้องหยิบใช้ก่อนเข้า-ออกบ้านบ่อย ๆ หรือจะใช้เป็น Coffee Station ก็ลงตัวเลยค่ะ
ด้านบนผนังมีการ Built-in ตู้เก็บของบานเปิดให้ 2 ตู้ พร้อมชั้นลอยด้านใน ทำให้เก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ
ถัดจากโซนครัวเข้าไปจะเป็นมุมทานอาหารและห้องนั่งเล่น แบบพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน
มุมทานอาหารวางอยู่ใกล้ ๆ กับครัวและโซฟา ได้เป็นชุดโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง แบบนี้
ถัดมาเป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อน ที่อยู่ใกล้กับห้องอเนกประสงค์
ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางดีไซน์น่ารัก ๆ 1 ตัว
ตรงข้ามได้ตู้วางทีวีลายไม้สีอ่อน พร้อมช่องเก็บของ 3 ช่อง ผนังสามารถติด Smart TV จอใหญ่ได้ค่ะ งานระบบไฟฟ้ามีให้พร้อมต่อใช้งาน
ผนังด้านบนติดตั้งแอร์ Daikin Inverter ให้ 1 เครื่อง
ประตูทางเข้าห้องอเนกประสงค์ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบ Full Height ช่วยให้ทุกส่วนของห้องดูโปร่ง โล่ง เปิดรับแสงสว่างได้เยอะ ใช้งานได้ไม่รู้สึกอึดอัด
ภายในห้องเปลี่ยนจากพื้น SPC มาเป็นพื้นแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. โดยห้องตัวอย่างจะจัดเป็นห้องพักผ่อนอีกจุดมาให้ดู ส่วนห้องจริงเราเลือกปรับฟังก์ชันได้ตามชอบเลยค่ะ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัว ห้องนอนสำหรับแขก หรือทำเป็น Live Studio สำหรับคนที่ทำงาน Online ก็ลงตัว
โครงการวางโซฟาเบดแบบปรับลงมานอนได้ให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อใครอยากทำเป็นห้องนอนแขก ก็ซื้อโซฟาเบด 3 ฟุตแบบนี้มาวางได้ค่ะ
อีกฝั่งจะมี Smart Plug และติดชั้นวางของเข้ามุมให้แบบนี้
ด้านในสุดจะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ด้านนอกติดระเบียงให้อีก 1 ชั้น เผื่อใครทำเป็นระเบียงพักผ่อน แล้วอยากเปิดรับลม รับวิวในตอนกลางคืนก็ทำได้ค่ะ
มองกลับออกมาดูภาพรวมภายในห้อง
อีกด้านของห้องจะเป็นห้องนอน และห้องน้ำแบบ Double Access ที่เข้า-ออกได้ทั้งจากโถงด้านนอก และจากภายในห้องนอน ทำให้ได้ฟีลเหมือนห้องนอนมีห้องน้ำในตัว
ห้องน้ำวาง Layout เป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำไว้เป็นสัดส่วน ตกแต่งกระเบื้องภายในด้วยลายหินสีเทาและลายตารางสีขาว ดูหรูและทันสมัย ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้เป็นของ Kohler และมีพัดลมระบายอากาศให้ 1 ตัว เช่นเดิมค่ะ
ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ
อ่างล้างมือแขวนผนัง พร้อมชั้นวางของลายไม้ใต้อ่าง หน้าอ่างก็ยังมีพื้นที่ให้วางของได้อีกพอสมควร พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยกทรงสูง เปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย
โถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู
ผนังด้านหลังติดกระจกเงาให้ 1 บาน มีปลั๊กไฟกันน้ำให้ 1 จุด พร้อมราวแขวนผ้า 1 ชิ้น
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ กั้นแยกพื้นที่ไว้ด้วย Shower Screen ประตูบานสวิง มือจับตัว U พร้อมติดฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower อีกทั้งยังมีชั้นวางของ และมี Junction Box รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้เลยค่ะ
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อ จากภาพเราจะเดินเข้ามาจากประตูหลักด้านนอกค่ะ
เข้ามาด้านในขวามือเป็นส่วนพักผ่อน ได้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต ไม่รวมที่นอน วางมาในระยะใช้งานสบาย ๆ มีพื้นที่รอบ ๆ เหลือให้เดินเข้า-ออก ลุกขึ้น-ลงเตียงนอนได้สะดวก
ข้างเตียงนอนมีพื้นที่กว้าง สามารถวางโต๊ะหัวเตียง วางเครื่องฟอกอากาศ หรือของตกแต่งบ้านอื่น ๆ ได้ตามชอบ และที่ผนังจะมีปลั๊กไฟ พร้อม USB Port ติดไว้ให้ด้วยค่ะ
ปลายเตียงนอนจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ ที่มีงานระบบไฟฟ้าติดไว้ให้ตรงกลาง สามารถซื้อ Smart TV มาติดแล้วต่อใช้งานได้เลย หรือใครอยากมีพื้นที่วางของเยอะ ๆ จะติดชั้นแนวยาวซ้อน ๆ กันขึ้นไปก็ได้
จุดนี้จะมี Smart Switch ติดมาให้ด้วยค่ะ
ข้างเตียงนอนได้หน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่มา 1 ชุด มีตัวบานกระทุ้งไว้เปิดรับลม ระบายอากาศได้ ส่วนที่เหลือจะเป็นบานฟิกซ์ไว้เปิดรับแสง และชมวิวด้านนอกได้กว้างเต็มสายตา
มองออกมาจะเห็นวิวแนวรถไฟฟ้าและวิวเมืองทางด้านหน้าโครงการ ฝั่งถนนกรุงธนบุรี
มองเยื้อง ๆ ไปทางขวา จะเห็น Tower A พื้นที่ส่วนกลาง และทางเดินเชื่อมระหว่าง 2 ตึก ที่ชั้น 10
มองกลับเข้ามาภายในห้องอีกฝั่ง จะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอน และขวามือจะเป็นพื้นที่แต่งตัว
เหนือประตูห้องน้ำติดแอร์ Daikin Inverter ให้ 1 เครื่อง
จากประตูห้องน้ำในห้องนอน เปิดเข้าไปจะได้มุมมองแบบนี้ค่ะ
ตรงมุมแต่งตัวจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเปิด ภายในให้ฟังก์ชันมาครบ ทั้งราวแขวนผ้าบน-ล่าง, ชั้นวางของ, ลิ้นชักเก็บของ พร้อมไฟ LED ที่จะติดเวลาเราเปิดบานตู้ออก
ติดกับตู้เสื้อผ้าจะมีชั้นวางของแนวสูง และตู้เก็บของบานเปิดพร้อมชั้นลอยด้านในให้อีก 1 ตู้ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน ในห้อง 1 Bedroom Plus
ราคา (ม.ค. 68)
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/4iOpD3t
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ ตั้งอยู่เกือบติดถนนกรุงธนบุรี อยู่ในซอยกรุงธนบุรี 2 เข้ามา ประมาณ 50 ม.* ซึ่งเป็นย่านฝั่งธนโดยแท้ คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ย่านนี้ส่วนมากก็มีธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น ทำมาหากินกันมานาน จนมี BTS ข้ามมาฝั่งธนฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการเกาะตามแนว BTS ตั้งแต่กรุงธนบุรี และขยายออกมาวงเวียนใหญ่ จนตอนนี้ขยายไปถึงบางหว้า และในอนาคตจะมีสายสีม่วงใต้เพิ่มเข้ามา
ความอุดมสมบูรณ์รอบ ๆ โครงการตามริมสองฝั่งทางกรุงธนบุรีมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้านในระยะที่พอเดินได้ บางร้านเปิดทั้งวัน บางร้านเปิดช่วงเย็น ๆ ถ้าไปเส้นเจริญรัถก็มีร้านค้า ร้านอาหารหลายร้านให้เลือก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านริมทาง
มีตลาดสดใกล้ ๆ นอกนั้นก็ต้องใช้รถ ห้างสรรพสินค้ามี Platfrom วงเวียนใหญ่ , The Mall ท่าพระ, Robinson บางรัก และ ICONSIAM หรือจะนั่ง BTS เข้าเมืองไปห้างใหญ่ ๆ เลยก็ง่ายดี อีกทั้งยังห้อมล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ ทั้งของรัฐบาลและเอกชน รวมถึงใกล้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และอาคารสำนักงานอีกมากมาย ในระยะเดินทางไปได้ใกล้ ๆ และสะดวกมาก ๆ
⇒ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งขาออก ห่างจากแยกตากสิน ประมาณ 350 ม.* เข้าเมืองหลัก ๆ ก็ใช้เส้นกรุงธนบุรี ฝั่งขาเข้า ตรงไปข้ามสะพานตากสิน ก็เข้าสาทรได้เลย จากนั้นจะต่อไปสีลม ราชดำหริ สยามก็สบาย ๆ หรือมาออกสวนลุม พระราม 4 ก็ได้ ถ้าจะไปโซนพระนคร เยาวราช วิ่งไปผ่านวงเวียนพระเจ้าตากสิน ข้ามสะพานพระปกเกล้าไปก็ถึงแล้วง่ายดี
ถ้าจะออกนอกเมือง ง่ายหน่อยไปทางแยกตากสินจะตัดกับเส้นสมเด็จพระเจ้าตากสินไปโซนพระราม 3 สุขสวัสดิ์ได้ และอีกเส้นตัดกับเส้นราชพฤกษ์ไปเชื่อมออกเพชรเกษมได้ จากนั้นก็ไปพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี ทางด่วนใกล้ ๆ มีทางด่วนศรีรัช และเฉลิมมหานคร
⇒ การเดินทางโดนรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : จุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS วงเวียนใหญ่ เพียง 130 ม.* เป็นระยะที่เดินได้สบาย ๆ หน้าปากซอยทางเข้าโครงการมีป้ายรถเมล์ เส้นกรุงธนบุรีมีรถเมล์วิ่งผ่านไปมาหลายสายทั้งขาเข้าและขาออกเมือง Taxi ก็โบกขึ้นได้เลย วินมอเตอร์ไซค์ก็มีให้ใช้งาน ทั้งตรงหน้าปากซอย และตรงสถานีรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากรถด่วนพิเศษ BRT ถ้าไปแถวโซนพระราม 3 ก็มาขึ้นตรง BRT ราชพฤกษ์ หรือไปขึ้นตรง BTS ช่องนนทรีก็ได้ เป็นจุดเชื่อมต่อกับ BRT ใครจะใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือที่สะดวกสุดก็เป็นท่าสาทร นั่ง BTS ไปลงตรงสะพานตากสิน และตรง BTS ศาลาแดง จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับ MRT สีลม มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายดีมาก ๆ ค่ะ
⇒ การออกแบบโครงการ ห้องพัก และวัสดุ : Reference สาทร-วงเวียนใหญ่ คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ที่ตอบโจทย์ Lifestyle คน Gen Y มากที่สุด ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูงจำนวน 2 อาคาร ความสูง 32 ชั้น และ 51 ชั้น รวม 815 ยูนิต โดยเลือก “Moon” เป็นคอนเซ็ปต์การออกแบบโครงการนี้ และในโครงการจะมี Foodland ที่เป็น Supermarket เปิดบริการ 24 ชม.
ในส่วนของห้องพัก จะเป็นห้องดีไซน์ใหม่ มีแบบห้องชุดให้เลือก 4 แบบคือ แบบ Studio ขนาด 24-27 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom ขนาด 31-32 ตร.ม. แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 32.5-53 ตร.ม. และแบบ 2 Bedroom ขนาด 70-72 ตร.ม. ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.
ขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished ที่ลูกค้าสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เพราะได้เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้อง มี Home Automation ที่สะดวกต่อการใช้ชีวิต และใช้วัสดุเกรดพรีเมียมทั้งห้อง คุ้มค่ากับราคาที่เฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 140,000 บาท/ ตร.ม.*
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : ต้องว่าเป็นคอนโดดีไซน์ใหม่ แห่งเดียวในย่านนี้ ที่มีส่วนกลางจัดเต็ม รองรับทั้งการทำงาน การพักผ่อน และ Hangout ได้ลงตัว และดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางทุกจุดออกมาได้อย่างสวยงาม ตามคอนเซ็ปต์ Moon มีการใส่เส้นสายโค้งไว้ตามจุดต่าง ๆ
มี Facilities ที่ทันสมัย อาทิ Swimming Pool, Onsen, Jacuzzi, Sky Lounge, Co-Working, Fitness, Yoga & Pilates Room, Play Yard สะดวกสบายแบบไลฟ์สไตล์ 24 ชม. ที่พร้อม Muvmi บริการรถรับ-ส่ง ด้วยรถพลังงานไฟฟ้า และ Foodland คอนเซ็ปต์ใหม่ จะเปิดให้บริการภายในโครงการภายในเดือนมกราคม 2568 ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างครบครันเลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1749 หรือ 02-079-1101
Line : https://lin.ee/tjzpahH
Website : https://bit.ly/4iOpD3t
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น