EP.277 รีวิว คอนโด เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 / THE BASE Garden-Rama 9
Written by : THAnATH
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ THE BASE Garden พระราม 9 จาก Sansiri ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 9 ฝั่งขาเข้าเมืองก่อนถึงแยกรามคำแหงประมาณ 50 ม. ใกล้ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ห่างจาก Airport Rail Link รามคำแหงประมาณ 700 ม. และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เดอะเบส การ์เดน-พระราม 9 เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดินประมาณ 3 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 639 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 26.5 – 53.50 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในช่วงปลายปี 2561
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการออกแบบเน้นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง Lobby, Multi Purpose Area, Mailbox, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สระว่ายน้ำเด็ก, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, Tree House, Smart Move, iBOX, Free Wifi บริเวณส่วนกลาง, พื้นที่สีเขียว, ประตูคีย์การ์ด, Access Card Control, EV Charging Station, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท
ส่วนรายละเอียดโครงการเราไปชมพร้อมกันได้เลยครับ
ชื่อโครงการ | เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 / THE BASE Garden-Rama 9 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) Sansiri |
เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 3 ไร่ |
จำนวนตึก | – อาคารพักอาศัย : 1 อาคาร – อาคารฟิตเนส : 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | – อาคารพักอาศัย : 36 ชั้น – อาคารฟิตเนส : 1 ชั้น |
จำนวนห้อง | ห้องพักอาศัย 639 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 40% รวมซ้อนคัน |
โซน | รามคำแหง , พระราม 9 |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. |
กำหนดการ | Pre-sale 10 – 11 กันยายน 2559 |
ปีที่สร้างเสร็จ | แล้วเสร็จปลายปี 2561 |
ราคา | เริ่ม 3.19 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 99,000 – 130,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | โซนรามคำแหง-พัฒนาการ
โซนเพชรบุรี-พระราม 9
โซนเอกมัย-ทองหล่อ
โซนพร้อมพงษ์-อโศก
:: โรงพยาบาล ::
:: สถานศึกษา ::
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | THE BASE Garden-Rama9 สะท้อนตัวตนในแบบคุณ บ่งบอกตัวตนที่แตกต่างด้วยดีไซน์ และสีสันที่เผยความเป็นคุณอย่างชัดเจน โดดเด่นด้วย Bay Window กระจกใสที่ยื่นออกมาเพื่อสัมผัสวิวทิวทัศน์รอบด้าน เป็นผลงานสร้างสรรค์ในแบบที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพระราม 9 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
พิกัด Google : 13.746591, 100.606032
THE BASE Garden – Rama 9 ตั้งอยู่ติดกับถนนพระรามเก้า ใกล้แยกรามคำแหงฝั่งขาเข้าเมือง การเดินทางสะดวกพอสมควรเนื่องจากอยู่ติดถนนพระรามเก้าเลย แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยคือระยะอยู่ใกล้แยกรามคำแหง เลนที่ออกมาจากหน้าโครงการจะเป็นเลนเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเส้นรามคำแหงไปฝั่งคลองตัน และเป็นเลนวิ่งตรงข้ามแยกรามคำแหง จะไม่สามารถเลี้ยวขวาไปเส้นรามคำแหงได้ ต้องวิ่งตรงข้ามแยกรามคำแหงไปกลับรถใต้สะพานประมาณ 500 ม. บนถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นรามคำแหงอีกที ส่วนการเดินทางมาโครงการจากฝั่งแยกคลองตันต้องไปกลับรถจากแยกประมาณ 850 ม. ซึ่งถ้าอยู่ในช่วงการจราจรหนาแน่นซึ่งเกือบตลอดทั้งวัน จุดกลับรถตรงนี้จะรอนานหน่อย
ที่ตั้งโครงการดูจากแผนที่จะเห็นว่าตัวโครงการถูกขนาบข้างไปด้วยทางด่วน ฝั่งด้านหน้าโครงการจะเป็นทางด่วนศรีรัช ด้านข้างฝั่งถนนรามคำแหงเป็นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ข้อเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือเรื่องมลภาวะทางเสียง ซึ่งตัวโครงการอยู่ติดทั้งถนนพระราม 9 ทางด่วนศรีรัช ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ใกล้แยกรามคำแหง ซึ่งเป็นเส้นที่รถวิ่งผ่านไปมาตลอด แต่โครงการก็ได้แก้ไขปัญหานี้โดยการอัพเกรดกระจกเฉพาะในห้องนอนเป็นแบบ Insulated Glass กระจกจะเป็น 2 ชั้นเว้นช่องตรงกลาง ช่วยในเรื่องเก็บเสียง และกันความร้อนได้ดี แต่ก็น่าจะให้ทุกส่วนในห้องไปเลยนะครับ
การเดินทางเข้าเมือง ถ้าใช้ได้ทั้งเส้นพระรามเก้าวิ่งตรงไปมีทางเชื่อมเข้าเอกมัย เพชรบุรี ทองหล่อ อโศก พระราม 9 เชื่อมไปดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ หรือออกวิภาวดีรังสิตก็ได้ หรือจากโครงการมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกรามคำแหงวิ่งมาแยกคลองตันซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างเส้นเพชรบุรี พัฒนาการ และสุขุมวิท 71 ถ้าใช้เส้นเพชรบุรีจะวิ่งคู่ขนานกับสุขุมวิทซึ่งสามารถเชื่อมเข้าซอยเอกมัย ทองหล่อ อโศก นานา ชิดลม ยาวไปแยกราชเทวีและไปสิ้นสุดที่แยกยมราช แต่ถ้าข้ามแยกคลองตันมาเข้าสุขุมวิท 71 มาทะลุออกเส้นสุขุมวิทวิ่งเข้าหรือออกเมืองได้เลน หรือมาเข้าถนนพระราม 4 ก็ได้ ไปออกลุมพินี สีลม สาทร ข้ามไปฝั่งทน หรือไปสายย่าน หัวลำโพง เยาวราช มีทางด่วนให้ขึ้นตรงท่าเรือครับ
การเดินทางออกนอกเมือง เส้นรามคำแหงไปแยกลำสาลีเชื่อมไป บางกะปิ ลาดพร้าว มีนบุรี หนองจอก เส้นพระราม 9 ฝั่งขาออกเมืองจะมีจุดตัดกับเส้นศรีนครินทร์ เส้นกาญจนาภิเษก ไปโซนลาดกระบัง และเชื่อมกับมอเตอร์เวย์วิ่งไปออกชลบุรี พัทยาได้เลย หรือมาใช้เส้นพัฒนาการตัดเข้าศรีนครินทร์ ไปสมุทรปราการได้ หรือยาวไปประเวศ ลาดกระบัง ถ้ามาทางพระโขนง ไปอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการ
ทางด่วน จากโครงการตรงข้ามแยกรามคำแหงไปประมาณ 1 กม. จะเจอทางขึ้นทางด่วนศรีรัช ไปดาวคะนอง ดินแดง แจ้งวัฒนะ
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการอีกเส้นคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีจุดขึ้นทางด่วนสองจุดอยู่ตรงเส้นพัฒนาการ จากโครงการมาเลี้ยวซ้ายตรงแยกรามคำแหง และขับตรงไปแยกคลองตันแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนพัฒนาการ ตรงมาอีกหน่อยจะเจอจุดขึ้นทางด่วนมีทั้งฝั่งไปโซนรามอินทรา ไปลาดพร้าว รามอินทรา เกษตรนวมินทร์ วิ่งไปเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ออกรังสิต นครนายกได้ และอีกฝั่งไปโซนบางนา ดาวคะนอง ห่างจากโครงการประมาณ 1.4 กม.
ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีทางขึ้นลงอีกจุดอยู่ตรงเส้นประดิษฐ์มนูธรรม จุดขึ้นห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. ไปโซนรามอินทรา
การเดินทางโดยสาธารณะ มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลายดีครับ ตัวโครงการห่างจาก ARL รามคำแหงประมาณ 700 ม. ระยะก็พอเดินได้ แต่โครงการมี Shuttle Service บริการไปส่ง(ไม่รับกลับ) ที่ ARL รามคำแหง เก็บค่าบริการ 20 บาท นั่ง ARL ไปลงมักกะสันห่างเพียง 1 สถานีจะเป็นจุดเชื่อมต่อกับ MRT เพชรบุรี ถ้าจะเปลี่ยนเป็น BTS ก็นั่ง MRT มาเปลี่ยนที่อโศก หรือนั่ง ARL ไปลงพญาไทได้เลย มีท่าเรือด่วนคลองแสนแสบอยู่ติดกับ ARL รามคำแหงคือท่าเรื่อรามหนึ่งนั่งเข้าเมืองก็ได้ครับ ส่วนใครที่เดินทางไปสนามบินบ่อยๆ ขึ้น ARL ต่อเดียวถึงสนามบินสุวรรณภูมิเลย และในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ส่วนป้ายรถเมล์เดินมาข้ึนตรงเส้นรามคำแหงมีทั้งเข้าและออกเมืองห่างจากโครงการประมาณ 450 ม. หรือไปแถว The Mall รามคำแหง มีทั้งรถเมล์ รถตู้ วิ่งผ่านหลายสายครับ หน้าโครงการโบกเรียก Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ได้เลยสะดวกดี
เว็บไซต์โครงการ : http://www.mrta-orangeline.net/
นอกจากนี้ในอาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ตัดมาจากศูนย์วัฒนธรรมเข้าถนนพระรามเก้า ผ่านแยกรามคำแหง เข้าสู่เส้นรามคำแหง โดยสถานีที่ใกล้โครงการจะอยู่บริเวณ The Mall รามคำแหง คือสถานีรามคำแหง 12 ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง ถ้าเปิดใช้บริการได้คงสะดวกมากข้ึนครับ
วีดีโอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่ารอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยออกแนวชุมชนดั้งเดิม รวมทั้งอาคารพาณิชย์ หอพัก คอนโดมิเนียมก็มีโครงการใหม่ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการ High Rise ย่านนี้มี U Delight พัฒนาการ , Fuse Mobius , The Leaf , THE BASE พระราม 9 , Plum Condo รามคำแหง , The Tree สุขุมวิท 71 , The Privacy , Metris รามคำแหง , Ideo New พระราม 9 และ THE BASE Garden – Rama 9 และยังมีพื้นที่รอขึ้นโครงการใหม่อีกหลายโครงการเลยครับ
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนสุขุมวิทตรง BTS พระโขนง และไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนซอยสุขุมวิท 71 ตรงไปสุดซอยข้ามแยกคลองตันเข้าถนนรามคำแหง จากนั้นไปเลี้ยวขวาตรงแยกรามคำแหงเข้าถนนพระราม 9 จากแยกรามคำแหงตรงไปประมาณ 850 ม. จะเจอจุดกลับรถ กลับรถแล้วตรงมาประมาณ 800 ม. ก่อนถึงแยกรามคำแหง โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง ถนนสุขุมวิท > ถนนสุขุมวิท 71 > ถนนรามคำแหง > ถนนพระราม 9 > THE BASE Garden – Rama9
เลยมาอีกจะเจอ BTS พระโขนง
ถัดมาเป็นแยกพระโขนง
และจะเจอ 3 แยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 71
เลี้ยวเข้ามาจะเป็นถนนสุขุมวิท 71 ขับตรงไปสุดทางเลย
เส้นนี้มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสายพอสมควร มาจากฝั่งรามคำแหงก็เยอะครับ
จากนั้นจะเจอมัสยิดอี่ดาย่าตุ้ลอิสลาม
จากนั้นเราจะยึดป้ายรามคำแหง ขับตรงไปครับ
และจะเจอแยกคลองตัน ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนเพชรบุรี ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นถนนพัฒนาการ เราจะขับตรงไป
ข้ามแยกมาจะเป็นถนนรามคำแหง ตรงไปอีก
จากนั้นจะเจออาคาร UM ซ้ายมือ ติดกันเป็น ARL รามคำแหง ขวามือเป็นโรงแรม Nasa Vegas
ARL รามคำแหงห่างจากโครงการประมาณ 700 ม.
พาเดินสำรวจแถวหน้าอาคาร UM Tower ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สูง 30 ชั้น มีพนักงานทำงานที่นี่เยอะพอสมควร โดยชั้นล่างมีธนาคารอิสลาม และธนาคารกรุงเทพเปิดให้บริการ
หน้าอาคาร UM Tower มีป้ายรถเมล์ให้บริการ 1 จุด รถเมล์สายที่ผ่าน 60,71,22,115,99,40,92,517
เดินย้อนลงไปดูนิดนึง..ตรงนี้เป็นทางเท้า เดินต่อไปจะเป็นตลาดเอกรินทร์ แหล่งพึ่งพาของพนง.ออฟฟิศ UM Tower เลยหละ
หน้าตลาดก็จะมีร้านค้าแผงลอย มีร้านน้ำ ร้านลูกชิ้นทอด
เข้ามาดูภายในตลาด ก็จะมีร้านอาหารตามสั่ง, อาหารมุสลิม ซึ่งแถวนี้คนมุสลิมเยอะ มีโต๊ะเก้าอี้สามารถนั่งทานได้เลย แล้วลานตรงกลาง จะมีตลาดนัดตอนเที่ยง มีพ่อค้า แม่ค้า มาตั้งขายของเยอะพอสมควร แต่พอเลยเที่ยงเค้าก็จะเก็บกลับบ้านกันละ สภาพก็แบบที่เห็นในภาพมันจะเงียบ ๆ นิดนึง แต่ร้านอาหารต่าง ๆ ยังคงเปิดขายกันจนถึงบ่าย ๆ เย็น ๆ ครับ
ถัดจากร้านอาหาร และตลาดนัดเข้ามาก็จะเป็นตลาดสด มีผักสด, เนื้อสัตว์ ขายแบบในภาพ สำหรับคนที่ทำอาหารทานเอง พึ่งพาตลาดนี้ได้
จากตลาดเดินกลับมาทาง UM Tower มุ่งหน้าไปแยกรามคำแหง มองขึ้นไปนั้นเป็นแนวรถ ARL ส่วนอาคารสูงสีเหลือง ๆ นั้นคือ โรงแรมนาซ่าเวกัส
ซ้ายมือเป็นรางรถไฟสายตะวันออก เหนือขึ้นไปเป็น ARL รามคำแหง
ซุ้มสุขุมวิท 71 มีนายสถานีให้ข้อมูลอยู่ในป้อม สอบถามเส้นทางได้
ป้าย ARL สถานีรามคำแหง และป้ายบอกทางไปท่าเรือรามหนึ่ง
ติดกับ ARL สถานีรามคำแหง คือ A-Link Square ร้านแรกที่เห็นเลยคือ Starbucks Coffee
หน้าสถานีมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ พี่วินให้บริการตลอดทั้งวัน
อัตราค่าโดยสารพี่วิน
พาเข้าไปดูใน A-Link กันหน่อยนะ ด้านหน้ามี Starbucks 2 ชั้น เปิดให้บริการ
โดยตัว ARL กับ A-Link นี่เชื่อมกันได้เลย…
เข้ามาด้านในมีร้านอาหารเปิดประปราย ไม่ได้เปิดเต็มสูบขนาดนั้น ซึ่งร้านสำคัญ ๆ ก็อยู่ด้านหน้า ๆ เดินมาใช้บริการได้ง่าย ๆ
Subway ก็มีเวลาเช้า แวะซื้อก่อนไปทำงานได้
7-11 ขนาดใหญ่พอสมควร
ทางขึ้นไปชานชลารถไฟ ช่วงกลางวันคนน้อย ไม่วุ่นวายดี
ขึ้นมาด้านบนบริเวณตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ
บรรยากาศเงียบ ๆ แบบนี้ก็ดีครับ
จากชานชลาด้านบนก็จะมีป้ายบอกทางไปท่าเรือรามหนึ่งตลอดทาง
เดินลงมาแล้วไปดูกันต่อทีท่าเรือ โดยท่าเรือจะอยู่ด้านหลังสุดของ ARL สถานีรามคำแหง
บริเวณท่าเรือรามหนึ่ง นั่งไปประตูน้ำ, สยาม ยันผ่านฟ้าลีลาศได้เลยนะ
มองย้อนกลับเข้ามาด้านใน
กลับมาที่สถานี ARL จะมีทางเชื่อมสะพานเพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่งที่ชั้นสองแบบนี้
ทางเชื่อมกว้างดี เดินได้สะดวก มีหลังคาคลุมตลอดทาง ไม่ต้องห่วงเรื่องแดด เรื่องฝน สุดทางลงจะเจอกับโรงแรมนาซ่า เวกัส
ดูบรรยากาศจากมุมสูงกันหน่อย ฝั่งนี้เป็นฝั่ง UM Tower มุ่งหน้าสู่แยกคลองตัน
มองกลับมาอีกฝั่งเป็นถนนรามคำแหง มุ่งหน้าสู่แยกรามคำแหง
เดินลงจากทางเชื่อมมานี่จะเจอกับโรงแรมนาซ่า เวกัส โรงแรมนี้แขกที่เข้ามาพักส่วนมากจะเป็นทัวร์จีน ช่วง High Season คนจะเยอะหน่อย ส่วนช่วง Low Season ก็จะเงียบ ๆ แบบนี้หละ
กลับออกมาที่หน้า ARL รามคำแหง ขับไปโครงการกันต่อครับ
ซ้ายมือจะเห็นโครงการ Fuse Mobius
ตรงมาอีกตรงหน้าเราจะเห็นโครงการรุ่นพี่ THE BASE พระราม 9 ของแสนสิริเอง และแนวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
ขับตรงมาข้างหน้าก็เป็นแยกรามคำแหงครับ จะเป็นแนวทางด่วนศรีรัช และสะพานลอยข้ามแยก
จอดรถรอไฟแดงตรงแยกรามคำแหง และเตรียมเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 เลนเลี้ยวขวามี 2 เลนนะครับ
เลี้ยวขวามาจะเป็นถนนพระราม 9 จากแยกตรงไปอีกประมาณ 850 ม. จะเจอจุดกลับรถ ที่ต้องไปกลับรถเพราะตัวโครงการจะอยู่ฝั่งขวาก่อนถึงแยกรามคำแหงครับ
ตรงไปให้ชิดขวาไว้นะครับ
เมื่อมองเห็นปั๊ม Shell ข้างหน้า จุดกลับรถจะอยู่เยื้องๆกันหน่อย
กลับรถได้เลยครับ ข้อเสียของบริเวณนี้คือรอกลับรถนานในช่วงที่การจราจรหนาแน่น และรถติดไฟแดงตรงแยกรามคำแหงนั่นเอง
กลับรถมาก็จะเป็นถนนพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกรามคำแหง ซ้ายมือมองเห็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช
จากนั้นให้เตรียมชิดเลนซ้ายไว้ ขวามือมีสะพานลอยข้ามแยกไปลงรัชดาภิเษกได้
ตรงมาก็จะมองเป็น THE BASE พระราม 9
ชิดซ้ายไว้นะครับ
และจะเจอพื้นที่โครงการทางซ้ายมือ ก่อนถึงแยกรามคำแหง อยู่ติดกับมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์
พื้นที่โครงการโดยรอบทิศเหนือด้าหน้าโครงการติดกับถนนพระราม 9 และทางด่วนศรีรัช ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโครงการ Metris พระราม 9 สูง 33 ชั้น ทิศใต้ติดกับบ้านพักอาศัย ถัดไปเป็นคลองเขมร ทิศตะวันออกติดกับมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ เรื่องเสียงการละหมาดอยากให้ลองไปลงพื้นที่ดูก่อนครับว่าประมาณไหน ทางโครงการแจ้งว่าช่วงตีห้าของทุกวันจะมีประกาศออกไมค์ แต่เวลาสวดปกติไม่ออกไมค์ครับ และกระจกในห้องนอนโครงการให้เป็น Insulated Glass ช่วยลดเรื่องเสียงไปได้อีกเยอะเลยครับ ฝั่งทิศตะวันตกติดกับ 911 Assistant เป็นร้านบริการครบวงจรเฉพาะรถ Porsche ทั้งทำความสะอาด ซ่อมบำรุง ติดกันมีพื้นที่ว่างเปล่าและบ้านพักอาศัย
ด้านหน้าโครงการติดกับถนนพระราม 9
มองไปทางซ้ายติดกับมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์
ด้านขวาติดกับ 911 Assistant ถัดไปเป็นแยกรามคำแหง
พื้นที่ด้านหน้าโครงการจะเป็นที่ติดของทางด่วนกว้างประมาณ 30 ม. โดยโครงการทำสวนขึ้นมาเพื่อปรับภูมิทัศน์และยกให้ กทม.ดูแลครับ
เดินมาดูด้านข้างโครงการที่ติดกับมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์
เดินเข้ามาด้านขวาจะเห็นรั้วโครงการสูงกว่ารั้วมัสยิด
เงยหน้ามองไปที่โครงการจะเห็นตัวอาคารสีแดงส้มโดดเด่นในย่านนี้เลย
เดินไปดูอีกฝั่ง
เดินมาจะเห็นทางเข้าออกโครงการ มีทั้งทางสำหรับรถและสำหรับคนเดิน
ติดกับทางเข้าโครงการจะเป็น 911 Assistant
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโครงการ Metris พระราม 9 สูง 33 ชั้น
มองไปทางซ้ายเห็นแยกรามคำแหง
มองไปทางขวา
ความอุดมสมบูรณ์ ในตัวโครงการมี 7-11 ส่วนรอบๆโครงการในระยะเดินส่วนใหญ่จะอยู่เส้นรามคำแหงทั้งฝั่งที่มุ่งหน้าไปแยกคลองตัน และฝั่งที่ข้ามแยกรามคำแหงไปแล้ว มีร้าน 7-11 อยู่ในปั๊ม PTT ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. ตรงรามคำแหงซอย 4 มีร้านรถเข็น อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวให้เลือกกินได้ เลยไปประมาณ 700 ม. ก็จะเจอ A-Link ติดกับ ARL รามคำแหง มี Starbucks , Subway , 7-11 เลยไปแถวตึก UM มีร้านค้า รถเข็น ตลาดนัด ตลาดสดเป็นเช้าถึงเย็น หรือถ้าข้ามแยกรามคำแหงไป เดินผ่าน THE BASE พระราม 9 และ D Condo รามคำแหง ก็จะเจอ Food Land ระยะจากโครงการประมาณ 500 ม. ติดกันมี KFC Drive Thru ตามทางเดินก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารเป็นระยะๆ เดินเลยไปอีกจะเจอ The Mall ราม 3 และ The Mall ราม 2 จะอยู่คนละฝั่งกันมีสะพานลอยเดินเชื่อมกันได้ เลย The Mall ไปมีเมเจอร์ , หัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ , เมเจอร์ ฮอลีวูด มีตลาดนัด กกท ซึ่งเป็นตลาดนัดชื่อดังย่านรามคำแหงเลยมีของกิน ของใช้ เสื้อผ้า รองเท้าขายเพียบครับ ส่วนสถานศึกษาย่านนี้ที่รู้จักกันดีคือ ม.รามคำแหง และ ABAC นอกจากนี้ยังมีสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งเป็นที่จัดแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญต่างๆ และใช้สำหรับจัดการแสดงคอนเสิร์ต ส่วนสถานบันเทิงใกล้ๆคือ RCA หรือวิ่งเข้าโซนเอกมัย ทองหล่อได้เลยในระยะไม่เกิน 10 กม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
โซนรามคำแหง-พัฒนาการ
โซนเพชรบุรี-พระราม 9
โซนเอกมัย-ทองหล่อ
โซนพร้อมพงษ์-อโศก
:: โรงพยาบาล ::
:: สถานศึกษา ::
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
Floor Plan
Master Plan โครงการจะเห็นว่าที่ดินโครงการจริงๆจะเข้ามาอีกประมาณ 30 ม.จากริมถนน เนื่องจากเป็นพื้นที่ของทางด่วน ทางโครงการทำสวนขึ้นมาและยกให้ กทม.ดูแลครับ ทางเข้าโครงการก็จะผ่านที่ดินของทางด่วนก่อนและจะเจอป้อมยาม ประตูคนเดินจะแยกอีกส่วน เข้ามาถนนในโครงการรถวิ่งสวนกันได้ จากนั้นจะเจอ Drop Off หรือตรงเข้าไปด้านข้างมีที่จอดรถใต้อาคาร และเป็นทางขึ้นที่จอดรถชั้น 2-4 ถ้าวนไปด้านหลังจะเป็นที่จอดรถกลางแจ้งจนไปถึงด้านข้างโครงการอีกฝั่ง มีทางเข้าที่จอดรถใต้อาคาร ที่จอดรถทั้งโครงการรวมซ้อนคันประมาณ 40% จากจุด Drop Off มีทางเดินเข้าไปยัง Lobby เชื่อมกับ Multi Purpose Area และเดินออกไปฝั่งด้านหน้าจะเป็น Facility มีสวน อาคารฟิตเนส 1 ชั้น และสระว่ายน้ำทรงฟรีฟอร์มยาว 24 ม. กว้าง 5.5 ม. มีพื้นที่นั่งริมสระ มุมริมสระด้านในมี Tree House มีร้านค้าติดกับ Multi Purpose Area จาก Lobby เดินเข้ามาด้านในจะเจอห้องนิติ และ Mail Box โถงลิฟท์อยู่ด้านในมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว
แปลนชั้น 5 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย มีทั้งหมด 19 ยูนิต ยูนิตโครงการนี้ส่วนใหญ่จะเป็น 1 Bedroom ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น ในแปลนสีแดงคือ 2 Bedroom ครับ ที่เหลือก็จะเป็น 1 Bedroom ขนาดต่างๆ ชั้นนี้จะมีสวนส่วนกลางมาให้ทั้งวิวฝั่งด้านหน้าและด้านหลังโครงการ
ตั้งแต่ชั้น 6 – 36 จะมีชั้นละ 20 ยูนิต แปลนชั้น 6 , 9 , 12 , เหมือนกันครับ ตำแหน่งห้องเหมือนชั้น 5 แต่เพิ่มห้อง 1 Bedroom มาอีกห้อง และอีกส่วนที่ไม่เหมือนคือจะมียูนิตพิเศษ Type 1B-BW จะมีพื้นที่ส่วนห้องนอนยื่นออกมาหน่อย หน้าต่างจะได้แบบ Bay Windows
แปลนชั้น 7 และ 10 เหมือนกันครับมี 20 ยูนิต ชั้นนี้ยูนิตพิเศษจะอยู่ที่ 2 Bedroom มุมล่าง Type 2A-BW ส่วนที่ยื่นออกมาเป็นห้องรับแขก
แปลนชั้น 8 และ 11 เหมือนกัน มี 20 ยูนิต ชั้นนี้จะไม่มียูนิตพิเศษ
แปลนชั้น 13 ยูนิตพิเศษจะมี 1B-1-BW และ 2 A-BW
แปลนชั้น 14 ยูนิตพิเศษอยู่ฝั่งด้านหน้า Type 1 BM-BW
แปลนชั้น 15 , 18 มียูนิตพิเศษฝั่งด้านหลัง Type 1B-BW
แปลนชั้น 16 , 19 , 22 ยูนิตพิเศษจะมี 1B-1-BW และ 2 A-BW
แปลนชั้น 17 ยูนิตพิเศษคือ Type 1BM-BW
แปลนชั้น 20 , 23 มียูนิตพิเศษ 2 ห้อง คือ Type 1BM-BW ทั้งฝั่งด้านหน้าและด้านหลัง
แปลนชั้น 21 , 24 มียูนิตพิเศษ 2 ห้อง คือ Type 1B-BW และ 1BM-1-BW
แปลนชั้น 25 มียูนิตพิเศษ 2 ห้อง คือ Type 1BM-BW และ 1BM-1-BW
แปลนชั้น 26 มียูนิตพิเศษ 3 ห้อง คือ Type 1BM-BW และ 1B-BW 2 ห้อง
แปลนชั้น 27 , 29 , 31 , 33 , 35 มียูนิตพิเศษ 3 ห้อง คือ Type 2A-BW และ 1BM-1-BW 2 ห้อง
แปลนชั้น 28 , 30 , 32 , 34 , 36 มียูนิตพิเศษ 4 ห้อง คือ Type 1BM-BW 2 ห้อง และ 1B-BW 2 ห้อง
โครงการ
THE BASE Garden – Rama 9 โครงการในแบรนด์ THE BASE ที่แสนสิริมีการอัพสเปควัสดุมาพอสมควรถ้าเทียบกับตัวก่อนๆ โครงการนี้เปิดขาย Pre-Sales เมื่อกันยายน 2559 เปิดราคาห้องโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท* ปัจจุบันโครงการสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ตอนนี้อยู่ในช่วงโอนกรรมสิทธิ์ ราคาขายปัจจุบัน 1 Bed ขนาด 26 ตร.ม. เริ่ม 3.19 ล้านบาท มีให้เลือกทั้งแบบห้องเปล่า และห้องแบบตกแต่งพร้อมอยู่ใครที่สนใจโครงการก็ลองแวะเข้าไปชมกันได้ครับ
รูปแบบโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น บนที่ดินประมาณ 3 ไร่ รูปทรงอาคารจะเหมือนตัว Z สีภายนอกอาคารจะออกแดงส้มเข้มๆ สีโดดเด่นในย่านนี้เลย ถ้าใครใช้ทางด่วนผ่านแถวนี้บ่อยๆจะเห็นตัวอาคารเด่นมากครับ ตัวอาคารจะมีลูกเล่นตรงที่มียูนิตพิเศษซึ่งเป็น Type BW ยื่นออกมาจากยูนิตปกติ ทำให้ได้พื้นที่ในห้องเพิ่มขึ้น และทำให้ฟาสาดภายนอกอาคารดูมีมิติ สีกระจกแต่ละห้องจะไม่เหมือนกันมีสีชากับบรอน ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5-36 ส่วนกลางหลักๆออกแบบมาไว้ที่ชั้น 1 และมีสวนที่ชั้น 5 ชั้นจอดรถอยู่ที่ชั้น 1-4
เริ่มจากด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ มีระยะจากถนนพระราม 9 เข้าไปประมาณ 30 ม.
ทางซ้ายจะแยกไว้สำหรับให้คนเดิน พร้อมตกแต่งสวนมาให้
ทางสำหรับคนเดินใช้เป็นแนวเส้นโค้งนำสายตา สองฝั่งทางตกแต่งด้วยสวนเพิ่มความร่มรื่น
เดินเข้ามาจะเจอประตูที่ต้องใช้ Key Card แตะเข้าออก รั้วโครงการด้านหน้า ลักษณะเป็นแผ่นวางเอียงตามองศาที่ต่างกัน ทำให้เกิดมุมมองที่เป็นมิติ
ตรงทางเข้าออกรถจะเป็นไม้กระดก ผ่านเข้าออกด้วยระบบ Access Card ขวามือจะเป็นป้อมยาม ติดป้ายชื่อโครงการไว้ด้านบน
ผ่านเข้ามาจะเป็นถนนในโครงการ ริมสองฝั่งทางมีต้นไม้
เงยหน้าก็จะเห็นตัวอาคารสวยเด่น
มองกลับไปที่ทางเข้าออกจะเห็นแบบนี้ครับ
กลับเข้ามาด้านใน จะเจอจุด Drop Off ซ้ายมือ
บริเวณจุด Drop Off อยู่หน้าทางเข้า Lobby ที่โครงการมีรถตู้บริการส่งที่ ARL รามคำแหง เก็บค่าบริการ 20 บาท
บริเวณด้านหน้าทางเข้า Lobby
ถัดจาก Drop Off ตรงเข้าไปที่จอดรถ ถนนในโครงการจะเป็นแบบ Two Way
ถัดเข้ามาซ้ายมือจะเป็น EV Charging Station มีจำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า
ส่วนกลางที่นี่จะมีบริการใหม่ของแสนสิริบนแพลตฟอร์ม “Smart Move” บริการยานพาหนะระบบเช่าในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน โดยได้ Haupcar (ฮอปคาร์) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งเจ้าแรกของไทยเข้ามาเป็นพันธมิตรในการบริหารระบบจัดการ การจองและปล่อยเช่ารถในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับลูกบ้านในโครงการ โดยเปิดตัวให้บริการครั้งแรกที่โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต ด้วยรถยนต์ BMW i3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รุ่นแรกจาก BMW และอีกรุ่นคือ Hyundai IONIQ พร้อมเตรียมให้บริการในอีกหลายโครงการของแสนสิริเอง ซึ่ง THE BASE Garden – Rama 9 เป็นอีกโครงการที่นำมาใช้ครับ
Smart Move จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านด้วยระบบจองรถและปลดล็อครถออนไลน์ได้ ผ่าน Home Service Application ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Haupcar Application โดยจะมีการคิดค่าบริการตามจริงเป็นราย 30 นาที โดยให้บริการรอบแรกเวลา 05.00 น. สิ้นสุดที่เวลา 02.00 น. ในแต่ละวัน เพื่อให้มีเวลาชาร์ตไฟฟ้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน
EV Charging Station
ถัดมาซ้ายมือจะเป็นทางขึ้นที่จอดรถในอาคาร
ด้านหลังจะเป็นที่จอดรถแบบกลางแจ้ง
ด้านข้างโครงการอีกฝั่งก็เป็นที่จอดรถแบบกลางแจ้งครับ
ด้านหลังตัวอาคาร
ขึ้นไปดูที่จอดรถในอาคารกันต่อครับ
ขึ้นมาที่จอดรถแบ่งซ้ายขวา
วนรถขึ้นไปจอดได้ถึงชั้น 4 ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 40% รวมซ้อนคัน
ที่ชั้นจอดรถจะมีทางเดินเชื่อมเข้าโถงลิฟท์ได้เลย
บริเวณโถงลิฟท์ชั้นจอดรถ
กลับมาด้านหน้าทางเข้า Lobby โดยผนังจะเป็นกระจกสูงถึงฝ้าเลย
ประตูทางเข้าเป็นแบบบานเปิด 2 บาน มือจับเป็นหินอ่อน
เดินเข้ามาจะเจอ Lobby ด้านบวามือ
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูทางเข้า
Lobby ฝ้าสูง 5.5 ม. ที่พื้นใช้ Black Forest Marble ที่ผนังจะมีส่วนที่เป็นงานไม้เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น
มุมนี้วางชุดโซฟาไว้ให้ลูกบ้าน และจะสะดุดตากับ Chandelier ที่เพิ่มความหรูหราให้กับ Lobby ตรงผนังที่เป็นกระจกสามารถเปิดรับลมด้านนอกได้ในเวลาที่ไม่ได้เปิดแอร์ ช่วยประหยัดไฟได้ครับ
มองกลับเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของ Mail Box
เดินเข้ามาด้านในแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
ช่อง Mail Box อยู่รอบผนัง และตรงกลาง มีลูกเล่นไฟซ่อนสลับช่อง
กลับออกมาตรง Lobby มองไปอีกฝั่ง
ติดกับประตูทางเข้า Lobby ขวามือจะเป็นประตูเชื่อมเข้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 ครับ ส่วนนี้จะต้องใช้ Key Card
เปิดประตูเข้ามาจะเจอ Multi Purpose Area ไว้นั่งทำงาน พักผ่อนส่วนตัวได้ วิวมองออกไปที่ส่วนและสระว่ายน้ำด้านนอก พื้นที่ส่วนนี้แบ่งพื้นที่เป็น 3 ช่อง เพื่อแยกส่วนการใช้งานของลูกบ้านได้ พร้อมวางชุดโซฟา โต๊ะนั่งเข้าชุดไว้ ด้านซ้ายมือจะมีประตูเปิดออกไปยังส่วนกลางด้านนอกอีก
ตรงกลางวางเป็นโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ 6 ตัว และ Signature ของแสนสิริคือหินอ่อนที่จัดเต็มทั้งพื้นและผนัง โดยที่ผนังจะเป็นหินอ่อนต่อลาย(Venice Brown Marble) จากผนังขึ้นไปถึงฝ้าดูสวยและเด่นมาก
มองจากอีกฝั่งกลับไป
เดินออกมาด้านนอกจะเห็นสวนและสระว่ายน้ำด้านหน้า ซ้ายมือมีทางเดินเชื่อมไปยังห้องฟิตเนส มุมขวามือตรงอาคารจะเป็นส่วนของร้านค้า 1 ร้านซึ่งจะเป็น 7-11 ครับ
วิวมองออกมาจาก Multi Purpose Area จะเห็นแบบนี้ครับ
เดินตามทางเท้าเข้าไปครับ
ตรงมาจะเจอห้องฟิตเนสตรงหน้า ขวามือจะเป็นทางเดินเชื่อมไปสวนและสระว่ายน้ำ
ภายในห้องฟิตเนส ส่วนแรกจะทำเป็นที่นั่งพักผ่อน ฝ้าสูง 4.5 ม.
ผนังเป็นกระจกชมวิวสวนและสระด้านนอกได้
ด้านในจะวางเครื่องออกกำลังกาย
เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ
ดัมเบล 1 ชุด พร้อมม้านั่งออกกำลังกาย
ลู่วิ่ง 2 เครื่อง
เครื่องเดิน และเครื่องปั่นจักรยาน
มุมมองอีกฝั่ง มุมขวามือตกแต่งผนังด้วยหินอ่อนเชื่อมไปจนถึงฝ้า(Palissandro Oniciato Marble)
ติดกับทางเข้าห้องฟิตเนสจะมีทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำด้านหลัง
ทางเดินจะเชื่อมรอบห้องฟิตเนสเลย ห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำชาย
ด้านในมีตู้ล็อคเกอร์ และโถปัสสาวะ ขวามือเป็นห้องอาบน้ำและห้องน้ำอย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำ
กลับออกมาด้านนอกมองไปจะเห็นสวนและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง
มองไปทางซ้ายมีทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ
มองกลับไป มีทางเดินลงไปยังสวนด้านล่าง
เป็นสนามหญ้าโล่งๆ
มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มรอบๆ
มองผ่านจะสวนไปที่ตัวอาคาร จะเห็น Multi Purpose Area
ระหว่างสนามหญ้า และสระว่ายน้ำจะขั้นกลางด้วยหินกรวด สระว่ายน้ำจะเป็นแบบน้ำล้น ขอบสระออกแบบให้เหมือนกำแพงน้ำตก ตรงหินกรวดจะซ่อนเครื่องพ่นไอน้ำไว้ (Foggy) จะเปิดปิดเป็นเวลา
มองไปอีกฝั่งของสระ
จากสวนมองกลับไปที่ห้องฟิตเนส
เดินกลับขึ้นมาจะเจอเบาะนั่งสีแดง ไว้นั่งหรือนอนชมวิว
ไปดูสระว่ายน้ำกันต่อ
ส่วนแรกจะเป็นสระเด็กขนาด 3.1 x 5.8 ม. ลึก 60 ซม.
ด้านบนจะเป็นสระผู้ใหญ่ทรงฟรีฟอร์ม ขนาด 24 x 5 ม.ลึก 1.2 ม. วางนกกระยางไว้ตามขอบสระสร้างบรรยากาศ
มองไปปลายสระอีกฝั่ง
แนวสระว่ายน้ำจะตรงกับตัวอาคารพอดีครับ
มุมด้านในจะเป็น Tree House
ทำเป็นขั้นบันไดเดินขึ้นไป และแบ่งขั้นไว้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ ตรงกลางจะเป็นต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา
ขึ้นมาด้านบนสุด แล้วมองไปที่สระว่ายน้ำ
ริมสระว่ายน้ำจะวาง Day Bed ไว้ให้
จากริมสระมองไปฝั่งห้องฟิตเนส
ด้านซ้ายจะมีจุดล้างตัวซ่อนอยู่ตรงแนวพุ่มไม้ และมีทางเดินลาดเอียงลงไปได้
มุมมองจากปลายสระว่ายน้ำอีกฝั่ง โดยรวมแล้วสวยน่าใช้งาน ออกแบบมาไม่เสียชื่อแสนสิริจริงๆครับ
กลับเข้ามาใน Lobby เดินเข้าไปดูในอาคารกันต่อครับ
เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นห้องนิติบุคคล
ผนังสองฝั่งเป็นงานไม้
ถัดมาขวามือจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำชาย เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อน ขวามือเป็นประห้องน้ำแยกเข้าไปอีก
ภายในห้องน้ำทั้งพื้นและผนังจะใช้ Grey Emperador Marble
มองไปอีกฝั่งจะเป็นโถปัสสาวะ
ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งตรงข้ามซ้ายมือมีเป็นประตูเชื่อมออกไปยังที่จอดรถใต้อาคารด้านข้าง ติดกันเป็นห้อง iBOX
ภายในห้องจะมีตู้ iBOX ที่แสนสิริร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านในการรับพัสดุไม่ต้องผ่านนิติบุคคล โดยแจ้งผู้ส่งให้จ่าหน้าซองตามหน้าตู้ เมื่อของมาส่ง ผู้รับจะได้รับ SMS แจ้งรหัส OTP เพื่อใช้ในการเปิดตู้รับของภายใน 48 ชม. เมื่อมาถึงตู้ให้สอดบัตรประชาชนและใส่รหัสเพื่อรับพัสดุได้เลยสะดวกดี
ด้านในจะมีเครื่อง Refund Waste Machine ให้ลูกบ้านสามารถนำขวดน้ำที่ไม่ได้ใช้แล้วมาใส่ตู้นี้เพื่อช่วยในการแยกขยะ เราจะเลือกรับเป็นเงินหรือบริจาคให้มูลนิธิก็ได้
ถัดมาจะเป็นทางเดินเข้าโถงลิฟท์ มีประตูบานเปิดอีก 2 บาน ส่วนนี้ต้องใช้ Key Card ครับ
เข้ามาภายในโถงลิฟท์ ตกแต่ง Lighting กับผนังได้สวยดี ส่วนนี้จะไม่มีช่องแสงธรรมชาติเลยต้องเปิดไฟตลอด
มุมด้านในวางของตกแต่งโชว์ ลิฟท์โดยสารมีให้ 3 ตัว
ภายในลิฟท์โดยสาร พื้นเป็นหินอ่อน
แผงกดลิฟท์ด้านใน ลิฟท์จะเป็นแบบล็อคชั้น ขึ้นได้เฉพาะชั้นตัวเอง และส่วนกลางชั้น 5
ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 5 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย และเป็นชั้นที่มีส่วนกลางอยู่ด้วย ส่วนกลางชั้นนี้จะเป็นสวนหย่อมแบ่งเป็น 2 ฝั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคาร เดินไปดูฝั่งด้านหน้ากันก่อนครับ
เดินออกมาซ้ายมือเป็นประตูออกไปยังสวนหย่อม ติดกันเป็น Laundry Room ส่วนพักอาศัยจะมีประตูกระจกกั้นแยกส่วนต้องใช้ Key Card
Laundry Room จะมีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องกดน้ำหยอดเหรียญ ตัวเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ เป็นระบบของ Trendy Wash ที่แสนสิริไปร่วม Partner ด้วย สามารถดูสถานะของเครื่องซักผ้าผ่าน Application ได้ว่าว่างใช้งาน หรือมีผู้ใช้งานอยู่ พอซักเสร็จจะแจ้งเตือนที่มือถือของเราด้วย ถ้าไม่พกเหรียญเค้าก็มีระบบ e-wallet ให้ตัดเงินผ่าน App ได้เลยสะดวกดีครับ ระบบและเครื่องทั้งหมดนี้จะนำไปใช้ในทุกโครงการของแสนสิริ ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่โครงการแบรนด์ตระกลู HAUS ครับ
เดินออกมาดูสวนด้านหน้า
เดินออกมาจะเป็นทางเดินมีพุ่มไม้และต้นไม้ตกแต่ง
ทางเดินจะโค้งวนไปอีกครับ
ราวกันตกจะเป็นกระจกใสไม่บังวิวด้านนอก วิวมองไปทางรามคำแหง
เดินตามทางมาจะมีนกกระยางวางตกแต่งมาด้วย
มุมนี้วางโต๊ะไว้ให้นั่งเล่น
มองลงมาด้านล่างจะเห็นสวนและสระว่ายน้ำที่ชั้นล่าง
มองกลับไปด้านใน
มองไปที่ตัวอาคารด้านบน จะเห็นห้อง Type BW ที่ยื่นออกมาจากยูนิตปกติ
กลับเข้ามาตรงโถงลิฟท์ มีสวนฝั่งด้านหลังอีก
เดินออกมาจะเห็นสวนแบบนี้
มีลานโล่งๆไว้ให้นั่งเล่น หรือทำกิจกรรมต่างๆ
มีแนวพุ่มไม้บังแนวห้องพักอาศัยไว้
มองไปที่ตัวอาคารด้านบน
วิวสวนฝั่งนี้มองออกไปทางแยกคลองตัน
โถงลิฟท์ชั้นพักอาศัยหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ
ตรงโถงลิฟท์ทุกชั้นจะมีช่องแสง และมีช่องระบายอากาศตรงฝ้า
โถงทางเดินส่วนพักอาศัย
วิวฝั่งทิศเหนือด้านหน้าโครงการถัดจากถนนพระราม 9 และแนวทางด่วนศรีรัช ฝั่งตรงข้ามที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่คือโครงการ Metris พระราม 9 สูง 33 ชั้น ทางขวามือยังมีพื้นที่สีเขียวให้ชมอยู่ แต่น่าจะโล่งอีกไม่นานครับ
มองไปทางซ้ายจะเป็นแยกรามคำแหง เห็นโครงการรุ่นพี่อย่าง THE BASE พระราม 9 ติดกันที่กำลังก่อสร้างคือ Ideo New Rama 9
มองไปทางขวาวิวยังโล่งอยู่ ยาวออกนอกเมืองไปครับ
มองลงมาด้านล่างจะเห็นส่วนกลางพอดี
วิวฝั่งทิศใต้ด้านหลังโครงการ ในระยะประชิดไม่มีตึกสูง มองเข้าไปในเมือง จะเห็นแนวอาคารสูงเรียงเป็นกำแพงเมืองสวยดี
ฝั่งทิศตะวันตกระยะประชิดไม่มีอาคารสูงมองเข้าเมืองไปตามถนนพระราม 9 เห็นอาคารเป็นแนวกำแพงอยู่ไกลๆ
ฝั่งทิศตะวันออกวิวโล่งสุดมองออกไปนอกเมือง
Units Type
โครงการมีห้องให้เลือกดังนี้ครับ
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1AM ขนาด 26.5 – 26.75 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1A ขนาด 27 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1B ขนาด 31 – 31.5 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยูนิตพิเศษ Type 1B-BW ขนาด 32.5 – 33 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1BM ขนาด 31 – 31.75 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยูนิตพิเศษ Type 1BM-BW ขนาด 32.25 – 32.5 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1B-1 ขนาด 31.25 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยูนิตพิเศษ Type 1B-1-BW ขนาด 32.5 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1BM-1 ขนาด 31 – 31.75 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยูนิตพิเศษ Type 1BM-1-BW ขนาด 32.5 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1BM-2 ขนาด 30.75 – 31 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1C ขนาด 33.5 – 34 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1D ขนาด 31.5 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1E ขนาด 33 ตร.ม.
แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 1F ขนาด 34.75 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 2A ขนาด 53.5 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ยูนิตพิเศษ Type 2A-BW ขนาด 55 ตร.ม.
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type 2B ขนาด 49.75 – 50 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 2 แบบ
แบบแรกที่พามาชมเป็นห้อง 1 Bed ขนาด 26.7 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้ามาเป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัวได้เป็นครัวเปิดไม่มีประตูกั้นแยกส่วน ในสุดจะเป็นระเบียง อีกฝั่งเป็นห้องนอน ประตูห้องได้แบบบานเปิด พื้นที่ในห้องนอนวางโต๊ะ ตู้ เตียงได้ครบ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง
เริ่มจากประตูห้องเป็นบาน HDF ปิดผิวลามิเนตลายไม้สีเข้ม หน้าประตูมีป้ายบ้านเลขที่และกริ่ง
ประตูจะได้ Digital Door Lock ของ Samsung พร้อมมือจับแบบคันโยก
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในเป็นส่วนครับและห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน พื้นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ส่วนห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิก ฝ้าสูง 2.55 ม. ส่วนฝ้าในห้องน้ำสูง 2.4 ม. ตอนนี้โครงการมีห้องที่ขายให้เลือก 2 แบบครับ
ส่วนห้องตัวอย่างที่พามาชมนี้ ขายแบบ Fully Furnished จะได้ทั้งหมดที่เห็นในห้องเลย ถ้าใครซื้ออยู่เองก็หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย หรือถ้าใครซื้อลงทุนก็พร้อมปล่อยเช่าได้เลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาตกแต่งเอง
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้องจะเห็นแบบนี้ครับ
ฝั่งด้านในห้องตรงประตูห้องที่พื้นจะมี Door Stopper เป็นแบบแม่เหล็กครับ
ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลางพร้อมพรอกตกแต่งทั้งหมด แอร์ติดผนัง 1 ตัว
ระยะดูทีวีประมาณ 3.48 ม. ได้ทีวี และชั้นวางทีวีตกแต่งมาให้ตามนี้เลย แจกันพร้อมดอกไม้ก็ได้ด้วย
ตู้วางทีวีเป็นตู้บานเปิด 3 บาน
มองไปฝั่งด้านในจะเป็นส่วนครัว และห้องนอน
ส่วนครัวจะได้เป็นครัวเปิด ไม่มีประตูกั้นแยกส่วน
ตรงส่วนครัวพื้นจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 30 ซม. ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวตามนี้เลย พร้อมตู้เย็นและไวโครเวฟ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นบานเปิด 3 บาน และลิ้นชัก 2 ชั้น หน้าบานตู้ด้านบนจะเป็นกระจก
ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกแบบ 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันหน้ากระจกของ Mex ท็อป Pantry เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนสีขาว แบบชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ ผนังด้านในกรุกระเบื้องสีดำมาให้ทำความสะอาดสะดวก
อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานจอง Mex ฝังท็อปมาเรียบร้อยดี
เหนืออ่างล้างจานจะมีราวเหล็กไว้แขวนชั้นวางของ
อีกฝั่งได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมชั้นวางของที่ผนัง
ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
เปิดประตูออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.6 x 1.1 ม.
ด้านข้านแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัว พร้อมติดกริลแอร์เป่าลมออกนอกระเบียง
ใต้คอมเพลสเซอร์แอร์ วางเครื่องซักผ้าได้ เดินระบบไฟและน้ำไว้ให้เรียบร้อย
วิวจากระเบียงห้องตัวอย่างชั้น 24 วิวฝั่งด้านหลังโครงการ
มองลงมาด้านล่างจะเห็นสวนที่ชั้น 5 พอดี
มองกลับเข้ามาในห้องจะเห็นแบบนี้ครับ
ห้องนอนจะอยู่มุมด้านใน กั้นห้องแยกเป็นสัดส่วน ประตูเป็นแบบบานเปิด
มือจับประตูห้องนอนเป็นแบบคันโยก
ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร เราจะได้ทุกอย่างที่เห็นทั้งหมด
ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมชุดเครื่องนอน
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 40 ซม.
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 65 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 80 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม. ขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in มาให้
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด 2 บาน ด้านในแบ่งช่อง และลิ้นชักมาให้
หน้าต่างภายในห้องนอนสูงจากพื้นถึงฝ้า แต่ไม่ได้เต็มผนัง แบ่งเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed
บานกระทุ้งเปิดได้ประมาณ 30 องศา
กระจกในห้องนอนจะได้ Insulated Glass เป็นกระจก 2 ชั้นเว้นช่องตรงกลาง ช่วยเก็บเสียงและป้องกันความร้อนได้ดี เป็น THE BASE ตัวแรกเลยที่ให้กระจก Insulated Glass
วิวจากห้องนอนจะได้แบบนี้
มองกลับเข้ามาด้านใน ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ แอร์ในห้องนอนได้แบบติดผนัง
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นห้องน้ำจะปูกระเบื้องลายไม้
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard มีชั้นวางของตรงกระจกเงาดูธรรมดาไปหน่อย ด้านข้างอ่างล้างหน้ามีปลั๊กไฟให้
ติดกับอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard
ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อน 3 ตอน เฟรมกระจกสีดำดูสวยดี
ภายในติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ ห้องนี้จะได้เครื่องทำน้ำอุ่นแถมมาด้วย
หน้าตาฝักบัวที่ได้ของ American Standard แบบวงกลมขนาดใหญ่พอดีมือ
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1 x 0.82 ม.
อีกแบบที่พามาชมเป็น 1 Bed ยูนิตพิเศษ Type 1BM-BW ขนาด 32.96 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ห้องครัวจะอยู่เชื่อมกับห้องนั่งเล่นมีฉากกั้นมาให้สามารถเปิด-ปิดแยกส่วนกันได้ พื้นที่ส่วนรับประทานอาหารอยู่ในห้องครัว จากครัวมีประตูระเบียง ตรงระเบียงมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าได้ ห้องนอนประตูอยู่ติดกับห้องน้ำ ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร วางโต๊ะ ตู้ เตียงได้ และตวามพิเศษของห้องนี้คือหน้าต่างในห้องนอนจะได้แบบ Bay Window แบบเต็มผนัง ถ้ามองจากฟาสาดอาคารจะเห็นส่วนนี้ยื่นออกจากตัวอาคารต่างจากยูนิตปกติครับ
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ด้านในจะเป็นห้องนอน และห้องครัว พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ส่วนห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ฝ้าสูง 2.55 ม. ห้องนี้ขายแบบ Fully Furnished ได้ของทุกอย่างตามนี้เลย
ได้ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและพรอพตกแต่ง
ระยะดูทีวีประมาณ 3.37 ม. ได้ตู้เก็บของและชั้นวางทีวีพร้อมทีวี ขวามือเป็นห้องน้ำ
ตู้เก็บของเป็นบานเปิด 1 บาน ด้านในแบ่งช่องไว้เก็บรองเท้า ไม้กวาด ไม้ถูพื้นได้
ชั้นวางทีวีเป็นลิ้นชัก
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง
สุขภัณฑ์ที่ได้ของ American Standard
ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด 3 ตอน
ภายในติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ ห้องนี้จะได้เครื่องทำน้ำอุ่นแถมมาด้วย
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.15 x 0.87 ม.
ถัดไปด้านใน ซ้ายมือเป็นห้องนอน ขวามือเป็นห้องครัว
ภายในห้องนอนมีพื้นที่มาให้พอสมควร ในห้องเราจะได้ของตามนี้หมดเลย
ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พร้อมชุดเครื่องนอน
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.14 ม.
พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 82 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 45 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.8 ม.
ความพิเศษของห้อง Type นี้คือ ได้หน้าต่างแบบ Bay Window แบบเต็มผนังจากพื้นถึงฝ้า ชมวิวได้แบบเต็มตา แบ่งเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed ตัวกระจกจะได้ Insulated Glass ทั้งหมด
มองกลับเข้ามาในห้อง มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าฝั่งด้านใน แอร์ในห้องนอนได้แบบติดผนัง 1 ตัว
ตู้เสื้อผ้าได้แบบบานเลื่อน 2 บาน
ถัดมาเป็นห้องครัว ได้เป็นครัวปิดได้ประตูกระจกบานเลื่อน 3 บาน เปิดปิดแยกส่วนได้
ภายในห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวตามนี้เลย
ตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 2 บาน ด้านล่างเป็นบานเปิด 1 บานและลิ้นชัก 2 ช่อง
ท็อป Pantry เป็นกระเบื้องพอร์ซเลนสีขาว เป็นแบบชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ ผนังด้านในกรุกระเบื้องสีดำมาให้ทำความสะอาดสะดวก ได้ Hob & Hood และอ่างล้างฝังท็อปของ Mex
อีกฝั่งได้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมพรอพที่วางอยู่บนโต๊ะทั้งหมด
ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 บาน
เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 2.1 x 1.09 ม.
ด้านข้างแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 2 ตัว พร้อมติดกริลแอร์เป่าลมออกนอกระเบียง
มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้ เดินระบบไฟและน้ำไว้ให้เรียบร้อย
วิวจากระเบียงห้องตัวอย่างชั้น 30 วิวฝั่งทิศใต้ด้านหลังโครงการ
มองกลับเข้ามาในห้องจะเห็นแบบนี้ครับ
ราคา (พ.ย.61)
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม
เงินจอง 50,000 – 90,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ได้เลย
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – THE BASE Garden – Rama 9 ตั้งอยู่ในย่านรามคำแหงติดถนนพระราม 9 ห่างจากแยกรามคำแหงประมาณ 50 ม. ย่านนี้จะออกแนวชุมชน มีคนมุสลิมอาศัยอยู่แถวนี้เยอะ อย่างด้านหลังโครงการมีชุมชนเยรูซาเล็ม และมัสยิดอยู่ด้านข้างโครงการเลย ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการอยู่ในระดับพอประมาณในระยะเดิน มีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็นตามสองฝั่งทางถนนรามคำแหง มีตลาดสดใกล้ๆแถวตึก UM หรือไปทางฝั่งรามคำแหงจะคึกคักมากกว่า มีทั้ง Food Land , เดอะมอลล์ ราม 2 และ เดอะมอลล์ ราม 3 , เมเจอร์รามคำแหง , หัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ , เมเจอร์ฮอลลีวูด , ตลาดนัด กกท ย่านรามคำแหงจะมีร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านครับ แต่หาที่จอดรถลำบากหน่อย นอกจากนี้ตรงเส้นพระราเก้ายังมี The Nine เส้นรัชดาที่เชื่อมจากพระราม 9 มีเซ็นทรัล , ฟอร์จูน หรือวิ่งเข้า พร้อมพงษ์ เอกมัย ทองหล่อในระยะไม่เกิน 10 กม. มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆให้เลือกเดินได้เลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 9 การเดินทางค่อนข้างสะดวกเวลาเข้าเมืองเลือกใช้ได้ทั้งเส้นเพชรบุรี แล้วไปเชื่อมเข้าซอยสุขุมวิทต่างๆทั้งเอกมัย ทองหล่อ อโศก นานาเหนือ ชิดลม ประตูน้ำ หรือจะใช้เส้นพระราม 9 ก็มีทางเชื่อมเข้าเพชรบุรีได้ หรือวิ่งเข้าไปโซนแยกพระราม 9 ไปออกอโศกดินแดง จตุรทิศ รัชดาภิเษก หรือตรงไปดินแดงเข้าราชเทวี ไปอนุสาวรีย์ หรือเลี้ยวเข้าวิภาวดีตรงแยกดินแดงก็ทำได้สะดวก ถ้าจะไปโซนพระรามสี่จากโครงการเลี้ยวซ้ายมาแยกคลองตันที่เป็นจุดตัดกับเส้นเพชรบุรี แต่ข้ามไปเข้าสุขุมวิท 71 หรือปรีดีพนมยงค์ ออกไปปากซอยก็เป็นถนนสุขุมวิทวิ่งไปเข้าเส้นพระรามสี่ ยาวไปลุมพินี สีลม สาทร สามย่าน หัวลำโพง มีทางด่วนให้ขึ้นตรงท่าเรือ ถ้าจะออกนอกเมือง โซนบางนา ลาดกระบัง สมุทรปราการ ก็ใช้เส้นพัฒนาการ ได้ หรือเส้นสุขุมวิทก็ได้ครับ อีกโซนคือลาดพร้าว ก็ใช้เส้นรามคำแหง แต่ต้องข้ามแยกรามคำแหงไปกลับรถเพื่อเข้าเส้นรามคำแหง วิ่งไปแยกลำสาลี ไปบางกะปิ ลาดพร้าว มีนบุรี นอกจากนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช และรามอินทรา-อาจณรงค์ เส้นพระราม 9 สามารถวิ่งออกไปเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก และมอเตอร์เวย์ไปชลบุรี พัทยาสะดวกเลย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – ตัวโครงการอยู่ห่างจาก ARL รามคำแหงประมาณ 700 ม. ระยะพอเดินได้ มีสะพานลอยและทางม้าลายให้เดินข้ามฝั่ง โครงการมีบริการ Shuttle Service ไปส่งที่สถานีแต่ไม่รับกลับเก็บค่าบริการ 20 บาท ตรง ARL มีวินมอเตอร์ไซค์รอให้ใช้บริการอยู่ มีสถานีรถไฟสายตะวันออกซุ้มสุขุมวิท 71 ด้านหลัง ARL รามคำแหงเป็นท่าเรือรามหนึ่ง เรือวิ่งคลองแสนแสบนั่งไปอโศก ชิดลม ประตูน้ำ สยาม ได้ ส่วนป้ายรถเมล์ต้องพึ่งเส้นรามคำแหงก่อนถึง ARL รามคำแหง จากโครงการประมาณ 450 ม. มีป้ายรถเมล์ทั้งฝั่งขาเข้า และออกเมือง รถวิ่งผ่านหลายสาย แต่ถ้าไปตรงแถว The Mall จะมีทั้งรถเมล์ รถตู้ สองแถววิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควรครับ อนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง โดยสถานีที่ใกล้โครงการสุดจะอยู่ตรง The Mall
การออกแบบโครงการและวัสดุ – จากที่แบรนด์ THE BASE ได้เงียบหายไปนาน และกลับมาพร้อมกับตัวนี้ซึ่งเป็น THE BASE ดีกว่าตัวก่อนๆที่แสนสิริเคยทำมา ที่เด่นเลยก็คงจะเป็นเรื่องสเปควัสดุครับ โครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ Garden หรือเน้นพื้นที่สวน ตามชื่อโครงการ ตัวอาคารออกแบบมา 1 อาคาร อาคาร สูง 36 ชั้น และ อาคารฟิตเนส 1 ชั้น บนพื้นที่ดินประมาณ 3 ไร่ รูปทรงอาคารเป็นตัว Z ใช้สีแดงส้ม วิวหลักๆที่ได้สองฝั่งคือด้านหน้าที่ติดกับถนนพระราม 9 และด้านหลังที่ติดกับชุมชน และคลองเขมร ฟาสาดอาคารออกแบบมามีลูกเล่นที่ยูนิตพิเศษที่เป็น Type BW คือจะมีส่วนพื้นที่ห้องที่ยื่นออกมาจากยูนิตปกติ ทำให้อาคารดูมีมิติ และเล่นสีของกระจกแต่ละยูนิตมีสีชากับบรอน ในโครงการทำถนนแบบวิ่งสวนกันได้ใต้อาคาร และริมถนนสองฝั่งสามารถจอดรถได้ และที่ชั้น 2-4 เป็นชั้นจอดรถ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5-36 ส่วนกลางหลักๆจัดไว้ที่ชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร และชั้น 5
การออกแบบในห้องพักอาศัยที่นี่มีให้เลือกแบบหลักๆ 3 แบบคือ 1 Bedroom ขนาด 26.5 – 27 ตร.ม. , 1 Bedroom 30.75 – 34.75 ตร.ม. , 2 Bedroom ขนาด 49.75 – 55 ตร.ม. แปลนห้องจะเหมือน THE BASE ตัวก่อนๆ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ฝ้าสูง 2.55 ม. หน้าต่างในห้องนอนทำมาสูงจากพื้นถึงฝ้าและกระจกได้แบบ Insulated Glass กันเสียงและความร้อนได้ดี เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับแนวทางด่วนศรีรัช และทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ อีกเรื่องคือติดมัศยิดฝั่งทิศตะวันออก เลยแก้ปัญหาโดยการอัพเกรดกระจกในห้องนอนให้ แต่ก็ให้เฉพาะในห้องนอนอย่างเดียวครับ
โครงการขายแบบ Fully Fitted และ Fully Furnished ของที่ได้แบบ Fully Fitted ตรงประตูทางเข้าจะได้ Digital Doorlock ของ Samsung ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมฉากกั้นส่วนเปียกแบบบานเลื่อน 3 ตอน ส่วนห้องครัวจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวหน้าบานกระจกบานตู้ให้ Soft Close ทุกบาน ท็อป Pantry จะได้เป็นกระเบื้องพอสเลนสีขาวแบบชิ้นเดียวไม่มีรอยต่อ ผนังด้านในกรุกระเบื้องสีดำ อ่างล้างจานได้แบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานฝังท็อปมาให้ Hob & Hood หน้ากระจกของ Mex แอร์ได้ที่ห้องนั่งเล่น และทุกห้องนอนของ Trane ผนังได้ฉาบเรียบทาสีขาว พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายไม้
ของที่ได้เพิ่มเมื่อซื้อแบบ Fully Furnished ได้ตู้เก็บของ ชั้นวางทีวี ชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ในห้องนอนได้เตียงนอน 5 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า Built in ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น และพรอพตกแต่งในห้องแล้วแต่แบบที่โครงการตกแต่งมาให้ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility หลักๆของโครงการออกแบบไว้อยู่ที่ชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร เพื่อให้เกิดพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ แต่ก็จะไม่ได้เห็นวิวสูง ๆ ความเป็นส่วนตัวจะน้อยกว่าชั้นบนๆ มีอาคารฟิตเนส 1 ชั้นพร้อมห้องน้ำแยกชายหญิง มีสระว่ายน้ำทรงฟรีฟอร์มยาว 24 ม. กว้าง 5.5 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็ก ริมสระมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน และมี Tree House ขึ้นไปนั่งเล่นกันได้ ริมสระมีสวนหย่อมออกแบบมาได้สวยน่าใช้งาน ชั้น 1 ในอาคารจะเป็น Lobby ฝ้าสูง 5.5 ม. ตกแต่งมาได้เรียบหรูตามสไตล์แสนสิริ พื้นใช้หินอ่อน Black Forest พร้อมโชว์ Chandelier ขนาดใหญ่ ผนังตกแต่งด้วยงานไม้เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ส่วนที่เป็น Multi Purpose Area แต่งมาในโทนเดียวกัน โชว์ผนังหินอ่อนต่อลาย(Venice Brown Marble) จากผนังขึ้นไปถึงฝ้าดูสวยและเด่นมาก ที่ชั้น 5 จะมีสวนหย่อมแบ่งเป็นสองฝั่งคือด้านหน้าและด้านหลังมีมุมให้นั่งพักผ่อนชมวิวได้ ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว และ ลิฟท์ขนของ 1 ตัว อัตราส่วนอยู่ที่ 213 ต่อลิฟท์ 1 ตัว ในช่วงเวลาเร่มด่วนคงต้องรอนานหน่อย ที่จอดรถทั้งโครงการรวมซ้อนคันประมาณ 40% ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access ฟรี Wifi ที่ชั้นส่วนกลางทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆจากแสนสิริคือระบบ Smart Move บริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้ามี 2 คัน BMW i3 และ Hyundai IONIQ มี EV Charging Station จำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า ตู้ iBOX ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ มีเครื่อง Refun Waste Machine มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ เป็นระบบของ Trendy Wash ที่แสนสิริไปร่วม Partner ด้วย
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.0 | อยู่ติดถนนพระราม 9 ติดแยกรามคำแหง มีความอุดมสมบูรณ์ในตัว |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เดินทางเข้าออกเมืองสะดวก หลากหลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน ข้อเสียอยู่ที่การกลับรถมายังโครงการ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.5 | มี Shuttle Service ไปส่งที่ ARL รามคำแหง ห่างจากโครงการ 700 ม. มีท่าเรือรามหนึ่ง รถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | ออกแบบมาดี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐานตามราคา กระจกในห้องนอนได้ Insulated Glass |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | Facility ประมาณไร่ครึ่ง มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อม ออกแบบตกแต่งมาได้สวยน่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.5 | มีตัวเลือกอีกหลายที่ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน หรืออาจดีกว่า และราคาที่ไม่ต่างกันมาก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.83 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Website : www.sansiri.com/condominium/thebase-garden-rama9
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น