รีวิว คอนโด เดอะ คูเปอร์ สุขุมวิท 64 The Coopers Sukhumvit 64 เพียง 500 เมตร ถึง BTS ปุณณวิถี เริ่ม 1.96 ล้านบาท*
Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
สวัสดีค่า คุณผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการใหม่แกะกล่อง บนทำเลใจกลางเมือง กับโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 คอนโดที่ออกแบบมาเพื่อคนเจนใหม่ และ เป็นโครงการแรกจาก THE CAPITAL ESTATE บริษัทอสังหาฯ น้องใหม่ แต่มากประสบการณ์
The Coopers สุขุมวิท 64 ตั้งอยู่ภายในซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เดินทางสะดวกสบาย ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท และ BTS ปุณณวิถี เพียง 500 เมตร* มี Shuttle Bus รับ-ส่งคอยให้บริการลูกบ้าน เชื่อมต่อย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์สุดชิคในย่าน ทองหล่อ เอกมัย อโศก ไว้ด้วยกัน
ส่วนคนที่ใช้รถยนต์ก็เดินทางได้ง่ายไม่แพ้กัน เพราะอยู่ใกล้กับถนนเส้นหลัก, เส้นรอง รวมถึงเส้นทางลัดต่าง ๆ ให้เลือกใช้เพียบ และ อยู่ไม่ไกลจากทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านสุขุมวิท 62 ที่ลัดออกไปทางด่วนหลังได้ง่าย ๆ ใช้เดินทางเข้าเมืองไป CBD สาทร-สีลม ได้เพียง 15-30 นาที* เท่านั้น
เดอะ คูเปอร์ สุขุมวิท 64 เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ขนาด 250 ตร.ว. โดยประมาณ เป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต ออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern Luxury Loft” ด้วยดีไซน์โล่งโปร่งสบาย พร้อมเผยความดิบ แต่เท่ ของวัสดุ ทั้งปูนเปลือย อิฐ โครงเหล็ก สอดแทรกด้วยงานตกแต่งจากไม้และทองแดง เพิ่มดีกรีความหรูหรา ผสานความทันสมัย มีเอกลักษณ์
โดยจะมีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 Bedroom 25 ตร.ม., 1 Bedroom Exclusive 29 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม. จัดเต็มกับเฟอร์นิเจอร์สวย ทันสมัย ครบทั้งห้อง ซื้อเพิ่มอีกไม่กี่ชิ้นก็อยู่ได้เลย และ ยังได้แอร์, ประตู Digital Door Lock 2 ระบบ ติดมาให้มาตรฐานทุกยูนิต คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปี 2565
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีให้ครบครัน ออกแบบมาให้ลูกบ้านใช้งานได้จริง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาทำงานอยู่ที่บ้านกันมากขึ้น โดยกระจายพื้นที่ส่วนกลางไว้ทั้งหมด 2 จุด มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ไม่ว่าจะเป็น Double Volume Lobby ที่เชื่อมกับ Co-Working Space อีก 2 ชั้น และ มีฟังก์ชันห้องย่อย ๆ ออกมาให้เลือกอีกหลากหลาย
บนชั้น Rooftop ก็จะมี Sky Sunken & Mini Bar, Coopers Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15 x 5 เมตร พร้อม Coopers Booster และ The Onsen ซึ่งหาได้ยากในคอนโด Low-Rise มี Smart Box, ตู้ส่งสินค้าอัจฉริยะ, ระบบกล้อง CCTV ในตัวอาคาร และรอบอาคาร, ระบบ Key Card ทางเข้าอาคารและในตัวลิฟต์แบบล็อกชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.96 ล้านบาท* (พ.ย.)
ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท* คลิก : https://bit.ly/3277g75
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติมโทร : 083-4495551 หรือ LINE@: https://bit.ly/2XVOs92
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | เดอะ คูเปอร์ สุขุมวิท 64 The Coopers Sukhumvit 64 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท เดอะแคปปิตอลเอสเตท จำกัด / THE CAPITAL ESTATE |
เนื้อที่ทั้งหมด | 250 ตร.ว. โดยประมาณ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 79 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด |
|
จำนวนลิฟต์ | ลิฟต์โดยสารระบบล็อกชั้น 1 ตัว |
โซน | เขตพระโขนง |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. |
กำหนดการ | เปิดชมห้องตัวอย่างเป็นครั้งแรก 30 ต.ค.64 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ปลายปี 2565 |
ราคา | เริ่มต้น 1.96 ล้านบาท* Fully Furnished (พ.ย.64) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 78,400 บาท/ตร.ม.* (พ.ย.64) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Coopers สุขุมวิท 64 คอนโดของคนเจนใหม่ใจกลางเมือง ยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ใกล้ BTS ปุณณวิถี เพียง 500 เมตร* เชื่อมต่อย่านธุรกิจและไลฟ์สไตล์สุดชิคในย่าน ทองหล่อ เอกมัย อโศก ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าโหมดไหนของชีวิตก็สะดวก สบาย รวดเร็ว |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/2GBgR2cDhXhUSu2r8
พิกัดสำนักงานขาย : https://goo.gl/maps/4x7w38gsbbiyG2ns6
The Coopers สุขุมวิท 64 คอนโดของคนเจนใหม่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Work-Life-Flow ได้อย่างลงตัว บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ภายในซอยสุขุมวิท 64 ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี เพียง 500 เมตร* พร้อมบริการ Shuttle Bus รับ-ส่งจากทางโครงการ และ เพียงแค่ 4 นาที* ถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่ลัดออกไปทางด้านหลังได้ เชื่อมต่อย่านธุรกิจ และไลฟ์สไตล์สุดชิคในย่านทองหล่อ เอกมัย อโศก เข้าไว้ด้วยกัน
ใกล้ ๆ กับโครงการก็จะมีสถานที่สำคัญ และ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วน เช่น 7-Eleven, รร.พิพัฒนา, รร.นานาชาติ Anglo Singapore, True Digital Park, One Udomsuk, The Phyll สุขุมวิท 54, Lotus’s อ่อนนุช, Century Plaza อ่อนนุช และ รพ.รวมใจรักษ์ เป็นต้น
ที่นี่จึงเหมาะกับกลุ่ม Real Demand คนรุ่นใหม่ First Jobber ที่ทำงานในย่านสุขุมวิทตอนต้น-ตอนกลาง-ตอนปลาย, คนทำงานในเมือง เดินทางง่ายโดยใช้ทางด่วน* ต้องการคอนโดห้องแรก ราคาเบา ๆ เข้าถึงได้ และ กลุ่มคนที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ
ซึ่งถ้าใครที่กำลังมีแพลนจะซื้อคอนโดใหม่ในช่วงเวลานี้ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดเลยค่ะ เพราะทางธปท.ได้ผ่อนคลายมาตรการ LTV กู้ได้เต็ม 100% ทั้งยังเป็นช่วงดอกเบี้ยขาลงของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ทำให้เราผ่อนสบายมากขึ้น และยังมีเงินเหลือจากการที่ต้องจ่ายเงินดาวน์ มาซื้อของตกแต่งบ้าน หรือ จะเก็บไว้ใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ได้
การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว : โครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 ตั้งอยู่ในทำเลที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง ที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ ที่เป็นซอยย่อยออกมาจากซอยสุขุมวิท 64 อีกที ใช้ลัดออกไปซอยสุขุมวิท 62 ขับไปขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือ เชื่อมกับถนนสรรพาวุธได้
จากโครงการจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิท เพียง 500 เมตร* ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของคนเมือง ไปไหนมาไหนง่าย ขับรถช่วงสั้น ๆ 10-15 นาที* ถึงอ่อนนุช, เอกมัย, ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก หรือจะลัดเข้าพระราม 4 ตรงแยกพระโขนง ตรงยาวออกไปสาทร-สีลม-วิทยุ-สามย่านก็ทำได้ง่าย
วิ่งไปทางสุขุมวิทขาออก จะมีแยกบางนา ที่ใช้วิ่งไปถนนบางนา-ตราด ไปออกถนนศรีนครินทร์ และ กาญจนาภิเษกได้ หรือจะขับรถไปสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ใช้เวลาเพียง 30 นาที* เท่านั้น และรอบ ๆ โครงการก็มีถนนและซอยย่อยให้เลี่ยงถนนใหญ่ได้เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่น สามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นใน หรือขับไปขึ้นทางด่วนได้ระยะเวลาสั้น ๆ
จุดเด่นและข้อดีของโครงการนี้สำหรับคนใช้รถเลยคืออยู่ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนเฉลิมมหานคร ที่ลัดออกไปด้านหลังผ่านซอยสุขุมวิท 62 ได้ โดยมีระยะห่างจากโครงการ ไปจุดขึ้น-ลงทางด่วน ด่านสุขุมวิท 62 ในระยะทาง ประมาณ 1.8 กม.* หรือ ขับรถประมาณ 4 นาที* เท่านั้น
จากทางด่วน ด่านสุขุมวิท 62 จะใช้เชื่อมต่อไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ หรือ วิ่งเข้าเมืองไปสาทร-สีลม ได้ในระยะเวลา เพียง 15-30 นาที* และยังวิ่งไปเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่ใช้มุ่งหน้าไปโซนพระราม 9, ลาดพร้าว หรือ ออกโซนรังสิตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก และเป็นการเดินทางที่คนในย่านนี้นิยมใช้กันค่ะ จากโครงการจะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ในระยะเดินได้ ประมาณ 500 เมตร* ซึ่งถ้าใครไม่ชอบเดิน ก็สามารถใช้บริการ Shuttle Bus ของโครงการไปรถไฟฟ้าได้ มีรถออกทุก ๆ 15 นาที* หรือถ้าใครไม่อยากรอ จะใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นั่งออกไปเองก็ได้ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 10 บาท*
โดยรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะใช้นั่งยาวเข้าสู่ CBD ใจกลางเมืองอย่างไร้รอยต่อ พูดง่าย ๆ คือนั่งเข้าเมืองได้แบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวนการเดินรถ ใช้นั่งไปแหล่งงาน แหล่ง Hangout ย่านเอกมัย, ทองหล่อ เพียง 4-5 สถานี
นั่งออกไปเดินห้างใหญ่ ๆ อย่าง Emporium และ EmQuartier ได้ที่สถานีพร้อมพงษ์, ไป Terminal 21 หรือ จะเปลี่ยนขบวนรถไป MRT สายสีน้ำเงิน ก็ทำได้ที่สถานีอโศก
ออกไปศูนย์การค้าระดับ High Class ที่ Central Embassy และ Gaysorn Village ได้ที่สถานีชิดลม หรือ ออกไปเดินเล่นย่านชิค ๆ อย่าง Siam Square เชื่อมต่อไปห้าง Siam Paragon ได้ที่สถานีสยามเลยค่ะ
ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเปิดใช้งานครบทุกสายแล้วด้วยนะ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางเชื่อมต่อกัน 3 จังหวัดได้ง่าย ๆ ทั้งไป CDB ชั้นในของกทม., ปากน้ำ-บางปู-สมุทรปราการ หรือ นั่งออกไปยังสะพานใหม่-คูคต-ปทุมธานี ก็ได้ทั้งหมดเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะอื่น ๆ : นอกจากรถไฟฟ้า ก็จะมีรถเมล์สายต่าง ๆ ให้ได้ใช้งานด้วยค่ะ โดยป้ายรถเมล์จะอยู่ริมถนนสุขุมวิท ทั้งฝั่งขาเข้า และ ขาออก มีรถเมล์ผ่านหลายสายมาก ๆ เส้นทางเดินรถครอบคลุมในการเข้าเมือง และออกเมือง
สายรถเมล์ที่ผ่านได้แก่ : สาย 23 Mega บางนา-เทเวศน์, สาย 25 ปากน้ำ-อโศก, สาย 98 อุดมสุข-อโศก, สาย 46 ม.รามฯ 2-รองเมือง, สาย 132 เคหะบางพลี-พระโขนง, สาย 139 รามคำแหง 2-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สาย 180 ม.รามฯ 2- Central พระราม 3, สาย 48 ม.รามฯ 2-วัดโพธิ์, สาย 45 สำโรง-สี่พระยา, สาย 508 ปากน้ำ-ท่าราชวรดิษฐ์ และ สาย 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่
บริเวณโดยรอบโครงการ
สถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการในรัศมีไม่เกิน 5-10 กม.* มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ๆ เนื่องจากเป็นโครงการในย่านสุขุมวิท ใกล้ทั้งฝั่งบางนา และ อ่อนนุช ทั้งยังอยู่ในแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ทำให้มีร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ตั้งอยู่เยอะ ในระยะเดินสบาย ๆ
หรือจะขับรถไปใช้งานก็สะดวก และ เป็นโซนที่ตั้งของแหล่งงานเอกชน และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ใกล้สถานศึกษา, ห้างสรรพสินค้า และ โรงพยาบาล ซึ่งจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอนค่ะ
สำหรับแหล่งจับจ่ายใช้สอยง่าย ๆ ใกล้ ๆ กับโครงการก็จะมี 7-Eleven ที่อยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 350 เมตร เป็นระยะเดินได้สบาย ๆ ตรงนั้นจะมีร้านค้า, ร้านอาหารตามสั่ง รวมถึงมีตู้ ATM ของธนาคารต่าง ๆ มี HÄFELE Design Studio และ Inthanin Coffee @Olive Bangkok Hotel ตั้งอยู่ด้วยค่ะ
ส่วนห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ก็มีให้เลือกไปหลายที่ ทั้ง One Udomsuk, The Phyll สุขุมวิท 54, Lotus’s อ่อนนุช, Century Plaza อ่อนนุช, Makro Food Service อุดมสุข, Big C อ่อนนุช, People Park, Summer Hill และ Habito Mall หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปเดินห้าง Emporium และ EmQuartier ก็ได้เพียงแค่ 10-15 นาที*
สถานศึกษาใกล้ ๆ กับโครงการ ก็จะมี รร.พิพัฒนา ห่างจากโครงการมา 400 เมตร และ รร.นานาชาติ Anglo Singapore ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 64 ห่างจากโครงการไปเพียง 500 เมตร
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมีโรงเรียนเอกชน และ นานาชาติชื่อดังในโซนสุขุมวิท-บางนาอีกหลายที่ เช่น รร.พระกุมารเยซูวิทยา, รร.นานาชาติ Wells, รร.นานาชาติ Berkeley, รร.นานาชาติ St.Andrews, รร.นานาชาติ Bangkok PREP และ รร.นานาชาติ St.Andrews (Srivikorn Campus)
โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการนี้มากที่สุด จะเป็น รพ.รวมใจรักษ์ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2565 ซึ่งจะสามารถลัดออกไปทางด้านหลัง ผ่านซอยสุขุมวิท 62 ได้เลย
ถัดออกไปฝั่งสุขุมุวิทตอนต้น ก็จะมี รพ.กล้วยน้ำไท, รพ.สุขุมวิท, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท และ รพ.คามิลเลียน ขับลงมาทางสุขุมวิทตอนปลาย, บางนา และศรีนครินทร์ ก็จะมี รพ.มนารมย์, รพ.ไทยนครินทร์ และ รพ.ศิครินทร์ตั้งอยู่
ใกล้ บริษัท นานมีบุ๊คส์ 2 จำกัด ที่ห่างจากโครงการไป เพียงแค่ 200 เมตร ออกไปบนถนนสุขุมวิท ก็จะมี True Digital Park โครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ ที่ภายในจะมีทั้ง ศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน 3 อาคาร, ลานจัดงาน Event และ Co-Working Space ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 900 เมตร จะขับรถไป หรือ เดิน Sky Walk ไปก็ได้ เลือกเอาตามความสะดวกค่ะ
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมีแหล่งงาน-อาคารสำนักงานเอกชนอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น 66 Tower, โรงกลั่นน้ำมันบางจาก, DKSH (Thailand), M Tower, Jaspal Head Office, อาคารปรีชา by Asvaintra, BITEC บางนา
มีสถานที่ราชการอีก 2 แห่ง ใกล้ ๆ ได้แก่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 3 เป็นสถานที่สำหรับมาทำใบขับขี่ ต่ออายุใบขับขี่ และ ใกล้สำนักงานเขตพระโขนง ทำให้ง่ายต่อการติดต่อธุระราชการ และงานทะเบียนราษฎรต่าง ๆ ได้สะดวกดีทีเดียวค่ะ
ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Map : 13.689549, 100.605743
การเดินทางเริ่มจาก BTS พร้อมพงษ์ ⇒ ถนนสุขุมวิท ⇒ BTS ปุณณวิถี ⇒ กลับรถ ⇒ ซอยสุขุมวิท 64 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์) ⇒ The Coopers สุขุมวิท 64
ภาพประกอบการเดินทาง เราเริ่มจากถนนสุขุมวิท BTS พร้อมพงษ์ มุ่งหน้าไปสุขุมวิท 64 ที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยนี้ค่ะ
ขับตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ผ่าน BTS ทองหล่อ
ผ่าน BTS เอกมัย
BTS พระโขนง และแยกพระโขนง
ข้ามคลองพระโขนง ผ่านทางพิเศษฉลองรัช และแยกอ่อนนุช
ผ่าน BTS อ่อนนุช และห้างสำคัญอย่าง Century อ่อนนุช และ Lotus’s อ่อนนุช
พอเราเห็น BTS ปุณณวิถี ให้ชิดขวาเตรียมกลับรถ
จุดกลับรถจะอยู่ตรงโชว์รูม TOYOTA
จากนั้นเราจะเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 64 ส่วนสำนักงานขายขับเลยไปหน่อยค่ะ
ภาพด้านหน้าสำนักงานขายโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64
พอเราเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 64 จากนั้นเราจะเลี้ยวขวาเข้าซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ 1 ค่ะ
เลี้ยวเข้าซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ 1 มี 7-Eleven อยู่หน้าปากซอย ติดกับ Olive Bangkok Hotel
แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์
ตรงไปเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 64 แยก 6-3 หรือ ซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ โครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ
ถึงที่ตั้งโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 ตั้งอยู่ภายในซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ หรือ ชื่อทางการว่าซอยสุขุวิท 64 แยก 6-3 ที่เป็นซอยย่อยออกมาจากซอยพงษ์เวชอนุสรณ์ และ ซอยสุขุมวิท 64 อีกที
รอบ ๆ โครงการจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ที่เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และ ทาวน์โฮมหรู เยื้อง ๆ กับโครงการจะเป็น Apartment 5 ชั้น ที่คนเข้า-ออกเฉพาะตอนเช้า และ ตอนเย็น-หัวค่ำ ทำให้มีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
รอบโครงการ
ตัวโครงการ
The Cooper สุขุมวิท 64 คอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 250 ตร.ว. เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องพักเพียงแค่ 79 ยูนิต โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด “Born Defferent ใช้ชีวิตลิมิเต็ด ในแบบคนพันธุ์ใหม่” โดยนำเสนอความแตกต่างไม่ซ้ำใคร ผ่านการออกแบบที่สร้างสรรค์ในสไตล์ Modern Luxury Loft
ซึ่งจะผสมผสานงานสถาปัตย์ ที่เผยถึงความเท่ของเนื้อแท้วัสดุ ให้ความแข็งแกร่ง และนุ่มนวลลงตัวจากวัสดุ เช่น อิฐ, โลหะ อย่างทองแดง และ ไม้ ที่ดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตนของโครงการนี้
ภาพเปรียบเทียบจากโมเดลจำลองโครงการ
โครงสร้างภายนอกของอาคารจะเป็นผนังคอนกรีต Precast ส่วนผนังภายในจะเป็น TEXCA Wall หรือ ผนังก่ออิฐมวลเบา ฉาบเรียบทาสี การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของตัวอาคาร จะออกมาในสไตล์ Modern Luxury Loft ตรงตาม Concept โดยจะใช้โทนสีเทาเข้ม และเทาอ่อนสลับกันไปมา
เพิ่มมิติให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่น ไม่เรียบเฉยจนเกินไปด้วย Façade ลวดลายวงกลม ที่ปั๊มด้วยโมลด์ลงบนผนัง Precast ที่หน้าต่างของพื้นที่ส่วนกลาง จะมีการเพิ่มเส้นสายที่โค้งมนด้วยเฟรมอะลูมิเนียมสีเทา ซึ่งทั้ง 2 ส่วน ที่กล่าวไป ถือว่าเป็นการสร้างความแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ได้อย่างน่าสนใจมากทีเดียว
ภาพเปรียบเทียบจากโมเดลจำลองโครงการ
ด้านข้างของโครงการ จะเห็นว่านอกจาก Façade ที่เป็นลวดลายวงกลม ยังมี Gimmick อีกจุดที่น่าสนใจ คือ การใช้หน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งจะมีมุมที่เป็นจั่วแบบ Nordic เพิ่มเข้ามา โดยจะวางสลับซ้าย-ขวาไปมา ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติใหม่ ๆ และดูเท่ไม่ซ้ำกับใคร
ภาพเปรียบเทียบจากโมเดลจำลองโครงการ
ด้านหลังโครงการจะมีส่วนที่เป็น Façade ลวดลายวงกลม และ ช่องว่างทรงสี่เหลี่ยมตัดเฉียง ที่ได้มาจากโถงทางเดินของบันไดหนีไฟ เวลาที่โดยแสงสว่างจะเห็นมุมนี้เป็นเหมือนภาพ 3 มิติ เลยค่ะ
ภาพเปรียบเทียบจากโมเดลจำลองโครงการ
มาดู Master Plan โครงการกันต่อ สำหรับโครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 จะตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 250 ตร.ว. มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวจากซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ ขับมาด้านในจะเดินรถแบบ 2 Way ชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถในร่มทั้งหมด คิดเป็น 37% ของจำนวนยูนิต ประมาณ 30 คัน (ไม่ Fix ช่องจอด)
ส่วนทางเข้า Lobby จะอยู่ที่ด้านหน้า จุดนี้จะมีทางลาดรองรับการใช้รถเข็นของ รวมถึงผู้สูงอายุ และคนที่ใช้ Wheelchair มาให้ด้วย พอเข้ามาด้านในจะเจอกับ Lobby เพดานสูง Double Volume มีบันไดวนใช้ขึ้นไปส่วนกลางบนชั้น 2 และ ชั้น 3
ถัดจาก Lobby เข้าไปจะเจอกับ Mailbox และ Lift Lobby จุดนี้จะต้องใช้ Key Card Access เข้าไป ที่นี่จะมีลิฟต์โดยสาร แบบล็อกชั้นให้ 1 ตัว ส่วนด้านหลังเป็นห้องทิ้งขยะ และ งานระบบต่าง ๆ ของโครงการทั้งหมดค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Meet Coopers หรือ Lobby แบบ Double Volume ได้เพดานสูง โปร่ง โอ่อ่าไปจนถึงชั้น 2 ผนังห้องได้เป็นกระจกโค้ง Full Height เปิดรับมุมมองได้กว้าง ภายในตกแต่งสไตล์ Modern Loft แต่งปูนเปลือยขัดมัน และ ผนังลายอิฐแดง เพิ่มความดิบ เท่ ด้วยเฟอร์นิเจอร์หนัง, เหล็ก, ไม้ และ โคมไฟสไตล์โมเดิร์น มีบันไดวนใช้เดินขึ้นไปพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 และ ชั้น 3 ได้
แปลนอาคารชั้น 2 โซนด้านหน้าอาคารจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง สามารถเดินขึ้นบันไดมาจาก Lobby ได้ โดยจุดนี้จะเป็นเหมือน Co-Working Space เพดานสูง Double Volume ที่แยกออกมาให้อีก 3 โซน ได้แก่ Coopers’ Tuber, Creative Space และ Coopers Readers
ส่วนห้องพักจะมีทั้งหมด 11 ยูนิต ทิศตะวันตก จะเป็นห้อง Type A 25 ตร.ม. 1 ห้อง และ ห้อง Type B 29 ตร.ม. 5 ห้อง ส่วนฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้อง Type B 29 ตร.ม. 2 ห้อง และ ห้อง Type C 34 ตร.ม. 3 ห้อง ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 3 โซนด้านหน้าอาคารยังเป็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่นะคะ โดยจุดนี้จะเป็น Coopers Club ภายในจะมี The Theater / Social Corner แยกเอาไว้ให้อีกที
ส่วนห้องพักจะมีทั้งหมด 11 ยูนิต ทิศตะวันตก จะเป็นห้อง Type A 25 ตร.ม. 1 ห้อง และ ห้อง Type B 29 ตร.ม. 5 ห้อง ส่วนฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้อง Type B 29 ตร.ม. 2 ห้อง และ ห้อง Type C 34 ตร.ม. 3 ห้อง ค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Creative Space บนชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ได้เพดานสูงแบบ Double Volume พร้อมผนังกระจกโค้งเข้ามุมแบบ Full Height ได้ความโปร่ง โล่ง ใช้งานส่วนกลางได้สบาย ๆ และ ยังเปิดรับวิวได้รอบด้าน
โดยชั้นนี้จะมีมุมแยกย่อยออกมาให้อีก 2 โซน ได้แก่ Coopers’ Tuber เป็น Studio สำหรับถ่ายงาน เอาใจชาว Youtuber, Instargramer และ TikToker ได้ดีมาก ๆ และ มี Coopers Readers ที่เป็นมุมอ่านหนังสือ ในบรรยากาศสงบ ๆ เป็นส่วนตัว
ส่วน Creative Space จะเป็นเหมือนพื้นที่นั่งทำงาน ในบรรยากาศสบาย ๆ ทางโครงการจัดเตรียมโต๊ะทำงานไว้หลากหลายรูปแบบ รองรับทั้งการนั่งทำงานแบบเดี่ยว และแบบกลุ่มได้อย่างลงตัว สามารถเลือกพื้นที่มุมโปรดได้ในทุกวัน รองรับการเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานแบบ Work From Home ได้อย่างไม่น่าเบื่อ และแต่ละจุดก็จะมีปลั๊กไฟ และ Wi-Fi ให้บริการ
ภาพจำลองบรรยากาศ Coopers Club ที่รวม The Theater และ Social Corner เอาไว้ด้านบนชั้น 3 จุดนี้จะเป็นห้องดูหนัง ดูซีรีส์ ที่ได้เครื่องเสียงจัดเต็ม ดูสนุก ไม่มีสะดุด และ มีโต๊ะ Air Hockey จัดเตรียมเอาไว้ให้เล่นสนุก ๆ อีกด้วย
แปลนอาคารชั้น 4-7 จะเป็น Typical Floor Plan เป็นห้องพักแบบเต็มชั้น โดยจะมีทั้งหมด 13 ยูนิต/ชั้น ทิศตะวันตก จะเป็นห้อง Type A 25 ตร.ม. 1 ห้อง และ ห้อง Type B 29 ตร.ม. 5 ห้อง ส่วนฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นห้อง Type B 29 ตร.ม. 4 ห้อง และ ห้อง Type C 34 ตร.ม. 3 ห้อง ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 8 จะเป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางอีก 1 จุด โดยจะมี Coopers Pool ที่เป็นสระว่ายกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาด 15 x 5 เมตร พร้อม Sky Sunken ที่ด้านข้าง ในร่มจะเป็น Coopers Booster หรือ ห้อง Fitness ด้านหลังจะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ที่มี The Onsen จัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วย ในส่วนของห้องพักจะมีอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก เป็นห้อง Type B 29 ตร.ม. และมีเพียง 5 ยูนิต/ชั้น เท่านั้นค่ะ
ภาพจำลองบรรยากาศ Coopers Booster หรือ ห้อง Fitness เป็นห้องผนังกระจก Full Height เปิดรับมุมมองได้แบบ 180 องศา ภายในตกแต่งมาในสไตล์ Modern เข้ม ๆ เท่ ๆ ด้วยพื้นลายไม้ และ ผนังกระจก ตัดขอบสีดำ มีเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio อย่างเช่น ลู่วิ่งไฟฟ้า และ เครื่องปั่นจักรยาน ให้ลูกบ้านใช้งานได้จริง ๆ และในส่วนของ Weight Training ก็จะมีบาร์เบล และ Weight Machines จัดเตรียมไว้ให้ครบ
ภาพจำลองบรรยากาศ The Onsen ตกแต่งภายในด้วยวัสดุลายไม้ และ ลายหินสีเทาดำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะใช้งาน โดยจะมีอุปกรณ์สำหรับ Onsen มาให้ครบ ทั้งอ่าง Onsen, อ่างล้างมือ, Shower อาบน้ำ และ ม้านั่งขัดผิว และ มีหน้าต่างช่องแสงสี่เหลียมคางหมู ให้เปิดรับแสง และ มองวิวด้านนอกได้ด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศ Coopers Pool เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบน้ำเกลือ แบบน้ำล้น ขนาด 15 x 5 เมตร พร้อมม่านน้ำตกที่ด้านข้าง และ ต้นไม้ใหญ่ สร้าง Feeling ที่ผ่อนคลาย และขนาดสระที่ให้มายังสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้ และ ยังมี Sunbed ไว้นอนเล่น นอนอาบแดด ให้อีก 2 ตัว
ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Sunken และ Mini Bar ด้านท้ายสระว่ายน้ำ รองรับการจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ขนาด 6-8 คนได้สบาย ๆ ทั้งยังได้ Feeling เหมือนอยู่บน Rooftop Bar บนโรงแรมหรูใจกลางเมืองเลยค่ะ
Sunken Seat ริมสระว่ายน้ำให้ลูกบ้านได้นั่งเล่นพักผ่อน หรือใช้เป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือก็ได้
เข้ามาที่ด้านในจะมี Mini Bar สำหรับชงเครื่องดื่ม หรือ เตรียมอาหาร และ มีชุดโต๊ะ-เก้าอี้จัดเตรียมไว้ให้อีก 2 ชุด
ภาพจำลองบรรยากาศ Bird Eye View บนชั้น Rooftop ค่ะ
แบบห้อง
โครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด Type ดังนี้ค่ะ
แปลนห้องพัก Type A 1 Bedroom 25 ตร.ม.
แปลนห้องพัก Type B 1 Bedroom Exclusive 29 ตร.ม
แปลนห้องพัก 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม.
แปลนห้องพัก 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม.
** สำหรับห้องพัก 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม. จะมีความพิเศษตรงที่ลูกค้าจะสามารถปรับเปลี่ยนเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องอเนกประสงค์ได้เอง ว่าต้องการเป็นห้องนอน หรือ ห้องทำงานค่ะ **
ห้องตัวอย่าง
โครงการ The Coopers สุขุมวิท 64 จะมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุด ได้แก่ Type B 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29 ตร.ม. และ Type C 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ทั้ง 2 Type จะได้ห้องครัวปิด มีพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน WFH และ มีฟังก์ชันการใช้งานภายในที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวมาก ๆ
โดยทางโครงการจะขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง Type B 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.
แปลนห้องพัก Type B 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29 ตร.ม. เป็น Type ที่มีจำนวนเยอะที่สุด คือ 55 ยูนิต ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องออกแบบมาได้อย่างลงตัวในทุกจุด โดยจะแบ่งพื้นที่ใช้งานไว้ทั้งหมด 6 ส่วนหลัก ๆ
เปิดประตูเข้ามาภายในจะเจอกับ Common Area เป็นอันดันดับแรก ซึ่งจุดนี้จะรวมพื้นที่ใช้สอยไว้ทั้งหมด 3 ส่วน ทั้งมุมนั่งเล่นพักผ่อน, มุมทานอาหาร และ มุมทำงาน ด้านหลังประตู หรือ ฝั่งขวาของห้องพัก จะเป็นห้องน้ำ ที่สามารถ Access ได้ 2 ทาง ทั้งจาก Common Area และ ห้องนอน
โดยห้องนอนจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง ภายในได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบชุด ทั้งฐานเตียง 5 ฟุต, ตู้เสื้อ 2 ฝั่ง และ โต๊ะเครื่องแป้งบิวท์อิน เพิ่มความโปร่ง โล่ง สบาย รับแสงได้ตลอดทั้งวันด้วยหน้าต่างบานฟิกซ์ขนาดใหญ่ ที่มีบานกระทุ้งแยกย่อยมาให้อีก 2 บาน ไว้เปิดรับลม ระบายอากาศได้
ห้องครัวจะอยู่ด้านในสุด ทางฝั่งซ้ายมือ ได้เป็นห้องครัวปิด แยกโซนด้วยประตูบานเลื่อน 2 ตอน พื้นที่ใช้งานภายในกว้างกำลังดี ได้ชุดครัวบิวท์อินแบบ Full Set มีพื้นที่เหลือให้วางตู้เย็น 6-8 คิวได้ มีหน้าต่างช่องแสงและระบายอากาศติดมาให้ 1 บาน และจากครัวจะเชื่อมออกไปยังระเบียงซักล้างที่ด้านนอกได้อีกทีค่ะ
เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่ลูกค้าจะได้รับ สำหรับห้อง Type B 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29 ตร.ม.
เข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยค่ะ เปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับ Common Area เป็นส่วนแรก ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตร ห้องจริงจะติดวอลเปเปอร์สีพื้นมาให้ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมโคมไฟ Led Panel
Common Area และห้องนอน ได้เป็นพื้น SPC แบบ Click Lock ความหนา 4 มม. พร้อมบัวผนัง จุดเด่นของพื้น SPC คือ จะเป็นวัสดุ PVC แท้ ผสมกับเนื้อหินอ่อน หน้าพื้นมีความหนา ความแข็งกว่าพื้นไวนิล แข็งแรง ทนต่อการขีดข่วน ไม่เป็นรอยง่าย ที่สำคัญคือกันน้ำ กันปลวก 100%
Common Area รวมมุมพักผ่อน, มุมทานอาหาร และ มุมทำงานเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว จากภาพจะเห็นเลยว่ามีระยะใช้งานสบาย ๆ มีพื้นที่ให้เดินเข้า-ออก เคลื่อนย้ายของได้อย่างสะดวก
มุมพักผ่อนจะอยู่ด้านหน้าห้องแบบนี้ ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบชุด ทั้งตู้วางทีวี, ตู้เก็บของ, ชั้นวางของแขวนผนัง, โต๊ะกลาง และ โซฟา ระยะใช้งานด้านหน้ามีเหลือกว้าง ประมาณ 1 เมตร
ได้โซฟาเบดหนัง UPVC สีน้ำตาล ขนาด 2-3 ที่นั่ง ตัวพนักพิงปรับนอนได้ มีที่พักแขนตรงกลาง พร้อมช่องใส่แก้วน้ำ ด้านหน้ามีโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมมาให้อีก 1 ตัว
ตรงข้ามกันจะได้ตู้วางทีวี, ชั้นวางของแขวนผนัง และ ตู้อเนกประสงค์สีไม้โอ๊คตัดกับสีเทา Full Set ตามนี้ ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ ช่องเสียบสาย Lan มาให้เรียบร้อย
ติดกับโซฟาจะจัดเป็นมุมทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง โดยจะหันหน้าโต๊ะไปทางทีวี ทำให้นั่งทานข้าว และ ดูซีรีส์ไปพร้อม ๆ กันได้
ได้โต๊ะทานข้าวสีเทาเข้ม ขาเหล็กสีดำ ขนาด 1.4 x 0.60 เมตร พร้อมเก้าอี้หนังสีน้ำตาล 2 ตัว
ระยะใช้งานเหลือสบาย ๆ เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้ไม่ติดขัด
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นมุมทำงาน ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน และ ห้องครัว รองรับทั้งการใช้งานช่วง Work From Home ได้อย่างลงตัวสุด ๆ ไปเลยค่ะ
มุมทำงานถูกออกแบบให้อยู่ลึกลงไปแบบนี้ ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานส่วนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี จุดนี้จะได้ชั้นวางของแขวนผนัง และ โต๊ะทำงานสีไม้โอ๊คตัดกับสีเทา พร้อมเก้าอี้ผ้ากระสอบสีเทา 1 ตัว ผนังด้านข้างมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด
ขนาดของโต๊ะจะพอดีกับมุมห้องตรงนี้เลยนะคะ พอวางเก้าอี้เข้าไปแล้ว ก็จะมีระยะใช้งานเหลือสบาย ๆ ซึ่งถ้าใครไม่ได้ทำงานอยู่ที่บ้านจริงจัง จะปรับฟังก์ชันให้เป็นตู้เก็บของ หรือ ชั้นวางของแนวสูงเข้าไปแทนก็ได้ค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจะสุดจะเป็นห้องครัวปิด และ มีระเบียงซักล้างอยู่ด้านนอกอีกที
ประตูห้องครัวได้เป็นกระจกเขียวตัดแสง หนา 6 มม. บานกรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ เปิดใช้งานได้ 2 ฝั่ง ซึ่งการที่ไม่ฟิกซ์ฝั่งประตู จะช่วยให้เราใช้งาน และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้สะดวกมากขึ้นนั่นเอง
เข้ามาด้านในห้องครัวมีระยะใช้งานกำลังดี ในห้องนี้จะได้ชุดครัวบิวท์อิน พร้อมตู้แขวนผนังของ SB Furniture ทั้ง Set มีหน้าต่างบานผสมติดมาให้ 1 ชุด ส่วนพื้นห้องครัวจะได้พื้น SPC แบบ Click Lock ความหนา 4 มม. แบบเดียวกันกับด้านนอก
ชุดครัวบิวท์อินขนาด 1.3 x 0.60 เมตร พร้อมตู้แขวนผนังบานเปิดด้านบน วัสดุปิดผิวเป็นเมลามีนสีเทา และเมลามีนลายไม้ ข้างชุดครัวมีพื้นที่เหลือกว้าง ประมาณ 70 ซม. ลึก 60 ซม. ให้วางตู้เย็นขนาด 6-8 คิวได้
หน้าท็อปครัวได้เป็นหินสังเคราะห์สีดำ แข็งแรง ทนทาน ทนความร้อนได้ดี ผนังครัวทำ Backsplash กันเปื้อนมาให้ วัสดุที่ได้เป็นกระจกใสพ่นเทา กรอบอะลูมิเนียมสีเงิน พร้อมติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด
หน้าท็อปติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Tecno + ให้ตามนี้
อีกฝั่งฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง หัวก๊อกก้านโยกของ Tecno + เช่นเดียวกัน
ตู้แขวนผนังด้านบนแบ่งไว้ 2 ฟังก์ชัน มีชั้นวางของไว้สำหรับวางแก้วกาแฟ วางเครื่องปรุงอาหารต่าง ๆ อีกฝั่งจะเป็นตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยที่ด้านใน
ด้านล่างจะมีตู้เก็บของ และ ช่องวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน ที่ด้านหลังติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้พร้อมต่อใช้งาน
มีตู้เก็บของบานเปิดใต้ซิงค์ ที่เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน, อุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้าน หรือ จะวางถังขยะใบเล็ก ๆ ไว้ด้านในก็ได้ อีกฝั่งจะมีลิ้นชักเก็บของ และ ลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อน-ส้อม ให้เก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ
ภายในห้องครัวจะได้หน้าต่างบานผสม ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง หนา 6 มม. บานกรอบอะลูมิเนียมอบสีดำมาตามนี้ ด้านบนจะเป็นบานกระทุ้ง ไว้เปิดระบายกลิ่น ระบายอากาศ ส่วนด้านล่างจะเป็นบานฟิกซ์ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เยอะ ติดกันจะเป็นประตูบานสวิง ลูกฟักกระจก ที่ใช้เปิดเชื่อมออกไประเบียงซักล้างที่ด้านนอกค่ะ
เปิดประตูออกมาจะเจอกับพื้นที่ซักล้างขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 60 x 65 ซม. แต่ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กก. ได้ / ส่วนพื้นระเบียงจะเจาะท่อน้ำทิ้ง และ ปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม. มาให้ เพดานติดโคมไฟ Led Panel ให้ 1 ดวง
ราวระเบียงได้เป็นกระจกนิรภัยลามิเนต หนา 6 มม. พร้อมโครงเหล็กทาสีกันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร
อีกฝั่งจะเป็นที่ตั้งของ CDU ติดแบบแขวนผนัง ปล่อยลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร ใต้ CDU จะเดินงานระบบประปา ติดก๊อกสนาม และ ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อยค่ะ
ออกจากห้องครัวไปดูฟังก์ชันส่วนที่เหลือกันต่อค่ะ
ฝั่งขวาของห้องพักจะเป็นห้องน้ำ และ ห้องนอน ผนังตรงกลางจะติดเครื่องปรับอากาศมาให้ 1 ตัว
เข้าไปดูห้องน้ำกันก่อน บ้านจริงจะมีประตูติดมาให้ ได้ฟังก์ชันแบบ Double Access เข้า-ออกได้ 2 ทาง ภายในจะลดพื้นลงลงไป ประมาณ 3 ซม. ป้องกันน้ำไหลย้อนกลับออกมาที่ด้านนอก
ห้องน้ำออกแบบมาได้กว้างดีเลยค่ะ แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย การตกแต่งลายกระเบื้องในห้องน้ำจะใช้โทนสีขาวและเทา ช่วยให้ห้องดูสว่าง กว้าง และ สะอาดตา โดยพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกลายหินสีเทา 40 x 40 ซม. ผนังกรุกระเบื้องลายหินอ่อน สลับลายหินอ่อนก้างปลามาให้ตามนี้ค่ะ
ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานของ Kohler มาทั้งห้อง ส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ เพดานด้านบนติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้า ที่เป็นตัวช่วยในการระบายอากาศ ฆ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นอับชื้น
อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อมราวแขวนผ้าสแตนเลสใต้อ่าง ใช้เป็นที่แขวนผ้าเช็ดมือ หรือ พาดผ้าเช็ดตัวกันได้ ผนังด้านหลังติดกระจกเงาสี่เหลี่ยมทรงสูงมาให้ 1 บาน
ชอบอ่างล้างมือที่เค้าให้มาขนาดใหญ่มาก ๆ แถมได้ก้านอ่างที่มีความลึกมากกว่าอ่างทั่ว ๆ ไป พร้อมหัวก๊อกโครเมียมก้านโยกทรงสูง เสริมให้เวลาที่เราล้างมือ ล้างหน้า มือไม่ไปกระแทกกับก้นอ่างนั่นเอง นอกจากนั้นหน้าอ่างก็ยังมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้จุกจิกได้ อย่างขวดสบู่ล้างมือ, โฟมล้างหน้า หรือ ถ้วยใส่แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush รุ่นประหยัดน้ำ ด้านข้างติดอุปกรณ์ประกอบสายฉีดชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่สแตนเลสมาให้ครบเซ็ต
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ จุดนี้เค้าจะติดตั้ง Shower Box กระจก Tempered Glass หนา 9 มม. มาให้ ประตูได้เป็นบานสวิง มือจับสแตนเลสรูปตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่วนตัวธรณีด้านล่างเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ที่ทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เกิดเชื้อราเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
ด้านในติดฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกฝังกำแพง หัวฝักบัวสามารถปรับระดับแรงดันน้ำได้ ผนังด้านข้างเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ ซึ่งใครที่อยากเพิ่มที่วางของให้มีมากขึ้นไปอีก สามารถซื้อชั้นวางของแนวสูง 4-5 ชั้น มาวางเสริมเข้าไปได้เลยค่ะ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด ประมาณ 1.2 x 1.0 เมตร
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อ ห้องจริงจะมีประตูไม้ HDF มือจับก้านโยกติดมาให้
เข้ามาด้านในจะเจอกับห้องนอนหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันการใช้งานไว้ 2 ส่วน คือ ส่วนพักผ่อนสำหรับวางเตียงนอน และ Walk-in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง และ ตู้เสื้อผ้า
ซ้ายมือจะเป็นส่วนพักผ่อน ได้ฐานเตียงนอน และ เครื่องปรับอากาศ Wall Type มา 1 ตัว
ฐานเตียงนอนสีเทาและสีโอ๊ค ขนาด 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของใต้เตียงอีก 2 ช่อง ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือให้เราซื้อโต๊ะหัวเตียงมาวางเสริมเข้าไปได้ และ รอบ ๆ เตียงก็มีพื้นที่เหลือให้เราใช้งาน รวมถึงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก
ข้างเตียงนอนจะมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง บานผสมชุดใหญ่ติดมาให้ 1 บาน โดยจะมีทั้งแบบบานฟิกซ์ ไว้เปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวัน และ บานกระทุ้ง 2 บานเล็ก ๆ ไว้สำหรับเปิดรับลม เปิดระบายถ่ายเทอากาศในห้อง
ปลายเตียงนอนจะเป็นผนังเปล่าติดวอลเปเปอร์สีพื้นมาให้ สามารถติดทีวีแขวนผนัง หรือ ชั้นวางของได้ โดยจุดนี้จะเดินงานระบบไฟฟ้า เต้าเสียบปลั๊กไฟ และ ช่องเสียบสาย Cable TV มาให้เรียบร้อย
อีกฝั่งของห้องจะจัดฟังก์ชันเป็น Walk-in Closet ได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานดีไซน์สวยมาครบเซ็ตเลยค่ะ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าที่มาให้มาถึง 2 ฝั่ง จากจุดนี้จะมีประตูที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย สะดวกมาก ๆ
ซ้ายมือจะได้โต๊ะเครื่องแป้งบิวท์อินสีไม้โอ๊ค ขนาด 80 x 45 ซม. พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง ผนังติดกระจกเงาทรงมนดีไซน์โมเดิร์นมาให้ 1 บาน และติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด เอาไว้เสียบต่อใช้ไดร์เป่าผม หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้
ติดกันจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิด ตัวตู้เป็นสีเทาเข้ม หน้าบานได้เป็นกระจก Temper สีชาดำ ความกว้าง 1 เมตร บิวท์อินมาให้สูงจรดฝ้าเพดาน เพิ่ม Space ให้เราเก็บเสื้อผ้า เก็บของได้มากขึ้น
ภายในตู้จัดฟังก์ชันมาให้ครบ ทั้งราวแขวนผ้า, ราวแขวนชุดเดรส, ช่องเก็บของ และ ภายในตู้จะติดไฟส่องสว่างอัตโนมัติมาให้ด้วยค่ะ
อีกฝั่งจะได้ตู้เสื้อผ้าบานเปิด ความกว้าง 1 เมตร ความสูงจรดฝ้าเพดานมาให้เช่นเดียวกัน
ภายในตู้ฝั่งนี้จะติดไฟส่องสว่างมาให้เช่นกันค่ะ ด้านบนจะติดราวแขวนผ้า และ ชั้นวางของมาให้ ส่วนด้านล่างจะเป็นราวแขวนกางเกง ที่สามารถปรับให้เป็นที่เก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้สบาย ๆ
ระยะใช้งานด้านหน้าตู้เสื้อผ้าเหลือกว้าง ประมาณ 1.2 เมตร สามารถหยิบเก็บเสื้อผ้าได้แบบไม่ติดขัด ยืนแต่งตัวได้สบาย ๆ และ ยังใช้เดินเข้า-ออกไปห้องน้ำได้สะดวกดี
จากประตูทางฝั่งห้องนอน เดินออกมาจะได้มุมมองหน้ากว้างแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน
ห้องตัวอย่าง Type C 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม.
แปลนห้องพัก Type C 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. เป็นห้องพัก Type ใหญ่สุดของโครงการ และ มีจำนวนห้องรองลงมาอยู่ที่ 18 ยูนิต ห้องนี้จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบคู่รัก, คนทำงานสาย Freelance, คนที่ต้องทำงาน Work From Home อยู่ที่บ้าน หรือ คนที่ชอบ Space กว้าง ๆ ได้อย่างลงตัวมาก ๆ โดยจะแบ่งพื้นที่ใช้งานไว้ทั้งหมด 5 ส่วนหลัก ๆ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Common Area ที่รวมมุมนั่งเล่นพักผ่อน และ มุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน ต่อเนื่องไปจะเป็นห้องทำงาน พร้อมระเบียงหน้ากว้าง โดยห้องจริงจะสามารถเปลี่ยนฟังก์ชันและเฟอร์นิเจอร์ภายในให้เป็นห้องนอนเล็กได้
ขวามือด้านหลังประตูจะเป็นห้องครัวปิด มีขนาดค่อนข้างกระชับ แต่ก็สามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัด ถัดไปจะเป็นห้องน้ำ ที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง และ ด้านในสุดจะเป็นห้องนอน มีพื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง ได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบชุด พร้อมหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่ง กว้าง อยู่สบายมากขึ้น
เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่ลูกค้าจะได้รับ สำหรับห้อง Type C 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม.
สำหรับห้อง Type C จะมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มาในโทนสีเทา และ สีไม้เข้ม ซึ่งห้องแต่ละ Type จะมีฟังก์ชัน และ โทนสีของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Common Area แบบในภาพค่ะ ความสูงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.4 เมตร เท่ากัน และ ได้ Spec ของวัสดุพื้น, ผนัง, ฝ้า, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้มาเหมือนกับห้อง Type B ทุกประการ
Common Area จะมีพื้นที่ใช้งานที่กว้างขึ้น โดยจะรวมพื้นที่มุมพักผ่อน และ มุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน
ส่วนแรกของห้องจะเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบชุด ทั้งตู้วางทีวี, ตู้เก็บของ, ชั้นวางของแขวนผนัง, โต๊ะกลาง และ โซฟา ระยะใช้งานด้านหน้ามีเหลือกว้าง ประมาณ 1 เมตร
ได้โซฟาเบดหนัง UPVC สีเทา ขนาด 2-3 ที่นั่ง พนักพิงปรับนอนได้ มีที่พักแขนตรงกลาง พร้อมช่องใส่แก้วน้ำ ด้านหน้ามีโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมมาให้อีก 1 ตัว
ตรงข้ามกันจะได้ตู้วางทีวี, ชั้นวางของแขวนผนัง และ ตู้อเนกประสงค์สีไม้เข้มตัดกับสีเทา ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ ช่องเสียบสาย Lan มาให้เรียบร้อย
ตู้เก็บของใต้ชั้นวางทีวี จะมีชั้นลอยแบ่งมาให้ 2 ชั้น เก็บของได้เยอะ และช่วยจัดระเบียบได้ดี
ติดกันจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ภายในมีชั้นวางรองเท้าลาดเอียงให้ 2 ชั้น พร้อมช่องระบายอากาศ ที่จะช่วยลดกลิ่นอับจากรองเท้าได้
ถัดจากมุมนั่งเล่นพักผ่อนมาจะเป็นมุมทานอาหาร ขนาด 4 ที่นั่ง ให้เรานั่งทานข้าว และ ดูหนังที่ชอบไปพร้อม ๆ กันได้
โต๊ะทานข้าวที่ได้จะเป็นโต๊ะตัวยาวสีเทาเข้ม ขาเหล็กพ่นสีดำ ขนาด 1.4 x 0.60 เมตร มีเก้าอี้สีดำดีไซน์โมเดิร์น พร้อมเบาะนั่งนุ่ม ๆ ให้อีก 4 ตัว
ส่วนระยะใช้งานเหลือกำลังพอดี เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออก นั่งทานข้าวได้แบบไม่ติดขัด ซึ่งถ้าใครอยู่ห้องแค่ 1-2 คน จะวางโต๊ะขยับขึ้นไปด้านหน้า แล้วเหลือเก้าอี้ไว้แค่ 2 ตัว ก็จะมีระยะใช้งานที่เพิ่มขึ้นมากไปอีกค่ะ
ภาพรวมบริเวณ Common Area จะได้เฟอร์นิเจอร์ที่คุม Mood & Tone ไปในทิศทางเดียวกันแบบนี้
ถัดจาก Common Area เข้าไป จะเป็นห้องอเนกประสงค์ แยกโซนด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง หนา 6 มม. กรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ แบบบานเลื่อน 3 ตอน ที่เปิดได้กว้าง เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น และ ขนย้ายข้าวของได้สะดวกมากขึ้น
ห้องอเนกประสงค์มีพื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง สามารถทำเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่ หรือ จะทำเป็นห้องนอนเล็ก ก็สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์กับฝ่ายขายได้เลยค่ะ
สำหรับใครที่เลือกเป็นห้องทำงาน ก็จะได้โต๊ะทำงานสีเทาเข้มและสีไม้เข้ม ขนาด 1.5 x 0.60 เมตร ที่มีฟังก์ชันของชั้นวางของใต้โต๊ะ, ลิ้นชักเก็บของ และ ตู้เก็บของ พร้อมเก้าอี้ดีไซน์โมเดิร์นสีเทาเข้ม 1 ตัว
ผนังติดชั้นวางของแนวยาวให้ 1 ชิ้น ติดกันจะเป็นชั้นวางของ ความกว้าง 1 เมตร และมีชั้นลอยมาให้ถึง 5 ชั้น ให้เราวางหนังสือ, เอกสาร หรือ ของตกแต่งบ้านอื่น ๆ ได้ตามชอบ
ถ้าลูกค้าเลือกฟังก์ชันเป็นห้องนอนเล็ก ก็จะได้ฐานเตียงนอน 3.5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของใต้เตียง และ ตู้เสื้อผ้าบานเปิดลายไม้ 1 ตู้
จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงซักล้างด้านนอกได้อีกที โดยจุดนี้จะกั้นด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมอบสีดำ แบบบานเลื่อน 2 ฝั่ง พร้อมยกธรณี-วงกบสูงขึ้นมาให้ ประมาณ 20 ซม. เพื่อป้องกันน้ำฝน และ ฝุ่นละอองเล็ก ๆ ไม่ให้พัดเข้าสู่ในห้องได้
ได้ระเบียงหน้ากว้าง ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. สามารถวางเครื่องซักผ้า ขนาด 50 x 55 ซม. (แบบฝาหน้า), วางราวตากผ้า หรือ วางต้นไม้กระถางได้ ติดตั้งราวกันตกกระจกนิรภัยลามิเนต หนา 6 มม. พร้อมโครงเหล็กทาสีกันสนิม ความสูง ประมาณ 1 เมตร เพดานติดโคมไฟ Led Panel ให้ 1 ดวง
ขวามือติดก๊อกสนาม และ เต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด
ซ้ายมือเป็นที่ตั้งของ CDU แบบแขวนผนัง ติดมาให้ 2 ตัว โดยจะปล่อยลมร้อนออกไปทางด้านนอกตัวอาคาร
จากระเบียงมองกลับออกมาดูภาพรวมทางฝั่งหน้าห้อง
อีกฝั่งของห้องพักจะประกอบไปด้วยห้องครัวปิด ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง และด้านในสุดจะเป็นที่ตั้งของห้องนอน
เข้าไปดูห้องครัวกันก่อนนะคะ จุดนี้จะแยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ความสูงจรดฝ้าเพดาน และสามารถเลื่อนเปิดใช้งานได้ทั้ง 2 ฝั่ง
เข้ามาด้านในห้องครัวจะมีพื้นที่ค่อนข้างกระชับ ได้ชุดครัวบิวท์อิน L-Shape ส่วนพื้นห้องครัวจะได้พื้น SPC แบบ Click Lock แบบเดียวกันกับด้านนอก
ชุดครัวบิวท์อินเข้ามุม พร้อมตู้แขวนผนังบานเปิดด้านบน วัสดุปิดผิวเป็นเมลามีนสีเทา และเมลามีนลายไม้ ข้างชุดครัวมีพื้นที่เหลือกว้าง ประมาณ 70 ซม. ลึก 60 ซม. ให้วางตู้เย็นขนาด 6-8 คิวได้
หน้าท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ผนังครัวทำ Backsplash กันเปื้อนมาให้ วัสดุที่ได้เป็นกระจกใสพ่นเทา กรอบอะลูมิเนียมสีเงิน พร้อมติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้ 1 จุด
ส่วนทำอาหารจะติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Tecno + มาให้ ด้านข้างมีพื้นที่เหลือให้วางเครื่องปรุงได้อีกนิดหน่อย
ส่วนเตรียมอาหารจะฝังซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกทรงสูงของ Tecno +
ใต้เตาปรุงอาหารจะมีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน-ส้อม และ ลิ้นชักเก็บของมาให้อย่างละ 1 ช่อง ส่วนตรงกลางจะเป็นที่วางไมโครเวฟ ด้านหลังติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย
อีกฝั่งจะเป็นตู้เก็บของบานเปิด ภายในเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ซึ่งจะเหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน หรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ ติดกันจะเป็นตู้เก็บของ ที่มีชั้นลอยแยกย่อยมาให้อีก 2 ช่อง ให้เก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ
ตู้เก็บของเหนือเครื่องดูดควัน จะเป็นแบบบานเปิด พร้อมชั้นลอย และช่องวางของที่ด้านข้าง
อีกฝั่งจะได้เป็นตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอย และ ชั้นวางของแบบเปิดอีก 3 ช่อง ให้วางพวกอาหารแห้ง เครื่องปรุง ชากาแฟ และ เก็บของอื่น ๆ ได้อีกเยอะ
มองกลับออกมาทางหน้าห้องครัว จะเห็นว่าเมื่อเราวางตู้เย็นไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่ให้เปิดใช้งานได้แบบไม่ติดขัด
ถัดมาตรงกลางจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ เหนือประตูขึ้นไปที่ด้านบนจะติดเครื่องปรับอากาศมาให้ 1 ตัว ตำแหน่งตามนี้
ห้องน้ำแบบแนวลึก ขนาดกว้างขวางดี ใช้งานได้สบาย ๆ พร้อมแบ่งส่วนแห้ง ส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ปูพื้นและผนังกระเบื้องเซรามิกลายหินอ่อนคุมโทนสีเทา-ขาว สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดของ Kohler เพดานติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้าให้ 1 เครื่อง
ได้อ่างล้างหน้าแขวนผนังขนาดใหญ่พิเศษ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก หน้าอ่างวางของใช้จุกจิกได้พอสมควร ใต้อ่างมีราวแขวนผ้าติดมาให้ และที่ผนังจะติดกระจกเงาสี่เหลี่ยมทรงสูงมาให้ 1 บาน
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush รุ่นประหยัดน้ำ ติดอุปกรณ์มาตรฐาน สายฉีดชำระ และ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้ครบชุด
ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ ติด Shower Box กระจก Tempered Glass หนา 9 มม. ประตูบานสวิง มือจับสแตนเลสตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้ พร้อมธรณีหินสังเคราะห์สีขาว
ด้านในติดตั้งฝักบัว Hand Shower ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยกฝังกำแพง หัวฝักบัวสามารถปรับระดับแรงดันน้ำได้เช่นเดิม ผนังด้านหลังเจาะช่องทำชั้นวางของแนวยาวไว้ให้ สามารถวางขวดสบู่ ขวดแชมพู โฟมล้างหน้าต่าง ๆ ได้
พื้นที่ส่วนอาบน้ำได้มากว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำแบบไม่ติดขัด
มองกลับออกมาทางหน้าห้อง จะเห็นว่ามีประตูให้ถึง 2 บาน ใช้เข้า-ออกได้ทั้งจาก Common Area และ จากห้องนอนนั่นเอง
เข้าไปดูห้องนอนเป็นลำดับสุดท้ายกันค่ะ ห้องจริงจะมีประตูไม้ปิดมิดชิดแยกเป็นสัดส่วน
เข้ามาภายในห้องซ้ายมือจะเป็นส่วนพักผ่อน ได้ฐานเตียงนอนสีเทาเข้ม ขนาด 5 ฟุต
ใต้เตียงนอนมีช่องเก็บของให้อีก 2 ช่อง
ปลายเตียงนอนจะเป็นผนังวอลเปเปอร์โล่ง ๆ สามารถติดชั้นวางทีวี หรือ ชั้นวางของแนวยาวเสริมเข้าไปได้ จุดนี้จะเตรียมงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ และช่องเสียบสาย Cable TV มาให้เรียบร้อย และด้านบนจะติดเครื่องปรับอากาศมาให้ 1 ตัว
ภายในห้องมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ให้ 1 ชุด แบ่งเป็นแบบบานฟิกซ์ และ แบบบานกระทุ้งเล็ก ๆ 2 บาน ข้อดีของกระจกบานใหญ่ จะช่วยในเรื่องของการรับแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องนอนดูกว้างขึ้น ตัวบานกระทุ้งใช้เปิดรับลม และ ระบายอากาศได้
อีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งหน้า แต่งตัว และ ประตูทางเข้าห้องน้ำจากด้านใน
ตรงนี้จะได้โต๊ะเครื่องแป้ง ขนาด 1.4 x 0.60 เมตร พร้อมช่องเก็บของใต้โต๊ะ ผนังติดกระจกเงาทรงมน และ เต้าเสียบปลั๊กไฟให้ 1 จุด ส่วนตู้เสื้อผ้าจะเป็นตู้บานเปิด หน้าบานกระจก Temper สีชาดำ พร้อมช่องวางของที่ด้านข้างอีกหลายชั้น
ภายในตู้จัดฟังก์ชันมาให้ครบ ทั้งราวแขวนผ้า และ ราวแขวนชุดเดรส พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างอัตโนมัติมาให้เช่นเดิม
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน
ราคา (พ.ย.64)
ลงทะเบียนรับส่วนลด 100,000 บาท* คลิก : https://bit.ly/3277g75
***ข้อมูลราคา และโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม**
บทสรุปโครงการ
♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Coopers สุขุมวิท 64 มีที่ตั้งอยู่ในซอยโรงเรียนพงษ์เวชอนุสรณ์ ที่เป็นซอยย่อยออกมาจากซอยสุขุมวิท 64 ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิทฝั่งขาเข้า ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ในระยะเดินสบาย ๆ เพียง 500 เมตร และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกทั้งคนใช้รถและไม่ใช้รถค่ะ และยังรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ขนาดใหญ่มากมาย
รอบ ๆ โครงการเป็นโซนชุมชนที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นชุมชนที่อยู่กันมายาวนาน มีทั้งคอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงานเกรด A และ มีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่เยอะ ใกล้ ๆ ที่ดินโครงการมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน มี 7-11 ในระยะเดินถึงสบาย ๆ ประมาณ 350 เมตร* และ มี True Digital Park ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 900 เมตร* เท่านั้น
♦ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายสูง ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิท 500 เมตร* และอยู่ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เพียง 1.8 กม.* หรือ ระยะขับรถประมาณ 4 นาที* จากโครงการขับไปขึ้นทางด่วนได้ง่าย ๆ โดยลัดออกไปด้านหลังผ่านซอยสุขุมวิท 62 ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด ในช่วงเวลา Rush Hour ที่มีคนใช้ถนนใหญ่เยอะ ๆ
จากโครงการขับรถไปไหนมาไหนได้ง่าย เพราะอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ขับรถช่วงสั้น ๆ 10-15 นาที* ก็ถึงอ่อนนุช เอกมัย ทองหล่อ หรือ จะไปทางบางนา, กาญจนาภิเษก ก็ทำได้ง่าย และรอบ ๆ โครงการเอง ก็มีถนนและซอยย่อยลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่เยอะ ทำให้เวลาการจราจรหนาแน่นสามารถลัดเลาะเข้าไปในตัวเมืองชั้นในได้ในเวลาอันสั้น
♦ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกสบายสูงมาก จากโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ในระยะเดินได้ ประมาณ 500 เมตร และที่โครงการเองเค้าก็มีบริการ Shuttle Bus คอยอำนวยสะดวกลูกบ้านของโครงการอยู่แล้วด้วย ส่วนริมถนนสุขุมวิท ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ก็จะมีรถเมล์, Taxi ผ่านไปมาตลอด ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางเยอะทั้งกลางวันกลางคืนค่ะ
♦ การออกแบบโครงการและวัสดุ : ที่นี่จะเป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น ขนาดเล็ก ๆ ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีเพียง 79 ยูนิต และ รอบ ๆ โครงการก็เป็นโซนที่อยู่อาศัยของบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน แต่ในขณะเดียวกันก็อยู่ใจกลางเมือง ที่นี่ค่อนข้างตอบโจทย์เลยค่ะ
ส่วนการออกแบบตัวอาคารมีความสวยงาม โดดเด่น ทันสมัย ในสไตล์ Modern Luxury Loft โดยจะใช้โทนสีเทาเข้ม และเทาอ่อนสลับกันไปมา เพิ่มมิติให้ตัวอาคารดูมีลูกเล่น ไม่เรียบเฉยจนเกินไปด้วย Façade ลวดลายวงกลม ที่ปั๊มด้วยโมลด์ลงบนผนัง Precast ที่หน้าต่างของพื้นที่ส่วนกลาง จะมีการเพิ่มเส้นสายที่โค้งมนด้วยเฟรมอะลูมิเนียมสีเทา โครงการนี้คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ประมาณปี 2566
ในส่วนของห้องพักมีให้เลือก 3 แบบ ทั้งแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 25-34 ตร.ม. โดยห้องที่ขายหลัก ๆ ก็จะเป็น 2 แบบห้องตัวอย่าง ที่เราได้พาไปชมกัน โดยจะขายห้องให้แบบ Fully Furnished By SB Furniture โดยจะได้ประตูห้องพักแบบ Digital Door Lock 2 ระบบ ของ Kaadas พร้อมแอร์ Wall Type 1-2 เครื่อง* (แล้วแต่ขนาดห้องพัก)
รวมถึงเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน-ลอยตัว ที่ออกแบบพิเศษให้เข้ากับ Lay Out ของห้องพัก เพื่อการใช้งานที่สะดวก ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พร้อมชุดเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์ + เตาไฟฟ้า 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานของ Tecno + ให้ครบทุกห้อง
ไฟภายในห้องเป็นโคม LED Panel ทั้งหมด พื้นห้องชุดเป็น SPC แบบ Click Lock ความหนา 4 มม. พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกเล่นลายสวยงาม ห้องน้ำได้ฟังก์ชันครบ มีการแยกส่วนแห้ง และกั้น Shower Box กระจกนิรภัยในส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ + โถสุขภัณฑ์ของ Kohler ทั้งหมด
♦ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : มีให้ครบครัน และ ให้มาเยอะมาก ๆ เมื่อเทียบเท่ากับโครงการ Low-Rise ในย่านนี้ ด้านหน้าโครงการจะจัดมาให้เต็ม 3 ชั้น ทั้ง Double Volume Lobby, Co-Working Space ที่มีห้องแยกย่อยต่าง ๆ ออกมาอีกเยอะ
พร้อมบริการ Wifi ฟรี มีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 15 x 5 เมตร, Sky Sunken + Mini Bar, Fitness เครื่องเล่นครบครัน เปิดรับมุมมองได้กว้าง พร้อม Onsen และห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิง รวมถึงมีตู้ส่งสินค้าอัจฉริยะติดตั้งเอาไว้ให้ในพื้นที่ส่วนกลางอีกด้วย
ในส่วนของที่จอดรถ จะอยู่ที่ชั้น 1 ใต้อาคาร เป็นที่จอดรถแบบไม่ประจำ คิดเป็น 37% หรือ 30 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น จำนวน 1 ตัว เข้า-ออกลิฟต์โดยสาร และอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Key Card เพื่อความปลอดภัย ติดตั้งกล้อง CCTV ตามชั้น และจุดสำคัญต่าง ๆ พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 083-4495551 หรือ LINE@: @thecoopers64
Website : https://bit.ly/3277g75
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
คอนโด บางแค การ์เด้น วิลล์
คอนโด FLEXI รัตนาธิเบศร์
คอนโด FLEXI สาทร-เจริญนคร
คอนโด โคโค่ พาร์ค พระราม 4
คอนโด คัลเจอร์ จุฬา
คอนโด คัลเจอร์ ทองหล่อ
คอนโด THE COOPERS สุขุมวิท 64
คอนโด The Crest Park Residences
คอนโด Metris District Ladprao
คอนโด เอสเซ็นท์ วิลล์ อยุธยา
คอนโด ASPIRE รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน
ดิ อินดี๊ด คอนโด เออร์เบิน ศรีราชา
คอนโด ออริจิ้น เพรสทีจ ทองหล่อ
คอนโด ออริจิ้น คอร์ทยาร์ด ทองหล่อ
คอนโด แอสปาย ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์
แสดงความคิดเห็น