Written by Gift Pannida
สวัสดีผู้อ่าน CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะขอพาไปชมโครงการคอนโดหรูบนทำเลที่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองแบบสุดๆ กับโครงการ “The Issara Sathorn” จาก Charn Issara Development Public CO., LTD. โดยที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนจันทน์ ห่างจากแยกจันทน์ – นราธิวาส 350 ม. เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนเส้นสำคัญหลายสาย เข้าสาทร สีลม ได้ในระยะเดินทางสั้นๆ และยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนศรีรัช
นอกจากนั้นยังอยู่ไม่ไกลจาก รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรี, ใกล้ BRT ถนนจันทร์ ในระยะ 700 ม. และ BTS สายสีเทา สถานีนางลิ้นจี่ 350 ม. (สถานีในอนาคต)
ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมาย มีห้างสรรพสินค้า และ Community Mall เช่น Central Rama 3, The Up Rama 3, The Market Place,
ใกล้อาคารสำนักงานชั้นนำโซนรัชดา – นราธิวาส – สาทร, โรงพยาบาล เช่น รพ.เซนต์หลุยส์ รพ.บีเอนเอช รพ.เลิดสิน และสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น รร.กรุงเทพคริสเตียน รร.เซนโยเซฟคอนแวนต์ เป็นต้น
The Issara Sathorn เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1-2-60 ไร่ มีห้องให้เลือก 6 รูปแบบ คือ
ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม. ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมแอร์คอนซีล และ Home Automation คาดว่าทางโครงการจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2565
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ The Park, The Lounge, Reception, ห้องจดหมาย, OTW, Store Me, The Sky Gym, The Game, The Space, The Water, The Therapy, The Herb, Active Sky & The Horizon, Steam Room แยกชาย – หญิง
พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., Automatic Parking 100%, EV Charger 2 ช่องจอด, เข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card, Smart Locker ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
ชื่อโครงการ | The Issara Sathorn ดิ อิสสระ สาทร |
เจ้าของโครงการ | บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CI) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1 – 2 – 60 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 37 ชั้น |
จำนวนห้อง | 270 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | Automatic Parking 100% + EV Charger 2 ช่องจอด |
จำนวนลิฟต์ | 6 ตัว |
โซน | ถนนจันทน์ – สาทร |
ขนส่งสาธารณะ |
|
ที่ตั้ง | ถนนจันทน์ แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120 |
กำหนดการ | พร้อมเข้าชมห้องตัวอย่าง |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปลายปี 2565 |
ราคา | เริ่มต้น 4.99 ล้านบาท (มี.ค.63) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 160,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | ▪ The Park ▪ The Lounge ▪ Reception ▪ ห้องจดหมาย ▪ OTW ▪ Store Me ▪ The Sky Gym ▪ The Game ▪ The Space ▪ The Water ▪ The Therapy ▪ The Herb ▪ Active Sky & The Horizon ▪ Steam Room แยกชาย – หญิง ▪ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ▪ Automatic Parking 100% ▪ EV Charger 2 ช่องจอด ▪ เข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card, Smart Locker |
จุดเด่นของโครงการ | “ดิ อิสสระ สาทร” The Issara Sathorn ออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สร้างความแตกต่างให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนจันทน์ แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120
พิกัด : 13.709269, 100.540488
โครงการ The Issara Sathorn ตั้งอยู่ติดถนนจันทน์ ฝั่งมุ่งหน้าถนนนางลิ้นจี่ ห่างจากแยกจันทน์ – นราธิวาส ประมาณ 350 ม. สภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆโครงการจะมีอาคารสำนักงานอยู่เยอะ โดยเฉพาะช่วงใกล้แยกจันทน์ – นราธิวาส มีพนักงานบริษัทเยอะ ทำให้ในระยะเดินมีร้านสะดวกซื้อและซุ้มร้านอาหารราคาย่อมเยาอยู่พอสมควร หาของกินค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะช่วงเที่ยงและบ่าย
ส่วนบรรยากาศโดยรวมใกล้ๆโครงการยังมีความสงบ ไม่พลุกพล่านมาก เพราะที่ดินติดโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และร้านอาหาร รวมถึงระยะจากถนนถึงตัวอาคาร ก็จะช่วยให้ภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่อาศัย
สำหรับทำเลบนถนนจันทน์ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทอง ที่เชื่อมต่อย่านธุรกิจชั้นในที่สำคัญอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ อย่างโซนสาทรและสีลม ใกล้ออฟฟิศและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ของบริษัทชั้นนำต่างชาติ, โรงแรมระดับห้าดาว, สำนักงานใหญ่ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ, สถานฑูต, สถาบันทางวัฒนธรรม ศูนย์การค้า รวมถึงโรงเรียนชั้นนำของประเทศ
นอกจากจะอยู่ใกล้แหล่งงานแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมไปถึงการเดินทางก็สามารถทำได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือการใช้รถสาธารณะ เพราะอยู่ใกล้ทั้งรถไฟฟ้า, ท่าเรือ และทางด่วนอีกหลายจุดค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ ตัวโครงการตั้งอยู่ในเมือง การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกอยู่แล้วค่ะ โดยตัวโครงการติดถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อ ถนนนางลิ้นจี่, ถนนเย็นอากาศ, ถนนนราธิวาส ยาวไปถึงถนนเจริญราษฎร์ และถนนเจริญกรุง วิ่งไปทางถนนพระราม 4 หรือไปฝั่งธนฯก็สะดวก
แต่หลักๆสำหรับคนที่ทำงานในย่านสาทร – สีลม ก็ใช้ถนนนราธิวาสฯ เป็นถนนเส้นหลักในการเดินทาง เนื่องจากเป็นถนนเส้นที่ตัดผ่านตั้งแต่ ถนนพระราม 3, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนจันทน์, ถนนสาทร, ถนนสีลม และ ถนนสุรวงศ์ ทำให้ถนนเหล่านี้สามารถเดินทางเชื่อมถึงกันได้สะดวก
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนหลักอีก 2 สาย ทั้งทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ทำงานในย่านนี้ต้องพึ่งพาทางด่วนกันอยู่แล้วเพราะการจราจรช่วง Rush Hour นั้นติดขัดแน่นอนค่ะ
ทางด่วน จากตัวโครงการจะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครมากที่สุดค่ะ สำหรับฝั่งนี้สามารถใช้ไปทางสุขุมวิท ลงไปทางบางนา หรือ ขึ้นไปวิภาวดี – รังสิตได้ โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.7 กม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 5 – 10 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วนค่ะ
และอีกฝั่งนึงสามารถใช้ลงไปทางพระราม 2 หรือเชื่อมกับทางพิเศษศรีรัชเพื่อขึ้นไปทางพระราม 1 ได้เช่นกัน โดยจะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3 กม. หรือขับรถประมาณ 5 – 10 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วนค่ะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีหลายตัวเลือกให้เลือกใช้ โดยตัวเลือกหลักๆในการเดินทางด้วยรถสาธารณะจากตัวโครงการจะเป็น Taxi ที่จะมีวิ่งผ่านหน้าโครงการตลอด และพี่วินตรงหน้าอาคาร TPI Tower ค่ะ ส่วนรถเมล์จะมีป้ายห่างจากโครงการประมาณ 100 – 200 ม. มีรถสาย 22 และ 62 วิ่งผ่าน หรือจะเรียกใช้ Grab Taxi หรือ Line Taxi ผ่าน Application ก็หารถง่ายค่ะ
สำหรับระบบราง ปัจจุบันตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BRT สถานีถนนจันทน์มากที่สุด ในระยะเดินจะอยู่ที่ 700 ม. จากหน้าโครงการซึ่งเป็นระยะที่พอจะเดินได้อยู่ นั่งไปเพียง 3 สถานี จะสามารถไปเชื่อมกับ BTS สถานีช่องนนทรีได้
และในอนาคตบนเส้นสาทรเองก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งผ่าน จากเส้นพระราม 4 ตัดเข้าสาทร และเส้นนราธิวาสฯ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีนางลิ้นจี่ ซึ่งตัวสถานีจะอยู่ตรงแยกจันทน์ – นราธิวาสนี้เอง ห่างจากโครงการ 350 ม. ก็เดินมาใช้งานได้สบายๆค่ะค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะเดินจากโครงการจะมีทั้งร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ ให้ใช้ชีวิตประจำวันได้สบายๆ เพราะอย่างที่บอกว่าแถวนี้มีอาคารสำนักงานเยอะ เลยมีอาหารการกินมารองรับความต้องการเยอะตามไปด้วย โดยติดกับโครงการจะมีร้านอาหารครัวสาทร เดินไปอีกไม่ไกลมีคาเฟ่ขายทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่อาคารจันทน์สเปซ และตรงใกล้ๆตึก TPI จะมีตลาดนัดเล็กๆ ขายอาหารพร้อมทาน และผลไม้ ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ และมี 7-11 ด้วย เดินไปไม่เกิน 350 ม. ค่ะ
ถัดไปอีกตรงบริเวณทางขึ้น BRT ถนนจันทน์ก็มีร้าน Arno เป็นร้านของคนสายเนื้อเลย หรือตรงแยกจันทน์ – นราธิวาสก็จะมีร้านข้าวหน้าไก่ – ก๋วยเตี๋ยวไก่ ให้ Portion มาใหญ่ในราคาที่ไม่แรง เราสามารถเดินจากตัวโครงการไปได้ไม่ยาก
(ที่มาภาพ : http://www.siamfuture.com)
อีกทั้งยังมี Community Mall และมี The Market Place นางลิ้นจี่ ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 400 เมตร เป็นศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเส้นนางลิ้นจี่แล้วค่ะ ภายในจะมีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต, คาเฟ่, ร้านอาหาร, ธนาคาร และสถาบันกวดวิชา เปิดให้บริการ เป็นจุดความอุดมสมบูรณ์หนึ่งที่ลูกบ้านสามารถเดินทางไปได้สะดวกมากๆ แต่ถ้าใครอยากจะซื้อของใช้เข้าบ้านจิปาถะใน Hypermarket ใหญ่ๆ หน่อยก็จะมี Makro สาทร บนถนนนราธิวาสฯ ให้ไปจับจ่ายใช้สอยได้
(ที่มาภาพ : https://www.brandbuffet.in.th)
ขยับไปทางฝั่งรัชดาฯ ก็จะมี Central พระราม 3 ขนาดห้างกำลังพอดี ของเยอะ และเดินได้ง่าย ใกล้ๆ กันเลยก็มี The Up พระราม 3 เป็นอีก 1 ตัวเลือก และที่ฝั่งตรงข้ามเองก็จะมี Tesco Lotus พระราม 3 ซึ่งบริเวณนี้จะมีการจราจรที่คล่องตัวกว่า CBD ชั้นในเยอะค่ะ
ส่วนโรงพยาบาลในระยะใกล้อุ่นใจจะมีทั้ง รพ.เลิดสิน, รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.บีเอนเอช, รพ.กรุงเทพคริสเตียน และ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ และสถานศึกษาโดยรอบของโซนนี้ เด่นๆ เลยจะเป็นโรงเรียนในเครืออัสสัมชัน ตั้งแต่อัสสัมชันประถม จนถึงอัสสัมชัญ พาณิชยการ และโรงเรียนดังๆ อื่นๆ ก็มีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็น รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนหลุยส์, รร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์, รร.สารสาสน์เอกตรา และ รร.สารสาสน์พิทยา ระดับอินเตอร์ก็มีนะคะ ใกล้ รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่ กรุงเทพ และ รร.นานาชาติสาทรใหม่ (NSIS)
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อื่นๆ
การเดินทาง
การเดินทาง ในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนนราธิวาสฯ มุ่งหน้าถนนพระราม 3 เข้าถนนจันทน์ และขับต่อไป 350 ม. จะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือ
สรุปการเดินทาง ถนนนราธิวาสฯ > แยกสาทรใต้ > ถนนจันทน์ > The Issara Sathorn
เริ่มการเดินทางกันบนถนนนราธิวาสฯ มุ่งหน้าถนนพระราม 3 ผ่าน BTS ช่องนนทรี
ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ตามป้ายถนนจันทน์
ผ่านแยกสาทร – นราธิวาส เราขับตรงผ่านแยกไปค่ะ
ขับมาเรื่อยๆ จะเริ่มเห็นป้าย Billboard ของโครงการทางซ้ายมือ
ผ่าน BRT เทคนิคกรุงเทพ
ถัดมาจะผ่าน ม.เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ไม่ไกลจะผ่าน Makro ทางขวามือ
เห็นป้ายเข้าถนนนางลิ้นจี่ ให้ชิดซ้าย
เลี้ยวเข้าถนนจันทน์
ขับตรงต่อมาประมาณ 350 ม. จะถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือแล้วค่า
ตัวอาคารจะดีไซน์มาเป็นกล่องๆ สไตล์มินิมอล ด้านหน้าเป็นต้นไทรดั้งเดิม ต้นใหญ่ แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงากว้างมาก ซึ่งต้นนี้ทางโครงการจะเก็บไว้ในพื้นที่โครงการด้วยค่ะ
ด้านหน้าสำนักงานขายจะมีป้ายชื่อโครงการชัดเจน สังเกตเห็นง่าย
เข้ามาภายในสำนักงานขายจะตกแต่งมาในโทนไม้ๆ พื้นที่ตรงกลางจัดวางโมเดลให้ชมได้สะดวก
ฝั่งซ้ายมือมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ และโซฟานั่งรับรองสำหรับผู้ที่เข้ามาชมโครงการ
รอบๆโครงการ
สภาพแวดล้อมของถนนจันทน์ช่วงตั้งแต่แยกจันทน์ – นราธิวาส จะมีความเป็นโซนที่พักอาศัยรวมๆกับอาคารสำนักงาน บรรยากาศรอบๆเลยมีความคึกคักประมาณนึง แต่ยังไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการอยู่อาศัยค่ะ
มาลองเดินดูบรรยากาศรอบๆโครงการกันค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการติดถนนจันทน์ ฝั่งตรงข้ามเป็นปั๊มแก๊ส NGV
เราลองเดินไปดูบรรยากาศทางฝั่งมุ่งหน้าถนนนางลิ้นจี่กันก่อน
ติดกับโครงการ จะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ถัดมาเป็นศูนย์เช่ารถ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว สูง 5 ชั้น และถ้าเราข้ามถนนนางลิ้นจี่ไปก็จะถึง Market Place
กลับมาทางฝั่งขวามือของโครงการ เดินย้อนไปทางแยกจันทน์ – นราธิวาส บรรยากาศริมฟุตบาทดูร่มรื่น เดินสะดวก
ติดกับโครงการเป็นร้านครัวสาธร เดินออกมาทานได้สบายๆ
ถัดมาเป็นอาคารอินทราแมกซ์
และคอนโด สูง 10 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นศูนย์รับล้างรถ
ถัดมาเป็นอาคารอินทราแมกซ์ ด้านในมีคาเฟ่ ขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม
ขยับมาจะเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น
เดินต่อมาอีกประมาณ 100 ม. จะมีตลาดนัดตอนกลางวัน ขายอาหารพร้อมทาน ราคาย่อมเยา
ติดกันมีโรงพยาบาลสัตว์ และ 7-11
ถัดมาเป็นอาคาร TPI Tower
ตัวโครงการ
โครงการ The Issara Sathorn เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัยเพียงแค่ 270 ยูนิต เท่านั้น บนที่ดิน 1 – 2 – 60 ไร่
การออกแบบโครงการมาในคอนเซปต์ “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” โดยการออกแบบภายในตัวอาคารจะเน้นพื้นที่สีเขียว กระจายไว้ตามส่วนต่างๆ ของอาคาร ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้า, สวนที่ชั้น 30, 34, Rooftop 1 และ Rooftop 2 ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
ตัวอาคารไล่โทนเฉดสีของไม้ และสีขาว ทั้งหมด 4 โทน ทำให้ภาพรวมตัวอาคารเกิดความเป็นธรรมชาติ และยังมีการใช้ ฟิน (Fin) มาผสมผสานในการออกแบบเพื่อช่วยในการบังแสงแดด ลดความร้อน และช่วยประหยัดพลังงานโดยที่ไม่บดบังทัศนียภาพนอกอาคารค่ะ
มาดูแปลนของตัวอาคารกันบ้าง เริ่ม Master Plan จะมีทางเข้าออกทางเดียว ติดถนนจันทน์ โดยประตูทางเข้าจะร่นเข้ามาจากถนนพอสมควร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และประตูทางเข้าจะมีป้อม รปภ. ช่วยคัดกรองอีกชั้น
พอเข้ามาในโครงการแล้ว พื้นที่ด้านหน้าโครงการจะจัดเป็นสวน The Park ซึ่งภายในสวนจะจัดที่นั่งพักผ่อน , สนามเด็กเล่น และลงต้นไม้มาให้บรรยากาศที่ร่มรื่น และที่สำคัญคือที่ดินตรงนี้จะมีต้นไทรดั้งเดิมขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาเต็มที่ ซึ่งถือเป็นของ Rare โดยเฉพาะโครงการในเมืองแบบนี้ค่ะ
มาที่ตัวอาคาร จะมีระยะ Set Back เข้ามาจากถนนประมาณ 25 ม. ที่จอดรถเป็นแบบ Automatic Parking 100% โดยจะมีลิฟต์จอดรถทั้งหมด 3 ตัว เวลาที่ใช้ในการนำรถขึ้น หรือลง ประมาณ 3 นาที/คัน โดยที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 2 – 9 ค่ะ
ส่วนฟังก์ชั่นภายในตัวอาคาร ส่วนแรกจะเป็น The Lounge คือ Lobby โถงส่วนกลางเชื่อมระหว่าง Drop off, Reception, ห้องจดหมาย, โถงลิฟต์ และ OTW พื้นที่รอรถขณะเรียกจากระบบ Auto Parking
ภาพรวมด้านหน้าอาคาร ฝั่งถนนจันทน์
ภาพรวมตัวอาคารทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาพรวมอาคารทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ภาพรวมอาคารทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้
พื้นที่ด้านหน้าโครงการ ติดถนนจันทน์ จะมีสวนอยู่ติดกับรั้วฝั่งฟุตบาท ส่วนประตูทางเข้าโครงการจะร่นระยะเข้าไปพอสมควร
บริเวณส่วน Drop Off จะเป็นพื้นที่ในร่ม เวลาฝนตกก็ยังสามารถเข้า – ออก อาคารได้สะดวก
ลิฟต์จอดรถจะมีทั้งหมด 3 ตัว แบ่งรอบๆอาคาร ฝั่งละตัว
บรรยากาศใน The Park ร่มรื่น ดูอบอุ่น ธรรมชาติ เพราะมีต้นไทรต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านในร่มเงา
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณด้านหน้าอาคารชั้น 1 วิวจากสวน The Park มองไปตรงส่วน Lobby ที่เป็นโถงฝ้าเพดานสูง ผนังกระจก จึงสามารถมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งมาโดยใช้โทนสีที่ดูสะอาดตา แนว Earth Tone ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่หวือหวา
ภายในโถง OTW เป็นพื้นที่นั่งรอรับรถจากระบบ Automatic Parking
ขึ้นมาที่ชั้น 10 – 28 จะเป็นชั้นพักอาศัย Typical Floor Plan ชั้นละ 13 ยูนิต มีห้องแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms โดยการวางห้องจะเป็นแบบ Single Corridor ห้องเกือบทั้งหมดจะไม่หันหน้าชนกัน มีห้องที่ประตูใกล้กันบ้าง เป็นห้องมุม 3 ยูนิต และมีห้องที่เปิดมาเจอฝั่งตรงข้าม 1 ยูนิต คือห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom มุมฝั่งทิศเหนือค่ะ
ชั้น 29 จะวางผังเหมือนที่ชั้น 28 เลยค่ะ แต่จะมีห้องบางส่วนที่เสียพื้นที่ให้งานระบบของสระว่ายน้ำที่ชั้น 30 เพราะฉะนั้นชั้นนี้จะเหลือแค่ 7 ยูนิต
ชั้น 30 The Haven เป็นชั้นส่วนกลางหลัก ทั้งชั้นจะไม่มียูนิตพักอาศัยค่ะ โดยฟังก์ชันที่ชั้นนี้จะประกอบไปด้วย The Sky Gym ฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, The Game, The Space ห้องทำงาน Co – Working Space, The Water สระว่ายน้ำ ขนาด 5 x 22 เมตร และ The Therapy เป็นสระ Wellness Pool ที่เป็นสระน้ำร้อนวารีบำบัด
โดยที่ทั้ง 2 สระมีหัวนวดในรูปแบบต่างๆ ที่สามารถใช้ในการนวดตัวช่วยผ่อนคลายส่วนต่างๆ ของร่างกาย สระว่ายน้ำได้ถูกวางในแนวยาวของอาคารทำให้สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งวิวเมืองและวิวบางกะเจ้า
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียว The Green เป็นสวนหย่อม Outdoor พร้อมจัดพื้นที่นั่งพักผ่อนเพื่อชมวิวเมืองโดยรอบ
สลับมาดูโมเดลชั้น 30 ฝั่งที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นสระว่ายน้ำ และ The Therapy
อีกฝั่งเป็นฟังก์ชัน ห้องฟิตเนส, The Game และ Co – Working Space
บรรยากาศภายในห้อง The Space ห้องทำงานฝ้าเพดานสูงโปร่ง บรรยากาศอบอุ่น
The Water เป็นสระว่ายน้ำ Semi Outdoor ไม่ต้องกลัวแดดจัด ตัวสระเป็นแนวยาว ตรง ว่ายออกกำลังกายได้เลยค่ะ
The Therapy สำหรับผ่อนคลาย อยู่ติดกับ The Green ที่เป็นสวนหย่อมพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน พอว่ายน้ำเสร็จก็สามารถไปนอนชมวิวตอนเย็นๆได้ หรือใครชอบผิวแทน จะไปนอนอาบแดดก็ได้ค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง The Sky Gym จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แบ่งพื้นที่กับห้อง The Game
แปลนชั้น 31 – 33 เป็นชั้นพักอาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีก เพราะมีชั้นละ 7 ยูนิตเท่านั้น และลิฟต์โดยสารจะลดลงมาเป็น 2 ตัว (High Zone) โดยแบบห้องที่ชั้นนี้เพิ่มห้องแบบ 3 Bedrooms ที่เหมาะกับอยู่เป็นครอบครัวขนาดเล็กมากขึ้น
แปลนชั้น 34 จะเป็นชั้น Penthouse มีแค่ 2 ยูนิต และแบ่งพื้นที่เป็นสวน The View เลยเหมือนได้สวนส่วนตัวไปด้วยเลย แต่ลูกบ้านชั้นอื่นก็สามารถขึ้นมาใช้งานได้นะคะ
ภาพจำลองบรรยากาศ The View จัดมุมนอนชมวิวบนชั้นสูง มองเห็นเจ้าพระยายาวไปถึงบางกระเจ้า
แปลนชั้น 35 – 37 เป็นชั้น Penthouse ทั้งหมด มีชั้นละ 2 ยูนิต
ชั้น Rooftop 1 เป็นพื้นที่สวนปลูกพืชผักสวนครัว ดูแลโดยนิติบุคคล ลูกบ้านสามารถขึ้นมาหยิบไปใช้ประกอบอาหารได้
ชั้น Rooftop 2 ชั้นสูงสุดของโครงการ จัดเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งให้ค่ะ โดยจะแบ่งเป็น The Active Sky และ พื้นที่สีเขียว The Horizon
บรรยากาศใน The Active Sky จัดโซนแบ่งช่องสีสดใส ให้เล่นได้หลากหลายกิจกรรม ทั้งลู่วิ่งกลับตัว, Box jump, ทางวิ่งขึ้นเนิน แล้วแต่โปรแกรมฝึกของเราเลย
แบบห้อง
มีห้องทั้งหมด 6 แบบ คือ
โดยการออกแบบห้องของโครงการนี้จะเน้นความโล่งกว้าง ทุกห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะได้ช่องแสง ช่วยให้ห้องอยู่สบาย เหมาะกับการอยู่อาศัยจริงค่ะ
ส่วนตัวห้องจะขายแบบ Fully Fitted ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม. (Penthouse ฝ้าเพดานสูง 3.125 ม.) โดยของที่ได้ในห้องจะมีชุดครัวครบชุด พร้อม Hob & Hood, สุขภัณฑ์ และ เครื่องปรับอากาศแบบ Conceal (แบบฝังฝ้า)
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมในวันนี้ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 37.21 ตร.ม.
แปลนห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมไปยังพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องอเนกประสงค์ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดกับพื้นที่ครัวตรงนี้มีประโยชน์สำหรับคนที่มีเพื่อนๆมาเยี่ยมบ่อยหน่อย เวลาเพื่อนจะใช้ห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินผ่านเข้าห้องนอน และส่วนห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นค่ะ
มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันเลย เริ่มที่ประตูทางเข้าห้อง หน้าบานเป็นบานทึบ ปิดผิวลายไม้ มีติดตั้งตาแมวมาให้ โดยตำแหน่งติดตั้งจะอยู่ตรงกับ Digital Door Lock ไม่ติดตั้งไว้ตรงกลางบานประตูเหมือนโครงการทั่วๆไป คิดว่าน่าจะทำให้ส่องและใช้งานได้ง่ายขึ้น
Digital Door Lock ใช้ของ Samsung ใช้ระบบ Key Card, Password
เข้ามาภายในห้องจะเจอพื้นที่โถงโล่งๆ ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 ม. พื้นห้องปู Stone Plastic Composite (นวัตกรรมใหม่เป็นผงหิน ผสมพลาสติก มาตรฐานฝรั่งเศส)
หลังบานประตูติดตั้งตัว Stopper กันกระแทกมาให้ ส่วนตู้ด้านหลังไม่ได้มีมาให้นะ แต่ก็จะเห็นว่าเรามีพื้นที่ให้ติดตั้งชั้นวางรองเท้าเพิ่มได้
ภาพรวมในพื้นที่ส่วนแรกของห้องเป็นครัวเปิด เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารจริงจังมากเท่าไหร่ แต่ขนาดครัวก็พอให้ใช้งานได้สะดวก ไม่เล็กเกินไปค่ะ
ชุดครัวจะได้มาตามนี้เลย ครบชุด ทั้งเคาน์เตอร์ครัว, ตู้ลอย, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Teka ยกเว้นตู้เย็นกับเครื่องซักผ้า ไม่ได้มีมาให้นะ
Top เคาน์เตอร์ครัวหิน Quatz สีขาว ติดตั้งซิ้งค์ล้างจาน Teka และเตาไฟฟ้ามาให้พร้อมใช้งาน และยังมีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้ หรือพักจานได้พอดีๆ ส่วนผนังด้านหลังก็ติด Backsplash มาให้ จะได้เช็ดล้างง่ายค่ะ
ส่วนด้านล่างจะแบ่งเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า และตู้เก็บของ/ลิ้นชักตามภาพ
ซิ้งค์ล้างจานขนาดค่อนข้างกว้าง วางจาน/ชา หรือ หม้อ/กระทะ ขนาดกลางๆได้ ส่วนเตาไฟฟ้า 2 หัว ใช้ของ Teka
ตู้ลอยชั้นบนแบ่งเป็นช่องเก็บของและตู้เก็บของตามนี้ หน้าบาน Hi Gloss และบานเปิด Soft Close ทั้งหมด
พื้นที่สำหรับยืนทำอาหารกว้าง เปิดใช้งานตู้และลิ้นชักได้สะดวกเลยค่ะ
ติดกับพื้นที่ครัวเป็นห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปนิดหน่อยเพื่อกันน้ำกระเซ็นออกมาที่พื้นด้านนอก
ภายในห้องน้ำจะได้สเปกตามห้องตัวอย่างเลย ใช้โทนสีอ่อน ดูสะอาดตา และแยกพื้นที่ส่วนแห้งและเปียกไว้ให้เรียบร้อย
สุขภัณฑ์ที่ตัดตั้งมาให้ส่วนแรกเป็นอ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ Toto ขนาดกว้าง ใช้งานได้สะดวก ติดตั้งมาให้พร้อมก๊อกน้ำเย็น
ด้านล่างมีตู้เก็บของมาให้ด้วย สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำ เช่น น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือ กระดาษชำระสำรอง ให้เป็นระเบียบได้
เหนืออ่างล้างมือ ติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่พร้อมชั้นวางของ ด้านข้างก็มีติดตั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ พร้อมฝาครอบกันน้ำ สามารถเสียบชาร์จโทรศัพท์, แปรงสีฟันไฟฟ้า หรือไดร์เป่าผม ได้
ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Dual Flush ยี่ห้อ Toto พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
พื้นที่ห้องอาบน้ำกั้นแยกมาให้เป็นสัดส่วน โดยใช้ฉากกั้นบานสไลด์ 3 ตอน กระจกนิรภัย
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ขนาดกลางๆ ปรับขนาดหยดน้ำได้ พร้อมถาดวางสบู่
พื้นที่ห้องอาบน้ำกว้าง พอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ถัดเข้ามาจากพื้นที่ครัว จะเป็นพื้นที่โถงต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่น
พื้นที่ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น สามารถจัดเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ กำลังดี
ติดกันสามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ แต่ถ้าใครไม่ใช้โต๊ะทานข้าว ก็สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ขึ้นอีกหน่อยได้
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวี ด้านหลังเจาะเป็นช่องแสง กระจกใสบานใหญ่ ที่ช่วยให้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนดูโปร่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะ Built – in ขั้นวางทีวีใหญ่ๆมาบังไว้ค่ะ
ติดกับห้องนั่งเล่น เป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะมีประตูบานสไลด์ 3 ตอน เปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งการที่ใช้บานสไลด์แบบนี้จะทำให้พื้นที่ห้องนั่งเล่น ยาวไปถึงครัว ได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงบานหลักในห้องอเนกประสงค์ด้วย
มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน พร้อมตัวล็อค
พื้นที่ในห้องอเนกประสงค์นี้สามารถจัดเป็นฟังก์ชันต่างๆ แล้วแต่เราเลย ทั้ง ห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือใครชอบมีห้องทานอาหารจริงๆจังก็สามารถจัดห้องสวยๆ นั่งทานไปมองเห็นวิวภายนอกไปด้วยได้
ช่องแสงในห้องนี้จะมีทั้ง 2 ด้านเลย เป็นหน้าต่างบานใหญ่ สูงจรดฝ้า รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเปิดระบายอากาศได้
ติดกับห้องอเนกประสงค์จะมีประตูเชื่อมออกไประเบียงภายนอก
ระเบียงจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก หลักๆคือพื้นที่ตรงนี้จะใช้เป็นจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ให้ตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้
พื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะกั้นมาให้เป็นสัดส่วน พร้อมกริลล์บังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยขึ้น
กลับเข้ามาในห้อง ให้ดูภาพรวมตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ยาวไปถึงห้องครัว
ถัดมา เราเข้ามาดูในห้องนอนกันต่อค่ะ
สำหรับพื้นที่ในห้องนอนถือว่ากว้างพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ และยังมีพื้นที่ให้ใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงควีน ถึง คิงไซส์ได้สบายๆ
พื้นที่ข้างเตียง สามารถวางโต๊ะหัวเตียง หรือจะทำชั้นวางของไว้เก็บเพิ่มได้
อีกฝั่งของห้องสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ๆได้ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
และยังมีพื้นที่ให้ยืนเลือกเสื้อผ้า แต่งตัวได้สะดวก
ฝั่งปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้สะดวก ส่วนช่องแสงด้านหลังก็สามารถเอามู่ลี่ หรือติดม่านได้ ถ้าอยากบังสายตาจากห้องนั่งเล่น เผื่อมีแขกมาเยี่ยมเยียนที่ห้องค่ะ
ราคา(มี.ค.2563)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการตั้งอยู่บนถนนจันทน์ ช่วงแยกจันทน์ – นราธิวาสฯ ถึง ถนนนางลิ้นจี่ โดยจะมีระยะห่างจากแยกจันทน์ – นราธิวาสฯ ประมาณ 350 ม. นับว่าเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบครบครัน หาของกินของใช้ง่าย ไปห้างก็ไม่ไกล สามารถเชื่อมต่อ CBD ชั้นในได้รวดเร็ว ในขณะที่บรรยากาศการอยู่อาศัยยังคงมีความสงบมากกว่า คนจะไม่หนาแน่นเท่าไหร่
เพราะบริเวณโดยรอบโครงการนั้นจะยังมีพวกบ้านพักอาศัยและอาคารในแนวราบอยู่พอสมควร แต่ยังอยู่ใกล้แหล่งงาน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม 5 ดาว โรงเรียนชื่อดัง และสถานพยาบาลนับว่าเป็นข้อดีเลยนะคะสำหรับคนที่มองหาโครงการในเมืองที่ไม่ชอบความพลุกพล่านจนเกินไป
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : สามารถเดินทางได้สะดวกเลยไม่ว่าจะเป็นขาเข้าเมืองหรือขาออกเมือง เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนจันทน์ ใกล้แยกจันทน์ – นราธิวาส ขับไปยังถนนเส้นอื่นๆ ได้ง่าย ออกไปยังโซนพระราม 4 หรือเดินทางไปยังถนนเจริญกรุง หรือข้ามสะพานตากสินไปยังฝั่งกรุงธนบุรีได้สะดวกมาก อีกทั้งยังอยู่ใกล้ทางจุดขึ้นทางด่วนถึง 2 ทางด่วนเลยด้วย
และสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายเส้น อย่างถนนนราธิวาสฯ ซึ่งเป็นถนนเส้นที่ตัดผ่านถนนพระราม 3 ถนนสาทร ถนนสีลม ไปจนถึงถนนสุรวงศ์เลย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ถึงแม้จะไม่อยู่ติดรถไฟฟ้า แต่ก็เรียกได้ว่าสะดวกสบายตามฉบับใจกลางเมือง เพราะมีตัวเลือกมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า, รถเมล์, BRT, แท็กซี่, รถสองแถว, วินมอเตอร์ไซค์ หรือจะเรียกใช้ Grab Taxi หรือ Line Taxi ผ่าน Application ก็หารถง่ายค่ะ
สำหรับระบบราง ปัจจุบันตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BRT สถานีถนนจันทน์มากที่สุด ในระยะที่พอจะเดินไปถึงตัวสถานีได้ ซึ่งนั่งไปเพียง 3 สถานี จะสามารถไปเชื่อมกับ BTS สถานีช่องนนทรีได้
และในอนาคตบนเส้นสาทรเองก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาวิ่งผ่าน จากเส้นพระราม 4 ตัดเข้าสาทร และเส้นนราธิวาสฯ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีนางลิ้นจี่ ซึ่งตัวสถานีจะอยู่ตรงแยกจันทน์ – นราธิวาสนี้เองค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวโครงการเป็นคอนโด Luxury ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีแค่ 270 ยูนิตเท่านั้น ที่ออกแบบมาในสไตล์ที่เน้นแนวธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวให้กระจายทั่วภายในโครงการ ตั้งแต่ชั้น Ground Floor ขึ้นไปจนถึง Rooftop รวมไปถึงโทนสีและบรรยากาศในการออกแบบทั้ง Interior และ Exterior ก็ใช้สีแนว Earth Tone ทำให้ Mood โครงการนี้ดูมีความเป็นธรรมชาติ อบอุ่น
ส่วนแบบห้องในโครงการนี้จะมีให้เลือกหลายแบบเลย รองรับตั้งแต่คนทำงานที่อยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัว 3 – 4 คน ก็สามารถอยู่ได้ค่ะ โดยการออกแบบของตัวห้องจะเน้นความโปร่งสบาย มีช่องแสงธรรมชาติเข้าถึงทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน เหมาะกับการอยู่อาศัยจริง
ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted ของที่ให้มาจะมีเฉพาะอุปกรณ์พื้นฐานอย่าง ชุดครัวพร้อมซิ้งค์ล้างและ Hob & Hood ยี่ห้อ Teka, ชุดสุขภัณฑ์ Toto และแอร์คอนซีล ในห้องนั่งเล่นและห้องนอน ซึ่งงานตกแต่งอื่นๆในห้องเราก็จะสามารถกำหลดได้เองหมดเลยว่าจะทำเป็นสไตล์ไหนค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ในแง่ความเพียงพอต่อการใช้งานเรียกได้ว่าเหลือๆค่ะ เพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะ ได้ที่จอดรถ 100% แบบ Automatic Parking มีที่จอด Visitor 6 คัน
พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาสวย ที่สำคัญคือสามารถมองเห็นวิวเมืองรอบๆ และวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ไปถึงบางกระเจ้าได้
และยังมีครบทุกฟังก์ชัน รองรับทั้งการใช้งานพักผ่อนหย่อนใจ, พื้นที่นั่งทำงาน, การออกกำลังกายทั้งในร่ม อย่างห้องฟิตเนสและ พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งที่ชั้น Rooftop และมีสนามเด็กเล่น เผื่อรองรับลูกๆมาใช้เวลาในสวนได้ด้วยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-308-2222 กด 1
Website : https://charnissara.com/theissarasathorn
แสดงความคิดเห็น