รีวิว เดอะ คีย์ MRT เพชรเกษม 48 / The Key MRT Phetkasem 48
Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
วันนี้ทีมงาน Condonayoo จะพาไปชมโครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 จาก Land & Houses คอนโดพร้อมอยู่ ทำเลศักยภาพย่านฝั่งธนฯ ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า และ ติด MRT สถานีเพชรเกษม 48
นั่งต่อไป 1 สถานี ถึง Interchange ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS บางหว้าได้ ใช้นั่งเข้าเมืองไป CBD สาทร-สีลม-สุขุมวิท ได้เพียงไม่กี่นาที* หรือ จะใช้นั่งไปเรียน ไปเดินเล่นห้างใหญ่ ๆ ใจกลางเมืองตามแนวรถไฟฟ้าได้สบาย ๆ เพียงไม่กี่สถานี*
รอบ ๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า, สถานศึกษา และ โรงพยาบาลชั้นนำ เช่น Seacon บางแค, The Mall บางแค, Lotus บางแค, ม.สยาม, รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี, รร.นานาชาติ SISB Thonburi และ รพ.พญาไท 3 เป็นต้น
เดอะ คีย์ MRT เพชรเกษม 48 เป็นคอนโด High-Rise 30 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 3-3-16 ไร่ ห้องพักอาศัยจำนวน 639 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ 1 Bedroom ขนาด 27.8-28.5 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 48.1-51.2 ตร.ม.
จุดเด่นของโครงการที่นอกจากเรื่องของทำเลแล้ว ยังเด่นในเรืองของ Real Living-Centric Design ที่ออกแบบอย่างเข้าใจคนอาศัย เช่น ห้องพักหันทิศเหนือ-ใต้ เพื่อรับลม-หลบแสงแแดด
มีระบบ AirPass นวัตกรรมการถ่ายเทอากาศ ช่วยเติมอากาศใหม่ให้ห้องพัก, หันหัวเตียงนอนทุกห้อง หลบทิศตะวันตก ตามหลักฮวงจุ้ย และ จัดวางเฟอร์ฯได้ลงตัว แบบไม่มีเหลี่ยมเสามากีดขวาง
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby Lounge, Mailbox, Meeting Room, Co-Working Space, Game Room, Smart Locker, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 30 เมตร, สระว่ายน้ำเด็ก, Fitness, Oasis Garden, Key Card Access & CCTV และ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
โปรโมชันพิเศษ ! ซื้อดีกว่าเช่า…ยกกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท* ผ่อนเพียง 8,000 บาท/เดือน* (มิ.ย.64)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://thekey48.lh.co.th/
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร : 1198
สำหรับรายละเอียดโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง ติดตามกันต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
คอนโด The Key ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Key สาทร-เจริญราษฎร์
The Key พระราม 3
The Key สาทร-ราชพฤกษ์
The Key วุฒากาศ
The Key MRT เพชรเกษม 48
The Key อุดมสุข
The Key พหลโยธิน 34
The Key แจ้งวัฒนะ
The Key ประชาชื่น
ชื่อโครงการ | เดอะ คีย์ MRT เพชรเกษม 48 / The Key MRT Phetkasem 48 |
เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-3-16 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 30 ชั้น |
จำนวนห้อง | 639 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 46% (รวมจอดซ้อนคัน) |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เพชรเกษม-บางแค |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ติดถนนเพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 46/2 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ เม.ย. 2564 |
ราคา | เริ่มต้น 2.59 ล้านบาท* (มิ.ย.64) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 96,000 บาท/ตร.ม.* (มิ.ย.64) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
หน่วยงานอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | The Key MRT เพชรเกษม 48 คอนโดพร้อมอยู่ โครงการคุณภาพจาก Land & House ติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก เพียงต่อเดียวเข้าสู่ใจกลางเมืองสีลม-สุขุมวิท |
ที่ตั้งโครงการ
ติดถนนเพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 46/2 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม.
โครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ โครงการคุณภาพจาก Land & Houses บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า และ ติด MRT สถานีเพชรเกษม 48 เดินทางได้สะดวกสบาย แบบไร้รอยต่อ มุ่งตรงสู่ใจกลางเมือง CBD สีลม-สาทร ได้เพียง 15 นาที*
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างครบครัน ใกล้ร้านอาหารชื่อดังในย่านเพชรเกษมอย่าง ร้านข้าวขาหมูบางหว้า ใกล้ห้างชั้นนำย่านฝั่งธนฯ อย่าง Seacon บางแค และ The Mall บางแค รวมถึงอยู่ใกล้กับ ม.สยาม เพียงแค่ 850 เมตร และ รพ.พญาไท 3 ที่เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำบนเส้นเพชรเกษม เพียงแค่ 2.2 กม. เท่านั้นค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : โครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 เป็นทำเลที่คนใช้รถไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า ทำให้ขับรถเข้าเมืองได้สะดวก โดยไม่ต้องกลับรถ
สามารถขึ้นทางต่างระดับเพชรเกษม มุ่งหน้าไปถนนราชพฤกษ์, ถนนกรุงธนบุรี วิ่งข้ามสะพานตากสินไปลง CBD สีลม-สาทรได้เลย ขับต่อไปอีกหน่อย ก็จะเชื่อมกับสามย่าน, จุฬาฯ, พระราม 4 และ ใช้วิ่งออกไปถนนวิทยุ, ราชดำริ, ชิดลมได้
หากต้องการเดินทางไปโซนพระนคร ก็ใช้ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า วิ่งตรงยาวไปวงเวียนใหญ่ มุ่งหน้าไปประชาธิปก, อรุณอัมรินทร์, ปากคลองตลาด, สำเพ็ง, พาหุรัด, เยาวราช, เจริญกรุงได้
ส่วนการเดินทางออกไปนอกเมือง หรือ โซนปริมณฑล ก็เพียงกลับรถไปถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออก จะเชื่อมไปหนองแขม ออกไปกระทุ่มแบน, สมุทรสาคร และ นครปฐมได้แบบไม่ซับซ้อน หรือจะวิ่งขึ้นเหนือไปถนนบรมราชชนนี หรือลงใต้ไปถนนพระราม 2 ก็ทำได้อย่างสะดวกสบายมาก ๆ
นอกจากเส้นทางปกติแล้วทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็น ทางพิเศษศรีรัช ที่ห่างจากตัวโครงการ ประมาณ 10.2 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 11 นาที* และมีถนนกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก ให้ได้ใช้เดินทางกัน ซึ่งจะอยู่ห่างจากตัวโครงการ เพียง 4.5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที* เท่านั้น
ส่วนคนที่ทำงานในเมือง หรือ CBD ชั้นในอย่างสีลม และสาทร จากโครงการจะอยู่ห่างออกไปในระยะขับรถ ประมาณ 10-15 นาที* ถ้าไม่เจอรถติด ปัจจุบันคอนโดโซนสีลม-สาทรนั้นราคาสูงขึ้นมาก ๆ คนที่หาซื้อคอนโดที่ขยับโซนออกมาหน่อย (ห่างจากสาทร ประมาณ 8.5 กม.) ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายไปได้หลายเท่าตัวเลยทีเดียวค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้โครงการ
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยนะคะ เพราะที่นี่จะอยู่ติดกับ สถานี MRT เพชรเกษม 48 นั่งออกไป 3 สถานี ถึงห้าง The Mall บางแค หรือ นั่งขึ้นไป 1 สถานี จะถึง Interchange บางหว้า ใช้เปลี่ยนเส้นทางไปรถไฟฟ้า BTS สายสีลมได้
โดยเส้นนี้จะนั่งไป CBD สีลม-สาทร ได้เพียง 15 นาที* หรือ จะใช้นั่งไปเดินเล่นห้างใหญ่ ๆ โซนปทุมวัน อย่าง Siam Paragon นั่งไปเรียนพิเศษที่ Siam Square ก็ใช้เวลา ประมาณครึ่งชม.*
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เส้นหน้าโครงการนี้ ก็มีความพิเศษคือเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวในไทยที่วิ่งวนลูปได้รอบเมือง ลักษณะการวิ่งของรถไฟฟ้าคล้าย ๆ เลข 9 โดยจะเริ่มวิ่งจากสถานีท่าพระ ผ่านไปทางจรัญสนิทวงศ์, เตาปูน, บางซื่อ, จตุจักร, ห้วยขวาง, ศูนย์วัฒนธรรมฯ, พระราม 9
เข้าเมืองชั้นในกทม. ไปสุขุมวิท, ศูนย์ประชุมฯ, คลองเตย, ลุมพินี, สีลม, สามย่าน, หัวลำโพง, วัดมังกร, อิสรภาพ มาบรรจบที่สถานีท่าพระอีกครั้ง แล้วจึงวิ่งตรงไปยังสถานีหลักสอง ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง นอกจากนั้นยังทำหน้าที่ Interchange สายอื่น ๆ ได้แบบครบถ้วนเลยค่ะ
ภาพมุมสูงสถานีรถไฟฟ้า จากโครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 จะอยู่ติดกับประตูทางออกที่ 2 ในระยเดินไม่ถึง 100 เมตร ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 มีให้อย่างครบครัน เพราะตั้งอยู่ในโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ในระยะเดินจะอยู่ใกล้ร้านข้าวขาหมูบางหว้า ร้านอาหารชื่อดังของโซนนี้
นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบถ้วน มีห้างสรรพสินค้าชั้นหลายที่ ทั้ง Seacon บางแค, The Mall บางแค, Lotus บางแค, ตลาดเสนีย์ฟู้ดมาร์เก็ต ที่มีร้านอาหารเปิด 24 ชม. และ มีตลาดบางแค ที่เป็นตลาดสดเก่าแก่ขนาดใหญ่ของคนฝั่งธน
ออกไปเส้นกัลปพฤกษ์ ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน ทั้ง Makro Food Service, Big C กัลปพฤกษ์, ตลาดอินดี้กัลปพฤกษ์ และ สำเพ็ง 2 ออกไปทางท่าพระ ก็จะมี The Mall ท่าพระ ที่เป็นห้างใหญ่อีกแห่ง
แต่หากนั่ง MRT ไปในเมืองก็จะเชื่อมกับสามย่านมิตรทาวน์ ห้างและออฟฟิศขนาดใหญ่ใจกลางเมืองได้เลย ใครที่ชอบเดินเล่นห้าง ชอบหาของอร่อย ๆ ทาน หรือ ต้องออกไปทำงาน ออกไปเรียนพิเศษที่ตึกนี้ในทุก ๆ วัน นี่สะดวกสุด ๆ เลยค่ะ
ในส่วนของสถานศึกษา ใกล้ที่สุดจะเป็น ม.สยาม นอกจากนั้นรอบ ๆ โครงการก็จะมี รร.ผดุงกิจวิทยา, รร.นานาชาติ SISB Thonburi, รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี, รร.เลิศหล้ากาญจนาฯ, รร.ฐานปัญญา และ รร.นานาชาติบริชติชโคลัมเบีย
แต่ถ้าหากใช้รถไฟฟ้าในไปในเมืองโซนสีลม-สาทร-สามย่าน จะมีโรงเรียนเอกชนชั้นนำ โรงเรียนรัฐบาลระดับประเทศ ตั้งอยู่อีกเพียบ ทั้ง รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์หลุยส์, รร.อัสสัมชัญ ประถม, มัถยม และ พาณิชย์, รร.
และสุดท้ายก็จะเป็นโรงพยาบาล มีตั้งอยู่โดยรอบรัศมีวงกลมกันเลย ใกล้ที่สุดจะเป็น รพ.พญาไท 3 ถัดออกไปก็จะมี รพ.มิตรประชา, รพ.เกษมราษฎร์ บางแค, รพ.
ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
หน่วยงานอื่นๆ
การเดินทาง
พิกัด Google Map : 13.715949, 100.446131
การเดินทางเริ่มจาก ⇒ ถนนราชพฤกษ์ ⇒ BTS วุฒากาศ ⇒ ทางแยกต่างระดับสวนเลียบ ⇒ ทางแยกต่างระดับเพชรเกษม ⇒ ถนนเพชรเกษม ⇒ BTS บางหว้า – MRT บางหว้า ⇒ MRT เพชรเกษม 48 ⇒ กลับรถ ⇒ ร้านขาหมูบางหว้า ⇒ The Key MRT เพชรเกษม 48 *ใกล้ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ
ภาพประกอบการเดินทาง เรามาจากสาทรข้ามสะพานตากสิน ตามแนวรถไฟฟ้า BTS มุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษม โครงการนี้จะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT เพชรเกษม 48
ตามทางไปเรื่อย ๆ ผ่าน BTS วุฒากาศ จากนั้นให้ตามป้ายไปถนนเพชรเกษม
ให้อยู่สองเลนขวาไว้ค่ะ จากนั้นเราจะขึ้นทางต่างระดับสวนเลียบ
พอลงมาให้ชิดซ้ายตามป้ายไปถนนเพชรเกษม, บางแค
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรเกษม ผ่าน BTS บางหว้าและ MRT บางหว้า
ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ผ่าน ม.สยามทางขวามือ
พอเราเห็น MRT เพชรเกษม 48 จากนั้นให้ชิดขวาเตรียมกลับรถ
ชิดขวากลับรถ
พอผ่านซอยเพชรเกษม 48 หรือ ซอยวัดจันทร์ประดิษฐาราม ซึ่งเป็นทางลัดเชื่อมต่อได้หลายซอยไปออกถนนบางแวกได้ด้วยค่ะ
ผ่านปั๊มน้ำมันปตท. และร้านขาหมูบางหว้า ชะลอซ้ายไว้เลยค่ะ
ถึงโครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48
ด้านหน้าโครงการThe Key MRT เพชรเกษม 48
ก่อนเข้าไปดูรายละเอียดด้านใน ขอพาเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันหน่อย จากภาพจะเป็นถนนเพชรเกษม ฝั่งเข้า มองขึ้นไปเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
ขับจากโครงการออกมา ก็ชิดขวากลับรถไปถนนเพชรเกษม ฝั่งขาออกได้ เอาไว้สำหรับคนที่จะออกไปเดินทางห้างฯ Seacon บางแค, Lotus บางแค และ The Mall บางแค
มองมาทางขวามือ จะเป็นทางเดินเท้ากว้าง ๆ เดินไปไหนมาไหนได้สะดวก และใช้เดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้จากทางนี้
เดินตรงขึ้นมานิดเดียว ถึงบันไดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า (ประตูทางออกที่ 2)
ตรงข้ามกันจะเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ Suzuki
ผ่านขึ้นมาขวามือเป็นร้านอาหารพิมแก้ว
ถัดมาเป็นซอยเพชรเกษม 46/2
ตรงขึ้นมาเจอกับร้านข้าวขาหมูบางหว้า ร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้เลยนะ ทำเลร้านดีมาก ๆ เพราะอยู่ติดบันไดรถไฟฟ้าเลย สำหรับใครที่อยากมาทาน ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถนะคะ ทางร้านเค้าจะมีการแยกร้านสำหรับคนขับรถมาให้อีกที่ โดยให้ขับรถเข้าไปภายในซอยเพชรเกษม 46/2 ได้เลยค่ะ
ผ่านร้านข้าวขาหมูบางหว้าขึ้นมา จะมีบันไดทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าอีกจุด ติดกันจะเป็นที่ตั้งของปั๊ม ปตท. ที่เป็นปั๊มแบบ Non-Oil ค่ะ
ในปั๊มปตท. สาขานี้จะมีทั้งคาร์แคร์, ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ขวามือเป็นโซน Retail มี Jiffy 24 ชม., ร้านกาแฟ Amazon, ร้านชานม Pearly Tea, ร้านกุ้งเป็นเป็น และ มีตู้ ATM ของแบงก์กรุงเทพ และกสิกรให้บริการค่ะ
ถัดขึ้นมาจะมีร้านค้าในตึกแถวริมถนนเพชรเกษม และ ร้านค้าแผงลอยเปิดขายเพียบ จุดนี้จะมีป้ายรถเมล์ให้ได้ใช้งานกันด้วยนะคะ
กลับมาที่หน้าโครงการ จะพาเดินเลี้ยวซ้ายไปกันบ้าง
ตรงขึ้นมาจะเจอกับซอยเพชรเกษม 46/1 หัวมุมซอยจะเป็นศูนย์ส่งสินค้าเอกชนของ Flash ใครขายของออนไลน์เป็นธุรกิจหลัก ธุรกิจเสริม นี่ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ แพ็คของเสร็จก็หิ้วลงมาส่งกันได้ใกล้ ๆ ประหยัดค่ารถ ค่าแรงไปได้เยอะ
ผ่านขึ้นมาจะเป็นทางเท้ากว้าง ๆ ซ้ายมือจะเป็นร้านค้าในตึกแถว เปิดขายอาหาร ของเบ็ดเตล็ดทั่ว ๆ ไป
ฝั่งนี้จะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้อีกจุด ถ้าวัดระยะจากโครงการเดินมาป้ายนี้จะใกล้กว่าค่ะ
ถัดขึ้นมาจะเจอกับศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าจีนชื่อดังของคนในย่านเพชรเกษม
ตรงขึ้นมาจะมีร้านค้า, ร้านอาหารเปิดขายอีกเพียบ และมี 7-Eleven ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดอยู่ด้วยค่ะ
ตัวโครงการ
มาเริ่มดูรายละเอียดของตัวโครงการกันต่อเลยนะคะ โครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 เป็นคอนโด High Rise 30 ชั้น ห้องพักจำนวน 639 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3-3-16 ไร่ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และที่จอดรถรวม 263 คัน คิดเป็น 46% ของจำนวนยูนิตโครงการ โดยที่ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน
โครงการจะแบ่งพื้นที่ใช้งานแต่ละชั้นไว้ดังนี้
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น มาเริ่มจากผังชั้นล่างกันก่อนเลยค่ะ โครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 จะมีทางเข้า-ออกและที่ดินโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งขาเข้า ทางเข้ารถของโครงการ ต้องขับวนซ้ายอ้อมสวนก่อน ก่อนมา Drop Off หน้า Lobby อีกที เพื่อชะลอความเร็วรถที่วิ่งเข้าโครงการ
ชั้น 1-5 จะเป็นลานจอดรถ มีที่จอดรถรวม 263 คัน คิดเป็น 46% ของจำนวนยูนิตโครงการไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมจอดซ้อนคันจอดได้ 294 คัน
จากผังชั้น 1 จะเห็นว่าโครงการปลูกต้นไม้เป็นแนวรอบนอกเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนในโครงการ พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ นอกจากลานจอดรถ จะเป็นสวนแบบ Oasis Garden พร้อม Water Feature และ Grand Lobby Lounge วิวสวนของโครงการ
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม และ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค แบบนี้
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ มีระยะ Setback จากถนนใหญ่เข้ามาเล็กน้อย ช่วยให้การเลี้ยวรถเข้า-ออกเป็นไปได้สะดวก ติดกับถนนทางเข้าโครงการจะเป็นป้อมรปภ. และ ประตูสำหรับคนเดินเท้าเข้า-ออกโครงการ
ประตูคนเดินเท้าเข้า-ออกผ่านระบบ Key Card Access
ถนนเมนด้านหน้าโครงการทำเป็น Stamped Concrete สีเทา แต่งเส้นสีดำ ดูสวยงาม ทันสมัย โดยซ้ายมือจะเป็นช่องรถเข้า ขวามือเป็นช่องรถออก มองตรงต่อเนื่องเข้าไป จะเป็น Drop-Off และ ทางเข้า Grand Lobby Lounge ชั้น 1
ฝั่งทางเข้าจะติดกล้องวงจรปิด จับภาพด้านหน้าคนขับ และ จับภาพช่วงป้ายทะเบียนรถยนต์ให้ 2 ตัว
ตรงเข้ามาซ้ายมือเป็นทางรถเข้า ลูกบ้านจะเข้า-ออกผ่านระบบ Easy Pass และ ไม้กระดกอัตโนมัติ ถนนรอบ ๆ โครงการจะเปลี่ยนมาเป็นพื้น คสล. กว้าง ประมาณ 9 เมตร ขับวนได้สบาย ๆ
ด้านหน้าจะมีที่จอดรถ Visitor หรือ เอาไว้รองรับรถของเพื่อน ๆ ญาติ ๆ ที่แวะมาหาเราได้
จากหน้าโครงการมองไปทางขวามือจะเป็นทางรถออก ซึ่งจะมีกล้องวงจรปิดติดมาให้ 2 ตัว พร้อมไม้กระดก และ ระบบ Easy Pass เช่นกันค่ะ
ศาลพระภูมิ และ ศาลตา-ยายตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ มีการจัดสวนปลูกต้นไม้แนวตั้งแยกโซนไว้เป็นสัดส่วน ช่วยให้ภาพรวมดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
จากด้านหน้าโครงการมองขึ้นมาด้านบนจะเห็นอาคารพักอาศัยสไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสีเทา และสีขาว ดูเรียบง่าย แต่หรูหราแบบนี้
เดินตรงเข้ามากันต่อ จะเจอกับประตูทางเข้า Grand Lobby Lounge
Grand Lobby Lounge ออกแบบมาได้สวยหรู ดูทันสมัย เพดานสูง Double Volume ที่ 6.5 เมตร ดูโปร่ง โล่ง สบาย ติดโคมไฟดีไซน์โมเดิร์น ใช้เฟอร์นิเจอร์คุมโทนสีเทา ได้ Mood & Tone ที่ดูอบอุ่น ผนังจะใช้เป็นกระจกตัดแสง Full Height ทำให้เปิดรับมุมมองได้กว้าง และจากจุดนี้จะมองเห็นวิวของ Oasis Garden ที่อยู่ตรงคอร์ทกลางตัวอาคารได้ด้วย
นอกจากผนังกระจกแล้ว ผนังบางส่วนเค้าจะแต่ง Wall Art เก๋ ๆ มาให้ด้วย ส่วนชุดโซฟารับรองมีให้หลายแบบ หลายที่นั่ง ใช้เป็นพื้นที่นั่งรอของแขก ของเพื่อน ๆ ที่แวะมาหา หรือ ใช้เป็นพื้นที่นัดคุยงานไม่เป็นทางการได้สบาย ๆ
จาก Grand Lobby Lounge เดินมาทางซ้ายมือ จะมีโถงทางเดินเชื่อมสู่ Mail Room, ห้องนิติบุคคล, ห้องน้ำ Powder Room และลานจอดรถในร่มชั้น 1
เข้าไปดู Mail Room กันก่อน
ภายใน Mail Room ใช้พื้นลายหินอ่อน เพดานแต่งไฟ Led และ ดีไซน์มาได้สวยหรูมากจริง ๆ ค่ะ โดยจะ Built-in กล่องจดหมายเรียงตามชั้น ตามเลขที่ห้องมาให้เป็นรูปตัว U และ มีตัว I ตรงกลางห้อง กล่องจดหมายเป็นสแตนเลสสีขาวควันบุหรี่ แบบบานเปิด มีกุญแจล็อก และเลขที่ห้องติดมาให้ครบ
ผ่านโถงทางเดินตรงนี้ออกมา จะเจอกับ Smart Locker ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal มาก ๆ ช่วยลดการสัมผัสการส่งของโดยตรง และข้อดีอีกอย่างของชาวคอนโดเลย คือเวลาที่เรากลับบ้านดึก ๆ เกินเวลาทำการของนิติบุคคลไปแล้ว ก็ยังแวะเอาพัสดุที่เราสั่งมาได้ เพียงแค่สแกน QR Code ที่ได้รับมาจากทางนิติฯเท่านั้นเองค่ะ
ถัดมาจะเป็นเป็นจุดจอดรถเข็นของ มีทั้งแบบรถเข็น Super Market และ รถเข็น Luggage Trolley ที่ขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ และมีราวสำหรับแขวนผ้า ที่นำมาจากร้านซักอบรีดได้
มองกลับออกมาจะเห็นลานจอดรถยนต์ในร่มแบบนี้ บอกเลยว่างานของ LH จะดูเป็นระเบียบดีมาก ๆ มีการเก็บงานสีพื้น ผนัง ตีช่องจอดได้อย่างสวยงาม เหมาะสมกับราคา
มองกลับเข้ามาที่โถงทางเดินตรง Mail Room
จาก Grand Lobby Lounge จะมีประตูอีกทางที่ใช้เชื่อมกับ Oasis Garden ผ่าน Walkway เพื่อไปเชื่อมกับโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยได้อีกที
Oasis Garden หรือ สวนชั้น 1 ที่เป็นพื้นที่ Courtyard ด้านในติดกับ Lobby โครงการ ทำให้มีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว และเป็นวิวสวย ๆ ให้กับ Grand Lobby Lounge และระเบียงของยูนิตที่พักอาศัยด้วย
มีสวนหิน และ ม้านั่งฟรีฟอร์มจัดเตรียมไว้ให้
ลองมองขึ้นไปที่ด้านบนอาคาร ห้องพักฝั่งนี้ทั้งหมดจะมองเห็นสวนชั้น 1 ไล่ระดับขึ้นไปจะเห็นทั้งสวน, แนวรถไฟฟ้า และ วิวเมืองกว้าง ๆ
กลับมาตรง Walkway จะเป็นทางเดินในร่มค่ะ มีไฟทางเดินให้แสงสว่างในตอนกลางคืน มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนให้ตลอดทางเดิน ตัวพื้นก็จะใช้เป็นทรายล้าง ที่ดูกลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียวขั้นล่าง นอกจากนั้นยังทำความสะอาดได้ง่าย และช่วยกันเท้าลื่นได้เป็นอย่างดี
เดินมาจนจุดทางจะเจอกับประตูทางเข้าโถงลิฟต์ ซึ่งจะผ่านเข้า-ออกด้วยระบบ Key Card เท่านั้น
เดินเข้ามาจะเจอกับโถงลิฟต์โดยสารชั้น 1 ตกแต่งพื้นผนังด้วยลายหินอ่อนโทนสีขาว, ดำ และ สีเทา มีลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้นให้ 3 ตัว พร้อมติดกล้องวงจรปิดที่โถงลิฟต์, ในลิฟต์ และ ตามโถงทางเดินมาให้ด้วย
ผังชั้น 6 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ โดยจุดเด่นคือเป็นชั้นที่อยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางที่สุดนั่นเอง ความหนาแน่น 22 ยูนิตต่อชั้น
ส่วนกลางในชั้นนี้มี สระว่ายน้ำ Lap Pool & Kid’s Pool ขนาด 5 x 30 เมตร, สวน และอาคารในสวน 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง มีห้อง Steam และ มีห้องฟิตเนสที่ชั้น 2
ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเป็นที่ตั้งของ Facilities จุดแรก ผ่านประตู Key Card เข้ามา จะเจอกับ Meeting Room
Meeting Room ขนาดกลาง ๆ มีผนังห้องเป็นกระจกตัดแสงให้รอบด้าน ภายในวางโต๊ะประชุมตัวยาว พร้อมเก้าอี้อีก 6 ที่นั่ง ในห้องนี้จะมี Glass Whiteboard สำหรับการ Present งานติดมาให้ด้วยค่ะ
ผ่านออกมาโซน Outdoor จะเจอกับสนามหญ้ากว้าง ๆ ด้านหน้าฝั่งแนวรถไฟฟ้าจะเป็นสระว่ายน้ำ
ขวามือเป็นฟิตเนส และ ห้องน้ำส่วนกลาง
มองมาทางซ้ายมือจะเป็นลิฟต์โดยสาร ที่มีแยกออกมาให้ไว้สำหรับการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางชั้น 6 โดยเฉพาะเลย ลิฟต์ตัวนี้จะเชื่อมกับชั้นจอดรถตั้งแต่ชั้น 1-5 และ ชั้นสุดท้ายก็จะเป็น Facilities นั่นเอง
ภายในโถงลิฟต์ยังดีไซน์มาได้สวยงามเหมือนเดิม จุดนี้ก็จะใช้เป็นลิฟต์ล็อกชั้นเช่นกันนะคะ
มาเริ่มดูสระว่ายน้ำกันก่อนค่ะ ที่นี่จะวางตัวสระมาในขนานไปกับแนวรถไฟฟ้า ได้เป็นสระ Lap Pool ระบบน้ำเกลือ ขนาด 5 x 30 เมตร ลึก 1.2 เมตร ให้ลูกบ้านว่ายน้ำออกกำลังกายได้สบาย ๆ และ มีสระเด็กแยกส่วนออกมาให้ด้วย
สระเด็กขนาดใหญ่ดี ความลึกจะอยู่ที่ 60 ซม. และอยู่ใกล้กับ Pool Terrace เพื่อใกล้ชิดกับผู้ปกครอง
Pool Terrace ปูพื้นกระเบื้องลายไม้ผิว Matt จัดเตรียม Daybed มาให้ 4 ที่นั่ง มีโต๊ะกลางสำหรับวางเครื่องดื่ม หรือของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
Pool Terrace หันไปทางแนวรถไฟฟ้าแบบนี้
หัวสระจะมี Pool Terrace ให้อีกมุม ตรงนี้จะได้เป็นชุดโซฟานุ่ม ๆ แบบคู่ รวม 4 ที่นั่ง และได้ความร่มรื่นจากสวนแนวตั้ง และต้นไม้ใหญ่แบบนี้ด้วย
มองไปอีกฝั่งจะเป็นอาคาร 2 ชั้น พร้อม Wall Art สวย ๆ โดยชั้นล่างจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำส่วนกลาง แยกชาย-หญิง และที่ชั้น 2 จะเป็นที่ตั้งของห้องฟิตเนส วิวสระ วิวสวนนั่นเอง
เดินเข้าไปดูรายละเอียด Facilities ฝั่งนี้กันต่อ
ห้องน้ำ และ ห้อง Steam แยกชาย-หญิงมาให้
เข้ามาฝั่งห้องน้ำหญิงค่ะ การตกแต่งพื้นผนังใช้กระเบื้องลายหินคุมโทนสีเทา จัดฟังก์ชันไว้ให้ครบทั้งส่วนของล็อกเกอร์เก็บของ, เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำอัตโนมัติ พร้อมกระจกเงา, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ และ ห้อง Steam
ขวามือเป็นห้องอาบน้ำ, ห้องแต่งตัว, ล็อกเกอร์ และ ห้อง
ภายในห้อง Steam ขนาดกำลังดี ใช้งานพร้อม ๆ กันได้ 2-3 คน
อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ มีให้อีก 2 ห้อง
ห้องน้ำจะได้ฟังก์ชันเหมือนกันกับห้องน้ำหญิง แต่จะเพิ่มในส่วนของโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติเขามาให้ค่ะ
ออกมาที่ด้านนอก ข้าง ๆ ห้องน้ำโซน Outdoor จะมีมุมพักผ่อนในสวน พร้อมม้านั่งตัวยาวจัดมาให้อีกจุด
ขึ้นไปห้องฟิตเนสบนชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดทางขึ้นเค้าจะเชื่อมมาจาก Pool Terrace แบบนี้
ฟิตเนสออกแบบภายในมาดู Active มีแรงให้ออกกำลังกายมาก ๆ เลย โดยเค้าจะจัดเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยมาให้ครบ มี TV Led ไว้สำหรับดูคลิปการออกกำลังกาย หรือจะเปิดดูหนังสนุก ๆ ก็ได้หมด ด้านหลังยังมีมุมสำหรับนั่งพักเหนื่อยมาให้ด้วย
ผนังห้องเป็นกระจกตัดแสงแผงใหญ่ เปิดรับวิวสวนและวิวสระได้ จุดแรกเป็นโซนคาร์ดิโอ วางลู่วิ่งไฟฟ้าให้ 4 เครื่อง
ถัดมาจะมีเครื่องเดินวงรี 2 ตัว, เครื่องนั่งปั่นจักรยานไฟฟ้า และ เครื่องเอนปั่นจักรยานไฟฟ้าให้อย่างละ 1 ตัว
ด้านหลังที่ติดกับผนังกระจกจะเป็นโซนเวทเทรนนิ่ง มีเตียงซิทอัพ และแมชชีนบริหารกล้ามเนื้อแบบ Multi Function ให้หลายชิ้น และมีบาร์เบลชุดใหญ่จัดเตรียมไว้ให้ด้วย
จากโซนคาร์ดิโอมองออกมาเห็นวิวประมาณนี้ค่ะ
ผังชั้น 7-8 เป็น Typical Floor Plan คือจริง ๆ จัดผังเหมือนกันหมดไปจนชั้น 29 เลยค่ะ แตกต่างกันแค่ขนาดห้องบางส่วนเท่านั้น แต่จัดผังเหมือนกัน คือโถงทางเดินแบบแจกจากโถงลิฟต์ตรงมุม แยกออกมาสองฝั่งของทางเดินรูปตัว L เป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor โดยมีความหนาแน่นรวม 23 ยูนิต/ชั้น จากผังจะเห็นว่าห้องในโครงการส่วนใหญ่หันระเบียงไปทางทิศเหนือใต้ ทำให้สามารถหลบแดดและรับลมเย็นได้ตลอดทั้งปี
ผังชั้น 9-16 จัดผังแบบเดียวกันกับชั้น 6-7 เลยค่ะ ต่างกันที่ขนาดยูนิตชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น
ผังชั้น 17-29 จัดผังแบบเดียวกันกับชั้น 9-16 เลยค่ะ ต่างกันที่ขนาดยูนิตชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น และได้วิวสูงขึ้น พร้อมทั้งอยู่ใกล้สวนชั้นดาดฟ้า
ผังชั้น 30 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักชั้นสูงสุดของโครงการ ให้ทุกคนในโครงการขึ้นมาชมวิวชั้นสูงกันได้ โดยชั้นนี้จะเป็นพื้นที่สวน Rooftop Garden ที่ชมวิวได้ 360 องศา พร้อมมีอาคาร 2 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย Game Station และ Co-Working Space
ขึ้นลิฟต์มาดู Facilities จุดที่ 2 บนชั้น Rooftop กันต่อเลย จากโถงลิฟต์เดินออกไป จะมีโถงทางเดินแยกซ้าย-ขวา เพื่อเชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ อีกที
เลี้ยวขวามาจะเจอกับลานอเนกประสงค์กว้าง ๆ ที่ใช้เป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งได้
เลี้ยวซ้ายมาจะเจอกับโถงทางเดิน และ ห้องน้ำส่วนกลางกันก่อน
ห้องน้ำส่วนกลางแบบ Powder Room แยกห้องชาย-หญิงมาให้ครบ
ภายในห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาครบ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ชายจะเป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยลดการสัมผัสได้เป็นอย่างดีมาก
เดินไปดู Facilities อีกฝั่งของชั้นกันต่อ จากภาพจะเห็น Wall Art ที่ทำมือชี้ไปยังพื้นที่ส่วนกลางแบบนี้ด้วย น่ารักดี
เดินตรงออกมาก็จะเจอกับ Walkway และ สวนลอยฟ้าค่ะ ตลอดทางเดินจะติดโคมไฟ และ เปิดเพลงคลอเพราะ ๆ ให้ลูกบ้านมีความผ่อนคลายมากขึ้น
ในสวนจะมีการแบ่งพื้นที่นั่งเล่นไว้ให้
สุดทางเดินจะเจอกับอาคาร 2 ชั้น ดีไซน์ทันสมัยโดยใช้เป็นผนังกระจกใสสีดำทั้งหมด ไม่ว่าอยู่ชั้น 1 หรือ ชั้น 2 ก็สามารถมองวิวได้กว้าง ๆ และใช้งานได้แบบโปร่ง สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด
เข้ามาด้านในอาคารชั้น 1 จะเป็น Game Station
ทางโครงการจะมีโต๊ะพูล และ โต๊ะบอลจัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนั้นยังมีเบาะนั่งจัดไว้ให้อีก ประมาณ 3-4 ที่นั่ง
ในห้องจะมีประตูด้านหลังใช้ออกไปพื้นที่พักผ่อนในสวนอีกจุดได้
สวนอีกจุดที่เชื่อมมาจาก Game Station
จาก Game Station ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับ Co-Working Space
Co-Working Sapce ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่จัดฟังก์ชันการใช้งานมาได้อย่างลงตัว เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีสดใส ดูทันสมัย น่านั่งทำงาน
ตรงกลางห้องจะมีโซฟาเซ็ตใหญ่ นั่งรอบ ๆ ได้ประมาณ 3 ที่นั่ง ติดกันจะเป็นโต๊ะทำงานตัวยาว พร้อมเก้าอี้ไว้นั่งทำงาน นั่งเรียนพิเศษแบบกลุ่มอีก 8 ที่นั่ง
ฝั่งที่ติดผนังกระจกมองออกไปเห็นวิวสวน Rooftop จะแบ่งชุดโต๊ะทำงานแบบคู่ไว้ให้อีก 2 ชุด แบบนี้ค่ะ โดยตามจุดนั่งทำงานต่าง ๆ จะมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดตั้งมาให้พร้อมรองรับการเสียบ Notebook, Laptop หรือ Smart Phone กันได้
UNIT TYPE
โครงการ The Key MRT เพชรเกษม 48 มีห้องให้เลือก 4 แบบ ดังนี้
แปลนห้อง 1 Bedroom Type 1A ขนาด 27.8-28.5 ตร.ม.
รายละเอียด : 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ฟังก์ชันห้องเป็นสัดส่วน โปร่งโล่งอยู่สบาย เพดานสูง 2.6 เมตร เชื่อมต่อมุมมองภายในด้วยกระจกบานใหญ่ Built-in ตู้เสื้อผ้า, ชุดครัว Pantry, ตู้เก็บของ, โต๊ะกินข้าว, ชุดตู้รองเท้า และชั้นวางของ ติดตั้ง Air-Pass ช่วยเพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดกลิ่นอับชื้น
แปลนห้อง 1 Bedroom Type 1B ขนาด 27.8-28.5 ตร.ม.
รายละเอียด : 1 ห้องนอนหัวมุม ฟังก์ชันห้องเป็นสัดส่วน เพิ่มช่องหน้าต่างด้านข้าง รับลมและแสงธรรมชาติ โปร่งโล่งอยู่สบาย เพดานสูง 2.6 เมตร เชื่อมต่อมุมมองภายในด้วยกระจกบานใหญ่ Built-in ตู้เสื้อผ้า, ชุดครัว Pantry, ตู้เก็บของ, โต๊ะกินข้าว, ชุดตู้รองเท้า และชั้นวางของ ติดตั้ง Air-Pass ช่วยเพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดกลิ่นอับชื้น
แปลนห้อง 2 Bedroom Type 2A ขนาด 49.5-51.2 ตร.ม.
รายละเอียด : 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 Walk-in Closet 2 ระเบียง ห้องนั่งเล่นใหญ่ โปร่งโล่งอยู่สบาย เพดานสูง 2.6 เมตร Built-in ชุดตู้เสื้อผ้า (Walk-in Closet, ชั้นวางของและกระจกแต่งหน้า) ชุดครัว Pantry (Hob, Hood, Sink) ชุดตู้วางเครื่องซักผ้าและตู้เก็บของ, ตู้วางรองเท้า ติดตั้ง Air-Pass ช่วยเพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดกลิ่นอับชื้น
แปลนห้อง : 2 Bedroom Type 2B ขนาด 48.1-49.4 ตร.ม.
รายละเอียด : 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 Walk-in Closet ห้องนอนใหญ่ โปร่งโล่งอยู่สบาย เพดานสูง 2.6 เมตร Built-in ชุดตู้เสื้อผ้า (Walk-in Closet, ชั้นวางของและกระจกแต่งหน้า) ชุดครัว Pantry (Hob, Hood, Sink) ชุดตู้วางเครื่องซักผ้าและตู้เก็บของ, ตู้วางรองเท้า ติดตั้ง Air-Pass ช่วยเพิ่มการถ่ายเทอากาศ ลดกลิ่นอับชื้น
ห้องตัวอย่าง
วันนี้จะพาไปชมห้องตัวแบบ 1 Bedroom Type 1A ขนาด 27.8 ตร.ม.
โดยทางโครงการจะขายห้องให้ในรูปแบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมากับห้องมีดังนี้ค่ะ
แปลนห้องตัวอย่างจะเป็น 1 ห้องนอน Type 1A ขนาด 27.8 ตร.ม. ห้องหน้ากว้าง 5.4 เมตร ห้องในโครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือใต้ ทำให้สามารถหลบแดดและรับลมเย็นได้ตลอดทั้งปี และเป็นยูนิตที่ออกแบบแบบไม่มีเสา ทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามใจได้เต็มพื้นที่
ตัวห้องแยกรูปแบบการใช้งานเป็นสัดส่วน เข้าห้องมาเป็นส่วนครัวหรือมุมเตรียมอาหารแบบเปิดโล่ง ถัดเข้าไปเป็น Living Area สำหรับนั่งเล่นพักผ่อน อยู่ติดกับระเบียงหน้ากว้าง
ส่วนห้องนอนมีฉากกั้นห้องนอนมาให้เป็นสัดส่วน ภายในวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และ มีตู้เสื้อติดมาให้ รวมถึงมีหน้าต่างกระจกเข้ามุม ทำให้เปิดรับมุมมองได้กว้าง มีประตูทางเข้าห้องน้ำจากในห้องนอน ห้องน้ำได้เป็นแบบสำเร็จรูป ดีไซน์สวยทันสมัย พร้อมแยกส่วนแห้งและส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย
ประตูห้องเป็นไม้ HDF ปิดผิวลามิเนตสีเทาอ่อน พร้อมตาแมวที่หน้าบาน ไว้ส่องคนที่มาเคาะประตู ด้านล่างบานประตูจะมีช่องระบายอากาศ Air Pass ที่เลื่อนเปิดปิดได้ ทำให้ภายในห้องมีอากาศหมุนเวียน ไม่อับชื้น
Digital Door Lock ของโครงการใช้แบรนด์ COLT สามารถเข้าห้องได้ 3 วิธีคือ 1. แตะ Key Card 2. กดรหัสผ่าน และ 3.ไขกุญแจ ส่วนมือจับประตูเป็นแบบก้านโยก ที่เปิดใช้งานได้สะดวก
เปิดประตูห้องเข้ามา จะเจอกับครัวเปิด เชื่อมต่อกับส่วนห้องนั่งเล่น ที่อยู่ติดกับระเบียงพักผ่อน ความสูงเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตร พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม. ผนังห้องและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟภายในเป็นโคม Led Panel ประหยัดพลังงาน
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเห็นระยะใช้งานครัวสบาย ๆ ยืนทำอาหาร ล้างจาน รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องได้สะดวก โดยฝั่งตรงข้ามชุดครัวจะเป็น Built-in ตู้เก็บของ และตู้เก็บรองเท้ามาให้กับตัวห้องเลยค่ะ
ด้านหลังประตูห้องจะมีตู้เก็บของ และตู้เก็บรองเท้า Built-in มาให้ได้ตามนี้ ไม่รวมของตกแต่งและเครื่องซักผ้า โดยมีช่องให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ขนาด 7-7.5 กก. ได้ ด้านหลังเดินงานระบบประปา-ระบบไฟฟ้ามาให้พร้อมต่อใช้งาน
ด้านบนจะเป็นตู้เก็บของบานเปิด ภายในมีชั้นลอยหลายระดับ วางของชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ หรือของที่มีทรงสูงได้
ด้านล่างจะเป็นตู้เก็บรองเท้า มีชั้นลอยมาให้ 3 ชั้น เก็บรองเท้าได้ประมาณ 8-10 คู่
ฝั่งตรงข้ามเป็นครัวเปิด ที่ Built-in ชุดครัว พร้อมตู้เก็บของบน-ล่างมาให้ตามนี้เลย หน้าท็อปปิดผิวลามิเนต ติดซิงค์ล้างจานหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกของ Teka หน้าบานชุดครัวและชั้นลอยเป็น High Resistance Surface สีเทา จะมีชั้นลอยบางส่วนหน้าบานเป็นกระจกใสสีดำ พร้อมติดตั้งไฟ Led มาให้เรียบร้อย และเว้นช่องวางตู้เย็นมาให้ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
ลิ้นชักมีแบ่งช่องสำหรับวางช้อน-ส้อม, ช่องเสียบจาน-ชาม และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้ พร้อมตู้เก็บของบานเปิดใต้ซิงค์ ที่เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน หรือวางถังขยะใบเล็ก ๆ ได้
ความพิเศษของชุดครัวที่นี่คือจะมีโต๊ะที่เลื่อนเข้าออกได้อย่างที่เห็นค่ะ สามารถใช้เป็นโต๊ะทานข้าว แบบ 2 ที่นั่งได้กำลังเหมาะ เวลาไม่ใช้ก็เลื่อนโต๊ะเก็บเข้าไปด้านในช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี
ข้าง ๆ ชุดครัวอีกฝั่งจะเว้นช่องทำชั้นวางของมาให้อีก 2 ชั้น
ด้านบนติดตู้เก็บของบานเปิด และ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ โดยบานตู้ของเฟอร์นิเจอร์ในห้องทุกชิ้นจะเป็นแบบ Soft Closed เปิด-ปิดไม่กระแทกเสียงดัง และช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วยนะ
เปิดตู้แต่ละส่วนออกให้ดู ภายในมีชั้นลอยย่อย ๆ ให้เพียบเลย สามารถวางถ้วยกาแฟ, จาน-ชาม, เครื่องปรุงอาหาร หรือ อุปกรณ์ทำครัวชิ้นใหญ่ ๆ ได้
ระยะใช้งานตรงมุมครัว เมือวางเก้าอี้ทานข้าวลงไปแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ให้ใช้งานได้สบาย ๆ เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้ไม่ติดส่วนอื่น ๆ
ถัดจากส่วนครัวเข้าไป จะเป็นห้องนั่งเล่น ที่อยู่ติดกับระเบียง มีระยะดูทีวีจากโซฟา ประมาณ 2 เมตร สามารถดูทีวีจอใหญ่ 60-70 นิ้ว ได้สบาย ๆ
ในห้องตัวอย่างจะวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ต่อเนื่องมาจากชุดครัวให้ดูเป็นไอเดีย
ตรงข้ามวางชั้นวางทีวีขนาด ประมาณ 1.2 เมตร มาให้ดูระยะใช้งานค่ะ ส่วนงานระบบไฟฟ้า ระบบเคเบิลต่าง ๆ จะติดมาให้ที่ผนังฝั่งขวามือตามภาพ
ถัดจากห้องนั่งเล่นออกไป จะเป็นระเบียงพักผ่อน แยกส่วนด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมอบสีเทาเข้ม แบบบานเลื่อน 1 ฝั่ง
มีตัวล็อกตรงกลางบานประตูมาให้อีก 1 จุด เพิ่มความปลอดให้อีกชั้น และที่นี่จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง โดยใช้วงกบประตู-หน้าเป็นของแบรนด์ Tostem จากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด
ระเบียงแบบหน้ากว้าง มีพื้นที่ใช้งานขนาดกำลังดี ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินผิว Matt สีเบจ 60 x 60 ซม. / ธรณี-วงกบประตูยกสูงขึ้นมา ประมาณ 20 ซม. เพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง
ราวระเบียงเป็นโครงอะลูมิเนียมอบสีดำ ลูกฟักกระจก Temperd Glass ดูหรูหรา สวยงาม และช่วยให้เปิดรับมุมมองได้กว้าง ติดกันเป็นกริลระแนงแนวตั้งบัง CDU แอร์ เวลามองจากด้านนอกเข้ามาก็จะดูสวยงาม เป็นระเบียบ
มองไปทางขวามือด้านล่างจะติดก๊อกสนาม ไว้สำหรับล้างพื้น ล้างของในบ้านมาให้ เจาะท่อระบายน้ำมาให้เรียบร้อย ส่วนด้านบนเป็นที่ตั้งของ CDU แบบแขวน โดยจะต้องติดแบบปล่อยลมร้อนออกไปที่ด้านนอกอาคาร ซึ่งจะช่วยให้เราใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ ไม่ร้อนลมแอร์นั่นเองค่ะ
ห้องตัวอย่างจะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 มองออกมาจะเห็นวิวสวน Oasis Garden ตรง Courtyard กลางอาคาร และ เห็น Grand Lobby Lounge แบบในภาพค่ะ
จากระเบียงมองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องนั่งเล่น และห้องครัว
จากห้องนั่งเล่น ถัดไปที่ด้านหลังชั้นวางทีวี จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่ใช้เปิดไปยังห้องนอน
ประตูบานเลื่อนเป็นรางแขวนที่ด้านบนค่ะ คือจะไม่มีรางประตูที่พื้น ทำให้เดินไปมาได้สบาย ไม่ต้องกลัวสะดุด แถมช่วยให้กวาดพื้น ถูพื้น ทำความสะอาดเป็นไปได้ง่ายด้วย
มาดูส่วนห้องนอนกันต่อค่ะ ภายในห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และ โปร่งสบาย ในห้องจะวางเตียง 6 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน ห้องจริงจะปรับเป็น 5 ฟุต เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอบรอบ ๆ เตียงก็ได้
หน้าต่างในห้องเป็นหน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้มาก โดยด้านบนจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ใช้เปิดระบายอากาศได้ ส่วนบานรอบ ๆ เป็นแบบบานฟิกซ์
ที่มุมห้องฝั่งขวามือ จะเป็นหน้าต่างกระจกบานฟิกซ์เข้ามุมแบบ Bay Window ทำให้จากห้องนอนมีมุมมองที่กว้างขึ้น
มองไปที่อีกฝั่งของห้อง จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ด้านข้างประตูจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ไว้ให้
ตู้เสื้อผ้า Built-in ความกว้าง ประมาณ 1.2 เมตร ความสูงจรดฝ้าเพดาน หน้าบานตู้เป็นกระจก Temper สีดำ ที่ดูโมเดิร์น และหรูหรา
เปิดตู้ออกให้ดู ภายในได้ฟังก์ชันมาครบ ทั้งราวแขวนผ้า, ราวแขวนกางเกง, ชั้นวางของบน-ล่าง และลิ้นชักเก็บของ แถมมีการติดไฟ Led แสง Warm White มาให้ด้วย
หน้าบานด้านข้างติดกระจกเงา ติดชั้นวางของ กล่องใส่ทิชชู่มาให้ จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง ยืนแต่งหน้า แต่งตัวได้
ถัดมาเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ได้ประตูบานทึบปิดผิว UPVC มือจับก้านโยกสีดำดูโมเดิร์น ธรณีประตูเป็นหินแกรนิต ที่โดนน้ำไปนาน ๆ ก็ไม่บวมขึ้นมาเหมือนธรณีประตูลามิเนต ที่จะทำให้ประตูเปิด-ปิดยาก
ที่นี่ให้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปจาก SCG ภายในห้องน้ำมีระยะใช้งานกำลังดี แบ่งส่วนแห้ง กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ และมี Low Wall แนวยาวไว้วางของมาให้ด้วย
อ่างล้างมือเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมของ Cotto ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ตัวอ่างจะเชื่อมต่อ Low Wall ด้านหลัง ทำให้วางขวดสบู่, ถ้วยใส่ยาสีฟัน-แปรงสีฟัน และพวกสกินแคร์ต่าง ๆ ได้เยอะ โดยไม่ต้องติดชั้นเพิ่ม
ผนังซ้ายมือติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสให้ 1 ชิ้น หลังอ่างจะติดกระจกเงาทรงสูงขอบอะลูมิเนียมสีดำให้ 1 บาน
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบฝังผนังของ Cotto สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระเป็นสแตนเลสเข้าชุดกัน และมี Low Wall เป็นที่วางของด้านหลังต่อเนื่องกันมา
ส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นอาบน้ำกระจก Temper แบบบานเลื่อนมาให้ค่ะ / ชุดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ + ที่วางสบู่ของ Prema ส่วนก๊อกเป็นแบบก้านโยกของ Cotto ผนังเตรียมงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
พื้นที่อาบน้ำขนาดกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ ไม่อึดอัด เดินท่อระบายน้ำมา 2 จุด ส่วนเปียกอยู่ในห้องอาบน้ำ และส่วนแห้งอยู่ด้านข้างโถสุขภัณฑ์
จากห้องน้ำมองกลับมาที่ห้องนอน
จากห้องนอนมองกลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น และห้องครัว
เก็บภาพรวมภายในห้องมาให้ดูอีกครั้งค่ะ
ราคา (มิ.ย.64)
***หมายเหตุ ราคา โปรโมชัน แบบห้อง และสเปกวัสดุอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทเท่านั้น โปรดโทรสอบถามราคาและโปรโมชันปัจจุบันที่สำนักงานขายอีกครั้งค่ะ **
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Key MRT เพชรเกษม 48 คอนโดพร้อมอยู่จาก Land & Houses บนทำเลศักยภาพโซนฝั่งธนฯ ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 46/2 และอยู่ติด MRT สถานีเพชรเกษม 48 แบบเดินไม่กี่ก้ามก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย เชื่อมต่อทุกการเดินทาง เข้าเมืองสะดวกรวดเร็ว มุ่งตรงสู่ใจกลางเมืองสาทร ด้วย MRT เพียง 15 นาที* ใช้นั่งไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ เรียนพิเศษตามสถานที่ที่อยู่ตรงแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ สายสีเขียวได้ง่ายมาก ๆ
ส่วนรอบ ๆ โครงการก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างครบถ้วน ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ Seacon บางแค, The Mall บางแค, Lotus บางแค, ตลาดเสนีย์ฟู้ดมาร์เก็ต ที่มีร้านอาหารเปิด 24 ชม., ตลาดบางแค รวมถึงใกล้กับ ม.สยาม และ รพ.พญาไท 3 เป็นต้น
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบายสูง เนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษม ฝั่งเข้าเมืองอยู่แล้ว ทำให้ขับรถเข้าเมืองได้สะดวก แบบไม่ต้องกลับรถ สามารถมุ่งหน้าไปถนนราชพฤกษ์ หรือตรงไปแยกตากสิน ไปถนนกรุงธนบุรี ซึ่งเชื่อมกับสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสาทรและสีลมได้เลย
เชื่อมต่อไปเข้าพระนคร ไปวงเวียนใหญ่ เชื่อมลาดหญ้า, ประชาธิปก, พาหุลัด, สำเพ็ง, เยาวราช หรือ ออกไปอรุณอัมรินทร์, สนามหลวงก็ง่าย การออกเมืองก็สะดวก ไปราชพฤกษ์ ออกนนทบุรีได้ ไปหนองแขม ออกไปกระทุ่มแบน สมุทรสาคร นครปฐม หรือจะเชื่อมกับถนนพุทธมณฑลสายต่าง ๆ ได้สะดวก โดยใช้เส้นเพชรเกษมเป็นทางหลักค่ะ
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า-รถสาธารณะ : จุดเด่นคืออยู่ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรเกษม 48 ที่เพียงสถานีเดียวถึง สถานี Interchange BTS บางหว้า ที่สามารถเชื่อมต่อสู่โซนสาทรและสีลมได้อย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาประมาณ 15 นาที* หรือจะใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วิ่งวนลูปแบบ Circle Line ไปท่าพระ, จรัญฯ เข้าเมืองไปพระราม 9 ก็ยังได้ โดยรถไฟฟ้าสายนี้ ยังเป็นสายที่ Interchange ไปยังรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ ได้แบบครบถ้วนอีกด้วยค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะนั้น ก็ทำได้ง่านเหมือนกัน ใกล้กับโครงการมีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา มีรถเมล์, รถสองแถวผ่านเกิน 10 สาย เส้นทางการเดินรถครอบคลุมทั้งกทม. และถ้าข้ามไปฝั่งตรงข้าม จะใช้นั่งออกเมืองยาว ๆ ไปยังตัวเมืองนครปฐมได้เลย ในส่วนของมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ Taxi ก็มีวิ่งผ่านหน้าโครงการตลอดทั้งวันแบบ 24 ชม. กันเลยค่ะ
การออกแบบโครงการ-ห้องพัก และวัสดุ : โครงการคอนโด High Rise 30 ชั้น 1 อาคาร การออกแบบอาคารดูเรียบง่าย ทันสมัย โดยจะใช้โทนสีที่ดูสุขุม ภูมิฐาน อย่างสีเทาเข้ม-อ่อน ตัดด้วยสีขาว ที่นี่จะมีห้องพักรวม 639 ยูนิต และ มีห้องพักให้เลือก 4 แบบ คือ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.8-28.5 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 48.1-51.2 ตร.ม.
ขายแบบ Fully Fitted พร้อม Digital Door Lock มี Built-in ชุดครัว, ชั้นเก็บของและตู้เสื้อผ้า ที่จัดมาให้สวยดูดี และความสูงจรดฝ้าเพดานเลย ชุดครัว Built-in บานพับติด Soft Closed หน้าบานชุดครัวเป็น High Resistance Surface สีเทาอ่อน, ไม้สีอ่อน และกระจกใส พร้อมไฟติดตั้งมาให้เรียบร้อย
พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มม.ความสูงเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตร ติดไฟดาวน์ไลท์แบบ Led Panel ประหยัดค่าไฟได้ดี ส่วนผนังห้องพักของจริงฉาบปูนเรียบทาสีและใช้ประตู-หน้าต่างกระจกตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมอบสีเทาของ Tostem
รวมถึงมีการออกแบบคุณภาพอากาศภายในห้องเป็นพิเศษ คือมีระบบ Air Pass ทำให้อากาศมีการหมุนเวียนได้มากยิ่งขึ้น ห้องในโครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือใต้ ทำให้สามารถหลบแดดและรับลมเย็นได้ตลอดทั้งปี และเป็นยูนิตที่ออกแบบแบบไม่มีเสา ทำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามใจได้เต็มพื้นที่
สิ่งอำนวยความสะดวก : ที่นี่มีให้ครบครัน และออกแบบส่วนกลางมาได้สวยงาม ทันสมัย มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน อาทิ Grand Lobby Lounge, Mailbox, Meeting Room, Co-Working Space, Game Station, Smart Locker, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สระว่ายน้ำเด็ก, ฟิตเนส, Oasis Garden, Key Card Access and CCTV และ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1198
สำนักงานขายโครงการ : 02-343-8900
Website : www.lh.co.th
หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
คอนโดใหม่ บนทำเลอื่นๆ…ที่น่าสนใจ
อนิล สาทร 12 ติด BTS เซนต์หลุยส์
เสนาคิทท์ ฉลองกรุง-ลาดกระบัง ตกแต่งครบ เริ่ม 799,000 บาท*
พลัมคอนโด พระราม 2 โครงการใหม่ เริ่ม 1.19 ล้าน*
พลัมคอนโด สุขุมวิท 62 ใกล้ BTS บางจาก เริ่ม 1.89 ล้าน*
Lumpini Ville สุขุมวิท 101/1-ปุณณวิถี BTS ปุณณวิถี
The Key MRT เพชรเกษม 48 คอนโดพร้อมอยู่ เริ่ม 2.59 ล้าน*
ลุมพินี พาร์ค บรมราชชนนี-สิรินธร ใกล้ MRT บางยี่ขัน
ลุมพินี วิลล์ จรัญ-ไฟฉาย ใกล้ MRT แยกไฟฉาย
Bless Residence Ekkamai
ยูนิโอ คอนโด จรัญฯ 3 ใกล้ MRT ท่าพระ
แสดงความคิดเห็น