EP.63 รีวิว คอนโด เดอะ คีย์ สาทร-เจริญราษฎร์ The Key Sathorn-Charoenraj
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้ทาง Condonayoo จะขอพาทุกท่านไปชมตึกสร้างเสร็จของโครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ จาก Land & Houses ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เจริญราษฎร์ สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านธุรกิจสำคัญอย่างสาทร-สีลมได้สะดวก ทั้งยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชในระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที ทำให้การเดินทางในทำเลใจกลางเมืองเป็นเรื่องง่าย
เดอะ คีย์ สาทร-เจริญราษฎร์ เป็นคอนโดรูปแบบ High-Rise สไตล์โมเดิร์น สูง 38 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 5 – 3 – 65 ไร่ มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งสิ้น 885 ยูนิต ห้องพักอาศัยมีทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ในขนาดห้องตั้งแต่ 32.6 ตร.ม. ไปจนถึง 75.3 ตร.ม. ซึ่ง ณ ปัจจุบันตัวอาคารสร้างเสร็จ 100% พร้อมโอนและหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่อาศัยได้ทันที
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการเพียบพร้อม ได้แก่ สระว่ายน้ำสไตล์ Tropical Resort แยะสระเด็กให้ต่างหาก, ห้องฟิตเนสอุปกรณ์ครบครัน, Reading Lounge, Activity Room, Grand Outdoor Terrace, Grand Lobby, Multi Purpose Room และสวนสีเขียวขนาดกว่า 2 ไร่ ในราคาเริ่ม 3.9 ล้านบาท (ต.ค. 60)
คอนโด The Key ทำเลอื่นๆ ที่น่าสนใจ…
The Key สาทร-เจริญราษฎร์
The Key พระราม 3
The Key สาทร-ราชพฤกษ์
The Key วุฒากาศ
The Key MRT เพชรเกษม 48
The Key อุดมสุข
The Key พหลโยธิน 34
The Key แจ้งวัฒนะ
The Key ประชาชื่น
ชื่อโครงการ | เดอะคีย์ สาทร-เจริญราษฎร์ / The Key Sathorn-Charoenraj |
เจ้าของโครงการ | แลนด์แอนด์เฮ้าส์ / Land & Houses |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bed / 32.6-37.6 ตร.ม. – 2 Bed / 55.2-75.3 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 5-3-65 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 38 ชั้น |
จำนวนห้อง | 885 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 60% |
โซน | พระราม 3, สาทร, เจริญกรุง, เจริญราษฎร์ |
ขนส่งสาธารณะ | – ใกล้ทางด่วนศรีรัช 800 ม. – BTS สุรศักดิ์ 2.2 กม. |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถสองแถว สายเจริญกรุง – สะพาน 3 |
ที่ตั้ง | ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. 10120 |
กำหนดการ | PRE-SALE 4 ต.ค. 2557 |
ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ศ. 2560 ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัย |
ราคา | เริ่มต้น 3.9 ล้านบาท (ต.ค. 2560) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – Grand Lobby – Reading Lounge – Multi-Purpose Room – Grand Outdoor Terrace – Activity Room – Fitness – Over 2 Rais for Green Area – Swimming Pool with Kid’s Pool |
จุดเด่นของโครงการ | ”เดอะคีย์ สาทร-เจริญราษฎร์ นิยามแห่งความสุขรูปแบบ ใหม่ใจกลางเมือง.. เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ บนทำเลที่เชื่อมโยงทุกความสุขของการใช้ชีวิต ที่สุดของความคุ้มค่าบนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง” |
::: ที่ตั้งโครงการ :::
ถนนเจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. 10120
พิกัด : 13.701083, 100.516003
แผนที่จากทางโครงการ
The Key สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เจริญราษฎร์ เป็นถนนที่ถูกตัดขึ้นมาใหม่ในภายหลังเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของถนนเจริญกรุง ส่งผลในเรื่องของการจราจรย่านดังกล่าวทำให้มีความคล่องตัวขึ้นเยอะ โดยปกติแล้วถนนเจริญราษฎร์เองเป็นถนนที่มีการจราจรเคลื่อนตัวได้ดีตลอดทั้งวันหรือพูดง่ายๆว่ารถไ่ม่ค่อยติดนั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่าปัจจุบันหาได้ยากแล้วครับถนนในกรุงเทพที่รถไม่ค่อยติด แต่ในทางกลับกันถนนเจริญราษฎร์เองกลับมีประสิทธิภาพในการเดินทางที่น่าสนใจเพราะเป็นเส้นที่เชื่อมต่อระหว่างถนนพระราม 3 และถนนสาทร ทำให้การสัญจรเข้าสู่ย่านใจกลางธุรกิจที่สำคัญเป็นเรื่องง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ จากโครงการใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง
นอกจากนั้นแล้วอีกจุดที่น่าสนใจไม่แพ้กันของถนนเจริญราษฎร์คือเรื่องของการใช้งานทางด่วน เพราะมีจุดขึ้นลงทางด่วนให้ใช้งานได้ทั้งฝั่งขาเข้าที่ใช้ไปยัง ดินแดง – พระราม 9 – แจ้งวัฒนะ และขาออกไปยังบางนา – ดาวคะนอง ในระยะที่ไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยในส่วนของจุดนี้ผมได้ทำการแจกแจงให้คุณผู้ชมได้ดูกันอย่างละเอียดในแต่ละจุดที่ภาพถัดไปครับ
จุดกลับรถ ก่อนอื่นเรามาดูจุดกลับรถกันสักหน่อยครับ เนื่องจากว่าถนนเจริญราษฎร์เป็นเส้นที่มีเกาะกลางถนน เพราะฉะนั้นในการเข้าออกโครงการจะต้องใช้งานจุดกลับรถเป็นประจำ เริ่มจากจุดกลับรถฝั่งขาเข้าไปยังสาทร อยู่ห่างจากโครงการเพียงแค่ 140 เมตร ดูจากตัวเลขก็รู้แล้วว่าสะดวกมากทีเดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปหายูเทิร์นไกล ในขณะที่ขากลับเข้าโครงการในกรณีที่มาจากฝั่งพระราม 3 จะอยู่เลยโครงการไปราว 550 เมตร ซึ่งก็ยังเป็นตัวเลขที่ไม่น่ากังวล ประกอบกับการจราจรของเส้นเจริญราษฎร์เองมีความคล่องตัวสูงอยู่แล้ว สรุปภาพรวมในเรื่องของการกลับรถจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ
จุดขึ้นทางด่วนไปยังฝั่ง ดินแดง – พระราม 9 – แจ้งวัฒนะ ด่านเก็บเงินนั้นจะอยู่บริเวณแยกถนนจันทน์ ซึ่งห่างจากตัวโครงการประมาณ 1.3 กม. รวมระยะทางกลับรถให้เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 นาที
จุดขึ้นทางด่วนฝั่งไปบางนา – ดาวคะนอง ด่านเก็บค่าผ่านทางฝั่งนี้จะไกลจากจุดแรกหน่อย โดยจะไปอยู่ที่บริเวณแยกสุรศักดิ์ พอถึงแยกสุรศักดิ์ให้กลับรถแล้วจะถึงด่านเก็บเงินทันที โดยจุดนี้จะมีระยะทางอยุ่ที่ 2.7 กม. รวมการกลับรถแล้ว
จุดลงทางด่วน หลังจากที่เราดูเส้นทางขึ้นทางด่วนกันไปแล้ว เรามาดูขาลงจากทางด่วนกันบ้าง จุดแรกคือจุดลงทางด่วนในกรณีที่มากจากฝั่งของดินแดง – พระราม 9 – แจ้งวัฒนะ ทางฝั่งนี้ค่อนข้างสะดวก เพราะเมื่อลงจากทืางด่วนแล้วมุ่งหน้าตรงเข้าสู่โครงการได้เลย ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยระยะทางอยู่ที่ประมาณ 1 กม. ใช้เวลาแค่ 2 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว
จุดลงทางด่วน อีกจุดคือจากกรณีที่มาจากด้านของดาวคะนอง – บางนา จุดลงทางด่วนฝั่งนี้จะมีความซับซ้อนขึ้นมาเพราะเนื่องจากแยกบริเวณถนนจันทน์นั้นจะมีการบังคับห้ามเลี้ยวขวา แต่ให้เลี้ยวซ้ายได้เพียงอย่างเดียว ดังนั้นเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเข้าซอยกิ่งจันทน์เพื่อลัดมาออกสู่ถนนเจริญราษฎร์แล้วจึงกลับรถเข้าโครงการ ซึ่งระยะทางจุดนี้จะอยู่ที่ 1.9 กม. ใช้เวลา 7 นาทีโดยประมาณ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ สำหรับลูกบ้านที่นิยมการเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นหลัก แน่นอนว่าอันดับแรกคงต้องมองหาการคมนาคมในระบบราง ซึ่งตัวโครงการเองก็อยู่ในระยะที่พอจะไปใช้งานรถไฟฟ้า BTS ได้เช่นกัน โดยสถานที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สุรศักดิ์ แต่เรื่องของระยะทางที่ 2.2 กม. นั้นไม่ใช้ระยะทางที่จะไปใช้งานได้ด้วยการเดินเท้าแน่ๆ อาจต้องใช้บริการอื่นเป็นตัวช่วยอย่างเช่นแท๊กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยจากการสอบถามราคากับพี่วิน จากโครงการไป BTS คิดค่าบริการที่ 30 บาทครับ
ข้อดีของ BTS สุรศักดิ์คือ อยู่ห่างจากสถานีศาลาแดงเพียง 2 สถานี ซึ่งใช้เป็นสถานีในการ Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลม เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางด้วยรถสาธารณะให้มีความหลากหลายมากขึ้น
ความอุดมสมบูรณ์ ในระยะที่เดินเท้าไปใช้งานมี 7-11 ใกล้ๆ ช่วยให้อุ่นใจได้ในระดับนึง และสำหรับถนนเจริญราษฎร์นั้นหากใครเคยสัญจรผ่านเส้นดังกล่าวจะเห็นว่าตลอดเส้นมีร้านอาหารขึ้นอยู่ 2 ข้างทางมากมายโดยเฉพาะรูปแบบของร้านอาหาร, สวนอาหาร, ภัตตาคาร ยกตัวอย่างเช่น ภัตตาคาร ลี เหล่า หงี, ครัวเจ๊ง้อ, ร้านอาหารเกสร, ชาบู นางใน, ครัวสวนกุหลาบ และเกี๊ยกหูฉลาม เป็นต้น โดยที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืนในรูปแบบ Pub & Restaurant เพื่อนัดกลุ่มเพื่อนมาสังสรรใกล้ๆบ้านได้เลย
เดินทางไกลออกมาจากเส้นเจริญราษฎร์ รอบด้านยังคงมีความอุดมสมบูรณ์รองรับการใช้งานอีกหลากหลายรูปแบบ เริ่มกันที่เส้นเจริญกรุง ที่มี Asiatique แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคนในย่านนี้ เลยไปทางฝั่งบางรักมีโรบินสันบางรัก ส่วนเส้นพระราม 3 มีห้าง Three on Tree ซึ่งแต่เดิมคนแถวนี้จะรู้จักกันในชื่อของ Future Mart ซึ่งมีโฮมโปรอยู่ชั้นล่าง แต่หลังจากที่ Homepro ย้ายออกไปอยู่บริเวณสะพานพระราม 9 ทาง Three on Tree เองก็ถือโอกาสรีโนเวทตัวเอง ให้มีความทันสมัยและครบครันมากขึ้น มีร้านอาหารอย่าง MK, Bar B Q Plaza, Pizza Company, KFC และ ซุปเปอร์มารเก็ต Max Valu ที่ผมพูดถึงห้างแห่งนี้ยาวหน่อยเนื่องจากแต่ก่อนห้างนี้มักจะถูกมองข้ามเพราะเป็นเพียงห้างเล็กๆ แต่ปัจจุบันพัฒนาได้อย่างดูดีน่าใช้งาน ทั้งยังไปใช้งานได้สะดวกที่สุดอีกด้วย
แต่ถ้าอยากได้ความครบครันแบบ Multi Complex คงต้องไปใช้งานในส่วนของห้าง Central Plaza พระราม 3 ที่เพิ่งรีโนเวทครั้งใหญ่ไปเมื่อไม่นานมานี้ และ Tesco Lotus ที่ซึ่งก็ไม่ได้ห่างจากโครงการสักเท่าไร อย่างที่ผมได้มีพูดถึงตั้งแต่ช่วงต้น เนื่องจากผมเองเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ย่านเจริญกรุงมาตั้งแต่กำเนิด ทำเลพระราม 3 เจริญราษฎร์ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยจะเผชิญกับปัญหารถติดนัก จึงทำให้การไปใช้งานห้างดังกล่าวใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ผมจึงขอสรุปโดยรวมว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์, ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์ และเข้าถึงสะดวกมากทีเดียวครับ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สถานที่สำคัญบริเวณโครงการ
::: การเดินทาง :::
เส้นทางที่ผมยกตัวอย่างมาให้ชมในการเดินทางไปยังตัวโครงการในวันนี้ เริ่มต้นจากถนนสาทรฝั่งมทุ่งหน้าไปยังสะพานตากสิน จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่แยกสุรศักดิ์ เข้าสู่ถนนเจริญราษฎร์ แล้วมุ่งหน้าตรงไปจนถึงตัวโครงการที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ โดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ
สรุปการเดินทาง : ถนนสาทร > BTS สุรศักดิ์ > แยกสุรศักดิ์ > ถนนเจริญราษฎร์ > เลยซอยเจริญราษฎร์ 5 ไปเล็กน้อย > The Key สาทร-เจริญราษฎร์
เริ่มต้นกันที่ถนนสาทรบริเวณแยก สาทร-นราธิวาสฯ ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังสะพานตากสิน
ผ่าน BTS สุรศักดิ์
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่แยกเจริญราษฎร์ที่บริเวณแยกสุรศักดิ์
ขับไปตามถนนเจริญราษฎร์
มุ่งหน้าตรงไป ผ่านแยกถนนจันทน์
จากนั้นเลยซอยเจริญราษฎร์ 5 ไปเล็กน้อยให้เตรียมชิดซ้าย โดยสามารถสังเกตเห็น โรงแรม Best Western Grand Howard ตึกสีส้มๆ ทางขวามือ
ถึงแล้วครับ โครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ อยู่ตรงข้ามเยื้องๆกับโรงแรม Best Western
::: บริเวณโครงการ :::
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เจริญราษฎร์ฝั่งตรงข้ามมีปั๊มบางจากและโรงแรม Best Western Grand Howard ทางทิศเหนือติดกับโครงการ Supalai Lite สูง 26 ชั้น เลยจากศุภาลัยไปเล็กน้อยมี 7-11 ทางด้านหลังโครงการหรือทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ค่อนข้างเปิดโล่งติดกับโรงงานไม้และที่ดินเปล่า ซึ่งในส่วนของโรงงานดังกล่าว ไม่ได้มีการส่งเสียงรบกวนผู้พักอาศัยในโครงการแต่อย่างใด ส่วนทิศใต้นั้นก่อนหน้านี้เป็นโครงการ Than Living แต่เนื่องจากมีเรื่องเกี่ยวกับทางคดีความของเจ้าของโครงการ จึงหยุดชะงักการก่อสร้างไป เหลือเป็นอาคารทีขึ้นฐานไว้แล้วประมาณ 7-8 ชั้น
เรามาเริ่มจากการสำรวจบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ กันก่อนเลยครับ
ทางเข้าโครงการ
ฝั่งตรงข้ามมีปั๊มบางจาก และ โรงแรม Best Western Grand Howard
ถนนเจริญราษฎร์เป็นถนนที่มีความกว้างขนาด 6 เลน มีเกาะกลางถนน ซึ่งเรื่องของการจราจรนั้นต้องบอกว่าเป็นถนนเพียงไม่กี่เส้นในกรุงเทพ ที่มีความคล่องตัวสูงไม่ค่อยเจอเรื่องของรถติด
ฟุตบาทริมถนนเจริญราษฎร์ มีความกว้างและสะอาดน่าเดินครับ ทางกทม. ลงต้นไม้ตกแต่งสร้างบรรยากาศความร่มรื่นตลอดทั้งเส้น
ช่วงด้านหน้าโครงการมีที่ตั้งของวินมอไซค์ มีป้ายอัตราค่าบริการให้ดูด้วย หลักๆที่น่าจะถูกใช้งานคือไป BTS สุรศักดิ์ ราคา 30 บาท
โครงการเพื่อนบ้าน Supalai Lite
เดินเลยจาก ศุภาลัยมา มี 7-11 ซึ่งเป็นสาขาใหม่แกะกล่องเพิ่งเปิด เรียกว่าเดินเข้าไปยังแอบได้กลิ่นใหม่กลิ่นสีอยู่เลยล่ะ
นอกจากนั้นรอบๆโครงการในระยะเดินเท้าไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนัก ผมจึงขอกลับมาที่บริเวณโครงการ เพื่อเข้าไปชมด้านในกันต่อครับ
ทางเข้าโครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์
จากหน้าโครงการมองเห็นตัวอาคารหน้าตาแบบนี้
ทางด้านขวาของทางเข้าโครงการเป็นห้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแค่ห้องรปภ. ก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราของโครงการขึ้นมาบ้างแล้ว
ทางด้านซ้ายแยกเป็นทางเดินเท้าเข้าด้านใน
ช่องทางเดินรถเข้าไปด้านในประมาณ 50 เมตรจะเป็นจุด Drop Off เข้าสู่ล็อบบี้
ด้านข้างมีทางเดินเท้าคู่ขนานกันไป
แต่ก่อนที่จะไปยังล็อบบี้ ผมขอแวะเดินสูดอากาศธรรมชาติที่บริเวณสวนสาธารณะด้านหน้ากันสักหน่อย
สวนที่ทางโครงการให้มานั้นมีขนาดที่กว้างขวางมากทีเดียว ปูด้วยพื้นหญ้าจริงสีเขียวขจี สอดแทรกด้วยม้านั่งอย่างเนียนตา ให้ลูกบ้านมีจุดพักในกรณีที่มาวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย
ถนนด้านในที่เห็นเป็นทางเข้าไปยังสำนักงานโอนชั่วคราว ซึ่งจะต้องวนรถไปทางด้านหลังอาคารตามช่องทางการเดินรถปกติของโครงการครับ
ทางเชื่อมต่อไปยังล็อบบี้
หลังจากที่เราไปเดินเล่นกันมาพอหอมปากหอมคอ กลับมาที่บริเวณทางเข้าโครงการกันอีกครั้ง คราวนี้เราจะเดินตามช่องทางการเดินรถให้ดูว่าถนนภายในโครงการและลานจอดรถมีรูปแบบน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ถนนช่วงบริเวณจุด Drop Off ถูกตกแต่งด้วยลวดลายแนว Abstract ทางขวามือเป็นจุดจอดรถสำหรับ Visitor
สำหรับจุด Drop Off นั้น ให้อารมณ์ราวกับว่าอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวกันเลยทีเดียว ด้วยโถงเพดานสูงโปร่งสบาย โดยเราจะยังไม่เข้าไปที่ด้านในล็อบบี้กันนะครับ ผมขอเดินผ่านจุดนี้ไปตามถนนก่อน
ผ่าน Drop Off มา เลี้ยวซ้ายไปยังลานจอดรถ ส่วนเลี้ยวขวาจะเป็นการวนรถเพื่อออกจากโครงการในกรณีที่มีรถมาส่งเพื่อนหรือแท๊กซี่นั่นเอง พูดง่ายๆว่ารถภายนอกจะไม่เข้าไปปะปนกับลูกบ้านด้านในนะครับ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ทุกโครงการต้องมีคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยโครงการมีศาลพระพรหม 4 หน้า และศาลเจ้าที่ ให้มาขอขมาเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของชาวพุทธ
มองย้อนกลับไปทางฝั่งเดินรถออกจากโครงการ
การที่จะเข้าไปด้านในลานจอดรถนั้น มีไม้กระดกกั้นทั้งขาเข้าและขาออก
ใช้คีย์การ์ดเพื่อเปิด ซึ่งเป็นระบบสแกนระยะไกล ไม่ต้องเปิดกระจกยื่นมือออกมาแตะเหมือนโครงการทั่วไป พร้อมทั้งยังติดตั้ง CCTV ตรวจจับรถเข้าออกทุกคัน
ช่วงแรกของถนนเป็นถนนที่รถวิ่งสวนกันได้
เลยจากไม้กระดกมาเพียงเล็กน้อยมีทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ลานจอดรถด้านในอาคาร
ส่วนทางเดินรถด้านหลังจะเป็นแบบวันเวย์สำหรับรถที่ออกมาจากลานจอดรถไปยังด้านหน้าโครงการ
ทางเข้าลานจอดรถสำหรับความสูงไม่เกิน 2.1 เมตร
รูปแบบการเดินรถด้านในลานจอดรถเน้นในเรื่องของความปลอดภัยเป็นสำคัญ ด้วยการใช้รูปแบบของวันเวย์ และมีการแยกทางลาดขึ้นลงให้อยู่คนละจุดกัน ทั้งยังมีแสงสว่างให้อย่างเพียงพอ
ทางออกด้านหลังลานจอดรถ
วนรถไปตามรอบนอกของอาคาร ส่วนเส้นลูกศรสีเหลือเป็นทางเดินรถชั่วคราวสำหรับผู้ที่มาติดต่อสำนักงานการโอนกรรมสิทธิ์
แยกที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์
โดยในอนาคตในส่วนของสำนักงานโอนจะถูกทำการรื้อออกและเปลี่ยนเป็นลานจอดรถตามแปลนที่ได้วางเอาไว้ของโครงการ
หลังจากที่เดินดูรอบอาคารกันมาพอสมควรแล้ว ได้เวลาพาคุณผู้ชมเข้าไปยังด้านในอาคารกันแล้วครับ เริ่มกันที่ทางเข้าหลักสู่ Grand Lobby
นอกจากบันไดทางขึ้นล็อบบี้ปกติแล้ว ยังมีทางลาดให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้วีลแชร์ในการเคลื่อนย้าย
Grand Lobby สัมผัสแรกที่เข้ามาได้คือความหรูหราด้วยพื้นลายหินอ่อน ฝ้าเพดดานสูง Double Volume โปร่งสบาย
ผนังใช้เป็นแผ่นกระจกเต็มผนัง รับแสงธรรมชาติเข้ามาด้านในมาก
ออกแบบมุมต่างๆให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
เคาน์เตอร์สำหรับติดต่อเจ้าหน้าที่นิติบุคคล
เข้ามาด้านในล็อบบี้ เป็นทางสำหรับไปลานจอดรถและโถงลิฟต์
หากเลยผ่านโถงลิฟต์ไปมีห้องสำหรับซักรีดซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้ใช้งาน และห้องน้ำ
ห้องน้ำชั้นล่างสุขภัณฑ์หน้าตาดูดีมีระดับ
ลำดับต่อไปจะเป็นในส่วนของ Facilities หลักที่ทางโครงการจัดเต็มไว้ให้อยู่ที่ชั้น 5
ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 5 ตัว แยกลิฟต์ขนของอีก 1 ตัว เป็นแบบล็อคชั้น เพิ่มความปลอดภัยอีกระดับ
ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 5
จากโถงลิฟต์จะมีทางแยกทางด้านนี้เป็นทางไปยังห้อง Multi Purpose Room
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาดังกล่าวมีการเก็บงานเพิ่มเติมอยู่เล็กน้อย จึงไม่สะดวกที่จะเข้าไปเก็บภาพครับ
อีกด้านนึงจากโถงลิฟต์เป็นทางไปยังโซนสระว่ายน้ำ ฟิตเนส
ออกจากโถงลิฟต์มา จะมีทางแยกไปซ้ายขวา
ทางขวาจะประกอบไปด้วย Grand Outdoor Terrace และสระว่ายน้ำ
ส่วนทางซ้ายประกอบด้วย Reading Lounge, Fitness และ Activity Room
คำเรียกห้องต่างๆอาจจะมีความแตกต่างกัน โดยผมยึดตาม Official Website ของโครงการเป็นหลักนะครับ
เราเริ่มจากทางด้านนี้กันก่อน อันดับแรกเป็นห้องฟิตเนสหรือ The Gym
ภาพใน The Gym โปร่งสบาย มีแสงสว่างอย่างเพียงพอแม้ไม้ต้องเปิดไฟด้วยผนังแผ่นกระจกขนาดเต็มแผ่น พื้นปูด้วยลามิเนต
ส่วนแรกมี ดัมเบลหลายขนาดพร้อมเตียงยก และเตียงซิตอัพ
ส่วนถัดมามีจักรยาน 3 เครื่องและ Elliptical Trainer 1 เครื่อง
มุมนี้มีเครื่องเดินวงรีอีก 1 เครื่องรวมกับโซนเมื่อสักครู่เป็น 2 เครื่อง และลู่วิ่งอีกถึง 4 เครื่อง
ทางด้านนี้เป็นอุปกรณ์เพิ่มมวลกล้ามเนื้อประเภทแมชชีน เดี๋ยวผมจะพาดูแต่ละเครื่องเลยว่าบริหารส่วนใดได้บ้าง
เครื่องนี้ใช้บริหารกล้ามเนื้อขาและสะโพก
เครื่องนี้สำหรับผู้ที่ต้องการจะบินไปแตะขอบฟ้าเพราะเป็นเครื่องบริหารหลังและปีก
เครื่องถัดมาสำหรับบริหารกล้ามเนื้ออกและหัวไหล่
แมชชีนเคื่องสุดท้ายใช้บริหารกล้ามเนื้ออกเช่นกัน
ห้องถัดไปเป็นห้อง Reading Lounge หรือจะเรียกว่า Library ห้องสมุดก็ได้
ภายในห้องสมุดแบ่งโซนการใช้งานตามความเหมาะสม โซนแรกเป็นโต๊ะยาวเหมาะสำหรับการประชมเป็นหมู่คณะรองรับได้มากถึง 10 คนเลยทีเดียว
โซนถัดมาเป็นมุมนั่งสบายๆ จะเห็นว่าทางด้านนอกเป็นวิวของสวนให้บรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลาย
มุมนี้เป็นมุมที่มีโต๊ะสำหรับวางโน็ตบุ๊คนั่งทำงานได้ หรืออาจจะเป็นการพูดคุยสนทนาแบบ 1 on 1
โซนทางด้านในสุดเป็นมุมนั่งรูปแบบ Lounge รูปตัว U ให้ความเป็นส่วนตัว
อีกห้องที่เหลือทางด้านนี้คือ Play Room
ทางโครงการให้เป็นห้องสำหรับตีปิงปองด้วยโต๊ะปิงปองขนาดมาตรฐาน
สุดทางเดินด้านในมีห้องน้ำแยกชายหญิง
แวะเข้ามาดูในห้องน้ำกันหน่อย
อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์หน้าตาโมเดิร์น
ห้องน้ำสำหรับผู้ใช้วีลแชร์
ภายในกว้างขวางเคลื่อนย้ายรถวีลแชร์สะดวก พร้อมด้วยราวจับเพิ่มความปลอดภัยในเวลาเคลื่อนที่
เรามาดูโซนทางขวาจาก Lift Hall กันบ้าง โซนนี้มีสระว่ายน้ำ, Grand Outdoor Terrace และสวนหย่อม
ผมขอเดินออกไปด้านนอกดูสวนหย่อมกันก่อน
ทางเดินริมสวนตกแต่งได้อย่างร่มรื่นน่าเดินเล่นรับลมชมวิว
พื้นหญ้าสีเขียวตรงส่วนนี้เป็นพื้นหญ้าเทียม ด้วยเหตุผลในเรื่องของการ maintenance ที่ดูแลง่ายกว่าพื้นหญ้าจริง
มองจากทางด้านนี้เข้าไปในตัวอาคารเห็นเป็นแนว Grand Outdoor Terrace
กลับมาที่ Grand Lobby Terrace หรือระเบียงนั่งเล่นแบบเปิดรับลมโอเพ่นแอร์ พื้นยกสูงขึ้นเล็กน้อย
แบ่งพื้นที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นแตกต่างกันในแต่ละจุด โดยจุดแรกเป็นแบบม้านั่งยาวเต็มผนัง
ทางด้านนี้เป็นส่วนที่ติดกับสระว่ายน้ำ Pool View
มุมนั่งเล่นต่างๆ สังเกตเห็นว่าให้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้ดี ด้วยแนวเสาของตัวอาคาร
สุดทางเดินด้านนี้จะเป็นทางลงสระว่ายน้ำและห้องน้ำ
แวะดูห้องน้ำด้านในสุดก่อนเลยแล้วกันครับ
ห้องน้ำแบ่งแยกชายหญิง
ตู้ล็อคเกอร์สำหรับเก็บอุปกรณ์
ห้องอาบน้ำ
ภาพรวมสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
จุดอาบน้ำล้างตัวก่อนใช้งาน ฉาบด้วยปูนเปลือย
ส่วนสุดท้ายที่่เราจะไปสำรวจกันคือสระว่ายน้ำครับ ทางเดินริมสระลงต้นไม้ให้ความร่มรื่นเขียวขจี
ทางฝั่งนี้มองเห็นห้องฟิตเนสหรือในทางกลับกันหากออกกำลังกายในห้องฟิตเนส ก็จะมองออกมาเห็นเป็น Pool View นั่นเอง
สระว่ายน้ำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในรีสอร์ทที่เป็นสไตล์ Tropical
สำหรับตัวเลขขนาดสระว่ายน้ำอยู่ที่ 40 x 12 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่มาก ว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ
มุมสำหรับเด็กหรือ Kid’s Pool อยู่ที่ด้านในสุด
::: แปลนอาคาร :::
Groung Floor Plan เริ่มจากที่บริเวณทางเข้าออกหลักของโครงการ ทางซ้ายเป็นพื้นที่ของสวนสาธารณะ ขับเข้าไปตามถนนโครงการเจอกับจุด Drop Off ในการรับส่งผู้โดยสาร ทางเข้าลานจอดรถต้องวนไปตามถนนโครงการทางด้านหลังอาคาร ด้านในอาคารเป็น Grand Lobby เชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์ที่มีให้ 5 ตัว แยกลิฟต์ขนของให้อีก 1 ตัว โดยในส่วนของการจอดรถนั้นสามารถจอดได้มากถึง 60% รวมการจอดซ้อนคันแล้ว
5th Floor Plan ชั้น 5 ใช้งานเป็น Facilities Floor ทั้งชั้น โดยไม่มีส่วนของห้องพักอาศัยเลยแม้แต่ยูนิตเดียว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดโล่งโดยเฉพาะทางด้านซ้ายของภาพที่มีสระว่ายน้ำ และ Grand Outdoor Terrace ส่วนทางแกนด้านขวาจะเป็นแบบห้องปิดประกอบด้วย Reading Lounge, Fitness และ Game Room ส่วนห้อง Multi Purpose หรือห้องเอนกประสงค์ จะแยกไปอยู่อีกด้านนึงของโถงลิฟต์ ระหว่างสวนหย่อมทั้งสองจุด
6th Floor Plan ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยตรงส่วนของทางเดินด้านซ้ายนั้นมีความพิเศษตรงที่เป็นระเบียงทางเดินแบบ Single Corridor มองเห็นด้านล่างเป็นสระว่ายน้ำ สำหรับชั้นนี้มีความหนาแน่นอยู่ที่ 21 ยูนิต
7th – 16th Floor Plan เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นมีความหนาแน่นอยู่ 27 ยูนิตต่อชั้น
17th – 18th Floor Plan เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นมีความหนาแน่นอยู่ 27 ยูนิตต่อชั้น
19th – 30th Floor Plan เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นมีความหนาแน่นอยู่ 27 ยูนิตต่อชั้น
31st – 38th Floor Plan เป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้นมีความหนาแน่นอยู่ 27 ยูนิตต่อชั้น
::: แปลนห้อง :::
แบบห้องภายในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
1 ฺBedroom ขนาด 32.6 – 37.6 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 55.2 – 60 ตร.ม.
2 Bedroom ขนาด 75.3 ตร.ม.
::: ห้องตัวอย่าง :::
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมในวันนี้มีเพียงแบบเดียวคือห้อง 2 Bedroom ขนาด 75.3 ตร.ม.
โถงทางเดินไปยังห้องพักอาศัย พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ
เปิดประตูห้องเข้าไปชมด้านในกันครับ
หน้าตาประตูห้องจะเห็นว่ามีแถบตรงกลางเพิ่มเข้ามา
จุดนี้เรียกว่า Air-Pass ซึ่งคล้ายกับระบบ Air-Post ในแบรนด์ The Room คือใช้สำหรับเพิ่มระบบการหมุนเวียนอากาศภายในห้อง เพียงแต่ไม่มีช่องสำหรับใส่ซองจดหมายเพียงเท่านั้น
มือจับประตูแบบก้านโยก
เข้ามาด้านในส่วนแรกเจอกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ วัสดุพื้นฐานที่ทางโครงการให้มาได้แก่ พื้นลามิเนต 8 มม. ผนังทาสีขาวฉาบเรียบ เพดานห้องสูง 2.6 เมตร และโครงการขายแบบ Fully Fitted ได้แก่ชุดเครัว Built-in พร้อม Hob, Hood, ซิงค์ ชุดสุขภัณฑ์ และตู้เสื้อผ้า
โคมไฟให้เป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
มองย้อนกลับไปทางฝั่งประตูทางเข้าห้อง
สำหรับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไปเป็นเพียงแนวทางไอเดียการตกแต่งเท่านั้นนะครับ ของจริงทางโครงการไม่ได้ให้มา ระยะสายตาระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้างประมาณ 3-4 เมตร ซึ่งอาจจะเลื่อนโซฟาออกไปให้กว้างขึ้นได้อีก หากชอบให้มีสเปซช่วงหน้าทีวีกว้างๆ
ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ รองรับการใช้งาน 3-4 คนได้สบายๆ
ผนังทางด้านนี้เหมาะสำหรับทำเป็นชั้นวางทีวี โดยทางโครงการตกแต่งเป็นชั้น Built-in แบบเต็มผนังให้ดูแล้วออกมาหน้าตาประมาณนี้
ความลึกของชั้นวางทีวีประมาณ 1 ฟุต
ด้านนอกเป็นระเบียงซึ่งจะมีอยู่ 2 จุดจุดแรกในภาพคือระเบียงห้องนั่งเล่น
วัสดุประตูระเบียงเป็นวัสดุไวนิล ที่ให้ทั้งเรื่องของความสวยงาม ทนทาน และเก็บเสียงได้ดีกว่าอลูมิเนียมธรรมดา
ราวกันตกแผ่นกระจก สงวนสิทธิ์เฉพาะห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 75.3 ตร.ม นี้เท่านั้น
คอมแอร์แขวนไว้ด้านบนเพื่อให้ใช้งานระเบียงได้อย่างเต็มพื้นที่ พร้อมทั้งหมดกังวลเรื่องลมจากคอมแอร์เป่าใส่ตัวเราขณะออกมาใช้งาน
ด้านข้างต่อท่อน้ำประปาไว้ให้
สำหรับวิวของห้อง Type นี้ มีความพิเศษคือได้เป็น Pool View และในแต่ละชั้นจะมีห้อง Type นี้เพียงแค่ห้องเดียว
ถัดไปเป็นส่วนของ Pantry หรือห้องครัวซึ่งเป็นห้องครัวแบบเปิด
สำหรับเคาน์เตอร์ครัวนั้นจะมีให้ครบชุดบนล่างเข้ามุมตัว L ตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลย
เรามาดูแต่ละส่วนของห้องครัวว่ามีการใช้งานอย่างไรบ้าง เริ่มจากส่วนนี้จะเว้นช่องด้านข้างเอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น
ท๊อปครัวหินสังเคราะห์ ด้านหลังไม่ได้กรุกันเปื้อนให้
ฮอบ 2 หัว ของ MEX
ฮูดดูดควันของ MEX
Sink ล้างจานหลุมเดี่ยวของ MEX เช่นกัน
ลองเปิดลิ้นชักด้านล่างดูการแบ่งช่อง แยกการเก็บอุปกรณ์ครัวได้อย่างเป็นสัดส่วน พร้อมเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
ลองเปิดตู้ด้านบน
อีกด้านของเคาน์เตอร์ครัวเน้นในเรื่องของการเก็บอุปกรณ์และพื้นที่เตรียมอาหาร
เปิดดูชั้นวางของด้านบน
ชั้นวางของด้านล่าง
จากส่นของห้องนั่งเล่นและครัว ต่อไปเราจะไปดูกันที่ห้องนอนบ้างครับ
ช่องทางเดินไปยังห้องนอน
ทางขวามีตู้เก็บของเอนกประสงค์ เหมาะสำหรับวางเครื่องซักผ้า
ห้องนอนห้องแรกซึ่งเป็นห้องนอนรองอยู่ทางด้านซ้ายของทางเดิน
สำหรับห้องนอนนี้ ด้านในจะไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆให้เลยรวมถึงตู้เสื้อผ้า เนื่องจากห้องนี้บางท่านอาจจะปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นรูปแบบอื่นอย่างเช่นห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือ
แต่หากทำเป็นห้องนอนหลังจากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตแล้ว ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ 1 ตัว
หน้าต่างห้องนอนรองทรงสูงวัสดุกรอบไวนิล เปิดปิดได้ 1 ช่องแบบบานกระทุ้ง
มองย้อนไปทางด้านปลายเตียง เหลือพอสำหรับติดตั้งเป็นชั้นวางของชั้นวางทีวีได้อีกด้วย
กลับมาที่ทางเดิน ขยับเข้าไปด้านในอีกหน่อย ทางขวามีห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำจะมีให้ 2 ห้องด้วยกันคือห้องน้ำตรงทางเดินนี้ และห้องน้ำในห้องนอนหลัก
ห้องน้ำห้องนี้มีการแบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้ พื้นห้องน้ำกระเบื้องเซรามิค 60 x 60 ซม. ส่วนผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลอ่อน
ธรณีประตูห้องน้ำก่อยกสูงขึ้นเล็กน้อยป้องกันน้ำกระเด็นมาโดนพื้นลามิเนต
ทางซ้ายวางอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ และติดตั้งบานกระจกเงาไว้ให้แล้ว
อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมของ American Standard ด้านล่างมีช่องเก็บของได้เล็กน้อย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งสายชำระและที่แขวนทิชชู่พร้อมใช้งาน
ส่วนเปียกอาบน้ำติดตั้ง Shower Box แบบบานเลื่อนกันน้ำกระเด็นมายังส่วนแห้ง
พื้นที่สำหรับยื่นอาบน้ำประมาณ 1.5 x 1.0 เมตร
ฝักบัวแขวนบนราวที่สามารถปรับระดับความสูงได้ พร้อมแท่นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
หัวฝักบัวของ American Standard สามารถปรับรูปแบบขนาดของสายน้ำได้
ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้เรียบร้อย
สุดท้ายเป็น Master Bedroom
ด้านในห้องนอนหลักวางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง
ด้านข้างเตียงเหลือพื้นที่ให้เดินได้ฝั่งละประมาณ 50 ซม. เข้าออกสะดวก
ทางปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือให้เดินเข้าออกได้เช่นกัน แต่อาจจะกว้างไม่พอสำหรับ Sideboard ที่ทำได้คือติดตั้งเป็นชั้นวางเล็กๆตามแบบห้องตัวอย่าง
มุมมองจำลองระยะจากสายตาไปถึงทีวีประมาณ 3 เมตร
มุมนี้บิลท์อินเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือ
หน้าต่างตรงนี้ติดตั้งในรูปแบบของ Bay Window ที่ให้มุมมองกว้างขึ้น
ด้านนอกเป็นระเบียงห้องนอนหลัก ประตูใช้วัสดุไวนิลเช่นกัน เกือบลืมบอกไปว่าของทั้งประตูและหน้าต่างเป็นแบบสีเขียวตัดแสง ช่วยกรองยูวีได้ดีขึ้นระดับหนึ่ง
พื้นที่ระเบียงติดตั้งระแนงช่วยบังสายตาให้ความเป็นส่วนตัว พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำประปา
คอมแอร์แขวนขึ้นด้านบน
จากระเบียงมองไปอีกด้านของห้องที่เป็นส่วนของ walk-in closet และห้องน้ำในตัว
ชุดตู้เสื้อผ้า Built-in นี้ทางโครงการให้มาครบชุดตามแบบในภาพเลยครับ
แบ่งการใช้งานเป็นตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บอุปกรณ์แต่งกายอื่นๆ
ห้องน้ำด้านในห้องนอนหลักวัสดุโดยรวมเหมือนกับห้องน้ำตรงโถงทางเดินเมื่อสักครู่
สุขภัณฑ์ของ American Standard
ส่วนเปียกอาบน้ำติดตั้ง Shower Box
พื้นที่ยืนอาบน้ำ 1.5 x 1.0 เมตร
ราวแขวนฝักบัวประระดับได้พร้อมแท่นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ดวงไฟดาวน์ไลท์ พร้อมทั้งพัดลมดูดกาศติดตั้งให้เรียบร้อย
ราคา (ต.ค. 2560)
1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. : ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
2 Bedroom ขนาด 55 ตร.ม. : ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท
2 Bedroom ขนาด 75 ตร.ม. : ราคาประมาณ 9 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
**ราคาและเงื่อนไขอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า**
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ The Key สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกว่าใจกลางเมืองก็ไม่ผิดนักแม้จะไม่ติดกับระบบขนส่งประเภทราง ด้วยการที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ซื่งเป็นถนนคู่ขนานกับถนนเก่าอย่างเจริญกรุง เชื่อมต่อถนนสาทรไปยังถนนพระราม 3 และมีถนนจันทน์ตัดผ่านตรงกลาง พื้นที่บริเวณดังกล่าวยังขาดความอุดมสมบูรณ์ไปบ้าง เพราะคนส่วนมากใช้ถนนเส้นนี้เป็นทางผ่านเท่านั้น โดยตัวถนนเจริญราษฎร์ผมขอแยกเป็นสองส่วนคือช่วงตั้งแต่ถนนสาทร-ถนนจันทน์ ช่วงนี้จะอยู่ใต้ทางด่วนบริเวณสองข้างทางนี้เป็นถนนสัญจรไม่มีสิ่งอำนวยความ สะดวกใดๆเลย ส่วนอีกช่วงคือถนนจันทน์-พระราม 3 ช่วงนี้คือช่วงที่ตัวโครงการตั้งอยู่องค์ประกอบหลักคือมีหมู่บ้าน คอนโด และร้านอาหารอยู่เป็นระยะๆ บนพื้นที่ก่อสร้างโครงการตัวอาคารจะโดนขนาบข้างด้วยโครงการเพื่อนบ้านทั้งสองฝั่งแต่หากพิจารณาถึงแปลนที่ทางโครงการทำออกมาจะเห็นได้ว่าหลีกเลี่ยงการโดนบล็อควิวได้เป็นอย่างดี
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – การเดินทางของผู้อยู่อาศัยต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชในระยะ 1 กิโลเมตร ส่วนเรื่องการเข้าเมืองนั้นถือเป็นจุดแข็งของโครงการได้เลยเพราะเจริญราษฎร์ เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับสาทร สีลม และถนนพระราม 3
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – แท๊กซี่เรียกหาได้ง่าย มีรถไฟฟ้าใกล้ๆ 2 สถานีในระยะประมาณ 2 กิโลเมตรคือ BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสินที่มีท่าเรือเป็นจุด HUB ของการโดยสารทางน้ำด้วย นอกจากนั้นมีตัวเลือกเสริม BRT ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตรที่หน้าห้างโฮมโปร และรถสองแถวแดงวิ่งช่วงเจริญกรุง-สะพาน 3
ห้องและวัสดุ – การจัด Layout ทำได้เหมาะสมกับการใช้งานจริงโดยสำหรับห้องแบบ 1 Bedroom มีฉากเลื่อนแบบแขวนแบ่งห้องนั่งเล่นกับห้องนอนซึ่งช่องทางเดินมีขนาดกว้างเดินสะดวก ห้องนอนกว้างมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้เดินได้อย่างไม่อึดอัด โซนนั่งเล่นติดกับระเบียง สำหรับ 2 Bedroom เพิ่มตู้วางเครื่องซักผ้าให้ใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น มีระเบียงเพิ่มในห้องนอนใหญ่อีก 1 จุด ส่วนของห้องครัวนั้นเป็นแบบครัวเปิดทั้งสองแบบไม่เหมาะกับการทำอาหารหนัก โครงการขายแบบ Fully Fitted เริ่มจากพื้นปูพื้นลามิเนต 8 มม. เพดานสูง 2.6 เมตร Pantry ครัวครบชุดท๊อปครัวใช้วัสดุ Solid Surface มีเตาเซรามิค 2 หัว ซิงค์และเครื่องดูดควันของ MEX ตู้เก็บรองเท้าบิลท์ทรงสูงติดเพดานเก็บของได้มาก ตู้เสื้อผ้า วัสดุในห้องน้ำใช้อ่างล้างหน้าของ KASCH ส่วนอุปกรณ์อื่นๆใช้ของ American Standard
สิ่งอำนวยความสะดวก – ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโครงการจัดไว้ให้ที่ชั้น 5 ทั้งชั้นประกอบด้วย สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มระบบเกลือยาวสุด 40 เมตร ฟิตเนสห้องกิจกรรม ห้องอ่านหนังสือ ล็อบบี้และเลาจน์ ลิฟต์โดยสารเป็นแบบล็อคชั้นทั้งหมด 5 ตัวและลิฟต์service อีก 1 ตัว ที่จอดรถ 60% รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยเข้าออกด้วยคีย์การ์ด รปภ.และกล้องวงจรปิด 24 ชม.
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | อยู่ใกล้แหล่งธุรกิจสำคัญ แต่อนาคตทางการคมนาคมไม่เติบโต |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.5 | เข้าออกเมืองสะดวก สีลม สาทร พระราม 3 และใกล้สะพานข้ามไปฝั่งธนฯ, จุดขึ้นลงทางด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 7.0 | หาแท๊กซ๊่ง่าย รถไฟฟ้าอยู่ในระยะไม่สามารถเดินได้ |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | วัสดุคุณภาพดี Layout ลงตัวต่อการใช้งาน |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | ครบครันและมีขนาดใหญ่ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | ทำเลเชื่อมต่อใจกลางย่านธุรกิจที่สำคัญ ใกล้ทางด่วน |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.08 | ดีมาก |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-307-8686 ถึง 9
Website : http://thekey.lh.co.th
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น