Written by : Gift Pannida
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Condonayoo ขอพาไปชมโครงการ THE MATT สาทร – ท่าพระ 2 คอนโดใหม่จาก VIP Condominium ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.ติดกับซอยลัด รัชดาภิเษก 17
สามารถใช้เดินทางเข้าถนนรัชดาภิเษกได้ เดินทางสะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ เพียง 250 เมตร จาก BTS ตลาดพลู ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ใกล้ ตลาดพลู และ The Mall ท่าพระ
https://condonayoo.com/the-matt-sathorn-thapra-2/เดอะ แมทท์ สาทร-ท่าพระ 2 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 190 ยูนิต บนเนื้อที่ 1 – 2 – 55.1 ไร่ ห้องพักแต่งครบ Fully Furnished พร้อมเลือกสไตล์การตกแต่งห้องได้ 3 สไตล์ มีขนาดห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม.และ 2 Bedrooms ขนาด 58 ตร.ม.คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ประมาณ มกราคม 2564
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Double Volume Lobby, Mailbox, Sky Fitness & Boxing Corner, Sky Pool, Co-Working Space& Co – Creation Space, Hi-Speed Internet พื้นที่ส่วนกลาง, Serenity Garden, ห้องซักและอบผ้า, ที่จอดจักรยาน, Access Card Control, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ในราคาเริ่มต้นที่ 1.74 ล้านบาท
เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้
www.vip-
VIP DAY 9 ก.พ. 2562 เริ่ม 1.74 ล้านบาท* ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 120,000 บาท* คลิก : www.vip-
ชื่อโครงการ | เดอะ แมทท์ สาทร-ท่าพระ 2 THE MATT Sathorn-Thapra 2 |
เจ้าของโครงการ | บจก.วีไอพี คอนโดมิเนียม / VIP Condominium |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-2-55.1 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 190 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ | 2 ตัว |
โซน | เขตธนบุรี |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยเทอดไท 33 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. |
กำหนดการ |
|
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าแล้วเสร็จ ม.ค. 2564 |
ราคา | เริ่มต้น 1.74 ล้านบาท* (ราคาวันที่เปิดตัว) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 58,000 บาท/ตร.ม.* (ราคาวันที่เปิดตัว) |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | THE MATT สาทร-ท่าพระ 2 คอนโหม่ ติด BTS ตลาดพลูเพียง 250 เมตร ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วย Co-Working space และ Co – Creative Space พร้อม Hi-Speed Internet ในพื้นที่ส่วนกลาง *Fully Furnished แต่งครบ เริ่มต้น 1.74 ล้านบาท |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยเทอดไท 33 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม.
พิกัด : 13.716916, 100.476093
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ The Matt สาทร – ท่าพระ ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 ฝั่งมุ่งหน้าถนนราชพฤกษ์ ระยะทางจากปากซอยฝั่งถนนเทอดไทประมาณ 400 เมตร และจากทางฝั่งถนนราชพฤกษ์ประมาณ 240 เมตร บรรยากาศรอบๆโครงการจะมีความเป็นชุมชนสูง รอบๆจะเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมเกือบทั้งหมด และยังไม่ไกลจากวัดและโรงเรียนบางสะแกนอก
ถ้ามองในวงกว้างตั้งอยู่บนทำเลที่ใกล้ชุมชนเมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น รายล้อมไปด้วยหมู่บ้าน, อาคารพาณิชย์, สถานที่ประกอบการทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ใกล้สถานที่สำคัญ และแหล่งอำนวยความสะดวกและแหล่งงานต่างๆหลายแห่ง
จุดเด่นของทำเลนี้คือความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงมานานอย่างตลาดพลู เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ กินพื้นที่เป็นวงกว้างพอสมควรเลย มีร้านอาหารแนว Street Food เยอะมากๆ โดยเฉพาะช่วงเย็นถึงค่ำๆ มีอาหารหลากหลายทั้งอาหารคาวและหวาน มีร้านดังมากมายหลายร้าน ซึ่งบางอย่างหากินได้ยากมากแล้วในปัจจุบันค่ะ
นอกจากอาหารพร้อมทานทั้งหลายแล้ว คนที่ชอบทำอาหารทานเองก็มีตลาดรัชดาภิเษกที่ขายของสดด้วย ซึ่งก็จะอยู่ในพื้นที่เดียวกันโซนที่ขายอาหารพร้อมทานนั่นเอง แต่จะแยกเป็นโซนออกจากกัน โดยอาหารพร้อมทานส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ติดริมถนน หรือบนฟุตบาท ส่วนตลาดสดจะมีพื้นที่จัดไว้เฉพาะค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกค่ะ หลักๆแล้วตัวซอยจะเชื่อมอยู่กับถนนเทอดไทที่ใช้วิ่งไปออกนครปฐมและถนนเพชรเกษมได้ และอีกฝั่งของซอยเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าสะพานตากสินเชื่อมถนนสาทรใต้ได้ สำหรับคนที่ทำงานในเมือง โซนสาทร สีลม เดินทางได้สะดวกมากค่ะ ส่วนถ้าต้องการใช้เส้นราชพฤกษ์วิ่งขึ้นไปทางบางใหญ่ก็สามารถใช้เส้นวุฒากาศลัดไปออกถนนราชพฤกษ์ได้ นอกจากนั้นที่ตั้งโครงการจะอยู่ยังติดกับซอยรัชดา 17 ด้วย ซึ่งเป็นซอยลัดสามารถใช้วิ่งไปออกถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์ หรือจะกลับรถเข้าพระราม 3 ก็สะดวกค่ะ
หากใครที่ต้องการเข้า-ออกเมืองอย่างรวดเร็วหน่อย ก็มีทางด่วนให้เลือกใช้ คือ ทางด่วนศรีรัช ระยะประมาณ 5.8 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 10 นาที
และ จุดที่ 2 คือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร ระยะทางประมาณ 7 กม.ใช้เวลาจากโครงการประมาณ 12 – 18 นาทีค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เดินทางสะดวก จากตัวโครงการในระยะเดินเท้าประมาณ 250 เมตร ก็ถึงตัวสถานี BTS ตลาดพลูแล้ว โดยถ้าเราจะเดินทางจากโครงการไปสถานีอื่นๆก็สามารถขึ้นที่ทางออก 2 ได้ จะมีบันไดเลื่อน นั่งไป 6 สถานี ถึง BTS ศาลาแดง ซึ่งเป็นสถานี Interchange ไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน สีลมได้ด้วย
ส่วนเวลาเรากลับเข้าโครงการให้เดินลงทางออก 1 ติดกับทางออกด้านล่างสถานี จะมีคิวพี่วินให้บริการ ซึ่งจะมีประจำทุกวันจนถึงเวลาสถานีปิดให้บริการเลยค่ะ
หากเร่งด่วนก็สามารถใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ จะมีวิ่งผ่านหน้าโครงการเป็นระยะๆ ส่วนคิวก็จะมีทั้งทางฝั่งปากซอยเทอดไท 33 และหน้าวัดบางสะแกนอกค่ะ ส่วนรถเมล์ ก็มีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ทางฝั่งถนนเทอดไท ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร มีรถเมล์สาย 4, 9ร และ 111
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการนี้ อย่างที่บอกว่าตลาดพลูเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งในระยะเดินและในวงกว้าง ในระยะเดินไม่เกิน 500 – 600 เมตร ทางฝั่งถนนเทอดไทจะมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ส่วนใหญ่เป็นร้านดั้งเดิม มีทั้งอาหารคาวหวานให้เลือกหลากหลาย ไม่ไกลก็มีตลาดพลูที่พอจะเดินไปได้ หรือถ้าขี้เกียจก็นั่งพี่วินได้ค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง รัศมีไม่เกิน 10 กม. จะมีห้างใหญ่ละแวกนี้คือเดอะมอลล์ ท่าพระ ภายในเดอะมอลล์ ท่าพระ ก็จะมีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และ ร้านค้าชื่อดังต่างๆมากมาย, ศูนย์ซ่อมมือถือขนาดใหญ่ และโรงหนัง SF Cinema
ตรงข้ามกับเดอะมอลล์ ท่าพระ ก็จะมีตลาดไทยช่วยไทย มีทั้งแบบตลาดติดแอร์ และ ตลาดกลางแจ้ง ตอนเย็นๆ จะมีร้านค้าแผงลอยเปิดขายเยอะมาก ถัดออกไปรอบๆ ก็จะมีพวกบิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, Sena Fest รวมถึงตลาดใหญ่นอกจากตลาดพลูยังมี ตลาดน้ำคลองบางหลวง และ ตลาดคลองสาน ซึ่งเป็นตลาดที่มีของขายเยอะมาก ทั้งยังเป็นแหล่งขายของกินร้านเด็ดๆ
นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานที่ราชการอย่าง สำนักงานเขตบางกอกใหญ่, สำนักงานเขตธนบุรี และ สำนักงานที่ดิน ธนบุรี ใกล้สถานศึกษาชื่อดังหลายแห่ง เช่น รร.ศึกษานารี, รร.อัสสัมชัญ, รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ , รร.นานาชาติ Shrewsbury, รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, ม.สยาม และ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในส่วนของโรงพยาบาล ใกล้กับ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า, รพ.สมิติเวชธนบุรี, รพ.เจริญกรุงประชารักษ์, รพ.พญาไท 3,รพ.สมเด็จเจ้าพระยา, รพ.ตากสิน, และ รพ.เลิดสินค่ะ
การเดินทาง
สำหรับเส้นทางในการเดินทางไปยังตัวโครงการวันนี้จะมีให้ชม 2 เส้นทางนะคะ โดยการเดินทางเส้นทางแรกจะใช้รถยนต์ ถ่ายภาพการเดินทางจากถนนกรุงธนบุรีเข้าไปจนถึงตัวโครงการและอีกเส้นทางจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงตลาดพลูและเดินไปจนถึงตัวโครงการค่ะ
การเดินทาง ถนนกรุงธนบุรี > แยกตากสิน (BTS วงเวียนใหญ่) > ถนนราชพฤกษ์ (BTS โพธิ์นิมิตร) > แยกรัชดา – ราชพฤกษ์ > ถนนรัชดาภิเษก > แยกตลาดพลู > ถนนเทอดไท > ซอยเทอดไท 33 > โครงการ The Matt สาทร – ท่าพระ 2
เริ่มการเดินทางกันบนถนนกรุงธนบุรีฝั่งมุ่งหน้าราชพฤกษ์ เราขับตามป้ายมุ่งหน้ารัชดาภิเษก เมื่อเห็นป้ายก็เบี่ยงเข้าไปใช้เลนขวาได้เลยค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ เราผ่าน BTS วงเวียนใหญ่
เมื่อผ่าน BTS วงเวียนใหญ่มาแล้ว ขึ้นสะพานข้ามแยกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพื่อเข้าถนนราชพฤกษ์
ลงจากสะพานข้ามแยกมาแล้ว เราจะขับผ่าน BTS โพธิ์นิมิตร ทางขวามือ
ขับต่อมา เราเบี่ยงออกเลนซ้าย ตามป้ายถนนรัชดาภิเษก
ขับตรงมาเรื่อยๆ เบี่ยงออกทางซ้าย ส่วนเลนทางขวาจะเป็นสะพานข้ามแยกรัชดา – ราชพฤกษ์
ขับตรงต่อมาเราจะเข้าสู่แยกรัชดา – ราชพฤกษ์ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าถนนรัชดาภิเษก
เลี้ยวขวามาแล้วเราจะเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์
ขับตรงมาอีกหน่อย จะผ่านธนบุรีพลาซ่าทางซ้าย ถึงตรงนี้เราเริ่มเบี่ยงมาใช้เลนซ้ายแล้วนะคะ
เข้าเลนซ้ายสุด ตรงมาเรื่อยๆ
ขับตรงมาจนสุดทางเราจะออกมาเชื่อมกับถนนเทอดไท เราเลี้ยวซ้าย
บรรยากาศบนถนนเทอดไทจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบติดถนนดั้งเดิมเกือบทั้งหมด และมีร้านอาหารน้อยใหญ่ตลอด 2 ข้างทาง รวมไปถึงซุ่มขายร้านอาหารทางขวามือที่เราขับผ่านด้วยค่ะ
ขับต่อมาไม่ไกลจะถึงซอยเทอดไท 33 เราเลี้ยวเข้าซอยไปเลยค่ะ
เข้ามาในซอยจะเป็นซอยขนาดไม่กว้างมาก พอให้รถวิ่ง 2 เลนสวนกันได้ ติดถนนทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ถึงช่วงกลางซอยจะมีทางรถไฟตัดผ่าน
ขับตรงมาจากปากซอยประมาณ 400 เมตร จะถึงที่ตั้งสำนักงานขายทางซ้ายมือค่ะ
การเดินทางในส่วนที่ 2 นี้ เราจะเริ่มต้นจากสถานี ตลาดพลู ลงที่ทางออก 1 แล้วเดินดูบรรยากาศในระหว่างทางเดินเข้าสู่ตัวโครงการนะคะ
จากแผนที่ทางออกของตัวสถานีจะเห็นว่ามีทางออกที่ติดกับซอยเทอดไท 33 คือ Exit 1 และ Exit 2 ซึ่ง Exit 2 จะเป็นบันไดเลื่อน ถ้าเราจะออกจากโครงการเดินทางไปที่อื่นให้ใช้ทางออก 2 จะสะดวก แต่ถ้ากลับเข้าโครงการให้ลงที่ทางออก 1 นะคะ
จากตัวสถานี เราเดินตามป้ายทางออก 1
ลงมาจะเจอกับบันไดทางลงสถานีแบบนี้ ทางฝั่งซ้ายมือจากในรูปเป็นที่อยู่อาศัยข้างเคียงและ Casa Condo รัชดา – ราชพฤกษ์
ทางเดินไปยังตัวโครงการจะต้องเดินไปทางขวามือลอดตัวสถานีไปค่ะ
เดินจากบันไดทางลงมาหน่อยจะเจอคิวพี่วินพร้อมให้บริการแล้วค่ะ
ราคาค่าบริการ วิ่งไปถึงโครงการไม่เกิน 10 บาท
วันนี้เราจะลองเดินเท้าไปยังตัวโครงการกัน โดยจากตัวสถานีจะต้องเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งสามารถเดินได้ทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยฝั่งที่ติดกับทางออก 1 ข้ามไปจะมีซุ้มขายอาหารชั่วคราว
หรือจะเดินมาทางฝั่งทางออก 2 ข้ามไปจะเป็นถนนโล่งๆ ติดกับที่จอดรถใต้สถานี ซึ่งตอนนี้จะใช้เดินได้สะดวกกว่าหน่อยค่ะ
ข้ามมาแล้วเราเดินตามทางเท้าไปเรื่อยๆ มองไปทางซ้ายมือก็จะมีทางม้าลายให้ข้ามฝั่งไปมาถึงกันได้
เดินพ้นใต้สถานีออกมาจะมีทางเท้าตลอดทาง เดินได้สะดวกแต่ตอนกลางคืนน่าจะเปลี่ยวพอสมควรนะคะ
ระหว่างทางเราจะผ่านสวนสาธารณะและสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบรอบ 84 พรรษา
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเห็นซอยเทอดไท 33 แล้วค่ะ
ข้ามถนนมาก็จะเข้าสู่ซอยเทอดไท 33 บรรยากาศในซอยที่เรากำลังจะเดินผ่านเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมทั้ง 2 ฝั่งถนน มีอพาร์ทเม้นท์ 1 อาคาร หน้าปากซอย
เดินเข้ามาเรื่อยๆจะต้องผ่านวัดบางสะแกนอก
มีร้านขายของชำเล็กๆก่อนเข้าเขตวัด
เดินเข้ามาจะผ่านวัดทางขวา และโรงเรียนวัดสะแกนอกทางซ้ายมือ
ระหว่างทางจะผ่านคิวพี่วินหน้าวัดบางสะแกนอก เก็บภาพค่าบริการมาให้ดูด้วยค่ะ
เดินมาจนถึงประตูทางเข้าวัดอีกฝั่ง จะเห็นซอยทางขวามือ เป็นซอยรัชดาภิเษก 17 สามารถวิ่งออกไปเชื่อมกับถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์ได้
ผ่านซุ้มประตูทางเข้าวัดอีกฝั่งมาจะเห็น Regent’s Orchid Condo ทางขวามือ
ติดกับ Regent’s Orchid Condo มาก็จะถึงที่ตั้ง Sales Office โครงการแล้วค่ะ
Sales Office ทำหน้าตาเรียบๆ ได้บรรยากาศเบาๆเหมือนอยู่ในสวน
ภายในสำนักงานขาย ตกแต่งด้วยโทนสีเดียวกัน ตรงกลางมีโมเดลของตัวเฟส 1 จัดให้ชม ส่วนด้านหลังจะเป็นเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล
จัดที่นั่งรับรองมาให้ 2 ชุดใหญ่ๆ ด้านนอกก็มีที่จอดรถรองรับ สามารถขับเข้ามาชมห้องตัวอย่างกันได้เลย
รอบๆโครงการ
ที่ดินของโครงการจะมี 2 ฝั่งค่ะ ติดถนนซอยเทอดไท 33 สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบดั้งเดิมเกือบทั้งหมด มีเฉพาะคอนโดที่อยู่ติดกันเท่านั้นที่เป็นโครงการใหม่ในซอยเทอดไท 33 ฝั่งต้นซอย
เราลองมาเดินดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันต่อ เริ่มจากฝั่ง Sales Office พร้อมเข้าชมห้องตัวอย่าง
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่ดินของเฟส 1
ทางฝั่งซ้ายมือของโครงการติดกับ Regent’s Orchid Condo
ฝั่งขวามือติดกับคลองบางสะแก ถัดมาเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิม เป็นตึกแถว 2 ชั้น ทั้ง 2 ฝั่งถนน
ฝั่งตรงข้ามก็เช่นกันค่ะ จะเป็นทางข้างคลองสะแกถัดไปเป็นตึกแถว สูง 2 ชั้น
บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างสงบค่ะ
จากโครงการเดินมาประมาณ 200 เมตร ทางฝั่งถนนเทอดไท จะยังไม่ค่อยมีความสมบูรณ์อะไรเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย มีร้านขายอาหารตามสั่งและร้านขายของชำอยู่บ้าง แต่ก็เป็นร้านเล็กๆ นอกนั้นจะเป็นร้านตัดเสื้อแบบดั้งเดิม และร้านเสริมสวยค่ะ
ตอนนี้เราเดินมาทางปากซอยฝั่งถนนเทอดไทเรื่อยๆ ถึงประมาณกลางซอยแล้ว จะมีคิวพี่วินติดกับทางรถไฟ
เดินข้ามทางรถไฟต่อ
เมื่อข้ามทางรถไฟมาแล้วจะมีความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศดูคึกคักมากขึ้นค่ะ
ช่วงต้นซอยจะเริ่มมีร้านอาหารหลายร้าน
ในซอยเทอดไท 33 แยก 1 จะมีคิวพี่วินอีกคิว ซึ่งถ้าเรามาหาของกินทางต้นซอยแล้วขี้เกียจเดินกลับก็สามารถใช้บริการได้
มาถึงหน้าปากซอยติดกับถนนเทอดไทแล้ว จะเริ่มเห็นร้านอาหารให้เลือกหลากหลายมากขึ้น
เราจะลองเดินไปทางฝั่งขวามือ เพื่อดูบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์กันก่อน
ทางฝั่งนี้มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเลยค่ะ มีครบทั้งคาวหวาน
มองไปดูฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ และธนาคารไทยพาณิชย์
เดินต่อมาอีกหน่อยจะมีกลุ่มอาคารพาณิชย์ มีร้านพิซซ่าคอมปานีและ ร้านสะดวกซื้อ 7-11
ถัดมาจะมี Tesco Lotus Express
ถัดต่อมาอีกหน่อย ฝั่งรงข้ามจะมีซุ้มร้านขายอาหาร มีทางม้าลายให้เดินข้ามสะดวก และจากตรงนี้ถ้าเราเดินต่อไปอีกหน่อยจะถึงโซนตลาดพลูที่มีของกินให้เลือกอีกมากมายค่ะ
ฝั่งตรงข้ามมีซอยร้านอาหารด้วย ไม่ต้องข้ามถนนก็ได้ โดยร้านจะเปิดช่วงเย็นๆ ค่ำๆนะคะ
เดินมาอีกหน่อยจะถึงโซนที่ขายของเยอะๆแล้วค่ะ แต่จริงๆรอบๆนี้ก็จะขายของกินเป็นวงกว้างเลย ระหว่างทางอาจจะอิ่มก่อนก็ได้
ด้านในมีตลาดรัชดาภิเษก
มีขายของสดและพระเครื่อง
ถัดมาอีกหน่อยก็มีร้านข้าวแกง ร้านข้าวหมูแดงเจ้าเด็ดและร้านขนมหวานชื่อดังที่ต้องหยิบบัตรคิวกันก่อนเลยทีเดียว
กลับมาที่ปากซอย เราไปเดินดูทางฝั่งซ้ายมือของซอยกันบ้าง ติดกับปากซอยเลยจะมีร้านราดหน้าเฮง เฮง ส่วนบรรยากาศโดยรวมก็จะเป็นตึกแถวดั้งเดิมทั้ง 2 ฝั่งถนนเช่นกันค่ะ
นอกจากตึกแถวดั้งเดิมแล้วจะมีอาคารพาณิชย์ใหม่ๆขึ้นมาบ้าง แทรกอยู่เป็นระยะๆ
ทางฝั่งนี้จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 และโกดังขายของมือสองญี่ปุ่น นอกจากนั้นก็จะเป็นร้านเช่า/ตัดเสื้อและร้านธุรกิจอื่นๆทั่วไปค่ะ
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สถานที่สำคัญโดยรอบ
ตัวโครงการ
โครงการ The Matt สาทร – ท่าพระ 2 เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตพักอาศัย 190 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1 – 2 – 55.1 ไร่ เป็นโครงการเฟส 2 ต่อมาจากโครงการรุ่นพี่ The Matt สาทร – ท่าพระ ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยตัวเฟส 2 นี้ จะมีการปรับงานดีไซน์บางส่วน แต่โดยรวมจะมี Mood ที่คล้ายๆกันค่ะ โดยจะเน้นฟังก์ชั่นในโครงการให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ที่ทุกวันนี้การทำงานและการใช้ชีวิตจะต้องมาด้วยกัน
ส่วนกลางในโครงการจึงเน้นให้มีทั้งส่วนกลางพื้นฐานสำหรับพักผ่อนทั้งสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และพื้นที่สำหรับสังสรรค์และสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อย่าง Co – Working Space, Co – Creative Space, Co – Living Lounge และ Meeting Room
หน้าตาอาคารภายนอกก็จะมีหน้าตาคล้ายๆกับเฟส 1 ค่ะ โดยโทนของอาคารใช้สีเทาเข้มและเทาอ่อน เป็นหลัก ส่วนชื่อโครงการจะใช้ตัวอักษรสีทอง จุดเด่นของตัวอาคารนี้ที่มองแล้วจรู้สึกว่าดูดีตั้งแต่นอกโครงการเลยคือโถงส่วน Co – Working Space & Co – Creative Space 2 ชั้น ที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารหลักทางซ้ายมือตามภาพค่ะ
แปลนอาคาร Master Plan จะมีทางเข้าออกโครงการทางเดียว เชื่อมกับถนนซอยเทอดไท 33 เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะผ่านป้อมรปภ.ก่อน เข้ามาที่ชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถในร่ม และมีที่จอดรถหน้า Lobby ประมาณ 6 ช่องจอด และมีที่จอดรถที่ชั้น 1 ขึ้นไปถึงชั้น 2
ส่วนพื้นที่ด้านหน้าอาคารจะมีสวนหย่อมและ Sunken Seat สำหรับนั่งพักผ่อนในสวน และพื้นที่ด้านในอาคารส่วนแรกเมื่อเข้าไปจะเจอ Double Volume Lobby เป็นโถงรับรองที่สามารถมองเห็นวิวสวนหย่อมด้านหน้าโครงการ และจะมี High Speed Wi-Fi Bar ให้บริการ
ติดกับส่วน Lobby จะเชื่อมไปยัง Co – Creative Space และเชื่อมขึ้นไปถึง Co – Working Space ที่ชั้น 2 ส่วน Meeting Room และห้อง Washer & Dryer Zone ทางโครงการยังจัดห้องซักผ้า มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไว้ให้บริการ จะแยกไว้ให้เป็นสัดส่วนที่ชั้น 1
ส่วนโถงลิฟท์จะอยู่ด้านในสุด มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ต่อห้องพัก 1 : 95 ถือว่าใช้งานกันได้พอดีๆ ค่ะ
แปลนชั้น 2 ครึ่งส่วนด้านหน้าจะเป็น Double Volume Lobby และ Co – Working Space ที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้น 1 ส่วนพื้นที่ด้านหลังเป็นที่จอดรถ ที่สามารถเชื่อมเข้าโถงลิฟต์ ใช้ขึ้นไปยังห้องพักได้เลยโดยตรงค่ะ
แปลนชั้น 8 จะแบ่งเป็นส่วนกลางฝั่งด้านหน้าอาคารและส่วนพักอาศัยด้านหลัง สำหรับแปลนที่เราเอามาให้ดูจะเป็นเฉพาะส่วนกลางด้านหน้านะคะ โดยจะมี Sky Fitness & Boxing Corner เป็นหองฟิตเนสผนังเป็นกระจกโดยรอบ มองออกไปเห็นวิวด้านนอก และ Sky Pool สระระบบเกลือ แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่
บรรยากาศภายใน Double Volume Lobby เป็นโถวต้อนรับฝ้าเพดานสูง จัดบรรยากาศมาได้อารมณ์เหมือน Co – Working Space เท่ๆ
ที่สวนหน้าโครงการจะมี Sunken Seat เก๋ๆ ได้เป็นมุมนั่งพักผ่อนในสวนที่การลดระดับลงไปแบบนี้ทำให้ได้ความสงบ เป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ตัดจากความวุ่นวายบนถนนหน้าโครงการและถนนในโครงการ
ภาพบรรยากาศจำลองบนชั้น Roof Top ในส่วนของ Sky Pool ตัวสระเป็นสระระบบเกลือ แบบ Infinity Edge Pool พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ จัด Sunbed มาให้ 4 ตัว และไม่ต้องห่วงว่าจะโดนแดดจังๆ เพราะมีระแนงบังแดดมาให้บางส่วนด้วยค่ะ
ภาพบรรยากาศในส่วน Co – Working Space & Co – Creative Space ที่ชั้น 1 และชั้น 2 จัดบรรยากาศมาให้เป็นห้องโปร่งโล่ง ด้วยผนังที่เป็นกระจกสูงจรดฝ้าเลย พร้อมชุดโต๊ะทำงานให้บรรยากาศเหมาะสมกับการนั่งทำงานโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปไหนไกล
ภายในห้อง Meeting Room ห้องเป็นห้องทึบหน่อย ให้มีความเป็นส่วนตัว จัดให้มีโต๊ะยาวพร้อมกระดานจัดไว้ให้ใช้งานครบครัน
บรรยาากาศภายใน Relax Area หรือพื้นที่พักผ่อนที่ชั้น 1
แบบห้อง
แบบห้องในโครงการจะขายแบบ Fully Furnished มีทั้งหมด 3 แบบ คือ
โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus นะคะ
นอกจากนั้นจุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้คือ ห้องขายแบบ Fully Furnished ที่เราสามารถเลือกสไตล์การตกแต่งห้องได้ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สไตล์ คือ
ทุกแบบจะมีโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ให้ลูกบ้านได้เลือกเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคนมากที่สุดค่ะ สามารถเข้าไปเลือกชมตัวอย่างวัสดุได้ที่สำนักงานขาย
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่โครงการจะมีให้ชมทั้ง 3 แบบเลย โดยจะใช้ห้องตัวอย่างเดียวกันกับ The Matt สาทร – ท่าพระ เฟส 1 นะคะ แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างเล็กๆน้อยๆ เช่น ไม่มี Bluetooth Sound System ติดตั้งมาให้ค่ะ สำหรับวันนี้เราจะพาชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ
ส่วนห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่รีวิวฉบับนี้ ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างของเฟส 1 (Note : รายละเอียดภายในห้องเหมือนกันยกเว้นในเฟสใหม่จะไม่มีประตูกั้นห้องนอนทั้ง 2 ห้องและไม่มี Bluetooth Sound System ค่ะ)
มาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างแบบแรก เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.00 ตร.ม. ตกแต่งแบบ Marble Delight
ฟังก์ชั่นภายในห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่ทานอาหาร โดยจะได้เป็นครัวเปิดไม่มีประตูกั้นห้อง เหมาะกับการเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ จากห้องครัวจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่ห้องโปร่งๆเชื่อมต่อกับห้องน้ำ โดยภายในส่วนห้องน้ำจะแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พร้อมสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด
ส่วนในห้องนอนจะมีประตูกั้นแยกเป็นบานสไลด์บานใหญ่ เชื่อมต่อกับระเบียงภายนอกได้ ซึ่งตัวระเบียงของโครงการนี้ให้มาค่อนข้างกว้าง สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้สบายๆค่ะ
มาดูของจริงกันต่อ เริ่มที่ประตูทาเงข้าห้องเป็นบานสำเร็จกรุผิวลายไม้ พร้อมมือจับก้านโยกมีตัวล็อคและ Digital Door Lock
Digital Door Lock ใช้ของ Samsung
เข้ามาในห้อง ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ส่วนห้องครัว เป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่น และได้รับแสงธรรมชาติจากช่องแสงในห้องนอน โดยความสูงฝ้าเพดานส่วนนี้สูง 2.4 เมตรค่ะ
ด้านหลังบานประตูจะติดตั้งตัว Stopper กันประตูกระแทกผนังด้านหลัง และพื้นที่หลังประตูที่ปกติจะเป็นมุมอับ เราก็สามารถที่จะ Built – in ตู้เก็บรองเท้าหรือชั้นวางของเพิ่มแบบในห้องตัวอย่างได้นะ
ระยะยืนทำครัวเหลือพอให้ยืนทำครัวคนเดียวได้สบายๆ
ภาพรวมภายในส่วนห้องครัวมีขนาดกลางๆ ระยะการใช้งานทำครัวได้สะดวก มีชุดเคาน์เตอร์ครัวติดตั้งมาให้ พร้อมชุดโต๊ะทานอาหาร
หน้าตาชุดเคาน์เตอร์ครัวโดยรวมได้เป็นโทนสีเทาขาว
สำหรับชุดเคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างจะติดตั้งซิ้งค์ล้างจานมาให้พร้อมใช้งาน มีระยะเหลือสำหรับเตรียมอาหารด้านข้างพอสมควร แต่สำหรับห้อง 1 Bedroom จะไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้นะคะ
ส่วนด้านหลังจะติดตั้งเป็นกระเบื้องมาให้ ช่วยให้ทำความสะอาดคราบอาหารและคราบมันต่างๆได้ง่ายขึ้น
ตัวซิ้งค์ล้างจานจะติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำทรงโค้ง ขนาดอ่างกลางๆ มีพื้นที่พักจานด้านข้างด้วย
ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวแบ่งเป็นตู้เก็บของ 2 ตู้, ลิ้นชักเก็บของ 2 ชั้น และช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ
ส่วนตู้ด้านบนจะแบ่งเป็นตู้มีบานปิด 2 ช่อง ด้านในแบ่งชั้นสำหรับจัดเก็บของให้เป็นระเบียบ
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะมีชุดโต๊ะทานอาหารมาให้ เป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง ไม่รวมเก้าอี้นะ
ห้องนั่งเล่นของห้อง Type นี้ จะดูโปร่งโล่ง เช่ือมมาจากห้องครัว ความสูงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
สำหรับในห้องนั่งเล่น ทางโครงการจะจัดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาให้ ระยะการใช้งานพอเหมาะกับขนาดห้อง
ฝั่งตรงข้ามจะติดตั้ง ชั้นวางทีวีชิ้นล่างมาให้ ส่วนชั้นวางของด้านบนจะไม่มีมาให้นะคะ
สำหรับตัวชั้นวางทีวีจะติดตั้งมาให้เต็มความกว้างผนัง แบ่งเป็นลิ้นชัก 2 ช่อง และช่องเก็บของไม่มีประตูปิดอีก 1 ช่อง
ระยะดูทีวีเหลือกว้างเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบใช้เวลาพักผ่อนในห้องนั่งเล่น หรือมีเพื่อนมาหาที่ห้องบ่อยๆค่ะ
จากส่วนห้องนั่งเล่น จะเชื่อมต่อไปยังส่วนห้องน้ำ ซึ่งการที่มีห้องน้ำติดกับส่วนห้องนั่งเล่นโดยไม่ต้องผ่านห้องนอนแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ เวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถเข้าใช้ได้เลยโดยไม่ต้องเข้าไปในพื้นที่ห้องนอนซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีเรียบๆ ความสูงฝ้าเพดาน 2.3 เมตร ผนังกรุกระเบื้องสีขาวและพื้นปูกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ฟังก์ชั่นภายในห้องน้ำแยกส่วนห้องส่วนเปียก พร้อมติดตั้ง Shower Box มาให้พร้อมใช้งาน
ส่วนพื้นห้องน้ำลดระดับลงไปนิดหน่อย กันน้ำกระเซ็นออกมาเปียกในส่วนห้องนั่งเล่น
สำหรับอ่างล้างมือจะได้ของยี่ห้อ American Standard แบบติดตั้งบนตู้เก็บของ พร้อมกระจกเงาบานสูง
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างเลยค่ะ
ใต้อ่างมีตู้เก็บของ กว้างพอสมควร สามารถจุของได้เยอะอยู่ค่ะ
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ American Standard ติดตั้งมาให้พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
ตัวสายชำระขนาดพอดีมือ
ส่วนพื้นที่อาบน้ำ ติดตั้ง Shower Box บานประตูสไลด์ กระจกนิรภัย 3 ตอน
ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัว ยี่ห้อ American Standard ขนาดฝักบัวใหญ่เลยค่ะพร้อมเจาะช่องวางของมาให้ด้านหลังด้วย
ขนาดพื้นที่ห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 0.6 เมตร พอให้ยืนอาบได้พอดีๆ
กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น เราไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยประตูที่กั้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะได้เป็นบานสไลด์ 3 ตอน เปิดได้กว้างเต็มพื้นที่ บานสูงจรดฝ้า ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น และถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถติดตั้งม่านเพิ่มได้ค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอนความสูงฝ้าเพดานในห้องสูง 2.6 เมตร เฟอร์นิเจอร์ที่ให้จะมีฐานเตียงและตู้เสื้อผ้าติดตั้งมาให้ ส่วนช่องแสงภายในห้องนอนจะเป็นประตูเชื่อมระเบียงออกไปยังภายนอกค่ะ
เตียงที่ทางโครงการจัดมาให้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ โดยจะได้เฉพาะฐานเตียง ส่วนฟูกเราจะต้องไปเลือกซื้อกันเองนะคะ
ระยะที่เหลือข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง เหลือพอสมควร สามารถวางตู้เล็กหัวเตียงได้ค่ะ
ส่วนพื้นที่ฝั่งปลายเตียง จะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in มาให้ สำหรับตู้เสื้อผ้าจะได้ขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ โดยจะแบ่งเป็น 2 ตอน แยกส่วนแขวนเสื้อผ้าทางซ้าย และช่องเก็บของย่อยๆทางขวามือ
ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งจะเป็นส่วนตกแต่งมาให้ดูเป็นไอเดีย ไม่มีมาให้ในห้องมาตรฐานนะคะ
ระยะที่เหลือปลายเตียงกว้างพอสำหรับระยะเปิดตู้เสื้อผ้าและยืนแต่งตัวได้พอดีๆ
จากห้องนอน เราไปดูในส่วนระเบียงภายนอกกันต่อค่ะ โดยประตูระเบียงจะได้เป็นบานสไลด์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
มือจับแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อค
พื้นระเบียงภายนอก ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ความกว้างระเบียงประมาณ 0.8 เมตร ส่วนราวกันตกเป็นเหล็กซี่สีดำ
สำหรับพื้นที่ระเบียงจะมีความยาวเต็มหน้ากว้างห้องนอนเลยค่ะ จึงมีพื้นที่เหลือพอสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าได้สบายๆ
สำหรับราวกันตกทางฝั่งคอมเพรสเซอร์แอร์จะทำเป็นกริลล์บังสายตาไว้ให้ เวลาที่มองจากภายนอกโครงการก็จะช่วยให้ตัวอาคารดูเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 58 ตร.ม. เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ที่สุดในโครงการ ฟังก์ชั่นภายในห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่โถงห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารขนาดกว้าง เชื่อมกับส่วนระเบียงและมีช่องแสงเข้ามุม ทำให้พื้นที่โถงส่วนนี้ดูโปร่ง โล่ง อยู่สบายค่ะ
ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด อยู่ติดกับห้องทานอาหาร ถัดจากห้องครัวเข้าไปจะเป็นห้องน้ำ ที่ใช้แชร์กันในส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนรอง
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ซึ่งจะแบ่งเป็นห้องนอนรอง และห้อง Master Bedroom โดยห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกเรียบร้อย
มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันเลย เริ่มจากเข้าห้องมาจะเจอพื้นที่โถงทางเดินเชื่อมเข้าไปยังส่วนห้องนั่งเล่น
ในส่วนพื้นที่โถงหน้าห้องตรงนี้จะมีพื้นที่หลังประตูทางเข้า ซึ่งสามารถจะ Built – in ตู้วางรองเท้าหรือชั้นวางของขนาดใหญ่ได้
ระยะทางเดิน หลังจาก Built – in ตู้แล้วก็มีระยะเหลือมาตรฐาน สามารถเดินผ่านได้สบายๆค่ะ
เข้ามาด้านในจะเป็นโถงกว้าง พื้นที่จะจัดแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร จุดเด่นของห้องนี้ที่สังเกตได้ชัดๆเลยคือช่องแสงที่ได้มาเต็มๆ ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่ง และดูกว้างขึ้น เวลาใช้งานก็จะไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ
มาดูการจัดวางด้านในพื้นที่ส่วนนั่งเล่นกันก่อน สำหรับพื้นที่ส่วนนี้จะได้โซฟาและชั้นวางทีวีมาเช่นกันค่ะ ระยะการใช้งานพอดีๆ กระทัดรัด
ชุดโซฟาและชั้นวางทีวีก็จะได้ตามแพคเกจที่เลือก แต่ขนาดก็จะประมาณนี้ค่ะไม่ต่างกันเท่าไหร่
ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นมุม Daybed ที่จัดมาให้ดูเป็นแบบเข้ามุมกับช่องแสงขนาดใหญ่พอดิบพอดี สามารถนั่งพักผ่อน อ่านหนังสือหรือเอาโน๊ตบุคมานั่งทำงานชิลๆตรงนี้ได้เลย
มุมจากห้องนั่งเล่น มองไปเห็นภาพรวมอีกฝั่งของห้องจะมีห้องครัว ห้องน้ำ และติดกับห้องนั่งเล่นคือพื้นที่ทานอาหารค่ะ
มาดูพื้นที่ทานอาหารกันก่อนนะ
สำหรับพื้นที่ส่วนทานอาหารนี้จะได้โต๊ะยาวขนาด 4 ที่นั่งมาแบบนี้เลย แต่จะไม่ได้เก้าอี้ทานอาหารมานะ
ให้ดูระยะการใช้งาน สามารถใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่เหลือรอบๆโต๊ะให้เดินผ่านไปมา หรือเลื่อนเก้าอี้เข้า ออกได้สบายๆ แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างๆไว้วางตู้เก็บของหรือชั้นวางของใหญ่ๆได้แบบในห้องตัวอย่างเลย
ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นระเบียงภายนอก ตรงนี้เราสามารถเปิดระบายอากาศโดยรวมภายในห้องได้ดีเลย
พื้นที่ระเบียงภายนอกมีขนาดไม่กว้างมาก แต่พอที่จะใช้งานได้ค่ะ ไม่ว่าจะจัดสวนเล็กๆให้เป็นบรรยากาศดีๆระหว่างนั่งทานข้าว หรือจะวางเครื่องซักผ้าก็พอได้อยู่ค่ะ
ราวกันตกจะเหมือนกันกับห้องที่แล้วคือเป็นเหล็กซี่สีดำ ฝั่งคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นกริลล์บังสายตาให้ตัวอาคารดูเป็นระเบียบมากขึ้น
กลับเข้ามาในห้อง เรามาดูภายในห้องครัวกันต่อ โดยห้องครัวนี้จะมีประตูบานสไลด์ 3 ตอน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกใส เป็นประตูกั้นห้องครัวนะคะ เพราะฉะนั้นจึงทำให้ห้องนี้ดูไม่ทึบเท่าการใช้ประตูบานทึบปกติในการกั้นห้อง
และห้องครัวนี้สามารถที่จะทำอาหารแบบจริงจังได้เลย ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะไปติดส่วนอื่นๆของห้องอีกด้วยค่ะ
พื้นที่ภายในห้องครัวจัดเคาน์เตอร์ครัว Built – in มาให้ตามแบบที่เห็นนี้เลย พร้อม เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน (มีให้เฉพาะในห้อง 2 Bedrooms เท่านั้นค่ะ)
พื้นห้องครัวปูด้วยสมาร์ทไวนิลลายไม้ค่ะ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
สำหรับ Top เคาน์เตอร์ครัวจะมีขนาดกว้างขึ้น หลังจากติดตั้งซิ้งค์ล้างจานกับเตาไฟฟ้ามาให้แล้วก็ยังเหลือระยะเตรียมอาหารอีกกว้างพอสมควรเลย
ซิ้งค์ล้างจานได้แบบอ่างฝัง มีที่พักจานด้านข้างเหมือนก้องตัวอย่างแบบที่แล้วค่ะ ส่วนเตาไฟฟ้าใช้ของ MEX แบบ 2 หัว
ใต้เคาน์เตอร์แบ่งเป็นตู้เก็บของและลิ้นชักพร้อมเก๊ะแบ่งช่องช้อน ส้อม ตามภาพเลย บานเปิดตู้เป็น Soft Closed ทั้งหมดนะ
ส่วนตู้ชั้นบนก็ติดตั้งเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ MEX มาให้ พร้อมแบ่งตู้สำหรับเก็บของมาให้อีก 3 บาน
ถัดจากห้องครัว เราจะขยับเข้าไปดูพื้นที่ด้านในต่อ โดยพื้นที่ติดห้องครัวจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนั่งเล่น และห้องนอนรอง ถัดเข้าไปด้านในสุดเป็นห้องนอนรอง และห้อง Master Bedroom ทางขวามือ
ส่วนมุมซักรีดที่เราเห็นทางขวามือในห้องมาตรฐานจะไม่ได้มีมาให้นะคะ จะได้เป็นผนังทึบเรียบๆเป็นโถงทางเดินปกติเลย
เรามาดูห้องน้ำกันก่อน
ห้องน้ำห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างนะ เพราะต้องใช้เป็นห้องน้ำรับรองแขกด้วย ส่วนฟังก์ชั่นในห้องก็จะแยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียกเรียบร้อย
ติดตั้งอ่างล้างมือพร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ American Standard ระยะการใช้งานพอดีๆ
พื้นที่ห้องอาบน้ำมี Shower Box กั้นเรียบร้อย เป็นบานสไลด์ 3 ตอน ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard ขนาดใหญ่
พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำประมาณ 1.15 x 0.6 เมตร พอให้ยืนอาบได้สบายๆ
ถัดเข้ามาด้านใน เรามาดูห้องนอนกันต่อ
เริ่มที่ห้องฝั่งขวามือคือห้อง Master Bedroom
พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างกว้างค่ะ มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์และบานกระทุ้งมาให้ 1 ชุด
ได้เตียงขนาดควีนไซส์มาตรฐาน
ระยะที่เหลือข้างเตียงฝั่งซ้ายมือพอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือขึ้นลงเตียงได้สะดวก ส่วนขวามือจะเป็นระยะที่ใช้ยืนแต่งตัว จะค่อนข้างกระทัดรัดหน่อย
ปลายเตียงมีลิ้นชักเก็บของมาให้เช่นกันค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงสามารถที่วางชั้นวางทีวีได้ หรือถ้าใครไม่ชอบดูทีวีในห้องก็สามารถที่จะวางเป็นตู้เก็บของก็ได้ มีระยะให้ใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อีกฝั่งของห้องเป็นห้องน้ำในตัวและตู้เสื้อผ้า Built – in ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้
ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 3 ตอน ด้านในแบ่งเป็นราวแขวน, ชั้นวางของและลิ้นชักตามภาพเลยค่ะ
ถัดมา เรามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ
พื้นที่ภายในห้องน้ำจะแยกฟังก์ชั่นส่วนแห้ง ส่วนเปียกมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ได้มาตามมาตรฐานเหมือนห้องอื่นๆนะคะ
สำหรับห้องอาบน้ำแบ่งเป็น Shower Box บานสไลด์ 2 ตอน ด้านในติดตั้งฝักบัวมาให้เรียบร้อย
พื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้างกว่าห้องน้ำด้านนอกนิดหน่อย สามารถยืนอาบกันได้สะดวกค่ะ
กลับออกมาท่ีโถงภายนอก เราไปดูภายในห้องนอนรองกันต่อ
ห้องนี้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง และบานฟิกซ์ ทำให้ห้องสว่างในเวลากลางวันโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย แถมยังทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วยเพราะช่องแสงใหญ่พอสมควร
ห้องนี้ได้เตียงขนาดควีนไซส์มาเช่นกันค่ะ
ระยะที่เหลือข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งพอให้ขึ้นลงเตียงได้สะดวก
พื้นที่ปลายเตียงพอให้เดินผ่านได้ และถ้าใครจะติดตั้งทีวีก็แนะนำเป็นแบบแขวนผนังค่ะ จะได้ไม่เกะกะทางเดินปลายเตียงนะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวามือติดตั้งมาให้เป็นตู้เสื้อผ้า Built – in
ภายในตู้แบ่งเป็นราวแขวน, ชั้นวาง และลิ้นชักมาให้ตามภาพค่ะ
ราคา (มกราคม 2563)
รายละเอียดเงินจองและทำสัญญา
เงินกองทุนและค่าส่วนกลาง
Promotion
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Matt สาทร-ท่าพระ ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 ห่างจากถนนเทอดไทมาประมาณ 400 เมตร จากทางฝั่งถนนราชพฤกษ์ประมาณ 240 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู ประมาณ 250 เมตร บรรยากาศในซอยจะมีความเป็นชุมชนสูง เป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมเกือบทั้งหมด รอบๆจึงไม่มีอาคารสูงมาบังวิว เป็นทำเลที่ใกล้ชุมชนเมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง จากโครงการเดินไปประมาณ 500 เมตร ก็ถึงตลาดพลู แหล่งความอุดมสมบูรณ์ชื่อดังของย่านนี้ มีร้านอาหารราคาย่อมเยาให้เลือกมากมายค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สามารถเดินทางเข้า-ออกสู่ตัวเมืองได้สะดวก หลักๆแล้วตัวซอยจะเชื่อมอยู่กับถนนเทอดไทที่ใช้วิ่งไปออกนครปฐมและถนนเพชรเกษมได้ และอีกฝั่งของซอยเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าสะพานตากสินเชื่อมถนนสาทรใต้ได้ สำหรับคนที่ทำงานในเมือง โซนสาทร สีลม เดินทางได้สะดวกมากค่ะ ส่วนถ้าต้องการใช้เส้นราชพฤกษ์วิ่งขึ้นไปทางบางใหญ่ก็สามารถใช้เส้นวุฒากาศลัดไปออกถนนราชพฤกษ์ได้ นอกจากนั้นที่ตั้งโครงการจะอยู่ยังติดกับซอยรัชดา 17 ด้วย ซึ่งเป็นซอยลัดสามารถใช้วิ่งไปออกถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าจรัญสนิทวงศ์ หรือจะกลับรถเข้าพระราม 3 ก็สะดวกค่ะ
แต่เนื่องจากทำเลโซนนี้อยู่ระหว่างเข้าเมือง กับออกนอกเมือง การจราจรจึงอาจจะมีช่วงติดขัดบ้าง โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน อย่างช่วงเช้า และช่วงเวลาเลิกงาน-เลิกเรียน แต่ก็ยังพอไปกันได้อยู่ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะ : ถือว่าสะดวกเลยค่ะ จากโครงการเดินไปถึง BTS ตลาดพลู มีระยะทางแค่ 250 เมตร เท่านั้น จะเข้าเมืองก็สะดวกมากๆ จาก BTS ตลาดพลู ไป BTS ศาลาแดง เพียง 8 สถานี จะเปลี่ยนการเดินทางไปสายสุขุมวิท ก็ไปลงได้ที่สถานีสยาม หากต้องการเปลี่ยนการเดินทางจาก BTS ไปเป็น MRT ก็ง่าย โดยจะมีจุด Interchange ที่ สถานีสีลม
หากต้องการใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และ Taxi ก็สามารถเรียกได้จากหน้าโครงการเลย มีผ่านตลอดทั้งวัน ส่วนรถเมล์ ก็มีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ทางฝั่งถนนเทอดไท ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร มีรถเมล์สาย 4, 9ร และ 111
การออกแบบโครงการ : The Matt สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการคอนโด Low Rise สไตล์โมเดิร์น มีการออกแบบบรรยากาศในโครงการให้ร่มรื่นและมีความเป็นส่วนตัวด้วยสวนหย่อมด้านหน้า และต้นไม้รอบโครงการ หน้าตาอาคารดูเท่ๆ ตกแต่งภายนอกโทนสีเทาเข้ม เทาอ่อน เน้นการออกแบบผสามผสานความเรียบง่าย นิ่งๆ แต่ดูดี มีห้องพักทั้งหมด 190 ยูนิต บนที่ดิน 1 – 2 -55.1 ไร่
ในส่วนของห้องพักมีทั้งหมด 3 แบบ คือ
แต่ละห้องจะจัดแบ่งฟังก์ชั่นภายในได้ค่อนข้างดี ลงตัว ความสูงฝ้าเพดานแตกต่างกันไปในแต่ละส่วน โดยในห้องครัวสูง 2.4 มเตร, ห้องทานอาหารห้องนั่งเล่น สูง 2.5 เมตร, ห้องนอน สูง 2.6 เมตร และห้องน้ำ สูง 2.3 เมตร
ห้องขนาดเล็กสุดที่เราได้ชมวันนี้คือ 30 ตร.ม. เป็นแปลนห้องแนวลึก ได้ครัวค่อนข้างกว้าง เป็นครัวเปิด แต่เราก็สามารถมากั้นห้องเพิ่มเองได้ไม่ยากนะ ส่วนจุดเด่นในห้องแบบ 1 Bedroom คือได้ห้องนั่งเล่นกว้างและระเบียงกว้าง รวมๆเมื่อเข้าไปอยู่ในห้องจะรู้สึกโปร่งๆ ห้องสว่างเพราะประตูบานเลื่อนกระจกได้เป็นบานใหญ่ค่ะ
ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom ที่เราได้ชมในวันนี้ ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยกว้างๆ มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วน พื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารกว้าง ได้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง และได้ครัวแบบปิด พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
ส่วนวัสดุที่ได้ถือว่าคุ้มค่าเลย นอกจากจะได้เป็น Fully Furnished แล้วเรายังสามารถเลือกสไตล์การตกแต่งห้องได้เองด้วย ส่วนวัสดุมาตรฐานในห้องจะได้ Digital Door Lock ของซัมซุง, พื้นปูสมาร์ทไวนิลและห้องน้ำกับระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิกที่มีความทนทาน , ผนังฉาบเรียบทาสี, ไฟดาวน์ไลท์ หลอด LED, สุขภัณฑ์ของ American Standard มาพร้อมฉากกั้นห้องน้ำ และมีห้องครัวมาให้ พร้อมชุดครัวคือซิ้งค์ล้างจานเป้นมาตรฐาน ยกเว้นที่ห้อง 2 Bedrooms จะได้เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันของ MEX ด้วย และนอกจากนั้นก็จะได้เฟอร์นิเจอร์คือโซฟา, ชั้นวางทีวี, เตียงควีนไซส์และมี Built – in ตู้เสื้อผ้าซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี
สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่ส่วนกลางตั้งอยู่ที่ชั้น 1 และ ชั้น 8 งานตกแต่งรวมๆจากภาพก็ออกแบบมาดูเท่ๆ สบายๆ เอาใจคนยุคใหม่ พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1 จะมีสวนหย่อมหน้าโครงการพร้อม Sunken Seat ภายในอาคารมี Double Volume Lobby, Meeting Room, Washer & Dryer zone และชั้น 1 – 2 จะมี Co – Creative & Co – Working Space และ Co – Living Lounge ที่เหมาะกับการนั่งทำงานที่บ้านแบบคนยุคใหม่ พร้อม High speed WiFi bar ให้ใช้งานกันด้วย
ส่วนชั้น 8 จะมี Sky Pool และ Sky Fitness With Boxing Corner ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วน 1 : 95 ที่จอดรถ ที่ชั้น 1 – 2 รวม 44%
พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ติดตั้งกล้อง CCTV ชั้นละ 3 จุด ส่วนทางเข้าออกโครงการใช้ระบบ Easy Pass
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.75 | ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ใกล้ตลาดพลูและ BTS ตลาดพลู |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.75 | เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก แต่รถติดช่วงเร่งด่วนอาจจะต้องเผื่อเวลากันดีๆ เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | เดินทางสะดวก ใกล้ BTS ตลาดพลู 250 เมตร มีวินมอเตอร์ไซค์ และ Taxi ผ่านหน้าโครงการตลอด |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ค่อนข้างคุ้มค่า ขายแบบ Fully Furnished เลือกสไตล์การตกแต่งได้ 3 แบบ วัสดุ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานเหมาะสมกับราคา |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีให้ครบครัน ขนาดเหมาะสมกับโครงการ และออกแบบได้น่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | คอนโด Low Rise จำนวนยูนิต 190 ยูนิต ตกแต่งครบ ในซอยเทอดไท 33 ใกล้ BTS ตลาดพลู และใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ราคาเริ่มต้น 1.74 ล้านบาท หรือประมาณ 58,000 บาท/ตร.ม. เหมาะสำหรับคนทำงาน หรือ ซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่า ราคาจับต้องได้ไม่ยาก |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8 | ดี |
:: ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ::
VIP DAY 9 ก.พ. 2562 เริ่ม 1.74 ล้านบาท* ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 120,000 บาท* คลิก :www.vip-
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 061-445-5596
Line : @themattcondo
Website : http://www.vip-groups.com/themattcondo2
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น