EP.31 รีวิว คอนโด เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์ The Reserve Phahol-Pradipat
EP.40 รีวิว คอนโด The Cube ประชาอุทิศ คอนโดแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่ เริ่ม 1.69 ล้านบาท
EP.39 รีวิว คอนโด IVY AMPIO รัชดา ใกล้รถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรม เพียง 200 ม.
EP.38 รีวิว คอนโด SUPALAI PARK แยกเกษตร ใกล้รถไฟฟ้า BTS เกษตร
EP.37 รีวิว Rill Condo รังสิต ใกล้ ม.รังสิต และ รถไฟฟ้า สถานีหลักหก
EP.36 รีวิว คอนโด Knightsbridge เกษตร โซไซตี้ เพียง 40 เมตร จาก BTS เสนานิคม
EP.35 รีวิว คอนโด KnightsBridge Prime อ่อนนุช ใกล้รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช
EP.34 รีวิว คอนโด KNIGHTSBRIDGE SKY RIVER OCEAN ใกล้รถไฟฟ้า BTS ปากน้ำ
EP.33 รีวิว คอนโด NOTTING HILL สุขุมวิท 105 ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง
EP.31 รีวิว คอนโด THE RESERVE พหล-ประดิพัทธ์ ใกล้ BTS สะพานควาย
EP.30 รีวิว คอนโด IDEO MOBI รางน้ำ ใกล้รถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
สวัสดีผู้อ่านชาว CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานจะขอพาชมโครงการใหม่ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ กับโครงการ “THE RESERVE พหล-ประดิพัทธ์” คอนโดสไตล์ Loft ฝ้าเพดานสูง จาก พฤกษา เรียลเอสเตท เป็นอีกหนึ่งโครงการในตระกูล The Reserve ที่ชื่อแบรนด์ก็สามารถการันตีคุณภาพ เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาอย่าง The Reserve ทองหล่อ โครงการหรูที่ Sold Out ไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับโครงการนี้ตั้งอยู่บริเวณปากซอยประดิพัทธ์ 23 ติดถนนประดิพัทธ์ เดินทางสะดวก ใกล้ BTS สะพานควายในระยะ 500 เมตร อยู่ในยานชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบครบครัน ทั้ง โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล พหลโยธิน, Big C, Tesco Lotus Express, ตลาดสด, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, โครงการ Aqua และ La Villa อารีย์
เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 1-2-43 ไร่ ห้องพักอาศัยรวม 260 ยูนิต ห้องพักอาศัยเป็นแบบ 1 Bedroom Loft, 1 Bedroom Simplex, 1 Bedroom Simplex Plus โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 28.40 – 48.70 ตร.ม. เสร็จพร้อมอยู่ประมาณ ตุลาคม 2562
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ โถงต้อนรับพร้อม Concierge Service, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้อง Co-Working Space ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. พร้อม All day Pantry, สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว, Open Air Cinema, Party Yard, Automatic Car Parking, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
THE RESERVE พหลฯ-ประดิพัทธ์ เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่ที่น่าสนใจในปี 2017 นี้ ด้วยทำเลที่ใกล้ BTS สะพานควาย ในระยะเดินได้ชิวๆ เพียง 500 ม.
ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษ คลิกเลย >> https://goo.gl/boMF4W
ชื่อโครงการ | เดอะ รีเซิร์ฟ พหล-ประดิพัทธ์ The Reserve Phahol-Pradipat |
เจ้าของโครงการ | บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-2-43 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 25 ชั้น |
จำนวนห้อง | 260 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 65% ไม่รวมซ้อนคัน ใช้ระบบ Conventional และ Automatic Car Parking |
จำนวนลิฟท์ | 3 ตัว |
โซน | เขตพญาไท, ประดิพัทธ์, สะพานควาย |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | 3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117 |
ที่ตั้ง | ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | ตุลาคม 2562 |
ราคา | เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 159,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | 65 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “The Reserve พหล-ประดิพัทธ์” คอนโด High Rise ติดถนนประดิพัทธ์ เดินทางสะดวก ใกล้ BTS สะพานควาย เพียง 500 เมตร พร้อมส่วนกลาง 24 ชม. และบริการ Concierge ช่วยจัดการธุระต่างๆ เช่น บริการซัดรีด, บริการส่งของ ในราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท* |
ที่ตั้งโครงการ
ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พิกัด : 13.790059, 100.547461
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ The Reserve พหลฯ – ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าแยกสะพานควาย หน้าปากซอยประดิพัทธ์ 23 สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักพอสมควรเพราะเป็นย่านชุมชนเก่า โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงดึกจะมีร้านอาหารมาเปิดริมถนนมากมายหลายร้าน จุดเด่นของโครงการนอกจากจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แล้วยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานควาย โดยมีระยะทางจากตัวสถานีถึงโครงการประมาณ 500 เมตร ซึ่งก็ยังพอเดินได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะตลอดทางจะเป็นฟุตบาทที่เดินค่อนข้างสะดวก แต่อาจจะมีคนเดินเยอะในช่วงเช้าและเย็น ประกอบกับริมฟุตบาทจะมีร้านอาหารมาตั้งขายเป็นวงกว้างจึงอาจจะเร่งฝีเท้าได้ไม่เท่าไหร่นะคะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ และแน่นอนเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สะพานควาย มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร สามารถเดินกันได้ ไม่เหนื่อยค่ะ และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควาย
นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆ ก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณต้นซอยประดิพัทธ์ 21 (เดินจากโครงการไปประมาณ 80 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 90 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117 ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็สะดวกค่ะ เนื่องจากตัวโครงการเกาะอยู่กับถนนประดิพัทธ์ ที่สามารถใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน สามารถใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้โดยไม่ต้องรถติดแถวสวนสัตว์ดุสิตหรืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ นอกจากนั้นถนนประดิพัทธ์จะยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ และถ้าดูจาก Map แล้วจะเห็นว่ามีถนนเส้นหลักๆอีก 2 เส้นที่สามารถใช้เดินทางได้คือ
ส่วนทางด่วนรอบๆ มีให้เลือกใช้ใกล้ๆ 2 เส้น คือทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และทางด่วนศรีรัช โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือ สามารถใช้วิ่งไปบางเขน, ปากเกร็ดได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.2 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งเข้าผ่านเมืองช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงไปถึงเจริญราษฎร์และใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งไปพระราม 2 , พระโขนงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.5 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทล์เวย์ฝั่งลงทิศใต้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครที่ใช้วิ่งลงมาเข้าราชเทวีได้ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.9 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 – 15 นาทีค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ สามารถใช้วิ่งไปดอนเมือง, รังสิตได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.3 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 – 15 นาที
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ค่อนข้างสูง หน้าโครงการจะมีร้านอาหารราคาไม่แพงให้เลือกเยอะทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนพวกร้านสะดวกซื้อและตลาดสดก็อยู่ไม่ไกล โดยจะมีทั้ง 7 – 11 ในระยะ 50 เมตร , ตลาดสดจะอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 25 ระยะทางประมาณ 200 เมตรจากโครงการ, ร้านแลกเงินต่างประเทศ และร้านขายยาหลายร้าน (แอบกระซิบว่ามีร้านขายยาราคาส่งชื่อดังอยู่ไม่ไกลด้วยนะ)
บริเวณหน้าโครงการที่เป็นเส้นประดิพัทธ์ช่วงแยกสะพานควายเป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงแบบเงียบๆมานาน จะมีร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกค่ะ
นอกจากนั้นพวก Hyper Market ตัวหลักใหญ่ๆจะมี Big C รองลงมาเป็น Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) มีร้านค้า ร้านอาหารย่อยๆอยู่ทั่วไป ทั้งที่เปิดเป็นร้านแบบจริงจังและร้านข้างทางถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียวค่ะ
ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นโซนใกล้เคียงอย่าง อารีย์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีร้านคาเฟ่น่ารักๆเพียบ และยังมี La Villa Aree เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารชื่อดังด้านอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น After You, กับข้าวกับปลา, Starbucks เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีซอย Aqua ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานมานี้ เป็นซอยสั้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดีๆหลายร้าน และยังมีร้านเช่าชุดราตรี และ Fitness ด้วยค่ะ
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นกันบนถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าสะพานควาย บริเวณ BTS หมอชิต ขับตรงมาเรื่อยๆถึงแยกสะพานควายแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนประดิพัทธ์ แล้วเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งจะเป็นซอยที่ 2 ทางขวามือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธิน > แยกสะพานควาย > ถนนประดิพัทธ์ > ซอยประดิพัทธ์ 23 > โครงการ The Reserve พหล – ประดิพัทธ์
เริ่มการเดินทางกันบนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าสะพานควาย
เราขับตรงตามทางมาเรื่อยๆจะผ่าน BTS หมอชิต ทางซ้ายมือเป็นที่ลานจอดรถ ส่วนทางขวามือจะเป็นสวนจตุจักร
ขับผ่าน BTS มาไม่ไกลเราเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าถนนพหลโยธินเส้นหลัก จากตรงนี้ถ้าเราตรงต่อไปจะขึ้นสะพานเชื่อมต่อไปถนนกำแพงเพชรค่ะ
เบี่ยงซ้ายมาแล้วเราก็ขับตรงต่อไป โดยจะมีป้ายบอกทางไปสะพานควายตลอดทางไม่ต้องกลัวหลงค่ะ
ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเข้าสู่โซนสะพานควาย ซึ่งจะมี BTS สะพานควายเป็นจุดสังเกต
ผ่าน BTS สะพานควายมาหน่อยเดียวจะเห็นร้าน BOOTS และ Office Mate ทางซ้ายมือ
ถัดมาอีกหน่อยมีรพ.เปาโลเมโมเรียลพหลโยธิน ซึ่งเป็นรพ.ที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
และถัดมาจะเป็น Big C สะพานควาย เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใหญ่ในระยะใกล้ของโซนนี้
เราขับตรงต่อมาเรื่อยๆ จะถึงแยกสะพานควาย ให้เราเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้าพระราม 5 เราจะเห็นสะพานที่ใช้ข้ามถนนซึ่งจะเป็นจุดสังเกตของเรานะคะ
พอเราขับถึงตัวสะพานลอยก็จะเห็นซอยประดิพัทธ์ 23 ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยค่ะ
เลี้ยวเข้าซอยมาปุ๊ปเราก็จะเห็น Sale Office ของโครงการตั้งอยู่ติดหน้าปากซอยเลยค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ พื้นที่ติดโครงการทั้ง 4 ด้านจะยังเป็นอาคารแนวราบ แต่ในวงกว้างจะมีคอนโดสูงอยู่ทุกทิศจึงตัดเรื่องวิวไปได้เลย แต่อาคารสูงจะไม่อยู่ในระยะประชิดจึงไม่มีปัญหาเรื่องแดดลมนะคะ
วิวทางฝั่งทิศเหนือจะเป็นวิวทางฝั่งในซอยประดิพัทธ์ 23 และซอยประดิพัทธ์ 25 ซึ่งพื้นที่ในตัวซอยเองจะไม่มีอาคารมาบังวิวเท่าไหร่ ความสูงอาคารมากสุดแค่ประมาณ 9 ชั้น แต่วิวทางฝั่งติดถนนพหลโยธินจะมีคอนโด High Rise สูง 31 ชั้นและ 26 ชั้น ค่ะ
วิวทางฝั่งทิศใต้ จะมีคอนโด Life สูง 20 ชั้น ส่วนรอบๆจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ
วิวทางฝั่งทิศตะวันตก ในปัจจุบันจะยังไม่มีอาคารสูงมาบังวิวเท่าไหร่ แต่ในอนาคตจะมีโครงการ The Line สูง 46 ชั้น ระยะทางประมาณ 130 เมตรจากตัวโครงการ
วิวโครงการทางฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นวิวทางฝั่งถนนพหลโยธิน และ สุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งส่วนใหญ่จะยังเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งถ้ามองกันแค่เรื่องวิว ทางฝั่งนี้ก็จะได้มุมมองที่กว้างไกลกว่าทิศอื่นๆค่ะ
มาเดินดูรอบๆกันต่อค่ะ เริ่มจากหน้าโครงการติดกับซอยประดิพัทธ์ 23 ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว เปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้า ความสูง ประมาณ 3 – 4 ชั้น
ส่วนสภาพแวดล้อมในซอยประดิพัทธ์ 23 ช่วงต้นซอยเป็นบ้านเดี่ยวซะส่วนใหญ่ ความสูง 1 – 2 ชั้น
ถัดเข้ามาด้านในซอยอีกหน่อยจะเป็นตึกแถวความสูง 3 ชั้น เปิดเป็นร้านขายของชำ
ติดกันเป็นตลาดสดที่เชื่อมออกไปถึงซอยประดิพัทธ์ 25
ฝั่งตรงข้ามตลาดเป็นบ้านเดี่ยว
ถัดมาเป็นโกดังเก็บของ
ลึกเข้าไปในซอยจะมีอพาร์ทเมนท์ และคอนโดสะพานควาย ความสูง 7 – 10 ชั้น
กลับออกมาทางฝั่งปากซอยประดิพัทธ์ 23 กันบ้าง เราจะลองเดินไปทาง BTS สะพานควายเพื่อดูบรรยากาศของย่านนี้กันคร่าวๆค่ะ
ฟุตบาทฝั่งติดถนนประดิพัทธ์จะมีร้านขายของริมทางตั้งซุ้มบนฟุตบาทค่อนข้างถี่แบบนี้ตลอดทาง โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีร้านอาหารมาเปิดขายค่ะ
ติดกับโครงการจะมีร้านอาหาร ขายก๋วยเตี๋ยวเรือและเมนูข้าวอื่นๆ
เดินต่อมาอีกหน่อยเราจะผ่านซอยประดิพัทธ์ 25
เราเดินต่อมามุ่งหน้าแยกสะพานควาย เราจะเห็นซุ้มร้านต่างๆทั้งร้านเสื้อผ้า และของกระจุกกระจิก
เมื่อเราเดินมาพ้นถนนประดิพัทธ์จะไม่มีซุ้มขายของข้างทางทำให้เราเดินสะดวกขึ้นค่ะ
สำหรับสภาพแวดล้อมริมฟุตบาทบนถนนพหลโยธินจะมีร้านเก่าแก่เปิดอยู่หลายร้าน โดยจะเป็นร้านที่เปิดในตึกแถวตามแบบร้านค้ายุคเก่า ทั้งร้านขายผ้า, ร้านตัดแว่น, เสื้อผ้า เป็นต้น
เดินจากโครงการมาไม่ไกลเราจะเห็น Big C ซึ่งเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ของย่านนี้ค่ะ
ไม่ไกลจาก Big C จะมีรพ.เปาโลเมมโมเรียล พหลโยธิน
เดินต่อมาอีกหน่อยเราจะผ่านโครงการคอนโด Onyx
เราเดินมาทางฝั่ง BTS เรื่อยๆ จะเห็นว่าร้านรวมต่างๆ จะเริ่มมีร้านใหม่ๆมากขึ้น อย่าง Clinic เสริมความงาม, 7 – 11, คลินิคทันตกรรม
นอกจากร้านรวมต่างๆแล้วระหว่างทางก็จะมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน ในราคาไม่แพง อย่าในภาพจะเป็นร้านข้าวราดแกงและร้านก๋วยเตี๋ยว
ถัดมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดัง ก่วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว หลายๆคนอาจจะรู้จักกันแล้วเพราะมีหลายสาขาค่ะ
ติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นตรอกร้านข้าวมันไก่และข้าวต้มปลา
เราเดินต่อมาจะเจอ Tesco Lotus Express เปิด 24 ชม. ค่ะ
จากนั้นเราเดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเห็นตัวสถานี BTS สะพานควายแล้วค่ะ
ทางขึ้นสถานีเป็นบันไดเลื่อน ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นในตอนเช้าๆเลยค่ะ
ตัวโครงการ
ภาพจำลองหน้าตาอาคารโดยรวม ใช้โทนสีขาวดูสะอาด โมเดิร์นเท่ๆ ใช้แนวคิดการออกแบบ Modern Timeless ใช้วัสดุที่เรียบง่าย ร่วมสมัยและดูดี เช่น กระจก เหล็ก แสตนเลส และพื้นผิวลายหิน
เรามาดูตัวแปลนอาคารกันต่อค่ะ เริ่มที่ชั้น 1 จะแสดงพื้นที่รอบๆตัวอาคารภายในพื้นที่ดินของโครงการ และรายละเอียดภายในอาคารชั้น 1 เราจะเห็นว่าที่ดินโครงการจะตั้งอยู่ติดถนน 3 ด้านคือถนนประดิพัทธ์, ซอยประดิพัทธ์ 23 และซอยประดิพัทธ์ 25 โดยทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่ต้นซอยประดิพัทธ์ 23 ส่วนพื้นที่ฝั่งติดถนนประดิพัทธ์จะมีระยะร่นซึ่งจะเป็นสวนหย่อมให้นั่งเล่นพักผ่อน
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะต้องผ่านซุ้มรปภ. ถนนภายในโครงการจะเป็นถนน One Way วนรอบอาคารค่ะ โดยเมื่อผ่านซุ้มทางเข้าหลักมาแล้วจะเจอกับส่วน Drop Off ถัดเข้ามาจะเป็นทางเข้าที่จอดรถ ซึ่งจะแยกเป็นที่จอดรถแบบ Automatic Parking ที่จะอยู่ถัดมาจากส่วน Drop Off และที่จอดรถแบบทั่วไปจะมีทางเข้าอยู่ด้านข้างอาคาร ซึ่งจะมีที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 – 7 รวมที่จอดรถทั้งหมด 169 คันหรือ 65% ไม่รวมซ้อนคัน
ส่วนพื้นที่ภายในตัวอาคารจะมีโถง Lobby ติดกับส่วนโถง Lobby จะเป็นส่วนของ Commercial ที่มีบริการ Concierge ถัดเข้าไปด้านในจะมีส่วนห้องน้ำรับรองและโถงลิฟท์ ที่มีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารต่อจำนวนยูนิตประมาณ 1 : 86 ที่ถือว่าสามารถใช้งานกันได้สบายๆ ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น โดยจะเป็นห้องแบบ Loft จำนวน 16 ยูนิต และมีส่วน Private Garden ที่ลูกบ้านสามารถใช้นั่งพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 9 – 21 เป็นยูนิตพักอาศัยแบบ Loft ทั้งชั้น จำนวน 16 ยูนิต ขนาดห้อง 28.40 – 38.95 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 4.4 เมตร
แปลนอาคารชั้น 22 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น โดยจะเป็นห้องแบบ Simplex ทั้งหมด ขนาดห้องตั้งแต่ 29.45 – 48.70 ตร.ม. จำนวน 12 ห้องต่อชั้น และมีพื้นที่สีเขียวขนาดย่อมให้ออกมาพักผ่อนได้ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 23 – 24 เป็นชั้นของยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นเช่นกัน แต่จะเป็นห้องแบบ Simplex (Type 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus) ทั้งชั้น จำนวน 12 ยูนิตต่อชั้นค่ะ จุดเด่นของห้อง Simplex ในชั้นนี้คือจะมีห้องที่จัดขนาด Oversize Living Space และฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่นจะแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งห้อง
สำหรับห้องตำแหน่ง 7 และ 8 Unit Type B7 เป็นห้องกลางที่ติดกันทางทิศเหนือ ขนาดห้อง 34.90 ตร.ม. มีความพิเศษตรงที่ได้ห้องครัวกว้างขึ้นและแยกไว้เป็นสัดส่วน สามารถกั้นห้องแยกเป็นครัวปิดได้สะดวก และในห้องนอนจะได้พื้นที่ Walk – in Closet ขนาดย่อม พร้อมตู้เสื้อผ้า 2 หลังค่ะ
ห้องตำแหน่งที่ 4 Unit Type B8 เป็นห้องมุมทางฝั่งทิศใต้ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.40 ตร.ม. ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง และได้หน้าต่างบานใหญ่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ได้วิวและแสงดีทั้ง 2 ส่วนการอยู่อาศัย เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่ดูโปร่งสบาย และสว่างค่ะ
ห้องตำแหน่ง 5 และ 10 Unit Type C1 เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 47 – 48 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยภายในห้องแบ่งแยกเป็นสัดส่วน ลักษณะตัวห้องเป็นห้องหน้ากว้าง Take View ได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ได้ระเบียงยาว และตัวห้อง Plus หรือห้อง เอนกประสงค์ที่ได้มาสามารถจัดเป็นห้องนอนรองขนาดเล็กได้โดยจะมีกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นระหว่างห้องเอนกประสงค์กับห้องนั่งเล่น เป็นสัดส่วนและสามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้กว้างค่ะ
ห้องตำแหน่ง 6 และ 9 Unit Type C3 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ห้องมุม ตำแหน่งทิศเหนือ จุดเด่นอยู่ที่ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มาก จำทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบฟังก์ชั่นได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะทำงานหรือนั่งพักผ่อน นอกจากนั้นภายในห้องนั่งเล่นยังได้กระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องโปร่ง โล่งพร้อมระเบียงยาวด้านนอกค่ะ
แปลนอาคารชั้น 25 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการทั้งชั้น โดยจะมีทั้งส่วน Outdoor และ Indoor โดยพื้นที่ส่วน Outdoor จะมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ขนาด 22 x 6 เมตร และสวนหย่อมพักผ่อนภายนอก และส่วนกลาง Indoor จะมี Sky Fitness, ห้องน้ำ, Adaptive Function Room และทีเด็ดของโครงการนี้คือ 24 Hrs Community Space เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานที่สามารถเข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ จองเวลาเข้าใช้งานและเวลาเลิกใช้งาน ระบบก็จะเปิดแอร์และไฟไว้ให้อัตโนมัติ และเมื่อสิ้นสุดเวลาที่ตั้งไว้ก็สามารถที่จะต่อเวลาได้ หรือถ้าใช้เสร็จตามเวลาไฟและแอร์ก็จะปิดอัตโนมัติค่ะ
แปลนอาคารชั้น 25M จะเป็นห้องส่วนกลางที่เชื่อมขึ้นมาจากชั้นที่ 25 ที่จะเป็นห้อง Skyline Lounge
แปลนอาคารชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่พักผ่อน Outdoor ทั้งหมด โดยจะแยกเป็นโซนสวนหย่อมกว้าง Party Yard สำหรับจัดงานเลี้ยง ติดกันเป็นโซน Rooftop Pantry ซึ่งมีพื้นที่ทำอาหารเตรียมไว้ให้ และโซน Outdoor Cinema เป็นโรงหนังกลางแจ้งค่ะ
ภาพนี้จำลองหน้าตาห้องพักโดยรวมที่ได้ฝ้าเพดานสูง กระจกบานสูง กับวิวรอบด้าน
ภาพจำลองบรรยากาศสวนหน้าโครงการและทางเข้าส่วน Lobby
บรรยากาศจำลองภายใน Lobby ตกแต่งมาอย่างเรียบง่าย แต่เด่นที่การเลือกใช้วัสดุ หินสีขาวแผ่นใหญ่ตัดกับเฟรมโลหะ พื้นลายหินอ่อน และเลือก Match สี ดูสวยงาม สบายตาดีค่ะ
พื้นที่ส่วน 24 Hrs Community Space เป็นพื้นที่ทำงานในรูปแบบ Co-working Space ภายใต้พื้นที่สูงโปร่งและบรรยากาศสบายๆทั้งแบบ indoor และ Outdoor workplace พร้อม All-Day Pantry ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมอุปกรณ์
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 25 ฝั่งสระว่ายน้ำ ตัวสระแบบ Infinity Edge Pool ด้านในอาคารเราจะเห็นห้องฟิตเนส ที่ได้กระจกบานสูงโปร่ง มองเห็นวิวภายนอกได้กว้าง ส่วนชั้นบน(25M) จะเป็นห้องทำงานเหนือสระว่ายน้ำ Skyline Lounge กระจกใสรอบห้อง
บรรยากาศภายใน Skyline Lounge กับโต๊ะทำงานที่หันหน้าติดกระจกภายนอก มองออกไปเห็นวิวเมือง
ภาพบรรยากาศภายในห้อง Fitness มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและวิวเมือง
บรรยากาศจำลองบนชั้น Rooftop บริเวณ Outdoor Cinema เป็นพื้นที่ดูหนังกลางแจ้ง
แบบห้อง
THE RESERVE พหล-ประดิพัทธ์ มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือ
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B1, B2, B3 และ B4 เป็นห้อง 1 Bedroom มาตรฐาน
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B6 เป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีขนาดห้องนั่งเล่นใหญ่ขึ้นค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B7 เป็นห้อง 1 Bedroom มาตรฐานแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน มีครัวที่สามารถจัดเป็นครัวปิดได้
ห้อง 1 Bedroom Simplex : Unit Type B8 เป็นห้อง 1 Bedroom ห้องมุมได้มุมมองที่กว้าง กระจกบานใหญ่ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ห้อง 1 Bedroom Simplex Plus : Unit Type C1, C2 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus แบ่งแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน สามารถจัดเป็น 2 ห้องนอนได้ และห้องครัวที่สามารถกั้นแยกเป็นสัดส่วนได้
ห้อง 1 Bedroom Simplex Plus : Unit Type C3 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus มีความพิเศษที่ได้ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างมาก พร้อมหน้าต่างบานใหญ่และกระจกบานเข้ามุมในห้องนอน
ห้อง 1 Bedroom Loft : Unit Type A1 – A12 เป็นห้องแบบ Loft 2 ชั้น ความสูงฝ้าเพดาน 4.4 เมตร ฟังก์ชั่นภายใน 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และพื้นที่ห้องครัว เป็นห้องที่ Hot สุด และเป็นจุดเด่นของโครงการ ตัวผังห้องมีการจัดภายในแตกต่างกันตามตำแหน่งที่วางในตัวอาคาร แต่โดยรวมจัดแยกเป็นสัดส่วน พื้นที่ห้องนอนจะอยู่บนชั้น 2 ห้องตัวอย่างสามารถเข้าเยี่ยมชมที่ Sale Office ได้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมกันในวันนี้จะมีทั้งหมด 2 แบบ มีดังนี้ค่ะ
โดยเริ่มที่ห้อง 1 Bedroom Simplex Plus กันก่อน Unit Type C3 เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ห้องมุม ตำแหน่งทิศเหนือ ขนาดห้อง 48.70 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร จุดเด่นอยู่ที่ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มาก ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบฟังก์ชั่นได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนั่งเล่น ไม่ว่าจะทำงานหรือนั่งพักผ่อน นอกจากนั้นภายในห้องนั่งเล่นยังได้กระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องโปร่ง โล่งพร้อมระเบียงยาวด้านนอกค่ะ
เริ่มเข้ามาดูภายในห้องตัวอย่างกันต่อค่ะ โดยบานประตูในห้องมาตรฐานจะได้เป็นบาน สำเร็จ ปิดผิวลามิเนต พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale ระบบความปลอดภัย 3 แบบคือล็อคกุญแจ, Key Card และใช้ Password แต่ความพิเศษของรุ่นนี้คือเอาสมาร์ทโฟน แตะที่ตัวเครื่องก็เปิดได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่เราแทบจะเล่นมือถือตลอดเวลา ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหากุญแจ, Key Card หรือต้องมากด Password อีกแล้วค่ะ
พื้นทางเข้าห้องจะมีธรณีประตู ยกตัวสูงขึ้นมาประมาณ 3 ซม. พื้นภายในห้องปูด้วยลามิเนต หนา 8 มม. ลายไม้ทั้งหมด
เข้ามาภายในตัวห้องพื้นที่ส่วนแรกที่เราเห็นจะเป็นห้องครัว มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องเอนกประสงค์และห้องน้ำ
อีกฝั่งของห้องครัวจะเชื่อมต่ออยู่กับยังส่วนห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ทางขวามือค่ะ
เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันก่อน พื้นที่ห้องครัวจะมีชุดเคาน์เตอร์ Built – in ติดผนังฝั่งทางเข้าห้องโดย Top จะได้เป็นหิน Quartz และหน้าบานเป็น Hi – Gloss ปิดกระจกทับอีกชั้น ทั้งหมด ส่วนฟังก์ชั่นตัวเคาน์เตอร์จะติดตั้งซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้พร้อมเครื่องดูดควัน ตัวเคาน์เตอร์ล่างมีตู้เก็บของและถังขยะใต้ซิงค์ล้างจาน, ลิ้นชักเก็บของ 2 ลิ้นชักและช่องวางเตาไมโครเวฟค่ะ ส่วนตู้ด้านบนจะแบ่งเป็นตู้เก็บของ 4 บาน และด้านในแบ่งเป็นชั้นวางของย่อยให้อีก 3 ชั้น
นอกจากเคาน์เตอร์ครัวหลักแล้ว ด้านข้างจะมีตู้บานยาวขนาบ 2 ข้าง สามารถใช้เก็บของหรือติดตั้งชั้นวางรองเท้าเพิ่มเติมได้ค่ะ
ฟังก์ชั่นบนเคาน์เตอร์ครัวมีซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า 2 หัว และมีพื้นที่เหลือสำหรับเตรียมอาหารอีกพอสมควรค่ะ
ซิงค์ล้างจานที่ได้จะได้เป็นซิงค์ทรงสี่เหลี่ยมขนาดค่อนข้างกว้างค่ะ
ระยะการใช้งานห้องครัว เหลือพอให้ใช้งานได้สะดวก
ติดกับส่วนครัวจะเป็นพื้นที่ส่วนทานอาหาร โดยทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นโต๊ะทางอาหารขนาด 4 ที่นั่งติดกับโซฟาห้องนั่งเล่น ซึ่งดูเหมาะกับพื้นที่การใช้งานดีแล้วค่ะ
ถัดจากส่วนทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ห้องครัว ห้องทานอาหารไปจนถึงห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องโถงกว้างๆ ขนาดใหญ่ ที่เราสามารถจัดสรรฟังก์ชั่นกันเองได้ว่าจะเพิ่มลดส่วนไหนค่ะ
สำหรับพื้นที่ของห้องนั่งเล่นที่จัดมาในห้องตัวอย่างนี้จะมีขนาดกว้าง ห้องดูโปร่งเนื่องจากได้ประตูเชื่อมระเบียงบานใหญ่ ความสูงเกือบจรดฝ้าเพดานเลยค่ะ
ขนาดโซฟาที่สามารถวางได้จะเป็นโซฟาขนาด 3 – 5 ที่นั่ง และถ้าใครชอบนอนเอนหลังดูทีวีก็สามารถวางเป็นโซฟาทรง L Shape ได้สบายๆ ไม่ทำให้ห้องดูแคบหรือใช้งานลำบากค่ะ
พื้นที่ฝั่งติดผนังอีกด้านเป็นส่วนของชั้นวางทีวี โดยในห้องมาตรฐานจะเป็นห้องเปล่านะคะ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.1 เมตร สามารถติดตั้งทีวีขนาด 50″ – 55″ จะได้ระยะดูทีวีที่เหมาะสมค่ะ
ระยะทางเดินด้านหลังโซฟาเหลือประมาณ 0.75 เมตร
มุมจากห้องนั่งเล่นมองย้อนไปทางห้องครัวและประตูทางเข้าห้องค่ะ
จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานใหญ่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก
โดยบานประตูจะได้เป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดสลับ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง
พื้นระเบียงภายนอกปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา มีธรณียกสุงประมาณ 10 ซม.ขนาดระเบียงจะเน้นแนวยาวเต็มพื้นที่หน้ากว้าง ส่วนความกว้างระเบียงประมาณ 0.60 เมตร พอให้วางราวตากผ้าขนาดเล็ก,ออกมายืนกินลมชมวิวหรือปลูกไม้กระถางเล็กๆได้
ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กซี่สีดำ พร้อมติดตั้งกริลเพื่อบังสายตา Compressor จากภายนอก
อีกฝั่งของระเบียงค่ะ
กลับเข้ามาภายในห้องเราจะไปดูในส่วนของห้องนอนและห้องน้ำกันต่อ
เราจะไปดูในส่วนของห้อง Master Bedroom กันก่อน
เข้ามาภายในห้อง Master Bedroom สำหรับห้อง Type นี้จะได้ห้องนอนที่มีขนาดพอดีๆ ไม่กว้างมาก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่จะเน้นที่ห้องนั่งเล่นด้านนอกค่ะ
ขนาดเตียงที่สามารถวางในห้องได้จะเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ค่ะ แต่ถ้าใครชอบเตียงกว้างกว่านี้ก็สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์ได้ แต่พื้นที่การใช้งานส่วนอื่นๆจะแคบลงค่ะ
ถ้าเราวางเตียงขนาดควีนไซส์จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 50 ซม. พอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ แต่ไม่เหมาะจะวางตู้เล็กหัวเตียงเพราะจะชนกับผ้าม่านทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวกค่ะ
พื้นที่ฝั่งปลายเตียงจะมีปลั๊กไฟและช่องสัญญาณติดตั้งมาให้ เหมาะที่จะติดตั้งทีวีแบบติดผนังค่ะ
ระยะเหลือปลายเตียงประมาณ 40 ซม.พอให้เดินผ่านได้สะดวก
พื้นที่อีกฝั่งของห้องติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in และมีทางเข้าห้องน้ำจากภายในห้องนอนใหญ่
ตู้เสื้อผ้ามาตรฐานของโครงการจะได้หน้าบานกระจกเงาสีชาทั้ง 2 ฝั่ง ภายในตู้เสื้อผ้าติดตั้งราวแขวน, ช่องเก็บของ และลิ้นชักด้านล่าง 3 ชั้น ส่วนด้านบนแบ่งชั้น 2 ชั้น สำหรับเก็บผ้าขนหนูหรือผ้านวม
ดีเทลลิ้นชักด้านล่างติดตั้งกระจกใสบางส่วนช่วยให้ใช้งานได้สะดวก สามารถมองเห็นของที่เก็บด้านใน
ระยะข้างเตียงที่เหลือสำหรับยืนแต่งตัว เหลือพอสมควรให้พอยืนใช้งานได้ค่ะ
จุดเด่นของห้องนอนห้องนี้คือช่องแสงบานใหญ่ เป็นกระจกเข้ามุม 2 ด้าน ความสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน ช่วยให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ
นอกจากบานหน้าต่างกระจกบานใหญ่แล้ว ก็จะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
จากห้องนอนเราจะไปดูกันต่อที่ห้องน้ำค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 7 ซม. ปูด้วยกระเบื้องสีขาว
โดยห้องน้ำจะสามาถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ค่ะ
เข้ามาดูภายในห้องน้ำจะติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด แยกส่วนแห้งส่วนเปียก โดยตัวกระจกเงาจะได้บานขนาดใหญ่ตามแบบค่ะ
ส่วนอ่างล้างมือจะได้เปบบฝังเคาน์เตอร์ ตั้งอยู่ติดกับโถงสุขภัณฑ์ ด้านหลังมี Low Wall สำหรับวางของได้พอสมควร
ตัวอ่างล้างมือเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม ขนาดค่อนข้างกว้าง ยี่ห้อ Lavenz
เคาน์เตอร์ใต้อ่างมีตู้เก็บของสามารถใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆได้พอสมควร
พร้อมก๊อกน้ำเย็นทรงเหลี่ยม
ส่วนโถสุขภัณฑ์จะได้ยี่ห้อ Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด คือสายชำระและที่วางกระดาษชำระ ระยะการใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวก
สายชำระขนาดพอดีมือ
ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้ง Shower Box มาให้เป็นสัดส่วน
ตัวบานเปิดจะได้เป็นบานสวิงแบบเปิดเข้าไปด้านในห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำมีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง บานกรอบอลูมิเนียม กระจกฝ้า ตัวบานมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ดี
ส่วนสุขภัณฑ์ที่ได้จะมีติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower มาให้พร้อมถาดวางสบู่
โดยฝักบัวจะได้ของ ยี่ห้อ Kohler ขนาดค่อนข้างใหญ่
ถาดวางสบู่ที่ได้ค่อนข้างยาวค่ะ สามารถวางทั้งสบู่ก้อนและสบู่เหลว
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.2 x 1.3 เมตร ค่อนข้างกว้าง สามารถยืนอาบได้สบายๆค่ะ
อีกมุมภายในห้องน้ำเมื่อเข้ามาจากทางประตูฝั่งห้องนั่งเล่น
ติดกับฝั่งประตูห้องนอนใหญ่ เราจะเห็นว่ามีตู้บานยาวติดตั้งมาให้ ภายในมีราวแขวน 2 ชั้น และชั้นวางของแยกอีก 3 ชั้นค่ะ
กลับออกมาที่ห้องนั่งเล่น เราจะไปดูในส่วนของห้องเอนกประสงค์กันต่อ
ภายในห้องเอนกประสงค์นี้จะได้ช่องแสงบานใหญ่ 1 บาน เป็นหน้าต่างบานฟิกซ์
ขนาดห้องนี้สามารถที่จะจัดเป็นห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือหรือจะจัดเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องได้ค่ะ ซึ่งดูจากพื้นที่แล้วก็พอที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้อยู่ แต่ถ้าเตียงใหญ่กว่า 3.5 ฟุต ห้อจะดูแน่นเกินไปใช้งานไม่สะดวกค่ะ
สำหรับในห้องตัวอย่างทางโครงการจะเป็นห้องทำงานค่ะ ซึ่งจากพื้นที่ก็สามารถที่จะวางโต๊ะทำงานตัวใหญ่พร้อมชั้นวางของได้
ถัดมาเรามาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันต่อ โดยเราจะไปดูห้องแบบ 1 Bedroom Loft ขนาด 29.75 ตร.ม. ที่เป็นห้องที่ผู้คนให้ความสนใจซื้อกันอย่างมาก ซึ่งตอนแรกมีขายแค่ชั้น 8-12a ทำให้ Sold Out อย่างเร็ว และมีลูกค้าอีกมากที่ต้องการซื้อห้อง Loft ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจาก ชั้น 8-12a เป็นชั้น 8-21 ซึ่งทำให้มีข้อดีเพิ่มขึ้นด้วย นั่นก็คือพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น คิดเป็น 65% ของโครงการเลยค่ะ
โดยห้องแบบ Loft นี้จะเป็นห้องที่เน้นฝ้าเพดานสูง ทำให้มีพื้นที่สำหรับ Split ชั้นห้องนอนแยกเป็นชั้นลอยได้ค่ะ จากแปลนของห้องนี้เมื่อเ้ขาไปในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องครัวและห้องทานอาหารทางขวามือ ส่วนพื้นที่ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นฝ้าเพดานสูง สำหรับห้องนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.4 เมตร จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานใหญ่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก ส่วนห้องนอนจะมีบันไดเชื่อมขึ้นไปบนชั้นลอยค่ะ
เรามาดูของจริงกันต่อค่ะ เมื่อเราเข้าไปในตัวห้องจะเห็นภาพรวมส่วนแรกที่เป็นห้องครัวและห้องน้ำ พื้นที่ส่วนนี้ยังมีความสูงฝ้าปกติ อยู่ที่ 2.7 เมตร
ฝั่งขวามือเป็นห้องครัว มองตรงไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น
ส่วนฝั่งซ้ายมือติดกับประตูทางเข้าเป็นห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของอ่างล้างมือและกระจกเงาบานใหญ่
ตัวอ่างล้างมือได้แบบฝังเคาน์เตอร์ มี Low Wall สำหรับวางของด้านหลัง
ใต้อ่างมีตู้เคาน์เตอร์สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ
ติดกับอ่างล้างมือกลางห้องจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ ยี่ห้อง Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ระยะการใช้งานค่อนข้างกว้าง มี Low Wall ด้านหลังสำหรับวางของ
ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกหรือห้องอาบน้ำจะติดตั้ง Shower Box มาให้ เป็นสัดส่วน
ภายในห้องน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower พร้อมถาดวางสบู่
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.4 เมตร ค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สบายๆ
กลับออกมาจากห้องน้ำเราไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ
พื้นที่ห้องครัวจะถูกจัดเป็นมุมไว้เป็นสัดส่วน รวมอยู่กับพื้นที่ทานอาหาร ทางโครงการจะติดตั้งเคาน์เตอร์ทั้งชุดมาให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งดูจากการจัดวางแล้วเราสามารถที่จะกั้นห้องแยกเป็นครัวปิดได้ค่ะ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะติดตั้งซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้า 2 หัวมาให้ ส่วนพื้นที่เหลือบนเคาน์เตอร์เหลือค่อนข้างกว้าง สามารถใช้เตรียมอาหารได้สะดวก ด้านล่างเคาน์เตอร์แบ่งเป็นตู้เก็บของ 3 ตู้และลิ้นชัก 2 ลิ้นชัก พร้อมช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟค่ะ
ส่วนตู้ด้านบนจะแบ่งเป้นตู้เก็บของทั้งหมด 3 บาน ด้านในแบ่งชั้นย่อย 2 ชั้น
สำหรับพื้นที่ทานอาหาร ทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งจากขนาดของพื้นที่แล้วการวางโต๊ะตัวอยากที่ตำแหน่งนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะจะไปบังตู้เก็บของ ของเคาน์เตอร์ครัวด้านหลังค่ะ ซึ่งเราอาจจะใช้โต๊ะที่กลมหรือขนาดเล็กลงมาหน่อยจะได้ใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ฟังก์ชั่น
จากห้องครัวเราจะไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่นฝ้าเพดานสูงกันต่อ
โดยพื้นที่ติดกับห้องน้ำจะมีตู้เก็บรองเท้า Built – in ติดตั้งมาให้ ด้านในแบ่งเป็นชั้นวางรองเท้าทั้งหมด 4 ชั้น และชั้นวางของด้านบนอีก 3 ชั้นค่ะ
เข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่น เราจะเห็นว่าตัวห้องจะได้เป็นโถงสูง ความสูงประมาณ 4.4 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบายมากเลยค่ะ
ติดกันเป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ ที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก
สำหรับห้องนั่งเล่นนี้ทางโครงการจะติดตั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ 1 หลัง แบบ Built – in โดยจะได้เฉพาะตู้บานล่างเท่านั้นค่ะ
ขนาดโซฟาที่เหมาะสมกับพื้นที่จะสามารถวางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ หรือจะใช้เป็นโซฟาทรง L – Shape ก็สามารถวางได้ไม่ขนาดทางเพราะยังมีระยะดูทีวีเหลือค่อนข้างเยอะค่ะ
ภาพรวมของห้องนั่งเล่นเชื่อมไปยังส่วนห้องทานอาหารและห้องน้ำ
จากห้องนั่งเล่นเราจะไปดูห้องนอนที่ชั้นบนกันต่อ โดยตัวบันไดที่เชื่อมขึ้นไปชั้นบนจะเกาะอยู่กับผนังฝั่งด้านหลังชั้นวางทีวีค่ะ
ตัวบันไดไม้สีน้ำตาลแดงเข้มเกือบดำ ขนาดไม่กว้างเท่าไหร่ ตามมาตรฐานห้องแบบ Loft
ตัวราวจับบันไดเป็นกระจกใส ช่วยให้ภาพรวมห้องดูโปร่งและ Modern ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเป็นส่วนของห้องนอนอย่างเดียวเลยค่ะ เหมาะมากกับคนที่ชอบแยกห้องนอนเป็นสัดส่วน ขนาดพื้นที่บนนี้สามารถที่จะวางเตียงถึงขนาดคิงส์ไซส์ได้
พื้นที่ข้างเตียงสามารถที่จากตู้หัวเตียงได้ 1 ฝั่ง
ราวกันตกบนชั้นลอยเป็นราวกระจกใสต่อเนื่องมาจากราวจับบันได
มุมมองจากเตียงเมื่อมองลงมาที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง
สำหรับห้อง Loft ที่มีฝ้าเพดานสูงแบบนี้นอกจากความโปร่งโล่งแล้วเรายังสามารถเพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งต่างๆได้มากมาน เช่น ตู้เก็บของ 2 ชั้นแบบในห้องตัวอย่าง หรือจะตกแต่งด้วยโคมไฟติดฝ้าเพดาน ยาวๆ สวยๆก็เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่สามารถทำได้ในห้องที่มีความสูงฝ้าปกติค่ะ
ราคา (ก.ย.60)
** หมายเหตุ : โปรดสอบถามราคาและโปรโมชั่นอีกครั้งที่สำนักงานขาย **
บทสรุปโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการ : The Reserve พหล – ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ฝั่งมุ่งหน้ามุ่งหน้าแยกสะพานควาย แต่ทางเข้าหลักจริงๆจะอยู่เกือบติดปากซอยประดิพัทธ์ 23 ตัวที่ดินอยู่ระกว่างซอยประดิพัทธ์ 23 และประดิพัทธ์ 25 สภาพแวดล้อมโดยรวมคึกคักพอสมควร และมีความอุดมสมบูรณ์ใกล้โครงการค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงดึกจะมีร้านอาหารมาเปิดริมถนนมากมายหลายร้าน และมีร้านสะดวกซื้อ,ตลาดสด, Big C และ Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) ก็อยู่ไม่ไกลนอกจากนั้นก็จะมี ร้านแลกเงินต่างประเทศ และร้านขายยาหลายร้าน
จุดเด่นของโครงการนอกจากจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่แล้วยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานควาย ระยะทางประมาณ 500 เมตร ซึ่งก็ยังพอเดินได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะตลอดทางจะเป็นฟุตบาทที่เดินค่อนข้างสะดวก แต่อาจจะมีคนเดินเยอะในช่วงเช้าและเย็น ประกอบกับริมฟุตบาทจะมีร้านอาหารมาตั้งขายเป็นวงกว้างจึงอาจจะเร่งฝีเท้าได้ไม่เท่าไหร่นะคะ
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ ตัวโครงการติดถนนถนนประดิพัทธ์ ที่สามารถเชื่อมกับถนนเส้นหลักๆอย่างพหลโยธินและถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้ นอกจากนั้นตัวถนนประดิพัทธ์เองยังใช้วิ่งยาวไปเชื่อมกับถนนทหารและถนนสามเสน ใช้ลัดไปถนนราชวิถีเพื่อไปฝั่งธนฯได้ นอกจากนั้นยังใช้ไปถนนพระราม 6 , ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ค่ะ นอกจากนั้นก็มีทางด่วนให้เลือกใช้ทั้งทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ และทางด่วนศรีรัช
การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สะดวกมีให้เลือกใช้หลายเส้นทาง โดยจุดเด่นของโครงการอยู่ที่ห่างจาก BTS สะพานควายประมาณ 500 ม. มีฟุตบาทตลอดทางจากโครงการถึงตัวสถานีจึงทำให้เดินได้สะดวกแต่จำนวนคนใช้ฟุตบาทจะเยอะหน่อย ทำให้ในเวลาเร่งด่วนอาจจะเร่งฝีเท้าไม่ค่อยได้ จึงต้องเผื่อเวลาเดินทางให้ดีค่ะ นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆ ก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณต้นซอยประดิพัทธ์ 21 (เดินจากโครงการไปประมาณ 80 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 90 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 9ร, 44ร, 52ร, 90ร, 97, 117 ค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวโครงการเป็นคอนโดในแบรนด์ The Reserve ที่ถือว่าเป็นตัวที่อยู่ในระดับ Luxury ของพฤกษา จะเน้นการออกแบบที่ดูดี และเด่นที่ส่วนกลาง โดยตัวโครงการจะเป็นคอนโด High-Rise 29 ชั้น มีทั้งหมด 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1-2-66 ไร่ จำนวนห้องพัก 260 ยูนิต
ตัวอาคารออกแบบมาไม่ได้หรูหรา แต่มาในสไตล์โมเดิร์นเรียบๆ เท่ๆ ตกแต่งภายในดูดีแบบสะอาดสะอ้าน จุดเด่นของโครงการนี้คือการออกแบบห้องแบบ Loft ที่ทำออกมาได้ดี การใช้งานลงตัวและ Spec ดีกว่าโครงการโดยรอบมากเมื่อเทียบกับราคา ณ ปัจจจุบัน นอกจากการออกแบบตัวห้องพักอาศัยแล้ว ส่วนกลางก็เป็นอีกจุดที่เด่นกว่าโครงการในโซนนี้อีกเช่นกัน ทั้ง 24 Hrs Community Space ที่ใช้ได้ 24 ชั่วโมง สั่งงานด้วยแอพฯในมือถือและ บริการ Concierge คอยช่วยเหลือลูกบ้านเช่น บริการซักรีด, รับส่งพัสดุ, ซื้อของ เป็นต้น โดยบริการส่วนนี้พฤกษาจะออกค่าบริการให้ 2 ปีค่ะ
ในส่วนของห้องพักจะมี 3 แบบ คือ
โดยห้องหลักๆ ของโครงการนี้จะเป็นห้องแบบ Loft ส่วนห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus จะมีจำนวนไม่เยอะแต่จะได้วิวที่สูง ความสูงเพดานห้องมาตรฐานอยู่ที่ 2.7 ม. ส่วนห้องแบบ Loft จะมีความสูงโปร่งถึง 4.4 ม. โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted โดยจะได้ประตูห้องพักแบบ Digital Door Lock 3 ระบบ ของ Yale
รวมถึงเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินบางส่วนให้ โดยจะออกแบบพิเศษให้เข้ากับ Lay Out ของห้องพัก เพื่อการใช้งานที่สะดวก ตัวเคาน์เตอร์ครัวท็อปหิน Quartz+ เตาเซรามิก 2 หัว + เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานของ MEX ให้ครบทุกห้อง โดยหน้าบานเคาน์เตอร์ครัวจะได้ Spec ท่ีดีกว่ารอบข้างมาก เป็น Hi-Gloss ปิดทับด้วยกระจกอีกชั้นค่ะ
ไฟภายในห้องแบบดาวน์ไลท์ พื้นห้องลามิเนต หนา 8 มม. พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่น ภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นครบ มีการแยกส่วนแห้ง และกั้น Shower Box กระจกนิรภัยในส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมาตรฐานของ Kohler ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ที่ชั้น 1 มี Lobby พร้อมบริการ Concierge ชั้น 8 มี Private Garden ชั้น 25 เป็นส่วนกลางหลักมีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ขนาด 22 x 6 เมตร และสวนหย่อมพักผ่อนภายนอก และส่วนกลาง Indoor จะมี Sky Fitness, ห้องน้ำ, Adaptive Function Room และทีเด็ดของโครงการนี้คือ 24 Hrs Community Space ในแบบ Indoor & Outdoor เป็นห้องสำหรับนั่งทำงานที่สามารถเข้าใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ ชั้น 25M มีห้อง Skyline Lounge และชั้น Rooftop จะมี Party Yard สำหรับจัดงานเลี้ยง, Rooftop Pantry ซึ่งมีพื้นที่ทำอาหารเตรียมไว้ให้ และโซน Outdoor Cinema เป็นโรงหนังกลางแจ้งค่ะ
ในส่วนของที่จอดรถ จะมีทั้งแบบ Automatic Parking และที่จอดรถธรรมดา อยู่ที่ชั้น 1 – 7 คิดเป็น 65% หรือ 165 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ลิฟท์โดยสารมีให้ 3 ตัว เข้า-ออกลิฟท์โดยสาร และอาคารพักอาศัยด้วยระบบ Access Card Control เพื่อความปลอดภัย ติดตั้งกล้อง CCTV พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และ Digital Door Lock ทุกยูนิตค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8 | อยู่ติดถนนประดิพัทธ์ อยู่ในย่านชุมชน ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.8 | เดินทางเข้าเมืองและออกไปชานเมืองฝั่งเหนือสะดวกติดถนนหลักเส้นประดิพัทธ์ และใกล้ถนนพหลโยธินเป็นถนนเส้นหลักจึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนหลักเส้นอื่นๆได้สะดวก |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.0 | สะดวกใกล้ BTS สะพานควายในระยะ 500 เมตร เดินสะดวกมีฟุตบาทตลอดทาง นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ไม่ไกลจากโครงการและคิวพี่วินที่อยู่ในซอยโครงการ |
ห้องพักและวัสดุ | 8.0 | ห้องในโครงการเกือบทั้งหมดจะเป็นแบบ Loft ที่ทำออกมาได้ดีและมีการตอบรับที่ดีมาก นอกจากนั้นก็จะมีห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ส่วน Spec วัสดุก็คุ้มค่าตัว ถือว่าให้มาดีกว่าหลายโครงการในโซนสะพานควาย |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.75 | ให้มาครบถ้วน ทำออกมาเรียบๆเท่ๆ มีจุดเด่นที่ห้อง 24 Hrs Community Space ใช้งานได้ 24 ชม. โดยสั่งงานผ่าน Application นอกจากนั้นก็จะมีบริการ Concierge อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านค่ะ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | เหมาะสำหรับคนที่หาที่อยู่ย่านสะพานควาย มีจุดขายที่ต่างจากทุกคอนโดในย่านนี้คือห้องแบบ Loft เกือบทั้งตึก การตกแต่งทั้งอาคารและส่วนกลางเรียบเท่ ใช้งานทั้งรถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัวได้ แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูง Spec วัสดุดี |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.17 | ดีมาก |
:: ผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ 200,000. ก่อนใคร คลิกที่นี่ ::
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : http://thereservecondo.com/phahol-pradipat/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น