รีวิว คอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ The Signature by Urbano
The Signature by Urbano จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ใกล้รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย ประมาณ 50 เมตร, ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนศรีรัช, บิ๊กซี สะพานควาย, Villa Market, JJ Mall, สวนจตุจักร และ รพ.เปาโล พหลโยธิน
เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ เป็นคอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 2-1-34 ไร่ ห้องพักอาศัย 253 ยูนิต มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 34.00-85.00 ตร.ม. สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2559
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน อาทิ โถงต้อนรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ + พื้นที่พักผ่อนริมสระ, ฟิตเนส, สกายเลาจน์, สวนพักผ่อนลอยฟ้า, ลิฟท์โดยสาร, ที่จอดรถ ประมาณ 70% ไม่รวมซ้อนคัน, Access Card Control และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท*
ชื่อโครงการ | เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ The Signature by Urbano |
เจ้าของโครงการ | พฤกษา เรียลเอสเตท Pruksa Realestate |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bedroom : 34-37 ตร.ม. – 2 Bedrooms : 48-55 ตร.ม. – 3 Bedrooms : 85 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 2-1-34 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 31 ชั้น |
จำนวนห้อง | 253 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | ประมาณ 70% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
โซน | เขตพญาไท |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์สาย 3, 26, 29, 34, 39, 59, 63, 112, 502, 503, 510, 513, 3, 26, 29, 34, 39, 59, 63, 112, 502, 503, 510, 513. |
ที่ตั้ง | ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้างปลายปี 2557 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2559 |
ราคา | เริ่มต้น 7.5 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | 150,000 บาท |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | – ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. – ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม จ่ายครั้งเดียว |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก | – Residents Lobby – สระว่ายน้ำ + พื้นที่พักผ่อนริมสระ – Cubic Hub – ฟิตเนส – Sky Lounge – Roof Top Garden – Access Card Control -ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. |
จุดเด่นของโครงการ | “The Signature by Urbano คอนโด High Rise 31 ชั้น ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย” |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พิกัด : 13.793166, 100.549160
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ The Signature by Urbano สะพานควาย ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร มีจุดเด่นคือปากทางเข้าโครงการแทบจะติดกับบันไดทางขึ้น BTS สะพานควายเลยค่ะ โดยถ้านับระยะทางจริงๆเดินเท้าจากตัวอาคารมาถึงบันได BTS ก็แต่ประมาณไม่เกิน 100 เมตร เท่านั้น ซึ่งถือว่าใกล้ BTS มาก สามารถเดินมาได้แบบสบายๆเลยค่ะ
ทำเล BTS สะพานควาย จะตั้งอยู่ระหว่าง BTS สถานี อารีย์ และ BTS จตุจักร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่เป็นจุดตัดแยกใหญ่ตัดกับถนนหลัก 3 เส้นคือ 1.ถนนพหลโยธิน 2.ถนนประดิพัทธ์ 3.ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโครงการใหม่ๆขึ้นมามากมาย แถมขายได้ ขายดีซะด้วย เหตุผลหลักๆที่ทำให้ทำเลนี้เป็นที่น่าสนใจเพราะเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากใจกลางเมืองหน่อยแต่ยังมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งตัวทำเลสะพานควายเอง เรื่อยไปจนถึงทำเลข้างเคียงอย่างอารีย์ และยังเดินทางได้สะดวกเพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน คือ สถานีสะพานควาย ถัดไปอีก 1 สถานีก็จะมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดินคือสถานีจตุจักรนั่นเองค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ และแน่นอนเส้นทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สะพานควาย และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควาย
นอกจาก BTS แล้วก็สามารถเรียก Taxi ที่หน้าโครงการได้ มีวิ่งผ่านไปมาตลอดค่ะ หรือถ้าจะไปใกล้ๆก็มีคิวพี่วินอยู่บริเวณหน้าไปรษณีย์ไทย (เดินจากโครงการไปประมาณ 100 เมตร) นอกจากนั้นยังมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 180 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 8Air, 9ร, 26, 27ร, 28ร, 29, 34, 38ร, 39, 59, 77 ค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกค่ะ เนื่องจากตัวโครงการเกาะอยู่กับถนนเส้นหลักคือถนนพหลโยธิน ที่สามารถใช้ขึ้นไปทางทิศเหนือไป หลักสี่ ดอนเมือง ยาวไปจนถึงรังสิต หรือใช้เส้นพหลลงทางทิศใต้ก็จะสามารถวิ่งตรงไปอนุสาวรีย์ เชื่อมกับพญาไทได้ค่ะ นอกจากเส้นพหลที่วิ่งขึ้นเหนือลงใต้โดยตรงแล้วยังมีถนนอีก 2 เส้นหลักๆที่อยู่ใกล้โครงการและสามารถใช้ได้สะดวกค่ะ คือ ถนนประดิพัทธ์ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย
ส่วนทางด่วนรอบๆมีให้เลือกใช้ใกล้ๆ 2 เส้น คือทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์และทางด่วนศรีรัช โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ฝั่งมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ สามารถใช้วิ่งไปดอนเมือง, รังสิตได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2.7 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 15 นาที
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทล์เวย์ฝั่งลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งลงมาเข้าราชเทวีได้ จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.8 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 – 25 นาทีค่ะ
จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชที่ใกล้โครงการที่สุด จะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งขึ้นไปทางทิศเหนือ สามารถใช้วิ่งไปบางเขน, ปากเกร็ดได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 3.7 กม. ใช้เวลาประมาณ 14 – 25 นาทีค่ะ
และจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าลงทิศใต้ที่ใช้วิ่งเข้าผ่านเมืองช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลงไปถึงเจริญราษฎร์และใช้เชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครใช้วิ่งไปพระราม 2 , พระโขนงได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนนี้จะมีระยะทางจากโครงการประมาณ 2 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 10 นาทีค่ะ
จะขอเล่าให้ฟังกันสักหน่อยว่าแต่เดิมพื้นที่แถวนี้นั้นจะเป็นชุมชนดั้งเดิมที่คึกคักมานานแล้ว ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ก็ยังคงเยอะอยู่รอบๆบริเวณเลย โดยคาแร็คเตอร์ที่เด่นๆของย่านนี้ที่เราจะเห็นว่าค่อนข้างแปลกกว่าทำเลในเมืองย่านอื่นๆ คือแถวนี้จะเป็นถิ่นของร้านเก่าๆ ทั้งร้านขายเสื้อผ้า เสื้อสูท ร้านขายนาฬิกาแบบดั้งเดิม ร้านหนังสือเก่า และร้านพระเครื่องนั่นเองค่ะ โดยเฉพาะร้านพระเครื่องจะไม่ได้มีเฉพาะพระเครื่องเท่านั้น แต่พวกของเก่าอย่างเหรียญ นิตยสารเก่าๆ หรือเครื่องประดับเก่าๆ ก็มีมาวางขายเป็นในลักษณะของการตั้งร้านริมฟุตบาท มีทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการตัวหลักใหญ่ๆจะมี Big C รองลงมาเป็น Tesco Lotus Express (เปิด 24 ชม.) มีร้านค้า ร้านอาหารย่อยๆอยู่ทั่วไป ทั้งที่เปิดเป็นร้านแบบจริงจังและร้านข้างทางถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนั้นบนถนนประดิพัทธ์ช่วงแยกสะพานควายเป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อเสียงแบบเงียบๆมานาน จะมีร้านอาหารทั้งคาวหวานที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงดึกค่ะ
ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นโซนใกล้เคียงอย่างอารีย์ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีร้านคาเฟ่น่ารักๆเพียบ และยังมี Villa Aree เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหารชื่อดังด้านอยู่เยอะเลยค่ะ เช่น After You, กับข้าวกับปลา, Starbucks เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีซอย Aqua ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานมานี้ เป็นซอยสั้นๆ แต่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารดีๆหลายร้าน และยังมีร้านเช่าชุดราตรี และ Fitness ด้วยค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นจากบริเวณ BTS สนามเป้า มุ่งหน้าบนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร ผ่าน BTS อารีย์ ผ่านแยกสะพานควาย ตัวโครงการจะอยู่ก่องถึง BTS สะพานควายนิดหน่อยค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพหลโยธินบริเวณ สถานี BTS สนามเป้า > ถนนพหลโยธิน > คอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ *อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย
เริ่มจาก สถานี BTS สนามเป้า
ผ่านสถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ให้เราขับตรงไป
ผ่านแยกสะพานควาย ตอนนี้ให้เราเตรียมตัวชิดช้ายไว้ค่ะ
ขับตรงมา เกือบถึง BTS สะพานควาย เราจะเจอกับ คอนโด เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ อยู่ทางซ้ายมือเราค่ะ
ขอพาเดินสำรวจเล็กน้อย >> ตอนนี้เรายินอยู่ด้านหน้าโครงการ ตรงข้ามกับโครงการ เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น และ Office Mate
มองไปทางซ้ายมือ เป็น BTS สะพานควาย เดินจากหน้าโครงการไปไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นสถานีได้เลย
ทางขึ้น BTS สะพานควาย อยูติดกับร้านข้าวแกง
ร้านอาหารปักษ์ใต้-กลาง เป็นร้านข้าวแกง คนทานเยอะมากพอสมควร ร้านจะอยู่บริเวณเชิงทางขึ้นค่ะ เดินเลาะทางเท้า แวะทานข้าวกันก่อนได้นะ
เดินถัดไปอีกหน่อย จะมีร้านค้า ร้านกาแฟ เปิดอยู่บ้างประปราย รวมถงึเซียนพระ ก็เริ่มมาตั้งแผงกันแล้วค่ะ
ไปรษณีย์สามเสน ตรงนี้แหละ ที่มีป้ายรถเมล์ให้บริการ
ถัดจากไปรษณีย์มาหน่อย ก็เจอกับโครงการพี่ของ The Signature by Urbano นั่นก็คือโครงการ The Editor สะพานควาย ปัจจุบันพร้อมเข้าอยู่แล้วจ้า
เดินกลับมาเริ่มที่หน้าโครงการใหม่ เดินเลาะไปทางขวามือ >> ติดกับทางเข้าเลย เป็น Lotus Express เปิดตลอด 24 ชม.
มีร้านค้าแผงลอย และ ร้านค้าจากอาคารพาณิชย์เปิดตลอดเส้นทาง
ยิ่งช่วงเช้า-เย็น เนี่ย ของขายมาตั้งกันเยอะมาก
จากโครงการเดินมานิดเดียว ก็มีบิ๊กซี สะพานควาย แต่ต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งนะคะ เป็นสาขาค่อนข้างใหญ่ มีเครื่องอุปโภคบริโภคครบครัน
ผ่านคอนโด Onyx จากแสนสิริ เป็นโครงการแรกๆในย่านนี้
ร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บผ้าก็มีนะ
เดินมาแปปๆก็ถึงสี่แยกสะพานควายแล้วค่ะ เราก็ยังเดินตรงต่อไปตามทาง
ผ่านซอยประดิพัทธ์ 25
ซึ่งภายในซอยจะมีตลาดสดเจ้าใหญ่อยู่ สามารถมาซื้อของทำอาหารได้ และถ้าเดินเข้าไปลึกๆจะมีหอพัก และอพาร์ทเมนท์มากมายหลายตึกเลยค่ะ
เดินผ่านซอยประดิพัทธ์ 25 มาหน่อย จะมีสะพานข้ามฝั่ง เราเดินขึ้นมาถ่ายรูปให้ดูสภาพแวดล้อมโดยรวมของพื้นที่แถวนี้ โดยถนนสายนี้ตอนเย็นๆค่ำๆหน่อยจะมีร้านอาหารข้างทางมาเปิดให้พรึ่บบ ทั้งคาวหวาน เลือกทานกันได้เพลินนเลยค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ
รอบๆโครงการจะมีความคึกคักสูง มีทั้งที่อยู่อาศัยแต่ตั้งเดิมจำพวกบ้านเดี่ยวและอพาร์ทเมนท์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Low Rise หรือไม่เกิน 8 ชั้น จึงไม่มีผลกับวิวของโครงการค่ะ นอกจากนั้นรอบๆยังอุดมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้ง Tesco Lotus Express, Big C, Boots, รพ.เปาโล, ไปรษณีย์สามเสน
สำหรับที่ดินที่ติดกับโครงการ ทิศเหนือจะติดกับอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยว ทิศใต้ติดกับอาคารพาณิชย์ และโรงภาพยนต์พหลโยธินรามา เป็นโรงหนังเก่า ทิศตะวันออกติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลเปาโล ทิศตะวันตกติดกับซอยประดิพัทธ์ 25 ซึ่งมีทางเข้าออกซอยทั้งจากถนนประดิพัทธ์และประตูด้านหลังโครงการ โดยในซอยนี้จะมีตลาดสดขนาดใหญ่ สามารถมาเลือกซื้อของสดไปทำอาหารกันได้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ The Signature by Urbano เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น จำนวน 253 ยูนิต บนที่ดิน 2-1-34 ไร่ เป็นตัวที่ 2 ใต้ชื่อ Urbano จากพฤกษาค่ะ ซึ่งโครงการแรกคือ Urbano Absolute สาทร – ตากสิน สำหรับตัวโครงการนี้มีแนวคิดการออกแบบคือ ” For Those Who Are Signature Themselves ” การออกแบบตัวอาคารสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทาเข้มตัดกับสี Copper ดูหรูหรา มีห้องตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 34.00 – 36.50 ตรม., 2 ห้องนอน ขนาด 48.00 – 61.00 ตรม., 3 ห้องนอน ขนาด 85.00 ตรม.
ตัวอาคารภาพรวมจากมุมสูงค่ะ
ตัวผังโครงการชั้น 1 จะเห็นว่ามีทางเข้าออกโครงการ 2 ทาง คือ จากทางเข้าหลักหน้าโครงการ ติดกับถนนพหลโยธิน และทางเข้ารองเป็นทางเข้าออกจากซอยประดิพัทธ์ 25โดยบริเวณทางเข้าหลักของโครงการจะมีป้อมรปภ. พร้อมรั้วไม้กระดกสำหรับสแกนคนเข้าออก ที่จะมีรปภ. ประจำตลอด 24 ชม. เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนหลักสั้นๆ โครงการนี้รถวิ่งทางเดียวนะคะ โดยจะต้องขับแบบวนขวารอบอาคาร ส่วนที่จอดรถจะทีช่องจอดเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ขึ้นไปจนถึงชั้น 8 รวมจอดได้ประมาณ 70% (ไม่รวมซ้อนคัน) หรือ 90% (รวมซ้อนคัน) ถือว่าให้ที่จอดรถมาเยอะเลยค่ะ
ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆในตัวอาคารจะมี Lobby อยู่ที่ส่วนด้านหน้าอาคาร เป็น Lobby พร้อม Waiting Area ฝ้าเพดานสูงโปร่ง จาก Lobby จะสามารถเข้าไปเช็คจดหมายได้ที่ห้อง Mail Room ติดกับ Mail Room จะเป็นห้องของนิติและห้องน้ำรับรอง ส่วนโถงลิฟท์จะอยู่ติดกับ Lobby อีกด้าน ภายในมีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและ Service Lift 1 ตัว
มาดูของจริงกันบ้าง เริ่มจากทางเข้าโครงการจะมีสวนหย่อมทางซ้าย และป้องรปภ. ทางขวา
ริมถนนหลักจะมีฟุตบาทสำหรับคนเดินเท้าเข้าโครงการ รอบๆทางเดินลงต้นไม้ไว้ให้ร่มรื่น เป็นระเบียบ
จากทางเดินมองไปกฌจะเห็นตัวอาคารค่ะ
จากหน้าถนนใหญ่เข้ามาถึงตัวอาคารประมาณ 30 เมตร ถ้าขับรถมาเราจะต้องเบี่ยงออกซ้าย
เมื่อเราขับตรงมาจะเห็นที่จอดรถใต้อาคาร
เข้ามาอีกหน่อยจะเจอทางเข้า – ออกที่จอดรถในอาคาร มีไม้กระดกกั้นใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ และมีกล้อง CCTV ทั้ง 2 ฝั่ง
ภายในที่จอดรถชั้น 1 จะแบ่งส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถ และอีกส่วนเป็น Service Area
จากที่จอดรถชั้น 1 จะมีทางเดินทะลุไปยังส่วน Lobby ในตัวอาคารได้
โดยทางเดินเข้าตัวอาคารจากที่จอดรถชั้น 1 จะเป็นทางเดินแบบนี้ ซ้ายและขวาเป็นส่วน Service ของอาคาร
ขึ้นไปดูที่จอดรถด้านบนกันบ้าง ลักษณะทางขึ้นเป็น Slope ตามมาตรฐานที่จอดรถ
ลักษณะการเดินรถวิ่งสวนกันแบบนี้
ที่จอดรถชั้นบนจะแบ่งเป็นบล็อคๆ ที่จอดรถค่อนข้างโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี
แต่ละบล็อคจะแบ่งเป็นช่องจอดแบบนี้
กลับมาที่ส่วน Lobby เข้ามาจะเจอโถงสูงโปร่ง ตกแต่งมาดูโมเดิร์นแต่หรูหรา
ฝั่งขวามือจะมีเคาน์เตอร์ Reception พร้อมเจ้าหน้าที่อนให้ข้อมูล
ฝั่งซ้ายเป็น Waiting Area
ภายใน Waiting Area จะมีที่นั่งรับรองหลายชุด สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานหรือให้เพื่อนมานั่งรอได้สบายๆค่ะ
ตรงเข้ามาด้านในจะมีห้อง Mail Room และ Office ทางซ้าย ตรงไปเป็นห้องน้ำรับรอง ขวามือเป็นเคาน์เตอร์นิติฯ
เข้าไปดูด้านในห้อง Mail Room กันก่อน
ภายในห้อง Mail Room จะได้ Mail Box สีดำ เก๋ดีค่ะ
เดินตรงถัดมาเป็นส่วนของห้องน้ำรับรอง ส่วนนี้จะสามารถให้แขกของเรามาใช้บริการได้
ภายในห้องน้ำแยกห้องชาย หญิง และห้องน้ำคนพิการ
ภายในห้องน้ำคนพิการ ห้องค่อนข้างกว้าง มีระยะเผื่อสำหรับรถเข็น
ภายในห้องน้ำหญิง มีอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา และโถสุขภัณฑ์
ต่อมาดูภายในห้องน้ำชาย
ภายในห้องน้ำชายจะมีอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา, โถปัสสาวะ และโถสุขภัณฑ์ 1 ชุด
จากโถงทางเดินส่วนห้องน้ำ จะมีประตูแยกเพื่อใช้ออกมายังส่วน Service ด้านหลังอาคาร ฝั่งซ้ายออกไปที่จอดรถด้านหลังอาคารที่เราเห็นกันตอนไปดูบริเวณที่จอดรถนั่นเองค่ะ
กลับเข้ามาภายในอาคารบริเวณที่อยู่ใน Lobby ติดกับด้านหลัง Reception โดยการจะเข้าไปด้านในจะต้องใช้คีย์การ์ดแตะที่ด้านข้างประตูก่อนนะคะ
ภายในโถงลิฟท์มีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัว ซ้ายมือเป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และขวามือเป็น Service Lift 1 ตัว
ภายในลิฟท์โดยสารมีกล้องวงจรปิดติดมาเพื่อความปลอดภัย และมีไฟส่องสว่างให้เพียงพอ
ลิฟท์โครงนี้ใช้ของ OTIS รับน้ำหนักได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรือประมาณ 13 คนค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเป็นชั้นที่มี Facility หลักของโครงการ โดยจะมี Swimming Pool แยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ และสระ Jacuzzi โดยสระว่ายน้ำหลักจะเป็นสระแบบ Outdoor ส่วนสระเด็กและ Jacuzzi จะเป็นสระแบบในร่มค่ะ พื้นที่ข้างสระจะเป็นจุดล้างตัว อีกด้านมี Pool Terrace โปร่งๆ และจากชั้น 8 ยังสามารถเชื่อมลงไปห้องน้ำชั้นล่าง โดยส่วนห้องน้ำจะมีห้อง Suna มาให้ใช้บริการด้วยค่ะ
ขึ้นมาดูชั้นอื่นๆกันต่อ เริ่มที่ชั้น 8 ส่วนกลางหลักของชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำค่ะ
เปิดออกมาจะเจอลานกว้างๆ เป็น Pool Terrace
เดินออกมาจะเจอกับส่วนสระว่ายน้ำ Outdoor ส่วนทางซ้ายเป็นทางลงไปห้องน้ำและห้อง Sauna
สระว่ายน้ำของโครงการนี้เป็นแนวยาว มีทั้งส่วน Outdoor และส่วนในร่มเล็กน้อย
สำหรับพื้นที่สระว่ายน้ำส่วนในร่มจะมีแยกเป็นสระย่อยๆอีก 3 สระ
โดยจะมีทั้งสระแบบ Jacuzzi
และส่วนสระน้ำตื้นสำหรับเด็ก
ริมสระว่ายน้ำอีกฝั่งจะมีจุดล้างตัวอยู่ข้างสวนหย่อม 1 จุด
มุมจากสระว่ายน้ำมองย้อนไปอีกด้านค่ะ
กลับมาตรงบริเวณ Pool Terrace เราลองลงไปดูส่วนห้องน้ำชั้นล่างกันบ้างค่ะ
โดยชั้นล่างนี้จะแบ่งเป็นห้องน้ำหญิง – ชาย
ภายในห้องน้ำหญิงตกแต่งด้วยหินสีขาวและกรอบสีทองดูหรูหราดีค่ะ มีอ่างล้างมือ 2 ชุด
ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดกว้างใช้งานสะดวก
นอกจากนั้นจะมีห้องน้ำ 2 ห้อง, ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้อง Sauna & Stream 1 ห้อง
มี Locker ให้เก็บของทั้งหมด 8 ช่อง
ภายในห้องน้ำมีสุขภัณฑ์มาให้ครบชุด พร้อมบ่าวางของด้านหลัง
ภายในห้องอาบน้ำมีฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower
ภายในห้อง Sauna
หน้าห้อง Sauna จะมีที่นั่งพักให้ 1 จุด
มาดูด้านในห้องน้ำชายกันต่อ เข้ามาจะเห็นว่าตกแต่งมาแบบเดียวกันกับห้องน้ำหญิง มีอ่างล้างมือ 2 ชุด
มีห้องน้ำ 1 ห้อง, ห้องอาบน้ำ 1 ห้อง, ห้อง Sauna & Stream
ที่แตกต่างจากห้องน้ำหญิงคือจะมีโถปัสสาวะเพิ่มมาให้ 2 ชุด
ขึ้นมาที่ชั้น 9 กันต่อ สำหรับส่วนกลางของชั้นนี้จะเรียกว่าเป็นจุดเด่นของโครงการแบรนด์ Urbano เลยก็ว่าได้ คือห้อง Cubic Hub
ซึ่ง Cubic Hub นี้จะเป็นส่วน Co-Living Area, Work Station และ Mini Bar
พื้นที่ส่วนนี้กว้างขวาง มีเก้าอี้ให้นั่งหลายชุดเลยค่ะ โดยจะมีทั้งแบบโซฟาชุดใหญ่
โต๊ะแบบนั่งประชุม หรือเอาคอมมานั่งทำงานก็มีค่ะ
สำหรับวิวที่ได้ค่อนข้างเปิดโล่ง โดยด้านหนึ่งจะเป็นวิวเมือง
และอีกด้านจะเป็นวิวของสระว่ายน้ำที่ชั้น 8
ชั้น 10 – 30 จะเป็นส่วนของยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยจำนวนห้องแต่ละชั้นจะค่อยๆลดลงในชั้นที่สูงขึ้นตามรูปทรงอาคารค่ะ
มาดูที่ชั้น Tropical Floor กันบ้าง ออกมาจากลิฟท์จะเจอกับโถงลิฟท์
เข้ามาที่โถงทางเดินขนาดกว้างมาตรฐาน ติดไฟตลอดทางสว่างปลอดภัย ยูนิตพักอาศัยขนาบทั้ง 2 ข้างทางค่ะ
ชั้นที่ 31 มีส่วน Sky Fitness มองเห็นวิวเมือง และมียูนิตพักอาศัย 2 ห้อง เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 48.50 ตร.ม
ขึ้นมาที่ชั้น 31 จะมี Highlight อีกจุดของโครงการนี้เลยคือ Sky Lounge และ Sky Fitness
ภายใน Sky Lounge จะเป็นโถงกว้าง ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ผนังกระจกรอบด้านทำให้เห็นวิวเมืองโดยรอบได้ดี รวมถึงวิวสวนจตุจักร
มีบาร์เครื่องดื่มพร้อมเก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์
ด้านหลังบาร์จะเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวม
มีอ่างล้างมือเคาน์เตอร์กว้างๆ 1 ชุด
โถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะอย่างละ 1 ชุด
ภายใน Sky Lounge มีที่นั่งมาให้หลายชุดเลยค่ะ เหมาะสำหรับมานั่งพักผ่อนหรือจะนัดเพื่อนมานั่งสังสรรค์เบาๆกันบนชั้นนี้ก็ได้
อีกมุมนึงให้เห็นกันชัดๆว่าจากชั้นนี้สามารถชมวิวเมืองได้จริงๆ
ส่วนกลางอีกอย่างบนชั้น 31 นี้ จะเป็น Sky Fitness
ด้านในห้องฟิตเนสถือว่ากว้างขวางเลยค่ะ ผนังโดยรอบจะใช้เป็นกระจกเช่นเดียวกับส่วน Lounge ทำให้เราสามารถชมวิวเมืองได้เต็มที่เช่นเดียวกัน
ภายในห้องฟิตเนสนี้จะมีลู่วิ่ง 4 ลู่, จักรยานไฟฟ้า 5 คัน, ดัมเบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น, เบาะซิทอัพ 2, Lat Pull Down 1 เครื่อง, Multi Press 1 เครื่อง, Led Extension 2 เครื่อง
อีกมุมหนึ่งค่ะ
และสำหรับพื้นที่ส่วนยูนิตพักอาศัยจะถูกแยกออกจากส่วนกลางอย่างเป็นสัดเป็นส่วน โดยการจะเข้าไปในส่วนโถงทางเดินได้นั้นจะต้องแตะ Key Card ก่อนค่ะ
แบบห้องในโครงการ
มีทั้งหมด 3 ขนาดหลักๆ คือ
โดยห้องแต่ละแบบก็มีหลากหลายขนาด และการจัดวางฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป วันนี้เรามีแบบห้องบางส่วนมาให้ดูกันนะคะ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาทุกคนมาชมกันวันนี้ จะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms และห้องแบบ 3 Bedrooms นะคะ
ห้องแบบแรกจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48 – 55 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก ได้ครัวเป็นครัวเปิด ส่วนที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom คือจะมีพื้นที่ Study ซึ่งเป็นโถงเล็กๆเชื่อมห้องนั่งเล่นกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก ทำให้มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องอ่านหนังสือได้ค่ะ
มาดูของจริงกันต่อค่ะ ได้บานประตูลายไม้สีน้ำตาลเข้มพร้อม digital door lock ของ Yale
ด้านหลังบานประตูจะมีตัว Stopper เพื่อป้องกันการเปิดประตูมาแล้วกระแทกผนังด้านหลัง
เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่โถงกว้างๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสวนครัวทางซ้ายมือมองตรงไปจะเป็น study area ถัดไปเป็นระเบียง และห้องนั่งเล่นทางขวามือค่ะ
เรามาดูพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันก่อนค่ะ พื้นที่ส่วนนี้เราจะเห็นว่ามีช่องเปิดที่ใช้กระจกใสบางส่วนบนผนัง ซึ่งตรงนี้จะมีความพิเศษคือสามารถเป็นช่องแสงที่ต่อออกมาจากส่วนของห้องนอน โดยตรงนี้จะช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นนอกจากนั้นยังมีผลพลอยได้คือได้รับแสงธรรมชาติเพิ่มต่อเนื่องมาจากภายในห้องนอนค่ะ
ให้ดูภาพรวมส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะสำหรับห้องนี้จะได้ตู้วางทีวีแบบ Built – in มา 1 ชุดค่ะ
ทางโครงการจัดโซฟาขนาดประมาณ 2-3 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งดูเหมาะสมกับพื้นที่ดีแล้วค่ะ หรือถ้าอยากได้ที่นั่งเพิ่มมากกว่านี้ก็อาจจะหาเพิ่มเป็นโซฟา L shape แบบสั้นๆ มาวางก็ได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้วางทีวีพร้อมชั้นวางของด้านบน และตรงผนังจะมีติดตั้งเต้าเสียบพร้อมช่องสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อยค่ะ
สำหรับชั้นวางทีวีที่ได้ จะเป็นตู้แบบลอยตัว มี 2 ลิ้นชักและ 1 ตู้บานเปิด สามารถใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้แต่เนื่องจากเป็นตู้ลอยแบบนี้แนะนำว่าไม่ควรใส่ของที่มีน้ำหนักเยอะๆค่ะ
ระยะดูทีวีเหลือประมาณ 1.2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 24″ – 36″ ได้ระยะดูทีวีที่สบายตา
ด้านบนจะมีตู้ลอยบานตู้กระจกใส โชว์ของด้านในได้และชั้นวางของแบบลอยตัวใต้ตู้อีก 1 จุด
ถัดมาเราจะไปดูในส่วนของห้องครัวกันต่อ โดยห้องครัวที่ได้นี้จะเป็นครัวแบบเปิดค่ะ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารแบบจริงจังเท่าไหร่นะ เพราะเนื่องจากเป็นครัวเปิดทำให้ควันและกลิ่นสามารถที่จะฟุ้งกระจายไปทั่วห้องและกลิ่นอาจจะติดเฟอร์นิเจอร์หรือผ้าม่านในห้องได้ค่ะ
ระยะทางเดินที่เหลือระหว่างห้องนั่งเล่นถึงห้องครัวประมาณ 1.4 เมตร
สำหรับพื้นที่ห้องครัวค่อนข้างกระทัดรัด มีทั้งพื้นที่ส่วนทำอาหารและพื้นที่ทานอาหารรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกันนี้ โดยส่วนของห้องครัว ทางโครงการจะบิวอินเคาน์เตอร์ครัวทั้งชุดล่างและชุดบนมาให้ตามแบบนี้เลยค่ะ
ส่วนพื้นที่สำหรับทานอาหารสามารถวางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้แบบพอดีๆ ถ้าจะวางโต๊ะใหญ่กว่านี้ก็ดูไม่เหมาะกับพื้นที่เท่าไหร่เวลามีแขกมาหลายคนอาจจะต้องย้ายไปนั่งทานกันบริเวณห้องนั่งเล่นแทนค่ะ
มาดูรายละเอียดของชุดครัวที่ได้ ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นค่ะ โดยด้านบนจะมีตู้บานเปิดในตู้ก็จะมีตู้แผงควบคุมไฟอยู่
ถัดมาเป็นชุดตู้ลอยด้านบน จะได้ทั้งหมด 3 ตัว ทั้งหมดเป็นตู้บานเปิด ภายในแบ่งชั้นย่อยๆ อีกสามชั้นส่วนตู้เหนือเครื่องดูดควันจะเป็นตู้ตื้นๆค่ะ เก็บของได้ไม่เยอะเท่าไหร่
ส่วนชุดเคาน์เตอร์ครัวชิ้นล่างจะติดตั้งซิงค์ล้างจานพร้อมก๊อกน้ำและเตาไฟฟ้ามาให้เรียบร้อย
ซิงค์ล้างจานที่ได้จะเป็นแบบหลุมฝังไว้ในเคาน์เตอร์ยี่ห้อ Teka ให้ค่ะ
ส่วนเตาไฟฟ้าที่ได้ก็จะเป็นยี่ห้อ Teka เช่นกันเป็นเตาแบบ 4 หัว
ข้างเตาไฟฟ้าจะมีพื้นที่เตรียมอาหารพอประมาณ ผนังด้านหลังก็จะมีเต้าเสียบไว้ให้เผื่อสำหรับวางพวกเครื่องชงกาแฟหรือเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เป็นต้น
ส่วนเค้าเตอร์ชิ้นล่างแบ่งเป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจาน อีกฝั่งได้ลิ้นชักเก็บของและช่องวางเตาไมโครเวฟอีกหนึ่งจุดค่ะ
จากห้องครัวถัดไปเราจะไปดูในส่วนของ study room กันต่อ
พื้นที่ส่วน Study Room นี้ จะมีลักษณะเป็นโถงทางเดินยาวๆที่เชื่อมห้องนั่งเล่นกับระเบียงภายนอก ห้องนี้สามารถจัดให้เป็นห้องทำงานตามชื่อพื้นที่ก็ได้ หรือเราจะจัดให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ วางโซฟาเล็กๆและตู้หนังสือสำหรับเป็นห้องอ่านหนังสือก็ยังได้ค่ะ และสำหรับระยะทางเดินที่เหลือหลังวางโต๊ะเขียนหนังสือลงไปแล้วจะเหลือประมาณ 1 เมตรซึ่งก็เหลือพอให้เดินผ่านได้สบายๆ หรือเป็นระยะที่ยังเลื่อนเก้าอี้ได้ไม่ติดขัดค่ะ
ถัดมาเราจะไปดูพื้นที่ระเบียงภายนอกกันต่อ โดยประตูที่ได้จะเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
พื้นที่ระเบียงจะได้โคมไฟมา 1 ดวง ลักษณะระเบียงเป็นแนวหน้ากว้างมากกว่าความลึก โดยความลึกของระเบียงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 67 เซนติเมตร และหน้ากว้างอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร ค่ะ ซึ่งสามารถวางราวตากผ้าได้และถ้ายังมีพื้นที่หน้ากว้างเหลือก็ยังสามารถวางพวกกระถางต้นไม้เล็กๆได้
สำหรับที่เก็บคอมเพรสเซอร์ของห้องนี้ โครงการเขาจะทำตะแกรงซ่อนไว้ให้ด้านบน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งประโยชน์ของการซ่อนคอมเพรสเซอร์ไว้ด้านบนนั้นนอกจากความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วยังทำให้พื้นที่การใช้งานของระเบียงเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง จากระเบียงมองย้อนออกไปทางหน้าห้องค่ะ
เรากลับมาดูห้องต่างๆกันต่อโดยมาเริ่มกันที่ส่วนของห้องน้ำและห้องนอนใหญ่กันก่อน
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ติดกับส่วนของห้องครัว บานประตูที่ได้หน้าตาแบบนี้มีบานเกร็ดเพื่อระบายอากาศ มือจับก้านโยก
ภายในห้องน้ำมีฟังชั่นครบ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกัน ตกแต่งด้วยโทนสีเทาเข้ม – ดำ สไตล์โมเดิร์น กระจกเงาได้แบบบานใหญ่เกือบเต็มผนัง
ด้านล่างมีบ่าวางของยาวไปจนถึงห้องอาบน้ำ สามารถใช้วางของกระจุกกระจิกได้ค่ะ
อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่างของ Cristina พร้อมก๊อกน้ำแบบปรับอุณหภูมิได้
ขนาดอ่างค่อนข้างกว้างพอสมควร
ติดกับอ่างล้างมือจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระของ Cristina ระยะติดตั้งพอดีๆ สามารถใช้งานได้สะดวก
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะได้ Shower Box ติดตั้งมาแยกพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วน ช่วยให้เวลาอาบน้ำ น้ำจะไม่กระเซ็นออกมาพื้นที่ด้านนอก และตัว Shower Box ที่ได้จะเป็นบานผลักเข้าไปด้านในค่ะ
ภายในห้องอาบน้ำจะได้ฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับระดับได้ ของ Cristina
หลังฝักบัวได้บ่าวางของสำหรับวางพวกขวดสบู่ แชมพู
ห้องอาบน้ำขนาดประมาณ 1.65 x 1 ม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทา และพื้นลดระดับลงไปประมาณ 2.5 ซม.
ผ่านมาแล้วจะไปดูในห้อง master bedroom กันต่อ
หลังบานประตูจะมีตัวสต๊อปเปอร์ติดมาให้ในทุกห้องค่ะ
เข้ามาด้านในห้องนอนจะเห็นช่องแสงบานใหญ่ จะช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ค่อนข้างเยอะ
ช่องแสงบานใหญ่ที่ได้นี้จะเป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่ ผสมหน้าต่างบาน fix บานกรอบอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง หน้าต่างเปิดได้ค่อนข้างกว้างสามารถระบายอากาศได้ดี
ทางโครงการวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงที่เหลือ ฝั่งตู้เสื้อผ้าจะเหลือประมาณ 75 cm และระยะข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 45 เซนติเมตร ทั้งสองด้านเหลือพื้นที่พอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าเช็ดผ้าปูที่นอนได้แต่อาจจะอึดอัดไปหน่อยถ้าจะวางโต๊ะหัวเตียงค่ะ
ปลายเตียงเป็นตู้วางทีวีพร้อมตู้เก็บของครบชุด
ตู้ด้านบนจะได้เป็นตู้บานเปิด ด้านในมีช่องเก็บของ 2 ช่องแบบนี้
ส่วนตู้เก็บของด้านล่างมีช่องเก็บของ 2 ช่องและลิ้นชัก 2 ช่องค่ะ
อีกด้านของห้องทางโครงการจะ built in ตู้เสื้อผ้ามาให้
โดยตู้เสื้อผ้าที่ได้จะได้เป็นบานเลื่อน ประตูตู้เสื้อผ้าได้เป็นบานกระจกสีชามองเห็นของที่เก็บอยู่ด้านในส่วนพื้นที่ด้านในจะแบ่งเป็นราวแขวนเสื้อ 2 ชุดและช่องเก็บของใหญ่ด้านล่าง 1 ชุดลิ้นชัก 2 ชั้นและด้านบนจะเป็นช่องสำหรับเก็บพวกผ้าขนหนู
ท่านมาเราจะไปดูห้องนอนรองกันต่อ
เข้ามาในห้องแล้วหันมาดูด้านหลังบานประตูกันสักหน่อย จะเห็นว่ามีตัว Stopper กันกระแทกและช่องแสงที่เราเห็นจากห้องนั่งเล่นเมื่อสักครู่ค่ะ โดยถ้าใครกลัวว่าจะไม่มีความเป็นส่วนตัวก็สามารถจะหามู่ลี่มาติดเพิ่มเติมได้ค่ะ
ขนาดของห้องนอนห้องนี้จะไม่ค่อยแตกต่างจากห้องนอนห้องที่แล้วเท่าไหร่ โดยสามารถวางฟังก์ชั่นได้ครบ มีช่องแสง 1 จุดเป็นประตูที่เชื่อมต่อไประเบียงภายนอก
โดยประตูเชื่อมพื้นที่ห้องนอนกับระเบียงจะได้เป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบางกอกอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง และระเบียงภายนอกจะเป็นระเบียงชุดเดียวกันกับที่เราออกไปดูจากห้อง study room ค่ะ
ห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงที่เหลือของฝั่งที่อยู่ติดกับประตูบานเลื่อนจะเหลือระยะประมาณ 50 เซนติเมตร และอีกด้านจะเหลือประมาณ 57 เซนติเมตร ที่เป็นระยะใช้งานของตู้เสื้อผ้าซึ่งระยะการใช้งานอาจจะพอดี๊พอดีไปหน่อย เวลาเปิดบางตู้ออกมาอาจจะชนเตียงได้แนะนำว่าควรเลื่อนเตียงไปชิดฝั่งประตูบานเลื่อนก็จะได้ระยะใช้งานตู้เสื้อผ้ามากขึ้นค่ะ
ปลายเตียงติดตู้วางของแบบลอยตัวพร้อมมีเต้าเสียบเผื่อสำหรับใครจะติดตั้งทีวีค่ะ
อีกด้านของห้องจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ built in มาให้ 1 ชุด
ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีฟังก์ชั่นเหมือนตู้ของห้อง master bedroom ค่ะ จะมีความแตกต่างกันคือบานเปิดตู้จะเป็นแบบทึบเท่านั้น
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้องแบบ 3 Bedrooms 85 ตารางเมตร ห้องแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น จุดเด่นของห้องนี้ที่เห็นได้ชัดเลยคือโถงทางเดินที่มีลักษณะค่อนข้างยาว เมื่อเราเข้ามาในห้องแล้วจะเห็นตู้เสื้อรองเท้าทางซ้ายและขวา โดยตู้นี้ทำโครงการจะมีมาให้เลยค่ะ ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องครัวซึ่งครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิด ซึ่งดูจากลักษณะพื้นที่แล้วเราสามารถทำเป็นครัวแบบปิดได้ไม่ยากค่ะ จากครัวถัดมาจะเป็นโถงแบ่งเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร ถัดไปเป็นระเบียงด้านนอกค่ะ และจากห้องนั่งเล่นจะสามารถไปยังห้อง master bedroom และห้องนอนรองอีก 2 ห้องได้ โดยห้อง master room นี้จะมีห้องน้ำในตัวจะพิเศษกว่าห้องแบบอื่นๆค่ะ
เปิดประตูเข้ามาในห้องรถทะเบียนโถงทางเดินยาวซ้ายมือเป็นตู้ใส่รองเท้า
รอเข้ามาในห้องแล้วลองมองย้อนกลับไปทางประตูค่ะจะได้เห็นตู้ทั้งสองด้านชัดขึ้น
เปิดให้ดูตู้ใส่รองเท้าทางฝั่งซ้ายมือก่อนค่ะ ข้างในจะแบ่งเป็นชั้นชั้นให้หลายชั้นมากๆคนที่มีรองเท้าเยอะหายห่วงได้
ส่วนตู้ทางขวามือจะมี 2 ตู้เช่นกัน โดยตู้ใบแรกจะแบ่งเป็นช่องสำหรับเก็บของพวก ร่ม หรือถ้าใครมีรองเท้าเยอะเก็บในตู้ที่แล้วไม่พอ ก็สามารถหากล่องใส่รองเท้ามาวางได้ค่ะ
ตู้ด้านในจะเป็นตู้ไฟแล้วก็มีชั้นเก็บของด้านล่างอีก 2 ชั้น
พื้นห้องครัวลามิเนตยาวไปจนถึงห้องนั่งเล่นแต่จะมีตัวจบกันไว้แต่ละพื้นที่
ถัดมาเป็นห้องครัว ซึ่งจะได้เคาน์เตอร์ครัวทั้งชิ้นล่างและชุดบนตามแบบนี้เลยค่ะ
มาดูเคาน์เตอร์ชั้นล่างกันก่อน เคาน์เตอร์ชุดล่างนี้จะได้ซิงค์ล้างจาน,เตาไฟฟ้า 4 หัว ส่วนใต้อ่างได้ตู้เก็บของทั้งหมด 2 ตู้และลิ้นชัก 3 ชั้นพร้อมที่วางเตาอบ
ซิงค์ล้างจานที่ได้จะได้เป็น 2 ช่องแบบนี้พร้อมก๊อกน้ำเย็นแบบหมุนสลับฝั่งได้ค่ะ
นั่งหลังเคาน์เตอร์ครัวจะติดเป็นแผ่นกระจกทำให้มีพื้นผิวที่เรียบง่ายต่อการทำความสะอาด
ตู้เก็บของชั้นบนจะแบ่งเป็นทั้งหมด 6 ตู้ ในตู้จะแบ่งเป็นชั้นย่อยตู้ละ 2 ชั้นค่ะ บานเปิดเป็นแบบ Soft Closed ทั้งหมด
อีกฝั่งของเคาน์เตอร์ควรจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าด้านบนก็จะมีช่องไว้สำหรับวางเตาไมโครเวฟค่ะ
และที่สุดท้ายจะเป็นช่องวางตู้เย็นขนาดใหญ่ด้านบนมีตู้เก็บของบานเปิดคู่
ถัดมาเป็นโถง แบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นทางซ้ายมือและห้องทานอาหารทางขวามือ มองตรงไปจะเป็นประตูเชื่อมออกไประเบียงด้านนอก
เราไปดูแผนที่ห้องนั่งเล่นกันก่อนส่วนประตูที่เห็นทางซ้ายมือจะเป็นประตูของห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom
สำหรับสวนห้องนั่งเล่นนี้จะสามารถวางโซฟาขนาดประมาณ 2-3 ที่นั่งได้
ฝั่งตรงข้ามจะได้ตู้วางทีวีครบชุดเหมือนห้องที่แล้ว
ระยะดูทีวีจะเหลือประมาณ 1.3 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 26″ – 32″ ได้
ถัดมาจะเป็นพื้นที่ส่วนห้องทานอาหาร
โดยทางโครงการวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งจริงๆสามารถจะเพิ่มเป็น 8 ที่นั่งก็ได้ด้วยการวางเก้าอี้ประกบหัวและท้ายของโต๊ะ
ระยะที่เหลือระหว่างห้องนั่งเล่นและพื้นที่ทานอาหารก็พอให้ใช้งานได้แต่ไม่กว้างมากค่ะ
ระเบียงด้านนอกจะเป็นระเบียงเน้นแนวหน้ากว้างเหมือนเดิม โดยความลึกของระเบียงที่ประมาณ 67 ซม. สามารถวางราวตากผ้าได้ และสามารถปลูกต้นไม้พวกไม้กระถางขนาดไม่ใหญ่มากได้ค่ะ ส่วนพื้นที่เก็บคอมเพรสเซอร์ก็จะยกขึ้นไปไว้บนฝ้าเพดานเช่นกันเพื่อความเรียบร้อยและพื้นที่การใช้งานที่มากขึ้น
มีก๊อกน้ำติดตั้งมาให้ 1 จุด
กลับเข้ามาในห้องมองย้อนไปทางประตูเข้าห้องจะได้มุมประมาณนี้ค่ะ
ถัดมาเรามาดูภายในห้อง master bedroom กันต่อ โดยห้องนี้จะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอนจะมีช่องแสงบานใหญ่ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ผสมบาน fix บานกรอบอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสง
ห้องนี้วางเตียงขนาดคิงไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระยะข้างเตียงทั้งสองด้านเหลือพอให้เดินเข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้แต่ไม่เหมาะที่จะวางโต๊ะหัวเตียงค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ได้ในห้องนี้จะได้เป็นตู้แบบ built in
ส่วน function ภายในก็จะคล้ายๆกับห้องที่แล้วเพียงแต่จะมีขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย
พื้นที่ปลายเตียงก็จะติดตู้วางทีวีไว้ให้ ส่วนประตูด้านข้างที่เห็นนั้นจะเป็นห้องน้ำในตัวของห้อง master bedroom นี้ค่ะ
ระยะปลายเตียงเหลือเยอะเลยค่ะ
เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันค่ะ
เข้ามาในห้องน้ำฟังก์ชันในห้องนี้ก็ยังได้ครบถ้วนเหมือนห้องอื่นๆ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก แต่จะมีจุดเด่นคือมีช่องแสงขนาดใหญ่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้ระหว่างอาบน้ำ
อ่างล้างมือจะได้ป่าวทรงสี่เหลี่ยมพร้อมเคาน์เตอร์ใต้อ่างสีดำ เก็บของได้พอประมาณค่ะ
ขนาดของอ่างค่อนข้างกว้าง
ด้านหลังจะมีบ่าวางของค่อนข้างกว้าง วางของได้พอสมควร
ถัดมาเป็นห้องอาบน้ำที่จะมี shower box ติดตั้งมาให้ ลักษณะบานเปิดของประตูห้องอาบน้ำจะเป็นบานผลักเข้าไปด้านในค่ะ
ห้องอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.5 x 0.90 เมตร ถือว่าค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบน้ำได้สบาย
ภายในห้องจะติดตั้ง rain shower แบบฝังบนฝ้าเพดานและ hand shower ด้านล่าง
อีกด้านจะมีม้านั่งมาให้ด้วยค่ะ
ช่องแสงภายในห้องน้ำจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์แบบเข้ามุม ทำให้สามารถมองเห็นมุมมองที่กว้างมากๆสำหรับห้องอาบน้ำค่ะ
ออกมาจากห้อง master bedroom เราจะไปดูห้องนอนรอง 2 ห้อง และห้องน้ำรับรองกันต่อค่ะ
เราไปดูในห้องน้ำกันก่อน โดยห้องน้ำห้องนี้จะสามารถเข้าได้จากห้องนั่งเล่นค่ะ และจะเป็นห้องที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนรองทั้งสองห้องอีกด้วย
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำ ได้สุขภัณฑ์ครบชุดของ Cristina สำหรับพื้นที่ส่วนแห้งจะได้จะจกเงาแบบเต็มผนังพร้อมบ่าวางของด้านล่าง
พื้นที่อาบน้ำจะได้ Shower Box ติดตั้งมา แยกพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วน ช่วยให้เวลาอาบน้ำ น้ำจะไม่กระเซ็นออกมาพื้นที่ด้านนอก และตัว Shower Box ที่ได้จะเป็นบานผลักเข้าไปด้านใน
ภายในห้องอาบน้ำจะได้ฝักบัวอาบน้ำแบบ Rain Shower และ Hand Shower แบบปรับระดับได้ ของ Cristina
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 90 x 90 เซนติเมตร
ถัดมาไปดูห้องนอนรองอีก 2 ห้องกันค่ะ
ไปดูห้องนอนสาวฝั่งขวามือกันก่อนค่ะ
เข้าภายในห้องจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ผสมบานฟิกซ์เหมือนห้องอื่นๆ แต่ในห้องนี้จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ
ระยะข้างเตียงที่เหลือฝั่งหน้าต่าง เหลือพอให้เข้าไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้ค่ะ
ปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือและชั้นวางของ
โต๊ะปลายเตียงนี้สามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีลิ้นชัก 2 ช่อง
ระยะปลายเตียงที่เหลือเหมาะสมกับการใช้งาน
อีกด้าน Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้
ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็นราวแขวน 3 ช่อง, ลิ้นชัก 2 ช่อง และที่เก็บของด้านบนอีก 1 ช่อง
ระยะการใช้งานเหลือเฟือค่ะ
ถัดมาเรามาดูห้องนอนห้องสุดท้ายกันค่ะ
เข้ามาด้านในห้องนี้วางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง
สำหรับช่องแสงของห้องนี้จะได้พิเศษกว่าห้องอื่นๆ โดยที่จะได้เป็นบานแบบเข้ามุม ทำให้เราได้มุมมองที่กว้างกว่าปกติ
ระยะข้างเตียงที่เหลือทั้ง 2 ด้านเหมาะสมกับการใช้งาน
ปลายเตียงติดตู้วางทีวีพร้อมชั้นเก็บของ
อีกด้าน Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนห้องอื่นๆ
ราคา (พ.ย. 2559)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ –โครงการ The Signature by Urbano ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน มีจุดเด่นคือเป็นโครงการที่ใกล้ BTS สะพานควายที่สุดในย่านนี้ค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่เป็นจุดตัดแยกใหญ่ตัดกับถนนหลัก 3 เส้นคือ 1.ถนนพหลโยธิน 2.ถนนประดิพัทธ์ 3.ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ทำให้ทำเลนี้เป็นที่น่าสนใจเพราะเป็นทำเลที่ขยับออกมาจากใจกลางเมืองหน่อยแต่ยังมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งตัวทำเลสะพานควายเอง เรื่อยไปจนถึงทำเลข้างเคียงอย่างอารีย์ และยังเดินทางได้สะดวกเพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน คือ สถานีสะพานควาย ถัดไปอีก 1 สถานีก็จะมีสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดินคือสถานีจตุจักรค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถสะดวกค่ะ เนื่องจากตัวโครงการเกาะอยู่กับถนนเส้นหลักคือถนนพหลโยธิน ที่สามารถใช้ไป หลักสี่ ดอนเมือง ยาวไปจนถึงรังสิต หรือวิ่งเข้าเมืองไปอนุสาวรีย์ยาวไปพญาไท สยามได้ นอกจากนั้นยังมีถนนเส้นที่ใช้ได้อีก 2 เส้นคือถนนประดิพัทธ์ใช้ไปราชวิถี, ฝั่งธนฯ, พระราม 6,ถนนเทอดดำริ, ถนนพระราม 5 ที่สามารถใช้เชื่อมไปถนนประชาชื่นใช้วิ่งยาวผ่านรัชดาภิเษกไปจนถึงแจ้งวัฒนะ หลักสี่ได้ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย และถนนสุทธิสารวินิจฉัย สามารถใช้วิ่งไปถนนวิภาวดีรังสิต, รัชดาภิเษก และลาดพร้าวได้(ลาดพร้าว 64) แต่รถเส้นนี้จะติดหน่อยและการใช้ถนนจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเช้า – กลางวัน รถจะสามารถวิ่งขาออกไปเส้นวิภาวดีได้ 2 เลน พอเป็นช่วงค่ำๆก็จะสลับเป็นวิ่งเข้าเส้นพหลได้ 2 เลน เป็นต้นค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – สำหรับคนไม่ใช้รถ สะดวกสุดๆ คือ BTS สะพานควาย และสามารถนั่งไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินได้ที่ BTS สถานีหมอชิต 1 สถานีจาก BTS สะพานควายส่วนรถเมล์จะมีป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 180 เมตร โดยจะมีรถเมล์สาย 3, 8Air, 9ร, 26, 27ร, 28ร, 29, 34, 38ร, 39, 59, 77 ค่ะ นอกจากนั้น Taxi และคิวพี่วินก็มีผ่านไปมาตลอด เรียกใช้สะดวกค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ –เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น จำนวน 253 ยูนิต บนที่ดิน 2-1-34 ไร่โครงการนี้มีแนวคิดการออกแบบคือ ” For Those Who Are Signature Themselves ” การออกแบบตัวอาคารสไตล์โมเดิร์นเน้นลูกค้าระดับบน ความหนาแน่นต่อชั้นน้อย แค่ประมาณ 14 ยูนิตต่อชั้น จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมากสำหรับโครงการในทำเลนี้ ภาพลักษณ์โดยรวมของโครงการดูหรูหรา มีห้องตั้งแต่ 1 ห้องนอน ขนาด 34.00 – 36.50 ตรม., 2 ห้องนอน ขนาด 48.00 – 61.00 ตรม., 3 ห้องนอน ขนาด 85.00 ตรม.
ห้องในโครงการขายแบบ Fully Fitted ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร ประตูทางเข้าห้องได้ Digital Door Lock จาก Yale พื้นห้องนอน ห้องรับแขกได้เป็นลามิเนต หนา 12 มม. ส่วนพื้นห้องน้ำและระเบียงได้เป็นกระเบื้องเซรามิค ไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built – in บางส่วนของ Euro Creation หน้าบานแบบ High Gloss ทั้งหมด ส่วนสุขภัณฑ์ได้ครบชุดยี่ห้อ Cristina และ American Standard นอกจากนั้นในห้องแบบ 3 Bedroom จะได้ Home Automation เพิ่มมาด้วยค่ะ
อำนวยความสะดวก –โครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น ห้องชุดจำนวน 253 ยูนิต โดยโครงการนี้ให้ส่วนกลางมาถือว่าค่อนข้างดีมาก และครบถ้วน เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่ให้ที่จอดรถถึง 70% ของจำนวนยูนิตไม่รวมจอดซ้อนคัน ส่วน Facility หลักจะมี Double Volumn Lobby, สระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ พร้อม Jacuzzi ขนาด 12 x 20 ม., Sky Fitness ขนาดใหญ่ มองเห็นวิวเมือง เครื่องเล่นเยอะ, Cubic Lounge สำหรับใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน มี Pantry ตู้เย็น สามารถใช้เป็นห้องประชุมได้ ส่วน Highlight ที่เป็นจุดเด่นของตระกูล Urbano คือ Sky Lounge ที่ชั้นบนสุดของโครงการ ใช้เป็นที่พักผ่อนชมวิวเมืองได้เต็มที่ค่ะ
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.85 | ติดถนนใหญ่พหลโยธิน เดินทางสะดวกทุกเส้นทาง ความอุดมสมบูรณ์สูง ติด BTS สะพานควาย |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | ติดถนนหลโยธิน เดินทางสะดวกติดถนนเส้นหลักหลายเส้นทาง |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | ติด BTS สะพานควาย ใกล้ป้ายรถเมล์ คิวพี่วิน เรียก Taxi ได้สะดวก |
ห้องและวัสดุ | 8.0 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว ขายแบบ Fully Fitted ให้ของคุณภาพดี ชุดครัวได้แบบ High Gloss ทั้งหมด |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีให้ครบครันแบบเหลือๆและออกแบบมาได้สวยได้น่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.5 | เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ BTS หรือย่านสะพานควาย ความอุดมสมบูรณ์สูง ใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวก มีความเป็นส่วนตัว ไปไหนมาไหนสะดวก และมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ในโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.3 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel :
Website : http://www.thesignaturebyurbano.com/project.html#
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น